I 02-192003 เจ้าของผลงาน ผศ.เกยี รติสดุ า สมนา* ผศ.ดร.รฐั พล สมนา นายธรี พล เสาวพนั ธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน เบอร์โทรติดตอ่ 0866030553 อเี มล์ [email protected] 42 การประชุมวชิ าการระดับชาติมหาวทิ ยาไลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครง้ั ที่ 11 และการประชมุ วชิ าการระดบั นานาชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 10
สง่ิ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม เพอื่ อุตสาหกรรม จโี อเถา้ แกลบคอนกรตี บลอ๊ คไมร่ บั นำ้� หนกั Geo-Rice husk Ash Concrete Block ความเป็นมา เนอ่ื งจากใช้ปัจจุบันเกิดปัญหาดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มมเี กิดขึน้ มากมาย หนง่ึ ในปญั หาสิ่งแวดลอ้ มทีส่ �ำคัญ ได้แก่ การปลดปลอ่ ยก๊าซเรือน กระจก และหนึ่งในสาเหตสุ �ำคญั ไดแ้ ก่ การใช้ปูนซีเมนตใ์ นปริมาณสงู ซ่งึ การผลติ ปนู ซีเมนต์มกี ารปลดปลอ่ ยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกสูส่ ภาวะบรรยากาศ จึงได้มีหลายงานวิจัยพัฒนาวสั ดุชนดิ ใหมท่ ีส่ ามารถใช้เปน็ ทางเลือกในงานด้านกอ่ สร้างแทนปนู ซีเมนต์ ในงาน นผี้ ลิตภณั ฑท์ ่ีผู้วิจัยผลติ ขึ้นเป็นได้แก่ จีโอเถา้ แกลบคอนกรตี บลอ็ กไมร่ บั น�้ำหนัก นอกจากนี้ ประเทศไทยเปน็ ประเทศเกษตรกรรม มีเกษตรกรในทกุ ภาคปลกู ขา้ วเปน็ หลัก ทำ� ให้วัสดทุ างการเกษตรเป็นวัสดุเหลอื ทง้ิ จำ� นวนมากในภาคอสี านไดแ้ ก่ แกลบ และเม่อื เผาแกลบทไ่ี ด้จากการสขี ้าวมาใช้เป็นพลงั งานเช้ือเพลงิ ชีวมวลท�ำให้เกิดเปน็ เถ้าแกลบที่มี ปัญหาในการกองเก็บ จากการศกึ ษา พบว่า ประเทศไทยมกี ารผลติ ข้าวปลี ะประมาณ 25 ล้านตัน และไดแ้ กลบจากการสขี า้ วประมาณ 5 ล้านตนั ในแตล่ ะตนั (1,000 กิโลกรมั ) ของข้าวเปลือกเม่ือสแี ล้วจะมีแกลบอยู่ประมาณรอ้ ยละ 20 ของน้�ำหนักแกลบหรือประมาณ 40 กิโลกรัม และเม่ือน�ำบางส่วนของแกลบมาเผาเพ่ือผลิตกระแสไฟฟ้าโรงงานชีวมวลท�ำให้เหลือเถ้าแกลบอีกปริมาณหนึ่งท่ีต้องการก�ำจัด และใช้ประโยชน์ เมือ่ นำ� สองปัญหามาผนวกรวมกัน ทำ� ใหผ้ ู้วจิ ยั มแี นวคิดในการสงั เคราะห์วสั ดุจโี อโพลเิ มอรซ์ ง่ึ เปน็ วสั ดุที่สังเคราะห์ได้ จากวสั ดุกลุม่ ปอซโซลาน (วสั ดุทมี่ อี งค์ประกอบของซิลิกาและอลูมินา) รวมกับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ซงึ่ ทำ� ใหว้ สั ดุสามารถแข็ง ตวั ไดแ้ ละรับก�ำลังได้เหมอื นเช่นเดยี วกบั ปูนซีเมนต์ โดยในงานวิจยั นี้น�ำจโี อโพลิเมอรม์ าผลิตเปน็ ผลิตภณั ฑจ์ ีโอเถา้ แกลบคอนกรีตบล็อก ไมร่ ับน�้ำหนกั ซึง่ มีความทนทานและรับก�ำลงั ได้ จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน จโี อเถา้ แกลบคอนกรตี บลอ็ กไมร่ บั นำ�้ หนกั เปน็ การใชว้ สั ดทุ ม่ี อี ยใู่ นทอ้ งถน่ิ ไดแ้ ก่ เถา้ แกลบมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ ในงานกอ่ สรา้ ง อกี ท้ังวสั ดจุ โี อโพลเิ มอร์ท่ีสังเคราะหไ์ ด้ยงั ไมจ่ ำ� เป็นต้องใช้ปนู ซเี มนต์ในส่วนผสม วัสดกุ ็สามารถ รับกำ� ลังได้และนำ� มาใช้ในงานก่อสร้าง ไดเ้ ช่นเดียวกัน ประโยชน์ของผลงาน ผวู้ จิ ยั ตอ้ งการใชค้ นในชมุ ชนสามารถนำ� เอาวสั ดเุ หลอื ทง้ิ ในชมุ ชนมาใชป้ ระโยชนใ์ นงานกอ่ สรา้ งได้ เพอื่ เปน็ การลดปญั หาการกองเกบ็ ของวสั ดเุ หลอื ทง้ิ เปน็ การนำ� เอาทรพั ยากรจากการผลติ ไฟฟา้ จากพลงั งานชวี มวลมาใชป้ ระโยชน์ เปน็ การรกั ษาและเพมิ่ การใชท้ รพั ยากร อย่างมีประสิทธภิ าพใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด และ การลดผลกระทบดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มให้นอ้ ยท่ีสุด นอกจากนยี้ งั เปน็ การลดปญั หาอันเกดิ จากฝนุ่ ของวัสดอุ กี ดว้ ย แนวทางการพฒั นาต่อยอดผลงาน ผู้วิจัยต้องการใช้คนในชุมชนมีความรู้เพิ่มเติมในการผลิตวัสดุและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างได้ด้วยตัวเองในรูปแบบต่างๆ โดยการเอา องคค์ วามรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารผลติ จโี อเถา้ แกลบคอนกรตี บลอ็ กไมร่ บั นำ้� หนกั เปน็ ฐานความรแู้ ละตอ่ ยอดความรดู้ ว้ ยการ สรา้ งผลิตภณั ฑ์และนวตั กรรมใหม่ดว้ ยกลุ่มคนในชุมชน วารสารสิง่ ประดิษฐแ์ ละนวตั กรรม RMUTCON 2019 43
I 03-192005 รปู ท่ี 1 เคร่อื งมอื ทดสอบการทดสอบการรับน�้ำหนักของดนิ รปู ท่ี 2 การทดสอบการรับนำ�้ หนักของดนิ ส�ำหรับงานกอ่ สรา้ งฐานรากอาคาร เจ้าของผลงาน นายชนะรบ วชิ าลยั คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภูมิ เบอร์โทรติดต่อ 0891831984 อเี มล์ [email protected] 44 การประชมุ วชิ าการระดับชาติมหาวทิ ยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 11 และการประชุมวชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังที่ 10
สงิ่ ประดิษฐแ์ ละนวตั กรรม เพื่ออตุ สาหกรรม ชดุ เครอ่ื งมอื ทดสอบการรบั นำ�้ หนกั บรรทกุ ของดนิ แบบอตั โนมตั ิ Autonomous plate bearing test apparatus ความเปน็ มา การทดสอบการรับน�้ำหนักของดิน (plate bearing test) ด้วยเคร่ืองมือทดสอบที่แสดงในรูปที่ 1 มีความจ�ำเป็นในการก่อสร้าง ฐานรากแผ่นแบบไม่ใช้เสาเข็มหรืองานบดอัดวัสดุดินในการก่อสร้างถนนเพื่อตรวจสอบความสามารถในการรับน้�ำหนักบรรทุกตามที่ ได้ออกแบบไว้ เป็นไปตามมาตรฐานการทดสอบ ASTM D1194-94 โดยเปน็ การวัดอตั ราการทรุดตัวเนื่องจากน�้ำหนักบรรทุกทีเ่ พมิ่ ขนึ้ จนถึงนำ�้ หนกั สูงสุดตามที่ไดอ้ อกกแบบไว้ แตใ่ นการทดสอบยงั มีความเส่ยี งเนอ่ื งจากต้องท�ำการติดตงั้ เคร่ืองมือทดสอบในหลมุ ทดสอบ แล้วต้องทำ� การเพิ่มนำ�้ หนกั การอ่านและจดบันทึกคา่ การทรุดตัวจากเครือ่ งมอื วัดทีถ่ ่ายน้�ำหนกั บรรทกุ จากดา้ นบนซึ่งโดยส่วนใหญ่เปน็ เคร่ืองจักรกลหนักหรือแคร่บรรทุกน้�ำหนัก จึงเกิดความเส่ียงอันตรายเน่ืองจากการพังทลายของดินหรือการพังทลายของแคร่บรรทุกน�้ำ หนัก โดยการทดสอบการรับน�้ำหนักบรรทุกของดินดังรูปที่ 2 ดังน้ัน ในโครงการนี้จึงได้น�ำเสนอการสร้างเครื่องมือทดสอบที่สามารถ ทำ� การเพิ่มนำ�้ หนกั บรรทกุ และอา่ นค่าการทรุดตวั จากภายนอกหลมุ ทดสอบ เพ่ือหลกี เล่ยี งอันตรายที่อาจเกิดข้ึนได้ อีกทัง้ เครอื่ งมือนย้ี ัง สามารถการบนั ทกึ คา่ การทรุดตัว-น้�ำหนักบรรทุกในตัวได้ และยังสามารถเชื่อมตอ่ กบั โทรศัพท์มอื ถือหรอื แท็บเลท็ ผ่านบลทู ูธได้ อีกท้ัง ห้องปฏิบัติการทดสอบปฐพีกลศาสตร์ ทางภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชมงคล สวุ รรณภูมิ ศนู ยส์ ุพรรณบรุ ี ยงั ไมม่ เี คร่ืองมือนี้ จดุ เด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. ทำ� การสรา้ งและทดสอบเครือ่ งมือทดสอบการรับน้�ำหนกั ของดินแบบอตั โนมัติ ทส่ี ามารถควบคุมการเพ่ิมน้ำ� หนกั และอ่านคา่ การ ทรดุ ตวั ภายนอกหลมุ ทดสอบ ตลอดจนบนั ทกึ คา่ ในตวั และเชอ่ื มตอ่ ผา่ นกบั โทรศพั ทม์ อื ถอื หรอื แทบ็ เลท็ ผา่ นบลทู ธู ทเ่ี ชอื่ มโยงเพอ่ื บนั ทกึ ขอ้ มลู ในระบบคลาวด์ (Could) ได้ 2. เพ่ือลดความเส่ียงอันตรายของผู้ทดสอบเน่ืองจากการพังทลายของดินด้านข้างหลุมทดสอบและจากน�้ำหนักบรรทุกท่ีใช้ในการ ทดสอบ ประโยชนข์ องผลงาน ได้เคร่ืองมือส�ำหรับการทดสอบการรับน�้ำหนักบรรทุกของดินที่สามารถลดภาระในการท�ำงานของผู้ท�ำการทดสอบ และเพิ่ม ความปลอดภัยในการทดสอบการรับน้�ำหนักบรรทุกของดิน เป็นนวัตกรรมเคร่ืองมือการทดสอบท่ีทันสมัยมีหน่วยความจ�ำในตัวเครื่อง สามารถสง่ ขอ้ มลู ผา่ นระบบบลทู ธู มคี ณุ ภาพสงู ทย่ี งั ไมม่ จี ำ� หนา่ ยในทอ้ งตลาด และมรี าคาถกู กวา่ เครอ่ื งมอื ทดสอบแบบปกตทิ ม่ี จี ำ� หนา่ ย ท้องตลาด แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดผลงาน สามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ พ่ือการแสดงและบนั ทกึ ค่าการทรดุ ตัวที่ไดจ้ ากการวัดด้วยเคร่อื งมอื วดั ค่าการทรุดตวั (dial indicator) ทีใ่ ช้ใน งานดา้ นวศิ วกรรมโยธาเชน่ • ประกอบเข้ากับเครอ่ื งมอื ทดสอบอนื่ ๆ เชน่ เคร่อื งมอื ทดสอบแรงเฉอื นตรง (Direct shear test) เคร่ืองมอื ทดสอบการทรดุ ตัว (Consolidation test) เครื่องมอื ทดสอบแรงกดท่มี วี งแหวนวดั แรงเปน็ เครื่องมอื ประกอบ (เชน่ CBR, Unconfined compression เปน็ ต้น) • ใชใ้ นดา้ นการแสดงคา่ (dial indicator) ในงานขึ้นรปู โลหะของงานวศิ วกรรมอตุ สาหการ/วิศวกรรมเครื่องกล วารสารสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 45
I 04-192008 เจา้ ของผลงาน นายสมพงษ์ แกว้ หวงั *, นายกอ่ เกยี รติ สวุ รรณะ, นางสาวปรางทพิ ย์ ศรวี ริ ตั น,์ นายศศภิ ทั ร คลา้ ย ณ รงั ษี คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ชิ ยั เบอร์โทรตดิ ตอ่ 0899146515 อีเมล์ [email protected] 46 การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 11 และการประชุมวชิ าการระดับนานาชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครัง้ ท่ี 10
สงิ่ ประดิษฐแ์ ละนวตั กรรม เพื่ออุตสาหกรรม เครอื่ งวดั ความดนั ถงั แกส๊ และแจง้ เตอื นแกส๊ ผา่ นแอพพลเิ คชนั่ Gas Pressure Tester and Gas Change Notification via Application ความเป็นมา เนื่องจากปจั จบุ นั โลกเขา้ สู่ศตวรรษท่ี 21 ซ่ึงเป็นโลกยุค 4.0 หรือยคุ ดิจติ อล ที่การใชช้ วี ติ ประจ�ำวันท�ำได้งา่ ย สามารถเช่ือมต่อและ เขา้ ถงึ กนั ไดท้ ว่ั โลก โดยผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ ซง่ึ ทำ� ใหช้ ว่ ยลดคา่ ใชจ้ า่ ยทไี่ มจ่ ำ� เปน็ และเพม่ิ ความสะดวกรวดเรว็ ในการใชช้ วี ติ ประจำ� วนั มากยงิ่ ขึน้ จากการท่ีคณะผู้วิจัยไดร้ ถู้ ึงปัญหาในกรณขี องแกส๊ หงุ ต้มหมดกะทันหนั และต้องเดนิ ทางไปเปลยี่ นท่รี ้านแกส๊ ทำ� ใหเ้ กิดความลำ� บาก และอีกทง้ั ยงั สญู เสียเวลาไปโดยไร้ประโยชน์ คณะผวู้ ิจัยจงึ ได้ทำ� การปรึกษากับอาจารย์ทป่ี รกึ ษา เพื่อสรา้ งสงิ่ ท่ีช่วยให้ผใู้ ชง้ านสามารถ เปลี่ยนถงั แก๊สหงุ ตม้ ได้ด้วยตนเอง โดยท่ผี ูใ้ ช้งานไม่จ�ำเป็นตอ้ งเสยี เวลาออกจากบ้าน และอกี กรณคี อื เม่ือเกดิ แกส๊ รว่ั ไหลต้องท�ำอยา่ งไร เพอื่ ไม่ให้เปน็ อนั ตรายตอ่ ชีวิต และทรัพยส์ ิน คณะผวู้ จิ ยั ไดศ้ กึ ษาและคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การนำ� ระบบเซนเซอร์ และแอพพลเิ คชน่ั มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นเครอ่ื งวดั ความดนั ถงั แกส๊ และ แจง้ เตอื นเปลยี่ นแกส๊ ผา่ นแอพพลเิ คชนั่ ผใู้ ชง้ านไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเสยี เวลาในการเดนิ ทางไปเปลยี่ นแกส๊ หงุ ตม้ ดว้ ยตนเอง และมกี ารแจง้ เตอื น ผ่านแอพพลิเคชัน่ บน Smart Phone ของรา้ นแก๊สเมือ่ แกส๊ หุงตม้ หมด มกี ารรับร้ตู �ำแหนง่ ไดอ้ ย่างชัดเจนด้วยระบบ GPS และมกี ารแจง้ เตอื นผ่านแอพพลเิ คชั่นบน Smart Phone ของผใู้ ช้งานเม่ือแก๊สหงุ ต้มใกล้จะหมด และในอีกกรณีคอื แก๊สหุงตม้ ร่วั ไหลจะมกี ารทำ� งาน ของวาลว์ ปดิ แกส๊ หุงตม้ โดยอัตโนมตั ทิ �ำให้เกิดความปลอดภัย และมกี ารแจ้งเตอื นผ่านแอพพลเิ คชั่นบน Smart Phone ของผูใ้ ชง้ าน ดงั นน้ั คณะผวู้ จิ ยั จงึ ไดส้ รา้ งเครอ่ื งวดั ความดนั ถงั แกส๊ และแจง้ เตอื นแกส๊ ผา่ นแอพพลเิ คชน่ั ขน้ึ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ กบั ยคุ สมยั ใหม่ ไทยแลนด์4.0 ทีเ่ นน้ เทคโนโลยี เพอื่ ความสะดวกสบาย ประหยัดเวลาในการเปลยี่ นแก๊สหุงตม้ และปลอดภยั หมดปญั หาอันตรายจากแก๊สหุงต้มรวั่ ไหล จดุ เด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. สามารถวัดปรมิ าณความดันภายในถังแกส๊ หุงต้มได้ 2. สามารถตรวจจับแกส๊ ได้ เม่อื เกิดเหตกุ ารณแ์ กส๊ หงุ ต้มรว่ั ไหล 3. สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานทราบไดเ้ ม่ือเกดิ เหตุการณ์แกส๊ หุงตม้ รัว่ ไหล 4. สามารถสง่ ข้อความแจ้งเตอื นไปยงั ผู้ใช้งานและรา้ นแกส๊ ไดเ้ ม่ือเกดิ เหตุการณท์ ่แี กส็ หุงต้มหมด 5. สามารถบอกพกิ ัดต�ำแหน่งสถานที่ของผใู้ ช้งานโดยระบบจะส่งพกิ ัดตำ� แหนง่ สถานท่ีไปยงั ร้านแกส๊ ประโยชนข์ องผลงาน 1. เครือ่ งวัดความดนั ถงั แก๊สและแจ้งเตอื นเปลย่ี นแกส๊ ผ่านแอพพลเิ คชน่ั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นงานดา้ นภาคอตุ สาหกรรมดา้ นครวั เรือน 2. ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมด้านครวั เรือนมีความปลอดภยั สะดวกสบาย ประหยัดเวลาในการใช้แก๊สหงุ ตม้ แนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงาน 1. สามารถตรวจวัดอัตราปรมิ าณการไหลของแก๊ส 2. สามารถตรวจจับแกส๊ รั่วไหลไดต้ ามทอ่ ส่งแกส๊ ในโรงงานอตุ สาหกรรม วารสารสิง่ ประดษิ ฐแ์ ละนวตั กรรม RMUTCON 2019 47
I 05-192024 48 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
สงิ่ ประดษิ ฐแ์ ละนวตั กรรม เพ่ืออุตสาหกรรม นวตั กรรมการใชเ้ ลนสแ์ วน่ ตาเหลอื ทง้ิ เพอื่ อตุ สาหกรรมวสั ดกุ อ่ สรา้ งและตกแตง่ อาคาร Innovation of Disposable Eyeglass Lenses Usage for The Building Materials and Building Decoration Industry ความเป็นมา นวัตกรรมการใช้เลนส์แว่นตาเหลือทิ้งเพื่ออุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างและตกแต่งอาคาร เร่ิมจากการที่บริษัทผู้ผลิตแว่นตารายใหญ่ มีวัสดุเหลอื ท้งิ จากเลนส์แวน่ ตาอยู่เปน็ จ�ำนวนมาก ทั้ง (1) เรซินท่ที �ำแบบเลนส์ (2) เลนส์ปกตคิ ือ CR39 ทง้ั ที่เปน็ รปู แบบเลนส์ที่ขน้ึ รปู แล้วและผงทเ่ี หลอื ทิง้ จากการขัดสี หรอื (3) เลนสโ์ มโนเมอรท์ ม่ี คี ่าการหักเห 1.53 ซงึ่ มีความแขง็ มาก มชี อ่ื ทางการค้าว่า TRIVEX และ (4) กอ้ นพลาสตกิ ทเี่ หลอื จากการหลอมขน้ึ รปู เลนส์ ซง่ึ วสั ดเุ หลา่ นเ้ี หลอื ทงิ้ ในโรงงานเลนสแ์ วน่ ตาในปรมิ าณทมี่ ากเปน็ ขยะทไี่ มย่ อ่ ยสลาย ยากต่อการก�ำจัดท้ิง แต่ด้วยลักษณะท่ใี ส มนั วาว และแขง็ แกร่ง จงึ สามารถนำ� มาบดยอ่ ยเป็นวสั ดุทดแทนมวลรวมประเภททรายหรือ หินก่อสร้างได้ โดยลักษณะเด่นดังกล่าวของวัสดุเศษเลนส์แว่นตาจะช่วยท�ำให้วัสดุก่อสร้างชนิดต่าง ๆ มีความสวยงาม หลากหลาย สามารถน�ำไปออกแบบเปน็ วสั ดุตกแต่งอาคารไดอ้ กี ด้วย จุดเดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน นัน้ นอกจากจะไดว้ ัสดุก่อสร้างท่คี วามแขง็ แรงทนทาน มีคณุ สมบัติต่าง ๆ ผ่านตามเกณฑม์ าตรฐาน มอก. ของวสั ดกุ อ่ สรา้ งแต่ละ ชนิดแล้ว ยงั มผี ิวสัมผัสเป็นมันวาว สะท้อนแสง โดยออกแบบใหม้ ีความโปร่งแสง ท�ำสีสันใหส้ วยงามได้ ซงึ่ สามารถใชเ้ ปน็ จดุ เด่นใน อุตสาหกรรมการก่อสร้างทีส่ อดคลอ้ งกบั การออกแบบทางสถาปตั ยกรรมได้เป็นอยา่ งดี ประโยชน์ของผลงาน นวตั กรรมการใชเ้ ลนสแ์ วน่ ตาเหลอื ทง้ิ เพอ่ื อตุ สาหกรรมวสั ดกุ อ่ สรา้ งและตกแตง่ อาคาร นอกจากจะเปน็ ความตอ้ งการของบรษิ ทั ผผู้ ลติ และจำ� หน่ายแว่นตาแล้ว ยงั สามารถนำ� มาใช้ประโยชน์ในงานอตุ สาหกรรมกอ่ สร้าง ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เปน็ การใช้วสั ดุ เหลือทงิ้ ใหเ้ พมิ่ มลู คา่ สูงในรปู แบบของเศรษฐกิจหมนุ เวยี น (Circular Economy) ช่วยใหข้ ยะของโรงงานแว่นตาเป็นศูนย์ (Zero Waste) ในขณะที่อตุ สาหกรรมการก่อสร้างกม็ นี วัตกรรมใหมม่ าใชป้ ระโยชน์ทง้ั ด้านวัสดกุ ่อสร้างและวสั ดตุ กแตง่ อาคาร ลดการนำ� เขา้ ผลิตภัณฑ์ ในลกั ษณะที่คลา้ ยกันจากตา่ งประเทศ แนวทางการพฒั นาต่อยอดผลงาน แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอด นวัตกรรมการใชเ้ ลนสแ์ ว่นตาเหลอื ท้งิ เพอ่ื อตุ สาหกรรมวัสดุก่อสรา้ งและตกแต่งอาคาร นั้น สามารถน�ำ ไปผลติ เปน็ อฐิ เทยี มขนาดใหญท่ โ่ี ปรง่ แสงและมคี วามแขง็ แรง ใชเ้ ปน็ แผน่ พน้ื ทางเดนิ สะทอ้ นแสงในเวลากลางคนื และใชพ้ ฒั นาเปน็ วสั ดุ ท่สี ะทอ้ นความร้อนออกจากตัวอาคารได้ เจา้ ของผลงาน นายธวชั ชัย อรยิ ะสทุ ธ*ิ , ดร.ประชุม คำ� พุฒ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี เบอร์โทรตดิ ต่อ 08 9882 1689 อเี มล์ [email protected] วารสารสง่ิ ประดษิ ฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 49
I 06-192030 สว่ นประกอบของเคร่ือง 1.ชุดตดั ขวด 2.ชุดเกบ็ เส้นด้ายหลังการตดั 3.ชุดดึงยดื เส้นดา้ ยโดยใชล้ กู กล้ิง 4.ชดุ ปรบั ความตงึ – หย่อนของเส้นด้าย 5.ชุดเกบ็ เสน้ ด้ายหลงั การดงึ ยืด 6.ชดุ ควบคุมการท�ำงาน 7.ต้เู ก็บอุปกรณ์ 50 การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติมหาวิทยาไลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 11 และการประชุมวชิ าการระดบั นานาชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ที่ 10
ส่ิงประดิษฐ์และนวตั กรรม เพือ่ อตุ สาหกรรม เครอื่ งตน้ แบบการตดั ขวดและดงึ ยดื เปน็ เสน้ ดา้ ย BOTTLE CUTTER AND STRETCHING YARN PROTOTYPE ความเป็นมา ปัจจุบันในชีวิตประจ�ำวันเรานั้นเกี่ยวข้องกับพลาสติกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชีวิต ประจ�ำวันเราน้ันมีความจ�ำเป็นต้องบริโภคน้�ำ เพราะเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกาย 80 เปอร์เซ็นต์ จากสถิติ ปริมาณการใช้ขวด พลาสตกิ ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2550 พบว่ามกี ารใช้ขวด PET (ขวดใส) ปลี ะประมาณ 975 ลา้ นใบ ในเมือ่ อตั ราการย่อยสลายของ ขวดพลาสตกิ นนั้ ใชเ้ วลานานกวา่ 450 ปตี อ่ 1 ใบ และอกี ปจั จยั กค็ อื มลิ พษิ ของขวดพลาสตกิ นนั้ กม็ ไี มน่ อ้ ยเชน่ กนั อยา่ งเชน่ กระบวนการ ผลติ และกระบวนการทำ� ลายขวดพลาสตกิ กอ่ ใหเ้ กดิ กา๊ ซพษิ ทส่ี ง่ ผลตอ่ มนษุ ยแ์ ละสง่ ผลตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม โดยเฉพาะเปน็ สาเหตหุ นง่ึ ทท่ี ำ� ให้ เกดิ ภาวะโลกร้อน เพราะมนั ไมส่ ามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งได้มีผู้ท�ำการรีไซเคิลขวดพลาสติกโดยกระบวนการหลอมเหลวโดยน�ำขวด PET (ขวดใส) น้ันมาผ่านกระบวนการหลอมละลาย ใหก้ ลายเป็น เม็ดพลาสตกิ แล้วน�ำมาฉดี ใหมใ่ หเ้ ปน็ ขวดพลาสตกิ ซึง่ วิธกี ารหลอมเหลวน้ันมนั ได้สง่ ผลกระทบต่อมนุษยแ์ ละส่ิงแวดล้อม อย่างมาก ซ่งึ คณะผู้วิจัยได้สรา้ งเครอ่ื งรไี ซเคิลขวดพลาสตกิ ข้ึนมาโดยการตัดขวดพลาสตกิ PET (ขวดใส) ให้ออกมาเปน็ เสน้ ด้ายเพื่อลดตน้ ทุน ในการผลิตและมลพิษทางอากาศเพ่ือไม่ให้เกิดภาวะโลกร้อนเพราะกระบวนการหลอมเหลวน้ันได้สร้างแก๊สเรือนกระจกออกมาจึงท�ำให้ เปน็ มลพษิ ทางแวดลอ้ มอยา่ งมาก จุดเดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน สามารถตดั ขวดและดงึ ยดื เปน็ เสน้ ดา้ ยได้ นำ� มาเปน็ วสั ดทุ ใ่ี ชใ้ นการทอผา้ โดยทไี่ มต่ อ้ งนำ� ขวดไปหลอมใหมเ่ พอื่ นำ� มาขน้ึ รปู เปน็ เสน้ ดา้ ย ประโยชนข์ องผลงาน 1. ไดเ้ ครอ่ื งตน้ แบบตดั ขวดและดงึ ยดื เปน็ เสน้ ดา้ ย 2. ทราบสมบตั ขิ องเสน้ ดา้ ยทดี่ งึ ออกมาจากเครอ่ื งตน้ แบบการตดั ขวดและดงึ ยดื เปน็ เสน้ ดา้ ย 3. นำ� ขวดกลบั มาใชใ้ หมเ่ พอ่ื ลดขยะ 4. ไดผ้ ลติ ภณั ฑส์ งิ่ ทอจากเสน้ ดา้ ยจากขวดนำ� ไปพฒั นาเปน็ งานสง่ิ ทอเทคนคิ ในดา้ นตา่ งๆ เชน่ สงิ่ ทอโยธา เคหะสงิ่ ทอ ฯลฯ แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอดผลงาน พัฒนาให้เคร่อื งมีสว่ นดงึ ยดื เพิม่ ขน้ึ เพอ่ื เพมิ่ ก�ำลังการผลติ เส้นด้ายจากขวดไดจ้ ำ� นวนมากข้นึ และลดเวลาในการดึงยืดได้ เจ้าของผลงาน นายบณิ ฑสนั ต์ ขวญั ขา้ ว*, วา่ ทรี่ อ้ ยตรหี ญงิ ศริ วิ รรณ ศรธี รรมรงค,์ นายสรุ ศกั ด์ิ ชแู สง, นายปฐมพรแกว้ กาญจน,์ นายวชั รนิ ทร์วไิ ลโรจนว์ รกลุ ,นายศรายทุ ธกะโหท้ อง,นายศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิถนอมสมบตั ิ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี เบอร์โทรตดิ ตอ่ 0863722269 อเี มล์ [email protected] วารสารสง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม RMUTCON 2019 51
I 07-192035 I07-192035 ถ่ัวหรง่ั Bambara Groundnut Vigna subterranea (L.) Verdc. 52 การประชมุ วิชาการระดับชาตมิ หาวทิ ยาไลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครั้งท่ี 11 และการประชุมวิชาการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 10
สิง่ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม เพอ่ื อตุ สาหกรรม ผลติ ภณั ฑธ์ รรมชาติ จากสารสกดั จากโปรตนี ถวั่ หรง่ั ไฮโดรไลเสท Anti-ageing form Protein hydrolyzated Bambara groundnut ความเป็นมา ถั่วหรั่ง หรือ Bambara groundnut (Voandzeia subterranea) มีถ่ินก�ำเนิดอยู่ในเขตร้อนของทวีปแอฟริกา บริเวณหมู่เกาะ มาดากาสคาร์ ตอ่ มาไดแ้ พร่กระจายพันธ์ุออกไปยังทวีปอเมริกาใตแ้ ละทวีปเอเซยี โดยผ่านเขา้ มาทางประเทศฟลิ ปิ ปินส์ อนิ โดนีเซียและ เข้าสูป่ ระเทศมาเลเซียและชายแดนทางภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งมีชอ่ื เรียกตามทอ้ งถ่ิน ได้แก่ กาแจโป ถ่ัวไทร ถ่ัวปนั หยี และถัว่ เม็ด เดียว เป็นตน้ (Purseglove, 1997) เมล็ดของถว่ั หรง่ั สามารถนำ� มาต้มให้สุกจะมรี สหวาน นำ� มาประกอบอาหารได้ท้งั ความหวาน เชน่ ต้มขาหมู แกงมัสมั่น และทำ� ไสข้ นมเปีย๊ ะ เปน็ ต้น ถ่วั หรงั่ มีคุณค่าทางโภชนาการทด่ี ี โดยพบวา่ ประกอบดว้ ยคารโ์ บไฮเดรตรอ้ ยละ 51.3 โปรตนี รอ้ ยละ 18.8 ไขมนั รอ้ ยละ 5.2 เส้นใยร้อยละ 3.0 (ภมู ิสนั ต์ และ ธนาพร, 2536) จากงานวิจยั ก่อนหนา้ พบว่าโปรตนี ไฮโดรลเสท ที่ได้จากถั่วหร่ังด้วยการสกัดด้วยเอนไซม์ มีสารประกอบฟีนอลิกท่ีสูง มีฤทธ์ิต้านอนุมูลอิสระท่ีดี และยังมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพอีกด้วย (วิไลลักษณ์, 2557) ดังนั้นถ่ัวหร่ังจึงน่าจะมีศักยภาพในการพัฒนาไปเป็นผลิตภัณฑ์เคร่ืองส�ำอางได้ ซ่ึงจะต้องมีการพัฒนาวิธีการ สกัดในรูปแบบท่ีแตกต่าง และขณะน้ียังไม่มีรายงานวิชาการที่เก่ียวข้องกับการศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพท่ีเก่ียวข้องในการน�ำไปใช้ เปน็ เคร่อื งส�ำอางมาก่อน จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. ใชส้ ารสกดั จากธรรมชาติ ทำ� ใหม้ คี วามปลอดภยั ในการใชเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ สำ� หรบั เครอ่ื งสำ� อาง 2. จากการทดสอบ พบวา่ ไมเ่ ปน็ พษิ ตอ่ เซลล์ และยงั ตอ่ ตา้ นสารอนมุ ลู อสิ ระ 3. สามารถนำ� ไปตอ่ ยอดในเชงิ พาณชิ ยไ์ ด้ ประโยชน์ของผลงาน 1. ทราบฤทธท์ิ างชวี ภาพของสารสกดั จากโปรตนี ถวั่ หรง่ั ไฮโดรไลเสท 2. สามารถพฒั นาสารสกดั จากโปรตนี ถวั่ หรง่ั ไฮโดรไลเสทใหเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ สำ� หรบั เครอ่ื งสำ� อาง 3. อนรุ กั ษภ์ มู ปิ ญั ญาไทยดา้ นการใชส้ มนุ ไพรทบ่ี รรพบรุ ษุ ไดส้ บื ทอดกนั มาใหค้ งอยตู่ อ่ ไป 4. นำ� ผลงานวจิ ยั ทไ่ี ดจ้ ากโครงการนไ้ี ปตอ่ ยอดในเชงิ พาณชิ ยไ์ ด้ รวมทงั้ ทำ� ใหเ้ กดิ การสรา้ งงานเพอ่ื เปน็ พนื้ ฐานการพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ ธรรมชาตขิ องประเทศใหเ้ ขา้ สรู่ ะบบอนั เปน็ สากลได้ แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอดผลงาน พัฒนาใหเ้ ครอื่ งมีส่วนดึงยืดเพ่ิมขึ้นเพือ่ เพมิ่ กำ� ลังการผลติ เส้นดา้ ยจากขวดไดจ้ ำ� นวนมากขน้ึ และลดเวลาในการดึงยืดได้ เจ้าของผลงาน ผศ.ดร.กรวนิ ทว์ ชิ ญ์ บญุ พสิ ทุ ธนิ นั ท*์ , นางสาวรตั ตกิ าล รกั แกว้ คณะวทิ ยาลยั การแพทยแ์ ผนไทย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 025921999 ตอ่ 1303 อเี มล์ [email protected] วารสารสิง่ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม RMUTCON 2019 53
I 08-192048 54 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
ส่งิ ประดิษฐแ์ ละนวตั กรรม เพือ่ อุตสาหกรรม ระบบอดั และยกแบบของเครอื่ งอดั อฐิ มอญตนั ดว้ ยระบบไฮดรอลกิ Pressing and Mold System of Hydraulic Brick Pressing Machine ความเปน็ มา ในปจั จบุ นั มกี ารพฒั นาทง้ั ดา้ นงานกอ่ สรา้ ง รวมถงึ นวตั กรรมทางดา้ นเทคโนโลยเี พมิ่ มากขน้ึ ทำ� ใหเ้ กดิ แนวคดิ ในการพฒั นาเครอ่ื งจกั ร เพอื่ ขนึ้ รปู อฐิ มอญตนั เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการในการผลติ ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและเพมิ่ จำ� นวนในการผลติ ใหม้ ากขน้ึ ตามความตอ้ งการ ของตลาดและทางผู้ผลิต โครงงานนีจ้ ะมุง่ เนน้ ไปในทางด้านการผลิตอฐิ มอญตันทขี่ ึน้ รปู ด้วยเครื่องอัดไฮดรอลกิ ซ่งึ ศกึ ษาคณุ สมบัติของ อิฐมอญตนั ท่ีผลิตด้วยเครอ่ื งอัดไฮดรอลิกให้ไดม้ าตรฐานตาม มอก. 77-2545 ดังนั้นจึงต้องศึกษากรรมวิธีการทำ� ส่วนผสมท่เี หมาะสม แรงดัน ขนาด การดดู ซมึ น�้ำ และความแข็งแรงของอิฐ เนื่องจากทางโรงงานผลติ อฐิ และตลาดในส่วนท่ีเก่ยี วข้องกับงานก่อสรา้ ง พบ ปญั หาการขาดแคลนวสั ดอุ ฐิ มอญตันประเภทน้ี เพราะเป็นวสั ดุกอ่ ทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มสูง ซึ่งมคี วามแข็งแรงและทนตอ่ ความร้อนได้ดี ดัง นั้นการทำ� อฐิ จงึ เหมาะแก่การนำ� เคร่อื งจักรเขา้ มาชว่ ยในการผลติ เพ่อื ลดปัญหาที่เกิดขนึ้ สำ� หรับผู้ประกอบการโรงอฐิ จุดเด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน เปน็ การนำ� ระบบไฮดรอลกิ มาใชร้ ว่ มกบั การขนึ้ รปู อฐิ มอญตนั ประเภทท่ี1 ซง่ึ จากการทดสอบคณุ สมบตั ขิ องอฐิ ทขี่ นึ้ รปู ดว้ ยเครอื่ งอดั ไฮดร อลกิ ผา่ นคณุ สมบตั ติ ามมาตราฐานมอก. 77-2545 ประโยชนข์ องผลงาน เปน็ การนำ� ระบบไฮดรอลกิ ไปใชใ้ นกระบวนการผลติ ทางดา้ นอตุ สาหกรรมประเภทอฐิ มอญตนั แนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงาน จากการอดั ขน้ึ รปู ดว้ ยระบบไฮดรอลกิ สามารถนำ� มาพฒั นาในการตอ่ ยอด ดว้ ยระบบอตั โนมตั ซิ งึ่ ควบคมุ ดว้ ยProgrammableLogic Controler (PLC) ซึง่ ผสมผสานกบั ระบบไฮดรอลกิ เพื่อใช้ในการขนึ้ รปู อิฐมอญตันประเภทที่ 1 เจ้าของผลงาน นายนวิ ฒั น์ สขุ สาม*, นายนฐั วฒุ ิ กจิ โสภา, นายวรญั ชติ เอมเดช, นายศรณั ย์ ชาญนอก, ดร.โศภดิ า สงั ขส์ นุ ทร คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ ศาลายา เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0841486923 อเี มล์ [email protected] วารสารสงิ่ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม RMUTCON 2019 55
I 09-192051 56 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาไลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดบั นานาชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
สิ่งประดษิ ฐแ์ ละนวัตกรรม เพอ่ื อุตสาหกรรม โตะ๊ เลอ่ื ยวงเดอื นปรบั ระยะซอยไมอ้ ตั โนมตั ิ Saw fence alley sliding table automatically ความเปน็ มา ในการท�ำฟอร์นิเจอรไ์ ม้ หรอื งานไม้หลายชนดิ จะตอ้ งมกี ารเลอื่ ยตัดไม้ และซอยไม้ใหไ้ ดข้ นาดตามตอ้ งการ เคร่ืองมอื สำ� คญั ทใ่ี ช้ ในการเลือ่ ยซอยไม้ทข่ี าดไม่ไดค้ ือ โตะ๊ เลือ่ ยวงเดอื นท่ีสามารถปรบั ระยะการเล่อื ยซอยไมไ้ ด้ ในการปรบั ร้ัวซอยของโต๊ะเล่ือยวงเดือนนั้น จะต้องใชต้ ลับเมตรวดั จากปลายท้งั สองด้านของใบเลอ่ื ย แลว้ ท�ำการยดึ หัว-ทา้ ยของร้ัวซอยด้วยแคลมป์ซง่ึ ใชเ้ วลาในการตง้ั รั้วซอยมาก ประมาณ 3-5 นาที ท�ำใหก้ ารงานช้าเมื่อตอ้ งทำ� การเปลย่ี นระยะซอยไม้บอ่ ย ๆ โดยเฉพาะผู้ท่ขี าดความชำ� นาญ จะทำ� ให้การปรับตั้งยิ่ง ชา้ มากขึ้น และเกดิ ความผิดพลาดสงู ทำ� ใหก้ ารเล่ือยซอยไมเ้ กดิ การบดิ เบีย้ ว ส่งผลใหก้ ารนำ� ไปใชไ้ มไ่ ด้คุณภาพ จุดเด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน การปรบั ตงั้ รว้ั ซอยของโตะ๊ เลอ่ื ยวงเดอื นสามารถปรบั ไดอ้ ตั โนมตั ิ โดยวธิ กี ารปรบั ตงั้ รวั้ ซอยอตั โนมตั ดิ ว้ ยมอเตอรแ์ ละชดุ เฟอื งเลอื่ น รว้ั ซอย มรี างควบคมุ การเลอ่ื นใหร้ าบลน่ื ควบคมุ การทำ� งานดว้ ยไมโครคอลโทรลเลอร์ ซงึ่ รบั คำ� สง่ั จากแปน้ พมิ พท์ เี่ ปน็ ตวั เลข โดยเครอื่ งสามารถตง้ั ระยะการซอยไดร้ วดเรว็ ใชเ้ วลานอ้ ยกวา่ 1 นาที และมคี วามแมน่ ยำ� สงู โดยมคี วามผดิ พลาดเพยี งไมเ่ กนิ ± 0.05 มลิ ลเิ มตร ประโยชน์ของผลงาน การตงั้ รวั้ ซอยแบบอตั โนมตั ใิ ชเ้ วลานอ้ ยกวา่ และมคี า่ ผดิ พลาดนอ้ ยกวา่ ผใู้ ชง้ านตงั้ รว้ั ซอยดว้ ยตลบั เมตรเอง ทำ� ใหก้ ารทำ� งานสำ� หรบั งาน ไมม้ คี วามสะดวกมากขน้ึ และออกมาไดผ้ ลงานทดี่ ี แนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงาน สามารถพัฒนาโต๊ะเลอื่ ยวงเดอื น ใหส้ ามารถตั้งองศาของไมไ้ ด้แบบอตั โนมตั ิ สามารถพัฒนาโต๊ะเลอ่ื ยวงเดอื น ใหส้ ามารถปอ้ นไม้ไดเ้ องแบบอัตโนมตั ิเพ่อื ความปลอดภยั ของผใู้ ช้งานเพม่ิ ขึน้ เจ้าของผลงาน นายจำ� เรญิ เกตแุ กว้ *, นายพงศกร ชยั วงษ,์ นายชาญณรงค์ มงุ ตอ่ ม คณะ วศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เชยี งราย เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0876606976 อเี มล์ [email protected] วารสารสงิ่ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม RMUTCON 2019 57
I 10-192053 ครีมชีส รคิ อตต้าชีส กรลิ ลช์ สี โยเกริ ์ตชสี คอตเทจชสี มอสซาเรลลาชีส เจา้ ของผลงาน ผศ.ดร.สรุ รี ตั น์ เยยี่ มตระกลู *, ดร.อชั ฌาพร กวา้ งสวาดิ์ , นางสาวพชั ราภรณ์ วฒุ เิ จรญิ ถาวร, นางสาวสพุ ตั รา สงั ขแ์ กว้ , นายพชั รพล ประวชิ พราหมณ์ คณะอตุ สาหกรรมการโรงแรมและการทอ่ งเทยี่ ว มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นธกสนิ ทร์ เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0899158974 อเี มล์ [email protected] 58 การประชมุ วิชาการระดับชาตมิ หาวทิ ยาไลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 11 และการประชุมวิชาการระดบั นานาชาติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้ังท่ี 10
ส่งิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม เพ่อื อตุ สาหกรรม โครงการการพฒั นาผลติ ภณั ฑช์ สี ของสหกรณโ์ คนมไทย-เดนมารค์ ประจวบครี ขี นั ธ์ จำ� กดั ความเป็นมา สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเพ่ือผลก�ำไร และรายได้ เป็นหน่วยงานท่ีเกิดจากการ รวมตัวกนั ของเกษตรกรผเู้ ลยี้ งโคนมในจงั หวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ โดยมีวตั ถุประสงค์ในการ เพมิ่ ชอ่ งทางการจำ� หนา่ ยผลติ ภณั ฑน์ ม และ เพม่ิ มลู คา่ นำ�้ นมดบิ จงึ รว่ มสนบั สนนุ งบประมาณในการศกึ ษาวจิ ยั ในโครงการ การพฒั นาผลติ ภณั ฑช์ สี ของสหกรณโ์ คนมไทย-เดนมารค์ ประจวบคีรีขันธ์ และได้รับสนับสนุนทุนวิจัยโดยเข้ารับบริการจากเครือข่ายการให้บริการผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีแบบครบ วงจร (Tech Enterprise Service Network - TESNet) จะไดร้ บั การเช่อื มโยงใหส้ ามารถเข้าใช้บริการโครงสรา้ งพ้ืนฐานทางการวิจัยที่มี ครอบคลมุ อยทู่ ว่ั ประเทศ มกี ลไกการสง่ ตอ่ ผรู้ บั บรกิ ารผา่ นเครอื ขา่ ย ทำ� ใหไ้ ดร้ บั บรกิ ารตรงตามความตอ้ งการ โดยเครอื ขา่ ยจะมเี ครอ่ื งมอื ท่พี ร้อมให้บรกิ ารในทกุ ข้ันตอนการพฒั นาของผปู้ ระกอบการ ตง้ั แตเ่ ครอ่ื งมอื วจิ ัยพ้นื ฐาน (Lab scale) เคร่อื งมือวิจัยในระดบั ตน้ แบบ (scale-upfacilities) จนถงึ เครอื่ งมอื ในระดบั pilotscale ทส่ี ามารถผลติ สนิ คา้ ทมี่ จี ำ� นวนมากพอสำ� หรบั การทดลองตลาดได้(minimumlot) โดยหนว่ ยงานเครอื ขา่ ยจะมเี จา้ หนา้ ทท่ี ค่ี อยอำ� นวยความสะดวกใหก้ บั ภาคเอกชนแตล่ ะรายในการเลอื กและเขา้ ถงึ บรกิ ารตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม (Tech Enterprise Liaison - TEL) ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีท่ีอยู่ในช่วงของการจัดตั้งกิจการจะได้รับการส่งต่อ เขา้ สกู่ ระบวนการเร่งการเติบโต และรว่ มลงทนุ เพอื่ ส่งเสรมิ ให้เกิดการดำ� เนนิ กจิ การอย่างต่อเนอ่ื ง มน่ั คงและย่งั ยืน จดุ เด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1.ผลิตภัณฑ์ชีสท้ังหมด ได้รับการตอบรับจากสถานประกอบการประเภทโรงแรมในแหล่งท่องเท่ียวหัวหิน ส่งผลให้สหกรณ์โคนม ไทย-เดนมารค์ ประจวบครี ขี นั ธ์ มชี อ่ งทางการจำ� หนา่ ยผลติ ภณั ฑช์ สี เขา้ สสู่ ถานประกอบการได้ 2.เกษตรกรผเู้ ลยี้ งโคนมประจวบครี ขี นั ธ์ สามารถจำ� หนา่ ยนำ้� นมดบิ ให้ สหกรณโ์ คนมไทย-เดนมารค์ ประจวบครี ขี นั ธ์ ในราคาทส่ี งู ขน้ึ 3.สถานประกอบการประเภทโรงแรมในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วหวั หนิ มที างเลอื กในการซอื้ ผลติ ภณั ฑช์ สี สด ทเี่ ปน็ วตั ถดุ บิ หลกั ในการประกอบ อาหารเพอ่ื บรกิ ารลกู คา้ ของโรงแรม 4.ผปู้ ระกอบการรา้ นอาหารในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วหวั หนิ มโี อกาสซอ้ื ผลติ ภณั ฑช์ สี สด เพอ่ื จำ� หนา่ ยและ ประกอบอาหาร ไดใ้ นราคา ตำ่� กวา่ การสงั่ ซอ้ื หรอื นำ� เขา้ จากตา่ งประเทศ 5.นกั ศกึ ษามโี อกาสไดเ้ รยี นรู้ กระบวนการ พฒั นาผลติ ภณั ฑช์ สี สด ซง่ึ เปน็ ประสบการณท์ สี่ ามารถนำ� ไปประกอบอาชพี ได้ 6.มคี วามกา้ วหนา้ ในวงวชิ าการกยี่ วกบั กระบวนการ พฒั นาผลติ ภณั ฑช์ สี สด ประโยชนข์ องผลงาน แกป้ ญั หานำ้� นมดบิ ลน้ ตลาด และราคาตกตำ่� เพมิ่ ชอ่ งทางการจำ� หนา่ ย ใหเ้ กษตรกร และ สหกรณโ์ คนมไทย- เดนมารค์ ประจวบครี ขี นั ธ์ ได้ นอกจากนย้ี งั ตอบโจยท์ ความตอ้ งการของสถานประกอบการ ในทอ้ งถน่ิ และชมุ ชน แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอดผลงาน 1.น�ำผลติ ภณั ฑ์ชีสสดทัง้ หมด เปน็ วตั ถดุ บิ ในการพัฒนาเป็นผลติ ภัณฑ์ อาหาร เพอื่ จำ� หนา่ ยในเชิงพาณิชย์ 2.ถา่ ยทอดเทคโนโลยีส่ชู มุ ชนในทอ้ งถิ่น และสถานศึกษา ในท้องถิน่ เช่น หลักสูตรท้องถิ่น การอบรมหลักสูตรระยะสั้น 3.เผยแพรใ่ นวงวิชาการ วารสารส่ิงประดิษฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 59
I 11-192056 ประโยชน์ของผลงาน 1. การสรา้ งอปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอ่ื ตรวจสอบชนิ้ สว่ นรถยนตส์ ำ� หรบั ช้ินงานประกอบที่สามารถตรวจสอบชิ้นงานเด่ียวก่อนประกอบได้ ดว้ ยในตวั เดยี วกนั 2. ลดต้นทุนในการผลิตเพราะสามารถลดจ�ำนวนการสร้าง อปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอ่ื ตรวจสอบชนิ้ สว่ นรถยนตใ์ นกรณชี นิ้ งานประกอบ 3. สามารถตรวจสอบและวดั ขนาดชน้ิ งานตามทล่ี กู คา้ กำ� หนด ไดค้ รบทกุ ตำ� แหนง่ แนวทางการพฒั นาต่อยอดผลงาน ในอนาคตตอ้ งทำ� การลดตน้ ทนุ ในอปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอื่ ตรวจสอบ ชนิ้ สว่ นรถยนต์ตอ่ ไป โดยอาจจะลดจ�ำนวน หรือปรมิ าณของเน้ือ วัสดุที่มีตัวอุปกรณ์จับยึดเพื่อตรวจสอบชิ้นส่วนรถยนต์ลง ในส่วน ท่ีไม่จ�ำเป็น หรือ อาจจะใช้เทคโนโลยีเร่ืองการปร๊ิน 3 มิติ (3D Printing) ในการสรา้ งอุปกรณ์จับยดึ เพื่อตรวจสอบชนิ้ สว่ นรถยนต์ ในส่วนทเ่ี ป็นชิ้นสว่ นที่มขี นาดเลก็ และสามารถถอดประกอบได้ เจ้าของผลงาน นายพชั ระ กญั จนกาญจน*์ นายเฉลมิ ขนุ เอยี ด มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภมู ิ เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0815735443 อเี มล์ [email protected] 60 การประชุมวชิ าการระดับชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ที่ 11 และการประชมุ วชิ าการระดบั นานาชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ที่ 10
สง่ิ ประดษิ ฐแ์ ละนวตั กรรม เพอ่ื อุตสาหกรรม การออกแบบเพอื่ พฒั นาการสรา้ งอปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอื่ ตรวจสอบชน้ิ สว่ นรถยนตส์ ำ� หรบั ชนิ้ งานประกอบ Design and development to create a checking fixture for an automobile’s assembly parts. ความเป็นมา กระบวนการผลิตช้ินส่วนรถยนต์ด้วยกรรมวิธีการปั๊มข้ึนรูปด้วยแม่พิมพ์ (Die) จ�ำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จับยึดเพื่อตรวจสอบชิ้นส่วน รถยนต์ (Checking Fixture : CF) ในการตรวจสอบขนาดและรปู รา่ งชน้ิ งานทไ่ี ดจ้ ากชดุ แม่พิมพ์ ซ่ึงเปน็ เคร่อื งมือทจี่ �ำเป็นมากใน โรงงานอุตสาหกรรมท่ีผลิตช้ินส่วนรถยนต์และเป็นข้อก�ำหนดของบริษัทผู้ประกอบรถยนต์ ว่าต้องใช้อุปกรณ์ดังกล่าวในการตรวจสอบ ช้ินงานที่ผ่านกระบวนการปั๊มขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ก่อนส่งมอบให้ลูกค้า เนื่องจากเป็นเครื่องมือท่ีสามารถตรวจสอบความเท่ียงตรงของ ชน้ิ งานที่มคี วามแมน่ ย�ำ มีความรวดเร็วและมวี ิธีการใช้งานทีง่ ่าย แตป่ ระเดน็ ส�ำคญั คอื การสรา้ งอปุ กรณจ์ ับยึดเพอื่ ตรวจสอบชน้ิ สว่ น รถยนต์ ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตเพ่ิมสูงขึ้น เพราะผู้ประกอบรถยนต์ต้องการเฉพาะช้ินส่วนรถยนต์ท่ีมีคุณภาพตามท่ีก�ำหนดเท่าน้ัน อุปกรณ์จับยึดเพ่ือตรวจสอบช้ินส่วนรถยนต์เป็นเครื่องมือท่ีผู้ผลิตช้ินส่วนต้องจัดหาขึ้นมาเพ่ือตรวจสอบช้ินงานและยืนยันว่าช้ินงานน้ัน ตรงตามข้อกำ� หนดของผู้ประกอบรถยนต์และข้อจำ� กดั ในการผลิตหรอื สาเหตทุ ี่ท�ำให้ตน้ ทุนสงู ในปจั จุบัน คือ 1. การผลิตอุปกรณ์ตรวจสอบขนาดชิน้ งานในปัจจุบนั จะใช้วัสดอุ พี อ๊ กซ่ี (Epoxy) ซง่ึ มีราคาแพง 2. การผลิตด้วยเครื่องซีเอ็นซีมีต้นทุนในการผลิตที่สูง มีต้นทุนของเครื่องมือตัด (Tooling) และระบบน้�ำหล่อเย็นเพ่ือตัดเฉือน วสั ดอุ ีพ๊อกซใี่ หเ้ ป็นรปู ร่างตา่ งๆ 3. บางบริษัทไม่สามารถออกแบบและผลิตอุปกรณ์ตรวจสอบช้ินงานได้เองแต่มีความจ�ำเป็นต้องใช้งานจึงต้องสั่งซ้ืออุปกรณ์ตรวจ สอบช้ินงานจากผ้อู ืน่ 4. อุปกรณ์จบั ยดึ เพ่อื ตรวจสอบช้ินสว่ นรถยนตห์ น่งึ ตวั สามารถตรวจสอบชิ้นงานได้เฉพาะชิน้ งานนัน้ ๆ (Single Part) ขณะทร่ี ถยนต์ 1 คนั จะประกอบไปด้วยช้ินสว่ นประมาณ 5000 ชิน้ ที่ต้องท�ำการตรวจสอบ นน่ั หมายถงึ ตอ้ งใชอ้ ปุ กรณจ์ ับยดึ เพือ่ ตรวจสอบชิน้ ส่วน รถยนตเ์ ท่ากบั จ�ำนวนชิ้นส่วนทต่ี อ้ งตรวจสอบ จากการศกึ ษาและทำ� งานวจิ ยั ทผี่ า่ นมาเกยี่ วกบั เรอ่ื งการสรา้ งอปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอ่ื ตรวจสอบชนิ้ สว่ นรถยนต์ เหน็ แนวทางทจ่ี ะลดตน้ ทนุ ในการผลิตอุปกรณ์จับยึดเพื่อตรวจสอบช้ินส่วนรถยนต์ให้น้อยลงแต่ประสิทธิภาพและคุณภาพยังคงเหมือนเดิม โดยการออกแบบเพื่อ พัฒนาการสร้างอุปกรณ์จับยึดเพ่ือตรวจสอบช้ินส่วนรถยนต์ส�ำหรับช้ินงานประกอบ หมายถึง ออกแบบอุปกรณ์จับยึดเพื่อตรวจสอบ ช้ินส่วนรถยนต์หน่ึงตัวให้สามารถตรวจสอบชิ้นงานได้มากกว่า 1 ช้ินในตัวเดียวกัน สามารถตรวจสอบช้ินงานตามตัวอย่างได้ทั้งหมด 3 ชน้ิ ครบทกุ ตำ� แหน่งตามทลี่ ูกค้าก�ำหนด จะท�ำใหส้ ามารถลดตน้ ทนุ และเวลาในการผลิตลงไดอ้ ยา่ งมาก โดยเฉพาะในช้นิ งานที่เป็น ลักษณะการนำ� ชน้ิ ส่วน 2 ช้ินมาประกอบกนั เพือ่ เป็นช้นิ งานมาตรฐาน 1 ชิน้ ดว้ ยกรรมวธิ ีการเชื่อมจุด ซ่งึ มรี ปู ร่างทแ่ี ตกต่างกันออกไป ดงั แสดงในภาพทแ่ี สดงลกั ษณะชนิ้ งานประกอบชดุ ท่ี1 โดยกระบวนการปกตถิ า้ ทำ� การผลติ ชนิ้ งานดงั แสดงในภาพ กจ็ ะตอ้ งสรา้ งอปุ กรณ์ จบั ยึดเพอ่ื ตรวจสอบชน้ิ ส่วนรถยนต์ ทงั้ หมด 3 ตวั เพอ่ื ใชต้ รวจสอบรูปร่างช้ินงาน (ระยะ Gab) และขอบชิ้นงาน (Trim line) ว่าตรง ตามแบบงาน (Part Drawing) ทำ� ใหม้ ีต้นทนุ ในการผลิตเพ่มิ ข้ึน จุดเดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. ออกแบบเพอ่ื พฒั นาการสรา้ งอปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอ่ื ตรวจสอบชนิ้ สว่ นรถยนตส์ ำ� หรบั ชนิ้ งานประกอบทส่ี ามารถตรวจสอบชนิ้ งานเดยี่ วกอ่ น ประกอบไดด้ ว้ ยในตวั เดยี วกนั 2. ลดจำ� นวนการสรา้ งอปุ กรณจ์ บั ยดึ เพอื่ ตรวจสอบชนิ้ สว่ นรถยนตใ์ นกรณชี น้ิ งานประกอบ วารสารส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 61
I 12-192066 I12-192066 ทดสอบการเจาะแบบไมส เปรยน ้ํา หวั เจาะทที่ ําการศึกษาและพัฒนา ทดสอบการเจาะแบบสเปรยน ํา้ แรงดนั สงู ประโยชน์ของผลงาน 1. ไดผ้ ลติ ภณั ฑห์ วั เจาะทม่ี คี ณุ ภาพ สามารถลดการสกึ หรอขน้ึ บรเิ วณเลบ็ กดั และใบกดั ของหวั เจาะไดต้ ำ่� กวา่ 20% และหวั เจาะมอี ายุ การใช้งานในการเจาะเพม่ิ ขนึ้ 30% เม่ือเทยี บกบั ของเดิม 2. ผูป้ ระกอบการไดร้ บั ความรู้ มที ักษะ และเข้าใจระบบการผลติ หัวเจาะให้เปน็ ไปตามหลกั วชิ าการ สามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ผลติ ภณั ฑอ์ ่ืน และผูป้ ระกอบการสามารถพงึ่ ตนเองได้อย่างย่งั ยืนตอ่ ไป 3. ผู้ประกอบการสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์หัวเจาะให้เป็นที่ยอมรับของตลาดได้และส่งผลให้มีอ�ำนาจในการ แขง่ ขนั ทางตลาดเพม่ิ ข้นึ 4. อาจารย์ และนกั ศึกษาสาขาวิชาวศิ วกรรมเหมืองแร่ ได้รับประสบการณ์จากการปฏิบตั ิงานจรงิ ณ สถานประกอบการ 5. ไดค้ วามรว่ มมอื ระหวา่ งภาครัฐ มหาวทิ ยาลัย และภาคอุตสาหกรรม ต่อไแจปะนทว�ำทกาารงศกกึ ษาารแพละฒั พฒั นนาาตหวัอ่ เจยาอะสด�ำผหกรลาับงงราาพนนรัฒะเบนิดเาหหมอื ัวงเถจ่านาหะDนิ eสvโดาํelยหoกpารmรบัตen่องtยาoอfนดDใรหril้สะliาnเมgบาBรiดิtถfใเoชหr้กCมับoงaอืาlนMงเจถinาeาะBรนรูlaะหsเtบiินnิดgเหมอื งหินปูน เจา้ ของผลงาน วา่ ทรี่ อ้ ยโทสรุ พนิ พรมแดน*, นายสพุ ล นายเกยี รตศิ กั ดิ์ คชาปญั ญา, นายณฐั พล เขยี วมาวงศ์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0910795159 อเี มล์ [email protected] 62 การประชมุ วชิ าการระดับชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยีราชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชุมวชิ าการระดบั นานาชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครงั้ ที่ 10
สิ่งประดิษฐ์และนวตั กรรม เพ่ืออุตสาหกรรม การพฒั นาหวั เจาะสำ� หรบั งานระเบดิ เหมอื งถา่ นหนิ Development of Drilling Bit for Coal Mine Blasting ความเปน็ มา เนือ่ งด้วยหา้ งหุ้นส่วนจ�ำกัดแมเ่ มาะวิศวกรรมเหมืองแร่ เลขที่ 426 หมทู่ ี่ 7 ตำ� บลแมเ่ มาะ อำ� เภอแม่เมาะ จงั หวัดล�ำปาง ได้ ด�ำเนนิ กจิ การในดา้ นงานรบั เหมาระเบดิ หนิ ย่อยหนิ ขุด ขน ดนิ หิน แร่ งานรังวดั ออกแบบและวางผงั เหมอื ง ปจั จบุ นั หจก.ฯ รบั เหมางาน เจาะรเู พอ่ื บรรจวุ ตั ถรุ ะเบดิ เหมอื งถา่ นหนิ ลกิ ไนต์ (เหมอื งแมเ่ มาะ) จงั หวดั ลำ� ปาง ใหก้ บั การไฟฟา้ ฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย บรษิ ทั สหกล อิควิปเมนท์ จ�ำกัด และ บริษัทอิตาเลี่ยน -ไทย ดีเวลอปเมนต์ จ�ำกัด(มหาชน) แต่เนื่องด้วยลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาของ หนิ ตะกอนท่ีพบในแอง่ แม่เมาะเปน็ หนิ ตะกอนกึ่งแข็งตวั “กลุ่มหนิ แมเ่ มาะ” โดยมชี น้ั ถา่ น 5 ชน้ั คือ J , K , Q , R และ S เรยี งลำ� ดับจาก ชน้ั บนลงลา่ ง ซง่ึ ชั้นถ่านหินลิกไนต์ K และ Q เป็นชนั้ ทีม่ คี วามสำ� คญั มากเนอ่ื งจากให้คา่ พลงั งานความร้อนท่สี งู สามารถน�ำไปใชเ้ ป็น เชอื้ เพลิงได้ และมีความหนาชนั้ ละ 20 - 30 เมตร ลกั ษณะของชน้ั ถา่ นหินลิกไนต์ K และ Q แทรกสลับบรเิ วณส่วนกลางของกลมุ่ หนิ แม่เมาะ ทป่ี ระกอบไปดว้ ยหินเคลย์ (Claystone) หนิ โคลน (Mudstone) หนิ ทราย (Sandstone) และหนิ กรวดมน (Conglomerate) เนอื่ งจากมลี กั ษณะของชนั้ หนิ ทแี่ ตกตา่ งกนั จงึ ทำ� ใหเ้ กดิ ปญั หาขนึ้ กบั หวั เจาะทส่ี งั่ ชอ้ื ตามทอ้ งตลาด ในราคาหวั ละ 12,000 ถงึ 20,000 บาท (ขนึ้ อยกู่ บั การใชง้ าน) ไมส่ ามารถใชง้ านกบั การเจาะชน้ั หนิ ทมี่ คี วามแตกตา่ งกนั ได้ ทางผปู้ ระกอบการจงึ ทำ� การผลติ หวั เจาะสำ� หรบั เจาะรเู พอ่ื บรรจวุ ตั ถรุ ะเบดิ เหมอื งถา่ นหนิ ลกิ ไนตข์ น้ึ มาใชเ้ อง แตย่ งั พบปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั หวั เจาะทท่ี ำ� การผลติ ขน้ึ มา คอื เกดิ การสกึ หรอ ข้นึ บรเิ วณเลบ็ กดั และใบกดั ของหัวเจาะ ดงั แสดงในรปู ท่ี 4 ท�ำใหห้ ัวเจาะมีอายุการใชง้ านในการเจาะนอ้ ยอยทู่ ปี่ ระมาณ 200 เมตร/หวั และใช้เวลาในการเจาะแตล่ ะหลมุ 6 ถึง 7 นาที ดงั นน้ั หจก.ฯ จงึ ไดเ้ หน็ ความสำ� คญั และมคี วามตอ้ งการทจ่ี ะพฒั นาคณุ ภาพของหวั เจาะโดยทจี่ ะทำ� การศกึ ษาผลของมมุ เอยี ง ผลของ มมุ บดิ และจำ� นวนของใบกดั ทมี่ ผี ลตอ่ การเจาะรเู พอ่ื บรรจวุ ตั ถรุ ะเบดิ ของเหมอื งถา่ นหนิ ลกิ ไนต์ เพอื่ เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ในท้องตลาด และผลติ ในเชงิ พาณชิ ย์ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพถูกตอ้ งตามหลกั วิชาการท่ีเหมาะสม สามารถยกระดบั มาตรฐานผลติ ภัณฑ์ ใหแ้ กผ่ ปู้ ระกอบการไดจ้ งึ เปน็ ทม่ี าของโครงการนี้ และโครงการพฒั นาหวั เจาะสำ� หรบั งานระเบดิ เหมอื งถา่ นหนิ ไดร้ บั ทนุ สนบั สนนุ งานวจิ ยั ภายใตโ้ ครงการสง่ เสรมิ ใหบ้ คุ ลากรวจิ ยั ในสถาบนั อดุ มศกึ ษาไปปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื แกไ้ ขปญั หาและเพมิ่ ขดี ความสามารถในการผลติ ใหก้ บั ภาค อตุ สาหกรรม (Talent Mobility) ประจ�ำปีงบประมาณ ๒๕๕๙ จากสำ� นกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา (สกอ.) และ สำ� นกั งานคณะ กรรมการนโยบายวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) โดยไดร้ ับความร่วมมือจาก หจก.แมเ่ มาะวศิ วกรรมเหมือง แร่ เป็นสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรม จุดเดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. หวั เจาะทที่ ำ� การพฒั นาขน้ึ สามารถลดการสกึ หรอขน้ึ บรเิ วณเลบ็ กดั และใบกดั ของหวั เจาะไดต้ ำ�่ กวา่ 20% และหวั เจาะมอี ายกุ ารใชง้ าน ในการเจาะเพมิ่ ขน้ึ 30% เมอื่ เทยี บกบั ของเดมิ 2. หวั เจาะทท่ี ำ� การพฒั นาขนึ้ มสี เปรยน์ ำ้� แรงดนั สงู สำ� หรบั จบั ฝนุ่ ภายในรเู จาะไมใ่ หเ้ กดิ การฟงุ้ กระจากของฝนุ่ เกดิ ขน้ึ ในขณะทำ� การเจาะ รเู พอื่ บรรจรุ ะเบดิ 3. หวั เจาะทท่ี ำ� การพฒั นาขนึ้ จะใชส้ เปรยน์ ำ้� แรงดนั สงู ในการระบายความรอ้ นและรกั ษาอณุ หภมู ใิ หก้ บั หวั เจาะและใบเจาะในขณะทท่ี ำ� การ เจาะรู เพอื่ ยดื อายกุ ารใชง้ านของหวั เจาะใหเ้ พม่ิ ขนึ้ วารสารสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 63
I 13-192077 64 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
สงิ่ ประดษิ ฐ์และนวตั กรรม เพื่ออุตสาหกรรม สำ� หรบั กำ� จดั ควนั ในครวั เรอื นและอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ An electrostatic precipitator for smoke removal from the household and the small-scale industry. ความเปน็ มา จากรายงานทางการแพทยพ์ บวา่ ปรมิ าณควนั และฝนุ่ ละอองทม่ี ขี นาดเลก็ เมอ่ื มนษุ ยไ์ ดส้ ดู ดมหรอื อยใู่ นสภาวะทม่ี ปี รมิ าณควนั และฝนุ่ ขนาดเล็กเป็นเวลานาน เชน่ บริเวณบา้ น ห้องครวั หอ้ งปฏบิ ัตงิ านที่มคี วันตะกัว่ สถานประกอบการที่มีกจิ การหรือกิจกรรมท่เี ป็นแหลง่ ก�ำเนิดควนั และฝนุ่ ขนาดเลก็ มีผลกระทบตอ่ ระบบทางเดินหายใจของผคู้ นท่อี าศัยอยบู่ ริเวณน้ัน ทำ� ใหเ้ กดิ การท�ำลายยีนทเี่ ก่ยี วขอ้ งกับ การเกดิ โรคหอบหดื และมคี วามรนุ แรงถงึ ขน้ั เปน็ มะเรง็ ปอด ดงั นน้ั จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารควบคมุ ปรมิ าณการแพรก่ ระจายควนั และฝนุ่ ขนาด เลก็ เหลา่ น้ี เพอ่ื ไมใ่ หม้ ผี ลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพของมนษุ ย์ ดงั นนั้ คณะผวู้ จิ ยั จงึ ไดอ้ อกแบบและสรา้ งผลงานสง่ิ ประดษิ ฐน์ โ้ี ดย นำ� หลักการของการสรา้ งไฟฟ้าสถติ จากสนามไฟฟา้ ความเขม้ สูง ดว้ ยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดนั สงู มาใช้ส�ำหรบั ดักจับควันและฝนุ่ ละออง ขนาดเลก็ โดยเลอื กใชว้ ัสดุที่ผลิตภายในประเทศ จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน การออกแบบและสรา้ งเครอื่ งดกั จบั ควนั ตะกวั่ จากการบดั กรโี ดยใชส้ นามไฟฟา้ แรงดนั สงู ขนาด 10 กโิ ลโวลต์ ขนาดเลก็ เคลอื่ นทง่ี า่ ย เลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นการออกแบบและสรา้ งทม่ี กี ารผลติ ภายในประเทศ สามารถถอดประกอบ ซอ่ ม บำ� รงุ รกั ษา ไดง้ า่ ยและรวดเรว็ สามารถ ควบคมุ ความถไี่ ด้ 3 ระดบั และแสดงผลดว้ ยจอ LCD ประโยชนข์ องผลงาน ผลงานสง่ิ ประดษิ ฐน์ สี้ ามารถชว่ ยลดปญั หาผลกระทบทเี่ กดิ จากคณุ ภาพอากาศทม่ี คี วนั และฝนุ่ ละอองทมี่ ขี นาดเลก็ ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพของผู้ ทอี่ ยอู่ าศยั ในบา้ น และผปู้ ระกอบการในอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ ได้ โดยมกี ารเลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณใ์ นการออกแบบและสรา้ งทม่ี กี ารผลติ ภายใน ประเทศ สามารถถอดประกอบ ซอ่ ม บำ� รงุ รกั ษา ไดง้ า่ ย แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดผลงาน สามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนแ์ ละประยกุ ตใ์ ชภ้ ายในบา้ น ทอี่ ยอู่ าศยั ครวั เรอื น และอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ ทปี่ ระกอบกจิ การ หรอื กจิ กรรมที่ มกี ารกระบวนการเกดิ ควนั ออกมาสบู่ รรยากาศภายนอก อาทิ เชน่ ควนั ตะกว่ั จากการบดั กรี ควนั จากการคว่ั ชา กาแฟ ควนั จากการประกอบ อาหารปง้ิ ยา่ ง ควนั จากธปู ควนั จากการเผาไหมพ้ ลาสตกิ ขณะปฏบิ ตั งิ าน ซง่ึ ผลงานนสี้ ามารถชว่ ยลดปญั หาผลกระทบทเ่ี กดิ จากคณุ ภาพ อากาศทม่ี คี วนั และฝนุ่ ละอองทม่ี ขี นาดเลก็ ทมี่ ผี ลตอ่ สขุ ภาพของผทู้ อ่ี ยอู่ าศยั ในบา้ น และผปู้ ระกอบการอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ ได้ เจ้าของผลงาน นายวสิ ตู ร อาสนวจิ ติ ร*, นายทวิ า พทิ กั ษภ์ คั นนั ท์ , นายจตพุ ร รอ้ งเสยี ง วทิ ยาลยั เทคโนโลยแี ละสหวทิ ยาการ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ดอยสะเกด็ เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0850401595 E-mail [email protected] วารสารสิ่งประดิษฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 65
I 14-192078 กอ่ นเปดิ เครือ่ ง หลังเปิดเครอ่ื ง แหลง่ จา่ ยไฟฟา้ แรงดนั สงู และ เครือ่ งดกั จับควนั โรงบม่ ใบยาสบู 66 การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวทิ ยาไลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครัง้ ที่ 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 10
สงิ่ ประดิษฐ์และนวัตกรรม เพ่ืออุตสาหกรรม เครอ่ื งดกั จับกลุ่มควันโดยใช้ไฟฟา้ กระแสตรงแรงสงู สำ� หรบั โรงบ่มใบยาสูบ Smoke Detectors Machine by Direct Current High Voltage for the Tobacco Monopoly ความเป็นมา จากกลไกขั้นตอนในการบ่มใบยาท่มี ีการเผาไหม้สง่ ผลท�ำใหม้ ีปจั จยั เสีย่ งดา้ นมลพิษทางอากาศทมี่ ีผลต่อสุขภาพจากการเผาไหม้ ที่ ปลอ่ ยออกมา ไดแ้ ก่ กา๊ ซคารบ์ อนมอนอกไซด์ ซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ สารอนิ ทรยี ช์ นดิ ตา่ งๆ เขมา่ ควนั ฝนุ่ ละอองขนาดไมเ่ กนิ 10 ไมครอน (PM10) และฝนุ่ ละอองขนาด PM2.5ขนาดเล็กกวา่ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่าศนู ยก์ ลางเส้นผมมนุษยส์ ามารถแพรก่ ระจายเข้าสรู่ ะบบทาง เดนิ หายใจ ถงุ ลมในปอดและกระแสเลอื ดโดยตรง สง่ ผลอนั ตรายตอ่ กระบวนการทำ� งานของอวยั วะตา่ งๆ ในรา่ งกายและเพมิ่ ความเสย่ี ง ต่อการเป็นโรคเรื้อรังได้มนุษย์ ดังน้ันคณะผู้วิจัยจึงได้ออกแบบและสร้างผลงานสิ่งประดิษฐ์นี้โดยน�ำหลักการของการสร้างไฟฟ้าสถิต จากสนามไฟฟา้ ความเขม้ สูง ด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันสูง มาใช้ส�ำหรบั ดกั จับควนั และฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ ส�ำหรับโรงบ่มใบยาสบู จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน ผลงานสงิ่ ประดษิ ฐน์ ไี้ ดน้ ำ� เสนอเครอื่ งดกั จบั กลมุ่ ควนั โดยใชห้ ลกั การตกตะกอนเชงิ ไฟฟา้ สถติ สำ� หรบั ดกั จบั กลมุ่ ควนั จากโรงบม่ ใบยาสบู มกี ารสรา้ งแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ กระแสตรงแรงสงู ขนาด 30 กโิ ลโวลต์ ชนดิ ประจบุ วก และสรา้ งตวั ตกตะกอนเชงิ ไฟฟา้ สถติ แบบทอ่ ทรงกระบอก ซอ้ นแกนรว่ มจำ� นวน 6 ทอ่ สำ� หรบั ดกั จบั กลมุ่ ควนั จากโรงบม่ ใบยาสบู ซงึ่ การทำ� งานของเครอ่ื งสามารถทำ� ใหใ้ หค้ วนั ทางขาออกของปลอ่ ง ควนั ลดลงได้ ประโยชน์ของผลงาน ผลงานสงิ่ ประดษิ ฐน์ ส้ี ามารถชว่ ยลดปญั หาผลกระทบทเ่ี กดิ จากคณุ ภาพอากาศทมี่ คี วนั และฝนุ่ ละอองทมี่ ขี นาดเลก็ ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพของ ผทู้ อ่ี ยอู่ าศยั ในหมบู่ า้ น/ชมุ ชน และผปู้ ระกอบอาชพี บม่ ใบยาสบู ซงึ่ ชว่ ยลดปญั หาผลกระทบทเ่ี กดิ จากคณุ ภาพอากาศทม่ี ฝี นุ่ ละอองขนาดเลก็ ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพของมนษุ ยไ์ ด้ แนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงาน สามารถนำ� ไปใชป้ ระโยชนแ์ ละประยกุ ตใ์ ชภ้ ายในบา้ น ทอ่ี ยอู่ าศยั ครวั เรอื น และอตุ สาหกรรมขนาดเลก็ ตอ่ ไปได้ เจา้ ของผลงาน นายวสิ ตู ร อาสนวจิ ติ ร*1 นายฐติ วิ ฒั น์ ปนั ผาง2 นายทรงวฒุ ิ พนั ธศ์ุ ริ 2ิ นายวรี ะวฒุ ิ กนั ตะ๊ 2 1วทิ ยาลยั เทคโนโลยแี ละสหวทิ ยาการ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม่ เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0850401595 E-mail [email protected] 2ภาควชิ าวศิ วกรรมไฟฟา้ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม่ วารสารส่ิงประดิษฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 67
สงิ่ ประดิษฐ์และนวัตกรรม เพอื่ สังคม และวัฒนธรรม SOCIAL AND CULTUREInventions and innovations
S 01-193019 เจ้าของผลงาน นายวลั ลภ ศรสี ำ� ราญ*, นายพหลยทุ ธ บตุ รจ,ู นายภาณวุ ฒั น์ ศริ กิ นั คณะศลิ ปกรรมและออกแบบอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0847949506 อเี มล์ [email protected] 70 การประชมุ วิชาการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาไลยั เทคโนโลยีราชมงคล ครงั้ ที่ 11 และการประชมุ วิชาการระดบั นานาชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งท่ี 10
ส่งิ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม เพอ่ื สงั คมและวัฒนธรรม จกั รยานออกกำ� ลงั กายอยกู่ บั ทใ่ี นการจำ� ลอง การปน่ั จกั รยานทอ่ งเทย่ี วชมเมอื งนครราชสมี าแบบ 360 องศา The Exercise bike is in place to simulate cycling in the city of Nakhon Ratchasima in 360 degrees. ความเปน็ มา จากสภาพสงั คมในปจั จบุ นั ทเี่ ปลย่ี นไป ทำ� ใหผ้ คู้ นในเมอื งสว่ นใหญม่ กี ารดำ� เนนิ ชวี ติ ประจำ� วนั อยา่ งเรง่ รบี มกี ารใชช้ วี ติ ทเ่ี ปลยี่ นแปลง ไปจากเดมิ รวมถงึ ละเลยต่อการออกกำ� ลงั กาย ทงั้ โดยทางตรงและขาดการเคลอ่ื นไหวในลกั ษณะของการออกกำ� ลงั กายประจำ� วนั สง่ ผล ตอ่ พฤตกิ รรมสุขภาพในดา้ นตา่ งๆ ท�ำใหเ้ กิดปัญหาสขุ ภาพในดา้ นตา่ ง ๆ ตามมา การออกกำ� ลังกายอย่างสม่�ำเสมอ จงึ จำ� เป็นที่ผ้ทู ใ่ี ช้ ชวี ิตในเมอื งควรกระท�ำอย่างสม�่ำเสมอ (วสนั ต์ ฉลาด การออกแบบสภาพแวดลอ้ มความจริงเสมือน 360 องศา หรือ Virtual Reality Environment (VRE) นั้น Perhakaran, et al.(2016) กลา่ วว่า เป็นสภาพแวดล้อมทีจ่ ำ� ลองขนึ้ มาด้วยคอมพวิ เตอร์ ทีป่ ระกอบไปดว้ ยวัตถุเสมือนในโลกเสมอื นจริง ผูใ้ ช้สามารถเขา้ ถึงและใช้ งานสภาพเสมือนจริงนี้ ได้จากการสวมจอภาพแบบครอบศีรษะ Head Mounted Display (HMD) เปน็ การรวมเอาระหวา่ งฮารด์ แวร์และ ซอฟแวรเ์ ขา้ ดว้ ยกัน เพ่อื ใหไ้ ด้รบั ชมภาพและเสยี งทส่ี มบูรณ์ (Moseley, 2016) เทคโนโลยสี ภาพแวดล้อมเสมอื นจรงิ (Virtual Reality) จะอย่ใู นระยะของ Slope of Enlightenment ซ่งึ เปน็ ระยะที่ผู้คนเขา้ ใจแล้วว่าเทคโนโลยนี ม้ี ปี ระโยชน์ หรือมผี ลกระทบต่อชวี ิตอย่างไร ซ่ึงไมใ่ ชเ่ ป็นเพียงกระแสทโ่ี ดง่ ดังเพยี งระยะสนั้ ๆ แต่สามารถพิสจู น์ได้แลว้ วา่ สามารถใช้ได้จริง และเทคโนโลยอี ยู่ร่วมกบั ชีวิตประจ�ำวนั ได้จริง ซ่ึงอาจจะนำ� ไปสู่การน�ำเทคโนโลยีนี้ไปใช้เป็นเร่ืองปกติในชีวิตประจำ� วันต่อไป เมื่อผู้คนเห็นประโยชน์และยอมรับในเทคโนโลยี สภาพแวดลอ้ มเสมือนจรงิ (Virtual Reality) แลว้ กจ็ ะสามารถพัฒนาเทคโนโลยเี หล่านี้ใหส้ ามารถใชไ้ ดง้ ่ายขึน้ สะดวกข้นึ เพอื่ ช่วยเป็น เครอ่ื งมือสนับสนุนในการท�ำงานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะทางดา้ นการท่องเท่ยี วและด้านธรุ กิจ จากความเป็นมาและความส�ำคัญจะเห็นได้ว่า การใช้จักรยานออกก�ำลังกายอยู่กับที่เป็นอีกทางเลือกหน่ึงท่ีได้รับความสนใจ ซ่ึง สามารถผสมผสานการออกแบบสภาพแวดล้อมความจรงิ เสมอื น 360 องศา ในการแสดงข้อมูลทอ่ งเท่ยี วในตัวเมอื งจงั หวดั นครราชสีมา ในระหว่างการออกก�ำลังกายได้ ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีแนวคิดในการพัฒนาจักรยานออกก�ำลังกายอยู่กับท่ีในการจ�ำลองการปั่นจักรยาน ท่องเท่ียวชมเมืองนครราชสมี าแบบ 360 องศาข้ึนมา จุดเด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน ออกกำ� ลงั กายดว้ ยการปน่ั จกั รยานอยกู่ บั ท่ี พรอ้ มไดท้ อ่ งเทยี่ วชมในตวั เมอื งจงั หวดั นครราชสมี าไปดว้ ยในรปู แบบ 360 องศา ดว้ ย เทคโนโลยคี วามจรงิ เสมอื น (VR) ประโยชน์ของผลงาน 1.ออกกำ� ลงั กายไดโ้ ดยไมต่ อ้ งไปเจออนั ตรายบนทอ้ งถนนกบั ฝนุ่ พษิ 2.ไดท้ อ่ งเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรมไปพรอ้ มกบั การปน่ั แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดผลงาน 1.เอาความสามารถของ iOT มาชวนเพอ่ื นมาปน่ั ในโลกออนไลน์ ทอ่ งเทย่ี วไปในแตล่ ะเมอื งไปพรอ้ มกนั 2.เชอ่ื มตอ่ และรบั ขอ้ มลู จากเซนเซอรห์ รอื นาฬกิ าวดั อตั ราการเตน้ ของหวั ใจมาแสดงขอ้ มลู ทางชวี ภิ าพของผปู้ น่ั วารสารสงิ่ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 71
S 02-193037 72 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
ส่งิ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม เพือ่ สังคมและวัฒนธรรม การใชก้ ากชาและกากกาแฟจากสงั คมชาวเขา เพอื่ เปน็ นวตั กรรมอปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหารสง่ เสรมิ วฒั นธรรมไทย The use of tea waste and coffee grounds from hill tribe society to be innovative tableware equipment to promote Thai culture ความเป็นมา การใชก้ ากชาและกากกาแฟจากสงั คมชาวเขาเพอื่ เปน็ นวตั กรรมอปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหารสง่ เสรมิ วฒั นธรรมไทยนน้ั ไดว้ ตั ถดุ บิ มาจากกาก ชาและกากกาแฟทเี่ หลอื ทงิ้ จากการแปรรปู เปน็ นำ�้ ชาและกาแฟของชมุ ชนชาวเขาผปู้ ลกู ชา-กาแฟ และบรษิ ทั ผผู้ ลติ ชา-กาแฟทง้ั รายใหญ่ และรายย่อย โดยวสั ดุทงั้ 2 ชนิดนี้ สามารถนำ� มาแปรรูปเพม่ิ มลู คา่ (Up-cycle) เปน็ แผ่นวัสดทุ ดแทนไมไ้ ด้ ซง่ึ วัสดุทดแทนไมท้ ไี่ ดจ้ าก กากชาและกากากาแฟนี้ จะมีคุณลกั ษณะเฉพาะตวั ทีม่ ีความสวยงาม และสามารถนำ� มาผลติ เปน็ ผลิตภัณฑต์ ่าง ๆ โดยคณะผปู้ ระดษิ ฐ์ เลอื กนำ� มาใชผ้ ลติ เปน็ อปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหารทส่ี อื่ ถงึ วฒั นธรรมอนั ดขี องประเทศไทย โดยผลงานนส้ี ามารถทำ� ใหว้ สั ดเุ หลอื ทง้ิ เปน็ ศนู ย์(Zero Waste) ทำ� เปน็ เศรษฐกิจหมนุ เวยี นของชุมชนท่ีเก่ียวข้องกบั ผปู้ ลกู ชา-กาแฟ ภาคเอกชนทผ่ี ลติ และจำ� หนา่ ยชา-กาแฟ ไดอ้ ยา่ งยงั่ ยืน จุดเดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน จดุ เดน่ ของนวตั กรรมอปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหารจากกากชาและกากกาแฟ มหี ลากหลายขอ้ ดที แ่ี ปลกใหมค่ อื แบบเดมิ อปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหาร ทำ� จากพลาสตกิ หรอื ไมจ้ รงิ ซงึ่ พลาสตกิ เปน็ อนั ตรายตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม สว่ นไมจ้ รงิ กต็ อ้ งตดั ไมท้ ำ� ลายปา่ และมสี สี นั ทอ่ี อ่ นมากเกนิ ไป แผน่ อดั ทดแทนไมท้ นี่ ำ� มาผลติ เปน็ อปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหาร ทำ� จากกากชาและกากกาแฟนมี้ สี สี นั ทสี่ วยงาม มสี สี นั เขม้ ตามความตอ้ งการของสมยั นยิ ม โดยแผน่ อดั ทดแทนไมจ้ ากกากชาและกากกาแฟนี้ ทนทานนำ�้ สงู ไมม่ สี ารฟอรม์ ลั ดไี ฮด์ ปลอดภยั ตอ่ การใชง้ าน เปน็ มติ รตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม มี ตน้ ทนุ ไมส่ งู มสี สี นั สวยงามเหมอื นธรรมชาติ อกี ทงั้ ควบคมุ ความหนา-บางไดต้ ามตอ้ งการ ประโยชน์ของผลงาน เนอื่ งจาก อปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหารจากกากชาและกากกาแฟ มตี น้ ทนุ ในการผลติ ทตี่ ำ�่ คอื ใชเ้ ครอ่ื งจกั รในการอดั แผน่ วสั ดทุ สี่ ามารถประดษิ ฐ์ ไดเ้ อง และใชช้ า่ งไมภ้ ายในพนื้ ทที่ ำ� อปุ กรณต์ อ่ ยอดไดเ้ องหรอื จากการฝกึ อบรมอาชพี ชา่ งไม้ จงึ สามารถสง่ เสรมิ ใหช้ มุ ชนชาวเขาหรอื วสิ าหกจิ ชมุ ชนในพนื้ ถน่ิ ทม่ี กี ากชาและใบชา สามารถทำ� เปน็ นวตั กรรมเพอ่ื สงั คม ทสี่ ามารถตอบโจทยเ์ ชงิ วฒั นธรรมของในชมุ ชน อกี ทงั้ ภาคเอกชนก็ สามารถนำ� ไปเชอื่ มโยงสำ� หรบั ผลติ และจำ� หนา่ ยเปน็ ผลติ ภณั ฑก์ ระจายรายไดส้ สู่ งั คม ตลอดจนภาครฐั เองกส็ ามารถจดั ทำ� เปน็ นโยบายในการ สนบั สนนุ สง่ เสรมิ เพอื่ เพม่ิ รายไดใ้ หก้ บั ชมุ ชน และยงั ขยายผลไปสกู่ ารสง่ เสรมิ วฒั นธรรมอนั ดใี นพน้ื ที่ สง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ ว และวฒั นธรรม ทางดา้ นอปุ กรณบ์ นโตะ๊ อาหาร ทนี่ บั วนั จะเลอื นหายไปในสงั คมชนบท แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอดผลงาน นำ� ไปพฒั นาตอ่ ยอดเปน็ อปุ กรณป์ ระเภทอน่ื ๆ ไดอ้ กี อยา่ งหลากหลาย อาทเิ ชน่ เฟอรน์ เิ จอร์ ตู้ โตะ๊ เตยี ง เกา้ อี้ วสั ดไุ มเ้ ทยี มสำ� หรบั กอ่ สรา้ งและตกแตง่ อาคาร หรอื บวั เชงิ ผนงั เปน็ ตน้ และปจั จบุ นั ไดม้ โี ครงการตอ่ ยอดผลงานเพอื่ นำ� ไปใชเ้ ปน็ ทพี่ กั มา้ นงั่ ในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว ทสี่ ำ� คญั ตา่ ง ๆ เจา้ ของผลงาน นายอมเรศ บกสวุ รรณ*, ดร.ประชมุ คำ� พฒุ , ธวชั ชยั อรยิ ะสทุ ธิ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0816654755 อเี มล์ [email protected] วารสารสิ่งประดิษฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 73
S 03-193049 74 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
สง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม เพอื่ สงั คมและวัฒนธรรม เครอื่ งแตง่ กายประยกุ ต์จากผา้ ทอกะเหรยี่ ง Contemporary fashion Karen handwoven fabric ความเป็นมา ผา้ ทอมอื ของกลมุ่ ชาตพิ นั ธท์ุ ม่ี อี ยใู่ นจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอนเปน็ ผา้ ทอทมี่ คี วามหลากหลาย สวยงามและมเี อกลกั ษณเ์ ฉพาะของตนเอง โดย เฉพาะผา้ ทอของกะเหรย่ี งโปวท์ อี่ าศยั อยใู่ นอำ� เภอสบเมย จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน เนอ่ื งจากผหู้ ญงิ กะเหรยี่ งสว่ นใหญจ่ ะทอเสอื้ และผา้ ซน่ิ สวมใส่ กนั เอง โดยกรรมวธิ กี ารทอดว้ ยกเี่ อวทมี่ กี ารถา่ ยทอดภมู ปิ ญั ญาการทอตอ่ กนั มาแบบรนุ่ สรู่ นุ่ ดว้ ยลวดลายทม่ี เี รอ่ื งราวความเชอ่ื ความศรทั ธา และธรรมชาตสิ อดแทรกอยใู่ นผนื ผา้ ปจั จบุ นั มหี นว่ ยงานหลายหนว่ ยเขา้ ไปสง่ เสรมิ ใหช้ าวกะเหรย่ี งทอผา้ ออกมาจำ� หนา่ ยยงั บคุ คลภายนอก มากขนึ้ สนิ คา้ สว่ นใหญเ่ ปน็ พวกผา้ พนั คอ ผา้ คลมุ ไหล่ ผา้ ทอกะเหรย่ี ง ผา้ ซน่ิ เสอ้ื กะเหรยี่ ง เปน็ ตน้ รปู แบบของสนิ คา้ ทนี่ ำ� ออกมาจำ� หนา่ ย มกั เปน็ รปู แบบเดมิ ๆ ตามทส่ี มาชกิ ในกลมุ่ ทอเพอื่ สวมใสก่ นั เอง ไมม่ รี ปู แบบทแ่ี ปลกใหม่ ซงึ่ ผบู้ รโิ ภคทว่ั ไปทอี่ ยใู่ นชมุ ชนเมอื งมกั ไมส่ วมใสเ่ สอ้ื กะเหรยี่ งแบบดง้ั เดมิ เนอ่ื งจากรปู แบบไมต่ รงกบั ลกั ษณะการใชง้ านในวถิ ชี วิ ติ ประกอบกบั ใสไ่ มไ่ ดบ้ อ่ ยในโอกาสทว่ั ไป ดงั นน้ั จงึ ไดป้ รบั เปลยี่ น รปู แบบของผา้ ทอกะเหรยี่ ง เสอ้ื กะเหรยี่ ง ใหเ้ ปน็ เครอ่ื งแตง่ กายสตรแี ละเครอื่ งประกอบการแตง่ กายในรปู แบบรว่ มสมยั แตค่ งใชล้ วดลายผา้ ทอของกะเหรย่ี งแบบดงั้ เดมิ มาประกอบกบั ผา้ ฝา้ ยทอมอื เพอ่ื ใหใ้ ชไ้ ดจ้ รงิ ในชวี ติ ประจำ� วนั โดยใชน้ วตั กรรมการตกแตง่ สำ� เรจ็ สง่ิ ทอมาใชก้ บั ผา้ ทอเพอ่ื ใหม้ คี ณุ สมบตั ทิ พี่ เิ ศษมากยง่ิ ขน้ึ จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน เปน็ ผลติ ภณั ฑป์ ระเภทเสอ้ื ผา้ เครอ่ื งแตง่ กายและกระเปา๋ ของสตรี โดยนำ� ลวดลายผา้ ทอกะเหรยี่ งโปวท์ ม่ี เี อกลกั ษณโ์ ดดเดน่ สอดแทรกดว้ ย ภมู ปิ ญั ญาของบรรพบรุ ษุ มาใชป้ ระกอบกบั ผา้ ฝา้ ยทอมอื ตดั เยบ็ ดว้ ยความประณตี เพอ่ื ใหไ้ ดเ้ ครอ่ื งแตง่ กายทสี่ วยงาม เหมาะทจี่ ะสวมใสไ่ ด้ หลากหลายโอกาส ผนื ผา้ ทนี่ ำ� มาผลติ เสอื้ ผา้ จะผา่ นการตกแตง่ สำ� เรจ็ ชนดิ นมุ่ ลนื่ เพอ่ื ใหผ้ นื ผา้ มผี วิ สมั ผสั ทอ่ี อ่ นนมุ่ และผนื ผา้ ทผ่ี ลติ กระเปา๋ จะผา่ นการตกแตง่ สำ� เรจ็ ชนดิ สะทอ้ นนำ้� เพอ่ื ใหผ้ นื ผา้ สามารถปอ้ งกนั นำ�้ และสง่ิ สกปรกตา่ งๆ ได้ รวมทง้ั ยดื อายกุ ารใชง้ านของกระเปา๋ ได้ นานมากขน้ึ ประโยชน์ของผลงาน ใชส้ ำ� หรบั เปน็ เครอื่ งแตง่ กายและเครอื่ งประกอบการแตง่ กาย แนวทางการพฒั นาตอ่ ยอดผลงาน 1. พฒั นาผลติ ภณั ฑท์ มี่ คี วามสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและรสนยิ มของผบู้ รโิ ภค 2. มกี ารออกแบบโดยประยกุ ตเ์ ฉดสี ลวดลาย ใหม้ คี วามทนั สมยั มากขนึ้ 3. มกี ารพฒั นาใหเ้ ปน็ สนิ คา้ ประเภทอนื่ ๆ เชน่ ของใช้ ของตกแตง่ บา้ น เปน็ ตน้ เจ้าของผลงาน ผศ.ญาณศิ า โกมลสริ โิ ชค*, นายไพโรจน์ วรพจนพ์ รชยั , นางอรนตุ ฎฐ์ สธุ าคำ� , นายสรุ ยิ นต์ สงู คำ� คณะศลิ ปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม ่ เบอรโ์ ทรตดิ ตอ่ 0882695459 อเี มล์ [email protected] วารสารสงิ่ ประดษิ ฐแ์ ละนวัตกรรม RMUTCON 2019 75
S 04-193050 เจา้ ของผลงาน นายกระวี อนนตร,ี นายฐาปนคิ ตรี ะพนั ธ์,ุ นายอภิสทิ ธ์ิ เตม็ แก้ว,นางสาวอไุ รวรรณ กำ� เนดิ ดี คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลศรวี ชิ ยั เบอร์โทรติดตอ่ 0869949008 อีเมล์ [email protected] 76 การประชมุ วชิ าการระดับชาตมิ หาวทิ ยาไลัยเทคโนโลยีราชมงคล ครั้งที่ 11 และการประชุมวชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ที่ 10
สงิ่ ประดิษฐ์และนวัตกรรม เพือ่ สังคมและวัฒนธรรม เครอ่ื งชว่ ยการเคลอ่ื นไหวขอ้ เขา่ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งอตั โนมตั ิ Development of a Smart Continuous Passive Motion Device for Knee Rehabilitation ความเปน็ มา เนอื่ งจากในปจั จบุ นั ประเทศไทยมปี ระชากรทมี่ ปี ญั หาโรคเกย่ี วขบั ขอ้ เขา่ เสอื่ มเพมิ่ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ซงึ่ โรคขอ้ เขา่ เสอ่ื มเปน็ โรคทเ่ี ปน็ ปญั หา สำ� คญั ในปจั จบุ นั และจดั วา่ เปน็ ปญั หาสำ� คญั ของสาธารณสขุ ทส่ี ำ� คญั อกี อยา่ งหนงึ่ มผี ลตอ่ การใชช้ วี ติ ในการทำ� งานของผปู้ ว่ ย ซง่ึ ปญั หาดงั กลา่ วจะสง่ ผลใหผ้ ทู้ ม่ี ปี ญั หาไมส่ ามารถใชช้ วี ติ ประจำ� วนั ไดเ้ ปน็ ปกติ จากการศกึ ษา สำ� นกั พฒั นาวชิ าการแพทย์ กรมการแพทยก์ ระทรวง สาธารณสขุ วา่ ดว้ ยเรอื่ งแนวทางเวชปฏบิ ตั กิ ารวนิ จิ ฉยั โรคและรกั ษาโรคขอ้ เสอ่ื มพบวา่ ผปู้ ว่ ยโรคขอ้ เขา่ เสอื่ มในผสู้ งู อายมุ อี าการของโรคขอ้ เขา่ เสอื่ มรอ้ ยละ 9.6 ในเพศชาย และรอ้ ยละ 18 ในเพศหญงิ โดยรอ้ ยละ 34.5 - 45.6 โรคขอ้ เสอื่ มมกั พบไดบ้ อ่ ยทข่ี อ้ สะโพกและขอ้ เขา่ สง่ ผลใหผ้ ปู้ ว่ ยมลี กั ษณะปวดตอื้ ๆ ทว่ั ๆ ไปบรเิ วณขอ้ ไมส่ ามารถระบตุ ำ� แหนง่ ชดั เจนได้ ภาวะเหลา่ นเี้ ปน็ สาเหตหุ ลกั ในการจำ� กดั การทำ� งาน และคกุ คามคณุ ภาพชวี ติ ของผสู้ งู อายุ “ภาวะขอ้ เขา่ เสอ่ื ม” มผี ลตอ่ ความแขง็ แรงของกลา้ มเนอื้ ควอไดรเซป็ ตแ์ ละแฮมสตรงิ ในการควบคมุ การ ทำ� งานของขอ้ เขา่ ทำ� ใหค้ วามสามารถในการทรงตวั ลดลงและเพมิ่ ความเสย่ี งในการลม้ สำ� หรบั เครอื่ งมอื กายภาพบำ� บดั ทางการแพทยน์ นั้ จะมรี าคาแพงและตอ้ งนำ� เขา้ จากตา่ งประเทศ จากปญั หาดงั กลา่ วทางคณะวจิ ยั จงึ ได้ มแี นวคดิ ออกแบบและสรา้ ง“เครอ่ื งชว่ ยการเคลอื่ นไหวขอ้ เขา่ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง”ซง่ึ จะชว่ ยทำ� ใหเ้ กดิ ผลดตี อ่ การบำ� บดั ผปู้ ว่ ยทเี่ ขา้ รบั การผา่ ตดั ขอ้ เขา่ หรอื เอน็ อกั เสบโดยชว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ยสามารถเคลอ่ื นไหวขอ้ เขา่ หลงั ผา่ ตดั ไดง้ า่ ยขนึ้ ในองศาทม่ี ากขน้ึ เครอื่ งทพี่ ฒั นาขน้ึ สามารถตงั้ โปรแกรม ได้ เชน่ ตง้ั เวลาการบำ� บดั ตง้ั องศาในการเคลอ่ื นไหว และตงั้ ความเรว็ ในการเคลอ่ื นทไี่ ดอ้ ตั โนมตั มิ “ี ชดุ รโี มทคอนโทรล”ชว่ ยควบคมุ การ ทำ� งาน หลงั จากตง้ั คา่ โปรแกรมในการบำ� บดั แลว้ ผปู้ ว่ ยสามารถควบคมุ เพอ่ื ใหเ้ ครอ่ื งหยดุ หรอื ทำ� งานเองไดร้ ะหวา่ งการบำ� บดั พฒั นาเครอื่ ง ชว่ ยการเคลอ่ื นไหวขอ้ เขา่ อยา่ งตอ่ เนอื่ งสำ� หรบั กายภาพบำ� บดั สามารถพฒั นาเครอื่ งใหม้ รี าคาถกู ลงและสามารถขยายโอกาสการใชเ้ ครอ่ื งไปสู่ โรงพยาบาลขนาดเลก็ หรอื โรงพยาบาลทอี่ ยหู่ า่ งไกลใหไ้ ดใ้ ชป้ ระโยชนโ์ ดยเทคโนโลยขี องคนไทยไดม้ ากขน้ึ จุดเดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. สามารถตงั้ เวลาและจำ� นวนครงั้ ในการใชใ้ นแตล่ ะครง้ั ได้ 2. สามารถปรบั องศาของการเคลอื่ นไหวได้ 3. สามารถเลอื กโหมดการทำ� งานได้ 2 โหมด คอื แบบควบคมุ ดว้ ยตนเองและแบบอตั โนมตั ิ ประโยชนข์ องผลงาน 1. สามารถนำ� ผลงานทไี่ ดม้ าใชป้ ระโยชนใ์ นการทำ� กายภาพบำ� บดั เขา่ ผปู้ ว่ ยได้ 2. ไดเ้ ครอ่ื งชว่ ยการเคลอื่ นไหวขอ้ เขา่ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งตน้ แบบทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพในการทำ� งานโดยเปน็ การชว่ ยผอ่ นแรงการทำ� กายภาพบำ� บดั ดว้ ยคนและมรี าคาถกู ลงทำ� ใหส้ ามารถขยายโอกาสไปสโู่ รงพยาบาลชนบทไดม้ โี อกาสใชเ้ ครอื่ งชว่ ยการเคลอ่ื นไหวขอ้ เขา่ อยา่ งตอ่ เนอื่ งอตั โนมตั ิ มากขน้ึ 3. ไดพ้ ฒั นาเทคโนโลยที างดา้ นเครอื่ งชว่ ยการเคลอื่ นไหวขอ้ เขา่ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง 4. เพอ่ื ลดตน้ ทนุ ในการซอื้ เครอ่ื งจากตา่ งประเทศ แนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงาน 1. มรี ะบบสวติ ทต์ ดั การทำ� งานของเครอ่ื งเมอ่ื เกดิ อนั ตรายกบั ผใู้ ช้ 2. มรี ะบบตรวจจบั การเตน้ ของชพี จร วารสารสิง่ ประดิษฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 77
S 05-193052 S05-193052 ซื้อ A B C D E F G H B บรษิ ทัA ตวั อยา งหนาจอ application ShowcaseIS2019 เจา้ ของผลงาน นางสาววชั รี เพ็ชรวงษ*์ , ผศ.ดร.พิมพ์พรรณ อำ� พันธท์ อง, ผนศว.จัตันกทรรวรทั มนเ์ กอัคมรมเมฟิ ธาเคนนชทน่ั ์ นายนวดล ดนี วน, นางสาวสโรชนิ ี พูลพฒั นา, นางสาวสภุ าพร แสงมี คณะบริหารธรุ กิจและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสวุ รรณภมู ิ เบอร์โทรติดตอ่ 0899224974 อเี มล์ [email protected] 78 การประชมุ วิชาการระดบั ชาติมหาวิทยาไลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 11 และการประชุมวิชาการระดับนานาชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งที่ 10
ส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรม เพอื่ สงั คมและวฒั นธรรม นวตั กรรมเกมมิฟเิ คช่ัน สำ� หรบั นิทรรศการแสดงผลงานนักศึกษา Gamification Innovation for Showcase Student ความเป็นมา ในยคุ Thailand 4.0 นม้ี หี ลกั คดิ ทใ่ี ชน้ วตั กรรมดจิ ทิ ลั เปน็ ตวั ขบั เคลอื่ นในการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คม ดงั นน้ั กระบวนการใด ๆ ที่ สามารถสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมดจิ ทิ ลั ขนึ้ มาไดน้ นั้ ลว้ นเปน็ สงั คมและประเทศชาตติ อ้ งการ การจดั การเรยี นการสอนในกลมุ่ สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กบั คอมพวิ เตอรน์ นั้ สว่ นใหญม่ อบหมายโครงงานใหก้ บั นกั ศกึ ษา เพอื่ ใหน้ กั ศกึ ษาไดป้ ระมวลความรทู้ เี่ รยี นในรายวชิ านนั้ ๆ พฒั นาออกมา เปน็ ชน้ิ งานใหเ้ หน็ ภาพไดอ้ ยา่ งชดั เจน ทงั้ นใ้ี นกระบวนการจดั การเรยี นการสอนอาจารยผ์ สู้ อนกำ� หนดวนั เวลาการสง่ โครงงานและใหน้ กั ศกึ ษา นำ� เสนอในชน้ั เรยี นเทา่ นน้ั รวมทงั้ การนำ� เสนองานมเี พยี งอาจารยผ์ สู้ อนและนกั ศกึ ษาเทา่ นน้ั ทไ่ี ดแ้ ลกเปลย่ี นสอ่ื สารกนั ทงั้ นบ้ี างโครงงานมี ความนา่ สนใจและสามารถพฒั นาตอ่ ยอดไปใชง้ านไดจ้ รงิ นอกจากนน้ั แลว้ การสอื่ สารระหวา่ งอาจารยผ์ สู้ อนและนกั ศกึ ษามกั สอื่ สารกนั โดย ใชค้ ำ� ศพั ทเ์ ฉพาะทางดา้ นคอมพวิ เตอร์ ทำ� ใหบ้ คุ คลทวั่ ไปไมเ่ ขา้ ใจในสง่ิ ทส่ี อ่ื สารกนั หรอื ทำ� ความเขา้ ใจไดย้ าก จากปญั หาเหลา่ นี้ จงึ นยิ มใช้ การจดั นทิ รรศการแสดงผลงานนกั ศกึ ษาเพอ่ื เปน็ เวทแี สดงผลงาน ความสามารถ ของนกั ศกึ ษา อกี ทง้ั เปน็ เวทใี หโ้ อกาสนกั ศกึ ษาสอื่ สารใน พน้ื ทสี่ าธารณะทม่ี โี อกาสไดแ้ ลกเปลย่ี นกบั บคุ คลทส่ี นใจ แตก่ ารจดั นทิ รรศการมกั อยใู่ นรปู แบบของงานวชิ าการ ซงึ่ ผคู้ นสว่ นใหญไ่ มส่ นใจ หรอื แมแ้ ตผ่ ทู้ นี่ ำ� เสนอเองกต็ ามไมม่ แี รงจงู ใจ ทำ� อยา่ งไรจงึ จะจดั นทิ รรศการแสดงผลงานนกั ศกึ ษาใหน้ า่ สนใจมากยง่ิ ขนึ้ แนวคดิ Gamification คอื กลไกทน่ี ำ� แนวคดิ การออกแบบเกมมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นเรอ่ื งอนื่ ๆ ทไ่ี มใ่ ชเ่ กม เชน่ งานพฒั นาบคุ ลากร และ งานดา้ นการเรยี นการสอน เปน็ ตน้ โดยแนวคดิ นม้ี อี งคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การสะสมแตม้ ระดบั ชนั้ การไดร้ บั รางวลั กระดานผนู้ ำ� และ การจดั การแขง่ ขนั ระหวา่ งผเู้ ขา้ รว่ ม เปน็ ตน้ ดงั นน้ั งานนจ้ี งึ มนี ำ� แนวคดิ Gamification มาใชร้ ว่ มกบั การจดั นทิ ศการแสดงผลงานนกั ศกึ ษา จดุ เด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน รปู แบบนทิ รรศการแสดงผลงานนกั ศกึ ษา ทผ่ี สมผสานแนวคดิ Gamification เขา้ ไปรว่ มดว้ ยเพอื่ ทำ� ใหก้ ารนำ� เสนอนา่ สนใจมากยง่ิ ขน้ึ รวม ทง้ั สามารถวเิ คราะหข์ อ้ มลู การซอ้ื ผลติ ภณั ฑเ์ พอื่ ใหร้ างวลั กบั Software ยอดเยยี่ ม บรษิ ทั ยอดเยย่ี มได้ สรา้ งความสนใจแกน่ กั ศกึ ษามากยง่ิ ขน้ึ ประโยชนข์ องผลงาน 1.เปน็ เวทใี หน้ กั ศกึ ษาไดแ้ สดงออกและฝกึ การสอื่ สาร 2.นกั ศกึ ษามคี วามกระตอื รอื รน้ มากขน้ึ เพราะจากตอ้ งสอ่ื สารเพอ่ื ขายสนิ คา้ 3.นกั ศกึ ษาไดฝ้ กึ การขายสนิ คา้ หรอื โนม้ นา้ วสนิ คา้ ในศาสตรค์ อมพวิ เตอร์ อาจจะใหส้ นใจทำ� งานในดา้ นนมี้ ากยง่ิ ขน้ึ 4.ทำ� ใหก้ ารจดั นทิ รรศการมคี วามนา่ สนใจมากยง่ิ ขนึ้ 5.มโี อกาสแลกเปลยี่ นเรยี นรรู้ ว่ มกบั ผอู้ น่ื มากขน้ึ 6.มแี อปพลเิ คชนั่ ทชี่ ว่ ยจดั การการจดั การสง่ เสรมิ การแสดงผลงานนกั ศกึ ษา แนวทางการพฒั นาต่อยอดผลงาน นำ� องคป์ ระกอบของ Gamification อนื่ ๆ เชน่ และการจดั การแขง่ ขนั ระหวา่ งผเู้ ขา้ รว่ ม มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั งาน Showcase เพม่ิ มากขน้ึ พฒั นาแอปพลเิ คชนั่ ShowcaseIS2019 ใหร้ องรบั ระบบปฏบิ ตั กิ าร IOS วารสารสิง่ ประดิษฐ์และนวตั กรรม RMUTCON 2019 79
S 06-193060 ประโยชน์ของผลงาน สามารถลดระยะเวลาในกระบวนการผลิต ผลติ ภณั ฑเ์ ครอื่ งปน้ั ดนิ เผาพน้ื บา้ น โดยเฉพาะใน กระบวนการตากผลติ ภณั ฑซ์ งึ่ ตอ้ งขนึ้ อยกู่ บั สภาพ ดนิ ฟา้ อากาศ ทรี่ ะยะเวลาเฉลย่ี 3-7 วนั ใหเ้ หลอื ระยะเวลาเพยี งแค่ 6-7 ชว่ั โมง โดยไมเ่ กดิ การ เสยี หายของผลติ ภณั ฑ์ เพมิ่ โอกาสทางการผลติ และการคา้ อกี ทงั้ มปี ระโยชนก์ บั การทอ่ งเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรม ซง่ึ นกั ทอ่ งเทย่ี วสามารถเรยี นรวู้ ถิ กี าร ปั้นในแบบพ้ืนบ้าน และสามารถน�ำช้ินงานการ ปน้ั ทใี่ ชร้ ะยะเวลาในการแหง้ ตวั ทส่ี นั้ และอาจมี การเผาแกรง่ เปน็ ผลติ ภณั ฑท์ สี่ มบรู ณต์ ดิ มอื กลบั ไปจากการทอ่ งเทย่ี วไดอ้ กี ดว้ ย ซงึ่ จะเปน็ การสง่ เสรมิ และสรา้ งความประทบั ใจทางดา้ นการทอ่ ง เทยี่ วใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทย่ี วไดเ้ ปน็ อยา่ งดี แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดผลงาน ขยายผลต้นแบบเตาอบเนื้อดินปั้นอัตโนมัติ เ พ่ื อ ล ด ร ะ ย ะ เ ว ล า ใ น ก า ร ต า ก ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์ เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาพนื้ บา้ น ใหแ้ กก่ ลมุ่ ชมุ ชน วสิ าหกจิ ชมุ ชนเครอื่ งปน้ั ดนิ เผาทงั้ ในเขตจงั หวดั เชยี งใหม่ และใกลเ้ คยี ง รวมไปถงึ กลมุ่ อตุ สาหกรรมการผลติ เซรามกิ อนื่ ๆ ทส่ี นใจ เจา้ ของผลงาน ผศ.ดร.ภาคภมู ิ จารุภูมิ*, นายธงฤทธิ์ อง้ึ เจริญ, นายเอือ้ องั กรู มณีวรรณ, นายสธุ ภี ทั ร์ หรดี คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เบอร์โทรติดต่อ 0899973245 อเี มล์ [email protected] 80 การประชุมวิชาการระดบั ชาติมหาวทิ ยาไลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครงั้ ท่ี 11 และการประชุมวิชาการระดบั นานาชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครั้งท่ี 10
ส่ิงประดษิ ฐแ์ ละนวตั กรรม เพอื่ สงั คมและวฒั นธรรม เตาอบเนอ้ื ดนิ ปน้ั อตั โนมตั เิ พอ่ื ลดระยะเวลาในการตาก ผลิตภัณฑ์เครือ่ งปั้นดินเผาพน้ื บา้ น Automatic clay oven reducing the time of drying traditional pottery ความเปน็ มา จากเดมิ วสิ าหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ หตั ถกรรมเครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาบา้ นเหมอื งกงุ ทต่ี ง้ั อยทู่ ี่ หมู่ 7 ตำ� บลหนองควาย อำ� เภอหางดง จงั หวดั เชยี งใหม่ เปน็ การรวมกลมุ่ ของคนในชมุ ชนบา้ นเหมอื งกงุ ทมี่ อี าชพี ครปู น้ั เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผา ซงึ่ ไดม้ กี ารสบื ทอดภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ตอ่ เนอ่ื งมาเปน็ เวลานาน ซงึ่ ในปจั จบุ นั มผี นู้ ำ� ชมุ ชนผใู้ หญบ่ า้ นวชริ ะ สจี นั ทร์ เปน็ ผใู้ หญบ่ า้ น บา้ นเหมอื งกงุ ซง่ึ มกี ระบวนการผลติ เครอื่ งปน้ั ดนิ เผาทป่ี ระกอบไปดว้ ย ขนั้ ตอนการเตรยี มเนอื้ ดนิ ปน้ั การขนึ้ รปู ดว้ ยเทคนคิ การปม้ั แบบหมนุ ในผลติ ภณั ฑท์ ม่ี ขี นาดเลก็ และขนาดกลาง การตากชน้ิ งานดบิ การเผา แกรง่ เปน็ ตน้ โดยขน้ั ตอนหลงั การปน้ั ขน้ึ รปู แบบหมนุ จะเปน็ ขน้ั ตอนการตากชนิ้ งานดบิ ใหแ้ หง้ ดว้ ยวธิ กี ารผงึ่ หรอื ตาก ซง่ึ เวลาทใ่ี ชไ้ ปใน ขน้ั ตอนของการตากชน้ิ งานดบิ อยทู่ ป่ี ระมาณ 3-7 วนั โดยไมส่ ามารถระบเุ วลาไดแ้ นช่ ดั เนอ่ื งดว้ ยสภาพอากาศตามธรรมชาติ ไมส่ ามารถ คาดเดาได้ หากฝนตกชนิ้ งานกจ็ ะแหง้ ชา้ ทางผจู้ ดั ทำ� จงึ ไดเ้ หน็ ความสำ� คญั ของขน้ั ตอนการตากชน้ิ งานดบิ และไดท้ ำ� การศกึ ษาปจั จยั ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ปญั หาดงั กลา่ ว ทำ� ใหท้ ราบ วา่ ปจั จยั หลกั ทท่ี ำ� ใหช้ น้ิ งานดบิ แหง้ นนั้ คอื อณุ หภมู แิ ละความชนื้ ผวู้ จิ ยั จงึ ไดท้ ำ� การการออกแบบเตาอบไอรอ้ นควบคมุ อณุ หภมู แิ ละความชน้ื อตั โนมตั ิ ทที่ ำ� ใหผ้ ลติ ภณั ฑแ์ หง้ โดยใชร้ ะยะเวลาทสี่ น้ั ทส่ี ดุ โดยประมาณที่ 6-8 ชวั่ โมง และไมท่ ำ� ใหผ้ ลติ ภณั ฑเ์ กดิ การแตกรา้ วหลงั การเผา แกรง่ จากการศกึ ษาวจิ ยั ในครง้ั นเ้ี พอ่ื มงุ่ หวงั ทจ่ี ะเปน็ แนวทางในการกำ� จดั เวลาทสี่ ญู เสยี ไปในขน้ั ตอนการทำ� ชน้ิ งานดบิ ใหแ้ หง้ กลมุ่ วสิ าหกจิ สามารถนำ� ผลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาไปพฒั นากระบวนการผลติ ของกลมุ่ วสิ าหกจิ เพอ่ื สง่ มอบผลติ ภณั ฑใ์ หก้ บั ลกู คา้ ไดท้ นั ตามเปา้ หมายทกี่ ำ� หนด เพมิ่ โอกาสในการผลติ สนิ คา้ ใหไ้ ดม้ ากขนึ้ เปน็ แนวทางในการลดคา่ ใชจ้ า่ ยในสว่ นของวตั ถดุ บิ ทส่ี ญู เสยี ไป อกี ทงั้ เปน็ ผลดแี กแ่ นวทางการ พฒั นา และสง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วภายในชมุ ชน ซงึ่ ไดร้ บั ความนยิ มและไดร้ บั การสนบั สนนุ ในปจั จบุ นั และมกี ารสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ การ อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรมซง่ึ เปน็ การศกึ ษาหาความรใู้ นพนื้ ทห่ี รอื บรเิ วณทมี่ คี ณุ ลกั ษณะทส่ี ำ� คญั ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละวฒั นธรรม มกี ารบอกเลา่ เรอ่ื งราวในการพฒั นาทางสงั คมและมนษุ ยผ์ า่ นทางประวตั ศิ าสตรอ์ นั เปน็ ผลเกยี่ วเนอ่ื งกบั วฒั นธรรม องคค์ วามรู้ และการให้ คณุ คา่ ของสงั คม รวมถงึ ศลิ ปกรรม และหตั ถกรรม ในรปู แบบของการปน้ั เครอื่ งปน้ั ดนิ เผาพน้ื บา้ น ซงึ่ โดยทวั่ ไปการทอ่ งเทย่ี วเชงิ วฒั นธรรม ดงั กลา่ ว จะอยใู่ นรปู ของการทอ่ งเทยี่ วระยะสนั้ ๆ ไมเ่ กนิ 1 วนั หากแตก่ ารเรยี นรวู้ ฒั นธรรมศลิ ปะการปน้ั ขน้ึ รปู เครอื่ งปน้ั ดนิ เผาพน้ื บา้ นใน รปู แบบผลติ ภณั ฑข์ นาดเลก็ ซง่ึ ตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการแหง้ ตวั ของผลติ ภณั ฑภ์ ายหลงั การปน้ั 3-7 วนั จงึ จะสามารถเคลอ่ื นยา้ ย หรอื นำ� กลบั ไปเปน็ ของทรี่ ะลกึ จากการทอ่ งเทย่ี วได้ จงึ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งมาวธิ กี ารและเครอื่ งมอื ในการทจี่ ะลดระยะเวลาในกระบวนการตากผลติ ภณั ฑ์ เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา เพอ่ื สง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมการผลติ เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาพนื้ บา้ น และความประทบั ใจทางดา้ นการทอ่ งเทยี่ วใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว จุดเด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน เตาอบเนอื้ ดนิ ปน้ั อตั โนมตั เิ พอ่ื ลดระยะเวลาในการตากผลติ ภณั ฑเ์ ครอื่ งปน้ั ดนิ เผาพนื้ บา้ นเปน็ การศกึ ษาวจิ ยั เพอื่ หาปจั จยั ทเี่ หมาะสมใน การลดระยะเวลาในการตากผลติ ภณั ฑเ์ นอ้ื ดนิ ปน้ั ภายหลงั จากการขนึ้ รปู จากเดมิ ที่ 3-7 วนั ใหเ้ หลอื เพยี ง 1 วนั หรอื 6-7 ชว่ั โมง โดยทำ� การ ควบคมุ อณุ หภมู ิ และความชนื้ แบบอตั โนมตั ิ เพอื่ สง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมการผลติ และการทอ่ งเทยี่ วในรปู แบบของการทอ่ งเทยี่ วเชงิ วฒั นธรรม ใหแ้ กช่ มุ ชนเครอื่ งปน้ั ดนิ เผาพน้ื บา้ น วารสารสง่ิ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 81
S 07-193065 S07-193065 ระบบแปลภาษาไทย-องั กฤษโดยโครงขา ยประสาทเทียม เพื่อสง เสรมิ การทองเท่ยี วแบบ SMART TOURISM เจ้าของผลงาน นายประเสริฐ ลือโขง*, นายพรี ัชต์ ล้ิมกรโชตวิ ฒั น์ วทิ ยาลยั เทคโนโลยีและสหวทิ ยาการ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เบอร์โทรตดิ ต่อ 0616149991 อเี มล์ [email protected] 82 การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติมหาวิทยาไลัยเทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ที่ 11 ระบบแปลภาษาไทย-องั กฤษ และการประชุมวิชาการระดับนานาชาติมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล คร้ังท่ี 10
สง่ิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม เพือ่ สงั คมและวัฒนธรรม ระบบแปลภาษาไทย-องั กฤษ โดยโครงขา่ ยประสาทเทยี มเพอื่ สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วแบบ Smart Tourism Thai-English Neural Machine translation for Smart Tourism Promotion ความเป็นมา ตามเปา้ หมายของภาครฐั ในการผลกั ดนั ใหป้ ระเทศไทยกา้ วสู่ Thailand 4.0 หรอื ประเทศเศรษฐกจิ ใหมท่ ข่ี บั เคลอ่ื นบนฐานนวตั กรรมกบั 10 อตุ สาหกรรมสคู่ วามยง่ั ยนื ของประเทศนน้ั เปน็ ความทา้ ทายอยา่ งมากในการผลกั ดนั นโยบายของประเทศทต่ี อ้ งอาศยั การขบั เคลอื่ นอยา่ ง พรอ้ มเพรยี งกนั ในทกุ ภาคสว่ น ซง่ึ สว่ นหนงึ่ ในการขบั เคลอ่ื นทสี่ ำ� คญั คอื การสรา้ งเมอื งตน้ แบบทม่ี คี วามพรอ้ ม มศี กั ยภาพในการดำ� เนนิ ธรุ กจิ และมขี ดี ความสามารถในการแขง่ ขนั กบั โลกไดด้ ว้ ยตวั เอง ดงั นยิ ามวา่ Smart City ซง่ึ เปน็ แนวทางคดิ ในการพฒั นาเมอื งภายใตก้ รอบ ความคิดท่ีมุ่งให้เกิดความย่ังยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม ภายใต้เป้าหมายที่มีความหลากหลายและแตกต่างกัน (สำ� นกั งานสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั )ปจั จบุ นั ทว่ั โลกมเี มอื งทเี่ ดนิ ตามแนวทางของ Smart City อยมู่ ากมาย ซงึ่ ตา่ งกม็ คี วามแตกตา่ งกนั ใน รายละเอยี ด แตท่ เ่ี หน็ เดน่ ชดั คอื มกี ารประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยขี นั้ สงู เพอื่ ใหเ้ ปน็ เมอื งทมี่ คี วามอจั ฉรยิ ะ เพอ่ื ตอบโจทยใ์ นการดแู ลและพฒั นา เมอื งไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยจงั หวดั เชยี งใหมซ่ งึ่ เปน็ เมอื งตน้ แบบทด่ี ำ� เนนิ ตามแนวทางของ Smart City โดยมวี สิ ยั ทศั นท์ วี่ า่ ทำ� อยา่ งไรให้ Digital Economy มปี ระโยชนต์ อ่ ภาคประชาชน นกั ทอ่ งเทยี่ วหรอื คนทม่ี สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ดงั นน้ั การดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตรข์ องจงั หวดั เชยี งใหมจ่ ะเนน้ 5 ยทุ ธศาสตร์ ตามแนวคดิ วา่ ทำ� อยา่ งไรใหก้ นิ ดอี ยดู่ มี สี ขุ ซง่ึ การกนิ ดที วี่ า่ นนั้ ตอ้ งทำ� ใหเ้ ปน็ Smart Economy, Smart Tourism และ Smart Agriculture สว่ นการอยดู่ ี คอื Smart Living เมอื งตอ้ งนา่ อยปู่ ลอดภยั จะสง่ ผลตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ประชาชน ตอ่ มาคอื มสี ขุ Smart Environment นคี่ อื สามยทุ ธศาสตรห์ ลกั และมอี กี สองยทุ ธศาสตรเ์ สรมิ คอื Smart Governance การนำ� ขอ้ มลู บกิ๊ ดาตา้ จากภาครฐั มาใชบ้ นแพลทฟอรม์ ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหค้ นในพนื้ ทไี่ ดใ้ ชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู นน้ั ๆ และเพม่ิ ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนษุ ย์ และสดุ ทา้ ย คอื Smart Education การพฒั นาทางดา้ นการศกึ ษา การไดร้ บั ความรใู้ นรปู แบบใหม่ ๆ ดงั นนั้ คณะผจู้ ดั ทำ� จงึ ไดส้ รา้ งระบบแปลภาษาไทย-องั กฤษเพอื่ สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วเชยี งใหม่ Smart City และใหบ้ รกิ ารแบบดจิ ทิ ลั ของ ตามเปา้ หมายโครงการอทุ ยานเมอื งอจั ฉรยิ ะ ประกอบดว้ ยการพฒั นาระบบแปลภาษา, เวบ็ ไซตส์ ำ� หรบั แปลภาษาองั กฤษเพอื่ สง่ เสรมิ การ ทอ่ งเทยี่ วแบบ Smart truism รวมทง้ั แบบบรู ณาการการเรยี นรขู้ องนกั ศกึ ษาและอาจารยท์ เี่ ขา้ รว่ มโครงการ และตอ่ ยอดงานวจิ ยั ของบคุ ลากร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาสสู่ าธารณชนตอ่ ไป จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน เปน็ ระบบแปลภาษาไทย-องั กฤษ ทสี่ ามารถแปลในระดบั ประโยคไดด้ กี วา่ ระบบแปลภาษาในทอ้ งตลาด เชน่ Google Translator, Bing หรอื Moses และเปน็ ซอฟทแ์ วรช์ นดิ โอเพน่ ซอส ทส่ี ามารถพฒั นาตอ่ ยอดตอ่ ไปได้ ประโยชนข์ องผลงาน สง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วในระดบั ชมุ ชนโดยเปน็ เครอ่ื งมอื ชว่ ยสอื่ สารระหวา่ งชมุ ชนกบั นกั ทอ่ งเทยี่ วจากตา่ งประเทศ แนวทางการพัฒนาต่อยอดผลงาน 1. พฒั นาโมเดลการแปลโดยใชเ้ ทคโนโลยี Deep learning มาปรบั ปรงุ ประสทิ ธภิ าพการแปล 2. สรา้ งคลงั ขอ้ มลู หลายภาษาเพอ่ื รองรบั การแปลภาษาอน่ื เชน่ จนี , ญป่ี นุ่ หรอื กลมุ่ ภาษาอาเซยี น เปน็ ตน้ 3. พฒั นาเปน็ แอพลเิ คชนั่ บนมอื ถอื ระบบแอนดรอย และ ios วารสารสิ่งประดิษฐแ์ ละนวตั กรรม RMUTCON 2019 83
S 08-193074 84 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
ส่งิ ประดิษฐแ์ ละนวัตกรรม เพ่ือสงั คมและวฒั นธรรม โคมแขวนลา้ นนาประยกุ ต์ Lanna Lantern ความเปน็ มา โคมแขวนของภาคกลาง จะทำ� ดว้ ยดอกไมส้ ด จะเสอ่ื มสภาพไปตามกาลเวลา ซง่ึ มคี ณุ คา่ ควรแกก่ ารอนรุ กั ษ์ รปู แบบ สสี นั ลวดลายไว้ ผจู้ ดั ทำ� ผลงานประดษิ ฐจ์ งึ คดิ ทจ่ี ะสานตอ่ ภมู ปิ ญั ญาดา้ นการถกั รอ้ ย เครอื่ งแขวนสด มาเปน็ ลกู ปดั สี เพอื่ ความสวยงามสะดดุ ตา และทรง คณุ คา่ ดา้ นความงาม ผา่ นโคมไฟเครอื่ งแขวนรอ้ ยดว้ ยลกู ปดั หลากสี จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน โคมแขวนทม่ี แี นวความคดิ จากเครอื่ งสด นำ� มาประดษิ ฐด์ ว้ ยการถกั รอ้ ยลกู ปดั ใหท้ รงคณุ คา่ ดา้ นความงาม และประโยชนใ์ ชส้ อย ประโยชน์ของผลงาน ประดบั ตกแตง่ สถานทใี่ หส้ วยงาม แนวทางการพฒั นาต่อยอดผลงาน พฒั นาตอ่ ยอดเปน็ ผลติ ภณั ฑช์ นดิ ตา่ งๆ เชน่ กระเปา๋ เครอื่ งใสข่ องใช้ เครอื่ งประดบั เจา้ ของผลงาน นายสพุ จน์ ใหมก่ นั ทะ*, นางสาวธญั ลกั ษณ์ ใจมาตน์, นางสาวอภษิ ฎา คำ� อินบุตร, นางสาวณิชกานต์ บุญเกษม นายพรี พล สุวรรณไพศาล คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม ่ เบอร์โทรติดตอ่ 0810215105 อเี มล์ [email protected], [email protected] วารสารสงิ่ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 85
S 09-193075 86 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวทิ ยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาติมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
สง่ิ ประดิษฐ์และนวัตกรรม เพ่ือสงั คมและวัฒนธรรม ปน่ิ ปกั ผมรว่ มสมยั (ปน่ิ มาศ) Hairpin contemporary art ความเป็นมา ปน่ิ เงนิ มรี าคาคอ่ นขา้ งแพง ไมส่ ามารถซอ้ื หาไดใ้ นผมู้ ฐี านะปานกลาง ถกู มองเปน็ สนิ คา้ ฟมุ่ เฟอื ย บทบาทการใชน้ บั วนั จะเลอื นหาย ผทู้ ำ� การวจิ ยั จงึ มองเหน็ คณุ คา่ ความงาม ผสมกบั ความเชอื่ เรอ่ื งการบชู าขวญั ของชาวลา้ นนา จงึ นำ� มาเปน็ งานวจิ ยั รว่ มกบั นกั ศกึ ษา ทำ� การ ออกแบบปน่ิ รว่ มสมยั โดยใชว้ สั ดทุ ดแทน เพอ่ื เพม่ิ ความสวยงามใชไ้ ดใ้ นปจั จบุ นั จดุ เดน่ /ความแปลกใหม่ ของผลงาน สสี นั และรปู แบบทร่ี ว่ มสมยั สามรถสวมใสไ่ ดท้ กุ โอกาส ประโยชนข์ องผลงาน ประดบั ตกแตง่ ศรี ษะ เพอื่ บชู าขวญั 32 ขวญั ตามความเชอื่ ชาวลา้ นนา และเพอ่ื ความสวยงามรว่ มสมยั รว่ มกบั การแตง่ กายสวยงาม แนวทางการพฒั นาต่อยอดผลงาน ยอดจากลวดลายปน่ิ ปกั ผม รปู แบบ พฒั นาเปน็ เครอื่ งประดบั อนื่ ๆ เชน่ สรอ้ ยคอ แหวน ตา่ งหู เจา้ ของผลงาน นายสพุ จน์ ใหม่กันทะ*, นางสาวน้องใหม่ สันกวา้ น, อจั ฉรา สรุ ยิ ะ, นางสาวทรรณต ผังไว คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชยี งใหม่ เบอร์โทรตดิ ต่อ 0810215105 อเี มล์ [email protected], [email protected] วารสารสง่ิ ประดษิ ฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 87
S 10-193076 88 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาติมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
สิ่งประดษิ ฐแ์ ละนวตั กรรม เพ่ือสงั คมและวัฒนธรรม สารสกดั สธี รรมชาติ กบั การสรา้ งสรรคเ์ ฉดสลี า้ นนาโดย “ลา้ นนาโครม” Natural Color Extracts with a Creation of Lanna Color Palette by LannaChrome ความเปน็ มา เนอื่ งจากอตุ สาหกรรมสงิ่ ทอมคี วามสำ� คญั ตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ ของไทย สามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ประเทศไทยปลี ะจำ� นวนมาก ใน ขณะทกี่ ารขยายตวั ของอตุ สาหกรรมสงิ่ ทอมแี นวโนม้ ลดลง เนอ่ื งจากมกี ารแขง่ ขนั ทางการตลาดสงู ฐานการผลติ มกี ารขยายไปยงั ประเทศ เพอื่ นบา้ น ผลติ ภณั ฑม์ ลี กั ษณะทใี่ กลเ้ คยี งกนั มากขนึ้ มสี นิ คา้ ลอกเลยี นแบบนำ� เขา้ จากประเทศจนี ราคาถกู กวา่ ดว้ ยเหตนุ ี้ อตุ สาหกรรมสงิ่ ทอของไทยจงึ ตอ้ งมกี ารปรบั ตวั โดยอาศยั กลยทุ ธต์ า่ ง ๆ และจากการศกึ ษาความตอ้ งการของลกู คา้ ไทยและตา่ งประเทศ (ญปี่ นุ่ จนี และ สหรฐั อเมรกิ า) พบวา่ ปจั จยั ทสี่ นบั สนนุ การตดั สนิ ใจซอ้ื ผลติ ภณั ฑส์ งิ่ ทอ ไดแ้ ก่ เรอื่ งราวของผลติ ภณั ฑ์ และการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ดงั นนั้ กลยทุ ธท์ สี่ ำ� คญั คอื การสรา้ งอตั ลกั ษณใ์ หก้ บั ผลติ ภณั ฑ์ ทงั้ นเ้ี พอื่ ใหม้ คี วามโดดเดน่ และมเี รอ่ื งราวทนี่ า่ สนใจ ดงั นน้ั ผงสธี รรมชาตกิ บั การสรา้ งสรรคเ์ ฉดสลี า้ นนาสำ� หรบั การยอ้ มสสี ง่ิ ทอ จงึ มจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื สรา้ งเอกลกั ษณใ์ หแ้ กผ่ ลติ ภณั ฑส์ ง่ิ ทอ ลา้ นนา โดยการเพมิ่ มลู คา่ ของผลติ ภณั ฑใ์ หส้ งู ขน้ึ สรา้ งอทิ ธพิ ลใหก้ บั ลกู คา้ ตอ่ การเลอื กซอ้ื ใหม้ ากขนึ้ มกี ารผสมผสานภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ใน เรอ่ื งสยี อ้ มธรรมชาตกิ บั เรอื่ งราวอนั ยาวนานทางวฒั นธรรมผา่ นเฉดสลี า้ นนา จดุ เด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน 1. มกี ารผสมผสานเรอ่ื งราวทางวฒั นธรรมและการใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ เพอื่ ใหเ้ กดิ อตั ลกั ษณข์ องผลติ ภณั ฑส์ งิ่ ทอ 2. มเี รอ่ื งราวทางวฒั นธรรมทย่ี าวนาน ทำ� ใหผ้ ลงานมคี วามเปน็ เอกลกั ษณ์ ประโยชน์ของผลงาน 1. สะดวกตอ่ การใชง้ าน ดว้ ยคณุ ลกั ษณะทเี่ ปน็ ผงหรอื เกลด็ แหง้ ทสี่ ามารถละลายนำ�้ ไดง้ า่ ย 2. เพม่ิ มลู คา่ ของผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยทมี่ าของเฉดสลี า้ นนาทถี่ า่ ยทอดเรอื่ งราวทางวฒั นธรรมของการใชส้ ใี นอดตี ทำ� ใหผ้ ลติ ภณั ฑม์ เี อกลกั ษณ์ และเรอ่ื งราว สง่ ผลใหเ้ กดิ การขยายตลาดหรอื การจา้ งงานในชมุ ชน และเกดิ ความยงั่ ยนื 3. ลดระยะเวลาในการยอ้ มเมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั การยอ้ มดว้ ยวตั ถดุ บิ สด 4. สามารถใชส้ จี ากวตั ถดุ บิ ไดไ้ มจ่ ำ� กดั ฤดกู าลเนอื่ งจากวตั ถดุ บิ อยใู่ นลกั ษณะผงทเ่ี กบ็ ไดน้ าน 5. ผงสธี รรมชาตมิ คี วามปลอดภยั ตอ่ ผใู้ ชแ้ ละเปน็ มติ รตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม เนอ่ื งจากสกดั จากวตั ถดุ บิ ธรรมชาติ แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดผลงาน 1. พฒั นาและออกแบบผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กดิ จากการใชส้ ลี า้ นนาซง่ึ มเี อกลกั ษณอ์ ยแู่ ลว้ ใหม้ คี วามแปลกใหม่ เปน็ ไปตามความตอ้ งการของ ตลาดมากขน้ึ 2. ทำ� การพฒั นาผงสธี รรมชาตใิ หอ้ ยใู่ นรปู ทส่ี ามารถใชไ้ ดก้ บั งานหลากหลายรปู แบบ ทงั้ งานทางดา้ นสงิ่ ทอ เชน่ สนี ำ�้ มนั สำ� หรบั การเขยี น/ เพนท/์ พมิ พล์ ายบนผนื ผา้ และงานทางดา้ นอนื่ ๆ เชน่ งานทางดา้ นจติ รกรรม เจ้าของผลงาน นางปัทม์ ปราณอมรกจิ *, ดร.สุรพล ใจวงศษ์ า, ผศ.วรัญญา ธาราเวชรกั ษ,์ ดร.ญาณี คีรตี ๊ะ นางสาวเกษชไม บุญโสม, นางสาวอศิ ราพร รักพอ่ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เบอร์โทรตดิ ต่อ 0963519546 อเี มล์ [email protected] วารสารส่งิ ประดษิ ฐแ์ ละนวตั กรรม RMUTCON 2019 89
S 11-193073 90 การประชุมวิชาการระดบั ชาตมิ หาวิทยาไลยั เทคโนโลยรี าชมงคล คร้งั ท่ี 11 และการประชมุ วชิ าการระดับนานาชาตมิ หาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคล ครง้ั ท่ี 10
ส่ิงประดษิ ฐ์และนวัตกรรม เพ่อื สงั คมและวัฒนธรรม ปอ๊ ป-พบั PoPUP ความเป็นมา ในปหี นง่ึ ๆ จะมจี ำ� นวนขยะจากกระดาษ อาทิ เชน่ ใบปลวิ โฆษณาทางไปรษณยี ์ คปู อง ใบขอบรจิ าค แคตตาลอ็ กตา่ ง ๆ และหนา้ โฆษณาในหนา้ หนงั สอื พมิ พ์ และกระดาษทกุ ชนดิ ทเี่ ราใชท้ กุ วนั นี้ สว่ นใหญผ่ ลติ จากเนอ้ื เยอื่ ของตน้ ไม ทเี่ มอื่ ใชแ้ ลว้ สามารถนำ� มาผลติ ใชไ้ ด้ อกี เชน่ กระดาษหนงั สอื พมิ พ์ กระดาษบนั ทกึ กระดาษสำ� เนา กระดาษพมิ พด์ ดี กระดาษคอมพวิ เตอร์ บตั รรายการ และซองจดหมายสขี าว ซงึ่ สามารถจดั การดว้ ย ระบบการรไี ซเคลิ ทำ� ใหก้ ระดาษเหลา่ นน้ั กลายเปน็ เนอื้ เยอื่ เพอื่ นำ� เขา้ สกู่ ระบวนการผลติ เสน้ ใยตอ่ ไปแตม่ กี ระบวนการ ทคี่ อ่ นขา้ งซบั ซอ้ นและมคี ณุ ภาพดอ้ ยลง การนำ� กระดาษทใี่ ชแ้ ลว้ กลบั มาใชใ้ หมใ่ หเ้ กดิ ประโยชน์ (Re - Used)ดว้ ยการสรา้ งสรรค์ ยอ่ มเปน็ ทางออกทง่ี ดงามและมคี ณุ คา่ การสรา้ งสรรคก์ ระดาษใหเ้ กดิ มติ ิ (Origami) โอรงิ ามิ ภาษาญป่ี นุ่ : 折り紙 จากคำ� วา่ โอริ แปลวา่ “การพบั ” และ กามิ แปล วา่ “กระดาษ” เปน็ ศลิ ปะในการพบั กระดาษ เพอ่ื สรา้ งสง่ิ ประดษิ ฐเ์ ปน็ รปู ทรงหรอื วตั ถตุ า่ ง ๆ ขนึ้ มาจากการพบั กระดาษ โดยทวั่ ไปการพบั กระดาษจะเรมิ่ จากกระดาษแผน่ สเี่ หลยี่ ม ซงึ่ อาจใชส้ เี ดยี วกนั สตี า่ งกนั หรอื กระดาษทม่ี ลี วดลายตา่ ง ๆ และทำ� การพบั ทบไปจนเปน็ รปู รา่ ง รปู ทรง ใหเ้ กดิ มติ ิ ซง่ึ สว่ นมากจะไมม่ กี ารตดั กระดาษ เชอ่ื กนั วา่ การทำ� โอรงิ ามมิ มี าตง้ั แตย่ คุ เอโดะ (ค.ศ. 1603–1867) จากทม่ี าของจำ� นวนขยะทเ่ี ปน็ กระดาษ และการนำ� กระดาษมาพบั ใหเ้ กดิ รปู รา่ ง รปู ทรง อยา่ งสรา้ งสรรค์ ผวู้ จิ ยั จงึ มแี นวคดิ ตอ่ ยอด ใหเ้ กดิ ประโยชนเ์ ปน็ ทร่ี องแกว้ เครอ่ื งดมื่ รา้ น hohm cafe โดยนำ� กระดาษทใ่ี ชแ้ ลว้ มาพบั ดว้ ยเทคนคิ งา่ ยๆทำ� ไดเ้ รว็ ใชง้ านไดด้ ี สามารถ รองรบั ความชนื้ โดยรปู ทรงยงั คงอยไู่ ดน้ านประมาณ1 ชว่ั โมง ซงึ่ ขนั้ ตอนและการทำ� สามารถ นำ� ไปฝกึ ทกั ษะกลา้ มเนอ้ื มอื และนว้ิ สำ� หรบั ผสู้ งู วยั เดก็ เลก็ 5-6 ขวบ และบคุ คลทวั่ ไปได้ เพราะสงิ่ สำ� คญั ของแนวทางเศรษฐกจิ ทที่ กุ คนตอ้ งตระหนกั รู้ คอื ตน้ ทนุ ทางศลิ ปวฒั นธรรม ทตี่ อ่ ยอด สรา้ งสงิ่ ประดษิ ฐอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ เปน็ ทรพั ยากรทไี่ มม่ วี นั หมด จุดเด่น/ความแปลกใหม่ ของผลงาน เปน็ ผลงานทส่ี รา้ งสงิ่ ประดษิ ฐจ์ ากกระดาษมอื สอง ใหเ้ กดิ ประโยชนเ์ ปน็ ทรี่ องแกว้ (Coaster) เปน็ สง่ิ ประดษิ ฐท์ ดแทน เพอื่ การกา้ วสู่ “Go To Zero Waste& Invention ชวี ติ เมอื่ คดิ ใหม่ ไรข้ ยะ” และสามารถนำ� ไปฝกึ เพอ่ื บำ� บดั กลา้ มเนอ้ื นว้ิ และมอื ผสู้ งู อายุ เดก็ เลก็ และคน ทว่ั ไปได้ โดยใชก้ ระดาษ เอ 4 หนงึ่ แผน่ ตอ่ หนงึ่ ชนิ้ งาน ประโยชน์ของผลงาน 1.สามารถนำ� เทคนคิ การพบั กระดาษ(Origami) ไปฝกึ เพอื่ บำ� บดั กลา้ มเนอ้ื นว้ิ และมอื ผสู้ งู อายุ เดก็ เลก็ และคนทว่ั ไปได้ โดยใชก้ ระดาษ เอ 4 มอื สองหนงึ่ แผน่ ตอ่ หนงึ่ ชนิ้ งาน 2.เปน็ ผลงานสรา้ งสรรคท์ ดแทนจากกระดาษมอื สอง ใหเ้ กดิ ประโยชน์ เปน็ การกา้ วสู่ “Go To Zero Waste& Invention ชวี ติ เมอ่ื คดิ ใหม่ ไรข้ ยะ” แนวทางการพัฒนาตอ่ ยอดผลงาน 1. ใชเ้ ปน็ กระบวนการตอ่ ยอดบรกิ ารชมุ ชน ดา้ นการกายวภิ าคบำ� บดั กลา้ มเนอื้ มอื และนว้ิ มอื 2. ขยายผลการใชง้ าน ในกลมุ่ รา้ นจำ� หนา่ ยเครอ่ื งดมื่ ทว่ั ไป เจา้ ของผลงาน ดร.ณงคณ์ ชุ นทีพายัพทิศ* วา่ ทรี่ อ้ ยตรพี ฤฒ นทีพายัพทศิ คณะศิลปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนาเชยี งใหม่ เบอร์โทรติดต่อ 0817647759 อเี มล์ [email protected] วารสารส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรม RMUTCON 2019 91
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138