มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบ้านบุ่งฝาง

๔๙ - ภาพถ่ายการร่วมงานวันสำคัญต่างๆ - การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงคใ์ น ปพ.5 ข้อท่ี 2 ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบ้านบงุ่ ฝาง ๑. ผเู้ รยี นมคี วามภาคภมู ใิ จ เขา้ ใจ ตระหนักถึง เห็นคุณค่า ชนื่ ชม มีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์ สืบทอด ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ตลอดจนมีความ ภมู ิในทอ้ งถ่นิ ของตน ๒. รว่ มกจิ กรรมทางวฒั นธรรมและสังคม ท้องถนิ่ และปรับตัวได้อยา่ งกลมกลนื ทง้ั ในและ นอกสถานศึกษาดว้ ยความเต็มใจ คำอธิบาย ผู้เรียนมีความเข้าใจและตระหนักถึง ขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยตลอดจนเข้าใจ พิธีและ หลักธรรมคำสง่ั สอนของศาสนาพทุ ธ หรือศาสนาที่ตนเองนบั ถอื จนนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ ได้ การให้ระดับคุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ ผู้เรียนนอ้ ยกว่าร้อยละ 50 - มีความภาคภมู ิใจ เข้าใจ ตระหนักถึง เห็นคุณค่า ชื่นชม มีส่วนรว่ มใน กำลังพัฒนา การอนุรักษ์ สืบทอด ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะและวฒั นธรรม ไทย มคี วามกตัญญกู ตเวที ตลอดจนมีความภูมใิ นท้องถ่นิ ของตน - รว่ มกจิ กรรมทางวัฒนธรรมและสงั คม ท้องถ่ินและปรบั ตวั ได้อยา่ ง กลมกลนื ทง้ั ในและนอกสถานศกึ ษาดว้ ยความเตม็ ใจ ปานกลาง ผู้เรียนรอ้ ยละ 50-59 ดี - มคี วามภาคภมู ใิ จ เข้าใจ ตระหนักถงึ เหน็ คุณค่า ชื่นชม มีส่วนร่วมใน การอนรุ ักษ์ สบื ทอด ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ไทย มีความกตญั ญกู ตเวที ตลอดจนมีความภูมิในท้องถิ่นของตน - ร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสังคม ท้องถิ่นและปรบั ตวั ได้อย่าง กลมกลนื ทง้ั ในและนอกสถานศกึ ษาด้วยความเต็มใจ ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 60-69 - มคี วามภาคภมู ใิ จ เข้าใจ ตระหนกั ถึง เห็นคุณค่า ชน่ื ชม มีส่วนร่วมใน

๕๐ ระดับคณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ การอนรุ ักษ์ สบื ทอด ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะและวฒั นธรรม ไทย มคี วามกตัญญกู ตเวที ตลอดจนมีความภมู ิในท้องถน่ิ ของตน - รว่ มกจิ กรรมทางวฒั นธรรมและสังคม ท้องถิ่นและปรบั ตวั ไดอ้ ย่าง กลมกลืนทง้ั ในและนอกสถานศึกษาดว้ ยความเต็มใจ ดเี ลศิ ผ้เู รียนร้อยละ 70-79 ยอดเยี่ยม - มคี วามภาคภูมิใจ เขา้ ใจ ตระหนักถึง เหน็ คุณค่า ช่นื ชม มสี ่วนร่วมใน การอนุรักษ์ สืบทอด ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ไทย มีความกตัญญกู ตเวที ตลอดจนมคี วามภมู ิในท้องถน่ิ ของตน - ร่วมกิจกรรมทางวฒั นธรรมและสังคม ท้องถ่ินและปรบั ตวั ไดอ้ ยา่ ง กลมกลนื ท้ัง ในและนอกสถานศึกษาดว้ ยความเต็มใจ ผ้เู รยี นมากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป - มีความภาคภมู ิใจ เข้าใจ ตระหนกั ถงึ เหน็ คุณค่า ช่นื ชม มีส่วนร่วมใน การอนุรักษ์ สืบทอด ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะและวัฒนธรรม ไทย มคี วามกตัญญูกตเวที ตลอดจนมคี วามภูมิในท้องถน่ิ ของตน - รว่ มกิจกรรมทางวฒั นธรรมและสังคม ท้องถ่ินและปรับตวั ไดอ้ ย่าง กลมกลนื ทง้ั ในและนอกสถานศึกษาด้วยความเต็มใจ วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมลู /แหล่งข้อมูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมูล 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรียนและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ ความภมู ใิ จในการรว่ มกจิ กรรมในท้องถ่นิ ของนักเรียน 3.เอกสาร หลักฐาน ร่องรอย - โครงการตามกิจกรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น การปฏบิ ตั ิงาน หรอื ข้อมูลเชงิ - กจิ กรรมส่งเสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรมนกั เรียน ประจกั ษ์ - โครงการศึกษาแหล่งเรยี นรภู้ ายนอกสถานศกึ ษา - การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ใน ปพ.5 - ภาพถา่ ยการร่วมกิจกรรมตา่ งๆ ข้อที่ 3 การยอมรับทีจ่ ะอยู่ร่วมกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย

๕๑ มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบ้านบ่งุ ฝาง ๑.ผู้เรียนสามารถแสดงความคดิ เห็น พูดคุยกนั ดว้ ยความสุภาพ รับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อน่ื ด้วยความเข้าใจทีด่ ี คำอธบิ าย ผู้เรียนเข้าใจ และตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลการยอมรับนับถือความ คดิ เห็น แนวคดิ วิธีการคดิ ของผู้อ่ืน ระดับคุณภาพ การใหร้ ะดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง คำอธิบายระดับคุณภาพ ดี ผู้เรยี นน้อยกวา่ ร้อยละ 50 ดีเลศิ - ผเู้ รยี นสามารถแสดงความคิดเห็น พดู คยุ กันด้วยความสภุ าพ รับฟัง ยอดเยี่ยม ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ดว้ ยความเข้าใจที่ดี ผเู้ รียนร้อยละ 50-59 - ผเู้ รียนสามารถแสดงความคิดเห็น พูดคุยกนั ด้วยความสุภาพ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อน่ื ด้วยความเข้าใจท่ีดี ผูเ้ รยี นรอ้ ยละ 60-69 - ผ้เู รยี นสามารถแสดงความคิดเห็น พูดคยุ กันดว้ ยความสภุ าพ รบั ฟัง ความคิดเห็นของผู้อืน่ ดว้ ยความเขา้ ใจที่ดี ผเู้ รียนรอ้ ยละ 70-79 - ผูเ้ รยี นสามารถแสดงความคดิ เห็น พูดคยุ กันด้วยความสภุ าพ รบั ฟัง ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ ด้วยความเขา้ ใจท่ีดี ผเู้ รียนมากกวา่ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป - ผเู้ รียนสามารถแสดงความคิดเหน็ พดู คยุ กันดว้ ยความสภุ าพ รับฟัง ความคดิ เห็นของผู้อ่ืนด้วยความเขา้ ใจท่ีดี วิธีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล แหล่งข้อมลู 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม นักเรยี น 2.การสังเกต/การทดสอบ การยอมรบั การอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างอยา่ งหลากหลาย 3.เอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอย ของนักเรียน การปฏบิ ตั งิ าน หรือข้อมูลเชิง - ภาพถา่ ยการร่วมกิจกรรมต่างๆ ประจกั ษ์ - บนั ทึกหลังแผนการจัดการเรียนรู้ - โครงการศึกษาแหล่งการเรียนร้นู อกสถานที่

๕๒ - โครงการตามกจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน - กจิ กรรมสง่ เสริมคุณธรรมจรยิ ธรรม - การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ใน ปพ.5 ข้อที่ 4 สขุ ภาวะทางร่างกาย และจติ สังคม มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นบุ่งฝาง 1.ผ้เู รยี นมีสขุ ภาพแข็งแรง แตง่ กายสะอาดเรียบร้อย ๒.ปฏบิ ัตติ นตามสขุ บญั ญตั ิแห่งชาติ ๑๐ ประการครบถว้ น ๓.เขา้ รว่ มกิจกรรมการออกกำลังกายและปฏบิ ัติตน จนเปน็ นิสัย ๔.มีส่วนร่วมในการเผยแพรห่ รอื รณรงค์เกีย่ วกบั การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพกับ หน่วยงานภายนอก ๕.ผเู้ รียน มีนำ้ หนกั ส่วนสงู และพัฒนาการทางรา่ งกายเจรญิ เติบโตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ๖.มีสมรรถภาพทางกายเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศึกษา คำอธบิ าย ผู้เรียนมีสุขภาพกายและใจท่ีดี มีน้ำหนัก ส่วนสูงเป็นไปตามวัยอย่างเหมาะสม เข็มแข็งมี ความอดทน อดกลนั่ ต่อส่งิ เรา้ ยึดถือ และปฏบิ ตั ิเป็นคนดขี องสังคมมีจติ สาธารณะ ระดับคุณภาพ การให้ระดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา ปานกลาง คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ ผ้เู รียนน้อยกว่าร้อยละ 50 - มสี ุขภาพแข็งแรง แต่งกายสะอาดเรยี บร้อย - ปฏบิ ตั ิตนตามสขุ บญั ญัติแห่งชาติ ๑๐ ประการครบถ้วน - เข้าร่วมกจิ กรรมการออกกำลังกายและปฏิบัติตน จนเป็นนสิ ัย - มีสว่ นร่วมในการเผยแพร่หรือรณรงคเ์ กย่ี วกบั การดูแลรกั ษาสขุ ภาพ กับ หนว่ ยงานภายนอก - มนี ้ำหนกั ส่วนสงู และพัฒนาการทางรา่ งกายเจริญเติบโตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข - มสี มรรถภาพทางกายเปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศกึ ษา ผ้เู รยี นร้อยละ 50-59 - มสี ขุ ภาพแขง็ แรง แต่งกายสะอาดเรียบร้อย - ปฏิบัตติ นตามสขุ บัญญัติแห่งชาติ ๑๐ ประการครบถ้วน - เข้ารว่ มกจิ กรรมการออกกำลังกายและปฏิบตั ิตน จนเปน็ นสิ ัย

๕๓ ระดบั คณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคุณภาพ - มสี ่วนร่วมในการเผยแพร่หรือรณรงค์เก่ียวกบั การดูแลรกั ษาสขุ ภาพ กับ หนว่ ยงานภายนอก - มนี ้ำหนกั สว่ นสูง และพฒั นาการทางรา่ งกายเจรญิ เติบโตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ - มสี มรรถภาพทางกายเปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมพลศึกษา ผเู้ รียนร้อยละ 60-69 - มสี ุขภาพแขง็ แรง แต่งกายสะอาดเรยี บรอ้ ย - ปฏิบตั ติ นตามสุขบญั ญัตแิ หง่ ชาติ ๑๐ ประการครบถว้ น - เข้าร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายและปฏบิ ตั ติ น จนเป็นนสิ ัย ดี - มีสว่ นรว่ มในการเผยแพรห่ รือรณรงค์เก่ียวกับการดูแลรักษาสุขภาพ กบั หน่วยงานภายนอก - มนี ำ้ หนัก สว่ นสูง และพัฒนาการทางรา่ งกายเจรญิ เติบโตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ - มสี มรรถภาพทางกายเปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานของกรมพลศึกษา ผเู้ รยี นรอ้ ยละ 70-79 - มสี ุขภาพแข็งแรง แต่งกายสะอาดเรยี บร้อย - ปฏิบตั ติ นตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ๑๐ ประการครบถ้วน - เข้ารว่ มกิจกรรมการออกกำลังกายและปฏบิ ัตติ น จนเปน็ นสิ ยั ดีเลิศ - มีส่วนร่วมในการเผยแพรห่ รือรณรงคเ์ กย่ี วกบั การดูแลรกั ษาสขุ ภาพ กับ หน่วยงานภายนอก - มีนำ้ หนัก สว่ นสูง และพัฒนาการทางร่างกายเจรญิ เติบโตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข - มสี มรรถภาพทางกายเปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานของกรมพลศึกษา ผ้เู รียนร้อยละ 80 - มีสุขภาพแข็งแรง แต่งกายสะอาดเรยี บร้อย - ปฏิบัตติ นตามสขุ บัญญัติแหง่ ชาติ ๑๐ ประการครบถ้วน - เขา้ รว่ มกจิ กรรมการออกกำลังกายและปฏบิ ัติตน จนเป็นนสิ ัย ยอดเย่ียม - มสี ว่ นรว่ มในการเผยแพรห่ รือรณรงค์เกย่ี วกับการดูแลรกั ษาสขุ ภาพ กับ หนว่ ยงานภายนอก - มนี ำ้ หนกั สว่ นสูง และพฒั นาการทางร่างกายเจรญิ เติบโตตามเกณฑ์ มาตรฐานของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข - มีสมรรถภาพทางกายเป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานของกรมพลศึกษา วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล

๕๔ วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล แหล่งข้อมูล 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม นักเรียน 2.การสังเกต/การทดสอบ สุขภาพรา่ งกาย และจิตสงั คมของนักเรยี น 3.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย - โครงการสง่ เสรมิ สุขภาพและอนามยั นักเรยี น การปฏิบัติงาน หรอื ข้อมลู เชิง - กิจกรรมกฬี าสีภายในโรงเรียน ประจักษ์ - โครงการอาหารกลางวัน - บันทกึ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย - ภาพถ่ายกิจกรรมตา่ งๆ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ ขอ้ ที่ 1 มีเป้าหมายวสิ ัยทัศน์และพันธกิจท่ีสถานศึกษากำหนดชดั เจน มาตรฐานการศึกษาโรงเรยี นบา้ นบุ่งฝาง ๑. สถานศกึ ษามเี ปา้ หมาย วิสยั ทศั น์ และพนั ธกิจ ไว้อย่างชดั เจน สอดคลอ้ งกบั บริบทของสถานศึกษาความต้องการของชุมชน ท้องถนิ่ วตั ถปุ ระสงค์ของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาล และของต้น สังกัดรวมท้งั ทนั ตอ่ การเปล่ียนแปลงของสังคม คำอธิบาย สถานศึกษามีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจของสถานศึกษาท่ีชัดเจน สอดคลอ้ งกับบรบิ ทของชุมชน สงั คม ระดับคุณภาพ การให้ระดับคณุ ภาพ กำลงั พัฒนา คำอธิบายระดับคณุ ภาพ (น้อยกว่า เปา้ หมายวสิ ัยทัศนแ์ ละพนั ธกิจที่สถานศกึ ษากำหนดไมช่ ัดเจน รอ้ ยละ 50) เป้าหมายวิสยั ทัศน์และพนั ธกิจท่ีสถานศกึ ษากำหนดชัดเจน เปน็ ไปได้ในการ ปานกลาง ปฏิบัติ เปา้ หมายวิสัยทศั นแ์ ละพนั ธกิจทสี่ ถานศึกษากำหนดชัดเจน สอดคลอ้ งกบั (ร้อยละ 50-59) บรบิ ทของ สถานศึกษา เป็นไปไดใ้ นการปฏบิ ัติ มีเปา้ หมายวสิ ยั ทัศน์และพนั ธกจิ ท่สี ถานศึกษากำหนดชัดเจน สอดคล้องกับ ดี บริบทของ สถานศึกษา ความตอ้ งการชุมชน นโยบายรัฐบาล แผนการศกึ ษา แห่งชาติเป็นไปไดใ้ น การปฏิบัติ (ร้อยละ 60-69) ดีเลิศ (ร้อยละ 70-79)

๕๕ ระดับคณุ ภาพ คำอธิบายระดบั คุณภาพ ยอดเยี่ยม มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดไวอ้ ย่างชัดเจน สอดคล้องกบั บรบิ ทของ สถานศกึ ษา ความตอ้ งการของชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ (มากกวา่ วตั ถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาตนิ โยบาย ของรฐั บาล และของต้น ร้อยละ 80) สงั กัด เปน็ ไปไดใ้ นการปฏิบตั ิ รวมทัง้ ทนั ต่อการเปลี่ยนแปลงของสงั คม วธิ เี กบ็ รวบรวมข้อมูล/แหล่งขอ้ มูล วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มูล แหลง่ ข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครู และผ้บู รหิ ารโรงเรียน 2.การสงั เกต/การทดสอบ - 3.เอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอย การปฏิบตั ิงาน หรือขอ้ มูลเชงิ - แผนพฒั นาการศกึ ษาของโรงเรยี น ประจกั ษ์ - วสิ ัยทัศน์และพนั ธกจิ ของโรงเรยี น - โครงการตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี ข้อที่ 2 มรี ะบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบา้ นบงุ่ ฝาง ๑. สถานศกึ ษาสามารถบริหารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษาอย่างเปน็ ระบบทัง้ ใน สว่ นการวางแผน พฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษา การนำแผนไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิเพ่ือพัฒนา คุณภาพการศึกษา ๒. มกี ารตดิ ตามตรวจสอบ ประเมินผลและปรบั ปรุงพัฒนางานอยา่ งต่อเน่ือง ๓. มกี ารบรหิ ารอัตรากำลงั ทรพั ยากรทางการศกึ ษา และระบบดูแลชว่ ยเหลือ นักเรียน ๔. สร้างการมีสว่ นร่วมของผเู้ ก่ยี วข้องทุกฝ่าย ให้รว่ มรับผดิ ชอบต่อผลการจดั การศึกษา คำอธบิ าย สถานศึกษามีระบบการประเมินผลและติดตาม อีกทั้งมีระบบการนิเทศภายใน สถานศึกษา งานประกันคุณภาพพายในสถานศึกษา มีการกำหนดกรอบอัตรากำลัง มอบหมายงานให้ มีความเหมาะสม ตามความสามารถของแต่ละบุคคล โดยมีการเปิดอากาศให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการ ประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาเป็นระยะ และตอ่ เนื่อง การให้ระดบั คณุ ภาพ

๕๖ ระดบั คณุ ภาพ คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ มรี ะบบบริหารจดั การคุณภาพของสถานศกึ ษาแต่ไมส่ ่งผลต่อคณุ ภาพตาม กำลังพัฒนา มาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา (น้อยกวา่ มีระบบบริหารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษาท่สี ง่ ผลต่อคุณภาพตาม ร้อยละ 50) มาตรฐานการศึกษา ของสถานศึกษา ปานกลาง (รอ้ ยละ 50-59) ดี มีระบบบริหารจดั การคุณภาพของสถานศึกษาทชี่ ดั เจน ส่งผลตอ่ คุณภาพตาม (ร้อยละ 60-69) มาตรฐาน การศึกษาของสถานศกึ ษา ดีเลิศ มเี ป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจทีส่ ถานศึกษากำหนดชัดเจน สอดคล้องกับ (รอ้ ยละ 70-79) บรบิ ทของ สถานศึกษา ความต้องการชุมชน นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษา แหง่ ชาตเิ ป็นไปไดใ้ น การปฏิบัติ ยอดเย่ียม มีเปา้ หมายวิสัยทัศน์และพนั ธกจิ ท่ีสถานศึกษากำหนดไวอ้ ย่างชดั เจน สอดคล้องกับบริบทของ สถานศกึ ษา ความตอ้ งการของชมุ ชน ทอ้ งถิ่น (มากกวา่ วัตถปุ ระสงค์ของแผนการศึกษาแหง่ ชาตินโยบาย ของรฐั บาล และของตน้ รอ้ ยละ 80) สังกดั เปน็ ไปได้ในการปฏบิ ตั ิ รวมท้ังทนั ต่อการเปล่ียนแปลงของสงั คม วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งขอ้ มูล วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมูล แหลง่ ข้อมลู 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม ครู และผบู้ ริหารโรงเรยี น 2.การสงั เกต/การทดสอบ - 3.เอกสาร หลกั ฐาน รอ่ งรอย การปฏบิ ตั งิ าน หรอื ขอ้ มูลเชงิ - แผนพฒั นาการศกึ ษาของโรงเรียน ประจักษ์ - วสิ ัยทัศนแ์ ละพนั ธกจิ ของโรงเรยี น - โครงการตามแผนปฏิบตั กิ ารประจำปี ข้อท่ี 3 ดำเนินงานพฒั นาวชิ าการทเี่ นน้ คณุ ภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลกั สตู รสถานศึกษา และทุกกลุ่มเปา้ หมาย มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบ้านบ่งุ ฝาง

๕๗ ๑. สถานศกึ ษาบริหารจัดการเกีย่ วกับงานวชิ าการ ท้ังด้านการพฒั นาหลักสตู ร กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ทเี่ นน้ คณุ ภาพผเู้ รยี นตามศักยภาพ และความพร้อมของ แตล่ ะบคุ คล โดยสอดคลอ้ งกับบริบทของ สถานศึกษาและชุมชน คำอธบิ าย สถานศึกษามีการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา ดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ปฏิทินการดำเนินการวิชาการ ตลอดจนการบริหารหลักสูตรเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการ ศกึ ษา ยืดหย่นุ คลอ่ งตัว สามารถวัดและประเมนิ ผลตามสภาพจริง สะท้อนถึงคุณภาพของผู้เรยี นได้ การให้ระดบั คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ คำอธิบายระดับคณุ ภาพ กำลงั พัฒนา สถานศึกษาไมไ่ ด้มีการบริหารจดั การเกยี่ วกับงานวิชาการ ท้ังดา้ นการพัฒนา (นอ้ ยกว่า หลกั สตู รกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน รอ้ ยละ 50) สถานศกึ ษาบรหิ ารจัดการเก่ยี วกบั งานวิชาการ ท้ังดา้ นการพฒั นาหลักสตู ร ปานกลาง กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น (รอ้ ยละ 50-59) ดี ดำเนินงานพฒั นาวิชาการทเ่ี น้นคณุ ภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลักสูตร (ร้อยละ 60-69) สถานศกึ ษาและ ทุกกล่มุ เปา้ หมายอยา่ งรอบด้านตามหลกั สตู รสถานศึกษา ดเี ลิศ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการทเ่ี น้นคณุ ภาพผเู้ รยี นรอบด้านตามหลักสูตร (ร้อยละ 70-79) สถานศกึ ษาและ ทกุ กลุม่ เปา้ หมาย เช่อื มโยงกบั ชีวิตจริง ยอดเย่ียม ดำเนินงานพฒั นาวิชาการทเ่ี น้นคุณภาพผู้เรยี นทุกกลุม่ เปา้ หมายอย่างรอบ ดา้ นตามสถานศึกษา ตามศักยภาพและประเภทของความพิการ และให้ (มากกวา่ ครอบคลุมทุกประเภทความพิการ เช่ือมโยง กบั ชีวิตจรงิ และเป็นแบบอย่าง รอ้ ยละ 80) ได้ วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมูล แหลง่ ข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครู และผู้บรหิ ารโรงเรียน 2.การสงั เกต/การทดสอบ - 3.เอกสาร หลักฐาน ร่องรอย - แผนพัฒนาการศกึ ษาของโรงเรียน

๕๘ การปฏบิ ัติงาน หรือขอ้ มลู เชิง - วสิ ัยทัศน์และพันธกจิ ของโรงเรยี น ประจกั ษ์ - โครงการตามแผนปฏบิ ัตกิ ารประจำปี - แผนการจัดการเรียนรู้ - รายงานโครงการ - รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา - เกียรตบิ ัตร / โลร่ างวัล ขอ้ ท่ี 4 พฒั นาครแู ละบคุ ลากรใหม้ ีความเช่ยี วชาญทางวิชาชีพ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นบ้านบ่งุ ฝาง ๑.สถานศึกษาสง่ เสริม สนบั สนุนพฒั นาครู บุคลากร ให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒.สถานศึกษาจดั ใหม้ ชี มุ ชนการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ มาใชใ้ นการพฒั นางานและการ เรยี นรู้ของผูเ้ รียน คำอธิบาย สถานศึกษาส่งเสริมให้ครูพัฒนาความรู้ทางด้านการจัดการเรียนรู้ หรือตามความ ถนัดความเชียวชาญเฉพาะทางของตน เพื่อที่จะนำความรู้มาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนให้มี ประสิทธภิ าพมายิ่งขึ้น เชน่ การอบรมออนไลน์ผ่านเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต ระดบั คณุ ภาพ การให้ระดับคุณภาพ กำลงั พัฒนา คำอธิบายระดับคณุ ภาพ (น้อยกว่า สถานศกึ ษาไม่มีการสง่ เสรมิ สนบั สนุนพัฒนาครแู ละบุคลากรพัฒนาตนเองให้ รอ้ ยละ 50) มคี วามเชย่ี วชาญทางวิชาชพี ปานกลาง สถานศกึ ษามีการสง่ เสริม สนบั สนนุ พัฒนาครูและบคุ ลากรพัฒนาตนเองใหม้ ี ความเชี่ยวชาญทางวชิ าชพี (รอ้ ยละ 50-59) สถานศกึ ษามีการสง่ เสริม สนับสนุนพัฒนาครูและบุคลากรพัฒนาตนเองใหม้ ี ความเชยี่ วชาญทางวชิ าชพี ๒๐ ชม.และจัดใหม้ ีชุมชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ ดี น้อยกว่า ๕๐ ชม.ตอ่ ปี สถานศกึ ษามีการสง่ เสริม สนบั สนนุ พัฒนาครแู ละบคุ ลากรพฒั นาตนเองให้มี (ร้อยละ 60-69) ความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ๒๐ ชม.และจดั ให้มชี ุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี น้อยกวา่ ๕๐ ชม.ต่อปี ดเี ลศิ สถานศึกษามีการสง่ เสรมิ สนับสนุนพัฒนาครแู ละบุคลากรพัฒนาตนเองใหม้ ี (ร้อยละ 70-79) ยอดเย่ียม

๕๙ ระดบั คุณภาพ คำอธิบายระดับคณุ ภาพ ความเช่ยี วชาญทางวชิ าชีพ ๒๐ ชม.และจัดใหม้ ชี ุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพ (มากกว่า รอ้ ยละ 80) น้อยกวา่ ๕๐ ชม. ตอ่ ปีและนำความรู้ทีไ่ ด้รบั มาใช้ในการพัฒนางานและการ เรียนรู้ของผเู้ รยี น วิธเี กบ็ รวบรวมข้อมลู /แหล่งข้อมูล แหลง่ ข้อมลู วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ครู และผูบ้ รหิ ารโรงเรียน - 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม 2.การสงั เกต/การทดสอบ - แผนพฒั นาการศึกษาของโรงเรียน 3.เอกสาร หลักฐาน ร่องรอย - วิสัยทัศน์และพนั ธกิจของโรงเรยี น การปฏบิ ัตงิ าน หรอื ขอ้ มลู เชิง - โครงการส่งเสริมพัฒนาบคุ ลากรให้มีความก้าวหนา้ ใน ประจักษ์ วชิ าชีพครู - แฟม้ พฒั นาคณุ ภาพการศึกษา - รายงานการอบรม / ศึกษาดูงาน /คำสั่ง - รายงานโครงการ - รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา - ผลการประเมนิ นักเรียนด้านตา่ ง ๆ - ขอ้ มลู ครู / วทิ ยฐานะ ข้อท่ี 5 จดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมที่เอื้อต่อการจัดการเรยี นร้อู ย่างมี คณุ ภาพ มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบา้ นบ่งุ ฝาง ๑.สถานศึกษาจัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท้ังภายในและภายนอกห้องเรยี น และ สภาพแวดล้อมทางสังคมท่ีเอ้ือต่อการจัดการเรียนรแู้ ละมีความปลอดภัย

๖๐ คำอธิบาย สถานศึกษาจัดเตรียมห้องที่เสริมและเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ท่ีดี เช่น ห้องปฏิบัติการ คอมพวิ เตอร์ หอ้ ง DLIT หอ้ งปฏิบัติการภาษาต่างประเทศ ห้องวิทยาศาสตรต์ ลอดจน โทรทัศน์ ระบบ สาธารณูปโภคที่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน รวมทั้งมีระบบรักษาความปลอดภัยในเรียน เช่น กล้อง CCTV ระดับคุณภาพ การให้ระดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ (น้อยกวา่ สถานศึกษาไมม่ กี ารจดั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทั้งภายในและภายนอก ร้อยละ 50) หอ้ งเรียนทเี่ ออ้ื ต่อการจดั การเรยี นรู้ ปานกลาง สถานศึกษาจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทงั้ ภายในและภายนอกห้องเรียน (รอ้ ยละ 50-59) สถานศกึ ษาจดั สภาพแวดล้อมทางกายภาพท้ังภายในและภายนอกห้องเรยี น อย่างมีคุณภาพ ดี สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพทง้ั ภายในและภายนอกห้องเรยี น อยา่ งมีคณุ ภาพ และมีความปลอดภยั (ร้อยละ 60-69) สถานศึกษาจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพทัง้ ภายในและภายนอกห้องเรยี น อยา่ งมีคุณภาพ และมีความปลอดภัย และสภาพแวดลอ้ มทางสงั คมท่เี อ้ือต่อ ดเี ลศิ การจัดการเรียนรู้ (รอ้ ยละ 70-79) ยอดเยี่ยม (มากกวา่ รอ้ ยละ 80) วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล แหล่งข้อมูล วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มูล ครู และผบู้ รหิ ารโรงเรยี น 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม อาคารสถานท่ี สภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน 2.การสงั เกต/การทดสอบ - แผนพฒั นาการศึกษาของโรงเรียน 3.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย

๖๑ วธิ ีเก็บรวบรวมข้อมลู แหลง่ ข้อมลู การปฏิบตั ิงาน หรือขอ้ มลู เชิง - วสิ ัยทัศนแ์ ละพนั ธกจิ ของโรงเรยี น ประจักษ์ - โครงการพัฒนาอาคารสถานท่ี ปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั นแ์ ละ ระบบรกั ษาความปลอดภัยท่เี อือ้ ต่อการเรียนรู้ของนกั เรยี น - รายงานโครงการ - รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา - ผลการประเมนิ นักเรียนด้านตา่ ง ๆ ข้อที่ 6 จดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ สนับสนนุ การบริหารจัดการและการจดั การเรยี นรู้ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบงุ่ ฝาง ๑.สถานศกึ ษาจดั ระบบการจัดหา การพฒั นาและการบริการ เทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือใชใ้ นการบรหิ ารจดั การจัดการเรียนรู้ ที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา คำอธบิ าย สถานศึกษาจัดให้มีระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้และสนับสนุนการ จัดการศึกษาความเร็วสูง Fiber Optic ของรัฐความเร็ว 100 Mb/s 1 โครงข่าย ของเอกชน อีก 2 โครงขา่ ย ความเรว็ โครงขา่ ยละ 200/100 Mb/s ระดบั คณุ ภาพ การให้ระดบั คณุ ภาพ กำลังพฒั นา คำอธิบายระดับคณุ ภาพ (น้อยกวา่ สถานศึกษาไม่มกี ารจัดระบบเทคโนโลยเี พอื่ สนับสนุนการบริหารจัดการและ ร้อยละ 50) การจดั การเรยี นรู้ ปานกลาง สถานศกึ ษาจัดระบบเทคโนโลยีเพือ่ สนบั สนุนการบรหิ ารจดั การและการ จดั การเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา (รอ้ ยละ 50-59) สถานศกึ ษาจัดระบบเทคโนโลยีเพื่อสนับสนนุ การบริหารจัดการและการ จัดการเรยี นร้ทู เ่ี หมาะสม ดี สถานศึกษาจดั ระบบเทคโนโลยเี พ่ือสนบั สนุนการบริหารจัดการและการ (รอ้ ยละ 60-69) ดเี ลิศ (ร้อยละ 70-79)

๖๒ ระดบั คุณภาพ คำอธิบายระดบั คุณภาพ จดั การเรยี นรูท้ ่ีเหมาะสมกบั สภาพของสถานศึกษามาก ยอดเย่ียม สถานศึกษาจดั ระบบเทคโนโลยีเพื่อสนบั สนนุ การบรหิ ารจดั การและการ (มากกวา่ ร้อยละ 80) จัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษามากทีส่ ุด วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล แหล่งข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครู และผู้บรหิ ารโรงเรียน 2.การสังเกต/การทดสอบ อาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ มของโรงเรียน 3.เอกสาร หลกั ฐาน รอ่ งรอย - แผนพฒั นาการศึกษาของโรงเรยี น การปฏิบตั งิ าน หรอื ข้อมลู เชิง - วสิ ัยทัศนแ์ ละพันธกิจของโรงเรยี น ประจักษ์ - โครงการตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจำปี - รายงานโครงการ - รายงานการประเมนิ ตนเองของสถานศึกษา - ผลการประเมนิ นกั เรยี นดา้ นต่าง ๆ - ส่ือเทคโนโลยเี พอ่ื การเรยี นรู้ ภายในหอ้ งเรยี น และ สำหรับการบรหิ าร - เกยี รตบิ ตั ร / โล่รางวลั มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั ข้อท่ี 1 จดั การเรยี นร้ผู า่ นกระบวนการคิดและปฏิบตั ิจรงิ และสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตได้ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นบงุ่ ฝาง

๖๓ ๑. ครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วัดของหลักสูตร สถานศกึ ษาท่เี นน้ ให้ผเู้ รยี นได้เรยี นร้ผู ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง โดยบูรณาการกับ กิจกรรมโรงเรยี นคุณธรรม โรงเรียนสจุ รติ ๒.ครมู แี ผนการจัดการเรียนรู้ทสี่ ามารถนำไปจดั กจิ กรรมได้จรงิ มีรปู แบบการจดั การ เรียนรู้เฉพาะสำหรับผ้ทู ม่ี ีความจำเปน็ และต้องการความชว่ ยเหลือพิเศษ ๓.ผเู้ รียนไดร้ ับการฝกึ ทักษะ แสดงออกแสดงความคิดเหน็ สรุปองค์ความรู้ นำเสนอ ผลงานและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ได้ คำอธบิ าย ครูมีการวิเคราะห์หลักสูตร ตัวช้ีวัดเพื่อนำมาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ตลอดจน จดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่มี กี ารฝึกปฏบิ ัติจริง เหมาะสมกับผ้เู รยี น เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั มีการ บรู ณาการกจิ กรรมตา่ งๆ ในการเรยี นการสอน ระดบั คุณภาพ การใหร้ ะดับคณุ ภาพ กำลงั พัฒนา คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ (นอ้ ยกวา่ ไมม่ ีการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัดของหลักสตู ร รอ้ ยละ 50) สถานศึกษาท่ีเน้นให้ผู้เรียนได้เรยี นรู้โดยผ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ัตจิ รงิ ปานกลาง ครูจัดกจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัดของหลักสตู ร สถานศึกษาที่เน้นใหผ้ เู้ รยี นได้เรยี นรูโ้ ดยผ่านกระบวนการคิด (รอ้ ยละ 50-59) ครจู ดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัดของหลกั สตู ร สถานศึกษาท่ีเนน้ ให้ผเู้ รยี นได้เรยี นร้โู ดยผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจรงิ ดี ครูจดั กิจกรรมการเรียนรตู้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั ของหลกั สูตร สถานศึกษาท่ีเน้นใหผ้ ้เู รียนได้เรยี นรู้โดยผ่านกระบวนการคิดและปฏิบตั จิ รงิ มี (ร้อยละ 60-69) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่สามารถนำไปจดั กิจกรรมได้จริง ครจู ัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ของหลกั สตู ร ดีเลศิ สถานศึกษาทีเ่ น้นให้ผู้เรยี นได้เรียนรูโ้ ดยผ่านกระบวนการคิดและปฏบิ ตั จิ รงิ มี แผนการจดั การเรียนรู้ที่สามารถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง ผ้เู รยี นได้รับการฝึก (รอ้ ยละ 70-79) ทักษะ แสดงออกแสดงความคิดเห็น สรุปองค์ความรู้ นำเสนอผลงานและ สามารถนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ได้ ยอดเยี่ยม (มากกวา่ ร้อยละ 80)

๖๔ วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมลู แหลง่ ข้อมูล 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม ครแู ละนกั เรียน 2.การสังเกต/การทดสอบ นเิ ทศการสอน 3.เอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอย - แผนการสอน การปฏบิ ัติงาน หรือขอ้ มลู เชิง - แบบฝกึ หดั ประจกั ษ์ - ใบงาน - กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ - ผลงานนกั เรยี น - สือ่ การสอน - วิจยั ในชั้นเรียน - โครงงาน - แฟม้ สะสมผลงานนักเรยี น - ภาพถา่ ยกิจกรรมตา่ งๆ - โครงการนเิ ทศภายในเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ข้อที่ 2 ใชส้ ่ือ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรยี นรูท้ ่เี อื้อตอ่ การเรียนรู้ มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบา้ นบุ่งฝาง ๑.ครูมกี ารใชส้ อื่ เทคโนโลยีสารสนเทศ แหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรยี น ๒.นำภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ มาชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพการจัดการเรยี นการสอนใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ คำอธิบาย ครูมีการใช้ส่ือและเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกห้องเรียน อีกทั้งมีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาบูรณาการในช้ันเรียน รวมไปถึงแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เชน่ ห้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ห้อง DLIT และห้องสมดุ ระดบั คณุ ภาพ การให้ระดบั คุณภาพ คำอธิบายระดับคุณภาพ กำลงั พฒั นา ครูมีการใชส้ ื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรูต้ ่างๆ (น้อยกว่า ร้อยละ 50) ครมู ีการใชส้ ่ือ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรู้มาช่วยในการจัดการ ปานกลาง

๖๕ ระดบั คุณภาพ คำอธบิ ายระดับคุณภาพ (รอ้ ยละ 50-59) เรียนการสอน ดี ครูมกี ารใช้ส่ือ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหลง่ เรยี นรู้มาชว่ ยในการจดั การ (รอ้ ยละ 60-69) เรียนการสอน ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนแสวงหาความรู้ไดด้ ้วยตนเอง ดีเลศิ สถานศกึ ษามีระบบเช่อื มตอ่ เครอื ข่ายอินเทอร์เนต็ เพ่ือช่วยในการสืบคน้ (ร้อยละ 70-79) ครมู ีการใชส้ ื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้มาชว่ ยในการจดั การ ยอดเยี่ยม เรยี นการสอนสง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รยี นแสวงหาความรูไ้ ดด้ ว้ ยตนเอง (มากกว่า สถานศึกษามรี ะบบเช่อื มต่อเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตเพ่ือชว่ ยในการสืบคน้ ครบ รอ้ ยละ 80) ทุกเคร่ือง มีบนั ทกึ การใช้แหล่งเรียนร้ภู ายในสถานศึกษาและภายนอกสถานศกึ ษา ครมู กี ารใช้ส่ือ เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้มาชว่ ยในการจัดการ เรียนการสอนสง่ เสริมให้ผู้เรียนแสวงหาความรไู้ ด้ด้วยตนเอง สถานศึกษามรี ะบบเชื่อมต่อเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยในการสบื คน้ ครบ ทุกเครื่อง มสี ารสนเทศเก่ียวกับแหลง่ เรียนรู้ภายในสถานศึกษาและภายนอกสถานศกึ ษา มีบนั ทกึ การใชแ้ หลง่ เรียนรภู้ ายในสถานศึกษาและภายนอกสถานศกึ ษา มจี ำนวนคอมพิวเตอรท์ เ่ี ปน็ แหลง่ สืบค้นขอ้ มูลของครูผู้สอนและนักเรยี นครบ ทุกห้องเรยี น วิธเี ก็บรวบรวมขอ้ มูล/แหล่งขอ้ มูล วธิ ีเก็บรวบรวมขอ้ มูล แหล่งข้อมูล 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม นกั เรียนและครู 2.การสงั เกต/การทดสอบ นิเทศการสอน 3.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย - แผนการสอน การปฏิบตั งิ าน หรือข้อมูลเชงิ - แบบฝึกหดั ประจกั ษ์ - ใบงาน - กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ - ผลงานนักเรียน - สื่อการสอน - วิจยั ในชั้นเรียน - โครงงาน

๖๖ วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มูล แหล่งข้อมลู - แฟม้ สะสมผลงานนกั เรยี น - ภาพถา่ ยกิจกรรมต่างๆ - โครงการนิเทศภายในเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ขอ้ ที่ 3 มกี ารบริหารจัดการช้นั เรยี นเชงิ บวก มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบ้านบุ่งฝาง ๑.ครผู ูส้ อนมีการบริหารจัดการชั้นเรยี นโดยจัดบรรยากาศห้องเรียนที่เอ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ ๒.ครูเน้นการมีปฏิสมั พนั ธเ์ ชิงบวก ไดแ้ ก่ มีความยุติธรรมและใหค้ วามเทา่ เทียมกับ นักเรียนทกุ คน ไมเ่ ลือกปฏิบัติ พยายามพัฒนาและสรา้ งแรงจงู ใจ สรา้ งให้เด็กมคี วามรักครู รักท่ีจะ เรียนรู้ สามารถอย่รู ว่ มกนั อยา่ งมีความสขุ คำอธิบาย ครูมีการจัดชั้นเรียนให้เอ้ือต่อการเรียนรู้เน้นการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก มีความ ยุติธรรม ส่งเสริม มีการนำหลักธรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมท่ีดีให้แก่ผู้เรียน สร้าง แรงจูงใจ ความเสมอภาคให้เกิดข้ึนในชั้นเรียน ไม่เลือกปฏิบัติ จนทำให้ผู้เรียนอยู่ร่วมกันอย่างมี ความสขุ ในสงั คมได้ การให้ระดบั คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ คำอธิบายระดบั คุณภาพ กำลังพัฒนา มีการบริหารจัดการชัน้ เรยี นโดยจัดบรรยากาศห้องเรียนที่ไมเ่ อื้อตอ่ การเรียนรู้ (น้อยกว่า มีการบริหารจัดการชั้นเรยี นโดยจัดบรรยากาศห้องเรียนท่เี อือ้ ต่อการเรียนรู้ ร้อยละ 50) มีการบรหิ ารจดั การชั้นเรยี นโดยจดั บรรยากาศห้องเรยี นท่เี อื้อต่อการเรียนรู้ ปานกลาง และเน้นการมีปฏิสัมพนั ธ์เชงิ บวก มีความยุตธิ รรมและใหค้ วามเทา่ เทยี มกับ นักเรียนทกุ คน (รอ้ ยละ 50-59) มีการบรหิ ารจัดการชนั้ เรยี นโดยจัดบรรยากาศห้องเรียนทเี่ อ้ือต่อการเรียนรู้ ดี (ร้อยละ 60-69) ดีเลิศ

๖๗ ระดับคณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ และเนน้ การมีปฏิสัมพันธเ์ ชงิ บวก ได้แก่ มีความยตุ ธิ รรมและใหค้ วามเท่าเทียม (ร้อยละ 70-79) กับนกั เรียนทุกคน ไม่เลอื กปฏบิ ตั ิ พยายามพัฒนาผู้เรยี นและสรา้ งแรงจงู ใจ สร้างให้เด็กมีความรักครู ยอดเย่ียม มีการบริหารจดั การชั้นเรยี นโดยจดั บรรยากาศห้องเรียนท่ีเอื้อต่อการเรยี นรู้ (มากกวา่ และเนน้ การมปี ฏิสัมพันธเ์ ชิงบวก มีความยุติธรรมและให้ความเทา่ เทียมกบั ร้อยละ 80) นกั เรียนทกุ คน ไม่เลอื กปฏบิ ตั ิ พยายามพัฒนาผ้เู รยี นและสรา้ งแรงจงู ใจ สร้าง ให้เด็กมีความรกั ครู รกั ท่จี ะเรียนรู้ สามารถอยู่รว่ มกันอย่างมีความสขุ วิธเี กบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งขอ้ มูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล แหลง่ ข้อมูล 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรียนและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ นเิ ทศการสอน 3.เอกสาร หลกั ฐาน ร่องรอย - เอกสารช้ันเรยี น การปฏบิ ัติงาน หรือขอ้ มลู เชิง - แบบบันทกึ กจิ กรรมโฮมรมู ประจกั ษ์ - ข้อตกลงในช้ันเรยี น - โครงการระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน - ภาพถา่ ยกจิ กรรมการเรียนการสอน - ภาพถา่ ยบรรยากาศในช้ันเรียน - แผนการจดั การเรยี นรู้ ข้อท่ี 4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอยา่ งเปน็ ระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน มาตรฐานการศึกษาโรงเรียนบา้ นบงุ่ ฝาง ๑. ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและมปี ระสทิ ธภิ าพ ประเมนิ ผูเ้ รยี น จากสภาพจริง มีขนั้ ตอนตรวจสอบและประเมินอย่างเป็นระบบ ๒.ใชเ้ ครอื่ งมือและวิธีการวัดและประเมนิ ผลทเี่ หมาะสมกบั เป้าหมายในการจัดการ เรยี นรู้

๖๘ ๓.นกั เรียนและผู้ทมี่ ีส่วนเกยี่ วข้องมสี ่วนรว่ มในการวัดและประเมนิ ผล ใหข้ ้อมลู ยอ้ นกลบั แกผ่ ้เู รยี น และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้เรยี นนำผลไปใชพ้ ัฒนาตนเอง คำอธิบาย ครูมีการวัดและประเมินผลอยา่ งเปน็ ระบบสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรสถานศกึ ษา บริบท ของโรงเรียน ระเบียบวัดผลของสถานศึกษา สะท้อนถึงความสามารถของผู้เรียนอย่างแท้จริง เปิด อากาศใหผ้ เู้ รียนได้ประเมนิ ตนเอง ตลอดจนนำผลการพฒั นาการเรยี นให้ดยี ิ่งขน้ึ ระดับคุณภาพ การใหร้ ะดับคุณภาพ กำลงั พัฒนา คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ (นอ้ ยกวา่ มีครูท่ีได้ดำเนินงาน การตรวจสอบและประเมนิ ผ้เู รยี นอย่างเปน็ ระบบและมี รอ้ ยละ 50) ประสทิ ธภิ าพ ( ๑.ประเมนิ ผู้เรยี นจากสภาพจรงิ ๒.มขี ั้นตอนตรวจสอบและ ประเมินอย่างเป็นระบบ ๓.ใช้เคร่อื งมือและวธิ ีการวดั และประเมนิ ผลท่ี ปานกลาง เหมาะสมกบั เป้าหมายในการจดั การเรยี นรู้ ๔.นักเรียนและผทู้ ม่ี ีสว่ นเก่ียวข้อง มสี ่วนร่วมในการวดั และประเมนิ ผล ๕. ใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับแก่ผ้เู รยี น และ (รอ้ ยละ 50-59) ผู้เรียนนำผลไปใช้พัฒนาตนเอง ) จำนวนตัง้ แตร่ อ้ ยละ ๕๐-๕๙ ขน้ึ ไป ดี มคี รทู ่ีได้ดำเนนิ งาน การตรวจสอบและประเมินผู้เรยี นอยา่ งเปน็ ระบบและมี ประสิทธภิ าพ ( ๑.ประเมนิ ผเู้ รยี นจากสภาพจริง ๒.มีขน้ั ตอนตรวจสอบและ (รอ้ ยละ 60-69) ประเมนิ อย่างเป็นระบบ ๓.ใช้เคร่อื งมอื และวิธกี ารวดั และประเมนิ ผลท่ี เหมาะสมกับเปา้ หมายในการจัดการเรียนรู้ ๔.นักเรยี นและผู้ทมี่ สี ่วนเกยี่ วข้อง ดเี ลศิ มสี ว่ นร่วมในการวดั และประเมนิ ผล ๕. ให้ข้อมลู ย้อนกลบั แก่ผูเ้ รียน และ ผู้เรียนนำผลไปใช้พฒั นาตนเอง ) จำนวนต้งั แตร่ อ้ ยละ ๖๐-๖๙ ข้นึ ไป (ร้อยละ 70-79) มคี รทู ่ีไดด้ ำเนินงาน การตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ งเปน็ ระบบและมี ประสทิ ธภิ าพ ( ๑.ประเมินผูเ้ รยี นจากสภาพจริง ๒.มขี ้นั ตอนตรวจสอบและ ประเมนิ อย่างเป็นระบบ ๓.ใช้เครือ่ งมือและวิธกี ารวัดและประเมินผลท่ี เหมาะสมกับเป้าหมายในการจดั การเรยี นรู้ ๔.นกั เรียนและผทู้ ่มี สี ่วนเกี่ยวข้อง มสี ว่ นรว่ มในการวัดและประเมินผล ๕. ใหข้ ้อมลู ย้อนกลับแก่ผเู้ รียน และ ผ้เู รียนนำผลไปใชพ้ ัฒนาตนเอง ) จำนวนตัง้ แตร่ อ้ ยละ ๗๐-๗๙ ขน้ึ ไป มคี รูที่ได้ดำเนินงาน การตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรยี นอยา่ งเปน็ ระบบและมี ประสทิ ธภิ าพ ( ๑.ประเมินผู้เรยี นจากสภาพจรงิ ๒.มขี นั้ ตอนตรวจสอบและ ประเมนิ อยา่ งเปน็ ระบบ ๓.ใช้เครอ่ื งมอื และวิธีการวดั และประเมนิ ผลท่ี

๖๙ ระดับคณุ ภาพ คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ เหมาะสมกับเปา้ หมายในการจัดการเรยี นรู้ ๔.นกั เรียนและผ้ทู ี่มสี ว่ นเกย่ี วข้อง ยอดเยี่ยม มีสว่ นร่วมในการวัดและประเมินผล ๕. ให้ขอ้ มูลย้อนกลบั แก่ผู้เรียน และ ผู้เรียนนำผลไปใชพ้ ัฒนาตนเอง ) จำนวนตง้ั แต่รอ้ ยละ ๘๐-๘๙ ขึ้นไป (มากกว่า ร้อยละ 80) มีครทู ่ีไดด้ ำเนินงาน การตรวจสอบและประเมินผเู้ รยี นอยา่ งเปน็ ระบบและมี ประสิทธภิ าพ ( ๑.ประเมินผเู้ รยี นจากสภาพจริง ๒.มขี น้ั ตอนตรวจสอบและ ประเมินอยา่ งเป็นระบบ ๓.ใชเ้ ครอื่ งมอื และวิธกี ารวัดและประเมนิ ผลท่ี เหมาะสมกบั เปา้ หมายในการจัดการเรียนรู้ ๔.นกั เรยี นและผทู้ ม่ี ีส่วนเก่ียวข้อง มีสว่ นร่วมในการวดั และประเมินผล ๕. ใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั แกผ่ เู้ รียน และ ผู้เรยี นนำผลไปใชพ้ ฒั นาตนเอง ) จำนวนตัง้ แต่รอ้ ยละ ๙๐ ขึน้ ไป วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู /แหล่งข้อมูล วิธเี ก็บรวบรวมข้อมลู แหลง่ ข้อมลู 1.การสมั ภาษณ์/สอบถาม นักเรยี นและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ นิเทศการสอน 3.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย ๑.ประเมินผู้เรียนจากสภาพจรงิ การปฏิบตั ิงาน หรอื ขอ้ มลู เชงิ - การประเมินสมรรถนะด้านตา่ งๆของผเู้ รยี นในแต่ละ ประจกั ษ์ รายวชิ า - ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของนักเรียน - แบบประเมนิ การสอนของตนเองของครผู ู้สอน - แฟ้มสะสมผลงาน - แบบสังเกตการปฏิบตั ิงานของนกั เรียน ๒.มขี นั้ ตอนตรวจสอบและประเมินอยา่ งเปน็ ระบบ - ตัวอยา่ งประมวลการสอนทีร่ ะบุขัน้ ตอนการประเมิน นักเรียนอยา่ งเป็นระบบ - แบบประเมินการสอนของตนเองของครูผูส้ อน - แบบบนั ทึกระเบยี นสะสม (ปพ.๕ / ปพ.๖ / ปพ.๘ ) - แบบทดสอบระหว่างเรียน / ปลายปี - แบบประเมนิ อา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น - แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

๗๐ วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มลู แหล่งข้อมลู - ประกาศผลสอบ ( NT / O-net ) - คำส่งั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการคุมสอบ ๓.ใช้เคร่อื งมือและวธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลท่ีเหมาะสมกบั เป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ - แบบประเมนิ การสอน - ตวั อย่างประมวลการสอนทีม่ ีการใช้เครอ่ื งมอื และวธิ กี าร วดั การประเมนิ ผล - ตวั อยา่ งเครอื่ งมือและวิธีการวัด เชน่ ขอ้ สอบ ใบรายงาน ผลงาน และช้นิ งานของนักเรียนใน รายวิชาต่างๆ - แบบประเมนิ การสอนของตนเองของครูผ้สู อน - แบบตรวจสอบรายการ - แบบบันทกึ ระเบียนสะสม (ปพ.๕ / ปพ.๖ / ปพ.๘ ) - แฟ้มสะสมงาน - แบบบนั ทกึ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมนิ อ่านคิดวิเคราะหเ์ ขียน - แบบคัดกรองนักเรยี นรายบุคคล - แบบบนั ทึกตัวชวี้ ดั - แบบรายงานผลการทดสอบการอ่าน เขยี น ประจำเดือน ๔.นกั เรียนและผ้ทู ่มี ีส่วนเกย่ี วข้องมสี ว่ นรว่ มในการวดั และ ประเมินผล - แบบประเมินการสอน - แบบประเมินการสอนของตนเองของครูผู้สอน ๕. ให้ขอ้ มลู ย้อนกลับแก่ผู้เรยี น และผู้เรียนนำผลไปใชพ้ ัฒนา ตนเอง - แบบประเมนิ การสอนของตนเองของครูผ้สู อน - แบบตรวจสอบรายการ - แบบบนั ทกึ ระเบยี นสะสม - แฟม้ สะสมงาน

๗๑ วิธีเก็บรวบรวมขอ้ มลู แหลง่ ข้อมูล - แบบบนั ทกึ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - แบบประเมินอ่านคิดวิเคราะห์เขียน - แบบบนั ทึกตัวช้ีวัด - แบบคดั กรองนักเรียนรายบคุ คล - แบบรายงานผลการทดสอบการอา่ น เขยี น ข้อท่ี 5 มกี ารแลกเปลีย่ นเรยี นรู้และให้ข้อมลู สะท้อนกลับเพ่ือพฒั นาและปรบั ปรุงการจัดการ เรียนรู้ มาตรฐานการศกึ ษาโรงเรียนบา้ นบุ่งฝาง ๑. ครูและผมู้ ีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกันแลกเปลยี่ นความรูป้ ระสบการณแ์ ละรายงาน ข้อมลู และนำไปใช้ ๒.ครูแลกเปล่ียนประสบการณ์การเรยี นรู้ เพื่อส่งผลให้เกดิ องค์ความร้ใู หม่ ๓.ครูจัดทำวจิ ัยช้ันเรยี นและใหข้ ้อมลู สะทอ้ นกลับเพื่อพัฒนาและปรบั ปรุง การจดั การเรยี นรแู้ ละรายงานขอ้ มลู และนำไปใช้ คำอธบิ าย ครูมีการประชุมรวมกลุ่มวิชาชีพแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพการกระบวนการ เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ รวมทั้งระดมความคิดเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนผ่านการการวิจัยในชั้นเรียน รวมทง้ั สะท้อนปญั หาเพ่ือปรบั ปรงุ การเรียนการสอน ระดบั คุณภาพ การใหร้ ะดบั คณุ ภาพ คำอธิบายระดบั คุณภาพ กำลงั พัฒนา ครูยงั ขาดการแลกเปล่ยี นประสบการณก์ ารเรยี นรู้ (น้อยกว่า ร้อยละ 50) ครแู ลกเปล่ียนประสบการณ์การเรียนรู้ เพ่ือสง่ ผลใหเ้ กิดองค์ความร้ใู หม่ ครูแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรยี นรู้ เพ่ือส่งผลใหเ้ กิดองคว์ ามรู้ใหม่ ครู ปานกลาง จัดทำวจิ ัยชั้นเรยี น (รอ้ ยละ 50-59) ดี (ร้อยละ 60-69) ดเี ลิศ ครูแลกเปลย่ี นประสบการณ์การเรยี นรู้ เพ่ือสง่ ผลใหเ้ กิดองคค์ วามรใู้ หม่ครู (ร้อยละ 70-79)

๗๒ ระดับคณุ ภาพ คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ จดั ทำวจิ ยั ชั้นเรยี นและใหข้ ้อมูลสะทอ้ นกลับเพ่ือพฒั นาปรับปรุงการจัดการ ยอดเย่ียม เรียนรู้ (มากกวา่ ครูแลกเปล่ยี นประสบการณ์การเรยี นรู้ เพอ่ื สง่ ผลใหเ้ กิดองความร้ใู หม่ครูจดั ทำ รอ้ ยละ 80) วิจยั ชั้นเรียนและใหข้ อ้ มูลสะทอ้ นกลบั เพ่ือพฒั นาปรับปรุงการจัดการเรยี นรู้ และรายงานข้อมูลและนำไปใช้ วิธีเกบ็ รวบรวมข้อมูล/แหล่งข้อมูล วธิ ีเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แหลง่ ข้อมลู 1.การสัมภาษณ์/สอบถาม นกั เรียนและครู 2.การสังเกต/การทดสอบ นเิ ทศการสอน 3.เอกสาร หลักฐาน รอ่ งรอย -โครงการส่งเสริมพฒั นาบุคลากรใหม้ ีความกา้ วหนา้ ในวชิ าชีพครู การปฏิบัตงิ าน หรอื ข้อมลู เชิง -รายงานผลการปฏิบตั งิ านและปฏบิ ตั ริ าชการของครรู ายบุคคล ประจักษ์ หรือแฟ้มพัฒนางานครู - แผนพัฒนาตนเองเปน็ รายบุคคล ID Plan - วิจัยในช้นั เรยี น - รายงานการอบรม - เกยี รตบิ ตั ร - ภาพถา่ ยที่เกย่ี วขอ้ ง

๗๓ สว่ นที่ ๓ แนวทางการประเมนิ คุณภาพภายในของสถานศึกษา จากประกาศกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ ได้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษา เล่ม ๑๓๕ ตอนที่ ๑๑ ก หน้า ๓ เมื่อวันท่ี ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ กล่าวถึง “การประกัน คุณภาพ การศึกษา” หมายความว่า การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของ สถานศึกษาแต่ละระดับและประเภทการศกึ ษา โดยมีกลไกในการควบคุมตรวจสอบระบบ การบริหารคุณภาพ การศึกษาที่สถานศึกษาจัดขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาและสรา้ งความเช่ือม่ันให้แกผ่ ู้มี สว่ นเก่ียวข้องและ สาธารณชนว่าสถานศึกษาน้ันสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน การศกึ ษา และบรรลุ เป้าประสงค์ของหน่วยงานต้นสังกัดหรือหนว่ ยงานที่กำกบั ดแู ล โดยให้สถานศึกษา แต่ละแห่งจัดให้มีระบบการ ประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยการกำหนดมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไป ตามมาตรฐานการศึกษาแต่ละระดับและประเภทการศึกษาท่ี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศ กำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของ สถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและ ดำเนินการตามแผนท่ีกำหนดไว้จัดให้มีการ ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนินการเพื่อพัฒนา สถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และจัดส่งรายงานผลการ ประเมินตนเองให้แก่ หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานท่ีกำกับดูแลสถานศึกษาเป็นประจำทุกปี ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือ หน่วยงานท่ีกำกับดูแลสถานศึกษามีหน้าที่ในการให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ และแนะนำสถานศึกษา เพ่ือให้การประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาพัฒนาอย่างต่อเน่ือง และจัดส่งรายงานการประ เมนตนเองของสถานศึกษา พร้อมกับประเด็นต่าง ๆ ที่ต้องการให้มีการประเมินผล และการติดตาม ตรวจสอบซ่ึงรวบรวมได้จากหน่วยงานที่เก่ียวข้องหรือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสถานศึกษา แห่งน้ัน ให้แก่ สมศ. เพ่ือใช้เป็นข้อมูลและแนวทางในการประเมินคุณภาพภายนอก สมศ. ดำเนินการ ประเมินผลและตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และจัดส่งรายงานผล การ ประเมินและการติดตามตรวจสอบดังกล่าว พร้อมข้อเสนอแนะให้แก่สถานศึกษาและหน่วยงานต้น

๗๔ สังกัดหรือ หน่วยงานท่ีกำกับดูแลสถานศึกษานั้น ๆ เพื่อให้สถานศึกษาใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพ การศึกษาต่อไป สมศ. อาจจัดให้บุคคลหรือหน่วยงานท่ีได้รับการรับรองจาก สำนักงานดำเนินการประเมินผล และตดิ ตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา ได้ เพื่อให้การดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาเป็นไปตามกฎกระทรวงการประกันคุณภาพ การศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๖๑ จึงให้สถานศึกษาในสังกัดทุกโรง เข้าใจถึงแนวทางการดำเนินงานพัฒนาระบบการ ประกัน คณุ ภาพภายในของสถานศึกษาและการรองรบั การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ ดังนี้ ๑) สถานศึกษาแต่ละแห่งต้องจัดให้การประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาตาม กฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยมีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของ สถานศกึ ษา ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานการศกึ ษาแต่ละระดับและประเภทการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศกำหนด พร้อมทั้งจัดทำแผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษา และ ดำเนินการตามแผนท่กี ำหนดไว้ จัดให้มีการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนินงานเพื่อพัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษา และจัดส่งรายงานผล การประเมินตนเอง (SAR) ให้แก่หน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่ กำกบั ดูแลสถานศกึ ษาเป็นประจำทกุ ปี ๒) ในปีการศึกษา ๒๕๖4 สถานศกึ ษาจะได้มีการนำมาตรฐานการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการ จะกำหนดประกาศใช้ ไปเทียบเคียงและจัดทำเป็น “มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา” จัดทำ แผนพัฒนา การจัดการศึกษา และดำเนนิ งานตามแผนฯ ตลอดช่วงปีการศึกษา ๒๕๖4 และจัดทำ SAR ตามกรอบ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา หลังส้ินปีการศึกษา ๒๕๖4 (ประมาณเดือน มี.ค.-เม.ย. ๖5) แลว้ จึงจัดส่ง SAR ใหห้ น่วยงานตน้ สงั กัดหรือหนว่ ยงานทก่ี ำกบั ดแู ลสถานศกึ ษา ๓) เมื่อหน่วยงานตน้ สงั กัดหรือหน่วยงานทกี่ ำกบั ดูแลสถานศึกษาได้รบั SAR จากสถานศกึ ษา ก็ จะมีการสรุป วิเคราะห์ สังเคราะห์ผลการดำเนินงาน และจัดส่ง SAR พร้อมประเด็นต่างๆ ท่ีต้องการให้ มี การประเมินผลและติดตามตรวจสอบให้แก่ สมศ. เพ่ือใช้เป็นข้อมูลและแนวทางในการประเมิน คุณภาพ ภายนอก ๔) การประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาและการตดั สินระดับคณุ ภาพตามมาตรฐานเป็น ไปตามหลกั การตัดสนิ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญ (expert judgment) และการตรวจทานผลการประเมิน โดยคณะกรรมการประเมนิ ในระดับเดียวกัน (peer review) โดยเทียบกบั เกณฑ์หรอื มาตรฐานท่กี ำหนด ไว้ คณะกรรมการประเมินต้องมีความรู้อย่างรอบด้านและวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันในการตัดสินเพื่อให้ ระดบั คณุ ภาพตามเกณฑท์ ่กี ำหนด ซ่ึงจะไมใ่ ช่การให้คะแนนตามความคิดเห็นของคนใดคนหน่งึ ๕) การประเมินคุณภาพภายในเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาท่ีต้องตรวจสอบและประเมินตนเอง ตามสภาพบริบทของสถานศึกษาท่ีแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับการประเมินเชิงคุณภาพ ผนวกกับการ ประเมิน เชิงปริมาณควบคู่กันไป การตัดสินคุณภาพของสถานศึกษาให้ใช้เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน หรือกระบวนการ ท่ีไม่แยกส่วนหรือแยกองค์ประกอบในการกำหนดคะแนนประเมิน แต่เป็นการ ประเมนิ ในภาพรวมของผลการ ดำเนินงานหรือกระบวนการดำเนินงาน (holistic rubrics) ๖) การกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานภายในของสถานศึกษา ให้สถานศึกษากำหนด เป้าหมาย และเกณฑ์การประเมินตามสภาพบริบทของสถานศึกษาเอง เพ่ือตรวจสอบและประเมินผล

๗๕ การดำเนินงานตาม ภารกิจของสถานศึกษา โดยให้ยึดหลักการดำเนินงานเพื่อพัฒนา และสะท้อน คุณภาพการดำเนนิ งานตาม เปา้ หมายท่ีกำหนดตามมาตรฐานของสถานศึกษา ๗) การประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาให้เน้นการประเมินตามหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ เกิดจากการปฏิบัติงานตามสภาพจริงของสถานศึกษา (evidence based) โดยเลือกใช้วิธีการเก็บ รวบรวม ข้อมูลที่เหมาะสมและสะท้อนคุณภาพการดำเนินงานตามมาตรฐานของสถานศึกษาได้อย่าง ชัดเจน และมี เป้าหมาย การประเมินเพื่อการพัฒนา ลดภาระการจัดเก็บข้อมูลและเอกสารที่ไม่จำเป็น ในการประเมิน แต่ ข้อมูลต้องมีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบผลการประเมินได้ตามสภาพ บรบิ ทของสถานศกึ ษานั้นๆ ๘) คณะท่ีทำหน้าที่ประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาควรศึกษามาตรฐานการศึกษาและ ประเด็นพิจารณาที่กำหนดให้เข้าใจถ่องแท้ก่อนดำเนินการประเมินคุณภาพสถานศึกษาของตน หลัง ประเมิน แล้วให้แจ้งผลการประเมินและให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษา สรุป และเขยี นรายงาน การประเมนิ ตนเอง (self-assessment report) ๙) ในการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้สถานศึกษา ดำเนินการ โดย ให้มีการประเมินคุณภาพภายในของสถานศึกษาอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง และในการ ประเมิน คุณภาพภายในตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษาให้ใช้วิธกี ารและเครื่องมือทีห่ ลากหลาย และเหมาะสม ๑๐) ให้สถานศึกษาสรุปและจัดทำรายงานการประเมินตนเองท่ีสะท้อนคุณภาพผู้เรียนและ ผลสำเร็จของการบริหารจัดการศึกษา น าเสนอรายงานต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานและ หน่วยงาน ต้นสังกัด เผยแพร่รายงานต่อสาธารณชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมรับการ ประเมินคณุ ภาพภายนอกต่อไป ๑๑) โครงสร้างรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษาไม่มีรูปแบบตายตัว ให้สถานศึกษา จัดทำในสิ่งที่สถานศึกษาต้องการนำเสนอได้ ส่ิงสำคัญท่ีสุดของรายงานการประเมินตนเอง คือ กระบวนการพัฒนาคุณภาพซึ่งหมายรวมถึง กิจกรรม/โครงการ/งานที่สถานศึกษาดำเนินการที่จะ สะท้อนให้ เหน็ ถึงหลักการ แนวคิดของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา การมีเป้าหมายหรือรูปแบบท่ีชัดเจนในการ พัฒนาการเรยี น การสอน ซ่ึงทุกกจิ กรรม/โครงการ/งานส่งผลถงึ การพัฒนาผเู้ รียนให้บรรลุเปา้ หมายของ สถานศกึ ษา ๑๒) ข้อควรตระหนักในการประเมนิ คุณภาพภายใน ๑๒.๑) ผู้ประเมินควรมีความรู้ลึกและเข้าใจบริบทของการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ทั้งใน แง่ มุมของภาระงาน โครงสร้าง เทคนิคต่าง ๆ ท่ีใช้ในการบริหาร และการพัฒนาการจัดการเรียนรู้และ มีประสบการณ์เพียงพอ เพ่ือการช่วยชี้แนะการปรับปรุงพัฒนาสถานศึกษาได้อย่างชัดเจน และตรง ประเด็น เกิดประโยชน์ต่อสถานศกึ ษาอยา่ งแทจ้ รงิ ๑๒.๒) ผู้ประเมินควรวิเคราะห์อภิปรายด้วยใจเป็นกลาง โดยพิจารณาจากข้อมูลหลักฐานท่ี เก็บรวบรวมจากหลาย ๆ ด้าน ทั้งข้อมูลปัจจุบัน และผลการประเมินการดำเนินงานที่ผ่านมา (อาจ พิจารณา ย้อนหลงั ๓ ป)ี ทั้งนเี้ พ่อื ให้ทราบถึงความกา้ วหน้าในการพัฒนาว่าอยใู่ นระดับใด ๑๒.๓) สิ่งท่ีมีคุณค่ามากที่สุดที่ได้รับจากการประเมินภายในของสถานศึกษา คือ การได้รับข้อ ชี้แนะ คำแนะนำ แนวทางการพัฒนาสถานศึกษาท่ีเป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง ดังน้ัน ผู้ประเมินจึง

๗๖ ควรรู้ ความเคล่ือนไหวของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยเฉพาะอย่างย่ิงในเรื่องการพัฒนาการเรียน การสอน ๑๒.๔) การกำหนดระยะเวลาดำเนินการประเมินภายในของสถานศึกษานั้น ให้สถานศึกษา กำหนดได้เองตามความเหมาะสม แต่ควรสอดคล้องกับสภาพและบริบทของการดำเนินงาน เพื่อความ สะดวก ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารหลักฐาน เช่น แผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนการเรียนรู้ บันทึกหลังสอนรายงานประชุม เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เอกสารหลักฐานต่าง ๆ น้ัน เกดิ ขึ้นจากการปฏบิ ัติงาน ไมใ่ ช่การสรา้ งเอกสารหลักฐานเพ่มิ เตมิ ๑๒.๕) การเก็บรวบรวมข้อมูลในส่วนของการสังเกตและสัมภาษณ์นั้น ควรกระทำด้วยความ ระมัดระวัง ต้องสร้างความรู้สึกเป็นมิตรมากกว่าการจับผิดหรือการกล่าวโทษ และควรพูดคุยสอบถาม ด้วย ความสุภาพและสร้างความไว้วางใจเป็นอันดับแรก ก่อนท่ีจะสอบถามเพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูล ตอ่ ไป บทบาทหนา้ ทขี่ องหนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ ง ระดบั สถานศึกษา ใหส้ ถานศกึ ษาระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐานดำเนินการดงั ต่อไปนี้ ๑. ให้สถานศึกษาแตล่ ะแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศกึ ษาเพ่ือ เป็น กลไกในการควบคุม ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ให้เกิดการพัฒนาและสร้างความ เชอ่ื มน่ั ให้แก่สงั คม ชุมชน และผูม้ สี ่วนเก่ยี วขอ้ ง ๒. การจัดใหม้ รี ะบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศกึ ษา ดงั นี้ ๒.๑ กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา ระดับ การศึกษาปฐมวัยและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยให้สถานศึกษาและผู้เก่ียวข้องดำเนินการและถือ เป็น ความรับผิดชอบร่วมกัน ทั้งนี้ สถานศึกษาอาจกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาเพิ่มเติม นอกเหนอื จากทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศใช้ได้ ๒.๒ จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ท่ีสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความ ต้องการจำเป็นของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยสะท้อนคุณภาพความสำเร็จอย่างชัดเจนตาม มาตรฐาน การศกึ ษาของสถานศึกษา ๒.๓ ดำเนนิ การตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ๒.๔ ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยกำหนดผู้รับผิดชอบ ในการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ท้ังระดับบุคคลและระดับสถานศึกษา และ กำหนดการ ประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา อย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ ครง้ั โดยวิธีการและ เครื่องมอื ท่ีหลากหลายและเหมาะสม ๒.๕ ติดตามผลการดำเนนิ การเพ่ือพัฒนาสถานศึกษาให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา และ นำผลการตดิ ตามไปใช้ประโยชนใ์ นการปรับปรงุ พฒั นา ๒.๖ จัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง (Self-Assessment Report : SAR) ตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา น าเสนอรายงานผลการประเมินตนเองต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พนื้ ฐานให้ ความเห็นชอบ และจดั สง่ รายงานดังกลา่ วต่อสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาเปน็ ประจำทกุ ปี

๗๗ ๒.๗ พัฒนาสถานศึกษาให้มีคุณภาพโดยพิจารณาจากรายงานผลการประเมินตนเอง (SelfAssessment Report : SAR) และตามคำแนะนำของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือให้การประกันคุณภาพการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ พฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ๓. สถานศึกษาแต่ละแห่งให้ความร่วมมือกับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา (สมศ.) เพ่ือปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามข้อเสนอแนะของ สำนักงานรับรอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และหน่วยงานต้นสังกัดหรือ หน่วยงานทก่ี ำกบั ดแู ล เพอื่ น าไปสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ระดับสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาในฐานะหน่วยงานท่ีกำกับ ดแู ลสถานศกึ ษา ดำเนินการดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. ศึกษา วิเคราะห์ รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา ตลอดจนให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ และแนะนำสถานศึกษา เพื่อให้การประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาแต่ละแห่ง พัฒนาอย่างต่อเนอ่ื ง ๒. จัดส่งรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (Self-Assessment Report : SAR) พร้อมกับ ประเด็นที่ต้องการให้มีการประเมินผลและติดตามตรวจสอบซึ่งรวบรวมได้จากหน่วยงานที่ เก่ียวข้องหรือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสถานศึกษา ไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน และสำนักงานรับรอง มาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (สมศ.) เพื่อใช้เปน็ ข้อมูลและแนวทางใน การประเมินคณุ ภาพ ภายนอก ๓. ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ และแนะนำสถานศึกษา เพื่อให้การประกันคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษาพัฒนาอยา่ งต่อเนอ่ื ง ๔. ติดตามผลการดำเนินงาน ปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตาม ข้อเสนอแนะ ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เพื่อน าไปสู่การ พัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา ๕. ใหค้ วามร่วมมอื กับสำนกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในการ จัดใหบ้ ุคคลหรอื หน่วยงานท่ีไดร้ บั การรับรองจากสำนกั งาน เพ่อื การประเมินคุณภาพภายนอก ๖. สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา อาจมอบหมายบุคคลท่ไี ม่ไดเ้ ปน็ ผู้ประเมินเขา้ ร่วมสงั เกตรับฟัง หรือ ใหข้ ้อมูลเพ่ิมเตมิ ในการประเมนิ คุณภาพภายนอกด้วยก็ได้ ระดบั สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ๑. กำหนดนโยบายด้านการศึกษา กำหนดมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย และ ระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พรอ้ มท้ังกำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการประกันคุณภาพการศกึ ษา ๒. ส่งเสริม สนับสนุน ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพ่ือให้การ ประกนั คุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษาพัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง ๓. วเิ คราะห์ และสรปุ ผล ตามข้อเสนอแนะของสำนักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพ การศึกษา (สมศ.) เพอื่ เป็นขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายที่นำไปสู่การพัฒนาคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษา ระดบั การศึกษาปฐมวัย และระดบั การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน

๗๘ ๔. ใหค้ วามร่วมมอื กับสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา (สมศ.) ในการจดั ให้ บคุ คลหรือหนว่ ยงานที่ได้รบั การรบั รองจากสำนักงาน เพอ่ื การประเมนิ คุณภาพภายนอก ภาคผนวก

๗๙

๘๐

๘๑

๘๒

๘๓

๘๔