Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน-กฎหมายคอมพิวเตอร์จรรยาบรรณสั่งปริ้น (1)

รายงาน-กฎหมายคอมพิวเตอร์จรรยาบรรณสั่งปริ้น (1)

Published by สุวนา วรนารถฤดี, 2023-08-22 02:26:01

Description: รายงาน-กฎหมายคอมพิวเตอร์จรรยาบรรณสั่งปริ้น (1)

Search

Read the Text Version

รายงานการศึกษาค้นควา้ เร่อื ง กฎหมายคอมพิวเตอร์และจรรยาบรรณ เสนอ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอย่ี ม จดั ทำโดย นางสาวสวุ นา วรนารถฤดี นักศึกษาชั้นปีที่ ๓/๒ รหัสนักศึกษา ๖๔๑๐๕๔๐๑๓๑๐๗๕ รายงานฉบับน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศกึ ษาค้นควา้ รหัส GE๔๐๐๕ หลกั สตู รศึกษาศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตลา้ นนา ภาคการศกึ ษาท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๖

ก คำนำ รายงานเรื่อง กฎหมายคอมพิวเตอร์และจรรยาบรรณฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นควา้ รหัส GE๔๐๐๕ มจี ุดประสงคเ์ พื่อศกึ ษาความรเู้ กีย่ วกับกฎและข้อบังคับต่างๆ ทจ่ี ำเป็นในการใชเ้ ทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศ ซ่งึ เปน็ เร่อื งใกล้ตวั ท่ีต้องรแู้ ละควรปฏิบัติ เพ่อื ส่งเสริม ให้ผู้ที่ใช้คอมพวิ เตอรไ์ ดศ้ ึกษาข้อมูลเบ้ืองต้น อีกทัง้ เปน็ ประโยชนใ์ นการดำเนินชวี ิตประจำวัน ซึ่งรายงานฉบับนี้มีเนื้อหาทั้งหมด ดังต่อไปนี้ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ จริยธรรมและคุณธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต บัญญัติ ๑๐ ประการ คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ ความหมายจรรยาบรรณ และอาชญากรรมทาง คอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพย์สนิ ทางปัญญา ๖ ประเภท ผู้จัดทำขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอี่ยม อาจารย์ประจำรายวิชาท่ีได้ให้ คำแนะนำการทำรายงานจนทำให้รายงานฉบบั นส้ี มบูรณ์ ทง้ั ในดา้ นแผนปฏบิ ตั ิศึกษาการทำรายงานการ เรียบเรียงเนื้อหา และขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่สนับสนุน ช่วยเหลือ และให้กำลังใจ จนผลงาน ประสบผลสำเร็จในครั้ง หากคุณประโยชนใ์ ดท่ีพึงมีจากรายงานเล่มนี้ผู้เขียนขอน้อมบูชาแด่อาจารยท์ ั้งหลายท่ี ถ่ายทอดวิทยาความรู้ สร้างสรรค์ตำราวิชาการอันมีส่วนช่วยให้ผู้เขียนเรียบเรียงรายงานเล่มนี้สำเร็จด้วยดี ผู้จัดทำหวังว่าในรายงานฉบบั น้ีทีไ่ ด้เรียบเรียงมาจะเป็นประโยชนต์ ่อผู้สนใจเป็นอย่างดี หากผิดพลาดประการ ใด ผู้เขยี นกราบขอผูร้ ชู้ ว่ ยแนะนำตอ่ ไป สุวนา วรนารถฤดี สิงหาคม ๒๕๖๖

สารบัญ ข คำนำ หนา้ สารบญั ก ๑. โครงสรา้ งพ้นื ฐานทางกฎหมายดา้ นสารสนเทศ ข ๒. พระราชบญั ญตั ิว่าดว้ ยการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ ๑ ๒ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ๓. จริยธรรมและคุณธรรมในการใชค้ อมพวิ เตอร์และอนิ เตอร์เนต็ ๑๓ ๔. จรรยาบรรณผ้ใู ช้อินเทอร์เน็ต ๑๔ ๕. บัญญตั ิ ๑๐ ประการ คุณธรรมและจรยิ ธรรมในการใชค้ อมพวิ เตอร์ ๑๗ ๖. อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และการโจรกรรมทรัพยส์ ินทางปัญญา ๖ ประเภท ๑๗ บรรณานกุ รม ๑๙

๑ ๑. โครงสรา้ งพ้ืนฐานทางกฎหมายด้านสารสนเทศ โครงสรา้ งพนื้ ฐานทางกฎหมายรองรับสังคมสารสนเทศ ซึง่ ถือวา่ เป็นปัจจัยสำคญั ของการดำรงอยู่ของ สงั คมในศตวรรษท่ี ๒๑ ใน พ.ศ.๒๕๔๐ คณะรัฐมนตรีได้เหน็ ชอบให้มกี ารพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ ขึ้น ๖ ฉบบั โดย ๓ ฉบับแรก เปน็ กฎหมายทส่ี ง่ เสรมิ การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในเชิง สร้างสรรค์ อันเอื้อต่อการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือการทำธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ส่วนกฎหมายในลำดับที่ ๔ และลำดับ ๕ เป็นกฎหมายที่จะใช้เป็นมาตรการในการ คุ้มครองหรือปกป้องสังคมจากการประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในเชิงไม่สร้างสรรค์ และ ฉบับสุดท้ายเป็นกฎหมายฉบับที่จะสร้างกลไกเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สารสนเทศ และโดยกฎหมาย ว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดฐานความผิดและบทลงโทษ สำหรับการกระทำเนือ่ งจากสังคมในปัจจุบันเปน็ สังคมที่ตอ้ งพึง่ พาอาศัยระบบเทคโนโลยแี ละคอมพิวเตอร์เพือ่ ความสะดวกสบายและรวดเร็วทันใจในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานจึงก่อให้เกิดการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดายซึ่งสภาพปัญหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ประกอบไปดว้ ย - ประการแรกคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนในสังคมเป็นอย่างมากเช่น การ สนทนาสื่อสารการส่งข้อมูลและแชร์ข้อมูลข่าวสารไม่ว่าจะเป็นในรูปของข้อความรูปภาพหรือคลิปวีดิโอแต่ อย่างไรก็ตามคอมพิวเตอร์ก็เป็นเหมือนดาบสองคมหากผู้ใช้นำไปใช้งานในทางที่ไม่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิด ประโยชน์ เช่น การขโมยข้อมูลของคนอื่นและนำไปเผยแพร่ต่อทำให้ผู้อ่ืนเสียหายการหลอกลวงผู้ใช้คนอื่นให้ เชื่อใจและโอนเงินให้ - ประการที่สองคือระบบคอมพิวเตอร์นั้นมีความรวดเร็วในการส่งข้อมูลข่าวสารและสามารถเข้าถึง กล่มุ ผู้ใชซ้ ง่ึ มีอยูเ่ ปน็ จำนวนมากได้อยา่ งฉับไวและส่งผลให้การกระทำผิดเป็นไปได้อย่างง่ายดายและสร้างความ เสยี หายได้ในวงกวา้ ง - ประการที่สามคอื เนือ่ งจากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์นั้นมีความแตกต่างไปจากอาชญากรรมทว่ั ๆ ไปในสังคมซึ่งส่งผลให้กฎหมายท่ีมีอยู่เดิมไม่ครอบคลมุ การกระทำผิดในลักษณะนีแ้ ละไม่สามารถนำมาปรับ ใชเ้ พื่อลงโทษผู้ที่ก่ออาชญากรรมคอมพวิ เตอร์ได้เหตุเพราะกฎหมายอาญาน้ันมุ่งคุ้มครองวัตถุท่ีมีรูปร่างเท่านั้น แต่สำหรับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ข้อมูลข่าวสารถูกบรรจุอยู่ในคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่บนแผ่นกระดาษ ซ่ึง กฎหมายที่มีอยู่เดิมอาจไม่ครอบคลุมในส่วนนั้น เช่น การโจรกรรมเงินในบัญชีธนาคารของผู้ใช้รายอื่น ๆ ผ่าน ทางบัญชีธนาคารออนไลน์การโจรกรรมรูปภาพหรือคลิปวีดิโอที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นอีกท้ั ง พยานหลักฐานต่างๆนั้นสามารถถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือถูกทำลายได้ง่าย เช่น ข้อมูลที่ถูกบรรจุอยู่ใน ฮาร์ดดสิ ก์ (Hard Disk) หรอื แฟลชไดร์ฟ (Flash Drive)

๒ จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดผลกระทบในทางลบอยา่ งมากมายทั้งต่อบคุ คลและสังคม การรา่ งพ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ จึงได้เริ่มมกี ารร่างพระราชบญั ญตั วิ ่าดว้ ยการกระทำความผิดเก่ียวกับ คอมพิวเตอร์พ.ศ.๒๕๕๐ เริ่มขึ้นในปีพ.ศ.๒๕๔๑ โดยคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นเห็นชอบให้คณะกรรมการ เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติดำเนินการโครงการพัฒนากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและมีการพิจารณา อนุมัติจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ จากนั้นสภานติ ิบัญญัตแิ ห่งชาติไดม้ ีการลงมติรบั หลักการ และลงมติเห็นชอบ จนกระทั่งในเดือนมิถุนายนพ.ศ. ๒๕๕๐ ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ พระราชบัญญตั ิวา่ ด้วยการกระทำความผดิ เก่ยี วกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มีผลบงั คับใช้ในการคมุ้ ครองสิทธิ ขัน้ พืน้ ฐานในความเป็นส่วนตวั โดยมุ่งคมุ้ ครองข้อมลู ส่วนบคุ คล เป็นตน้ มา ปัจจุบันได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพวิ เตอร์ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ มผี ลบังคับใช้จนปจั จุบนั ๒. พระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาํ ความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คอื อะไร พ.ร.บ. ย่อมาจาก พระราชบัญญตั ิ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ คือพระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ ที่ว่านี้ก็เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค สมาร์ตโฟน รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่ถูกควบคุมด้วย ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งเป็นพ.ร.บ.ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกัน ควบคุมการกระทำผิดที่จะเกิดขึ้นได้จากการใช้ คอมพิวเตอร์ หากใครกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์นี้ ก็จะต้องได้รับการลงโทษตามที่ พ.ร.บ. กำหนดไว้ ปัจจุบันมีคนใช้คอมพิวเตอร์ รวมถึงสมาร์ตโฟนเป็นจำนวนมาก บางคนก็อาจจะใช้ในทางท่ีเป็น ประโยชน์ แตบ่ างคนกอ็ าจใช้สงิ่ นีท้ ำร้ายคนอ่นื ในทางอ้อมด้วยก็ได้ อาจจะได้ยินข่าวเรื่องการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ซึ่งบางเหตุการณ์ก็สร้างความ เสยี หายไม่น้อยเลย เพอ่ื จัดการกับเร่ืองพวกน้ี เลยต้องมี พ.ร.บ. ออกมาควบคุม ในเมอื่ การใช้คอมพิวเตอร์เป็น เรอ่ื งใกล้ตวั เรา พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์ก็เป็นเรอ่ื งใกลต้ ัว หากไม่รู้เอาไว้ อาจจะเผลอไปทำผิด โดยทีไ่ มไ่ ด้ตั้งใจกไ็ ด้ เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระ ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวคอมพิวเตอร์ ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษปรับหรือจำคุก ฐานส่งข้อมูลก่อให้เกิดความ เดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับ หรือนำข้อมลู เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ บิดเบือน ลามก ตัดต่อภาพผู้อ่นื ให้ เสียช่อื เสยี ง อับอาย รวมถึงมาตรการบรรเทาความเสียหายท่ีเกิดขึ้นจากการกระทำความผิด โดยมีผลบังคับใช้ เม่ือวนั ที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐

๓ เพื่อให้การใช้ออนไลน์เป็นไปอย่างถูกกฎหมาย พระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๖๐ ดงั ตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตนิ เ้ี รียกวา่ “พระราชบัญญตั วิ า่ ด้วยการกระทาํ ความผิดเกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใ้ ชบ้ งั คับเม่อื พ้นกาํ หนดหน่ึงร้อยยส่ี บิ วันนบั แตว่ ันประกาศในราชกิจจา- นเุ บกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ช้ความต่อไปน้แี ทน “มาตรา ๔ ให้รฐั มนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และให้มอี ํานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงและประกาศเพ่ือปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ น้กี ฎกระทรวงและประกาศนัน้ เม่ือไดป้ ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วใหใ้ ช้บงั คับได้” มาตรา ๔ ให้เพิม่ ความตอ่ ไปนีเ้ ป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบญั ญัติว่าด้วย การกระทาํ ความผดิ เกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นอันมีลักษณะเป็นการก่อให้เกิด ความเดือดรอ้ นราํ คาญแก่ผู้รับข้อมลู คอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ โดยไมเ่ ปิดโอกาสให้ผรู้ ับสามารถ บอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทให้ รัฐมนตรีออกประกาศกําหนดลักษณะและวิธีการส่ง รวมทั้งลักษณะและปริมาณของข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซง่ึ ไม่เป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญแก่ผู้รับและลักษณะอันเป็นการบอกเลิก หรอื แจ้งความประสงค์เพือ่ ปฏเิ สธการตอบรับไดโ้ ดยงา่ ย” มาตรา ๕ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามต่อไปนี้แทน “มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ หรือมาตรา ๑๑ เป็นการกระทําต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของ ประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศหรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็น ประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมนื่ บาทถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบ คอมพิวเตอร์ดังกลา่ ว ต้องระวางโทษจาํ คุกตั้งแตห่ นึ่งปีถงึ สิบปี และปรับต้ังแตส่ องหม่ืนบาทถงึ สองแสนบาทถ้า การกระทําความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ เป็นการกระทําต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบ คอมพวิ เตอร์ตามวรรคหน่ึง ตอ้ งระวางโทษจําคกุ ต้ังแตส่ ามปีถงึ สิบห้าปี และปรบั ตงั้ แตห่ กหมืน่ บาทถึงสามแสน

๔ บาทถา้ การกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามโดยมิได้มีเจตนาฆา่ แต่เปน็ เหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความ ตาย ตอ้ งระวางโทษจําคกุ ต้ังแต่หา้ ปีถงึ ย่สี บิ ปี และปรบั ตั้งแต่หนึง่ แสนบาทถึงสแ่ี สนบาท” มาตรา ๖ ให้เพม่ิ ความต่อไปน้เี ปน็ มาตรา ๑๒/๑ แห่งพระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทํา ความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “มาตรา ๑๒/๑ ถ้าการกระทําความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาทถ้าการกระทํา ความผิดตามมาตรา ๙ หรอื มาตรา ๑๐ โดยมิไดม้ เี จตนาฆ่า แต่เป็นเหตใุ ห้บุคคลอ่ืนถึงแก่ความตาย ต้องระวาง โทษจาํ คกุ ตงั้ แต่หา้ ปีถงึ ยสี่ บิ ปี และปรบั ตง้ั แต่หนึง่ แสนบาทถงึ สแ่ี สนบาท” มาตรา ๗ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง วรรคสาม วรรคสี่ และวรรคห้าของมาตรา ๑๓ แห่ง พระราชบัญญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาํ ความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสั่งที่จัดทําขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนําไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทํา ความผดิ ตามมาตรา ๑๒ วรรคหน่ึงหรอื วรรคสาม ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไม่เกนิ สองปี หรอื ปรับไม่เกนิ สหี่ ม่ืนบาท หรือทง้ั จาํ ทงั้ ปรับ ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสั่งที่จัดทําขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนําไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทํา ความผดิ ตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ หากผู้นําไปใช้ได้ กระทําความผิดตามมาตรา ๑๒ วรรคหนึ่งหรอื วรรคสาม หรือต้องรับผิดตามมาตรา ๑๒ วรรคสองหรือวรรคสี่ หรือมาตรา ๑๒/๑ ผจู้ าํ หนา่ ยหรือเผยแพร่ชดุ คําสงั่ ดังกลา่ วจะต้องรบั ผดิ ทางอาญาตามความผิดท่ีมีกําหนดโทษ สูงขึ้นดว้ ย ก็เฉพาะเมือ่ ตนไดร้ ู้หรอื อาจเลง็ เหน็ ไดว้ ่าจะเกิดผลเชน่ ทีเ่ กดิ ขึ้นนน้ั ผู้ใดจําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสั่งที่จัดทําขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนําไป ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทํา ความผิดตามมาตรา ๑๒ วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม หากผู้นําไปใช้ได้กระทําความผิดตามมาตรา ๑๒ วรรคหน่ึง หรือวรรคสาม หรือตอ้ งรับผดิ ตามมาตรา ๑๒ วรรคสองหรือวรรคส่ี หรอื มาตรา ๑๒/๑ ผ้จู ําหนา่ ยหรือเผยแพร่ ชุดคําสงั่ ดงั กล่าวต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดที่มีกําหนดโทษสงู ขึน้ นั้นด้วย ในกรณีที่ผู้จําหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคําสั่งผู้ใดต้องรับผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง และตามวรรค สามหรือวรรคสีด่ ว้ ย ให้ผนู้ นั้ ตอ้ งรบั โทษที่มอี ตั ราโทษสูงที่สดุ แตก่ ระทงเดียว” มาตรา ๘ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนแ้ี ทน “มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกนิ หนง่ึ แสนบาท หรอื ท้งั จําทงั้ ปรับ

๕ (๑) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือ ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ประชาชน อันมิใชก่ ารกระทาํ ความผิดฐานหมนิ่ ประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา (๒) นําเขา้ สู่ระบบคอมพวิ เตอรซ์ งึ่ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์อนั เป็นเทจ็ โดยประการที่นา่ จะเกดิ ความเสียหาย ต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของ ประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ ประชาชน (๓) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่ง ราชอาณาจักรหรือความผดิ เกยี่ วกับการก่อการรา้ ยตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นําเข้าสรู่ ะบบคอมพิวเตอรซ์ ึ่งข้อมูลคอมพวิ เตอร์ใดๆ ท่มี ลี กั ษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์ นัน้ ประชาชนท่วั ไปอาจเขา้ ถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (๑) มิได้กระทําต่อประชาชน แต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือ ปรบั ไมเ่ กนิ หกหม่นื บาท หรือท้งั จาํ ทั้งปรับ และใหเ้ ป็นความผิดอนั ยอมความได”้ มาตรา ๙ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนี้แทน “มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทําความผิดตาม มาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิด ตามมาตรา ๑๔ ให้รัฐมนตรีออกประกาศกําหนดขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทําให้แพร่หลายของ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนําขอ้ มูลคอมพิวเตอรน์ ั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ถ้าผู้ให้บริการพิสูจนไ์ ด้วา่ ตน ได้ปฏิบัติตามประกาศของรฐั มนตรีทอ่ี อกตามวรรคสอง ผนู้ น้ั ไมต่ อ้ งรับโทษ” มาตรา ๑๐ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปนี้แทน “มาตรา ๑๖ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ี ปรากฏเปน็ ภาพของผู้อืน่ และภาพนน้ั เปน็ ภาพทเ่ี กดิ จากการสร้างขึน้ ตัดต่อ เตมิ หรอื ดดั แปลงด้วยวิธีการทาง อิเลก็ ทรอนิกสห์ รือวธิ ีการอ่ืนใด โดยประการทน่ี ่าจะทาํ ใหผ้ ูอ้ ืน่ นัน้ เสียชอ่ื เสยี ง ถูกดูหมน่ิ ถกู เกลยี ดชงั หรอื ได้รับ ความอบั อาย ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไมเ่ กนิ สามปี และปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท

๖ ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทําต่อภาพของผู้ตาย และการกระทํานั้นน่าจะทําให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอายผู้กระทํา ต้องระวางโทษดังที่บญั ญตั ิไวใ้ นวรรคหนงึ่ ถ้าการกระทําตามวรรคหนง่ึ หรอื วรรคสอง เปน็ การนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอรโ์ ดยสจุ ริตอันเปน็ การ ติชมด้วยความเป็นธรรม ซ่งึ บุคคลหรอื สง่ิ ใดอันเป็นวสิ ัยของประชาชนยอ่ มกระทํา ผก้ ระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนงึ่ และวรรคสองเปน็ ความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผดิ ตามวรรคหนึ่งหรอื วรรคสองตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรสหรือ บุตรของผู้เสยี หายรอ้ งทกุ ข์ได้ และใหถ้ อื วา่ เปน็ ผเู้ สยี หาย” มาตรา ๑๑ ให้เพ่ิมความตอ่ ไปนเี้ ป็นมาตรา ๑๖/๑ และมาตรา ๑๖/๒ แห่งพระราชบัญญตั วิ ่าด้วยการ กระทาํ ความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “มาตรา ๑๖/๑ ในคดีความผิดตามมาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๖ ซึ่งมีคําพิพากษาว่าจําเลยมีความผิด ศาลอาจส่ัง (๑) ใหท้ าํ ลายข้อมลู ตามมาตราดงั กลา่ ว (๒) ให้โฆษณาหรือเผยแพรค่ ําพิพากษาทัง้ หมดหรือแตบ่ างสว่ นในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ หรือสื่ออื่นใด ตามที่ศาลเห็นสมควร โดยให้จําเลยเป็นผู้ชําระค่าโฆษณาหรือ เผยแพร่ (๓) ให้ดําเนนิ การอื่นตามที่ศาลเหน็ สมควรเพื่อบรรเทาความเสียหายท่ีเกิดขนึ้ จากการกระทําความผิด น้นั มาตรา ๑๖/๒ ผู้ใดรู้ว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ในความครอบครองของตนเป็นข้อมูลที่ศาลสั่งให้ทําลาย ตามมาตรา ๑๖/๑ ผู้นั้นต้องทําลายข้อมูลดังกล่าว หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่บัญญัติไว้ใน มาตรา ๑๔ หรอื มาตรา ๑๖ แลว้ แต่กรณี” มาตรา ๑๒ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๑๗/๑ ในหมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แห่ง พระราชบัญญตั วิ า่ ดว้ ยการกระทําความผิดเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “มาตรา ๑๗/๑ ความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๓ วรรคหนงึ่ มาตรา ๑๖/๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรี แต่งตง้ั มีอํานาจเปรยี บเทยี บได้ คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งให้มีจํานวนสามคนซึ่งคนหนึ่งต้องเป็น พนกั งานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา

๗ เมื่อคณะกรรมการเปรียบเทียบได้ทําการเปรียบเทียบกรณีใดและผู้ต้องหาได้ชําระเงินค่าปรับตามคํา เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการเปรียบเทียบกําหนดแล้ว ให้ถือว่าคดีนั้นเป็นอันเลิกกันตาม ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา ในกรณที ผี่ ูต้ ้องหาไม่ชาํ ระเงินคา่ ปรบั ภายในระยะเวลาทีก่ าํ หนด ให้เริม่ นับอายุความในการฟอ้ งคดีใหม่ นบั ต้งั แตว่ นั ที่ครบกําหนดระยะเวลาดงั กลา่ ว” มาตรา ๑๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทํา ความผดิ เก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอัน ควรเชื่อได้ว่ามีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญตั ินี้ หรือในกรณีที่มีการร้องขอตามวรรคสองให้พนักงาน เจ้าหน้าที่มีอํานาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จําเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับ การกระทําความผิดและหาตัวผกู้ ระทําความผิด (๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดมาเพื่อให้ถ้อยคําส่งคําชี้แจง เป็นหนงั สือ หรือสง่ เอกสาร ขอ้ มูล หรือหลกั ฐานอน่ื ใดท่ีอย่ใู นรูปแบบที่สามารถเขา้ ใจได้ (๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบ คอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอนื่ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความ ครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บรกิ ารให้แก่พนักงานเจา้ หน้าท่หี รือให้เกบ็ ข้อมลู ดังกลา่ วไวก้ ่อน (๔) ทําสําเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอรจ์ ากระบบคอมพิวเตอรท์ ีม่ ีเหตุอันควร เชื่อได้ว่ามีการกระทําความผิด ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงาน เจา้ หน้าที่ (๕) สัง่ ใหบ้ ุคคลซง่ึ ครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรอื อปุ กรณ์ท่ีใชเ้ ก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ สง่ มอบขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกลา่ วให้แก่พนักงานเจ้าหนา้ ท่ี (๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือ อุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทํา ความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทําความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทาง คอมพิวเตอร์ ที่เกีย่ วข้องเทา่ ท่ีจาํ เปน็ ใหด้ ้วยก็ได้ (๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับ ของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทําการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับ ดังกล่าว

๘ (๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จําเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่ง ความผดิ และผกู้ ระทําความผิด เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนของพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา ในบรรดาความผิดอาญาต่อกฎหมายอื่นซึ่งได้ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือ อุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหรือเป็นส่วนหนึ่งในการกระทําความผิด หรือมี ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทําความผิดอาญาตามกฎหมายอื่น พนักงานสอบสวนอาจร้องขอให้ พนักงานเจา้ หน้าทต่ี ามวรรคหนึ่งดําเนนิ การตามวรรคหน่งึ ก็ได้ หรือหากปรากฏขอ้ เทจ็ จริงดังกล่าวต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รีบรวบรวมข้อเท็จจริงและ หลักฐานแลว้ แจ้งไปยงั เจา้ หนา้ ทท่ี ่เี กี่ยวข้องเพอื่ ดาํ เนินการต่อไป ให้ผู้ได้รับการร้องขอจากพนกั งานเจ้าหน้าท่ีตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) และ (๓) ดําเนนิ การตามคําร้องขอ โดยไมช่ กั ช้า แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ เจด็ วันนับแต่วันที่ได้รับคําร้องขอ หรือภายในระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าท่ีกําหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าเจ็ดวันและไม่เกินสิบห้าวัน เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสมควร ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ รัฐมนตรีอาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากําหนดระยะเวลาที่ต้องดําเนินการที่เหมาะสมกั บ ประเภทของผู้ใหบ้ ริการก็ได้ มาตรา ๑๙ การใช้อาํ นาจของพนักงานเจ้าหนา้ ทีต่ ามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ยื่นคํารอ้ งต่อศาลทีม่ ีเขตอํานาจเพื่อมีคําส่ังอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าทีด่ ําเนินการตามคําร้อง ทั้งนี้ คําร้องต้องระบุเหตุอันควรเช่ือได้วา่ บุคคลใดกระทําหรือกําลังจะกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผดิ เหตุที่ต้องใช้อํานาจ ลักษณะของการกระทําความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทําความผิด และผู้กระทําความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคําร้องด้วย ในการพิจารณาคําร้องให้ศาลพิจารณาคาํ รอ้ งดงั กล่าวโดยเรว็ เมื่อศาลมีคําสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดําเนินการตามคําสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสําเนาบันทกึ เหตอุ ันควรเชื่อที่ทาํ ใหต้ อ้ งใชอ้ ํานาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบใหเ้ จ้าของหรือผู้ครอบครอง ระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้ พนกั งานเจ้าหนา้ ทสี่ ่งมอบสาํ เนาบนั ทึกนั้นใหแ้ ก่เจ้าของหรือผคู้ รอบครองดังกลา่ วในทันทีที่กระทาํ ได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดําเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ส่ง สําเนาบันทึกรายละเอียดการดําเนินการและเหตุผลแห่งการดําเนินการให้ศาลที่มีเขตอํานาจภายในสี่สิบแปด ช่วั โมงนบั แต่เวลาลงมอื ดําเนินการ เพอ่ื เป็นหลกั ฐาน การทําสําเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทําได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามี การกระทําความผิด และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดําเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ข้อมลู คอมพวิ เตอรน์ ั้นเกินความจาํ เป็น

๙ การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสําเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัด มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรือ อายดั ไว้เกนิ สามสิบวนั มิได้ ในกรณจี าํ เปน็ ท่ีต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ใหย้ ื่นคาํ รอ้ งต่อศาลที่มีเขตอํานาจ เพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกิน หกสิบวัน เมื่อหมดความจําเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกําหนดเวลาดังกล่าวแล้วพนักงานเจ้าหน้าที่ต้อง ส่งคนื ระบบคอมพวิ เตอรท์ ่ียึดหรอื ถอนการอายัดโดยพลนั หนงั สอื แสดงการยดึ หรืออายัดตามวรรคห้าให้เปน็ ไปตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง” มาตรา ๑๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับ คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปนแี้ ทน “มาตรา ๒๐ ในกรณีที่มีการทําให้แพร่หลายซึ่งขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ ดังต่อไปนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่โดย ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคําร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอํานาจขอให้มีคําสั่ง ระงบั การทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพวิ เตอรน์ น้ั ออกจากระบบคอมพวิ เตอร์ได้ (๑) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่เี ป็นความผิดตามพระราชบญั ญตั ิน้ี (๒) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กําหนดไว้ใน ภาค ๒ ลกั ษณะ ๑ หรอื ลกั ษณะ ๑ /๑ แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา (๓) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาหรือกฎหมาย อื่นซงึ่ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอรน์ ้ันมีลักษณะขดั ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศลี ธรรมอันดีของประชาชนและเจ้าหน้าท่ี ตามกฎหมายนั้นหรือพนกั งานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธพี จารณาความอาญาได้ร้องขอ ในกรณีที่มีการทําให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์จะ มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคําร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอํานาจขอให้มีคําสั่งระงับ การทําให้แพร่หลายหรือลบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งนี้ ให้นําบทบัญญัติว่ า ด้วยคณะกรรมการที่มีอํานาจดําเนินการพิจารณาทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติ ราชการทาง ปกครองมาใช้บังคับกบั การประชมุ ของคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอรโ์ ดยอนโุ ลม ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคสองขึ้นคณะหนึ่งหรือหลาย คณะ แต่ละคณะให้มีกรรมการจํานวนเก้าคนซึ่งสามในเก้าคนต้องมาจากผู้แทนภาคเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ดา้ นสอ่ื สารมวลชน ดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ หรือด้านอนื่ ทเี่ กี่ยวข้อง และให้กรรมการได้รับค่าตอบแทนตาม หลักเกณฑ์ท่รี ฐั มนตรีกําหนดโดยไดร้ ับความเหน็ ชอบจากกระทรวงการคลงั การดําเนินการของศาลตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้นําประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีที่ศาลมีคําสั่งให้ระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรค

๑๐ หนึ่งหรือวรรคสอง พนักงานเจ้าหน้าที่จะทําการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเอง หรือจะสั่งให้ผู้ให้บรกิ ารระงับการทําให้แพรห่ ลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้ ทั้งนี้ ให้รัฐมนตรปี ระกาศ กําหนดหลักเกณฑ์ ระยะเวลา และวิธีการปฏิบัติสําหรับการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบ ข้อมูลคอมพิวเตอรข์ องพนักงานเจ้าหนา้ ทห่ี รือผูใ้ ห้บริการให้เปน็ ไปในแนวทางเดียวกนั โดยคาํ นึงถึงพัฒนาการ ทางเทคโนโลยที ี่เปลีย่ นแปลงไป เวน้ แตศ่ าลจะมีคําส่ังเปน็ อย่างอ่ืน ในกรณีที่มีเหตุจําเป็นเร่งด่วน พนักงานเจ้าหน้าที่จะยื่นคําร้องตามวรรคหนึ่งไปก่อนที่จะได้รับ ความเห็นชอบจากรัฐมนตรี หรือพนักงานเจ้าหน้าที่โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกลั่นกรอง ข้อมูลคอมพิวเตอร์จะยื่นคําร้องตามวรรคสองไปก่อนที่รัฐมนตรีจะมอบหมายก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องรายงานให้ รฐั มนตรีทราบโดยเร็ว” มาตรา ๑๕ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทํา ความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ชค้ วามตอ่ ไปน้ีแทน “ชุดคําสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคําสั่งที่มีผลทําให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบ คอมพิวเตอร์หรือชุดคําสั่งอ่ืนเกิดความเสียหาย ถูกทําลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้องหรือ ปฏิบัตงิ านไมต่ รงตามคําสงั่ หรอื โดยประการอ่ืนตามที่กําหนดในกฎกระทรวง เว้นแต่เปน็ ชดุ คาํ ส่งั ไมพ่ ึงประสงค์ ที่อาจนํามาใช้เพื่อป้องกันหรือแก้ไขชุดคําสั่งดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีอาจประกาศในราชกิจจานุเบกษา กําหนดรายชื่อ ลักษณะ หรือรายละเอียดของชุดคําสั่งไม่พึงประสงค์ซึ่งอาจนํามาใช้เพื่อป้องกันหรือแ ก้ไข ชุดคาํ ส่ังไม่พึงประสงค์ก็ได้” มาตรา ๑๖ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๒๒ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๕ แหง่ พระราชบญั ญัติ ว่าด้วยการกระทําความผดิ เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ช้ความต่อไปนีแ้ ทน “มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่และพนักงานสอบสวนในกรณีตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการที่ได้มาตาม มาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทําเพื่อประโยชน์ในการดําเนินคดีกับ ผู้กระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือผู้กระทําความผิดตามกฎหมายอื่นในกรณีตามมาตรา ๑๘ วรรค สองหรือเพื่อประโยชน์ในการดําเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อํานาจหน้าที่โดยมิชอบหรือกับ พนักงานสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหนา้ ที่ตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง โดยมิชอบหรือเป็นการกระทํา ตามคาํ สั่งหรือที่ได้รบั อนุญาตจากศาล พนักงานเจ้าหน้าที่หรือพนักงานสอบสวนผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือ ปรับไม่เกินหกหมน่ื บาท หรือทั้งจาํ ทง้ั ปรับ

๑๑ มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่หรือพนักงานสอบสวนในกรณีตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง ผู้ใดกระทํา โดยประมาทเป็นเหตุให้ผูอ้ ื่นล่วงรู้ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บรกิ าร ท่ีไดม้ าตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจําคกุ ไม่เกนิ หนงึ่ ปี หรือปรับไมเ่ กินสองหมนื่ บาทหรอื ทัง้ จาํ ท้งั ปรบั มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการท่ี พนักงานเจ้าหน้าท่ีหรือพนักงานสอบสวนได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึง่ ผู้ใด ต้องระวาง โทษจําคกุ ไมเ่ กินสองปี หรือปรบั ไม่เกินสห่ี มนื่ บาท หรือทัง้ จําท้งั ปรบั มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มา ตามพระราชบัญญัตินี้หรือที่พนักงานสอบสวนได้มาตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง ให้อ้างและรับฟังเป็น พยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วย การ สืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจ มีคํามั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบ ประการอ่ืน” มาตรา ๑๗ ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทํา ความผิดเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนีแ้ ทน “มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่ วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจําเป็น พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรกั ษา ขอ้ มลู จราจรทางคอมพวิ เตอร์ไวเ้ กนิ เก้าสบิ วันแตไ่ ม่เกินสองปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวกไ็ ด้” มาตรา ๑๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทําความผดิ เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ อาจได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามที่ รัฐมนตรกี ําหนดโดยไดร้ บั ความเห็นชอบจากกระทรวงการคลงั ในการกําหนดให้ได้รับค่าตอบแทนพิเศษต้องคํานึงถึงภาระหน้าที่ ความรู้ความเชี่ยวชาญความขาด แคลนในการหาผู้มาปฏบิ ัติหนา้ ทีห่ รือมกี ารสูญเสียผู้ปฏิบัตงิ านออกจากระบบราชการเป็นจํานวนมากคุณภาพ ของงาน และการดํารงตนอยู่ในความยุตธิ รรมโดยเปรียบเทียบคา่ ตอบแทนของผู้ปฏิบตั ิงานอื่นในกระบวนการ ยตุ ธิ รรมดว้ ย” มาตรา ๑๙ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิด เก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ “มาตรา ๓๑ ค่าใช้จ่ายในเรื่องดังต่อไปนี้ รวมทั้งวิธีการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรี กําหนดโดยได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง (๑) การสบื สวน การแสวงหาขอ้ มูล และรวบรวมพยานหลกั ฐานในคดคี วามผิดตามพระราชบญั ญตั ินี้ (๒) การดาํ เนินการตามมาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) และมาตรา ๒๐

๑๒ (๓) การดําเนินการอื่นใดอันจําเป็นแก่การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดตาม พระราชบญั ญตั ินี้” มาตรา ๒๐ บรรดาระเบียบหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับ ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีระเบียบหรือประกาศที่ต้องออกตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญตั นิ ี้ ใชบ้ ังคับ การดําเนินการออกระเบียบหรือประกาศตามวรรคหน่ึง ให้ดําเนนิ การให้แลว้ เสรจ็ ภายในหกสิบวันนับ แตว่ ันทีพ่ ระราชบญั ญตั ินใ้ี ชบ้ ังคับ หากไม่สามารถดําเนินการได้ใหร้ ฐั มนตรีว่าการกระทรวงดจิ ทิ ัลเพ่ือเศรษฐกิจ และสังคมรายงานเหตุผลท่ไี ม่อาจดําเนินการไดต้ ่อคณะรฐั มนตรเี พ่อื ทราบ มาตรา ๒๑ ให้รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงดจิ ิทัลเพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคมรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ หมายเหตุ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการ กระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมต่อการป้องกันและ ปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ซึ่งมีรูปแบบการกระทําความผิดที่มีความ ซบั ซ้อนมากขึ้นตามพฒั นาการทางเทคโนโลยีซ่ึงเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเรว็ และโดยที่มีการจดั ต้ังกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมซึง่ มีภารกิจในการกําหนดมาตรฐานและมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซ เบอร์ รวมทั้งการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ด้านความม่ันคงปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสารของประเทศสมควรปรับปรุงบทบญั ญัติในส่วนทีเ่ กี่ยวกบั ผู้รักษาการตามกฎหมาย กําหนดฐานความผิด ขึ้นใหม่ และแก้ไขเพิ่มเติมฐานความผิดเดิม รวมทั้งบทกําหนดโทษของความผิดดังกล่าว การปรับปรุง กระบวนการและหลักเกณฑ์ในการระงับการทําให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตลอดจนกําหนดให้มี คณะกรรมการเปรียบเทียบซึ่งมีอํานาจเปรียบเทียบความผิดตามพระราชบัญญัติว่ าด้วยการกระทําความผิด เก่ียวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และแก้ไขเพม่ิ เตมิ อํานาจหนา้ ที่ของพนกั งานเจ้าหนา้ ที่ใหเ้ หมาะสมยงิ่ ขน้ึ จึง จาํ เป็นต้องตราพระราชบัญญัตนิ

๑๓ ๓. จรยิ ธรรมและคณุ ธรรมในการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละอนิ เตอร์เนต็ คุณธรรม หมายถึง สภาพคุณงามความดีและความถูกต้องซึ่งบุคคลควรยึดมั่นไว้เป็นหลักการในการ ปฏบิ ตั ิตนจนเปน็ นสิ ยั ความประพฤตดิ ีงาม เพอื่ ประโยชนแ์ ก่ตนและสังคม ซึ่งมีพ้นื ฐานมาจากหลักศีลธรรมทาง ศาสนา ค่านิยมทางวฒั นธรรม ประเพณี หลักกฎหมาย จรรยาบรรณวิชาชีพ การรจู้ กั ไตร่ตรองว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ และอาจกล่าวได้ว่าคุณธรรม คือ จริยธรรมที่นำมาปฏิบัติจนเป็นนิสัย เช่น การเป็นคนซื่อสัตย์ เสียสละ และ มคี วามรบั ผดิ ชอบ จริยธรรม หมายถึง หลักศีลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ หรือควบคุมการใช้ ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ซึ่งเมื่อพิจารณาจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ คอมพวิ เตอรแ์ ล้ว สามารถสรปุ ได้ ๔ ประเด็น ได้แก่ ๑) ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) หมายถึง สิทธิที่จะอยู่ตามลำพังและเป็นสิทธิท่ี เจ้าของสามารถที่จะควบคุมข้อมูลของตนเองในการเปิดเผยให้กับผู้อื่น การละเมิดความเป็นส่วนตัวที่เป็นข้อ หนา้ สงั เกต ดงั น้ี – การเข้าไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการบันทึกข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์รวมท้ัง การบันทกึ แลกเปล่ียนข้อมูลทีบ่ คุ คลเข้าไปใชบ้ รกิ ารเวบ็ ไซต์และกลมุ่ ขา่ วสาร – การใชเ้ ทคโนโลยใี นการตดิ ตามความเคลือ่ นไหวหรือพฤติกรรมของบุคคล เชน่ บริษทั ใช้คอมพิวเตอร์ ในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการปฏบิ ตั ิงาน/การใช้บริการของพนกั งาน – การใช้ขอ้ มูลของลูกค้าจากแหล่งตา่ งๆ เพอ่ื ผลประโยชน์ในการขยายตลาด – การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อนำไป สร้างฐานขอ้ มลู ประวตั ิลกู คา้ ใหมข่ ึน้ มาแลว้ นำไปขายให้กับบริษัทอน่ื ๒) ความถูกต้อง (Information Accuracy) ในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการรวบรวม จัดเก็บ และ เรียกใช้ขอ้ มลู คุณลักษณะท่สี ำคัญ คอื ความนา่ เช่อื ถือได้ของข้อมลู จะน่าเช่ือถือมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับ ความถูกต้องในการบันทึกข้อมูลด้วย ดังนั้น การพิจารณาให้ความสำคัญกับบุคคลที่จะเป็นผู้รับผิดชอบต่อ ความถกู ตอ้ งของขอ้ มูลทจี่ ัดเกบ็ และเผยแพรย่ ่อมมีความสำคญั ๓) ความเป็นเจ้าของ (Information Property) ในสังคมของเทคโนโลยีสารสนเทศมกั จะกลา่ วถงึ การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เมื่อเราซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีการจดลิขสิทธิ์ นั่นหมายความว่าเราจ่าย ค่าลิขสทิ ธใ์ิ นการใช้ซอฟตแ์ วรน์ ้ัน ซึง่ ลขิ สทิ ธใ์ิ นการใชจ้ ะแตกตา่ งกันไปในแต่ละสนิ ค้าและบริษัท บางโปรแกรม อนุญาตให้ติดต้ังได้เพียงเครื่องเดียว ในขณะที่บางโปรแกรมอนุญาตให้ใช้ได้หลายเครื่อง ตราบใดที่เรายังเป็น บุคคลที่มีสิทธิในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ซื้อมา การคัดลอกโปรแกรมให้กับบุคคลอื่น เป็นการกระทำที่ต้อง พิจารณาให้รอบคอบกอ่ นวา่ ทา่ นมีสิทธิในโปรแกรมนน้ั ในระดบั ใด

๑๔ ๔) การเข้าถงึ ขอ้ มลู (Data Accessibility) คือ การป้องกนั การเข้าไปดำเนนิ การกับข้อมูลของผู้ใช้ท่ี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นการรักษาความลับของข้อมูล ตัวอย่างสิทธิในการใชง้ านระบบเชน่ การบันทึก การ แก้ไข/ปรับปรุง และการลบ เป็นต้น ดังนั้น ในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์จึงได้มีการออกแบบระบบรักษา ความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ และการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมนั้น ถือว่า เป็นการผิดจริยธรรมเชน่ เดยี วกบั การละเมิดข้อมูลส่วนตวั ในการใชง้ านคอมพิวเตอร์และเครือข่ายรว่ มกัน หาก ผู้ใช้ร่วมใจกันปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัดแล้ว การผิดจริยธรรมตาม ประเด็นที่กลา่ วมาข้างตน้ ก็คงจะไมเ่ กิดขน้ึ ๔. จรรยาบรรณผใู้ ช้อนิ เทอรเ์ น็ต ความหมายจรรยาบรรณ จรรยาบรรณ คือ ประมวลความประพฤติที่ผู้ประกอบการอาชีพการงานแต่ละอย่างกำหนดขึ้นเพื่อ รักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียงและฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม้ก็ได้ จรรยาบรรณจึงเป็นหลักความประพฤติของบุคคลในแต่ละกลุ่มอาชีพ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจใหม้ ีคุณธรรม และจริยธรรมจรรยาบรรณผู้ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต ควรยดึ ถือไวเ้ ปน็ สงิ่ ท่ที ำให้สงั คมอินเตอร์เน็ตเปน็ ระเบียบเกิดความ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีเป็นจำนวนมากและเพิ่มขึ้นทุกวัน การใช้งานระบบเครือข่ายที่ออนไลน์และส่ง ข่าวสารถึงกันย่อมมีผู้ท่ีมีความประพฤติไม่ดีปะปนและสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้อื่นอยู่เสมอ หลายเครือข่ายจึงได้ ออกกฏเกณฑ์การใช้งานภายในเครือข่าย เพื่อให้สมาชิกในเครือข่ายของตนยึดถือ ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์และ ไดร้ ับประโยชน์สงู สดุ ดังน้ัน ผใู้ ชอ้ ินเทอร์เน็ตทุกคนท่เี ปน็ สมาชกิ เครือข่ายจะต้องเข้าใจกฏเกณฑข์ ้อบังคบั ของ เครอื ข่ายนั้น มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้ร่วมใช้บริการคนอื่นและจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่เข้าไป ขอใชบ้ ริการต่างๆ บนเครอื ข่ายบนระบบคอมพวิ เตอร์ เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ทีผ่ ใู้ ช้อินเทอรเ์ นต็ เรยี กเข้ามิได้เปน็ เพยี งเครือข่ายขององค์กรทีผ่ ู้ใช้สังกดั แต่เป็น การเชื่อมโยงของเครือข่ายต่างๆ เข้าหากันหลายพันหลายหมื่นเครือข่ายมีข้อมูลข่าวสารอยู่ระหว่างเครือข่าย เป็นจำนวนมาก การส่งข่าวสารในเครือขา่ ยนน้ั อาจทำให้ข่าวสารกระจายเดินทางไปยังเครือขา่ ยอื่น ๆ อีกเป็น จำนวนมากหรือแม้แต่การส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ฉบับหนึ่งก็อาจจะต้องเดินทางผ่านเครือข่ายอีกหลาย เครอื ขา่ ยกว่าจะถึงปลายทาง ดังนัน้ ผู้ใช้บรกิ ารตอ้ งใหค้ วามสำคัญและตระหนกั ถึงปัญหาปรมิ าณข้อมลู ข่าวสาร ทวี่ ่งิ อยบู่ นเครอื ข่าย การใช้งานอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์จะทำให้สังคมอินเทอร์เน็ตน่าใช้และเป็นประโยชน์ ร่วมกันอยา่ งดี กิจกรรมบางอย่างที่ไม่ควรปฏบิ ตั ิจะต้องหลีกเลีย่ งเช่นการสง่ กระจายข่าวไปเป็นจำนวนมากบน

๑๕ เครือข่าย การส่งเอกสารจดหมายลูกโซ่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะเปน็ ผลเสยี โดยรวมต่อผู้ใช้และไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ตอ่ สงั คมอินเทอร์เน็ต เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมอินเทอร์เน็ตสงบสุข Arlene H.Rinaldi แห่งมหาวิทยาลัย ฟอร์ริดา แอตแลนติก จึงรวบรวมกฎกตกิ ามารยาทและวางเป็นจรรยาบรรณอินเทอร์เนต็ หรือทีเ่ รยี กว่า Netiquette ไว้ ดงั น้ี ๑) จรรยาบรรณสำหรับผ้ใู ช้ไปรษณียอ์ ิเลคโทรนึกิ ส์ E-mail ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนมีเมล์บ็อกซ์หรืออีเมล์แอดเดรสที่ใช้อ้างอิงในการรับส่งจดหมาย ความ รับผิดชอบต่อการใช้งานอีเมล์ในระบบจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพราะจดหมายมีการรับส่งโดย ระบบ ซึ่งหากมีจดหมายค้างในระบบจำนวนมากจะทำให้พื้นที่ บัฟเฟอร์ของจดหมายในระบบหมด จะเป็นผล ให้ระบบไม่สามารถรับส่งจดหมายต่อไปได้ หลายตอ่ หลายครง้ั ระบบปฏิเสธการรับส่งจดหมายเพราะไฟล์ระบบ เต็ม ดังน้ันจึงควรมีความรบั ผดิ ชอบในการดูแลต้จู ดหมาย (mail box) ของตนเองดงั นี้ - ตรวจสอบจดหมายทุกวนั และจะต้องจำกัดจำนวนไฟล์และข้อมลู ในตู้จดหมายของตนให้เลือกภายใน โควตา้ ที่กำหนด - ลบขอ้ ความหรือจดหมายทีไ่ มต่ ้องการแล้วออกจากดิสตเ์ พื่อลดปรมิ าณการใช้ดิสก็ใหจ้ ำนวนจดหมาย ที่อยใู่ นตู้จดหมาย (mail box) มีจำนวนนอ้ ยทีส่ ดุ - ให้ทำการโอนยา้ ยจดหมายจากระบบไปไวย้ งั พีซีหรือฮาร์ดดิสก์ของตนเองเพื่อใช้อา้ งอิงในภายหลงั - พึงระลึกเสมอว่าจดหมายที่เก็บไว้ในตู้จดหมายนี้อาจถูกผู้อื่นแอบอ่านได้ ไม่ควรเก็บข้อมูลหรือ จดหมายทีค่ ณุ คิดวา่ ไม่ใชแ้ ลว้ เสมอื นเป็นประกาศไว้ในต้จู ดหมาย ๒) จรรยาบรรณ สำหรับการสนทนาส่ือสารบนเครือขา่ ยอนิ เตอร์เน็ต Chat บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมี โปรแกรมระบบการสนทนาส่ือสารพูดคุยออนไลน์ เช่น MSN เป็นต้น ใน การเรยี กหาหรือเปดิ การสนทนาตลอดจนการสนทนาจะต้องมีมารยาทท่ีสำคญั ไดแ้ ก่ - ควรเรียกสนทนาจากผู้ที่เรารู้จักและต้องการสนทนาด้วย หรือมีเรื่องสำคัญที่จะติดต่อด้วย ควร ระลึกเสมอว่าการขดั จังหวะผู้อื่นทก่ี ำลงั ทำงานอยู่อาจสรา้ งปญั หาให้ได้ - กอ่ นการเรียกคู่สนทนาควรสอบสถานะการใช้งานของค่สู นทนาท่ีต้องการเรียกเพราะการเรียกแต่ละ ครั้งจะมีข้อความไปปรากฏบนจอภาพของฝ่ายถูกเรียกซึ่งก็สร้างปัญหาการทำงานได้ เช่น ขณะกำลังทำงาน ค้าง ftp ซ่ึงไม่สามารถหยุดได้ - หลังจากเรียกไปชั่วขณะคู่ที่ถูกเรยี กไม่ตอบกลับ แสดงว่าคู่สนทนาอาจติดงานสำคัญ ขอให้หยุดการ เรียกเพราะข้อความทีเ่ รยี กไปปรากฏบนจออยา่ งแน่นอนแล้ว

๑๖ - ควรให้วาจาสุภาพ และใหเ้ กยี รติซง่ึ กันและกนั การแทรกอารมณ์ขัน ควรกระทำกับคนที่รู้จักคุ้นเคย แล้วเท่านัน้ ๓) จรรยาบรรณ สำหรบั ผใู้ ชก้ ระดาษขา่ ว webboard - ระบบข่าวสารทใี่ หบ้ รกิ ารในสังคมอินเทอรเ์ น็ตมหี ลายระบบ ข่าวสารตา่ ง ๆ ทเี่ ขียนลงไปจะกระจาย ออกไปท่วั โลก ผใู้ ชบ้ ริการบนกระดานข่าวจะต้องเคารพกฏกตกิ ามารยาทโดยเครง่ ครดั ข้อปฏบิ ัติทส่ี ำคัญ ไดแ้ ก่ - ให้เขียนเรื่องให้กระชับ ข้อความควรสั้นและตรงประเด็กไม่กำกวม ใช้ภาษาที่เรียบงาน สุภาพเข้าใจ ได้ - ในแต่ละเรอ่ื งทีเ่ ขียนใหต้ รงโดยขอ้ ความทเี่ ขียนควรจะมีหัวข้อเดยี วต่อเรื่อง - ในการเขียนพาดพิงถึงผู้อื่น ให้ระมัดระวังในการละเมิดหรือสร้างความเสียหายใหผ้ ู้อืน่ การให้อีเมล์ อาจตรงประเด็นกวา่ - ให้แหล่งที่มาของขอ้ ความ ควรอ้างอิงแหล่งข่าวได้ ไม่เรียกว่าโคมลอยหรอื ข่าวลือหรือเขียนข่าวเพอื่ ความสนกุ โดยขาดความรบั ผดิ ชอบ - จำกดั ความยาวของขา่ ว และหลีกเลีย่ งตวั อักษรควบคุมพเิ ศษอน่ื ๆ เพราะหลายเครือ่ งที่อา่ นข่าวอาจ มีปญั หาในการแสดงผล - ข่าวบางข่าวมีการกระจายกันมาเป็นลำดับให้ และอ้างอิงต่อ ๆ กันมาการเขียนข่าวจึงควรพิจารณา ในประเดน็ น้ีดว้ ย โดยเฉพาะอยา่ สง่ จดหมายตอบโต้ไปยงั ผรู้ ายงานขา่ วผู้แรก - ไม่ควรให้เครือข่ายของมหาวิทยาลัยเพื่อประโยชน์ทางการค้าหรืองานเฉพาะของตนเพื่อประโยชน์ ส่วนตนในเรื่อง การค้า - การเขียนขา่ วทุกครง้ั จะต้องลงชื่อ และลายเซนตอนล่างของข้อความเพือ่ บอกช่ือ ตำแหน่งแอดเดรส ที่อา้ งองิ ไดท้ างอินเทอรเ์ นต็ หรอื ใหท้ ่ีอยแู่ ละหมายเลขโทรศพั ทท์ ต่ี ดิ ต่อได้ - ในการทดสอบการส่งไม่ควรทำพร่ำเพื่อการทดสอบควรกระทำในกลุ่มข่าวท้องถิ่นที่เปิดให้ทดสอบ การส่งขา่ วอยู่แลว้ เพราะการส่งขา่ วแต่ละคร้งั จะกระจายไปทั่วโลก - หลกี เลยี่ งการใชต้ วั อักษรใหญ่ตัวอักษรใหญ่ทมี่ ีความหมายถงึ การตะโกนหรือการแสดงความไม่พอใจ ในการเน้น คำให้ใชเ้ คร่อื งหมาย * ขอ้ ความ* แทน - ไมค่ วรนำขอ้ ความท่ผี อู้ ืน่ เขยี นไปกระจายต่อโดยไม่ได้รบั อนุญาตจากเจา้ ของเรอ่ื ง - ไม่ควรใช้ข้อความตลกขบขนั หรอื คำเฉพาะคำกำกวม หรือคำหยาบคายในการเขยี นขา่ ว - ให้ความสำคัญในเรือ่ งลิขสทิ ธไิ์ มค่ วรละเมิดลขิ สิทธผ์ิ ู้อ่นื - ไม่ควรคัดลอกข่าวจากที่อื่นเช่น จากหนังสือพิมพ์ทั้งหมดโดยไม่มีการสรุปย่อและเมื่อส่งข่าวย่อ จะต้องอ้างองิ ที่มา - ไมค่ วรใชก้ ระดานข่าวเป็นท่ีตอบโต้หรือละเมดิ ผู้อ่ืน

๑๗ - การเขียนข้อความจะต้องไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกส่วนตัวและระลึกเสมอว่าข่าวที่เขียนหรือ อภิปรายน้กี ระจายไปท่ัวโลก และมผี ู้อา่ นขา่ วจำนวนมาก - ในการเขียนคำถามลงในกลุ่มข่าวจะต้องส่งลงในกลุ่มที่ตรงกับปัญหาที่เขียนนั้น และเมื่อจะตอบก็ ตอ้ งให้ตรงประเด็น - ในการบอกรับข่าวด้วย mailing list และมีข่าวเข้ามาจำนวนมากทางอีเมล์จะต้องอ่านข่าว และ โอนมาไว้ที่เครื่องตน (พีซี) หรือลบออกจาก mail box และหากไม่อยู่หรือไม่ได้เปิดตู้จดหมายเกินกว่าหน่ึง สปั ดาหจ์ ะต้องสง่ ไปบอกยกเลิกการรับ เพื่อว่าจะไดไ้ มม่ ีจดหมายสง่ เขา้ มามาก ๕. บญั ญตั ิ ๑๐ ประการ คณุ ธรรมและจริยธรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์ ๑. ตอ้ งไม่ใช้คอมพิวเตอรท์ ำรา้ ยหรอื ละเมดิ ผู้อืน่ ๒. ตอ้ งไม่รบกวนการทำงานของผอู้ ื่น ๓. ตอ้ งไมส่ อดแนมหรอื แกไ้ ขเปิดดูในแฟม้ ของผู้อืน่ ๔. ต้องไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์เพอื่ การโจรกรรมข้อมลู ข่าวสาร ๕. ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานทเี่ ปน็ เท็จ ๖. ตอ้ งไม่คัดลอกโปรแกรมผูอ้ นื่ ทีม่ ลี ขิ สิทธิ์ ๗. ตอ้ งไมล่ ะเมิดการใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอรโ์ ดยทีต่ นเองไม่มสี ิทธ์ิ ๘. ตอ้ งไมน่ ำเอาผลงานของผูอ้ ื่นมาเปน็ ของตน ๙. ตอ้ งคำนึงถึงสง่ิ ทจ่ี ะเกิดขึ้นกับสังคมอันติดตามมาจากการกระทำ ๑๐. ตอ้ งใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกามารยาท ๖. อาชญากรรมทางคอมพวิ เตอรแ์ ละการโจรกรรมทรพั ยส์ ินทางปญั ญา ๖ ประเภท ๑. การเงิน – อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจในการทำธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซ (หรอื พาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์) ๒. การละเมิดลิขสิทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและ อินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นส่ือในการกอ่ อาชญากรรม ที่เรียกวา่ การโจรกรรมทางออนไลน์ หมายรวมถึง การละเมิด ลิขสิทธิ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ทีไ่ ด้รับการคุ้มครอง ลขิ สทิ ธิ์ ๓. การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับ อนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การเจาะระบบยัง อาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอืน่ ๆ (เช่น การปลอมแปลง การก่อการรา้ ย ฯลฯ)

๑๘ ๔. การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างความหวาดกลัว การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e- terrorism) จะเกยี่ วข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์เพ่ือกอ่ เหตรุ ุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน ๕. ภาพอนาจารทางออนไลน์ การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารในรูปแบบใดๆ ถือเป็นการกระทำที่ขัด ตอ่ กฎหมาย ๖. ภายในโรงเรียน – ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่เยาวชนจำเปน็ ต้องได้รบั ทราบเกยี่ วกบั วิธีการใชง้ านอย่างปลอดภยั และมคี วามรับผิดชอบ โดยนักเรียนควร ได้มีความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้ อนิ เทอรเ์ น็ตในทางที่ผิด

๑๙ บรรณานุกรม คลังความรู้ prd. (๒๕๖๔). พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐. สืบค้น ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๖, จาก http://km.prd.go.th/ ซอฟท์บิส พลัส. (มปป). จรรยาบรรณผู้ใช้อินเทอร์เน็ต. สืบค้น ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖, จาก http://www.softbizplus.com/ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐. (๒๔ มกราคม ๒๕๖๐). ราชกจิ จานุเบกษา. เล่มท่ี ๑๓๔ ตอนท่ี ๑๐ ก, หนา้ ๒๔-๓๕. citcoms. (๒๕๖๐). พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐. สบื ค้น ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๖, จาก https://citcoms.nu.ac.th/computer-๒๕๖๐/ Vanda learnling. (๒๕๖๔). จริยธรรมและคุณธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต. สืบค้น ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๖, จาก http://vandalearning.com/