Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำมูล คำประสม

คำมูล คำประสม

Published by phiromrat2512, 2020-06-10 08:55:58

Description: คำมูล คำประสม

Search

Read the Text Version

คำนำ ชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียน ชุดท่ี ๕ เร่ือง คามลู คาประสม เป็นชุด การเรียนรู้ที่ใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ซ่ึงผูจ้ ดั ทาไดพ้ ฒั นาข้ึนมาโดยจุดประสงคใ์ ห้นกั เรียนศึกษา คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ในชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียนเล่มน้ี ประกอบดว้ ยคาแนะนา การใชส้ าหรับครู คาแนะนาการใชส้ าหรับนกั เรียน แบบทดสอบก่อนเรียน บตั รคาส่ัง บตั รเน้ือหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกิจกรรม แบบทดสอบหลงั เรียน ผจู้ ดั ทาขอขอบคุณคณะผเู้ ชี่ยวชาญท่ีใหค้ าแนะนา ช่วยเหลือในการจดั ทา ชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน ตลอดจนคณะครู นกั เรียนโรงเรียนสุรินทร์ภกั ดีที่ให้ กาลงั ใจในการจดั ทาจนแลว้ เสร็จ หวงั เป็ นอย่างย่งิ วา่ ชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียนเล่มน้ี จะเป็ นประโยชน์ใน การจดั การเรียนการสอนของครูและนกั เรียนพอสมควร เกิดความสะดวกและสามารถ นาไปพฒั นาผลการเรียนรู้ใหด้ ียงิ่ ข้ึนต่อไป พริ มยร์ ัตน์ อาจยง่ิ กนั ยายน ๒๕๕๑

สำรบญั เร่ือง หน้ำ คานา ก สารบญั ข คาแนะนาการใชส้ าหรับครู ค คาแนะนาการใชส้ าหรับนกั เรียน ฉ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ ช แบบทดสอบก่อนเรียน ๑ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๔ ศูนยก์ ารเรียนท่ี ๑ คามูล ๕ ศูนยก์ ารเรียนท่ี ๒ คามูล ๑๐ ศูนยก์ ารเรียนที่ ๓ คาประสม ๑๕ ศนู ยก์ ารเรียนที่ ๔ คาประสม ๒๐ ศูนยก์ ารเรียนท่ี ๕ ศูนยส์ ารอง เกมประสมคาแสนสนุก ๒๕ แบบทดสอบหลงั เรียน ๒๘ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ๓๑ บรรณานุกรม ๓๒

คำแนะนำกำรใช้สำหรับครู ๑. ศึกษาคูม่ ือการใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนใหเ้ ขา้ ใจ ๒. ตรวจความเรียบร้อยและความพร้อมในการใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน ๓. ควรทดลองใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนดว้ ยตนเองก่อนเพ่ือใหเ้ กิดความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ ๔. เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ท่ีมิไดจ้ ดั ในชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียนและจาเป็นตอ้ งใช้ ๕. เตรียมจดั ช้นั เรียนใหเ้ หมาะกบั ชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน ๖. ก่อนสอนครูตอ้ งเตรียมชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนไวบ้ นโตะ๊ ประจากล่มุ ให้ เรียบร้อยและใหเ้ พยี งพอกบั ที่นกั เรียนในแต่ละกลุ่มจะไดร้ ับคนละ ๑ ชุด ยกเวน้ แต่ ส่ือการสอนท่ีตอ้ งใชร้ ่วมกนั ในกลุ่ม ๗. ก่อนสอนครูตอ้ งใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนเสียก่อน ตรวจดูแบบทดสอบ พร้อมกระดาษคาตอบใหเ้ พยี งพอกบั จานวนนกั เรียน ๘. ช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบบทบาทของนกั เรียนเกี่ยวกบั วธิ ีการเรียนอยา่ งชดั เจน ๙. ปฏิบตั ิตามข้นั ตอน ๙.๑ นาเขา้ สู่บทเรียน ๙.๒ ดาเนินการประกอบกิจกรรม ๙.๓ ข้นั สรุปบทเรียน ๑๐. เมื่อทนั ทีท่ีนกั เรียนทุกกลมุ่ ประกอบกิจกรรม ครูไมค่ วรพดู เสียงดงั หากมีอะไร จะพดู ตอ้ งพดู เป็นรายกลุ่มหรือรายบคุ คลตอ้ งไม่รบกวนกิจกรรมของนกั เรียนกลมุ่ อ่ืนๆ ๑๑. ขณะท่ีนกั เรียนประกอบกิจกรรม ครูตอ้ งเดินดูการทางานของนกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม อยา่ งใกลช้ ิดหากมีนกั เรียนคนใด หรือกลุ่มใดมีปัญหา ครูควรจะเขา้ ไปใหค้ วามช่วยเหลือ จนปัญหาน้นั คลี่คลาย

๑๒. กาหนดเวลาในการประกอบกิจกรรมแตล่ ะศูนยใ์ หช้ ดั เจนก่อนเปลี่ยนกลุ่มครู จะตอ้ งเนน้ ใหน้ กั เรียนทุกคนเก็บชุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนของตนไวใ้ นสภาพ เรียบร้อย ๑๓. หากนกั เรียนกลมุ่ ใดหรือคนใดทางานไดเ้ ร็วจนเกินไป ครูกค็ วรใหไ้ ปทากิจกรรม ในศนู ยส์ ารองท่ีเตรียมไว้ เพอื่ รอกลมุ่ อื่น ๑๔. การเปลี่ยนกลุม่ กิจกรรมกระทาไดเ้ มื่อ ๑๔.๑ เปล่ียนกล่มุ พร้อมกนั ทุกกลุ่ม หากกิจกรรมเสร็จพร้อมกนั ๑๔.๒ หากมีกลุ่มที่ทากิจกรรมเสร็จพร้อมกนั ๒ กลมุ่ ก็ใหเ้ ปล่ียนกนั ไดเ้ ลย ๑๔.๓ หากมีกลมุ่ ใดเสร็จก่อน โดยกลุ่มอื่นยงั ไม่เสร็จ กใ็ หก้ ลมุ่ ที่เสร็จก่อน เปลี่ยนไปยงั ศูนยส์ ารองและถา้ มีกลมุ่ ใดวา่ งใหล้ ะจากศูนยส์ ารองไปยงั ศนู ยท์ ่ีวา่ งทนั ที ๑๒ ๑๒ ๕ ๕ ๔๓ ๔๓ แบบที่ ๑ แบบที่ ๒ ๑๒ ๕ ๓ ๔ แบบที่ ๓

๑๕. ก่อนบอกใหน้ กั เรียนเปลี่ยนกลุ่ม ครูจะตอ้ งเนน้ ใหน้ กั เรียนเก็บส่ือการสอนของ ตนไวใ้ นสภาพเรียบร้อย หา้ มถือติดมือไปดว้ ย ยกเวน้ แต่สมดุ จดงานนกั เรียน และ ขอใหเ้ ปล่ียนกลมุ่ ไปอยา่ งเป็นระเบียบเรียบร้อย ๑๖. ครูช่วยนกั เรียนสรุปบทเรียนอีกคร้ังหลงั จากนกั เรียนไดเ้ รียนรู้ทกุ ศูนยก์ ารเรียน และการสรุปบทเรียนควรเนน้ กิจกรรมร่วมของทุกกลุม่ หรือตวั แทนของกลมุ่ มารวมกนั ๑๗. หลงั จากท่ีนกั เรียนไดใ้ ชช้ ุดการเรียนรู้แบบศนู ยก์ ารเรียนเรียบร้อยแลว้ ใหท้ า แบบทดสอบหลงั เรียนอีกคร้ัง ซ่ึงเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกบั แบบทดสอบก่อนเรียน และนาผลเปรียบเทียบความกา้ วหนา้

คำแนะนำกำรใช้สำหรับนกั เรียน ๑. ชุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียน เร่ือง คามูล คาประสม มีจานวน ๔ ศนู ยก์ ารเรียน ๒. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๓. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็น ๔ กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลือกประธาน รองประธาน เลขานุการกลมุ่ นกั เรียนท่ีเป็นประธานกลุ่มอ่านบตั รคาส่ังและดูแลสมาชิกใหป้ ฏิบตั ิ ตามกิจกรรมทีละข้นั ตอนอยา่ งเคร่งครัด ๔. นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจปฏิบตั ิกิจกรรมอยา่ งจริงจงั ไม่ชวนเพื่อนคุยหรือเล่นกนั จนทา ใหก้ ารเรียนล่าชา้ เกินเวลากาหนด ๕. นกั เรียนตอ้ งทากิจกรรมแตล่ ะศนู ยใ์ หเ้ สร็จในเวลาที่กาหนด ๖. ก่อนที่จะเปล่ียนศูนย์ จะตอ้ งจดั บตั รต่างๆ และส่ือการสอนเขา้ ที่เดิมใหเ้ รียบร้อย ถา้ มีสิ่งใดชารุดเสียหาย ควรแจง้ ครูใหท้ ราบทนั ที ๗. เมื่อนกั เรียนทากิจกรรมกล่มุ เสร็จพร้อมกนั กใ็ หเ้ ปล่ียนศูนยต์ ามแผนผงั การจดั ช้นั เรียน ๘. ถา้ หากกลมุ่ ใดทากิจกรรมเสร็จก่อนโดยท่ีกลุ่มอ่ืนยงั ไมเ่ สร็จใหเ้ ปลี่ยนไปยงั ศูนย์ สารองและเม่ือกลมุ่ อ่ืนเสร็จก็ใหเ้ ปลี่ยนศนู ยท์ นั ที ๙. เม่ือเปลี่ยนศนู ยต์ อ้ งจดั เกา้ อ้ีในศูนยเ์ ดิมให้เรียบร้อย ๑๐. นกั เรียนตอ้ งต้งั ใจปฏิบตั ิ ใชช้ ุดการเรียนรู้แบบศูนยก์ ารเรียนอยา่ งระมดั ระวงั อยา่ ขีดเขียนใดๆ ลงในชุดการเรียนรู้ ๑๑. หลงั จากสรุปบทเรียนแลว้ นกั เรียนตอ้ งทาแบบทดสอบหลงั เรียน ๑๒. ในกรณีท่ีนกั เรียนบางคนยงั ไม่เขา้ ใจเน้ือหาในบางศูนย์ สามารถยมื ชุดการเรียนรู้ แบบศนู ยก์ ารเรียนศึกษานอกเวลาหรือที่บา้ น หรือถามเพอ่ื น ถามครูก็ได้ เพอื่ จะได้ เขา้ ใจเน้ือหาน้นั ๆ ยง่ิ ข้ึน

จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายของคามูลไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. บอกประเภทของคามลู ไดถ้ ูกตอ้ ง ๓. อธิบายความหมายของคาประสมไดถ้ กู ตอ้ ง ๔. สร้างคาประสมไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การสร้างคา ๕. เห็นคุณค่าของภาษาไทย สำระกำรเรียนรู้ ๑. ความหมายของคามลู ๒. ประเภทของคามลู ๓. ความหมายของคาประสม ๔. สร้างคาประสมตามหลกั การสร้างคา ๕. การเห็นคุณค่าของภาษาไทย

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง คำมูล คำประสม คำชี้แจง ให้นักเรียนเลอื กคำตอบทีถ่ กู ต้องที่สดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ขอ้ ใดหมายถึงคำมลู ก. คำท่มี ีความหมายคล้ายกนั ข. คำที่เกิดจากคำไทยประสมกบั คำไทย ค. คำทมี่ ีความหมายชัดเจนอยู่ในตวั เอง เป็นคำไทยแทห้ รือคำทมี่ าจากภาษาอน่ื ก็ ได้ ง. คำทุกคำท่มี ีพยางคเ์ ดียวแล้วมคี วามหมายในตวั เองมีเฉพาะคำที่เปน็ คำไทยแท้เทา่ น้นั ๒. คำมูลแบ่งออกไดเ้ ป็นกี่ประเภท ก. ๑ ประเภท ข. ๒ ประเภท ค. ๓ ประเภท ง. ๔ ประเภท ๓. คำว่า “จง้ิ หรีด” เป็นคำมูลหรอื ไม่เพราะเหตุใด ก. ไมเ่ ป็นคำมูล เพราะท้ังสองพยางค์มีความหมาย ข. ไมเ่ ป็นพยางค์ เพราะเมื่อแยกพยางค์แล้วแต่ละพยางคไ์ มม่ คี วามหมายใน ตัวเอง ค. เป็นคำมูลพยางค์เดียว เพราะท้ังสองพยางคเ์ ม่ือนำมารวมกันแล้วจะได้คำ ทม่ี ีความหมายเพียงความหมายเดียว ง. เป็นคำมลู หลายพยางค์ เพราะเมอื่ นำแต่ละพยางค์รวมกันแลว้ ไดค้ ำใหม่ท่ี ไมเ่ หลือเค้าความหมายเดิมอยู่เลย

๔. ข้อใดเป็นคำมูลพยางค์เดยี วทุกคำ ก. ตรง ฟ้า กว้าง ข. ตลาด ขนอง โต๊ะ ค. มะพร้าว เปรี้ยว หวาน ง. กระผม เพลงิ ตรวจค้น ๕. “ชวี ติ นัน้ คืออาหาร ซ่ึงจะมีรสชาตไิ ปในทางใด ก็สดุ แตเ่ ครื่องปรุงรสท่ีจะผสม ใส่ลงไป” จากข้อความนี้มคี ำมูลหลายพยางคก์ ค่ี ำ ก. ๒ คำ ข. ๓ คำ ค. ๔ คำ ง. ๕ คำ ๖. ขอ้ ใดหมายถงึ คำประสม ก. การนำคำทีม่ คี วามหมายต้งั แต่ ๒ คำขึ้นไปมาประสมกนั ข. การนำคำมูลพยางคเ์ ดยี วตง้ั แต่ ๒ คำขนึ้ ไปมาประสมกนั เกดิ เป็นคำใหม่ ค. การนำคำตั้งแต่ ๒ คำข้นึ ไปมาประสมกนั เกดิ เปน็ คำใหม่ท่มี ีความหมายใหม่ ง. การนำคำมลู ตั้งแต่ ๒ คำขึน้ ไปมาประสมกันเกิดเป็นคำใหมท่ ่ีคงเค้าความหมาย เดิมอยู่ ๗. คำประสมในข้อใดเกดิ จากคำนามประสมกับคำนาม ก. หัวใจ ข. ซกั ฟอก ค. บา้ นเรือน ง. ครอบครอง

๘. คำประสมในข้อใดเกดิ จากคำวิเศษณป์ ระสมกับคำวิเศษณ์ ก. น้ำปลา ข. โรงรับจำนำ ค. เขียวหวาน (ชือ่ แกง) ง. ล่าเตียง (ช่อื อาหารชนดิ หนงึ่ ) ๙. ขอ้ ใดเปน็ คำประสมทกุ คำ ก. การบ้าน ชาววงั ช่างกล ข. หมอความ นติ ิกรรม ตะกรา้ ค. การะเกด กระสือ สุรุ่ยสุร่าย ง. กระเจิดกระเจิง มูมมาม กระผม ๑๐. ขอ้ ใดไมม่ ีคำประสม ก. ในนามความรกั และปวดร้าว ข. เปน็ ศพั ท์เป็นเสยี งในโลกตรม ค. ขบั กล่อมดว้ ยมโหรีของเคร่ืองยนต์ ง. ประดจุ ด่งั กองทพั แห่งมนษุ ย์พิสูจน์ผล

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง คำมลู คำประสม ข้อ คำตอบ ๑ค ๒ข ๓ง ๔ก ๕ข ๖ง ๗ก ๘ค ๙ก ๑๐ ข

บัตรคำสั่ง ศูนย์ที่ ๑ คำมูล ๑. อา่ นบัตรเนือ้ หา บันทึกเนื้อหาโดยยอ่ ลงในสมุดวิชาภาษาไทย ๒. อ่านบัตรกิจกรรมแลว้ ตอบลงในสมุดจดงานนักเรียน ๓. ตรวจคำตอบจากบัตรเฉลยกิจกรรม เมือ่ ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามลำดับขนั้ ตอนเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ให้เกบ็ บตั รคำสง่ั บตั รเนื้อหา บตั รกิจกรรม บตั รเฉลยกจิ กรรม ลงในซองเดมิ ใหเ้ รยี บรอ้ ย ก่อนเปลีย่ นไปทำกิจกรรมทศี่ ูนย์อ่ืนตอ่ ไป ถา้ ศนู ยก์ ารเรยี นไม่วา่ งให้เขา้ ศนู ยส์ ำรอง หา้ มหยิบชิน้ ใดชิน้ หน่ึงตดิ มือไปด้วย ยกเวน้ สมดุ จดงานของนักเรียน

บัตรเนอ้ื หา ศูนยท์ ่ี ๑ คำมูล ลกั ษณะของคำไทย ลักษณะของคำไทย เสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ ประกอบกันเป็น พยางค์ พยางค์ที่มีความหมายเรียกว่า “คำ” ซึ่งคำอาจมีพยางค์เดียวหรือหลาย พยางค์กไ็ ด้ คำมีองค์ประกอบ ๒ อย่าง คือ ๑. เสยี ง ๒. ความหมาย คำท่ีใช้อยู่ในภาษาไทยบางคำเป็นคำที่ใช้กันมาแต่ด้ังเดิม บางคำก็มาจาก ภาษาต่างประเทศท่ีเราตดิ ตอ่ และได้รบั อิทธพิ ลทางวัฒนธรรมบางคำก็บัญญตั ขิ ้นึ ใหม่เพื่อ เป็นศัพท์เฉพาะทางวิชาการ บางคำเราใช้เฉพาะการพูด บางคำเราใช้เฉพาะการเขียน บางคำเราใช้พูดและเขยี น ความหมายของคำมูล ดวงตา ตาฬวัฒน์ และคนอื่นๆ อธบิ ายความหมายของคำมลู ไว้ ดังน้ี คำมูล หมายถึง คำที่มีความหมายชัดเจน มีท้ังที่เป็นคำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า คำวเิ ศษณ์ คำบุพบท คำสันธาน คำอทุ าน คำมูลอาจเปน็ คำพยางค์เดียวหรือ หลายพยางคก์ ไ็ ด้และอาจเป็นคำไทยแท้แตด่ ้ังเดมิ หรอื เป็นคำทมี่ าจากภาษาอ่นื ก็ได้ เพ็ญศรี จนั ทร์ดวง อธบิ ายความหมายของคำมลู ไว้ ดังนี้ คำมูล คือ คำท่ีมีความหมายชัดเจนอยู่ในตัวอาจเป็นคำชนิดต่างๆ ได้แก่ คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำสันธาน และ คำอุทาน อาจ เปน็ คำไทยแท้หรอื คำทมี่ าจากภาษาอนื่ กไ็ ด้ ดังน้ัน คำมูล คือ คำท่ีมีความหมายชัดเจนในตัวเอง อาจเป็นคำไทยแท้หรือ คำทร่ี ับมาจากภาษาอ่นื ก็ได้ มีท้ังคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำสนั ธาน และคำอทุ าน

บตั รเน้ือหา ศูนย์ที่ ๑ คำมูล (ต่อ) ประเภทของคำมลู คำมลู แบ่งออกเปน็ ๒ ประเภท คือ ๑. คำมลู พยางคเ์ ดยี ว คือ คำพยางค์เดยี วโดดๆ ซง่ึ ได้ความในตวั เอง เชน่ ๑.๑ คำนาม เช่น คน แมว นก ปลา บ้าน ดิน นำ้ ลม ไฟ ปู่ ยา่ ตา ยาย กนิ นอน นั่ง เพลิง โน้ต ฯลฯ ๑.๒ คำสรรพนาม เช่น ฉัน ท่าน เธอ เรา คุณ อว๊ั ลอ้ื ฯลฯ ๑.๔ คำวิเศษณ์ เช่น กนิ หวาน เคม็ ฟรี เกา่ ใหม่ ฯลฯ ๑.๕ คำบุพบท เช่น ใต้ เหนือ บน ล่าง ฯลฯ ๑.๖ คำสันธาน เช่น และ เพราะ แต่ ฯลฯ ๑.๗ คำอุทาน เชน่ โอ๊ย วา๊ ย อยุ๊ วา้ ว โธ่ ฯลฯ ๒. คำมลู หลายพยางค์ คือ คำทม่ี หี ลายพยางค์ ถ้าแยกแต่ละพยางค์ออกจาก กนั จะไมม่ ีความหมาย หรือถา้ แตล่ ะพยางคม์ คี วามหมายเมือ่ นำมารวมกันแล้ว จะไดค้ ำ ใหมท่ ี่ไม่เหลือเคา้ ความหมายเดมิ อยู่เลย เชน่ “กระถาง” มี ๒ พยางค์ คือ กระ กับ ถาง กระ หมายถึง ช่อื เตา่ ทะเลชนดิ หนึ่ง หรอื ช่ือพรรณไมช้ นดิ หน่ึง หรือจุดเล็กๆ มีสีต่างๆ หรอื ช่อื กล้วยไม้ชนดิ หน่ึง ถาง หมายถึง ใชม้ ีดฟันเตยี น เมอื่ นำมารวมกนั เปน็ คำว่า กระถาง หมายถงึ ภาชนะปากกวา้ งมีรปู ตา่ งๆ สำหรบั ปลกู ต้นไมห้ รอื ใสน่ ำ้ และอ่ืนๆ ตวั อย่างคำมลู หลายพยางค์ เช่น มะลิ พิกุล ชำมะนาด บุหรง ไอศกรมี กะลาสี ถนน ดฉิ นั กระผม กระหน่ำ ตระเวน เสดจ็ ขนอง ประพาส เลหลัง ลออ ขะมักเขม้น ละไม ลำไย ปราณี หนังสอื ฯลฯ

บัตรกิจกรรม ศนู ย์ท่ี ๑ คำมลู คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนแยกคำท่กี ำหนดให้ต่อไปนี้ว่าคำใดบ้างท่เี ป็นคำมลู พยางค์เดยี ว และคำใดบ้างท่เี ปน็ คำมูลหลายพยางค์ เขยี นลงในตารางขา้ งล่างนี้ใหถ้ ูกต้อง ช่างปนู ชาวทะเล กวาง ตาปลา หวั ใจ กระผม ไม้เรยี ว ฉะนั้น ไฟฟ้า บ้าน ยาดับกล่นิ โธเ่ อ๋ย พ่ี ไฟ แจกแจง นที ผกู พัน โน้ต ต้งั แต่ หนังสอื ฟรี กจิ กรรม กะละมงั คณิตศาสตร์ หมู ประจำ เกา่ ใหม่ จลาจล ร่ำร้อง ปาก เรียกหา ยาแก้ ปวด บ้านเรือน ครีม กิน นอน ตะไคร้ ประเสริฐ ประสูติ จ้ิงหรดี แดง อนจิ จา คำมลู พยางคเ์ ดยี ว คำมลู หลายพยางค์ ๑. ๑. ๒. ๒. ๓. ๓. ๔. ๔. ๕. ๕. ๖. ๖. ๗. ๗. ๘. ๘. ๙. ๙. ๑๐. ๑๐. ๑๑. ๑๑. ๑๒. ๑๒. ๑๓. ๑๓. ๑๔. ๑๔. ๑๕ ๑๕.

บตั รเฉลยกิจกรรม ศนู ยท์ ี่ ๑ คำมลู คำช้แี จง ให้นกั เรียนแยกคำทก่ี ำหนดใหต้ อ่ ไปน้ีว่าคำใดบา้ งที่เปน็ คำมลู พยางค์เดียว และคำใดบ้างทีเ่ ปน็ คำมูลหลายพยางค์ เขียนลงในตารางข้างล่างนี้ใหถ้ ูกต้อง ช่างปูน ชาวทะเล กวาง ตาปลา หวั ใจ กระผม ไมเ้ รียว ฉะน้นั ไฟฟา้ บ้าน ยาดับกล่นิ โธ่เอ๋ย พ่ี ไฟ แจกแจง นที ผูกพนั โนต้ ตง้ั แต่ หนงั สือ ฟรี กจิ กรรม กะละมัง คณิตศาสตร์ หมู ประจำ จลาจล ร่ำร้อง ปาก เรยี กหา ยาแก้ปวด บา้ นเรือน เหนอื เกา่ ครีม กิน นอน ตะไคร้ ประเสรฐิ ประสูติ จ้งิ หรดี แดง อนจิ จา คำมูลพยางค์เดียว คำมลู หลายพยางค์ ๑. กวาง ๑. กระผม ๒. บา้ น ๒. ฉะนัน้ ๓. ไฟ ๓. ประจำ ๔. โน้ต ๔. โธ่เอ๋ย ๕. ฟรี ๕. กะละมงั ๖. หมู ๖. หนังสอื ๗. ปาก ๗. ตง้ั แต่ ๘. ฟรี ๘. นาที ๙. เกา่ ๙. กิจกรรม ๑๐. ใหม่ ๑๐. จลาจล ๑๑. เหนือ ๑๑. ตะไคร้ ๑๒. ครีม ๑๒. ประเสริฐ ๑๓. กิน ๑๓. ประสูติ ๑๔. นอน ๑๔. จ้ิงหรดี ๑๕. แดง ๑๕. อนจิ จา

บัตรคำสง่ั ศูนย์ที่ ๒ คำมูล ๑. อา่ นบตั รเนือ้ หา บันทึกเน้ือหาโดยยอ่ ลงในสมุดวิชาภาษาไทย ๒. อ่านบัตรกจิ กรรมแล้วตอบลงในสมดุ จดงานนกั เรยี น ๓. ตรวจคำตอบจากบตั รเฉลยกิจกรรม เม่อื ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามลำดบั ขั้นตอนเสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ให้เกบ็ บัตรคำส่งั บตั รเนอื้ หา บัตรกิจกรรม บัตรเฉลยกจิ กรรม ลงในซองเดิมให้เรียบรอ้ ย กอ่ นเปลี่ยนไปทำกจิ กรรมทศ่ี นู ยอ์ นื่ ตอ่ ไป ถ้าศูนย์การเรียนไมว่ า่ งให้เขา้ ศูนย์สำรอง หา้ มหยิบชนิ้ ใดชิน้ หนึ่งตดิ มือไปด้วย ยกเวน้ สมุดจดงานของนกั เรยี น

บตั รเนอ้ื หา ศูนยท์ ี่ ๒ คำมูล ลักษณะของคำไทย ลกั ษณะของคำไทย เสยี งพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ ประกอบกนั เปน็ พยางค์ พยางค์ท่ีมคี วามหมายเรียกวา่ “คำ” ซง่ึ คำอาจมพี ยางค์เดียวหรือหลาย พยางค์ กไ็ ด้คำมอี งค์ประกอบ ๒ อย่าง คือ ๑. เสียง ๒. ความหมาย คำทใ่ี ช้อยู่ในภาษาไทยบางคำเปน็ คำท่ใี ชก้ นั มาแตด่ ัง้ เดมิ บางคำก็มาจาก ภาษาตา่ งประเทศที่เราตดิ ตอ่ และไดร้ บั อทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรมบางคำก็บญั ญัติขนึ้ ใหม่เพื่อ เป็นศัพท์เฉพาะทางวชิ าการ บางคำเราใช้เฉพาะการพดู บางคำเราใช้เฉพาะการเขียน บางคำเราใช้พูดและเขยี น ความหมายของคำมลู ดวงตา ตาฬวฒั น์ และคนอื่นๆ อธบิ ายความหมายของคำมลู ไว้ ดังน้ี คำมลู หมายถึง คำท่ีมคี วามหมายชดั เจน มที ้งั ทเี่ ป็นคำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า คำวเิ ศษณ์ คำบุพบท คำสันธาน คำอุทาน คำมูลอาจเปน็ คำพยางคเ์ ดียว หรือหลายพยางค์กไ็ ดแ้ ละอาจเป็นคำไทยแทแ้ ตด่ งั้ เดมิ หรือเป็นคำที่มาจากภาษาอน่ื ก็ ได้ เพ็ญศรี จันทรด์ วง อธิบายความหมายของคำมลู ไว้ ดงั นี้ คำมลู คือ คำท่ีมีความหมายชัดเจนอยูใ่ นตัวอาจเป็นคำชนดิ ต่างๆ ไดแ้ ก่ คำนาม คำสรรพนาม คำกรยิ า คำวิเศษณ์ คำบพุ บท คำสนั ธาน และ คำอุทาน อาจเปน็ คำไทยแทห้ รือคำที่มาจากภาษาอืน่ กไ็ ด้ ดงั นนั้ คำมูล คือ คำทมี่ ีความหมายชัดเจนในตวั เอง อาจเปน็ คำไทยแท้หรือคำ ท่ีรับมาจากภาษาอื่นก็ได้ มที งั้ คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำสันธาน และ คำอุทาน

บตั รเนอ้ื หา ศนู ย์ที่ ๒ คำมลู (ต่อ) ประเภทของคำมูล คำมลู แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑. คำมลู พยางค์เดียว คือ คำพยางค์เดยี วโดดๆ ซง่ึ ไดค้ วามในตัวเอง เช่น ๑.๑ คำนาม เช่น คน แมว นก ปลา บ้าน ดิน น้ำ ลม ไฟ ปู่ ย่า ตา ยาย กนิ นอน นง่ั เพลิง โนต้ ฯลฯ ๑.๒ คำสรรพนาม เช่น ฉัน ท่าน เธอ เรา คุณ อว๊ั ลอื้ ฯลฯ ๑.๓ คำกริยา เช่น กิน นอน เดิน วิ่ง โกรธ เต้น ฯลฯ ๑.๔ คำวิเศษณ์ เช่น กิน หวาน เค็ม ฟรี เก่า ใหม่ ฯลฯ ๑.๕ คำบพุ บท เช่น ใต้ เหนือ บน ล่าง ฯลฯ ๑.๖ คำสนั ธาน เช่น และ เพราะ แต่ ฯลฯ ๑.๗ คำอุทาน เชน่ โอย๊ วา๊ ย อยุ๊ วา้ ว โธ่ ฯลฯ ๒. คำมลู หลายพยางค์ คือ คำที่มีหลายพยางค์ ถ้าแยกแตล่ ะพยางค์ออกจาก กันจะไม่มคี วามหมาย หรือถา้ แต่ละพยางคม์ คี วามหมายเมื่อนำมารวมกันแล้ว จะได้คำ ใหมท่ ีไ่ มเ่ หลอื เค้าความหมายเดมิ อยู่เลย เช่น “กระถาง” มี ๒ พยางค์ คือ กระ กับ ถาง กระ หมายถึง ชอ่ื เต่าทะเลชนดิ หนงึ่ หรือชือ่ พรรณไม้ชนิดหนึง่ หรอื จุดเล็กๆ มีสตี ่างๆ หรือชอื่ กล้วยไม้ชนิดหนึง่ ถาง หมายถึง ใชม้ ดี ฟนั เตียน เมื่อนำมารวมกันเป็นคำว่า กระถาง หมายถึง ภาชนะปากกว้าง มีรูปตา่ งๆ สำหรับปลูกต้นไม้หรือใสน่ ้ำ และอืน่ ๆ ตวั อยา่ งคำมลู หลายพยางค์ เชน่ มะลิ พกิ ลุ ชำมะนาด บหุ รง ไอศกรมี กะลาสี ถนน ดิฉัน กระผม กระหน่ำ ตระเวน เสด็จ ขนอง ประพาส เลหลงั ลออ ขะมักเขมน้ ละไม ลำไย ปราณี หนังสือ ฯลฯ

บตั รกจิ กรรม ศูนยท์ ่ี ๒ คำมูล คำช้ีแจง ให้นกั เรียนแยกคำท่ีกำหนดใหต้ อ่ ไปนวี้ า่ คำใดบา้ งทเ่ี ป็นคำมลู พยางค์เดียว และคำใดบา้ งท่ีเป็นคำมูลหลายพยางค์ เขยี นลงในตารางขา้ งลา่ งนี้ให้ถูกตอ้ ง ช่างปนู ชาวทะเล กวาง ตาปลา หวั ใจ กระผม ไม้เรียว ฉะนั้น ไฟฟา้ บา้ น ยาดับกล่ิน โธ่เอย๋ พ่ี ไฟ แจกแจง นที ผูกพัน โน้ต ตั้งแต่ หนังสือ ฟรี กิจกรรม กะละมัง คณิตศาสตร์ หมู ประจำ เก่า ใหม่ จลาจล ร่ำร้อง ปาก เรียกหา ยาแก้ ปวด บา้ นเรอื น ครีม กนิ นอน ตะไคร้ ประเสริฐ ประสตู ิ จิง้ หรีด แดง อนจิ จา คำมูลพยางค์เดียว คำมลู หลายพยางค์ ๑. ๑. ๒. ๒. ๓. ๓. ๔. ๔. ๕. ๕. ๖. ๖. ๗. ๗. ๘. ๘. ๙. ๙. ๑๐. ๑๐. ๑๑. ๑๑. ๑๒. ๑๒. ๑๓. ๑๓. ๑๔. ๑๔. ๑๕ ๑๕.

บัตรเฉลยกจิ กรรม ศนู ยท์ ่ี ๒ คำมูล คำชีแ้ จง ให้นักเรียนแยกคำทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้วี า่ คำใดบา้ งที่เปน็ คำมูลพยางค์เดียว และคำใดบา้ งทีเ่ ปน็ คำมลู หลายพยางค์ เขียนลงในตารางข้างล่างนี้ให้ถูกต้อง ชา่ งปนู ชาวทะเล กวาง ตาปลา หัวใจ กระผม ไม้เรยี ว ฉะนน้ั ไฟฟ้า บา้ น ยาดับกลน่ิ โธ่เอ๋ย พ่ี ไฟ แจกแจง นที ผูกพัน โน้ต ต้งั แต่ หนังสอื ฟรี กจิ กรรม กะละมัง คณิตศาสตร์ หมู ประจำ จลาจล รำ่ รอ้ ง ปาก เรียกหา ยาแก้ปวด บา้ นเรือน เหนอื เกา่ ครีม กิน นอน ตะไคร้ ประเสรฐิ ประสูติ จง้ิ หรีด แดง อนจิ จา คำมลู พยางคเ์ ดยี ว คำมลู หลายพยางค์ ๑. กวาง ๑. กระผม ๒. บา้ น ๒. ฉะนัน้ ๓. ไฟ ๓. ประจำ ๔. โนต้ ๔. โธ่เอย๋ ๕. ฟรี ๕. กะละมงั ๖. หมู ๖. หนงั สอื ๗. ปาก ๗. ต้งั แต่ ๘. ฟรี ๘. นาที ๙. เก่า ๙. กิจกรรม ๑๐. ใหม่ ๑๐. จลาจล ๑๑. เหนือ ๑๑. ตะไคร้ ๑๒. ครมี ๑๒. ประเสรฐิ ๑๓. กิน ๑๓. ประสตู ิ ๑๔. นอน ๑๔. จง้ิ หรีด ๑๕. แดง ๑๕. อนจิ จา

บัตรคำสัง่ ศนู ยท์ ่ี ๓ คำประสม ๑. อ่านบตั รเนอ้ื หา บนั ทึกเน้ือหาโดยยอ่ ลงในสมุดวิชาภาษาไทย ๒. อา่ นบตั รกิจกรรมแล้วตอบลงในสมุดจดงานนกั เรียน ๓. ตรวจคำตอบจากบตั รเฉลยกจิ กรรม เม่อื ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามลำดับขนั้ ตอนเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว ให้เกบ็ บัตรคำส่งั บตั รเนอ้ื หา บัตรกจิ กรรม บัตรเฉลยกจิ กรรม ลงในซองเดิมให้เรียบรอ้ ย ก่อนเปล่ียนไปทำกจิ กรรมทศี่ ูนย์อ่นื ตอ่ ไป ถา้ ศูนย์การเรียนไมว่ า่ งให้เขา้ ศูนย์สำรอง ห้ามหยบิ ชนิ้ ใดช้นิ หนง่ึ ตดิ มือไปด้วย ยกเว้นสมุดจดงานของนกั เรยี น

บัตรเนอื้ หา ศนู ย์ที่ ๓ คำประสม ความหมายของคำประสม เพญ็ ศรี จนั ทรด์ วง อธิบายลกั ษณะของคำประสมดังนี้ คำประสม เกดิ จากการนำคำตง้ั แต่ ๒ คำขนึ้ ไปมาประสมกนั ทำให้เกดิ เปน็ คำที่มี ความหมายใหมข่ น้ึ แต่ยังคงเค้าความหมายเดิมอยู่ สปุ ราณี พฤตกิ ารณ์ อธิบายลักษณะของคำประสมไว้ ดังน้ี คำประสม คือ คำมูลตง้ั แต่ ๒ คำขน้ึ ไปมารวมกัน ทำใหเ้ กิดเปน็ คำใหม่ ดงั นั้น คำประสม คือ การนำคำมูลตง้ั แต่ ๒ คำข้ึนไปมาประสมกนั ไดค้ ำใหมท่ ี่ ยังคงเคา้ ความหมายของคำเดมิ อยู่ ประเภทของคำประสม การนำมาประสมกันน้นั ทำไดห้ ลายลกั ษณะ ดังนี้ ๑. ตัวต้ังเป็นคำนาม คำขยายเป็นคำนาม คำสรรพนาม คำวิเศษณ์ หรือคำกริยา เช่น เรือน กับ กระจก เปน็ เรอื นกระจก คน กับ ไข้ เปน็ คนไข้ นำ้ กบั แข็ง เป็น น้ำแขง็ นก กบั กนิ กับ ปลา เป็น นกกินปลา ๒. ตวั ตั้งเปน็ คำกริยา คำขยายเปน็ คำนาม คำกริยา คำวเิ ศษณ์ เช่น เดิน กับ แต้ม เป็น เดนิ แต้ม กิน กบั ดิบ เป็น กินดิบ จบั กบั ยาม เปน็ จับยาม ๓. ตวั ตั้งเป็นคำบุพบท คำขยายเป็นคำนามหรือคำกริยา เช่น นอก กบั คอก เปน็ นอกคอก กลาง กบั แปลง เป็น กลางแปลง กลาง กบั คน เป็น กลางคน

บตั รเนื้อหา ศนู ยท์ ่ี ๓ คำประสม (ตอ่ ) ประเภทของคำประสม การนำมาประสมกันน้ัน ทำไดห้ ลายลกั ษณะ ดังนี้ ๔. การยอ่ ขอ้ ความที่มีใจความมาก ได้แก่ ชา่ ง หมายถึง ผู้ชำนาญในการฝีมือหรอื ศลิ ปะอยา่ งใดอย่างหนึง่ ชาว หมายถึง กลุ่มชนท่ีมเี ช้อื ชาตเิ ดยี วกนั อยู่ในถ่นิ ฐานเดียวกนั หรือมีอาชพี อยา่ งเดยี วกัน เครอื่ ง หมายถงึ ส่งิ สำหรับประกอบกนั หรอื เปน็ พวกเดียวกนั หมอ หมายถึง บคุ คลที่มลี กั ษณะอยา่ งใดอย่างหนึ่ง ชอบ หรือชำนาญ ผ้มู ี อาชีพในทางน้นั เม่อื ใชค้ ำเหล่าน้ปี ระสมกับคำมูลอ่นื ๆจึงนบั เปน็ คำประสม เชน่ ชา่ งไม้ ช่างไฟ ช่างฟติ ช่างเคร่ือง ช่างทอง ช่างปูน ชาวบา้ น ชาวเมือง ชาวไร่ ชาวนา ชาวประมง ชาวเขา เครอื่ งบนิ เคร่ืองร่อน เคร่ืองแกง เคร่ืองประดับ เครือ่ งหมาย หมอความ หมอผี หมองู หมอนวด หมอดู นกั เรียน นักรบ นักมวย นกั เลง ผดู้ ี ผู้ร้าย ผสู้ ือ่ ข่าว ผ้แู ทน ผนู้ ำ ผอู้ ่ืน ๕. คำประสมทเ่ี กิดจากใช้คำวา่ การ และ ความ นำหน้าคำมูลอน่ื เชน่ การทำงาน การพูด การเดิน การเรยี น ความดี ความงาม ความเจริญ ความคิด ความฝนั (หม่อมหลวงพิณทอง ทองแถม .ม.ป.ป. : ๘-๙) ตัวอย่างคำประสม ห้องนอน ไก่ฟ้า โรงรถ เรืออวน ขันหมาก ข้าวหมาก น้ำปลา นากุ้ง เรือนหอ สวนสัตว์ รถม้า กล้วยแขก ไฟฟ้า หีบเสียง คนงาน กระดาษ ฟาง แปง้ ข้าวหมาก เรือแจว บ้านพกั คามหาม รำโทน บังโคลน หมหู วาน ยาหมอ หนา้ หนา หัวด้อื ใจแคบ ปลาเคม็ ปลาเน้อื อ่อน

บตั รกิจกรรม ศูนย์ท่ี ๓ คำประสม คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนแยกคำทก่ี ำหนดให้ต่อไปนีว้ า่ คำใดบ้างท่เี ป็นคำประสม ตาม เนือ้ หา จากศูนย์การเรียนทไี่ ด้ศึกษามาแล้ว เขียนลงในตารางข้างล่างน้ีใหถ้ กู ต้อง จำนวน ๑๕ คำ ๑๕ คะแนน กระบือ วอกแวก นักรบ ผิดถูก รุ่งริ่ง แม่ทัพ ทุบตี เขนย ลูกเสือ(คน) ดอกไม้ไฟ คณุ ธรรม ออ่ น ไฟฉาย ราโชวาท กรดี กราย หนกั เบา พัดลม เขียวๆ แม่ยาย ทอดทิ้ง ขับไล่ หลอดไฟฟ้า เกะกะ ขับกล่อม ความสวย นิยตสาร วิทยาศาสตร์ ฆาตกร โรงเรียน วนาราม งูๆ ปลาๆ อวบอ้วน ราชวัง ชั่วดี มีจน ยากจน ผลไม้ ธุรกิจ มะละกอ ปลา โต๊ะรับแขก เถลไถล ปากร้าย ชุ่มช่ืน เพลิง เคร่อื งมอื ตะกรา้ เกลือ คำประสม ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕.

บตั รเฉลยกิจกรรม ศูนย์ที่ ๓ คำประสม คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนแยกคำทกี่ ำหนดให้ต่อไปน้ีวา่ คำใดบา้ งทเ่ี ป็นคำประสม ตามเนอื้ หา จากศูนย์การเรยี นทีไ่ ด้ศกึ ษามาแล้ว เขยี นลงในตารางขา้ งล่างนี้ใหถ้ กู ตอ้ งจำนวน ๑๕ คำ ๑๕ คะแนน กระบอื วอกแวก นักรบ ผดิ ถูก รงุ่ ร่งิ แมท่ พั ทบุ ตี เขนย ลูกเสอื (คน) ดอกไม้ไฟ คุณธรรม อ่อน ไฟฉาย ราโชวาท กรีดกราย หนักเบา พัดลม เขียวๆ แม่ยาย ทอดท้ิง ขับไล่ หลอดไฟฟ้า เกะกะ ขับกล่อม ความสวย นิยตสาร วิทยาศาสตร์ ฆาตกร โรงเรียน วนาราม งูๆ ปลาๆ อวบอ้วน ราชวัง ช่ัวดี มีจน ยากจน ผลไม้ ธุรกิจ มะละกอ ปลา โต๊ะรับแขก เถลไถล ปากร้าย ชุ่มช่ืน เพลิง เครอื่ งมือ ตะกรา้ เกลือ คำประสม ๑. นักรบ ๒. แม่ทัพ ๓. แมย่ าย ๔. พัดลม ๕. หลอดไฟฟา้ ๖. ดอกไมไ้ ฟ ๗. ลูกเสือ (คน) ๘. ไฟฉาย ๙. ความสวย ๑๐. โรงเรียน ๑๑. ราชวงั ๑๒. ผลไม้ ๑๓. โต๊ะรบั แขก ๑๔. ปากร้าย ๑๕. เครือ่ งมือ

บัตรคำสง่ั ศูนยท์ ่ี ๔ คำประสม ๑. อา่ นบัตรเน้อื หา บนั ทึกเนอื้ หาโดยยอ่ ลงในสมุดวิชาภาษาไทย ๒. อา่ นบัตรกิจกรรมแล้วตอบลงในสมดุ จดงานนักเรียน ๓. ตรวจคำตอบจากบตั รเฉลยกจิ กรรม เมือ่ ปฏบิ ัติกิจกรรมตามลำดับขน้ั ตอนเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ใหเ้ ก็บบตั รคำสง่ั บัตรเนื้อหา บัตรกิจกรรม บัตรเฉลยกิจกรรมลงในซองเดิมให้เรียบร้อยก่อนเปล่ียนไป ทำกิจกรรมท่ศี ูนย์อื่นตอ่ ไป ถา้ ศนู ย์การเรยี นไมว่ ่างให้เขา้ ศนู ย์สำรอง หา้ มหยิบชน้ิ ใดช้นิ หน่งึ ตดิ มอื ไปด้วย ยกเวน้ สมุดจดงานของนกั เรยี น

บัตรเนื้อหา ศูนยท์ ่ี ๔ คำประสม ความหมายของคำประสม เพ็ญศรี จันทร์ดวง อธิบายลกั ษณะของคำประสมดังนี้ คำประสม เกดิ จากการนำคำตัง้ แต่ ๒ คำขึน้ ไปมาประสมกันทำให้เกดิ เป็นคำทม่ี ี ความหมายใหม่ขึน้ แตย่ ังคงเคา้ ความหมายเดิมอยู่ สปุ ราณี พฤติการณ์ มยุรี อนนั ตมงคลและพนั ธ์ทิพา หลาบเลศิ บญุ อธบิ าย ลักษณะของคำประสมไว้ ดงั นี้ คำประสม คือ คำมูลตงั้ แต่ ๒ คำขนึ้ ไปมารวมกัน ทำให้เกิดเป็นคำใหม่ ดังนั้น คำประสม คือ การนำคำมูลตงั้ แต่ ๒ คำขึ้นไปมาประสมกนั ได้คำใหม่ท่ี ยังคงเคา้ ความหมายของคำเดิมอยู่ ประเภทของคำประสม การนำมาประสมกันน้ัน ทำไดห้ ลายลักษณะ ดงั น้ี ๑. ตวั ตั้งเปน็ คำนาม คำขยายเปน็ คำนาม คำสรรพนาม คำวเิ ศษณ์ หรือคำกริยา เชน่ เรือน กบั กระจก เป็น เรือนกระจก คน กับ ไข้ เป็น คนไข้ นำ้ กับ แข็ง เป็น น้ำแข็ง นก กับ กิน กบั ปลา เปน็ นกกนิ ปลา ๒. ตัวต้งั เป็นคำกริยา คำขยายเปน็ คำนาม คำกริยา คำวเิ ศษณ์ เช่น เดิน กบั แตม้ เปน็ เดนิ แตม้ กิน กับ ดบิ เป็น กนิ ดิบ จบั กบั ยาม เปน็ จับยาม ๓. ตัวตัง้ เปน็ คำบพุ บท คำขยายเปน็ คำนามหรอื คำกริยา เชน่ นอก กับ คอก เป็น นอกคอก กลาง กบั แปลง เปน็ กลางแปลง กลาง กบั คน เป็น กลางคน

บัตรเนอ้ื หา ศนู ยท์ ่ี ๔ คำประสม (ตอ่ ) ประเภทของคำประสม การนำมาประสมกนั น้ัน ทำไดห้ ลายลักษณะ ดังนี้ ๔. การยอ่ ข้อความท่มี ีใจความมาก ได้แก่ ชา่ ง หมายถงึ ผชู้ ำนาญในการฝีมอื หรอื ศลิ ปะอยา่ งใดอย่างหน่ึง ชาว หมายถึง กลุ่มชนท่มี เี ช้อื ชาตเิ ดยี วกนั อยู่ในถ่นิ ฐานเดียวกนั หรือมีอาชีพ อยา่ งเดยี วกัน เครอื่ ง หมายถึง สงิ่ สำหรับประกอบกนั หรือเปน็ พวกเดียวกนั หมอ หมายถึง บุคคลทีม่ ีลกั ษณะอยา่ งใดอย่างหนึ่ง ชอบ หรอื ชำนาญ ผมู้ ี อาชีพในทางนั้น เม่อื ใชค้ ำเหลา่ นีป้ ระสมกับคำมูลอ่ืนๆจึงนบั เปน็ คำประสม เชน่ ชา่ งไม้ ช่างไฟ ช่างฟิต ช่างเครอ่ื ง ช่างทอง ช่างปูน ชาวบา้ น ชาวเมอื ง ชาวไร่ ชาวนา ชาวประมง ชาวเขา เครอื่ งบนิ เคร่ืองร่อน เคร่ืองแกง เครอื่ งประดับ เครอ่ื งหมาย หมอความ หมอผี หมองู หมอนวด หมอดู นกั เรยี น นักรบ นักมวย นักเลง ผดู้ ี ผู้ร้าย ผ้สู อ่ื ข่าว ผ้แู ทน ผู้นำ ผูอ้ นื่ ๕. คำประสมที่เกดิ จากใช้คำว่า การ และ ความ นำหนา้ คำมลู อ่ืน เช่น การทำงาน การพูด การเดนิ การเรยี น ความดี ความงาม ความเจรญิ ความคิด ความฝัน (หมอ่ มหลวงพิณทอง ทองแถม .ม.ป.ป. : ๘-๙) ตัวอย่างคำประสม ห้องนอน ไก่ฟ้า โรงรถ เรืออวน ขันหมาก ข้าวหมาก น้ำปลา นากุ้ง เรือนหอ สวนสัตว์ รถม้า กล้วยแขก ไฟฟ้า หีบเสียง คนงาน กระดาษ ฟาง แปง้ ข้าวหมาก เรือแจว บ้านพัก คามหาม รำโทน บังโคลน หมหู วาน ยาหมอ หนา้ หนา หวั ดอ้ื ใจแคบ ปลาเคม็ ปลาเนอ้ื อ่อน

บตั รกจิ กรรม ศูนยท์ ี่ ๔ คำประสม คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนแยกคำท่กี ำหนดใหต้ ่อไปนวี้ า่ คำใดบา้ งทเี่ ป็นคำประสม ตาม เน้อื หาจากศนู ย์การเรยี นที่ไดศ้ ึกษามาแล้ว เขยี นลงในตารางข้างล่างนใี้ ห้ถูกต้อง จำนวน ๑๕ คำ ๑๕ คะแนน กระบือ วอกแวก นักรบ ผิดถูก รุ่งริ่ง แม่ทัพ ทุบตี เขนย ลูกเสือ(คน) ดอกไมไ้ ฟ คณุ ธรรม ออ่ น ไฟฉาย ราโชวาท กรีดกราย หนกั เบา พดั ลม เขยี วๆ แม่ยาย ทอดทิ้ง ขับไล่ หลอดไฟฟ้า เกะกะ ขับกล่อม ความสวย นิยตสาร วิทยาศาสตร์ ฆาตกร โรงเรียน วนาราม งูๆ ปลาๆ อวบอ้วน ราชวัง ชั่วดี มีจน ยากจน ผลไม้ ธุรกิจ มะละกอ ปลา โต๊ะรับแขก เถลไถล ปากร้าย ชุ่มช่ืน เพลิง เคร่อื งมือ ตะกร้า เกลอื คำประสม ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕.

บัตรเฉลยกจิ กรรม ศนู ย์ที่ ๔ คำประสม คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนแยกคำท่ีกำหนดใหต้ อ่ ไปนี้วา่ คำใดบ้างทเี่ ป็นคำประสม ตามเนื้อหาจากศูนยก์ ารเรียนท่ไี ดศ้ กึ ษามาแลว้ เขียนลงในตารางข้างลา่ งนี้ให้ถกู ตอ้ ง จำนวน ๑๕ คำ ๑๕ คะแนน กระบือ วอกแวก นักรบ ผดิ ถกู ร่งุ ร่ิง แม่ทพั ทุบตี เขนย ลกู เสือ(คน) ดอกไม้ไฟ คณุ ธรรม ออ่ น ไฟฉาย ราโชวาท กรีดกราย หนักเบา พัดลม เขียวๆ แม่ยาย ทอดท้งิ ขบั ไล่ หลอดไฟฟ้า เกะกะ ขับกลอ่ ม ความสวย นยิ ตสาร วทิ ยาศาสตร์ ฆาตกร โรงเรยี น วนาราม งๆู ปลาๆ อวบอ้วน ราชวัง ชว่ั ดี มีจน ยากจน ผลไม้ ธรุ กจิ มะละกอ ปลา โต๊ะรับแขก เถลไถล ปากรา้ ย ชุ่มชืน่ เพลิง เคร่อื งมือ ตะกร้า เกลอื คำประสม ๑. นกั รบ ๒. แม่ทัพ ๓. แมย่ าย ๔. พดั ลม ๕. หลอดไฟฟ้า ๖. ดอกไมไ้ ฟ ๗. ลูกเสอื (คน) ๘. ไฟฉาย ๙. ความสวย ๑๐. โรงเรียน ๑๑. ราชวัง ๑๒. ผลไม้ ๑๓. โตะ๊ รับแขก ๑๔. ปากร้าย ๑๕. เครื่องมอื

บตั รคำส่งั ศนู ย์ที่ ๕ ศูนย์สำรอง เกมประสมคำแสนสนุก ร่วมเลน่ เกมประสมคำแสนสนกุ โดยการสรา้ งคำประสม ฝกึ ทกั ษะการสร้าง คำประสมแบบมคี ำยนื แลว้ เขียนลงในสมดุ จดงานของนกั เรียน เม่ือมีศูนย์อ่ืนว่างให้หยุดทำกิจกรรมทันที เก็บสื่อการสอนเข้าท่ีให้เรียบร้อยแล้ว ย้ายไปศูนยใ์ หม่โดยเร็ว

บตั รกิจกรรม ศูนย์ที่ ๕ ศนู ย์สำรอง เกมประสมคำแสนสนุก คำชแี้ จง สร้างคำประสม โดยฝึกทกั ษะการสร้างคำประสมแบบมคี ำยนื เตมิ คำ ตามความหมายท่ีมใี หต้ อ่ ไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง ๑. เอาอกเอาใจใหเ้ ขารัก ประ......................... ๒. จดั เขา้ ดว้ ยกนั ประ......................... ๓. ใหร้ ู้ทั่วกนั ประ......................... ๔. รวมกนั เพือ่ ปรกึ ษา, ตกลง ประ......................... ๕. คิดสรา้ งขึ้นมา ประ......................... ๖. บงการ, สั่งให้เปน็ เชน่ นั้น ประ......................... ๗. คนในประเทศ ประ......................... ๘. ตัวกลางติดต่อหน่วยงานต่างๆ ประ......................... ๙. ผนู้ ำของสหรัฐอเมรกิ า ประ......................... ๑๐. ชา่ งคิดชา่ งทำ ประ.........................

บตั รเฉลยกจิ กรรม ศูนย์ท่ี ๕ ศนู ย์สำรอง เกมประสมคำแสนสนุก คำชแ้ี จง สรา้ งคำประสม โดยฝึกทกั ษะการสรา้ งคำประสมแบบมคี ำยืนเติมคำ ตามความหมายทม่ี ีใหต้ ่อไปนใี้ ห้ถกู ต้อง ๑. เอาอกเอาใจใหเ้ ขารัก ประจบ ๒. จัดเขา้ ดว้ ยกนั ประกบ ๓. ใหร้ ทู้ ่วั กนั ประจาน ๔. รวมกันเพ่ือปรกึ ษา, ตกลง ประชมุ ๕. คดิ สรา้ งขึน้ มา ประกอบ ๖. บงการ, ส่ังให้เปน็ เช่นน้ัน ประกาศิต ๗. คนในประเทศ ประชาชน ๘. ตัวกลางติดตอ่ หนว่ ยงานต่างๆ ประสาน ๙. ผ้นู ำของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี ๑๐. ชา่ งคดิ ช่างทำ ประดดิ ประดอย

แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง คำมูล คำประสม คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบทีถ่ กู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว ๑. ขอ้ ใดหมายถงึ คำมลู ก. คำทีม่ คี วามหมายคล้ายกัน ข. คำทเ่ี กดิ จากคำไทยประสมกับคำไทย ค. คำทุกคำทีม่ ีพยางคเ์ ดียวแล้วมีความหมายในตัวเองมเี ฉพาะคำที่เป็นคำไทย แท้เท่านน้ั ง. คำทม่ี คี วามหมายชัดเจนอยใู่ นตัวเอง เปน็ คำไทยแทห้ รือคำทม่ี าจากภาษา อ่ืนก็ได้ ๒. คำมลู แบง่ ออกได้เป็นกปี่ ระเภท ก. ๔ ประเภท ข. ๓ ประเภท ค. ๒ ประเภท ง. ๑ ประเภท ๓. คำว่า “จิง้ หรดี ” เป็นคำมลู หรือไมเ่ พราะเหตใุ ด ก. ไมเ่ ป็นคำมูล เพราะทง้ั สองพยางคม์ ีความหมาย ข. ไม่เป็นพยางค์ เพราะเมื่อแยกพยางค์แล้วแต่ละพยางค์ไมม่ ีความหมายใน ตัวเอง ค. เป็นคำมูลหลายพยางค์ เพราะเม่อื นำแตล่ ะพยางค์รวมกันแล้วไดค้ ำใหมท่ ่ี ไม่เหลือเคา้ ความหมายเดิมอยเู่ ลย ง. เปน็ คำมลู พยางค์เดยี ว เพราะทั้งสองพยางค์เม่อื นำมารวมกันแลว้ จะไดค้ ำ ท่ีมคี วามหมายเพียงความหมายเดยี ว

๔. ข้อใดเป็นคำมูลพยางค์เดียวทุกคำ ก. กระผม เพลิง ตรวจคน้ ข. มะพร้าว เปรี้ยว หวาน ค. ตลาด ขนอง โตะ๊ ง. ตรง ฟา้ กวา้ ง ๕. “ชวี ติ นัน้ คอื อาหาร ซ่ึงจะมีรสชาติไปในทางใด กส็ ดุ แตเ่ ครอื่ งปรงุ รสที่จะผสม ใสล่ งไป” จากขอ้ ความน้ีมคี ำมูลหลายพยางค์ก่คี ำ ก. ๕ คำ ข. ๔ คำ ค. ๓ คำ ง. ๒ คำ ๖. ข้อใดหมายถงึ คำประสม ก. การนำคำมูลตัง้ แต่ ๒ คำขน้ึ ไปมาประสมกนั เกิดเป็นคำใหมท่ ีค่ งเค้า ความหมายเดิมอยู่ ข. การนำคำตง้ั แต่ ๒ คำขน้ึ ไปมาประสมกนั เกดิ เปน็ คำใหม่ท่ีมคี วามหมายใหม่ ค. การนำคำมลู พยางค์เดยี วตงั้ แต่ ๒ คำขึ้นไปมาประสมกันเกิดเปน็ คำใหม่ ง. การนำคำท่มี ีความหมายต้งั แต่ ๒ คำขึ้นไปมาประสมกัน ๗. คำประสมในข้อใดเกิดจากคำนามประสมกับคำนาม ก. ครอบครอง ข. บ้านเรอื น ค. ซกั ฟอก ง. หวั ใจ

๘. คำประสมในข้อใดเกดิ จากคำวิเศษณป์ ระสมกบั คำวเิ ศษณ์ ก. ลา่ เตยี ง (ชื่ออาหารชนิดหนึง่ ) ข. เขยี วหวาน (ช่อื แกง) ค. โรงรับจำนำ ง. นำ้ ปลา ๙. ข้อใดเป็นคำประสมทกุ คำ ก. การบ้าน ชาววงั ช่างกล ข. การะเกด กระสือ สุรุ่ยสรุ า่ ย ค. หมอความ นติ กิ รรม ตะกรา้ ง. กระเจิดกระเจิง มูมมาม กระผม ๑๐. ข้อใดไมม่ ีคำประสม ก. ประดจุ ดงั่ กองทัพแหง่ มนุษยพ์ สิ จู นผ์ ล ข. ขับกลอ่ มดว้ ยมโหรีของเคร่ืองยนต์ ค. เป็นศพั ท์เป็นเสียงในโลกตรม ง. ในนามความรกั และปวดรา้ ว

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง คำมลู คำประสม ข้อ คำตอบ ๑ง ๒ค ๓ค ๔ง ๕ค ๖ก ๗ง ๘ข ๙ก ๑๐ ค

บรรณานกุ รม ดวงตา ตาฬวัฒน์ และคนอ่ืนๆ. (๒๕๓๘). คู่มือภาษาไทย ม.๑ - ๒ - ๓. กรุงเทพฯ :โรงพมิ พ์เพียรพัฒนาพริ้นติง้ จำกดั . ปราณี บุญชมุ่ และคนอืน่ ๆ. (๒๕๓๙). แบบฝึกพฒั นาการเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ท๓๐๕, ท๓๐๖ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่๓. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พพ์ รีเมียร์ กราฟฟิก. ปราณี บุญช่มุ และภาสกร เกิดอ่อน. (ม.ป.ป.) หลักภาษาและการใชภ้ าษา ม.๓. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจิรญทัศน์. พณิ ทอง ทองแถม, หม่อมหลวง. (ม.ป.ป). คู่มือภาษาไทย ม. ๓. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์รุ่งเรืองสาสน์ . เพญ็ ศรี จันทรด์ วง. (๒๕๔๑). คู่มือหลักภาษาไทย ม.ตน้ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพจ์ ูนพับลชิ ชิง จำกัด. มยรุ ี อนนั ตมงคล พันธุ์ทิพา หลาบเลิศบุญ และสุปราณี พฤติการณ์. (๒๕๓๓). เสริมการเรยี นรายวชิ า ท๑๐๑ ท๑๐๒ ชุดหลักภาษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปี ท่ี ๑. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๒. กรุงเทพฯ : ไทยวฒั นาพานชิ . ศกึ ษาธกิ าร, กระทรวง. (๒๕๓๗). หนังสอื เรยี นภาษาไทย ท๓๐๕ ท๓๐๖ หลกั ภาษาไทย เลม่ ๓ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ . พมิ พ์ครัง้ ที่ ๓ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพค์ รุ ุสภาลาดพร้าว. สุชาวดี เกษมณ.ี (๒๕๕๑). ขยันกอ่ นสอบภาษาไทย ม.๑. กรุงเทพฯ : แม็ค.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook