วตั ถุประสงค์ บทบรรณาธกิ าร 1. เพ่ือเผยแพร่ข้อมลู ข่าวสารและผลงานวิจยั และงาน เผลอแปปเดียว…วารสารแก้วปัญญา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช บริการวชิ าการของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล มงคลลา้ นนา กก็ า้ วเขา้ สปู่ ที ี่ 6 ฉบบั ที่ 2 ของปี พ.ศ.2562 กนั แลว้ นะครบั วารสาร ล้านนา แกว้ ปญั ญาฉบบั นี้ ถอื ไดว้ า่ เปน็ ฉบบั พเิ ศษทท่ี างกองบรรณาธกิ ารอยากใหผ้ อู้ า่ น 2. เพ่อื เป็นสอ่ื กลางในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ และการเข้า ได้รับทราบถึงงานบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ถงึ องคค์ วามรู้ของภาคประชาชน ลา้ นนา ในรปู แบบใหมท่ เี่ กดิ ขน้ึ ซงึ่ เปน็ การน�ำ เสนอแนวทางการบรกิ ารวชิ าการ แก่ชุมชน โดยการให้คณาจารย์ และบุคลากรมหาวิทยาลัย ทำ�การรวบรวม กองบรรณาธิการ องค์ความรู้ทางวิชาการจากงานวิจัย หรือจากการเรียนการสอน ที่ดำ�เนินการ อยใู่ นดา้ นทต่ี วั เองและคณะท�ำ งานถนดั มาท�ำ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ จนไดซ้ ง่ึ นายภฤศพงศ ์ เพชรบลุ องค์ความรู้ที่ง่าย ที่สามารถนำ�ไปถ่ายทอดให้แก่บุคลากรในชุมชน สังคม ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ยทุ ธนา เขาสเุ มรุ ในรูปแบบทสี่ ามารถเข้าใจไดง้ ่ายขึ้น ดว้ ยการอบรมเชิงปฏิบตั ิการ ภายใต้ชื่อว่า ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์เกรยี งไกร ธารพรศรี “โครงการผลกั ดนั งานวจิ ยั สูก่ ารใช้ประโยชน์” นายนริศ กำ�แพงแก้ว วารสารแก้วปัญญาเล่มน้ี จึงนำ�ข้อมูลการบริการวิชาการภายใต้ ว่าทร่ี ้อยตรีรัชพงษ ์ หอชยั รตั น์ โครงการดงั กล่าว มาเล่าผา่ นข้อมูลและภาพการท�ำ งาน แกผ่ ู้อ่านใหไ้ ด้รบั ร้แู ละ ว่าที่รอ้ ยตรเี กรียงไกร ศรีประเสรฐิ เห็นภาพของความตั้งใจของมหาวิทยาลัย ต่อการบริการวิชาการ ที่พยายาม นายพษิ ณุ พรมพราย จะผลกั ดนั ใหเ้ กดิ การน�ำ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากงานตา่ งๆ ของบคุ ลากรในมหาวทิ ยาลยั นางสาวทิน ออ่ นนวล มาท�ำ การถา่ ยทอดความรกู้ ลบั คนื แกช่ มุ ชน สงั คม ซง่ึ คาดหวงั วา่ จะเปน็ การน�ำ พา นางสาวอารีรตั น์ พิมพน์ วน ซง่ึ โอกาสในการสรา้ งความรู้ สกู่ ารสรา้ งรายได้ ใหค้ นในชมุ ชน สงั คม มคี ณุ ภาพ นางสาวรตั นาภรณ์ สารภี ชีวติ ทดี่ ีขึ้นตอ่ ไป นายเจษฎา สุภาพรเหมินทร์ และนอกจากนี้ ผู้อ่านยังจะได้พบกับ รองศาสตราจารย์ ดร.อภิรักษ์ นางสาวสธุ าสินี ผอู้ ยูส่ ุข เพียรมงคล ในคอลมั น์ เปิดมมุ มอง ซงึ่ ทา่ นเปน็ ผูท้ รงคุณวฒุ ิทท่ี �ำ งานรว่ มกับ นางสาวฉัตวณัฐ มโนพฤกษ์ มทร.ล้านนา มานานหลายปี ภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของ นางสาวหน่ึงฤทัย แสงใส หมู่บ้าน ชุมชนแบบมีส่วนร่วม ที่ได้สละเวลามาเล่าและให้ข้อคิดเกี่ยวกับงาน นางสาวเสาวลักษณ ์ จันทร์พรหม บริการวิชาการ เพ่ือหวังว่าจะเป็นประโยชน์สำ�หรับผู้อ่านเพื่อการพัฒนางาน นางสาววราภรณ ์ ตน้ ใส บริการวิชาการของมหาวิทยาลัย สู่การพัฒนาชุมชน ให้เกิดความยั่งยืน ซึ่ง นายวีรวทิ ย ์ ณ วรรณมา กองบรรณาธิการหวังว่า วารสารแก้วปัญญาเล่มน้ี จะเป็นประโยขน์ต่อผู้อ่าน อย่างเช่นเคย ทั้งนี้เพื่อให้การบริการวิชาการของมหาวิทยาลัย เป็นส่วนหนึ่ง จัดทำ�โดย ของการกระตุ้น ให้เกิดการยกระดับความรู้ คลงั ความรชู้ มุ ชน สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ่ชู ุมชน ทางวิชาการแก่ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ชุมชน สังคม ประเทศชาติ ให้เกิดการ 98 หมู8่ ตำ�บลปา่ ปอ้ ง อำ�เภอดอยสะเก็ด พัฒนายิ่งขึ้นต่อๆ ไปแล้วพบกันใหม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ 50220 โทร. 053-266516-8 ในฉบบั หน้า ข้อเขียนหรอื บทความใด ๆ ที่ตพี มิ พเ์ ผยแพรใ่ นวารสารแกว้ กองบรรณาธกิ าร ปญั ญาฉบับนี้ เปน็ ความคิดเห็นเฉพาะตวั ของผู้เขยี น คณะผูจ้ ดั ท�ำ ไมจ่ �ำ เปน็ ต้องเห็นดว้ ยและไม่มขี ้อผูกพนั กบั คณะผจู้ ดั ทำ�และ สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราช มงคลลา้ นนา แต่อย่างใด
คอลัมน์ เปด มุมมอง………………4 4 บทสัมภาษณ์ รศ.ดร.อภิรกั ษ์ เพยี รมงคล รจู้ กั กับผ้ทู รงคุณวุฒิ บรก� ารวช� าการ……………8 เร่ืองท่ี 1 : เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์อินทรีย์ ด้วยการ 12 22 ปรบั ปรงุ ดนิ ฮิวมัสและการจดั ทำาบัญชี เรือ่ งท่ี 2 : นกั จัดการขยะ 26 เรอื่ งท่ี 3 : เทคนคิ การจดั กจิ กรรมภาษาองั กฤษ แบบ Active Learning เรอื่ งท่ี 4 : เพ่ิมประสิทธภิ าพการจัดการผลติ มะม่วง คุณภาพมาตรฐานปลอดภัย เรื่องท่ี 5 : กระเบ้ืองว่าว เร่ืองท่ี 6 : การทำาเครื่องหอมไทยโบราณ ชุมชน หมู่บ้านนาำ้ โจน ค่คู ดิ มิตรชมุ ชน………….30 ปญหา ถาม-ตอบ : สรุปข้อปญั หา และแนวทางการแกไ้ ขโดยผเู้ ชยี่ วชาญ ของมนั ต้องแชร… ……….34 30 รอบร้วั มทร.ลา้ นนา………7, 11, 15, 21, 33, 38
เปดิ มุมมอง รเรจู้ พกั ศกบั ผ�ย้ทู.รดงรคณุ รมวฒุ .ิ งอคภลริ กั ษ สวัสดคี รับ ผม รองศาสตราจารย์ ดร.อภริ ักษ ์ เพย� รมงคล ตอนนเี้ ป็นข้าราชการเกษียณ จากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ผมเรยี นมาทางด้านวศิ วกรรมแปรรูปอาหาร เก่ยี วกบั กระบวนการแปรรูปอาหาร และงานท่ผี มถนดั จรงิ ๆ ก็คอื งานใหค้ าำ ปรกึ ษาแก่ผ้ปู ระกอบการภาคอุตสาหกรรม ผมไดร้ บั โอกาสจากทางมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เมื่อย้อนกลับไปมองที่จุดเริ่มต้น จนการดำาเนินการที่มี ก็ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 5-6 ปีท่ีแล้ว ที่ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับ ปัจจุบัน ผมก็ได้เห็นการเปล่ียนแปลงของชุมชน เห็นการเปลี่ยนแปลง โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ซง่ึ ทาำ ใหผ้ มไดเ้ รยี นรนู้ ะครบั วา่ โครงการ ของแนวทางการทำางานของมหาวิทยาลัยท่ีพยายามจะผลักดันความรู้ นี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์สำาหรับชุมชนจริง ๆ ครับ ซึ่งมันก็จะ แลว้ กค็ วามสามารถของบคุ ลากรกลบั ไปสชู่ มุ ชนไมว่ า่ จะเปน็ ในเรอื่ งของ แตกต่างกับประสบการณ์ท่ีผมสะสมมาบ้างเล็กน้อย แต่เราก็สามารถ วชิ าการ ในเรอ่ื งของศลิ ปวฒั นธรรม และกใ็ นเรอ่ื งตา่ ง ๆ ทที่ าำ ใหค้ ณุ ภาพ นำาประสบการณ์ของที่ได้เรียนรู้เก่ียวกับการแนะนำาภาคอุตสาหกรรม ชวี ติ ซงึ่ ประเมนิ ไดจ้ ากหลายมติ ไิ ดด้ ขี น้ึ “ตวั ผมเองรสู้ กึ เปน็ เกยี รตทิ ไี่ ด้ นาำ ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การแนะนาำ ใหก้ บั ชมุ ชนได้ ซงึ่ ในระยะหลงั ๆ ชมุ ชน รบั โอกาสไดร้ ับใชโ้ ครงการยกระดบั คณุ ภาพชีวิต โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ต่างๆ ก็เริ่มมีการแปรรูปอาหารเพื่อการผลิต การจำาหน่ายเชิง การได้ทาำ ให้คนในชนบทซึ่งอยหู่ ่างไกล มคี ุณภาพชวี ติ ทด่ี ขี ึ้นครบั ” พานิชย์บ้าง ซงึ่ ผมกใ็ ช้ประสบการณ์ท่ีผมมเี ข้าไปช่วยในการแนะนาำ ให้ กับโครงการยกระดบั ฯ นะครับ 4
คดิ ว่าชุมชนคิดอย่างไร หรือตอ้ งการอะไร จากงานบริการวชิ าการของมหาวทิ ยาลัย? ในมุมมองของอาจารย์ที่เป็นตัวแทนของ ชุมชน อาจารยค์ ิดวา่ นักบริการวชิ าการของ จริง ๆ จากประสบการณ์ที่ได้ลงไปคลุกคลีกับการทำ�งานในชุมชนของประเทศเรา คนชุมชนนน้ั ควรเป็นอยา่ งไร? ตอนน้ี ก็มีการพัฒนาไปค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะอย่างย่ิงเร่ืองของการส่ือสารและการรับรู้ ข่าวสาร เพราะฉะน้ันในบริบทของความต้องการจริงๆ ของชุมชน ก็มีหลากหลาย แต่เท่าท่ี ตรงนถี้ ือได้วา่ เปน็ หัวใจ เปน็ ส่ิงสำ�คัญ ผมประมวลและพอสรุปได้ “ความต้องการในด้านของความเป็นอยู่และเศรษฐกิจ จะเป็น เลยนะครับ คือในมุมมองจากชุมชนที่มองมา คำ�ตอบแรกๆ ของชุมชน” ท่ีต้องการให้มีเศรษฐกิจของชุมชนและของครัวเรือนที่ดีข้ึน ผมคดิ วา่ เคา้ ตอ้ งการคนทจ่ี ะไปชว่ ยเคา้ ทม่ี คี วาม นอกจากน้ีก็ยังมีเร่ืองเก่ียวกับสภาพแวดล้อม บางท่ีก็มีความต้องการให้เข้าไปช่วยในการ จริงใจ แล้วก็มองเห็นความสำ�คัญของชุมชน วางแผนเกยี่ วกบั สภาพแวดลอ้ มในบางสว่ น ซงึ่ เทา่ ทผี่ มมองเหน็ ผมวา่ ชมุ ชนเองใหก้ ารตอบรบั คือหมายความว่า เค้าสามารถพ่ึงพาและไว้ใจ ท่ีดีเกี่ยวกับโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตน้ี แล้วทางมหาวิทยาลัยเอง ก็เร่ิมมีบุคลากรที่มี ได้ เพราะฉะน้ันจากประสบการณ์บางคร้ังของ ประสบการณ์เกี่ยวกับเร่ืองของการบริการวิชาการโดยเฉพาะเข้าไปช่วยเหลือชุมชนในเรื่องนี้ ชุมชนเอง ก็มักจะได้รับการบริการวิชาการ ทมี่ ากขนึ้ เพราะฉะนัน้ ผมคิดวา่ “โครงการน้ยี ังสามารถตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของชุมชน จากแหลง่ อน่ื คอ่ นขา้ งเยอะ แตส่ ว่ นใหญจ่ ะอยใู่ น ไดอ้ ย่างแทจ้ ริง” ลักษณะของโครงการระยะสั้นหรือโครงการท่ี ชั่วคราว ซึ่งมันก็จะขาดความต่อเนื่อง แล้ว หมายความวา่ ในชมุ ชนแตล่ ะชมุ ชนทอ่ี าจารยล์ งพน้ื ทด่ี ว้ ย นอกจากวา่ ความรขู้ องอาจารย์ บางครงั้ กม็ มี ากเกนิ ไปจนชมุ ชนเองกม็ คี วามรสู้ กึ ท่ีมีความเชี่ยวชาญแล้วนำ�ความรู้นี้ลงไปพัฒนาชุมชน แต่ส่ิงท่ีชุมชนต้องการคือสภาพ ว่าเหมือนถูกบังคับให้มาร่วม เพราะฉะนั้นผม ความเปน็ อยู่ที่ดีขนึ้ ? คิดว่าชุมชนตอ้ งการคนทีม่ าชว่ ยท่มี คี วามจริงใจ ทม่ี ีจติ บริการครบั เทา่ ทผ่ี มไดส้ มั ผสั ดนู ะครบั สงั คมทกุ วนั นเ้ี ปน็ สงั คมกงึ่ เมอื ง จะสงั เกตวา่ ในชมุ ชนเอง หรือผูน้ �ำ ในชุมชนเอง มคี วามสามารถในการสือ่ สารและการใชเ้ ทคโนโลยมี ากข้นึ ไมว่ า่ จะเปน็ ถ้าสมมติอาจารย์เป็นตัวแทนของชุมชน Social network หรืออน่ื ๆ เพราะฉะนน้ั ความเป็นอยู่อาจจะไม่เหมอื นในอดตี ซะทีเดียว มนั อยากฝากอะไรถึงอาจารย์หรือว่าบุคลากร อาจอยใู่ นรปู แบบของการมเี ศรษฐกจิ น�ำ ฉะนนั้ ผมวา่ ชมุ ชนเองตอ้ งการมเี ศรษฐกจิ ทดี่ ี นอกจาก ท่กี �ำ ลังจะเป็นนักบรกิ ารวชิ าการ? เศรษฐกิจที่ดีมันก็ขยับไปเป็นเรื่องของสุขภาพที่ดีแล้วก็สิ่งแวดล้อมที่ดีนะครับ ซึ่งความรู้ของ บุคลากรของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ไม่มีข้อสงสัยว่าองค์ความรู้ที่มีอยู่ใน ฝากให้อาจารย์หรือบุคลากรที่จะลง องค์กรสามารถไปเติมเต็มส่วนพวกนีไ้ ด้อย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วเท่าทผ่ี มประทบั ใจ กค็ ือ ไปในพื้นที่ ให้ช่วยแก้ปัญหา แล้วก็มีจิตบริการ การนำ�เอาโครงการวิจัยหรือโปรเจคของนักศึกษาเข้าไปช่วยชุมชน ซึ่งผมรู้สึกประทับใจจริงๆ ซึ่งจริงๆ ผมเห็นใจนะ เพราะว่าโครงการเท่าท่ี เลยคบั เพราะ เดก็ เองกไ็ ดเ้ รยี นรใู้ นศาสตรข์ องตวั เอง และกน็ �ำ ศาสตรข์ องตวั เองไปประยกุ ตใ์ ช้ ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เป็นระยะสั้น คำ�ว่าระยะสั้น กบั ชมุ ชนไดด้ ว้ ย และอนั นกี้ จ็ ะเปน็ อกี อนั นงึ ทผ่ี มคดิ วา่ นา่ จะเปน็ สง่ิ ทด่ี ี ทคี่ วรจะท�ำ ตอ่ ไปครบั ผม คือ มีเวลาท�ำ โครงการน้อย เพราะอาจารยเ์ องก็ มพี นั ธกจิ หลายดา้ น แตว่ า่ ทางชมุ ชนเองกค็ งฝาก ความหวงั วา่ ชว่ ยเอาปญั หาของชมุ ชนไปคดิ และ ไปสร้างแนวทางท่ีจะทำ�ให้ปัญหามันลุล่วงไปได้ ดว้ ยดี อกี อันหนง่ี ก็คือ ชมุ ชนอาจจะคาดหวังให้ บคุ ลากรเปน็ ผปู้ ระสานงานกบั องคก์ รหรอื หนว่ ย งานทีม่ ีความช่วยเหลือ ท่ีจะผ่านมายงั บุคลากร เหล่านี้ลงไปยังชุมชน ซึ่งในความคิดของผม ผมคิดว่ามันก็จะเป็นอีกแนวทางหน่ึง เพราะว่า จริงๆ แล้วชุมชนเองเค้าก็คาดหวังค่อนข้างสูง กับโครงการของ มทร.ลา้ นนา ครับ 5
6 เปดิ มุมมอง
ฝากขอ้ คดิ ไปยงั คนทจี่ ะทาำ งานด้านนี้บา้ ง? รอบรว้ั ผมเห็นใจและก็เป็นกำาลังใจให้ครับ เพราะ เท่าที่ มหาวท� ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สมั ผสั มา บคุ ลากรของ มทร.ลา้ นนาหลายทา่ นไดท้ าำ โครงการ นี้มานานจนกระทั่งถึง ผมเรียกว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติที่ดี จัดบธู นทิ รรศการ บรก� ารว�ชาการ ไดเ้ ลยนะครบั บางทา่ นซงึ่ ถอื วา่ เปน็ ทรพั ยากรบคุ คลทมี่ คี วาม และเผยแพร่สือ่ องคค วามรู้ สำาคัญอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นนักบริการวิชาการรุ่นน้องหรือ รุน่ ใหม่ ๆ ที่สนใจและรกั การทาำ งานด้านนี้ กส็ ามารถเรยี นรู้ วันที่ 25 เมษายน 2562 สถช. เปน็ ตัวแทน หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของอาจารย์รุ่นพ่ีได้เลยครับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาร่วมจัดบูธ แตส่ งิ่ หน่ึงท่อี ยากจะฝากเลยกค็ อื เราต้องมีใจรักทจ่ี ะทำาก่อน นทิ รรศการบรกิ ารวชิ าการและเผยแพรส่ อื่ องคค์ วามรขู้ อง ครบั อยา่ ทาำ โดย ถอื ว่าเป็นข้อบงั คบั หรือข้อกาำ หนดที่จะต้อง มหาวิทยาลัยฯ ในโครงการผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้า ทำา ตอ้ งมีจิตสาธารณะและก็เสียสละอยา่ งยิ่งครับ ยงั ไงผมก็ ส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะตามก็เอาใจช่วยนะครับ พบประชาชน ประจาำ ปงี บประมาณ พ.ศ.2562 ในวนั ท่ี 24 เมษายน พ.ศ.2562 ณ เขื่อนอุดมธารา ตำาบลลวงเหนือ อีกอันหนึ่งที่อยากจะแนะนำาเลย คือ ที่ผ่านมา อำาเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ทั้งนี้ โครงการ เราไม่ค่อยจะทำางานเป็นเชิงวิจัยที่มีเก็บข้อมูลมาทำาการ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หวั หนา้ สว่ นราชการ และผบู้ รหิ ารองคก์ ร ประมวลผลอย่างเป็นระบบ เพราะว่าเมื่อเสร็จโครงการแล้ว ปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ พบประชาชน ประจำาปงี บประมาณ มนั จะไมส่ ามารถประเมนิ หรอื จบั ตอ้ งไดโ้ ดยทนั ที ตอ้ งใชเ้ วลา พ.ศ.2562 จดั ขนึ้ มาโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหห้ นว่ ยงานทกุ เพื่อทำาการประมวลผลอย่างเป็นระบบ เช่น การทำาบัญชี ภาคสว่ นจดั หนว่ ยบรกิ ารประชาชนอกใหบ้ รกิ ารประชาชน ครัวเรือน 1 ปี เราต้องมีการวางแผนการลงพื้นที่ และการ ในพื้นท่ี พร้อมรับฟังสภาพปัญหา ความต้องการของ เกบ็ ขอ้ มูลอยา่ งเปน็ ระบบ และเกดิ ความตอ่ เนื่อง และจงึ นำา ประชาชน เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปญั หา มาวิเคราะห์ผลลัพธ์ต่างๆ ท้ังนี้เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่สามารถ สงั เคราะห์ไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ ครบั 7 ท้ายสุดคือ ที่มาของโจทย์คือการทำาประชาคม ผมว่าเป็น keyword ที่สำาคัญ ปีแรกอาจจะปัญหาอาจจะ เยอะหน่อย แต่หลังที่ไปเก็บข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะ เห็นละว่าปัญหาอันไหนที่ชุมชนมีศักยภาพ ก็จะโฟกัสลงมา ฉะนั้น นักวิจัยเองก็ต้องหาดูว่าอันไหนคือความต้องการ จริงๆ และอยู่ในงบประมาณ ในความสามารถของเราที่จะ แก้ปัญหาให้ไปสู่ความย่ังยืนของชุมชนได้อย่างแท้จริง ครับ และ Keyword ทสี่ ำาคัญอกี อนั หนงึ่ กค็ อื “การมสี ว่ นร่วม” นักวิจัยต้องทำาตัวให้เหมือนแค่คนอำานวยความสะดวก เป็น facilitator นะครบั ตามที่อาจารย์มีสว่ นรว่ มกบั งานนี้มา 5-6 ป มพี ้ืนที่ไหน ทีป่ ระทบั ใจบ้าง? จริง ๆ ผมก็ประทับใจทุกท่ีนะ แต่มีอยู่ท่ีหน่ึง ผม จำาไม่ได้แล้ว แต่ว่าผมเห็นความลำาบากของชุมชนโดยเฉพาะ อยา่ งย่ิงเรอ่ื งของการเดินทาง ซง่ึ หนทางท่ขี ้ึนในบางฤดูเราไม่ สามารถจะข้ึนไปได้ซ่ึงเท่าท่ีไปสัมผัสดูก็เห็นสภาพจริงๆ คือ ถนนเค้าเรียกเป็นถนนสองร่องล้อ ที่ค่อนข้างลำาบากที่จะใช้ เสน้ ทางพวกนสี้ ญั จร แตใ่ นภาพรวมแลว้ “ประทบั ใจทกุ ทคี่ รบั โดยเฉพาะถ้าไดเ้ หน็ รอยยม้ิ ของพนี่ อ้ งทีอ่ ยใู่ นชมุ ชนและได้ รบั ประทานอาหารรว่ มกนั วถิ ชี วี ติ เหลา่ นผี้ มวา่ บรสิ ทุ ธแิ์ ละ นา่ รกั นะครบั อยากใหม้ กี ารอนรุ กั ษห์ รอื รกั ษาไว้ เพอ่ื ทจ่ี ะได้ เป็นอัตลกั ษณ์ของทอ้ งถ่นิ ตอ่ ไปครบั ”
บรกิ ารวชิ าการ เพม� มูลคา ผลิตภัณฑอ ินทร�ย ด้วยการปรับปรงุ ดนิ ฮิวมสั และการจดั ทาำ บัญชี คำาสาำ คัญ 1. โครงการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ การเพมิ่ ........................................................................................ มลู คา่ ผลติ ภณั ฑอ์ นิ ทรยี ป์ รบั ปรงุ ดนิ ฮวิ มสั “ด้วยว�สาหกิจชุมชนยังไม่ได้มีการเพ�มมูลค่าดินฮิวมัส และการจดั ทำาบัญชีวสิ าหกิจชมุ ชน กล่มุ วสิ าหกจิ ผลิตฮิวมสั บา้ นนาสกั ตาำ บล จากสารปรับปรุงดิน ให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ตามมาตรฐาน นาสัก อาำ เภอแมเ่ มาะ จงั หวัดลำาปาง ของปยุ แตอ่ ยา่ งใด จงึ ทาำ ใหผ้ ลติ ภณั ฑท์ ผี่ ลติ ได้ไมม่ คี วาม 2. อ.สิงหา คาำ มลู ตา หัวหนา้ โครงการ แตกต่างกัน หากได้รับการพัฒนาในการเพ�มมูลค่าจาก 3. กลุ่มวิสาหกิจผลิตฮิวมัสบ้านนาสัก สารปรบั ปรงุ ดนิ เปน็ ปยุ อนิ ทรยี ต์ ามมาตรฐานจะสง่ ผลให้ ตำาบลนาสัก อำาเภอแม่เมาะ จังหวัด ลาำ ปาง ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นกว่าปุยเคมีที่มีอยู่ในปัจจ�บัน ”ทั้งยังเป็นการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์สินค้า ของชมุ ชนใหเ้ ป็นทีย่ อมรับมีมาตรฐานสากลอกี ดว้ ย 8
เนื้อหา แนวทางการดาำ เนนิ กิจกรรมของ คณะทาำ งาน “ฮิวมัส” เปน็ ดินทีอ่ ยูช่ ้นั บนสดุ มกั มีสคี ล้าำ เนื่องจากประกอบด้วยอนิ ทร (Organic) ขั้นท่ี 1 เวทีประชุมเพ่ือค้นหาและชี้แจง ดนิ ชน้ั โอสว่ นใหญจ่ ะพบในพน้ื ทป่ี า่ สว่ นในพน้ื ทก่ี ารเกษตรจะไมม่ ชี น้ั โอในหนา้ ตดั ดนิ เนอ่ื งจาก วตั ถุประสงค์ในการดำาเนินงานและการแบ่ง ถูกไถพรวนไปหมด มีความลึกจากหน้าดินประมาณ 20 เซนติเมตร เป็นดินในช้ันถ่านหิน บทบาทหนา้ ท่ี ซึ่งจะเกิดจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์มานานหลายล้านปี มีสีน้ำาตาลเข้มหรือดำา มปี ระโยชน์ทางดา้ นอุตสาหกรรม ใช้เปน็ ส่วนผสมในการผลติ ยา อาหารเสรมิ หรือแมแ้ ต่ทำา ข้ันตอนดาำ เนนิ การ เครื่องสำาอาง และด้านเกษตรกรรม เม่ือนำาฮิวมัสมาผสมกับมวลสารท่ีมีฤทธิ์เป็นด่างจะได้ ฮวิ มสั ทม่ี คี ณุ สมบตั พิ เิ ศษชว่ ยปรบั ปรงุ สภาพดนิ ใหร้ ว่ นซยุ แกป้ ญั หาดนิ เสยี ดนิ เปน็ กรดทาำ ให้ - เป็นการชีแ้ จงวตั ถปุ ระสงค์การดาำ เนินงาน ดนิ อุ้มนา้ำ ได้ดี ช่วยในการปรับสภาพดนิ ให้เป็นกลางและเพ่มิ ปริมาณแรธ่ าตทุ ่ีเป็นประโยชน์ - การแบง่ หนา้ ท่ีผู้รับผดิ ชอบ ต่อพชื ทำาใหพ้ ืชแขง็ แรงต้านทานศตั รพู ชื ได้ดี ดงั น้นั ในพน้ื ที่การทาำ เหมืองลิกไนต์ ท่ีอำาเภอ - การแลกเปล่ียนเรียนรู้รว่ มกบั กลมุ่ วิสาหกิจ แม่เมาะ จงั หวัดลาำ ปาง จึงมกั พบ “ฮิวมัส” ชมุ ชนเพอ่ื หากแนวทางดำาเนินการที่ชดั เจน กลุม่ วิสาหกจิ ผลิตฮวิ มสั บา้ นนาสัก ตาำ บลนาสกั อำาเภอแมเ่ มาะ จงั หวัดลำาปาง ผลลพั ธ์ จึงเป็นวิสาหกิจท่ีจัดต้ังขึ้น เพื่อการดำาเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อการเสริมสร้างอาชีพ สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ และเพอ่ื การพฒั นาชมุ ชน โดยการใชท้ รพั ยากรหรอื ทนุ ของชมุ ชนของ - สรา้ งความเข้าใจกับกลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชน ตัวเอง แต่หากการดำาเนินการดังกลา่ ว จะก่อเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลทด่ี ีต่อกลุ่ม - เตรยี มความพร้อมของกอ่ นการดาำ เนนิ งาน วิสาหกิจฯ นั้น คนในกลุ่มจำาเป็นต้องได้รับความรู้ภายใต้หลักทางวิชาการ เพ่ือการพัฒนา - กาำ หนดบทบาทหนาทข่ี องคณะผดู้ าำ เนนิ การ ที่ถูกต้อง ถูกทาง ดังนั้นจึงเป็นท่ีมาของการถ่ายทอดองค์ความรู้การเพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์ - วางแผนงานดาำ เนินงานในพื้นท่ี อนิ ทรยี ป์ รบั ปรงุ ดนิ ฮวิ มสั และการจดั ทาำ บญั ชวี สิ าหกจิ แกก่ ลมุ่ วสิ าหกจิ ผลติ ฮวิ มสั บา้ นนาสกั - ขอ้ มูลทไี่ ดต้ รงตามวตั ถุประสงคโ์ ครงการ และกลมุ่ วิสาหกิจชุมชน 9
บรกิ ารวชิ าการ ผ้เู ก่ียวข้อง : ทมี คณะผดู้ ำาเนินการ/สมาชกิ กลมุ่ วิสาหกิจชมุ ชน กระบวนการ : การทดลองปฏบิ ตั ิ เคร่ืองมือ : แบบบันทึกข้อมูล/การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม/ การวิเคราะห์ข้อมูล : การวิเคราะห์ส่วนผสมท่ีชัดเจน การตรวจสอบ แบบสอบถาม/แบบสมั ภาษณ์ คณุ ภาพ กระบวนการ : การชวนพูด ชวนคุย ชวนคดิ ตง้ั คำาถาม แนวทาง และ การจดั ทาำ คมู่ อื ข้ันตอนการผสมทีเ่ หมาะสม ส่งิ ท่คี าดวา่ จะไดร้ ับ การวิเคราะห์ข้อมูล : ใช้การวิเคราะห์เนื้อหาจากข้อมูลที่ได้จากแบบ ............................................................................................................. บันทกึ และประมวลสรุป (Content Analysis) ............................................................................................................. ขัน้ ที่ 3 การถา่ ยทอดองค์ความรแู้ ก่กลุ่มวสิ าหกจิ ชมุ ชน กลมุ่ ฮิวมัส ลา้ นปอ นิ ทรีย์แม่เมาะ ขน้ั ท่ี 2 เตรยี มความพรอ้ มของการดาำ เนนิ การถา่ ยทอดองคค์ วาม ขนั้ ตอนดาำ เนินการ รู้ให้แกก่ ลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชน ขนั้ ตอนดำาเนนิ การ - คณะผดู้ ำาเนนิ งานเตรยี มความพรอ้ ม - การประสานงานในการดาำ เนินงาน เช่น วทิ ยากร และสมาชิก - คณะผูด้ ำาเนินงานไดม้ กี ารประชุมเตรียมความพรอ้ มของวัสดุ - การคนื ขอ้ มลู ท่ีได้จากการศกึ ษาเกี่ยวกบั มาตรฐานปยุ เกษตร เคร่อื งมือ อินทรีย์ - การคืนข้อมลู ที่ได้จากการศกึ ษาเก่ียวกบั สารปรบั ปรุงดนิ - ศึกษาข้อมลู เก่ียวกบั มาตรฐานปยุ เกษตรอินทรีย์ ฮวิ มัส - ศกึ ษาขอ้ มลู เก่ียวกบั สารปรบั ปรุงดนิ ฮวิ มัส - คณะผู้ดำาเนนิ งานได้สาธติ ขนั้ ตอนการใสส่ ว่ นผสม - คณะผูด้ าำ เนนิ งานได้ศึกษาและทดลองตามข้ันตอนได้อย่าง - สมาชิกวิสาหกจิ ได้ฝกึ ทดลองตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง ถกู ต้อง ผลลัพธ์ - การถา่ ยทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานปุยเกษตรอินทรยี ์ ผลลัพธ์ - สมาชิกได้ได้ชมการสาธิตและทดลองปฏิบตั ิในขน้ั ตอนการใส่ ส่วนผสม - ขอ้ มลู เก่ยี วกับมาตรฐานปุยอนิ ทรีย์ ผเู้ ก่ียวข้อง : คณะผดู้ าำ เนินการ/สมาชกิ วิสาหกจิ ชุมชน - ข้อมูลเกย่ี วกับสารปรับปรุงดินฮวิ มสั เครื่องมือ : วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ ในการดำาเนินการ /แบบบันทึก - การวางแผนการจดั ซ้ือ การซอื้ (วัสดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือ) ขอ้ มลู /การสังเกตการณ์แบบมสี ว่ นร่วม/แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ดาำ เนินการ กระบวนการ : ฝึกอบรม/ฝกึ ปฏบิ ตั /ิ ตอบข้อซักถาม/AAR - การฝกึ ปฏบิ ัตติ ามขั้นตอนการดำาเนินการไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง การวิเคราะหข์ อ้ มลู : การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากแบบบันทกึ ข้อมลู ผู้เกี่ยวข้อง : คณะผู้ดำาเนินงาน การสังเกตการณ์ การมสี ่วนร่วม/แบบประเมินความพึงพอใจ เครอ่ื งมอื : วัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมือ/แบบบันทกึ ข้อมูล (Content Analysis) 10 ............................................................................................................. ขนั้ ที่4 เวทสี รุปผลการดำาเนนิ การของโครงการ (คณะดำาเนินงาน) ขั้นตอนดำาเนนิ การ - เวทเี สวนาสรุปผลจากการดำาเนนิ งานของโครงการ ผลลพั ธ์ - เพ่อื ประมวลผลทไ่ี ด้จากการดาำ เนินโครงการ ข้อเสนอแนะ คาำ แนะนาำ ทไ่ี ด้มาปรบั ปรงุ - เพือ่ วเิ คราะหจ์ ดุ เด่น จุดดอ้ ย ปัญหา และอุปสรรค จากการ ดาำ เนนิ การของโครงการ ผู้เกย่ี วขอ้ ง : คณะผดู้ าำ เนนิ งาน เคร่อื งมอื : แบบบนั ทกึ ขอ้ มูล/การสังเกตการณ์แบบมสี ่วนร่วม/ขอ้ สรปุ แบบประเมินความพงึ พอใจ กระบวนการ : เวทีเสวนา/แลกเปล่ยี นเรยี นรขู้ องคณะดำาเนนิ งาน/AAR การวเิ คราะหข์ อ้ มลู : การวเิ คราะหเ์ นอื้ หาจากขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากแบบบนั ทกึ และประมวลสรุป (Content Analysis)
ผลการเปรียบเทยี บค่ามาตรฐานปยุ อนิ ทรีย์กบั รอบรั้ว รายงานผลการทดลอง มหาวท� ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สรุป กจิ กรรมวช� าการส่งเสร�มการเรย� นรูส้ ร้าง ประสบการณแกค่ ณะสามเณร การอบรมเพอื่ เพม� องคค์ วามร ู้ มผี ลทาำ ใหเ้ กดิ การเรยี น รู้ร่วมกันระหว่างนักวิชาการและคนในชุมชน เกิดการทบทวน วันท่ี 2 เม.ย. 62 สถช.ต้อนรับคณะสามเณรโครงการ ความรทู้ มี่ ีอยู่เดิม และเกดิ สรา้ งการเรียนรูจ้ ากองคค์ วามรู้ใหม่ ลูกแก้วอนุรักษ์ถิ่นไทย รุ่นท่ี 5/2562 วัดถำ้าแกลบ และผู้ติดตาม ชว่ ยใหช้ มุ ชนมฐี านความรทู้ ด่ี ี สามารถเลอื กใชส้ ารอาหารทเ่ี ปน็ เย่ียมชมและศึกษาดูงานคณะบุคลากรสถาบันสถาบันถ่ายทอด ประโยชน์จากอินทรีย์วัตถุมากกว่าสารเคมี สามารถลำาดับ เทคโนโลยสี ชู่ มุ ชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ใหก้ าร ขน้ั ตอนความสาำ คญั ในการเลอื กและตดั สนิ ใจถงึ ความคมุ้ คา่ ของ ตอ้ นรับ พระอาจารย์อุดม ทา่ นเจา้ อาวาส ตลอดจนคณะสามเณร ต้นทุน สามารถดูแลรักษาผลผลิตให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โครงการลูกแกว้ อนรุ กั ษถ์ ่ินไทย รนุ่ ที่ 5/2562 วัดป่าถ้ำาแกลบ และ ทำาให้เกิดพัฒนาทั้งในตัวบุคคล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ ผตู้ ิดตาม เขา้ เยีย่ มชมและศกึ ษาดงู าน ในวนั ท่ี 2 เมษายน 2562 สรา้ งชมุ ชนทเี่ ขม้ แขง็ ดว้ ยการใชอ้ งคค์ วามรจู้ ากวชิ าการ สง่ ผล ผ่านจัดกิจกรรมวิชาการส่งเสริมการเรียนรู้สร้างประสบการณ์แก่ ต่อการพัฒนาพน้ื ทอ่ี ย่างแทจ้ รงิ คณะสามเณร ณ บริเวณศาลาธรรม และคลงั ความรู้ชุมชน สถาบัน ถา่ ยทอดเทคโลยสี ชู่ มุ ชน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคคลา้ นนา ประกอบดว้ ยกจิ กรรมการปนั ดนิ เผา เซรามคิ “การทาำ กระถางลาย กอ้ นหนิ ” กจิ กรรมสรา้ งจติ สาำ นกึ และกจิ กรรมการจดั ประสบการณ์ “มงคลชวี ิต 38 ประการ” อ.สงิ หา คำามลู ตา หัวหนา้ โครงการ 11
บรกิ ารวชิ าการ ข ย ะนกั จัดการ ................................................................................................................ 1. . โครงการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ นกั จดั การขยะเชงิ พาณชิ ยเ์ พอื่ การเปน็ ผู้ประกอบการวสั ดรุ ไี ซเคิล 2. ดร.มงคลกร ศรีวิชยั หวั หน้าโครงการ 3. องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ จงั หวดั เชียงราย 5 พนื้ ท่ี ................................................................................................................ คำาสาำ คัญ “แนวคดิ บรหิ ารการจดั การขยะในรปู แบบนวตั กรรม จะช่วยเปลี่ยนมุมมองการจัดการขยะท่ีเคยทิ�ง สู่ ทรพั ยากรทดแทน พลงั งานทางเลอื ก รวมถงึ เทคนคิ ทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมในพ้ืนที่ และการพัฒนา ”คนในพื้นท่ี จะทำาให้เกิดการก้าวสู่ธุรกิจเพ่ือสังคม ทง้ั นเ้ี พอื่ การกา้ วเขา้ สคู่ วามยง่ั ยนื ในอนาคตตอ่ ไป 12
เนอ้ื หา ปญ หาเรอ่� งขยะ เปน็ ปญั หาทหี่ ลายหนว่ ยงานราชการ รวมทั้งหน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดเชียงราย ทไ่ี ดพ้ ยายามหาวธิ กี าร เพอ่ื การแกไ้ ข มาโดยตลอด แตส่ ว่ นใหญข่ องการ ดำาเนินนโยบาย และการดำาเนินการแก้ไข กลับถูกพบว่าไม่ประสบ ความสาำ เรจ็ หลายๆ หนว่ ยงาน ไมส่ ามารถนาำ พาซงึ่ การจดั การขยะทไี่ ปสู่ เป้าหมายสุดท้ายของการดำาเนินการอย่างแท้จริง ดังน้ันความต้องการ ในการแก้ไขปญั หาดังกลา่ วโดยใช้พนื้ ท่ี ทเ่ี คยประสบความสาำ เรจ็ มาใช้ เปน็ ตน้ แบบตอ่ ถา่ ยทอดการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหเ้ หน็ แนวทาง รวมถงึ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ บนสถานการณ์จริง จงึ เป็นส่งิ จำาเป็นยิ่ง จงึ เปน็ ทมี่ าของการถา่ ยทอดองค์ความรู้ บนพื้นฐานของหลัก วชิ าการ เพือ่ สรา้ งการเรยี นรู้ เก่ยี วกับการดาำ เนินการจดั การขยะ ให้แก่ พื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในจังหวัดเชียงราย ด้วยการใช้ ต้นแบบ (Model) นักจัดการขยะ ขององค์การบริหารส่วนตำาบล เมอื งพาน อาำ เภอพาน จงั หวดั เชยี งราย ทป่ี ระสบความสาำ เรจ็ มาเปน็ ตน้ แบบตัวอย่าง ของการจัดการขยะเชิงพาณิชย์ เพื่อการส่งเสริมให้ หนว่ ยงานขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ในจงั หวดั เชียงราย สามารถ เปลี่ยนขยะใหเ้ ปน็ ทรัพย์ได้ และส่งผลต่อคณุ ภาพชีวติ ของคนในชุมชน ให้เกิดความย่งั ยืนตอ่ ไป แนวทางการดำาเนนิ กิจกรรมของคณะทำางาน 1. วางแผนการดำาเนินการ (P) การลงพ้ืนท่ีสำารวจ ประเด็นปญั หาและความต้องการของชุมชน 2. การดำาเนินการจัดโครงการ (D) การดำาเนินการ ฝึกอบรมและถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. การตดิ ตามประเมินผล (C) ผลการสอบประเมนิ ผล และการดำาเนินการอย่างต่อเน่ืองของนักจัดการขยะผู้ท่ีผ่านการอบรม รวมทงั้ ปรมิ าณวสั ดรุ ีไซเคลิ ท่ีเขา้ สกู่ ระบวนการ 4. การปรับปรุงเพื่อพัฒนาและแก้ไขจากผลการ ประเมิน (A) การนำาผลดำาเนินงานมาปรับปรุงกระบวนการเพื่อ วางแผนตอ่ ไป การถ่ายทอดความรู้ภายใต้หลักในการบริหารจัดการขยะ โดยใช้ 3Rs : ใชนอ ย ใชซ ้ํา นํากลบั มาใชใหม 1. ใชน้ อ้ ย (Reduce) หมายถึง การซอ้ื และใช้ใหน้ ้อยลง ตวั อยา่ งเช่น ปิดไฟเมื่อไมใ่ ช้ ใช้เวลาอาบน้ำาให้ส้ันลง และใช้ถงุ ผา้ แทน การใชถ้ งุ พลาสติก 13
บรกิ ารวชิ าการ 2.ใชซ้ �้ำ (Reuse) หมายถงึ การใชส้ งิ่ ของหลายๆครัง้ หรอื ในหลายๆรปู แบบ ตวั อยา่ งเชน่ ใชแ้ กนกระดาษทชิ ชเู่ พอ่ื เกบ็ สายไฟหรอื สายชาร์ตตา่ งๆ หรือใชไ้ มพ้ าเลตเพื่อทำ�เฟอร์นเิ จอร์ 3.น�ำ กลับมาใช้ใหม่ (Recycle) หมายถึง การนำ�วสั ดุ หรอื ของเสียกลบั มาทำ�ใหเ้ ปน็ ผลิตภณั ฑใ์ หมท่ มี่ ีประโยชน์ การนำ�กลับ มาใชใ้ หมย่ งั ใชพ้ ลงั งานนอ้ ยลง และเปน็ วธิ กี ารทด่ี ใี นการควบคมุ มลภาวะ ทางอากาศ นา้ํ รวมทัง้ ดิน ตวั อยา่ งเชน่ การแยกของเสยี เช่น กระดาษ ขวดพลาสตกิ และแก้ว ออกจากของเสียประเภทอื่นๆ และน�ำ ไปสง่ ท่ี โรงงานรไี ซเคลิ ซึ่งหลังจากน้ันสิ่งท่ีเกินกว่าความสามารถและเทคโนโลยีท่ี ชุมชนจะสามารถดำ�เนินการได้คือ การแปรรูปเพื่อเป็นพลังงาน และ สุดทา้ ยสิ่งที่เหลอื น้อยที่สดุ แลว้ จงึ น�ำ ไปกำ�จัดอย่างปลอดภยั โดยแบง่ กจิ กรรมกจิ กรรมเพอ่ื ลดปรมิ าณขยะออกเปน็ 3 ระดบั สรุป ในระดบั ครวั เรอื น ในระดบั กลมุ่ และในระดบั ชมุ ชน ชว่ ยลดปรมิ าณขยะ แตล่ ะประเภททีต่ อ้ งน�ำ ไปก�ำ จดั ดงั ท่ีแสดงในรูปที่ การดำ�เนินกิจกรรมนักจัดการขยะ เป็นการจัดการ ในรูปแบบนวัตกรรมขยะวิทยา ซึ่งต้องบูรณาการทุกศาสตร์ ที่มอี ยใู่ หเ้ กดิ ขนึ้ จรงิ ตอ้ งชักจงู ให้กลุ่มคนท่ีไม่เข้าใจในศาสตร์ น้ี โดยการใหค้ วามส�ำ คญั กบั การพบปะพดู คยุ เพอื่ อธบิ ายถงึ กระบวนการ ซงึ่ ผลจากการด�ำ เนนิ กจิ กรรมทดี่ ี จะสง่ ผลท�ำ ให้ ปรมิ าณขยะของพน้ื ทใี่ นชมุ ชนลดลง น�ำ มาซง่ึ คณุ ภาพการใช้ ชวี ิตของคนในชุมชนทด่ี ีตอ่ ไป ดร.มงคลกร ศรีวิชัย หัวหน้าโครงการ 14
รอบรัว้ มหาวท� ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ซอ่ มแซมฝายชะลอนำ้าและเพ�มความชุมช้นื ใหพ้ ืน้ ทป่ี า อทุ ยานแห่งชาตดิ อยสุเทพ-ปยุ วนั ท่ี 22 พฤษภาคม 2562 อาจารยส์ าคร ปนั ตา อาจารย์ ประจาำ หลกั สตู รวศิ วกรรมไฟฟา้ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ นาำ นกั ศกึ ษา หลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้า ระดับ ปวส.ช้ันปีท่ี 1 และ 2 เข้าร่วม โครงการ “เราทำาความ ดี ดว้ ยหัวใจ” ซ่อมแซมฝายชะลอนาำ้ และ เพิ่มความชุมชื้นให้พื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ณ ฝายชะลอนา้ำ วดั ผาลาด เพอื่ ขดุ ลอกตะกอนดนิ ทท่ี บั ถมออก ใหฝ้ าย ชะลอน้ำาสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง เปน็ การเพม่ิ ความชุ่มชื้นให้พื้นทป่ี า่ รอบบริเวณฝาย ......................................................................................................................................................................................................... จต� อาสาพัฒนาคลองแม่ข่า วนั ท่ี 3 มถิ นุ ายน 2562 (เวลา 10.30 น.) คณะบคุ ลากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา รว่ มกิจกรรม “จติ อาสา พัฒนาคลองแม่ข่า” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ประจำาปีพุทธศักราช 2562 โดยมีนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีและนำากล่าวปฏิญาณตน “เราจะทำาความดี ดว้ ยหวั ใจ” ณ ลานอเนกโรงแรมนม่ิ ซเี สง็ ชุมชนศรีปิงเมือง ตำาบล หายยา อำาเภอเมือง จังหวดั เชยี งใหม่ 15
บรกิ ารวชิ าการ เทคนคิAกcารtจiดั vกeิจกLรรeมภaาrษnาอinงั กgฤษแบบ .................................................................................. 1. โครงการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ เทคนคิ การจัดกจิ กรรมภาษาองั กฤษแบบ Active Learning สำ�หรับครูโรงเรยี น 2. อาจารยพ์ ิมเนตร เทพปญั ญา หวั หนา้ โครงการ 3. โรงเรียนพชิ ัยวิทยา ต�ำ บลพิชัย อำ�เภอเมอื ง จังหวัดลำ�ปาง คำ�ส�ำ คญั “การจดั การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษของผเู้ รยี นผา่ นการรว่ มท�ำ กจิ กรรม แบบ Active Learning จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถต่อยอดความรู้เดิม อันเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ด้านภาษาอังกฤษจากกิจกรรม และช่วยพัฒนาระดับ ”ทักษะการคิดของผู้เรียนเองจากระดับต้นไปสู่ระดับสูงขึ้น อันเป็นหนึ่งใน คุณสมบตั ทิ ่คี วรพงึ มีสำ�หรับผูเ้ รยี นในศตวรรษที่ 21 16
เนื้อหา จากวลี “คุณครูท่ีดีย่อมไม่หยุดพัฒนาตนเอง ต้องมอง หาความร้ใู หม่ๆ รวมถงึ เทคนิคการสอนที่ทันสมยั ซ่ึงจะชว่ ยใหเ้ ดก็ ๆ มีส่วนร่วมในห้องเรียนได้มากขึ้น” แต่ในหลายๆ ครั้งคุณครูเองอาจ จะไม่เข้าใจคำ�ศัพท์ท่ีใช้ในทฤษฎีการสอนใหม่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดได้ ทั้งกับคุณครูมือใหม่และคุณครูผู้มากประสบการณ์ ดังเช่นกลุ่มคุณครู ในโรงเรียนขยายโอกาส “โรงเรียนพิชัยวิทยา” ในพื้นที่ ตำ�บลพิชัย อำ�เภอเมือง จังหวดั ลำ�ปาง ท่ตี อ้ งการมีการพัฒนาตนเองในการจัดการ เรยี นการสอนภาษาองั กฤษในรปู แบบทส่ี ง่ เสรมิ ตอ่ การเรยี นรแู้ ละพฒั นา ทกั ษะของเดก็ ในศตวรรษที่ 21 จากรายงานผลปญั หาของทางโรงเรยี น ในเร่ือง ระดบั ภาษาองั กฤษของนักเรยี นทตี่ �ำ่ กวา่ เกณฑม์ าตรฐานระดบั ประเทศ อกี ทง้ั ไมม่ คี ณุ ครสู อนภาษาองั กฤษทจี่ บตรงมาสอนและพฒั นา ทักษะภาษาองั กฤษของนกั เรียนในโรงเรยี น จากปัญหาท่ีเกิดขึ้นจึงเป็นที่มาของการบริการวิชาการ ถา่ ยทอดความรู้ อบรมเทคนคิ การจดั กจิ กรรมภาษาองั กฤษดว้ ย Active Learning ให้กับคุณครู เพ่ือคุณครูนำ�ผลจากการอบรมไปจัดกิจกรรม การเรียนภาษาอังกฤษด้วย Active Learning ในห้องเรียนในแต่ละ ระดบั ชัน้ ใหม้ ปี ระสทิ ธผิ ลต่อไป แนวทางการด�ำ เนนิ กิจกรรมของคณะทำ�งาน 1. นำ�เสนอข้อมูลเก่ียวกับแนวคิดการเรียนรู้แบบ Active Learning, Bloom Taxonomy, การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 11 และ Academic Language in Classroom 2. น�ำ เสนอการใชก้ จิ กรรมแบบ Active Learning ในการ เรยี นรู้ภาษาองั กฤษแต่ละระดับชัน้ เรียน 3. นำ�เสนอแผนประยกุ ต์ใช้กิจกรรมแบบ Active Learning ในการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการจดั การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษตอ่ ผเู้ รยี นแตล่ ะ ระดับ 4. แบง่ กลมุ่ ตามระดบั ชนั้ เรยี นในการจดั กจิ กรรมเพอ่ื ใหต้ รง กับระดับการเรียนรู้ของผู้เรียน และฝึกจัดกิจกรรมภาษาอังกฤษแบบ Active Learning สำ�หรับการเรียนรูแ้ ตล่ ะระดับช้ัน ลกั ษณะสำ�คญั ของการจัดการเรียนรทู้ ีเ่ นน้ บทบาทและการมสี ่วนร่วมของผูเ้ รียน 17 ( (AAcct ti ivvee LLeeaar rnni inngg) ) >> เปน็ การจัดการเรียนรู้ที่ม่งุ พัฒนาศกั ยภาพทางสมอง ไดแ้ ก่ การคิด การแกป้ ัญหา การนําความรู้ ไปประยกุ ต์ใช้ >> เปน็ การจัดการเรียนร้ทู เ่ี ปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียนมีสว่ นร่วมในการเรยี นรู้ >> เปน็ กระบวนการสรา้ งสถานการณใ์ ห้ผู้เรยี นอ่าน พูด ฟัง คิด >> เป็นกิจกรรมการเรยี นรู้ทเ่ี นน้ ทักษะการคิดข้ันสูง >> เปน็ กจิ กรรมการเรยี นรทู้ เ่ี ปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นบรู ณาการขอ้ มลู ขา่ วสาร สารสนเทศ และหลกั การ สกู่ ารสรา้ งความคดิ รวบยอด >> ผู้เรยี นมีสว่ นรว่ มในการจดั การเรียนรู้ มีการสร้างองคค์ วามรู้ การสร้างปฎสิ มั พันธ์รว่ มกัน และรว่ มมือกันมากกว่าการแขง่ ขัน
บรกิ ารวชิ าการ (Active Learning) >> ผ้เู รียนสร้างองค์ความรู้และจัดระบบการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง >> ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้ความรับผิดชอบรว่ มกัน การมีวินยั ในการทาำ งาน และการแบง่ หน้าทค่ี วามรับผิดชอบ >> ผู้สอนเปน็ ผอู้ าำ นวยความสะดวกในการจัดการเรยี นรู้ เพื่อให้ผ้เู รยี นเปน็ ผู้ปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง >> ความรูเ้ กดิ จากประสบการณ์ การสร้างองคค์ วามรู้ และการสรปุ ทบทวนของผ้เู รยี น ผลการดำาเนนิ กจิ กรรม 1. จากผลการทดสอบทฤษฎกี อ่ นและหลงั เรยี น พบวา่ คะแนนหลงั เรยี นมากกวา่ กอ่ นเรยี น แสดงวา่ ครสู ว่ นใหญม่ คี วามเขา้ ใจ ในการจัดกระบวนการเรยี นรูแ้ บบ Active Learning มากขึน้ 2. ในการปฏบิ ัตกิ ารจัดกิจกรรมภาษาอังกฤษแบบ Active Learning ครูสามารถออกแบบประยุกตก์ ิจกรรมสำาหรับพฒั นา ทกั ษะภาษาองั กฤษของผู้เรยี นในระดบั การเรยี นร้แู ตล่ ะระดับได้ 3. จากแบบสำารวจความพึงพอใจในหลักสูตรการอบรม ผลคะแนนอยู่ในระดับท่ีมากที่สุด เพราะครูสามารถนำากิจกรรม สำาหรบั พฒั นาทกั ษะภาษาอังกฤษมาประยุกตใ์ ช้ได้จรงิ ในชั้นเรยี นแต่ละระดบั ชั้นได้ สรุป การจัดการเรียนรู้ที่เน้นบทบาทและการมีส่วนร่วมของผู้เรียน (Active Learning) โดยการนำาเอาวิธี การสอน เทคนคิ การสอนทหี่ ลากหลายมาใชอ้ อกแบบแผนการจดั การเรยี นรแู้ ละกจิ กรรม กระตนุ้ ใหผ้ เู้ รยี นมสี ว่ น ร่วมในช้ันเรียน จะเป็นการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนและผู้เรียนกับผู้สอนได้ดีย�ิงขึ้น ซึ่งมีผล ทำาให้ผู้เรยี นเกดิ กระบวนการเรียนร ู้ สามารถประยกุ ต์ใชท้ ักษะใหเ้ หมาะสมกับการแกป้ ญหา และยังทำาใหผ้ เู้ รยี นมี คุณลักษณะสอดคลอ้ งกบั การเปล่ียนแปลงในยุคปจ จ�บนั อาจารยพ์ ม� เนตร เทพปญ ญา หัวหนา้ โครงการ 18
เพม� ประสิทธภิ าพ การจัดการผลติ มมปะามลวตองครดณุ ฐภภาาัยนพ 1.โครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการจัดการ ผลิตมะม่วงคุณภาพมาตรฐานปลอดภัย 2. ผศ. สนั ติ ช่างเจรจา หวั หน้าโครงการ 3. หมู่บ้านพระบาทหว้ ยตม้ ตาำ บลนาทราย อาำ เภอลี้ จังหวัดลำาพูน คำาสำาคญั “แนวทางการสนับสนุนความรู้เพ�่อให้เกษตรกรเข้าใจและเข้าถึงการจัดการผลิตมะม่วง ที่มีประสิทธิภาพ ได้คุณภาพมาตรฐานปลอดภัย จะเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกร ผผู้ ลติ มะมว่ งไดเ้ พม� ทกั ษะ และสามารถประยกุ ต์ใชค้ วามรเู้ พอ�่ การจดั การการผลติ มะมว่ ง ให้เกิดความความคุ้มค่าในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับเกษตรกรผู้ผลิตมะม่วง ”ตอ่ การพัฒนาอาชพี และพฒั นาคณุ ภาพชวี �ตของชมุ ชนทีม่ ัน่ คงต่อไป 19
บรกิ ารวชิ าการ เน้ือหา 2. การถ่ายทอดเทคโนโลยเี ชิงปฏบิ ตั กิ าร (เขา้ ถึง/พัฒนา) มะมว่ ง (Mangifera indeca L.) เป็นไมผ้ ล จัดเวทีถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การเพ่ิม ประสิทธิภาพการจัดการผลิตมะม่วงคุณภาพมาตรฐานปลอดภัย” เขตร้อนท่ีมีบทบาทสำาคัญตอ่ เศรษฐกิจของโลก ซงึ่ ประเทศไทยจัดเปน็ ในพนื้ ทเี่ ปา้ หมายใหก้ บั สมาชกิ โดยเนน้ การวางแผนงานภายใตก้ จิ กรรม แหล่งผลิตและส่งออกมะม่วงที่สำาคัญประเทศหนึ่งของเอเซียมีการ ตามผลสรปุ การดำาเนินงานท่ีตอ่ เน่ืองจากเวทที ่ี 1 มีการติดต่อประสาน สง่ ออกทั้งผลผลติ สดและแปรรปู สามารถสร้างรายไดเ้ ข้าสูป่ ระเทศปลี ะ งานผนู้ าำ ชมุ ชนเปน็ ระยะกอ่ นดาำ เนนิ งานเพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลการดาำ เนนิ งานทม่ี ี หลายล้านบาท การผลติ มะม่วงในปัจจุบันมีการปลูกโดยใช้พันธ์ุมะมว่ ง ประสิทธิภาพและตรงตามเปา้ หมายการดำาเนินงาน ท่ีมีความต้องการของตลาดมาปลูกเพ่ือรองรับความต้องการของตลาด เช่น พันธ์จุ ินหวง หรือ นวลคำา พันธ์ุR2E2 เป็นต้น เกษตรกรในหมบู่ า้ น กระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยีมีการประยุกต์ใช้หลักการ พระบาทห้วยต้ม ตำาบลนาทราย อำาเภอลี้ จังหวัดลำาพูนซ่ึงประชากร จัดการเรียนรู้ควบคู่กับเนื้อหาวิชาการเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมและ ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า “ปกาเกอะญอ” ได้มีการปลูกมะม่วงเป็นอาชีพ มกี ารสาธติ จากวทิ ยากรเสรมิ กระบวนการเรยี นรู้ เพอื่ เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ ขา้ สร้างรายได้โดยรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลกู มากกว่า 20 ราย มีพ้ืนทปี่ ลกู รว่ มกจิ กรรมไดแ้ ลกเปลยี่ นเรยี นรมู้ คี วามเขา้ ใจและเกดิ ทกั ษะทสี่ ามารถ มากกวา่ 300 ไร่ นาำ ความรู้ไปขยายผลทดลองปฏิบัติการในสวนของตนเองได้ จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าผลผลิตมะม่วงในพื้นที่ดังกล่าว 3. การติดตามและใหค้ ำาปรึกษา มกั ประสบปญั หาเนอ้ื ผลชาำ้ ไมส่ ามารถรบั ผลผลติ ไปจาำ หนา่ ยได้ ซง่ึ อาจเกดิ จากปจั จยั สาเหตหุ ลายๆประการ เชน่ ปจั จยั ขอ้ จาำ กดั ดา้ นสภาพอากาศ ติดตามและให้คำาปรึกษาในพื้นที่หลังสิ้นสุดการฝึกอบรม ในพ้ืนที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นท่ีดอนอาศัยน้ำาฝนในช่วงฤดูแล้งมีปริมาณนำ้า แลว้ เสรจ็ ภายใตก้ ลไกคณุ ภาพเพอ่ื การจดั การเรยี นรทู้ เ่ี กดิ ประสทิ ธภิ าพ ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาของผล นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านการจัดการ และประสิทธผิ ล (PDCA) ของเกษตรกรยังขาดความรู้และความเข้าใจในด้านการจัดการปฏิบัติ ดูแลรักษาต้นมะม่วงให้มีความพร้อมต่อการให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ผลการดาำ เนนิ กิจกรรม จงึ ทาำ ใหเ้ กษตรกรไมส่ ามารถผลติ มะมว่ งใหไ้ ดค้ ณุ ภาพตามทต่ี ลาดตอ้ งการ จนนาำ ไปสคู่ วามเสยี่ งตอ่ การขาดทนุ การผลติ และความมนั่ คงในการปลกู 1. เกดิ การจัดกิจกรรมฝก อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารให้กับสมาชกิ มะม่วงเป็นอาชีพ ของหมู่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่เครือข่ายหน่วยงานในชุมชนโครงการ หลวงผ่านกิจกรรมการสังเคราะห์ความรู้ โดยกระบวนการ SWOT ดังนั้น การสนับสนุนความรู้เพื่อให้เกษตรกรผู้ผลิตมะม่วง การใช้เทคนิคการเรียนรู้ด้วย บัตรคำา เพื่อการวิเคราะห์ประเด็นสำาคัญ ไดเ้ ขา้ ใจและเขา้ ถงึ การจดั การทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ จงึ เปน็ แนวทางทจ่ี ะชว่ ย ผา่ นประเด็นต่าง ๆ อาทิ การสร้างมลู คา่ เพิ่มเกษตรปลอดภยั ความรู้ สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรไดเ้ พมิ่ ทกั ษะและนาำ ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชป้ ระโยชน์ เทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการผลิตมะม่วงนอกฤดู วิธีการตัดแต่งกิ่งเตรียม ตอ่ การจัดการผลติ ใหเ้ กดิ ความคุม้ ค่า ไดม้ าตรฐาน ตอ่ การผลติ มะมว่ ง ตน้ การจดั การโรคแมลง รวมถงึ การจดั การธาตอุ าหารใหป้ ลอดภยั และ ของพืน้ ท่ี อนั จะสง่ ผลท่ีดีต่อเกษตรกรผผู้ ลิตมะม่วงในอนาคตตอ่ ไป ลดตน้ ทนุ เป็นตน้ แนวทางการดำาเนินกิจกรรมของคณะทำางาน 2. กอ่ เกิดการฝก ทักษะ ผา่ นการปฏิบัตกิ าร บนสถานการณ์ จรงิ อาทิ การฝกึ วเิ คราะหด์ นิ ผา่ นชดุ วเิ คราะหด์ นิ แบบรวดเรว็ การเรยี น 1. การวเิ คราะหช์ ุมชนแบบมสี ่วนร่วม (เขา้ ใจ) รู้ใช้ปุยให้มีประสิทธิภาพและต้นทุนตำ่าเหมาะสมกับการวิเคราะห์ดิน และเรยี นรู้ปัจจยั ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยเี พือ่ การผลติ เปน็ ตน้ เวทีแลกเปล่ียนเรยี นรู้วิเคราะห์ SWOT สถานการณ์การผลติ การดาำ เนนิ กจิ กรรมขา้ งตน้ สามารถชว่ ยใหเ้ กษตรกรมคี วามรยู้ ง่ิ ขนึ้ และ มะม่วงของชุมชน โดยทีมคณะดำาเนินงานติดต่อประสานงานกับเครือ สามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามรทู้ ไ่ี ดก้ บั พน้ื ทเ่ี พาะปลกู ของตนเองไดเ้ หมาะสม ขา่ ยชมุ ชนในพนื้ ทปี่ ระกอบดว้ ยเจา้ หนา้ ทห่ี นว่ ยงานศนู ยพ์ ฒั นาโครงการ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเร่ิมต้นของการเรียนรู้ เพื่อก่อเกิดการสร้างคุณภาพ หลวงพระบาทห้วยต้ม ผู้นำาและสมาชิกกลุ่มเป้าหมายท่ีจะเข้ารับการ ชีวิต คุณภาพชุมชน ยกระดับเกษตรกรผู้ผลิตมะม่วง ต่อการพัฒนา ฝกึ อบรมรว่ มแลกเปลีย่ นข้อมลู วเิ คราะห์ สรปุ และวางแผนการดาำ เนิน อาชีพและพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของชมุ ชนที่มั่นคงต่อไป งานถ่ายทอดเทคโนโลยี กำาหนดระยะเวลาและสถานที่อบรมในพื้นที่ วทิ ยากร จดั เตรยี มสอื่ การฝกึ อบรมเรยี นรู้ จดั หาวสั ดอุ ปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการ 20ฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ
สรปุ รอบรัว้ การสนับสนุนความรู้เร�่อง การเพ�มประสิทธิภาพ มหาว�ทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา การจัดการผลิตมะม่วงคุณภาพมาตรฐานปลอดภัย สามารถทำาให้เกษตรกร ได้เข้าใจและเข้าถึงการจัดการ ทปอ.ร่วมใจต้านภัยฝนุ ผลิตมะม่วงที่มีประสิทธิภาพ อีกท้ังยังเป็นการสร้างโอกาส ใหเ้ กษตรกรได้เพ�มทักษะ เพอ่ื การนำาไปประยกุ ต์ใชป้ ระโยชน์ วันท่ี 19 เม.ย. 62 มทร.ล้านนา ร่วมโครงการ ต่อการจัดการผลติ มะมว่ ง ใหเ้ กิดความค้มุ ค่า เหมาะสมกับ “ทปอ.ร่วมใจต้านภัยฝุน” พร้อมนำางานวิจัย นวัตกรรม แตล่ ะพน้ื ท ่ี กอ่ เกดิ การสรา้ งโอกาสทางการตลาด อนั จะสง่ ผล เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศและหน้ากากป้องกัน นำามาซึ่ง การยกระดับอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต ฝ่นุ ละออง PM 2.5 ผลงานของคณาจารยข์ องมหาวทิ ยาลัย ของชุมชนให้ดียิง� ข้ึน และเกิดความย่งั ยืน อย่างแท้จริงตอ่ ไป จัดนิทรรศการทางวิชาการเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้เข้าร่วม โครงการ ณ ห้องประชุมเชียงแสน ศูนย์ประชุมนานาชาติ ผศ. สนั ติ ช่างเจรจา คุ้มคำา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และในโอกาสเดียวกันน้ี รศ.ดร. พาณชิ อนิ ตะ หัวหน้าหน่วยวจิ ัยสนามไฟฟ้าประยกุ ต์สำาหรับ หัวหน้าโครงการ งานวิศวกรรมและรองผู้อำานวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีและ สหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้เข้าร่วมการเสวนา เรื่อง “ทางรอดวิกฤติหมอกควันด้วย องคค์ วามรวู้ จิ ยั และภมู สิ งั คม” พรอ้ มกบั นกั วจิ ยั จากสถาบนั การศกึ ษาในจงั หวดั เชยี งใหม่ ผแู้ ทนจากหนว่ ยงานภาครฐั และ ภาคเอกชน โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มคี วามพรอ้ มทจ่ี ะนาำ องคค์ วามรแู้ ละนวตั กรรมทมี่ อี ยเู่ ขา้ รว่ ม แกป้ ญั หาฝุ่นควันรว่ มกับทกุ ภาคสว่ น 21
บรกิ ารวชิ าการ กระเบื้องวาว 1. โครงการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ การผลิตกระเบอ้ื งหลงั คาโบราณทำามือดว้ ยซเี มนต์ “กระเบื้องว่าว” 2. ผศ.ดร.หริพล ธรรมนารกั ษ์ หวั หนา้ โครงการ 3. หมบู่ า้ นร่องกอ หมทู่ ่ี 4 ตำาบลแมค่ ำา อำาเภอแมจ่ ัน จังหวดั เชียงราย คาำ สาำ คญั “การจดั การแหลง่ การเรยี นร ู้ การผลติ กระเบอื้ งวา่ ว ใหเ้ ปน็ ฐานเรยี น รเู้ ชงิ ปฏบิ ตั กิ ารดา้ นวฒั นธรรมในชมุ ชนหมบู่ า้ นตน้ แบบเศรษฐกจิ พอ เพ�ยง นอกจากจะเป็นการสร้างแหล่งเรียนรู้ แหล่งฝกทักษะแล้ว ยัง เป็นการส่งเสร�มให้เกิดความร่วมมือ เสร�มสร้างความเข้มแข็งให้กับ คนชมุ ชน ซงึ่ สง่ ผลนาำ มาซงึ่ สมั มาอาชพี และคณุ ภาพชวี ต� ทดี่ ขี องคน ”ชมุ ชน ทม่ี ่ันคงและย่งั ยนื 22
จึงเป็นที่มาของการดำาเนินกิจกรรมถ่ายทอด เสริมสร้าง องค์ความรู้ระหว่างนักวิชาการและชุมชน เก่ียวกับ กระบวนการผลิต กระเบ้ืองหลังคาโบราณทำามือด้วยซีเมนต์ “กระเบ้ืองว่าว” ด้วย กรรมวิธีการผลิตแบบด้ังเดิม ให้แก่คนในชุมชน จึงเป็นการตอบโจทย์ ทางวชิ าการ ท่ีจะสามารถชว่ ยให้ชุมชนไดค้ วามรู้ ได้ประโยชน์ สามารถ บูรณะ ซ่อมแซม หลังคาโบราณ บนพุทธสถานได้ด้วยตนเอง อย่างมี ประสิทธิภาพ และก่อเกิดการสร้างแหล่งเรียนรู้ ด้านวัฒนธรรม ที่จะ ส่งเสริมให้คนในพื้นที่เกิดการเรียนรู้และฝึกทักษะ เพื่อการพัฒนา ต่อยอด ความร้ทู ่ไี ด้รับ ส่กู ารประยกุ ต์ใชป้ ระโยชนใ์ นรูปแบบอืน่ ๆ และ ยงั จะกอ่ เกิดความเข้มแข็งใหก้ ับคนชุมชน ซงึ่ ส่งผลนาำ มาซ่ึงสมั มาอาชพี และคุณภาพชวี ิตทีด่ ขี องคนชมุ ชน ท่มี น่ั คงและยง่ั ยนื ต่อไป แนวทางการดาำ เนนิ กิจกรรมของคณะทาำ งาน ดาำ เนนิ การใหค้ วามรแู้ ละทาำ การอบรมแกค่ นในชมุ ชน ผา่ นการ ปฏิบัติจริง โดยมรี ายละเอียดขัน้ ตอนดงั น้ี ขั้นตอนการผลิตกระเบ้ืองหลังคาโบราณทำามือด้วยซีเมนต์ มขี น้ั ตอนการผลติ ดังนี้ 1) การเตรยี มวัสดุส่วนผสมซีเมนต์ 1.รอ่ นสว่ นผสมทใี่ ช้ ไดแ้ ก่ ปนู ซเี มนต์ ทราย ดว้ ยตะแกรงรอ่ น เพือ่ ดกั ปนู ซีเมนต์ทจ่ี บั ตัวเปน็ กอ้ นหรอื กรวดเมล็ดทรายขนาดใหญ่ออก เน้อื หา ภาพแสดง การร่อนทรายด้วยตะแกรงรอ่ น “กระเบ้ืองว่าว” เป็นกระเบ้ืองหลังคาโบราณ รูปทรง 2.เตรยี มแบบพมิ พโ์ ดยทาำ ความสะอาดและชโลมนา้ำ มนั บนแบบ พมิ พ์ สเ่ี หลี่ยมขนมเปยี กปนู หรอื สีเ่ หล่ยี มขา้ วหลามตัด หน้าตาเหมือน ว่าวปักเป้าสมัยโบราณ กระเบ้ืองว่าว ถือได้เป็นกระเบื้อง ภาพแสดง การชโลมนำ้ามนั แบบพมิ พ์กระเบือ้ ง โบราณทีม่ ีความคลาสสกิ สไตล์ไทยยอ้ นยุค ท่มี กั ถูกใช้สำาหรบั มงุ สถาปัตยกรรม อาคาร สิง่ กอ่ สรา้ ง ของศาสนสถานในอดตี หลาย แห่ง ให้เกิดความสวยงาม มีเอกลักษณ์แบบสถาปัตยกรรมไทย สถาปตั ยกรรมแบบลา้ นนา วดั รอ่ งกอ ตาำ บลแมค่ าำ อาำ เภอแมจ่ ัน จงั หวดั เชยี งราย เป็นวัดแห่งหน่ึง ท่ีมีประวัติว่าถูกสร้างขึ้นมาอย่างยาวนาน มากกวา่ ร้อยปี และยังคงมกี ารใช้กระเบ้อื งวา่ ว ในการมุงอาคาร ส่ิงก่อสร้าง ในพื้นท่ีของตัววัด ด้วยเหตุนี้ คนในชุมชนและวัด ร่องกอ จึงมีความต้องการท่ีจะอนุรักษ์ รูปแบบสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างโดยเฉพาะกระเบ้ืองหลังคาแบบดั้งเดิมให้ยังคงอยู่คู่ กับชมุ ชนต่อไป 23
บรกิ ารวชิ าการ 3. เตรียมปูนซีเมนต์ปอร์ดแลนด์ประเภท 1 และทรายตาม 5. ปาดผวิ หนา้ กระเบอ้ื งหลงั คาโบราณดว้ ยซเี มนตใ์ หเ้ รยี บโดย สดั ส่วนทเ่ี หมาะ (ปนู ซีเมนต์ : ทราย = 1:3) ใช้ไม้หรือเหล็กที่มีความเรียบ ตกแต่งผิวหน้าขัดมันโดยใช้ปูนซีเมนต์ ผงโรยบนพื้นผิวในขณะทสี่ ว่ นผสมปูนซเี มนตย์ ังหมาด ๆ 2) การผลติ กระเบ้อื งหลงั คาโบราณทำามือดว้ ยซเี มนต์ 1. นาำ สว่ นผสม (ปนู ซเี มนตป์ อรด์ แลนดป์ ระเภท 1 และทราย) ตามสัดส่วนเทลงในภาชนะผสมและผสมให้เป็นเนื้อเดียวตามสูตร สว่ นผสมทีต่ อ้ งการ ภาพแสดง การผสมสว่ นผสมตามอตั ราสว่ นผสม ภาพแสดง การแต่งผิวหน้าให้เรียบและขัดมันผิวหน้าแผ่นกระเบ้ืองด้วย ปูนซเี มนตผ์ ง 2. นำานำ้าที่ตวงไวแ้ ล้วเทใส่สว่ นผสม (ในขนั้ ตอนนี้อาจผสมน้ํา ยากันซึมหรืออาจแชกระเบื้องหลังคาโบราณด้วยซีเมนต์ที่ได้ในนํ้ายา 6. ปันขอบกระเบ้ืองด้านข้างกันน้ำาไหลย้อนส่วนบนของ กนั ซึมเปนขนั้ ตอนสุดทา้ ยก็ได)้ แผ่นกระเบื้องหลังคาโบราณด้วยซีเมนต์อีกครั้ง พร้อมตกแต่งขอบให้ เรียบร้อย 3. ผสมสว่ นผสมใหเ้ ขา้ กนั และสงั เกตใหเ้ นอ้ื สว่ นผสมมลี กั ษณะ หมาด ๆ ภาพแสดง การปนขอบกระเบอ้ื งก้ันนำ้าไหลยอ้ น 4. นาำ ไปหลอ่ อดั ขนึ้ รปู ในแบบพมิ พท์ เ่ี ตรยี มไว้ (แบบพมิ พต์ อ้ ง 7. จากนั้นค่อย ๆ เหยียบดันแผ่นรองแบบพิมพ์กระเบื้อง ทานาํ้ มันเครอ่ื งที่ไมใชแ้ ล้วให้ทั่ว) โดยอัดปูนซีเมนตใ์ ส่ในแบบพมิ พต์ าม หลงั คาโบราณดว้ ยซเี มนตข์ นึ้ และยกแผน่ รองแบบพมิ พพ์ รอ้ มกระเบอื้ ง รูปทรงของกระเบอื้ งหลงั คาโบราณดว้ ยซีเมนต์ท่ตี อ้ งการ หลงั คาโบราณทห่ี ลอ่ ซเี มนตเ์ สรจ็ แลว้ อยา่ งระมดั ระวงั ไปผง่ึ ไวใ้ นทรี่ ม่ โดย ไม่ให้โดนแสงแดดมาก เปน็ ระยะเวลาประมาณ 1 วันหรอื 24 ชว่ั โมง ภาพแสดง การหล่ออดั ขึ้นรูปแผน่ กระเบอ้ื งในแบบพมิ พ์ ภาพแสดง การยกแผ่นแบบพมิ พ์พร้อมกระเบอ้ื ง 24
8. ถอดแบบพมิ พอ์ อกและนำาไปบ่มโดยการแช่น้าำ หรือพรมน้ำาที่ระยะเวลา 7 ถงึ 28 วนั จงึ สามารถนาำ ไปใชง้ านได้ ทงั้ นีส้ ว่ นผสมในการทาำ กระเบ้ืองหลังคาโบราณดว้ ยซีเมนตป์ ระกอบดว้ ย ปูนซีเมนต์ (ปอรด์ แลนดป์ ระเภทที่ 1) ทรายและนำา้ ซึ่งเป็นส่วนผสมท่ีปราชญ์ชาวบ้านใช้เป็นส่วนผสมในการทำากระเบ้ืองหลังคาโบราณทำามือด้วยซีเมนต์เหมือนกัน แต่จะแตก ต่างกันเรอ่ื งอตั ราส่วนผสม ผลการดาำ เนนิ กจิ กรรม 1. เกดิ การอนุรักษ์ภูมปิ ญญาและวฒั นธรรมดง้ั เดมิ ในท้องถ่นิ ผ่านการเรยี นรู้การผลติ กระเบื้องหลังคาโบราณ 2. เกิดการจัดกจิ กรรมฝก อบรม ฝกทักษะ เชิงปฏิบตั กิ าร บนสถานการณ์จริง ให้กับคนในชุมชน 3. เกิดแหล่งเรียนรขู้ องชุมชน ผา่ นการสรา้ งงานสรา้ งอาชีพ สรุป ผศ.ดร.หริพล ธรรมนารักษ์ การอบรมให้ความรู้ เร่�อง การผลิตกระเบื้องหลังคา โบราณทำามือด้วยซีเมนต์ ทำาให้ชุมชนได้กระเบ้ืองหลังคาโบราณ หวั หนา้ โครงการ ที่มีราคามีต้นทุนตำ่ากว่าราคาตามท้องตลาด เกิดการพัฒนา ทกั ษะเพอ่ื การสรา้ งงานสรา้ งอาชพี และสรา้ งความรสู้ กึ ภาคภมู ใิ จ ให้แก่คนในชุมชน ที่ได้ร่วมกันส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปญญาและ วฒั นธรรมทอ้ งถน�ิ ผา่ นการเรยี นรแู้ ละปฏบิ ตั ริ ว่ มกนั อนั จะนาำ พา ซง่ึ การยกคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชนใหเ้ กดิ ความเขม้ แขง็ และดี ยิง� ข้นึ ตอ่ ไป 25
บรกิ ารวชิ าการ การทาํ เครอ่ื งหอมไทยโบราณ ชุมชนหมูบานนํ้าโจน 1. โครงการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ การทำาเครอื่ งหอมไทยโบราณ 2. ผศ.เนาวลักษณ์ เอ้อื พิชญานนท์ หวั หน้าโครงการ 3. ชมุ ชนหมบู่ ้านนา้ำ โจน ตำาบลวงั หนิ อาำ เภอเมอื ง จงั หวัดตาก 26
คำาสาำ คญั “การใหช้ มุ ชนได้ความรู้ ด้วยการต่อยอดผลผลิตทมี่ ีอยใู่ นชมุ ชน นอกจากจะเปน็ การ สร้างมลู คา่ เพ�ม ให้แก่ผลผลิตของคนในชุมชนแล้ว ยงั สง่ ผลทาำ ให้เกิดรายได้เข้ามาสู่ ครัวเร�อน โดยทช่ี มุ ชนไมต่ อ้ งลงทุนเพม� แตอ่ ย่างใด ถอื เปน็ การเพ�มมูลค่า สรา้ งความ ”เขม้ แข็ง แกช่ มุ ชน โดยชุมชนอยา่ งแท้จร�ง เนอื้ หา แนวทางการดาำ เนินกิจกรรมของคณะทาำ งาน หมู่บ้านนำ้าโจน เป็นหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ท่ี ตำาบลวังหิน อำาเภอ 1. การลงพื้นที่เพอ่ื ดำาเนินกิจกรรม โดยระบขุ น้ั ตอนและ เมอื ง จังหวดั ตาก มภี มู ปิ ระเทศในลกั ษณะของพ้นื ท่รี าบลุ่ม มีแม่นาำ้ ปงิ ไหลผา่ น เหมาะสมสำาหรับการทาำ เกษตรกรรม วิธกี าร คณะทำางานได้ทำาการติดต่อ และประสานงานร่วมกับ หมบู่ า้ นนา้ำ โจน ในแตล่ ะครวั เรอื นมแี มบ่ า้ นทที่ าำ งานอยทู่ บี่ า้ น หนว่ ยงานของชมุ ชน เชน่ ผใู้ หญบ่ า้ นหมบู่ า้ นนาำ้ โจน หรอื ผนู้ าำ กลมุ่ ชมุ ชน ปลกู พชื สวนครวั สมนุ ไพร ดอกไมไ้ ทย เชน่ มะลิ กระดงั งา กหุ ลาบมอญ บ้านน้าำ โจน ซงึ่ แบง่ ขอ้ มูลท่ตี อ้ งการเกบ็ ออกเปน็ 2 กลุ่ม คือ 1) ข้อมูล ดาวเรอื ง ดอกพุด ใบเตย ตะไคร้ ไว้ทกุ ครัวเรือน มผี ลผลิตจากพืชพนั ธ์ ปฐมภูมิ (Primary Data) เปน็ ข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ งกบั ดังกล่าว ในจำานวนมากตลอดท้ังปีตามฤดูกาล แม่บ้านจึงได้อาศัยการ ชมุ ชนบา้ นนา้ำ โจน ตาำ บลวงั หนิ อาำ เภอเมอื งตาก จงั หวดั ตาก ซงึ่ มวี ธิ กี าร ร้อยดอกไมส้ ดขาย เพือ่ เปน็ การหารายไดเ้ พม่ิ เตมิ แกค่ รอบครวั เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยใชว้ ธิ กี ารสมั ภาษณ์ การสงั เกตการณ์ การถา่ ยภาพ และการถ่ายวีดีโอ เป็นต้น ข้อมูลที่ได้จะนำามาพัฒนาต่อเป็นหลักสูตร ด้วยเหตุนี้ การดำาเนินกจิ กรรมถ่ายทอด เสริมสรา้ งองค์ความ ระยะส้ันที่เหมาะสมกับชุมชนต่อไป 2) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary รูจ้ ากนกั วชิ าการสชู่ ุมชนบา้ นน้ำาโจน ผา่ นกระบวนการใหค้ วามรเู้ กี่ยว Data) เป็นข้อมลู ท่ไี ม่ได้เก็บรวบรวมเอง แต่มผี ูอ้ ืน่ หรือ หนว่ ยงานอ่ืน กับการทำาเครือ่ งหอมไทยโบราณ จึงเปน็ ต่อยอดผลผลิตท่ีมีอยูใ่ นชมุ ชน ๆ ทำาการเก็บรวบรวมไวแ้ ล้ว เช่น จากรายงาน ทีพ่ มิ พ์แล้ว หรือยงั ไม่ได้ และเปน็ การตอบโจทยข์ องการเขา้ ชว่ ยเหลอื ชมุ ชนดว้ ยองคค์ วามรู้ เพอ่ื สรา้ งมลู คา่ เพม่ิ ใหแ้ กผ่ ลผลติ ของคนในชมุ ชน และยงั ทาำ ใหก้ อ่ เกดิ รายได้ เขา้ มาสคู่ รวั เรอื น สง่ ผลตอ่ คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี องคนชมุ ชนบา้ นนา้ำ โจนตอ่ ไป พิมพ์ของ หนว่ ยงานของรฐั บาล สมาคม บริษทั สาำ นกั งานวจิ ยั นักวจิ ยั วารสาร หนังสือพิมพ์ เป็นต้น ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการ ดำาเนินการจัดทำาหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นแล้ว จึงทำาการประชุมผู้ที่ เกยี่ วขอ้ งเพอื่ หารอื เกย่ี วกบั การออกแบบหลกั สตู รระยะสน้ั ทจี่ ะสามารถ สร้างองค์ความรู้ และก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนได้อย่างแท้จริง และย่ังยืนตอ่ ไป 27
บรกิ ารวชิ าการ 2. อธิบายถึงการมสี ่วนรว่ มของชุมชน สถาน ประกอบการ หรือผู้ใช้ผลงานวชิ าการ เกิดการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในชุมชน บ้านน้ำาโจน ที่มีส่วนร่วมในการประชุม ให้ข้อมูลด้าน ความต้องการแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรและดอกไม้ ไทยของชมุ ชนกอ่ ใหเ้ กดิ กระบวนการคดิ และวเิ คราะห์ เพื่อพัฒนาหลักสูตรระยะส้ันที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดแก่ชุมชน โดยการออกแบบหลักสูตรจากความ ต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง และต้องเป็นการใช้ ประโยชนจ์ ากพชื สมนุ ไพรและดอกไมไ้ ทยทมี่ อี ยแู่ ลว้ ใน ชมุ ชน สรา้ งเอกลกั ษณข์ องชมุ ชนบา้ นนาำ้ โจน และสรา้ ง องค์ความรู้ที่สามารถถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลังได้ใช้ใน การประกอบอาชพี และสรา้ งรายไดใ้ หแ้ กช่ มุ ชน และ ครอบครวั อยา่ งยัง่ ยืน 3. ระบุองค์ความรู้และช่ือหลักสูตรฝกอบรม ระยะสนั้ ทจ่ี ะใช้ในการแก้ไขปญ หาหรอื พฒั นา การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการผลิต เครื่องหอมไทยโบราณชุมชนหมู่บ้านนำ้าโจน ตำาบล วังหนิ อาำ เภอเมืองตาก จงั หวัดตาก 4. การประเมนิ ผลหรอื การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ขนึ้ จาก ผลของการถ่ายทอดหรอื ใชอ้ งคค์ วามรู้ คณะทำางานได้ทำาประเมินผลโครงการฝึกอบรม เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการผลติ เครอ่ื งหอมไทยโบราณจากกลมุ่ ผเู้ ขา้ ร่วมฝึกอบรมชาวบ้านชุมชนบ้านนำ้าโจน ตำาบลวังหิน อำาเภอ เมือง จังหวดั ตาก จำานวนทงั้ สิ้น 20 คน โดยใชก้ ารประเมินผล จากแบบสอบถามการเข้าร่วมโครงการฝกึ อบรมดังกล่าว 5. การงส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน สถาน ประกอบการ เก่ียวกับปญ หาประเด็นดงั กลา่ ว หลงั จากเขา้ รว่ มฝกึ อบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารดา้ นการผลติ เครอื่ งหอมไทยโบราณ แลว้ นน้ั มกี ารตดิ ตามผล และสง่ เสรมิ ให้ ชาวบา้ นชมุ ชนบา้ นนาำ้ โจน ตาำ บลวงั หนิ อาำ เภอเมอื งตาก จงั หวดั ตาก ปลกู พชื สมนุ ไพรและดอกไมไ้ ทย เพอ่ื นาำ มาผลติ เปน็ นา้ำ อบ ไทยและแป้งพวง และส่งเสริมด้านการทำาตลาด เพื่อสร้าง รายไดใ้ หแ้ กช่ มุ ชนบา้ นนา้ำ โจน ตาำ บลวงั หนิ ตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื 28
ผลการดาำ เนนิ กิจกรรม 1. คนในชมุ ชนมีการพฒั นาตนเองในดา้ นความ รคู้ วามสามารถในการทำาเครื่องหอมไทยโบราณมากขึน้ 2. คนในชมุ ชนมที กั ษะสามารถนาำ ความรทู้ ไี่ ดไ้ ป ผลิตเครื่องหอมไทยโบราณเพ่ือจาำ หน่ายและใชภ้ ายใน ครวั เรอื นได้ 3. คนในชุมชนสามารถขยายสายการผลิต ผลิตภณั ฑ์ของชมุ ชนหมู่บา้ นน้ำาโจน โดยใชว้ ัตถดุ ิบทมี่ ี ภายในชุมชนมาแปรรปู เปน็ ผลิตภัณฑใ์ หม่ คอื นำา้ อบไทย และแปง้ พวง 4. เกิดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ระหวา่ งคณาจารย์ บคุ ลากร นกั ศกึ ษา และภาคประชาชน เพิม่ มากขึน้ ผศ.เนาวลักษณ์ เอื้อพ�ชญานนท์ สรุป หัวหนา้ โครงการ การดาำ เนนิ การอบรมใหค้ วามรู้ในหลกั สตู รการทาำ เครอ่� งหอมไทยโบราณ แก่ คนในชมุ ชนบ้านนาำ้ โจน ทำาให้ ผเู้ ข้ารับการอบรมไดพ้ ฒั นาความรู้ และสามารถผลติ เครอ่� งหอมไทยโบราณไว้ใช้ในครวั เรอ� นได ้ และสามารถนาำ วตั ถดุ บิ ทม่ี อี ยใู่ นชมุ ชน เชน่ ดอกการเวก ดอกจำาป ดอกดาวเรอ� ง ดอกกหุ ลาบ มาเปน็ ส่วนผสมในเคร่อ� งหอมท่ี ผลติ โดยชุมชนไดต้ ้นแบบผลติ ภัณฑเ์ คร่�องหอมไทยโบราณ ที่สามารถน้ำาไปผลิตใช้ และจำาหนา่ ย เพอื่ การสร้างรายได้ในอนาคตตอ่ ไป 29
ค่คู ดิ มิตรชมุ ชนปญหา ถาม-ตอบ ในคอลมั น์ “คคู่ ิดมติ รชุมชน” ในวารสารแก้วปญญาฉบบั นี้ ไดท้ ำาการสรปุ ขอ้ ปญหาและ แนวทางการแกป้ ญ หา จากการทาำ งานจรงิ ของคณะทาำ งานมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ภายใตภ้ ารกจิ การสนองงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาำ ริ ศนู ยพ์ ฒั นาพนั ธพ์ุ ชื จกั รพนั ธเ์ พญ็ ศริ ิ อำาเภอแมส่ าย จงั หวดั เชยี งราย มานาำ เสนอแก่ผู้อ่าน เพ่ือเปน ความรู้ และเปนประโยชนต์ ่อผู้ที่พบ ปญหาหรือกำาลังศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปญหาที่มีลักษณะของปญหาคล้ายกัน ซึ่งคณะทำางาน ได้ทำาการสรุปข้อปญหาและแนวทางการแก้ไขโดยผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้ประเด็นปญหาต่างๆ ซ่ึงมี รายละเอียดดังน้ี 1. เกดิ ปญ หาการระบาดของหนอนใยผกั หนอนกระทู้ในกวางตงุ้ (ใบ) ทาำ ให้ไดผ้ ลผลติ น้อยลง มีวธิ ีดำาเนินการแก้ไขปญ หาอยา่ งไร? คำาตอบ : ใช้วิธีกลกำาจัดหนอนกระทู้ด้วยการเก็บตัวทำาลายในช่วงเช้า พ่นสารชีวภัณฑ์ โอแบค เชื้อราเมตาไรเซียม บิวเวอร์เรีย สารสกัดจากพืช หางไหล ยาสูบ และสารสกัดสะเดาพ่น ในช่วงเย็น โดยใช้อตั รา 200 - 400 ซซี ี ตอ่ นาำ้ 20 ลติ ร โดยพน่ ให้ถูกตัวแมลงสลับพ่นทกุ ๆ 7 วัน 2. เกดิ ปญ หากบั กวางตงุ้ ใบในระยะตดิ ฝก ในชว่ งฤดหู นาวทนี่ าำ้ คา้ ง และหมอกลง ทาำ ให้ ผลผลิตเสียหาย เกดิ ผลกระทบต่อการผลติ เมล็ดพันธุ์ ควรดำาเนินการอยา่ งไร? คำาตอบ : ใช้วิธีการรดนำ้าล้างหมอกทั้งต้นออกในช่วงเช้า พ่นสารชีวภัณฑ์ป้องกัน ไตรโคเดอร์มา ในช่วงเชา้ และเย็น โดยพน่ สลบั ทกุ ๆวันทีห่ มอกลงจดั 3. เกดิ การระบาดของโรคเห่ยี วเขียวในพืชตระกลู พรกิ มีแนวทางการแก้ไขอย่างไร? คำาตอบ : รองกน้ หลุมด้วยไตรโคเดอรม์ า อตั รา 1 ชอ้ น/หลมุ พน่ (BS) Bacillus subtilis สลับกับไตร โคเดอร์มา ช่วงเชา้ หรือเยน็ ทุก 7 วนั ถอนต้นทเ่ี ป็นโรคใส่กระสอบทิง้ ทำาลาย ปลกู พืชหมนุ เวียนกบั พชื ตระกูลอื่น เพือ่ เป็นการป้องกัน และเป็นการฆา่ เชอื้ โรคในดนิ ไถตากดินอยา่ งน้อย 1 อาทติ ย์ 4. มะเขอื เทศ เกดิ ปญ หาไวรสั ระบาดในชว่ งฤดฝู นทาำ ให้ใบเหลอื งใบดา่ ง หงกิ งอ ไมค่ อ่ ย เจรญิ เตบิ โต จงึ เกบ็ ผลผลิตไดน้ ้อย มีแนวทางการแก้ไขอยา่ งไร? คำาตอบ : ใช้ยาสูบในการพ่นขับไหลแมลงหวี่ขาวซึ่งเป็นพาหะนำาโรค เช้าหรือเย็น ทุก 5-7 วัน ตน้ ทอี่ าการหนกั ถอนตน้ ทเ่ี ปน็ โรคใสก่ ระสอบทง้ิ ทาำ ลาย ปลกู พชื หมนุ เวยี นกบั พชื ตระกลู อนื่ เพอ่ื เปน็ การ ป้องกนั 30
ภาพโดย: วิทยา กววี ทิ ยาภรณ์ กองประชาสมั พันธ์ มทร.ล้านนา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ได้เข้าร่วมดำ�เนินกิจกรรมด้านพืชกับศูนย์พัฒนา พันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ตั้งแต่ปี 2552 ภายใต้ พระราชกระแสรบั สง่ั ของสมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี โดยทำ�หน้าท่ีในการรวบรวมพันธ์ุพืช อาหารพ้ืนบ้าน ปรับปรุงและพัฒนาพันธุ์พืชให้ เกษตรกร ได้มีพืชที่มีสายพันธุ์ที่ดี ทนทานต่อโรค และแมลง ได้ผลผลิตทดี่ ที ีจ่ ะคัดเลือกพันธุ์ที่ดี เพ่อื เปน็ เมลด็ พนั ธพ์ุ ระราชทานใหแ้ กร่ าษฎรทว่ั ไปรวมถงึ ราษฎรท่ีประสบภัยพิบัติเพ่ือให้เกษตรกรนำ�พันธ์ุ ไปขยายหรอื ปลกู เอง เปน็ รายไดเ้ ลยี้ งชพี ในอนาคต 31
32
รอบร้วั มหาวท� ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ฝก อบรมความรว่ มมอื เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพ ..................................................................................................................................................................................................................... การพัฒนาโครงการเชงิ ปฏิบัตกิ าร การผลติ ข้าวของสมาชิกสหกรณวดั จันทน หลกั สตู รพลงั งานเพอื่ ชมุ ชน วนั ที่ 14 มถิ ุนายน 2562 ทห่ี ้องประชุม 16208 อาคาร วันที่ 14-16 มิถุนายน 2562 บุคลากร มทร.ล้านนา ปฏิบัติการความเชี่ยวชาญด้านเกษตรปลอดภัย มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ลงพ้นื ท่ีหมูบ่ ้านกองกาน ต.แมศ่ ึก อ.แม่แจม่ จ.เชยี งใหม่ เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก สหกรณ์วัดจันทน์ จำากัด ทาำ หนา้ ทเี่ ปน็ พเ่ี ลย้ี งชมุ ชนในการตดิ ตาม แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และให้ รว่ มกับ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา พิษณุโลก และ ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ คดิ เหน็ ทางวชิ าการ รว่ มกบั ตวั แทนผบู้ รหิ ารบรษิ ทั บริษัท ดับเบิวเอสเอ็น เทคโนโลยี จำากัด ร่วมลงนามบันทึก ปตท. จาำ กดั (มหาชน) และตวั แทนชมุ ชนบา้ นกองกานทเี่ ขา้ รบั การ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื และ จดั โครงการ ฝกึ อบรมความรว่ มมอื เพอื่ อบรมหลักสูตรพลังงานเพื่อชุมชน (พพช.) รุ่นที่ 6 ภายใต้ พัฒนาคุณภาพการผลิตข้าวของสมาชิกสหกรณ์วัดจันทน์ จำากัด กิจกรรมการติดตามการพัฒนาโครงการเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร ตามโครงการผลิตข้าวคุณภาพตลาดทางเลือกของชาวนาผ่าน พลงั งานเพ่ือชุมชน โดยแบง่ เป็น 2 ทีมดังนี้ ทมี ที่ 1 พเ่ี ลย้ี งชมุ ชน กลไกลสหกรณ์ ขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ ดา้ นกระบวนชมุ ชนและดา้ นสอ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ ประกอบดว้ ย โดยมี พลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ ประธานสถาบันพัฒนาสี่แยก ดร.พศิ าพิมพ์ จันทร์พรหม อาจารย์ประจำากลมุ่ วิชาภาษาและการ อินโดจนี เปน็ ประธานในพิธี ทัง้ นี้ เพ่ือรว่ มกนั ผลติ ข้าวคณุ ภาพ ส่ือสาร อาจารย์พรพิพัฒน์ ทองปรอน อาจารย์ประจำาหลักสูตร ใหก้ บั เกษตรกรและประชาชน ต่อไป ระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ คณะบริหารธุรกิจและ ศิลปศาสตร์ และนายนริศ กำาแพงแก้ว นักวิชาการคอมพิวเตอร์ สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มทร.ล้านนา ทีมที่ 2 พ่ีเล้ียง ชมุ ชนดา้ นวศิ วกรรมเครอ่ื งกล ไดแ้ ก่ อ.ศรีธร อปุ คาำ อ.ดร.ธวัชชยั อ่นุ ใจจม อ.ทวีศกั ดิ์ มหาวรรณ์ และอ.กนก ภูคาม อาจารย์ประจาำ สาขาวศิ วกรรมเคร่ืองกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมสำารวจกับชุมชน ในการศึกษา ความเป็นไปได้ ของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นต้นกำาลัง เพื่อ ผนั นาำ้ จากลาำ นาำ้ แมแ่ จม่ ไปใชง้ านในระบบประปาหมบู่ า้ นและระบบ นา้ำ ใชเ้ พอ่ื การเกษตร ทง้ั นเี้ พอื่ เปน็ การชว่ ยชมุ ชนในการลดคา่ ใชจ้ า่ ย สร้างรายได้ เพิ่มพ้ืนท่ีเขยี ว สรา้ งสขุ ภาวะชุมชน และเกิดกลไกการ จดั การระบบนาำ้ เพอื่ ใหส้ รา้ งความยงั่ ยนื แกห่ มบู่ า้ นตอ่ ไปในอนาคต 33
ของมนั ต้องแชร์ นศ.มทร.ลา้ นนา ควา้ รางวลั พ�เศษ Popular vote GL“กirรvีนeiอenยู่ngดี ” นายสุประวีณ์ งำาเมือง, นายเอกพันธ์ กนั เยน็ , นายทีปตพ์ ล สิทธิธรรม, นายอรรถพันธ์ุ ไชยวรรณ และนายกิตตศิ ักด์ิ แซ่จง นกั ศกึ ษาสาขา สถาปตั ยกรรมศาสตร์ ชนั้ ปที ี่ 4 คณะศลิ ปกรรมและ สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลลา้ นนา คว้ารางวลั พิเศษ Popular vote จากการนำาเสนอการออกแบบระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2562 ณ อิมแพค เมืองทองธานี ในงานสถาปนคิ 62’ จัดโดยสมาคม สถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้ แนวคิด “กรนี อยู่ ดี : Living Green” 34
การใชว้ ัสดเุ หลือท�งิ ยาสูบเปนแหล่งธาตุไนโตรเจนสาำ หรบั การผลิตปุยอนิ ทร�ย TroeNbsca-iodcsmucooeuprowacsseattisfnhotgeer รศ.ดร.บัญจรัตน์ โจลานันท์ อาจารย์ประจำาหลักสูตรวิศวกรรม สิง่ แวดล้อม คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา นำาเสนอผลงานวิจัย “การใช้วัสดุเหลือท้ิงยาสูบเป็นแหล่งธาตุไนโตรเจน สาำ หรบั การผลติ ปยุ อนิ ทรยี ”์ (Tobacco waste residue as the N-source for composting) ในงานการประชุมวิชาการระดับชาตมิ หาวทิ ยาลัยทกั ษิณ ครง้ั ท่ี 29 ประจาำ ปี 2562 ระหวา่ งวนั ที่ 9-10 พฤษภาคม 2562 ณ โรงแรม สยามออเรียนทัล อำาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยผลงานวิจัย “การใช้ วัสดุเหลือทิ้งยาสูบเป็นแหล่งธาตุไนโตรเจนสำาหรับการผลิตปุอินทรีย์” คว้ารางวัลระดับดีมาก Session 1 (นวัตกรรมและผลงานสร้างสรรค)์ 35
ของมนั ต้องแชร์ ควา้ ชยั การแข่งขนั ฝีมอื ศนู ยแ์ มคคาทรอนกิ สแ์ ละออโตเมชน่ั คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มทร.ลา้ นนา สง่ นกั ศกึ ษา แรงงานแห่งชาติ สาขาวศิ วกรรมระบบควบคมุ อตั โนมตั ิ และสาขาวศิ วกรรมไฟฟา้ เขา้ รว่ มการแขง่ ขนั ฝมี อื แรงงาน (ระดบั ภาค) แหง่ ชาติ คร้ังที่ 28 (ระดบั ภาค) ประจ�ำ ปี พ.ศ. 2562 ณ สถาบันพฒั นาฝมี ือแรงงาน 5 แหง่ ไดแ้ ก่ สถาบนั พฒั นาฝมี อื แรงงาน ภาค 1 สมุทรปราการ สถาบันพัฒนาฝมี อื แรงงาน ภาค 6 2 8ครง้ั ท่ี ขอนแก่น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 10 ลำ�ปาง สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 9 พษิ ณุโลก และ สถาบันพฒั นาฝีมือแรงงาน ภาค 8 นครสวรรค์ โดยการควบคุมทมี ของอาจารย์ ธรายุทธ กิตติวรารัตน์และอาจารย์จักรรินทร์ ถ่ินนคร ซ่ึงผลการแข่งขันปรากฏว่านักศึกษา สามารถควา้ ชยั ในการแขง่ ขนั ในสาขาตา่ ง ๆ ซงึ่ ทมี ทไ่ี ดร้ บั รางวลั เหรยี ญทองจะไดร้ บั สทิ ธใิ์ นการ แข่งขนั ระดบั ประเทศใน พ.ศ. 2563 ตอ่ ไป ดงั น้ี รางวลั 3 เหรยี ญทองในสาขาแมคคาทรอนิกส์ รางวัล 3 เหรียญทองในสาขาหุ่นยนตเ์ คล่อื นที่ รางวลั 1 เหรยี ญเงนิ ในสาขาหุ่นยนตเ์ คลือ่ นท่ี รางวัล 1 เหรียญเงินในสาขาระบบอัตโนมัตทิ างอตุ สาหกรรม รางวัล 2 เหรยี ญเงนิ ในสาขาระบบอัตโนมัติทางอตุ สาหกรรม เย่ียมยอด!!! 36
2019TechnoMart มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เข้าร่วมงาน TechnoMart2019: “กา้ วสำ�คัญเพอื่ การขบั เคลือ่ น วทน. สูภ่ มู ิภาค” ก้าวส�ำ คัญเพอ่ื การขบั เคลื่อน วทน. สภู่ มู ภิ าค นำ�ผลงานด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมฝีมือคนไทย ที่มีความโดดเด่น ทั้งผลิตภัณฑ์ เคร่ืองมือ เคร่ืองจักร จนเกิดการสร้างรายได้ สร้างงาน และสรา้ งคุณภาพชีวิต ระหวา่ งวันที่ 5 -7 กรกฎาคม 2562 เวลา 8.00 – 20.00 น ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อมิ แพค เมืองทองธานี ซ่งึ จัดโดย สำ�นักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวตั กรรม (สป.อว.) กจิ กรรมภายในงานประกอบด้วยผลงานเทคโนโลยี การสร้างเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพ่ือเพ่ิมขีดความสามารถ ของภาค การผลติ และบรกิ าร และไดร้ ว่ ม การประกวดสง่ิ ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำ�ปี 2562 ซง่ึ ไดร้ บั รางวลั ในระดบั ภาค มาประกวดในระดบั ประเทศ ได้แก่ เครือ่ งสไลตก์ ลว้ ยตามแนวยาว และแนวขวาง โดย ร้อยตรี ดร.สิทธิบูรณ์ ศิริพรอัครชัย มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน เคร่ืองทอดแบบนํ้ามันลอยอยู่เหนือ นํ้า โดย ผศ.บรรเจิด แสงจันทร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมีผลงานท่ีนำ�มาร่วมจัดแสดง เช่น เคร่ืองคว้านเมล็ดกระเจี๊ยบแดง โดย ผศ.เกรียงไกร ธารพรศรีและคณะ จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และเครื่องขึ้นรูปซุปถั่วเหลืองอัตโนมัติ โดย ผศ.บรรเจิด แสงจันทร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เครื่อง เพาะข้าวมอลต์ โดย ร้อยตรี ดร.สทิ ธิบรู ณ์ ศิรพิ รอัครชัย มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน 37
.......................................................................................................................................................................รอบรั้ว มหาว�ทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา วันที่ 27 มิ.ย. 62 ที่ศาลสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช อาจารย์ขวัญชัย เปน เบา้ เปน แมพ่ ม� พ เทศฉาย รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา ตาก เป็นผู้แทนมอบตู้หยอด วันท่ี 22 – 23 มิถุนายน 2562 รศ.ศีลศิริ เหรียญเส่ียงทายอัตโนมัติให้แก่ศาลสมเด็จ สง่าจิตร ผู้ปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี นำาคณะผู้บริหาร พระเจา้ ตากสนิ มหาราช โดยนายชตุ เิ ดช มจี นั ทร์ คณาจารย์ บุคลากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะประธาน ล้านนา กว่า 1,200 คน ร่วมอบรมโครงการจิตอาสา อนุกรรมการบริหารศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน จังหวัดเชียงใหม่ “หลักสูตรหลักประจำา” รุ่นที่ 3/26 มหาราช “เปน็ เบ้า เปน็ แม่พมิ พ์” (รุน ท่ี 1 - 4) ณ หอประชุม ทีปังกรรศั มโี ชติ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎเชยี งใหม่ อ.แมร่ ิม ตู้หยอดเหรีญเสี่ยงทายอัตโนมัติ จ.เชยี งใหม่ เพอื่ สง่ เสรมิ อดุ มการณค์ วามรกั ชาติ เผยแพร่ จัดทำาโดยหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ พระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทกุ พระองค์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี ตลอดจนเพือ่ สร้างความรักความสามัคคแี กค่ นในชาติ ราชมงคลล้านนา ตาก เป็นการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีทางวิศวกรรม ด้วยการเขียนแอป ตู้หยอดเหร�ยญเส่ยี งทายอตั โนมัติ พลิเคชันร่วมกับกลไกวงจรของการควบคุม เคร่ืองหยอดเหรียญ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ 38 เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ในการเสี่ยงทาย โชคชะตา และได้ทำาการติดต้ัง ณ ศาลสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นเทคโนโลยีต้นแบบ เป็นจุดเด่นทาง นวัตกรรมของจังหวัดตาก และตอบโจทย์งาน บรกิ ารวิชาการของมหาวทิ ยาลัยตอ่ ไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: