Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประโยคในการสื่อสาร

ประโยคในการสื่อสาร

Published by phiromrat2512, 2020-06-10 08:13:24

Description: ประโยคในการสื่อสาร

Search

Read the Text Version

คำนำ ชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียน ชุดที่ ๘ เร่ือง ประโยคตามเจตนาของผสู้ ่งสาร เป็นชุดการเรียนรู้ท่ีใชป้ ระกอบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ซ่ึงผจู้ ดั ทาไดพ้ ฒั นาข้ึนมาโดยจุดประสงคใ์ หน้ กั เรียนศึกษา คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ในชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนเลม่ น้ี ประกอบดว้ ยคาแนะนา การใชส้ าหรับครู คาแนะนาการใชส้ าหรับนกั เรียน แบบทดสอบก่อนเรียน บตั รคาสง่ั บตั รเน้ือหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกิจกรรม แบบทดสอบหลงั เรียน ผจู้ ดั ทาขอขอบคุณคณะผเู้ ช่ียวชาญท่ีใหค้ าแนะนา ช่วยเหลือในการจดั ทาชุด การเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน ตลอดจนคณะครู นกั เรียนโรงเรียนสุรินทร์ภกั ดีท่ีให้ กาลงั ใจในการจดั ทาจนแลว้ เสร็จ หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ ชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนเลม่ น้ี จะเป็นประโยชน์ใน การจดั การเรียนการสอนของครูและนกั เรียนพอสมควร เกิดความสะดวกและสามารถ นาไปพฒั นาผลการเรียนรู้ใหด้ ียงิ่ ข้ึนตอ่ ไป พิรมยร์ ัตน์ อาจยงิ่ กนั ยายน ๒๕๕๑

สำรบัญ เร่ือง หน้ำ คานา ก สารบญั ข คาแนะนาการใชส้ าหรับครู ค คาแนะนาการใชส้ าหรับนกั เรียน ฉ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ ช แบบทดสอบก่อนเรียน ๑ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๔ ศนู ยก์ ารเรียนท่ี ๑ ประโยคบอกเล่า ๕ ศนู ยก์ ารเรียนท่ี ๒ ประโยคปฏิเสธ ๑๐ ศนู ยก์ ารเรียนที่ ๓ ประโยคคาถาม ๑๕ ศูนยก์ ารเรียนที่ ๔ ประโยคคาสั่งหรือขอร้อง ๒๐ ศนู ยก์ ารเรียนท่ี ๕ ศูนยส์ ารอง เกมลูกโซ่ดอกสร้อย ๒๕ แบบทดสอบหลงั เรียน ๒๘ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ๓๑ บรรณานุกรม ๓๒

คำแนะนำกำรใช้สำหรับครู ๑. ศึกษาคูม่ ือการใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนใหเ้ ขา้ ใจ ๒. ตรวจความเรียบร้อยและความพร้อมในการใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน ๓. ควรทดลองใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนดว้ ยตนเองก่อนเพ่อื ใหเ้ กิดความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ๔. เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ที่มิไดจ้ ดั ในชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนและจาเป็นตอ้ งใช้ ๕. เตรียมจดั ช้นั เรียนใหเ้ หมาะกบั ชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน ๖. ก่อนสอนครูตอ้ งเตรียมชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียนไวบ้ นโตะ๊ ประจากลุ่มให้ เรียบร้อยและใหเ้ พียงพอกบั ที่นกั เรียนในแตล่ ะกลุ่มจะไดร้ ับคนละ ๑ ชุด ยกเวน้ แตส่ ื่อ การสอนที่ตอ้ งใชร้ ่วมกนั ในกลมุ่ ๗. ก่อนสอนครูตอ้ งใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเสียก่อน ตรวจดูแบบทดสอบ พร้อมกระดาษคาตอบใหเ้ พียงพอกบั จานวนนกั เรียน ๘. ช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบบทบาทของนกั เรียนเกี่ยวกบั วธิ ีการเรียนอยา่ งชดั เจน ๙. ปฏิบตั ิตามข้นั ตอน ๙.๑ นาเขา้ สู่บทเรียน ๙.๒ ดาเนินการประกอบกิจกรรม ๙.๓ ข้นั สรุปบทเรียน ๑๐. เม่ือทนั ทีที่นกั เรียนทุกกลุ่มประกอบกิจกรรม ครูไม่ควรพูดเสียงดงั หากมีอะไรจะ พูดตอ้ งพดู เป็นรายกลุ่มหรือรายบุคคลตอ้ งไม่รบกวนกิจกรรมของนกั เรียนกลุ่มอื่น ๑๑. ขณะท่ีนกั เรียนประกอบกิจกรรม ครูตอ้ งเดินดูการทางานของนกั เรียนแต่ละกลุม่ อยา่ งใกลช้ ิดหากมีนกั เรียนคนใด หรือกลุ่มใดมีปัญหา ครูควรจะเขา้ ไปใหค้ วามช่วยเหลือ จนปัญหาน้นั คล่ีคลาย

๑๒. กาหนดเวลาในการประกอบกิจกรรมแต่ละศูนยใ์ หช้ ดั เจนก่อนเปลี่ยนกลมุ่ ครู จะตอ้ งเนน้ ใหน้ กั เรียนทุกคนเกบ็ ชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนของตนไวใ้ นสภาพ เรียบร้อย ๑๓. หากนกั เรียนกลมุ่ ใดหรือคนใดทางานไดเ้ ร็วจนเกินไป ครูก็ควรใหไ้ ปทากิจกรรม ในศูนยส์ ารองท่ีเตรียมไว้ เพอ่ื รอกลมุ่ อื่น ๑๔. การเปลี่ยนกลมุ่ กิจกรรมกระทาไดเ้ ม่ือ ๑๔.๑ เปล่ียนกลุ่มพร้อมกนั ทกุ กลมุ่ หากกิจกรรมเสร็จพร้อมกนั ๑๔.๒ หากมีกลมุ่ ท่ีทากิจกรรมเสร็จพร้อมกนั ๒ กลมุ่ ก็ใหเ้ ปลี่ยนกนั ไดเ้ ลย ๑๔.๓ หากมีกลมุ่ ใดเสร็จก่อน โดยกลมุ่ อ่ืนยงั ไม่เสร็จ กใ็ หก้ ลุ่มท่ีเสร็จก่อน เปล่ียนไปยงั ศูนยส์ ารองและถา้ มีกล่มุ ใดวา่ งใหล้ ะจากศนู ยส์ ารองไปยงั ศูนยท์ ่ีวา่ งทนั ที ๑๒ ๑๒ ๕ ๕ ๓ ๔ ๔๓ แบบที่ ๑ แบบที่ ๒ ๑๒ ๕ ๔๓ แบบที่ ๓

๑๕. ก่อนบอกใหน้ กั เรียนเปล่ียนกลมุ่ ครูจะตอ้ งเนน้ ใหน้ กั เรียนเก็บส่ือการสอน ของตนไวใ้ นสภาพเรียบร้อย หา้ มถือติดมือไปดว้ ย ยกเวน้ แตส่ มุดจดงานนกั เรียน และขอใหเ้ ปล่ียนกลมุ่ ไปอยา่ งเป็นระเบียบเรียบร้อย ๑๖. ครูช่วยนกั เรียนสรุปบทเรียนอีกคร้ังหลงั จากนกั เรียนไดเ้ รียนรู้ทกุ ศนู ยก์ ารเรียน และการสรุปบทเรียนควรเนน้ กิจกรรมร่วมของทุกกลุ่มหรือตวั แทนของกล่มุ มารวมกนั ๑๗. หลงั จากท่ีนกั เรียนไดใ้ ชช้ ุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนเรียบร้อยแลว้ ใหท้ า แบบทดสอบหลงั เรียนอีกคร้ัง ซ่ึงเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกบั แบบทดสอบก่อน เรียนและนาผลเปรียบเทียบความกา้ วหนา้

คำแนะนำกำรใช้สำหรับนกั เรียน ๑. ชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน เร่ือง ประโยคตามเจตนาของผสู้ ่งสาร มีจานวน ๔ ศูนยก์ ารเรียน ๒. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๓. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็น ๔ กลุ่มใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลือกประธาน รองประธาน เลขานุการกลมุ่ นกั เรียนที่เป็นประธานกลมุ่ อา่ นบตั รคาสงั่ และดูแลสมาชิกใหป้ ฏิบตั ิ ตามกิจกรรมทีละข้นั ตอนอยา่ งเคร่งครัด ๔. นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจปฏิบตั ิกิจกรรมอยา่ งจริงจงั ไมช่ วนเพอื่ นคุยหรือเลน่ กนั จนทาให้ การเรียนล่าชา้ เกินเวลากาหนด ๕. นกั เรียนตอ้ งทากิจกรรมแตล่ ะศนู ยใ์ หเ้ สร็จในเวลาที่กาหนด ๖. ก่อนที่จะเปลี่ยนศนู ย์ จะตอ้ งจดั บตั รต่างๆ และสื่อการสอนเขา้ ที่เดิมใหเ้ รียบร้อย ถา้ มี ส่ิงใดชารุดเสียหาย ควรแจง้ ครูใหท้ ราบทนั ที ๗. เม่ือนกั เรียนทากิจกรรมกลมุ่ เสร็จพร้อมกนั กใ็ หเ้ ปลี่ยนศนู ยต์ ามแผนผงั การจดั ช้นั เรียน ๘. ถา้ หากกลมุ่ ใดทากิจกรรมเสร็จก่อนโดยที่กลุ่มอื่นยงั ไม่เสร็จใหเ้ ปลี่ยนไปยงั ศูนย์ สารองและเมื่อกลมุ่ อ่ืนเสร็จกใ็ หเ้ ปล่ียนศนู ยท์ นั ที ๙. เมื่อเปลี่ยนศนู ยต์ อ้ งจดั เกา้ อ้ีในศนู ยเ์ ดิมให้เรียบร้อย ๑๐. นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจปฏิบตั ิ ใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียนอยา่ งระมดั ระวงั อยา่ ขีดเขียนใดๆ ลงในชุดการเรียนรู้ ๑๑. หลงั จากสรุปบทเรียนแลว้ นกั เรียนตอ้ งทาแบบทดสอบหลงั เรียน ๑๒. ในกรณีท่ีนกั เรียนบางคนยงั ไม่เขา้ ใจเน้ือหาในบางศูนย์ สามารถยมื ชุดการเรียนรู้ แบบศูนยก์ ารเรียนศึกษานอกเวลาหรือที่บา้ น หรือถามเพอ่ื น ถามครูกไ็ ด้ เพอื่ จะได้ เขา้ ใจเน้ือหาน้นั ๆ ยงิ่ ข้ึน

จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. บอกลกั ษณะของประโยคไดถ้ กู ตอ้ ง ๒. อธิบายลกั ษณะของประโยคบอกเล่าไดถ้ กู ตอ้ ง ๓. อธิบายลกั ษณะของประโยคปฏิเสธไดถ้ กู ตอ้ ง ๔. อธิบายลกั ษณะของประโยคคาถามไดถ้ กู ตอ้ ง ๕. อธิบายลกั ษณะของประโยคคาสง่ั หรือขอร้องไดถ้ กู ตอ้ ง ๖. เห็นคุณคา่ ของภาษาไทย สำระกำรเรียนรู้ ๑. ลกั ษณะของประโยค ๒. ประโยคบอกเล่า ๓. ประโยคปฏิเสธ ๔. ประโยคคาถาม ๕. ประโยคคาสัง่ หรือขอร้อง ๖. การเห็นคุณค่าของภาษาไทย

แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง ประโยคตำมเจตนำของผู้ส่งสำร คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว ๑. ประโยคในขอ้ ใดมีลกั ษณะต่างไปจากพวก ก. ใครทางาน ข. ใคร ๆ ก็ทางาน ค. เธอจะทางานกบั ใคร ง . เธอเคยทางานกบั ใครบา้ ง ๒. ขอ้ ใดไม่จดั วา่ เป็นประโยค ก. นกดุเหวา่ คือ นกโกกิลา ข. ตน้ มะขามโค่นทบั สายไฟฟ้า ค. ใบไมห้ ลน่ เหลืองไปท้งั สนาม ง. ปลาเงินปลาทองแสนสวยในตกู้ ระจก ๓. ประโยคใดกล่าวในลกั ษณะขอร้องเชิงออ้ นวอน ก. ไปสิ ข. ไปเถอะน่า ค. ไปซิน่า ง. ไปเสีย ๔. ขอ้ ใดจดั วา่ เป็นประโยคปฏิเสธ ก. วิชาภาษาไทยไมย่ ากเลย ข. วิชาภาษาไทยยากหรือไม่ ค. วิชาภาษาไทยไมย่ ากหรือ ง. วชิ าภาษาไทยไมย่ ากใช่หรือไม่

๕. ขอ้ ใดไม่ใช่ประโยคคาส่ัง ก. นอนลง ข. นอนนิ่ง ๆ ค. นอนเดี๋ยวน้ี ง. นอนเอกเขนก ๖. ขอ้ ใดเป็นประโยคคาสั่งท่ีมีความสุภาพมากท่ีสุด ก. หา้ มทิ้งขยะบริเวณน้ี ข. อยา่ ทิ้งขยะบริเวณน้ี ค. โปรดอยา่ ทิง้ ขยะบริเวณน้ี ง. หา้ มไม่ใหท้ ิ้งขยะบริเวณน้ี ๗. ขอ้ ใดไมจ่ ดั วา่ เป็นประโยคคาถาม ก. เธอแน่ใจหรือ ข. เธอตดั ฉนั ลงแน่หรือ ค. เธอหรือใครก็ไดไ้ ปใหท้ ี ง. เธอหลอกฉนั เล่นหรือเปล่า ๘. ขอ้ ใดเป็นประโยคคาสั่ง ก. ยนื ข้ึน ข. ยนื แลว้ ค. ยนื นาน ง. ยนื เฉย

๙. “อ๊ะ ! อ๊ะ! อยา่ ทิ้งขยะ ตาวิเศษเห็นนะ”เป็นประโยคที่มีเจตนาในการสื่อสารอยา่ งไร ก. ประโยคสั่ง ข. ประโยคบอกเลา่ ค. ประโยคปฏิเสธ ง. ประโยคขอร้อง ๑๐. ขอ้ ใดเป็นประโยคคาส่ังหรือขอร้อง ก. ช่วยงานโรงเรียนเป็นความดี ข. เขาเป็นคนโปรดของครูประจาช้นั ค. โปรดเตรียมเงินใหพ้ อดีกบั ค่าผา่ นทาง ง. วา่ ยน้าทุกวนั เป็นประโยชนต์ อ่ สุขภาพ

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ประโยคตำมเจตนำของผ้สู ่งสำร ข้อ คำตอบ ๑ข ๒ง ๓ข ๔ก ๕ง ๖ค ๗ค ๘ก ๙ก ๑๐ ง

บตั รคำสั่ง ศูนย์ท่ี ๑ ประโยคบอกเล่ำ ๑. อา่ นบตั รเน้ือหา บนั ทึกลงในสมดุ วชิ าภาษาไทย ๒. อ่านบตั รกิจกรรมแลว้ ตอบลงในสมดุ จดงานนกั เรียน ๓. ตรวจคาตอบจากบตั รเฉลยกิจกรรม เม่ือปฏิบตั ิกิจกรรมตามลาดบั ข้นั ตอนเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหเ้ ก็บบตั รคาสง่ั บตั รเน้ือหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกิจกรรม ลงในซองเดิมใหเ้ รียบร้อย ก่อนเปล่ียนไปทากิจกรรมที่ศูนยอ์ ่ืนต่อไป ถา้ ศูนยก์ ารเรียนไม่วา่ งใหเ้ ขา้ ศูนยส์ ารอง หา้ มหยบิ ชิ้นใดชิ้นหน่ึงติดมือไปดว้ ย ยกเวน้ สมุดจดงานของนกั เรียน

บตั รเนื้อหำ ศูนย์ที่ ๑ ประโยคบอกเล่ำ ประโยค คือ คาหรือกลมุ่ คาที่นามาเรียงกนั แลว้ มีความหมายสมบูรณ์ ประโยค โดยทว่ั ไปประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง ซ่ึงอาจมีส่วนขยายภาคประธานและ ภาคแสดงหรือไมม่ ีส่วนขยายเลยก็ได้ ตวั อยา่ งเช่น ภาคประธาน ภาคแสดง นาม/ ส่วนขยาย กริยา ส่วน กรรม ส่วน ประโยค สรรพ ประธาน ขยาย ขยาย นาม กรรม สุนขั เห่า สุนขั - เห่า - - - สุนขั กดั แมว สุนขั - กดั - แมว - สุนขั ของฉนั กดั สุนขั ของฉนั กดั - แมว สีดา แมวสีดา สุนขั ของฉนั เห่า สุนขั ของฉนั เห่า เสียงดงั - - เสียงดงั สุนขั ของฉนั กดั สุนขั ของฉนั กดั อยา่ งแรง แมว สีดา แมวสีดาอยา่ งแรง ในการสื่อสารกนั ตามปกติน้นั ผสู้ ่ือสารอาจมีเจตนาไดห้ ลายประการ อาทิ เจตนาจะบอก กล่าวเสนอแนะ ช้ีแจง อธิบาย ซกั ถาม ขอร้อง วิงวอน สั่ง หา้ ม ฯลฯ ขอ้ ความหรือ ประโยคที่แสดงเจตนาต่างๆ ของผรู้ ับสารเหลา่ น้ี จาแนกไดด้ งั น้ี ในศนู ยก์ ารเรียนท่ี ๑ จะกล่าวถึงเน้ือหาของ ประโยคบอกเล่า ประโยคบอกเลา่ โดยปกติจะมีประธาน มีกริยา และอาจมีกรรมดว้ ย นอกจากน้ี อาจมีส่วนขยายต่างๆ เพ่อื ใหแ้ จ่มแจง้ ชดั เจนตามที่ผสู้ ่งสารตอ้ งการ โดยทวั่ ไปประโยค บอกเลา่ จะบ่งช้ีวา่ ประธานของประโยคทาอะไร คืออะไร เป็นอะไร อยใู่ นสภาพใด มี ลกั ษณะอยา่ งไร หรือธรรมชาติอยา่ งไร เช่น ครูกาลงั ลบกระดานดา (บอกใหร้ ู้วา่ ทา อะไร)

วทิ ยาศาสตร์คือวิชาท่ีวา่ ดว้ ยความจริงของธรรมชาติ (บอกใหร้ ู้วา่ คืออะไร) อาจารยใ์ หญเ่ ป็นประธานการแขง่ ขนั กีฬา ( บอกใหร้ ู้วา่ เป็นอะไร) ทอ้ งฟ้าวนั น้ีแจ่มใสดีเหลือเกิน ( บอกใหร้ ู้วา่ อยใู่ นสภาพใด) คาไทยแทส้ ่วนมากมีพยางคเ์ ดียว (บอกใหร้ ู้ลกั ษณะวา่ เป็นอยา่ งไร)

บตั รกจิ กรรม ศูนย์ที่ ๑ ประโยคบอกเล่ำ คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนจบั คู่คาประโยคท่ีสัมพนั ธ์กนั โดยนาพยญั ชนะหนา้ ขอ้ ความทาง ขวามือมาเติมลงในช่องวา่ งหนา้ ตวั เลขของประโยคทางซา้ ยมือ ............ ๑. นกั เรียนอ่านหนงั สือ ก. บอกใหร้ ู้วา่ ทาอะไร ............๒. ครูคือแมพ่ มิ พข์ องชาติ ข. บอกใหร้ ู้วา่ เป็นอะไร ............๓. ครูกาลงั ลบกระดานดา ค. บอกใหร้ ู้วา่ คืออะไร ............๔. ดนตรีไทยไพเราะมาก ง. บอกใหร้ ู้วา่ อยใู่ นสภาพใด ............๕. ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแตง่ จ. บอกใหร้ ู้ลกั ษณะวา่ เป็นอยา่ งไร ............๖. ตวั ประกนั ทุกคนอยใู่ นสภาพปกติ ฉ. บอกใหร้ ู้วา่ ธรรมชาติเป็นอยา่ งไร ............๗. นายอาเภอเป็นผนู้ าทอ้ งถิ่น ............๘. พ่อแมค่ ือผบู้ งั เกิดเกลา้ ............๙. น้ายอ่ มไหลลงสู่ท่ีต่าเสมอ ............๑๐. คาไทยแทส้ ่วนมากมีพยางคเ์ ดียว

บัตรเฉลยกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๑ ประโยคบอกเล่ำ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนจบั คู่คาประโยคที่สมั พนั ธก์ นั โดยนาพยญั ชนะหนา้ ขอ้ ความทาง ขวามือ มาเติมลงในช่องวา่ งหนา้ ตวั เลขของประโยคทางซา้ ยมือ ... ก.... ๑. นกั เรียนอ่านหนงั สือ ก. บอกใหร้ ู้วา่ ทาอะไร ....ข.... ๒. ครูคือแมพ่ มิ พข์ องชาติ ข. บอกใหร้ ู้วา่ เป็นอะไร ....ก.... ๓. ครูกาลงั ลบกระดานดา ค. บอกใหร้ ู้วา่ คืออะไร ....จ..... ๔. ดนตรีไทยไพเราะมาก ง. บอกใหร้ ู้วา่ อยใู่ นสภาพใด ....ฉ.... ๕. ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแตง่ จ. บอกใหร้ ู้ลกั ษณะวา่ เป็นอยา่ งไร ....ง.... ๖. ตวั ประกนั ทุกคนอยใู่ นสภาพปกติ ฉ. บอกใหร้ ู้วา่ ธรรมชาติเป็นอยา่ งไร ....ข.... ๗. นายอาเภอเป็นผนู้ าทอ้ งถิ่น ....ค.... ๘. พ่อแมค่ ือผบู้ งั เกิดเกลา้ ....ฉ.... ๙. น้ายอ่ มไหลลงสู่ที่ต่าเสมอ ...จ.... ๑๐. คาไทยแทส้ ่วนมากมีพยางคเ์ ดียว

บตั รคำสั่ง ศูนย์ท่ี ๒ ประโยคปฏเิ สธ ๑. อา่ นบตั รเน้ือหา บนั ทึกลงในสมดุ วิชาภาษาไทย ๒. อา่ นบตั รกิจกรรมแลว้ ตอบลงในสมดุ จดงานนกั เรียน ๓. ตรวจคาตอบจากบตั รเฉลยกิจกรรม เม่ือปฏิบตั ิกิจกรรมตามลาดบั ข้นั ตอนเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหเ้ ก็บบตั รคาสงั่ บตั รเน้ือหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกิจกรรม ลงในซองเดิมใหเ้ รียบร้อย ก่อนเปล่ียนไปทากิจกรรมที่ศนู ยอ์ ื่นต่อไป ถา้ ศนู ยก์ ารเรียนไมว่ า่ งใหเ้ ขา้ ศูนย์ สารอง หา้ มหยบิ ช้ินใดชิ้นหน่ึงติดมือไปดว้ ย ยกเวน้ สมดุ จดงานของนกั เรียน

บัตรเนื้อหำ ศูนย์ท่ี ๒ ประโยคปฏเิ สธ ประโยค คือ คาหรือกลมุ่ คาที่นามาเรียงกนั แลว้ มีความหมายสมบรู ณ์ ประโยค โดยทวั่ ไปประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง ซ่ึงอาจมีส่วนขยายภาคประธานและ ภาคแสดงหรือไม่มีส่วนขยายเลยกไ็ ด้ ตวั อยา่ งเช่น ประโยค ภาคประธาน ภาคแสดง นาม/ ส่วน กริยา ส่วน กรรม ส่วน สรรพนาม ขยาย ขยาย ขยาย ประธาน กรรม สุนขั เห่า สุนขั - เห่า - -- สุนขั กดั แมว สุนขั - กดั - แมว - สุนขั ของฉนั กดั สุนขั ของฉนั กดั - แมว สีดา แมวสีดา สุนขั ของฉนั เห่า สุนขั ของฉนั เห่า เสียงดงั - - เสียงดงั สุนขั ของฉนั กดั สุนขั ของฉนั กดั อยา่ งแรง แมว สีดา แมวสีดาอยา่ ง แรง ในการส่ือสารกนั ตามปกติน้นั ผสู้ ่ือสารอาจมีเจตนาไดห้ ลายประการ อาทิ เจตนา จะบอกกล่าว เสนอแนะ ช้ีแจง อธิบาย ซกั ถาม ขอร้อง วิงวอน ส่ัง หา้ ม ฯลฯ ขอ้ ความหรือ ประโยคที่แสดง เจตนาตา่ งๆ ของผรู้ ับสารเหลา่ น้ี จาแนกไดด้ งั น้ี ในศูนยก์ ารเรียนที่ ๒ จะกลา่ วถึง เน้ือหาของ ประโยคปฏิเสธ

ประโยคปฏเิ สธ แตกต่างจากประโยคบอกเลา่ ตรงที่มีคาวา่ ไม่ หรือ คาท่ีมี ความหมาย เช่นเดียวกนั เช่น มิใช่ มิได้ ประกอบตวั แสดง แต่ก็จะตอ้ งมีประธาน มีตวั แสดง และอาจมี กรรม ตลอดจนส่วนขยายตา่ งๆ ไดเ้ ช่นเดียวกบั ประโยคบอกเล่า ประโยคประเภทน้ี จะให้ ความเขา้ ใจแก่ผรู้ ับสารไปในทางตรงกนั ขา้ มกบั ประโยคบอกเลา่ เช่น สมพรไม่ต้งั ใจเรียนหนงั สือ เขาไม่ควรทาส่ิงน้นั เลย เขามไิ ด้ขบั รถเกินอตั ราความเร็วที่กาหนดไว้ คุณตาไม่ชอบใหห้ ลานๆ พูดจาไม่สุภาพ

บัตรกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๒ ประโยคปฏเิ สธ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเติมคา ไม่ มิ มิได้ มิใช่ หามิได้ ลงในช่องวา่ งให้ ถกู ตอ้ ง ๑. ฉนั .......... ชอบเรียนวิชาภาษาไทย ๒. เขา ............... ปฏิบตั ิตามกฎจราจร ๓. เธอ ................ คนเรียนเก่งที่สุดในหอ้ ง ๔. ขา ............ ปฏิบตั ิตามคาสัง่ ของครู ๕. ภาษาไทย................วชิ าเอกของเขา ๖. ทอ้ งฟ้าวนั น้ี..........แจ่มใสเทา่ วานน้ี ๗. คาไทยแท.้ ..................มีตวั การันต์ ๘. เขา............. เคยทาการบา้ น ๙. เธอ ............. เพอ่ื นคนเก่าแลว้ ๑๐. เขา....................เป็นคนเลว

บัตรเฉลยกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๒ ประโยคปฏเิ สธ คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเติมคา ไม่ มิ มิได้ มิใช่ ไมใ่ ช่ หามิได้ ลงในช่องวา่ ง ใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. ฉนั ... มิ. ชอบเรียนวชิ าภาษาไทย ๒. เขา ... มิได.้ ........ ปฏบิ ตั ิตามกฎจราจร ๓. เธอ .. มิใช่........ คนเรียนเก่งท่ีสุดในหอ้ ง ๔. เขา..มิได.้ .ปฏิบตั ิตามคาสงั่ ของครู ๕. ภาษาไทย...ไมใ่ ช่..วชิ าเอกของเขา ๖. ทอ้ งฟ้าวนั น้ี..ไม่ ...แจ่มใสเท่าวานน้ี ๗. คาไทยแท.้ .ไม่...มีตวั การันต์ ๘. เขา....ไม.่ ..เคยทาการบา้ น ๙. เธอ....ไมใ่ ช่...เพอื่ นคนเก่าแลว้ ๑๐. เขา...มิได.้ ..เป็นคนเลว

บัตรคำสั่ง ศูนย์ที่ ๓ ประโยคคำถำม ๑. อา่ นบตั รเน้ือหา บนั ทึกลงในสมุดวิชาภาษาไทย ๒. อา่ นบตั รกิจกรรมแลว้ ตอบกิจกรรมลงในสมุดจดงานนกั เรียน ๓. ตรวจคาตอบจากบตั รเฉลยกิจกรรม เม่ือปฏิบตั ิกิจกรรมตามลาดบั ข้นั ตอนเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหเ้ กบ็ บตั รคาสง่ั บตั รเน้ือหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกิจกรรม ลงในซองเดิมใหเ้ รียบร้อย ก่อนเปล่ียนไปทากิจกรรมที่ศนู ยอ์ ่ืนต่อไป ถา้ ศูนยก์ ารเรียนไม่วา่ งใหเ้ ขา้ ศูนย์ สารอง หา้ มหยบิ ชิ้นใดช้ินหน่ึงติดมือไปดว้ ย ยกเวน้ สมุดจดงานของนกั เรียน

บตั รเนื้อหำ ศูนย์ที่ ๓ ประโยคคำถำม ประโยค คือ คาหรือกลุม่ คาที่นามาเรียงกนั แลว้ มีความหมายสมบรู ณ์ ประโยค โดยทวั่ ไป ประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง ซ่ึงอาจมีส่วนขยายภาคประธานและภาค แสดงหรือไม่ มีส่วนขยายเลยก็ได้ ตวั อยา่ งเช่น ภาคประธาน ภาคแสดง ประโยค นาม/ ส่วนขยาย กริยา ส่วน กรรม ส่วน สรรพนาม ประธาน ขยาย ขยาย กรรม สุนขั เห่า สุนขั - เห่า - - - สุนขั กดั แมว สุนขั - กดั - แมว - สุนขั ของฉนั กดั แมว สุนขั ของฉนั กดั - แมว สีดา สีดา สุนขั ของฉนั เห่าเสียง สุนขั ของฉนั เห่า เสียง - - ดงั ดงั สุนขั ของฉนั กดั แมว สุนขั ของฉนั กดั อยา่ ง แมว สีดา สีดาอยา่ งแรง แรง ในการส่ือสารกนั ตามปกติน้นั ผสู้ ่ือสารอาจมีเจตนาไดห้ ลายประการ อาทิ เจตนาจะ บอก กล่าวเสนอแนะ ช้ีแจง อธิบาย ซกั ถาม ขอร้อง วิงวอน สง่ั หา้ ม ฯลฯ ขอ้ ความหรือ ประโยคที่ แสดงเจตนาต่างๆ ของผรู้ ับสารเหล่าน้ี จาแนกไดด้ งั น้ี ในศูนยก์ ารเรียนที่ ๔ จะ กล่าวถึงเน้ือหา ของ ประโยคคาถาม

ประโยคคาถาม หมายถึง ประโยคที่มีคาแสดงคาถามกากบั อยู่ คาแสดงคาถามจะมี ๒ ลกั ษณะคือ ประโยคคาถามที่ตอ้ งการคาตอบ จะมีคาวา่ ใคร ทาไม อะไร เมื่อไร เหตใุ ด เช่น ใครทาอาหารอยใู่ นครัว บา้ นของเธออยทู่ ี่ไหน ประโยคคาถามที่ตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธจะมีคาวา่ หรือ หรือไม่ ไหม เช่น เธอเป็ นคนทาใช่หรื อไม่ เขาตอ้ งการเพยี งเทา่ น้นั หรือ

บตั รกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๓ ประโยคคำถำม คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบวา่ ประโยคตอ่ ไปน้ีจดั เป็ น ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบ ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธ โดยเขียนทา้ ยประโยค ๑. ใครส่งเสียงดงั (...................................) ๒. แม่น้าที่ยาวที่สุดชื่ออะไร (...................................) ๓. เม่ือไรเธอจะไปเรียนต่อ (...................................) ๔. ลูกจะไปกบั แม่ไหม (...................................) ๕. เราจะช่วยเหลือประเทศชาติไดอ้ ยา่ งไร (...................................) ๖. เธอโกหกพอ่ แม่ใช่ไหม (...................................) ๗. เธอรู้ประวตั ิมากนอ้ ยเพยี งใด (...................................) ๘. เขาแกลง้ หนูใช่หรือไม่ (...................................) ๙. เธอจะพาฉนั ไปเท่ียวจริงหรือ (...................................) ๑๐. มนุษยค์ นแรกท่ีสามารถเดินทางไปดวงจนั ทร์คือใคร (...................................)

บัตรเฉลยกจิ กรรม ศูนย์ที่ ๓ ประโยคคำถำม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบวา่ ประโยคต่อไปน้ีจดั เป็น ประโยคคาถามที่ตอ้ งการคาตอบ ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธ โดยเขียนทา้ ยประโยคแต่ละขอ้ ๑. ใครส่งเสียงดงั (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบ) ๒. แมน่ ้าท่ียาวท่ีสุดชื่ออะไร (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบ) ๓. เมื่อไรเธอจะไปเรียนต่อ (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบ) ๔. ลูกจะไปกบั แม่ไหม (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธ) ๕. เราจะช่วยเหลือประเทศชาติไดอ้ ยา่ งไร (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบ) ๖. เธอโกหกพ่อแม่ใช่ไหม (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธ) ๗. เธอรู้ประวตั ิมากนอ้ ยเพียงใด (ประโยคคาถามที่ตอ้ งการคาตอบ) ๘. เขาแกลง้ หนูใช่หรือไม่ (ประโยคคาถามที่ตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธ ) ๙. เธอจะพาฉนั ไปเท่ียวจริงหรือ (ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบรับหรือปฏิเสธ ) ๑๐. มนุษยค์ นแรกที่สามารถเดินทางไปดวงจนั ทร์คือใคร (ประโยคคาถามที่ตอ้ งการคาตอบ)

บัตรคำส่ัง ศูนย์ที่ ๔ ประโยคคำส่ังหรือขอร้อง ๑. อา่ นบตั รเน้ือหา บนั ทึกลงในสมุดวชิ าภาษาไทย ๒. อ่านบตั รกิจกรรมแลว้ ตอบลงในสมุดจดงานนกั เรียน ๓. ตรวจคาตอบจากบตั รเฉลยกิจกรรม เมื่อปฏิบตั ิกิจกรรมตามลาดบั ข้นั ตอนเสร็จเรียบร้อยแลว้ ใหเ้ ก็บบตั รคาสงั่ บตั รเน้ือหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกิจกรรม ลงในซองเดิมใหเ้ รียบร้อย ก่อนเปลี่ยนไปทากิจกรรมที่ศูนยอ์ ่ืนตอ่ ไป ถา้ ศนู ยก์ ารเรียนไมว่ า่ งใหเ้ ขา้ ศนู ย์ สารอง หา้ มหยบิ ช้ินใดช้ินหน่ึงติดมือไปดว้ ย ยกเวน้ สมุดจดงานของนกั เรียน

บตั รเนื้อหำ ศูนย์ที่ ๔ ประโยคคำส่ังหรือขอร้อง ประโยค คือ คาหรือกลมุ่ คาที่นามาเรียงกนั แลว้ มีความหมายสมบรู ณ์ ประโยค โดยทวั่ ไปประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง ซ่ึงอาจมีส่วนขยายภาคประธานและ ภาคแสดงหรือไมม่ ีส่วนขยายเลยกไ็ ด้ ตวั อยา่ งเช่น ภาคประธาน ภาคแสดง ประโยค นาม/ ส่วน กริยา ส่วน กรรม ส่วน สรรพ ขยาย ขยาย ขยาย นาม ประธาน กรรม สุนขั เห่า สุนขั - เห่า - - - สุนขั กดั แมว สุนขั - กดั - แมว - สุนขั ของฉนั กดั แมว สุนขั ของฉนั กดั - แมว สีดา สีดา สุนขั ของฉนั เห่า สุนขั ของฉนั เห่า เสียง - - เสียงดงั ดงั สุนขั ของฉนั กดั แมว สุนขั ของฉนั กดั อยา่ ง แมว สีดา สีดาอยา่ งแรง แรง ในการส่ือสารกนั ตามปกติน้นั ผสู้ ื่อสารอาจมีเจตนาไดห้ ลายประการ อาทิ เจตนา จะบอก กลา่ วเสนอแนะ ช้ีแจง อธิบาย ซกั ถาม ขอร้อง วิงวอน สั่ง หา้ ม ฯลฯ ขอ้ ความหรือ ประโยคท่ี แสดงเจตนาตา่ งๆ ของผรู้ ับสารเหลา่ น้ี จาแนกไดด้ งั น้ี ในศนู ยก์ ารเรียนที่ ๓ จะ กลา่ วถึงเน้ือหา ของ ประโยคคาสง่ั หรือขอร้อง

ประโยคคำส่ังหรือขอร้อง มีลกั ษณะเด่น คือ ละประธานไวใ้ นฐานท่ีเขา้ ใจ มีแตภ่ าค แสดง เพราะในการส่งั หรือขอร้องน้นั ผสู้ ่งสารและผรู้ ับสารต่างเขา้ ใจอยแู่ ลว้ วา่ ใครส่งั หรือ ขอร้องใคร คาสงั่ หรือคาขอร้องอาจจะเป็นการส่ังใหก้ ระทาหรือใหป้ ฏิบตั ิ และ สั่งไมใ่ หก้ ระทา หรือไมใ่ หป้ ฏิบตั ิกไ็ ด้ ขวาหนั ยกมือข้ึน ปล่อยฉนั เดี๋ยวน้ี หา้ มเดินลดั สนาม อยา่ ทาบา้ นเมืองสกปรกนะคะ อยา่ ทาตนเป็นคนรกโลก จงช่วยกนั รักษาความสะอาด จงปฏิบตั ิตนเป็นพทุ ธศาสนิกชนท่ีดี

บตั รกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๔ ประโยคคำสั่งหรือขอร้อง คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนขีดเส้นใตค้ าที่นาไปเติมในช่องวา่ งแลว้ มีความหมายถูกตอ้ ง ๑. ......... นากระดาษขอ้ สอบออกนอกห้องสอบ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๒. ......... ทิง้ ขยะใหเ้ กลื่อนกลาด (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๓. จง........เกรงกลวั การพูดความจริง (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๔. ........ เกบ็ ดอกไมใ้ นสวนสาธารณะ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๕........... มิใหม้ ียาเสพยต์ ิดไวใ้ นครอบครอง (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๖ ......... ทิง้ ขยะที่ตรงน้ี (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๗. ..........ทอดทิง้ บุตรหลานของทา่ นไวต้ ามลาพงั ( กรุณา โปรดอยา่ หา้ ม ) ๘. ขอได.้ ..........เห็นใจเพือ่ นมนุษยด์ ว้ ยกนั บา้ งเถิด (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๙. ...........เขยบิ ไปหน่อยนะคะ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๑๐. .........ทาแบบน้ีอีกนะ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม)

บัตรเฉลยกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๔ ประโยคคำสั่งหรือขอร้อง คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนขีดเส้นใตค้ าที่นาไปเติมในช่องวา่ งแลว้ มีความหมายถูกตอ้ ง ๑............ นากระดาษขอ้ สอบออกนอกหอ้ งสอบ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๒.......... ทิ้งขยะใหเ้ กล่ือนกลาด (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๓. จง..........เกรงกลวั การพดู ความจริง (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๔ ......... เกบ็ ดอกไมใ้ นสวนสาธารณะ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๕...........มใิ หม้ ียาเสพยต์ ิดไวใ้ นครอบครอง (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๖.........ทิ้งขยะท่ีตรงน้ี (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๗ ................ทอดทิง้ บุตรหลานของทา่ นไวต้ ามลาพงั ( กรุณา โปรดอยา่ หา้ ม ) ๘.ขอได.้ .........เห็นใจเพือ่ นมนุษยด์ ว้ ยกนั บา้ งเถิด (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๙…….. เขยบิ ไปหน่อยนะคะ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม ) ๑๐…….ทาแบบน้ีอีกนะ (อยา่ กรุณา โปรด หา้ ม )

บตั รคำส่ัง ศูนย์ท่ี ๕ ศูนย์สำรอง เกมลูกโซ่ดอกสร้อย ร่วมเลน่ เกมลกู โซ่ดอกสร้อย นกั เรียนอา่ นกลอนดอกสร้อยต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถามแบบลูกโซ่จะมีคาวา่ ลูกโซ่กากบั ไวด้ ว้ ย แลว้ เขียนลงในสมุดจดงาน เมื่อมีศนู ยอ์ ื่นวา่ งใหห้ ยดุ ทากิจกรรมทนั ที เก็บสื่อเขา้ ที่ใหเ้ รียบร้อยแลว้ ยา้ ยไปศูนยใ์ หมโ่ ดยเร็ว

บตั รกจิ กรรม ศูนย์ที่ ๕ ศูนย์สำรอง เกมลูกโซ่ดอกสร้อย คล่ืนเอ๋ยคล่ืนยกั ษ.์ ................................................ สึนามิ ตอบงา่ ยนกั เดือนหกยกมาถาม ………………………… (..............) หมายถึงหญิงศพั ทใ์ ดช่วยไขความ ……………………… (...............) เกาะเอวตามซุม้ ลอดแถวทอดยาว ……………………… (...............) บอกชื่อเรื่องบ่งวา่ อยหู่ นา้ ไหน ......................................... . (..............) รับจ่ายไวท้ าตารางจดหางวา่ ว …………………………… (...............) ผา้ เบาบางของสตรีแพรวพราว ........................................... (..............) ลอยฟ่ องขาวพลนั กลบั แตกดบั เอย .......................................(..............)

บัตรเฉลยศูนย์สำรอง ศูนย์ท่ี ๕ ศูนย์สำรอง เกมลกู โซ่ดอกสร้อย คลื่นเอ๋ยคลื่นยกั ษ.์ ................................................ สึนามิ ตอบงา่ ยนกั เดือนหกยกมาถาม ………………………… (มิถุนา.) หมายถึงหญิงศพั ทใ์ ดช่วยไขความ ……………………… (.นารี.) เกาะเอวตามซุม้ ลอดแถวทอดยาว ……………………… (.รีๆ ขา้ วสาร..) บอกชื่อเรื่องบ่งวา่ อยหู่ นา้ ไหน ......................................... . (..สารบญั .) รับจ่ายไวท้ าตารางจดหางวา่ ว …………………………… (..บญั ชี..) ผา้ เบาบางของสตรีแพรวพราว ......................................... ..(..ชีฟอง.) ลอยฟ่ องขาวพลนั กลบั แตกดบั เอย .......................................(..ฟองน้า..)

แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง ประโยคตำมเจตนำของผู้ส่งสำร คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว ๑. ประโยคในขอ้ ใดมีลกั ษณะต่างไปจากพวก ก. เธอเคยทางานกบั ใครบา้ ง ข. เธอจะทางานกบั ใคร ค. ใคร ๆ กท็ างาน ง . ใครทางาน ๒. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ประโยคคาสั่ง ก. นอนนิ่ง ๆ ข. นอนลง ค. นอนเดี๋ยวน้ี ง. นอนเอกเขนก ๓. ประโยคใดกล่าวในลกั ษณะขอร้องเชิงออ้ นวอน ก. ไปสิ ข. ไปเสีย ค. ไปซิน่า ง. ไปเถอะน่า ๔. ขอ้ ใดจดั วา่ เป็นประโยคปฏิเสธ ก. วชิ าภาษาไทยไม่ยากหรือ ข. วิชาภาษาไทยยากหรือไม่ ค. วชิ าภาษาไทยไม่ยากเลย ง. วิชาภาษาไทยไม่ยากใช่หรือไม่

๕. ขอ้ ใดไมจ่ ดั วา่ เป็นประโยค ก. นกดุเหวา่ คือ นกโกกิลา ข. ใบไมห้ ลน่ เหลืองไปท้งั สนาม ค. ตน้ มะขามโค่นทบั สายไฟฟ้า ง. ปลาเงินปลาทองแสนสวยในตกู้ ระจก ๖. ขอ้ ใดเป็นประโยคคาสั่งที่มีความสุภาพมากท่ีสุด ก. อยา่ ทิง้ ขยะบริเวณน้ี ข. หา้ มทิง้ ขยะบริเวณน้ี ค. หา้ มไมใ่ หท้ ิ้งขยะบริเวณน้ี ง. โปรดอยา่ ทิ้งขยะบริเวณน้ี ๗. ขอ้ ใดไมจ่ ดั วา่ เป็นประโยคคาถาม ก. เธอหลอกฉนั เลน่ หรือเปล่า ข. เธอหรือใครกไ็ ดไ้ ปใหท้ ี ค. เธอตดั ฉนั ลงแน่หรือ ง. เธอแน่ใจหรือ ๘. ขอ้ ใดเป็นประโยคคาส่งั หรือขอร้อง ก. ช่วยงานโรงเรียนเป็นความดี ข. เขาเป็นคนโปรดของครูประจาช้นั ค. วา่ ยน้าทกุ วนั เป็นประโยชนต์ ่อสุขภาพ ง. โปรดเตรียมเงินใหพ้ อดีกบั ค่าผา่ นทาง

๙. “อ๊ะ ! อะ๊ ! อยา่ ทิง้ ขยะ ตาวเิ ศษเห็นนะ” เป็นประโยคท่ีมีเจตนาในการส่ือสาร อยา่ งไร ก. ประโยคบอกเล่า ข. ประโยคปฏิเสธ ค. ประโยคขอร้อง ง. ประโยคสงั่ ๑๐. ขอ้ ใดเป็นประโยคคาสง่ั ก. ยนื เฉย ข. ยนื นาน ค. ยนื แลว้ ง. ยนื ข้ึน

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง ประโยคตำมเจตนำของผ้สู ่งสำร ข้อ คำตอบ ๑ค ๒ง ๓ง ๔ต ๕ง ๖ง ๗ข ๘ค ๙ง ๑๐ ก

บรรณำนุกรม ฐะปะนีย์ นาครทรรพและคนอ่ืนๆ.(๒๕๔๖) . หนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ม.๑ ช่วงช้นั ที่ ๓. กรุงเทพฯ: อกั ษรเจริญทศั น์. ประวตั ิ ชอุม่ .(ม.ป.ป) ปริศนำคำทำย. (อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายพิณ ผอ่ ง นพคุณ จ.ม). กรุงเทพฯ: โรงพมิ พน์ าทองการพมิ พ์ จากดั . ฝ่ายวชิ าการ สานกั งานบณั ฑิตแนะแนว (ม.ป.ป.) หนังสือคู่มือประกอบกำรเรียน เพื่อ เตรียมสอบแนวใหม่ TOP ภำษำไทย ม.๑. กรุงเทพฯ : บณั ฑิตแนะแนว. พรทิพย์ แฝงสุด(๒๕๓๔). หนงั สือชุดเสริมประสบการณ์ภาษาไทย ม.๑. กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พฟ์ ิ สิกส์เซ็นเตอร์. เพญ็ ศรี จนั ทร์ดวง. (๒๕๔๑). คู่มือหลกั ภำษำไทย ม. ต้น. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พจ์ ูนพบั ลิชชิ่ง จากดั . เสนีย์ วลิ าวรรณ (๒๕๔๓). หนงั สือเรียน ท๑๐๒ ภำษำไทยสมบูรณ์แบบ. กรุงเทพฯ : วฒั นาพานิช. ศึกษาธิการ,กระทรวง (๒๕๔๑). หนังสือเรียนภำษำไทย ท ๑๐๑ ท๑๐๒ หลกั ภำษำไทย เล่ม ๑ ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ ๑ . กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว. ศึกษาธิการ,กระทรวง (๒๕๔๒). หนงั สือเรียนภำษำไทย ท ๓๐๕ ท๓๐๖ หลกั ภำษำไทย เล่ม ๓ ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี ๓ . กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว.




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook