วารสารแก้วปัญญา ปีที่ 7 ฉบับที่ 1 (มกราคม – เมษายน 2563)

สถาบันคณุ ภาพคคู่ ุณธรรม ISSN : 2392-5892 มจี ิตบริการวิชาการดีเลศิ ระดบั ประเทศ ISSN Online : 2561-2335 เปน็ ที่ยอมรบั ของสงั คม ปท ี่ 7 มกราคม 2563 - เมษายน 2563

วัตถุประสงค์ บทบรรณาธกิ าร 1. เพ่ือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและผลงานวิจัย และ เข้าช่วงต้นปีทั่วโลกก็ได้ประสบกับสถานการณ์ของ งานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี การระบาด“ไวรัสโคโรนา” หรอื “โควิด-19” ท�ำใหใ้ ครหลายคน ราชมงคลลา้ นนา เปน็ กงั วล และคอยตดิ ตามขา่ วสารกนั อยตู่ ลอดถงึ จำ� นวนผตู้ ดิ เชอื้ อตั ราการเสยี ชวี ติ รวมไปถงึ การปอ้ งกนั ตวั เองใหร้ อดพน้ จากการ 2. เพอื่ เปน็ สอื่ กลางในการแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และการเขา้ ถงึ ติดเชื้ออันตรายน้ ี ส�ำหรับวารสารแก้วปัญญา มทร.ล้านนา ปี 7 องค์ความรู้ของภาคประชาชน (ฉบบั ท่ี 1 ปี 2563) เลม่ น้ี กย็ งั คงมเี นอ้ื หาใหแ้ กผ่ อู้ า่ นไดร้ บั ทราบ ได้ความรู้ อย่างมากมายเช่นเคยครับ กองบรรณาธกิ าร โดยในวารสารแกว้ ปญั ญาฉบบั นี้ ทางกองบรรณาธกิ าร อยากขอน�ำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้เห็นแนวทางการป้องกัน ผู้ชว่ ยศาสตราจารยเ์ กรยี งไกร ธารพรศร ี กับสถานการณ์ของการระบาด“ไวรัสโคโรนา” หรือ ผู้ช่วยศาสตราจารยน์ ทชี ัย ผัสดี “โควิด-19” ฉบับน้ี จึงเป็นโอกาสดีอันท่ีทางกองบรรณาธิการ อาจารยว์ สิ ทุ ธิ์ บวั เจริญ จึงน�ำข้อมูลท่ีเป็นสาระ ให้กับทุกภาคส่วนในแนวทาง อาจารยส์ ุรีวรรณ ราชสม การป้องกัน กับสถานการณ์ของการระบาด“ไวรัสโคโรนา” นายนรศิ ก�ำแพงแก้ว หรือ “โควิด-19” มาน�ำเสนอให้ผู้อ่านได้รับสาระประโยชน์ นายพษิ ณุ พรมพราย และความรู้พร้อมท้ังร่วมประทับใจไปด้วยกันถึง 7 ชุมชน นายจักร์รินทร์ ชนื่ สมบัติ มาน�ำเสนอให้ผู้อ่านและนอกจากนี้ ยังคงมีบทความอ่ืนๆ นางสาวรตั นาภรณ์ สารภี ที่น่าสนใจให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามอีกเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น นายเจษฎา สภุ าพรเหมนิ ทร์ บทความในคอลัมน์เปิดมุมมอง ท่ีท่านจะได้พบกับท่านอาจารย์ นางสาวสธุ าสิน ี ผู้อยสู่ ุข เกรียงไกร ธารพรศรี ผู้อ�ำนวยการสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยี นางสาววราภรณ์ ตน้ ใส สู่ชุมชน คนปัจจุบัน ของ มทร.ล้านนา ท่ีจะมาให้แนวคิด นายวรี วทิ ย ์ ณ วรรณมา มุมมอง เกี่ยวกับแนวทางการบริหารงานให้กับสถาบันถ่ายทอด เทคโนโลยีสู่ชุมชน ของ มทร.ล้านนา “หลอมรวม พัฒนา จดั ท�ำโดย สร้างจุดแข็งที่แตกต่างของพ้ืนที่ บนเอกภาพเดียวกัน ท้ังมหาวิทยาลัย” และบทความในคอลัมน์นักวิจัย กลุม่ งานสร้างองคค์ วามรแู้ ละถ่ายทอดเทคโนโลยี :The Researcher ที่จะพบสาระความรู้ ว่าด้วยเรื่องนวัตกรรม สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยีสชู่ ุมชน การผลิตและผลิตภัณฑ์อาหารและมุมมองต่างๆของนักวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา โดย อ.ดร.สุรีวรรณ ราชสม และ อ.ดร.จรรยวรรธ์ ตัณฑ์เจรญิ 98 หมู่ 8 ต�ำบลป่าป้อง อำ� เภอดอยสะเก็ด วฒุ จิ ำ� นงค์ จังหวัดเชยี งใหม่ 50220 สุดท้ายน้ีกองบรรณาธิการวารสารแก้วปัญญา โทร.053 - 266516-8 หวงั วา่ วารสารฉบบั น้ี จะเปน็ แหลง่ หนง่ึ ทส่ี รา้ งขมุ ปญั ญาดา้ นงาน บรกิ ารวชิ าการแกท่ า่ นผอู้ า่ นไมม่ ากกน็ อ้ ย เพอ่ื การพฒั นาบรกิ าร ข้อเขียนหรือบทความใดๆ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารแก้ปัญญา วชิ าการจากภาคการศกึ ษาสภู่ าคชมุ ชน สงั คม ใหเ้ กดิ ความยง่ั ยนื ฉบับน้ี เป็นความคิดเห็นเฉพาะตัวของผู้เขียน คณะผู้จัดท�ำ ต่อไปครบั …แล้วพบกนั ใหม่ในโอกาสต่อไปครบั ไม่จ�ำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีข้อผูกพันกับคณะผู้จัดท�ำและสถาบัน ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กองบรรณาธิการ แตอ่ ย่างใด

รอบรั้ว มทร.ลา้ นนา 19,21,25,38,39 สถาบนั คณุ ภาพคคู่ ุณธรรม คอลมั น์ มีจิตบรกิ ารวชิ าการดีเลิศระดับประเทศ เปดิ มมุ มอง 4 เป็นทีย่ อมรับของสังคม ISSN : 2392-5892 ISSN Online : 2561-2335 “หลอมรวม พัฒนา สรา้ งจุดแขง็ ทแี่ ตกตา่ ง ของพน้ื ที่ บนเอกภาพ เดยี วกันทั้งมหาวิทยาลัย” ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์เกรียงไกร ธารพรศรี ผอู้ ำ� นวยการสถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา งานวิจยั ไมข่ ้นึ หง้ิ 14 ปท ่ี 7 พฒั นาผลติ ภณั ฑ์ถัว่ เหลอื งหมักแหง้ ตามความต้องการ มกราคม 2563 - เมษายน 2563 ของชุมชน อ�ำเภอพร้าว จงั หวัดเชยี งใหม่ (Development of fermented dried soybean product for SMEs in Praow Chiang Mai) The Research 17,18 4 อ.ดร.สรุ วี รรณ ราชสม 14 อ.ดร.จรรยวรรธ์ ตัณฑเ์ จรญิ รตั น์ วุฒิจำ� นงค์ เรอื่ งเล่าชาวลา้ นนา 20 อาจารย์ มทร.ลา้ นนา ผดุ ไอเดีย สรา้ ง face shield และ กลอ่ งป้องกันเช้อื ฟงุ้ กระจาย (Aerosol Boxs) ป้องกันไวรสั โควิด-19 เพือ่ นำ� ไปใช้ประโยชน์จริง Knowledge Management 22 องคก์ รผา่ นวกิ ฤต COVID-19 สู่ชีวิตปกติแบบใหมด่ ว้ ยการ จัดการความรู้ ชุมชนเดนิ ทาง 26 กินกะกร “นา่ นและผ้าฝ้าย” 20 บรกิ ารวชิ าการ 28 คาราวานบริการวชิ าการ “องคค์ วามรูด้ ี ๆ มีไวท้ �ำกิน” ของมนั ตอ้ งโชว์ 32 ซะป๊ะ สเปซ 34,36 อาจารย์และนกั วจิ ัยมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา แอพพลิเคช่นั LandsMaps จ.เชียงใหม่ ผุดไอเดียสร้างเครอื่ งกดเจลแอลกอฮอล์แบบ ทิปดๆี ทีจ่ ะช่วยทา่ นในการส่งไฟลไ์ ดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ เหยยี บเท้า ลดเส่ียงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการลดขนาดไฟลน์ ำ� เสนองาน (PowerPiont) ได้ใน 6 คลกิ

: เปดิ มมุ มอง ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์เกรยี งไกร ธารพรศรี ผอู้ �ำนวยการสถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 4 วารสาร

ดว้ ยประสบการณจา์ กการบรหิ ารจดั การ การบรกิ ารวชิ าการในมหาวทยิ าลยเั ทคโนโลยรี าชมงคลมาตลอดระยะเวลากวา่ 20 ปี ได้รู้จักค�ำว่าการบริการ รู้จักค�ำว่าเครือข่าย รู้จักวิธีการบริหารจัดการ เกี่ยวกับการท�ำงานเป็นทีม การรวบรวมองค์ความรู้ และ บรู ณาการศาสตรต์ า่ งๆเพอ่ื นำ� มาสรา้ งงาน และการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ และกา้ วตอ่ ไปใน 4 ปขี า้ งหนา้ ท่ีไดร้ บั โอกาศจากมหาวทิ ยาลยั ได้รับต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคคลล้านนา สถาบันแห่งน้ีต้องได้รับ การพัฒนาองค์กรอย่างต่อเน่ืองเพ่ือให้เป็น สถาบันชั้นน�ำในการบริการวิชาการ และจะเป็นสถาบันท่ีสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อ นำ� ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการ พฒั นาประเทศเปน็ ทย่ี อมรบั ของสงั คม มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและสงิ่ แวดลอ้ มทง้ั ภายในภายนอก ในการ ขบั เคลอ่ื นองคกร์ ตอ้ งดำ� เนนิ กจิ กรรมบรกิ ารวชิ าการภายใตห้ ลกั จรยิ ธรรมและการจดั การทดี่ เี พอื่ การนำ� พาไปสเู่ ปา้ หมาย สงู สดุ และยง่ั ยนื จากแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พ.ศ. 2562 - 2565 ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2562 ตามประกาศน้ันเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธ์ิ บรรลุเป้าหมายและเป็นกลไกในการก�ำกับติดตาม ประเมินผล การดำ� เนนิ งานในภาพรวมของมหาวทิ ยาลัย ดังน้ี 1. พั ฒ นา ก ร ะ บ ว น ก า ร จัดการศึกษานักปฏิบัติ (Hands-On) เพื่อให้ ก ร ะ บ ว น ก า ร จั ด ก า ร ศึกษาของหลักสูตรผลิต บัณฑิตวิชาชีพนักปฏิบัติ ท่ีเน้นการมีผลลัพธ์การ เรียนรู้และสมรรถนะ วชิ าชีพ 2. พั ฒ น า อ า จ า ร ย ์ ใ ห ้ สามารถจัดการเรียนรู้ท่ี เน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ เ พ่ื อ ใ ห ้ อ า จ า ร ย ์ ข อ ง มหาวทิ ยาลัย 3. สรา้ งบณั ฑติ ใหม้ ที กั ษะที่ พึงประสงค์ท่ีมีลักษณะ เหมาะสมในการใช้ ชีวิตและการท�ำงานใน ศตวรรษท่ี 21 การเชื่อมโยงตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 กับประเด็นยุทธศาสตร์กลยุทธ์และตัวช้ีวัดของ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กับสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนในการเช่ือมโยงมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 ในมาตรฐานที่ 3 คือด้านการบริการวิชาการ และประเด็นยุทธศาสตร์จัดอยู่ในยุทธศาสตร์ ท่ี 2 เรื่องการพัฒนามหาวิทยาลัย เพื่อการเติบโตร่วมกับการพัฒนาประเทศ จากการพฒั นาผลงานวิจัย ผลงานสร้างสรรค์ การบรกิ ารวชิ าการ นวตั กรรม และก�ำลังคน เพิ่มขดี ความสามารถในการแข่งขัน โดยการใชก้ ลยทุ ธ์ และตวั ชวี้ ดั กอ่ ใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธิ์ บรรลเุ ปา้ หมายและเปน็ กลไกในการกำ� กบั ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานในภาพรวมของมหาวทิ ยาลยั ตามกลยทุ ธ์ และตวั ชว้ี ดั ในกลยทุ ธท์ ่ี 2.1 คอื บรู ณาการ งานวจิ ยั บรกิ ารวชิ าการและนวตั กรรมใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ง่ ผลลพั ธ์ตอ่ ผูเ้ รียน สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ตวั ช้ีวัดอยทู่ ี่ 4 เพ่ือใหบ้ ุคลาการและนกั ศึกษาสามารถประยกุ ต์ใช้ ความรทู้ างวชิ าการและวชิ าชพี ตามหลกั สตู รกอ่ ใหเ้ กดิ ผลงานวจิ ยั การบรกิ ารวชิ าการ และนวตั กรรมทสี่ รา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั 5วารสาร

แนวทางการพัฒนา และ ช่วงที่ 1 คือการปรับปรุงและ การบรหิ ารงาน ความพยายามที่จะท�ำงานด้านการบริการ วิชาการของบุคลากรโดยเน้นการสนับสนุน แนวทางการพัฒนาและ การปฏิบัติงานให้ดีขึ้นกว่าท่ีเป็นอยู่อย่าง การบริหารงานของสถาบันถ่ายทอด ต่อเน่ือง โดยน�ำหลักและข้ันตอนวิธีการ เทคโนโลยีสู่ชุมชน จะต้องท�ำควบคู่ ของไคเซ็น (Kaizen) ไคเซ็น หมายถึง กันไปกับการด�ำเนินงาน การพัฒนา กลยุทธ์การบริหารงานแบบญี่ปุ่น(Kaizen) องค์กร และบุคลากรทุกระดับเป็นไป เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่า การปรับปรุง ตามหลักธรรมาภิบาล ให้มีคุณธรรม (Improvement) เป็นแนวคิดที่น�ำมาใช้ จริยธรรมมจี ติ บริการวิชาการ และจะ ในการบริหารการจัดการมีประสิทธิผล ต้องปรับทิศทางการท�ำงานให้เข้าใจ โดยมงุ่ ปรบั ปรงุ วธิ กี ารสว่ นรว่ มของพนกั งาน เขา้ ถงึ แนวทางการปฏบิ ตั งิ านตามพนั ธ ทุกคน บุคลากรทุกระดับ ร่วมกันแสวงหา กิจของสถาบัน ดงั น้ี แนวทางใหม่ ๆ เพือ่ ปรบั ปรงุ วธิ ีการทำ� งาน ให้ดขี น้ึ ไปเรอ่ื ย ๆ ชว่ งที่ 2 การพฒั นาการ บริหารจัดการทรัพยากรท่ีมีอยู่ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและ ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล มี ก า ร ส ่ ง เ ส ริ ม ส นั บ ส นุ น ให้อาจารย์สามารถจัดการเรียนรู้ ในการมีส่วนร่วม และการ บูรณาการระหว่างศาสตร์ให้เป็น องค์ความรู้พร้อมใช้ และการน�ำ องค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ต่อ สังคม ประสานความร่วมมือ เกี่ยวกับงานบริการวิชาการของ ทุกหน่วยงานทุกพ้ืนท่ีให้เป็นไป ตามนโยบายของมหาวิทยาลัยฯ และการกำ� หนด 6 วารสาร

ชว่ งท่ี 3 การขบั เคลอื่ น “ องค์กรให้ไปสู่เป้าหมาย โดย การปรับปรุงการท�ำงานใหม่ แนวคิดใหม่เพ่ือให้สถาบันเป็น สถาบันช้ันน�ำด้านการน�ำผลงาน วิชาการ งานบริการวิชาการ นวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ และ บุคลากรมีจิตอาสาการบริการ ให้ค�ำปรึกษาการบริการวิชาการ งานรับใช้สังคม และการสร้าง เครอื ข่ายบรกิ ารวิชาการทกุ ระดับ ท้ังภายในภายนอกให้มีความ เขม้ แข็งและยง่ั ยนื โดยใชม้ ที กั ษะ เหมาะสมในการใช้ชีวิตและ การท�ำงานในศตวรรษ จากแนวทางการพัฒนา และการบรหิ ารงานท้งั 3 ช่วง คอื การนำ� ไปสูเ่ ป้าหมายสูส่ ดุ ทกี่ �ำหนดไว้ ทีเ่ ปน็ “สถาบันชน้ั น�ำดา้ นการบริการ “วิชาการ สร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม มุ่งเน้นการปฏิบัติเพ่ือน�ำพาสู่การพัฒนาประเทศ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีจิตอาสา เพอ่ื การพฒั นาอยา่ งย่งั ยนื ” สถาบนั ช้นั น�ำดา้ นการบริการวชิ าการ สร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม ม่งุ เน้นการปฏิบัติ เพอื่ น�ำพาสูก่ ารพัฒนาประเทศ มคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคมและส่ิงแวดลอ้ ม มีจติ อาสาเพ่อื การพัฒนาอยา่ งย่งั ยนื 7วารสาร

เป้าหมายการบรหิ ารและการพัฒนา สถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยีสชู่ มุ ชน แนวทางการบรหิ ารและการพฒั นา สถช. และการเชือ่ มโยงแพลตฟอร์ม อววน. 8 วารสาร

หลกั การ CSR ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมและสิง่ แวดลอ้ มขององค์กร การใช้กระบวนการบริหารจัดการดว้ ย Corporate social responsibility (CSR) คือ ความรบั ผิดชอบ ต่อสังคมและส่ิงแวดล้อมขององค์กร โดยการด�ำเนินกิจกรรมภายใต้หลักจริยธรรมและการจัดการที่ดี โดยรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและสง่ิ แวดลอ้ มทง้ั ภายในและภายนอกองคก์ ร เพอ่ื นำ� สเู่ ปา้ หมายสงู สดุ คอื การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื • ระดับ 1 ขอ้ ก�ำหนดตามกฎหมาย คือ ปฏิบตั ิใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายและกฎเกณฑท์ เี่ กี่ยวข้องขององค์กร เช่นระเบยี บข้อบังคบั ต่างๆ และการดแู ลพนกั งานอย่างเอาใจใส่ • ระดบั 2 ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ คอื การค�ำนึงถงึ การอย่รู อดและให้ผลตอบแทน ไมเ่ บยี ดเบียนสังคม เช่นดูแลสวัสดกิ ารตา่ งๆของพนักงาน • ระดับ 3 จรรยาบรรณของการบรกิ าร คอื เพิม่ มลู คา่ ทางกจิ กรรมเพอื่ สงั คม • ระดบั 4 ความสมคั รใจ คอื บคุ ลากรมจี ติ อาสาการบรกิ ารใหค้ ำ� ปรกึ ษาการบรกิ ารวชิ าการงานรบั ใชส้ งั คม และการสร้างเครือข่ายบริการวิชาการทุกระดับท้ังภายในภายนอกให้มีความเข้มแข็งและย่ังยืนต่อไป จากนโยบาย การขบั เคลอ่ื น CSR (Corporate Social Responsibility) CSR ความรับผิดชอบต่อสังคมและส่ิงแวดล้อมของสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน จะ เป็นแนวทางหน่ึงในการบริหารจัดการองค์กรให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ท่ีเป็นองค์กร ท่ีขับเคล่ือนท่ีไม่แสวงหาก�ำไร และมีความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของกลุ่มต่าง ๆ ด้วยการจัดการ โครงการกิจกรรมการเรียนรู้ โดยเน้นการเป็นนักปฏิบัติของบุคลากรและนักศึกษาของ มทร.ล้านนา เพ่ือน�ำไปสู่โครงการสร้างงานกิจการเพ่ือสังคม Social Enterprise เป็นการวางเป้าหมายท่ีจะแก้ปัญหาและ ความรบั ผิดชอบต่อสังคมและสิง่ แวดลอ้ ม ขับเคลื่อนโดยใชห้ ลักธรรมาภิบาล มีการบรหิ ารจัดการองค์กรท่ดี ี มีจริยธรรม กล่าวคือ พยายามบรรลุ ให้เกิดความยั่งยืนทางสังคมและวัดความส�ำเร็จขององค์กรด้วยการ ประเมนิ จาก “ผลลพั ธท์ างสังคม” ทต่ี กไปถึงกลุ่มเป้าหมายท่แี ท้จรงิ วา่ เกิดขึ้นหรือไม่ เพยี งใดการขับเคล่อื น CSR (Corporate Social Responsibility) ความรับผิดชอบต่อสังคมและส่ิงแวดล้อมของสถาบันถ่ายทอด เทคโนโลยสี ูช่ ุมชน • ขบั เคล่อื นจากภายใน สู่ภายนอก Inner CSR • ปลกู ฝังคา่ นยิ มใหพ้ นกั งานในองคก์ ร เพื่อสร้างคนใหม้ จี ิตบริการ • สรา้ งทมี งาน CSR ประกอบดว้ ยบุคลากรจากหลายฝา่ ยชว่ ยกนั • เขียนแผนงานพรอ้ มกำ� หนดผู้รับผดิ ชอบโดยตรง สามารถช่วยตดิ ตามประเมนิ ผลได้ 9วารสาร

• วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสขององคก์ ร เพอ่ื หาประเด็นทำ� CSR • สรา้ งกิจกรรม CSR กับผมู้ สี ่วนไดส้ ว่ นเสียต่างๆขององคก์ ร • ระบุเป้าหมาย Target และกำ� หนดวตั ถุประสงค์ใหช้ ัดเจน • ทำ� กิจกรรม CSR ขององค์กรอยา่ งตอ่ เนื่อง และในเชิงรกุ • เข้าหา Opinion Leader ให้ชมุ ชนมสี ว่ นรว่ มจดั ท�ำแผน CSR • มกี ารแลกเปลี่ยนความรรู้ ะหว่างองค์กรกับชมุ ชน การออกแบบและสร้างโมบายล์เอพพร้อมใช้ ภายใต้แบรนด์ มทร.ลา้ นนา หรือ แบรนด์ สถช. เป้าหมายการบริหาร แนวทางการเช่อื มโยงเผยแพร่องคค์ วามรพู้ ร้อมใชป้ ระโยชนส์ ู่สงั คมและชมุ ชน จั ด ก า ร แ ห ล ่ ง เ รี ย น รู ้ ศูนย์เรียนต้นแบบและ ศูนย์ฝึกอาชีพ สถาบัน ถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ ชุมชน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคล ลา้ นนา ส ถ า บั น ถ ่ า ย ท อ ด เทคโนโลยีสู่ชุมชน มทร.ล้านนา ต้องเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ต้นแบบและศูนย์ฝึกอาชีพเพื่อ ชุมชน ซึ่งเป็นเป้าหมายในการ ด�ำเนินงานของสถาบัน โดยการ ด�ำรงอยู่สู่ความยั่งยืนของชุมชน เปิดให้ชุมชน 10 วารสาร

ดา นวศ� วกรรม ดานศิลปกรรม ดานศิลปกรรม ดา นว�ทยาศาสตร และเทคโนโลยี ตัวอยาง เชน ตวั อยาง เชน ศลิ ปะประดษิ ฐ ตวั อยา ง เชน การทำบัญช�พ้ืนฐาน, การเกษตร ชา งซอมเครอ่� งใชไฟฟาพ้ืนฐาน, (ปน ดอกไมจากดนิ ไทย), การทำแผนธุรกิจ, การตลาด, ชา งซอมคอมพวิ เตอร ส่ิงประดิษฐจากวสั ดุเหลือใช, แกะสลกั การทำธุรกิจหร�อว�ชาอนื่ ๆ ตวั อยาง เชน การแปรรปู การเกษตร, (การใชโปรแกรมคอมพิวเตอร), ผกั และผลไม, รอ ยลกู ปด , ผาบาติก, ที่ทางผูเร�ยนตองการ อาหารวาง,เบเกอรร ,่� ชางซอมโทรศัพทม อื ถอื ซอ ม,วท� ย-ุ ผลิตภณั ฑจากผกั ตบชวา, แปรรูปอาหารและสมุนไพร,ตัดผมบรุ ษุ โทรทศั น,ชางติดตั้งจานรบั สัญญาณ ดอกไมจ ากดินไทย, และสตร� , ตดั เย็บเสอ้ื ผา, ดาวเทียมและกลอ งวงจรปด, การออกแบบเคร่�องประดับสตร�, ชางทำรองเทา และกระเปา สตร�, ชางไฟฟา, ชางเช�อ่ มโลหะ, กรอบรูปวท� ยาศาสตร, เสร�มสวย,เพน ทเล็บ, นวดแผนโบราณ, ชางซอ มมอเตอรไซค, บรรจภ� ณั ฑแ ละผลติ ภัณฑกระดาษ นวดฝา เทา , หร�อว�ชาอื่น ๆ ชางซอมมอเตอรไฟฟา , หรอ� วช� าอ่ืน ๆ ท่ที างผูเรย� นตองการ ท่ที างผเู ร�ยนตองการ ชางซอมแอรบา น, ชา งซอ มแอรรถยนต,ชา งเหลก็ ดดั ประต-ู หนา ตาง,ชางกอ อิฐ-ฉาบปูน หร�อว�ชาอนื่ ๆ ท่ที างผเู ร�ยนตองการ 1.ศนู ย์เรียนร้ตู ้นแบบ • ศนู ยเ์ รียนรู้สร้างนวัตกรรมเพอ่ื การพัฒนาและตอบโจทยข์ องสงั คม • ศูนย์เรยี นรู้โรงงานผลิตปุย๋ อินทรยี เ์ พอ่ื เกษตรอนิ ทรีย์ • ศูนยเ์ รียนรูโ้ รงงานผลติ นำ� ดม่ื • ศนู ยเ์ รยี นรู้โรงงานเซรามิก • ศนู ย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ศูนยเ รย� นรตู นแบบ 2. ศูนย์ฝึกอาชพี โครงการแหลง องคความรู เพืีิ่อศนู ยเ รย� นรสู รางนวตั กรรม เพอ่ื การเรย� นรูตลอดช�ว�ต เพือ่ การพฒั นาและตอบโจทยของสังคม รายวชิ าท่เี ปดิ สอนหลกั สูตร ( การใชโ้ ปร•แกดรา้ มนควศิอวมกพรวิรเมตอตรวั )์อ,ยชา่ า่งงเซชอ่น่ มชโา่ทงรซศอ่ พั มทเกคม์ ารอืรอ•ื่ เถรงเโพอื�ยคใชอ่ืซนรไ้อ่งเรปฟกมขู ดฟาอ,โรา้องวพธบทิกนน้ืคุายาฐสค-ุคาใลโนานทใรกน,รหาวชทนรยัา่ ศัพวทงยนัฒซำกง,อ์่ นาิตมชนาา่คงอตมดิ พตวิ ง้ัเตจาอนร์ • ศูนยเรย� นรูโรงงานผลติ ปุยอนิ ทร�ย ชรตบัา่ งสอ ซญั อ่งมญเปมาอนณเตศดอานู วรเยไ์ ทฟกยีฟมลา้ แ,าลชงา่ะงกซลอ่ อ้ มงแวองจรรบ์ ปา้ นดิ ,, ชา่ •งไโฟครฟงา้ ก,าชรา่กงรเะชเชอื่ า มอโาลชหพ� ะเ,พชอื่ า่ ยงกซรอ่ ะมดมบั อเตอรไ์ ซค,์ เพ่ือเกษตรอินทร�ย ชา่ งแซลอ่ ะสมรแาองรทร์กั ถษยะทนาตง,์กชาา่รงปเรหะลกอก็ ดบอดั ปาชรพ� ะต-ู หนา้ ตา่ ง, • ศนู ยเ ร�ยนรูโรงงานผลติ นำด่ืม และศ ชกาู่นงายกร่อฝเอรก ิฐย� -อ•ฉนาารบชดูตป้า�พูนนน เศพหแิลรบอ่ืปือบกชวริชมุ ราชมอื่นนๆตทัวท่ีอายง่าผงเู้ รเียชน่นตอ้ ศงิลกปาเ•พระโอ่ืปคพกรรรางะอ รกดมถาิษใราชฐยสส ท์รูส อ(า งั งปดคอั้นมองดงคแคอลคค ะกวชวาไมุามมมชร้จนรู าู กดินไทย) • ศูนยเร�ยนรูโรงงานเซรามกิ • ศนู ยเรย� นรูเศรษฐกิจพอเพียง • ศูนยเ รย� นรูทดสอบสมรรถนะวช� าช�พและ/ หร�อศูนยเร�ยนรูต น แบบบอืน่ ๆ ทเ่ี หมาะสมเชง� พ้ืนที่ , สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้, แกะสลักผักและ•โผคลรงไกมา้,รสรา้องยนวลตัูกกปรัดรม, ผ้าบาติก ,กรผอลบิตรภูปัณวิทฑย์จาาศกาผสักตตรบ์,ชวบาร,รจดุภอัณกไฑม์แ้จลาเพะก่ือผดแโลจคลินาิตระไกกงภทรผกัณะยสูาบร,งูวฑแอนห์กกากลยารางุรระแอถอลดงาะอคาจยกษคดั ทวแเอกาบหดบ็มบออรรกูืงงเอคคคาวรคคริชศ่ืววอากึาางอมมษปื่นรรารูู ะๆดับทส่ีทตารงี, ผู้เรียนตอ้ งการ ภมู ิปญญาจากผูสูงอายุ • ด้านบริหารธุรกิจ ตัวอย่าง เช่น การท�ำบัญชีพื้นฐาน, การท�ำแผนธุรกิจ, การตลาด, การท�ำธุรกจิ หรอื วิชาอ่ืน ๆ ท่ที างผเู้ รียนต้องการ เปน เปาหมายในการดำเนนิ งานข กอางรเสกถษาตบร•,ันอดโา้ดาหนยาวกริทวาย่าารงศด,เาบำสเรตกงรออ์แรล์รยะี่,สู เทแูคคปวโรานรมโูปลยอยางั่ ีกหยาานืรรเขแกลอษะงตสชรมุมุนตชไัวพนอรย,ต่าัดงผเมชบ่นุรุษกแาลระแสปตรรรี ูป, ตัดเย็บเสื้อผ้า, ช่างท�ำรองเท้าและกระเป๋าสตรี, เสริมสวย,เพ้นท์เล็บ, นวดแผนโบราณ, นวดฝ่าเทา้ , หรอื วิชาอนื่ ๆ ท่ที างผเู้ รยี นต้องการ 11วารสาร

3. โครงการแหล่งองค์ความรู้เพื่อการเรยี นรตู้ ลอดชีวิต • โครงการธนาคารหน่วยกิต เพื่อเปิด โอกาสในการพัฒนาการเรียนรู้ของ บุคคลในวัยทำ� งาน • โครงการกระเชา้ อาชพี เพ่อื ยกระดบั และสร้างทกั ษะทางการประกอบอาชีพ • โครงการสร้างองค์ความรู้ เพ่ือการ ถ่ายทอดองค์ความรู้พร้อมใช้สู่สังคม และชุมชน ข้าพเจ้าจึงได้น�ำหลักการน้ันมาเพ่ือ เป็นแนวทางการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบ และวิธีการปฏิบัติงานของสถาบันให้มี ความเหมาะสมในการบรหิ ารจดั การโดย พจิ ารณาองค์ประกอบต่าง ๆ แลว้ นำ� มา จัดท�ำวิสัยทัศน์ นโยบาย และแนวทาง การพัฒนาสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยี สู่ชุมชน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการพัฒนา ประเทศในอนาคตรวมถึงนโยบายและ ยทุ ธศาสตรข์ องภาครฐั และการวเิ คราะหส์ ถานการณป์ จั จบุ นั ของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาการวเิ คราะหส์ ถานการณจ์ ากอดตี ถงึ ปจั จบุ นั ของสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนด้านวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดการพัฒนา และทันต่อสถานการณ์ของการเปล่ียนแปลงของสังคม เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางการบรหิ ารงานสถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ูชมุ ชนต่อไป. 12 วารสาร

“ หลอมรวม พัฒนา “ เดสียร้าวขงกอจันงุดพทแ้งันื้ขมท็งหท่ี บาี่แวตนทิกเอยตกาา่ ลภงยัาพ เชียงใหม่-เชยี งราย-นา่ น-ล�ำปาง-พษิ ณโุ ลก-ตาก 13วารสาร

: งานวิจยั ไมข่ ึ้นห้งิ พฒั นาผลติ ภณั ฑ์ ถวั่ เหลืองหมักแหง้ ตามความต้องการของชมุ ชน อำ� เภอพร้าว จังหวดั เชยี งใหม่ (Development of fermented dried soybean product for SMEs in Praow Chiang Mai) เรียบเรียง : งานวิจัยน้ีได้โจทย์วิจัยมาจากชุมชนบ้านหนองอ้อ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้ท�ำอาชีพเกษตรกรรม อาจารย์สุรีวรรณ ราชสม เป็นอาชีพหลัก และช่วงฤดูที่รอการเก็บเก่ียวผลผลิตทางการเกษตร ชาวบ้านจะหารายได้เสริมโดยผลิตและ จดั จำ� หนา่ ยผลติ ภณั ฑถ์ วั่ เหลอื งหมกั หรอื ถว่ั เนา่ ในชมุ ชน ซงึ่ ไดเ้ ขา้ มาขอคำ� แนะนำ� วา่ ทางหมบู า้ นมผี ลติ ภณั ฑถ์ ว่ั เนา่ ควรจะแปรรูปเป็นอะไรดีเพื่อให้ดูทันสมัย เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมและ ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค ในตอนแรกครนู อ้ ง ซง่ึ เปน็ ครู กศน. ทน่ี น่ั เปน็ คนตดิ ตอ่ มา พรอ้ มกบั บอกวา่ อยากทำ� เป็นผงปรุงรส หรือก้อนปรุงรสทาง อาจารย์สุรีวรรณ ราชสม และผู้ร่วมวิจัย อาจารย์จรรยวรรธ์ ตัณฑ์เจริญรัตน์วุฒิจ�ำนงค์ ก็ได้เสนอแนวคิดว่าน่าจะท�ำเป็นผงโรยข้าวแบบญ่ีปุ่นหรือท่ีเรียกว่า Furikake เพราะสามารถเอาไปทานได้กับข้าวสวยร้อนๆ และประเทศไทยเองก็เป็นประเทศที่รับประทานข้าว อยู่แล้ว และด้วยคุณสมบัติของถ่ัวเน่ามันสามารถเอามาลดความช้ืนเพ่ิม แล้วเอามาเป็นวัตถุดิบพ้ืนฐานในการ พฒั นาผลิตภัณฑ์ได้ 14 วารสาร

พอหลังจากศึกษาขอ้ มูลเรื่องถว่ั เนา่ พบวา่ ถว่ั เน่าเป็นผลิตภัณฑ์ทีน่ ่าสนใจมากเพราะมคี ณุ สมบตั ิ ที่ดีมากมาย และมีสารทีม่ คี ณุ ค่าและมีประโยชนม์ าก อาหารพน้ื บา้ นภาคเหนือสว่ นใหญจ่ ะนยิ มใชถ้ ่ัวหรอื ถวั่ เนา่ เปน็ เครอ่ื งปรงุ ประกอบอาหาร เชน่ ขนมจนี (นำ้� เงย้ี ว) จอผกั กาด หรอื นำ�้ พรกิ ออ่ ง โดยถวั่ เหลอื งหมกั มปี ระวตั คิ วามเปน็ มาตงั้ แตโ่ บราณและมกั มตี ดิ ครวั ไวเ้ พอ่ื ใชป้ รงุ รสอาหารเชน่ เดยี วกบั กะปทิ นี่ ยิ มใชป้ รงุ รส อาหารของคนภาคกลางและปลาร้าที่นิยมใช้ปรุงรสอาหารของคนภาคอีสาน ซ่ึงคนในภาคเหนือจะนิยมใช้ ถั่วเหลืองหมักเป็นเครื่องปรุงรสเพื่อปรุงรสของอาหารนั้นให้มีรสชาติอร่อยขึ้นและยังสามารถรับประทาน เปน็ กับขา้ วได้ทนั ที (ศรจี นั ทรัตน์, 2551) ถ่ัวเลืองหมกั เปน็ ผลิตภณั ฑ์ที่ไดจ้ ากการหมักถ่วั เหลอื ง ซงึ่ จะผลติ กรดกลูตามิก (polyglutamic acid : PGA) พอลิแซคคาไรด์ (polysaccharide) ที่มีผลท�ำให้ต่อม รับรสชาติของลิ้นมนุษย์สามารถเปิดรับรสอาหารได้มากข้ึนจึงท�ำให้เรารับประทานแล้วท�ำให้ อาหารนนั้ ๆ มรี สชาตอิ รอ่ ยและกลนิ่ ฉนุ ทมี่ คี วามเฉพาะของถว่ั เหลอื งหมกั นนั้ เกดิ จากการผลติ แอมโมเนยี ม ออกมาในระหว่างกระบวนการหมักถั่วเหลือง นอกจากน้ีแล้วถ่ัวเหลืองหมักยังจัดเป็นอาหารท่ีมีประโยชน์ ตอ่ สขุ ภาพ มคี ณุ คา่ ทางโภชนาการสงู และรา่ งกายสามารถดดู ซมึ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดด้ ี ซง่ึ ทางการแพทยร์ ะบวุ า่ ถ่ัวเหลืองหมัก สามารถช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจใช้ลดความอ้วนและบ�ำรุงสมอง (เอกชัยและคณะ, 2554) 15วารสาร

งานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันวิจัยและพัฒนา แล้วมาท�ำให้เป็นผงเพื่อน�ำมาเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตผงโรยข้าว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ประเภททุนวิจัย hands on 2 รสชาติ ได้แก่ รสสาหรา่ ยและรสเผด็ ทำ� การศึกษาโดยใชผ้ งเนา่ แผ่น research งบประมาณปี 2559 เรื่อง พัฒนาผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง อบแหง้ ในอตั ราสว่ นทตี่ า่ งกนั 3 สตู ร โดยอา้ งองิ สตู รจากงานวจิ ยั อน่ื ๆ และ หมักแห้งตามความต้องการของชุมชน อ�ำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ จากการดดั แปลงมาจากผลติ ภณั ฑผ์ งโรยขา้ วของประเทศญป่ี นุ่ จากนนั้ นำ� (Development of fermented dried soybean product for SMEs ไปทดสอบความชอบทางประสาทสมั ผสั ดา้ นสี กลนิ่ รสชาติ และความชอบ in Praow Chiang Mai) โดยได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ผงโรยข้าว โดยรวม จนได้สูตรท่ีดีที่สุดของ 2 รสชาติ ได้รับคะแนนความชอบ 2 รสชาติ ไดแ้ ก่ ผงโรยขา้ วรสสาหรา่ ยและรสเผด็ จากถว่ั เหลอื งหมกั หรอื รวมสูงท่ีสุดทั้ง 2 รสชาติ โดยมีระดับคะแนนความชอบเท่ากับ 7.46 ถว่ั เนา่ แบบแผน่ อบแหง้ โดยขน้ั แรกตอ้ งนำ� เอาถวั่ เนา่ แผน่ ทเี่ ปน็ ผลติ ภณั ฑ์ และ 7.44 คะแนน สำ� หรบั ผงโรยขา้ วรสสาหรา่ ยและรสเผ็ดตามลำ� ดบั ของชาวบ้านมาท�ำการลดความชื้นด้วยการอบแห้งให้ได้คุณภาพ และงานวจิ ยั ไดท้ ำ� การวเิ คราะหค์ ณุ สมบตั ทิ างกายภาพ เคมี และชวี ภาพ ใกล้เคยี งกบั การจเ่ี นือ่ งจากการจี่ท�ำให้ไดก้ ลน่ิ รสท่ดี ีกวา่ การอบ แต่การ เพื่อเทียบกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เพ่ือให้เป็นไปตาม จนี่ นั้ เปน็ วธิ ที ค่ี วบคมุ ความสมำ่� เสมอของคณุ ภาพไดย้ ากไมเ่ หมาะกบั การ ขอ้ ก�ำหนดของ มผช ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ปริมาณความชื้นและปริมาณ ผลติ ในเชิงการค้าหรอื เชิงอตุ สาหกรรมอกี ทง้ั เคร่ืองมอื อปุ กรณ์การจ่ีน้นั น�้ำอิสระพบว่าผงโรยข้าวท้ัง 2 รสชาติมีปริมาณความช้ืน (มาตรฐาน ไม่ตรงตามข้อก�ำหนดของมาตรฐานการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร เปียก) ต่�ำกว่าร้อยละ 10 โดยน�้ำหนัก และปริมาณน้�ำอิสระต�่ำกว่า ดังนั้น เราจะต้องศึกษาวิธีการอบอย่างไรให้ได้คุณลักษณะเหมือนกับ 0.6 ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานถั่วเหลืองหมักแห้งผงของชุมชน (มผช.) การจี่ท่ีสุด โดยศึกษาอุณหภูมิในการอบแห้งถั่วเหลืองหมักแบบแผ่น งานวจิ ยั น้ีไดต้ พี มิ พล์ งใน International Journal of Food Engineering 3 ระดับ จากนนั้ น�ำถวั่ เหลอื งหมักแบบแผ่นอบแห้งไปวิเคราะห์ความชืน้ ( Rajchasom, S. and Vuthijamnonk, J., Nattavipa Seelum, and ปริมาณน้�ำอิสระ ค่าสี และทดสอบความชอบทางประสาทสัมผัส Suttida Takonkwea., 2019, “The Study of Drying Condition for โดยเปรียบเทียบกับถ่ัวเหลืองหมักแบบแผ่นที่ผ่านการจี่โดยภูมิปัญญา Local Dried Fermented Soy Bean (Thua Nao)” International Journal พื้นบ้านของชุมชนอ�ำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ จนได้สภาวะการลด of Food Engineering. Vol. 5, No. 2, June 2019. pp. 116-120. ) ความชน้ื ทดี ที สี่ ดุ มคี ณุ สมบตั ไิ ดแ้ กค่ า่ สี ความชนื้ รอ้ ยละ(มาตรฐานเปยี ก) ทั้งน้ีสามารถสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์ของชุมชนได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ เท่ากับ และปริมาณนำ้� อสิ ระ ใกลเ้ คียงกบั ตัวอยา่ งอ้างองิ มากทสี่ ุดเพ่อื ร้านคา้ ชุมชนบา้ นหนองอ้อ Ban Nong O Shop” : www.facebook. เป็นการเตรียมถ่ัวเน่าแผ่นก่อนน�ำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ผงโรยข้าว com/pages/category/Local-Business/ร้านค้าชุมชนบ้านหนองอ้อ- และทดสอบชิมโดยมีความชอบทางประสาทสัมผัสโดยรวมอยู่ในระดับ Ban-Nong-O-Shop-411867669383994 ปานกลางเป็นระดับที่ยอมรับได้ จากนั้นจึงน�ำถั่วเน่าที่ลดความชื้น 16 วารสาร

คยุ กบั นักวจิ ยั : The Researcher อ.ดร.สรุ วี รรณ ราชสม อาจารย์ประจ�ำหลักสูตรการผลิตและนวัตกรรมอาหาร วิทยาลัย เทคโนโลยแี ละสหวทิ ยาการ สำ� เรจ็ การศกึ ษาดา้ น Food and Bio Process Engineering จาก Massey University ประเทศนวิ ซแี ลนด์ ท�ำงานวจิ ัยทางด้าน ซงึ่ ตรงกบั ความตง้ั ใจของเรา เพราะเราอยากชว่ ยพฒั นาและผลกั ดนั สนิ คา้ การพัฒนากระบวนการแปรรูปอาหาร นวัตกรรมการผลิต ชมุ ชนเหลา่ น้ีใหเ้ ปน็ สนิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพและมศี กั ยภาพทท่ี ดั เทยี มกบั สนิ คา้ และผลิตภัณฑ์อาหาร จากต่างประเทศหรอื แมแ้ ตส่ ินค้าในประเทศเองทผ่ี ลติ จากอุตสาหกรรม ขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซ่ึงทางผู้ประกอบการได้น�ำงานวิจัย แรงบนั ดาลใจในการท�ำงานวิจัย ไปตอ่ ยอดเพอ่ื ผลติ และจำ� หนา่ ยเปน็ ผลติ ภณั ฑเ์ ชงิ พาณชิ ย์ ซงึ่ ตรงนถี้ อื วา่ จากการไดม้ โี อกาสไปศกึ ษาตอ่ ทตี่ า่ งประเทศทำ� ใหไ้ ดเ้ ปดิ โลก เป็นแรงบันดาลใจและก�ำลังใจที่ส�ำคัญในการท�ำงานวิจัย ที่เราได้เห็น และมุมมองจึงมีความรู้สึกว่า ต่างประเทศนั้นมีสินค้าหลากหลาย ผปู้ ระกอบการมสี นิ คา้ มรี ายได้ มรี อยยม้ิ มลู คา่ ทก่ี ลบั คนื เรามานนั้ เปย่ี ม ทมี่ ีความน่าสนใจ ทป่ี ระเทศไทยไม่มี เช่น เทคโนโลยกี ารผลติ ทท่ี ันสมยั ไปดว้ ยคุณค่ามากกว่าส่งิ อ่นื ใด และเป็นเทคโนโลยีระดับสูงเยอะมาก ตอนนั้นคิดว่าจะเก็บเกี่ยว ประสบการณ์และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากท่ีนั่นให้ได้มากท่ีสุดเพื่อท่ีจะกลับมา “สุดท้ายส่ิงที่อยากจะส่งผ่านถึงนักวิจัยรุ่นใหม่ทุกท่าน ชว่ ยพฒั นาอุตสาหกรรมอาหารและงานวจิ ัยทบี่ ้านเรา คือ การท�ำงานวิจัย แม้ว่าสิ่งที่เราท�ำอาจไม่ได้เป็นงานวิจัย ข้ันสูงหรือย่ิงใหญ่ระดับการเปล่ียนแปลงโลกในเร็ววันนี้ หลังจากกลับมาท�ำงานท่ีประเทศไทย พบว่างานวิจัยที่ได้รับมา แต่การเปล่ียนแปลงน่ันเริ่มจากพ้ืนที่เล็ก ๆ เช่น การช่วยเหลือ ส่วนใหญเ่ ปน็ งานดา้ นชมุ ชน งาน OTOP งานเก่ียวกบั การพฒั นาสนิ คา้ สงั คมทเ่ี ปน็ สว่ นสำ� คญั หนง่ึ ในการพฒั นาประเทศชาตขิ องเราซง่ึ ยงั และผลิตภัณฑ์อาหารท้องถิ่น ที่ผู้ประกอบการติดต่อเข้ามา มีคนกลุม่ ท่ตี อ้ งการความรู้ความสามารถของเราอยอู่ กี เยอะมาก ใหเ้ ราชว่ ยพฒั นาคณุ ภาพ และปรบั ปรงุ กระบวนการผลติ ของสนิ คา้ ใหไ้ ด้ เมอ่ื สงั คมแขง็ แรงและไดร้ บั การพฒั นา ประเทศไทยยอ่ มไดร้ บั ผลของ มาตรฐานและมคี ณุ ภาพทสี่ มำ่� เสมอ หรอื แมก้ ระทงั่ การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ การเปลยี่ นแปลงนแี้ ละขบั เคลอ่ื นพฒั นาประเทศไปในทศิ ทางทเ่ี หมาะสม และนวตั กรรมการผลติ ใหม่ใหเ้ ปน็ สนิ คา้ ทที่ นั สมยั ทนั ตอ่ การเปลย่ี นแปลง ทดั เทยี มนานาประเทศอยา่ งมน่ั คง” และความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ 17วารสาร

คยุ กบั นักวจิ ยั : The Researcher อ.ดร.จรรยวรรธ์ ตัณฑ์เจริญรตั น์ วุฒจิ �ำนงค์ อาจารย์ประจ�ำหลักสูตรการผลิตและนวัตกรรมอาหาร วิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ ส�ำเร็จการศึกษา ด้าน Nutrition Science จาก Massey University ประเทศ นิวซแี ลนด์ ทำ� งานวจิ ัยทางดา้ น แรงบันดาลใจในการทำ� วจิ ยั หลกั ๆ ทำ� เกย่ี วกบั อาหาร ไมว่ า่ จะ แรงบันดาลใจหลัก ๆ มาจากการเป็นคนชอบอาหารและเช่ือว่า เป็นสารส�ำคัญในอาหาร ความปลอดภัย ของอาหาร และการพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ าหาร “You are what you eat” ส�ำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มและการเพ่ิม มูลค่าอาหาร เชื่อว่าคนไม่จ�ำเป็นต้องทานวิตามินหรือสารสกัดราคา แพงๆเพื่อท่ีจะมีสุขภาพดี แต่การรับประทานให้หลากหลายและเลือก ผลงาน/ชน้ิ งานทภ่ี าคภูมิใจ กินอย่างเหมาะสมจะท�ำให้มีสุขภาพแข็งแรงได้ ซึ่งจากงานวิจัยที่ผ่าน งานวิจัยเก่ียวกับสารส�ำคัญ ม า ก็ ไ ด ้ พิ สู จ น ์ แ ล ้ ว ว ่ า ก า ร รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร ใ ห ้ เ ห ม า ะ ส ม ส ่ ง ผ ล ดี ในบลูเบอร่ีเพ่ือยับย้ังหรือชะลอการเกิด ต่อสุขภาพ และอยากส่งต่อแนวความคิดน้ีไปในวงท่ีกว้างขึ้นเนื่องจาก มะเร็งเต้านมในสัตว์ทดลอง เป็นงานวิจัย ในปัจจุบันยังมีคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการรับประทานสารสกัด ท่ีเป็นพ้ืนฐานเพ่ือการศึกษาในมนุษย์ต่อไป ราคาแพง ๆ ต่าง ๆ เช่น คอลลาเจน คลอโรฟิลล์ ซ่ึงในบางกรณีไมส่ ง่ ผลดีตอ่ เม่ือกลับมาท�ำงานที่ มทร.ล้านนา ก็ได้ สขุ ภาพแตย่ ังสง่ ผลเสียอีกด้วย ทำ� งานวจิ ยั เกยี่ วกบั การพฒั นาผลติ ภณั ฑจ์ าก กากมะพรา้ วมาผลติ เพอื่ ใชใ้ นการทำ� ขนมอบ ข้อแนะนำ� ส�ำหรับนกั วิจัยร่นุ ใหม่ ท�ำให้ได้ขนมอบท่ีมีคุณค่าทางอาหาร นักวิจัยรุ่นใหม่ท่ีเร่ิมท�ำงานอาจจะพบปัญหาหรืออุปสรรค เพมิ่ มากข้นึ เหมาะส�ำหรบั กล่มุ ผรู้ กั สขุ ภาพ หลาย ๆ อย่าง เช่น เคร่ืองมืออุปกรณ์ในการทดลองท่ีไม่เพียงพอ รวมถึงช่วยเพ่ิมมูลค่าของกากมะพร้าว นักวิจัยต้องรู้จักสร้างเครือข่าย เปิดตัวเอง เรียนรู้ท่ีจะท�ำงานร่วมกับ ไดอ้ กี ดว้ ย คนอ่ืน เป็นการเสริมเติมต่อความรู้และงานของเราให้ก้าวไกลออกไป อย่ากลัวที่จะต้องบูรณาการการท�ำงานข้ามศาสตร์ และควรมีความใฝ่รู้ 18 วารสาร อยู่เสมอ

รอบร้ัว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ผอ.สถาบันถ่ายทอดฯ น�ำบุคลากรจัดคาราวานบริการ 28 ธ.ค. 62 บุคลากรสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน วิชาการ และจัดกิจกรรม Show&Share ภายในงานฤดูหนาวและงาน รว่ มเปน็ ตวั แทนมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาเขา้ รว่ มกจิ กรรม OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ เพ่ือถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ประชาชนให้ จิตอาสาพัฒนาถนนต้นยางนา (เชียงใหม่-ล�ำพูน) เน่ืองในวันสมเด็จ สามารถน�ำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ซง่ึ จัดโดยศูนยอ์ ำ� นวยการจิตอาสาพระราชทาน ภายในครัวเรอื น ระหว่างวันที่ 31 ธนั วาคม 2562 - 11 มกราคม 2563 จังหวดั เชียงใหม่ ณ โรงเรียนวัดกองทราย ต�ำบลหนองผึง้ อ�ำเภอสารภี ณ ลานเอนกประสงค์ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภายใน จงั หวดั เชียงใหม่ บูธนิทรรศการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้น�ำผล งานการวิจัยของคณาจารย์ บุคลากร ไปจดั แสดงให้ผู้เขา้ ร่วมงานได้ชม และกจิ กรรมอบรมให้ความรู้และสาธติ องค์ความรดู้ ีๆ มีไว้ทำ� กินเพอ่ื ให้ ผสู้ นใจเขา้ ร่วมฟงั และสามารถนำ� ไปต่อยอดเปน็ อาชพี เสริมได้ วันท่ี 9 มกราคม 2563 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกบุกและแปรรูปบุก เกษตรอินทรีย์ บ้านทุ่งแพม “จัดพิธีปลูกกัญชาต้นแรก” ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนากัญชาทางการแพทย์ บ้านทุ่งแพม ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเป็นการเร่ิมต้นการบวนการผลิตกัญชาทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจในกระบวนการข้ันตอนต่าง ๆ ของการปลกู กัญชาให้แกผ่ ู้สนใจได้รบั ทราบ  โดยไดร้ บั เกียรติจาก ร้อยเอก นายแพทย์ภูรวี รรธน์ โชคเกิด สาธารสุขนิเทศก์ เขต 1 ผแู้ ทนนาย อนทุ นิ ชาญวรกี ลุ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงสาธารณสขุ  เปน็ ประธานการปลกู กญั ชาตน้ แรก วตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื รว่ มกนั วจิ ยั และพฒั นาสายพนั ธก์ุ ญั ชา และ กญั ชงเพอ่ื ใช้ทางการแพทย์ และจัดสง่ ผลผลิตให้กบั กรมการแพทยแ์ ผนไทยและแพทยท์ างเลอื กในการปรุงเป็นยาไทย 16 ต�ำรบั แจกจ่ายให้ ผ้ปู ่วยในโรงพยาบาลในเครอื ขา่ ยทัว่ ประเทศ  และเป็นแห่งแรกของไทยที่มดี �ำเนินการและบรหิ ารจดั การร่วมกับวสิ าหกิจชมุ ชนอย่างเตม็ รปู แบบ 19วารสาร

: เรื่องเล่าชาวล้านนา อาจารย์ มทร.ลา้ นนา ผุดไอเดยี สร้าง face shield และกล่องปอ้ งกนั เชอ้ื ฟงุ้ กระจาย (Aerosol Boxs) ปอ้ งกนั ไวรสั โควิด-19 เพอื่ นำ� ไปใช้ประโยชน์จริง ผู้ช่วยศาสตราจารย์เกรียงไกร ธารพรศรี ผู้อ�ำนวยการสถาบันถ่ายทอด เทคโนโลยีสู่ชุมชน  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา พร้อมด้วยคณะวิทยากร จิตอาสา 904 หลักสูตรพื้นฐาน รุ่นท่ี 1/62 กลมุ่ ท่ี 9 ศอ.จอส.พระราชทานภาค 3 /เชยี งใหม่ มอบ face shield และกล่องกนั เชือ้ ฟุ้งกระจาย (Aerosol Boxs) ให้กับ นายแพทย์ทวิช  แก้วประเสริฐ รองนายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงใหม่ และบุคลากรจากส�ำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ณ อาคาร C3 มทร.ล้านนา ดอยสะเก็ด  ในการส่งต่อไป ยังโรงพยาบาลประจ�ำอ�ำเภอท้ัง 25 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล ของ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงของ บุคลากรทางการแพทย์จากการติดเชื้อจาก ผู้ป่วย โดยเป็นตัวช่วยในการปฏิบัติการ 20 วารสาร

ใส่ทอ่ ช่วยหายใจให้กับผปู้ ว่ ยตดิ เชื้อ COVID-19 ทีร่ ะบบหายใจล้มเหลว รอบรวั้ และแยกอากาศระหวา่ งผปู้ ว่ ยกบั บคุ ลากรทางการแพทย์ ปอ้ งกนั การฟงุ้ กระจายของเชอื้ เพม่ิ ความปลอดภยั และสรา้ งความมน่ั ใจขณะปฏบิ ตั งิ าน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ซ่ึงกล่องกันเช้ือฟุ้งกระจาย (Aerosol Boxs) เป็นกล่อง อะคริลิกใส ทรงส่ีเหล่ียมครอบบริเวณศีรษะผู้ป่วย มีช่องส�ำหรับ แพทย์ พยาบาล สามารถทำ� การหัตถการใสท่ อ่ ช่วยหายใจและอปุ กรณ์ ทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยได้  ท�ำการออกแบบและผลิตโดยคณาจารย์ ของวิทยาลยั เทคโนโลยีและสหวิทยาการ และบคุ ลากรสถาบันถ่ายทอด เทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน และมหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ภายใตก้ ารสนบั สนนุ จากคณะ วทิ ยากรจิตอาสา 904 หลักสตู รพ้นื ฐาน รุ่นที่ 1/62 กลุ่มท่ี 9 ศอ.จอส. พระราชทานภาค 3 /เชยี งใหม ่   และคณะผบู้ รหิ าร คณาจารย์  ศษิ ยเ์ กา่ มทร.ล้านนา ตลอดจนประชาชนทั่วไปบริจาคทุนทรัพย์ในการจัดหา อปุ กรณก์ ารผลติ 7 - 9 กุ ม ภ า พั น ธ ์ 2 5 6 3 ช ม ร ม ค รู อ า ส า คณะวิศวกรรมศาสตร์  ได้จัดท�ำโครงการ “ราชมงคลล้านนา พิษณโุ ลก อาสาพฒั นาโรงเรยี นนอ้ ง”  โดยมีกิจกรรม  ซ่อมแซม ระบบสาธารณปู โภคตา่ ง ๆ เชน่ การซอ่ มแซมระบบไฟฟา้   หอ้ งนำ้�   สนามเด็กเล่น และสถานที่ภายในโรงเรียน   จัดหาสื่ออุปกรณ์ การเรียนการสอน และอุปกรณก์ ีฬาท่ีใช้ภายในโรงเรียน  บำ� เพญ็ สาธารณะประโยชน์ในชุมชน   เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ ท่ดี ีระหว่างสถานศกึ ษากบั ชุมชน   และสิง่ สำ� คญั เพือ่ เพม่ิ ทักษะ ชีวิตในการเป็นผู้น�ำ  เสริมสร้างทักษะจรรยาบรรณในวิชาชีพครู ให้กับนักศึกษา  คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา พษิ ณโุ ลก. 21วารสาร

: Knowledge Management องคก์ รผา่ นวกิ ฤต COVID-19สชู่ ีวิตปกติแบบใหมด่ ว้ ยการจดั การความรู้ ดร.ไพรพนั ธ์ ธนเลิศโศภิต [email protected] จากวิกฤต COVID-19 ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ท�ำให้หลายองค์กรได้พิสูจน์ความร่วมแรงร่วมใจ และภาวะผู้น�ำในการพาองค์กรผ่านวิกฤตโรคอุบัติใหม่คร้ังนี้ ประเด็นการจัดการความรู้ในบทความฉบับนี้จะ มุ่งเน้นท่ีการใช้ผู้น�ำสมัยใหม่ท่ีจะเป็นผู้ผลักดันองค์กรให้ผ่านวิกฤตนี้ ทักษะการเป็นผู้น�ำกระบวนการเรียนรู้ (Facilitator: FA) ซ่ึงลักษณะการเป็นผู้น�ำจะเป็นผู้น�ำที่สามารถเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาให้เห็นเป้าหมายใหญ่ (Purpose) ขององค์กร วธิ ีการได้แก่ การใช้การยงิ ค�ำถามทบ่ี างคร้งั สอนตรง ๆ ไมไ่ ด้ แตต่ ้องใช้วธิ ีการสอน โดยไม่ถูกสอน เหมือนภาวะวิกฤตจะท�ำให้คนในองค์กรได้พูดคุยกันมากข้ึน แม้ว่าต้องใช้การรักษาระยะห่าง (Social Distancing) แต่หัวใจกลับสามารถผูกพันและช่วยเหลือกันในองค์กร เพื่อให้ทุกคนยังมีงาน มเี งนิ ในการเลย้ี งครอบครวั ตัวอยา่ งหน่งึ ที่เป็นเครอื่ งมอื ในการฝา่ ฟนั วกิ ฤตของไวรสั Covid-19 ของจนี คอื การ การใช้หลักการ FA ในการก�ำจัดความคิดท่ีฝังลึกในตัวตน (Mental Model) ออกแล้วใช้หลักการปลูกระดม มวลชนหรือประชากรในประเทศให้เรียนรู้ร่วมกันช่วยกันท�ำวิจัยทุกมิติอย่างเร่งด่วน ในเป้าหมายเดียวกัน คือต้องชนะไวรัส Covid-19 ให้ได้ ท้ังมิติของสังคม เศรษฐกิจและสุขภาวะเป็นที่รู้กันดีว่า จากเหตุการณ์ วิกฤตดังกล่าวน้ี ทุกคนได้รับผลกระทบเป็นเหตุการณ์ท่ีสะกิดให้คนต่ืนตระหนักแต่ต่ืนรู้ในทางการจัดการ ความรู้คือ คนถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าที่รุนแรง ท�ำให้สมองถูก กระตุกให้คิดและปรับตัว(Mental Model) การปรับตัวในช่วงภาวะวิกฤตท�ำให้ค้นเริ่มทบทวนและค้นหาความเชี่ยวชาญของตนเอง (Personal Mastery) ในช่วงน้ี ผู้บริหารที่เก่งฉกาจจะต้องไม่ทิ้งลูกน้อง แต่ใช้ภาวะวิกฤติเป็นการกระตุกลูกน้อง เข้าสู่โหมด การวางวิสัยทัศน์ร่วมกันเพ่ือให้องค์กรอยู่รอด (Share Vision) ในจังหวะน้ีเองการเรียนรู้ ร่วมกันจะเกิดข้ึน การเข้าสู่โหมดความเป็นทีมจะปรากฏ (Team Learning) ความอยากอยู่รอด 22 วารสาร

23วารสาร

ของแต่ละคน ถูกผลักให้แสดงความเก่งความสามารถของ ตนเองออกมาหลอมรวมกันเป็นเป้าหมายเดียว แล้วรวมตัว กันขับเคลื่อนองค์กรท่ีอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มิอาจคาดเดาว่า สงครามโรคอุบตั ิใหม่นจี้ ะสิน้ สุดเม่อื ใด สุดทา้ ยคอื หลายองค์กร เกิดการเอื้อมถึงวินัยประการท่ี 5 (The fifth Discipline) คือการเกิดความคิดหลาย ระบบ (Systems Thinking) ที่ประกอบรวมกันแล้วสามารถขับเคลื่อนให้องค์กรฝ่าฟัน อุปสรรคในคร้ังนี้ด้วยกัน ในประเทศไทยองค์กรหลายแห่ง สามารถคิดวิธีการใหม่ในการจ�ำหน่ายสินค้า คิดสินค้าใหม่ หรือผลิตสินค้าประเภทใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์น้ี เพื่อให้องค์กรเกิดสภาพคล่อง มีรายได้ให้พอกับค่าใช้จ่าย ที่ส�ำคัญคือ ทุกคนต้องมีเงินในการใช้จ่ายในชีวิตประจ�ำวัน เช่น ตัวอย่างร้านขายบุพเฟ่ต์ในห้างสรรพสินค้า “ทุกวิกฤต “ เดิมเคยมีหลายสาขา รายได้หลักล้านต่อวัน แ ต ่ วั น ห นึ่ ง ต ้ อ ง ห ยุ ด ด� ำ เ นิ น กิ จ ก า ร ทั น ที อไงมคข่ ทก์าจด�ำรดั ใจกถหกะาา้เ้ไากรมผริด่พนู้คโล�ำวอาฉากดมลาราสดู้ เพราะห้างสรรพสินค้าถูกปิด เพื่อลดความเส่ียงใน การแพร่ระบาดของโรค อีกท้ังลักษณะของกิจการ เปน็ แบบบพุ เฟต่ ์ ซง่ึ ย่งิ ทำ� ใหเ้ สย่ี งต่อการแพร่ระบาด ของไว้รัส เหตุการณ์นี้ผู้ประกอบการท่ีเป็นเจ้าของ กิจการได้ร่วมกันคิดกับพนักงานว่า ท�ำอย่างไรให้ อยูร่ อด วิธกี ารหนง่ึ คอื การเปดิ ขายอาหารออนไลน์ โดยสือ่ สารให้ลูกคา้ ผา่ นทางส่ือโซเซยี ลต่าง ๆ และ จัดชุดสินค้าให้เหมาะสมกับการขนส่ง แล้วให้ ส่วนหนึ่งพนักงานเป็นผู้ส่งอาหารให้ลูกค้าเอง และส่วนหนึ่งเปิดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มขนส่ง อาหารออนไลน์ เช่น grab food หรอื food panda เป็นต้น จากเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นจากที่กิจการไม่เคย มองช่องทางการขายสนิ ค้าออนไลน์ เพราะลักษณะ ของกิจการไม่เอ้ืออ�ำนวย แต่สามารถขายอาหาร ไดด้ อี ยแู่ ลว้ ในหา้ งสรรพสนิ คา้ แตว่ นั นี้ วนั ทที่ กุ คนตอ้ ง รว่ มกนั ฝา่ ฟนั วกิ ฤต เจา้ ของกจิ การท่ีไมป่ ลดพนกั งานคอื ผู้น�ำที่เป็นสุดยอดผู้น�ำ แล้วผู้น�ำที่จะพาให้ทุกคนรอด จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คือผู้น�ำท่ีน�ำเอาวิธีการจัดการ ความรู้มาใช้ในองค์กร ใครเก่งอะไร เอาความเก่ง มาชว่ ยกนั มาแลกเปลยี่ นความคดิ รว่ มกนั มเี ปา้ หมาย เดียวกันคือการอยู่รอด ท�ำงานร่วมกันเป็นทีม วกิ ฤตคร้ังน้ี เปิดโอกาส เปดิ ความคดิ เปดิ มมุ มองใหม่ เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ต่อไปในชีวิตใหม่แบบปกติ (New Normal) บนฐานการใช้การจัดการความร่วม (Knowledge Management) “ทุกวิกฤตท�ำให้ เกิดโอกาส องค์กรจะไม่พลาด ถ้าผู้น�ำฉลาด ไมข่ าดการจดั การความร”ู้ 24 วารสาร

รอบรัว้ 14 กุมภาพันธ์ 2563 รศ.ศีลศิริ  สง่าจิตร ผู้ปฏิบัติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา หน้าท่ีอธิการบดี มทร.ล้านนา เปน็ ตวั แทนมอบนำ้� ดม่ื ราชมงคลล วนั ที่ 18 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2563 ศนู ยว์ จิ ยั ระบบพลงั งานสะอาด จ�ำนวน 3,600 ขวด โดยมี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล(มทร.)ลา้ นนา รว่ มกบั สถาบันคณุ วฒุ ิ อาจารย์บุญญฤทธิ์  สโมสร วชิ าชีพ (องคก์ รมหาชน) หรอื สคช.จัดโครงการ “สร้างการรับรู้ Open เป็นตัวแทนรับมอบและน�ำถวาย House สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน” ณ อาคาร C3 แด่หลวงพ่ออลงกต ติกขปญโญ ห้อง 305 มทร.ล้านนา ดอยสะเกด็ เพ่อื ถ่ายทอดองค์ความรู้ และทักษะ วัดพระบาทน�ำ้ พุ จ.ลพบรุ ี ตอ่ ไป ทเ่ี กยี่ วกบั วชิ าชพี พลงั งานและพลงั งานทดแทน สาขาไฟฟา้ จากเซลลแ์ สง อาทิตย์ ใหแ้ ก่คณาจารย์ บุคลากร และนกั ศกึ ษา  มทร.ล้านนา ตลอด จนผทู้ ี่มอี าชีพด้านการตดิ ต้ัง ซอ่ ม และบำ� รุงรกั ษาระบบผลติ ไฟฟา้ จาก เซลลแ์ สงอาทติ ย์ จำ� นวน 100 คน เพอ่ื เปน็ การเตรยี มความพรอ้ มในเขา้ สอบประเมินสมรรถนะของบุคลากรตามมาตรฐานอาชีพสาขาวิชาชีพ พลังงานและพลังงานทดแทน สำ� หรบั ผทู้ ส่ี นใจเกยี่ วกบั การเขา้ รบั การสอบประเมนิ มาตรฐาน วิชาชีพสาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน สามารถสอบถาม รายละเอยี ดเพ่มิ เตมิ ไดท้ ่ี ศนู ย์วจิ ยั ระบบพลงั งานสะอาด มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่(ดอยสะเก็ด) : 98 หมู่ 8 ต�ำบลป่าป้อง อ�ำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220 ติดต่อได้ที่ โทรศพั ท์ : 0864697010 25วารสาร

: ชมุ ชนเดนิ ทาง น่านผา้ ฝา้ ยและ นายธนากร นาเมอื งรกั ษ์ “นา่ นผา้ ฝา้ ย” 29 หมู่13 ต.บอ่ สวก อ.เมอื ง จ.น่าน 55000 แหล่งการเรียนรู้และชุมชนทอผ้าฝ้ายล�้ำค่าเมืองน่าน สานศิลปะ สร้างคุณค่าให้ชุมชน รายการกินกะกร ได้มีโอกาส เขา้ ถา่ ยทำ� เพอ่ื ถา่ ยทอดตำ� นานผา้ ฝา้ ยเมอื งนา่ น ใหเ้ หน็ มาจนถงึ ปจั จบุ นั ท�ำให้รู้ถึงคุณค่าความสวยงามและเรื่องราววิถีชีวิตของบรรพบุรุษ ท่ียาวนาน ศิลปะผ้าฝ้ายท่ีทอด้วยความละเอียดทางใจ สู่ลายผ้า ท่ีปราณีตบรรจง ล้วนแต่ทรงคุณค่าแก่การสืบทอดและเผยแพร่ ท่ีส�ำคัญผู้ท่ีสืบทอดเป็นคนรุ่นใหม่ท่ียังคงรักษาเรื่องราว และความ สวยงามนี้ไว้อยา่ งยอดเย่ียมเลยครบั 26 วารสาร

นอกจากกนิ กะกร จะไดช้ น่ื ชมผา้ ฝา้ ยทสี่ วยงามมากมายแลว้ นน้ั จะเป็นรายการที่ถ่ายทอดเรื่องราวของอาหารแล้วนั้น เรายังสนใจท่ีจะ ยังได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของลายผ้าที่นอกจากจะสืบทอด มาจากบรรพบุรุษแล้ว ยังได้มีการแกะลายผ้าจากลายไหโบราณของ ถ่ายทอดเร่ืองราวของวิถีชีวิตและคุณค่าของชุมชนด้วยเช่นกัน ผมเชื่อ ชาวนา่ น บอกไดเ้ ลยวา่ นา่ ทงึ่ มาก ๆ ครบั และยงั สามารถนำ� มาทอเปน็ เสอ้ื เป็นปกหนงั สือ ผา้ พันคอ ได้อย่างสวยงาม สร้างคุณคา่ ใหก้ บั ชุมชนครับ ว่าหากท่านได้ติดตามเทปน้ีแล้ว ท่านจะประทับใจเรื่องราวของต�ำนาน ช่วงเยน็ ๆ กนิ กะกรไดม้ ีโอกาสไปท่องเทย่ี วถนนคนเดนิ ของชาวจังหวัด นา่ น และแน่นอนครับ ไมพ่ ลาดท่จี ะไดส้ ัมผัสภาพทโี่ ด่งดัง “กระซิบรกั ” ผา้ ทอท่ีสวยงาม เทปพิเศษนี้ ถา่ ยทอดผ้าทอที่งดงามมากๆครับ มารว่ ม ภายในวัดภมู ินทรท์ ต่ี ั้งอยู่ใจกลางเมอื งนา่ นครับ ออ้ ...แลว้ อีกอยา่ งเมือง นา่ นมวี ดั ทง่ี ดงาม และมากมายเลยครบั ทงั้ ประทบั ใจ และถา่ ยภาพเกบ็ ไว้ กันสืบสานภูมปิ ัญญา เอกลกั ษณ์ การแตง่ กายท่หี าไดเ้ ฉพาะเมอื งนา่ น เปน็ ทรี่ ะลกึ ไดอ้ ยา่ งยอดเยยี่ มครบั กลบั มาทถี่ นนคนเดนิ ครบั ถา้ จำ� ไมผ่ ดิ นา่ จะมที กุ วนั เสาร์ อาทติ ย์ เรม่ิ ตง้ั แตช่ ว่ งหา้ โมงเปน็ ตน้ ไปครบั ดว้ ยความ ขอขอบพระคุณ คุณบาส คุณทอม และชาวชมุ ชน บา้ นปา่ ฝางสามคั คี ทเี่ ราชอบกนิ อยแู่ ลว้ มอี าหารใหเ้ ลอื กกนิ สนิ คา้ ใหเ้ ลอื กซอ้ื มากมายครบั จดั ไดว้ า่ เปน็ ของฝากทคี่ นรบั ตอ้ งชน่ื ชอบอยา่ งแนน่ อนครบั และเมอ่ื เลอื ก ต.บอ่ สวก อ.เมือง จ.น่าน ทกุ ท่านนา่ รักครับ อย่าลมื อุดหนนุ ความเป็น ซอื้ อาหารอยา่ งหนำ� ใจแลว้ ไมต่ อ้ งกลวั วา่ จะไมม่ พี น้ื ท่ีในการรบั ประทาน ล้านนาด้วยนะครับ ติดตามได้ท่ีเพจ “ร้านน่านผ้าฝ้าย ผ้าทอกระซิบ ที่น่ันเขามีข่วงวัฒนธรรมหน้าวัดภูมินทร์ ท่ีให้บริการประชาชน และ รกั ผลิตและจำ� หน่ายผ้าซนิ่ วิเศษ ผ้าลายนำ�้ ไหลนา่ น” และชมเร่อื งราว นกั ทอ่ งเทยี่ ว มานง่ั ทานได้ เขามขี นั โตกใหด้ ว้ ยนะครบั นา่ รกั มากๆเลยครบั ได้ท่ี EP.พเิ ศษ. กนิ กะกร นา่ นผ้าฝ้าย @ จ.นา่ น แล้วอย่าลืมตดิ ตาม ทานไปดูช่างฟ้อนไป ชิวมาก ๆ ครับผม รายการกินกะกร ถึงแม้ว่า EPอนื่ ๆ ด้วยนะครับ 27วารสาร

: บรกิ ารวชิ าการ คาราวานบริการวิชาการ “องคม์ควีไาวมท้ รดู้�ำี กๆิน”สร้างอาชีพ สง่ เสริมศลิ ปวฒั นธรรม และเยาวชนนายพิษณุพรมพราย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นสถาบัน ตอ่ การพฒั นาชมุ ชน สงั คม และมหาวทิ ยาลยั ดว้ ยการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ อุดมศึกษาทมี่ พี น้ื ทคี่ รอบคลมุ 6 จงั หวัด ในเขตภาคเหนอื คือ เชยี งราย และสร้างองค์ความรู้ไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการ เชยี งใหม่ ล�ำปาง ตาก พษิ ณโุ ลก และนา่ น เปน็ มหาวิทยาลัยท่ีมพี ันธกิจ ประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยให้เป็นท่ีรู้จักแก่ประชาสังคม ด้วยงาน ในการม่งุ เน้นการเขา้ ไปช่วยเหลอื แกป้ ัญหาแกช่ ุมชน สงั คม ดว้ ยงาน บริการวิชาการ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยให้สอดรับกับ การเป็นมหาวิทยาลัย “นวัตกรรมเพื่อชุมชน” อย่างแท้จริง ได้มีการ บรกิ ารวชิ าการ ภายใตก้ ารใชศ้ าสตรแ์ ละองคค์ วามรทู้ มี่ ีในมหาวทิ ยาลยั ด�ำเนินงาน “กิจกรรมคาราวานบริการวิชาการ ภายในงานฤดูหนาว และงาน OTOP ของดีเมืองเชยี งใหม่ ประจ�ำปี 2563 จังหวัดเชยี งใหม”่ สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน เปน็ หนว่ ยงานหนง่ึ ภายใต้ โดยมหี ลกั สตู รการอบรม และกจิ กรรมเสวนา (Show & Share) ระหวา่ ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ท่ีมีภารกิจในการสนับสนุน วันท่ี 30 ธันวาคม 2562 - 11 มกราคม พ.ศ. 2563 ณ บทู นิทรรศการ ส่งเสริมงานบริการวิชาการ สู่ภาคประชาชน สังคม ด้วยกลไก มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เพอ่ื เผยแพรผ่ ลงาน ถ่ายทอด เคร่ืองมือต่าง ๆ เพื่อการขับเคลื่อนความรู้ควบคู่กับการพัฒนา ความรู้ บริการองค์ความรู้ของมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชน สงั คม ทอ้ งถนิ่ ดงั นนั้ การขบั เคลอ่ื น มีบริการให้ค�ำปรึกษาแก้ปัญหาทางวิชาการ แก่ประชาชนในพื้นที่ งานบริการวิชาการให้เกิดการเข้าถึงความรู้แก่ชุมชน สังคม เชิงรุก และใหม้ หาวทิ ยาลยั เป็นแหลง่ เรยี นรดู้ ้านการบรกิ ารวชิ าการ และแหลง่ ดว้ ยการ “คาราวานความรูเ้ คลื่อนท่ี สภู่ าคประชาชน สังคม” จึงเป็นวิธี และแนวทางที่สำ� คญั ทจ่ี ะสามารถช่วยเหลอื ชุมชน สังคม ไดเ้ กดิ ความรู้ เรียนรูต้ ลอดชีวิตส�ำหรับประชาชน โดยมีกจิ กรรมดงั น้ี 1. จัดนิทรรศการ “เก่ียวกับงานวิจัยน�ำไปสู่การใช้ อย่างเท่าถึงและเท่าเทียมกัน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้นักวิชาการ ประโยชน์ ในรปู แบบบรกิ ารวชิ าการ” 2. ฝกึ อบรมกระเช้าอาชพี “องคค์ วามร้ดู ี ๆ มีไวท้ ำ� กนิ ” อาจารย์ เจ้าหน้าท่ีและนักศึกษาของมหาวิทยาลัย เกิดความใกล้ชิด 3. เสวนา Show & Share “เกี่ยวกับ สร้างอาชพี สง่ เสรมิ ศิลปวัฒนธรรม เยาวชน” กบั ชุมชน ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยงานวชิ าการอยา่ งแทจ้ รงิ ดังน้ัน สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน จึงเห็นควรให้มี โครงการ “คาราวานบรกิ ารวชิ าการ” เพอื่ การถา่ ยทอดองคค์ วามรสู้ กู่ าร ปฏบิ ตั ใิ หแ้ กภ่ าคประชาชน ตรงตามพนั ธกจิ ของมหาวทิ ยาลยั อนั จะสง่ ผล 28 วารสาร

จดั นทิ รรศการ “เกยี่ วกบั งานวจิ ยั นำ� ไปสกู่ ารใชป้ ระโยชน์ ในรปู แบบบริการวิชาการ” มกี ารจัดนิทรรศการ เก่ียวกับ ประวตั คิ วามเปน็ มา ปรัชญา วสิ ัยทศั น์ พนั ธกิจ อตั ลกั ษณ์ ด้านการบรหิ ารของพนื้ ที่ และหลกั สูตร การศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ผลงานบริการ วิชาการของคณาจารย์ โดยการน�ำงานวิจัยน�ำไปสู่การใช้ประโยชน์ ได้แก่เรอ่ื ง 1. ผกั เชียงดาจากผกั พนื้ บ้านส้ผู ลิตภณั ฑเ์ สรมิ อาหารทมี่ คี ณุ ค่า 2. พืชมะเก๋ียงไม้ผลพ้ืนบ้านล้านนา “ผลไม้ลูกเล็กประโยชน์ มากมาย” 3. มหศั จรรย์หัวบุกพืชอาหารสารพดั ประโยชนเ์ พ่ือสุขภาพที่ดี 4. การท�ำผลติ ภณั ฑด์ ินเพาะด้วงขเี้ ลื่อย 5. ต้นทุนและผลตอบแทนการปลูกไม้ผลปลอดภัย เพื่อเศรษฐกิจ ชุมชนตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนบ้านแม่ข้ีมูก อ.แม่แจ่ม จ.เชยี งใหม่ 6. โครงการพัฒนา ”ผ้าม่อนล้าน” บนสถานีพัฒนาการเกษตร ตามพระราชด�ำริ ดอยม่อนล้าน บ้านขอนม่วง ต.ป่าใหม่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ภายใต้โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถ่ิน และมหาวิทยาลยั ประชาชน 7. เครอื่ งตรวจวัดปรมิ าณฝ่นุ ละอองในอากาศ รุ่น EDM Serie 8. งานบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ภายใตก้ ารขบั เคลื่อนของสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชมุ ชน 29วารสาร

กจิ กรรมฝึกอบรมกระเช้าอาชีพ “องคค์ วามรดู้ ี ๆ มีไว้ทำ� กนิ ” ภายในงานฤดูหนาวและงาน OTOP ของดีเมืองเชียงใหม่ ประจำ� ปี 2563 จงั หวัดเชยี งใหม่ ไดจ้ ัดกิจกรรมคาราวานบรกิ ารวชิ าการ การฝึกอบรมกระเช้าอาชีพ ในหัวข้อ “องค์ความรู้ดี ๆ มีไว้ท�ำกิน” และเสวนา แลกเปลีย่ นเรียนรู้ (Show & Share) โดยมีกิจกรรม ดงั นี้ กจิ กรรมการฝกึ อบรมกระเชา้ อาชพี ในหวั ขอ้ “องคค์ วามรดู้ ี ๆ มีไวท้ ำ� กนิ ” 1. หลักสูตรอบรม เร่ือง “การเพ้นท์สีตุ๊กตาเซรามิก” โดย นางสาวสุธิสา ชัยยา, นางสาวยิ่งลักษณ์ เส็งข�ำ จากสถานประกอบการ ลกั ษณด์ นิ เซรามกิ อ.แมร่ มิ จ.เชยี งใหม่ 2. หลักสูตรอบรม เรื่อง “การท�ำใบชาผักเชียงดา” โดย ผศ.ปริญญาวดี ศรีตนทิพย์, ผศ.นภา ขันสุภา, อาจารยพ์ ทิ กั ษ์ พุทธวรชัย จากสถาบันวจิ ัยเทคโนโลยีเกษตร มทร.ลา้ นนา ลำ� ปาง 3. หลกั สตู รอบรม เรอ่ื ง “การสาธติ ผา้ มดั ยอ้ ม” โดย ผศ.ญาณศิ า โกมลสริ ิโชค, ผศ.ไพโรจน์ วรพจน์พรชัย จากคณะศลิ ปกรรม และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา 4. หลักสูตรอบรม เร่ือง “การสาธิตการท�ำครีมทาผิว” โดย ผศ.ดร.ชนิ านาฏ วทิ ยาประภากร, นางสาวสพุ ชั ญา แถมเงนิ จากคณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารเกษตร มทร.ลา้ นนา 5. หลักสูตรอบรม เรื่อง “การสาธิตการท�ำสบู่ก้อนกลีเซอรีน” โดย ผศ.ดร.ชนิ านาฏ วทิ ยาประภากร, นางสาวณฐั ธ์ มญ คดิ ชยั จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มทร.ลา้ นนา 30 วารสาร

กิจกรรมเสวนา แลกเปล่ียนเรยี นรู้ (Show & Share) ในหวั ข้อ “เกี่ยวกับ สร้างอาชีพ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม เยาวชน” 1. เสวนา Show & Share เรื่อง “เซรามิกกับโลกปัจจุบัน เพื่อความอยู่ รอดของธุรกจิ ” โดย นายอนุพงษ์ สงิ ห์ทอง จากสถานประกอบการ Pra-arthid Pottery อ.สนั ปา่ ตอง จ.เชียงใหม่ และ นางสาวย่ิงลักษณ์ เส็งขำ� จากสถานประกอบการ ลกั ษณ์ดิน เซรามกิ อ.แม่รมิ จ.เชียงใหม่ 2. เสวนา Show & Share เร่ือง “ภูมิปัญญาล้านนากับการ สืบสานสู่คนรุ่นใหม่” โดย นายธนิตพงศ์ พุทธวงศ์ ผู้ช่วยคณ บดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษ า จากคณะศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา และนายเสถียร ณ วงศ์รกั ษ์ (ครูอดู๊ แสนช่างต้อง) จากปราชญช์ าวบา้ น (สล่าแหง่ ดิน แดนลา้ นนา) 3. เสวนา Show & Share เร่อื ง “การปลกู พืชไร้ดนิ ไฮโดรโปนิกส์ (Hydro- ponics) แบบต้นทนุ ตำ่� ” โดย รศ.ดร.ซติ ิ ศรีตนทพิ ย์ จากสถาบันวจิ ยั เทคโนโลยเี กษตร มทร.ล้านนา ล�ำปาง 4. เสวนา Show & Share เร่ือง “ปลูกผักเชียงดาอย่างไรให้ ประสบความส�ำเร็จและได้ก�ำไร” โดย กลุ่มตัวแทนเกษตรกร “ฮักน้�ำจาง” ต�ำบลบ้านก่วิ อำ� เภอแม่ทะ จังหวดั ล�ำปาง 5. เสวนา Show & Share เร่ือง “เด็กไทยในยุค 4.0” และ “สุขภาพ จิตส�ำหรับวัยรุ่น 4.0. กับการรับมือโรคเครียด โรคซึมเศร้า” โดย อาจารย์ ยุรธร จีนา จากคณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ มทร.ล้าน นา และนางสาวนิลุบล สุขวณิช นักจิตวิทยา กองพัฒนานกั ศกึ ษา มทร.ล้านนา กจิ กรรมฝกึ อบ ส�ำหรบั เดก็ ๆ ในเนื่องงานวันเดก็ แหง่ ชาติ เรอ่ื ง “การเพ้นท์สีตุ๊กตาเซรามิก” โดยสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยี ส่ชู มุ ชน มทร. ลา้ นนา กิจกรรมเสวนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Show & Share) พเิ ศษ เรอื่ ง “การเพาะดว้ งจากขเี้ ลอื่ ย” โดย ดร.ประเสรฐิ ลอื โขง ผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มทร.ล้านนา สรปุ ผลการดำ� เนินงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ด�ำเนินงานโครงการ “คาราวานบริการวิชาการ” โดยให้สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน เป็นผู้ ดูแลโครงการน้ัน มีการสนับสนุน ส่งเสริมงานบริการวิชาการ สู่ภาคประชาชน สังคม ด้วยกลไก เครื่องมือต่าง ๆ ในการขับเคล่ือนงานบริการวิชาการให้เกิด การเข้าถึงความรู้แก่ชุมชน สังคม เชิงรุก ด้วยการ “คาราวานความรู้เคลื่อนที่ สภู่ าคประชาชน สงั คม” มกี ารแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และสรา้ งองคค์ วามรไู้ ปพรอ้ ม ๆ กนั อกี ทง้ั ยงั เปน็ การสง่ เสรมิ การประชาสมั พนั ธม์ หาวทิ ยาลยั ใหเ้ ปน็ ทรี่ จู้ กั โดยนำ� องค์ความรูข้ องมหาวิทยาลัย มาเผยแพร่ในงานคาราวานบรกิ ารวิชาการ ใหเ้ ปน็ ที่รจู้ กั ตามวัตถปุ ระสงคท์ ่วี างไว้ 31วารสาร

: ของมนั ตอ้ งโชว์ ผดุ ไอเดยี สร้างเคร่อื งกดเจลแอลกอฮอล์ ไม่ตอ้ งใชม้ อื ลดเสี่ยงตดิ โควิด 19 พรอ้ มแชรน์ วตั กรรมส่ทู กุ ชุมชน อาจารยแ์ ละนกั วจิ ยั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ลา้ นนา จ.เชียงใหม่ ผุดไอเดียสร้างเครื่องกดเจลแอลกอฮอล์แบบเหยียบเท้า ลดเส่ียงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใช้อุปกรณ์หาง่ายราคาถูก ทำ� งา่ ย ใชง้ า่ ย เคลอ่ื นยา้ ยสะดวก พรอ้ มแชรค์ วามรสู้ ชู่ มุ ชนรว่ มฝา่ วกิ ฤต โรคระบาด ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ระบนิ ปาลี อาจารยส์ าขาวศิ วกรรมไฟฟา้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา สาธิตการใช้งานเคร่ืองกดเจล แอลกอฮอล์แบบเหยียบเท้า ที่ร่วมกับทีมเจ้าหน้าท่ีของมหาวิทยาลัย ออกแบบและสร้างขึ้น จากแนวคิดท่ีต้องการลดการสัมผัสของบุคคล กับขวดเจลแอลกอฮอล์สาธารณะ ท้ัง ตามหน่วยงานราชการ เอกชน และ ตามร้านค้าต่าง ๆ ที่อาจเส่ียงต่อการติดเช้ือไวรัสโควิด 19 ท่ีก�ำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ระบิน อาจารย์ ผู้ออกแบบ กล่าวว่า อุปกรณ์ช้ินน้ี ใช้หลักการท�ำงานคือมีแกนเหล็ก ยึดกับแป้นเหยียบและปุ่มกด เมื่อใช้เท้าเหยียบที่แป้น แกนเหล็กจะท�ำ หนา้ ทแ่ี ทนมอื ในการกดปมุ่ ขวดเจลเพอ่ื จา่ ยเจลออกมา โดยทม่ี อื ของเรา จะไมส่ มั ผสั กบั ขวดเจลเลย ซงึ่ จะทำ� ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั มากขน้ึ ในชวี ติ ประจำ� วนั อปุ กรณท์ สี่ รา้ งกเ็ ปน็ วสั ดหุ างา่ ย เปน็ เหลก็ กลอ่ ง สปรงิ แผน่ เหลก็ ทหี่ าซอื้ ไดต้ ามรา่ นจำ� หนา่ ยวสั ดทุ ว่ั ไป ทสี่ ำ� คญั คอื มรี าคาไมแ่ พง หากเทยี บ กบั เครอื่ งท่ีใชร้ ะบบเซน็ เซอร์ โดยทง้ั ชดุ ไมก่ ร่ี อ้ ยบาท และ นอกจากตน้ ทนุ ตำ่� ยังสามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานตามสถานท่ีที่ต้องการได้อย่างสะดวก ไม่ตอ้ งเสยี บปล๊ักไฟ 32 วารสาร

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ระบิน ปาลี อาจารยผ์ อู้ อกแบบ บอกว่า คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา ได้ส่งมอบเครื่องน้ีให้กับเทศบาล ต�ำบลเหมืองง่า จังหวัดล�ำพูน ซ่ึงเป็นผู้ท่ีให้ แนวคิดและโจทย์การใช้งาน ไปแล้ว 2 เคร่ือง เพ่ือน�ำไปให้บริการประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ในเทศบาล และ อยู่ระหว่างการผลิตอีก 10 เครื่อง ตามความต้องการของเทศบาลต�ำบล เหมอื งงา่ ทจี่ ะนำ� ไปแจกจา่ ยใหก้ บั ทกุ ชมุ ชนในตำ� บล น� ำ ไ ป ใ ช ้ ง า น แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ท่ี มี ผู ้ ค น ร ว ม ตั ว กั น จ� ำ น ว น ม า ก ส ่ ว น ห น ่ ว ย ง า น ห รื อ ป ร ะ ช า ช น ทั่ วไ ป ท่ี ต ้ อ ง ก า ร ส ร ้ า ง อุ ป ก ร ณ ์ ช้ิ น น้ี ไ ป ใ ช ้ ง า น สามารถสอบถามข้อมูลการผลิตได้ทุกขั้นตอน มาท่ี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา และ เพ่ือเป็นการเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน ท า ง ม ห า วิ ท ย า ลั ย ยั ง เ ต รี ย ม เ ป ิ ด ส อ น ท� ำ ผ ่ า น ระบบออนไลนอ์ กี ดว้ ย  33วารสาร

: ซะป๊ะ สเปซ แอพพลเิ คชน่ั LandsMaps แลนดแ์ มป็ ส์ เปน็ แอปพลเิ คชนั อำ� นวยความสะดวกใหป้ ระชาชนสามารถตรวจสอบ ต�ำแหน่ง และภาพแปลงท่ีดิน โดยระบุเลขที่โฉนด นอกจากน้ีประชาชนยังสามารถตรวจสอบเส้นทางเพ่ือเดินทาง ไปยงั แปลงที่ดินดังกลา่ ว รวมถงึ ตรวจสอบสถานท่ีต้งั สำ� นกั งานเขตทดี่ ินทีเ่ กี่ยวขอ้ งได้อีกดว้ ย แอปพลเิ คชัน LandsMaps จะมีการแสดงข้อมลู ส�ำคญั ต่างๆดงั น้ี หมายเลขระวาง เลขทด่ี นิ เลขโฉนด ทด่ี นิ หนา้ สำ� รวจ ตำ� บล/อำ� เภอ/จงั หวดั เนอื้ ท่ี สำ� นกั งานทด่ี นิ คา่ พกิ ดั สำ� นกั งาน ราคาประเมนิ รายแปลงกรมธนารกั ษ์ ค่าพกิ ัดแปลง คา่ ใช้จา่ ยในการรังวดั ค่าธรรมเนยี มภาษีอากร คิวรงั วัด พน้ื ที่ใชป้ ระโยชน์ และขอ้ มลู ผงั เมืองรวม ของกรุงเทพมหานคร แอปพลเิ คชนั LandsMaps นจ้ี ดั ทำ� ขน้ึ โดยกรมทด่ี นิ รว่ มกบั สำ� นกั งานพฒั นารฐั บาลดจิ ทิ ลั (องคก์ ารมหาชน) ภายใตก้ ารก�ำกบั ดูแลของนายกรฐั มนตรี สงั กัดสำ� นักนายกรัฐมนตรี ภายใตโ้ ครงการศูนยก์ ลางแอปพลิเคชันภาครัฐ (Government Application Center) อันมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของรัฐ ผ่านโทรศัพทม์ อื ถอื หรืออุปกรณ์พกพาได้ 34 วารสาร

LandsMaps แลนดแ์ มป็ ส์ ใช้งาน ผลลัพธ์การค้นหา LandsMapsแลนด์แม็ปส์ ไดง้ ่ายใน 3 ขั้นตอน จะแสดงต�ำแหน่งท่ีตั้งแปลงที่ดินพร้อมแสดงราย ละเอยี ดแปลงทด่ี นิ โดย “กดคา้ งตำ� แหนง่ ทต่ี อ้ งการ” 1. เข้าดาวน์โหลด Application หากผู้ใช้อยากไปดูท่ีดินท่ีก�ำลังค้นหา ก็ใช้ ผ่านรหัส QR Code ตามระบบ “กดท่ีหมุดสีฟ้า” เพอ่ื ขอเส้นทางจากต�ำแหน่งทค่ี ุณ ปฏบิ ตั ิการโทรศพั ทข์ องผใู้ ช้งาน อยู่ ระบบกจ็ ะคำ� นวณเส้นทาง พร้อมประเมนิ เวลา ที่ใชใ้ นการเดนิ ทางให้โหลด ดนู อ้ ยลง 2. สมัครสมาชิก โดยกรอกข้อมูลผู้ใช้ (Username) รหัสผ่าน (Pasword) 35วารสาร และอเี มลล์ (E-mail) 3. ค้นหา ด้วยข้อมูล จังหวัด อ�ำเภอ และเลขท่โี ฉนด LandsMaps เป็นอีก แอพลิเคชั่นหนึ่งที่เป็นประโยชน์ มากส�ำหรับประชาชนท่ีต้องการ ดูแปลงท่ีดินออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ประหยัดเวลาได้อย่างดี และแผนทส่ี ามารถแสดงตำ� แหนง่ ได้อย่างถูกต้อง ครอบคลุมการ ใช้งาน 54 จังหวัด รวม 24 ลา้ น แปลง ซงึ่ บรกิ ารนยี้ งั ไมค่ รอบคลมุ ทุกจังหวัด และจะมีการอัพเดต ขอ้ มูลเปน็ ระยะในล�ำดับตอ่ ไป

: ซะป๊ะ สเปซ วันน้ีน้อง #TechTalk มีเทคนิค หรือ ทิปดีๆ ที่จะช่วยท่านในการส่งไฟล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการลดขนาดไฟลน์ �ำเสนองาน (PowerPiont) ไดใ้ น 6 คลกิ ไฟลง์ านนำ� เสนอทมี่ ขี นาดใหญน่ น้ั เกดิ จากในการงานนำ� เสนอนน้ั มกี ารใชร้ ปู ภาพเปน็ หลกั จงึ ทำ� ใหไ้ ฟลม์ ขี นาดใหญ่ หลายคนกอ็ าจจะลดขนาดดว้ ยการยอ่ รปู ภาพ แตก่ จ็ ะเสยี เวลาหากตอ้ งไปแกไ้ ขรปู ภาพ ทกุ รูป ในงานน�ำเสนอหรอื Save PowerPoint มเี ทคนิคดีๆ ทีส่ ามารถลดขนาดไฟล์ไดด้ ว้ ยการการบีบอัด ภาพ (compress pictures) ขนาดเลก็ ลง และภาพยังคงมีความคมชัดใกล้เคียงกบั ไฟล์ต้นฉบับ ได้ใน 6 คลกิ ดังน้ี เปดิ ไฟล์น�ำเสนองาน (.pptx) เสรจ็ แล้ว ตามปกติ 1. คลกิ เมนู File 2. เลือกเมนู Save as 36 วารสาร

3. คลิกปุม่ Tools เลอื กเมนู Compress Picture… 4. เลอื ก E-mail (96 ppi): minimize document size for sharing ที่ target output 5. คลกิ ปุ่ม OK 6. คลิกปุ่ม Save Compress Picture คือการบีบอัดรูปภาพ ลดขนาดไฟล์ PowerPoint ให้เล็กลงได้ในครั้งเดียว โดยภาพยงั คงมคี วามคมชดั ใกลเ้ คยี งกบั ไฟลต์ น้ ฉบบั ดว้ ยหลกั การของการลดขนาดไฟลภ์ าพน้ี เหมาะสำ� หรบั ผใู้ ชง้ าน ทว่ั ไป ชว่ ยประหยัดเวลาในการท�ำงานไดม้ ากยิง่ ขน้ึ 37วารสาร

รอบร้วั มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 20 -22 กุมภาพันธ์ 2563 มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ร่วมกับภาคีเครือข่าย  จัดงานปอยข้าวสาลีล้านนา ณ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง จ.เชียงใหม่ แปลงเกษตรกร อ.ปาย และศูนย์วิจัย ข้าวแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน  โดยได้รับเกียรติ จากคุณนนทิชา  วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานมีการจัดนิทรรศการ ด้านพันธุ์ และแปลงแสดงเชื้อพันธุกรรมข้าวสาลี  ขา้ วบารเ์ ลย ์ ทรติ เิ คล่ี มากกวา่ 700 พนั ธ์ุ   นทิ รรศการ สาธิต  การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี  กิจกรรม แชะ  แชร ์ เชก็ อนิ ณ ทงุ่ ขา้ วสาลี และถา่ ยรปู ชงิ รางวลั   กิจกรรมฟังเพลงโฟล์คซอง ท่ามกลางทุ่งข้าวสาลี กิจกรรมชุมชนพบปะกันระหว่างนักวิจัย ผู้ผลิต  และผูป้ ระกอบการที่ใช้ประโยชนข์ า้ วสาลี   ม่อื วันที่ 1 มีนาคม 2563 สโมสรนักศกึ ษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา ได้จดั กิจกรรม วงิ่ การกศุ ล 13 ปี วศิ วะตนี ดอย ภายใตโ้ ครงการวงิ่ ดว้ ยกนั ปนั ใจให้นอ้ ง “เทคโนตีนดอย ENGINEER  RUN 2020” ครั้งท่ี 1  ในวนั อาทติ ยท์ ่ี 1 มนี าคม 2563 ระหวา่ งเวลา 5.00 น. - 10.00 น. ณ ลานเนนิ นมุ่ กองพนั สตั วต์ า่ ง อ.แมร่ มิ จ.เชยี งใหม่ ซง่ึ แบง่ ประเภทการวงิ่ ออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ ว่ิงประเภทมินิมาราธอน ระยะทาง 10.5  กิโลเมตร และวิ่งประเภทเพื่อสุขภาพ (FUN RUN) ระยะทาง 5 กโิ ลเมตร ซง่ึ มจี ำ� นวนนกั วงิ่ กลมุ่ เปา้ หมาย ประมาณ 1,000 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหา รายได้เป็นทุนการศึกษา เพื่อสนับสนุนค่ากิจกรรม ชมรมวิชาการ  ชมรมอาสาพัฒนาแก่นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ และกิจกรรมสาธารณ ประโยชนต์ ่าง ๆ  38 วารสาร

12- 13 มีนาคม 2563  อาจารย์วัชรี เทพโยธิน และอาจารย์สุพัฒน์  ใต้เวชศาสตร์ อ า จ า ร ย ์ ส า ข า วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ แ ล ะ เ ท คโ น โ ล ยี การอาหารและสาขาวิชาพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษ ตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ล�ำปาง เป็นวิทยากรฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การท�ำน้�ำผลไม้ แ ล ะ ไ อ ศ ก รี ม ผ ลไ ม ้ ใ ห ้ แ ก ่ พ นั ก ง า น บ ริ ษั ท อินสยามกรุ๊ป จ�ำกัด อ�ำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ การถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวเป็นหนึ่งในพันธกิจ ด้านการบริการวิชาการสู่ชุมชน โดยการน�ำองค์ความ รู้จากผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัยถ่ายทอดสู่ชุมชน และผู้ประกอบการเพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการจัด อบรมในครั้งน้ีเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูป ผลไม้ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจการท�ำน�้ำผลไม้ การค�ำนวณน้�ำตาล (O Brix) การหา % Citric acid เทคนิคการฆ่าเช้ือ และการตรวจสอบคุณภาพน้�ำผลไม้ ส�ำหรบั ใชใ้ นธุรกจิ อาหารสุขภาพ วนั ที่ 13 มนี าคม พ.ศ.2563 สถาบนั ถา่ ยทอด เทคโนโลยีสู่ชุมชน ร่วมกับ กองพัฒนานักศึกษา ส�ำนักงานอธิการบดี มทร.ล้านนา จัดกิจกรรมฝึก อบรมท�ำเจลล้างมือกลิ่นผลไม้ แก่นักศึกษา บุคลากร ของมหาวทิ ยาลยั ฯ ประชาชนและผสู้ นใจทว่ั ไป จ�ำนวน 40 คน ณ บริเวณหน้าห้องส�ำนักงานสถาบันวิจัยและ พัฒนา อาคารวิจัยและพัฒนา ภูมิปัญญา ผลิตภัณฑ์ ท้องถ่ิน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (ดอยสะเก็ด) ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เกรียงไกร ธารพรศรี ผู้อ�ำนวยการสถาบันถ่ายทอด เทคโนโลยีสู่ชุมชน กล่าวให้การต้อนรับผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมฯ และเปิดงาน โดยมี นางสายหยุด สุวัตถี นกั วชิ าการศกึ ษา สงั กดั กองพฒั นานกั ศกึ ษา เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การกิจกรรม ซ่ึงได้รับการสนับสนุนกิจกรรมจากคุณ นครนิ ทร์ จติ ตธร กรรมการผจู้ ดั การบรษิ ัท เอน็ เอ อาร์ เอ็นจิเนียร่ิง จ�ำกัด เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เร่ืองการ ท�ำเจลลา้ งมือ 39วารสาร