วตั ถุประสงค์ บทบรรณาธิการ 1. เพ่ือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและผลงานวิจัย และ ส�ำหรับวารสารแก้วปัญญา มทร.ล้านนา ปี 8 (ฉบับท่ี 1 งานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ปี2564) เล่มนี้ก็ยังคงมีเน้ือหาให้แก่ผู้อ่านได้รับทราบ ได้ความรู้ ราชมงคลลา้ นนา อย่างมากมายเช่นเคยครับโดยในวารสารแก้วปัญญาฉบับนี้ทาง กองบรรณาธิการอยากขอน�ำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้เห็นถึงภัยร้าย 2. เพอื่ เปน็ สอื่ กลางในการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และการเขา้ ถงึ ของฝุน่ ควัน PM 2.5 เพราะว่าชว่ งน้อี ากาศบา้ นเราเต็มไปด้วยฝุ่นมลพษิ องคค์ วามรู้ของภาคประชาชน PM 2.5 โดยมีค่ามลภาวะทางอากาศสูงมากติดอันดับต้นๆ ของโลก ฝุ่น PM 2.5 หลายคนคงคุ้นช่ือ แต่ทราบหรือไม่ว่าฝุ่นมลพิษน้ีท�ำร้าย กองบรรณาธิการ รา่ งกายเราอยา่ งไรบา้ ง? วารสารแกว้ ปญั ญาจงึ จะมาพดู ถงึ เจา้ ฝนุ่ PM2.5 น้คี ืออะไร มีผลเสยี ตอ่ รา่ งกายอย่างไรบ้าง และเราจะป้องกนั ได้อย่างไร ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์เกรยี งไกร ธารพรศร ี ในคอลมั น์ งานวจิ ยั ไมข่ น้ึ หงิ้ : ในเรอื่ ง “ฝนุ่ มจั จรุ าชเงยี บฆา่ คน” มานำ� เสนอ ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยน์ ทชี ยั ผัสดี ใหผ้ ้อู ่านไดร้ บั สาระประโยชน์ และความรู้ในด้านนี้ รวมไปถงึ ได้แนะน�ำ อาจารย์วสิ ุทธิ์ บวั เจริญ ใหร้ จู้ กั กบั นกั วจิ ยั ทท่ี ำ� งานวจิ ยั ในเรอื่ งของฝนุ่ จนถอื ไดว้ า่ เปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญ ผู้ช่วยศาสตราจารยส์ รุ ีวรรณ ราชสม เลยทเี ดยี วผา่ นบทความในคอลมั นน์ กั วจิ ยั :The Researcher “นกั วจิ ยั ฝนุ่ : นายนรศิ กำ� แพงแกว้ รองศาสตราจารย์ พานิช อินต๊ะ” นอกจากน้ันยังมีบทความใน นายพิษณุ พรมพราย คอลัมน์อ่ืน ๆ ท่ีกล่าวถึงเร่ืองสิ่งแวดล้อม ในการช่วยลดฝุ่น PM 2.5 นายจกั ร์รินทร์ ชนื่ สมบตั ิ ได้แก่คอลัมน์ ชุมชนเดินทาง : “บันทึกเร่ืองราวการบริการชุมชน นางสาวรตั นาภรณ์ สารภี ว่าด้วยศักยภาพชุมชนกับการจัดการขยะในชุมชน” คอลัมน์ซะป๊ะ นายเจษฎา สุภาพรเหมนิ ทร์ สเปซ 2 เร่ือง เร่ืองที่ 1 เรื่องเผาพลาสติก-โฟม...สร้างมลพิษ นางสาวสุธาสิน ี ผอู้ ยู่สุข เรื่องท่ี 2 จะมาบอกเล่าถึงประเภทและประสิทธิภาพของหน้ากาก นางสาววราภรณ์ ต้นใส อนามัย ในการป้องกันสุขภาพ และวิธีการเลือกการใช้งานให้ถูกต้อง นายวีรวทิ ย์ ณ วรรณมา อีกด้วย นอกจากน้ี ยังคงมีบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจให้ท่านผู้อ่าน ไดต้ ดิ ตามอกี เชน่ เคย ไมว่ า่ จะเปน็ เปดิ มมุ มองของ “ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ จัดท�ำโดย ดร.จตั ตฤุ ทธ์ิ ทองปรอน” ศิษยเ์ ก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ลา้ นนา ซงึ่ ในปนี ว้ี ารสารแกว้ ปญั ญา จะนำ� เสนอ และเปดิ มมุ มองของตวั แทนศษิ ย์ กลุม่ งานสรา้ งองคค์ วามร้แู ละถ่ายทอดเทคโนโลยี เก่าของคณะต่างๆ ในคอลัมน์นี้ เป็นการน�ำหลกั แนวคดิ ในแง่มุมตา่ งๆ สถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยีสชู่ ุมชน ของศิษย์เก่าเพ่ือสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิษย์ปัจจุบันท่ีก�ำลังศึกษาอยู่ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา และนักศึกษาที่ก�ำลังจบใหม่รวมถึงบุคคลท่ัวไป ได้เป็นแนวคิดไป 98 หมู่ 8 ตำ� บลปา่ ป้อง อำ� เภอดอยสะเก็ด ปฏิบัติตาม หรือแบบอย่างได้ และจะลืมไปได้เลย ในปีนี้รัฐบาลได้ จังหวดั เชยี งใหม่ 50220 มปี ระกาศ วนั หยดุ พเิ ศษ ประจำ� ภาคขนึ้ มาเปน็ ปแี รก ทกุ ภาคจะมวี นั หยดุ โทร.053 - 266516-8 ประจ�ำภาคในแต่ละวันไม่เหมือนกัน วันหยุดราชการประจ�ำภาคเหนือ ประเพณีไหว้พระธาตุประจ�ำปี จะเป็นวันท่ี 26 มีนาคม พ.ศ.2564 ข้อเขียนหรือบทความใดๆ ท่ีตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารแก้ปัญญา และทางศูนย์วัฒนธรรมศึกษา มทร.ล้านนา ได้จดั กจิ กรรมขึ้น เน่ืองใน ฉบับน้ี เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัวของผู้เขียน คณะผู้จัดท�ำ วนั หยดุ นี้ กจิ กรรม “จากอจุ ฉปุ พั พตา สธู่ าราระมงิ คน์ ท”ี ซงึ่ พาผเู้ ขา้ รว่ ม ไม่จ�ำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีข้อผูกพันกับคณะผู้จัดท�ำและสถาบัน กิจกรรมไปไหวพ้ ระธาตุ ในจังหวดั เชยี งใหม่ พร้อมถ่ายทอดองคค์ วามรู้ ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตา่ งๆ ใหก้ บั ผรู้ ว่ มกจิ กรรมอกี ดว้ ย ทางศนู ยว์ ฒั นธรรมศกึ ษา มทร.ลา้ นนา แต่อย่างใด ได้เขียนเรื่องเล่า สาระความรู้ ในคอลัมน์ เร่ืองเล่าชาวล้านนา และ ท่ีขาดไม่ได้เลยท่ีจะแจ้งให้ทุกท่านทราบเล่มนี้จะมีคอลัมน์ใหม่เกิดขึ้น คอื คอลมั น์ “โครงการหลวงเพอ่ื ชมุ ชน” จะเปน็ เรอื่ งเลา่ ในการทำ� กจิ กรรม สาระองค์ความรู้ ในโครงการหลวงตา่ งๆ ซึ่งประเดมิ เรอ่ื งแรกในเลม่ น้ี คือเร่ือง “การบ�ำบัดน้�ำเสียจากระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟในสถานี โครงการหลวงแมห่ ลอด” และฝากตดิ ตามในเลม่ ต่อๆไปดว้ ยนะครับ สุดท้ายนีก้ องบรรณาธิการวารสารแกว้ ปญั ญาหวังว่าวารสาร ฉบบั น้ี จะเปน็ แหลง่ หนงึ่ ทสี่ รา้ งขมุ ปญั ญาดา้ นงานบรกิ ารวชิ าการแกท่ า่ น ผู้อ่านไม่มากก็น้อย เพื่อการพัฒนาบริการวิชาการจากภาคการศึกษา สู่ภาคชุมชน สังคม ให้เกิดความยั่งยืน ต่อไปครับ…แล้วพบกันใหม่ ในฉบับตอ่ ไปครับ กองบรรณาธิการ
คอลัมน์ 26-27ชมุ ชนเดินทาง : รอบร้ัว มทร.ลา้ นนา บันทึกเร่อื งราวการบรกิ ารชมุ ชน วา่ ด้วยศักยภาพ ชมุ ชนกบั การจดั การขยะในชมุ ชน 8 , 24 , 31, 38 28-29บริการวิชาการ : 4-7 เปิดมุมมอง : โครงการเสริมสร้างจิตส�ำนึกสาธารณะในการ “ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.จตั ตุฤทธ์ิ ทองปรอน” อนรุ ักษ์สิง่ แวดล้อม ณ ศนู ย์พัฒนาโครงการหลวง ศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร. ลา้ นนา ห้วยลกึ เชียงใหม่ 10-15 งานวิจยั ไม่ขนึ้ หิง้ : 30 โครงการหลวง...เพ่ือชุมชน : “ฝุ่นมจั จุราชเงียบฆ่าคน” การบ�ำบัดน้�ำเสียจากระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟใน สถานีโครงการหลวงแม่หลอด 16-17The Researcher : ซะปะ๊ สเปซ : “นกั วจิ ัยฝุ่น” รองศาสตราจารย์ ดร.พานชิ อินต๊ะ 32-33 ประเภทและประสิทธิภาพ 18-23 ของหนา้ กากอนามยั เพ่อื การ เรอ่ื งเล่าชาว (มทร.) ล้านนา : 34-35 ป้องกันสุขภาพ เผาพลาสตกิ -โฟม…สรา้ งมลพษิ “จากอุจฉปุ พั พตา สูธ่ าราระมิงคน์ ท”ี 36 ของมันตอ้ งแชร์ : 37 ของมนั ต้องโชว์ : 10-15 30 18-23
: เปดิ มมุ มอง ดผชู้ รว่ ย.ศจาตัสตตราุฤจาทรยธ์ ์ิ ทองปรอน ศษิ ยเ์ กา่ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา การถา่ ยทอดองค์ความรูท้ กั ษะวิชาการ และวิชาชพี ของตวั แทนศษิ ยเ์ กา่ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 4 วารสาร
เล่าประสบการณ์ตอนเรยี น & ตอนทำ� งาน ประสบการณค์ วามรสู้ กึ ในวัยเรียน “ผมจบการศกึ ษาเม่อื ปี 2531 วฒุ กิ ารศกึ ษา ปวส.ซง่ึ สมัยนั้น “มหาลัยแห่งน้ีไดส้ อนอะไรมากมาย ในเรอ่ื งของการท�ำงาน การไฟฟ้าจะเป็นรุ่นที่ 12” หรือรุ่นที่ ในลกั ษณะการเป็นช่าง” ตอนนั้นเรยี นจบมาใหมๆ่ เราไมม่ โี อกาสไดไ้ ป ท�ำงานอะไร หลักสูตรของมหาลัยเป็นวิทยาเขตภาคพายัพ เขาสอนให้ 1โหลพอดี และมีโอกาสได้มาเรียนต่อในระดับ ปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา ตอนน้ัน เราไปซอ้ มไฟตามตกึ ตา่ ง ๆ ตกึ ทอี่ ยากซอ้ มมากทสี่ ดุ คอื ตกึ บรหิ ารเพราะ เปิดเป็นปีท่ี 2 ในสาขาคุรุศาสตร์อุตสาหกรรมไฟฟ้า รนุ่ ท่ี 2 ตอนนนั้ ในรุ่นมนี กั ศกึ ษาเพียงแค่ 14 คน ได้ไปเจอสาวๆ และอันน้ันก็เป็นความภาคภูมิใจท่ีเราได้มีโอกาสได้ไป ซอ้ มไฟฟา้ ตดิ ตง้ั แอรใ์ หก้ บั มหาวทิ ยาลยั “เหมอื นกบั ใหเ้ รารวู้ า่ การเรยี น สายน้ีเป็นสายท่ีพอเรียนจบไปแล้วสามารถใช้ในการท�ำงานได้ และ ฝกึ ให้เราได้เรยี นรู้มาตลอด” และอีกความภาคภมู ิใจกค็ อื “รนุ่ ผมเปน็ รุ่นก่อต้ังให้เกิดชมรมนวบัณฑิตหรือสภา ในส่วนของปริญญาตรี” ทำ� งานร่วมกับปวส. ตอนนนั้ สนกุ มากที่ไดท้ �ำงานรบั ใช้สังคม ได้ออกไป ทำ� กจิ กรรม ออกไปเดนิ ขายบตั รหนงั กม็ ี ทำ� ของซลิ เวอรเ์ นยี ร์ ใหก้ บั มช.ขาย แล้วน�ำรายได้จากการขายของให้ชมรม เป็นความสุขที่เกิดจาก การเรียนรู้จริงๆ ตั้งแต่ประสบการณ์ท่ีเราได้อยู่ในรั้วของเจ็ดลิน แห่งน้ี เป็นความภาคภูมิใจท่ีได้กลับมาท�ำงานให้กับมหาวิทยาลัย ในฐานะของครูหรืออาจารย์ ได้ทุนไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท และกลับมาท�ำงานท่ีภาคพายัพแล้วก็ไปช่วยงานสร้างมหาวิทยาลัย ราชมงคล วิทยาเขตเชียงรายประมาณ 4-5 ปีแล้วกลับ มาท�ำงานท่ีวิทยาเขตเชียงใหม่ในฐานะอาจารย์และผู้บริหาร ดังน้ันผม ประทบั ใจกับการจัดการศกึ ษาและได้รบั สิ่งดี ๆ จากมหาลัยแหง่ นี้ 5วารสาร
ความรูส้ กึ & ความภาคภมู ิใจ ทีม่ ตี อ่ สถาบนั ผมภูมิใจที่สุดคือสมัยที่ผมเรียน สถาบันท่ีแห่งน้ี เรียกว่า วิทยาลัยเทคโนและอาชีวะศึกษา ความภาคภูมิของเรา “รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานนามให้เรา เมอื่ วนั ท่ี 15 กนั ยายน ใหเ้ ราเปน็ สถาบนั เทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา ผมถือว่าผมได้อยู่ในมหาลัยท่ี เรยี กวา่ เปน็ มงิ่ มงคล ทไี่ ด้ใชช้ อื่ ทพี่ ระราชทานนาม” จึงเป็นความภาคภูมิใจว่าเราจบจากราชมงคลล้านนา และท่านเป็น แบบอย่างที่ดีที่ให้ผมยึดถือมาโดยตลอดในการท�ำงานโดยใช้หลักการ ทรงงานของท่านในการที่จะท�ำงานสอนลูกศิษย์แล้วก็ขับเคลื่อนองค์กร นัน้ คือความภาคภมู ิใจของผมครบั หลกั การด�ำเนินชวี ิต แนวคดิ ในการทำ� งาน แนวทางการปรับตัวการท�ำงานในยคุ ปจั จบุ ัน เป็นอย่างไร ผมเช่ือได้ว่าส่ิงเหล่าน้ีเองที่หล่อหลอมให้ผมเป็นคนมีความรู้ ช่วงน้ีการศึกษาก็จะต้องเจอกับยุคโควิด19 ผมเช่ือได้ว่า มคี วามสามารถและเปน็ คนดี ทจี่ ะรบั ใชส้ งั คมในการทำ� งานมาโดยตลอด ทุกวงการไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การศึกษาหรือแม้กระท่ังชาวบ้าน ได้ผมกระทบหมดเลย เราจะสังเกตได้ว่า เศรษฐกิจก็เร่ิมจะมีปัญหา “ต้องขอบคณุ วทิ ยาเขต การศึกษาการจัดการศึกษาก็มีปัญหา เห็นได้ว่าเราต้องน�ำเทคโนโลยี ล้านนา หรอื ภาคพายพั เข้ามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ แต่ผมจะบอกว่าสิ่งน้ีเป็นสิ่งที่ราชมงคล หรือเราพูดสน้ั ๆว่า เทคโน ตีนดอย ท่ีหล่อหลอมให้ ลา้ นนาไดเ้ ปรยี บนะครบั จะเหน็ ไดว้ า่ “เราเตรยี มการเรยี นรทู้ ี่ ผมมีวนั น้ีได้” เปน็ ลกั ษณะแบบ DIGITAL LIFE มาใช้ หรอื วา่ เปน็ การ เรยี นรผู้ า่ น Electronic มากอ่ นหนา้ นี้ 10 กวา่ ปแี ลว้ ” จังหวะที่เกิดโควิด ผมเช่ือได้ว่าเราได้น�ำเอาตรงนี้มาใช้ประโยชน์ใน การเรียนรู้การสอน ดังน้ันผมเชื่อได้ว่า สถาบันการศึกษาทุกสถาบัน การศกึ ษา ตอ้ งมกี ารปรบั ตวั เรามโี อกาสทเี่ ราทนุ เดมิ เราเรยี กวา่ การทำ� e-Library หรอื e-Learning ไวก้ อ่ นแลว้ เราจงึ ใชป้ ระโยชนจ์ ากตรงนี้ได้ คอ่ นขา้ งเปน็ อยา่ งดี ตอ้ งชนื่ ชมผบู้ รหิ ารรนุ่ กอ่ นหนา้ น้ี ท่ีไดท้ ำ� สงิ่ นี้ไวแ้ ละ ผมเช่ือได้ว่าการเรียนในจากนี้ไปตอ้ งมกี ารปรับตวั เรียนรผู้ า่ นออนไลน์ การเรียนผ่านผู้รู้ ผมเช่ือได้ว่าการถ่ายทอดแบบคลิปวีดีโอ บันทึกไว้ แล้วเปิดให้รุ่นน้องได้ดูน้ีคือการเรียนรู้แบบหน่ึงไม่ใช่แค่ในห้องเรียน แต่ส่วนทักษะปฏิบัติที่เกิดข้ึนเราไม่สามารถเรียนรู้แบบออนไลน์ได้ ดังนั้นเราก็เรียนแบบออฟไลน์ เราก็คงจะต้องมาฝึกปฏิบัติ มาเรียนรู้ การท�ำโจทย์จริงในมหาวิทยาลัย ต้องมาเรียนรู้จากภาคสังคมชุมชน เราต้องลงไปเรียนรู้จริง ดังนั้นผมเช่ือได้ว่าด้วยการเกิดวิฤตแบบน้ี จะเปลี่ยนระบบการศึกษาของราชมงคลล้านนา ไปอีกมิติหนึ่งเลย แตผ่ มเชอ่ื ไดว้ า่ ผบู้ รหิ ารไมว่ า่ ยคุ ไหน ๆ กเ็ ตรยี มพรอ้ มเรอื่ งน้ีไวค้ อ่ นขา้ งดี ผมเชื่อได้ว่า“การสร้างบัณทิต นักปฏิบัติท่ีสร้าง Innovation สร้างนวัตกรรมก็จะท�ำให้การเรียน รู้แบบใหม่ ในยุค 4.0 เราจะไปได้และเราจะเป็น มหาวทิ ยาลัยนวัตกรรมอย่างแท้จรงิ ” 6 วารสาร
ค�ำแนะน�ำ & แนวทางปฏิบตั ิ สำ� หรับร่นุ น้องท่ี ก�ำลังศึกษาอยู่ ทา้ ยนผ้ี มขอฝาก ศษิ ยป์ จั จบุ นั ใหร้ วู้ า่ จงภาคภมู ใิ จวา่ รชั กาลท่ี 9 ทรงพระราชทานนามให้กับมหาวิทยาลัยแห่งน้ี จากการท่ีเรียนใน ราชมงคลล้านนา เพราะมหาลัยแห่งนี้เป็นมหาลัยท่ีเพียบพร้อมไปด้วย ครูบาอาจารย์ท่ีมีคุณวุฒิมีความรู้มีทักษะที่ดี มีสิ่งแวดล้อมท่ีเหมาะสม ทส่ี ามารถทจ่ี ะทำ� ใหเ้ ราไดเ้ รยี นรไู้ ดศ้ กึ ษาและเลา่ เรยี นจนมคี วามรคู้ วาม สามารถ และผมเช่อื ได้วา่ การทีเ่ ราตง้ั ใจเรยี น “เราอย่าคิดเพียงแค่วา่ จบออกไปแลว้ เราไดเ้ กรดสงู ๆ ผมคดิ วา่ อนั นน้ั ไม่ใชค่ ำ� ตอบ” ผมจะสอน ลกู ศษิ ยอ์ ยเู่ สมอและอยากจะใหล้ กู ศษิ ยป์ จั จบุ นั รบั รวู้ า่ การที่ไดเ้ กรดสงู ๆ มันจะไม่ใช่คำ� ตอบในการท�ำงาน “แตก่ ารท่ีไดเ้ รียนร้ทู กั ษะชีวติ หรอื ทกั ษะ ภาคปฏิบตั จิ ากโรงเรยี นหรอื ว่ามหาลัย ส่งิ นนั้ ต่างหากท่ีจะทำ� ให้เราอยู่ในสังคมได้ และอยู่อย่างมคี วามสุข” ถ้าเราคดิ วา่ สถาบนั แห่งน้ี เป็นสถาบนั ทด่ี จี งต้ังใจเรียน และ จงตงั้ ใจเกบ็ เกยี่ วทกั ษะ จากมหาลยั แหง่ นี้ใหไ้ ดม้ ากทสี่ ดุ อยา่ หลงระเรงิ กับการที่ได้ไปเที่ยวหรือไปเรียนรู้แบบอ่ืนโดยไม่ได้เรียนรู้ทักษะวิชาชีพ ติดตวั ไปสุดท้ายเราก็จะได้วิชาความรู้ไปไม่ไดแ้ ค่เฉพาะเกรด “และผมเชื่อได้วา่ คนที่ ยึดมนั่ การเรยี นรู้แบบนี้ จะเปน็ เพชรเมด็ งาม ของราชมงคลล้านนา ในอนาคตตอ่ ไป ขอบคณุ มากครบั ” สามารถรับชมเพ่มิ เติมได้ทาง ช่องแก้วปัญญาชาแนล สื่อความรู้ เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างย่ังยืน : ลิงค์บทสมั ภาษณ์ https://www.youtube. com/watch?v=7vDDi_tnmHQ 7วารสาร
รอบรัว้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา สาขาศิลปศาสตร์ บริการวิชาการด้านภาษา กิจกรรม “สีสันภาษา นศ.วิศวฯ มทร.ล้านนา ซ่อมบ�ำรุงอุปกรณ์ให้ จนท.เขตรักษาพันธุ์ สรา้ งสุขสูงวัย” ณ อบต.บ้านกร่าง อ.เมอื ง จ.พิษณโุ ลก สัตว์ป่าเชยี งดาว พรอ้ มรับสถานการณ์ไฟป่า วันที่ 20 มกราคม 2564 สาขาศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย วนั ท่ี 27 มกราคม 2564 นกั ศกึ ษาหลกั สตู รวศิ วกรรมเครอื่ งกล เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา พษิ ณโุ ลก นำ� โดย อ.ตอ้ งหทยั ทองงามขำ� คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา หวั หนา้ หลกั สตู รภาษาองั กฤษเพอื่ การสอื่ สารสากล พรอ้ มดว้ ยคณาจารย์ พรอ้ มดว้ ย นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช สาขาศิลปศาสตร์ และเจ้าหน้าท่ีศูนย์ภาษา มทร.ล้านนา พิษณุโลก มงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมการประชุม รว่ มบรกิ ารวชิ าการใหแ้ กผ่ สู้ งู อายตุ ำ� บลบา้ นกรา่ ง อ.เมอื ง จ.พษิ ณโุ ลก วางแผนและเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ณ ในหวั ขอ้ “สสี นั ภาษา สรา้ งสขุ สงู วยั ” โดยการจดั กจิ กรรมการใชภ้ าษาไทย หอ้ งประชุมเขตรักษาพันธส์ุ ัตวเ์ ชียงดาว สำ� นักบรหิ ารพื้นท่ีอนรุ กั ษ์ท่ี 16 และภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารในชีวิตประจ�ำวัน กิจกรรมดังกล่าว (เชยี งใหม่) โดยนกั ศกึ ษาไดท้ ำ� การซ่อมบำ� รุง ตรวจเชค็ ทำ� ความสะอาด นอกจากเป็นการสร้างความสุข สนุกสนาน จากการเล่นเกมและ และปรับต้ังค่าระบบจ่ายน้�ำมันเชื้อเพลิงเคร่ืองเป่าลม ซ่ึงเป็นอุปกรณ์ ร้องเพลงแล้ว ผู้สูงวัยยังสามารถน�ำความรู้ที่ได้น้ี ไปปรับใช้เพื่อ ท่ีส�ำคัญในการปฏิบัติการท�ำแนวกันไฟของเจ้าหน้าที่ ให้มีความพร้อม การสอ่ื สารในชวี ติ ประจ�ำวันต่อไปได้ด้วย และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน ส�ำหรับกิจกรรมดังกล่าว นักศึกษาได้รับการประสานงานจากภาคีเรารักดอยหลวงเชียงดาว ให้เข้าร่วมปฏิบัติงาน อันจะส่งให้นักศึกษาได้เพิ่มพูนประสบการณ์ ด้านการปฏิบัติการซ่อมบ�ำรุง นอกเหนือจากการเรียนภาคทฤษฏี จากห้องเรียน อีกทั้งยังได้บ�ำเพ็ญประโยชน์แก่สาธารณะ ตรงตาม ปณิธานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ที่มุ่งเน้นผลิต บณั ฑิตนกั ปฏิบัติ มจี ติ สาธารณะ ปฐมนเิ ทศผ้ปู ฏบิ ัติงาน 1 ต�ำบล 1 มหาวิทยาลยั มทร.ลา้ นนา เฟสที่ 1 จ�ำนวน 70 ต�ำบล ผา่ นโปรแกรม MS Teams รศ.ศีลศิริ สง่าจิตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พร้อมด้วย ผศ.เกรียงไกร ธารพรศรี ผู้อ�ำนวยการสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มทร.ล้านนา และ คณะท�ำงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายต�ำบลแบบ บรู ณาการ 1 ตำ� บล 1 มหาวทิ ยาลยั (มหาวทิ ยาลยั สตู่ ำ� บล สรา้ งรากแกว้ ใหป้ ระเทศ) มหาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ดำ� เนนิ การ ปฐมนเิ ทศ ผปู้ ฏิบัตงิ าน โครงการ 1 ตำ� บล 1 มหาวทิ ยาลยั มทร.ลา้ นนา เฟสท่ี 1 จ�ำนวน 70 ต�ำบล ในวันพฤหสั บดีท่ี 28 มกราคม 2564 เวลา 10:00 น. ผ่านโปรแกรม MS Teams เพื่อสร้างความเพ่ือสร้างความเข้าใจ และเตรยี มความพรอ้ มในการดำ� เนนิ งานโครงการ ในฐานะผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา 8 วารสาร
: งานวิจยั ไมข่ ึ้นห้งิฝนุ่ เงมียัจจบรุ าฆชา่ คน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ วิสูตร อาสนวจิ ติ ร และ รองศาสตราจารย์.ดร.พานิช อนิ ต๊ะ หน่วยวจิ ยั สนามไฟฟา้ ประยกุ ต์ในงานวศิ วกรรม (RUEE) วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวทิ ยาการ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ดอยสะเก็ด วนั ทเ่ี ชยี งใหมห่ ายไปโดยถกู ฝนุ่ ปกคลมุ ทวั่ เมอื ง ใครจะเชอ่ื วา่ และยงั คงเกดิ สถานการณน์ อ้ี ย่ใู นชว่ งเวลานข้ี องทกุ ๆ ปี เมอื่ มหี มอกควนั ปกคลุมในหลายพื้นที่ในระดับที่ไม่เคย ปรากฏมาก่อน ดังรูปที่ 1 เมอื งหลวงทเี่ ปน็ อนั ดบั 2 ของประเทศไทย เปน็ แหลง่ ธรรมชาตทิ ม่ี ปี า่ ไม้ และในวันท่ีมีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่มากท่ีสุด กรมควบคุมมลพิษได้รายงานปริมาณฝุ่นขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง เทอื กเขาทเี่ ปน็ ปอดขนาดใหญไ่ วส้ ำ� หรบั ซกั ฟอกอากาศในเมอื งเชยี งใหม่ ไมเ่ กนิ 10 ไมครอน หรอื พี เอม็ 10 ( PM10 ) ทส่ี ถานตี รวจวดั คณุ ภาพ อากาศ ณ โรงเรยี นยุพราชวทิ ยาลัยซึง่ ตงั้ อยู่ในเขตอ�ำเภอเมืองจงั หวดั สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาตทิ ี่ไดถ้ กู สรา้ งเอาไวด้ ว้ ยเทอื กเขาเปน็ รปู ทรง เชียงใหมไ่ ด้ ถึง 383 ไมโครกรัมตอ่ ปรมิ าตรอากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร ซงึ่ สูงกว่าระดับมาตรฐาน คุณภาพอากาศของประเทศไทยทกี่ ำ� หนดไว้ คลา้ ยแอง่ กะทะโอบลอ้ ม เพอ่ื เปน็ แนวปอ้ งกนั การรกุ รานจากมลพษิ จาก ทค่ี ่าเฉลี่ยในชว่ ง 24 ชั่วโมงไวท้ ่ี 120 ไมโครกรัมตอ่ ลกู บาศก์เมตรไป กว่า 3 เท่าตัวนับ เป็นสถติ สิ งู สุดของประเทศไทยเทา่ ท่ีไดม้ กี ารตรวจ ดา้ นนอก ไม่ใหเ้ ขา้ มาในเมอื งเชยี งใหมไ่ ด้ แลว้ 2-3 ปที ผี่ า่ นมาเกดิ อะไรขนึ้ วดั คณุ ภาพอากาศอยา่ งเป็นทางการ กับปอดทางธรรมชาติของเมืองเชียงใหม่ที่ไม่สามารถฟอกอากาศได้ ดงั เดมิ หรอื วา่ ปอดทางธรรมชาติ (ปา่ ไม)้ เขาเรานนั้ กำ� ลงั ปว่ ยหนกั แลว้ งนั้ หรอื ถงึ เวลาทป่ี อด (ปา่ ไม)้ จะหยดุ ทำ� งานแลว้ งน้ั สิ เปน็ สงิ่ นา่ กลวั มาก “ฝุ่น” ตัวก่อการร้าย จากสถานการณ์ฝุ่นที่เกิดจากหมอกควัน [1] ในภาคเหนอื ของประเทศไทยไดเ้ ปน็ ขา่ วไปทว่ั โลกในเดอื น มนี าคม 2550 10 วารสาร
รูปที่ 1 แหล่งกำ� เนิดฝ่นุ จากการเผาไหมแ้ บบต่างๆ [1,13,14] ในระหว่างวันท่ี 1 – 15 เดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ทางพานิช อินต๊ะ และคณะ [2] จากหน่วยวิจัยสนามไฟฟ้าประยุกต์ ในงานวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ท�ำการ ศึกษาวิจัยในการวัดความเข้มข้นเชิงจ�ำนวนและมวลของฝุ่น PM2.5 ในอากาศโดยรอบท่ีพื้นที่ดอยสะเก็ดในช่วงฤดูกาลเผาในเชียงใหม่ โดยค่าความเข้มข้นเชิงมวลและจ�ำนวนของฝุ่น PM2.5 ได้ถูกวัดพร้อม กันด้วยเคร่ืองวัดฝุ่น DustTrak โมเดล 8533 และเคร่ืองนับจ�ำนวน อนภุ าคแบบการควบแน่น CPC โมเดล 3750 ตามล�ำดับ ผลการศึกษา ภาคสนามแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของความเข้มข้นเชิงจ�ำนวนของ ฝุ่น PM2.5 ทว่ี ดั โดย CPC มคี า่ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั และความแตกต่าง เล็กน้อยกับความเข้มข้นเชิงมวลของฝุ่น PM2.5 ท่ีวัดโดย DustTrak ความเข้มข้นเชิงมวลของฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงสุด ต่�ำสุดและเฉล่ียท่ีวัด โดย DustTrak เฉล่ียตลอดในช่วงที่เก็บข้อมูลประมาณ 180.33 µg/ m3, 42.13 µg/m3 และ 101.71 µg/m3 ตามล�ำดับ และความเขม้ ข้น เชิงจ�ำนวนของฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงสุด ต�่ำสุดและเฉล่ียท่ีวัดโดย CPC เฉล่ียตลอดในช่วงท่ีเก็บข้อมูลประมาณ 22,460.94 particles/cm3, 4,550.39 particles/cm3 และ 11,517.39 particles/cm3 ตามลำ� ดบั ซ่ึงค่าความสัมพันธ์และสัดส่วนระหว่างค่าความเข้มข้นเชิงมวลและ จ�ำนวนของฝุ่น PM2.5 ท่ีได้จะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนป้องกัน และเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมต่อไป ดังน้ันในบทความนี้จึงมุ่งเน้นเสนอถึงความอันตรายจากฝุ่นท่ี เราสดู หายใจเขา้ ไปในรา่ งกายให้กับทุกท่านไดท้ ราบ เพอ่ื จะได้นำ� ความ รู้ท่ีไดร้ บั นี้ไปใชป้ ้องกนั ตนเองและผอู้ ยู่อาศัยในครอบครัวตอ่ ไปได้ ขนาดของฝุน่ ท่ีเป็นอันตราย ขนาดของฝุ่นเมื่อเปรียบเทียบขนาดของ PM2.5, PM10 กับเส้นผมมนุษย์ และเม็ดทรายละเอียด ดังแสดงในรูปท่ี 2 จะพบว่า รูปท่ี 2 เปรียบเทียบขนาดของ PM2.5, PM10 กับเส้นผมมนุษย์ และเม็ด เสน้ ผมมนษุ ยป์ กตมิ ขี นาดเฉลยี่ ประมาณ 50-70 ไมครอน และขนาดของ ทรายละเอียด ที่มา https://www.ep a .gov/pm-p ollution/ เม็ดทรายละเอียดมีขนาดเฉล่ียประมาณ < 90 ไมครอน particulate-matter-pm-basics ซึ่งเมื่อท�ำการเปรียบเทียบกับฝุ่น PM10 ฝุ่นผลละอองเกสร สปอร์เช้ือรา มีขนาดเฉลี่ยประมาณ < 10 ไมครอน และเม่ือ ท�ำการเปรียบเทียบกับฝุ่น PM2.5 จะเป็นอนุภาคจากการเผาไหม้ อนุภาคของสารประกอบอินทรีย์ หรือ อนุภาคของโลหะ มีขนาดเฉล่ียประมาณ < 2.5 ไมครอน หรือมีความหมายดังต่อไปน้ี 2.1 ขนาดฝุ่น PM 10 หมายถึง ฝุ่นท่ีมีขนาดอนุภาค ในช่วง 2.5-10 ไมครอน เชน่ ฝ่นุ ทเี่ กดิ จากถนนที่ไมไ่ ดล้ าดยาง โรงงาน บด-ยอ่ ยหิน เปน็ ต้น เปน็ สาเหตุของโรคหอบหืดและโรคทางเดนิ หายใจ บางชนิด ในประกาศคณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ.2538) เร่ือง ก�ำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ โดยทวั่ ไป ไดก้ ำ� หนดคา่ เฉลยี่ มาตรฐานความเขม้ ขน้ ในชว่ ง 24 ชวั่ โมงของ PM 10 ในบรรยากาศทว่ั ไปไว้ ไมเ่ กนิ 0.12 มลิ ลิกรัมต่อลูกบาศกเ์ มตร 2.2 ขนาดฝนุ่ PM 2.5 หมายถงึ ฝนุ่ ทอี่ นภุ าคมขี นาดเลก็ วา่ 2.5 ไมครอน เชน่ ฝนุ่ จากควนั เสยี ของรถยนต์ โรงไฟฟา้ โรงงานอตุ สาหกรรม กระบวนการผลิตสารเคมี เปน็ ตน้ PM 2.5 มคี วามสมั พนั ธก์ บั อัตราการเกิดโรคหัวใจและโรคปอด US.EPA. ได้ก�ำหนดมาตรฐานความเขม้ ข้นในช่วง 24 ชัว่ โมงของ PM 2.5 ในบรรยากาศท่ัวไปไว้ ไมเ่ กนิ 0.065 มลิ ลิกรมั ต่อลกู บาศก์เมตร 11วารสาร
2.3 และขนาดฝุ่น PM 0.1 หมายถึงอนุภาคละเอียดมาก ม ล พิ ษ ท า ง อ า ก า ศ ท่ี เ ป ็ น ป ั ญ ห า ห ลั ก ใ น (Ultrafine Particle) [2] เป็นอนุภาคท่ีมีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 0.1 µm มีขนาดเท่าเชื้อโรคหรือไวรัสไปจนถึงระดับโมเลกุล สัณฐาน กรงุ เทพมหานครและเมอื งขนาดใหญ่ในปจั จบุ นั เชน่ เชยี งใหม่ ของอนุภาคละเอียดมากแสดงดังรูป (ก) อนุภาคละเอียดมากเกิดจาก แหลง่ กำ� เนดิ ควันเสียของรถยนต์ โรงไฟฟา้ โรงงานอุตสาหกรรม ควนั สงขลา ขอนแก่น นครราชสีมา โดยฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทเี่ กดิ จากเผาไหมฟ้ นื หรอื ชวี มวลหรอื เรยี กวา่ อนภุ าคหลกั (Primary Par- ticle) นอกจากนี้แก๊สซลั เฟอร์ไดออกไซด์ (sulfur dioxide) หรือ SO2, ทล่ี อยอยู่ในอากาศมผี ลกระทบตอ่ ทศั นวสิ ยั อากาศตามฤดกู าล กา๊ ชออกไซคข์ องไนโตรเจน หรอื NOx และสารอนิ ทรยี เ์ คมรี ะเหย(volatile organic chemicals) หรือ VOC จะท�ำปฏิกิริยากับสารอ่ืนในอากาศ สุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากร และกระบวนการใน ทำ� ใหเ้ กดิ อนุภาคละเอียดมาก อนุภาคละเอียดมากยังเกิดในบรรยากาศ โดยการแปลงผันแก๊สไปอนุภาค (gas-to-particle conversion) อตุ สาหกรรมมากมาย เชน่ อาหาร หอ้ งประกอบอาหาร ปรงุ ยา และกระบวนการควบแน่น (condensation process) หรือเรียกว่า อนภุ าครอง(secondaryparticle) รายละเอยี ดแสดงดงั รปู (ข) โดยอนภุ าค หรือพื้นที่ในโรงพยาบาล อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ละเอียดมากจะอยู่ในโหมด Nuclei ท่ีมีการกระจายขนาดเชิงจ�ำนวน (number-weighted size distribution) ตามรปู (ค) เนอ่ื งจากมขี นาดเลก็ และสารกึ่งตัวน�ำ และการปนเปื้อนในพ้ืนที่และผลิตภัณฑ์ และมีมวลน้อยมากจงึ ไม่มีการกระจายขนาดเชิงมวล (mass-weighted size distribution) โดยในบรรยากาศท่วั ไปพบอนภุ าคละเอยี ดมากหรือ ซ่ึงจะส่งผลเสียต่อคุณภาพและผลการผลิตได้ โดยแหล่งท่ีมา PM0.1 อยู่ใน PM1.0 ถงึ รอ้ ยละ 40 ของฝนุ่ ละอองลอยตา่ งๆ เหล่านี้ เชน่ การเผาปา่ และชีวมวล รูปท่ี 3 ตวั อยา่ งภาพถา่ ยสณั ฐานของอนภุ าคฝ่นุ ละอองโดยทว่ั ไป [2] โรงานอตุ สาหกรรม โรงโมห่ นิ การทำ� ปนู ซเี มนต์ โรงงานไฟฟา้ เขม่าควันจากไอเสียของเครื่องยนต์ และฝุ่นเกลือจากทะเล โดยอนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.1 µm จะมาจากไอเสีย รถยนต์มีปฏิกิริยาระหว่างแก๊สชนิดต่างๆ ควันไฟ พายุฝุ่น ละอองน้�ำทะเล และโรงงานอุตสาหกรรม อนุภาคขนาดใน ช่วง 0.01–1.0 µm จะมาจากการรวมตัวของควัน ไอเสีย กับไอน�้ำ อนุภาคขนาดในช่วง 0.4–0.9 µm เป็นตัวการ ในการกระจายแสงและท�ำให้ท้องฟ้าขมุกขมัว อนุภาคขนาด ใหญ่กว่า 1.0 µm จะมาจากการรวมตัวใหญ่ขึ้นของควันไฟ ขี้เถ้า ผงโลหะจากการขดั สี เกสรดอกไม้ และแมลง ในปัจจุบัน US EPA ได้ก�ำหนดมาตรฐานการ รายงานค่าความเข้มขน้ ของ PM2.5 [2] อยู่บนพ้นื ฐานของมวล อนภุ าค (particle mass) ตอ่ ปริมาตรอากาศ (volume) คือ µg/m3 แตป่ ญั หาของการวดั ความเขม้ ขน้ เชงิ มวลของอนภุ าค (mass concentration) ในปัจจุบัน จะเกิดกับอนุภาคที่มี ขนาดใหญ่เพราะอนุภาคขนาดเล็กจ�ำนวนมากจะมีมวลเท่ากับ มวลของอนุภาคท่ีมีขนาดใหญ่เพียงอนุภาคเดียว ตัวอย่างเช่น มวลอนุภาคขนาด 0.1 ไมครอน จ�ำนวน 1000 อนุภาค จะเท่ากบั มวลของอนุภาคขนาด 1 ไมครอน เพยี งอนุภาคเดียว ซง่ึ จากรายงานการวจิ ัยพบวา่ ผลกระทบตอ่ สุขภาพของอนุภาค ระดบั 0.1 ไมครอน มแี นวโนม้ สงู กวา่ อนภุ าคขนาด 1 ไมครอน เพราะวา่ อนภุ าคขนาด 0.1 ไมครอน สามารถทะลทุ ะลวงลงไป ถงึ บรเิ วณส่วนลึกที่สดุ ของปอดในการหายใจได้ 12 วารสาร
ภยั เงียบจากมัจจรุ าชฝุ่น ไปท่ีตับ ไขกระดูกและเกิดการกระตุ้น และส่งเสริมการตกตะกอน ของเลือดทเ่ี ป็นสาเหตขุ องโรคหัวใจลม้ เหลว ซ่งึ จากผลการวจิ ัยจากตา่ ง ฝุ่น ในที่นี้ขอเรียกว่า ฝุ่นละอองลอยขนาดเล็กกว่า ประเทศรายงานถึงกลไกการกระตุ้นการหล่ังสารกระตุ้นการอักเสบ โดยอนภุ าคฝนุ่ ขนาดเลก็ จะสามารถเรง่ ให้เกดิ การสร้างอนุมูลอิสระและ 2.5 ไมโครเมตร ซง่ึ เปน็ ตวั กอ่ ปญั หาแกส่ ขุ ภาพและคณุ ภาพชวี ติ ของคน ทำ� ใหเ้ กดิ ภาวะความเครยี ดออกซเิ ดชน่ั ทำ� ใหเ้ กดิ การทำ� ลายเมด็ เลอื ดขาว โดยท่วั ไป เน่ืองจากสามารถผา่ นระบบทางเดินหายใจเข้าไปได้ลึกลงไป ในปอด ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างฉับพลันต่อปอด ท�ำให้ปอด จนถงึ ระดบั ถงุ ลมปอด ซง่ึ สามารถสะสมไวไ้ ดต้ ลอดโดยไมส่ ามารถขบั ออก อักเสบ ทั้งนี้ในบุคคลท่ีมีสุขภาพแข็งแรงและปกติกลไกการป้องกัน จากร่างกาย การหายใจปกติอนุภาคขนาดเล็กจะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ในร่างกายจะช่วยป้องกันความเสียหายได้ แต่บุคคลท่ีมีปัญหาทางเดิน ประมาณ 10 ไมครอน จะเขา้ ไปอยู่ในทางเดนิ หายใจบรเิ วณกล่องเสียง หายใจ เชน่ ผทู้ เี่ ปน็ โรคหอบหดื ผทู้ เี่ ปน็ โรคภมู แิ พเ้ รอ้ื รงั หรอื มกี ารอกั เสบ ในขณะท่ีอนุภาคขนาดเล็กทม่ี ีเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางน้อยกวา่ 2.5 ไมครอน ทางเดนิ หายใจ หรอื ผทู้ หี่ ายใจเอาสารมลพษิ ในอากาศ เชน่ ควนั บหุ รหี่ รอื สามารถผา่ นเขา้ ไปถงึ บรเิ วณถงุ ลมปอดไปจนถงึ ระดบั เซลลใ์ นรา่ งกายได้ สูดโอโซน ความสามารถในการป้องกันตนเองอาจจะไม่มีประสิทธิภาพ ดังแสดงในรปู ที่ 4 ซ่ึงท�ำให้เสี่ยงต่อปอดจะเสียหายและเป็นอันตรายจากสารมลพิษอากาศ ไดม้ ากกว่าปกติ และจากงานวจิ ยั ของ Manuel A.Leiva G และคณะได้ รายงานวา่ อนั ตรายของ PM2.5 [4] กบั โรคหลอดเลอื ดสมอง ในรายงาน ว่าทกุ ๆ ความเขม้ ขน้ ของ PM2.5 ท่เี พ่ิมขึ้น 10 ug/m^3 มีความเสีย่ ง ของการเข้ารับการรักษาฉุกเฉินเน่ืองจากสาเหตุของหลอดเลือดสมอง รูปที่ 4 ตัวอย่างอันตรายจากการสดู หายใจฝนุ่ [4] รปู ที่ 5 ห้องปฏบิ ัตกิ ารทดสอบหน้ากากและสรา้ งความตระหนกั ในการใส่หนา้ กาก ทม่ี า: www.lampangzero.com ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยวิจัยสนามไฟฟ้าประยุกต์ในงานวิศวกรรม สารเคมีบางชนิดท่ีผ่านเข้ามาในระบบทางเดินหายใจร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เรายังได้มีการสร้างความ อนภุ าคฝนุ่ ขนาดตา่ งๆ จะถกู ละลายรวมกบั เมอื กของเนอ้ื เยอ่ื บรเิ วณนนั้ ๆ ตระหนักให้ทุกคนหันมาสวมหน้ากากอนามัย การเลือกใช้หน้ากากให้ หรือเยื่อเมือกถุงลมปอด แล้วไหลผ่านเข้าไปสู่ระบบไหลเวียนโลหิต เหมาะสมกบั รูปหน้า วิธีการสวมใส่หน้ากากทถ่ี ูกวธิ ี ตลอดจนการกำ� จดั ท�ำให้เกิดการเสียหายต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย อนุภาคบางตัวอาจ ขยะหน้ากากอยากถกู วิธี ดังแสดงในรปู ท่ี 5 ซึง่ เปน็ สง่ิ หนึง่ ในยุควิถีชีวิต มีสารเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) หรือสารก่อกลายพันธ์ ใหม่ (New Normal) ทท่ี ุกคนต้องปฏิบัติเพอื่ ป้องกนั ตัวเอง อีกทง้ั หน่วย (Mutagen) รวมอยู่ด้วย เช่น อนุภาคที่เกิดจากการเผาไหม้อย่าง วจิ ยั เรายงั ไดม้ กี ารบรกิ ารวชิ าการในการตรวจวเิ คราะหท์ ดสอบหนา้ กาก ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งอนุภาคขนาด PM 10 และ โดยสามารถติดตามการท�ำงานของเราได้ผ่านทางสนามไฟฟ้าประยุกต์ PM 2.5 ท่ีส่งผลกระทบกับผู้คนท่ัวไปเกิดมาจากองค์ประกอบทาง ในงานวศิ วกรรม Face Book : RUEE RMUTL เพ่ือใหไ้ ดท้ า่ นข่าวสารและ เคมีต่างชนิดกันปนเปื้อนอยู่ สารเคมีบางตัวมีคุณสมบัติออกซิแดนท์ องค์ความรู้ดีๆ ต่อไป จึงทำ� ให้เกิดผลกระทบตอ่ สุขภาพ เชน่ สารโลหะทม่ี ีคาร์บอน กรดเกลอื สารมลพิษอินทรีย์ รวมไปถึงสารมลพิษชีวภาพท่ีเป็นเช้ือรา ไวรัส หรือแบคทีเรีย เมื่อหายใจเข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดเปลี่ยนแปลง ระบบภูมิต้านทานของระบบหายใจ ท�ำให้เกิดการอักเสบหรือ โรคภูมิแพ้ เชน่ ไอ เจบ็ คอ การหายใจผดิ ปกติ ตลอดจนทำ� ให้โรคหัวใจ ก�ำ เริบได้ ส่งผลให้การตายจากโรคทางเดินหายใจมีอัตราเพ่ิมสูงข้ึน ซงึ่ การศกึ ษาวจิ ยั ถงึ การตอบสนองของเซลลเ์ ยอ่ื บผุ วิ ของทาง เดนิ หายใจจากการกระตนุ้ ดว้ ยสารกอ่ ภมู แิ พโ้ ดย อษุ ณยี ์ วนิ จิ เขตคำ� นวณ และคณะ [3] การศึกษาพบว่าการค่ังค้างของอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก (PM 2.5) ในถุงลมปอดจะก่อให้เกิดอันตรายต่อเม็ดเลือดขาว เพราะเมด็ เลอื ดขาวจะกนิ อนภุ าคฝนุ่ ขนาดเลก็ เขา้ ไป เพอ่ื ทำ� ลายโดยกลไก ทางชีวเคมีสามารถท�ำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด เม็ดเลือดขาว จะถกู กระตนุ้ และจะหลง่ั สารเรง่ กระบวนการอกั เสบออกมาสกู่ ระแสเลอื ด 13วารสาร
วิธีการฆา่ มัจจรุ าชฝุ่น ซงึ่ ท่ีผ่านมาหน่วยวิจัยสนามไฟฟา้ ประยกุ ต์ในงานวศิ วกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ยังมีการออกแบบและ การควบคุมการปล่อยฝุ่นสามารถท�ำได้ 2 วิธี คือ [2-9] สร้างเคร่ืองบ�ำบัดและฆ่าเชื้อโรคในอากาศภายในอาคารโดยใช้เทคนิค การควบคมุ โดยการเจอื จางในบรรยากาศ และการควบคมุ ทแ่ี หลง่ กำ� เนดิ เชิงไฟฟ้าสถิต เพื่อแก้ปัญหาในเคร่ืองมือวัดฝุ่นละอองในบรรยากาศ วธิ แี รกนน้ั ทำ� ไดง้ า่ ยโดยการเพมิ่ ขนาดความสงู ของปลอ่ งหรอื การใชป้ ลอ่ ง โดยอาศัยการทางไฟฟ้าสถิต (electrostatic technique) และ ไฟเผาให้ความร้อน ท�ำให้ฝุ่นละอองพุ่งกระจายออกไปภายนอกและ การสร้างห้องต้นแบบ Safe Zone ที่น�ำหลักการบ�ำบัดและฆ่าเชื้อโรค ฝุ่นละอองถูกเจอื จางในอากาศ วิธที ีส่ องคือ การควบคมุ ทีแ่ หล่งกำ� เนดิ ในอากาศภายในอาคารโดยใช้เทคนิคเชิงไฟฟ้าสถิตมาใช้โดยขยายผล อาจท�ำได้โดยการเลือกชนิดเช้ือเพลิงและกระบวนการผลิตที่ปล่อย ไปสู่มหาวทิ ยาลยั ทงั้ 6 พน้ื ที่ ประกอบด้วย เชียงราย นา่ น เชยี งใหม่ ฝุ่นละอองน้อย หรือการติดตั้งอุปกรณ์ดักจับฝุ่นละอองก่อนปล่อยออก ลำ� ปาง ตาก และพิษณโุ ลก และยังมกี ารนำ� ไปใชป้ ระโยชน์ของเครอื่ ง ส่บู รรยากาศ ทัง้ นข้ี นึ้ อยู่กบั ความเหมาะสม บำ� บดั และฆา่ เชอื้ โรคในอากาศภายในอาคารโดยใชเ้ ทคนคิ เชงิ ไฟฟา้ สถติ สำ� หรบั ผใู้ ชง้ านในโรงพยาบาล โดยตวั เครอื่ งจะมขี นาดเลก็ นำ�้ หนกั เบา สามารถเคล่ือนย้ายได้ง่าย สวยงาม มีค่าใช้จ่ายในการบ�ำรุงรักษาต�่ำ และประหยัดพลงั งาน ให้ประสิทธภิ าพสงู ในการฆา่ เช้อื โรค โดยเฉพาะ เชื้อแบคทีเรีย ควันบุหรี่ ฝุ่นและกลิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหน่ึงของโรค เยอื่ หุม้ สมองอักเสบ โรคปอดอกั เสบ และโรคทางเดินหายใจอ่นื ๆ เชน่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด จึงเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ และแกไ้ ขปญั หาได้ ดงั แสดงในรปู ที่ 7 (ก) ไซโคลน [10] (ข) การตกตะกอนแบบเปียก [11] (ค) เครอ่ื งตกตะกอนเชงิ ไฟฟ้าสถติ [12] รูปที่ 7 ผลงานสิง่ ประดษิ ฐ์หนว่ ยวจิ ัยสนามไฟฟ้าประยกุ ต์ในงานวิศวกรรม รูปท่ี 6 ระบบกำ� จดั อนภุ าคแบบตา่ งๆ วิธีการควบคุมฝุ่นละอองมีหลายวิธีการขึ้นอยู่กับลักษณะ กายภาพ ความเป็นพิษและองค์ประกอบของฝุ่น อุปกรณ์ดักแยก ฝุ่นละอองถูกออกแบบโดยการใช้คุณสมบัติทางฟิสิกส์ เคมี หรือไฟฟ้า วิธแี ละเครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการแยกฝุ่นในปัจจุบัน ดังแสดงในรปู ที่ 6 ได้แก่ เชน่ เครอื่ งคดั แยกจากแรงเฉอื่ ยหรอื ไซโคลน (Cyclone) การตกตะกอน แบบเปียก (Wet Collector) ผ้ากรอง (Fabric Filter) และเครื่อง ตกตะกอนเชิงไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Precipitator) โดยปัจจุบัน นยิ มใชว้ ธิ เี ครอื่ งตกตะกอนเชงิ ไฟฟา้ สถติ มากขน้ึ เนอ่ื งจากสามารถกำ� จดั อนภุ าคฝุน่ ไดถ้ งึ 95 เปอร์เซ็นต์ และคา่ ใชจ้ ่ายในการด�ำเนนิ งานตำ�่ 14 วารสาร
บทสรปุ [3] อษุ ณยี ์ วนิ จิ เขตคำ� นวณ ธรี ะ ชโี วนรนิ ทร์ และณรงคพ์ นั ธ์ ฉนุ รมั ย,์ “การท�ำลายดีเอนเอของเซลล์ถุงลมปอดจากการออกซิไดส์ ฝุ่นมัจจุราชภัยเงียบ ที่ควรต้องระวังซึ่งสามารถท่ีจะ ดว้ ยสารสกดั จากฝนุ่ ขนาดเลก็ PM 2.5 และ PM 10 ในอากาศ สง่ ผลกระทบโดยตรงกบั ทกุ คน อนั ตรายสงู สดุ ถงึ ขนั้ เสยี ชวี ติ โดยฉบั พลนั เชียงใหม่และล�ำพูน”, รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์เสนอ ซึ่งจะเห็นได้จากสถิติของเชียงใหม่และจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือมี สำ� นกั งาน กองทุนสนบั สนนุ การวจิ ยั (2550). แนวโนม้ ของผปู้ ว่ ยดา้ นระบบทางเดนิ หายใจมากขน้ึ สง่ ผลมาจากปรมิ าณ [4] Manuel A.Leiva G, Daniela A.Santibañez, SergioIbarra E, อนุภาคฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศมากข้ึน สิ่งหนึ่งมาจากการได้ PatriciaMatus C and RodrigoSeguel,“A five-year study สดู ดมฝุน่ ขนาดฝนุ่ PM 10, PM 2.5 และขนาดฝุน่ PM 0.1 ผา่ นเขา้ มา of particulate matter (PM2.5) and cerebrovascular ในระบบทางเดนิ หายใจจะถกู ละลายรวมกบั เมอื กของเนอื้ เยอ่ื บรเิ วณนน้ั ๆ diseases”, Environmental Pollution,Volume 181, หรือเยื่อเมือกถุงลมปอด แล้วไหลผ่านเข้าไปสู่ระบบไหลเวียนโลหิต October 2013, Pages 1-6 ท�ำให้เกิดการเสียหายต่อเนื้อเยื่อของร่างกาย อนุภาคบางตัวอาจมี [5] กรมควบคมุ มลพษิ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม, สารเคมีท่ีเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) หรือสารก่อกลายพันธ์ “ประกาศคณะกรรมการส่งิ แวดลอ้ มแห่งชาติ ฉบับท่ี 1 (พ.ศ. และอื่นที่กล่าวมาข้างต้นอย่างมากมาย อีกท้ังมีผลกระทบต่อทัศนวิสัย 2538) เรื่อง ก�ำหนดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ อากาศตามฤดูกาล หากบริเวณท่ีเราอาศัยอยู่มีจ�ำนวนของขนาดฝุ่น โดยทั่วไป”, หน้า243-246, เมษายน 2538. PM 10, PM 2.5 และขนาดฝนุ่ PM 0.1มากข้ึน ซ่งึ ทกุ ๆ ความเข้มข้นของ [6] กลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยส่ิงแวดล้อม ศอ.4, PM2.5 ทเี่ พม่ิ ขนึ้ 10 ug/m^3 จะมคี วามเสยี่ งของการเขา้ รบั การรกั ษา http://hpe4.anamai.moph.go.th/hia/hia_power.php ฉุกเฉินเนื่องจากสาเหตุของหลอดเลือดสมองเพ่ิมขึ้น 1.29% น้ีคือส่ิงที่ [7] พานชิ อนิ ต๊ะ, “เครอื่ งตกตะกอนเชงิ ไฟฟ้าสถติ สำ� หรบั การควบคมุ น่ากลัวของฝุ่นมัจจุราชภัยเงียบ ดังน้ันจึงควรมีการช่วยกันป้องกันโดย มลภาวะทางอากาศจากอุตสาหกรรม”,วารสาร Technic ลดการสรา้ งแหลง่ กำ� เนดิ ฝนุ่ เขมา่ ควนั ตา่ งๆ ตลอดจนการสวมหนา้ กาก Magazine, ปที ี่ 22, ฉบบั ที่ 252, หน้า109 – 122, สงิ หาคม ทุกครั้งในการท�ำกิจกรรมนอกบ้าน และแหล่งพื้นที่มีจ�ำนวนคนมากๆ (2548). โดยเลอื กใชแ้ ละสวมใสห่ นา้ กากอยา่ งถกู วธิ ี และหากหนว่ ยงานทมี่ คี วาม [8] พานิช อินต๊ะและ ณัฐวุฒิ ดุษฎี, “ศักยภาพการดักจับอนุภาค พร้อมควรมีการส่งเสริมให้มีการสร้างห้องสะอาดปลอดฝุ่น ปลอดเช้ือ แขวนลอยจากเตาเผาชีวมวลด้วยเทคนิคการตกตะกอน Safe Zone ไว้ส�ำหรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินส�ำหรับรองรับผู้ป่วยหรือ เชงิ ไฟฟา้ สถติ ”ิ , การประชมุ วชิ าการเรอื่ งการถา่ ยเทพลงั งาน ผู้สูงอายุได้ด้วย ด้วยความรักและห่วงใยทุกคน ผู้เขียนจึงอยากเห็นมี ความร้อนและมวลในอุปกรณ์ด้านความร้อน คร้ังที่ 6, ฟา้ ใส อากาศบริสทุ ธิ์ สามารถสูดอากาศเขา้ ไปไดอ้ ยา่ งเตม็ ปอด จึงขอ เชยี งใหม่, 15-16 มนี าคม (2550). เชิญชวนให้พี่น้องทุกท่านร่วมกันลดการเผาท่ีเป็นจะแหล่งก�ำเนิดของ [9] ปราโมช เชย่ี วชาญ, “อปุ กรณค์ วบคมุ มลพษิ อากาศชนดิ อนุภาค”, อนภุ าคฝนุ่ และมารว่ มกนั สรา้ งปอด (ปลกู ตน้ ไม)้ ใหม้ ากขน้ึ เพอื่ ทจ่ี ะได้ มอี ากาศใหก้ บั ลกู หลานไดห้ ายใจอยา่ งเตม็ ปอด อยา่ รอใหถ้ งึ เวลาทค่ี ำ� วา่ http://www.safety-stou.com/UserFiles/File/54114-5.PDF “หายใจได้เตม็ ปอด” จะถกู ลบเลอื นไปจากผ้คู นในเมืองเชียงใหมเ่ รา [10] บรษิ ัทTIGE , “เคร่อื งดดู ฝุ่นอุตสาหกรรม”,http://th.cntgboiler. com/industrial-dust-collector/baghouse/blast-dry- 6. กติ ตกิ รรมประกาศ filter-portable-cyclone-cabinet.html [11] Rajdeep Boiler Private Limited, “Water Scrubber”, https:// ผเู้ ขยี นขอขอบพระคณุ หนว่ ยวจิ ยั สนามไฟฟา้ ประยกุ ตใ์ นงาน www.indiamart.com/proddetail/water-scrub วศิ วกรรม Research Unit of Applied Electric Field in Engineering ber-10789973791.html (RUEE) วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี [12] บรษิ ัท อันดาเทค จ�ำกดั , “Electrostatic Precipitator ( ESP ) ราชมงคลล้านนา ระบบดักฝุ่นแบบไฟฟ้าสถิต”, https://andatech.co.th/ content/electrostatic-precipitator/ 7. เอกสารอ้างอิง [13] ไทยโพสต์), “นายกฯจ้ีผู้ว่าฯ ดับไฟดอยสุเทพ”, 27 มีนาคม พ.ศ. 2563, https://www.thaipost.net/main/ [1] มงคล รายะนาคร, “หมอกควันและมลพษิ ทางอากาศในจังหวดั detail/61069 เชยี งใหม”่ , สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ [14] Lux Royal (Thailand), “ปัญหา มลพิษทางอากาศ”, (สสส.), มีนาคม, (2553). https://lux.co.th/cpt_blog/air-pollution-problem/ [2] พานชิ อินต๊ะ และธเนศวร ศริ อิ าชวะวฒั น์ “การวัดความเข้มขน้ เชิงจ�ำนวนและมวลของฝ่นุ PM2.5 ในอากาศโดยรอบทพ่ี ้นื ที่ ดอยสะเก็ดในช่วงฤดูกาลเผาในเชียงใหม่”, วารสารวิจัย เทคโนโลยนี วัตกรรม, ปีที่1, ฉบับท่2ี , มกราคม-มถิ ุนายน 2561. 15วารสาร
คยุ กบั นักวจิ ยั : The Researcher รดนอักรวง.จิ พศยั าฝาสุน่ ตน:ริชาจาอรยนิ ์. ต๊ะ ถ้ามันมีฝุ่น มนั ต้องมี ฝุน่ มองไม่เหน็ แต่ไมม่ องข้าม อปุ กรณป์ อ้ งกัน ถ้าเราแก้ ทแ่ี หลง่ กำ� เนดิ ไมไ่ ด้ จรงิ ๆเราเร่มิ พฒั นาเคร่อื งวดั PM 2.5 ต้งั แต่ปี 2550 แลว้ เร่ิม เราต้องมาป้องกันตวั เอง มกี ารนำ� ไปใชง้ านจรงิ ประมาณปี 54-55 ถอื วา่ เปน็ คนกลมุ่ แรกๆ ทที่ ำ� ให้ เกดิ การรับรูข้ ่าวสารเร่อื ง PM 2.5 ก็เป็นได้ หลายปีมากเราจมอยู่กับการท�ำเคร่ืองวัดฝุ่น เพื่อที่จะให้ บ้านเราได้มีเคร่ืองมือตัวนี้ก่อน เพื่อจะเป็นตัวท่ีจะช้ีให้เห็นว่าบ้านเรามี PM 2.5 จรงิ ใช้เทคโนโลยีทเ่ี กิดจากการวจิ ยั ของที่แล็บเอง พัฒนาเป็น เครื่องวดั PM 2.5 ซงึ่ สามารถตรวจวดั PM 2.5 ได้ในยคุ นั้น เราท�ำสถานีตรวจวัดท้ังภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ก็มี ภาคอีสานด้วยเพื่อดูข้อมูล PM 2.5 จากเคร่ืองมือวัดของเราเองด้วย เทียบกับเครือ่ งมือทีเ่ ปน็ มาตรฐาน เพราะฉะน้นั มนั สามารถท่ีจะทดแทน เคร่ืองมือท่ีน�ำเข้าแล้วก็สามารถเพิ่มจ�ำนวนจุดตรวจวัดได้ ตอนนี้เรา ผลักดันถึงขั้นให้ตัวเคร่ืองท่ีเราพัฒนามีมาตรฐานรับรอง มี มอก. อนาคตอาจจะเป็นเครื่องวัดฝุ่นที่สามารถผลิตได้ในเมืองไทยแล้วก็เป็น เคร่อื งวดั ท่ีมมี าตรฐานเทียบเทา่ กบั ของตา่ งประเทศ 16 วารสาร
ฝนุ่ ยงั แก้ไมไ่ ด้ แตป่ อ้ งกันได้ ปัญหาฝุ่นเป็นปัญหาระยะยาว ไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้ ภายในเรว็ วนั ถา้ มกี ารใชพ้ ลงั งาน มกี ารทำ� เกษตรกรรมในจำ� นวนมากๆ หรือเป็นอุตสาหกรรมแบบนี้ ยังไงเราก็หลีกหนีไม่พ้นเรื่องของคุณภาพ อากาศท่มี นั จะเลวรา้ ยมากข้นึ ถ้ามฝี ุ่นแลว้ เราไมค่ ิดที่จะแก้ ไมค่ ิดท่ีจะ ท�ำอุปกรณ์ป้องกันให้คนที่อยู่ไม่รู้ก่ีแสนก่ีล้านในบ้านเราใช้ และปัญหา เร่ืองของคุณภาพหน้ากากที่มีขาย มีหน้ากากทั้งแท้ทั้งเทียมเยอะแยะ มากมายในตลาด ต้องบอกก่อนว่าของพวกน้ีเราไม่รู้ว่ามีมาตรฐาน ไม่รู้ว่ามีคุณภาพหรือเปล่า ซึ่งก่อนหน้านี้ผมสุ่มตรวจหน้ากาก 300 กวา่ ยห่ี อ้ ปรากฏวา่ มีไมก่ ย่ี หี่ อ้ ทผี่ า่ นคา่ มาตรฐาน เลยทำ� ใหเ้ รารสู้ กึ ว่าเราควรจะต้องเข้ามาสนใจที่จะพัฒนาท�ำหน้ากากท่ีมีคุณภาพออกมา อยา่ งนอ้ ยก็เกดิ จากการวิจัยของเราทท่ี �ำออกมา คนทจี่ ะใชห้ นา้ กากเรา มคี วามมน่ั ใจ มุ่งพฒั นา หาแนวรว่ ม ไดโ้ จทยม์ าใหมว่ า่ Win Masks ตวั น้ี มนั ยงั ไมไ่ ดเ้ ปน็ หนา้ กาก แบบ N95 ซึ่งตอนน้ีหมอจริงๆต้องคลุกคลีกับผู้ป่วยหรือว่าต้องตรวจ ผู้ป่วยใกล้ชิดจริงๆ ต้องการหน้ากาก N95 หาผู้ประกอบการท่ีเขา ผลิต N95 อยู่แล้ว ให้ผู้ประกอบการเข้ามาร่วมวิจัยด้วย เพ่ือให้ ออกแบบหน้ากากได้ตามวัตถุประสงค์ ก็น่าจะเป็น N95 หรือ KN95 ที่มีผู้ประกอบการไทยแล้วก็ผ่านกระบวนการวิจัย มีระบบระเบียบ ของการวิจยั ตอนน้ีใกล้เสร็จแลว้ เหลือขัน้ ตอนการทำ� Fit Test ซึ่งกค็ ือ การทดสอบเร่ืองการพอดีต่อการสวมใส่ของใบหน้า ก�ำลังจะออกมา เพอ่ื บรจิ าค 60,000 ชิน้ ส�ำหรับหมอในลอตแรก หัวใจของนักวิจัย นวัตกรรมตัวนี้มันยังไม่ถึงจุดที่ Final ไม่ถึงจุดที่ส้ินสุด มันต้องพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆอีก ไปถึงจุดที่ความบกพร่องน้อยท่ีสุด ท�ำให้มันใกล้ความสมบูรณ์แบบมากย่ิงข้ึน แต่เราคิดว่างานวิจัยเรา นา่ จะทำ� ใหค้ นกลบั มาใชช้ วี ติ ใกลเ้ คยี งปกติ คนมคี วามรสู้ กึ มน่ั ใจวา่ ใสต่ วั นี้ หรอื วา่ ไดด้ คู า่ ตวั นแ้ี ลว้ ออกไปทำ� งานได้ คนกลมุ่ เลก็ ๆทที่ ำ� งานทางดา้ นน้ี แลว้ ก็ท�ำงานในส่งิ ทเ่ี ราชอบและมคี วามท้าทายวา่ เราอยากเหน็ สง่ิ ทีเ่ รา ทำ� หรอื นวตั กรรมมคี นใช้ เราไมไ่ ดม้ องวา่ เราจะทำ� วนั นแ้ี ลว้ มคี นใชพ้ รงุ่ น้ี เรามองวา่ ทำ� แลว้ อนาคตมคี นใชแ้ นน่ อน ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งขายได้ ไมจ่ ำ� เปน็ ต้องมเี งินทอง เครื่องวัดฝุน่ อยา่ งน้มี คี นดูขอ้ มูลเรา มีคนใช้หน้ากากเรา แคน่ เี้ รากถ็ อื วา่ มีความสุขในชีวิตของนักวจิ ัย ทม่ี าบทความ : บทสมั ภาษณ์ รองศาสตราจารย์ ดร.พานชิ อนิ ตะ๊ ในรายการ 5 นาทมี พี ลงั : นกั วจิ ยั ฝนุ่ ในวนั จนั ทรท์ ่ี 1 มนี าคม 2564 เวลา 05.00 น. ทางเพจ คนค้นฅน : https://www.facebook.com/kontvburabha/ 17วารสาร
: เรื่องเล่าชาวล้านนาสจา่ธู การอาจุ รฉะุปมัพงิ คพ์นตทาี ศักดน์ิ รินทร์ ชาวงวิ้ : เรอ่ื ง อาพชั รี ศริ ินาโพธิ์ : ภาพ “26 มนี าคม 2564 วันหยุดประจำ� เพ่ือเป็นการส่งเสริมกิจกรรมให้สอดคล้องกับวันหยุดพิเศษดังกล่าวน้ัน ภาคเหนือ วนั ไหว้พระธาตปุ ระจำ� ปี ” ทางศูนย์วัฒนธรรมศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นวันหยุดท่ีท�ำเอาหลายคนงงงวยไปตาม ๆ กัน ด้วยเป็น วันหยุดท่ีประกาศแบบไม่มีพื้นฐานอะไรเลย วันไหว้พระธาตุประจ�ำปี เลง็ เหน็ ถงึ โอกาสอนั ดที จี่ ะไดจ้ ดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรนู้ อกสถานท่ี ของภาคเหนือ แต่ละท่ีก็มีวันประจ�ำของตนท้ังน้ัน และแตกต่างกันไป เช่น งานหกเป็ง (วันเพ็ญเดือนส่ี ใต้) เป็นวันไหว้พระธาตุดอยตุง กบั ประเพณีไหวพ้ ระธาตปุ ระจำ� ปี ในรปู แบบสกั การะไหวพ้ ระธาตสุ ำ� คญั พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุช่อแฮ, วันแปดเป็ง (วันเพ็ญเดือนหกใต้) เปน็ วนั ไหวพ้ ระธาตหุ รภิ ญุ ชยั , พระเจา้ ตนหลวงเมอื งพะเยา หรอื วนั เกา้ เปง็ ในนครเชยี งใหมข่ ้นึ ในกาลนี้ (วนั เพ็ญเดอื นเจด็ ใต)้ เปน็ วันสรงน�้ำพระธาตศุ รจี อมทอง เปน็ ตน้ การที่รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดไหว้พระธาตุประจ�ำปีนั้น วัดในจังหวัดเชียงใหม่ ก็มีการศึกษาและสักการะในหลาย จงึ เกดิ คำ� ถามในใจขน้ึ มา เกดิ กระแสการวพิ ากษว์ จิ ารณก์ นั ในโลกสงั คม ออนไลน์อยา่ งยิ่ง รปู แบบและเสน้ ทาง มที ง้ั การไหวพ้ ระ 9 วดั ทมี่ ชี อ่ื อนั เปน็ มงคล หรอื การ ในภาครฐั เฉพาะในเขตภาคเหนอื ทัง้ 17 จังหวดั เป็นวนั หยดุ ขณะท่ีภูมิภาคอ่ืน ๆ เป็นวันราชการตามปกติ และในส่วนหน่วยงาน ไหวพ้ ระตามรปู แบบศลิ ปะ เชน่ วดั ในรปู แบบศลิ ปกรรมลา้ นนา ทป่ี รากฏใน การศึกษาระดับมหาวิทยาลัย มีหนังสือส�ำนักงานปลัดกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีหนังสือ เลขที่ อำ� เภอเมอื งและอำ� เภอหางดง หรอื วดั ในรปู แบบศลิ ปะพมา่ ในอำ� เภอเมอื ง อว ๐๒๒๑.๑/ว๖ ไดแ้ จง้ กำ� หนดวนั หยดุ ราชการเพมิ่ เตมิ เปน็ กรณพี เิ ศษ นน้ั เชยี งใหม่ กเ็ ปน็ สิ่งทนี่ า่ สนใจเป็นอย่างยงิ่ ซ่ึงสามารถดำ� เนินการภายใน ระยะเวลา 1 วันได้ กระแสหน่ึงที่เกิดข้ึนพร้อมกับวันหยุด น่ันก็คือ เร่อื ง “ชธุ าต”ุ หรอื พระธาตปุ ระจำ� ปีเกิด ความเชื่อเรอื่ ง “ชธุ าตุ” น้ัน ชาวล้านนาเช่อื วา่ กอ่ นท่คี นเรา จะมาถือเอาก�ำเนิดปฏิสนธิในครรภ์มารดานั้น ดวงวิญญาณท่ีจะจุติ จากภพภูมอิ ่ืน จะไป “ชุ” หรือไปสถิตยังพระธาตุประจำ� ปเี กดิ เสียกอ่ น จากนนั้ จงึ มาตงั้ อยบู่ นกระหมอ่ นของพอ่ แลว้ จงึ เคลอื่ นเขา้ สคู่ รรภม์ ารดา จนถือกำ� เนิดในภวะชาติน้ี 18 วารสาร
ท�ำให้เชื่อว่าและในชีวิตหนึ่งน้ัน จะต้องไปกราบไหว้สา “จากอุจฉุปัพพตา” คือเริ่มจากดอยสุเทพ “สู่ธาราระมิงค์นที” คือ พระธาตุประจำ� ปเี กดิ ใหไ้ ด้สกั ครั้งหนง่ึ พระธาตปุ ระจำ� ปเี กดิ มดี งั น้ี สิ้นสุดที่ฝั่งน้�ำปิง คือจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นปฐม ไปสู่ • ผู้ที่เกิดปี ใจ้ หรือปีชวด พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ วัดเกตการาม ในเบ้ืองปลาย พระธาตศุ รจี อมทอง อจุ ฉปุ พั พตา คอื ดอยออ้ ยชา้ ง บางทกี เ็ รยี กดอยกาละ บางทกี ็ • ผู้ท่ีเกิดปี เป้า หรือปีฉลู พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ พระธาตุลำ� ปางหลวง เรียกว่าดอยเหนอื คกู่ บั ดอยใต้หรือดอยคำ� และตอ่ มาก็เรยี กตามชอ่ื ฤๅษี ทอ่ี ยบู่ นดอยนน้ี ามวา่ ฤๅษวี าสเุ ทพ กเ็ รยี กวา่ “ดอยสเุ ทพ” อนั เปน็ ทรี่ จู้ กั • ผู้ที่เกิดปี ยี หรือปีขาล พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ แม้ว่าเป็นวนั หมุดผู้คนกย็ งั เท่ยี วไมม่ ากอยา่ งทค่ี ดิ ไว้ ด้วยอาจ พระธาตุชอ่ แฮ ดว้ ยเวลาเชา้ และหยดุ เฉพาะในเขตภาคเหนอื จงึ ทำ� ใหผ้ คู้ นยงั มีไมม่ ากนกั • ผู้ทเี่ กดิ ปี เหม้า หรอื ปเี ถาะ พระธาตปุ ระจำ� ปีเกิดคือ พระธาตแุ ช่แหง้ บันไดนาคจึงเป็นหมุดหมายหนึ่งท่ีใครข้ึนดอยต้องแวะถ่ายภาพกัน • ผู้ท่ีเกดิ ปี สี หรอื ปีมะโรง พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ เสียก่อน และเดินข้ึนบันไดไป รอบน้ีทุกคนพร้อมใจกันเดินข้ึนบันได พระพุทธสหิ งิ ส์ (พระสิงห)์ อย่างยม้ิ สู้ • ผู้ทเ่ี กดิ ปี ไส้ หรือปมี ะเสง็ พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ โพธิบัลลงั ก์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย • ผู้ทเี่ กิดปี สะงา้ หรอื ปมี ะเมยี พระธาตปุ ระจำ� ปเี กิดคอื พระธาตุชเวดากอง เมืองย่างกงุ้ แห่งสหภาพเมียนมา • ผู้ที่เกิดปี เม็ด หรือปีมะแม พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ พระธาตุศดอยสุเทพ • ผู้ท่ีเกิดปี สัน หรือปีวอก พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ พระธาตพุ นม • ผทู้ ่เี กิดปี เรา้ หรือปรี ะกา พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ พระธาตหุ รภิ ญุ ชัย • ผู้ที่เกิดปี เส็ด หรือปีจอ พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ พระธาตุเกศแกว้ จุฬามณบี นสวรรคช์ ้นั ดาวดึงส์ • ผู้ที่เกิดปี ไค้ หรือปีกุน พระธาตุประจ�ำปีเกิดคือ พระธาตุดอยตงุ จะเหน็ วา่ มพี ระธาตสุ ำ� คญั ทอี่ ยู่ในเชยี งใหม่ ถงึ 3 องค์ นนั่ คอื พระธาตดุ อยสเุ ทพ พระพทุ ธสหิ งิ ค์ (พระสงิ ห)์ และพระธาตศุ รจี อมทอง และตัวแทนพระธาตุอีก 2 องคใ์ นเชยี งใหม่ คือ วัดโพธาราม (เจ็ดยอด) ที่จ�ำลองศิขรเจดีย์และสัตมหาสถานท่ีพุทธคยามาไว้ที่เชียงใหม่ และ วดั เกตุการาม ท่เี ปน็ ตัวแทนของพระเกศแกว้ จุฬามณี ซึ่งความเช่ือเร่ือง “ชุธาตุ” น้ีแม้ว่าจะเกิดข้ึนในยุคของ การรวมศูนย์เข้าสู่ส่วนกลางของสยาม และมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง เพ่ือเป็นการสร้างเครือข่ายทางการเมือง โดยซ่อนผ่านทางพุทธศาสนา (ดูเพิ่มเติมในงานวิจัยเร่ือง “ชุธาตุ : บทบาทและความหมายของ พระธาตุในอนุภูมิภาคอุษาคเนย์ กรณีศึกษาความเช่ือเรื่องพระธาตุปี เกดิ ในลา้ นนา” ของ ผศ.เธยี รชาย อักษรดษิ ฐ)์ ดังนั้นเพื่อเป็นการแสวงบุญใน พื้น ที่อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้โดยสะดวกนนั้ จึงเลือกชธุ าตุที่สำ� คญั และไปมาโดย สะดวก คอื พระธาตดุ อยสเุ ทพ วดั พระสงิ ห์ วดั โพธาราม (เจด็ ยอด) และ วัดเกตการาม เปน็ พื้นที่สักการะและศกึ ษาเรยี นร้ใู นคร้ังนี้ 19วารสาร
พระธาตุดอยสุเทพวันนั้นยังคงอยู่ในช่วงการบูรณะ แต่ ศรัทธาปสาทะยงั คงมกี นั อยอู่ ยา่ งลน้ ปรี่ การไหวพ้ ระเปน็ การระลกึ นกึ ถงึ ยงั พระผมู้ พี ระภาคพระองค์น้นั ผรู้ ู้ ผูต้ ื่น ผ้เู บกิ บาน คือพทุ ธะ เมื่อทุกคนไหว้พระกันเสร็จสรรพ ก็น�ำชมวิหารด้านเหนือ ที่บอกเล่าเร่ืองราวขององค์พระธาตุ ท่ีพระสุมนเถระน�ำมาจากสุโขทัย มาพักอยู่ท่ีวัดพระยืน ล�ำพูนช่วงหนึ่ง แล้วจึงมาอยู่ที่วัดสวนดอก ตอ่ มาเมอื่ มกี ารสรงนำ้� พระธาตุ พระธาตไุ ดแ้ ตกเปน็ องคเ์ ลก็ ๆ หลายองค์ ส่วนหนงึ่ ประจไุ วท้ ีว่ ดั สวนดอก ส่วนหน่งึ ไวท้ เี่ มอื งตาก และสว่ นหนง่ึ ได้ อัญเชิญข้นึ หลังชา้ งเผอื กเส่ยี งทาย จนมาไดบ้ ริเวณดอยน้ี จงึ ไดข้ ดุ หลมุ บรรจพุ ระธาตุและสร้างเจดีย์ครอบพระธาตุเอาไว้ ดอยสุเทพจึงมีความศักด์ิสิทธิ์มาในทุกยุคสมัย ตั้งแต่ความ เช่ือเร่ืองผีอารักษ์ปู่แสะแห่งดอยเหนือ มาจนถึงความศักด์ิสิทธิ์แห่ง องค์พระธาตดุ อยสุเทพแห่งน้ี พระธาตุดอยสุเทพ เป็นชุธาตุส�ำหรับคนเกิดปีเม็ด หรือ ปีมะแม จึงมรี ูปแพะหนิ อยสู่ องตวั ทางดา้ นตะวนั ออกของพระธาตุ วันนี้จึงเดินชมส่ิงท่ีน่าสนใจต่าง ๆ บริเวณวัดโดยเฉพาะ แผนทด่ี าว ตรงเพดานวหิ ารหลวงดา้ นทศิ ใต้ ทสี่ รา้ งขนึ้ ในสมยั เจา้ แกว้ นวรฐั เป็นรูปกลุ่มดาวนักขัตฤกษ์ท้ัง 27 กลุ่มดาว ในจังหวัดเชียงใหม่เอง กห็ าชมได้ยากเตม็ ที 20 วารสาร
จากดอยศกั ดส์ิ ิทธ์ิ จึงไปส่ชู มพทู วปี แหง่ อษุ าคเนย์ ชมพทู วีปแหง่ อษุ าคเนย์ คอื วดั มหาโพธารามเจด็ ยอด หมุดหมายท่ี 2 ในการสักการะพระธาตุ คือวัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) เม่ือเข้าสู่บริเวณวัด ก็จะเห็นรูปปั้น “งู” อยู่มากมาย โดยเฉพาะบริเวณต้นโพธิหลังเจดีย์ ด้วยเป็นวัดท่ีเป็นตัวแทนของผู้ที่เกิด ปีงูเล็ก หรอื ปีมะเสง็ ตามระบบชธุ าตนุ ่นั เอง วัดเจด็ ยอดน้ี เป็นวดั โบราณและมีความส�ำคญั ทางด้านประวตั ศิ าสตรว์ ดั หน่งึ ของอาณาจักรลา้ นนา ท่ีสร้างข้ึนในช่วงเหตุการณ์ส�ำคัญนั่นคือเมื่อพุทธศาสนาล่วงกาลมาได้ 2,000 ปี โดย พระเจ้าติโลกราช โปรดเกลา้ ฯ ให้สรา้ งขึ้น เมอื่ พ.ศ. 1998 โปรดใหห้ มน่ื ดา้ มพรา้ คต หรอื สีหโคตรเสนาบดี เป็นนายชา่ งทำ� การ ก่อสร้าง ศาสนสถานและเสนาสนะข้ึนเปน็ พระอาราม โดยจำ� ลองแบบมาจากเจดียท์ พ่ี ทุ ธคยา ประเทศอินเดยี พรอ้ มทงั้ สรา้ งสตั ตมหาสถาน สถานอนั เสวยวมิ ตุ สิ ขุ ของพระพทุ ธเจา้ หลงั ตรสั รทู้ งั้ 7 สปั ดาห์ อกี ดว้ ย อกี ทง้ั โปรดฯ ให้นิมนต์พระมหาเถระชื่อพระอุตตมปัญญา มาสถิตเป็นอธิบดีสงฆ์องค์แรกในพระอารามนี้ ที่ได้เทศนาแก่ พระเจา้ สมเด็จติโลกราชจนเกดิ ให้ศรัทธา และเช่ือในเร่ืองอานสิ งส์ปลกู ต้นโพธิ์ ในเวลาต่อมา เมื่อโพธิบัลลังก์ พุทธคยาเมืองอินเดีย เป็นหมุดหมายของผู้ที่เกิดปีมะเส็งน้ัน วัดเจ็ดยอดจึงได้ ยึดโยงเข้าด้วยกัน เม่ือไม่สามารถเดินทางไปแสวงบุญยังอินเดียได้ ก็สามารถมาสักการะที่วัดเจ็ดยอดน้ี ได้เชน่ เดียวกัน ในสมยั พระเจ้าติโลกราช ศาสนาในเมืองเชยี งใหม่ มอี ยู่ 3 นิกาย คือนิกายดั้งเดมิ ทสี่ บื เน่อื งมาแต่ หรภิ ญุ ชัย นิกายสวนดอก หรือนิกายลงั กาวงศ์ ที่สบื มาแต่พระสมุ นเถระจากสโุ ขทยั และนิกายปา่ แดง หรือ นกิ ายสงิ หล ทพ่ี ระญาณคมั ภรี ไ์ ปสบื ศาสนามาจากลงั กา หรอื บางทกี เ็ รยี กวา่ ลงั กาใหม่ ทำ� ใหส้ งฆท์ งั้ สามนกิ าย มีขอ้ ขัดแยง้ กนั จึงทำ� การสังคายนาสงฆ์ท้งั สามฝ่าย ใหเ้ ป็นอนั หนงึ่ อนั เดยี วกัน นอกจากนี้ยังมี “กู่” หรือที่บรรจุอัฐิของพระเจ้าติโลกราช มหาราชของล้านนา ประดิษฐานไว้ ณ วัดแห่งนี้ พรอ้ มทง้ั มีพระบรมราชานุสาวรยี ์ของพระองค์ ประดษิ ฐ์ไว้เคยี งคกู่ บั กขู่ องพระองคด์ ้วย การท่ีได้มาสักการะที่วดั เจด็ ยอด ก็เปรยี บเหมือนหนง่ึ เดนิ ทางไปยงั ชมพทู วีปนัน่ ทเี ดียว 21วารสาร
จากโพธิบลั ลังก์ ไปสู่องค์พระสัมมาสมั พุทธเจ้า ณ วิหารลายคำ� จากวดั เจ็ดยอด สวู่ ดั พระสงิ ห์ วดั ทป่ี ระดิษฐานองค์พระสงิ ห์ หรือพระพทุ ธสหิ งิ ค์ อันเป็นรวมใจของชาวนครเชยี งใหม่ และชาวพทุ ธ ท่ัวโลก ดว้ ยพระพุทธสหิ งิ ค์ เปน็ ตัวแทนแห่งพระพุทธเจา้ นอกจากทจี่ ะ เป็นพระพุทธรูปแล้ว ตามต�ำนานยังกล่าวถึงการสร้างพระพุทธสิหิงค์ จากพระญานาคที่อยู่ทันสมัยพระพุทธเจ้าแปลงกายเป็นพระพุทธเจ้า ให้ช่างหล่อพระพุทธสิหิงค์ขึ้น น่ันกล่าวตามต�ำนาน แต่ก็ส่ือให้เห็น ถึงความส�ำคัญของพระพุทธรูปส�ำคัญองค์น้ี นั่นคือเป็นตัวแทนแห่ง พระพุทธเจ้าโดยตรง และเป็นชธุ าตุแหง่ ผู้ทีเ่ กิดปสี ี หรือปีมะโรงอกี ด้วย (บางทีก็จะหมายถงึ องค์พระธาตวุ ัดพระสงิ หก์ ม็ )ี วดั พระสงิ หเ์ ดมิ เรยี กวา่ วดั ลเี ชยี งพระ สรา้ งในสมยั พระญาผายู หลังจากเสด็จกลับมาประดับอยู่เชียงใหม่เป็นการถาวรแล้ว สร้างกู่ ของพระราชบิดาคือพระญาค�ำฟู ไว้ที่วัดแห่งน้ีด้วย ส่ิงส�ำคัญในวัดนี้มี หลากหลาย ไมว่ า่ จะเปน็ ตวั วหิ ารหลวงทมี่ พี ระศรสี รรเพชรประดษิ ฐานเปน็ พระประธาน ดา้ นหลงั วหิ ารขวางไวด้ ว้ ยอโุ บสถ ทเี่ รยี กวา่ อโุ บสถสองสงฆ์ ภายในอาคารมีมณฑปพระเจ้าทองทิพย์ ถัดจากอุโบสถสองสงฆ์คือ พระเจดีย์ และดา้ นใต้ของเจดียเ์ ป็นท่ตี ง้ั ของวิหารลายค�ำ ที่ประดิษฐาน พระสงิ หแ์ ละมจี ติ รกรรมฝาผนงั อนั ขน้ึ ชอื่ ของเจก๊ เสง็ เรอื่ งสงั ขท์ อง และ หนานโพธา เรอ่ื งสุวรรณหงส์ 22 วารสาร
จากนั้นจึงลัดเลาะไปสู่ฝั่งระมิงค์ธารา ด้านตะวันออก น่ันย่อมข้ามน้�ำแม่ปิงไปสู่ฝั่งตะวันออก ฝั่งที่เรียกว่ามีความหลาก หลายทางวัฒนธรรม ตรงนนั้ เรียกวา่ “ยา่ นวัดเกต” แนน่ อน เราไปยัง “วัดเกตการาม” วัดเกตการาม เป็นวัดเก่าแก่ตามประวัติวัดบอกว่าสร้างใน ปี พ.ศ. 1971 สมัยพระเจา้ สามฝ่ังแกน ผู้จดั การกอ่ สร้างวดั เกตการาม คือ พระยาเมอื ง พระยาคำ� และพระยาลอื เปน็ ผคู้ วบคุมขา้ ทาสบรวิ าร 2,000 คน เป็นผู้ก่อสร้าง ในสมัยพม่าปกครองมีการถวายส่ิงของ และขา้ คนเป็นขา้ พระธาตุวดั เกต อกี จ�ำนวนมาก ดังรายชอื่ ที่ปรากฏใน จารกึ วดั เกตการาม (ทีต่ ้ังไว้ด้านข้างของวิหาร) โดยในจารึกเรียกเจดยี ์ ของวัดน้ีว่า “พระเกสธาตุเจดีย์” จงึ พอ้ งกบั นามของพระเกศแกว้ จฬุ ามณบี นสวรรคช์ นั้ ดาวดงึ ส์ เมื่อความเช่ือเรื่อง “ชุธาตุ” เกิดขึ้นในล้านนา ด้วยพระเกศแก้วจุฬา มณีอยู่บนสวรรค์ ผคู้ นทวั่ ไปไม่สามารถไปถึงได้ เวน้ เสยี แตไ่ ดจ้ ะฌาณ หรอื ไมก่ เ็ สยี ชวี ติ จงึ จะไดข้ นึ้ ไปสกั การะบชู า จงึ ถอื เอาพระเกสธาตเุ จดยี ์ เป็นตัวแทนของพระเกศแก้วจุฬามณี ส�ำหรับเป็นชุธาตุของผู้ท่ีเกิด ปีเส็ด หรือปีจอ (บางแห่งหมายเอาพระธาตุอินทร์แขวน หรือไจก์ทีโย ในรฐั มอญ สหภาพเมียนมา เป็นตัวแทน) เม่ือการค้าทางน�้ำเจริญข้ึน ผู้คนจากที่ต่าง ๆ มาต้ังรกราก ทั้งฝั่งตะวันตกของน้�ำปิง บริเวณตลาดวโรรส และฝั่งตะวันออก ยา่ นชมุ ชนวดั เกต ทำ� ให้ มคี วามหลากหลายทางศาสนา เชน่ พทุ ธ ครสิ ต์ ซกิ ส์ อสิ ลาม มคี วามหลากหลายทางเช้ือชาติ เช่น ไทย จนี ฝรงั่ ไทยใหญ่ ทำ� ให้บรเิ วณวัดเกต จงึ ปรากฏศลิ ปะหลากหลาย และนา่ สนใจ ปัจจบุ ัน มีการรวบรวมข้าวของเครื่องใช้นานาต่าง ๆ จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ วัดเกตบริเวณกุฏิของเจ้าอาวาสองค์ก่อน หรือท่ีเรียกว่าโฮงหลวง ใหเ้ รยี นร้ศู กึ ษาอกี ดว้ ย แม้ว่าอากาศจะร้อน แต่ละคนก็ไม่ย่อท้อ จากอุจฉุปัพพตา ลงมาสู่ฝั่งธาราระมิงค์ ไหว้พระและศึกษาเรียนรู้ท้ังประวัติศาสตร์ ศิลปะ สถาปัตยกรรม แม้ว่าเวลาอาจจะน้อยไม่สามารถเข้าเยี่ยมชม ทกุ สว่ นได้ แตก่ อ็ นุ่ ใจและสขุ ใจที่ไดร้ ว่ มกจิ กรรมทำ� บญุ ไหวพ้ ระตามกาล อันเป็นมงคลท่ีได้รับแลว้ ในวนั น้ี อย่างน้อยก็โชคดีท่ีกลับถึงท่ีหมายแล้วฝนก็ง้างฟ้าลงมา คงตอ้ งอุทานวา่ “หนา้ บญุ ” 23วารสาร
รอบรัว้ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มทร.ล้านนา ร่วมกับธนาคารออมสินภาค 8 ลงพื้นท่ีตรวจเยี่ยม อาจารย์ มทร.ลา้ นนา ลำ� ปาง เปน็ วทิ ยากรอบรมแปรรปู อาหารแกเ่ ครอื ขา่ ย ติดตามผลการด�ำเนินงานโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถ่ิน ประจ�ำ อาหารอินทรีย์และธรรมชาติ (Real Food Thailand) ปี 2563 ณ ชุมชนบา้ นเชงิ ดอย ต.สบเตย๊ี ะ อ.จอมทอง จ.เชยี งใหม่ อาจารย์สุพัฒน์ ใต้เวชศาสตร์ อาจารย์ประจ�ำสาขา วนั พธุ ท่ี 24 กมุ ภาพันธ์ 2564 สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยี วิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการอาหาร และสาขาวิชาพัฒนา สู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ซ่ึงเป็นศูนย์ ผลิตภัณฑ์อาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ประสานงานด�ำเนินโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ล�ำปาง เป็นวิทยากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาและธนาคารออมสิน ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การท�ำถ่ัวเหลืองหมักเตมเป (เทมเป้) จัดกิจกรรมลงพื้นท่ีตรวจเย่ียมติดตามผลการด�ำเนินงานโครงการ และเต้าเจี้ยว แก่เครือข่ายอาหารอินทรีย์และธรรมชาติ พฒั นาส่ือประชาสมั พันธก์ ารท่องเทย่ี วชุมชน ณ ชุมชนบา้ นเชงิ ดอย Real Food Thailand ระหว่างวันท่ี 6 - 7 กุมภาพันธ์ 2564 ตำ� บลสบเตยี๊ ะ อำ� เภอจอมทอง จงั หวดั เชยี งใหม่ ภายใตโ้ ครงการออมสนิ ที่ผ่านมา ณ หมู่บ้านดีฟาร์ม (หมู่บ้านออร์แกนนิคต้นแบบ) ยุวพฒั น์รักษถ์ น่ิ ประจ�ำปี 2563 โดยมี นางสาวพชั ราภา ศกั ดโ์ิ สภิณ เลขที่ 111 หมทู่ ี่ 2 ต.หนองหาร อ.สนั ทราย จ.เชยี งใหม่ อาจารยป์ ระจำ� คณะศลิ ปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร์ เปน็ หวั หนา้ โครงการ นกั ศกึ ษาคณะศลิ ปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร์ สาขาวชิ า อาจารยส์ พุ ฒั น์ ใตเ้ วชศาสตร์ กลา่ ววา่ การถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ เทคโนโลยกี ารพิมพ์ และบรรจุภณั ฑ์ รว่ มกับคณะบริหารธรุ กจิ และ ในครง้ั นเี้ ปน็ หนงึ่ ในพนั ธกจิ ของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ศลิ ปศาสตร์ สาขาวชิ าการ ทอ่ งเทย่ี วและการบรกิ าร เปน็ คณะดำ� เนนิ ลำ� ปาง ด้านการวจิ ยั และบรกิ ารวิชาการสู่ชุมชน โดยเครอื ขา่ ยอาหาร โครงการ โดยไดร้ บั เกยี รตจิ ากนายนคร สวุ รรณกาศ ผชู้ ว่ ยผอู้ ำ� นวยการ อนิ ทรยี แ์ ละธรรมชาติ Real Food Thailand เปน็ องคก์ ารไมแ่ สวงหากำ� ไร ธนาคารออมสนิ ภาค 8 และอาจารยว์ สิ ทุ ธ์ิ บวั เจรญิ รองผอู้ ำ� นวยการ จัดต้ังขึ้นเพื่อเชื่อมโยงผู้มีส่วนร่วมในห่วงโซ่อาหารอินทรีย์และอาหาร สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน และทีมงานเป็นกรรมการตรวจ ธรรมชาติทั้งห่วงโซ่มูลค่า ซ่ึงทางเครือข่ายมีแผนที่จะด�ำเนินการใน เยี่ยมและติดตามผลการดำ� เนินโครงการ กิจกรรมต่อยอดพัฒนาผลติ ผลเกษตรอินทรีย์ (ต้นนำ้� ) ด้วยการแปรรปู อาหารแบบธรรมชาติตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค (ปลายน้�ำ) เพอ่ื เชอ่ื มโยงหว่ งโซอ่ าหารอนิ ทรยี แ์ ละธรรมชาตใิ หค้ รบทงั้ หว่ งโซอ่ าหาร โดยการจัดอบรมคร้ังน้ีทางเครือข่ายฯ ได้ประสานมายังมหาวิทยาลัยฯ ในการจัดส่งอาจารย์ผู้เช่ียวชาญเพ่ือถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าว นับเป็นการถ่ายทอดที่จะขยายผลในวงการอาหารสุขภาพอย่างกว้าง ขวางต่อไป สำ� หรบั กลมุ่ อาชพี หรอื กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนทตี่ อ้ งการคำ� ปรกึ ษาหรอื ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านอุตสาหกรรมเกษตร สามารถขอรับ ค�ำปรึกษาหรือติดต่อสอบถามได้ที่งานคลินิคเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ล�ำปาง โทรศพั ท์ 0 5434 2547-8 ต่อ 123 อาจารย์สพุ ัฒนก์ ลา่ วในตอนท้าย 24 วารสาร
: ชมุ ชนเดนิ ทาง กกบันาทับึกรเรบกือ่ งรราาิกวราจรชดั ุมกชนารวา่ ขด้วยยศะใกั นยภชาพุมชชุมชนน “ขยะต�ำบลแม่ฮอ้ ยเงนิ นายสรุ ยิ นต์ สูงคำ� มาจากไหนครบั ”ประโยคนำ� คยุ ของผม เจา้ หนา้ ที่วจิ ัย ผู้น�ำชุมชนและผู้เข้าร่วมพากันไล่ที่มาของขยะเหล่านั้น ตลาดนดั ร้านคา้ ชุมชน รา้ นสะดวกซือ้ คอื แหล่งทม่ี าหลกั ๆ ทแี่ ตล่ ะท่าน ร่วมกันแลกเปลย่ี นกับผม ซ่ึง “ขยะ” ตามความเขา้ ใจของผู้เข้าร่วมนน้ั หมายถงึ สง่ิ ที่คอ่ นไปทางพลาสตกิ และกระดาษ ท่ีเหลอื ใช้ ผมชวนเวทีท�ำความเข้าใจความหมายของ “ขยะ” ในเชิงที่ มันลึกลงไปอีกนดิ “เศษสิ่งทเ่ี หลอื ใช้ และ สิ่งที่ปฏกิ ลู ต่างๆ ซึ่งเกดิ จาก กิจกรรมของเรา” พอชวนกันมาถึงจุดนี้ ท้ายท่ีสุดของการแลกเปลี่ยน “พฤติกรรม” คือที่มาของขยะต�ำบลแม่ฮ้อยเงิน ...ตรงใจผมนักแล... ผมเกาะประเด็นพฤติกรรมไว้ม่ันแต่ก็ไม่ละท้ิงท่ีมาอ่ืนๆ...แต่ไฉนเลย พฤติกรรมแหง่ ตนน่ันแหละส�ำคญั ยงิ่ นัก หลังจากบ่มเพาะท่ีมาของขยะจนสุกงอมก็มาช่วยกันแยก ประเภทของขยะกัน ก็พบว่าในต�ำบลแม่ฮ้อยเงินก็เฉกเช่นต�ำบล หรอื พ้ืนทอ่ี ่นื ๆ คอื ขยะทมี่ นั ย่อยสลายได้งา่ ย เชน่ เศษอาหาร พชื ผกั ฟางข้าว เปลือกผลไม้ ขยะทย่ี ่อยสลายได้ยาก เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ เศษผ้า (น่าสนใจว่าขยะประเภทที่สองน้ีส่วนใหญ่น�ำเข้า มาจากภายนอกชุมชน) และประเภทสุดท้ายน่ีหนักสุด คือ ขยะท่ีเป็น สารเคมี ขยะอันตราย หลอดไฟ แน่นอนว่ามันก็น�ำมาจากภายนอก เหมอื นกนั จากพฤติกรรมข้างต้น หากเราจะแก้ไขปัญหาขยะได้ มันก็ต้องแก้ทพี่ ฤติกรรมของคนก่อน ผมไดน้ ำ� ทฤษฎี 5 R มาบรรยายและชวนคนในหอ้ งประชมุ พดู คุยกัน วา่ การจดั การขยะน้ัน กค็ ือ การแกไ้ ขพฤตกิ รรมน่นั เอง กล่าวคอื 1. Reduce การลดปริมาณขยะ โดยลดการใช้ผลิตภัณฑ์ท่ีมี บรรจุภณั ฑส์ น้ิ เปลือง 2. Reuse การน�ำมาใช้ซำ�้ เชน่ ขวดแกว้ กลอ่ งกระดาษ กระดาษ พิมพ์หนา้ หลัง เปน็ ต้น 3. Repair การซ่อมแซมแก้ไขสิ่งของตา่ งๆใหส้ ามารถใช้งานต่อได้ 4. Reject การหลกี เลยี่ งใช้ส่งิ ที่ก่อใหเ้ กิดมลพษิ 5. Recycle การแปรสภาพและหมุนเวียนน�ำกลับมาใช้ได้ใหม่ โดยน�ำไปผ่านกระบวนการผลติ ใหมอ่ ีกคร้งั 26 วารสาร
อย่างไรก็ตามการจะแก้ไขพฤติกรรม มันก็ต้องท�ำให้เห็น ก่อนที่ผมจะชวนทบทวนอีกนิดว่าปัจจุบันมีการจัดการปัญหา ชวนให้มองผลกระทบใกล้ๆ ว่าขยะนั้นส่งผลต่อเขาอย่างไร ครั้นจะ หรอื การแกไ้ ขปญั หาขยะในชมุ ชนอยา่ งไร ซง่ึ หลกั ๆ การจดั การปญั หา ให้มองถึงเรื่องราวระดับโลกผมว่ามันค่อนข้างจะไกลตัวและเชื่อว่าทุก นอกจากจะมีรถเทศบาลมาจัดเก็บตามจุดต่างๆแล้ว บางคนก็ยังใช้ คนกเ็ คยสมั ผสั มาบ้างแล้ว การเผา การฝงั หรอื การทงิ้ ตามพน้ื ทลี่ บั ตา “เคยทะเลาะกนั เพราะจดั การขยะไมถ่ กู วธิ ีไหมครบั ”ประโยค “อยากเห็นชุมชนแม่ฮ้อยเงินเป็นอย่างไรในประเด็น ชวนทบทวนผลกระทบง่ายๆท่ีผมชวนชุมชนวิเคราะห์ เกือบทุกคน ก า ร จั ด ก า ร ข ย ะ ” ห ลั ง จ า ก ที่ พ า กั น ม อ ง แ ล ะ เ ห็ น ต ร ง กั น แ ล ้ ว ว ่ า บอกวา่ เคย ขยะและการจัดการขยะท่ีไม่ถูกน้ันมันส่งผลต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน โลก อย่างไรแล้ว ผมก็ชวนชุมชนมาร่วมกันสร้างเป้าหมาย ...“ผา้ ออ้ มลกู นอ้ ยเหม็นควนั ไฟ” รว่ ม ปลายทางในเวทีนนั้ ชมุ ชนเห็นตรงกันวา่ อยากเห็นชุมชนปลอดขยะ ...“ผ้าทีอ่ ุตส่าห์แช่น�้ำยาปรบั ผา้ นุ่ม เมอื่ เหน็ ตรงกนั กพ็ ากันวางแผนที่น�ำทางวา่ จะท�ำอย่างไรใหเ้ ป็นอยา่ งนนั้ อยา่ งดีตากไว้เหม็นควันไฟ” ... “ทอดแห บางเตอ่ื เจอขยะ “ชุมชนปลอดขยะ” คือภาพฝันที่เราอยากเห็นร่วมกัน ในน�้ำกะมี”...ฯลฯ ซึ่งมันกต็ ้องยอ้ นกลบั ไปมองท่หี ลักการทำ� ใหป้ ลอดขยะของ 5R ซึ่งอาจ จะไม่ใชเ่ รว็ วนั น้ี แตก่ ็ใชว่ า่ จะเกิดข้นึ ไมไ่ ด้ ซ่ึงอย่างนอ้ ยสง่ิ หน่ึงทีม่ ันเกิด และอีกหลายส่ิงไม่พึงประสงค์ถูกสะท้อนออกมาท้ังเผา ข้ึนแล้วในเวทีคือความตระหนักว่า “ขยะนั้นเป็นปัญหา” “ขยะนั้นมา ทั้งทงิ้ เรีย่ ราด สารพดั ทที่ �ำให้เกิดการทะเลาะข้นึ ภายในชุมชน รอ้ นถึง จากพฤติกรรมส่วนบุคคล” และแน่นอนท่ีสุด การจัดการขยะที่ถูกวิธี ผนู้ ำ� ทตี่ อ้ งมาไกลเ่ กลยี่ บา้ งไมท่ ะเลาะตอ่ หนา้ เอาไปนนิ ทาลบั หลงั หรอื ไม่ใชเ่ ร่ืองเรอื่ งของการเผา...ซึง่ ทุกคนเห็นตรงกนั แม้กระท่งั มีการกน่ ดา่ กนั ผ่านชอ่ งทางออนไลน์ “เราจ�ำเป็นท่ีจะต้องให้ชุมชนตระหนักร่วมกันก่อนว่าสิ่งน้ัน เปน็ ปญั หา และชว่ ยกนั มองหาศกั ยภาพแลว้ เอาศกั ยภาพชมุ ชนมาใชใ้ น การจดั การปญั หานน้ั ” ผมชวนนอ้ งๆ พๆี่ U2T ตำ� บลแมฮ่ อ้ ยเงนิ สรปุ ทบทวน หลังท�ำกิจกรรม (AAR) ให้หลังผู้น�ำหันหลังให้ห้องประชุมในวันน้ีแล้ว และชวนทุกๆคนวางแผนละเอียดกันต่อถึงส่ิงที่ผู้น�ำคิด เพ่ือให้เห็นภาพ มากขึ้น “ผู้น�ำเปิ้นปูทางไว้ละ เรามาท�ำรายละเอียดกันต่อ”....สุดท้าย จบลงที่ “ขอ้ มลู ” ท่ีเราต้องใส่ใจและเหน็ ตรงกนั วา่ ทกุ อยา่ งทจ่ี ะทำ� นนั้ มนั ตอ้ งเอาขอ้ มลู มากางรว่ มกนั ...แลว้ แผนการเกบ็ ขอ้ มลู ขยะ กต็ ามมา... ขอบใจน้องๆคณะท�ำงานโครงการยกระดับเศรฐกิจและสังคมราย ต�ำบลแบบบูรณาการ (1 ต�ำบล 1 มหาวิทยาลัย) ต�ำบลแม่ฮ้อยเงิน อำ� เภอดอยสะเกด็ จงั หวดั เชยี งใหม่ ทกุ คนครบั 27วารสาร
: บรกิ ารวชิ าการ โจใคนติ กรสางร�ำกอนนาุรกึรกั เสสษาส์ รธ่งิ มิ แาวสรดรณลา้อ้ งะม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา มงุ่ เนน้ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ให้อาจารย์ บุคลากรและนักศกึ ษา ของมหาวิทยาลัย ณ ศนู ยพ์ ัฒนา เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้น�ำความรู้ในศาสตร์ต่างๆ โครงการหลวง มาบริการวิชาการให้แก่เจ้าหน้าที่ ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ หว้ ยลึก เชยี งใหม่ และศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ตลอดจนการสง่ เสรมิ จิตส�ำนึกสาธารณะให้กับอาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาเป็นผู้น�ำ เรียบเรยี ง : ที่เสียสละมีจิตสาธารณะ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ทางสถาบัน นายจกั รร์ นิ ทร์ ช่นื สมบตั ิ ถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชุมชน จงึ จดั ท�ำโครงการเสรมิ สรา้ งจติ สำ� นกึ สาธารณะในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพ่ือให้อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีส่วนร่วม ในการด�ำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รว่ มกบั เจา้ หนา้ ท่ี ประชาชนในพน้ื ทสี่ ถานี ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวง เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มี ความย่งั ยืน 28 วารสาร
ทางน้ีได้ร่วมกับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก อาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิศวกรรม การผลติ ของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ใหบ้ รกิ ารทางวชิ า และสร้างจิตส�ำนึกสาธารณะ และจิตอาสา พัฒนา ชุมชนอย่างย่ังยืน ด้วยเหตุน้ีได้รับเกียรติจากทางวิทยากรจิตอาสาพระราช 904 ของจังหวัดเชียงใหม่ และได้น�ำความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ กบั ประเทศไทย ตงั้ แตส่ มยั สโุ ขทยั สมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา สมยั กรงุ ธนบรุ ี และสมยั กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ ในรชั กาลท่ี 1-10 และไดร้ บั ความรเู้ กย่ี วกบั พระราชกรณียกิจต่างๆ ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ท่ีท�ำให้ไทย เป็นไทยจนถึงทุกวันน้ี และได้น้อมน�ำจิตอาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดำ� ริ เพอื่ เปน็ การเฉลมิ พระเกยี รตแิ ละแสดงความสำ� นกึ ในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของ ประชาชน ทั้งนี้เพอื่ ใหป้ ระชาชนมคี วาม สมัครสมานสามัคคี มีความสุข และประเทศชาติมีความม่ันคงอย่างยั่งยืน น�ำมาเป็นแนวทางปฏิบัติ ให้กับเจ้าหน้าท่ี ประชาชนในพื้นท่ีศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก ประชาชนในพ้ืนท่ีศูนย์พัฒนาโครงการหลวงเพ่ือฟื้นฟูและอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มใหม้ ีความยง่ั ยนื ตอ่ ไป ทัง้ นี้ อาจารย์ บคุ ลากรและนกั ศกึ ษาคณะวศิ วกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการผลิต ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ไดร้ ว่ มกจิ กกรรมการปลกู จติ สำ� นกึ ฟน้ื ฟแู ละอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อมให้มีความย่งั ยนื ใน หมู่บา้ นบนดอย และในบ้านหว้ ยลึก ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในพื้นท่ี ศูนย์พัฒนาโครงการ หลวงห้วยลึก ที่ขาดแคลนน้�ำตลอดท้ังปี ส่วนหน้าแล้งแหล่งน�้ำตื้นเขิน และไม่มีน้�ำจากต้นน�้ำมาเติม ท�ำให้แหล่งน้�ำท่ีอยู่ต�่ำกว่า ที่อยู่อาศัย แห้งขอด ส่วนน�้ำบริโภคท่ีมาจากแหล่งประปา ในหน้าแล้งน้�ำแห้ง แต่หน้าฝนน�้ำขุ่น ชาวบ้านต้องซ้ือน้�ำกิน จนกระทั่งวิกฤติการเกษตร ผลผลิตข้าวไร่ไม่ได้ดั่งใจ เพราะไม่มีน�้ำ หมู่บ้านขาดการจัดการ ส่ิงแวดล้อม จึงได้ส�ำรวจการเจาะบาดาลเพื่ออุปโภคและบริโภค ในพ้ืนท่ี ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก เพ่ือให้ชาวบ้านใน และในบ้านห้วยลึก ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในพ้ืนท่ี ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหว้ ยลกึ ไดม้ นี ำ�้ เพอื่ มาอปุ โภคและบรโิ ภค และ ใหพ้ น้ วกิ ฤตพิ ชื ผลทางการเกษตรไมไ่ ดด้ งั่ ใจ และแกป้ ญั หาใหก้ บั ชาวบา้ น บนดอย และชาวบ้านห้วยลกึ อย่างยัง่ ยืนต่อไป...... 29วารสาร
: โครงการหลวง ...เพื่อชมุ ชน การบ�ำบดั น�ำ้ เสีย เมลด็ กาแฟจากกระบวนการผลิต แม่หลอดสถานีโครงการหลวง มลู นธิ โิ ครงการหลวงมพี น้ื ทส่ี ง่ เสรมิ การปลกู กาแฟอราบกิ า้ ใน ศูนยพ์ ฒั นาโครงการหลวง 24 ศูนยร์ วมทัง้ หมด 9,49 1 ไร่ โดยเฉพาะ ในพนื้ ทสี่ ถานวี จิ ยั โครงการหลวงแมห่ ลอด จดั เปน็ แหลง่ ผลติ และแปรรปู เมลด็ กาแฟทสี่ ำ� คญั แหง่ หนง่ึ ในจงั หวดั เชยี งใหม่ ยงั มงุ่ เนน้ การสง่ เสรมิ และ พัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรผปู้ ลกู กาแฟโดยรอบสถานวี จิ ัยโครงการหลวง ให้มีรายได้เพ่ิมข้ึนจนพัฒนาเป็นอาชีพท่ีย่ังยืนได้ ซึ่งในแต่ละปี สถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอดรับผลผลิตกาแฟจากเกษตรกร เพอื่ แปรรปู มากถงึ 1,500 กโิ ลกรมั โดยทว่ั ไป กระบวนการผลติ และแปรรปู เมล็ดกาแฟมักมีน�้ำเสียจากกระบวนการแปรรูป ซ่ึงส่งผลกระทบต่อท้ัง สิ่งแวดล้อมและชุมชนได้โดยตรง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา จึงด�ำเนินการพัฒนาวิธีการจัดการน้�ำเสียที่เกิดข้ึน ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของโครงการหลวงโดยใช้สาหร่ายขนาดเล็ก ต่างสายพันธ์ุ เช่น สายพนั ธุ์ Spirulina sp. และสายพนั ธุ์ Chlorella sp. โดยด�ำเนินการเพาะเลี้ยงสาหร่ายขนาดเล็กในระบบตรึงฟิล์ม และ ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ดูแลระบบการบ�ำบัดน้�ำเสียที่ได้จาก กระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟของศูนย์วิจัยโครงการหลวงแม่หลอดและ ผู้ที่สนใจทั่วไป ได้มีความรู้และสามารถใช้เป็นต้นแบบในการบ�ำบัดน�้ำ เสียจากกระบวนการผลติ เมลด็ กาแฟได้ 30 วารสาร
มทร.ลา้ นนา ร่วมกบั ธนาคารออมสนิ ภาค 8 ลงพื้นทต่ี รวจเยย่ี มตดิ ตาม รอบรั้ว ผลการด�ำเนินงานโครงการออมสินยุวพัฒนร์ กั ษถ์ ่ิน ประจ�ำปี 2563 ณ บ้านหว้ ยกาน อ.บ้านโฮง่ จ.ล�ำพนู มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วนั จันทร์ ที่ 1 มีนาคม 2564 สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ ชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ซงึ่ เปน็ ศนู ยป์ ระสานงาน ดำ� เนนิ โครงการออมสนิ ยวุ พฒั นร์ กั ษถ์ นิ่ ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี ราชมงคลล้านนาและธนาคารออมสิน จัดกิจกรรมลงพ้ืนที่ตรวจ เย่ียมติดตามผลการด�ำเนินงานโครงการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชน แมบ่ า้ นห้วยกานเบเกอรี่ ณ กลุ่มวสิ าหกิจชุมชนแม่บา้ นห้วยกานเบเกอรี่ อ�ำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดล�ำพูน ภายใต้โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถ่ิน ประจ�ำปี 2563 โดยมี อาจารย์นฐนัธย์ ใยบัว อาจารย์ประจ�ำคณะ บริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ นักศึกษาคณะ ศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ ร่วมกับคณะบริหารธุรกิจและ ศิลปศาสตร์ สาขาวิชาการ ท่องเทย่ี วและการบริการ เป็นคณะดำ� เนิน โครงการ โดยไดร้ บั เกยี รตจิ ากนายนคร สวุ รรณกาศ ผชู้ ว่ ยผอู้ ำ� นวยการ ธนาคารออมสนิ ภาค 8 และผศ.ดร.สุรวี รรณ ราชสม รองผ้อู ำ� นวยการ สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน และทมี งานเปน็ กรรมการตรวจเยยี่ ม และตดิ ตามผลการดำ� เนินโครงการ โรงเรียนน่านคริสเตยี นศกึ ษาเขา้ อบรมความร้เู ร่อื ง STEM และ MILK นศ.ชา่ งยนต์ มทร.ลา้ นนา ปฏบิ ตั กิ ารซอ่ มบำ� รงุ เครอ่ื งเปา่ ลม สนบั สนนุ ภารกจิ ควบคุมไฟป่า อช.ดอยสุเทพ-ปยุ วันท่ี 11 มี.ค. 2564 เวลา 08.30-15.00 น. ทางโรงเรยี นน่านคริสเตยี น ศึกษา ได้ขอความอนุเคราะห์ใช้สถานท่ี และขอสนับสนุนวิทยากรของ วันท่ี 5 เมษายน 2564 ผศ.ดร.ธวัชชยั อุ่นใจจม และอาจารย์เมธัส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา น่าน ในการบรรยายใหค้ วาม ภัททิยธณี นำ� นกั ศกึ ษาสาขาวชิ าชา่ งยนต์ ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้นั สงู รู้เรอื่ ง “STEM” และ “MILK” สำ� หรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา ท�ำการตรวจเช็คอุปกรณ์และซ่อม จำ� นวน 37 คน ตามโครงการพฒั นาและสง่ เสรมิ การเรยี นรตู้ ามศกั ยภาพ บ�ำรุงเครื่องเป่าลม ให้กับอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ส�ำนักบริหารพื้นที่ ผู้เรยี น แผนงานที่ 1 เพอื่ สง่ เสริมผเู้ รียนใหม้ ที ักษะดา้ นการคดิ วิเคราะห์ อนุรกั ษท์ ่ี 16 (เชยี งใหม่) จำ� นวน 15 เคร่ือง ซึ่งไดผ้ ่านการใช้งานในภารกิจ คิดสังเคราะห์ ควบคไู่ ปกบั การคดิ สรา้ งสรรค์ผลงานนวัตกรรม กระตุ้น ป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่มาอย่างต่อเน่ือง ใหเ้ กดิ ความม่งุ ม่นั พัฒนาองค์ความรู้อย่างตอ่ เนื่อง ส่งผลใหอ้ ปุ กรณต์ า่ งๆภายในเครอื่ งเป่าลม เกิดการเสือ่ มสภาพ ช�ำรดุ เสียหาย โดยมี ผศ.ดร.รัชนภี รณ์ อ่ินค�ำ , ผศ.ดร.กนั ยาพร ไชยวงค์ , จนไม่สามารถน�ำมาใช้ปฏิบัติภารกิจได้ ในการน้ีคณาจารย์และนักศึกษาได้ อาจารยณ์ ฐั พล วชิ าญ , ดร.กาศรี นามเคน , ดร.สุทธิดา ปัญญาอนิ ทร์ รับการประสานงานจากอุทยานแห่งชาติดอยสุทพ-ปุย ให้ท�ำการตรวจเช็ค , อาจารยอ์ ภญิ ญา กันธิยะ , ดร.กจิ จาณัฐฐ์ ตง้ั จิตนุสรณ์ , ผศ.ดร.ชาญ และซ้อมบ�ำรุงอุปกรณ์ดังกล่าว ณ ห้องปฏิบัติการสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ยทุ ธ กาญจนพิบูลย์ , อาจารย์นพรัตน์ จนั ทรไ์ ชย และอาจารย์เจนจิรา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา ซ่ึงการปฏิบัตงิ านดังกลา่ วยงั เปน็ โอกาส ลานแกว้ เป็นวิทยากรในโครงการดงั กลา่ ว ให้นักศึกษาไดเ้ พมิ่ พูนทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารถอดประกอบ และไขปญั หาเครอ่ื งยนต์ เล็กจากสถานการณ์จริง พร้อมท้ังยังเป็นการบ�ำเพ็ญประโยชน์แก่สาธารณะ ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยท่ีมุ่งเน้นสร้างบันฑิตนักปฏิบัติ มีคุณธรรม และมจี ติ สาธารณะ 31วารสาร
ประเเภพท อ่ืและกประสาิทรธิภาปพ ขอ้ องงหกนันา้ กสากขุ อภนาามัยพ: ซะป๊ะ สเปซ หน้ากากทางการแพทย์ หน้ากากทางการแพทย์ผลิตขึ้นจากผ้าหรือพอลิโพรไพลีน ซึ่งเป็นพลาสติกท่ีมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับ ระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากเป็นวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของ เชอื้ แบคทเี รยี หรอื เชอื้ ไวรสั จากคนสคู่ นไดถ้ งึ 99% สาํ หรบั วธิ กี ารใสค่ วรใส่ โดยการนาํ ด้านสีเขียวหรอื ดา้ นที่เปน็ สอี อกดา้ นหนา้ เพื่อกันสารคัดหลงั่ จากคนอื่นเข้ามาสู่ตัวเรา นอกจากน้ียังสามารถป้องกันฝุ่นและเกสร ดอกไม้ได้ขนาดเล็กสุดถึง 3 ไมครอน และสามารถกันได้ถึง 66.37% แต่แนะนาํ ใหใ้ ส่ 2 แผน่ เพราะจะกันได้มปี ระสิทธิภาพถึง 89.75% หนา้ กากคาร์บอน หน้ากากอนามัยแบบคาร์บอน หรือ หน้ากากอนามัยสีดํา คุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากทางการแพทย์ แต่จะมีความพิเศษ มากขน้ึ มาเพราะมชี ้ัน Carbonท่ีสามารถกรองกล่ินท่ีไมพ่ ึงประสงคไ์ ด้ดี กว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป มีความหนาเส้นใยสังเคราะห์ถึง 4 ชั้น สามารถกรองเชอื้ แบคทเี รยี ไดถ้ งึ 95% กรองฝนุ่ ละอองขนาด 3 ไมครอน สามารถกนั ไดถ้ งึ 66.37% และถา้ สวมใส่2 แผน่ จะกนั ไดม้ ปี ระสทิ ธภิ าพถงึ 89.75% เช่นเดียวกับหนา้ กากอนามยั ทางการแพทย์ หนา้ กาก N95 หนา้ กากอนามยั N95 เป็นหนา้ กากอนามยั ชนดิ ที่ชว่ ยปอ้ งกัน การเช้ือโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้โดยประสิทธิภาพในการป้องกัน จะสูงกว่าหน้ากากอนามัยแบบทั่วไปเพราะลักษณะของหน้ากากอนามัย N95 นี้มีลักษณะครอบลงไปที่บริเวณหน้าปากและจมูกอย่างมิดชิด จึงทําให้เชื้อไวรัสหรือสารปนเปื้อนไม่สามารถลอดผ่านได้และ ด้วยหน้ากากอนามัย N95 ผลิตจากโพลีโพรพีลีน (Polypropylene) มีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคขนาดเล็ก PM2.5 และ PM10 ไมน่ ้อยกวา่ 95% ถือวา่ สามารถป้องกันฝ่นุ PM 2.5 ท่เี มอื งไทยเผชญิ อยู่ ในขณะได้ในระดับดีมากอีกดว้ ย 32 วารสาร
หน้ากาก FFP1 หนา้ กากอนามยั FFP1 เปน็ หนา้ ท่ที ่ีใหป้ ระสิทธภิ าพใกล้เคียง กับหน้ากากอนามัย N95 สามารถช่วยป้องกันทั้งฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย และเชอื้ ไวรสั ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพสูง ดักจับอนุภาคขนาดเลก็ PM 2.5 และ PM10 ไมน่ อ้ ยกวา่ 94% แตน่ อกเหนอื จาก N95 คอื สามารถปอ้ งกนั สารเคมฟี มู โลหะ ไดเ้ พมิ่ เตมิ อกี ดว้ ย และออกแบบใหส้ ว่ นบนมคี วามเวา้ ครอบลงไปท่บี รเิ วณหนา้ ปากและจมกู อยา่ งมดิ ชิด หนา้ กากกันฝนุ่ ทัว่ ไป หรือหน้ากากผา้ หนา้ กากกันฝนุ่ ทวั่ ไป หรอื หน้ากากผ้า มี 2 แบบ แบบแรก ผลติ จากผา้ ฝา้ ยใชส้ าํ หรบั ปอ้ งกนั ฝนุ่ ละออง และปอ้ งกนั การกระจายของ นำ�้ มกู หรอื นำ้� ลายจากการไอ/จามไดแ้ ตไ่ มส่ ามารถกรองเชอื้ โรคทม่ี ขี นาด เลก็ มากๆ ไดแ้ บบทส่ี องผลติ จากใยสงั เคราะหซ์ อ้ นทบชนั้ กนั โดยรวมแลว้ คณุ สมบตั ขิ องหนา้ กากชนดิ นม้ี คี ณุ สมบตั ใิ นการกรองฝนุ่ ปอ้ งกนั เชอ้ื โรค จําพวกเชอ้ื แบคทีเรยี หรอื เชอื้ ราได้ หน้ากากฟองน�ำ้ หน้ากากอนามัยแบบฟองน้�ำ ผลิตจากโพลียูรีเทนคาร์บอน สําหรับกรองอากาศโดยเฉพาะ สามารถซักทําความสะอาดได้แห้งเร็ว พับเก็บไมย่ ับสามารถคนื รูปเดมิ ไดไ้ ม่เสียทรง สว่ นประสิทธภิ าพในการ ป้องกนั สามารถกนั ฝุน่ ละอองทม่ี ีขนาดเล็ก และเกสรดอกไมไ้ ด้ รายการอ้างอิง 1. กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ .ประสทิ ธภิ าพหนา้ กากอนามยั เพอื่ การปอ้ งกนั สขุ ภาพ 6 ประเภท.[อนิ เตอรเ์ นท็ ].[ม.ป.ท.].[ม.ป.พ.]; 2563.[สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 25เม.ย.2563].จาก:https://www.officemate. co.th/blog/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0% B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81/ 2. สาขาวชิ าโรคตดิ เชอ้ื ภาควชิ ากมุ ารเวชศาสตรแ์ ละหนว่ ยโรคตดิ เชอื้ และเวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น ภาควชิ าอายรุ ศาสตรค์ ณะแพทยศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ ความรเู้ กย่ี วกบั หนา้ กากอนามยั .[อนิ เตอรเ์ นท็ ].[ม. ป.ท.].[ม.ป.พ.]; 2563.[สืบค้นเมื่อวันที่15พ.ค.2563].จาก:https://w2.med.cmu.ac.th/nd/wpcontent/uploads/2020/02/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%9 9%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E 0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2_Final_7Feb20.pdf 3. กําธร มาลาธรรม.เรือ่ งท่คี วรร้ใู ส่หน้ากากแบบไหนถึงจะถูกตอ้ ง.[อนิ เตอร์เน็ท].[ม.ป.ท.].[ม.ป.พ.];2563.[สบื คน้ เม่อื วันที1่ 5 พ.ค.2563].จาก:https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/home/ article/%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9 33วารสาร
: ซะป๊ะ สเปซ…สรเผา้ างพลมาสลตกิพ-โฟษิ ม การเผาขยะในบริเวณบ้านเป็นวิธีการก�ำจัดขยะที่ค่อนข้าง พบมากในพื้นที่ชนบท ขยะทีน่ ำ� มาเผาส่วนใหญเ่ ป็นกระดาษ เศษก่ิงไม้ ใบไม้ และพลาสติก เมื่อเผาแล้วจะปล่อยสารหลายชนิดออกมาโดย ไม่มีกระบวนการบ�ำบัด ท�ำให้มลพิษแพร่กระจายเข้าไปในบ้านและ ในบรรยากาศ น�ำไปส่กู ารปนเปือ้ นแหลง่ นำ�้ และดนิ การเผาขยะประเภทโฟม จะท�ำให้เกิดการปล่อยก๊าซสไตรีน (Styrene) ที่สามารถถูกดูดซึมผ่านผิวหนังและปอดได้ หากได้รับ สารสไตรีนในระดับที่สูงจะท�ำอันตรายต่อตา และถ้าได้รับสไตรีน ในระยะยาวจะมผี ลตอ่ ระบบประสาทสว่ นกลาง ทำ� ใหป้ วดหวั ออ่ นเพลยี อ่อนแอ และเกิดภาวะซึมเศร้า ส่วนการเผาไหม้พลาสติกประเภท พีวีซีท�ำให้เกิดการปล่อยก๊าซไดออกซินซ่ึงเป็นสารพิษต่อระบบต่างๆ ในร่างกายของคนเป็นสารก่อมะเร็ง และรบกวนการท�ำงานของ ระบบฮอร์โมน สามารถสะสมในร่างกายและถ่ายทอดจากแม่ ไปสู่ลูกได้โดยผ่านทางรก นอกจากน้ีมวลสารท่ีเกิดจากการเผา ยังสามารถเพ่ิมความเส่ียงต่อการเป็นโรคหัวใจโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด และเป็นสาเหตุของการเกิดผื่นอาการคลื่นไส้ ปวดหัว ท�ำลายระบบประสาท ตับ ไตระบบสืบพันธุ์ แต่เราสามารถ ลดความเสี่ยงตอ่ มลพิษนี้ได้ดงั น้ี 34 วารสาร
ไม่เผาพลาสติกและขยะภายในบ้านหรือในบริเวณบ้าน เพราะจะทำ� ใหเ้ กดิ สารพษิ ทเ่ี ปน็ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพแกค่ นในครอบครวั และผทู้ อ่ี าศยั อยู่ในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง และยงั เปน็ การสรา้ งความเดอื ดรอ้ น รำ� คาญให้แกผ่ อู้ ืน่ ด้วย คัดแยกขยะ โดยเฉพาะขยะประเภทพลาสติกและ ขยะที่สามารถน�ำกลับมาใช้ใหม่ได้ออกจากขยะที่ต้องน�ำไปก�ำจัด โดยอาจนำ� ไปขายใหก้ บั ผทู้ ่ีรับซอื้ หรือนำ� ไปใช้ใหม่ ลดการใช้ถุงพลาสติกไม่ใช้ภาชนะบรรจุอาหารประเภท กล่องโฟม หรือเล่ียงการใช้บรรจุภัณฑ์ท่ีมีพีวีซีเป็นองค์ประกอบ ซึ่งปล่อยสารพิษได้หากน�ำมาเผา ซื้อสินค้าท่ีใช้บรรจุภัณฑ์ที่มี ความปลอดภยั และสามารถนำ� กลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ เชน่ และสามารถนำ� กลบั มาใชใ้ หมไ่ ด้ เช่นแกว้ ขวดแก้วเปน็ ตน้ ขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหารเศษก่ิงไม้ใบไม้สามารถ น�ำมาหมักท�ำปยุ๋ เพื่อลดการก�ำจัดด้วยการเผาในบริเวณบา้ น การก�ำจัดขยะด้วยการเผา อาจเป็นวิธที ่ีงา่ ย แตส่ ง่ ผลกระทบ ตอ่ สิ่งแวดล้อมและสขุ ภาพ อยา่ งมากหากสามารถ ลดการเผาได้ก็จะช่วย ลดการเกิดมลพิษ ในบา้ นและชุมชน ท่ีมาบทความ ศูนยส์ ือ่ สารสาธารณะ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข https://multimedia.anamai.moph.go.th/ 35วารสาร
: ของมนั ตอ้ งแชร์ Oปlิยdธfaิดmาiliจarันitทy รtoศ์ wรีoสrkง่ ผinลงaานnew place ควา้ รางวัลชนะเลิศการประกวดออกแบบสถานทีท่ �ำงานภายในบ้าน พธุ 28 เมษายน 2564 / ข่าวกจิ กรรม ขา่ วรบั รางวัล โดย สริ ิญญา ณ นคร นางสาวปยิ ธดิ า จนั ทรศ์ รี นกั ศึกษาหลกั สูตรสถาปตั ยกรรม ส�ำหรับการประกวดสถานท่ีท�ำงานภายในบ้าน จัดโดย ชั้นปีท่ี 4 คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย บริษัท วีระพานิช เชียงใหม่ จ�ำกัด ร่วมกับ SCG Home Solution เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา คว้ารางวัลชนะเลิศ การประกวดออกแบบ ซง่ึ เปน็ การประกวดออกแบบห้องท�ำงานภายในบ้าน เพือ่ ตอบโจทยก์ าร สถานที่ท�ำงานภายในบ้าน Weera Phanich Design Award 2021 ทำ� งานแบบ Work from home ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ ภายใต้ Concept Work from Home “สรา้ งทที่ ำ� งานภายในบา้ น ใหน้ า่ อย”ู่ โรคตดิ ตอ่ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ซง่ึ ผลงาน Old familiarity รนุ่ นักเรียนนักศึกษา รับรางวลั มูลคา่ รวม 100,000 บาท to work in a new place ความคุ้นเคยเดิมในการท�ำงานที่แห่งใหม่ ของนางสาวปิยธิดา จันทร์ศรี ตอบโจทย์การออกแบบสถานท่ีท�ำงาน นางสาวปิยธิดา จันทร์ศรี (น้องปิ่น) เจ้าของผลงาน ภายในบา้ นได้อย่างลงตวั Old familiarity to work in a new place ความคนุ้ เคยเดมิ ในการทำ� งานที่ แหง่ ใหม่ มาจากแนวคดิ ทว่ี า่ “พอถงึ เวลาทเี่ ราจะตอ้ ง Work From Home เราอยากจะท�ำพื้นที่ท�ำงานให้มีเป็น Office อยู่ มีพื้นท่ีของโต๊ะท�ำงาน ส่วนตัวของเราเอง และมมุ ทีเ่ ราไดเ้ หน็ ขา้ งนอกบ้าง ไม่ให้เราร้สู ึกอึดอัด มีพ้ืนที่โต๊ะใหญ่ส�ำหรับท�ำงานมือ D.I.Y ได้สะดวก และยังใช้เป็นที่น่ัง ประชุมเล็กๆ ได้อีกด้วย แล้วนอกจากนี้ก็มีพื้นท่ี ท่ีเราอยากจะให้เป็น ที่ส�ำหรับการพักผ่อนสมองระหว่างท�ำงาน คือให้ดูเป็นพื้นที่น่ันเล่นตาม สบายนงั่ ดม่ื กาแฟ อา่ นหนงั สอื เลน่ มองดธู รรมชาตผิ า่ นชอ่ งหนา้ ตา่ งบาน ใหญ่อย่างเตม็ ที่ ซ่งึ เราจะกั้นพื้นท่ีดว้ ยช้นั วางบ้างเลก็ นอ้ ย แตก่ ็มีความ เชื่อมพืน้ ท่ีกนั อยเู่ พอ่ื ใหม้ ีความรสู้ กึ ผอ่ นคลายทแ่ี ตกตา่ งกนั ในเรอื่ งของ การตกแต่งก็อยากให้มีความรู้สึกความอบอุ่นของไม้ดูสบายตาสบายใจ และมโี ทนสอี อ่ น มสี เี หลอื งแทรกชว่ ยเรอื่ งความรสู้ กึ รา่ เรงิ ความจำ� ไดด้ ว้ ย และตกแตง่ ตน้ ไมส้ ีเขยี วบ้าง ชว่ ยลดความเครียดไดด้ ”ี 36 วารสาร
ของมนั ต้องโชว์ ภาพวาดสีน�้ำ เน้ือหา และเรยี บเรยี ง นายสิงหล วิชายะ น.ส.รตั นาภรณ์ สารภี “ของมนั ตอ้ งโชว”์ หนงึ่ ในงานบรกิ ารวชิ าการ ดำ� เนนิ การโดยสถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา มีวัตถุประสงค์เพ่ือ เป็นช่องทางการเผยแพร่ผลงานวิจัย องค์ความรู้ นวัตกรรม ส่ิงประดิษฐ์ใหม่ๆ เพื่อให้กับบุคคลและหน่วยงานทางการศึกษา ทกุ ระดบั และประเภทการศกึ ษา ทงั้ ภาครฐั และเอกชนตลอดจนผใู้ ชป้ ระโยชนจ์ ากงานวจิ ยั ไดเ้ ขา้ ถงึ และนำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นทางตรงเพอื่ แกไ้ ขปญั หา หรอื นำ� ไปใช้ประโยชน์ในการพฒั นาระบบการเรียนร้เู พอื่ พัฒนาการศกึ ษา ท้งั นี้ ยังสามารถเข้าถึงขอ้ มลู ผเู้ ชย่ี วชาญเจ้าของผลงานของมหาวทิ ยาลยั เพอ่ื ดำ� เนินการประสานงานจดั กจิ กรรมบริการวิชาการในอนาคต เครือ่ งพมิ พ์เซรามิกสามมติ ิ นักวิจัยด�ำเนินการพัฒนาและ สร้างต้นแบบเครื่องพิมพ์เซรามิกสามมิติใน ขั้นตอนการขึ้นรูปวัสดุเซรามิกส�ำหรับผลิต ต้นแบบกระดูกเทียมเซรามิก เพ่ือประยุกต์ ใชท้ างการแพทย์ และสัตวแพทย์ ที่มา : การพัฒนาเครอ่ื งพิมพ์ 3 มิติ สําหรับ ซีเมนต์กระดูกชนิดเซ็ตตัวได้เองเพื่อใช้ผลิต เซรามิกทางการแพทย์ (มนวิภา อาวิพันธุ์, 2562) ผลติ ภณั ฑว์ สั ดุเซรามกิ ชวี ภาพ นักวิจัยด�ำเนินการศึกษา พัฒนา ปรับปรุง สอบเทียบ และทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์เซรามิก ชีวภาพท่ีมีไฮดรอกซีอะพาไทต์เป็นองค์ประกอบหลัก ในวัสดุทางการแพทย์ โดยมีขอบเขตของการพัฒนา ผลติ ภณั ฑว์ สั ดเุ ซรามกิ ชวี ภาพทส่ี ามารถใชง้ านไดใ้ นสตั ว์ (ทนั ตกรรม และกระดกู ในสตั ว)์ และผลติ ภัณฑช์ ีววสั ดุ ทางการแพทย์ ส�ำหรับสร้างห้องปฏิบัติการสังเคราะห์ วัสดุเซรามิกชีวภาพ ห้องปลอดเช้ือ รวมถึงเคร่ืองมือ ทางการแพทย์ ทม่ี มี าตรฐาน สำ� หรบั ทดสอบคณุ สมบตั ิ ของวัสดเุ ซรามกิ ชีวภาพในหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร ที่มา : การพัฒนา ปรับปรุง สอบเทียบและทดสอบ มาตรฐานผลิตภัณฑ์เซรามิกชีวภาพท่ีมีไฮดรอกซี อะพาไทต์เป็นองค์ประกอบหลักในวัสดุทางการแพทย์ เพ่ือไปสู่มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชีววัสดุสากล US FDA (ภาคภูมิ จารภุ ูม,ิ 2562) 37วารสาร
รอบรวั้ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา มทร.ล้านนา ร่วมกับ ธนาคารออมสิน ลงพ้ืนท่ีจัดกิจกรรม ผอ.โครงการสว่ นพระองค์ กรมสมเดจ็ พระเทพฯ เยย่ี มชมโรงผลติ ไฟฟา้ ถ่ายทอดองค์ความรู้พัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมผ้าทอกะเหรี่ยง ระบบพลงั งานผสมจากน้�ำและแสงอาทติ ย์ มทร.ลา้ นนา ผู้พิการทางสายตาตามภูมิสังคม ในพื้นท่ีพระราชด�ำริอ�ำเภอ อมกอ๋ ย วันท่ี 9 เมษายน 2564 อาจารย์วิสุทธิ์ บัวเจริญ รองผู้อำ� นวยการสถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชน พร้อมด้วยอาจารย์ วนั ท่ี 7-9 เมษายน 2564 ผศ.ไพโรจน์ วรพจนพ์ รชยั ศรธี ร อุปค�ำ อาจารยท์ วศี กั ด์ิ มหาวรรณ์ และนกั ศกึ ษาสาขาวิศวกรรม อาจารย์ประจ�ำหลกั สูตรสิ่งทอและเครือ่ งประดับ คณะศลิ ปกรรม เกษตรและชีวภาพ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ให้การตอ้ นรบั และรายงาน และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยี ผลการด�ำเนินงานแก่ ดร.อภิสิทธิ์ พ่ึงพร ผู้อ�ำนวยการโครงการ สู่ชมุ ชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา และ ธนาคาร สว่ นพระองคส์ มเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ออมสิน ลงพ้ืนท่ีจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ในการพัฒนา สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสเข้าเย่ียมชมขั้นตอนการท�ำงานของ ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมผ้าทอกะเหร่ียงให้แก่กลุ่มหัตถกรรมผ้าทอ โรงผลิตไฟฟ้าพลังงานผสมระหว่างน้�ำและแสงอาทิตย์ ภายใน กะเหรี่ยงผู้พิการทางสายตาในพื้นท่ีพระราชด�ำริ อ�ำเภออมก๋อย ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านเลอะกรา จังหวัดเชียงใหม่ ณ บ้านยางเปาเหนือ ต�ำบนอมก๋อย จังหวัด ต.แม่ต่ืน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซ่ึงระบบการผลิตไฟฟ้าแบบผสม เชียงใหม่ เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชน โดยใช้อัตลักษณ์ ระหว่างพลังงานจากน�้ำ และพลังงานจากแสงอาทิตย์ เป็นผลงานการ ตามภูมิสังคมของตนเองซ่ึงน�ำมาสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ต่อยอดจากงานวิจัยของอาจารย์และนักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องกล ให้กับชุมชน พ่ึงพาตนเองสามารถลดภาระจากสังคม เกิดความ และสาขาวศิ วกรรมไฟฟา้ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ทสี่ ามารถนำ� มาใชง้ าน ย่งั ยนื ระบบนิเวศในภมู ิสังคม ไดจ้ รงิ และตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของชมุ ชน ชว่ ยยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ และเปน็ สว่ นสำ� คญั ในการสง่ เสรมิ การพฒั นาดา้ นการศกึ ษา การลดความ เหลอ่ื มลำ้� เพมิ่ โอกาสในการเรยี นรู้ ควบคกู่ บั การสรา้ งอาชพี เพมิ่ รายได้ และอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตขิ องประชาชนในพนื้ ทโี่ ครงการอนั เนอื่ ง มาจากพระราชด�ำริ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ภายใต้การสนับสนุนงบ ประมาณตามยทุ ธศาสตรง์ านบรกิ ารวชิ าการสชู่ มุ ชน และการสนองงาน อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� รขิ องมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา และบริษัทพาวเวอร์บายพร้อมด้วยบริษัทเครือข่าย โดยสามารถผลิต ไฟฟา้ จากพลงั งานนำ�้ ได้ 5 กโิ ลวตั ต์ และกำ� ลงั การผลติ ไฟฟา้ จากพลงั งาน แสงอาทิตย์ได้ 2.25 กิโลวัตต์ ส�ำหรับไฟฟ้าท่ีผลิตได้จะใช้สนับสนุน การเรยี นการสอนของศนู ยก์ ารเรยี นรชู้ าวไทยภเู ขา (ศศช.) บา้ นเลอะกรา และระบบไฟส่องสว่างภายในครัวเรือน ไฟส่องสว่างถนนในหมู่บ้าน เคร่ืองสขี า้ วขนาดเลก็ ประจ�ำหมบู่ ้าน ซึ่งสามารถลดคา่ ใชจ้ ่ายในหมู่บ้าน ประมาณ 17,500 บาท ตอ่ เดือน ส�ำหรบั ผู้ที่สนใจเก่ยี วกับหลักการทำ� งานของระบบไฟฟ้าแบบผสม พลังงานจากน้�ำ และพลังงานจากแสงอาทิตย์ สามารถติดต่อสอบถาม ขอ้ มลู เพิ่มเตมิ ได้ที่ อาจารย์ศรีธร อปุ ค�ำ อาจารยป์ ระจำ� สาขาวิศวกรรม เครอ่ื งกล คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา โทร.053-921444 38 วารสาร
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: