Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ดิน

ดิน

Published by 945sce00472, 2021-01-04 10:19:16

Description: ดิน

Search

Read the Text Version

ดนิ ดนิ เกดิ จากหนิ และแรท่ ผ่ี พุ ังสลายตวั เนอ่ื งจากการเปล่ยี นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ท้งั ภูมปิ ริมาณน้าฝน น้าค้าง หรอื หมิ ะ และซากพืชซากสตั ว์ท่ถี ูกย่อยสลายดว้ ยจุลินทรีย์ในดินทผ่ี สมคลุกเคล้าติดตอ่ กนั เป็น เวลานานหลายลา้ นปี จนกระทง่ั รวมเป็นเนือ้ เดียวกนั ซง่ึ ชนดิ ของหนิ แร่ และอนิ ทรยี วตั ถุทเ่ี ปน็ วตั ถตุ ้นกา้ เนดิ ดนิ และสภาพแวดลอ้ ม เชน่ สภาพภูมิอากาศสภาพพื้นท่ี และระยะเวลาในการพัฒนาของดนิ ทแ่ี ตกต่างกนั จะ ทา้ ให้ดินมีคุณสมบตั ิทางเคมกี ายภาพและชวี ภาพแตกตา่ งกนั สมบตั ทิ วั่ ไปของดิน ดินประกอบดว้ ยส่วนสา้ คัญทเ่ี ปน็ ของแขง็ คอื พวกแร่ธาตุ สารอินทรีย์ ของเหลว คือ ํน้าและกา๊ ซ สว่ นประกอบของดินท่ีเปน็ แรธ่ าตุนั้น ได้มาจากการสลายตวั ผพุ ังของหนิ และแร่ชนดิ ตา่ ง ๆ มากมายหลายชนดิ แตกต่างกนั ไปตามท้องท่ี ดังนั้น ดินในแต่ละท้องทจ่ี ึงมสี ่วนประกอบของธาตุต่าง ๆ มากบา้ งน้อยบ้างแตกต่างกนั ไป และแรธ่ าตุเพียงบางชนดิ เท่านน้ั ทีพ่ ชื จะดดู ขน้ึ มาใชเ้ ป็นอาหาร สว่ นของแร่ธาตุจะเป็นส่วนประกอบทมี่ ีมากทีส่ ุดในดิน คือ จะมปี ระมาณ 45% โดยปริมาตร อินทรยี ์วัตถุในดิน แมจ้ ะมปี ริมาณทีน่ อ้ ยเมือ่ เทียบกับสว่ นประกอบอ่นื ๆ ของดนิ คือมีประมาณ 5% โดยปรมิ าตรแตเ่ ปน็ ส่วนทม่ี ีความสา้ คญั ต่อพืชมาก คอื 1. เป็นแหล่งใหธ้ าตอุ าหารพืชบางชนิด 2. ท้าใหด้ ินสามารถอุม้ ํน้าไดด้ ขี นึ้ 3. ทา้ ใหด้ ินตรึงธาตุอาหารไว้ไดม้ ากขน้ึ 4. ทา้ ใหด้ ินมีโครงสรา้ งดีขนึ้ ํนา้ ในดนิ ส่วนมากมาจากนํา้ ฝน เมอื่ ฝนตกลงมาํนา้ ฝนบางสว่ นจะไหลซมึ ลงไปในดนิ และบางสว่ นจะ ไหลบ่าไปตามผิวหนา้ ดินํนา้ ฝนสว่ นท่ีไหลซึมลงไปในดนิ จะถูกดูดซบั ไวใ้ นชอ่ งระหวา่ งเม็ดดิน ดนิ แตล่ ะชนดิ จะ อมุ้ ํน้าไวไ้ ด้มากน้อยไม่เท่ากัน ดนิ ทรายจะอุม้ ํนา้ ไดน้ อ้ ยกว่า ดนิ เหนียว ดนิ ท่ีเหมาะตอ่ การเพาะปลูกพืชควรมสี ่ วนท่เี ป็นํนา้ อยู่ประมาณ 25% โดยปริมาตรนํา้ ในดินนัน้ ไม่ใชํน่ ้าบริสุทธิ์ แต่จะมีแร่ธาตุตา่ ง ๆ ละลายอยูแ่ ละพชื จะดดู ดงึ เอาแรธ่ าตบุ างชนดิ ที่ละลายอยู่ในํน้าไปใชเ้ ป็นอาหาร

เน้ือดิน เปน็ สมบัตทิ ่ีบอกถึงความหยาบหรือละเอยี ดของชิน้ สว่ นเลก็ ๆ ของดนิ ที่เราเรียกวา่ “อนภุ าค ของดิน” ซง่ึ อนภุ าคเหล่านจ้ี ะมีขนาดไมท่ า่ กนั แบ่งออกไดเ้ ปน็ 3 กลุ่ม ขนาดใหญเ่ รียกว่าอนภุ าคขนาดทราย (2.0-0.05 มิลลิเมตร) ขนาดกลางเรียกวา่ อนุภาคขนาดทรายแป้ง ( 0.05-0.002 มลิ ลเิ มตร) และขนาดเลก็ ท่สี ดุ คอื อนุภาคดินเหนียว (< 0.002 มิลลเิ มตร) การรวมตวั กันของอนภุ าคขนาดทราย ทรายแปง้ และดินเหนียว ในสดั ส่วนท่ีแตกตา่ งกนั ทา้ ใหเ้ กิด เป็นเนื้อดนิ ชนิดตา่ งๆขน้ึ มา ในการจา้ แนกประเภทของเนอ้ื ดินนั้นจะถือเอาเปอรเ์ ซน็ ตข์ องอนุภาคขนาดเหล่านี้ ท่มี ีอยู่ในดนิ นนั้ ๆ เปน็ หลกั โดยทวั่ ไปเน้ือดินอาจแบ่งเปน็ กลุม่ ใหญๆ่ ได้ 3 กลมุ่ คือ 1. ดินทราย เป็นดนิ ที่มีอนภุ าคขนาดทรายเป็นองค์ประกอบอยมู่ ากกวา่ ร้อยละ 85 ลกั ษณะโดยทั่วไปจะเกาะตวั กนั หลวมๆ และมองเหน็ เป็นเม็ดเด่ียวๆ ได้ ถ้าสัมผสั ดนิ ทอ่ี ยู่ในสภาพแหง้ จะรู้สึกสากมือ เมื่อลองกา้ ดนิ ท่แี หง้ นไ้ี ว้ในอุง้ มอื แล้วคลายมือออกดินก็ จะแตกออกจากกันได้ แตถ่ ้าก้าดินท่อี ยู่ในสภาพชื้นจะสามารถทา้ ใหเ้ ปน็ กอ้ นหลวมๆ ได้ แต่พอสัมผัสจะแตก ออกจากกันทนั ที ดินทรายเปน็ ดนิ ที่มกี ารระบายน้าและอากาศดมี าก แต่มคี วามสามารถในการอุ้มน้าต้า่ มี ความอดุ มสมบรู ณต์ ่า้ เพราะความสามารถในการดูดยึดธาตุอาหารพืชมีน้อย พชื ท่ขี ้ึนบนดินทรายจึงมักขาดทง้ั ธาตุอาหารและน้า เนอื้ ดินทจี่ ัดอย่ใู นกลมุ่ นี้ ไดแ้ ก่ ดนิ ทราย ดนิ ทรายปนดินรว่ น และดินร่วนปนทราย 2. ดนิ ร่วน โดยท่ัวไปจะประกอบด้วยอนภุ าคขนาดทราย ทรายแปง้ และดินเหนยี วในปริมาณใกล้เคยี งกัน (อนภุ าคขนาดดินเหนียวรอ้ ยละ 7-27 อนุภาคขนาดทรายแปง้ รอ้ ยละ 28-50 และมอี นภุ าคขนาดทรายน้อย กวา่ ร้อยละ 52) ดนิ รว่ น เปน็ ดินท่ีเน้ือดนิ ค่อนขา้ งละเอยี ดนมุ่ มือในสภาพดินแห้งจะจบั กันเปน็ กอ้ นแขง็ พอประมาณ ในสภาพ ดนิ ชนื้ จะยืดหยนุ่ ได้บา้ ง เมื่อสมั ผัสหรือคลงึ ดนิ จะร้สู กึ นุม่ มือแต่อาจจะรู้สกึ สากมืออยูบ่ ้างเลก็ นอ้ ย เมอ่ื กา้ ดนิ ให้ แนน่ ในฝ่ามอื แล้วคลายมอื ออก ดนิ จะจับกันเป็นกอ้ นไมแ่ ตกออกจากกัน เป็นดนิ ทมี่ กี ารระบายน้าไดด้ ีปาน กลาง จดั เปน็ เน้ือดินท่มี คี วามเหมาะสมสา้ หรับการเพาะปลกู เนอื้ ดินที่อยูใ่ นกลุ่มนี้ ได้แก่ ดนิ รว่ น ดินร่วนปนทราย ดินร่วนปนทรายแป้ง ดนิ ร่วนเหนียว ดินรว่ น เหนยี วปนทราย ดินร่วนเหนยี วปนทรายแป้ง

3. ดินเหนยี ว เน้ือดินประกอบดว้ ยอนุภาคขนาดดนิ เหนยี วต้ังแตร่ อ้ ยละ 40 ขน้ึ ไป มีอนภุ าคขนาดทราย ร้อยละ 45 หรอื น้อยกวา่ และมีอนภุ าคขนาดทรายแป้งน้อยกวา่ ร้อยละ 40 ดนิ เหนยี วเป็นดนิ ทมี่ เี นอ้ื ละเอียด ในสภาพดนิ แห้งจะแตกออกเปน็ กอ้ นแขง็ มาก เมอ่ื เปยี กนา้ แล้วจะมีความ ยดื หยนุ่ สามารถปั้นเป็นกอ้ นหรือคลึงเปน็ เสน้ ยาวได้ เหนยี วเหนอะหนะติดมือ เป็นดนิ ท่ีมีการระบายน้าและ อากาศไม่ดี แต่สามารถอุ้มนา้ ดูดยึด และแลกเปลีย่ นธาตุอาหารพชื ได้ดี เหมาะท่จี ะใชท้ ้านาปลกู ข้าวเพราะ เก็บนา้ ได้นาน เน้อื ดนิ ท่ีอย่ใู นกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ ดินเหนยี ว ดนิ เหนยี วปนทราย ดนิ เหนียวปนทรายแปง้ เนือ้ ดนิ เปน็ สมบตั ดิ นิ ตามธรรมชาติที่มีความสา้ คัญยง่ิ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื เพราะมผี ลตอ่ คณุ ภาพของดิน สภาพการระบายน้า ระบบนิเวศ ปรมิ าณธาตุอาหารรวมทง้ั ความหลากหลายทางชวี ภาพในดิน ในดนิ ทีเ่ ป็นดนิ ทราย มักจะมกี ารระบายน้าดีจนถึงดเี กนิ ไป อ้มุ น้าได้ไมด่ ี ดินจะแหง้ งา่ ย และมีธาตุ อาหารอยู่น้อยกวา่ ดนิ ชนิดอื่น ส่วนดนิ เหนยี วนน้ั จะอมุ้ นา้ ได้มาก และมธี าตุอาหารอยู่มาก แต่กม็ ีขอ้ เสียทก่ี าร ระบายน้าไม่ดี มกั จะมนี า้ ขงั ท้าใหม้ ีอากาศไมพ่ อสา้ หรับรากพชื ใชใ้ นการหายใจ นอกจากนย้ี งั ทา้ การไถพรวน ล้าบากเพราะดินแหง้ จะแข็งมากและดินเหนยี วจัดเมอ่ื เปยี ก ดนิ รว่ นจงึ นบั เป็นดินทเี่ หมาะสมกับการ

เจรญิ เตบิ โตของพืชมากกวา่ ดนิ เหนยี วและดินทราย เนอ่ื งจากไถพรวนงา่ ย อมุ้ น้าได้ปานกลาง มีการระบาย น้าดี และมีความอดุ มสมบรู ณ์ ชนดิ ของดนิ จ้าแนกตามลกั ษณะเนอ้ื ดินได้ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ดินเหนียว ดินรว่ น และดินทราย อนภุ าคของดินจะรวมกันเปน็ เมด็ ดิน อนภุ าคจะมขี นาดแตกต่างกนั อนภุ าคดินเหนยี ว<อนภุ าคทรายแปง้ <อนุภาคทรายเนือ้ ดนิ ดินเหนยี ว ดนิ รว่ นและดินทรายจะมีอนุภาคเหลา่ น้ผี สมในสดั สว่ นทีแ่ ตกต่างกัน ชนิด ลักษณะดิน การระบายนา้ การอมุ้ การน้าไปใช้ปลกู พืช ของ และอากาศ น้า ดนิ ไม่ดี ได้ดี เหมาะกับการปลูกพืชทีต่ ้องการใชน้ ้า ดิน ดนิ ทเี่ ปียกจะมคี วาม มาก เชน่ ข้าว, บวั เหนียว ยดื หยนุ่ สามารถนา้ มา ปัน้ และคลงึ ได้ ดนิ ดนิ หยาบ ไมเ่ หนียวเห ดี ต่้า มคี วามอดุ มสมบรู ณ์ต่า้ ไมค่ ่อยเหมาะ ทราย นะหนะ และไม่จบั เปน็ กบั การปลกู พืชทัว่ ไป แต่เหมาะกบั ก้อน การปลกู พืชทีต่ ้องการน้าน้อย เชน่ มะพร้าว, ตะบองเพชร เป็นต้น ดิน เนอ้ื ดนิ คอ่ นข้าง ปานกลาง ปาน มซี ากพชื ซากสัตวอ์ ยมู่ าก จงึ เหมาะกบั ร่วน ละเอียด น่มุ มอื กลาง การปลูกพชื ตา่ งๆได้ดี เช่น พชื ผกั สวน ครวั องค์ประกอบของดนิ  อากาศ 25%  น้า 25%  สารอนิ ทรยี ์ 5 % สว่ นทเ่ี กิดจากสลายตวั ของซากพชื ซากสัตว์  สารอนนิ ทรยี ์45% ส่วนของแรธ่ าตทุ ่เี กดิ จากการผพุ งั ของหนิ ประโยชน์ของดิน -ประโยชนต์ ่อการเกษตรกรรม เชน่ การเพาะปลูก, การเลย้ี งสัตว์ - เป็นแหลง่ ท่อี ย่อู าศยั - เป็นแหล่งกักเก็บน้า

ปัญหาทรพั ยากรดิน -การตดั ไม้ท้าลายป่า การเผาป่า ท้าใหห้ น้าดนิ ถกู ชะล้างได้งา่ ยโดยน้าและลมเม่ือฝนตกลงมา - การเพาะปลูกและเตรยี มดินที่ไมถ่ ูกวธิ ีจะกอ่ ความเสียหายกับดนิ ได้ เชน่ การไถพรวนขณะดินแหง้ ท้า ใหห้ นา้ ดนิ ถูกชะหรือหลดุ ลอยไปกับลมได้ง่าย หรอื การปลกู พืชบางชนดิ จะท้าให้ดินเสือ่ มสภาพ การใชป้ ุย๋ เคมมี าก เกินไปท้าให้คณุ ภาพของดินเปล่ยี นแปลงไป - การต้งั บา้ นหรือโรงงานในแหลง่ ทมี่ ีดินสมบรู ณ์และเหมาะสมกับการเพาะปลูก การอนุรกั ษด์ ิน -การดูแลรกั ษาป่า ไมท่ า้ ไรเ่ ลื่อนลอย ไมเ่ ผาปา่ - ไถพรวนดินอย่างถูกวธิ ี-เปน็ การกลับดินเพ่อื ทา้ ให้อากาศและนา้ แทรกลงไปในดินได้ - การรกั ษาความชุ่มชื้นในดิน-ใชฟ้ างหรือใบไม้ที่หาไดใ้ นทอ้ งถิน่ คลมุ ดนิ - การปลูกพืชแบบขน้ั บนั ได-ส้าหรบั พืน้ ทีล่ าดเอยี งเป็นการป้องกนั มิใหเ้ กิดนา้ ไหลบา่ ช่วยป้องกนั การพังทลาย ของหนา้ ดิน - การเพิ่มแร่ธาตอุ าหารให้แก่ดินดว้ ยการใสป่ ุย๋ เชน่ ปยุ๋ อนิ ทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมกั , ปุย๋ คอก และปุ๋ยพืชสด (ปุ๋ยพืช สด คอื การปลูกพืชตระกูลถว่ั เม่อื ตน้ ถั่วโตขน้ึ ก้าลังออกดอกก็ทา้ การไถกลบเป็นปุ๋ย) - การปลูกพืชหมุนเวียน คอื การปลูกพชื สลบั กบั การปลกู พืชตระกูลถว่ั เชน่ ปลกู ข้าวโพดสลบั กับปลกู พชื ตระกลู ถวั่ จะท้าใหก้ ารเสอื่ มโทรมของระดบั ธาตอุ าหารในดินเกดิ ข้ึนช้าลง - การใชป้ นู ขาวแกด้ นิ ทเี่ ปน็ กรด - การใชป้ ยุ๋ คอก, ก้ามะถัน แกด้ ินเค็ม (หรอื ดนิ ที่เป็นเบสหรือดา่ ง)

ช้นั ดิน ดินทกุ ชนิดประกอบไปดว้ ยหน้าดินเป็นชั้น ๆ แตล่ ะช้ันจะแตกตา่ งกันที่ สี ผิวพื้น โครงสร้าง ความ พรุนและปฏิกริ ิยาของดนิ ชัน้ ดนิ สมบรู ณม์ ี 5 ช้นั คือ ชนั้ O ชัน้ A ช้ัน B ช้นั C และช้นั R ดังรปู ชนั้ ของอินทรีย์วัตถุ คอื ชัน้ O จะอยูต่ อนบนสุดของรปู ด้านข้างของดนิ โดยจะประกอบด้วย อินทรียว์ ตั ถุเป็นส่วนใหญ่ ซง่ึ จะทา้ ใหด้ ินชั้นนม้ี ีสคี อ่ ยขา้ งด้า ประกอบดว้ ยซากพชื และซากสัตว์ ทั้งท่ผี ุพัง ไปแล้วและยงั ไมผ่ ุพัง ดนิ โดยทัว่ ไปจะมชี ้นั นี้บางมาก ช้ันดิน A เปน็ ชั้นดินแรธ่ าตทุ ี่อยูบ่ นสดุ ของรปู ด้านข้าง มีอนิ ทรีย์ผสมคลกุ เคล้าอยู่มากกวา่ ช้นั ดนิ อ่ืน ช้ันดนิ O และช้ัน A รวมเรียกว่า ดนิ ชนั้ บน ชน้ั ดนิ B เป็นดนิ ชน้ั ลา่ งท่สี ะสมส่วนทถี่ กู ชะล้างมาจากชัน้ ดนิ A และมักจะมคี วามหนามากกวา่ ช้นั อ่นื ๆ ชั้นดนิ C เปน็ ช้นั ของวัตถตุ น้ กา้ เนิดดนิ ซง่ึ ประกอบด้วยสว่ นทส่ี ลายตวั แตกหกั ผกุ รอ่ นของหิน และแร่ ชัน้ หนิ R เป็นชน้ั หินแข็งทอ่ี ยใู่ ต้ช้ันดนิ C


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook