การเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ในทวปี เอเชยี ครูภรณั ยา เอน็ ดู ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
คาชแ้ี จง 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน 2. สรุปความรเู้ รอื่ งการเผยแผแ่ ละการนบั ถอื พระพุทธศาสนา ในทวปี เอเชยี ลงในตารางทก่ี าหนด โดยใชก้ ระดาษ A4 ประเทศ การเขา้ มาของพระพทุ ธศาสนา ผมู้ บี ทบาทสาคญั ในการเผยแผ่ 1. อินเดยี 2. ศรีลงั กา 3. เนปาล 4. ภูฏาน 5. ทิเบต 6. จนี 7. เกาหลี 8. ญปี่ ุ่น
...ก่อนเผยแผศ่ าสนา... จดั ให้มกี าร “สังคายนา” พระไตรปฎิ ก ครง้ั ที่ 3 ประธานฝา่ ยสงฆ์ แปลวา่ การสะสาง พระโมคคลั ลบี ุตรตสิ สเถระ Tripitaka พระเจา้ อโศกมหาราช พระไตรปฎิ ก 1 ประธานฝา่ ยฆราวาส
รัฐแคชเมยี ร์ ...เรมิ่ เผยแผ่ศาสนา... ประเทศเนปาล ดินแดนสวุ รรณภมู ิ ประเทศอหิ รา่ น ไทย กัมพชู า เมียนมา ลาว รัฐมุมไบ รัฐมหาราษฎร์ รัฐไมเซอร์ ดนิ แดนตะวนั ตกเฉยี งใต้ ประเทศศรลี งั กา ของอนิ เดยี พระเจา้ อโศกมหาราช 2
... สายไหนมาไทย ?... ดินแดนสวุ รรณภมู ิ หมายถงึ “แผ่นดนิ ทอง” ได้แก่ พมา่ กัมพชู า ลาว ไทย “สาย 8” ไป “สวุ รรณภมู ิ” 3
การส่งสมณทูตท้ัง 9 สายไปเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ส่งผลให้ “พระพทุ ธศาสนาเผยแผไ่ ปยงั ประเทศตา่ งๆทว่ั โลก” 1. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน “ทวีปเอเชีย” ได้แก่ อนิ เดยี ศรลี งั กา เนปาล ภฏู าน ทิเบต จนี เกาหลี ญป่ี นุ่ 2. การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาใน “ทวปี ยโุ รป” ไดแ้ ก่ องั กฤษ เยอรมนี ฝรง่ั เศส รัสเซีย เนเธอรแ์ ลนด์ 3. การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาใน “ทวปี อเมริกาเหนอื ” 4. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน “ทวปี อเมรกิ าใต”้ 5. การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาใน “ทวปี ออสเตรเลยี ” 6. การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาใน “ทวีปแอฟรกิ า” 4
…การเผยแผ่ในทวปี เอเชยี … พระพทุ ธศาสนากาเนิดที่ “ชมพทู วปี ” และเผยแผไ่ ปทว่ั หลัง “สังคายนา ครัง้ ท่ี 3” ปจั จบุ นั คอื สว่ นใหญข่ อง “อนิ เดยี ” ไทย คอื ศนู ยก์ ลางการ เรียนรแู้ ละเผยแผใ่ นแถบน้ี เจริญรงุ่ เรอื งใน อินเดยี (พุทธกาล) และเจรญิ รงุ่ เรอื งไปทวั่ เอเชยี แตม่ ่นั คงในแถบ “เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ 5
India 6
…ยุคถอื กาเนิดและเส่ือมถอย… พระพุทธศาสนา ถือกาเนดิ ขนึ้ ใน “ดนิ แดนมาตภุ มู ิ” ดินแดนทถี่ อื กาเนดิ ของศาสนาพทุ ธ ปัจจบุ นั คอื อินเดยี Buddha “พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ” ผกู้ ่อต้ังและประกาศศาสนา หรือกค็ อื “ศาสดา” และเรม่ิ เขา้ สูเ่ ขา้ สู่ “ยุคเสื่อมถอย” คอื ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 17 7
…พระพทุ ธศาสนากลับมารงุ่ เรอื งอกี คร้ัง… โดยมบี คุ คลหลายทา่ นทเี่ หน็ คุณคา่ ของพระพทุ ธศาสนา เช่น ผูจ้ ดั ตงั้ “มหาโพธสิ มาคม” ผเู้ ปน็ “แกนนาวรรณะศทู ร” และนติ ยสาร และปฏิญาณตน “มหาโพธริ วี วิ ” เปน็ “พุทธมามามกะ” อนาคารกิ ธรรมปาละ ดร. เอมเบดการ์ เซอร์ อเลก็ ซานเดอร์ คนั นงิ แฮม เซอร์ เอ็ดวนิ ส์ อาร์โนลด์ ผู้นาใหม้ ี “การสารวจโบราณสถาน ผเู้ ขยี นงานพทุ ธประวตั ิ “ประทปี แหง่ เอเชยี ” และโบราณวตั ถุ” ในอนิ เดยี 8 ทาให้คนหนั มาสนใจศาสนาพทุ ธมากขนึ้
การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาใน ประเทศอนิ เดยี ������ ประเทศอนิ เดยี เป็น “ดนิ แดนตน้ กาเนดิ ศาสนาพทุ ธ” ������ ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 17 ศาสนาพุทธเรมิ่ เสอ่ื มถอย ������ ตอ่ มามบี คุ คลหลายทา่ นเขา้ มาฟนื้ ฟศู าสนาพุทธในรปู แบบตา่ งๆ ������ เช่น ……เซ…อ…ร…อ์ …เล…ก็ …ซา…น…เด…อ…ร…์ …เซ…อ…ร์เ…อ…ด็ …วนิ …ส…์ …อ…นา…ค…า…รกิ……ด…ร….อ…มั …เบ…ด…ก…าร…์ … ������ ทาใหม้ ผี ้คู นทว่ั โลกหนั มา “สนใจศาสนาพทุ ธมากยงิ่ ขน้ึ ” ปจั จุบนั ชาวอนิ เดยี ไดก้ ลบั มานบั ถอื ศาสนาพทุ ธมากขน้ึ และรฐั บาลอนิ เดยี ไดใ้ หก้ ารสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนามากขน้ึ 9
10
…“ยคุ เรมิ่ เผยแผ่ในศรีลังกา”… พระพทุ ธศาสนา เร่มิ เข้าสปู่ ระเทศศรลี งั กา ในปี พ.ศ. 236-287 โดยพระเจา้ อโศกมหาราชไดส้ ง่ “สมณทตู สายท่ี 9” เข้าในเผยแผใ่ นศรลี งั กา พระเจา้ เทวานมั ปยิ ตสิ สะ ประกาศให้ “พระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนาประจาชาติ” และมี “การทาสงั คายนาครง้ั ท่ี 4” 11
…“อู่อารยธรรมทางพระพทุ ธศาสนา”… พระพทุ ธศาสนาในศรลี งั กาเจรญิ อยา่ งมาก “หลงั การเสอื่ มถอยในอนิ เดยี ” โดยชาวพทุ ธทเ่ี ขา้ มาศกึ ษาศาสนาพุทธ และไดน้ าไป “เผยแผใ่ นประเทศของตน” ความเจรญิ ของศาสนาพทุ ธในศรลี งั กา “เปลย่ี นแปลงไปตามอานาจการปกครองในแตล่ ะสมยั ” พระเจา้ ศรวี ิชยั ราชสิงห์ ส่งทตู มาขอ “พระสงฆ”์ จากไทย เพ่อื ไปอปุ สมบทใหก้ ลุ บตุ รทศ่ี รลี งั กา แตไ่ ม่สาเรจ็ แตใ่ น “สมยั พระเจา้ บรมโกศ” ไดส้ ่งพระสงฆม์ ายงั ศรลี งั กา เพอ่ื อปุ สมบทใหแ้ กช่ าวศรลี งั กาไดส้ าเรจ็ 12
การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาใน ประเทศศรลี งั กา ������ ศาสนาพุทธเขา้ มาในศรีลงั กา “โดยสมณทตู สา…ย…ท…ี่ …9…” ������ เจริญถงึ ขดี สดุ และเปน็ “ศนู ยก์ ลางการเผยแผ่ ศ.พทุ ธไปท่ี ต่างๆ” ������ แต่ก็มียคุ ทศี่ าสนาพทุ ธเส่ือมลง “ขึน้ อย่กู บั อานาจการปกครอง” ������ ศรลี ังกาได้ขอให้ “ไทยในการฟ้ืนฟศู .พุทธ” อกี คร้ัง ปจั จบุ ัน ชาวศรลี งั กายงั นบั ถอื ศาสนาพทุ ธเปน็ จานวนมาก และเปน็ ศาสนาประจาชาตจิ ากอดตี ถงึ ปจั จบุ นั 13
14
…“หนึ่ง ใน สังเวชณียสถาน”… อดตี เนปาลเปน็ “สว่ นหนง่ึ ของอนิ เดยี ” เป็น “สถานทป่ี ระสตู ขิ องพระพทุ ธเจา้ ” คือ สวนลุมพินีวนั 15
ไดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ป็นมรดกโลก ตงั้ แต่ พ.ศ. 2540 ปจั จบุ นั อยใู่ นประเทศเนปาล 16
…“เถรวาทเส่ือม มหายานเจริญ”… ศาสนาพทุ ธในเนปาลเจรญิ รุ่งเรอื งในยคุ แรก จากการเผยแผ่โดย “สมณทูต สาย7” ยุคแรก ตอ่ มาเนปาลเปน็ ศนู ยก์ ลาง เนปาลนบั ถอื “ศาสนาพทุ ธเถรวาท” “ศาสนาพทุ ธมหายาน นิกายตันตระ” 17
การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาใน ประเทศเนปาล ������ อดีตเนปาลเปน็ “สถานทป่ี ระสตู ิ” คือ …ส…ว…น…ล…มุ …พ…นิ …วี…นั …………… ������ ศาสนาพทุ ธเข้ามาในศรลี งั กา “โดยสมณทตู …สา…ย…ท……่ี 7………” ������ กลายเปน็ “ศนู ยก์ ลางของพระพทุ ธศาสนามหายาน นกิ ายตนั ตระ” ������ ซ่งึ ผสมผสานกบั “ความเชอ่ื พนื้ เมือง” ในคาถาอาคมและไสยศาสตร์ ปัจจบุ นั เนปาลพยายามฟน้ื ฟู “พระพทุ ธศาสนา นกิ ายเถรวาท” โดยการกราบทลู เชิญพระสงั ฆราชจากไทย เพื่อไปอปุ สมบทใหช้ าว เนปาล และสง่ ภกิ ษสุ ามเณรมาศกึ ษาทไ่ี ทยดว้ ย 18
19
…“พระพทุ ธศาสนาแบบวชั รยาน”… พระพทุ ธศาสนาเขา้ สภู่ ฏู านในราว “พ.ศ. 800-1200” โดย “ครุ ปุ ัทมสมั ภวะ” เดินทางจากทเิ บตเข้ามาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในภฏู าน “พระพทุ ธศาสนาแบบวชั รยาน” “ครุ ปุ ทั มสมั ภวะ” หรือ “ตนั ตระยาน” เกิดขน้ึ ในอนิ เดยี ดดั แปลงเอาลทั ธิฮนิ ดตู นั ตระและ พิธีกรรมทางอาถรรพเวท เช่น สาธยายมนต์ กลายเปน็ ศาสนาประจาชาตภิ ฏู าน 20
…“นิกายดรกุ ปะกคั ยุ”… เปน็ นกิ ายใหมท่ เ่ี กดิ ขน้ึ โดย “ลามะปาโซ” นิกายนเี้ จรญิ อยา่ งมากใน “สมยั ทา่ นงาวงั นมั เยล” ผู้นานกิ ายดรกุ ปะกคั ยใุ นขณะนนั้ สรา้ งโดย “งาวงั นาเยล” เพื่อประกอบ “พิธกี รรมทางศาสนา” “พนู าคาซอง” ทีส่ าคญั ของชาวภฏู าน นอกจากนท้ี า่ นยงั รวบรวมชาว ภฏู านใหเ้ ปน็ หนง่ึ เดยี ว จนไดช้ อ่ื วา่ “ซบั ดรงุ ” (ผูท้ ่ีทกุ คนตอ้ งยอมออ่ นนอ้ ม) 21
การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาใน ประเทศภฏู าน ������ “ครุ ปุ ทั มสมั ภวะ” ผนู้ าพระพทุ ธศาสนาเขา้ มาเผยแผใ่ นภฏู าน ������ ซึง่ เป็น “พระพทุ ธศาสนาแบบ……ว…ัช…ร…ย…า…น…” (ศาสนาประจาชาต)ิ ������ ตอ่ มา “ลามะปาโซ” ก่อตั้ง “พระพทุ ธศาสนา นดิ ายดรกุ ปะกคั ยุ” ������ “งาวังนมั เยล” สร้าง “พนู าคาซอง” และทาใหช้ าวภฏู านเปน็ หน่งึ เดยี ว ปจั จุบนั ชาวภฏู านมคี วามศรทั ธาและยดึ มน่ั ในพระพทุ ธศาสนา และมวี ิถชี ีวติ สว่ นใหญ่เกยี่ วขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนา 22
พนู าคาซอง (Punakha Dzong) ปจั จุบนั เปน็ สถานทที่ ่เี ปน็ ทีพ่ กั ของพระสงั ฆราชช่วงฤดหู นาว 23
24
…“พทุ ธศาสนานิกายวชั รยานเจรญิ สูงสุด”… พระพทุ ธศาสนาในทเิ บตมลี กั ษณะ คอื ผสมระหวา่ งมหายานแบบตนั ตระจากอนิ เดียและจนี กลายเปน็ “พระพุทธศาสนามหายานแบบวชั รยานในทเิ บต” กษัตรยิ ท์ เิ บต ประกาศให้ พระองคแ์ รก พระพทุ ธศาสนา ท่ีนับถอื เป็นศาสนา พระพทุ ธศาสนา ประจาชาติ “พระเจา้ ลาโธ โธรี เย็นเซ” “พระเจา้ ซรอนซนั กมั โป” 25
การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาใน ประเทศทเิ บต ������ “ทิเบต” เปน็ ดนิ แดนที่ “พระพทุ ธศาสนานกิ ายวชั รยานรงุ่ เรอื งสงู สดุ ” ������ “พระเจ้าลาโธ โธรี เย็นเซ” คือ กษตั รยิ พ์ ระองคแ์ รกทน่ี บั ถอื ศ.พทุ ธ ������ “พระเจ้าซรอนซนั กัมโป” ประกาศให้ ศ.พทุ ธ เป็นศาสนาประจาชาติ ������ “นิกายเคลกุ ปะ” เป็นนกิ ายทแี่ พรห่ ลายทส่ี ุดในทเิ บต ������ พระสงฆ์ เรยี กวา่ “ลามะ” และผมู้ อี านาจสูงสุด คอื “องคด์ าไลลามะ” ปจั จบุ นั ชาวทิเบตมวี ถิ ีชวี ติ ยดึ มนั่ ในพระพทุ ธศาสนาอยา่ งแนบแนน่ ตวั อยา่ งเชน่ กม้ กราบเมอ่ื เห็นยอดพระราชวงั โปตาลา เปน็ ต้น 26
“องคด์ าไลลามะ” ผ้มู ีอานาจสงู สดุ ในการปกครองทง้ั อาณาจกั รและศาสนจกั ร 27
28
…“จนี เปดิ ใจรับการเข้ามาของศาสนาพุทธ”… แตเ่ ดมิ จนี ไดม้ กี ารนบั ถอื “ลทั ธิขงจอ้ื ” และ “ลทั ธเิ ต๋า” อย่กู ่อนแลว้ ต่อมาใน “สมยั พระเจา้ ฮน่ั หมิงต้ี” แหง่ ราชวงศฮ์ นั่ ไดย้ อมรบั การเขา้ มาของศาสนาพุทธ พระเจา้ ฮนั่ หมงิ ต้ี ไดส้ ่งคณะทตู ไปอนิ เดยี ไดอ้ ญั เชญิ ไดอ้ ญั เชญิ “พระบรมสารรี กิ ธาตุ” “พระไตรปฎิ ก” และอาราธนาพระเถระชน้ั ผใู้ หญ่ มาประกาศพระพทุ ธศาสนาในจนี ไดส้ าเรจ็ 29
…“วัดมา้ ขาว”… จักรพรรดจิ นี ไดท้ า “การสร้างวดั พระพทุ ธศาสนาข้นึ ครงั้ แรก” “ไปห๋ มา่ ซอ่ื ” เพอ่ื เปน็ “อนสุ รณแ์ กม่ า้ ” ที่บรรทกุ พระคมั ภรี ม์ าสู่จนี “ราชวงศถ์ งั ” คอื สมัยทพี่ ระพทุ ธศาสนาเจรญิ รงุ่ เรอื งสงู สดุ เพราะไดร้ บั การสนับสนุนจากพระจกั รพรรดิ และเสอ่ื มโทรมลง เพราะ เปล่ียนแปลงการปกครองเปน็ “คอมมิวนสิ ต์” 30
วดั ม้าขาว (ไป๋หมา่ ซือ่ ) เปน็ วดั ทางพระพทุ ธศาสนาแห่งแรกของจนี 31
การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาใน ประเทศจนี ������ “จนี ” เริม่ รบั พระพทุ ธศาสนาใน “สมัยพระเจ้าฮน่ั หมงิ ตี้ ในราชวงศฮ์ นั่ ” ������ “ไป๋หมา่ ซอ่ื ” แปลว่า “วัดมา้ ขาว” คอื วัดแหง่ แรกของจนี ������ ศ.พทุ ธ เจริญสงู สดุ ใน “สมยั ราชวงศถ์ งั ” เพราะพระจกั รพรรดส์ิ นับสนนุ ������ ศ.พทุ ธ เส่ือมลงในช่วงทจี่ นี เปลย่ี นการปกครองเป็น “คอมมวิ นสิ ต์” ปจั จบุ นั ชาวจนี สว่ นใหญ่ได้นับถอื พระพทุ ธศาสนา นกิ ายมหายาน ควบคกู่ บั การนบั ถอื ลัทธิขงจอื๊ และลทั ธิเตา๋ 32
33
…“เริม่ สนใจศาสนาพุทธ”… กอ่ นการเขา้ มาของพระพทุ ธศาสนา ชาวเกาหลนี บั ถอื “ศาสนาชามาน” อยู่กอ่ นแลว้ “ซุนเตา” “มาลานนั ทะ” จีนสง่ มาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาใน ภิกษชุ าวอนิ เดยี ไดเ้ ดนิ ทางมาเผยแผ่ อาณาจกั รโคกรู ยอบนคาบสมทุ รเกาหลี ศาสนาพทุ ธในเกาหลี จากอทิ ธพิ ลทง้ั 2 อยา่ งนที้ าใหช้ าวเกาหลหี นั มาสนใจ และยอมรบั นบั ถอื พระพทุ ธศาสนา 34
…“แบง่ แยกประเทศ”… ในช่วง “สมัยโชซอน” พระพทุ ธศาสนาเสอื่ มลง เนอ่ื งจากราชวงศส์ นบั สนุน “ลทั ธิขงจอ้ื ” หลังจากนนั้ ศาสนาพทุ ธกไ็ ดร้ บั การฟนื้ ฟอู กี ครง้ั โดยได้รบั ความรว่ มมอื จาก “ญ่ีปนุ่ ” ภายหลัง “สงครามเยน็ ” เกาหลไี ด้ “แยกออกเปน็ 2 ประเทศ” North Korea South Korea ปกครองแบบ ปกครองแบบ คอมมวิ นสิ ต์ ประชาธปิ ไตย จงึ “ถูกจากดั ” ใน จงึ มี “อสิ ระ” ใน “การนบั ถอื ศาสนา” “การนบั ถอื ศาสนา” 35
การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาใน ประเทศเกาหลี ������ “มาลานันทะ” และ “ซนุ เตา” คือ ผู้นาพระพทุ ธศาสนามาเผยแผ่ ������ “สมยั โชซอน” สนับสนนุ ให้ “ลทั ธขิ งจอ๊ื ” เป็นศาสนาประจาชาติ ������ ในชว่ งเกาหลอี ยภู่ ายใตก้ ารปกครองของญปี่ นุ่ ได้รว่ มกนั ฟน้ื ฟศู าสนาพทุ ธ ������ หลังจากสงครามเยน็ มกี ารแยกประเทศเปน็ “เกาหลเี หนอื และเกาหลใี ต้” ซงึ่ “ศาสนาพทุ ธจะเจรญิ เฉพาะในเกาหลใี ตเ้ ท่านน้ั ” ปจั จุบนั ชาวพทุ ธในเกาหลใี ตม้ ปี ระมาณ 30 ล้านคน ส่วนมากนบั ถอื พระพทุ ธศาสนานิกายเชน ผสมกบั นกิ ายมหายาน 36
37
…“ขงจ้อื เตา๋ และชินโต”… ญี่ปุ่นมีการนับถือทงั้ 3 ศาสนาอยกู่ อ่ นทพี่ ระพทุ ธศาสนาจะเผยแผเ่ ขา้ สญู่ ป่ี ุ่น “ลัทธขิ งจอ้ื ” “ศาสนาชนิ โต” ญ่ีป่นุ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลความ ศาสนาทก่ี าเนดิ ทญี่ ปี่ นุ่ เช่ือมาจาก “จีน” นับถอื พระเจา้ หลายองค์ “ลทั ธเิ ตา๋ ” เชอื่ ในเรอ่ื ง โหราศาสตร์ และเวทมนตค์ าถาของเตา๋ 38
…“ยคุ สัทธรรมไพโรจน”์ … ศาสนาพทุ ธเผยแผ่เขา้ สญู่ ีป่ นุ่ โดย “กษตั รยิ เ์ กาหลสี ง่ คณะทตู ถวายพระพทุ ธรปู และคมั ภีร์” จึงทาให้ “จักรพรรดญิ ปี่ นุ่ เกดิ ความเลอื่ มใสในพระพทุ ธศาสนา” “จกั รพรรดนิ ีซอู โิ กะ” ประกาศให้ “พระพทุ ธศาสนา” เป็น “ศาสนาประจาชาต”ิ เกดิ นิกายใหม่ 3 นิกาย “นิกายโจโด” “นกิ ายเซน” “นิกายนชิ เิ รน” 39
การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาใน ประเทศญ่ปี นุ่ ������ มกี ารนบั ถอื ศาสนาอน่ื อยกู่ อ่ นแลว้ คอื ลัทธิขงจอื้ และศาสนาชนิ โต ������ พระพทุ ธศาสนาเรม่ิ เขา้ มาจาก “กษตั รยิ เ์ กาหลสี ง่ สมณทูตเขา้ มาเผยแผ่” ������ “พระจกั รพรรดินซี อู โิ กะ” ประกาศให้ “ศ.พทุ ธเปน็ ศาสนาประจาชาต”ิ ������ เกดิ นกิ ายใหมข่ นึ้ ทีญ่ ปี่ นุ่ คือ นิกายโจโด นกิ ายเซน นิกายนชิ ิเรน ปจั จบุ นั ได้มีการฟน้ื ฟศู าสนาพทุ ธในหลากหลายวธิ ี เชน่ จัดทาพระไตรปฎิ ก จัดการเรยี นการสอนวชิ าพระพทุ ธศาสนา เป็นต้น 40
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: