Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การประเมิน วิเคราะห์ สังเคราะห์สารสนเทศ1

การประเมิน วิเคราะห์ สังเคราะห์สารสนเทศ1

Published by Thanawit Seeharach, 2020-01-30 19:10:32

Description: การประเมิน วิเคราะห์ สังเคราะห์สารสนเทศ1

Search

Read the Text Version

การประเมนิ วเิ คราะห์ สงั เคราะหส์ ารสนเทศ ขัน้ ตอนการประเมนิ วเิ คราะห์และสงั เคราะหส์ ารสนเทศ ขั้นตอน การประเมิน วิเคราะห์ สังเคราะหส์ ารสนเทศ

2 1. การประเมนิ สารสนเทศ เปน็ ขน้ั ตอนในการประเมนิ เพ่ือคัดเลอื กสารสนเทศทเี่ ราไดจ้ ากการสืบคน้ ทมี่ ีคุณค่า มีความน่าเชอื่ ถอื ในทางวชิ าการ เปน็ การพิจารณาคัดเลือกจากแหล่งสารสนเทศตา่ งๆ ทั้งจากห้องสมุด อนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ต้น สารสนเทศทไ่ี มใ่ ช้ เช่น เปน็ สารสนเทศท่ี ไมต่ รงกบั ความต้องการ, เน้ือหาสารสนเทศลา้ สมยั หรือ สารสนเทศนน้ั ไมม่ คี วามนา่ เชือ่ ถอื ในทางวชิ าการ จากการประเมิน สารสนเทศจะทำใหเ้ ราได้สารสนเทศที่มคี ณุ คา่ และนำสารสนเทศไปประยุกต์ใช้อยา่ งเหมาะสม หลกั การประเมนิ สารสนเทศ ประเมนิ ความตรงกบั ความตอ้ งการสารสนเทศ พจิ ารณาว่าเปน็ เร่อื งที่ตรงกบั ความต้องการ สารสนเทศของเราหรือไม่ ตรงมากน้อยเพยี งใด โดยเลอื กเรื่องทต่ี รงกับความตอ้ งการ ตดั ท้งิ เร่อื งทไ่ี ม่ตรงกบั ความต้องการ วิธีการ คือ การอา่ นเบอ้ื งตน้ ไดแ้ ก่ การอา่ นช่ือเร่ือง คำนำ หนา้ สารบญั หรอื เน้อื เร่อื งยอ่ ๆ เพอ่ื พิจารณาวา่ มีความ สอดคล้องกับความตอ้ งการสารสนเทศหรือไม่ ซ่งึ สว่ นใหญ่ ชอ่ื เรื่องของสารสนเทศกอ็ าจจะสามารถประเมินไดท้ นั ทีวา่ ตรง หรอื ไมต่ รง เนอื่ งจาก คำสำคญั เปน็ คำเดยี วกันกบั ความต้องการสารสนเทศและชื่อเร่ืองของสารสนเทศ แตห่ ากชอื่ เรอื่ งไมบ่ ่งชัด ว่ามเี นอื้ หาที่เก่ียวขอ้ งกนั อาจตอ้ งพิจารณาจาก คำนำ สารบญั และเนื้อหาโดยยอ่ 1.1 ประเมินความน่าเชือ่ ถือและความทนั สมัยของสารสนเทศ พจิ ารณาวา่ เปน็ สารสนเทศท่ีมคี วามน่าเช่อื ถอื หรือไม่ นา่ เชอื่ ถอื เพียงไร ซึ่งการประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือมีรายละเอยี ดท่คี วร พิจารณา ได้แก่ 1.1.1 ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของ แหล่งสารสนเทศ โดยพจิ ารณาว่าสารสนเทศนัน้ ไดม้ าจากแหล่งสารสนเทศใด โดยสว่ นใหญ่ แหลง่ สารสนเทศท่ีนา่ เชอ่ื ถอื นั้นจะเปน็ แหล่งสารสนเทศสถาบนั เช่น ห้องสมุด เน่ืองจากสารสนเทศทอ่ี ยใู่ น หอ้ งสมุดได้ผา่ นกระบวนการกลนั่ กรองเนือ้ หาจากบรรณารกั ษแ์ ละผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ ง สว่ นแหลง่ สารสนเทศอนิ เทอรเ์ น็ต จะมคี วาม น่าเช่อื ถอื นอ้ ยกว่าหรือไม่มีความนา่ เชือ่ เลย คือ การรับร้สู ารสนเทศจากอนิ เทอร์เน็ตนั้นเราตอ้ งใช้วิจารณญาณในการกล่ันกรอง เนือ้ หาเองว่าเนื้อหาจากเว็บไซตใ์ ดที่นา่ เชอ่ื ถือ 1.1.2 ประเมนิ ความนา่ เชอ่ื ถือของ ทรพั ยากรสารสนเทศ โดยพิจารณาว่า ทรพั ยากรสารสนเทศหรือสารสนเทศ น้ันๆ เป็นรปู แบบใด lสื่อส่งิ พิมพ์ สอ่ื ไมต่ ีพิมพ์ หรอื สือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หากเป็นส่ือส่ิงพมิ พ์ เป็นสิง่ พิมพป์ ระเภทใด หนังสือท่วั ไป หนังสอื อ้างอิง วารสาร นติ ยสาร เป็นตน้ 1.1.3 ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของ ผเู้ ขียน ผู้จัดทำ สำนกั พิมพ์ โดยพิจารณาว่า ผเู้ ขียนมีคุณวุฒิ ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ตรงหรือสอดคลอ้ งกบั เรอื่ งที่เขยี นหรือไม่ รวมทงั้ ความนา่ เช่อื ถือผู้จัดทำ สำนักพมิ พ์ทมี่ ี ประสบการณ์ในเน้ือหาเฉพาะดา้ น มกั จะมีความน่าเชือ่ ถอื ในแวดวงวิชาการนั้นๆ หน่วยงานผ้รู บั ผิดชอบเปน็ ภาครฐั บาล องคก์ ร สมาคม มักจะมีความนา่ เชือ่ ถือมากกว่าหน่วยงานภาคเอกชนหรือบคุ คล ตวั อย่าง เช่น กรณที ่ีเปน็ บทความวิชาการ ใหพ้ ิจารณา ว่า ตีพมิ พ์ในวารสารที่มีชือ่ วารสารที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาวิชานนั้ ๆ มชี อ่ื เสยี งในทางวชิ าการ เป็นทร่ี จู้ ักอยา่ งแพรห่ ลาย หรอื ไม่ ผู้เขยี น/ผูจ้ ดั ทำ/สำนกั พิมพม์ คี วามน่าเช่ือถอื หรอื ไม่ และตอ้ งมคี วามต่อเนือ่ งในการเผยแพร่ 1.1.4 ประเมนิ ความทนั สมยั ของสารสนเทศ โดยหากเปน็ สื่อส่งิ พิมพพ์ ิจารณาความทนั สมัย จาก วนั เดือน ปี ท่ี พมิ พ์ หากเปน็ สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ พจิ ารณาจาก วัน เดือน ปีที่เผยแพร่ เปน็ ตน้ 1.2 ประเมินระดบั เนื้อหาของสารสนเทศ ซ่งึ ระดับเนอ้ื หาสารสนเทศมี 3 ระดับ ไดแ้ ก่

3 1.2.1 สารสนเทศปฐมภูมิ (Primary Information) มีความนา่ เช่ือถือมากทส่ี ดุ เนือ่ งจากเป็นสารสนเทศท่ีไดจ้ าก การศึกษาคน้ ควา้ โดยตรงของผูเ้ ขยี นและตพี มิ พ์เผยแพร่เปน็ ครง้ั แรก เช่น ตน้ ฉบบั ตวั เขยี น จดหมายสว่ นตัว รายงานการวจิ ยั วทิ ยานิพนธ์ สิ่งพิมพ์รฐั บาล สารสนเทศประเภทนีถ้ ือว่ามีความน่าเชอื่ ถือควรนำมาอ้างอิงมากทส่ี ดุ เพราะเปน็ ข้อมลู จรงิ ทีไ่ ดจ้ าก ผเู้ ขยี น และยงั ไม่ได้ผ่านการเรยี บเรียงหรือปรับแต่งใหม่จากบุคคลอ่ืน 1.2.2 สารสนเทศทุติยภมู ิ (Secondary Information) เปน็ การนำสารสนเทศปฐมภมู มิ าเขียนใหม่ อธิบาย เรียบ เรียง วิจารณใ์ หมใ่ หเ้ ขา้ ใจงา่ ยเพอื่ ให้เหมาะกบั ผู้ใช้สารสนเทศ หรอื เป็นเครอื่ งมือชว่ ยค้นหรอื ตดิ ตามสารสนเทศปฐมภูมิ เช่น หนังสอื บทความวารสาร บทคัดย่องานวจิ ยั บทวจิ ารณห์ นงั สือ เปน็ ต้น 1.2.3 สารสนเทศตติยภมู ิ (Tertiary Information) เป็นการช้ีแนะแหล่งสารสนเทศ 2 ระดับแรก ท่ีไม่ได้ให้ เนอ้ื หาสารสนเทศโดยตรงแต่เป็นการชีแ้ นะแหลง่ สารสนเทศปฐมภูมแิ ละทุตยิ ภมู ิ เช่น บรรณานกุ รม ดรรชนีวารสารและวารสาร สาระสงั เขป 2. การวเิ คราะห์สารสนเทศ เป็นการแยกแยะสารสนเทศทผ่ี า่ นการประเมนิ แล้วว่าตรงตามความต้องการ โดยวธิ กี ารแยกแยะสารสนเทศตามหัวข้อ หรอื ประเด็นยอ่ ยๆ สรุปเนอื้ หา วธิ กี ารในการวิเคราะหส์ ารสนเทศคอื การรับรู้ การอ่านเนื้อหาของทรัพยากรสารสนเทศที่ผา่ นการประเมินแลว้ วา่ สามารถ นำมาใชง้ านได้จรงิ ๆ จากนัน้ ดึงเนื้อหาของสารสนเทศที่สอดคล้องกบั ประเดน็ แนวคิดตา่ งๆ ท่ีเราต้องการศึกษา และมีความ ครบถ้วน แลว้ ทำการบันทึกเนื้อหาโดยบันทกึ เร่อื งเดยี วกันเอาไวด้ ้วยกนั และสุดท้ายคอื จัดกลุม่ ตามประเดน็ แนวคดิ เพอ่ื ใชใ้ นการ เรียบเรียงเน้ือหาของรายงานต่อไป 3. การสงั เคราะห์สารสนเทศ เปน็ การตคี วามสารสนเทศจากหลากหลายทรพั ยากรสารสนเทศ ทมี่ เี นอ้ื หาเดยี วกัน คล้ายคลึงกนั หรอื เก่ยี วข้องกัน แล้ว นำมาสรปุ ใหเ้ ป็นประเดน็ เดียว หรอื คำตอบเพยี งคำตอบเดียว วิธีการคอื การจัดกล่มุ สารสนเทศทม่ี ีแนวคดิ เดียวกัน เอาไว้ดว้ ยกัน แลว้ นำสารสนเทศท่มี ีแนวคิดเดยี วกันมาจดั กลมุ่ อกี ครั้ง เพอ่ื สรา้ งความสัมพนั ธ์ ตามลำดบั ช้ัน จากนน้ั นำแนวคิดตา่ งๆ ทีเ่ ราไดส้ รา้ งความสัมพนั ธ์ในแต่ละกลุม่ ของแนวคิด มารวบรวมเป็น โครงสรา้ งใหม่ ในรูปของโครงร่าง หรอื Outline โดยรวบรวมหัวขอ้ หรือประเด็นที่เหมอื นกันไวด้ ้วยกัน หรือตัดท่ีซ้ำซ้อนออก เรยี งลำดบั ขั้นตอนของหัวขอ้ หรอื ประเด็น สดุ ทา้ ยคือการประเมินโครงรา่ ง ทีไ่ ดท้ ำขนึ้ ว่าตอบคำถามในงานของเราไดค้ รบถ้วนหรอื ไม่ หากไมค่ รบถว้ น กต็ อ้ งกลบั ไป เร่มิ ท่ีกระบวนการสืบค้นใหม่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook