สนใจระบบ บ้าบดั นา้ เสยี ดังกลา่ ว จงึ น้ามาประยกุ ต์ใช้ รปู ที่ 16 เวทชี าวบ้านเพอ่ื หาแนวทางการมีสว่ นรว่ ม ในการบ้าบดั น้าเสยี ในบ้านเรอื น (รูปที่ 15) ระหว่างชมุ ชนและโรงเรยี นในการอนรุ กั ษ์ แหล่งนา้ - ถ่ายทอดองค์ความรู้ท่ีได้จากโรงเรียนและ อภปิ รายผล บ้านตัวอย่างสู่ชุมชน และให้ชุมชนเข้าชมศูนย์การ ผลจากการประชุมเวทีชาวบ้านได้ข้อสรุป เรยี นรู้ ร่วมกันดังนี - เปิดประชุมเวทีชาวบ้าน หลังจากการ (1) การให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นเรื่องท่ี ถ่ายทอดองค์ความรู้และผลส้าเร็จของโครงการ เพ่ือ หาแนวทาง ร่วมกันระหว่างโรงเรียนและชมุ ชนในการ ดี เพราะคนในพืนที่จะรู้สึกว่าปัญหาท่ีประสบนัน อนุรกั ษแ์ หลง่ น้า (รปู ท่ี 16) สามารถแก้ไขได้ โดยการให้ทุกฝ่ายในท้องถ่ินเข้ามามี รปู ท่ี 14 การประชาสัมพนั ธ์และถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ ส่วนร่วมในการด้าเนนิ งานในลกั ษณะทเี่ ป็นการร่วมคิด ร่วมท้า ร่วมตัดสินใจ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมตรวจสอบ เรื่องการจัดการนา้ เสียส่ชู มุ ชน ร่วมประเมินและร่วมพัฒนา รวมทังพบว่าการสร้าง รปู ที่ 15 ระบบบงึ ประดิษฐบ์ า้ นตัวอยา่ ง ความสัมพันธ์ท่ีดีระหว่างโรงเรียนและชุมชนด้าน ส่งิ แวดล้อม จึงมคี วามส้าคัญเปน็ อย่างมาก (2) การใชโ้ รงเรียนเป็นฐานการพัฒนาความรู้ โดยผ่านกิจกรรม โครงการ เพ่ือปลูกฝังให้นักเรียน มี จิตส้านึก และความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม สร้าง กระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมีส่วนร่วมทัง ร่วมคิด วางแผน ตัดสินใจ ร่วมด้าเนินงาน แก้ไข อปุ สรรคร่วมกัน (3) การท่ีชุมชนมีส่วนร่วมน้อยอาจจะเป็น เร่ืองของโอกาสและเวลาของการมีส่วนร่วม เน่ืองจาก ประชาชนตอ้ งประกอบอาชพี หารายได้ทา้ ให้ไมม่ เี วลา และโอกาส ดังนันการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ควรผ่านทาง โรงเรียนและด้าเนนิ การในชว่ งวันเสาร์ อาทิตย์ เพอ่ื ให้ เยาวชน คนในชุมชน และครู ได้มีโอกาสพบปะ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้รว่ มกนั ผลลพั ธแ์ ละตวั ชวี ัดความสา้ เร็จ (1) ชุมชน ครู นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วม กจิ กรรมโดยสมคั รใจ (2) ความพึงพอใจในกิจกรรมของ ชุมชน ครู นักเรียน นกั ศึกษา ทีเ่ ขา้ ร่วมกจิ กรรม ( 3 ) มี ก า ร จั ด ตั ง ศู น ย์ ก า ร เ รี ย น รู้ ด้ า น สิง่ แวดลอ้ มภายในโรงเรยี น ปจั จัยทีท่ ้าให้ประสบความส้าเร็จ (1) มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ แบ่งปันความรู้ ระหว่าง ชุมชน ครู นักเรียน นักศึกษา และบุคลากร จากมหาวทิ ยาลยั 42 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
(2) กระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี ในการ Treatment Towards Effective Faecal ออกแบบและสร้างระบบบ้าบัดน้าเสียอย่างง่าย และ Sludge Management. Pathumthanee: การวิเคราะห์คุณภาพน้า จะเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน Asian Institute of Technology (AIT). และโรงเรียนด้าเนินการในกิจกรรมต่างๆ เหล่านีด้วย Retrieved from ตนเอง http://www.eawag.ch/forschung/ sandec/publikationen/ewm/dl/CW_septa บรรณานกุ รม ge.pdf Crites, R. W., Middlebrooks, E. J., & Reed, S. C. U.S. EPA. (1988). Design Manual-Constructed Wetlands and Aquatia Plants Systems for (2005). Natural Wastewater Treatment Municipal Wastewater Treatment. (No. Systems. CRC Press. EPA/625/1-88/022). United States Senge, P. M. (1990). The fifth disciplines: the Environmental Protection Agency, art and practice of learning organization. Cincinnati, Ohio. London: Century Business. ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ย า ก ร ธ ร ร ม ช า ติ แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล้ อ ม . Thammarat Koottatep, Chongrak Polprasert, (2556). รายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศ Nguyen Thi Kim Oanh, Narong Surinkul, ไทยปี 2555. (รายงานประจ้าปี). กรุงเทพ: ห้าง Agnes Montangero, & Matin strauss. (2002). หุ้นสว่ นจ้ากัดเหรียญบุญการพมิ พ์. Constructed Wetlands for Seepage วารสารวชิ าการรบั ใชส้ ังคม มทร.ลา้ นนา 43 ปีที่ 1 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
44 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
การพัฒนาผลิตภณั ฑท์ ้องถิ่นเพอ่ื ยกระดับคณุ ภาพชีวติ ของกลมุ่ วิสาหกจิ ชมุ ชน ตานานอาหารมสุ ลมิ บ้านตลาดแกว้ “โรตี-ผงกะหร”่ี The Development of Local Products to Raise People live in SME: The halal legendary food of Talad Keaw Village สมเกียรติ ทองแกว้ 1* ณฐั พงศ์ พนั ธนุ ะ2 และ ชาญณรงค์ พนู พาณชิ ย์3 Somkieat Thongkeaw1* Nattapong Phanthuna2 and Channarong Poonpanich3 1 ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ สมเกยี รติ ทองแกว้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนค 2 ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ณัฐพงศ์ พนั ธุนะ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 3 ประธานกลุ่มวิสาหกจิ ชุมชนตานานอาหารมลุ สมิ บ้านตลาดแก้ว ชาญณรงค์ พนู พาณิชย์ นนทบรุ ี 1,2 Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon 3 Talad Keaw Village, Nonthaburi Thailand. E-mail: [email protected], 081-838-6780 บทคัดย่อ บทความวิจัยนมี้ ีวัตถุประสงค์ท่ีจะพัฒนาและอนุรักษ์ผลิตภัณฑ์ของกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนุ ตานานอาหารมสุ ลิม บา้ นตลาดแกว้ ซึง่ เดิมมีอาชพี ประมงเป็นหลกั แตต่ ่อมาประสบปัญหาน้าทว่ มใหญใ่ นเขตพืน้ ทจ่ี ังหวดั กรุงเทพมหานคร ปทุมธานีและนนทบุรีเมื่อปี พ.ศ. 2554 ชาวบ้านในชุมชนต้องอพยพและต้องสร้างอาชีพใหม่ จึงได้เปลี่ยนอาชีพจาก ชาวประมงมาเป็นผู้ผลิตอาหารให้ชาวกลุ่มมุสลิมบริโภคและจัดจาหน่าย แต่เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านยังขาดความ ชานาญ และยังขาดวัสดุอุปกรณ์ในการผลิตเป็นจานวนมาก จึงได้ขอความสนับสนุนไปยัง สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร ใหป้ ระดษิ ฐ์คดิ ค้นเครื่องจกั รอตั โนมตั ิเฉพาะทางเพื่อ ความสะดวกและรวดเร็วในการผลิต ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 ถึง พ.ศ.2558 สาขาวชิ าวศิ วกรรมไฟฟ้า คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครได้ประดิษฐ์เคร่ืองจักรในการประกอบอาชีพไปแล้วจานวน 6 ประเภท ประกอบไปด้วย เครื่องนวดแป้ง เครื่องบดผงกะหร(ี่ เพอื่ ผลติ โรตี-ผงกะหรี่) เคร่ืองผลิตขนมจีบอัตโนมัติ เคร่ืองสับไม้ที่ หักโค่น เคร่ืองอัดฟาง และเคร่ืองขายเคบับ ภายหลังการส่งมอบเครื่องจักรไปแล้ว ยังได้รับเชิญให้ไปเผยแพร่ผลงาน การผลิตในงานประชุมวิชาการ และนิทรรศการต่าง ๆเป็นจานวนมาก จากผลของการทาวิจัยฉบับนี้พบว่าสามารถ ยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตานานอาหารมุสลิมบ้านตลาดแก้วได้อย่างเป็นผลสาเร็จมากกว่า 6 ผลิตภณั ฑ์ คาสาคญั อาหารมุสลมิ , โรตี, ผงกะหรี่, บ้านตลาดแก้ว, จังหวัดนนทบุรี ABSTRACT This article aimed to develop and conserve the legendary halal food products of Talad Keaw (Keaw Market). The Muslim people there used to earn their living by fishing but in the year 2011, the land around Bangkok, Prathumthani and Nonthaburi were flooded. They had to move and seek for new jobs. They changed their living from being fishermen to be halal food producers and vendors. However, they lacked of expertise and equipment. They asked for help from the division of Electrical Power Engineering, faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Phar nakhon to provide them some specific prototypes to produce their halal food. During the year 2011 to 2015, วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 45 ปีท่ี 1 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
the researchers have served them with the six prototypes such as the flour mixer, the curry powder mixer for Roti and Curry, the automatic Dimsum making machine, the chopping machine, the hay pressing machine and the Kebab automatic vending machine. Morover, these inventions were exhibited in various conferences and exhibitions. The result of the project also revealed that these six prototypes could raise the quality of people lives in Talad Keaw village very well. Keywords halal food, Roti, Curry, Talad Keaw village, Nonthaburi Province บทนา วิธกี ารดาเนินงาน ชุมชนบ้านตลาดแก้วเป็นชุมชนเก่าแก่ย้าย การผลิตโรตีแช่แข็ง และผงกะหร่ี จึงได้เริมผลิตกัน แบบชาวบา้ นใช้ภูมิปัญญา ลองผดิ ลองถกู กว่าจะเปน็ ถิ่นฐานมาจากอยุธยา หลังการเสียกรุงศรีอยุธยา ล่อง ท่ียอมรับของผู้บริโภคก็ใช้เวลากว่า 1 ปี จึงเป็นท่ีรู้จัก แพมาตามลาน้าเจา้ พระยา ซง่ึ รู้จกั กันในชื่อ “ชาวแขก ซื้อบริโภคกัน กลุ่มได้ดาเนินการจดทะเบียนเป็น แพ” เพราะเป็นประชาชนคนไทยท่ีนับถือศาสนา วิสาหกิจชุมชนในปี 2554 เมื่อมีผู้บริโภคเพ่ิมข้ึน การ อิสลาม มาพบทาเลท่ีเหมาะสม ตาบลสวนใหญ่ใน ผลิตก็ไม่ทันต่อความต้องการ เพราะแรงงานที่มีความ ปัจจุบัน จึงได้ปักหลักเป็นชาวชุมชนริมน้า ประกอบ ชานาญยังไม่มากพอ จึงแสวงหาสิ่งอานวยความ อาชีพทาการประมง ทอดแห ลอยช้อน เล้ียงชีพเป็น สะดวกในการผลิต เครื่องนวดแป้ง เครื่องบดผงกะหร่ี ส่วนใหญ่ ต่อมารัฐได้อนุญาติให้ใช้พื้นท่ีริมฝ่ังแม่น้า ถือเป็นความต้องการสูงสุด เพราะจะช่วยผ่อนแรงใน เจ้าพระยาปลูกบ้านเรือนอยู่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้ การนวด และสร้างความรวดเร็ว และเป็นมาตรฐาน บ้านเรือนกว่า 300 หลังคาเรือนปลูกอยู่ริมฝั่งแม่น้า ไดม้ โี อกาสปรกึ ษาหารือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ เจ้าพระยา จึงทาให้เวลาที่มีน้าหลาก น้าท่วมชุมชน หัวหน้างานบริการวิชาการแก่สังคมในขณะน้ัน ได้ให้ บ้านตลาดแก้วจะโดนหนักท่ีสุด เมื่อปี 2554 เกิดน้า คาปรึกษา และลงมาสารวจพน้ื ท่ี พบกลุ่มประชาชนท่ี ท่วมหนักท่ีสุด ชาวบ้าน 547 หลังคาเรือน ผู้คนกว่า รวมตวั กันดาเนนิ โครงการ 3,860 คนเดือดร้อนกันทั่วหน้า ประชาชนบางส่วน ได้มาอาศัยอาคารเรียบ โรงเรียนสตรีนนทบุรี และ ในที่สุดทางกลุ่มฯก็ได้มีโอกาสนาเสนอเร่ือง โรงเรียนวัดปากน้า (พิบูลสงคราม) เป็นศูนย์พักพิง ขอเครื่องจักรนวดแป้ง และเคร่ืองบดผงกะหร่ี ไปยัง ภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ กระทรวง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลพระนคร(เหนือ) พัฒนาสังคม และความม่ันคงของมนุษย์ ได้มาเปิด ในปี 2555 ทางมหาวิทยาลัยฯ จึงได้ดาเนินการตามที่ อบรมวิชาชีพต่าง ๆ ที่ศูนย์พักพิง และเมื่อหลังน้าลด ขอ ให้นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ดาเนินการจัดสร้าง ชาวบ้านได้เรียนรู้วิชาชีพต่าง ๆ ก็ตื่นตัวที่อยากจะทา จนสาเร็จ และได้ส่งมองเครื่องในปี 2555 รวมไปถึง กิจกรรมสร้างรายได้ ลดปลดหน้ีสนิ จึงเกิดการรวมตวั การจัดโครงการอบรมการใช้เคร่ืองจักร พร้อมมอบ กันเปิดเวทีประชาคม แสวงหาอาชีพ ผลิตภัณฑ์ที่จะ เอกสารการใช้งาน การบารุงรักษาให้แก่กลุ่มฯด้วย สร้างรายได้ การผลิตอย่างจริงจัง และเป็นมาตรฐานก็เร่ิมใช้มา จนถึงปัจจบุ นั ในปี 2557 ทางกล่มุ ฯตอ้ งการจะพฒั นา ในท่ีสุดมีมติเห็นพ้องต้องกันว่า “โรตีแช่แข็ง บุคลากร องค์กรของกลุ่มฯ รวมไปถึงประชาชนใน และผงกะหร่ี” ท่ีชาวมุสลมิ ทั่วไปบริโภคกันเปน็ ประจา ชุมชนให้ได้เรียนรู้เรื่องบรรจุภัณฑ์ การการติดต่อ น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดแรกท่ีควรนามาดาเนิน ค้าขายทาง Internet และการอบรมภาษาอังกฤษ โครงการ ในท่ีสุดจากผู้ขายโรตี และผู้ผลิตผงกะหร่ี CONVERSATION เพ่ือเตรียมความ พร้ อม เ ข้ า สู่ บริโภคกัน ได้นาสูตรต้นตาหรับเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่ ตกทอดกันมาช้านาน มาผลิตเป็นสินค้าชุมชน เพื่อ จาหน่ายตามวัตถปุ ระสงคท์ ีต่ ้งั ไว้ 46 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การอบรมทงั้ สองมีผู้สนใจ โรตีแช่แข็ง วัตถุดิบท่ีใช้ แป้งสาลี ไข่ไก่ เข้าร่วมหลายสิบคน ทุกคนได้รับใบประกาศนียบัตรที่ นมสด นา้ ตาลทราย เกลือ น้าสะอาด มหาวทิ ยาลยั มอบให้ทกุ คน ไว้เปน็ หลักฐานอกี ดว้ ย รปู ท่ี 1 ประธานกลุ่มฯเข้ารว่ มทดสอบเครอ่ื งนวดแปง้ รูปที่ 4 ผลติ ภัณฑผ์ งกะหรี่ ทอี่ อกแบบและสรา้ งโดยคณะวศิ วกรรมศาสตร์ บรรจุซองน้าหนกั ซองละ 60 กรมั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลพระนคร ผงกะหร่ี ส่วนผสมสาคัญประกอบไปด้วย รปู ท่ี 2 ตวั แทนชุมชนกาลงั ทดสอบเครื่องบดผงกะหรี่ สมุนไพร 9 ชนิด ลูกผักชี ย่ีหล่า ลูกกระวาน รปู ท่ี 3 ผลผลิตโรตแี ชง่ แข็งของกลมุ่ ชุมชน กานพลู เปลือกอบเชย พริกไทย ขมิน้ ลูกเฮล และ ย่าฝร่งั (โรตแี ช่แขง็ บรรจุซองนา้ หนักซองละ 250 กรัม) ผลการดาเนนิ งาน จากการขับเคล่ือนของกลุ่มฯท่ีเป็นรูปธรรม ต่อเน่ืองเสมอมา จึงได้รับการไว้วางใจให้เป็นผู้ ประสาน แสวงหากลุ่มฯ เพ่ือน ๆ ในจังหวดั นนทบุรี ท่ี มีองค์กรท่ีชัดเจน เข้มแข็ง แต่ยังขาดเครื่องมือ อุปกรณ์อานวยความสะดวก กลุ่มฯได้เป็นผู้ประสาน จนในท่ีสุดในปี 2556-2557 ได้ขอความอนุเคราะห์ จดั สรา้ งเคร่ืองจกั รให้กบั กลมุ่ ฯ เพื่อน ๆ อีก 3 เครอื่ ง - เครื่องผลิตขนมจีบอัตโนมัติ ให้กับกลุ่ม ชมุ ชนสเุ หร่าตลาดขวญั - เครื่องสับไม้ที่หักโค่นจากน้าท่วม ให้กับ กล่มุ ชุมชนตาบลบางศรีทอง - เคร่ืองอัดฟาง ให้กับกลุ่มชุมชนตาบล ไทรนอ้ ย และได้ขยายกิจกรรม ขายเคบับ เพราะเป็น การต่อยอดจากวัตถุดิบเดียวกัน จึงได้เครื่องเคบับมา อีก 1 เครือ่ ง วารสารวชิ าการรบั ใช้สังคม มทร.ล้านนา 47 ปที ่ี 1 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มถิ ุนายน 2559
5ก. รปู ที่ 5 พิธมี อบและทดสอบเครือ่ งขายเคบับ ณ 5ข. มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 5ค. การนาไปใช้ 48 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship ทางกลุ่มฯได้มีโอกาสไปออกงานแสดงสินค้า Vol. 1 No. 1 January - June 2016 ร่วมกับมหาวิทยาลัยฯ คืองาน “ รักษ์โลกร้อน 360 องศา “ ของไทยทีวีสีช่อง3 ท่ีเมืองทองธานี เป็นเวลา 3 วัน ไดร้ บั ความสนใจจากผู้มาเย่ยี มงาน ซื้อผลติ ภณั ฑ์ นับว่าในครั้งน้นั เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และ ต่อๆ มาก็ได้ออกร้านในงานต่าง ๆ งานสองฝั่ง เจ้าพระยามหาเจษฏาบดิน ของวัฒนธรรมจังหวัด นนทบุรี ร่วมออกร้าน 3ปี ติดต่อ งานแจก ปัญญา บัตรของมหาวิชชาลัยภูมิปัญญาพลเมืองชุมชน 3ปี ติดต่อ ร่วมออกร้านค้างานรียาสัมพันธ์ของชุมชนบา้ น ตาดแก้ว 3ปีอีกเช่นกันและอีกหลายงานได้รับความ สนใจซอ้ื ไปบรโิ ภค บางงานกไ็ ด้พันธมิตรทางธรุ กิจเป็น ตัวแทนจาหน่ายให้นาสนิ ค้าไปวางขายหลายแห่ง และ ในปี 2558 ได้ไปออกงานที่ศูนย์การค้าเอสพานาร์ด ส่ี แยกแครายกับพัฒนาสังคมจังหวัดนนทบุรี สิ่งที่ได้ ตามมาคือ เจ้าหน้าที่ฮาลาล ได้มาพบเห็น และได้ พูดคุยกันว่าน่าจะขอเป็นสินค้าฮาลาล เพราะรัฐบาล กาลังสนับสนุนงบประมาณ 20,000 บาท ให้เป็น ค่าธรรมเนียมต่างๆ กลุ่มฯจึงดาเนินการย่ืนขอจดแจ้ง ส่ิงที่ตามมา คือ ต้องพัฒนาห้องผลิตให้อยู่ใน ข้อกาหนด เรื่องความสะอาดปลอดภัยจากสิ่งเจือปน กลุ่มจึงได้พัฒนาตกแต่ง และจัดซ้ืออุปกรณ์ที่จาเป็น เพ่ิมเติมหลายรายการ ให้เป็นไปตามข้อกาหนด ซึ่ง คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน 2558 น้ีกลุ่มฯก็จะได้ HALAL เพื่อเป็นหลักประกันคุณภาพสินค้า คาดว่าจะ สร้างยอดจาหนา่ ยเพมิ่ ข้ึน - ปัจจุบันสามารถผลิตสินค้า 2 ชนิดได้ อย่างละ 300 แพคตอ่ วนั
- มีคณะทางาน ผูบ้ รหิ ารทเ่ี ข้มแข็ง - ผลิตภณั ฑ์เปน็ ที่ร้จู กั เปน็ วงกว้าง ขยายสู่ - มีบุคลากร แรงงานท่ีชานานการ ใช้ ตา่ งจงั หวดั เคร่ืองจกั รท่ีถูกต้อง รวดเร็ว - มีตวั แทนจาหน่ายท่ีมีความสามารถ - มีตลาดขยายกว้างขวาง ร้านโชว์ฮ่วย - มีการขายหุ้นๆ ละ 100 บาท และมี ร้านค้าสถาบันต่างๆเป็นท่ียอมรับของ แนวโน้มจะมีผู้เขา้ มาซื้อเพิม่ มากข้นึ การจัดอาหาร และอาหารเบรกในการ - เป็นท่ียอมรับของกลุ่มภาคี เครือข่ายให้ ประชุมต่างๆ - มีเคร่ืองจักร และอุปกรณ์ในการผลิตที่ นาสินค้าเข้าไปแทรกจาหน่ายในตาบล เปน็ สากล อน่ื - มหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร(พระ น ค ร เหนื อ) ใ ห้ ค ว า ม ไ ว้ ว า ง ใ จใน คณะทางาน รปู ท่ี 6 เอกสารสาคญั การถอื ครองหุน้ กลุม่ - วชมสิ มุตีาหชลนกาดจิบทชา้ คุม่ีเนขวชตม้ านลแมตบตขเ(าปาลกง็ นดน็าาากแรดมนใลกแาชอุ่มว้ขกก้ าฯอว้ ลห”ผงยาก้รู ุทรลิเรมธมุ่ มิ่ธ์สุวุรลสิ กแิมาจิลหเะ“พกชบจิ่อื าา้ชสวนมุังคชมนตพาฒั นนานาอองาคห์การรมมสุาตลลิมอบดา้ รนะตยละาเวดลแากด้วา“เโนรินตกี-ผางรก)ะหรี่” วารสารวชิ าการรับใชส้ งั คม มทร.ลา้ นนา 49 ปที ี่ 1 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
จ า ก แ ผ น ภู มิ ต า ร า ง ดั ง ก ล่ า ว จ ะ เ ห็ น ก า ร และอ่ืน ๆอีกหลายชนิดทั้งคาว และหวาน ซึ่งกาลัง ขับเคลอื่ นการพัฒนาองค์กรอยา่ งต่อเนื่องเปน็ รปู ธรรม คัดเลอื กนามาผลิตตอ่ ไป ภายใต้ความสามารถในกรอบความพอเพียง ตามแนว พระราชดาริ จึงทาให้กลุ่มฯ ของเรายังคงอยู่อย่าง 2. จากการใช้เครื่องจักรที่เป็น นวัตกรรมใหม่ท่ี มั่นคง และแผนในอนาคตที่จะนาสินค้าสู่ตลาด ดีใช้ในการผลิตแต่ในส่วนของ เคร่ืองบรรจุภัณฑ์ก็ยัง ต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประชากรกรเศรษฐกิจ จาเป็น เพอ่ื ถนอมอาหารใหเ้ ก็บได้ยาวนาน อาเซียน ที่มีเป็นมุสลิมกว่า สี่ร้อยล้านคนน่าจะเป็น ตลาดใหญ่ของผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฯ และรวมไปถึง 3. พ้นื ที่ชมุ ชนบา้ นตลาดแก้ว มอี าณาเขต ผลิตภัณฑ์ของเครือข่าย 52 ตาบลของจังหวัดนนทบุรี ทศิ ตะวันออก ติดกับเขตบางซ่อื กรงุ เทพฯ ท่ีผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณภาพ จะสร้างเศรษฐกิจ ให้ประชาชนตั่งแต่รากหญ้าที่มาร่วมกัน ชุมชน มคี ลองบางเขนเก่าก้นั จังหวัดนนทบุรี ก็จะได้เป็นเป้าหมายสาคัญที่กลุ่มนัก ทิศเหนือ ตดิ ถนนพบิ ลู สงคราม ธุรกิจจะมาเย่ียมชม ซื้อหาสินค้าผลิตภัณฑ์ส่งออกไป ทศิ ตะวันตก ติดคลองวัดพลบั พลา จาหนา่ ยนารายไดเ้ ข้าสู่ประเทศ ทศิ ใต้ ตดิ แม่นา้ เจา้ พระยา อภิปรายผล มีเน้ือท่ีประมาณ 20 ไร่ เป็นชุมชนเก่าแก่ การนาโครงการนไี้ ปใช้ มีสิ่งปลูกสร้างบ้านไม้สักเก่าแก่ มีมัสยิดท่ีสวยงาม 1. เปน็ แหลง่ เรียนรทู้ จ่ี ะต่อยอดใหก้ ลุม่ ต่าง ๆ มีวัดสองวัดที่มีเกจิอาจารย์สาคัญ และโรงเรียนอีก 2. สามารถนาแนวคิดการทางาน เสนอสู่ 2 โรงเรียน จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และ วัฒนธรรมได้อย่างดี จะสร้างเม็ดเงินให้กับประชาชน นโยบายภาครัฐในการให้งบประมาณส่งเสริม และ ในชุมชนโดยทั่วไป จะเป็นแหล่งที่ชาวมุสลิมใน พฒั นา อาเซียนจะต้องแวะเวียนมาละหมาด เพราะอยู่ใกล้ การคมนาคม ทั้งทางบก และทางน้า และจะเป็นจุด 3. เป็นผลิตภัณฑ์ที่คนท่ัวโลก โดยเฉพาะ การเจรจาการค้าอกี แห่งหนึง่ มุสลิมกว่า พันล้านคนบริโภคเป็นประจา จะสร้างเม็ด เงนิ นาเขา้ มหาศาล รปู ท่ี 7 บรรจุภณั ฑท์ ่ีผลิตและออกจาหน่ายตาม ท้องตลาด 4. ผลประโยชน์หลายส่วนตัดแบ่งออก เพ่ือ การพัฒนาสังคมส่วนรวม 5. สร้างงานให้กับผู้คนในแต่ละข้อต่อของ การดาเนนิ การ สรปุ ผล 1.ได้ผลักดันผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า มีตานาน และรู้จักปราชญ์ ในชุมชนมากข้ึน ส่ิงสาคัญกลุ่มฯ คง ไม่หยุดท่ีผลิตภัณฑ์เพียง 3 ผลิตภัณฑ์น้ี ในชุมชนมี ผลิตภัณฑ์อีกมากมายท่ีเป็นตานาน เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ข้าวเหนียวหน้าตะโก้ ข้าวแขก 50 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
สเุ ทพ สนุ ทรเภสชั . 2548. “อตั ลกั ษณศ์ าสนาอสิ ลาม ในเมอื งเชียงใหม่: การศึกษาเปรียบเทียบ ประวตั คิ วามเปน็ มาและโครงสรา้ งสังคมของ ชุมชนอพยพชาวปากสี ถานและยนู นานมสุ ลิม” ในชาตพิ นั ุธ์สมั พันุธ์. สานกั พิมพเ์ มืองโบราณ, กรงุ เทพฯ : 128-159. รปู ท่ี 8 แผนที่และแนวเขตของชมุ ชนบ้านตลาดแกว้ บรรณานกุ รม แจ็ค พอตเตอร์. 2526. โครงสร้างสังคมของชาวนา ไทย. นฤจร อิทธิจีระจรัส(แปล). กรุงเทพฯ:สานัก พมิ พ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ดารงพล อนิ ทร์จนั ทร์. 2549. “ตลาดชายขอบของ มอญพลัดถิน่ ” ในสมรกั ษ์ ชยั สงิ หก์ านา นนท์(บก.). ตลาดในชวี ติ ชวี ิตในตลาด. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานษุ ยวทิ ยาสิรนิ ธร. ปฤษฐา รัตนพฤกษ์. 2553. “การเมอื ง” ใน แนวความคดิ พื้นฐานทางสงั คมและวฒั นธรรม (โดยคณาจารย์ภาควชิ าสงั คมวทิ ยาและมานษุ วทิ ยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่). เชยี งใหม่: โค-ขยนั มีเดยี ทมี : 105-112. วารสารวิชาการรับใชส้ ังคม มทร.ลา้ นนา 51 ปที ่ี 1 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2559
52 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
การลดของเสียในกระบวนการผลติ ยางแผนรมควันชน้ั 3 ของโรงงานสหกรณก์ องทนุ สวนยาง Defect Reduction in RSS3 Production of Rubber Fund Co-operative Factory สกุ ญั ญา เชิดชงู าม1* และ คมพนั ธ์ ชมสมทุ ร2 Sukanya Cherdchoongam1* and Kompan Chomsamutr2 1,2 อาจารย์ สาขาวิชาวิศวกรรมแมคคาทรอนกิ ส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 1,2 Lecturer, Department of Mechatronics, Faculty of Engineering, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon E-mail: [email protected], เบอรโ์ ทรศพั ท์ 085-505-7465, เบอร์โทรสาร 02-903-0080 ตอ่ 7465 บทคัดย่อ งานวิจัยมวี ัตถุประสงค์เพือ่ พัฒนากระบวนการผลติ ให้มปี ระสทิ ธิภาพมากขนึ้ และทาการปรับปรุงเคร่ืองจักร ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกระบวนการผลิตยางแผนรมควันชั้น 3 ของโรงงานสหกรณ์กองทุนสวน ยาง ซงึ่ จากการสารวจพบว่า กระบวนการผลติ ของโรงงานมขี องเสยี เกิดขนึ้ ไดแ้ ก่ ยางฟอง ยางคตั ต้งิ และเศษยาง ซึ่ง เกิดขึ้นจากวิธีการผลิตท่ีไม่เหมาะสม ไม่มีมาตรฐานการผลิต ขาดการตรวจสอบในขั้นตอนการผลิต และการ บารุงรักษาเครื่องจักร รวมไปถงึ การปรบั ปรงุ เคร่ืองจักรให้เหมาะสม จากการดาเนินการวิเคราะหป์ ัญหาด้วยแผนภาพ สาเหตุและผลของปญั หาในกระบวนการผลิตพบประเด็นปญั หาทส่ี าคญั คอื ยางคตั ตง้ิ ที่เกดิ จากแผน่ ยางขาด และแผน่ ยางบางส่วนไมโ่ ดนลกู กลง้ิ ลาย ทาใหเ้ กิดของเสียปรมิ าณมาก รวมท้ังเสยี เวลาในการคดั แยกยาง โดยก่อนการปรับปรุง ทางโรงงานมีนา้ หนกั ยางคตั ติ้งโดยเฉลย่ี 7,438 กิโลกรัม/ปี ภายหลงั จากการซอ่ มแผน่ เสยี บและตะกงใหอ้ ยู่ในสภาพใช้ งานได้ปกติ เพอื่ ใหม้ รี ะยะห่างของแผ่นเสียบทเ่ี ท่ากนั และทาการเปลี่ยนลูกปืนและพอกแกนเพลาของลูกรีดยาง พร้อม ท้ังจัดทาแผนการบารุงรักษาเคร่ืองจักรเชิงป้องกัน เพ่ือให้สามารถพร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมท้ัง จัดทามาตรฐานการ ผลิตและทาการตรวจสอบค่า DRC ของน้ายางในบ่อรวม เพื่อกาหนดปริมาณกรด น้า และน้ายาง ที่จะใช้ในการผลติ ยางแผ่น ทาให้น้าหนักยางคัตติ้งลดลงเหลือ 5,467.51 กิโลกรัม/ปี หรือลดลง 1,970.49 กิโลกรัม/ปี คิดเป็นร้อยละ 26.46 จากเดมิ ทาใหม้ มี ลู คา่ ยางคัตต้ิงท่ีเพ่มิ ขนึ้ หลังปรบั ปรงุ 84,746.41 บาท/ปี คําสาํ คัญ ยางแผนรมควันชั้น 3 ยางคัตตง้ิ ABSTRACT Research aims to develop more efficient production processes. And adjusted the equipment to be used effectively. Production of rubber smoked sheet 3 grade rubber factory Cooperative. A survey finds Production at the plant has occurred, including waste tires, scrap tires and rubber foam cutting caused by improper manufacturing methods. No production standards Lack of monitoring of the production process. And maintenance Including improvements to the appropriate machine. From the analysis of the cause and effect diagram problems with production issues encountered tire problems was caused by cutting sheets of rubber. And some rubber roller hit stripes. The volume of waste As well waste time sorting tires. Before the adjustment to the factory rubber cutting the average 7438 kg/year after the war plans and Takg plug in a condition to work normally. In order to have an equal distance Plate and replace the bearings and shaft of roll rubber mask. The plan for วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ลา้ นนา 53 ปีที่ 1 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
preventive maintenance. To always be available, including the preparation of standards for the production and auditing of the DRC of latex in the pond. To determine the acidity of the water and the latex is used in the production of rubber sheets. Rubber weight cutting down to 5467.51 kg/year, or a decrease of 1970.49 kg/year, representing 26.46 percent of the original value of the tire cutting Increasing Adjusted 84,746.41 THB/year. Keywords rubber smoked sheet 3 (RSS3), rubber foam cutting บทนํา ขั้นตอนการดาเนินงานลงทั้งส้ิน 1 ขั้นตอนหรือ 25% อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางเป็น และข้ันตอนสุดท้ายการคัดแยกและบรรจุภัณฑ์ สามารถลดระยะทางระหว่างโรงอบยางพาราถึงคลัง อุตสาหกรรมหนึ่งท่ีมีความสาคัญต่อเศรษฐกิจไทย เก็บสินค้าลงท้ังสิ้นเป็นระยะทาง 40 เมตรหรือ ผลผลิตจากยางพาราได้ ถูกนาไปใช้เป็นวัตถุดิบของ 29.41% ข้ันตอนการทางานลดลงทั้งส้ิน 1 ข้ันตอน อุตสาหกรรมต่างๆ หลายประเภท เช่น ยางรถยนต์ หรือ 7.14% และลดเวลาในการทางานลงท้ังส้ิน 1 เครอ่ื งมือทาง นาทีหรือ 5.55% สรุปค่าเฉล่ียผลของการปรับปรุง ต้ังแตข่ ัน้ ตอนที่ 1 ถึงขั้นตอนท่ี 4 สามารถลดระยะทาง การแพทย์ ผลิตภัณฑ์ฟองน้า สายพาน เป็น ลงได้ท้ังส้ิน 9% เวลาท่ีใช้ลดลงทั้งสิ้น 13.8% และ ต้น เน่ืองจากยางพารามีคุณสมบัติพิเศษกว่าวัสดุ ขนั้ ตอนในการทางานลดลงทัง้ สิ้น 5.26% ธรรมชาติอ่ืนๆ คือ สามารถยืดหยุ่นหรือแข็งถึงขนาด ใช้แทนโลหะบางชนิดก็ได้ สามารถเก็บน้าได้ อัดลมไว้ จากการสารวจข้อมูลเบ้ืองต้นของโรงงาน ได้ ไม่ร่ัว และยังเป็นฉนวนไฟฟ้า จากประโยชน์และ สหกรณ์กองทนุ สวนยาง กรณีศกึ ษา พบวา่ เริ่มกจิ การ คุณสมบัติดังกล่าวจึงทาให้ความตอ้ งการใชย้ างพารามี ต้ังแต่ พ.ศ. 2537 โดยการรวมตัวกันของกลุ่มสมาชิก ปรมิ าณเพม่ิ ขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ได้ประกอบกิจการเก่ยี วกบั การแปรรูปยางแผน่ รมควัน เป็นหลกั โดยจะทาการรบั ซ้ือนา้ ยางสดจากสมาชิก ซ่งึ จากการศึกษาค้นคว้าข้อมูล พบว่าในปี จะดาเนินการผลิตตลอดเกือบท้ังปี ยกเว้นในช่วงฤดู 2551 อัญชลี ได้ทาการศึกษาปัญหาการผลิตยางแผ่น ฝน ส่วนกระบวนการจัดจาหน่ายจะอยู่ในรูปแบบการ รมควันของสหกรณ์กองทุนสวนยางปริก จังหวัด ขายตรง อย่างไรก็ตามในกระบวนการแปรรูปจะมี นครศรีธรรมราช โดยปัญหาท่ีพบมี 5 ประการ คือ นโยบายการผลิตตามปริมาณน้ายางสดที่รับซื้อจาก ยางคัตติ้ง ยางฟอง ยางมีส่ิงสกปรก ยางสุกไม่ทว่ั และ สมาชกิ ซึ่งมีกาลังการผลิตสูงสุด 720 ตนั ตอ่ ปี ยางเหนยี วเย้ิม โดยปญั หาที่พบมาก คอื ยางคตั ตงิ้ และ ยางฟอง ซึ่งภายหลังจากการปรับปรุงกระบวนการ โดยกระบวนการผลิตของโรงงานมีของเสีย ผลิตสามารถลดปริมาณของเสียที่เกิดจากปัญหา เกิดข้ึน ได้แก่ ยางฟอง ยางคัตต้ิง และเศษยาง ซึ่ง ยางคัตติ้งได้ 1.43% ปัญหายางฟองลดลง 1.01% เกิดข้ึนจากวิธีการผลิตท่ีไม่เหมาะสม ไม่มีมาตรฐาน หลังจากน้ันในปี 2553 ขจรศักดิ์ ได้ศึกษาปัญหาของ การผลิต ขาดการตรวจสอบในขั้นตอนการผลิต และ การทางานที่ไมม่ ปี ระสิทธิภาพ จงึ ไดท้ าการสารวจและ การบารุงรักษาเครื่องจักร รวมไปถึงการปรับปรุง สังเกตแต่ละกระบวนการทางานในแต่ละข้ันตอนโดย เคร่ืองจักรให้เหมาะสม งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์ ได้นาเทคนิคแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิตมา เพ่ือพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ ใช้ศึกษากระบวนการทางานเพื่อทาการปรับปรุงและ และทาการปรับปรุงเคร่ืองจักรให้สามารถใช้งานได้ แก้ไขปัญหาที่เกิดข้ึน ผลของการปรับปรุงมีดังน้ี อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ขั้นตอนแรกการนาน้ายางเข้ามาในโรงงาน ขั้นตอนที่ สองการแปรรูปน้ายางพารา สามารถลดเวลาในการ ทางานลงทั้งส้ิน 900 นาทีหรือ 62.03% ข้ันตอนที่ สามการนายางพาราแผ่นเข้าโรงอบ สามารถลด 54 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
วิธกี ารดําเนนิ งาน ลกั ษณะแผน่ ยางบรเิ วณท่ไี มโ่ ดนลกู กล้ิงลาย (ข) 1. การสารวจวิเคราะห์วินิจฉัยปัญหาของ ลักษณะและสาเหตุของปัญหา คือ แผ่นยาง สถานประกอบการ ขาดขณะเขา้ เครอ่ื งรดี ยาง ทาให้ต้องขายเปน็ ยางคัตตง้ิ จากการเข้าวิเคราะห์ข้อมูลประสทิ ธภิ าพการ เนื่องจากยางขาดไม่เต็มแผ่น และ แผ่นยางท่ีไม่โดน ลูกกลิ้งลาย ซึ่งเกิดจากจักรรีดยางชารุด ส่งผลให้เน้ือ ผลิตของสหกรณ์กองทุนสวนยาง กรณีศึกษา พบว่า ยางจะมีความหนาและมีความช้ืน ทาให้ตอ้ งคตั ตงิ้ ส่วน กระบวนการผลิตมีของเสียเกิดข้ึน ได้แก่ ยางฟอง ที่ไม่แหง้ ออก และขายเป็นยางคตั ติง้ ยางคัตต้ิง และเศษยาง ซึ่งจากการร่วมสารวจของทาง สถานประกอบการกับทีมท่ีปรึกษา พบว่า ใน นอกจากปัญหายางคัตติ้งแล้ว ยังพบว่า กระบวนการผลิตมีความสูญเสียเกิดขึ้นในหลาย พนักงานทายางแผ่นจะใช้ความชานาญในการกาหนด กระบวนการ ท้ังในเร่ืองของวิธีการผลิตที่ไม่เหมาะสม ปริมาณน้าและน้ายางท่ีจะใส่ลงในตะกงเพื่อทายาง ไม่มีมาตรฐานการผลิต ขาดการตรวจสอบในขั้นตอน แผ่น โดยการใช้มือจุ่มลงในน้ายางสดเพ่ือดูความ การผลิต และการบารุงรักษาเครื่องจักร รวมไปถึงการ เข้มข้นของยางซ่ึงทาให้ อัตราส่วนในการผสมไม่เป็น ปรับปรงุ เครื่องจกั รให้เหมาะสม มาตรฐาน ส่งผลให้ขนาดของแผ่นยางที่ได้มีน้าหนักไม่ เท่ากัน และเม่ือนายางแผ่นไปรีดด้วยจักรรีดยางก็จะ จากการสัมภาษณ์และสารวจกระบวนการ ได้ยางท่ีมีขนาดแผ่นและความหนาไม่เท่ากัน เม่ือนา ผลิตภายในสถานประกอบการ เพ่ือดาเนินการหา ยางเข้าไปอบก็จะทาให้ยางแผ่นรมควันที่ได้สุกไม่ ประเด็นปัญหาท่ีสาคัญและคัดเลือกหัวข้อปัญหาที่จะ พร้อมกัน เน่ืองจากความหนาไม่เท่ากัน ยางแผ่นบาง นามาปรับปรุงแก้ไข โดยมีระดับความสาคัญของ จะสุกก่อน ส่วนยางแผ่นหนาจะสุกช้ากว่า แต่ไม่ ปญั หาดังนี้ สามารถนายางที่สุกแล้วออกมาจากห้องอบได้ ซึ่ง สาเหตุดังกล่าวทาให้ยางแผ่นบางไดร้ ับความร้อนนาน ตารางท่ี 1 การคัดเลือกหัวข้อปัญหาเพ่ือนามา เกินไป ทาให้เกิดยางฟองและไม่สามารถกาหนดเวลา ปรับปรุงคุณภาพให้ดขี น้ึ ที่ใช้ในการอบได้ ทาให้สิ้นเปลืองพลังงานเกินความ โอกาสท่ีจะเกดิ ความถ่ี ความรุนแรง รวมคะแนน จาเป็น และจากการสารวจพบว่าแผ่นยางมีน้าหนักไม่ ปัญหา (ลาดับ เท่ากัน เฉล่ีย 800-1,000 กรัม/แผ่น ทาให้กาลังการ 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 ความสาคัญ) ผลิตไม่สมา่ เสมอ ยางฟอง √ √ √ 6 (2) 2. แนวทางการแก้ไขปัญหาของสถาน ยางคัตติง้ √ √ √ 7 (1) ประกอบการ เศษยาง √ √√ 5 (3) การหาสาเหตุของปญั หาในกระบวนการผลิต จากตารางท่ี 1 พบว่าปัญหาหลักที่เกิดข้ึน หลังจากสรุปประเด็นปัญหาในกระบวนการผลิตที่ บ่อยที่สุดและมีความถ่ีในการเกิดสูงนั้นคือ ปัญหา สาคัญร่วมกับสถานประกอบการได้แล้ว จึงทาการ ยางคตั ติ้ง เน่ืองจากมีแผน่ ยางขาด (รูป 1(ก)) และแผน่ วิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา โดยใช้การวิเคราะห์ ยางบางส่วนไม่โดนลูกกล้ิงลาย (ภาพประกอบ 1(ข)) ด้วยแผนภาพสาเหตุและผล ( Cause & Effect เกดิ ข้นึ จานวนมาก Diagram) ดังรูปที่ 2 แสดงการวเิ คราะห์ดว้ ยแผนภาพ สาเหตุและผลของปัญหาในกระบวนการผลิตพบ (ก) (ข) ประเด็นปัญหาที่สาคัญ คือ ยางคัตต้ิงท่ีเกิดจากแผ่น รปู ที่ 1 ลกั ษณะของปัญหายางคตั ต้งิ ยางขาด และแผ่นยางบางส่วนไม่โดนลูกกลิ้งลาย ทา ให้เกิดของเสียปริมาณมาก รวมท้ังเสียเวลาในการคัด ลกั ษณะแผน่ ยางขาด (ก) แยกยาง จากการวิเคราะห์ในข้างต้นจึงพบวา่ สาเหตุที่ สง่ ผลให้เกิดข้ึน มดี ังต่อไปนี้ วารสารวิชาการรบั ใช้สงั คม มทร.ล้านนา 55 ปีท่ี 1 ฉบับท่ี 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
- วิธีการเตรียมวัตถุดิบไม่มีมาตรฐานในการ รวมไปถึงการไม่มีมาตรฐานในการผลิต เพื่อให้ ผสมกรด น้าและน้ายาง รวมถึงไม่มีการตรวจสอบ สอดคล้องกับวัตถุดิบท่ีเข้ามา เน่ืองจากเปอร์เซ็นต์ ความเข้มข้นของน้ายางทจ่ี ะใชใ้ นกระบวนการผลิต DRC ของน้ายางสดที่เข้ามามีความต่างกันในแต่ละ ช่วงเวลา โดยสามารถวิเคราะห์ภาพรวมของปัญหาท่ี - เครื่องจักรขาดระบบการบารุงรักษาอย่าง พบในกระบวนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์ เหมาะสม สวนยาง กรณีศึกษา ได้ดังแผนภาพสาเหตุและผลดัง รปู ท่ี 3 แสดงวเิ คราะห์ดว้ ยแผนภาพสาเหตแุ ละผลของ - พนกั งานของสถานประกอบการขาดความรู้ ปั ญ ห า ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ผ ลิ ต ( Cause & Effect และการเอาใจใส่ในการปฏบิ ตั ิงาน Diagram) พบประเดน็ ปญั หาท่ีทาใหป้ ระสทิ ธิภาพของ กระบวนการผลติ ตา่ พบวา่ ส่วนหน่งึ คือ ขาดมาตรฐาน - วัตถดุ บิ ของผ้สู ง่ มอบแตล่ ะราย (สมาชิกของ ในการผลิต แนวทางการจัดทามาตรฐานการผลิต โดย สหกรณ์) มีคุณภาพและค่าเปอร์เซ็นต์เน้ือยางแห้ง มีการกาหนดสัดสว่ นของปริมาณน้ากับนา้ ยางสดใหไ้ ด้ (DRC) ที่ไม่เทา่ กนั ขนาดแผ่นยางใกล้เคียงกัน เพ่ือให้ง่ายต่อการรีดยาง แผ่น การอบยางแผ่นลดของเสียที่เกิดข้ึนใน จากประสิทธิภาพการผลิตต่า มีแนวทางการ กระบวนการผลิตและเพิ่มกาลังการผลิตยางแผ่น ปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่ เกี่ ยว ข้ องกับ กา ร เพิ่ ม รมควันโดยการกาหนดให้แผ่นยางรมควันมีน้าหนัก ประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน โดยปัญหาท่ี เฉล่ยี 1,000 กรัม/แผน่ . สหกรณ์เป็นอยู่คือเครื่องจักรและเคร่ืองมือของ สหกรณ์มีการใช้งานมานานและขาดการบารุงรักษา ทาให้เครื่องจักรชารุดเสียหายและใช้งานได้ไม่เต็ม ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการผลิตต่า รปู ที่ 2 แผนภาพสาเหตุและผลของปญั หายางคตั ตง้ิ 56 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
รูปท่ี 3 แผนภาพสาเหตุและผลของปญั หาประสทิ ธภิ าพการผลติ ต่า ผลการดําเนนิ งาน จัดทาแผนการบารุงรักษาเคร่ืองจักรเชิงป้องกัน จากการท่ีทาการวิเคราะห์หาสาเหตุของ เพื่อให้สามารถพร้อมใชง้ านอย่เู สมอ ปัญหาร่วมกับสถานประกอบการ โดยการใช้การ (ก) (ข) วิเคราะห์ด้วยแผนภาพสาเหตุและผล จึงพบถึงสาเหตุ รูปท่ี 4 ลกั ษณะแผน่ เสียบและตะกงทีช่ ารุด (ก) ของปัญหาที่แท้จริงแล้วว่าเป็นการผสมวัตถุดิบที่ไม่ได้ และลกั ษณะของแผน่ ยางทม่ี ขี นาดไม่เท่ากนั (ข) มาตรฐาน และแผ่นเสียบบิ่น-งอ ทาให้ความน่ิมของ ยางไม่สม่าเสมอ อีกทั้งมีขนาดของแผ่นยางไม่เท่ากัน จากรูปท่ี 4 แสดงให้เห็นลักษณะแผ่นเสียบ รวมไปถึงแกนเพลาของจักรรีดยางเกิดการสึกหรอ ทา และตะกงที่ชารุด แผ่นเสียบหลุดจากร่อง ทาให้ความ ให้แผ่นยางล้นขอบของลูกรีดยาง ดังนั้น ทางผู้วิจัยจึง หนาของแผ่นยางไม่เท่ากัน และลักษณะของแผ่นยาง ร่วมกับทางสถานประกอบการดาเนินการเก็บข้อมูล ท่ีมขี นาดไมเ่ ทา่ กัน เนอื่ งจากแผ่นเสยี บบดิ งอ ของเสยี และหาแนวทางในการแก้ปัญหา ซึง่ ทางสถาน ประกอบการได้มีการดาเนินการแก้ไขปัญหายางคัตติ้ง - วิธีการ จัดทามาตรฐานการผลิตและทา จากสาเหตขุ องปญั หาทเี่ กิดข้ึนดงั ต่อไปน้ี การตรวจสอบค่า DRC ของน้ายางในบ่อรวม เพื่อ กาหนดปรมิ าณกรด น้า และน้ายาง ท่จี ะใชใ้ นการผลติ - พนักงาน มีการจัดอบรมพนักงานใน ยางแผ่น โดยต้องทาให้น้ายางเจือจางด้วยน้าสะอาด กระบวนการผลิตให้ตระหนักถึงวิธีการทางาน พร้อม และใช้เครื่องมือในการวัดปริมาณน้า ช่วยในการ ทั้งเพ่ิมความรู้ความเข้าใจ และความเอาใจใส่ใน ตรวจสอบปริมาณน้าให้ถูกต้อง เพ่ือให้ยางมีความ กระบวนการผลิต เพื่อช่วยลดปัญหาที่เกิดข้ึนใน เขม้ ขน้ เท่ากนั ทกุ ตะกงในกระบวนการผลติ กระบวนการผลติ - เคร่ืองจักร ทาการซ่อมแผ่นเสียบและตะ กงให้อยู่ในสภาพใชง้ านได้ปกติ เพื่อให้มีระยะห่างของ แผ่นเสียบท่ีเท่ากัน ซ่ึงจะทาให้ได้แผ่นยางมีขนาด เท่ากัน และให้ช่างจากภายนอกมาทาการเปลี่ยน ลูกปืนและพอกแกนเพลาของลูกรีดยาง พร้อมทั้ง วารสารวชิ าการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 57 ปที ่ี 1 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มถิ นุ ายน 2559
(ก) (ข) รปู ท่ี 6 ขั้นตอนการปรับปรงุ กระบวนการทายาง รูปท่ี 5 ลกั ษณะลูกปืนและแกนเพลาของลูกรดี ยางท่ี 1. ใช้บ่อรับน้ายาง 2 บ่อ เพ่ือสลับกันใน สกึ หรอ (ก) และ ลกั ษณะเครือ่ งมือในการวดั ปริมาณ การรวบรวมน้ายาง โดยทาการรวบรวมน้ายางสดจาก นา้ ให้ถูกต้องเพอื่ กาหนดอตั ราส่วนผสม (ข) สมาชิกลงบ่อท่ี 1 ให้ได้ปริมาณ 800-1,000 กิโลกรัม หลงั จากนน้ั จึงสลับใช้บ่อที่ 2 - วัตถุดิบ ทาการรวบรวมยางจากสมาชิก ลงในถังเก็บยางให้ได้ปริมาณมากก่อนทาการผลิต 2. เมื่อได้น้ายางสดตามปริมาณที่ต้องการ เพื่อให้น้ายางท่ีจะนามาผลิตยางแผ่นมีความเข้มข้น แล้ว ทาการกวนให้เข้ากัน และทาการเก็บตัวอย่าง ใกล้เคียงกัน และทาการกรองด้วยตะแกรงก่อนนามา ปริมาณ 10 กรมั ใสล่ งในถ้วยกระเบอ้ื ง ผลิต เพือ่ ปอ้ งกันการปนเปื้อนสง่ิ สกปรก 3. นาตัวอย่างน้ายางสดท่ีได้ไปทาการอบ ตารางที่ 2 การคานวณวิเคราะห์ผลก่อนและหลังการ ด้วยไมโครเวฟขนาด 800 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที ปรบั ปรงุ ปัญหายางคตั ต้งิ การคานวณ นา้ หนักยางคัตตง้ิ มลู ค่ายางคัตติ้ง 4. หลังจากทาการอบแล้วให้นายางแห้งท่ี วิเคราะหผ์ ล เฉลี่ยตอ่ ปี ทเี่ สยี ไป ได้ ไปช่งั นา้ หนักอีกครั้งเพื่อคานวณหาค่า DRC หน่วย กิโลกรมั /ปี บาท/ปี กอ่ นปรับปรงุ 7,438.00 115,289.00 5. เมื่อได้ค่า DRC ของน้ายางสดแล้ว ทา หลังปรับปรุง 5,467.51 30,542.60 การเทยี บค่า DRC ทไี่ ด้ในตาราง เพ่ือกาหนดอตั ราสว่ น ผลตา่ ง 1,970.49 84,746.40 ของนา้ ท่ีใช้ในการผลติ ยางแผน่ แต่ละตะกง คดิ เป็นร้อยละ 26.49 73.51 ตารางท่ี 3 ปริมาณน้าที่ใช้สาหรับตะกง ขนาด การปรับปรุงข้ันตอนการผลิตยางแผ่น 55x120x40 ซม. (ที่ความสูงน้า+น้ายาง รมควันให้มีขนาดแผ่นเท่ากันน้าหนักเฉลี่ย 1,000 สด 34 ซม.) กรัม/แผ่น โดยวิธีการวัดเปอร์เซ็นต์ค่า DRC ของน้า ยางก่อนผสมนา้ ในตะกง 58 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
เปอร์เซ็นต์ DRC น้าหนกั ยาง ระดับนา้ (ซม.) น้าหนักยาง สรุปมาตรการดาเนินการปรับปรุงเพ่ือเพิ่ม นา้ ยางสดในบ่อ แผน่ นา้ หนกั ยาง แผ่น ประสทิ ธภิ าพการผลติ และลดของเสยี รวมท่ีวัดได้ (%) (0.8 กก/แผน่ ) แผ่น (1.0 กก/แผน่ ) 1. ดาเนินการจัดฝึกอบรมพนักงานเพ่ือเพิ่ม (0.9 กก/แผ่น) ความรู้ความเข้าใจ และความเอาใจใส่ในกระบวนการ 29 11 9 7 ผลติ 30 12 10 8 31 12 10 8 2. ดาเนนิ การตรวจเช็คตะกงและแผน่ เสยี บที่ 32 13 11 9 ชารุดเสียหาย เพ่ือคัดแยกอันท่ีใช้งานไม่ได้ออก และ 33 14 12 10 ซอ่ มแซมสว่ นทีช่ ารดุ เสยี หาย 34 14 12 10 35 15 13 11 3. ทาการเปลี่ยนลูกปืนและพอกแกนเพลา 36 15 13 11 ของขอนรีดยาง 37 16 14 12 38 16 14 12 4. จัดทามาตรฐานการผลิตและทาการ 39 17 15 13 ตรวจสอบค่า DRC ของน้ายางในบ่อรวม เพื่อกาหนด 40 17 15 14 สตู รการผลิตในแต่ละวนั การนําไปใช้ 5. จัดทาคู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงานใน การดาเนินงานเพ่ือพัฒนากระบวนการผลิต กระบวนการผลติ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทาการปรับปรุง 6. จดั ทาเอกสารการบารงุ รกั ษาเชิงปอ้ งกนั เคร่ืองจักรให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ของสหกรณ์กองทนุ สวนยาง กรณีศึกษา มีคา่ ใช้จ่ายใน กติ ตกรรมประกาศ การดาเนินงาน ค่าวัสดุ/ค่าซ่อมจักรรีดยาง 55,000 ผู้วิจัยขอขอบคุณ สถาบันวิจัยและพัฒนา บาท สาหรับปรับปรุงปัญหายางคัตต้ิง และต้นทุน ดาเนินการ 3,000 บาท สาหรับปรับปรุงมาตรฐาน ส า ข า วิ ช า วิ ศ ว ก ร ร ม แ ม ค ค า ท ร อ นิ ก ส์ ค ณ ะ น้าหนักยางแห้ง 1,000 กรัม/แผ่น พบว่าภายหลังจาก วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล การดาเนินการปรังปรงุ สถานประกอบการสามารถลด พระนคร และศูนย์วิจัยการจัดการโลจิสติกส์และโซ่ น้าหนักยางคัตต้ิงโดยเฉลย่ี จากเดมิ 7,438 กิโลกรมั /ปี อุปทาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระ เปน็ 5,467.51 กิโลกรมั /ปี ลดลง 1,970.49 กโิ ลกรัม/ นครเหนือ อย่างยิ่งในการสนับสนุนด้านเวลาและ ปี หรือลดลงร้อยละ 26.46 จากเดิม คิดเป็นมูลค่า เครอื่ งมอื ในการวจิ ยั คร้ังน้ี. ยางคัตติ้งทีเ่ พ่ิมข้ึนหลงั ปรบั ปรงุ 84,746.41 บาท/ปี. บรรณานุกรม อภปิ รายผล โ ข จ ร ศั ก ด์ิ ท อ ง อ ะ ไ พ พ ง ษ์ . 2553. ก า ร เ พ่ิ ม เน่ืองจากรูปแบบการทางานและลักษณะ ประสิทธิภาพการผลิตยางพาราและลดต้นทุน โครงสร้างโรงงงานของสหกรณ์กองทุนสวนยางท่ีก่อต้ัง ด้านพลังงาน : กรณีศึกษาโรงงานแปรรูป ในปี 2538 และ 2539 มลี กั ษณะเหมอื นกนั ทาใหก้ าร ยางพารา. สารนิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ดาเนินกิจการประสบปัญหาลักษณะเดยี วกัน งานวิจัย สาขาวิชาการจัดการโซ่อุปทานแบบบูรณาการ นี้จึงเป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการผลิตให้มี บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยธรุ กิจบณั ฑิตย์. ประสิทธิภาพมากข้ึน และทาการปรับปรุงเครื่องจักร อัญชลี พรมิ้ พราย. 2551. การวางแผนการผลิตเพื่อ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงกลุ่ม ลดต้นทุนการผลิตยางแผ่นรมควันของสหกรณ์ สหกรณ์กองทุนสวนยางอ่ืนๆ สามารถนาไปเป็น กองทุนสวนยางปริก อาเภอทุ่งใหญ่ จังหวัด แนวทางในการพฒั นาไดด้ ้วยตนเอง นครศรีธรรมราช. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครศรธี รรมราช.. วารสารวิชาการรบั ใช้สงั คม มทร.ล้านนา 59 ปีที่ 1 ฉบบั ท่ี 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
“วา“รวสาารรสวาแชิรนวาวชิกแทานาการวางรทรกับารางใบั ชกรใ้สาเชตรังส้ เรคตังียคมรมียมมมบมบหทหทาคาวคววทิวิทาายมยมาาเเพลลพัยยั่ือือ่ เเตตททีพคพี คิมโมิโนพนพโ์ใโลลน์ใยนวยรี าวาีรรชาาสรมชาสงมรคางลรคลลา้ ลน้านนา”นา” แนวคิดและหลักการ ปัจจุบัน วิชาการรับใช้สังคม (socially-engage scholarship) ได้มีการดาเนินการกันแพร่หลายและ ต่อเน่ือง โดยเป็นการทางานัเชิงวิชาการร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยฯหรือหน่วยงานต่างๆกับสังคม เพื่อเป้าหมายสาคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่ทิศทางท่ีดีข้ึน โดยการทางานร่วมกันที่ว่านั้นต้ังอยู่บนหลักการ พ้ืนฐาน 4 ประการ คือ ร่วมคิดร่วมทา (Partnership) ผู้เก่ียวข้องมีผลประโยชน์ร่วมกัน (Mutual benefit) เรยี นรู้และใชค้ วามร้รู ว่ มกนั (Scholarship) และมผี ลกระทบตอ่ สังคม (Social impact) การดาเนินงาน “วชิ าการรับใช้สงั คม” จะเน้นการมสี ่วนร่วมของชุมชน หมู่บา้ น/ชมุ ชนแบบมีส่วนร่วม โดยสมาชิกในชุมชน นักวิชาการของมหาวิทยาลัยฯ หน่วยงาน ร่วมกันคิด กาหนดแนวทางในการดาเนินการ ร่วมกัน มีการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนท่ีช่วยกันค้นหาความต้องการ หรือปัญหาท่ีต้องการการแก้ไข โดยแบง่ ได้เป็น 1. งานบริการวชิ าการ (community service learning) ที่มีกระบวนการนาองค์ความรู้ที่มีอยู่ภายใน หรือภายนอกมหาลัยมาปรับปรุง ประยุกต์ และใช้กระบวนการที่เหมาะสมและเข้ากับบริบทของแต่ละชุมชน หรอื สถานประกอบการ 2. งานวิจัย (socially-engage research) ที่สร้างองค์ความรู้เพ่ือตอบสนองความต้องการและ แก้ปญั หาให้กับผูใ้ ช้ อาทิ ชุมชนหรือผ้ปู ระกอบการ ดังนั้นการดาเนินการ “วารสารทางวิชาการรับใช้สังคม” จะเป็นแนวทางหนึ่งให้นักวิจัย นักบริการ วิชาการ ท้ังภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย ท่ีทางานร่วมกับผู้ใช้ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นคนในชุมชนหรือ ผู้ประกอบการ มีแหล่งวารสารที่สามารถตีพิมพ์เผยแพร่ผลงาน เป็นแหล่งแลกเปล่ียนเรียนรู้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ การดาเนินงานวิชาการด้านรับใช้สังคมของมหาวิทยาลัย และประเทศชาติ ให้พฒั นาขึ้นตอ่ ไป ทั้งงานวชิ าการ รับใชส้ งั คมเพือ่ ประโยชน์ของชมุ ชนและสาธารณะ และงานวิชาการรบั ใช้สังคมเพ่ือผปู้ ระกอบการ วัตถปุ ระสงคข์ อง “วารสารวชิ าการรบั ใชส้ ังคม” วารสารวิชาการรบั ใช้สังคม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา มีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ตีพมิ พ์ผลงาน วิชาการด้านรับใชส้ ังคม ทั้งงานวิจัยและงานบริการวชิ าการ เผยแพร่เพือ่ พฒั นาสงั คมและสง่ เสริมใหน้ กั วชิ าการ ดา้ นรบั ใชส้ ังคมในหนว่ ยงานต่างๆไดม้ ีแหลง่ นาเสนอผลงานทางวิชาการสูส่ าธารณะ 60 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
หลกั เกณฑ์การเสนอบทความวจิ ัยสาหรับ “วารสารวิชาการรับใช้สังคม” 1. เป็นบทความทเ่ี กิดจากการค้นคว้าวิจัยโดยมีกระบวนการนาไปสูก่ ารสร้างความรู้เพ่ือใชป้ ระโยชน์ในชุมชน สถานประกอบการ และมีข้ออธบิ ายไดอ้ ย่างชัดเจน และ/หรือ เป็นบทความที่เกิดจากการบริการวิชาการ ท่ีสามารถอธิบายกระบวนการนาองค์ความรู้ ไปปรับใช้ ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและความ ตอ้ งการของชุมชนหรอื ผปู้ ระกอบการ 2. เป็นงานวจิ ัยหรืองานบริการวชิ าการท่ีมเี ป้าหมายหรือวัตถุประสงค์เพือ่ การใช้ประโยชนใ์ นการพฒั นาสังคม ชุมชน ท้องถนิ่ และ/หรือผปู้ ระกอบการ 3. มีการนาผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในสถานประกอบการหรือในชุมชนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง อาทิ ประโยชน์เชิงนโยบาย เชงิ พานชิ ย์ เชิงสาธารณะ หรืออนื่ ๆ 4. เป็นการบรกิ ารวิชาการทส่ี ามารถอธบิ ายกระบวนการหรือวิธกี ารนาเอาองค์ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในสถาน ประกอบการหรือในชุมชน 5. การนาไปใช้ประโยชน์เกิดผลกระทบกับสังคม ชุมชน ท้องถิ่นหรือผู้ประกอบการในด้านการยกระดับ คุณภาพด้านต่างๆ อย่างชัดเจน อาทิ รายได้ โอกาสในการดาเนินชีวิต สุขภาพตลอดจนผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน ฯลฯ และ/หรือมีผลกระทบในทางบวกในด้านต่างๆของโรงงาน สถาน ประกอบการ การเขียนบทความจากงานวิจัยและบริการวิชาการเพ่ือตีพิมพ์ใน “วารสารวิชาการรับใช้สังคม” จะตอ้ ง สอดคลอ้ งกับประกาศ ก.พ.อ. ฉบับที่ 9 ท่ีเก่ยี วกับการเขียนเอกสารวชิ าการรับใชส้ งั คม ซง่ึ มี 7 ประการ คอื สามารถอธบิ าย/ชแี้ จงในประเดน็ ดังตอ่ ไปนี้ 1. สภาพการณ์ก่อนการเปลี่ยนแปลงท่ีเกดิ ขนึ้ 2. การมสี ว่ นร่วมและการยอมรบั ของสงั คมเป้าหมาย 3. การบวนการทท่ี าให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงทด่ี ขี ้ึน 4. ความรู้ความเช่ียวชาญทใ่ี ชใ้ นการทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงนน้ั 5. การคาดการณสง่ิ ท่จี ะตามมาหลงั จากการเปล่ยี นแปลงนั้น 6. การประเมนิ ผลลัพท์การเปล่ียนแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ 7. แนวทางการติดตามและธารงรกั ษาพัฒนาการที่เกิดขนึ้ ใหค้ งอยตู่ ่อไป วารสารวิชาการรับใช้สังคม มทร.ลา้ นนา 61 ปที ่ี 1 ฉบบั ที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
รปู แบบและแนวการเขียนบทความ เขเขียียนนบบททควคาวมาภมาภษาาษไทายไทควยาคมวยาามวยไมา่เวกไินม่เก10ิน ห1น0้าหกนระ้าดการษะดAา4ษ พAิม4พพ์ดิม้วยพต์ดัว้วอยักตษัวรอักTHษรSaTrHabSaanrabPaSnK ขนาด 15 พอยต์ อาจมีภาพ ตาราง แผนภมู ปิ ระกอบโดยทง้ั หมดตอ้ งอยู่ในข้อจากัด 10 หนา้ ดังกลา่ ว องค์ประกอบของบทความ ชื่อโครงการวิจัย การเขียนชื่อเร่ืองใช้ภาษาไทยถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ กระชับสามารถสื่อจุดประสงค์การ วิจัยชัดเจน ในกรณีท่ีมีภาษาอังกฤษให้ทาเป็นตัวพิมพ์ใหญ่เฉพาะตัวแรกของคานามและ คุณศัพท์ เช่น Vaginal Microprostol in Previous Cesarean Section ที่เหลือทาเป็น เล็กหมด รวมทั้งคากริยา คากริยาวิเศษณ์ และคาท่ีไม่ใช่เป็นคานาเช่น ตัวอย่าง ถ้าสงสัยขอ แนะนาให้พิมพ์ตัวใหญ่เฉพาะตัวแรกของบรรทัดเท่านั้น นอกน้ันทาตัวเล็ก เช่น Vaginal microprostol in previous cesarean section ไม่ แ นะนาใ ห้ใ ช้ตัวสั ญ ลั กษณ์ต่างๆ ในการพิมพ์ชื่อเรื่อง ช่อื ผดู้ าเนินโครงการและผ้รู ่วมดาเนินโครงการ หน่วยงาน บทคดั ย่อ ภาษาองั กฤษ ใหค้ รบประเดน็ Objective , Material and Method, Results, Conclusion เขยี น 10 – 15 บรรทัด ไม่มีหวั ขอ้ กไ็ ด้ ภาษาไทยให้มีข้อความเหมือนภาษาอังกฤษ ความยาวไม่ควรเกิน 300 คํา โดยให้ สรปุ เนอ้ื หาของบทความทงั้ หมดใหเ้ ขา้ ใจทีม่ าของการทําวิจัย วัตถปุ ระสงค์ วิธีดําเนินการวิจัย โดยย่อ ผลการวจิ ัยวธิ ีการนาํ ไปใช้ประโยชน์ และไดผ้ ลลพั ธ์ อย่างไร คาสาคญั Keywords บทนา ชี้ให้เห็นความสาคัญของเรอื่ งทที่ า เขียนใหส้ ้ัน กระชับ ไมเ่ กิน 15-20 บรรทดั ค้นควา้ เพ่มิ เติมวา่ มผี ู้ใดทางานในลกั ษณะใกล้เคียงแล้วบ้าง ได้ผลอยา่ งไร 62 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
ระบุแนวทางการวิจัย/กระบวนการดาเนินการบริการวิชาการ จุดประสงค์ เขียนเป็นความ เรียงหรอื จัดลาดบั ความสาคญั แล้วจดั เรียงเป็นหวั ขอ้ (อาจกลา่ วถงึ ขอ้ 1. สภาพการณก์ ่อนการเปลย่ี นแปลงทเี่ กิดข้ึน) วิธีดาเนินงาน อธิบายวิธีดาเนินโครงการให้เห็นขั้นตอน กระบวนการ ระบุขอบเขตของการวิจัย วิธีเลือกกลุ่ม ตัวอย่างให้ชัดเจน ในลักษณะท่ีหากมีผู้อ่ืนต้องการทาวิจัยในลักษณะเดียวกันสามารถอ่านและ นาไปปฏิบัติได้ (กล่าวถึงข้อ 2.การมีส่วนร่วมและการยอมรับของสังคมเป้าหมาย 3.กระบวนการที่ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงท่ีดีข้ึน 4.ความรู้ความเชี่ยวชาญที่ใช้ในการทาให้ เกดิ การเปล่ยี นแปลงนน้ั หรือใช้องค์ความร้อู ะไรไปทาบ้าง) ผลการดาเนนิ งาน อธิบายผลที่เกิดจากโครงการโดยตรง ไม่มีการแสดงความคิดเห็นในส่วนนี้ อาจมีภาพประกอบ แผนภมู ิตาราง (อาจอธิบายถึงข้อ 2.การมสี ่วนร่วมและการยอมรับของสงั คมเป้าหมาย ข้อ 6. ผลลัพธก์ ารเปล่ยี นแปลงทเ่ี กิดข้นึ จากการลงไปดาเนินโครงการ) การนาไปใช้ประโยชน์ อธิบายให้เห็นว่าผลงานดังกล่าวได้นาไปใช้ประโยชน์อย่างไร ใครคือผู้ใช้ และมีกระบวนการ ผลักดัน ผลงานดังกล่าวสู่การใช้ประโยชน์ท้ังเชิงนโยบาย เชิงพาณิชย์ และเชิงสาธารณะอย่างไร (อาจอธิบายถึงข้อ 2.การมีส่วนร่วมและการยอมรับของสังคมเป้าหมายและข้อ 6 ผลลัพธ์ การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขน้ึ จากการลงไปดาเนินโครงการ) อภปิ รายผล สรุปและอ้างอิงให้เห็นว่าผลการดาเนินงานดังกล่าวได้องค์ความรู้ใหม่ นวัตกรรมหรือทางเลือก ใหม่ให้แก่พื้นที่อย่างไร และอธิบายปรากฏการณ์ท่ีเกิดข้ึนจากผลการดาเนินงานให้เป็นรูปธรรม รวามท้ังเสนอและการทางานในข้ันต่อไป (อาจอธิบายข้อ 5.การคาดการณสิ่งท่ีจะตามมา หลังจากการเปลีย่ นแปลงนนั้ ข้อ 7. แนวทางการติดตามและธารงรักษาพัฒนาการท่ีเกิดข้ึน ให้คงอย่ตู อ่ ไป) บรรณานุกรม การรวบรวมรายการเอกสารท้งั หมดที่ผู้เขียนได้ใช้อา้ งองิ ในการเขยี นผลงานน้ัน ๆ จัดเรียงรายการตามลาดับ อักษรช่ือผู้แตง่ ภายใต้หัวข้อ เอกสารอ้างอิง สาหรับผลงานวชิ าการภาษาไทยหรือ Reference สาหรับผลงานวชิ าการ วารสารวชิ าการรับใชส้ ังคม มทร.ล้านนา 63 ปที ่ี 1 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถุนายน 2559
ภาษาอังกฤษ โดยใช้รูปแบบการเขียนเอกสารอ้างอิงแบบ APA (American Psychological Association) ตัวอย่าง การเขียนเอกสารอา้ งอิงมดี งั น้ี หนงั สือ ช่อื ผแู้ ตง่ .ปที ีพ่ มิ พ์ .ชอ่ื เรือ่ ง. (ฉบบั พมิ พ)์ . สถานทพ่ี มิ พ์. ผจู้ ัดพิมพ์ : ตัวอย่าง พรพิมลตรีโชติ .2542 .ชนกลุมนอยกับรัฐบาลพมา. กรุงเทพฯสานักงานกองทุนสนับสนุนการ : .วจิ ัย บทความ ชื่อผูแตง .ปทพ่ี มิ พ(บรรณาธกิ าร) ในชื่อบรรณาธิการ .ชอ่ื บทความ ., ชอื่ เรอื่ งทฉี่ บับพิมพ์ .หน้า . : สถานทพ่ี ิมพ์ (ปรากฏบทความผู้จดั พมิ พ์) ตัวอย่าง เสรี ลีลาภัย . 2542 .เศรษฐกิจชาตินิยมในประเทศกาลังพัฒนาและสถานการณ์ในประเทศไทย. ณรงค์เพ็ชรประเสริฐ (บรรณาธิการ), 1999 จุดเปลี่ยนแหยุคสมัย. 90-141. กรุงเทพฯ: ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเมอื ง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. บทความในวารสาร ชื่อผ้แู ตง่ . ปที พ่ี มิ พ.์ “ชอ่ื บทความ.” ชื่อวารสาร. ปท่ี (ลาดับท)่ี , เลขหน้าท่ีปรากฏบทความ. ตัวอยา่ ง พทุ ธชาด โปธิบาล และนานนั ท์ ตรงดี. 2541. \"สถานะของภาษาตากใบในภาษาถ่ิน. วารสาร สงขลานครนิ ทร ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร.์ 4, 2: 167-187. สาระสังเขปจากฐานข้อมูลู CD-Row ชอื่ ผแู้ ต่ง. ปที พ่ี มิ พ.์ ช่ือบทความ (ซดี ีรอม). ช่อื วารสาร, ปท่ี (ลาดับท่ี), เลขหนา้ ที่ปรากฏบทความในวารสาร, สาระสงั เขปจาก: ช่ือฐานขอ้ มลู และหมายเลขเอกสารเพอ่ื การคน้ ตวั อยา่ ง Preston, W. 1982. Poetry ideas in teaching literature and writing to foreign student (CD-ROM). TESOL quarterly, 16, 489-502. Abstract from: Dialog File: ERIC Item: EJ274529 วิทยานิพนธ์ ชอื่ ผแู ตง. ปทพี่ ิมพ. “ช่ือวิทยานพิ นธ. ระดบั วิทยานิพนธห รือปริญญานิพนธมหาวทิ ยาลยั . ตวั อยาง เบ็ญจรชั เวชวิรชั . 2541. “การศึกษาปจ จยั ท่ีมผี ลกระทบตอ มลู คา การใหสินเชื่อ เพอื่ การสงออกและนาํ เขาของสถาบนั การเงนิ ไทย.” วิทยานิพนธป รญิ ญามหาบัณฑิต ภาควชิ าเศรษฐศาสตรบ ณั ฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร. แหลง สารสนเทศบนอินเตอรเน็ต ชอ่ื ผแู ตง. ปท ่พี ิมพ. “ชือ่ บทความ.” ชอ่ื วารสาร. ปทีห่ รอื เลมที่, ฉบบั ที่สืบคน เมือ่ วนั ท่ี เดือน ป, จากแหลง ทอี่ ยบู นอนิ เตอรเน็ต 64 RMUTL Journal Socially of Engaged Sholarship Vol. 1 No. 1 January - June 2016
ตั ว อ ย่ า ง Indick,W.2002. “Gender Differences in Moral Judgment: Is Non-Consequential Reasoning a Factor?” Current Research in Social Psychology. 5,2 Retrieved November 11,2002, from http://www.uiowa.edu/grpproc/crisp/ crisp5.2htm การสง่ ต้นฉบับ กองบรรณาธกิ าร “วารสารวิชาการรับใช้สงั คม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา” ส่งอีเมล์ (E-mail) แฟม้ ข้อมลู มาท่ี [email protected] วารสารวชิ าการรบั ใช้สงั คม มทร.ล้านนา 65 ปที ่ี 1 ฉบับที่ 1 มกราคม - มิถนุ ายน 2559
Search
