Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book การซ่อมบำรุงเครื่องทำความเย็น

E-book การซ่อมบำรุงเครื่องทำความเย็น

Published by Thanawit Seeharach, 2019-06-27 23:39:17

Description: E-book การซ่อมบำรุงเครื่องทำความเย็น

Keywords: air conition

Search

Read the Text Version

241 หน่วยที่ 3 การซ่อมบารุงเคร่ืองทาความเยน็ เม่ือไดศ้ ึกษาระบบการทางานของตูเ้ ยน็ มาแลว้ ในหน่วยน้ีจะกล่าวถึง การซ่อมตูเ้ ยน็ และ ตูแ้ ช่ ขอ้ ขดั ขอ้ งในระบบตูเ้ ยน็ และตูแ้ ช่น้นั มีอยู่ 2 อยา่ งที่ตอ้ งตรวจสอบ คือ ขอ้ ขดั ขอ้ งทางระบบ ไฟฟ้าและขอ้ ขดั ขอ้ งทางระบบกลไก หรือระบบของสารทาความเยน็ ซ่ึงก่อนทาการซ่อมตูเ้ ยน็ ตอ้ ง ทราบถึงวิธีต่าง ๆ เช่น การเดินท่อระบบตูเ้ ยน็ การหารอยรั่ว การทาสุญญากาศและการบรรจุ สารทาความเยน็ การเดนิ ท่อระบบตู้เยน็ เบือ้ งต้น ในการศึกษาระบบตูเ้ ยน็ เบ้ืองตน้ ตอ้ งมีการฝึกวางชิ้นส่วน ต่าง ๆ และการเดินท่อของระบบตูเ้ ยน็ เบ้ืองตน้ ก่อน ซ่ึงสามารถหาวสั ดุมาใชด้ งั น้ี 1. สร้างโครงสร้างของตูเ้ ยน็ โดยใชเ้ หลก็ ส่ีเหล่ียมทา เป็นโครงแบบรูปตวั L และใชไ้ ม-้ อดั หนา ขนาด 10 ม.ม ยดึ ติดกบั โครงรูปตวั L ควรใส่ลอ้ เหล็ก 4 ลอ้ ดว้ ย เพอ่ื ท่ีจะสามารถเคล่ือนยา้ ย ตูเ้ ยน็ ไดส้ ะดวก แสดงดงั รูปที่ 3-1 ไมอ้ ดั 10 มม. ลกู ลอ้ เหลก็ โครงโลหะ รูปท่ี 3-1 โครงสร้างของตูเ้ ยน็ 2. ฝึกติดต้งั มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ลงบนฐานของแบบแนวนอน 3. ติดต้งั อีวาโปเรเตอร์ส่วนบนสุดของแบบแนวต้งั

242 4. ติดต้งั คอนเดนเซอร์ ทางดา้ นหลงั ของแผงแบบแนวต้งั 5. เดินท่อระบบตูเ้ ยน็ โดยการใช้ท่อทองแดง 1/4\" ให้เป็ นท่อทางอดั จากมอเตอร์คอม- เพรสเซอร์ไปยงั ทางเขา้ ของคอนเดนเซอร์ดา้ นบน ทาออกของคอนเดนเซอร์ต่อเขา้ ไดรเออร์และที่ ออกจากไดรเออร์ให้ต่อเขา้ ยงั ท่อรูเข็ม ที่ปลายทางออกของท่อรูเขม็ ต่อเขา้ ทางเขา้ ของอีวาโปเรเตอร์ และท่ีทางออกของอีวาโปเรเตอร์ให้ใช้ท่อขนาด 5/16\" เดินลงมาเขา้ ทางดูดของมอเตอร์คอมเพรส- เซอร์และตอ้ งแนบทอ่ รูเขม็ ต่อเขา้ กบั ท่อทางดูด เพอื่ ทาการแลกเปล่ียนความร้อนดว้ ย 6. นาท่อขนาด 1/4\" ตดั ให้ยาวประมาณ 6\" บานท่อขา้ งหน่ึง แลว้ ใส่แฟลร์นตั และยเู นียน ขนั ใหแ้ น่น นาปลายอีกดา้ นต่อเชื่อมเขา้ ทอ่ ทางบรรจุสารทาความเยน็ ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ 7. นาสายของเกจแมนนิโฟลด์ขา้ งคอมเปานด์เกจ โดยนามาต่อเขา้ ตรงยูเนียนของท่อ 1/4\" ที่เป็นทอ่ บรรจุสารทาความเยน็ ที่ทาในขอ้ 6 8. ถา้ ตอ้ งการต่อสายวดั ของเกจทางเพรสเชอร์เกจ เพื่อวดั แรงดนั ทางอดั ของระบบตูเ้ ยน็ สามารถทาได้ โดยการใชท้ ่อ 1/4\" บานแฟลร์ใส่แฟลร์นตั และยเู นียน เหมือนขอ้ 6 แลว้ นาไปต่อเขา้ ตวั ไดรเออร์ ซ่ึงมีท่อขนาด 1/4\" โผล่ไวใ้ ห้ต่อ แต่โดยทวั่ ไปในการซ่อมตูเ้ ยน็ ช่างซ่อมจะไม่ต่อสาย เกจวดั ทางเพรสเชอร์เกจ เพราะสามารถซ่อมได้ โดยต่อเกจทางคอมเปานดเ์ กจทางท่อบรรจุสารทา- ความเยน็ อยา่ งเดียวก็ได้ ในกรณีที่ไมต่ ่อสายวดั ทางเพรสเชอร์เกจ ตอ้ งหาท่อ 1/4\" ปิ ดปลายขา้ งหน่ึง และตอ้ งนาไปเช่ือมปิ ดตรงรู 1/4\" ท่ีตวั ไดรเออร์เพื่อไม่ใหม้ ีรูโหว่ หากไดรเออร์เป็ นแบบแฟลร์ จะไม่มีท่อ 1/4\" ไวส้ าหรับการทาท่อต่อเกจวดั แรงดนั ทาง สูง ดงั น้นั ถา้ ตอ้ งการวดั ตอ้ งต่อแยก 3 ทาง เขา้ ท่อทางอดั การต่อระบบ และการต่อเกจแมนิโฟลด์ ของตูเ้ ยน็ แสดงดงั รูปท่ี 3-2

243 อีวาโปเรเตอร์ ท่อรูเขม็ แลกเปลี่ยน มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ท่อทา1ง/4อ\"ดั 1/4\" คอนเดนเซอร์ ความร้อน ท่อทางดดู 5/156/\"16\" 1/4\" ไดรเออร์ ไดรเออร์ แฟลร์นตั แฟลร์นทั รูปท่ี 3-2 การตอ่ ระบบและการต่อเกจแมนนิโฟลดข์ องตูเ้ ยน็ การซ่อมตู้เยน็ และตู้แช่ มสี ่ิงสาคญั ทต่ี ้องปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ 3.1 การตรวจกาลงั ทางดูดและทางอดั การหารอยรั่ว การดูดอากาศและความชื้นใน- ระบบ และการบรรจุสารทาความเยน็ การตรวจวดั กาลงั ทางดูดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เป็ นการตรวจสอบความสามารถ ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เกี่ยวกบั กาลงั ดา้ นดูด วา่ สามารถทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพพอที่จะ ใชง้ านในระบบต่อไปไดห้ รือไม่ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ที่ใชง้ านในระบบทาความเยน็ และปรับอากาศ ตอ้ งสามารถท่ีจะ ดูดและอดั สารทาความเยน็ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและสม่าเสมอ แตเ่ น่ืองจากการใชง้ านอยใู่ นสภาพ ที่แตกต่างกนั อายกุ ารใชง้ านอาจส้ัน หรือยาวไม่เท่ากนั ประสิทธิภาพการดูดอดั อาจลดลงบา้ ง หรือ อาจลดลงมาก จนไม่สามารถใชง้ านในระบบต่อไปได้ จึงตอ้ งเปล่ียนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่

244 หรือนาไปผา่ เพ่ือซ่อม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เพื่อให้สามารถใชง้ านได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพต่อไป 3.1.1 การตรวจกาลงั ทางดูด การตรวจกาลงั ทางดูดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แสดง ดงั รูปที่3-3 ท่อทางดดู ปิ ด มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ท่อบริการ ท่อทางอดั เปิ ด ปิ ด ปิ ด รูปท่ี 3-3 การตรวจกาลงั ทางดูดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ลาดับข้นั ปฏบิ ตั ิการ ตรวจกาลงั ทางดูดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ 1. ต่อเกจแมนนิโฟลด์ทางดา้ นความดนั ต่า เขา้ ทางท่อบริการสารทาความเยน็ โดยใชท้ ่อ 1/4\" ปลายขา้ งหน่ึงบานแฟลร์ และใส่แฟลร์นตั พร้อมยเู นียน 1/4\" สาหรับต่อเขา้ สายเกจ ส่วนปลายอีกขา้ งของท่อ 1/4\" ต่อเชื่อมเขา้ ทางท่อบริการสารทาความเยน็ 2. เชื่อมปิ ดทอ่ ทางดูดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แลว้ ใหป้ ิ ดวาลว์ ท้งั 2 ของเกจ แมนนิโฟลด์ 3. จ่ายกระแสไฟฟ้าเขา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์จะเร่ิม ดูดและอดั โดยจะดูดอากาศจากสายเกจและจากท่อทางดูดที่ปิ ดไว้ 4. สงั เกตดูจะเห็นเขม็ ของเกจทางดา้ นความดนั ต่า ช้ีต่าลงจาก 0 psig ถา้ หากเขม็ ของคอมเปานดเ์ กจช้ีถึง 20 นิ้วปรอท หรืออาจมากกวา่ 20 นิ้วปรอท แสดงวา่ มอเตอร์คอมเพรส- เซอร์มีลิ้นทางดูดดี

245 3.1.2 การตรวจกาลงั ทางอดั การตรวจกาลงั ทางอดั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แสดง ดงั รูปท่ี 3-4 มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ท่อทางดูด เปิ ด เปิ ด เปิ ด ท่อบริการ เปิ ด ท่อทางอดั รูปท่ี 3-4 การตรวจกาลงั ทางอดั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ลาดับข้นั ปฏิบัติ การตรวจกาลงั ทางอดั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ 1. ต่อเกจแมนนิโฟลด์ โดยใชเ้ กจทางเพรสเซอร์เกจแลว้ ต่อเขา้ ท่อทางอดั ของ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ วธิ ีทาทอ่ ต่อกบั สายเกจ โดยใชท้ อ่ 1/4\" ปลายขา้ งหน่ึงบานแฟลร์ และใหใ้ ส่ ยเู นียนแฟลร์นตั 1/4\" เพือ่ ใชส้ าหรับต่อเขา้ สายเกจส่วนปลายอีกขา้ งของท่อ 1/4\" ต่อเชื่อมเขา้ ทางท่อ ทางอดั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ 2. เปิ ดท่อทางดูดและท่อบริการสารทาความเยน็ โดยท่อทางดูดและท่อบริการ สารทาความเยน็ เป็นท่อที่ต่อเขา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ที่เดียวกนั 3. จ่ายกระแสไฟฟ้าเขา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เพื่อให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ดูดและอดั ถา้ เขม็ ของเกจทางเพรสเชอร์เกจข้ึนสูงไมต่ ่ากวา่ 125 psig แสดงวา่ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ มีกาลงั อดั ดี 4. ถ้าจะให้การตรวจกาลังทางอดั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ได้ผลแน่นอน ตอ้ งต่อถงั สารทาความเยน็ เขา้ ทางท่อบริการสารทาความเยน็ ดว้ ย โดยให้พิจารณาจากมอเตอร์คอม- เพรสเซอร์ วา่ จะใชส้ ารทาความเยน็ ชนิดใด เช่น มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใชส้ ารทาความเยน็ R-12 กต็ ่อถงั สารทาความเยน็ R-12 เขา้ ทางท่อบริการสารทาความเยน็ ปิ ดทอ่ ทางดูดและท่อทางอดั ให้ต่อ เขา้ เกจทางเพรสเชอร์เกจ แลว้ ใหส้ ังเกตกาลงั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ถา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์

246 ใชส้ ารทาความเยน็ R-12 เกจทางเพรสเชอร์เกจ เข็มควรช้ีค่าประมาณ 125 psig แต่ถา้ ใช้ R-134a เกจทางเพรสเชอร์ เกจควรช้ีค่าประมาณ 200 psig 3.1.3 การหารอยร่ัวในระบบวงจรสารทาความเยน็ ตู้เยน็ หลงั จากที่เราไดท้ าการเดินท่อ วงจรสารทาความเยน็ เสร็จเรียบร้อย ข้นั ต่อไปกต็ อ้ งตรวจรอยร่ัวในระบบก่อน การตรวจรอยร่ัวตอ้ ง ทาอยา่ งละเอียดเพ่ือใหแ้ น่ใจวา่ ไมม่ ีรอยร่ัวในระบบจริง ๆ จึงเติมสารทาความเยน็ ได้ มิฉะน้นั จะเกิด ปัญหาสารทาความเยน็ ร่ัวหมดในภายหลงั การหารอยรั่วมีหลายวธิ ี ดงั น้ี 1. ใชฟ้ องน้ายาลา้ งจาน โดยอดั แก๊สไนโตรเจน เขา้ ในระบบที่ประมาณ 200- 250 psig แลว้ ใชฟ้ องน้ายาลา้ งจานหยดตามรอยเชื่อมที่สงสัยวา่ เกิดรอยร่ัว ถา้ มีรอยรั่วฟองจะโตข้ึน 2. ใช้ตะเกียงตรวจรอยร่ัว (Halide Leak Detector) เป็ นท่อท่ีใช้ในการบรรจุ แก๊สโปรเพนและเมื่อจุดไฟ แก๊สจะลุกไหมผ้ สมกบั อากาศเป็ นสีแดง แต่ถา้ หากมีสารทาความเยน็ ฟรีออนซ์ผสมอยทู่ ี่เปลวไฟจะเปลี่ยนเป็ นสีเขียว การใชแ้ ก๊สโปรเพนเพื่อตรวจรอยรั่วในระบบของ เครื่องทาความเยน็ จะตอ้ งมีสารทาความเยน็ ฟรีออนซ์อยดู่ ว้ ย 3. ใชเ้ คร่ืองมืออิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Leak Detector) เป็นเคร่ืองมือซ่ึงจะใช้ ตรวจรอยรั่วท่ีละเอียดมาก ถา้ ใชว้ ิธีท่ีหน่ึงและวิธีที่สองไม่ไดผ้ ลตอ้ งใชเ้ ครื่องมือน้ีในการตรวจเมื่อ พบรอยร่ัว จะมีสัญญาณเสียงดงั ใหร้ ู้ โดยดงั ถี่ข้ึนเรื่อย ๆ ถา้ เป็ นเครื่องมือราคาถูก หวั เซ็นเซอร์ไม่มี คุณภาพ อาจทาใหม้ ีเสียงดงั ข้ึนได้ ท้งั ที่ระบบไม่มีรอยรั่ว 4. ใช้เครื่องมือตรวจรอยรั่วแบบแสงยูวี วิธีน้ีจะแน่นอนกว่า เพราะการใชส้ าร เรืองแสงอดั เขา้ ไปในระบบแลว้ ใชไ้ ฟฉายส่องแสงยวู ี โดยให้ตรวจจุดที่คิดวา่ เกิดการรั่ว ถา้ มีการรั่ว เกิดข้ึนสารเรืองแสงจะซึมออกมา กระทบกบั แสงยูวที ี่ฉายไปกระทบ จะเห็นเป็ นสีสะทอ้ นแสง แต่ ตอ้ งใส่แวน่ ตาสีเหลือง จึงจะมองเห็นไดช้ ดั เจน ส่วนมากใชต้ รวจหารอยรั่วแบบตามด 5. ใชแ้ ก๊สไนโตรเจนอดั ทิ้งไว้ ที่แรงดนั สูงกวา่ 100 psig แลว้ จดคา่ แรงดนั ไวใ้ น วนั รุ่งข้ึนในเวลาเดียวกนั ให้ตรวจสอบที่เข็มของเกจวา่ มีการลดลงหรือไม่ ถา้ ลดลงก็แสดงวา่ มีการ รั่วในระบบ สาหรับการตรวจหารอยรั่วในตูเ้ ยน็ นิยมใชฟ้ องของน้ายาลา้ งจาน เพราะราคาถูก และสะดวกในการหารอยร่ัว โดยใหท้ าตามลาดบั ข้นั ดงั น้ี ลาดับข้นั ปฏบิ ตั ิ สาหรับการตรวจหารอยรั่วในตูเ้ ยน็ 1. ตดั ท่อ 1/4\" ยาวประมาณ 6\" แลว้ ทาการบานแฟลร์ขา้ งหน่ึง ให้ใส่แฟลร์นตั และใส่ยเู นียน 1/4\" เพือ่ ต่อเขา้ สายเกจคอมเปานดเ์ กจ

247 2. เช่ือมปลายอีกขา้ งของท่อ 1/4\" ให้เขา้ กบั ท่อบริการสารทาความเยน็ ของ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ โดยให้สังเกตดูท่อบริการสารทาความเยน็ มีขนาดโตเท่ากบั ท่อทางดูด และ จะโตกวา่ ท่อทางอดั 3. เอาสายเกจทางดา้ นความดนั ต่าต่อเขา้ กบั ยูเนียน 1/4 \" ทางท่อบริการสารทา- ความเยน็ 4. เอาถงั แกส๊ ไนโตรเจนต่อเขา้ ทางสายเกจเส้นกลาง 5. สายเกจเส้นทางความดนั สูงไมต่ อ้ งต่อกบั ส่ิงใดแตต่ อ้ งปิ ดวาลว์ ของเกจทาง- ความดนั สูงไว้ 6. เปิ ดถงั แก๊สไนโตรเจน และหมุนวาล์วเกจทางความดนั ต่าเบา ๆ เพ่ือจะให้ แก๊สไนโตรเจนไหลเขา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ คอนเดนเซอร์และอีวาโปเรเตอร์ สังเกตเข็มของเกจ ทางคอมเปานด์ ใหม้ ีคา่ อยทู่ ่ีประมาณ 20-30 psig 7. เอาฟองน้ายาลา้ งจานพอกท่ีรอยต่อต่าง ๆ เช่น รอยขนั แฟลร์นตั รอยเช่ือม และทอ่ ที่สงสยั วา่ มีรอยรั่ว ถา้ รั่วที่แฟลร์นตั ใชป้ ระแจขนั ใหแ้ น่น จุดใดท่ีมีรอยร่ัว แกส๊ ไนโตรเจน ที่อดั ไวจ้ ะดนั ใหฟ้ องน้ายาลา้ งจานแตกออก 8. ข้นั ต่อไปเปิ ดวาลว์ ใหแ้ ก๊สไนโตรเจนไหลเขา้ ไปในระบบ จนกระทง่ั เข็มช้ีอยู่ ท่ีประมาณ 200-250 psig แลว้ ดาเนินการตรวจรอยรั่วเหมือนขอ้ 7 9. หากไม่พบรอยร่ัว ควรเตรียมการดูดอากาศและความช้ืนออก ในการตรวจรอยร่ัวให้แน่นอน ควรอดั แก๊สไนโตรเจนทิ้งไวท้ ่ีค่า 200-250 psig ไวต้ ลอดวนั วนั รุ่งข้ึนใหส้ งั เกตเขม็ ของเกจทางความดนั ต่า ถา้ ไมร่ ่ัวเขม็ จะช้ีท่ีคา่ เดิมเหมือนวนั ก่อน หรืออาจจะหารอยรั่ว โดยวธิ ียกเอาระบบไปแช่น้าแลว้ สงั เกตรอยรั่ว ถา้ ไม่สามารถที่จะยกท้งั ระบบ ไดใ้ หใ้ ชว้ ธิ ีตดั เอาแต่ละส่วน เช่น เอาเฉพาะคอนเดนเซอร์อดั แกส๊ ไนโตรเจน แลว้ ใหเ้ อาไปแช่น้า หารอยร่ัว แลว้ ตอ่ ไปก็ที่อีวาโปเรเตอร์ เป็นตน้ ขอ้ ควรระวงั ในการใชว้ ธิ ีดงั กล่าว คือ ตอ้ งไม่ใหน้ ้า หรือหยดน้าเขา้ ไปตกอยใู่ นระบบได้ เพราะจะทาใหร้ ะบบมีความช้ืน ตูเ้ ยน็ จะไม่เยน็ และอาจทาให้ เกิดตนั ความช้ืนในทอ่ รูเขม็ ไดรเออร์แบบเช่ือม จะมีขนาดท่อ 1/4\" โผล่ไวส้ าหรับทาแฟลร์นตั และทาแบบ ยเู นียน 1/4\" เพ่อื ตอ่ เขา้ สายเกจวดั ทางดา้ นความดนั สูง ถา้ ตอ้ งการจะวดั แรงดนั ทางดา้ นความดนั สูง แตถ่ า้ ไม่ตอ้ งการวดั อาจไม่ตอ้ งทาท่อแฟลร์นตั และยเู นียนโดยทาการปิ ดปลายไว้ ในการบรรจุสาร- ทาความเยน็ ของตูเ้ ยน็ โดยทว่ั ไปช่างซ่อมจะไม่นิยมต่อ นอกจากไดบ้ รรจุสารทาความเยน็ แลว้ เกิด ปัญหาไม่เยน็ อาจตอ้ งต่อวดั ใหม่ ระบบตูเ้ ยน็ ท่ีใชไ้ ดรเออร์แบบแฟลร์นตั จะไม่มีท่อ 1/4\" ถา้ หาก

248 ตอ้ งการต่อวดั เกจทางดา้ นความดนั สูงตอ้ งต่อแยก 3 ทางตรงท่อทางอดั ก่อนจะต่อเขา้ คอนเดนเซอร์ การตรวจหารอยร่ัวในตูเ้ ยน็ แสดงดงั รูปท่ี 3-5 ไดรเออร์ อีวาโปเรเตอร์ คอนเดนเซอร์ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เปิ ด ปิ ด ถงั ไนโตรเจน เคร่ืองทาสุญญากาศ รูปท่ี 3-5 การตรวจหารอยรั่วในตูเ้ ยน็ 3.1.4 การดูดอากาศและความชื้นในระบบ เมื่อตรวจรอยร่ัวเรียบร้อยแลว้ ใหท้ าการปล่อย ไนโตรเจนทิ้ง ก่อนการบรรจุสารทาความเยน็ จะตอ้ งดูดอากาศและความช้ืนท่ีเป็ นอุปสรรคของการ ทาความเยน็ ออกก่อน ออกซิเจนในอากาศอาจทาใหเ้ กิดเขม่า (Oxide) ข้ึนภายในได้ ความช้ืนหากมี ในระบบจะทาให้เกิดการตนั ความช้ืนในระบบดว้ ย เนื่องจากภายในระบบมีความช้ืน คือมีละออง ไอน้า เมื่อรวมอยกู่ บั สารทาความเยน็ ในท่อรูเขม็ ตูเ้ ยน็ จะเยน็ ทาใหล้ ะอองไอน้ากลายเป็นน้าแข็งและ อุดตนั ทาใหส้ ารทาความเยน็ ท่ีฉีดเขา้ อีวาโปเรเตอร์ไดน้ อ้ ยหรือไม่มีหิมะ น้าแขง็ ที่เคยจบั ตวั บนอีวา โปเรเตอร์จะละลายเป็ นน้าทนั ที และที่อีวาโปเรเตอร์จะไม่ไดย้ นิ เสียงของสารทา-ความเยน็ ฉีดเขา้ เลย ดงั น้นั เพือ่ ขจดั ปัญหาดงั กล่าว ก่อนการบรรจุสารทาความเยน็ ทุกคร้ัง ตอ้ งปฏิบตั ิดงั น้ี 1. เปล่ียนไดรเออร์ใหม่ เพ่อื ใหม้ ีประสิทธิภาพในการดูดความช้ืนไดด้ ี

249 2. ดูดอากาศและความช้ืนออกใหห้ มดโดยใชเ้ ครื่องทาสุญญากาศ ตอ้ งใชเ้ วลาไม่ต่ากวา่ 45 นาที ลาดบั ข้นั ปฏิบตั ิ การทาสุญญากาศ แสดงดงั รูปท่ี 3-6 1. เมื่อตรวจรอยร่ัว และซ่อมเรียบร้อยแลว้ เอาถงั ไนโตรเจนออก 2. เปิ ดวาล์วทางดา้ นความดนั ต่าของเกจ และให้ปิ ดวาล์วทางดา้ นความดนั สูง ถา้ ต่อเกจท้งั ดา้ นความดนั ต่าและดา้ นความดนั สูงไว้ วาลว์ ของเกจความดนั สูงใหเ้ ปิ ดไวด้ ว้ ย 3. หมุนวาล์วทางความดนั ต่าทวนเข็มนาฬิกาเบา ๆ เพ่ือใหแ้ ก๊สไนโตรเจนได้ ไหลผา่ นคอมเปานดเ์ กจและสายเกจเส้นกลาง 4. เอาเคร่ืองทาสุญญากาศมาต่อแทนท่อไนโตรเจน โดยจะตอ้ งให้ท่อทางดูด ของเครื่องทาสุญญากาศเขา้ กบั สายเกจเส้นกลาง 5. หมุนวาลว์ ทางคอมเปานดเ์ กจเปิ ดใหห้ มดแบบทวนเข็มนาฬิกา 6. เดินเคร่ืองทาสุญญากาศ โดยดูดอากาศและความช้ืน อยา่ งนอ้ ย 45 นาที 7. สังเกตคอมเปานดเ์ กจเข็มช้ีต่าลงจาก 0 ไปเป็ นสเกลทาสุญญากาศต่าลงไปถึง 29 นิ้วปรอท 8. เม่ือเดินเคร่ืองทาสุญญากาศ นานประมาณ 15 นาที ให้ทาการปิ ดวาล์วที่เกจ ท้งั ดา้ นความดนั ต่าและดา้ นความดนั สูง หลงั จากน้นั จึงเอาสารทาความเยน็ ท่ีจะตอ้ งบรรจุต่อเขา้ แลว้ เปิ ดวาลว์ ทางดา้ นความดนั ต่าของเกจ ใหส้ ารทาความเยน็ ไหลเขา้ ระบบจนเกจช้ีที่ 0 psig 9. ปิ ดวาล์วทางด้านความดันต่าของเกจ เอาเคร่ืองทาสุญญากาศมาต่อเพื่อ ทาสุญญากาศใหม่อีก ใชเ้ วลาไม่ต่ากวา่ 45 นาที และเขม็ ของเกจช้ีต่ากวา่ 29 นิ้วปรอท 10. ขณะทาสุญญากาศ ให้เอาหลอดไฟขนาด 100 วตั ต์ ใส่ให้ความร้อนกบั อีวาโปเรเตอร์ และเอาหวั เชื่อมแก๊สเป่ าให้ความร้อนอ่อน ๆ กบั คอนเดนเซอร์ ท้งั น้ีเพ่ือให้ความช้ืน หรือละอองไอน้าที่มีอยใู่ นระบบระเหยกลายเป็นไอ และถูกเครื่องทาสุญญากาศดูดทิ้งไป 11. เมื่อทาสุญญากาศรวม 45 นาที เข็มของเกจทางดา้ นความดนั ต่า จะช้ีลงต่า กวา่ 29 นิ้วปรอทแลว้ ใหท้ าการปิ ดวาลว์

250 อีวาโปเรเตอร์ ท่อรูเขม็ ท่อทางอดั 1/4\"1/4\" คอนเดนเซอร์ แลกเปล่ียน ความร้อน ท่อทางดูด5/51/61\" 6\" 1/14/4\" มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แฟลร์นทั ไดรเออร์ เปิ ด เปิ ด เคร่ืองทาสุญญากาศ รูปที่ 3-6 การทาสุญญากาศ 3.1.5 การบรรจุสารทาความเยน็ ใหพ้ จิ ารณาหรือสังเกตลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. ดูเกจท่อทางดูด เพ่ือให้มีแรงดนั เท่ากบั อุณหภูมิของอีวาโปเรเตอร์ แผนภูมิ องศาและชนิดสารทาความเยน็ R-12 แสดงดงั ตารางท่ี 3-1 เช่น ถา้ บรรจุสารทาความเยน็ ตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่ โดยใชส้ ารทาความเยน็ R-12 โดยในแผนภูมิไดบ้ อกไวว้ า่ ที่อุณหภูมิอีวาโปเรเตอร์ 0˚F แรงดนั ทาง- ดูด จากกราฟแกนต้งั จะอ่านค่าได้ 24 psia ซ่ึงจะมีค่าเท่ากับ 9 psig โดยทวั่ ไปจะใช้เกณฑ์เฉล่ีย ระหวา่ ง 8-12 psig ถือวา่ ใชไ้ ด้ โดยดูเกจดา้ นความดนั ต่า

251 ตารางท่ี 3-1 แสดงแผนภูมิองศาและชนิดสารทาความเยน็ R-12 (psia) 24 psia หรือ 9 psig 0˚F ท่ีมา : http://www.engr.siu.edu/staff/weston/me401/lab_handouts/ph_r3.jpg

252 อีวาโปเรเตอร์ ท่อรูเขม็ ท่อทางอดั 1/4\" คอนเดนเซอร์ แลกเปล่ียน ความร้อน ท่อทางดดู 5/16\" 1/4\" มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แฟลร์นตั ไดรเออร์ เกจแมนนิโฟลด์ เปิ ด/ปิ ด ปิ ด สารทาความเยน็ R-12 ไล่อากาศในสายเกจบริเวณน้ีก่อน รูปที่ 3-7 การบรรจุสารทาความเยน็ ถา้ เป็ นการบรรจุสารทาความเยน็ ของเครื่องปรับอากาศ ตอ้ งใชส้ ารทาความเยน็ R-22 แผนภูมิองศา และชนิดของสารทาความเยน็ R-22 แสดงดงั ตารางท่ี 3-2 ไดก้ าหนดค่าอุณหภูมิ อีวาโปเรเตอร์ 40˚F คือ อยูเ่ หนือกว่าจุดเยือกแข็ง 32˚ เพ่ือไม่ให้มีน้าแข็งเกาะ แรงดนั ทางดูดจาก กราฟแกนต้งั จะอา่ นค่าได้ 83 psia ซ่ึงจะมีค่าเทา่ กบั 9 psig ซ่ึงเกณฑเ์ ฉล่ียท่ีดูจากเกจในการบรรจุสาร ทาความเยน็ ใหอ้ ยปู่ ระมาณ 68-75 psig ถือวา่ ใชไ้ ด้ 2. ดูเกจทางอดั ใหท้ าเช่นเดียวกบั เกจทางดูดแตส่ าหรับเกจทางอดั สาหรับเครื่อง- ทาความเยน็ ที่ไม่สามารถต่อท่อวดั เกจทางอดั ได้ ตอ้ งใชเ้ ทอร์โมมิเตอร์ วดั จากทางอดั หรือทางเขา้ คอนเดนเซอร์และทางออกก่อนเขา้ ไดรเออร์ แลว้ นาเกณฑ์เฉล่ียของอุณหภูมิท่ีหาได้มาเทียบกบั แผนภูมิวา่ ใกลเ้ คียงหรือไม่ ถา้ ใกลเ้ คียงกถ็ ือวา่ ใชไ้ ด้

253 ตารางที่ 3-2 แสดงแผนภูมิองศาและชนิดสารทาความเยน็ R-22 83psiaหรือ68psig 40˚F ที่มา : http://hvac-talk.com/vbb/showthread.php?692101-Diagram-for-R22

254 3. ดูกระแสปกติของเคร่ืองทาความเยน็ ขณะท่ีทาการบรรจุสารทาความเย็น ตอ้ งใชก้ ระแสเท่ากบั กระแสปกติ โดยใชแ้ คลมป์ แอมมิเตอร์วดั แลว้ พิจารณาวา่ ถา้ กระแสสูงมาก แสดงวา่ ทางความดนั สูงผดิ ปกติ ถา้ กระแสต่ามาก แสดงวา่ ทางความดนั ต่าผดิ ปกติ ซ่ึงกระแสของ เครื่องทาความเยน็ น้ีสาคญั มาก ตอ้ งบรรจุสารทาความเยน็ ไม่ให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใชก้ ระแส เกินกวา่ กระแสสูงสุดของเคร่ืองทาความเยน็ มิฉะน้นั จะทาให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ร้อนจดั และ โอเวอร์โหลดอาจตดั ได้ เม่ือหยุดเคร่ืองแลว้ ให้เริ่มทางานใหม่ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์จะสตาร์ต ไม่ออก การบรรจุสารทาความเยน็ ถา้ บรรจุมากเกินไป จะทาใหม้ อเตอร์คอมเพรสเซอร์ใชก้ ระแสสูง 4. ดูฟรอสไลน์ คือ หิมะน้าแข็งท่ีจบั ทวั่ อีวาโปเรเตอร์ ซ่ึงในขณะที่บรรจุสาร- ทาความเยน็ จะตอ้ งบรรจุสารทาความเยน็ จนกระทงั่ ฟรอสไลน์จบั หมดทวั่ อีวาโปเรเตอร์แลว้ และจบั ต่าลงมาจากทางออกของอีวาโปเรเตอร์อยา่ งน้อย 8\" หรือสังเกตท่อทางดูดที่ออกจากอีวาโปเรเตอร์ จะตอ้ งมีหิมะน้าแขง็ จบั กไ็ ด้ 5. ดูกระจกที่ดูสารทาความเยน็ คือ ในระบบเครื่องทาความเยน็ บางระบบจะตอ่ กระจกท่ีดูสารทาความเยน็ ไวท้ ่ีทอ่ สารทาความเยน็ เหลว ถา้ บรรจุสารทาความเยน็ เตม็ พอดี จะไมม่ ี ฟองแก๊สไหลผา่ นกระจกที่ดูสารทาความเยน็ คือ จะเห็นเป็ นลกั ษณะเหมือนน้าใส ๆ แต่ถา้ สารทา- ความเยน็ ไม่เตม็ หรือคอนเดนเซอร์ระบายไม่ดี จะมีฟองแกส๊ ไหลผา่ นกระจก ในระบบตูเ้ ยน็ จะไม่มี ท่ีดูสารทาความเยน็ ต่อไว้ 6. ดูจากน้าหนกั ของสารทาความเยน็ ที่บรรจุเขา้ ไป คือ ที่แผน่ ป้ายขา้ งหลงั ตูเ้ ยน็ จะบอกปริมาณที่ตอ้ งบรรจุสารทาความเยน็ เขา้ ไปในระบบจานวนกี่ปอนด์ โดยเอาสารทาความเยน็ ในถงั ท้งั หมดก่อนจะบรรจุข้ึนชงั่ ก่อนแลว้ จดไว้ ขณะบรรจุสารทาความเยน็ เขา้ ไปน้าหนกั ของสาร- ทาความเยน็ ท่ีลดลงไป คือ สารทาความเยน็ ท่ีบรรจุเขา้ ไปในระบบนนั่ เอง ในการบรรจุสารทาความเยน็ เขา้ ตูเ้ ยน็ อาจจะใช้ 3 วธิ ี ดงั น้ี 1. ดูฟรอสไลน์ก่อนวา่ หิมะน้าแขง็ จบั เตม็ อีวาโปเรเตอร์หรือยงั ถา้ จะให้ไดผ้ ลดี ควรหาโหลด เช่น น้าขวด ใส่แช่ในอีวาโปเรเตอร์ดว้ ย 2. ดูกระแสปกติอยา่ ให้เกินกาลงั ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เช่น ใช้มอเตอร์ คอมเพรสเซอร์ขนาด 1/8 แรงมา้ กระแสปกติไมค่ วรเกิน 0.95A เป็นตน้ 3. ดูเขม็ ของเกจ ทางดา้ นความดนั ต่า หากอีวาโปเรเตอร์มีอุณหภูมิ 0˚F ที่เขม็ ของ เกจดา้ นความดนั ต่าจะอยทู่ ่ี 9 psig ใหส้ งั เกตที่เขม็ ของเกจทางดา้ นความดนั ต่า มีค่าอยปู่ ระมาณ 8-12 psig เม่ือเปิ ดเคร่ืองไปนาน ๆ จนกระทงั่ อีวาโปเรเตอร์เยน็ จดั ระดบั อุณหภูมิของอีวาโปเรเตอร์ต่า กวา่ 0˚F เขม็ ของเกจทางดา้ นความดนั ต่าจะช้ีต่าลงมาอีก

255 3.2 การเชื่อมปิ ดระบบ การตรวจวงจรไฟฟ้า และการเปลยี่ นมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่ 3.2.1 การเช่ือมปิ ดท่อหลังจากบรรจุสารทาความเย็นแล้ว หลงั การบรรจุสารทาความ- เยน็ จนกระทง่ั อีวาโปเรเตอร์ของตูเ้ ยน็ เยน็ จนทว่ั ถา้ ทุกอยา่ งปกติ ลองปิ ดเทอร์โมสแตต และปล่อย ให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์หยดุ ทางานประมาณ 10-15 นาที แลว้ เปิ ดเทอร์โมสแตตใชแ้ คลมป์ แอม- มิเตอร์เพ่ือวดั กระแสขณะสตาร์ต ถา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์สตาร์ตปกติ คือ สตาร์ตง่ายและเร็ว แสดงวา่ ทุกอยา่ งปกติตอ้ งเชื่อมปิ ดระบบท่อท่ีต่อเกจทางดา้ นความดนั ต่า การเชื่อมปิ ดระบบควรทา ขณะมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางาน โดยการเช่ือมปิ ดระบบทางดา้ นความดนั ต่าในขณะท่ีคอมเพรส- เซอร์ทางาน แรงดนั ของสารทาความเยน็ ดา้ นความดนั ต่า จะต่ากว่าตอนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ หยุดทางาน ท้งั น้ี เพื่อสะดวกและง่ายต่อการบีบท่อก่อนเช่ือมปิ ดระบบ แต่ถา้ ตอ้ งการเชื่อมปิ ด ระบบท่อเกจดา้ นความดนั สูง จะตอ้ งหยุดการทางานของเครื่องทาความเยน็ ก่อน แลว้ รอจนกว่า ความดนั ดา้ นแรงดนั สูงลดต่าลงจนเท่ากบั ความดนั ดา้ นแรงดนั ต่า จึงทาการเชื่อมปิ ดระบบได้ ลาดับข้นั ปฏิบัติ ในการเชื่อมปิ ดท่อทางบรรจุสารทาความเยน็ 1. ใช้คีมบีบท่อ โดยบีบที่ตรงท่อบริการสารทาความเยน็ ขนาด 1/4\" ที่ทาไว้ ระหวา่ งมอเตอร์คอมเพรสเซอร์และสายเกจ ตอ้ งพยายามบีบใหแ้ น่น เพื่อไมใ่ หส้ ารทาความเยน็ จาก มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหลผา่ นไปยงั สายเกจได้ 2. ให้คลายสายเกจ ตรงเกลียวของสายเกจที่ตวั วาล์วดา้ นความดนั ต่า เพ่ือที่จะ ทาให้สารทาความเยน็ ในสายเกจดา้ นความดนั ต่าออกไปให้หมด เข็มของเกจทางดา้ นความดนั ต่า ช้ีที่เลข 0 psig แลว้ หมุนเกลียวใหม่ใหแ้ น่น โดยสังเกตเข็มของเกจยงั ข้ึนจาก 0 ข้ึนไดอ้ ีก แสดงว่า บีบท่อไม่แน่น ยงั มีสารทาความเยน็ จากมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหลมาท่ีสายเกจไดอ้ ีก 3. ตอ้ งบีบท่อให้แน่นจนแน่ใจวา่ ไม่มีสารทาความเยน็ จากมอเตอร์คอมเพรส- เซอร์ไหลเขา้ สายเกจอีก 4. ใชค้ ตั เตอร์ตดั ท่อ โดยตดั ใหห้ ่างจากคีมบีบไปทางสายเกจประมาณ 1\" แลว้ ใช้ ลวดเชื่อมเงินเชื่อมปิ ด 5. เมื่อเสร็จแลว้ ให้เอาคีมบีบออก และให้เอาฟองน้ายาลา้ งจานมาหยดท่ีรอย เชื่อมปิ ดวา่ รั่วหรือไม่ ถา้ ไมร่ ั่วก็สามารถนาตูเ้ ยน็ ไปใชง้ านได้ ในกรณีท่ีมีท่อต่อวดั เกจดา้ นความดนั สูง ก็ทาวธิ ีเดียวกนั แต่ควรจะทาขณะปิ ด มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เพราะสะดวกในการบีบท่อ 3.2.2 การเลือกขนาดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ให้ได้ขนาดของขนาดตู้เย็น ในกรณีที่ ตอ้ งการเปลี่ยนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่ ตอ้ งเลือกขนาดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหไ้ ดข้ นาดกบั

256 ของตูเ้ ยน็ มิฉะน้นั จะเกิดปัญหาตูเ้ ยน็ เยน็ ไม่ทวั่ ถึง มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ร้อน มอเตอร์คอมเพรส- เซอร์สตาร์ตไม่ได้ เป็นตน้ ในการเลือกขนาดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เพ่ือให้ใชไ้ ดก้ บั ตูเ้ ยน็ ทุกยีห่ อ้ โดยจะเทียบกบั ขนาดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ของยี่ห้อเทคมั เช่ ประเทศสหรัฐอเมริกา การใชต้ ารางการเลือก ขนาดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ อาจนาไปใช้สาหรับมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ที่มิใช่ยี่ห้อเทคมั เช่ก็ได้ เช่น ตอ้ งการเปล่ียนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ของตูเ้ ยน็ ขนาด 6 คิว ก็ซ้ือมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ยี่ห้อ อะไรก็ไดท้ ่ีมีขนาด 1/8แรงมา้ ขณะที่บรรจุสารทาความเยน็ หา้ มไม่ให้กระแสเกินกวา่ 0.95 A การเลือก ขนาดคอมเพรสเซอร์ แสดงดงั ตารางที่ 3-3 ตารางท่ี 3-3 แสดงการเลือกขนาดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์ แรงมา้ กาลงั ไฟฟ้า กระแส ขนาดตูเ้ ยน็ คอมเพรสเซอร์ (วตั ต)์ (แอมป์ ) (คิว) (รุ่น) 4.5-5.5 6-7 AE 1332 A 1/12 , 1/10 82 0.75 8-9 9.5-10 AE 1337 A 1/8 105 0.95 11-13 14-16 AE 1343 A 1/6 125 1.10 AE 1360 A 1/5 170 1.40 AE 1380 A 1/4 270-320 2.2-2.3 AE 1415 A 1/3 450 3.0 ท่ีมา : เคร่ืองทาความเยน็ และปรับอากาศรถยนต์ (สนอง อ่ิมเอม. 2547 : 350) 3.2.3 การแลกเปลี่ยนความร้อน คือ การถ่ายเทความร้อนของแก๊ส ท่ีออกจากคอนเดน- เซอร์ ผา่ นท่อรูเขม็ เพื่อทาให้แก๊สท่ีไหลเขา้ ไปในท่อรูเขม็ กลายเป็ นของเหลว ก่อนที่จะส่งเขา้ ไปยงั อีวาโปเรเตอร์ ปกติเม่ือเคร่ืองทาความเยน็ ไดร้ ับการบรรจุสารทาความเยน็ เตม็ ท่ีแลว้ มีการทางาน ตามปกติ แตถ่ า้ อุณหภูมิสูงข้ึนอากาศร้อนข้ึนคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนไดไ้ ม่ดี แก๊สที่ไหลผา่ น และออกจากตวั คอนเดนเซอร์จะเป็ นของเหลวไม่หมด ดงั น้นั เม่ือผา่ นคอนเดนเซอร์ไปแลว้ จะมีท้งั แก๊สและของเหลวท่ีไหลเขา้ ท่อรูเข็ม และทาให้ปริมาณของสารทาความเยน็ เหลว ท่ีฉีดเขา้ ไปใน อีวาโปเรเตอร์น้อยลง จนดูเหมือนวา่ สารทาความเยน็ น้อย และอีวาโปเรเตอร์จะเยน็ ไม่ทว่ั ถึง ถา้ ทา การแลกเปลี่ยนความร้อน โดยการเอาท่อรูเขม็ แนบติดกบั ท่อทางดูดซ่ึงเยน็ กวา่ แลว้ แก๊สท่ีผา่ นท่อ รูเขม็ เม่ือไดร้ ับความเยน็ กจ็ ะกลนั่ ตวั เป็นของเหลว ปลายทอ่ รูเขม็ ดา้ นทางเขา้ ของอีวาโปเรเตอร์ จะมี สารทาความเยน็ เหลวฉีดเขา้ อีวาโปเรเตอร์หมด ทาใหอ้ ีวาโปเรเตอร์เยน็ ตลอด

257 3.2.4 การซ่อมตู้เยน็ และตู้แช่ในกรณเี กิดการอุดตันในระบบ ในระบบสารทาความเย็น ของตูเ้ ยน็ และตูแ้ ช่เกิดการอุดตนั หมายถึง การอุดตนั ในท่อรูเขม็ ซ่ึงเป็นท่อท่ีเล็กมาก โดยอาการตนั ที่เกิดข้ึนจะทาให้ตูเ้ ยน็ และตูแ้ ช่มีความเยน็ นอ้ ยลง คือ อีวาโปเรเตอร์มีหิมะน้าแขง็ จบั นอ้ ย จบั ไม่เต็ม หรือบางส่วนของอีวาโปเรเตอร์มีหยดน้าจบั มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางานนานเกินไป เทอร์โม- สแตตไม่ตดั หรือถา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางานนาน ตวั โอเวอร์โหลดท่ีต่อในวงจรมอเตอร์คอม- เพรสเซอร์ก็จะตดั เน่ืองจากมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใชก้ ระแสสูงเกินไปหรือร้อนจดั เกินไป การตนั ในระบบของตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่ ที่ใชท้ อ่ รูเขม็ เป็นตวั ควบคุมสารทาความเยน็ น้นั มี 3 ชนิดคือ 1. การตนั เนื่องจากมีผงอุดท่อรูเข็ม ในการซ่อมตูเ้ ยน็ และตูแ้ ช่ ผซู้ ่อมจะทาให้ ระบบไมส่ ะอาด มีเศษโลหะจากการเชื่อมโลหะจากการตดั ท่อ หรือจากเศษชิ้นส่วนของลวดท่ีใชใ้ น มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ หลุดผา่ นตวั กรองเขา้ ไปอยูท่ ่อรูเข็ม จะทาให้สารทาความเยน็ จากคอนเดน- เซอร์ผา่ นเขา้ ไปในท่อรูเขม็ และฉีดเขา้ ไปในอีวาโปเรเตอร์นอ้ ย เน่ืองจากท่อรูเขม็ ตนั ทาให้อีวาโป- เรเตอร์เยน็ ไม่ทวั่ ถึง คลา้ ยมีสารทาความเยน็ น้อยไป และมอเตอร์คอมเพรสเซอร์จะทางานหนัก เน่ืองจากปริมาณสารทาความเยน็ ท่ีอดั ออกทางคอนเดนเซอร์ ไม่สามารถส่งผา่ นทอ่ รูเขม็ ไปไดห้ มด ทาใหแ้ รงดนั ทางอดั ข้ึนสูงกวา่ ปกติ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์จะร้อนและใชก้ ระแสสูง กรณีเช่นน้ี ถา้ หากมีการต่อเกจวดั แรงดนั ทางดูดจะต่ามากอาจจะลงเป็นนิ้วปรอท 2. การตนั เนื่องจากท่อรูเข็มคด อาการของการตนั เช่นน้ี จะเกิดเมื่อท่อรูเข็ม ถูกของหนกั ทบั หรือเกิดจากการหกั งอไปมา หรือบิดเป็นเกลียว มีอาการเช่นเดียวกบั แบบผงอุด คือ ปริมาณสารทาความเยน็ ท่ีจะฉีดเขา้ อีวาโปเรเตอร์นอ้ ยลง ทาใหอ้ ีวาโปเรเตอร์เยน็ ไมท่ ว่ั ถึง และตวั มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ร้อนจดั และทางานนาน เทอร์โมสแตตไมต่ ดั แตต่ วั โอเวอร์โหลดจะตดั ทาให้ ใชก้ ระแสสูง แรงดนั ทางอดั สูง และแรงดนั ทางดูดจะลงต่าจาก 0 อาจเป็นนิ้วปรอท 3. การตนั เน่ืองจากในระบบมีความช้ืน หรือละอองไอน้าท่ีมีอยใู่ นระบบ เนื่อง- จากการดูดอากาศหรือดูดความช้ืนออกไม่หมด ในขณะท่ีทาการทาสุญญากาศน้นั จะเกิดปัญหาข้ึน เมื่อความช้ืนท่ีสะสมอยใู่ นท่อรูเข็ม เมื่อเริ่มจ่ายไฟฟ้าเขา้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ของตูเ้ ยน็ ใหม่ ๆ ท่อรูเข็มจะโล่ง ไม่มีส่ิงอุดตนั และต่อไปเมื่อท่อรูเข็มไดฉ้ ีดสารทาความเยน็ เขา้ ไปใน อีวาโปเรเตอร์ จนกระทง่ั อีวาโปเรเตอร์เยน็ ทวั่ ถึง ต่อมาละอองไอน้า หรือความช้ืนท่ีมีอยูใ่ นท่อรูเขม็ จะจบั ตวั แข็ง เป็ นเกล็ดน้าแขง็ เล็ก ๆ อยูภ่ ายในท่อรูเขม็ ทาใหป้ ริมาณของสารทาความเยน็ ท่ีฉีดเขา้ ไปในอีวาโป- เรเตอร์น้อยลง ฟรอสไลน์ในอีวาโปเรเตอร์ก็จะหดเขา้ ทาให้หิมะน้าแข็งเกิดการละลายและ บางส่วนก็กลายเป็ นหยดน้า และมีหิมะน้าแขง็ จบั ในอีวาโปเรเตอร์ ส่วนท่ีใกลท้ างออกของท่อรู เข็มเท่าน้นั ถา้ หากละอองไอน้าหรือความช้ืนมีมาก อาจจะเกิดการตนั อยา่ งสนิท และไม่มีหิมะ

258 น้าแข็งจบั ท่ีอีวาโปเรเตอร์ มีแต่หยดน้าเกาะอยเู่ พียงเท่าน้นั และเมื่อลองเอาใบหูแนบกบั ตวั อีวาโป- เรเตอร์ จะไม่ไดย้ นิ เสียงฉีดของสารทาความเยน็ ในกรณีท่ีต่อเกจวดั แรงดนั ทางดูดอยแู่ ลว้ จะสังเกต ไดว้ า่ ในขณะที่มอเตอร์คอมเพรสเซอร์เร่ิมทางาน จะมีเสียงฉีดสารทาความเยน็ และเขม็ ของเกจดา้ น ความดนั ต่าจะช้ีอยรู่ ะหวา่ ง 8-12 psig แต่พอเกิดเกลด็ น้าแขง็ ในท่อรูเขม็ เสียงฉีดจะนอ้ ยลง เขม็ ของ เกจจะช้ีทางดา้ นความดนั ต่า ช้ีต่าลงมาจนถึงนิ้วปรอท ซ่ึงบางคนคิดวา่ สารทาความเยน็ นอ้ ย ถา้ เติม สารทาความเยน็ ต่อไปก็ไม่มีผล เพราะเขม็ ดา้ นความดนั ต่าช้ีต่าลงจาก 0 psig นิ้วปรอทอยูต่ ลอดเวลา และอาจทาใหเ้ กิดสารทาความเยน็ มากไป มอเตอร์คอมเพรสเซอร์อาจชารุดเสียหายได้ 4. การซ่อมตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่ ในกรณีเกิดการตนั เนื่องจากระบบมีความช้ืน เมื่อนาตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่มาจา่ ยกระแสไฟฟ้า ปรากฏวา่ ระบบไฟฟ้าทางาน คือมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางานปกติ ตอ่ มา มีหิมะน้าแขง็ จบั เกือบเตม็ อีวาโปเรเตอร์และละลายกลายเป็นน้าหมดหรือมีหิมะน้าแขง็ เกาะเป็ นกลุ่ม อยทู่ างออกของทอ่ รูเขม็ เท่าน้นั แสดงวา่ ตูเ้ ยน็ ตนั ความช้ืน ควรดาเนินการซ่อมดงั น้ี ลาดบั ข้นั การซ่อมเน่ืองจากการตันความชื้น (1) หยุดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ เปิ ดประตูตูเ้ ยน็ หรือตูแ้ ช่ ให้พิจารณาที่ อีวาโปเรตอร์ (2) ให้ฟังเสียงสารทาความเยน็ ท่ีไหลเขา้ อีวาโปเรเตอร์ ถา้ ไดย้ ินเสียงสาร- ทาความเยน็ ฉีดอยู่ แสดงวา่ ระบบไม่ตนั แตถ่ า้ ไมม่ ีเสียง สนั นิฐานเบ้ืองตน้ ไดว้ า่ ระบบอาจจะตนั ความช้ืน (3) จากขอ้ (2) ถา้ ไม่ไดย้ นิ เสียงสารทาความเยน็ ฉีดให้เอาไมข้ ีดจุดไฟแลว้ ลนบริเวณทางออกของท่อรูเข็มท่ีมีหิมะน้าแข็งจบั เป็ นกลุ่ม หรือลนที่ท่อรูเข็มท้งั เส้นในบริเวณที่ สงสยั วา่ มีเกลด็ น้าแขง็ อุดตนั อยู่ ซ่ึงถา้ ตนั ความช้ืนน้าแข็งจะละลาย (4) การซ่อมอาจทาไดโ้ ดย (ก) เปลี่ยนทอ่ รูเขม็ ใหม่โดยดูจากขนาดแรงมา้ ของมอเตอร์คอมเพรส- เซอร์ (ข) ตอ้ งถอดตวั อีวาโปเรเตอร์ มาต่อท่อ 1/4\" ทาบานแฟลร์แลว้ ใส่ แฟลร์นตั และยูเนียนต่อสายเกจเขา้ แลว้ อดั ไนโตรเจนเขา้ ไปในอีวาโปเรเตอร์เอามืออุดอีกดา้ นหน่ึง ของท่ออีวาโปเรเตอร์ โดยอุดและปล่อยใหแ้ กส๊ ไนโตรเจนเขา้ ไปไล่ความช้ืนออกจากอีวาโปเรเตอร์ อาจจะใชค้ วามร้อนจากถงั เช่ือมแกส๊ ออ่ น ๆ ไล่ใหค้ วามช้ืนกลายเป็นไอดว้ ยก็ได้ (ค) ต่อทอ่ รูเขม็ ใหม่เขา้ อีวาโปเรเตอร์และติดต้งั เขา้ ไปใหม่ (ง) ใชแ้ ก๊สไนโตรเจนตอ่ เขา้ ไปไล่ความช้ืนในคอนเดนเซอร์

259 (จ) เปล่ียนไดรเออร์ตวั ใหม่ (ฉ) ทาท่ีบรรจุสารทาความเยน็ ตอ่ เขา้ ไปและเอาเกจมาต่อ (ช) ตรวจรอยรั่ว โดยการใชแ้ ก๊สไนโตรเจนเติมเขา้ ไป (ซ) เม่ือไม่พบรอยร่ัวใหเ้ อาเคร่ืองทาสุญญากาศมาทาสุญญากาศคร้ังน้ี ควรจะทาสุญญากาศให้นาน ๆ และใชค้ วามร้อนไล่ความช้ืนในคอนเดนเซอร์ท่อทางดูด และท่อรู- เข็มใหม่ ใส่หลอดไฟ 100 วตั ต์ เพื่อไล่ความช้ืนในอีวาโปเรเตอร์ออกดว้ ย และให้ทาสุญญากาศ ประมาณ 1 ชวั่ โมง แลว้ เอา R-12 อดั เขา้ ไปจนเกจทางดา้ นความดนั ต่าช้ี 0 psig แลว้ จึงทาสุญญากาศ ใหม่อยา่ งนอ้ ย 45 นาที (ฌ) ดาเนินการบรรจุสารทาความเยน็ (5) ในกรณีที่อีวาโปเรเตอร์ มีท่อรูเข็มสอดใส่เขา้ ไปภายในท่อทางดูดไม่ สามารถเปล่ียนท่อรูเขม็ ไดจ้ ึงควรทาดงั น้ี (ก) ใช้หัวเช่ือมแก๊สเป่ าเอาท่อทางดูด ให้ออกจากตวั มอเตอร์คอม- เพรสเซอร์ (ข) ใชห้ วั เชื่อมแก๊สเป่ าเอาท่อรูเขม็ ออกจากไดรเออร์ (ค) เอาท่อ 1/4\" บานแฟลร์ ใส่แฟลร์นทั และยเู นียน 1/4\" เอาปลายอีก ขา้ ง เช่ือมต่อเขา้ ทางท่อทางดูดของอีวาโปเรเตอร์ แลว้ อดั แกส๊ ไนโตรเจนสูง ๆ เขา้ ไปโดยต่อเกจเขา้ ทางแฟลร์นตั และยเู นียน ใหแ้ กส๊ ไนโตรเจนออกทางปลายของท่อรูเขม็ และควรใหค้ วามร้อนอ่อน ๆ กบั วาโปเรเตอร์ดว้ ย (ง) ใชแ้ กส๊ ไนโตรเจนไล่ความช้ืนในคอนเดนเซอร์ (จ) ทาท่อบรรจุสารทาความเยน็ โดยใชท้ ่อ 1/4\" บานแฟลร์และใส่ แฟลร์นตั และยเู นียน 1/4\" (ฉ) ต่อเกจแมนนิโฟลด์ทางดา้ นความดนั ต่า แลว้ อดั สารไนโตรเจน ตรวจรอยร่ัว (ช) ทาสุญญากาศให้นานที่สุด (ซ) บรรจุสารทาความเยน็ R-12 การซ่อมตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่ ในกรณีเกิดอุดตนั เนื่องจากเศษผงหรือท่อรูเข็มงอ ใชว้ ิธีการเดียวกนั กบั การซ่อมในกรณีตนั ความช้ืน คือ ตอ้ งเปล่ียนทอ่ รูเขม็ แลว้ ดาเนินการซ่อมแบบเดียวกนั ขอ้ สาคญั ในการซ่อมตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่ ถา้ มีการทาสุญญากาศและบรรจุสารทาความเยน็ ใหม่ ตอ้ งเปล่ียนไดรเออร์ ใหมท่ ุกคร้ัง

260 3.2.5 การซ่อมตู้เยน็ และตู้แช่ กรณีมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ชารุด มี 2 กรณี ดงั น้ี 1. ขดลวดภายในไหม้ หรือเกรียมทาให้สตาร์ตไม่ออก หรือสตาร์ตออกแต่ขณะ ทางานจะใชก้ ระแสสูง โอเวอร์โหลดตดั ใหท้ าการเปลี่ยนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่ 2. ขดลวดภายในดี แต่ลิ้นมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไม่ดูด ไม่อดั หรือดูดอดั แต่ นอ้ ยมาก (ใหด้ ูเพมิ่ เติมในขอ้ 3.1.1 และขอ้ 3.1.2) ในกรณีที่มอเตอร์คอมเพรสเซอร์อดั ไมเ่ ตม็ ท่ี ทา ให้อีวาโปเรเตอร์ กิดมีหิมะ หรือน้าแข็งเกาะบาง ๆ แต่ถา้ วดั อุณหภูมิของอีวาโปเรเตอร์ และมี อุณหภูมิสูง และเยน็ ไม่ถึงจุดที่เทอร์โมสแตตตดั ทาให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางานนานเกินไป เราอาจทดสอบได้ โดยใชฝ้ ่ ามือวางลงบนอีวาโปเรเตอร์ประมาณ 2-3 นาที แลว้ ยกมือออกเพื่อดูอีวา- โปเรเตอร์ในบริเวณที่เอามือสมั ผสั ถา้ ละลายเป็นน้า แสดงวา่ ลิ้นของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ชารุด 3.2.6 การตรวจวงจรไฟฟ้าของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ท่ีใชใ้ น ตูเ้ ยน็ ตูแ้ ช่ จะเป็ นมอเตอร์คอมเพรสเซอร์แบบปิ ดสนิท ดงั น้นั ตวั มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ จะมีขด สตาร์ตและขดรันโผล่ออกมาขดละ 1 ปลาย ส่วนในการตรวจขดสตาร์ตและขดรันจะใชไ้ ดห้ รือไม่ น้นั เราอาจสร้างเคร่ืองมือง่าย ๆ โดยแทนท่ีจะใช้มิเตอร์ราคาแพง คือ เทสแลมป์ วงจรเทสแลมป์ แสดงดงั รูปที่ 3-8 อุปกรณ์ที่ ตอ้ งการ ทดสอบ รูปที่ 3-8 วงจรเทสแลมป์ ในการตรวจขดรันและขดสตาร์ต ซ่ึงจะตอ้ งถอดรีเลย์ และโอเวอร์โหลดของมอเตอร์ คอมเพรสเซอร์ออกเสียก่อน ดงั น้ี 1. การตรวจขดสตาร์ต (1) เสียบชุดเทสแลมป์ เขา้ กบั เมนถา้ ใชห้ ลอด 220 V ก็เสียบเขา้ กบั ไฟ 220 V (2) นาปลายขา้ งหน่ึงของเทสแลมป์ สมั ผสั ที่ข้วั สตาร์ตและอีกขา้ งหน่ึงสมั ผสั ที่ข้วั จุดต่อร่วม ซ่ึงถา้ หากหลอดไม่ติด คือ ขดสตาร์ตขาด 2. การตรวจขดรัน ทาเช่นเดียวกบั ขดสตาร์ต คือตอ่ ปลายท้งั 2 ของเทสแลมป์ เขา้ ท่ีข้วั ของจุดตอ่ ร่วม และขดรันถา้ หลอดไม่ติด คือ ขดรันขาด

261 3. การตรวจตวั โอเวอร์โหลด เป็ นตวั ป้องกนั ไมใ่ ห้ตวั คอมเพรสเซอร์ไหม้ ซ่ึงถา้ มีกระแสไหลเกิน หรือเม่ือมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ร้อนจดั เกินไป และการท่ีโอเวอร์โหลดตดั บ่อย ๆ จะทาใหโ้ อเวอร์โหลดขาดได้ ทาการตรวจโดยการใชป้ ลายท้งั 2 ของเทสแลมป์ สัมผสั ไปท่ีข้วั ท้งั 2 ของโอเวอร์โหลดถา้ หลอดติด แสดงวา่ โอเวอร์โหลดดี 3.2.7 การตรวจมอเตอร์คอมเพรสเซอร์โดยการต่อไฟโดยตรง เป็ นการตรวจมอเตอร์ คอมเพรสเซอร์ โดยทาการต่อไฟโดยตรงจากปลกั๊ เสียบเขา้ รีเลยแ์ ละโอเวอร์โหลดของมอเตอร์คอม- เพรสเซอร์ โดยไม่ไดต้ ่อสายเขา้ ไปยงั เทอร์โมสแตต ถา้ หากวา่ ไดต้ ่อวงจรตามวธิ ีดงั กล่าวแลว้ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางาน แสดงวา่ ตวั รีเลยโ์ อเวอร์โหลดและมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไม่เสีย บางคร้ังมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ อาจทางานในช่วงเวลาแรก ๆ แตพ่ อนานไปมอเตอร์คอม- เพรสเซอร์จะร้อนจดั โอเวอร์โหลดจะตดั เช่นกนั ตอ้ งหาสาเหตุวา่ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์เหตุใด จึงร้อน บางคร้ังมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใชก้ ระแสปกติ และอุณหภูมิของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ปกติ แต่โอเวอร์โหลดตดั จะตอ้ งเปลี่ยนตวั โอเวอร์โหลดตวั ใหม่ เพราะถา้ ตวั โอเวอร์โหลดเมื่อตดั บ่อยจะทาให้เสียง่าย การตรวจวงจรมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ควรใช้แคลมป์ แอมมิเตอร์ช่วยวดั ค่า กระแส เพือ่ ใหร้ ู้วา่ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใชก้ ระแสปกติหรือไม่ 3.2.8 การตรวจหลอดไฟในตู้เยน็ และสวติ ช์ประตูตู้เยน็ โดยปกติหลอดไฟในตูเ้ ยน็ จะต่อ อนุกรมกบั สวิตช์ประตูตูเ้ ยน็ หลอดไฟจะติดเมื่อประตูเปิ ด นนั่ คือ เม่ือประตูเปิ ด สวติ ช์จะต่อวงจร หลอดไฟ และเมื่อประตูปิ ด สวิตช์จะตดั วงจรหลอดไฟ ถา้ หลอดไฟไม่ติดเมื่อประตูเปิ ด ก็ควรตอ้ ง ตรวจดูหลอดไฟวา่ ขาดหรือไม่ ซ่ึงถา้ มองไมเ่ ห็น กค็ วรใชเ้ ทสแลมป์ สมั ผสั 2 ข้วั ของหลอดไฟดู ถา้ หลอดไฟดี ไฟกจ็ ะติดท้งั 2 หลอด เมื่อหลอดดี กค็ วรใชเ้ ทสแลมป์ ตรวจสวิตช์ดว้ ย โดยจะใชท้ ้งั 2 ปลายของเทสแลมป์ สัมผสั 2 ข้วั ของสวิตช์ ถา้ ตอนที่ประตูเปิ ด หลอดของเทสแลมป์ ติด สวิตช์จึง ใชไ้ ด้ 3.2.9 การเปลยี่ นตวั เทอร์โมสแตตหรือตัวควบคุมอณุ หภูมิ ควรดาเนินการดงั น้ี 1. ถอดสายไฟออกจากเทอร์โมสแตต อยา่ ลืมดึงปลกั๊ ตูเ้ ยน็ ออกก่อน 2. ดึงตวั เทอร์โมสแตตออกมา ให้คลายสายรัดหางท่อรูเข็มของเทอร์โมสแตต ที่แนบติดอยกู่ บั อีวาโปเรเตอร์ออกดว้ ย 3. เอาเทอร์โมสแตตตวั ใหม่ใส่และอยา่ ลืมเอาหางท่อรูเขม็ ของเทอร์โมสแตต แนบติดกบั ท่ออีวาโปเรเตอร์ดว้ ย ตอ้ งแน่ใจวา่ หางทอ่ รูเขม็ ของเทอร์โมสแตตที่แนบบริเวณท่ีมีหิมะ น้าแขง็ จบั ถึง เพราะถา้ หากเทอร์โสตาร์ตอยหู่ ่างจากอีเวปปอเรเตอร์ หางท่อรูเขม็ ของเทอร์โมสแตต จะไม่เยน็ และจุดสัมผสั ของเทอร์โมสแตตจะไมต่ ดั ทาใหม้ อเตอร์คอมเพรสเซอร์ทางานนานเกินไป

262 3.2.10 การซ่อมตู้เยน็ และตู้แช่ โดยการเปลี่ยนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่ เนื่องจาก ของเดิมไหมต้ อ้ งระมดั ระวงั เป็ นพิเศษ ก่อนท่ีจะเปลี่ยนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่เขา้ กบั ระบบ ตอ้ งลา้ งทาความสะอาดระบบเครื่องเย็นเสียก่อน มิฉะน้นั จะทาให้เศษ หรือเขม่าที่ติดอยู่ตามท่อ ต่าง ๆ ในระบบ กจ็ ะถูกสารทาความเยน็ นาเขา้ มาอยใู่ นมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ ซ่ึงอาจใชง้ านไดไ้ ม่ นานก็จะไหมอ้ ีก ลาดบั ข้นั ปฏิบัติ การเปลี่ยนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ใหม่ 1. เม่ือตรวจสอบแลว้ วา่ มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ไหมห้ รือลิ้นร่ัว ตอ้ งใชค้ ตั เตอร์ ตดั ท่อบรรจุสารทาความเยน็ เพ่ือปล่อยสารทาความเยน็ ในระบบทิ้งเสียก่อน การใชค้ ตั เตอร์ตดั ท่อ บรรจุสารทาความเยน็ แสดงดงั รูปที่ 3-9 รูปที่ 3-9 การใชค้ ตั เตอร์ตดั ท่อบรรจุสารทาความเยน็ 2. ใชแ้ ก๊สเป่ าท่อทางดูดออกจากมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แสดงดงั รูปท่ี 3-10 (ก) และแก๊สเป่ าทอ่ ทางอดั ออกจากคอนเดนเซอร์ แสดงดงั รูปที่ 3-10 (ข) รูปท่ี 3-10 (ก) ใชแ้ กส๊ เป่ าท่อทางดูด รูปท่ี 3-10 (ข) ใชแ้ กส๊ เป่ าทอ่ ทางอดั รูปท่ี 3-10 การใชแ้ กส๊ เป่ าท่อทางดูดและทางอดั ออกจากมอเตอร์คอมเพรสเซอร์

263 3. ถอดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ออก โดยคลายน็อตท่ีจบั ยดึ ออก แสดงดงั รูปท่ี 3-11 รูปที่ 3-11 การถอดมอเตอร์คอมเพรสเซอร์โดยการคลายน็อตท่ีจบั ยดึ ออก 4. ใชแ้ ก๊สเป่ าไดรเออร์ออกเพือ่ เปลี่ยนใหม่ แสดงดงั รูปที่ 3-12 รูปท่ี 3-12 การใชแ้ ก๊สเป่ าไดรเออร์ออกเพือ่ เปลี่ยนใหม่ 5. เปล่ียนทอ่ รูเขม็ ใหม่ หากทาไดโ้ ดยใชท้ อ่ รูเขม็ ขนาดเทา่ เดิม แตห่ ากทาไม่ได้ ในกรณีที่ทอ่ รูเขม็ สอดอยใู่ นทอ่ ทางดูดของอีวาโปเรเตอร์กไ็ มต่ อ้ งเปล่ียน 6. การลา้ งระบบชุดอีวาโปเรเตอร์ สามารถทาไดโ้ ดยใชว้ าลว์ บริการแบบหวั ศร เชื่อมเขา้ กบั ชุดอีวาโปเรเตอร์ แสดงดงั รูปที่ 3-13 (ก) จากน้นั คอ่ ย ๆ เทสารทาความเยน็ F-11(R-11) ใส่กระบอกเติมสารทาความเยน็ แสดงดงั รูปท่ี 3-13 (ข) และต่อแก๊สไนโตรเจนจากถงั เพ่ือดนั ให้ สารทาความเยน็ R-11 ไหลเขา้ ไปในระบบ แสดงดงั รูปที่ 3-13 (ค) เพื่อใชไ้ ล่เขม่าในอีวาโปเรเตอร์ และน้ามนั ที่ตกคา้ งอยูใ่ นระบบออกให้หมด โดยใชป้ ลายนิ้วอุดท่อรูเขม็ และปล่อย แสดงดงั รูปที่ 3-13 (ง)

264 (ก) การใชว้ าลว์ บริการแบบหวั ศร (ข) การเทสารทาความเยน็ F-11 เช่ือมเขา้ กบั ชุดอีวาโปเรเตอร์ (R-11) ใส่กระบอกเติม (ค) การต่อแกส๊ ไนโตรเจน (ง) การไล่เขมา่ ในอีวาโปเรเตอร์ เพื่อดนั ให้ R-11 ไหลเขา้ ไปในระบบ และน้ามนั ที่ตกคา้ งอยใู่ นระบบออก รูปท่ี 3-13 การลา้ งระบบชุดอีวาโปเรเตอร์ 7. การลา้ งระบบชุดคอนเดนเซอร์ ใช้วาล์วบริการแบบหัวศรเชื่อมเขา้ กบั แผง คอนเดนเซอร์ แสดงดงั รูปท่ี 3-14 (ก) จากน้นั ใชส้ ารทาความเยน็ R-11 เทเขา้ กระบอกเติมสารทา- ความเยน็ แสดงดงั รูปที่ 3-14 (ข) และต่อแก๊สไนโตรเจนจากถงั เพ่ือดนั ให้สารทาความเยน็ R-11 ไหลเขา้ ไปในระบบ แสดงดงั รูปที่ 3-14 (ค) เพื่อใชไ้ ล่เขม่าในคอนเดนเซอร์ และน้ามนั ที่ตกคา้ ง อยใู่ นระบบออกใหห้ มดโดยใชป้ ลายนิ้วอุดท่อรูเขม็ และปล่อย แสดงดงั รูปท่ี 3-14 (ง)

265 (ก) การใชว้ าล์วบริการ (ข) การเทสารทาความเยน็ F-11 แบบหวั ศรเช่ือมเขา้ กบั ชุดคอนเดนเซอร์ (R-11) ใส่กระบอกเติม (ค) การตอ่ แก๊สไนโตรเจน (ง) การไล่เขมา่ ในคอนเดนเซอร์ เพื่อดนั ให้ R-11 ไหลเขา้ ไปในระบบ และน้ามนั ท่ีตกคา้ งอยใู่ นระบบออก รูปที่ 3-14 การลา้ งระบบชุดคอนเดนเซอร์ 8. ต่อส่วนต่าง ๆ ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ตวั ใหม่เขา้ ในระบบ เช่น ต่อท่อ ทางดูดของอีวาโปเรเตอร์เขา้ ท่ีท่อทางดูดของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ตวั ใหม่ ต่อท่อทางเขา้ ของแผง ร้อนเขา้ ท่อทางอดั ต่อท่อทางออกของคอนเดนเซอร์เขา้ ไดรเออร์ตวั ใหม่ ต่อทางออกของไดรเออร์ เขา้ กบั ทอ่ รูเขม็ และท่ีปลายของท่อรูเขม็ ตอ่ เขา้ ทางเขา้ ของอีวาโปเรเตอร์ 9. ทาท่อบรรจุสารทาความเยน็ โดยใช้วาล์วบริการแบบหัวศรเช่ือมเขา้ ทางท่อ บริการสารทาความเยน็ ของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ แสดงดงั รูปท่ี 3-15

266 รูปท่ี 3-15 การทาท่อบรรจุสารทาความเยน็ โดยใชว้ าลว์ บริการแบบหวั ศร 10. เอาเกจแมนนิโฟลดม์ าต่อและอดั ไนโตรเจนเพ่ือตรวจหารอยร่ัว แสดงดงั รูป ที่ 3-16 รูปที่ 3-16 การต่อเกจแมนนิโฟลดเ์ พอ่ื ตรวจหารอยรั่ว 11. ทาสุญญากาศระบบ ใชเ้ วลาอย่างน้อย 45 นาที แลว้ บรรจุสารทาความเยน็ R-12 เขา้ ไปเลก็ นอ้ ยและทาสุญญากาศใหมอ่ ีก 45 นาทีถึง 1 ชว่ั โมง การทาสุญญากาศ แสดงดงั รูปท่ี 3-17 รูปท่ี 3-17 การทาสุญญากาศ

267 3. บรรจุสารทาความเยน็ เขา้ ในระบบ แสดงดงั รูปที่ 3-18 รูปท่ี 3-18 การบรรจุสารทาความเยน็ เขา้ ในระบบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook