กระดาษ เปลือกข้าวโพดท�ำมอื การสร้างบรรจุภณั ฑเ์ พื่อส่ิงแวดลอ้ ม
2 กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มือ การสรา้ งบรรจุภัณฑเ์ พอ่ื ส่ิงแวดลอ้ ม
คำ� น�ำ “ข้าวโพด”สําหรับประเทศไทยนับว่าเป็นธัญพืชหนึ่งที่มีความสําคัญในการ พัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศไทย ในระยะ 4-5 ปี ท่ีผ่านมา พื้นท่ีการปลูก ข้าวโพดในแต่ละภาคของประเทศไทยนั้นเพ่ิมมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคเหนือ ประชากร ส่วนใหญ่ยึดอาชีพเกษตรกรรมโดยการปลูกไร่ข้าวโพด ท�ำให้มี “ขยะเหลือใช้ทางการ เกษตร” จากภาคเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูปเป็นจ�ำนวนมาก ขยะที่ เกิดข้ึนจึงท�ำให้เกิดการเผาเพ่ือก�ำจัดขยะ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันพิษในภาค เหนืออันเกิดข้ึนทุกปีในช่วงหน้าแล้ง จากการเผาซากไร่ข้าวโพด ปัจจุบัน กรีน ดีไซน์ (Green design) ก�ำลังอยู่ในกระแสนิยม เป็นการมุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ 3 หลกี เลย่ี งการท�ำลายสง่ิ แวดลอ้ มทส่ี ามารถสรา้ งความแตกตา่ งใหก้ บั ผลติ ภณั ฑช์ นดิ เดยี วกนั ได้ อยา่ งนา่ สนใจ ดว้ ยการน�ำเอาขยะเหลอื ใชท้ างการเกษตร อาทิ สว่ นตา่ งๆของชา้ วโพด เพอ่ื น�ำ มาแปรรูปและสรา้ งมูลค่าด้วยการออกแบบทีส่ รา้ งสรรค์และเป็นมติ รต่อสงิ่ แวดลอ้ ม หนังสือ กระดาษเปลือกข้าวโพดท�ำมือ : การสร้างบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ได้เรียบเรียงองค์ความรู้และพัฒนามาจากการบริการวิชาการเพื่อชุมชน บทเรียนจากลงพ้ืน ท่ีชุมชน การศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องและผู้เช่ียวชาญ โดยใช้กระบวนการจัดการความรู้ การประยุกต์องค์ความรู้ด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมภายในและเทคโนโลยีทางวิศวกรรม เพือ่ สร้างแนวทางการสร้างบรรจภุ ณั ฑ์เพอื่ ส่ิงแวดลอ้ ม สุดท้ายต้องขอขอบพระคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาที่ได้ส่งเสริม การบริการวิชาการ ภายใตโ้ ครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ิต หมบู่ ้าน ชุมชนฯ และขอขอบคุณ ชาวบา้ นแมก่ าษา อ�ำเภอแมส่ อด จังหวดั ตาก ทีใ่ ห้ความรว่ มมอื และรว่ มเรยี นรูป้ ฏบิ ัติจากการ ถา่ ยทอดองคค์ วามรเู้ พอ่ื น�ำไปตอ่ ยอดพฒั นาผลติ ภณั ฑข์ องชมุ ชนได้ ส�ำหรบั ผสู้ นใจและชมุ ชน ท่ตี ้องการก�ำจดั สิ่งเหลือใช้ทางการเกษตรจากขา้ วโพด จึงหวังเปน็ อยา่ งยง่ิ ว่าหนงั สือกระดาษ เปลอื กขา้ วโพดท�ำมอื ฯ จะเปน็ สว่ นหนงึ่ ในการชว่ ยลดปญั หาสง่ิ แวดลอ้ มและสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั เกษตรกรตอ่ ไป คณะผูจ้ ดั ท�ำ กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มอื การสร้างบรรจภุ ัณฑเ์ พอื่ ส่ิงแวดล้อม
สารบัญ 06บทน�ำ 11 รอบรู้ภมู ิปัญญาการผลติ กระดาษทำ� มอื 11 การผลิตเยือ่ กระดาษท�ำมอื 13 การเตรียมนำ้� เยื่อกระดาษทำ� มือ 14 การท�ำกระดาษทำ� มอื 15 การตกแตง่ แผน่ กระดาษแบบไทย
18 ขา้ วโพด และคณุ สมบัติ ของขา้ วโพด 22 การผลติ กระดาษขา้ วโพดทำ� มือ 30 การแปรรปู กระดาษ เปลือกขา้ วโพด
บทน�ำ ข้าวโพดนับเป็นพืชเศรษฐกิจของโลก มีความสําคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและ สงั คม ส�ำหรบั ประเทศไทยขา้ วโพดท่ีผลติ ไดส้ ว่ นใหญจ่ ะสง่ เปน็ สนิ คา้ ออกในรปู เมลด็ ไป ขายยังประเทศตา่ งๆ ในระยะ 4-5 ปี ท่ีผา่ นมา พน้ื ทีก่ ารปลกู ข้าวโพดในแตล่ ะภาคของ ประเทศไทยนัน้ เพมิ่ มากข้นึ โดยเฉพาะในภาคเหนอื (รปู ท่ี 1.2) ซ่งึ เป็นภาคทีม่ กี ารผลิต และผลผลิตมากที่สุดในปี 2559 ประมาณ 5 ล้านไร่ ประชากรส่วนใหญ่ยึดอาชีพ เกษตรกรรมโดยการปลกู ไรข่ า้ วโพดเปน็ จาํ นวนมากเนอื่ งจากไดผ้ ลผลติ ทดี่ ตี รงกบั ความ ต้องการของตลาด (สาํ นักงานเศรษฐกิจเกษตร.พืชเศรษฐกจิ , 2536) ประเทศไทยจงึ เปน็ ประเทศหนง่ึ ทม่ี วี สั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรเปน็ จ�ำนวนมากและ มีการน�ำมาใช้ประโยชน์เป็นส่วนน้อย ซ่ึงได้ถูกปล่อยทิ้งไว้ในพื้นท่ีเพาะปลูกหรือถูกเผา ทง้ิ ปัจจบุ ันวสั ดุเหลือใชท้ างการเกษตรภายในประเทศมกี ระจดั กระจาย อยูท่ ่วั ประเทศ ข้ึนอยู่กับปริมาณผลผลิตทางการเกษตรของแต่ละพ้ืนท่ี โดยท่ีผ่านมาพบว่ามีปริมาณ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมากถึง 43 ล้านตันต่อปี (กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ 6 อนุรักษ์พลังงานกระทรวงพลังงาน, 2555) ซง่ึ เศษวสั ดุเหลือใชท้ างการเกษตร “ข้าวโพด” ทงั้ ล�ำตน้ และใบ จ�ำนวนมากทไี่ มไ่ ดน้ �ำไปใชป้ ระโยชน์ เกษตรกรสว่ นใหญน่ ยิ มเผาท�ำลาย เพอื่ ความ สะดวกในการก�ำจดั ทง้ิ สง่ ผลกระทบตอ่ คณุ ภาพอากาศ เปน็ สาเหตขุ องปญั หา หมอกควันพิษในภาคเหนอื อันเกดิ ขนึ้ ทุกปีในช่วงหน้าแล้งจากการเผาซากไร่ข้าวโพด ในปจั จุบนั กรีน ดีไซน์ (Green design) ก�ำลงั อยู่ในกระแสนิยม เพราะเปน็ งานที่ มงุ่ เนน้ การอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ หลกี เลย่ี งการท�ำลายสงิ่ แวดลอ้ มทส่ี ามารถสรา้ งความแตกตา่ ง ให้กับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันได้อย่างน่าสนใจด้วยการน�ำเอาส่ิงของเหลือใช้ มาสร้างมูลค่าด้วยการออกแบบท่ีสร้างสรรค์และเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม การส่งเสริม ให้มีการน�ำล�ำต้นและใบข้าวโพดไปแปรรูปอาทิเช่น กระดาษข้าวโพดและน�ำกระดาษ ไปใช้ในการสร้างบรรจุภัณฑ์ นอกจากช่วยลดการเผาท�ำลายเศษวัสดุเหลือทิ้งด้วยรูป แบบท่ีไม่เหมาะสมและสร้างมลพิษให้กับส่ิงแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าวัสดุ เหลอื ทง้ิ ทางเกษตร ทส่ี �ำคญั เพมิ่ รายไดใ้ หแ้ กเ่ กษตรกรหลงั จากการเกบ็ เกยี่ วขา้ วโพดและ ทําให้เกดิ ประโยชน์ต่อชุมชนและสงั คมต่อไป (วชิ ัยและคณะ, 2545) กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มอื การสร้างบรรจภุ ณั ฑ์เพอื่ สิ่งแวดล้อม
450,000 2,000 400,000 1,800 350,000 1,600 300,000 1,400 250,000 1,200 200,000 1,000 150,000 100,000 800 600 50,000 400 0 200 รปู ที่ 1.1 ขา้ วโพดเลี้ยงสตั ว:์ เนื้อทเ่ี พาะปลูก ผลผลติ และผลผลิตต่อไร่ ของประเทศผผู้ ลิตท่สี �ำคญั 10 0 อนั ดบั แรกปี2559/60 ท่มี า: ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ,์ 2560 7 กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มือ การสร้างบรรจุภัณฑ์เพอื่ ส่ิงแวดลอ้ ม
8 ผลผลิต (ตน ) Yield per rai (kg) กระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมือ การสรา้ งบรรจุภณั ฑเ์ พื่อส่งิ แวดลอ้ ม เนือ้ ทีเ่ พาะปลกู (ไร) เน้ือทเ่ี กบ็ เก่ียว (ไร) ผลผลิต (ตน ) Region/ Planted area (rais) Havested area (rais) Production (tons) Province ภาค/จังหวัด 2257 2258 2259 2257 2258 2259 2257 2258 2259 2257 2258 2259 Whole Kingdom 2014 (p) (f) Northern รวมทงั้ ประเทศ 2014 (p) (f) 2014 (p) (f) 2014 (p) (f) 2015 Northeastem เหนอื 669 2016 Central ตะวนั ออกเฉียงเหนอื 2015 2016 2015 2016 2015 2016 670 642 Chiang Rai กลาง 664 640 654 Phayao เช�ยงราย 7,231,588 6,927,045 6,516,387 7,073,487 6,273,945 6,203,039 4,729,527 4,028,058 4,058,186 667 645 654 Lampang พะเยา 5,017,349 4,564,427 4,460,167 4,935,332 4,366,811 4,287,952 3,307,950 2,807,372 2,806,014 685 650 652 Lamphun ลำปาง 1,522,964 1,316,928 1,315,45 1,497,611 1,235,861 1,257,539 701 662 657 Chiang Mai ลำพูน 994,097 787,046 820,402 687 678 672 Mea Hong Son เชย� งใหม 691,293 745,692 740,805 640,544 651,273 657,548 427,480 423,640 431,770 693 662 694 Tak แมฮองสอน 518,019 406,040 397,939 510,458 397,570 389,785 349,447 263,293 262,130 676 675 671 ตาก 311,942 261,942 259,918 306,380 255,783 251,741 214,878 173,366 174,617 626 652 685 154,394 156,250 152,197 152,404 154,372 150,487 104,710 102,217 101,026 685 559 664 99,683 87,058 85,370 97,730 85,613 83,637 646 568 189,443 149,240 146,148 187,084 148,110 144,033 67,722 57,794 57,283 671 63,173 57,613 56,327 62,765 57,282 55,929 126,394 96,535 95,580 648,502 549,963 531,000 633,433 549,810 521,607 39,283 31,994 31,768 433,609 355,088 349,920 รปู ท่ี 1.2 ข้าวโพดเลย้ี งสตั ว์: เน้อื ที่ ผลผลิต และผลผลิตตอ่ ไร่ เป็นรายภาค และรายจังหวัด ปี 2557-2559 ที่มา: สำ� นกั งานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ,์ 2560
65 65 65 4,28 1,25 65 43 2,80 82 9 กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มือ การสร้างบรรจุภัณฑ์เพอื่ ส่ิงแวดลอ้ ม รปู ท่ี 1.3 ขา้ วโพดเล้ยี งสตั ว์: เนือ้ ทีเ่ ก็บเกย่ี ว ผลผลิต และผลผลิตตอ่ ไร่ เปน็ รายภาค ปี2559 ที่มา: สำ� นกั งานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ,์ 2560
10 รปู ที่ 1.4 เศษวัสดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรข้าวโพด รูปที่ 1.5 การเผาท�ำลายเศษซากไร่ขา้ วโพดก่อใหเ้ กิดสาเหตุ ของปญั หาหมอกควนั พิษในภาคเหนือ กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มือ การสร้างบรรจุภณั ฑเ์ พื่อสิ่งแวดล้อม
บทท่ี 2 : 11 รอบรู้ภมู ิปัญญา การผลติ กระดาษท�ำมือ การผลติ เยอ่ื กระดาษท�ำมอื การแชว่ ตั ถดุ บิ หรอื เปลอื กสาทจี่ ะนาํ มาผลติ เยอื่ สว่ นใหญจ่ ะแชค่ า้ งคนื หรอื ประมาณ 24 ชว่ั โมง เพอื่ ใหว้ ตั ถุดิบออ่ นตวั กอ่ นทจี่ ะนําไปตม้ ถ้านาํ ไปตม้ ทนั ที จะใชเ้ วลาตม้ นานกวา่ การแช่น�้ำก่อน การเตรียมดงั กลา่ วอาจจะทาํ ได้ 2 วธิ คี อื การแช่น้ำ� ในน้�ำธรรมดา และการแชน่ ำ�้ ในสารละลาย โซเดียมไฮดรอกไซดก์ ่อนที่ จะต้มเผื่อให้ไดเ้ ยอื่ กระดาษ (วุฒนิ ันท, 2545) การย่อยสลายเย่ือกระดาษทำ� มอื การตม เยอื่ เปน การสกดั หรอื ยอ ยสารจาํ พวกลกิ นนิ เฮมเิ ซลลโู ลส สารแทรก ตางๆ ออกไปจากเสนใยหรือเซลลูโลสโดยทั่วไปการยอ ยสลายเยอ่ื น้สี ามารถทํา ได 3 วิธดี วยกนั คือ 1. วิธกี ล โดยใชห ลกั การเอาไอน�้ำรอนรว มกบั ความดันเขาไประเบดิ เยอื่ ใน ภาชนะทค่ี วบคุมได จนทาํ ใหส ารตา งๆ แยกตัวออกมาจากเซลลโู ลส การใชวธิ ี น้ีสามารถลดปญหาที่จะมีผลกระทบตอส่ิงแวดลอมได การปฏิบัติงานคอนขาง รวดเรว็ แตตองระวงั ความปลอดภัยจากการใชเ ครอื่ งมือ 2. วธิ ีชีวเคมี วิธนี ้ีอาศัยเชื้อจลุ นิ ทรยี ผ ลิตเอนไซมชวยยอยสลายสารตางๆ ในวตั ถดุ บิ จน เหลือเสนใยเซลลูโลส วิธีนี้จะไมมีผลกระทบตอสิ่งแวดลอม มากนักแตจ ะตองเสยี เวลา และพ้ืนท่ใี นการหมักคอ นขางมาก 3. วิธีเคมี การตม เยื่อกระดาษโดยวธิ ทางเคมี มอี ยูห่ ลายวิธีด้วยกัน ทงั้ น้ี ขึ้นอยู่กับชนดิ ของวตั ถุดิบทจี่ ะช้ท�ำกระดาษเปน็ หลัก ได้แก่ - กรรมวิธีซัลเฟต (Sulphate process) ใชสารพวก sodium hydroxide (NaOH) และ sodium sulfide (Na2S) - กรรมวธิ ีโซดา (Soda process) ใชs odium hydroxide เพียงอยา งเดยี ว บางแหง จะเตมิ sodium sulfide ในการตมประมาณรอยละ 5 เยอื่ กระดาษ - กรรมวธิ ซี ัลไฟต( Sulphite process) ขอดกี ็คอื เยือ่ ทไ่ี ดจ ะมสี ีคอนขา ง ขาว นาํ ไปทาํ กระดาษไดเ ลย หรอื มกี ารฟอกสเี พยี งเลก็ นอ ย ขอ เสยี นำ�้ ยามสี ภาพ เปนกรดทําใหเครื่องมือเปนสนิมไดงาย และเปนสาเหตุที่ทําใหกระดาษมีสภาพ เปนกรด กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มอื การสรา้ งบรรจภุ ัณฑเ์ พอ่ื ส่ิงแวดล้อม
ดางทีใ่ ชต มเยอ่ื 1. ขเ้ี ถา (Potassium carbonate หรอื Potash ; K2CO3) เปน วธิ ี ข้เี ถา แบบพ้ืนบาน ขี้เถาท่ีใชอาจเปนข้ีเถาจากไมหรือถานก็ได โดยปกติ ปริมาณที่ใชข้ึนอยูกับปริมาณและคุณสมบัติของขี้เถา ถาใชขี้เถา 12 จํานวนมาก เวลาตมก็จะนอย ถาใชข้ีเถานอยก็ตองใชเวลาตมนาน โดยทวั่ ไปใชเ วลาตม 3 – 6 ชวั่ โมงเย่ือวัตถดุ ิบทผี่ านการตม ดวยข้ีเถา จะมคี ุณภาพไมดีและไมม คี วามสม�่ำเสมอ 2. ปูนขาว (Calcium hydroxide ; Ca (OH)2) โดยปกตจิ ะใชตม เยอื่ ปนู ขาว ท่คี วามเขมขนรอยละ 20 - 40 ของน้ำ� หนักเยอื่ แหง วธิ ีนผี้ ลกระทบตอ สิ่งแวดลอ มคอนขางนอย 3. โซดาแอช (Sodium carbonate ; Na2CO3) โดยปกติจะใชต ม เยอ่ื ทค่ี วามเขม ขน รอ ยละ 18 - 20 ของนำ�้ หนกั เยอื่ แหง จะทาํ ใหไ ดเ ยอ่ื โซดาแอช ที่มคี ุณภาพดกี วาและมผี ลกระทบตอ ส่งิ แวดลอมนอยกวา ดวย 4. โซดาไฟ (Sodium hydroxide ; NaOH) โดยปกตจิ ะใชต ม เยอ่ื ที่ความเขมขนรอ ยละ 7 - 15 ของน�้ำหนกั เปลอื กแหง 5. ใชการผสมระหวางโซเดียมไฮดรอกไซด โปแตสเซียม ไฮดรอกไซดและแคลเซยี มไฮดรอกไซด ในอัตราสว น 3:2:2 แทนการ ใชสารโซเดียมไฮดรอกไซด ชนิดเดียวและชวยลดมลภาวะตอ โซดาไฟ สงิ่ แวดลอ มได้ รปู ท่ี 2.1 สว่ นผสมดา งที่ใชตมเยื่อ กระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมอื การสร้างบรรจุภัณฑ์เพ่ือสง่ิ แวดลอ้ ม
รูปท่ี 2.2 พืชทมี่ ีสารกระจายเยอ่ื การเตรยี มน้�ำเย่อื กระดาษท�ำมือ นาํ มาใชก ับการทาํ กระดาษ กระเจ๊ยี บ ในประเทศไทยมีพืชหลายชนิดที่มีสารกระจายเย่ือที่สามารถ และวา นหางจระเข้ จะนํามาใชกับการทํากระดาษไดพืชท่ีมีสารกระจายเย่ือที่สามารถ จะน�ำมาใชไ ด (นคิ ม เพชรผดุ , 2521) มดี งั นี้ 1. กระเจี๊ยบ ในฝกจะมีมิวซิเลจ หรือสารกระจายเย่ือ จาํ นวนมาก และยงั มอี ยใู นรากดว ย การนาํ สารกระจายเยอ่ื มาใชไ ดท งั้ ฝก และราก ถาเปนฝกจะมีปญหาตรงที่จะมีสีเขียวปนมาบาง อาจ ทําใหกระดาษมีสีเขียวออนๆได ในสวนของรากจะไมเปนแตสาร จะมากหรือนอยกข็ ้ึนกับขนาดของราก 2. วา นหางจระเข มสี เี ขยี วออ นหรอื เขยี วเขม ภายในมวี นุ ใส และมีมวิ ซเิ ลจจาํ นวนมาก การสกัดนาํ สารกระจายเยือ่ มาใชโดยปอก เปลือกทิ้งไป เอาแตวุนปนใหละเอียดกรองเอาแตน้�ำเมือกมาใชสี ของน�้ำเมอื กขาวขนุ แตไมท ําใหกระดาษเปลยี่ นสี 3. พลับพลึง ในใบและหวั จะมีเมอื กคอนขางมาก สามารถ สกดั โดยการหัน่ เปน ชิ้นส้นั ๆ แชน้�ำ น้�ำเมือกจะออกมา สามารถนํา ไปใชได 4. วานแสงอาทิตย ที่หัวใตดินจะมีน�้ำเมือกใช้เป็นสาร กระจายเย่อื ได้ รปู ท่ี 2.3 พืชท่ีมีสารกระจายเย่ือ นาํ มาใชก ับการทาํ กระดาษ พลับพลงึ และวานแสงอาทติ ย กระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมอื การสร้างบรรจุภณั ฑ์เพอื่ สิ่งแวดล้อม
การทํากระดาษดวยมอื การทาํ กระดาษดวยมือ มี 3 แบบ คือ 1. แบบหลอหรอื ปน กอ นทใี่ ชในประเทศไทย เนปาล และอินเดยี 2. แบบญ่ีปนุ (nagashizuki) 3. แบบตะวนั ตก (tamezuki) ในหนังสือเล่มน้ีจะกล่าวถึงการท�ำกระดาษสาแบบไทย (Thai handmade paper) การทําแผนกระดาษสาแบบไทยมดี ว ยกัน 2 แบบ คอื แบบชอน และแบบแตะ หรอื แบบหลอ ซง่ึ แบบแตะนแี้ บงออกไปอกี 2 วธิ ี คือ วธิ ีปนกอนเปยก และวิธี consistency 1. แบบชอน มักใชกับกระดาษชนิดบางสามารถทํา ไดเปนจาํ นวนมาก วนั ละ 200 – 300 แผนตอคนตอ วนั แตก ระดาษ ทไ่ี ดจ ะไมค อ ยมคี วามสมำ�่ เสมอในแผน และแตล ะแผน นำ้� หนกั กระดาษ จะไมเ ทา กนั ถา จะใหเทา กันคนชอนแผนจะตอ งมคี วามชํานาญมาก 2. แบบแตะหรือทําแผนแบบหลอ เปนวิธีการทําแผน ทีสามารถกําหนดความหนาของกระดาษได แตการทําแผ่นจะชา กวา แบบชอน กระดาษจะมีความสม�่ำเสมอมากกวา แบบแตะยังแบง 14 ออกเปน 2 วธิ คี อื - วธิ ปี น กอ นเปย ก โดยชงั่ เยอ่ื สาทผ่ี า นการสลดั นำ้� ออกแลว เหลอื ความช้ืนประมาณรอยละ 30 ปนเปนกอนไวแตละกอนใหไดน้�ำหนัก แหงตามความตอ งการ - วธิ คี วบคมุ ปรมิ าณเยอื่ ตอ นำ�้ (Consistency) วธิ นี จ้ี ะทาํ แผน ไดเ รว็ กวาวิธีปนกอนกระดาษจะมีความสม�่ำเสมอมากกวา เนื่องจากการตี เย่ือใหแตกกระจายจะทําไดมากกวาวิธีปนกอน แตขอสําคัญจะตอง ควบคุมปริมาณน้�ำตอเย่ือใหถูกตอง และเวลาตวงน�้ำเย่ือจะตองกวน เยอ่ื ใหก ระจายอยางสม่ำ� เสมอ กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มือ การสร้างบรรจภุ ณั ฑเ์ พอื่ สง่ิ แวดล้อม
การตกแต่งแผ่นกระดาษ การทําแหงกระดาษ แบบไทย กระดาษแบบไทยไมสามารถจะดึงเอาออกจากตะแกรงในขณะ การตกแตงแผนกระดาษ เปย กได ดงั นน้ั จาํ เปนจะตองทาํ ใหก ระดาษแหง ทงั้ ตะแกรง เพื่อใหกระดาษสวยงามตางไป การตากแดด โดยอาศยั ความรอ นจากแสงแดดเปน วธิ ที ปี่ ระหยดั จากแผนกระดาษทั่วไป ซึ่ง โดยนําตะแกรงท่ีนำ้� ไหลออกจากเย่อื หมดแลวต้งั เอยี ง 45 องศา หนั จะเปน กระดาษสขี าวหรอื สตี า งๆ ดานท่ีมีกระดาษเขาหาแสงแดด ถาเปนกระดาษที่ไมไดยอมสี การตกแตงอาจจะโดยการ แตถาเปนกระดาษยอมสีควรจะผึ่งใหแหงในรม เพื่อสีจะไดไมซีด ใสใบไม ดอกไม ใชเย่ือตาง แตถ าไมมีพนื้ ท่จี าํ เปน จะตอ งตากแดด ใหห ันดา นหลงั ตะแกรงเขา หา สหี รอื ผสมเยอ่ื ชนดิ อนื่ ๆ ลงไปหรอื แสงแดดจะชว ยลดการซดี ของสลี งได กระดาษจะแหง เรว็ หรอื ชา จะขนึ้ เศษวัสดุเหลือใชทางการเกษตร กบั สภาพของอากาศและความหนาของกระดาษดว ย โดยปกตจิ ะแหง ก็ได นอกจากจะใหค วามแปลก ในเวลา 2 – 3 ชั่วโมง ใหม ความสวยงามแลวยังชวย การดึงกระดาษออกจากตะแกรง เพม่ิ มลู คา เพม่ิ ใหก บั กระดาษและ การดงึ กระดาษออกจากตะแกรงหลงั จากทก่ี ระดาษแหง แลว นบั วสั ดเุ หลา นน้ั อกี ดว ย การตกแตง วาเปนขนั้ ตอนสุดทา ยของ สามารถจะทําไดหลายวธิ ี เชน่ การทํากระดาษและมีความสําคัญคอนขางมาก เนื่องจาก 1. การตกแต่งโดยการ คุณภาพของกระดาษจะต่ำ� ลงเพราะกระดาษมีตําหนิ การดงึ กระดาษ ใส่ดอกไมแ ละใบไม จะตอ งนาํ ตะแกรงมาตงั้ เฉยี งประมาณ45 องศา ใชน ว้ิ แกะขอบกระดาษ 15 2. การตกแตง โดยการผสม ดานบนออกจากขอบตะแกรงใหตลอดแนวบนใชท้ังสองมือจับ เย่อื ตางสีหรอื ผสมตา ง ขอบกระดาษดานบนใหหางเทาๆกัน ดึงกระดาษเขาหาตัวลักษณะ ยกขึ้นเลก็ นอย จนกระดาษหลุดออกจากตะแกรงท้งั แผน รปู ท่ี 2.4 การตกแตง่ โดยการใส่ดอกไมและใบไม้ใสลงในเยื่อ รปู ท่ี 2.5 การดึงกระดาษออกจากตะแกรงหลงั จากทกี่ ระดาษแหง้ แลว้ ขณะทําแผน ที่มา : Eastmeetswesttravel, 2016 ทีม่ า :tonpao-saapaper, 2012 กระดาษเปลือกข้าวโพดท�ำมอื การสรา้ งบรรจภุ ัณฑ์เพอ่ื ส่ิงแวดลอ้ ม
บทที่ 3 : ขา้ วโพดและคณุ สมบัติของข้าวโพด ชอื่ สามัญ: Maize, corn ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : Zea mays Linn. ชื่ออน่ื ๆ : ขา้ วสาลี (เหนอื ), คง (กระบี่), โพด (ใต)้ , บอื เคสะ่ (กระเหร่ียง-แมฮ่ ่องสอน) วงศ์ : Gramineae 16 รปู ที่ 3.1 ต้นขา้ วโพด รูปท่ี 3.1 ตน้ ราก รากแรกท่ีออกมาจากเมล็ด หรือท่ีเรียกว่า กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มือ การสรา้ งบรรจุภัณฑ์เพือ่ ส่ิงแวดล้อม คัพภะ (Embryo) เป็นรากช่วั คราว หรือรากขั้นตน้ เรียกว่า ไพรมารี (primary roof) หรือ เซมินัล (seminal roof) หลังจากข้าวโพดเจริญเติบโตได้ ประมาณ1 สปั ดาหถ์ งึ 10 วนั รากถาวร(adventitious root or permanent roof) จะงอกขึ้นรอบๆ ข้อ ปลายๆ ในระดับใต้ผิวดนิ ประมาณ 3-5 ซม. ราก อากาศ (Aerial or brace roots) จดั รวมอยู่ในจ�ำพวก รากถาวรน้ี (ส�ำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร, 2559)
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตรข์ องขา้ วโพด ดอก ขา้ วโพดจดั เปน็ พวกโมโนอเิ ซยี ส (monoecious) คือ มีดอกตัวผู้ และดอกตัวเมียแยกอยู่ในต้น เดียวกัน ช่อดอกตัวผู้ (tassel) อยู่ตอนบนสุดของ ล�ำต้น ดอกตัวผู้ดอกหน่ึงจะมีอับเกสร (anther) 3 อบั แตล่ ะอบั จะมเี รณเู กสร(polengrain) ประมาณ 2,500 เม็ด ดอกย่อยจะมีกา้ นเกสรตวั ผู้ 9-10 อนั และมีอับเรณูสีเหลือส้ม ยาวราว 5 มม. ดังนั้น ข้าวโพดต้นหน่ึง จงึ มีเรณเู กสรอยเู่ ปน็ จ�ำนวนหลาย ล้าน และสามารถปลิวไปได้ไกลกว่า 2,000 เมตร (สถาบนั วิจัยและพัฒนาทส่ี งู , 2553) ฝักข้าวโพด/ผล 17 ฝักข้าวโพด จะเปน็ ทรงกระบอกยาว ในฝกั 1 ฝกั มีเม็ดเกาะอยู่ประมาณ 8 แถว แถวหึ่งๆ จะมี เมด็ ประมาณ 30 เม็ด และมีสตี า่ งๆ กันเชน่ สนี วล เหลอื ง หรือม่วงด�ำ ใบ ข้าวโพดมีใบลักษณะยาวรี คล้ายพืชตระกูล หญ้าทั่วไป ประกอบด้วยตัวใบ กาบใบ และหูใบ (ligule) ลักษณะของใบรวมท้ังสีของใบแตกต่างกัน ไปแลว้ แตช่ นดิ ของพนั ธ์ุ บางพนั ธใ์ุ บสเี ขยี ว บางพนั ธ์ุ ใบสีม่วง และบางพันธุ์ใบลาย จ�ำนวนใบ กเ็ ช่นเดียวกนั อาจมีต้ังแต่ 8-48 ใบ ใบจะเป็นเสน้ ตรงปลายของมันแหลมยาวประมาณ 30-100 ซม. กวา้ งประมาณ 2-10 ซม. เสน้ กลางของใบจะเหน็ ได้ ชดั ตรงขอบใบจะมขี นออ่ นๆ สขี าว(สถาบนั วจิ ยั และ พัฒนาท่ีสูง, 2553) ล�ำตน้ ข้าวโพดมลี �ำตน้ แข็ง ไสแ้ นน่ ไม่กลวง มคี วามยาวต้งั แต่ 60 เซนตเิ มตร จนถงึ 6 เมตร แล้วแต่ชนดิ ของพนั ธ์ุ ขอ้ ของขา้ วโพด (node) นอกจากเปน็ ขอ้ ตอ่ ของปลอ้ ง (internode) แลว้ ยงั เปน็ ทเ่ี กดิ ของราก ล�ำตน้ ใหมแ่ ละฝกั อกี ดว้ ย ปลอ้ งทโ่ี คนตน้ จะสน้ั และหนาและยาวขน้ึ ไปทางดา้ นปลาย ปลอ้ งเหนอื พนื้ ดนิ จะมจี �ำนวน ประมาณ 8-20 ปล้อง เมื่อผา่ ล�ำตน้ ดูตามขวางจะเหน็ เปลอื กอยู่เปน็ วงรอบนอก (ส�ำนักงานพัฒนาการวิจยั การเกษตร, 2559) กระดาษเปลือกขา้ วโพดท�ำมอื การสรา้ งบรรจภุ ณั ฑ์เพือ่ สง่ิ แวดลอ้ ม
คณุ สมบัติของเสน้ ใยขา้ วโพด ตน้ และใบขา้ วโพด(ZeamaysL.) เปน็ วสั ดเุ หลอื ทง้ิ ทางการเกษตร ชนดิ หนง่ึ ที่มจี ำ� นวนมากและสามารถปลกู ทดแทนได้ มีราคาถูก และ เป็นแหล่งเช้ือเพลิงและแหล่งสารเคมีท่ีมีความยั่งยืนในอนาคต ได้มี การศึกษาเส้นใยที่ได้จากวัสดุเหลือทิ้งของข้าวโพดมาต้ังแต่ปี 1929 และใช้ประโยชน์สำ� หรบั เป็นวัสดทุ ำ� เยอ่ื กระดาษ (Cook, 1993) Reddy และ Yang (2005: หนา้ 2) ไดศ้ กึ ษาตน้ ขา้ วโพดว่าเป็นแหลง่ ของเส้นใย ที่มีศักยภาพ ซ่ึงค้นพบว่าเส้นใยเซลลูโลสธรรมชาติที่ได้มาจากต้น ข้าวโพดมีโครงสร้างและสมบัติเหมาะสมส�ำหรับใช้ในอุตสาหกรรม สง่ิ ทอและอตุ สาหกรรมอน่ื ๆ เสน้ ใยทไ่ี ดจ้ ากตน้ ขา้ วโพดประกอบดว้ ย เซลลเ์ ดยี่ วๆทยี่ ดึ เกาะกนั เปน็ กลมุ่ เซลล์ สภาวะการสกดั เสน้ ใยทร่ี นุ แรง จะกำ� จัดสารยดึ เกาะออกเกือบหมด ทำ� ใหไ้ ดใ้ ยเดยี่ วๆซง่ึ มีขนาดเล็ก เกินกว่าที่จะน�ำมาใช้ส�ำหรับการเป็นเส้นใยท่ีมีมูลค่าสูงได้ เส้นใย เดี่ยวๆจะมคี วามยาว 0.7-1.5 มิลลเิ มตร และเส้นผ่าศูนย์กลาง 15-35 ไมโครเมตร ซ่งึ เทยี บเคยี งไดก้ ับเสน้ ใยจากฟางขา้ วและฟางขา้ วสาลที ี่ ถูกแยกสกัดออกมาได้ เส้นใยประกอบด้วยเซลลูโลสร้อยละ 80 18 ลิกนินร้อยละ 8 และความช้ืนร้อยละ 8 ส่วนที่เหลือเป็นแร่ธาตุและ เพคติน ปัจจัยท่ีส�ำคัญท่ีสุดท่ีมีผลต่อสมบัติของเส้นใย เช่น ความเปน็ ผลกึ และรูปแบบของมุมไมโครไฟบริล (microfibrilar angle: MFA) ของเสน้ ใย โครงสร้างของเซลลูโลสแบบที่ I ที่สงั เกตพบมคี วาม เป็นผลกึ ร้อยละ 52 และ MFA ประมาณ 11° ซึง่ คา่ MFA จะนอ้ ยกวา่ ในฝ้ายที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20-30° โดยขึ้นอยู่กับความแก่และพันธุ์ ของฝา้ ย เนอ่ื งจากไฟบรลิ เรยี งตวั ขนานกบั แกนเสน้ ใยดมี ากจงึ มสี มบตั ิ ความคงทนต่อแรงดึงสูงมาก ท�ำให้เส้นใยมีความแข็งแรงมากแต่มี ความยืดตัวต่�ำ เส้นใยเดี่ยวที่แยกจากกลุ่มใยมีสมบัติทางกายภาพ คลา้ ยกบั ใยปอแกว้ และมคี วามสามารถในการดดู ซบั ความชนื้ ประมาณ 7.9% ซ่ึงเท่า ๆ กับฝ้ายแต่ต�่ำกว่าใยแฟลกซ์ (12%) และใยปอแก้ว (17%) ตามล�ำดับ ซึ่งเหมาะต่อการน�ำไปผสมและเข้าสู่กระบวนการ ผลิตร่วมกับเสน้ ใยสงิ่ ทออน่ื ๆ เพอ่ื ผลิตภณั ฑ์ตา่ งๆตามต้องการ กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มอื การสร้างบรรจุภณั ฑเ์ พ่อื สง่ิ แวดลอ้ ม
ถึงแม้ว่าสมบัติของเส้นใยจากต้นข้าวโพดจะมีการศึกษานาน หลายทศวรรษแลว้ แตก่ ารศกึ ษาทเ่ี ปน็ ระบบครง้ั แรกซง่ึ เปน็ การคน้ ควา้ เก่ียวข้องกับลักษณะสัณฐานของเซลล์และคุณภาพของเส้นใยในส่วน ตา่ งๆ ของต้นขา้ วโพด ด�ำเนินการโดย Li et al. (2012) เสน้ ใยเดย่ี วจะ ถกู เชอื่ มอยเู่ ปน็ กลมุ่ ดว้ ยลาเมลลาชน้ั กลางซง่ึ มคี วามเขม้ ขน้ ของลกิ นนิ สงู พบความแตกตา่ งอยา่ งชดั เจนในสณั ฐานของเซลลแ์ ละองคป์ ระกอบ ทางเคมรี ะหว่างส่วนของพืชที่แตกต่างกัน 4 สว่ น ได้แก่ เปลือกของ ล�ำตน้ (stalk rind) แก่นของล�ำต้น (stalk pith) สว่ นของแผน่ ใบ (leaf blade) และส่วนของกาบใบ (leaf sheath) พบวา่ เส้นใยจากแกน่ ของ ล�ำต้นจะสั้นและละเอียดกว่า และมีปริมาณเซลล์พืชพื้นฐานหรือ พาเรงคมิ า (parenchyma) และทอ่ ล�ำเลยี ง (vessel) สงู ทส่ี ดุ ในสว่ นนี้ ดงั นน้ั จึงไม่เหมาะในการน�ำไปท�ำกระดาษ ในขณะท่ีลักษณะสัณฐานของเส้นใยจากเปลือกของล�ำต้น ข้าวโพดมีความเหมาะสมในการใช้เป็นวัสดุส�ำหรับท�ำกระดาษ นอกจากนย้ี งั พบความแตกตา่ งในเรอื่ งปรมิ าณเฮมเิ ซลลโู ลสและลกิ นนิ ในสว่ นของเนอื้ เยอื่ สเคลอเรนไคมา(sclerenchymacel) ซงึ่ เปน็ เนอื้ เยอ่ื ท่ที �ำหนา้ ทีใ่ หค้ วามแขง็ แรงแกส่ ่วนตา่ งๆของพชื ในเปลอื กของล�ำตน้ จะมลี ิกนินมากกว่าในเนือ้ เยื่อส่วนอน่ื ๆ และสว่ นของเปลือกล�ำตน้ กม็ ี เฮมิเซลลโู ลสตำ�่ ท่ีสุด (Li et al. 2012 และ สถาบนั พฒั นาสิง่ ทอ, 2014) กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มอื การสร้างบรรจุภณั ฑ์เพ่ือสง่ิ แวดลอ้ ม
การใช้ประโยชนจ์ ากเศษวัสดเุ หลอื ใช้ ทางการเกษตรขา้ วโพด รปู ท่ี 3.7 เศษวสั ดุเหลอื ใช้ทางการเกษตรข้าวโพด ซงั ข้าวโพด เป็นเชอ้ื เพลงิ จุดไฟหรือใช้เผาเป็นถา่ น 20 1 2 รปู ท่ี 3.8 [1] ภาพซังข้าวโพด [2] ภาพการแปรรูปซังขา้ วโพดเป็นถา่ นเช้ือเพลิง เปลอื กขา้ วโพด ทำ� ดอกไมจ้ ันทน์ รปู ท่ี 3.9 [1] เปลือกขา้ วโพดแหง้ 1 2 กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มือ [2] ดอกไม้จนั ทน์จากเปลือกข้าวโพด การสร้างบรรจุภัณฑ์เพอ่ื สงิ่ แวดลอ้ ม
เปลอื กขา้ วโพด ทำ� ดอกไม้ รปู ที่ 3.10 เปลอื กขา้ วโพดตากแห้งย้อมสที �ำดอกไม้ กระดาษจากเปลือกข้าวโพด รปู ที่ 3.11 1 [2] กระดาษข้าวโพด 21 [1] เปลอื กข้าวโพด 2 จำ� หนา่ ยเปลอื กขา้ วโพดส�ำเรจ็ รปู 1 2 รูปท่ี 3.12 [1] เปลอื กขา้ วโพดย้อมสีรีดใหเ้ รียบ [2] เปลือกขา้ วโพดยอ้ มสีสำ� เรจ็ รปู กระดาษเปลือกขา้ วโพดทำ� มือ การสรา้ งบรรจุภณั ฑเ์ พ่ือสิ่งแวดล้อม
บทท่ี 4 : การผลติ กระดาษเปลอื ก ข้าวโพดทำ� มือ 22 ประโยชน์ท่เี กดิ จากกระดาษเปลอื กขา้ วโพดท�ำมือ 1. สามารถพฒั นาการผลติ กระดาษในประเทศไทย โดยสง่ เสรมิ การใชเ้ ศษวสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตร ให้คมุ้ คา่ โดยค�ำนงึ ถงึ ประโยชนด์ ้านสง่ิ แวดล้อมและสนบั สนุนการใชผ้ ลติ ภัณฑภ์ ายในประเทศ 2. เป็นการลดการเผาท�ำลายเศษวสั ดุเหลอื ใช้ทางการเกษตร ลดการเกดิ ปญั หามลพิษทางอากาศ 3. สามารถพัฒนาความรู้ทางวิชาการในเร่ืองของกระบวนการผลิตและปรับปรุงสมบัติของกระดาษ ขา้ วโพดท�ำมอื และเผยแพรส่ ชู่ ุมชนได้ 4. สามารถน�ำกระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมือทีพ่ ัฒนาแล้ว มาใช้ในอตุ สาหกรรม SMEs ได้ 5. สามารถเพ่มิ มลู ค่าผลติ ภณั ฑ์และลดตน้ ทนุ ของบรรจุภัณฑส์ �ำหรบั สินคา้ ไทย 6. แปลงขยะให้เป็นผลิตภณั ฑ์ เป็นการลดตน้ ทนุ การก�ำจัดขยะ 7. เปน็ แนวทางในการยกระดบั การผลติ กระดาษในรปู ของหตั ถกรรมในครวั เรอื นไปสกู่ ารผลติ กระดาษ ในภาคอตุ สาหกรรมต่อไป 8. เป็นการสร้างรายไดใ้ หก้ ับเกษตรกร กระดาษเปลอื กข้าวโพดทำ� มือ การสรา้ งบรรจุภณั ฑเ์ พอ่ื ส่งิ แวดลอ้ ม
วสั ดอุ ปุ กรณส์ �ำหรบั การท�ำกระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมือ 23 อปุ กรณ์การท�ำกระดาษขา้ วโพดท�ำมอื 1. เปลอื กขา้ วโพดแชน่ ้�ำ 7 ขดี 2. โซดาไฟ (โซเดียมไฮดรอกไซด์ NaOH) 200 กรมั 3. สารฟอกขาว(สารโซเดยี มไฮโดรซลั ไฟตSodiumHydrosulfite) 250 กรัม 4. น้ำ� เปลา่ ประมาณ 6 ลติ ร 5. ปีบ 1 ปีบ หรือหมอ้ ส�ำหรับใช้ตม้ 6. ไมส้ �ำหรับใชค้ น 1 อนั 7. ไมส้ �ำหรับทบุ เยอื่ หรือคอ้ นอันเลก็ 8. อา่ ง หรอื กะละมงั ขนาดใหญ่ 1 อนั 9. กะละมงั 2 อัน 10. ผา้ ขาวบาง 1 ผนื 11. ตราช่ัง 1 อัน 12. ถ้วยตวง 1 อนั 13. เฟรมส�ำหรับชอ้ นเยอ่ื ข้าวโพด 1-2 อัน (ขนาดของเฟรมขน้ึ อยกู่ บั อา่ ง หรอื กะละมงั ขนาดใหญท่ เ่ี ฟรมสามารถตกั ชอ้ นเยอ่ื กระดาษ ไดจ้ ากอา่ ง) อุปกรณ์การทำ� เฟรมตาข่าย 1. ไมจ้ ๊อย หรือไมท้ ่วั ไปที่หาได้ 2. มุง้ ตาขา่ ย 1 มว้ น 3. ตะปู 4. ค้อน กระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมอื การสรา้ งบรรจุภัณฑ์เพื่อสง่ิ แวดลอ้ ม
รปู ที่ 4.1 การเตรยี มไม้ท�ำกรอบเฟรมตาขา่ ย หลกั การและกระบวนการผลติ รปู ที่ 4.2 การเตรียมมุ้งตาข่ายท�ำเฟรมตาข่าย กระดาษเปลอื กขา้ วโพดดว้ ยมอื ขั้นตอนการท�ำเฟรมตาข่าย 1. เตรียมอุปกรณท์ ่ใี ช้ส�ำหรับท�ำเฟรมตาข่าย (ในที่นี้แสดงตัวอย่างการท�ำจากมุ้งตาข่ายและใช้ ไมไ้ ผเ่ ปน็ โครง) 2. ตดั ไมไ้ ผ่ให้ไดค้ วามยาวท่ีต้องการ (ขนาด A2 หรอื ประมาณ 42 x 59.4 ซม.) จากน้ันน�ำไม้ไผ่ท่ี ได้มาผา่ ครงึ่ เพื่อใช้ท�ำกรอบเฟรมตาข่าย 3. ตัดมงุ้ ตาขา่ ยใหไ้ ด้ขนาดตามขนาดไม้ไผ่ท่ี ท�ำไว้ 4. น�ำไมไ้ ผม่ าวางประกบกบั มงุ้ ตาขา่ ย จบั มมุ ตาข่ายแต่ละด้านให้ตึงจากน้ันจึงใช้ค้อนตอกตะปู เพ่อื ยดึ ตวั ไม้ไผ่และตาข่ายเข้าไว้ดว้ ยกนั รูปที่ 4.3 วิธีประกอบเฟรมตาขา่ ยไมไ้ ผ่ กระดาษเปลอื กขา้ วโพดทำ� มอื การสรา้ งบรรจภุ ณั ฑ์เพอ่ื สงิ่ แวดล้อม
รปู ท่ี 4.4 เปลือกข้าวโพดแหง้ ท่ีเตรียมไว้ รปู ท่ี 4.6 ล้างเปลือกข้าวโพดเพอ่ื ทำ� ความสะอาด 25 ข้ันตอนการท�ำกระดาษเปลอื กขา้ วโพด 3. ล้างเปลือกข้าวโพดเพ่ือไม่ให้มีเศษก่ิงไม้ 1. เตรยี มเปลอื กขา้ วโพดทเี่ หลอื ใชต้ ามจ�ำนวน หรือหญ้าติด จากน้ันให้แยกเอาเฉพาะเปลือก ที่ต้องการ (ส่วนของข้าวโพดที่น�ำมาใช้ จะใช้ส่วน ขา้ วโพดออกใส่ในถงั ที่สะอาด เปลือกของฝักข้าวโพดและส่วนเปลือกของล�ำต้น ขา้ วโพดกไ็ ด้ เนอ่ื งจากในเปลอื กของล�ำตน้ จะมลี กิ นนิ รปู ท่ี 4.7 เตรยี มอปุ กรณแ์ ละวตั ถดุ บิ ในการตม้ เปลอื กขา้ วโพด มากกวา่ ในเนอื้ เยอื่ สว่ นอนื่ ๆ และมเี ฮมเิ ซลลโู ลสตำ่� ทส่ี ุด ซ่ึงท�ำใหเ้ สน้ ใยจากเปลอื กของล�ำต้นขา้ วโพด 4. เตรียมจุดไฟส�ำหรับต้มน้�ำ เติมน�้ำเปล่า มีความเหมาะสมในการใช้เป็นวัสดุส�ำหรับท�ำ ประมาณ 6 ลติ รในปี๊บ รอจนน�้ำเดอื ด กระดาษ Li et al. 2012) รปู ท่ี 4.5 เปลือกข้าวโพดแชน่ �้ำ รปู ที่ 4.8 เตรยี มเปลอื กขา้ วโพดเพอ่ื จะนำ� ไปตม้ 2. น�ำขา้ วโพดท่เี ตรยี มไว้ไปแชใ่ นน�้ำประมาณ 5. ชง่ั เปลือกขา้ วโพดทแี่ ช่น�้ำแล้ว 7 ขีดใสล่ ง 1 คืน เพอ่ื ใหส้ ่วนของเปลอื กข้าวโพดออ่ นตัวลง ไปในปี๊บ กระดาษเปลอื กขา้ วโพดทำ� มอื การสร้างบรรจุภณั ฑ์เพอื่ สิง่ แวดลอ้ ม
รูปท่ี 4.9 การต้มเปลือกข้าวโพดเพ่อื ใหก้ ลายเปน็ เนื้อเยื่อ ส�ำหรับท�ำกระดาษ 6. ละลายโซดาไฟ 200 กรัม ลงในป๊บี เพอื่ ให้ รูปท่ี 4.12 การฟอกสเี น้ือเยือ่ เพื่อใหก้ ระดาษมสี ขี าวขน้ึ เปลอื กขา้ วโพดละลายจนเหลอื แตเ่ นอื้ เยอื่ คนใหเ้ ขา้ กันตัง้ ไฟต้มคร่งึ ชว่ั โมง กวนเป็นระยะๆ จนเปลอื ก 9. การฟอกสี ( Bleaching ) น�ำเนือ้ เยอ่ื ทที่ บุ จน ขา้ วโพดย่อยเป็นเนือ้ เยือ้ ละเอยี ดแลว้ มาเติมนำ�้ ละใส่สารฟอกขาว 250 กรัม เพอ่ื ก�ำจดั ลกิ นนิ ที่ อยใู่ นเยอ่ื กระดาษ ท�ำใหก้ ระดาษ มสี ีขาวขนึ้ ซง่ึ การฟอกสีจะท�ำใหค้ วามแข็งแรงของ เยือ่ กระดาษลดลงดว้ ย สารเคมฟี อกสเี ชน่ คลอรีน (Chlorine) ไฮโซคลอไรต์ (Hypochlorite) โฮโดรเจน เปอรอ์ อกไซด์ (Hydrogen Peroxide) เป็นต้น 26 รูปที่ 4.10 ลา้ งเยอื่ ด้วยน�้ำเปล่าจากการตม้ 7. เตรยี มกะละมงั ใส่นำ้� เปลา่ 2 อนั ตกั เยือ่ ขา้ วโพดออกใสใ่ นกะละมงั ทม่ี นี ำ�้ ลา้ งดว้ ยนำ้� จนหาย ล่ืน ตักเยอื่ ใสผ่ า้ ขาวบางบีบน�้ำออกให้หมาด รูปท่ี 4.13 การขึ้นแผน่ กระดาษ 10. การขึ้นแผ่นกระดาษ น�ำเย่ือท่ีผ่านการ ฟอกสีหรือฟอกขาว เทเย่ือท่ีสกัดออกมาได้ลงใน กะละมังขนาดใหญ่ตีเยื่อกับน�้ำเย่ือจะแขวนลอยอยู่ รูปท่ี 4.11 การทบุ เย่ือเพื่อใหเ้ ยอ่ื มคี วามละเอยี ด ในนำ�้ จากนน้ั น�ำเฟรมตาขา่ ยตกั ชอ้ นเยอ่ื ใหท้ วั่ เฟรม 8.น�ำไปทุบเพ่ือให้เส้นใยเปลือกข้าวโพดแยก ตาขา่ ยจนได้ขนาดความหนา–บาง ตามทต่ี อ้ งการ ตัวออกจากกนั มากขึน้ กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มือ การสร้างบรรจภุ ัณฑ์เพื่อสิง่ แวดล้อม
รปู ท่ี 4.14 ตกแต่งกระดาษดว้ ยกลบี ดอกไม้ ใบไผ่ 11. การตกแต่งกระดาษ สามารถตกแต่งดว้ ย 13. เมอื่ กระดาษแหง้ คอ่ ยๆลอกแผน่ กระดาษ 27 กลีบดอกไม้หรือวัสดุต่างๆตามธรรมชาติเพ่ือความ ข้าวเปลือกโพดออกจากเฟรมตาข่าย จะได้แผ่น สวยงามเชน่ ดอกไม้ ใบไม้ กระดาษที่น�ำไปใช้ท�ำบรรจุภณั ฑ์ตา่ งๆได้ รปู ท่ี 4.15 ตากกระดาษเพื่อรดี นำ�้ ออกเมือ่ กระดาษแห้ง 12. น�ำกระดาษท่ไี ดไ้ ปตากแดดเพ่อื รีดเอานำ�้ ออก โดยน�ำไปตากแดดประมาณคร่ึงวัน หรือจน กระดาษแหง้ สนิท รปู ที่ 4.16 กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มือ หมายเหตุ : 1. ลักษณะหนาบางของกระดาษ ขนึ้ อย่กู ับการตักช้อนเย่อื ขา้ วโพดก่อนนำ� ไปตาก 2. ผวิ สัมผสั ของและลวดลายของกระดาษข้ึนอยูก่ บั ระยะเวลาการต้มและการทบุ เย่ือ กระดาษเปลอื กขา้ วโพดท�ำมอื การสร้างบรรจุภณั ฑเ์ พ่อื สิง่ แวดล้อม
ข้อควรค�ำนงึ เกยี่ วกบั กระดาษเปลอื กขา้ วโพด ส�ำหรบั การสรา้ งบรรจุภัณฑ์ ในปัจจุบันกระดาษท�ำมือจากเปลือกข้าวโพดท่ีผลิตขึ้นยังมีข้อ ควรค�ำนึงอยู่ในเรอื่ งเนอื้ กระดาษ อันเกิดจากเปลอื กท่ไี มส่ มํา่ เสมอกนั การผลติ กระดาษใชว้ ธิ ตี เี นอื้ เยอื่ เผอื่ ท�ำทลี ะแผน่ โดยไมไ่ ดใ้ ชเ้ ครอื่ งจกั ร โดยอาจเกิดการตีเนื้อเย่ือไม่ละเอียดเพียงพอ เม่ือนํามาทํากระดาษ จะทาํ ใหแ้ ผน่ กระดาษเกดิ ปมุ่ ปมกระจายอยใู่ นเนอื้ กระดาษจาํ นวนมาก ท�ำให้ความหนาของกระดาษไม่เท่ากัน จึงเกิดการฉีกขาดได้ง่ายใน บริเวณทเี่ นือ้ กระดาษบาง ทั้งนี้ส�ำหรับการทดสอบกระดาษเปลือกข้าวโพดโดยไม่ใช้ อุปกรณ์ทดสอบทางอุตสาหกรรม สามารถทดสอบความเหนียวและ การดูดซบั นำ้� มีวธิ กี ารดงั น้ี การทดสอบความเหนียวและการดูดซับนำ้� : การดดู ซึมน�ำ้ (water absorption) หมายถึง ปริมาณของน�้ำเป็นกรัมท่กี ระดาษซึง่ มี พน้ื ท่ี 1 ตารางเมตร สามารถดดู ซมึ นำ้� ไดภ้ ายในเวลาทก่ี �ำหนด (โสรญา ส้มเขียวหวาน, 2557) โดยการสังเกตขณะทุบเย่ือข้าวโพดและหลัง 28 จากการตากกระดาษใหแ้ หง้ ซงึ่ ตอ้ งเกบ็ กระดาษทดสอบไวใ้ นอณุ หภมู ิ 27±1 องศาเซลเซียส เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 24 ช่ัวโมงก่อนทดสอบ จากนั้นทดสอบโดยการฉีกกระดาษด้วยมือ พบว่า กระดาษเปลือก ขา้ วโพดทบุ เยอ่ื ละเอยี ดจะมคี วามเหนยี วทสี่ ดุ แตจ่ ะไมค่ อ่ ยมลี วดลาย ของเสน้ ใยขา้ วโพดบนกระดาษ ลกั ษณะการดดู ซบั นำ�้ ไดด้ ที สี่ ดุ การดดู ซบั น้�ำอยู่ในลักษณะกระจายตวั ซ่งึ สามารถใชท้ �ำถุงบรรจุภณั ฑท์ ่ใี ชใ้ ส่ ของรับน้�ำหนักได้พอสมคาร (รูปท่ี 4.1-4.3) ส�ำหรับกระดาษเปลือก ขา้ วโพดทบุ เยอื่ ไม่ละเอียดน้ันพบวา่ ไมม่ คี วามเหนียวของเน้อื กระดาษ แต่มลี ายลายของเส้นใยขา้ วโพดบนกระดาษ ลักษณะการดูดซบั น้ำ� ไม่ ซมึ ตอ้ งทงิ้ ระยะไวน้ านจงึ จะดดู ซบั นำ�้ ดงั นนั้ กระดาษเปลอื กขา้ วโพด ทุบเยื่อไม่ละเอียดไม่สามารถท�ำถุงบรรจุภัณฑ์ได้ แต่สามารถน�ำไป ตกแต่งห่อกลอ่ งบรรจุภัณฑ์อน่ื ๆทไ่ี มต่ อ้ งนำ้� หนกั หนกั สนิ ค้าได้ กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มอื การสร้างบรรจุภณั ฑเ์ พ่อื สง่ิ แวดลอ้ ม
12 3 รปู ที่ 4.17 [1] เนอ้ื ข้าวโพดทบุ เย่อื [2] ตากกระดาษเย่อื ทุบละเอียด [3] กระดาษเยอ่ื ละเอียด ละเอียด 29 12 3 รูปที่ 4.17 [1] เน้อื ข้าวโพดทบุ เย่อื [2] ตากกระดาษเยอื่ ทบุ ละเอยี ด [3] กระดาษเยอ่ื ละเอียด ละเอียด รูปที่ 4.19 ภาพเปรียบเทยี บกระดาษขา้ วโพด ซ้าย:กระดาษเยอ่ื ป่ันละเอยี ด ขวา:กระดาษเย่อื ป่นั ไม่ ละเอียด กระดาษเปลอื กขา้ วโพดทำ� มอื การสรา้ งบรรจภุ ณั ฑเ์ พือ่ สง่ิ แวดลอ้ ม
บทที่ 5 : การแปรรูปกระดาษ เปลือกขา้ วโพดทำ� มอื สำ� หรบั การสร้าง บรรจภุ ณั ฑ์ กระดาษเปลอื กข้าวโพดทำ� มือ การสร้างบรรจุภัณฑ์เพอ่ื สิ่งแวดล้อม
ขั้นตอนการสร้างบรรจภุ ณั ฑจ์ ากกระดาษ เปลอื กข้าวโพดทำ� มือ 1. เตรียมอุปกรณ์ส�ำหรับการสร้างบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ กระดาษเปลือกข้าวโพด, กระดาษแขง็ , ไมบ้ รรทดั , ดินสอหรอื ปากกา, กรรไกร, คทั เตอร,์ กาวน�้ำ กาวลาเทก็ ซ์ และ แผ่นรองตัด 31 2. เตรียมรูปแบบแพทเทิร์นกลอ่ ง (Pattern) รูปแบบต่างๆ ตามท่ีต้องการ ท�ำการ วาดทบั ลงไปบนกระดาษแขง็ ตามแบบ จากนนั้ ใชก้ รรไกรหรอื คทั เตอรต์ ดั ใหเ้ ปน็ รปู รา่ งตาม ทไี่ ด้วาดไว้ กระดาษเปลอื กข้าวโพดทำ� มอื การสรา้ งบรรจุภณั ฑเ์ พ่อื สง่ิ แวดลอ้ ม
3. เมอื่ ได้แพทเทริ น์ กล่องแบบตา่ งๆ ท่ตี ดั ด้วยกระดาษแขง็ เรยี บรอ้ ยแล้ว น�ำมาทา กาวตดิ ลงไปบนกระดาษเปลอื กขา้ วโพดท่ีได้เตรยี มไว้ รอให้แห้ง 4. ท�ำการพับข้ึนรูปตามรอยจนครบทุกด้านตามแบบ ทากาวติดขอบ เก็บความ เรยี บรอ้ ยของชนิ้ งานให้เรยี บร้อย 32 กระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมอื การสรา้ งบรรจุภัณฑ์เพ่อื ส่ิงแวดลอ้ ม
5. ได้บรรจุภัณฑจ์ ากกระดาษเปลอื กขา้ วโพดตามแบบทต่ี ้องการ 6. ตกแตง่ ให้สวยงามดว้ ยดอกไม้เปลอื กข้าวโพด หรือรบิ บ้ิน 33 กระดาษเปลอื กขา้ วโพดท�ำมอื การสรา้ งบรรจุภัณฑ์เพือ่ สิ่งแวดลอ้ ม
แนวทางการพฒั นาคุณภาพ ของผวิ กระดาษเปลอื กขา้ วโพดกอ่ นการสรา้ งบรรจภุ ณั ฑ์ 1.1 การผลติ ภัณฑก์ ระดาษเปลือกขา้ วโพดดว้ ยมืออาจมีปมุ่ ปม อยู่บ้างซึ่งจะไม่เรียบเหมือนกระดาษที่ผลิตจากโรงงาน แต่สามารถ พฒั นาให้เทยี บเทา่ กับกระดาษทผ่ี ลิตจากธรรมชาตทิ ่วั ไปได้ 1.2 กระดาษเปลือกข้าวโพดด้วยมือมีความสวยงามของความ เปน็ ธรรมชาตอิ ยู่ ซง่ึ มลี กั ษณะพน้ื ผวิ และลวดลายทใ่ี หส้ มั ผสั ของเสน้ ใย จงึ เหมาะกบั การน�ำไปท�ำบรรจุภณั ฑ์ท่ีตอ้ งการผิวสมั ผัสของธรรมชาติ สีสนั ธรรมชาติ 1.3 การท�ำกระดาษเปลือกข้าวโพดสามารถแต่งเติมสีสัน โดย ใช้สีผสมอาหารและ อาจเพ่ิมในส่วนของดอกไม้หรือวัสดุอื่นๆ เพื่อ กระดาษจะได้เพ่ิมมลู คา่ ของตวั ผลติ ภณั ฑน์ ัน้ ได้ [รูปที่ 6.1] รูปที่ 5.7 การตกแต่งกระดาษข้าวโพดด้วยกลบี ดอกไม้ รูปที่ 5.7 การตกแตง่ กระดาษขา้ วโพดด้วยกลีบดอกไม้
35 มุ่งเน้น การอนรุ ักษ์ ธรรมชาติ หลกี เลี่ยง การท�ำลาย สิง่ แวดล้อม กระดาษเปลือกข้าวโพดท�ำมอื การสรา้ งบรรจภุ ัณฑเ์ พอื่ สงิ่ แวดล้อม
เอกสารอา้ งองิ กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรักษพ์ ลังงาน. (2555). พลังงานชวี มวล. กรงุ เทพฯ :ส�ำนักถา่ ยทอดและ เผยแพร่ เทคโนโลยี กรมพฒั นาพลังงานทดแทนและอนรุ ักษ์พลงั งาน นิคม เพชรผุด. (2521). ค่มู อื ปฏิบัตกิ ารวชิ าเทคโนโลยที างเยอื่ กระดาษและกระดาษ. ภาควชิ าวนผลติ ภณั ฑ คณะวนศาสตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร, กรุงเทพฯ. วชิ ยั หฤทัยธนาสนั ต์,ิ วิขัณฑอรรณพานรุ ักษ, วทิ ยา ปน สวุ รรณ, วุฒนิ นั ทคงทัด, วารณุ ีธนะแพสย, ปรศิ นา สริ ิอาชา, บศุ รินทร คงเสรีและวราภรณ อภวิ ัฒนาภิวัต. (2545). การปรบั ปรงุ กระบวนการ ผลติ เยื่อและกระดาษจากปอสา. กรุงเทพฯ: สถาบันคน ควาและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร และอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร. วุฒนิ ันท คงทัด. (2545). กระดาษทาํ ดวยมอื . เอกสารประกอบการฝกอบรม สถาบันคน ควาและพัฒนา ผลติ ผลทาง การเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร, กรุงเทพฯ. ส�ำนกั งานพฒั นาการวิจยั การเกษตร. (2559). ขา้ วโพด. (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงจาก http://www.arda.or.th/kasetinfo/north/plant/fcorn.html. เข้าถงึ เมอื่ 17 กุมภาพันธ์ 2561. ส�ำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ.์ (2560). สถติ กิ ารเกษตรของประเทศไทย ปี2559. กรุงเทพฯ: ศูนย์สารสนเทศการเกษตร. 36 สถาบันวจิ ยั และพฒั นาท่สี ูง. (2553). Maize - Indian Corn, Maize. (ออนไลน)์ . เขา้ ถึงจาก https://eherb.hrdi.or.th/search_result_details.php?herbariumID=505&name=- %20Maize%20-%20Indian%20Corn,%20Maize%20[1]. เขา้ ถึงเม่ือ 15 กุมภาพนั ธ์ 2561. สถาบนั พฒั นาอตุ สาหกรรมสงิ่ ทอ. (2014). เสน้ ใยจากล�ำตน้ และใบขา้ วโพด (Corn stover). (ออนไลน)์ . เขา้ ถงึ จาก http://www.thaitextile.org/index.php/blog/2016/08/59plant10.1 เขา้ ถงึ เม่ือ 20 กุมภาพนั ธ์ 2561. Cook, J.G. (1993). Handbook of Textile Fibres, Natural Fibres: Merrow Publishing. Eastmeetswesttravel. (2016). North and South tour. (ออนไลน์) เขา้ ถงึ จาก http://www.eastmeetswesttravel.com/tour_detail.php?code=CNX016. เขา้ ถึงเมื่อ 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2561. Li Z.Y., Zhai H.M. Zhang Y. and Yu L . (2012). Cel morphology and chemical characteristics of corn stover fractions. Industrial. Crops and Products, 37(1): 130-136. Reddy N. and Yang Y. (2005). Biofibers from agricultural byproducts for industrial applications. Trends in Biotechnology, 23(1): 22-27. กระดาษเปลอื กขา้ วโพดทำ� มอื การสรา้ งบรรจภุ ัณฑ์เพอื่ สิ่งแวดล้อม
Tonpao-saapaper. (2012). ขนั้ ตอนการท�ำกระดาษสา. (ออนไลน)์ เข้าถึงจาก http://tonpao-saapaper. blogspot.com/2012/10/4-1.html. เขา้ ถงึ เมอ่ื 26 กุมภาพนั ธ์ 2561. Weigle, P. (1978). Natural plant dyeing. In F.Mc Gourty (ed.) Natural plant Dyeing : A Handbook. New York; Brooklyn. 37 กระดาษเปลอื กข้าวโพดท�ำมือ การสร้างบรรจุภัณฑ์เพอ่ื สงิ่ แวดล้อม
ประวตั ิผเู้ ขยี นบทความ ชื่อ - นามสกุล : นางสาวภทั ราวดี ธงงาม Miss. Pataravadee Tongngam ตำ� แหน่งปัจจุบนั : อาจารย ์ สาขาสถาปัตยกรรม หน่วยงาน : สาขาสถาปัตยกรรม หลักสูตรสถาปตั ยกรรมภายใน คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา การศกึ ษา : ปรญิ ญาโท สาขา MA Design (Interior Design) เกยี รตินยิ มอันดบั 1 Northumbrai University ประเทศองั กฤษ ช่ือ - นามสกุล : นางสาวปยิ ะนชุ เจดยี ย์ อด Miss. Piyanooch Jedeeyod ตำ� แหน่งปจั จบุ นั : อาจารย์ สาขาการออกแบบ 38 หน่วยงาน : สาขาวชิ าออกแบบอตุ สาหกรรม หลักสูตรออกแบบอุตสาหกรรม คณะศิลปกรรมและสถาปตั ยกรรมศาสตร ์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา การศึกษา : ปรญิ ญาโท สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑติ สถ.ม. (สถาปัตยกรรมภายใน) ชอ่ื - นาม สกลุ สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกล้าเจา้ คุณทหารลาดกระบัง : นายวันชัยยทุ ธ วงษเ์ ทพ Mr. Wanchaiyut Vongthep ต�ำแหน่งปจั จบุ นั : :อาจารย์ สาขาสถาปัตยกรรม หน่วยงาน : สาขาสถาปัตยกรรม หลกั สูตรสถาปัตยกรรมภายใน คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร ์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา การศึกษา : ปริญญาโท สาขาวชิ าการออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป ์ กระดาษเปลือกข้าวโพดทำ� มือ การสรา้ งบรรจุภณั ฑ์เพ่ือสง่ิ แวดลอ้ ม
กองบรรณาธิการ 39 กระดาษเปลอื กขา้ วโพดท�ำมอื การสร้างบรรจุภณั ฑเ์ พือ่ สิง่ แวดล้อม IISSBBNN :: 997788--997744--662255--880087--41 (E-Book) ท่ปี รึกษา ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยป์ ระพัฒน์ เช้อื ไทย ดร.ภาสวรรธน์ วัชรด�ำรงศักด์ิ ผ้เู ขยี น นางสาวภทั ราวดี ธงงาม นางสาวปยิ ะนชุ เจดยี ย์ อด นายวนั ชยั ยุทธ วงษ์เทพ กองบรรณาธกิ าร นายภฤศพงศ ์ เพชรบุล ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ยุทธนา เขาสุเมรุ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์เกรยี งไกร ธารพรศร ี นายนริศ ก�ำแพงแกว้ ว่าที่ ร.ต.รัชต์พงษ์ หอชยั รตั น์ นายพษิ ณุ พรมพราย นางสาวทนิ อ่อนนวล นางสาวรัตนาภรณ ์ สารภี นายเจษฎา สภุ าพรเหมนิ ทร์ นางสาวสธุ าสนิ ี ผูอ้ ยู่สุข นางสาวฉตั วณัฐ มโนพฤกษ์ นางสาวหน่ึงฤทัย แสงใส นางสาววราภรณ์ ต้นใส นายวรี วทิ ย์ ณ วรรณมา จดั ท�ำโดย สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยีสู่ชมุ ชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา 98 หมู่ 8 ต�ำบลป่าปอ้ ง อ�ำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ 50220 พมิ พท์ ี่ เอม็ ดี ดี กรุป๊ 28/3 หมู่ 10 ต�ำบลป่าไผ่ อ�ำเภอสันทราย จงั หวัดเชียงใหม่ 50210 โทร.09-92261953, 099-2391771 กระดาษเปลือกข้าวโพดท�ำมือ การสรา้ งบรรจภุ ณั ฑเ์ พอ่ื สิง่ แวดล้อม
Search
Read the Text Version
- 1 - 42
Pages: