พฒั นาการของ ทวปี ยโุ รป
ทตี่ ง้ั และสภาพภูมอิ ากาศทมี่ ผี ลตอ่ พฒั นาการของทวปี ทวปี ยโุ รป ประกอบดว้ ยทรี่ าบลมุ่ ทรี่ าบสงู เทอื กเขา และคาบสมุทรจานวนมาก ทาใหป้ ระเทศสว่ นใหญม่ ผี นื ดนิ ตดิ ตอ่ ทะเลและมี ชายฝ่ังทะเลยาวมาก บางประเทศเป็ น เกาะ ซงึ่ เหมาะแกก่ ารทาประมงและการเดนิ เรอื สว่ นประเทศทเี่ ป็ นผนื ดนิ และมที รี่ าบ กวา้ งใหญ่ และมแี ม่นา้ สาคญั ๆ ไหลผ่านหลายสาย เหมาะแกก่ ารเพาะปลกู นอกจากนี้ ยงั มอี ากาศอบอนุ่ และหนาวเย็น ทาใหม้ ผี ูค้ นเขา้ มาตง้ั หลกั แหลง่ และสรา้ งอารยธรรมตา่ งๆ มาตง้ั แตส่ มยั โบราณจนถงึ ปัจจบุ นั
ภูมหิ ลงั ทางประวตั ศิ าตรท์ วปี ยโุ รป
ยโุ รปสมยั โบราณ
ยโุ รปสมยั โบราณ ความเจรญิ ของยโุ รปเรมิ่ ขนึ้ เป็ นแหง่ แรกทบี่ รเิ วณตอนใตข้ องทวปี แถบชายฝ่ังทะเล เมดเิ ตอรเ์รเนียน โดยมกี รกี และโรมนั เป็ นศนู ยก์ ลางความเจรญิ ในสมยั โบราณ ซงึ่ เรยี กความเจรญิ สมยั กรกี และโรมนั นีว้ า่ อารยธรรมสมยั คลาสสคิ
ผลงานของชาวกรกี เป็ นสงิ่ กอ่ สรา้ งสถาปัตยกรรมกรกี โบราณทมี่ ชี อื่ เสยี งทสี่ ดุ แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความ เฉลยี วฉลาดของสถาปนิกในสมยั น้ันและถอื ไดว้ า่ เป็ นหนึ่งในสงิ่ กอ่ สรา้ งทยี่ งิ่ ใหญท่ สี่ ดุ ใน โลก
ผลงานของชาวโรมนั เป็ นสนามแขง่ ขนั กฬี าตา่ งๆ ทง้ั เกลดิ เอเตอรส์ กู ้ นั เอง โดยมชี วี ติ เป็ นเดมิ พนั หรอื สู ้ กบั สตั วป์ ่ า อาทิ สงิ โต เสอื และชา้ ง เป็ นตน้ โดยมชี วี ติ เป็ นเดมิ พนั เชน่ กนั และบางที อาจจะมแี สดงการตอ่ สรู ้ ะหวา่ งสตั วป์ ่ าดว้ ย กนั เอง เชน่ เสอื สกู ้ บั สงิ โต กระทงิ สูก้ บั หมี ฯลฯ
ยโุ รปสมยั กลาง
ยโุ รปสมยั กลาง เมอื่ อาณาจกั รของชาวโรมนั เสอื่ มอานาจลงใน ค.ศ 476 อนั เนื่องมาจากการแผ่ อานาจของชนกลมุ่ ตา่ งๆ ทเี่ รยี กวา่ อนารยชนเยอรมนั กถ็ อื วา่ อารยธรรมสมยั คลาสสคิ ของยโุ รปสนิ้ สดุ ลง และ เป็ นการเรมิ่ ตน้ ประวตั ศิ าสตร ์ของยโุ รปสมยั กลาง ซงึ่ มรี ะยะเวลายาวนานประมาณ 1000 ปี ในสมยั กลางนีเ้ ป็ นชว่ งเวลาทคี่ วามเจรญิ ตา่ งๆ ของยโุ รปชะลอตวั เนื่องจากความวนุ่ วายทางการเมอื งและการสงคราม มกี ารแบง่ ดนิ แดนออกเป็ นแวน่ แควน้ ตา่ งๆ มากมาย และมกี ารแกง่ แยง่ ชงิ อานาจกนั นอกจากนี้ ยงั เป็ นชว่ งระยะเวลาทคี่ รสิ ตศ์ าสนามอี ทิ ธพิ ลมากตอ่ การดาเนินชวี ติ ของผูค้ น
ยโุ รปสมยั ปัจจุบนั
การสารวจและการตงั้ ถนิ่ ฐานในทวปี ตา่ งๆ ชาว ยโุ รปไดเ้ ดนิ ทางไปสารวจ ดนิ แดนในทวปี ตา่ ง ๆ คอื แอฟรกิ า เอเชยี อเมรกิ าเหนือ อเมรกิ าใตแ้ ละ อกอารสคเตา้ รแเลลยีะกชาารวสยรโุา้รงปอกา็ไณดาร้ บนั ิผคลมปขรนึ้ ะใโนยดชนิ นแท์ ดานงตา่ งๆ เหลา่ นั้น เป็ นผลใหอ้ ทิ ธพิ ลของชาวยโุ รปทางดา้ น เศรษฐกจิ การเมอื ง และวฒั นธรรมแผ่ขยายออกไป กวา้ งขวางทว่ั โลก
การปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม ซงึ่ เป็ นการเปลยี่ นแปลง วธิ กี ารผลติ จากเดมิ ทเี่ คย ใชแ้ รงงานคน และสตั วม์ า ใชเ้ ครอื่ งจกั รแทนเกดิ ขนึ้ ในตอนตน้ ของพทุ ธศตวรรษ ที่ 24 โดยเรมิ่ ขนึ้ ในประเทศองั กฤษกอ่ น แลว้ ขยายตวั ไปสปู่ ระเทศอนื่ ๆ ในเวลาตอ่ มาการปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม มผี ลใหท้ วปี ยโุ รปนาหนา้ ทวปี อนื่ ๆ ในดา้ นเศรษฐกจิ และความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี เป็ นเวลานาน ตดิ ตอ่ กนั กวา่ สองศตวรรษ จนถงึ สงครามโลกครงั้ ที่ 2
ภูมหิ ลงั ทางประวตั ศิ าสตรท์ วปี ยโุ รป 1.ยโุ รปสมยั โบราณ อารยธรรมสาคญั คอื สมยั กรกี และโรมนั 2. ยโุ รปสมยั กลาง ครสิ ตศ์ าสนามอี ทิ ธพิ ลต่อการ ดาเนินชวี ติ ของผูค้ น 3. ยโุ รปสมยั ใหม่ การปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรมสง่ ผลใหท้ วปี ยโุ รปมคี วามเจรญิ รุง่ เรอื งกวา่ ทวปี อนื่ ๆ
พฒั นาการดา้ น การเมอื ง การปกครองทวปี ยโุ รป พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครองของยโุ รปแบง่ ตามยคุ สมยั ประวตั ศิ าสตรเ์ ป็น 3 สมยั คือ สมยั กลาง สมยั ใหม่ และสมยั ปัจจบุ นั
การเมอื งการปกครอง สมยั กลาง ในอดตี ดนิ แดนสว่ นใหญข่ องทวปี ยโุ รป มกี ษตั รยิ เ์ ป็ นประมุขสงู สดุ ตง้ั แตใ่ นสมยั กรกี เรอื ง อานาจเมอื่ กวา่ 500 ปี กอ่ นครสิ ตศ์ กั ราช จนถงึ ใน สมยั จกั รวรรดโิ รมนั 27 ปี กอ่ นครสิ ตศ์ กั ราช (ค.ศ.476) พระประมขุ สงู สดุ ของชาวโรมนั เรยี กวา่ ซซี ารห์ รอื จกั รพรรดิ ยโุ รปไดเ้ ขา้ สสู่ มยั กลาง เมอื่ จกั รวรรดโิ รมนั ลม่ สลาย ใน ค.ศ. 476 จากการรกุ รานของพวกชนเผา่ กอทหรอื ชนเผา่ เยอรมนั มอี าณาจกั ร ใหม่ๆ เกดิ ขนึ้ หลายอาณาจกั ร มกี ษตั รยิ ์ เป็ นประมุข แตม่ ไิ ดม้ อี านาจใน การปกครองอย่างแทจ้ รงิ การปกครองสมยั กลางใชร้ ะบอบฟิ วดลั (Feudalism) หรอื ระบบศกั ดนิ าสวามภิ กั ดิ ์
การเมอื งการปกครอง สมยั ใหม่ ระบอบกษตั รยิ ภ์ ายใตร้ ฐั ธรรมนูญ เกดิ ขนึ้ ครง้ั แรกที่ องั กฤษ เมอื่ ขนุ นางรวมตวั กนั ตอ่ ตา้ นการใชอ้ านาจการปกครองที่ กดขขี่ องพระเจา้ จอหน์ ที่ 5 โดยบบี บงั คบั ใหพ้ ระองคท์ รง ลงนามและยอม ปฏบิ ตั ติ ามกฎบตั รแมกนา คารต์ า (Magna Carta) ในปี ค.ศ. 1215 ผลทตี่ ามมา คอื เป็ นการจากดั พระราชอานาจสทิ ธขิ ์ าด และการกระทาโดยมชิ อบของพระองคแ์ ละทาใหฐ้ านะของ กษตั รยิ อ์ งั กฤษไม่ทรงอยเู่ หนือกฎหมายอกี ตอ่ ไป นอกจากนีก้ ฎบตั ร แมกนา คารต์ า ยงั เป็ นรากฐานของ “รฐั ธรรมนูญ” และ “รฐั สภา” ขององั กฤษในสมยั ตอ่ มาอกี ดว้ ย ใน สมยั ตอ่ มากษตั รยิ อ์ งั กฤษในยุคสมยั หลงั ๆหลายพระองคไ์ ม่ปฏบิ ตั ิ ตามกฎบตั รแมกนา คารต์ า จงึ เกดิ การตอ่ ตา้ นจากประชาชน ดงั เหตกุ ารณ์ ในปี ค.ศ. 1688 ทเี่ รยี กวา่ “การปฏวิ ตั อิ นั รงุ่ โรจน”์
การเมอื งการปกครอง สมยั ปัจจบุ นั ภายหลงั สงครามโลกครงั้ ที่ 2 สนิ้ สดุ ลง ประเทศในยโุ รปมรี ะบอบการปกครอง 2 ระบอบ คอื ระบอบประชาธปิ ไตย และ ระบอบคอมมวิ นิสต ์
ระบอบประชาธปิ ไตย • การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยมตี น้ กาเนิดมาตง้ั แตส่ มยั กรกี โบราณ • เป็ นระบอบทเี่ นน้ ความเป็ นปัจเจกบคุ คลนิยม เหตผุ ลนิยม และเสรภี าพ • หลกั การสาคญั ของแนวความคดิ ประชาธปิ ไตย คอื สทิ ธิ เสรภี าพของประชาชน • การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยเป็ นการปกครองที่ ประชาชนมอี านาจสงู สดุ • การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย 3 รปู แบบ คอื แบบ รฐั สภาแบบประธานาธบิ ดแี ละ แบบผสม ( กงึ่ รฐั สภาและกงึ่ ประธานาธบิ ดี )
ระบอบคอมมวิ นิสต ์ • เป็ นระบอบการปกครองทยี่ ดึ ถอื ตามทฤษฎสี งั คมนิยมของคารล์ มารก์ (Carl Marx) • สงั คมทปี่ ราศจากชนชน้ั และมคี วามเสมอภาคกนั ในดา้ นตา่ งๆ โดยชนชนั้ แรงงานเป็ นผูป้ กครอง • พรรคการเมอื งเพยี งพรรคเดยี ว ผูน้ าพรรคคอมมวิ นิสตแ์ ละ ผูน้ ารฐั เป็ นคน เดยี วกนั • สหภาพโซเวยี ตเป็ นประเทศแรก ทกี่ ารปกครองในระบอบเผด็จการ คอมมวิ นิสต ์ • หลงั สงครามโลกครง้ั ที่ 2 มปี ระเทศทปี่ กครองในระบอบเผด็จการ คอมมวิ นิสตอ์ กี 16 ประเทศ • เมอื่ สหภาพโซเวยี ตลม่ สลายลงใน ค.ศ. 1991 ยงั มปี ระเทศทปี่ กครองใน ระบอบเผด็จการคอมมวิ นิสต ์ คอื จนี ควิ บา เกาหลเี หนือ
สรุปการปกครอง
พฒั นาการดา้ นเศรษฐกจิ ของทวปี ยโุ รป
เศรษฐกจิ สมยั กลาง “เศรษฐกจิ แบบแมเนอร”์ เป็ นระบบการผลติ เพอื่ เลยี้ งตวั เองในแตล่ ะแมเนอร ์ มขี นุ นาง เป็ นผูป้ กครอง โดยจดั แบ่งทดี่ นิ ใหร้ าษฎรเชา่ ทาการเกษตรสว่ นหนึ่งและของขนุ นางเองอกี สว่ นหนึ่ง มกี ารนาผลผลติ ไปขายทง้ั ภายในแมเนอรแ์ ละนอกแมเนอร ์ เศรษฐกจิ แบบแมเนอร ์ทาใหก้ ารคา้ ทเี่ คยรงุ่ เรอื ง ในสมยั จกั รวรรดิ โรมนั ตอ้ งหยดุ ชะงกั กวา่ 500 ปี
การฟื้ นตวั ของเศรษฐกจิ และสงั คมของยโุ รป สว่ นหนึ่งเป็ นผลจากสงครามครเู สด ทชี่ าวครสิ ตร์ บกบั ชาวมุสลมิ ใน ดนิ แดนตะวนั ออกกลาง และมโี อกาสนาเอาความรู ้ ความเจรญิ และ ศลิ ปะ วทิ ยาการ ของโลกตะวนั ออก กลบั มาเผยแพรใ่ หแ้ กโ่ ลกตะวนั ตกสว่ นสนิ คา้ ที่ โลกตะวนั ตกตอ้ งการ ไดแ้ ก่ เครอื่ งเทศ นา้ ตาล ขา้ ว สม้ มะนาว พรกิ ไทย ผา้ ไหม และพรม โดยมพี ่อคา้ ชาวอติ าลเี ป็ นคนกลาง พ่อคา้ อติ าลซี งึ่ เป็ นทรี่ จู ้ กั กนั ดไี ดแ้ ก่ มารโ์ ก โปโล (Marco Polo) ชาวเวนิส ไดเ้ ดนิ ทางไปคา้ ขาย จนถงึ เมอื งจนี
เศรษฐกจิ สมยั ใหม่ ในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 16 เมอื่ ยโุ รปเขา้ สสู่ มยั ใหม่ การคา้ ขายทางทะเลใน ดนิ แดนไกลโพน้ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งมาก มกี ารสารวจทางทะเลเพอื่ แสวงหา เสน้ ทางเดนิ เรอื และคน้ พบดนิ แดนใหม่ๆ ทงั้ ในทวปี อเมรกิ า เอเชยี และ แอฟรกิ า ทาใหช้ าตใิ นยโุ รปเกดิ พฒั นาการทางดา้ นเศรษฐกจิ ในรปู แบบ ตา่ งๆ
ระบบเศรษฐกจิ แบบพาณิชยนิยม รฐั บาลของกษตั รยิ จ์ ะเขา้ ไปควบคมุ การผลติ สนิ คา้ และการคา้ ขายทงั้ ภายในประเทศและกบั ตา่ งประเทศ เพอื่ นารายไดเ้ ขา้ สทู่ อ้ งพระคลงั ใหม้ ากทสี่ ดุ เนน้ การสง่ ออกและกดี กนั การนาเขา้ สนิ คา้ จากตา่ งประเทศ สง่ เสรมิ การ แสวงหาอาณานิคมเพอื่ เป็ นแหลง่ วตั ถดุ บิ และตลาดระบายสนิ คา้ ทง้ั นี้ เกดิ จากความเชอื่ วา่ จะทาใหร้ ฐั เขม้ แข็ง และมน่ั คง
ระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม ในตอนปลายครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 18 เกดิ แนวความคดิ การคา้ แบบเสรี (Free Trade) โดยสนับสนุนใหเ้ อกชน เป็ นผูป้ ระกอบธรุ กจิ การคา้ ทง้ั ในดา้ น อตุ สาหกรรมและการเงนิ โดยรฐั ไม่เขา้ ไปแทรกแซง แตค่ วรปลอ่ ยใหน้ ายทนุ แขง่ ขนั กนั อยา่ งเสรี ซงึ่ จะนาความมง่ั คง่ั มาสรู่ ฐั ไดเ้ ชน่ กนั
ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม มกี ารยกเลกิ กรรมสทิ ธทิ ์ รพั ยส์ นิ สว่ นบคุ คล เชน่ ทดี่ นิ โรงงาน ฯลฯ แต่ รฐั จะเขา้ ควบคมุ และดาเนินการในระบบ เศรษฐกจิ เองทง้ั หมด โดยใหม้ กี าร บรหิ ารการผลติ โดยชนชน้ั แรงงาน ทงั้ นีเ้ พอื่ สรา้ งระบบเศรษฐกจิ ทมี่ ี ความ เสมอภาคและเกดิ ความเป็ นธรรมในสงั คม
พฒั นาการดา้ นเศรษฐกจิ ทวปี ยโุ รป สมยั กลาง • เศรษฐกจิ แบบแมเนอร ์สง่ ผลใหก้ ารคา้ หยดุ ชะงกั เป็ นเวลานาน • สงครามครเู สด สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ ยโุ รปฟื้น ตวั อกี ครงั้ สมยั ใหม่ • เศรษฐกจิ แบบพาณิชยนิยม รฐั เป็ นเจา้ ของ กจิ การทง้ั หมด • เศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม สง่ เสรมิ เอกชนให ้ เป็ นเจา้ ของกจิ การ • เศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม สรา้ งความเสมอ ภาคและความเป็ นธรรม
พฒั นาการดา้ นสงั คมและ ศลิ ปวฒั นธรรมทวปี ยโุ รป
สงั คมของยโุ รปในสมยั กลาง ยโุ รปยคุ กลาง เป็ นการปกครองในระบบขนุ นาง หรอื ทเี่ รยี กวา่ ระบบฟิ วดลั หรอื อาจเรยี กอกี ชอื่ วา่ ระบบศกั ดนิ าสวามภิ กั ดิ ์ หมายถงึ ความสมั พนั ธ ์ ระหวา่ งเจา้ นาย lord กบั ขา้ ในเรอื่ งเกยี่ วกบั การหาผลประโยชนข์ องทดี่ นิ เรมิ่ จากกษตั รยิ ม์ อบทดี่ นิ ใหข้ นุ นาง เพอื่ ตอบแทนความดคี วามชอบ ขนุ นาง ทาหนา้ ทปี่ กครองผูค้ นทอี่ าศยั อย่ใู นทดี่ นิ และมพี นั ธะตอ่ กษตั รยิ โ์ ดยสง่ คนไป ชว่ ยรบ
อทิ ธพิ ลของทวปี ยโุ รปตอ่ สงั คมโลก
อทิ ธพิ ลของทวปี ยโุ รปตอ่ สงั คมโลก • ดา้ นการเมืองการปกครอง • แนวคิดประชาธิปไตยสมยั กรกี เป็นแมแ่ บบของระบอบประชาธิปไตย และระบอบ กษัตรยิ ภ์ ายใต้ รฐั ธรรมนญู • กฎหมายสบิ สองโต๊ะของโรมนั เป็นแม่แบบของประมวลกฎหมายในประเทศท่วั โลก • เมืองและระบบเทศาภิบาลในสมยั กลาง เป็นแม่แบบของเมืองในปัจจบุ นั • ผลจากลทั ธิสงั คมนิยมนาไปสกู่ ารปฏิวตั ริ สั เซีย เกิดการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ และขยายตวั ไปยงั ท่ีตา่ งๆ ท่วั โลก • หลงั สนิ้ สดุ สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 เกิดการจดั ตงั้ องคก์ รระหวา่ งประเทศ เพ่ือเสรมิ สรา้ สนั ติภาพ และความรว่ มมือของโลก
อทิ ธพิ ลของทวปี ยโุ รปตอ่ สงั คมโลก ดา้ นการปฏิวตั ิต่างๆ • การปฏิวตั ิวทิ ยาศาสตร์ทาใหส้ ังคมตะวนั ตกกา้ วหนา้ ดา้ นเทคโนโลยแี ละวิทยาการ ต่างๆ มากกวา่ ดินแดนอ่ืนๆ ของโลก • การปฏิวตั ิอุตสาหกรรมทาใหย้ โุ รปเปล่ียนแปลงจากสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคม อุตสาหกรรม ที่ทนั สมยั ประชาชนมีการกินดีอยดู่ ี ทาใหเ้ ศรษฐกิจแบบทุนนิยมขยาย ตวั อยา่ งมาก • การปฏิวตั ิฝรั่งเศสของชนช้นั กลางเพอื่ ความเป็นประชาธิปไตยตามแนวทางของ เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ ต่อมายงั นาไปสู่การเกิดลทั ธิชาตินิยม
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: