ท่านอุมัร

ทา่ นอุมรั บิน .อลั -ค็อฏฏอ็ บ Saidina Umar al-Khattaby (Umar al-Farooq) 23 Jamadilakhir tahun 13 Hijrah

ประวตั ิ ทา่ นอุมัร  “อมุ ัร เป็นคาภาษาอาหรบั แท้ มาจากรากศัพท์ อะมะเราะ แปลว่า ยนื ยาว เจรญิ หรอื พฒั นา  “อุมัร บนิ อลั -ค็อฏฏ็อบ เกดิ ปี ค.ศ. 513 ถือกาเนิด ณ เชิงเขาบ้านญะบัลอากิร อันเป็นถนิ่ ฐานของเผา่ บะนีอะ ดยี เขตเศาะฟาเมอื งมักกะฮ ซ่งึ สถานที่นต้ี ่อมาถกู เรยี กวา่ ญะบลั อมุ ัร(ภเู ขาอุมรั ) และมีเชอ้ื สายอาหรบั เผ่ากรุ ็อย.  “อมุ รั เปน็ คอลฟี ะฮระหวา่ ง ปี ฮ.ศ.13-23 หรอื ค.ศ.634-644 และมฉี ายาว่า อัลฟารกู แปลวา่ จาแนกระหวา่ ง จรงิ และเท็จ  “อมุ ัรไดร้ ับการเล้ยี งดใู ห้มีความกล้าหาญ ชอบช่วยเหลือผอู้ ่ืน และพดู จริง  เป็นผูท้ ีท่ ่านนาบยี นื ยนั ว่าได้เขา้ สวรรค์.

ลกั ษณะและอุปนิสยั ลกั ษณะ ตาแดง หนวดดก เป็นคนรา่ งใหญ่บกึ บนึ เครายาวและหนา ผิวขาวคอ่ นข้างแดง ศีรษะโลน้ มือซา้ ยกบั ขวาถนดั เหมือนกัน สูงกวา่ คนอื่นเมอ่ื เดนิ เทยี บ

ลักษณะและอุปนิสัย อุปนสิ ยั ชอบใชค้ วามคิด ชอบเรียนรู้ คนทกี่ ลา้ เปดิ เผย ไมช่ อบปกปิด ชอบปรึกษา สนทนา กล้ายอมรับ ได้รับฉายานามวา่ อลั ฟารกุ หมายถึง มคี วามยุตธิ รรม มีความกลา้ หาญ พูดนอ้ ย ยิ้มนอ้ ย ผจู้ าแนกระหวา่ งความจรงิ กับความเท็จ ไมม่ ีความกลวั ในการพูดความจรงิ จนกระทัง่ ดเู ปน็ คนแข็งกระด้าง

เช้ือสายฝงั่ บิดา เช้อื สายฝงั่ มารดา 1.อัล-คอ็ ฏฏอ็ บ บิน นุฟัยล บิดา 1.หันตะมะฮ บินต ฮซิ าม 2.นฟุ ยั ล บนิ อบั ดุลอซุ ซา ปู่ มารดา 2.ฮิซาม บิน อลั -มฆุ ีเราะฮ 3.อับดลุ อุซซา บิน ริยาห บิดาของปู่ ตา 3.อลั -มฆุ ีเราะฮ บิน อบั ดุลลอฮ 4.รยิ าห บิน อลั -ดลุ ลอฮ ปขู่ องปู่ บดิ าของตา 4.อบั ดุลลอฮ บนิ อุมัร 5.อบั ดลุ ลอฮ บนิ กุรฏ. บดิ าของรยิ าห ปู่ของตา 5.อมุ ัร บิน มคั ซมู 6.กุรฏ บนิ เราะซาห. บิดาของอับดลุ ลอฮ บดิ าของปขู่ องตา 7.เราะซาห บิน อะดยี บิดาของกรุ ฏ 8.อะดีย บิน กะอบั บดิ าของอะดยี 9.กะอับ บนิ ลุอัยย บดิ าของกะอบั

การเขา้ รบั อิสลามของท่านอมุ ัร ทา่ นอุมรั ไมย่ อมรบั อมุ ัรต้องการทจ่ี ะขดุ การเข้ารบั อิสลามของท่านอมุ รั ทา่ นอมุ ัรไดไ้ ปหา และตอ่ ตา้ นการมีอยู่ รากถอนโคนแนวคิด นั้นมาจากการขอดูอาของ ท่านนบเี พ่อื ทจ่ี ะ กล่าวชาฮาดะห์ ของอสิ ลาม อสิ ลาม ทา่ นนบี และสาเหตุนอ้ งสาว กบั น้องเขยเขา้ รับอสิ ลามก่อน เขา

การปกครอง ในสมยั อุมรั อัล ค็อฏฏ๊อบ

การรับตาแหนง่ เคาะลีฟะฮฺ (23-24 เดือนญะมาดิลอาคริ ฮ.ศ.13) หลังจากอบูบักร์ป่วยหนกั ตดิ ต่อกนั เป็นเวลา 15 วันท่านก็ไดเ้ สียชีวิตอย่างสงบทา่ มกลาง ความเศรา้ สลดของปวงประชาชน และในตอนเชา้ ของวนั รงุ่ ขน้ึ คอื วนั อังคารท่ี 23 หรือ 24 เป็นวนั แรกของการดารง ตาแหน่งเคาะลีฟะฮฺคนทสี่ องของทา่ น อมุ รั บนิ อัลค็อฏฏ็อบ ซง่ึ ชนกล่มุ ตา่ ง ๆ ตา่ งมาให้คาสตั ยาบันและคามน่ั สญั ญาว่า จงรักภกั ดี เคารพเช่อื ฟัง ตอ่ ท่าน ( Muhibb al-Din al-Tabari.1998: 2/345; Ibn al-Jawzi. 2004:56 )

คอลดิ บนิ วาลีด o ทา่ นนบี (ศ.ล.)ไดใ้ ห้สมญานามทา่ นคอลิด o ในยุคเคาะลีฟะฮอฺ ุมัรทา่ นถอดถอนคอลิด บิน ถกู ปลดจากตาแหนง่ บนิ วาลดี ว่าเปน็ “ดาบของ อลั ลอฮฺ ท่ถี ูกชัก วาลีดออกจากผบู้ ัญชาการทางทหารสูงสุดให้ ออกมา จากฝัก” เป็นผบู้ ัญชาการกองทพั ของรฐั เคาะลีฟะฮ์อัร รอชีดนี และใหอ้ บูอุบัยดะฮ์ อิบน์ อลั ญรั รอฮ์ o บรรดานักประวัตศิ าสตร์มีความเห็นแตกตา่ ง ทาหนา้ ท่ีน้แี ทน กันในเร่ืองสาเหตุทีท่ า่ นถกู ปลดจากการเป็น แมท่ พั ในการเปิดประเทศชาม o ทา่ นคอลิดรับอสิ ลามในปที ี่แปดฮิจญ์เราะฮฺ o ท่านนบี (ศ.ล.) บอกวา่ “ท่านเปน็ ดาบ และเข้าร่วมสงความมากมายหลายครง้ั นัก ของอัลลอฮทฺ ่อี ัลลอฮฺนามา เพอ่ื ปราบบรรดา ประวัตศิ าสตร์ได้กลา่ ววา่ “เขาไม่เคยพา่ ยแพ้ มุชรกิ ีนและมุนาฟกิ ีน” (มุสนดั อิมาม อะห์ ในสงครามใดเลย ทง้ั สงครามกอ่ นทเ่ี ขาจะ หมดั 1/8) เข้ารบั อสิ ลามและหลงั จากทีเ่ ขาเข้ารับอิสลาม แลว้ ”

เหตผุ ลทที่ า่ นคอลดิ บนิ วาลดี มีรายงานจากท่านอมุ รั ฺ บนิ อลั -ค็อฏฏอบ เราะฎยิ ลั ลอฮอุ ันฮุ ว่าทา่ นกล่าวว่า “ไมเ่ ลย อย่างไรเสีย ถูกปลดจากตาแหนง่ ฉนั กจ็ ะปลดคอลิดอย่างแนน่ อน เพอื่ ที่ผู้คนจะได้ร้วู ่า แท้จรงิ อัลลอฮฺสามารถทจ่ี ะชว่ ยเหลือศาสนาของ พระองคใ์ หไ้ ดร้ บั ชัยชนะ แม้จะเป็นคนอืน่ นาทพั แทนคอลดิ กต็ าม” (สิยรั ฺ อะอฺลาม อัน-นบุ ะลาอ์ 1/378) เปน็ ตวั อย่างที่แสดงให้เห็นถึงการถือว่าการศรัทธามคี วามสาคญั มากกว่าโลกวัตถุของเรา เพื่อป้องกนั การยึดตดิ กับตวั บุคคล เชื่อมัน่ ในตัวคอลดิ และคดิ ว่าชัยชนะทัง้ หมดที่ผ่านมาเปน็ เพราะวา่ มคี อลิด ลมื ไปว่าอลั ลอฮฺตา่ งหากทค่ี อยชว่ ยเหลอื การเสียสละอันสงู ส่งของคอลดิ บินวาลดิ มีเกยี รตเิ กินกว่าความกล้าหาญและความเป็นอจั ฉรยิ ะทางทหารเสียอีก

การเนรเทศชาว ชาวคริสเตียนในแควน้ นัจญร์ อนไดว้ างแผนการอันชง่ั รา้ ย ครสิ เตียนในแควน้ นจั ญ์รอน และบอ่ นทาลายที่เป็นอันตรายต่อมุสลิม คนพวกน้ีได้ทา การยุยงพวกโรมันให้บุกมะดีนะฮฺ อุมรั ได้สงั่ ยะอฮลิ า บินอมุ ัยยะฮ. ให้ไปยงั เยเมนเพอื่ บอก ชาวคริสเตยี นแหง่ แคว้นนัจญ์รอนใหอ้ อกไปจากประเทศ และให้บอกคนเหลา่ นั้นดว้ ยวา่ พวกเขาจะได้รับท่ีดนิ ทมี่ ี ความสมบรู ณก์ วา่ ในซเี รีย ชาวยวิ และชาวคริสเตียนในมะดีนะฮิและแควน้ นัจญร์ อนยังดาเนนิ กจิ การใหก้ ้ยู ืมดอกเบย้ี สูง ท่านนบีมุฮมั มดั จึงทาข้อตกลงกบั ชาวครสิ เตียนแหง่ แคว้นนจั ญร์ อน โดยมีเงอ่ื นไขหน่ึงท่รี ะบุ ว่าพวกเขาจะเลกิ การปล่อยเงนิ กเู้ พอื่ เอาดอกเบ้ีย แต่คนพวกนีก้ ไ็ ม่ทาตามสัญญาดังน้ันคน พวกนจ้ี งึ สมควรท่ีจะถกู ดาเนินมาตรการเฉยี บขาด

DAMASCUS EUROPE ปี ฮ.ศ 13 พชิ ิตเดมัชกฺ ( ดามัสกสั ซเี รยี ) ปี ฮ.ศ 20 พิชิตอยี ปิ ต์โดยทการนาของอัมรฺ โดยการนาของอบูอุบยั ดะฮฺ บนิ อสั -อาศ IRAQ AZERBAIJAN ปี ฮ.ศ 14 พิชติ อริ กั โดยการนาของสะอฺ ปี ฮ.ศ 22 พิชิตอาเซอร์ไบจัน โดยการนาของ บินอบวี ักก็อศ นะอีม บิน มกุ รนิ JERUSALEM KORKAN ปี ฮ.ศ 15 พิชติ เยรซู าเลม็ ( ปาเลสไตน์ ) ปี ฮ.ศ 22 พิชติ กอ็ รกฺ าน โดยการนาของซวุ ยั ดฺ โดยท่านคอลฟี ะฮฺเอง บิน มกุ รนิ

EX: อมั รฺ อบิ นุอาศ ไดข้ ออนุญาตคอลฟี ะห์อมุ รั ใน การพชิ ติ อยี ปิ ต์ ซ่ึงขณะน้นั อยูภ่ ายใต้การปกครองของโรมนั ผู้ปกครองมี ชือ่ ว่า มุเกาก้อส คอลีฟะหอ์ มุ ัร กอ็ นญุ าต อมั รฺ อบิ นอุ าศจงึ ไดพ้ ากองทพั มุสลมิ เดินทางจากปาเลสไตน์ เขา้ ไปยงั ดนิ แดนอยี ปิ ต์ โดยพชิ ิตหวั เมือง ต่างๆท่ีอย่รู ายทาง การพชิ ติ ดินแดน เยรูซาเลม็ หลัจากอัรตะบูน หนีไปยังเยรซู าเลม็ อัมรฺ บนิ อสั อาศ ก็พิชิตเมือซ็อซซะ๊ ฮฺ (กาซา) หลงั จากนนั้ เขาก็มงุ่ หน้าสู่เยูซาเล็มและปดิ ล้อมเมืองไว้ ในเวลาไลเ่ ลยี่ งกนั อบอู ุบัยดะฮกฺ ็ได้นาทัพไปยงั ปาเลสไ์ ตน์ ข่าวการมาถงึ ของเขากท็ าให้ชาวคลิสเตยี นทีถ่ กู ปิดล้อมอยูใ่ นเมืองเสยี ขวญั ดงั น้ัน เมื่อร้วู า่ ไม่สามารถ ปอ้ งกนั เมืองไดช้ าวคริสเตียนก้ไมม่ ที างเลอื กอื่น

1. เปน็ เคาะลฟี ะฮ์คนแรกทไี่ ด้รบั ฉายาวา่ อามีรลุ มุมนี ีน ประมุขแห่งมวลผู้ศรทั ธา 2. เปน็ เคาะลฟี ะฮ์ คนแรกทีส่ ั่งใหท้ าการขยายมสั ยิดอลั หะรอม ผลงานของทา่ นอุมรั 3.เป็นเคาะลฟี ะฮ์คนแรกทสี่ งั่ ให้ใชป้ ฏิทนิ ฮจิ ญ์เราะฮฺเรมิ่ จากท่านรอซูลศ็อลลัลอฮุอาลยั ฮีวาซัลลมั อพยพไปมะดีนะฮ์ 4. เป็นเคาะลฟี ะฮ์คนแรกทส่ี ่ังใหม้ ีการบันทกึ รายรับรายจา่ ยในหน่วยงานตา่ งๆของรัฐ และการจ่ายเงนิ เดอื นแกผ่ ูม้ ีสทิ ธิรับเงนิ

5. เป็นเคาะลีฟะฮ์คนแรกที่ส่งั ใหจ้ ดั บา้ นพักรบั รองแขก และเกบ็ อาหารใหเ้ ตม็ เพอื่ ชว่ ยเหลือผูท้ ี่ไรญ้ าตขิ าดมติ ร 6. เป็นเคาะลฟี ะฮ์คนแรกท่อี อกตรวจตราประชาชนในเวลากลางคนื ผลงานของทา่ นอุมัร 7. เปน็ เคาะลฟี ะฮ์คนแรกทแี่ ตง่ ตั้งใหม้ ผี ู้พพิ ากษา 8. เปน็ เคาะลีฟะฮ์คนแรกทีจ่ ัดตง้ั สานกั งานการคลงั ของมุสลมิ ขึ้น (บัยตลุ มาล) 9. เป็นเคาะลีฟะฮ์คนแรกที่ส่ังให้จดั ตง้ั ท่ีทาการไปรษณีย์

• โรคระบาดเกิดข้ึนทเี่ เควน้ ชามในขณะทท่ี า่ นอมุ รั กาลังเดนิ ทางไปยังท่นี ่นั • ระหว่างทางมคี นมาเเจง้ กบั ทา่ นวา่ ไดเ้ กดิ กาฬโรคข้ึนในเเคว้นชาม • ท่านอมุ รั ได้ทาการปรึกษากบั บรรดามฮุ าญริ ีนเเละชาวอันศอร • ชาวมฮุ าญิรีนนั้นออกความเห็นใหเ้ ดนิ ทางต่อ • ชาวอันศอรไดม้ คี วามเห็นตรงกนั ว่าใหเ้ ดนิ ทางกลับ • ทา่ นอุมัรเห็นด้วยกับความเหน็ ของชาวอันศอรทีบ่ อกว่าให้นาผ้คู น เดินทางกลบั

โรคระบาดในสมยั ทา่ นอมุ รั  ซ่ึงในเหตุการณ์คร้งั น้ี ท่านอบูอุบัยดะฮ์ อบิ นุ อัลญรั รอห์ รอฎยิ ลั ลอฮุอันฮุ ได้กลา่ วกบั ทา่ นอมุ ัรว่า : ทา่ นจะหนจี ากการ กาหนดของอลั ลอฮ์กระนั้นหรือ ?  ทา่ นอมุ รั ก็ได้ช้ีเเจงวา่ : ใช่เเลว้ มันเปน็ การหนจี ากการกาหนด ของอัลลอฮ์ไปสู่การกาหนดของอัลลอฮเ์ หมือนกัน  ทันใดนนั้ เองท่านอับดุรเราะห์มาน บนิ เอาฟ์ กไ็ ดม้ ายงั ทา่ นอมุ ัร เเลว้ กลา่ วว่า : ในเร่ืองนีฉ้ นั มคี วามรู้ที่ฉันได้ยินมาจากท่านรอซู ลุลลอฮ‫ ์ﷺ‬ทา่ นไดก้ ลา่ วว่า : ‫ وإذا وقع بأرض وأنتم بها فلا تخرجوا فرارا منه‬،‫إذا سمعتم به في أرض فلا تقدموا عليها‬ \"เมือ่ พวกทา่ นได้ยินถงึ มัน(โรคระบาด)ในแผ่นดินใดก็ตาม พวกทา่ นอยา่ ได้ไปยังแผ่นดินน้ัน เเละเมื่อมนั เกดิ ขึน้ ทแี่ ผ่นดินใดในขณะท่ี พวกท่านอยู่ ณ ท่นี ั่น พวกท่านกอ็ ย่าไดเ้ ดินทางออกจากทแ่ี ห่งนัน้ เพ่อื หนีจากมัน\"  เมื่อท่านอมุ ัรไดย้ ินเช่นน้ันเเลว้ ท่านกไ็ ดท้ าการสรรเสรญิ ตอ่ อลั ลอฮ์เเละได้ออกไป

การเสียชวี ิต (ชาฮีด) ของทา่ นอุมัร ทา่ นเสียชีวิตวนั ศกุ รท์ ่ี26 เดอื น ซลุ ฮจิ เญาะ ปี ฮ.ศ.23 เมอ่ื อายุ 60 ปี ทา่ นถกู ฝังเคยี งข้างคอลีฟะหอ์ บบู ักร อัซซดิ ดก๊ิ ขณะท่คี อลฟี ะหอ์ มุ ัรเป็นอิมามนาละหมาดซบุ ฮิ ในตอนเชา้ ของวนั หนงึ่ อบู ลุลุอะห์ ซง่ึ เป็นผบู้ ชู าไฟ และเปน็ คนใชข้ องมฆุ ี เราะห์ อบิ นุชวะยะห์ ได้เขา้ มาแทงทา่ น ทาใหท้ า่ นลม้ ลง ทา่ นจึงไดใ้ ชใ้ หท้ า่ นอบั ดุลเราะห์มาน อบิ นอุ าฟ นาละหมาดต่อไป จนเสร็จ แลว้ ท่านกล่าววา่ : “ไม่มตี าแหน่งใดในอสิ ลาม สาหรบั ผู้ที่ละทง้ิ ละหมาด” บรรดามสุ ลิมไดห้ ามทา่ นอุมรั ซ่ึงมีเลือดไหลนอง เข้าไปในบ้านของทา่ น เพือ่ ทาการทาแผล เน่ืองจากอาการของทา่ นสาหสั มาก จึงถึงแก่กรรมในเวลาตอ่ มา ก่อนทีท่ า่ นจะถงึ แกก่ รรม ท่านรวู้ า่ ผทู้ ่ฆี ่าทา่ นไมใ่ ชม่ สุ ลมิ ทา่ นจงึ กล่าววา่ : มวลการสรรเสรญิ เปน็ ของอัลเลาะห์ โดยทผ่ี ู้ทีฆ่ ่าฉัน ไมใ่ ชผ่ ทู้ ส่ี ูญูดตอ่ อลั เลาะห์

ข้อคดิ และบทเรียนทไ่ี ดร้ ับ ความเมตตาและความ ทา่ นอุมรั หวังว่าฆาตกร ความประเสริฐและมี อ่อนโยนของท่านอุมรั ทล่ี อบสงั หารทา่ นไม่ใช่ เกยี รติของท่านอมุ ัร ณ ทีม่ ตี อ่ ประชาชาติท้งั ต่อ มุสลิม นกี่ เ็ ปน็ ความ ท่ีอัลลอฮฺ โดยพระองค์ เมตตาของท่านทเี่ กรง ไดท้ รงตอบรบั ดุอาอ์ ผู้ทีอ่ ยู่ใกล้ชิดและ ของทา่ นและประทาน ห่างไกล จะเห็นว่าทา่ น วา่ หากฆาตกรเปน็ ความโปรดปรานดว้ ย ตอ้ งการทจ่ี ะจัดระบบ มุสลิมดว้ ยกันแลว้ เขาผู้ การใหท้ า่ นได้ส้นิ ชีพใน เพื่อดูแลจัดการและให้ นน้ั จะประสบกับความ หนทางของพระองค์ที่ ความช่วยเหลือกล่มุ ผู้ หายนะ เมืองมะดีนะฮฺ อ่อนแอในสังคม 2 3 1

5 7 ความพยายามของท่านอุมัรในการส่งั ความเอาใจใสข่ องอมุ รั ในเรอื่ งการจัด ใชใ้ ห้กระทาดีและห้ามปรามความชว่ั แถวใหต้ รงในละหมาด ซงึ่ ส่ิงน้เี ป็น แม้กระทั่งท่านอยู่ในวาระสุดท้ายใกล้ แบบอยา่ งทบ่ี รรดาอหิ มา่ มมสั ยิด จะสิ้นใจ ท่านกย็ งั ไม่เว้นท่จี ะตกั เตือน ทั้งหลายควรเอาใจใสเ่ ปน็ อย่างย่ิง 4 6 ทา่ นมีความเครง่ ครดั ในศาสนาและ ความเอาใจใส่ของท่านอุมรั ในการ เกรงกลัวอัลลอฮฺเป็นอย่างมาก ดงั ปฏบิ ตั ิตามสุนนะฮฺ ด้วยการอ่าน จะเห็นไดว้ ่าแม้ผู้คนพากนั ช่ืนชม ให้ยาวในละหมาดฟจั ญรฺ สรรเสรญิ ทา่ น



602445024 ซาฟรี า เจ๊ะแว 602445035 อสั บนู า กะโด 602445025 อัรวาย์ กะหะมะ 602445036 พัชรินทร์ หลาจะนะ 602445026 ซาอดี ๊ะ เจะเหลาะ 602445038 นาซเี ราะห์ บาเนง็ 602445027 ลีนา บลิ หมดั 602445040 รุสดา มะสาแม 602445028 อาลิสนา ชานาญเหนาะ 602445042 นาอมี ะห์ แม 602445029 มาฮับบาตยี ์ มะเตะ 602445043 มูนเี ราะห์ โตะ๊ เจะ 602445030 ดุสิตา ยานพะโยม 602445046 อาซียะห์ เจะแม 602445031 นูรร็อยมี ดอเลาะ 602445047 ดนี ่า และสมุ 602445033 อาอีเสา๊ ะ หะดาตู 602445049 นรู ฮนีฟาร์ มฮุ ญ์ ิดดนี 602445034 ลัยนนู า เจะ๊ มูดอ

4,498,300,000 Big numbers catch your audience’s attention

333,000.00 earths is the Sun’s mass 24h 37m 23s is Jupiter’s rotation period 386,000 km is the distance between the Earth and the Moon