Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วารสารแก้วปัญญา ฉบับปฐมฤกษ์ (กรกฎาคม - กันยายน 2554)

วารสารแก้วปัญญา ฉบับปฐมฤกษ์ (กรกฎาคม - กันยายน 2554)

Published by RMUTL Knowledge Book Store, 2020-09-01 02:31:49

Description: Kaew-mag-54-1-1

Search

Read the Text Version

วารสารฉบบั ท่ี 1 ปที ี่ 1 กรกฎาคม - กันยายน 2554 No. 1 Vol. 1 July - September 2011 สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชุมชน แKaกewว้ paปnyญั a ญามหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้นนา “ราชมงคลลา้ นนารว่ มใจ ช่วยภัยน้ำท่วม” “ลืมอา้ ย (จรลั มโนเพชร) แลว้ กา” “ลดต้นทนุ อาหารสัตวจ์ ากเศษขนมปังเหลือใช้” “ปลาพลวงหนิ ปลาแซลมอนแห่งเมืองนา่ น” “ป้องกันการจดุ ระเบิดด้วยเครอ่ื งรบกวนคลืน่ โทรศัพทม์ อื ถือ” “แอว่ เมอื งเกา่ วรนคร”

วารสารฉบับท่ี 1 ปที ี่ 1 กรกฎาคม - กนั ยายน 2554 No. 1 Vol. 1 July - September 2011 สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยีส่ชู มุ ชน แKaกew้วpaปnyัญa ญามหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้นนา ทปี่ รึกษา หวั หนา้ ฝา่ ยศลิ ปกรรม อาจารยช์ ัยยง เอ้อื วิรยิ านกุ ลุ เจษฎา สภุ าพรเหมนิ ทร์ อธกิ ารบดีมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา กองบรรณาธิการ บรรณาธิการบริหาร สายหยุด สวุ ตั ถี , พษิ ณุ พรมพราย, อำนาจ อุย้ ฟูใจ ผศ.ประพฒั น์ เชือ้ ไทย รองอธิการบดีฝา่ ยวิจยั และพฒั นา ทนงศกั ดิ์ ดใี จ, ทิน อ่อนนวล, รัตนาภรณ์ สารภ,ี บรรณาธกิ าร ภูริทตั วชิรนคร ,มนตรี จนิ ดาคำ อาจารยภ์ ฤศพงศ์ เพชรบุล ศลิ ปกรรม ผอู้ ำนวยการสถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยีสชู่ ุมชน จกั รรินทร์ ชน่ื สมบัติ , สงิ หล วชิ ายะ บรรณาธกิ ารวิชาการ ทป่ี รึกษากฎหมาย ดร.ภาสวรรธน์ วัชรดำรงค์ศักด์ิ ธนารกั ษ์ ณ ราช (น.บ.) ผู้อำนวยการสถาบนั วิจัยและพัฒนา ประชาสัมพนั ธ์และสมาชิก บรรณาธิการศิลปกรรม วรรณิษา จ้ีมลู อาจารยก์ ิตชิ ยั ระมงิ ค์วงศ์ พสิ ูจน์อักษร ผ้ชู ่วยบรรณาธิการศิลปกรรม เสาวลักษณ์ วชริ นคร , น้ำผึง้ ชราชิต อาจารย์คุณะพุฒิ นุชหมอน บรรณาธกิ ารต้นฉบบั สำนกั พมิ พแ์ กว้ ปัญญา ผศ.ยทุ ธนา เขาสเุ มรุ ผชู้ ่วยบรรณาธิการตน้ ฉบับ สถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยสี ่ชู ุมชน อาจารย์ธานี อดิศยั พัฒนะกลุ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา       ผชู้ ่วยบรรณาธกิ าร 98  หมู่ 8  ต.ปา่ ปอ้ ง  อ.ดอยสะเกด็  จ.เชียงใหม่  50220   อาจารย์ธราดล ดวงสุภา โทรศพั ท์ 053-266516-8           หัวหนา้ กองบรรณาธกิ าร e-mail : [email protected] วา่ ทีร่ ้อยตรี รัชต์พงษ์ หอชยั รัตน์ www.facebook.com/kaewpanya

“วารสาร แก้วปญั ญา” ปฐมฤกษ์เบกิ แลว้ แกว้ ปัญญา แหลง่ วชิ าคลงั ความร้คู ชู่ มุ ชน สรา้ งสรรคส์ บื สานถ่ายทอดทุกผคู้ น เสริมสรา้ งชนสง่ เสรมิ งานสานสงั คม เพรยี บสรรพพร้อมสรรบรรณสาร องคค์ วามรวู้ ิชาการงานส่ังสม คือพนั ธกจิ คือหนา้ ทสี่ ถาบันการอุดม ศึกษาปรับมุง่ รับใช้ให้บริการ นำ้ ผงึ้ ชราชิต ประพันธ์ 3 วารสาร แกว้ ปญั ญา

วารสารฉบับที่ 1 ปีท่ี 1 กรกฎาคม - กันยายน 2554 No. 1 Vol. 1 July - September 2011 สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน แKaกewว้ paปnyัญa ญามหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้นนา นายชยั ยง เอ้ือวิริยานกุ ลู อธกิ ารบดี ม ห า วิ ท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี ร า ช ม ง ค ล ล้านนาพร้อมผู้บริหารและคณาจารย์ มอบภาพเขียน ชื่อภาพ “มหากรณุ าธคิ ุณ” เขียนโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโน โลยีราชมงคลล้านนา เพ่ือเปน็ ทร่ี ะลึก เนื่องในโอกาสได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ของประเทศไทยให้กับนางสาวย่ิงลักษณ์ ชนิ วัตร นายกรัฐมนตรี มหาวทิ ยาลยั ฯ ได้ นำเสนอผลการดำเนินงานโครงการพัฒนา ศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน(SML)ซึ่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ร่วมเป็นหน่วยงานภาคีในการขับเคลื่อน โครงการฯ ในอดีตทผ่ี า่ นมา สารบญั หนา้ 5 สารจากอธิการบดี หนา้ 6 บทบรรณาธิการ หน้า 8 ราชมงคลล้านนาร่วมใจ ชว่ ยภยั นำ้ ท่วม หนา้ 12 บคุ คลประจำฉบับ “ลมื อา้ ย (จรลั มโนเพชร) แลว้ กา” หน้า 16 “ลดต้นทุนอาหารสตั ว์จากเศษขนมปงั เหลือใช”้ หนา้ 18 “ปลาพลวงหนิ ปลาแซลมอนแห่งเมอื งน่าน” หน้า 20 “ปอ้ งกนั การจดุ ระเบดิ ดว้ ยเครอ่ื งรบกวนคลนื่ โทรศัพท์มือถือ” หน้า 22 โครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริ “กับดกั แมลงตน้ ทุนตำ่ ” หน้า 24 โครงการยกระดบั การพัฒนาและส่งเสรมิ เศรษฐกจิ ชุมชนพึ่งตนเอง หน้า 26 องคค์ วามรูพ้ ร้อมใช้เกร็ดกฎหมายใกล้ตวั หน้า 28 สืบค้นคลังความรูอ้ อนไลน์ หนา้ 30 เรื่องเลา่ นกั เดินทาง “แอ่วเมอื งเก่า วรนคร” หน้า 34 คูค่ ิด มติ รชุมชน “ มีปญั หา อย่ารอชา้ รบี ถามมา เราตอบให้ ”

สารจากอธกิ ารบดี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา หนา้ ที่ของมหาวิทยาลัยหาได้จำกัดไวแ้ ต่ เพยี งการผลติ บัณฑิตสสู่ ังคมเทา่ น้นั หากแต่ รวมถึงการวิจัยเพ่ือตอบสนองรับใช้ความ ต้องการสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอด เวลา ตลอดจนหนา้ ที่สำคญั ของมหาวิทยาลยั คือการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ผ่านการวิจัย พัฒนาคืนสู่สังคม บนพ้ืนฐานแห่งการรับใช้ สังคมและสาธารณะ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา เล็งเห็นความสำคัญในการถ่ายทอดองค์ความรู้ จากงานวจิ ัย เพ่อื นำไปประยุกต์ใช้และปฏบิ ัติ ไดจ้ รงิ ของชุมชนต่างๆ จึงไดร้ ่วมกันผลักดันให้ เกดิ สถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยีสชู่ มุ ชน เพอ่ื เปน็ การพัฒนาชุมชนและสงั คมอยา่ งยั่งยืนสบื ไป วารสารแกว้ ปญั ญาเปน็ อกี หนงึ่ ความพยายาม ข อ ง ส ถ า บั น ถ่ า ย ท อ ด เ ท ค โ น โ ล ยี สู่ ชุ ม ช น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ใ น ก า ร เ ป ลี่ ย น ง า น วิ จั ย แ ล ะ อ ง ค์ ค ว า ม รู้ ใ น เ ชิ ง วิ ช า ก า ร เ ป็ น สื่ อ ว า ร ส า ร ท่ี เ ข้ า ถึ ง ประชาชนทุกเพศทุกวัยและทุกระดับการศึกษา เพ่ือไม่ให้งานวิจัยและองค์ความรู้ที่นักวิชาการ ทว่ั ประเทศผลติ ข้ึน กลายเปน็ เพยี งตำราอา้ งอิง ทางทฤษฏีสำหรับนักวิชาการและนักศึกษา แต่เพียงอย่างเดียว อาจารย์ ชัยยง เอือ้ วิรยิ านุกลู อธกิ ารบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

บทบรรณาธกิ าร ในสถาการณป์ ัจจุบัน การประกอบอาชีพในหลาก หลายสาขาของประชาชน โดยเฉพาะดา้ นเกษตรกรรม เทคโนโลยีหรือธุรกิจในครัวเรือนยังไม่ประสบผลสำเร็จ เทา่ ท่ีควร สาเหตุสำคัญประการหน่ึง เป็นผลสืบเนื่อง มาจากการขาดความรูค้ วามเข้าใจ และขาดองคค์ วามรู้ ท่ีจะนำไปพัฒนาต่อยอดในอาชีพหรือการประกอบ กิจการนน้ั ๆ วารสารแก้วปัญญา เปน็ อีกความพยายาม หนง่ึ ในการแกไ้ ขปัญหาดงั กลา่ ว โดยสถาบนั ถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชนมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาในการถ่ายทอดองค์ความรู้ ท้งั ทางด้านวศิ วกรรมศาสตร์ วทิ ยาศาสตร แ์ ละเทคโนโลยี ศิลปะวฒั นธรรม เกษตรกรรม และศาสตรอ์ งคค์ วามรู้ แขนงต่างๆ จากนกั วชิ าการ คณาจารย์ ตลอดจนนักวจิ ัย จากหลากหลายสถาบนั การศกึ ษามารวบรวมเรียบเรียงให้ สะดวกแก่การเข้าถึงและเข้าใจของผู้อ่านโดยท่ัวไป ตลอดจนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสัมฤทธิผล ในชีวิตประจำวันหรือนำองค์ความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชพี สาขาต่างๆ ในนามบรรรณาธิการวารสารแก้วปัญญาคาดหวงั ว่า จะสามารถช่วยแก้ไขปญั หาการขาดแคลนองค์ความรู้ และนำไปสูก่ ารยกระดบั คุณภาพชีวติ และสังคม สบื ไป อาจารยภ์ ฤศพงศ์ เพชรบลุ ผู้อำนวยการสถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชน วารสาร แก้วปญั ญา 6

ตรา

ราชมงคลล้านนาร่วมใจ ช่วยภยั น้ำทว่ ม ทนงศกั ดิ์ ดีใจ แม้นำ้ ทว่ มจะเปน็ ภัยธรรมชาติที่ยากแกก่ ารแก้ไขและปอ้ งกนั ทง้ั ยงั ส่งผลกระทบใน วงกว้างแตท่ กุ ครงั้ ท่เี กิดอทุ กภัยข้ึนในประเทศไทย เราจะพบเหน็ นำ้ ใจของชาวไทยไมว่ ่าจะ มาจากภาครฐั หรอื เอกชน ต่างใหค้ วามชว่ ยเหลือเก้ือกูลกนั ภาพชาวบา้ นหลายพนั ชีวิตท่ยี นื เข้าแถวรอรับความช่วยเหลืออาจจะมองแล้วสะเทือนใจในทุกข์ที่พวกเขากำลังประสบ หากแตท่ วา่ เมอื่ มองไปบนใบหนา้ ของชาวบา้ นเหลา่ นัน้ เราจะพบรอยย้มิ อยบู่ นใบหนา้ เปน็ รอยยม้ิ แห่งความปลาบปลืม้ ใจ ท่ีคนไทยไมเ่ คยทอดท้งิ กนั วารสาร แก้วปญั ญา 8

ความชว่ ยเหลอื แบบเรง่ ดว่ นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ เหตกุ ารณน์ ำ้ ทว่ มหลายๆ ครง้ั ในปี2554เกดิ ขนึ้ อยา่ งเฉยี บพลนั และรวดเรว็ ชาวบ้านหลายคนที่กำลังนอนหลบั พักผอ่ น ต้องตก ใจตืน่ กับนำ้ ท่ีไหลบา่ เข้ามาในบา้ น หลายคนเหลือทรพั ยส์ ินเพยี ง แค่เสื้อผ้าชุดเดียวขณะที่บางคนต้องเผชิญกับเหตุการณ์เศร้า สะเทือนใจย่ิงกว่าเม่ือเสียบุคคลอันเป็นท่ีรักไปกับเหตุการณ์ นำ้ ทว่ มครง้ั น้ี - วนั ท่ี 13 สงิ หาคม 2554   นายกรัฐมนตรี นางสาว ย่งิ ลักษณ์ ชนิ วัตร พร้อมด้วย รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร วรวจั น์ เอ้อื อภญิ ญกลุ -มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นารว่ มแรงร่วมใจ นำความช่วยเหลือมาบรรเทาทุกข์โดยทางมหาวิทยาลัยเทคโน โลยีราชมงคลล้านนาได้ส่งมอบน้ำดื่มที่ผลิตจากโรงงานผลิตน้ำ ดมื่ ของมหาวทิ ยาลยั จำนวน 12,000 ขวด พรอ้ มท้งั ข้าวสารกวา่ 4,500 กิโลกรัม เพ่อื เปน็ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบอื้ งต้นเปน็ อันดับแรก - วันที่ 1-2 ตุลาคม 2554 อธกิ ารบดีมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา และคณาจารย์ ประกอบอาหารช่วย เหลือชาวบา้ นในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทปี่ ระสบความ เดือดร้อนจากนำ้ ทว่ ม เพื่อเป็นการเยยี วยาทัง้ ทางกายและทางใจ เพ่อื ใหผ้ ปู้ ระสบภัยมกี ำลงั ใจต่อสกู้ ับความสูญเสยี ความช่วยเหลือเชิงบูรณาการ ความชว่ ยเหลือหลงั น้ำลด มีความจำเป็นท่ีจะตอ้ งบูรณาการ ผา่ นการรว่ มแรงร่วมใจของหลายภาคส่วน ทง้ั ภาครฐั และเอกชน เพ่อื ช่วยเหลือพนี่ ้องผปู้ ระสบภัย ตามแนวทางและหน้าที่ ของแต่ละองคก์ ร ในการสร้างสรรคแ์ ละบูรณาการเพ่ือให้เกดิ ความช่วยเหลือที่หลากหลายและครอบคลุมความเดือดร้อนของ ชาวบา้ นที่เดอื ดร้อน บนพืน้ ฐานแห่งความครอบคมุ และเข้าถึง พื้นทคี่ วามเดอื ดร้อนของผ้ปู ระสบภัย -มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลร่วมกับการไฟฟ้า สว่ นภูมิภาค (กฟภ.) วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาเชียงใหม่ องค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในพื้นทีป่ ระสบภัย นำคณาจารย์ และ นกั ศึกษาให้บรกิ ารซ่อมแซมเครอื่ งใช้ไฟฟา้ และเคร่ืองยนต์ตา่ งๆ ท่เี สยี หายจากนำ้ ทว่ ม    9 วารสาร แกว้ ปญั ญา

การช่วยเหลอื อย่างย่งั ยนื      พืน้ ทีป่ ระสบภัยสว่ นใหญ่เปน็ พ้ืนทเี่ กษตรกรรม ความชว่ ยเหลอื อย่างย่ังยนื คือ การถา่ ยทอดองค์ความรเู้ พือ่ การ เกษตรกรรมในบรเิ วณพ้ืนทน่ี ำ้ ท่วมซ้ำซากและการแจกจา่ ยเมล็ดพันธ์เุ พื่อใหช้ าวบา้ นใชเ้ พาะปลูกหลงั นำ้ ลดสว่ นชาวบา้ นที่ ประกอบอาชพี อ่นื ๆ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนาเปิดอบรมหลกั สตู รในหลายอาชพี เพอื่ ให้ชาวบา้ นผู้ ประสบภัยสามารถหารายไดเ้ ลี้ยงตนเองได้ทง้ั ในระหว่างนำ้ ทว่ มและเมอ่ื นำ้ ลดลงแลว้ -มหาวิทยาลัยจึงร่วมกันนำเมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิด ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ส่งมอบให้เกษตรกรกว่า 150,000 ครวั เรือน -ตลอดจนร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการทำนาโยนหรือการปลูก ขา้ วแบบโยนกล้า -และการฝกึ ฝนทกั ษะทางดา้ นอาชีพสาขาต่างๆ ใหแ้ ก่ ชาวบา้ นผู้ประสบภยั เพ่ือเป็นการพัฒนาอยา่ งยั่งยืนสบื ไป แม้ประเทศไทยจะประสบกับภัยธรรมชาติที่ร้ายแรง หลายครั้ง แต่ก็สามารถผา่ นพ้นเหตุการณเ์ หลา่ น้ันมาไดอ้ ย่าง รวดเรว็ เน่ืองจากนำ้ ใจของคนไทยทไ่ี ม่เคยเหอื ดแหง้ กับความ ร่วมมือร่วมแรงและร่วมใจของคนไทยทุกคนเพราะคนไทย ไม่เคยทอดทิ้งกัน วารสาร แกว้ ปัญญา 10

11 วารสาร แก้วปัญญา

“ลมื อ้าย (จรลั วารสาร แกว้ ปญั ญา 12

เมอื่ ธรรมชาตไิ ด้ต้ังกฎเกณฑ์ของการล้มหายตายจาก ให้เป็นองค์ประกอบหน่ึงของวัฏจักรแห่งชีวิตท่ีไม่อาจ กา้ วลว่ งได้ ความตายจึงเป็นอีกสภาวะหน่ึงทม่ี นษุ ยเ์ ราต้อง ประสบพบเจอทิ้งไว้แต่คำถามที่รอการพิสูจน์ว่าความเป็น คนของเราจะสญู สนิ้ ไปพร้อมกบั รา่ งกายหรอื ไม่ เมอื่ กาล เวลาแหง่ ความตายเน่นิ ผ่านไป คนอ่ืนยงั คงระลึกและจดจำ ตวั เราไดม้ ากน้อยแค่ไหน และจรัล มโนเพชร คืออกี หน่งึ บทพสิ จู นท์ ่ีไรข้ อ้ โตแ้ ย้ง เพราะหลงั ความตายของเขาเม่ือ หลายปกี อ่ นจรลั ยงั คงความเปน็ คนทเ่ี รารกั และยงั มคี นคดิ ถงึ เพลงของจรัลยังคงทำหน้าท่ีขับกล่อมแผ่นดินล้านนาให้คง มนตข์ ลังไมเ่ สอ่ื มคลายเสมือนว่าตัวเองยังคงอยู่ คงสภาพ เป็นอมตะจนนอ้ ยคนนักท่จี ะรบั รู้ว่า จรลั ไดจ้ ากเราไปแลว้ เมอ่ื วันท่ี 3 กนั ยายน 2545 ล มโนเพชร) แลว้ กา” เจษฎา สภุ าพรเหมนิ ทร์ 13 วารสาร แกว้ ปญั ญา

เพลงที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นเพลงฮิตที่ได้ยินไปท่ัว ทั้งประเทศไม่เฉพาะแต่ในกลุ่มจังหวัดล้านนาเหมือนศิลปิน เพลงคำเมอื งคนอน่ื ๆ ซ่งึ น่าจะเป็นผลมาจากเพลงส่วนมาก ของจรัลน้ันเล่าถึงวิถีชีวิตของคนเมืองหรือคนล้านนาท่ีเรียบ ง่ายเป็นคำเมอื ง แตผ่ ่านแนวดนตรีและเครื่องดนตรีจาก ตะวันตกอยา่ งกตี ารโ์ ปร่งและเบนโจทคี่ ่อนขา้ งสากล จงึ งา่ ยที่ จะเขา้ ถงึ ผ้ฟู ังมากกว่าเครื่องดนตรีทอ้ งถ่นิ อย่างพิณหรอื ซอ นอกจากสร้างความบนั เทงิ แล้วงานเพลงของจรัลยงั เป็น เหมือนเครื่องบันทึกและสะท้อนสภาพสังคมในแต่ละ ห้วงเวลาไดเ้ ป็นอยา่ งดี เป็นตน้ ว่าเพลง สาวมอเตอร์ไซค์ อนั เ ป็ น เ พ ล ง ฮิ ต ทั่ ว ป ร ะ เ ท ศ ท่ี ห นุ่ ม บ้ า น น า ร ำ พึ ง ร ำ พั น ถึ ง สาวท่ีตัวเองหมายปองท่ีอุตส่าห์ไปมาหาสู่เป็นประจำ จรัล มโนเพชร บตุ รชายของ เจ้าตอ่ มคำ ณ เชยี งใหม่ และ แต่สาวกลับเทใจให้หนุ่มคนอ่ืนเพียงเพราะมีมอเตอร์ไซค์ พอ่ สิงห์คำ มโนเพชร ถือกำเนิดเมอื่ 1 มกราคม พ.ศ. 2494 แสดงภาพสังคมเกษตรกรรมชนบทท่ีกำลังเปล่ียนแปลง ณ เฮือนหลวงของเจา้ ตอ่ มคำ ด้วยเป็นลูกของพ่อซึ่งเปน็ ข้า จากวีถชี ีวิตดงั้ เดมิ ส่รู ะบบเกษตรท่ตี ้องพ่ึงพงิ เคร่ืองจักร ราชการที่ข้ึนช่ือในความเป็นนักดนตรีล้านนาและลูกของ และทุนมากข้ึน ซง่ึ เปน็ จดุ เดน่ ของจรลั ทจ่ี ับประเดน็ มาเขยี น แม่ที่มีวงดนตรีประจำตระกูลซึ่งสมาชิกแต่ละคนล้วนแล้ว เป็นเพลงที่ได้ครบท้ังรสชาติทางดนตรีและมุมมองความคิด เปน็ นักดนตรชี นั้ ครู จรลั ในวัยเยาวจ์ ึงผา่ นการขัดเกลาและ ทัศนคติในฐานะคนท้องถิ่นที่เฝ้ามองความเปล่ียนแปลง หล่อหลอมความสามารถดา้ นดนตรีจนโดดเดน่ จนสามารถ ของสังคม ความม่งุ ม่นั ในการทำงานนเ่ี องท่ีสง่ ผลใหจ้ รัลได้ หาเงินจากการร้องเพลงในร้านอาหารได้ต้ังแต่เป็นนัก รบั รางวลั ดนตรีสีสนั อวอรด์ ในปี พ.ศ.2538 ถงึ สามรางวลั ศกึ ษาอยูท่ ่วี ทิ ยาลัยเทคนิคภาคพายัพ ปจั จบุ นั คือ มหา คือบทเพลงยอมเยี่ยม นกั รอ้ งชายยอดเยยี่ มและอลั บม้ั วิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ทีน่ ่เี องท่ีจรลั ไดพ้ บกบั ยอดเยยี่ มจากผลงานอัลบั้ม ศิลปินบา้ นป่า อาจารยจ์ ำเหลาะ สมจติ ร์ ผู้มีอิทธพิ ลต่อความคดิ และการ ศลิ ปนิ กบั ความรักมกั เป็นของคูก่ ัน และอันยา โพธวิ ัฒน์ ใชช้ วี ติ ของจรลั ในช่วงเป็นนักศกึ ษา อาจารย์จำเหลาะกลา่ ว หรือทีแ่ ฟนเพลงเรยี กกันตดิ ปากวา่ ปา้ หมู ยงั ดูแลร้านอาหาร ถึงลูกศิษย์รักว่า“ตอนนั้นจรัลเรียนที่น่ียามว่างเขามักจะมา สายหมอกกับดอกไม้ที่จรัลลงแรงไว้และเขียนหนังสือบอก นงั่ อ่านหนังสอื ที่บา้ นผม เพราะทบี่ ้านมีหนังสอื เยอะตอนนัน้ เล่าเรื่องราวถึงผู้ชายที่เธอรักเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์แน่วแน่ เขาจะนง่ั ยองๆ อยู่ตรงนี้” อาจารย์จำเหลาะชี้ไปท่มี ุมบ้าน ท่ีจะอนุรักษ์ความเปน็ ล้านนาของจรัล ก่อนจะทง้ิ ทา้ ยวา่ เพอ่ื รำลึกถงึ จรลั ในอดตี แมแ้ ต่ตัวอาจารยจ์ ำเหลาะเองก็ยัง “ถ้าไม่นับร่างกายท่ีสูญส้ินไปแล้วป้าหมูว่าอ้ายจรัล คงตกใจและเสยี ใจทีจ่ รลั ลาโลกนไ้ี ปในวัย 50 ปเี ศษ ยั ง ค ง อ ยู่ เ พ ร า ะ ไ ม่ ว่ า เ ร า จ ะ ไ ป ท่ี ไ ห น ก็ จ ะ ไ ด้ ยิ น เ พ ล ง อัลบ้ัมชดุ แรกของจรัลเป็นการรว่ มงานกับนอ้ งชายท้งั ของอา้ ยจรัลตลอด เพลงของอ้ายจรลั ทำให้ความเป็นจรลั 3 คนคอื กิจจา เกษม และคนั ชิด แสดงถงึ ความสามารถ มีชวี ติ อยตู่ ลอดไป” และคงเปน็ จรงิ อย่างท่ีหญิงคนรักของ ทางดนตรีของพ่ีน้องร่วมสายเลือดท่ีเติบโตด้วยกัน จรัล มโนเพชร พูดไว้ว่าเหมอื นกับว่าจรลั ยังมชี วี ติ อยู่ ทวั่ ทุก ด้วยบรรยากาศของครอบครัวท่ีรักดนตรีเป็นพ้ืนฐานได้ พื้นท่ีโดยเฉพาะกลุม่ จงั หวดั ลา้ นนาเพลงของจรลั ยงั คงถูกเปดิ อย่างดี อีกท้งั ยงั มศี ิลปินหญิงของเชยี งใหมท่ กี่ ำลังมชี อื่ ขับกลอ่ มบรรเลงไมแ่ ตกตา่ งจากวนั ที่เขายังคงอยู่ ถึงแม้วันนี้ เสียงในยุคนั้นอยา่ ง สนุ ทรี เวชชานนท์ มาร่วมร้องเพลงใน จะไม่มีไอ้หนุ่มบ้านเหนือบ้านใต้ปั่นรถถีบมาแอ่วสาวเพราะ อลั บัมน้ีอีกดว้ ย แม้ต่อมาท้ังหมดจะแยกวงกันในภายหลัง กลายเปน็ บ่าวแว๊นสาวสก๊อยกนั หมด และแมผ้ กั บุ้งของอุ้ยคำ แต่จรัลยังคงมุ่งม่ันทำงานดนตรีในแนวโฟล์คซอง กข็ ายไม่ดีเทา่ ผกั ฝรง่ั อยา่ งบรอ็ คโคล่ีแตเ่ พลงของจรัลยังคงทำ คำเมอื งทส่ี ะทอ้ นมมุ มอง แนวคิด และวิถชี ีวติ ความเปน็ หน้าที่อย่างต่อเนื่องเพ่ือความเป็นล้านนาท่ีเขารักและ ล้านนาอย่างเหนียวแน่นจนบทเพลงคำเมืองอย่าง หวงแหน พส่ี าวครับ อุย้ คำ มะเมียะ ลมื อ้ายแล้วกาและอกี หลายๆ วารสาร แก้วปัญญา 14

“ถ้าไม่นับร่างกายที่สูญสิ้นไปแล้วป้าหมูว่าอ้ายจรัล ยังคงอยู่เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็จะได้ยินเพลง ”ของอ้ายจรัลตลอดเพลงของอ้ายจรัลทำให้ความเป็น จรลั มชี วี ิตอยู่ตลอดไป 15 วารสาร แกว้ ปญั ญา

จากงานวิจยั บนชั้นหนงั สอื ส่อู งคค์ วามร้ชู มุ ชน : “ลดต้นทนุ อาหารสตั ว์จากเศษขนมปงั เหลือใช”้ จากผลงานวจิ ัยเร่ือง การใช้ขนมปังเปน็ แหลง่ พลงั งานในสูตรอาหารไก่ โดย ผศ.บุญชู นาวานเุ คราะห์ และ อาจารยอ์ ดุ ม สุวรรณกาศ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพนื้ ท่พี ิษณุโลก ประเทศไทยมผี ูป้ ระกอบการผลิตสนิ ค้าบรโิ ภคจำพวก คณะผวู้ ิจัยไดแ้ บ่งขนมปังออกเปน็ 4 ชนดิ ดังนี้ ขนมปงั ขนมปงั กรอบ ตลอดจนขนมอ่นื ๆ ทีม่ ขี นมปงั เป็น 1.ขนมปังผิวแขง็ Hard Bread มปี รมิ าณน้ำตาล สว่ นประกอบพืน้ ฐานคอ่ นข้างมาก แต่เน่ืองด้วยธรรมชาติ ของสนิ คา้ อปุ โภคบริโภคทมี่ ักจะมวี นั หมดอายุ หรือการ ค่อนขา้ งน้อยคอื ไมเ่ กนิ 2 เปอรเ์ ซ็นต์ มีลกั ษณะแขง็ กอ้ นยาว ไมผ่ า่ นมาตรฐานทางด้านตา่ งๆ ทำให้ทุกวันมสี นิ คา้ เหลอื เป็นต้น วา่ ขนมปังฝรั่งเศส จำนวนมาก โดยทว่ั ไปจะมเี กษตรกรบางกลมุ่ รับซอ้ื สนิ คา้ ด้อยคุณภาพเหล่าน้ีไปเป็นอาหารสัตว์เป็นต้นว่าปลา 2.ขนมปังจืด Loaf Bread มีปรมิ าณน้ำตาล 4-10 และอาหารไก่พื้นเมือง เปอรเ์ ซน็ ต์ จะมลี กั ษณะนุม่ กว่าขนมปงั ผิวแข็งรปู รา่ งเป็น กะโหลกแบบสเี่ หล่ยี ม เช่น ขนมปังแซนด์วิสและขนมปัง ผู้วิจัยพบว่าการนำขนมปังเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ กะโหลก ของเกษตรกร ไม่ไดผ้ า่ นกระบวนการแปรรูปที่จะทำให้ เกิดคณุ คา่ สงู สดุ กลา่ วคือเมอื่ ไดข้ นมปงั มาจากโรงงาน 3.ขนมปังซอลฟ์ โรลSoftRollมปี รมิ าณน้ำตาล10-15 ผลติ แลว้ จะนำไปใหส้ ตั วเ์ ลย้ี งกนิ ทนั ที งานวจิ ยั ชนิ้ นจ้ี งึ ตง้ั อยู่ เปอร์เซ็นต์ มีเนื้อนุม่ รสหวาน ผลิตภณั ฑ์ขนมปงั พวกนี้ เช่น บนสมมตฐิ านที่วา่ ถ้าหากมกี ารนำขนมปังหรอื ขนมเหลา่ นี้ ขนมปงั ลกู เกด ขนมปังไสต้ า่ งๆ ไปผา่ นกระบวนการต่างๆ ย่อมจะสามารถสรา้ งมูลค่าและ คุณคา่ ได้ดียงิ่ ขนึ้ 4.ขนมปังหวาน Sweet Dough มนี ำ้ ตาลสูงถึง กรรมวิธงี ่ายๆ ท่ีคณะผวู้ จิ ัยได้นำมาพัฒนาปรบั 14 เปอร์เซน็ ต์ คลา้ ยคลึงกับขนมปงั ซอล์ฟโรลคอ่ นข้างมาก ปรุงเศษขนมปงั คือ การนำไปตากแห้งกอ่ นจะมาบดใหล้ ะเอี ทงั้ ยงั เปน็ ทีน่ ิยมค่อนข้างสูงของคนไทย เพราะสามารถดดั ยดเพือ่ ใชแ้ ทนปลายขา้ ว ขา้ วโพด บนพื้นฐานทนี่ ักวจิ ยั ทั้ง แปลงใหเ้ ป็นรปู รา่ งตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย เชน่ ขนมปัง สองท่านคดิ กค็ อื เศษขนมปงั กค็ ือขนมปงั ช้ินเลก็ ๆ นน่ั เอง ไส้มะพรา้ ว ขนมปงั ชนิ นามอนบัน ขนมปงั (Bread) เป็นขนมท่ไี ดจ้ ากการผสม การวิจัย แป้งสาลี น้ำ เกลอื นมผง เนยขาว และนำ้ ตาลเข้าดว้ ยกัน ซ่ึ ง ข้ า ว ส า ลี ที่ น ำ ม า ผ ลิ ต ข น ม ปั ง น้ี มี ส อ ง ช นิ ด คื อ แ ป้ ง ผ้วู ิจยั เลอื กใช้ขนมปังทเี่ หลอื จากการทำแซนด์วสิ ซ่งึ สาลอี ่อนกับแป้งสาลีแข็ง มักจะเป็นส่วนหัวและส่วนท้ายของขนมปอนด์แบบจืด จากนนั้ นำไปตากแหง้ กอ่ นนำมาบด และนำเขา้ วเิ คราะห์ เพือ่ หาองคป์ ระกอบทางเคมีดว้ ย วธิ ี Proximate Analysis วารสาร แก้วปัญญา 16

โดยแบ่งการทดลองเปน็ 2 สว่ นคือ นำเศษขนมปังไปให้ เนือ่ งจากพ้ืนทใ่ี นการวจิ ัยของนักวจิ ยั ทัง้ สองท่านต้ังอย อาหารไกเ่ น้ือ และนำไปใหไ้ กไ่ ขแ่ ยกกระบวนการทดลอง ในจังหวัดพษิ ณุโลก ซึ่งเป็นจังหวดั ทม่ี อี ุตสาหกรรมการผ ดงั นี้ ลติ ขนมปังจำนวนมาก ทำใหเ้ ศษขนมปงั ตามโรงงานผลิต 1.ไก่เน้อื ใชร้ ะยะเวลาการเล้ยี งท้ังสน้ิ 45 วัน และแบง่ ตา่ งๆ หาได้งา่ ย และ ราคาถกู เป็น 5 กล่มุ ตามอาหารท่ใี ห้คือ อาหารท่ไี มม่ เี ศษขนมปงั กบั ผศ.บญุ ชู หน่ึงในคณะวจิ ยั ได้อธบิ ายถงึ ต้นทุนใน อาหารท่ีผสมเศษขนมปังเป็นปริมาณ 25,50,75 และ 100 การผลิตอาหารไก่ว่า“ข้าวโพดปกติจะมีราคาประมาณ เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับโดยเก็บขอ้ มูลจากอาหาร นำ้ หนักตัว 9-10 บาทตอ่ กิโลกรมั ขณะทเี่ ศษขนมปงั จากโรงงานแซนด์ ไก่ เปอรเ์ ซ็นต์ซากไก่ และเปอรเ์ ซ็นตก์ ารรอด วสิ ขนาดเล็กราคาอยู่ที่ 4-5 บาทตอ่ กิโลกรัมดว้ ยราคาทถ่ี ูก 2.ไก่ไข่ ทดลองใชไ้ ก่ไข่ระยะใหไ้ ข่ 7 ตัว เล้ยี งรวมกัน กว่ากันประมาณครึ่งหน่ึงทำให้เกษตรกรสามารถประหยัด 6 รอบๆ ละ 28 วันและแบ่งเป็น 5 กลุม่ ตามอาหารที่ให้คือ ต้นทุนไปได้ค่อนข้างมากแต่ต้องอยู่บนเง่ือนไขท่ีว่า อาหารทีไ่ มม่ ีเศษขนมปงั กับอาหารทีผ่ สมเศษขนมปงั เปน็ เกษตรกรต้องหาเศษขนมปังได้ง่ายและราคาถูกกว่า ปรมิ าณ 25,50,75 และ 100 เปอร์เซน็ ต์ตามลำดับโดยเก็บ ข้าวโพด” ข้อมูลจาก อาหารทีก่ ิน ตวั อย่างเลอื ดเพ่ือนำไปวิเคราะห์ หาข้อมูลทางชีววิทยาและโลหิตวิทยาผ่านเครื่องตรวจ งานวจิ ัยชิ้นน้ี นอกจากจะถูกนำไปประยกุ ตใ์ ช้ใน เลอื ด Accutred GCT และเปอรเ์ ซ็นตไ์ ขท่ ไ่ี ดร้ บั ใชร้ ะยะ การเลยี้ งไกส่ ายพนั ธตุ์ า่ งๆ แลว้ อาจารย์บญุ ชยู งั เลา่ ใหฟ้ งั ถงึ เวลาในการวจิ ัยทัง้ สน้ิ 12 เดือน การนำองคค์ วามรดู้ งั กลา่ วไปปรับใชก้ บั การเลย้ี งสตั ว์อ่นื ๆ ผลการวิจัยสรปุ ไดว้ ่า เกษตรกรสามารถใช้เศษ ขนมปังแทนปลายข้าวหรือข้าวโพดผสมในอาหารไก่ได้ “ท่ีอำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลกได้นำ อัตราที่เหมาะสมสำหรับสูตรอาหารไก่ที่ให้ผลท่ีดีสุดคือการ เศษขนมปังไปใช้ผสมกับอาหารปลาสูตรต่างๆ ผสมเศษขนมปงั ไมเ่ กิน 25 เปอรเ์ ซน็ ต์ และมแี นวโนม้ ดีกวา่ กลุม่ ท่ีไม่ไดร้ ับเศษขนมปังในสตู รอาหารเลย และดกี ว่าการ เพ่ือเป็นการลดต้นทุนการผลิตในลักษณะเดียว ใช้เศษขนมปงั อตั รามากกวา่ 25 เปอร์เซน็ ต์ค่อนข้างมาก กับการเล้ียงไก่โดยแรกเริ่มเป็นลักษณะการ ทดลองใช้อัตราผสมระหว่างเศษขนมปังกับ ในสถานการณป์ จั จุบัน ปลายขา้ วและปลายข้าวโพดท่ี อาหารอ่ืนๆ จนชาวบา้ นผเู้ ลีย้ งปลาพบวา่ ใช้ จำหน่ายในท้องตลาดเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบสำหรับอาหาร สตั ว์ในเมืองไทยราคาประมาณ 9-10 บาทต่อกโิ ลกรัม ขณะ เศษขนมปังไม่เกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในสูตร ทเ่ี ศษขนมปังมรี าคาอยู่ท่กี โิ ลกรัมละ 4 - 5 บาท ซง่ึ ถือว่า อาหารปลาจะทำให้ปลามีการเจริญเติบโตที่เร็ว แตกต่างกนั กวา่ เท่าตวั ผวู้ ิจัยจงึ สนับสนนุ ใหเ้ กษตรกรใชเ้ ศษขนมปังแทนปลาย และดีกวา่ อัตราอ่ืนๆ” ข้าวหรือข้าวโพดเพราะเป็นการลดต้นทุนการผลิตที่ได้ผล หนา้ ท่ขี องมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา คอื ดีกว่าน่ันเอง ทัง้ นเี้ กษตรกรควรพจิ ารณาถงึ ราคาของเศษ การผลติ บัณฑิตสู่สังคม สรา้ งสรรคง์ านวิจยั ใหมๆ่ เพอ่ื การ ขนมปังในท้องถ่ินของตนเองเป็นอันดับแรกเสียก่อนถึงข้อ พัฒนา และนำงานวจิ ัยเหล่านน้ั ถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ จำกัดของขนมปงั ท่ีมีอายุในการเกบ็ รกั ษาตามสภาพอากาศ สชู่ ุมชน เพ่ือให้เกดิ ผลในทางปฏบิ ตั ิและเพอ่ื เป็นการพฒั นา ปกตทิ ส่ี ั้นกวา่ ปลายข้าวหรอื ขา้ วโพดคอ่ นขา้ งมาก แต่ขณะ อย่างย่งั ยนื สืบไป งานวิจยั ของ ผศ.บญุ ชู นาวานุเคราะห์ เดียวกันเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจในการนำผลการวิจัยฉบับนี้ และ อาจารยอ์ ุดม สวุ รรณกาศ เปน็ อกี หนึ่งตวั อยา่ งท่สี ำคัญ ไปประยกุ ต์ใช้ จำเปน็ ต้องพจิ ารณาถึงเง่ือนไขหรือขอ้ จำกดั ของการปฏิบัติตามพันธกิจในการรับใช้สังคมของ สำคญั ประการหนง่ึ คอื ความสามารถหรือความเปน็ ไปได้ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ในการหาเศษขนมปังในท้องถิ่นของตัวเองมาทดแทนการใช้ ขา้ วโพดหรือวัตถดุ บิ ต่างๆ 17 วารสาร แก้วปญั ญา

จากงานวิจัยบนชั้นหนังสือสอู่ งค์ความรู้ชมุ ชน : “ปลาพลวงหนิ ปลาแซลมอนแหง่ เมอื งนา่ น” จากงานวิจัยเรอ่ื ง ปลาพลวงหินกับระดบั โปรตีนทเี่ หมาะสมในการเลย้ี ง โดย อาจารยเ์ อกชัย ดวงใจ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เขตพน้ื ท่ีน่าน โปรตนี จากเนอ้ื สตั วถ์ อื ไดว้ า่ เปน็ สารอาหารทจี่ ำเปน็ และสำคญั โดยโปรตนี จะถกู รา่ งกายนำไปเสรมิ สรา้ งการเจรญิ เตบิ โต ของรา่ งกาย และซอ่ มแซมสว่ นท่ีสกึ หรอไดเ้ ป็นอย่างดี ขณะทโ่ี ปรตีนจากปลาถือไดว้ า่ เปน็ โปรตีนทีม่ ีคุณภาพสงู ไมน่ ้อย ไปกว่าโปรตีนจากหมหู รอื ไก่ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ กบั พนื้ ทหี่ างไกลทย่ี ากแกก่ ารเขา้ ถงึ อยา่ งหมบู่ า้ นชาวไทยภเู ขา ทอ่ี าศยั อยบู่ นดอยสงู ชนั การเพาะ เลย้ี งปลาเพอ่ื เปน็ แหลง่ โปรตนี สำคญั ยอ่ มสามารถชว่ ยลดตน้ ทนุ คา่ ใชจ้ า่ ยในชวี ติ ประจำวนั และสามารถเสรมิ สรา้ งรา่ งกายดว้ ย สารอาหารทมี่ ปี ระโยชน์อยา่ งโปรตีนได้อกี ด้วย วารสาร แก้วปญั ญา 18

ปลาพลวงหิน หรอื ภาษาถิ่นในจงั หวัดภาคเหนือ เรยี กว่า ปลาปุง หรอื ปลามุง มลี กั ษณะลำตัวยาวทรง กระบอก ด้านข้างแบนเล็กน้อย หวั มนเล็ก ปากเล็กมี หนวด 2 คู่ อยู่ปากบนและมมุ ปากลา่ ง ครีบหางเวา้ เปน็ แฉกลึกเขา้ ไป กระโดงหลงั คอ่ นข้างสงู มีก้านแข็ง 1 อัน ครีบหูมีขนาดเลก็ มคี วามยาวของลำตัวประมาณ 60 - 150 เซนติเมตร ตามธรรมชาตปิ ลาพลวงหินจะอาศัยอยู่รวมกนั เปน็ ฝงู ฝูงละ 10-20 ตวั บางฝูงมขี นาดกวา่ 100 ตวั อาศัยอยู่ ตามน้ำตกหรอื ลำธารบนภเู ขา ปลาพลวงหนิ มีนิสยั รกั สงบ ตกใจงา่ ย ปราดเปรียบวอ่ งไวใจไมเ่ สาะเม่อื ถกู จับ ปลาพลวงหินเป็นปลาท่ีเกษตรกรบนพนื้ ทสี่ งู บริเวณ ปลาพลวงหนิ จะอาศยั อยรู่ วมกันเปน็ ฝูง อำเภอปัว จังหวดั นา่ น นยิ มเพาะเลยี้ งสำหรับบริโภคในครัว ความต้องการโปรตนี ในสตั ว์นำ้ เรือนและจำหน่ายเป็นรายได้เสริมเนื่องจากกำลังเป็นที่ต้อง การของตลาด เพราะเน้อื ของปลาพลวงมรี สชาติใกลเ้ คยี ง รา่ งกายของสตั ว์นำ้ ในภัยและสภาวะตา่ งกนั ยอ่ มมี กบั ปลาเทราต์ และปลาแซลมอน ซึง่ ถา้ หากส่งเสริมเทคนคิ ความต้องการปริมาณโปรตนี ที่แตกตา่ งกันไปดว้ ย โดย และความรู้ทางวิชาการให้เกษตกรนำไปประยุกต์ใช้ย่อมจะ เฉพาะอย่างย่ิงกับสัตว์น้ำที่โตเต็มวัยแล้วโปรตีนท่ีขับถ่าย ทำให้ปลาพลวงปลาพื้นบ้านของไทยสามารถตีตลาดได้ จะออกมาเทา่ กบั โปรตนี ทีก่ นิ เข้าไป นิยมเรียกวา่ โปรตนี อย่างดี อยใู่ นสภาวะสมดุล ระดบั โปรตนี ในสตู รอาหาร 28 และ 32 เปอรเ์ ซน็ ต์ เป็นระดบั โปรตีนท่ีเหมาะสมต่อการพฒั นาเซลล์ กลมุ่ นกั วิจัยจากมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคล ไขป่ ลาพลวงหนิ บนพืน้ ที่สงู ของจงั หวัดน่าน ซ่ึงจะทำให้ปลา ล้านนาจึงไดท้ ำการวิจยั วัตถุประสงคก์ ารวจิ ัยคือการศึกษา ท่ีไดร้ ับอาหารปรมิ าณดังกลา่ วมี พฒั นาการไข่ไดด้ ีกว่าปลา ระดับโปรตีนท่ีเหมาะสมกับพัฒนาการไข่ปลาพลวงหินบน ตามแหล่งธรรมชาติ สภาพพ้ืนท่ีสูงและเปรียบเทียบพัฒนาการของไข่ปลา ในการพัฒนาปลาพลวงหินเพื่อใช้เป็นแม่พันธ์ุปลา พลวงหนิ สำหรบั ผลิตลกู ปลา เพอ่ื ใหไ้ ดล้ ูกปลาทมี่ คี วามแข็งแรง อัตราการเจรญิ เติบโตดี ลกู ปลามอี ตั รารอดสูง ควรเรมิ่ ตั้ง งานวิจัยดังกลา่ วถือเปน็ งานวจิ ัยคร้ังแรกทางด้าน แต่การขุนแม่ปลาด้วยอาหารท่ีมีระดับโปรตีนสูงสลับกับ พัฒนาการของไข่ปลาพลวงหินบนพื้นที่สูงในจังหวัดน่าน การเลี้ยงตามธรรมชาติทั้งนี้เพื่อให้แม่ปลาได้รับสาร โดยมีวัตถุประสงค์ท่ีสำคัญคือการศึกษาระดับโปรตีนท่ี อ า ห า ร ที่ จ ำ เ ป็ น ใ น ก ร ะ บ ว น ก า ร ส ร้ า ง เ ซ ล ล์ สื บ พั น ธ์ุ เหมาะสมกบั พฒั นาการของไข่ปลาพลวงบนพ้ืนท่ีสูง ตลอด ทีส่ มูบรณแ์ ละต่อเนอื่ ง ตลอดฤดกู าลพัฒนาเซลลส์ ืบพันธ์ุ จนเปรียบเทียบพัฒนาการไข่ปลาพลวงที่ได้รับโปรตีน ในขณะทรี่ ะดับความสงู ไมม่ ผี ลต่อพัฒนาการของไขป่ ลาใน 28 เปอร์เซน็ ต์ กบั 32 เปอร์เซ็นต์ โดยศกึ ษาบนพ้นื ทซ่ี ่ึงมี กรณสี ภาพแวดลอ้ มที่เลยี้ งใกล้เคยี งกนั ความสงู 350 และ 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล 19 วารสาร แก้วปัญญา

จากงานวิจยั บนชั้นหนังสอื สู่องค์ความรู้ชุมชน : “ป้องกนั การจุดระเบิดดว้ ยเครอื่ งรบกวน คลืน่ โทรศพั ท์มอื ถือ” จากผลงานวิจยั เรอ่ื ง ปอ้ งกันการก่อการรา้ ยด้วยเคร่อื งรบกวนคลื่นโทรศพั ทม์ ือถอื โดย อาจารย์ณฐั วุฒิ พานชิ เจริญ อาจารย์อัญชลี พานชิ เจรญิ อาจารย์ธนพงศ์ ค้มุ ญาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เขตพนื้ ท่ีตาก จากเหตุการณ์ความไมส่ งบใน 3 จงั หวดั ชายแดน ระเบิดซำ้ ด้วยโทรศพั ท์มอื ถอื อีกคร้งั ทำใหเ้ จา้ หน้าท่ีตอ้ ง ภาคใต้ ขา่ วการวางระเบดิ เกิดขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง นบั เปน็ สูญเสียชีวิตและทรพั ย์สนิ อยู่บ่อยครง้ั จุดเรมิ่ ต้นทีท่ ำให้รับรกู้ ันว่า กลุม่ คนรา้ ยท่ีปฏบิ ตั กิ ารใน การใช้บริการเคร่ืองรับโทรศัพท์มือถือในประเทศได้ พื้นที่ชายแดนใต้ไดใ้ ช้“โทรศพั ทม์ อื ถือ”เทคโนโลยีพ้ืนฐานท่ี เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วสามารถดูได้จากยอดผลกำไรของ เปน็ ส่งิ จำเป็นในชีวิตประจำวัน ได้ถูกนำมาดัดแปลงให้ ผ้ใู หบ้ ริการทไ่ี ด้เพิม่ สงู ข้นึ ในแต่ละปี เมื่อทกุ คนก็สามารถมี เปน็ ตวั จดุ ชนวนระเบดิ ตอ่ จากนนั้ สญั ญาณโทรศพั ทม์ อื ถอื ก็ โทรศัพทม์ อื ถือใช้งานได้และผใู้ ชก้ ไ็ ม่จำเปน็ ต้องมวี ฒุ ภิ าวะ ถกู ผูกโยงเขา้ เปน็ ส่วนหนึง่ ของการระเบดิ ในหลายๆ สถานที่ ใดๆ ด้วยเหตผุ ลเหล่าน้ี จงึ นำไปสู่ปญั หาสงั คมทนี่ ักวิชาการ และหลายเหตกุ ารณ์ เช่น กรณีวางระเบดิ พร้อมกัน 3 จดุ ที่ หลายท่าน ไดอ้ อกมาแสดงความเป็นหว่ งตอ่ พฤตกิ รรมการ เมอื งหาดใหญ-่ สงขลา ท้งั สนามบินนานาชาติ หา้ งคาร์ฟูร์ ใชง้ านโทรศพั ท์อย่างไม่สนใจกาลเทศะ เช่น การใช้โทรศพั ท์ และโรงแรมกรนี เวิรล์ พลาเลซ หรืออย่างกรณีคาร์บอมบข์ ้ ในหอ้ งเรียนของนกั เรยี น หรือการใชโ้ ทรศัพทใ์ นห้องประชุม างโรงแรมกลางเมืองสไุ หงโกลก ล้วนใชว้ ิธีการเดยี วกันคือ โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล เปน็ ตน้ จงึ เปน็ ทีม่ าของแนว ก า ร ใ ช้ โ ท ร ศั พ ท์ มื อ ถื อ เ ป็ น เ ค รื่ อ ง จุ ด ช น ว น ร ะ เ บิ ด ความคิดการสรา้ ง จากสถานการณ์พบว่า กลมุ่ คนร้ายมกั จะนิยมใช้โทรศพั ท์ มือถอื ซงึ่ หาซ้อื ไดง้ ่ายเป็นตวั จุดชนวนระเบิด สว่ นซมิ การด์ การเก็บก้รู ะเบิด และ ระเบิดมอื ถอื ทม่ี สี ายโทรเขา้ จะนยิ มซอ้ื จากตัวแทนหรือเจ้าของเครือข่ายใดก็ได้ การนำ ระเบิดท่ีมีเช้ือปะทุไฟฟ้าไปเช่ือมกับวงจรโทรศัพท์มือถือ ซึง่ อาศัยหลกั การทางไฟฟ้าเบ้อื งตน้ โดยปกตเิ มื่อมกี ารโทร เข้าโทรศพั ท์มือถอื วงจรภาครบั จะทำการจ่ายแรงดนั จาก หลกั การนีเ้ องคนร้ายจงึ นำไปเป็นเชื้อปะทรุ ะเบิดการปฏิบตั ิ การของคนร้ายยังคงพฒั นารูปแบบข้นึ เมอื่ เกิดเหตกุ ารณ์ วางระเบดิ ทางเจา้ หนา้ ท่ตี ำรวจและทหารก็จะเข้าเคลียร์ พ้ื น ที่ แ ล ะ เ ก็ บ กู้ ร ะ เ บิ ด แ ล ะ มั ก จ ะ มี ก า ร ล อ บ ว า ง วารสาร แก้วปญั ญา 20

ผลการวิจยั ผลการทดสอบพบว่า เครื่องรบกวนระบบโทรศพั ทเ์ คลอื่ นท่ี เคร่อื งรบกวนสัญญาณโทรศพั ท์เคลื่อนท่แี บบรังผงึ้ ชนดิ แบบรงั ผง้ึ ชนดิ พกพา มีรศั มที ำการทำไดด้ ีกวา่ 13 เมตร จาก จดุ กำเนดิ สญั ญาณเป็นไปตามจดุ มุ่งหมายของโครงการ พกพา คณุ สมบัตทิ ่ัวไปของระบบและผลการทดลอง โดยรวม รวมทั้งปญั หาและอปุ สรรคทเ่ี กิดขนึ้ ระหวา่ งการ สง่ิ ท่ผี วู้ ิจยั เห็นวา่ ควรนำไปพัฒนาต่อยอด เพอ่ื ทำโครงงาน จากผลการทดสอบเครอ่ื งรบกวนสญั ญาณ ศกั ยภาพทีด่ ขี นึ้ โทรศพั ทเ์ คล่อื นที่จเี อสเอม็ 900 และ 1800 สามารถ รบกวนสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนท่ีทั้งในระบบของจีเอสเอ็ม (1)เคร่อื งรบกวนสัญญาณโทรศัพทเ์ คลือ่ นท่ี สามารถนำ 900 และ 1800 เมกะเฮิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นระบบของ เอไอเอส ไปปรับปรุงทางด้านกำลังส่งให้สูงข้ึนเพ่ือสามารถที่จะใช้ใน ดแี ทค ทรูมูฟ พ้นื ที่ท่กี วา้ งกวา่ ท่ีกำหนดไว้ได้ การทดสอบระบบ จเี อสเอ็ม 900 และ1800 จะเหน็ ได้ (2)เครอ่ื งรบกวนสัญญาณโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี สามารถที่ ว่าระยะทางในการรบกวนสัญญาณโทรศัพท์เคล่ือน จะนำไปประยกุ ต์ใช้งานกบั โทรศัพท์ระบบอ่นื ๆ ได้ เช่น ยา่ น ที่จะถูกรบกวนสัญญาณโทรศัพท์ได้มากหรือน้อยขึ้น 1900 หรอื ระบบ ซดี ีเอ็มเอ เปน็ ต้น อยู่ปัจจัยหลักคือเครื่องรบกวนสัญญาณโทรศัพท์อยู่ใกล้ หรือไกลกับสถานีฐาน ในแตล่ ะสถานที่จะรบกวนไดไ้ ม่เท่า (3)ในการใชง้ านในพนื้ ทจี่ รงิ อาจควรเพ่มิ จำนวนของ กันเวลาก็มีส่วนสำคัญกับการรบกวนถ้าอยู่ใกล้กับสถานี เคร่ืองรบกวนสญั ญาณโทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ เปน็ 2-4 เคร่ือง ฐ า น จ ะ ร บ ก ว น ไ ด้ ช้ า แ ล ะ ถ้ า อ ยู่ ไ ก ล จ า ก ส ถ า นี ฐ า น เพอ่ื ผลความแนน่ อนในการตัดสัญญาณ จะรบกวนสัญญาณโทรศัพท์ได้เร็วข้ึนอันเนื่องมาจากความ แรงของกำลงั สง่ ของสถานีฐานลดลง ปจั จยั รองคือหอ้ ง เครอื่ งรบกวนสัญญาณโทรศพั ท์มอื ถือชนดิ พกพา หรือสถานท่ที ตี่ ดิ ตั้ง เคร่ืองรบกวนสัญญาณโทรศัพทเ์ คลอื่ น จะสรา้ งความถเ่ี ปน็ สญั ญาณรบกวน เพ่อื ระงับการใช้งาน ทีป่ ระกอบไปดว้ ย โต๊ะ ตู้ อาคาร ตกึ ฯลฯ จะทำให้เกดิ การ เครอื่ งโทรศัพท์ ในบรเิ วณที่ต้องการ หรือในช่วงเวลาที่ต้อง สะท้อนกลับของคลื่นสัญญาณล้วนมีผลต่อการทำงานหรือ ก า ร ค ว า ม ส ง บ เ รี ย บ ร้ อ ย จ า ก ค ว า ม ส า ม า ร ถ ข้ า ง ต้ น การรบกวนสัญญาณโทรศพั ทเ์ คลือ่ นท่ีทัง้ สิ้น ของเครื่องรบกวนโทรศัพท์มือถือได้ถูกนำมาใช้งานในยุทธ รายงานนี้แสดงให้เหน็ การออกแบบ การพัฒนา การเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยหรือวัตถุระเบิดเม่ือได้รับแจ้งข่าว และทดสอบเครื่องรบกวนระบบโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ีแบบรงั ผึ้ง การลอบวางระเบิดหรือพบวัตถุต้องสงสัยกระบวนการก่อน ชนิดพกพา ซง่ึ เครือ่ งรบกวนระบบโทรศัพทเ์ คล่ือนที่แบบ เขา้ เคลียรพ์ น้ื ท่ี เจ้าหน้าที่ ตอ้ งเปดิ เครือ่ งรบกวนสัญญาณ รังผึง้ ชนิดพกพานี้ มกี รอบทใี่ ช้สำหรบั การพฒั นาใชก้ ับร โทรศัพท์มือถือหรือสัญญาณวิทยุ โดยตัวเคร่อื งจะสร้าง ะบบ GSM 900 และ GSM 1800 ซงึ่ สอดคล้องกับระบบ ความถี่ สัญญาณรบกวนแพร่ กระจายออกไปในรัศมีข้นึ ในประเทศไทยทมี่ ีผใู้ หบ้ ริการ 3 รายดว้ ยกันคอื เอไอเอส อย่กู ับกำลงั ของเคร่อื งส่งผลที่เกิดขนึ้ คือการตดิ ตอ่ ของภาค ดแี ทค และทรูมูฟ โครงการน้มี ีลำดบั ขน้ั ในการพฒั นา รบั -สง่ ของเครื่องโทรศัพท์มอื ถือกับสถานียอ่ ยในบรเิ วณ เรม่ิ จากการศึกษาระบบจเี อสเอ็ม น้นั ได้ถกู ตดั ขาดไป มอื ถือก็จะไม่สามารถรับสายเข้าและ โทรออกไดเ้ ชน่ กัน อันเปน็ การป้องกันการโทรเข้า เพ่ือไป เพือ่ เทคนคิ ของการสร้างระบบการรบกวนได้อยา่ งมีประ จุดชนวนระเบิดผ่านทางโทรศัพท์มือถือและป้องกันการ สิทธภิ าพรวมไปถงึ การเลือกอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมการจดั หา ระเบดิ ซ้ำ ในกรณีทีเ่ จ้าที่เขา้ เกบ็ กู้วัตถุในเหตุการณต์ า่ ง ๆ อปุ กรณ์ในการดำเนินโครงการ การดำเนนิ การเก่ียวกบั วงจร การสร้างแผงวงจร การประกอบวงจรทีม่ ีความละเอียดออ่ น ทดลอบวงจรแตล่ ะส่วน แลว้ จงึ ทดสอบการทำงานจากการ ทดลอบในสภาวะแวดลอ้ มของสถานทต่ี า่ งๆ 21 วารสาร แกว้ ปญั ญา

โครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ ศนู ยศ์ ึกษาการพัฒนาอ่าวค้งุ กระเบน กับดักแมลงตน้ ทนุ ต่ำ สายหยุด สุวตั ถี ในกระบวนการผลิตทางการเกษตรเกษตรกรมักประสบปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูพืชที่สร้างความ เสยี หายแกผ่ ลผลิต จำเปน็ ตอ้ งเสียคา่ ใชจ้ ่ายในการปอ้ งกันกำจดั โดยเฉพาะการใชส้ ารเคมนี อกจากทำใหเ้ พิม่ ต้นทุน การผลติ แลว้ ยังเปน็ อนั ตรายตอ่ ตวั เกษตรกร ตอ่ ผบู้ รโิ ภคและสง่ิ แวดลอ้ ม งานวชิ าการเกษตร ศนู ย์ฯ ได้ตระหนกั ถึง ปญั หาและความสำคัญกับการวางแนวทางปอ้ งกันและควบคมุ การระบาดของแมลงศตั รพู ืช การใช้กับดกั แมลงตน้ ทนุ ต่ำ ก็เป็นอีกแนวทางหน่ึงทส่ี ามารถควบคุมการระบาดของแมลงศัตรพู ืช โดยเฉพาะหนอนชนิดต่างๆ ได้ผลดีโดยไม่ต้อง ใชส้ ารเคมี ผล ผเี สื้อกลางคืนตัวเตม็ วัยท่ีตอ้ งการจะวางไข่ทกุ ชนิดจะ ได้กลิ่นหอมของกากน้ำตาลบินลงมากินน้ำหวานจากกับ ดกั ดังกล่าวและจมน้ำตาย เปน็ จำนวนมาก จงึ เปน็ การตัด วงจรการระบาดของแมลงศัตรูพืชโดยเฉพาะพวกหนอน ต่างๆ อย่างได้ผล   ขอ้ จำกัด ต้องคอยเปล่ยี นกากนำ้ ตาลผสมนำ้ ทุกๆ 10 วนั ซึ่งสามารถนำไปใชท้ ำนำ้ หมักชวี ภาพตอ่ ได้ประโยชน์ ประโยชน์ กับดกั แมลงต้นทนุ ต่ำ สามารถทำใชเ้ องไดง้ า่ ยและได้ ผลดีมีต้นทุนที่ต่ำจึงลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์ สามารถลดปริมาณแมลงศัตรูพืชโดยเฉพาะหนอนชนิด 1.กากนำ้ ตาล 1 ส่วน 2.น้ำสะอาด 3 สว่ น 3.ขวดน้ำพลาสตกิ ใชแ้ ลว้ ตา่ งๆ อย่างไดผ้ ลเปน็ อย่างมาก จงึ เปน็ วธิ กี ารควบคมุ แมลง   ศัตรูพชื ทีป่ ระหยดั และปลอดสาร หากทำอย่างตอ่ เนอ่ื ง วธิ ีการ สามารถลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช 1.กากนำ้ ตาล มาผสมกบั นำ้ สะอาด ตามอตั ราส่วน ได้ จึงมคี วามปลอดภยั สูง 2.บรรจุลงในขวดพลาสติกซ่ึงเจาะรูเป็นช่องหน้าต่างไว้ ประมาณ 100 ซม. 3.นำไปแขวนในแปลงผักหรือสวนผลไม้สูงจากพ้ืนดิน ประมาณ 80-100 ซม. ระยะหา่ งกนั ประมาณ 5-10 ม. วารสาร แก้วปัญญา 22



โครงการยกระดบั คุณภาพชีวิตของหม่บู า้ น และชุมชน แบบมสี ว่ นรว่ ม ๘๔ หมู่บ้าน ชมุ ชน เฉลิมพระเกียรติ การพฒั นาและสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ชมุ ชนพงึ่ ตนเอง บา้ นห้วยลอย ตำบลภูฟ้า อำเภอบอ่ เกลอื จังหวัดน่าน อำนาจ อุ้ยฟใู จ การให้บรกิ ารทางด้านวชิ าการแกช่ ุมชนเพื่อช่วยแกไ้ ข กลุ่มองค์กรอ่ืน โดยการประสานทำงานกบั พหภุ าคกี ับหน่วย ปัญหาดา้ นต่างๆ ให้แก่ชุมชนเป็นอีกบทบาทภารกิจ งาน/เอกชนและผ้คู นในทอ้ งถน่ิ มกี ารใชภ้ ูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ หนึ่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาท่ี และเทคโนโลยที ่เี หมาะสมช่วยเหลือการผลติ การตลาด ทุน ไ ด้ ป ฏิ บั ติ อ ย่ า ง ต่ อ เ น่ื อ ง ต ล อ ด ม า ใ น ห ล า ย ชุ ม ช น การจัดการร่วมกันในเรื่องเก่ียวกับการแปรรูปผลผลิตทาง ของทุกเขตพ้ืนท่ีสำหรับในเขตพ้ืนที่จังหวัดน่านน้ัน การเกษตร การคา้ ขาย การบรกิ าร การทอ่ งเท่ยี ว การพัฒนา เนื่องจากสภาพพื้นท่ีส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่มีความลาด สง่ เสรมิ วัฒนธรรมทอ้ งถิ่น เพ่ือมุ่งให้เกิดรายได้ ส่งผลตอ่ คน ชันสูง ดังนน้ั หลายชมุ ชนในจังหวดั น่านจึงมีลักษณะเปน็ ครอบครัวและชมุ ชน ชุมชนบนพื้นท่ีสูงโดยท่ีคนในชุมชนจะเป็นชนเผ่า บ้านหว้ ยลอย หมู่ท่ี 6 ตำบลภฟู า้ อำเภอบ่อเกลือ จงั ต่างๆ  ซงึ่ ด้อยโอกาสในการพฒั นาหลายๆ ดา้ น  โดยเฉพาะ หวัดน่านเป็นอีกชุมชนหน่ึงที่จัดเป็นชุมชนบนพ้ืนที่สูงและ อยา่ งยิ่งการพฒั นาดา้ นเศรษฐกิจของชุมชน  เป็นพ้ืนที่ดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริในสมเด็จ คำวา่ “เศรษฐกจิ ชุมชน” นัน้ ตามนยิ ามของนกั พฒั นากร พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ซง่ึ สภาพ หมายถึง กิจกรรมท่ีบุคคลหรอื องค์กรชุมชนหรอื เอกชน ภูมิประเทศของบ้านห้วยลอยน้ันส่วนใหญ่เป็ภูเขาลาด ร่วมกิจการและ/หรือช่วยกันดำเนินงานด้วยตนเองท้ัง ชนั สลบั ซับซ้อน มีความลาดชันมากกว่า 35 เปอรเ์ ซน็ ต์ หมดหรือบางส่วนหรือการรับช่วงงานไปจากเอกชนหรือ มีลำน้ำห้วยลอยซ่ึงเป็นสาขาของลำน้ำว้าไหลผ่าน วารสาร แก้วปญั ญา 24

ราษฎรในหมู่บ้านมีทั้งที่เป็นอดีตผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และทัง้ ท่เี ป็นชนเผา่ ลัวะ ซึง่ ราษฎรเหล่าน้ลี ้วนแล้วแต่เปน็ ผูด้ อ้ ยโอกาสทางเศรษฐกจิ และสงั คมอนั เป็นผลเนอื่ งมาจาก สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงการคมนาคมไม่สะดวก ประชากรครวั เรอื นมที งั้ สน้ิ 95 ครวั เรอื นแตล่ ะครวั เรอื นมีราย ไดโ้ ดยเฉลย่ี 5,000 บาท ต่อปีคนในชุมชนห้วยลอยส่วน ใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรม เชน่ ปลกู ขา้ วไร่เป็นอาชพี หลัก ซ่งึ จะกระทำกันในรปู แบบด้ังเดมิ ตามบรรพบุรษุ กลา่ ว 1 คือมีการหมุนเวียนพ้ืนท่ีปลูกไปทุกปีไม่ซ้ำเดิมเพื่อพักดินแต่ ไม่มีการบำรุงดิน   จึงทำให้ไดผ้ ลผลติ น้อยไมเ่ พยี งพอต่อการ บริโภคส่วนรายได้สำหรับจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันจะ ได้มาจากการเก็บหาของปา่ มาขาย การจบั ปลาจากลำห้วย มาขาย  การขายสัตวเ์ ลี้ยง  เปน็ ต้น  ทำให้มีฐานะเศรษฐกจิ อยใู่ นขั้นตำ่ มาก   ประกอบกับเร่ิมเกิดความเสือ่ มโทรมของ สภาพแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างย่ิง พื้นทป่ี ่าซึง่ เปน็ พ้ืนทตี่ ้นนำ้ นา่ นถกู บกุ รุก และถกู ทำลายลง อย่างรวดเร็วเพ่ือพัฒนาเป็นพื้นท่ีปลูกข้าวโพดจึงย่ิงส่งผลให้ เกิดความเสือ่ มโทรมของทดี่ นิ ทำกิน 2 มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพ้ืนทีน่ า่ น จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน พง่ึ ตนเองบา้ นหว้ ยลอย    โดยในระยะแรกของการดำเนินงาน ตามโครงการน้ันต้ังเป้าหมายระดับการพัฒนาเป็นระดับ พ้นื ฐานก่อน   น่นั คอื พัฒนาให้ชุมชน“พออยู่ พอกิน” มีการ ผลติ ใหเ้ พยี งพอตอ่ การบรโิ ภคในครอบครวั สว่ นทเ่ี หลอื กน็ ำไป ขายมรี ายไดพ้ อจุนเจือครอบครัว   และคาดว่าเมอื่ ดำเนินการ จนถึงปีที่สามของโครงการแล้วชุมชนห้วยลอยจะได้รับการ พฒั นา จนถึงระดับปานกลาง คอื สามารถยกระดับความ เป็นอยู่ของคนในชุมชนหว้ ยลอยให้ “อยู่ดี กินดี” มกี ารรวมตวั 3 ของกลุ่มผูป้ ระกอบอาชพี ดา้ นต่างๆ ให้มกี ารผลิตให้เกนิ พอ เพ่ือนำผลผลิตส่วนเกินไปขายเป็นการเพ่ิมรายได้ครัวเรือน ตอ่ ไป 1.สอบถามขอ้ มูล เพ่อื นำไปแกป้ ญั หา ยกระดับคณุ ภาพชีวติ 2.เพาะเห็ดไวร้ บั ประทานเอง เหลือแลว้ นำไปขายตอ่ 3.ทำปยุ๋ อินทรีย์ใช้เองในกลมุ่ หมบู่ า้ น เพอ่ื ลดต้นทนุ 4 4.รว่ มแรงรว่ มใจ ทำแปลงเกษตร 25 วารสาร แก้วปัญญา

องคค์ วามร้พู รอ้ มใชเ้ กร็ดกฎหมายใกลต้ วั พินัยกรรมทำได้ด้วยตนเอง ธนารักษ์ ณ ราช คนเราเม่ือถึงคราวแกช่ ราหรือรตู้ ัวว่าเจบ็ ปว่ ยหนกั อาจ เข้าใจคลาดเคล่ือนมากพอสมควรทั้งน้ีเพราะหลายๆคน ถงึ ตายไดใ้ นวนั น้วี นั พรุ่ง สง่ิ หน่งึ ที่เปน็ ห่วงกังวลกค็ ือคนท่ี เข้าใจว่าคำพูดของเจ้ามรดกก่อนเสียชีวิตว่าให้แบ่ง เรารักต่อไปในภายภาคหน้าจะต้องตกระกำลำบากหรือ ทรพั ยส์ ินอันน้นั ใหค้ นนแ้ี บง่ ทรพั ย์สนิ อนั นใี้ ห้คนนนั้ หาใช่ เดอื ดร้อนเรอ่ื งทรพั ยส์ ินเงนิ ทองลำพงั หากเปน็ พ่อแม่ สามี เป็นพินัยกรรมที่มีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมายแต่อย่างใด ภรรยาหรือลูกกฎหมายได้รับรองสิทธิในการได้รับ เพราะการจะทำพินัยกรรมด้วยวาจาหรือการบอกด้วยปาก มรดกให้แล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เปลา่ น้ัน กฎหมายอนญุ าตให้ทำเฉพาะมเี หตกุ ารณ์พเิ ศษ หมายความว่าหากเจ้ามรดกหรือเจ้าของทรัพย์สินถึงแก่ ฉุกเฉิน อยา่ งตกอย่ใู นสภาวะสงครามและผู้น้นั กำลังจะตาย ความตายบุคคลกลุ่มน้ีย่อมจะต้องได้รับมรดกทรัพย์สินเงิน โดยไม่อาจเขียนพินัยกรรมเป็นลายลักษณ์อักษรได้อย่าง ทองโดยชอบดว้ ยกฎหมายอย่แู ลว้ แท้จรงิ จึงจะสามารถบอกกลา่ วเป็นพินัยกรรมด้วยวาจา แตว่ า่ หากเป็นคนนอกเหนือกลุ่มดังกล่าว เป็นต้นวา่ แก่คนท่บี รรลนุ ติ ิภาวะแลว้ อยา่ งนอ้ ยสองคน เพอื่ ให้บุคคล เพื่อนสนิทหรอื ผูม้ พี ระคุณ ทไ่ี ดเ้ คยชว่ ยเหลอื อุปการะเลยี้ ง สองคนน้ันไปแจง้ ตอ่ เจ้าหน้าทีอ่ กี ที ซ่ึงนับว่าย่งุ ยากและใช้ ดูมาก่อน ยอ่ มจะไม่ไดร้ ับมรดกตามผลของกฎหมาย ขณะ เฉพาะเหตุการณพ์ เิ ศษตามกล่าวเท่านน้ั เดียวกันบางกรณซี ่ึงเกิดได้น้อยมากในสังคมไทย ก็คือ ลกู สว่ นพินัยกรรมทจ่ี ะพดู ถงึ ในวันน้ีคอื พนิ ัยกรรมทเี่ จา้ หรือคู่สมรสอย่างสามีภรรยาอาจจะทำให้เจ้ามรดกผิด มรดกทำเองทงั้ ฉบบั ซ่งึ เปน็ พนิ ัยกรรมทีท่ ำเองไดไ้ มย่ าก พอ้ งหมองใจแกก่ ัน หรือไม่สนใจใยดปี ล่อยปละละเลยยาม อาจเขียนพินัยกรรมหรือกำหนดการเผ่ือตายของตนเอง เจบ็ ไข้ได้ปว่ ยก็ไมม่ าดแู ล และเจา้ มรดกต้องการท่จี ะไม่ให้ ไว้บนกระดาษธรรมดาทั่วไปด้วยปากกาท่ีหมึกติดแน่นทน ได้รบั ผลประโยชนจ์ ากมรดกนนั้ สงิ่ ต่างๆ เหล่านีย้ ่อมทำให้ นานสักหน่อยเพราะเราไม่รู้ว่าจะตายเม่ือไรอาจจะพรุ่งน้ี เกดิ ปญั หาขนึ้ มาได้ หรืออกี หลายสิบปีกเ็ ปน็ ไปไดท้ ัง้ หมด กฎหมายจงึ ไดบ้ ัญญัตเิ รื่องการทำพนิ ยั กรรมขึ้นมาเพ่อื จากนั้นก็เขยี นวนั เดอื นปีทท่ี ำพินยั กรรมฉบบั น้ีตอ่ ด้วยชอื่ ใช้แก้ปัญหาดังกล่าวโดยพินัยกรรมหรือกำหนดการเผื่อ นามสกลุ จะใส่อายไุ ปดว้ ยหรอื ไมก่ ็ได้ สว่ นสำคัญกค็ อื ตายนั่นเอง โดยกฎหมายใหส้ ิทธบิ คุ คลทม่ี ีอายุต้ังแต่ 15 ปี ทรัพยส์ ินของตนเองทม่ี ีนน้ั จะแบง่ อะไรให้แกบ่ ุคคลใดบา้ ง บรบิ รู ณ์ข้ึนไป สามารถทำพนิ ยั กรรมเพ่ือจัดการทรัพย์สิน แบง่ ให้เด่ยี วๆ ไปเลยหรอื แบ่งใหเ้ ปน็ กรรมสิทธิร์ ว่ มหรอื จะ ของตัวเองภายหลังจากถงึ แกค่ วามตายได้ ใหแ้ กม่ ูลนิธิอะไร หรือมอบให้ตกเป็นทรัพย์สินของแผน่ ดนิ ตามบทบัญญตั ิของประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ ก็ไดต้ ามแตเ่ จตนาของผ้ทู ำพนิ ัยกรรม สว่ นใครทีไ่ มต่ อ้ งการ ได้วางหลักว่าสามารถทำพินัยกรรมได้หลายแบบ ใหก้ ็ไมต่ อ้ งเขียนว่าคนนี้ไม่ให้รับมรดกเพราะถา้ ไม่ระบุชอ่ื ให้ บางอย่างอาจจะต้องทำร่วมกับเจา้ หน้าท่ีของรฐั ณ ท่วี ่าการ เป็นผรู้ ับอย่างไรเสยี ก็ไม่มสี ิทธริ บั จากนัน้ ก็อาจจะเขยี น อำเภอ บางแบบสามารถทำได้ดว้ ยตวั เจา้ มรดกเองหรอื เพิ่มไปอีกสักหน่อยว่าขณะท่ีทำพินัยกรรมนี้ผู้ทำมี อาจทำได้ด้วยวาจา แต่การทำพนิ ัยกรรมด้วยวาจานมี้ ีความ สติสัมปชัญญะสมบูรณ์ทุกประการและทำไปโดยไม่มีการ วารสาร แกว้ ปญั ญา 26

บังคับขู่เข็ญหรือล่อลวงจากน้ันก็ลงลายมือชื่อหรือเซ็นชื่อเจ้ามรดกเป็นอันสมบูรณ์ส่วนเจ้ามรดกจะเก็บไว้ที่ตัวเองซ่อนไว้ หรอื ฝากเก็บไว้กบั บุคคลท่ีตนเองไวใ้ จกต็ ามแตเ่ จตนาของตนเอง ตามกฎหมายผู้รับพินยั กรรมจะตอ้ งมีสภาพบคุ คลตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา 15 กล่าวคือ หากเป็นบุคคลธรรมดาอยา่ งเราๆทา่ นๆก็สามารถรบั มรดกได้ โดยไม่จำกดั อายุ เด็กทารกแรกคลอดก็เปน็ ผ้รู บั มรดกไดแ้ ต่ อาจจะต้องมผี ู้ปกครองดูแลแทนหรือหากเปน็ ผ้ใู หญห่ รอื ทีก่ ฎหมายเรยี กวา่ บรรลุนติ ภิ าวะแลว้ อย่างอายคุ รบ 20 ปบี รบิ ูรณก์ ็ สามารถรับมรดกและใช้มรดกได้ทันทีหรืออย่างมูลนิธิหรือบริษัทกฎหมายถือเป็นบุคคลประเภทหนึ่งคือนิติบุคคลหรือ บคุ คลทีเ่ กดิ ขนึ้ มาตามผลของกฎหมายทำใหส้ ามารถรบั พนิ ัยกรรมไดเ้ ฉกเช่นบุคคลธรรมดาแตจ่ ะมอบทรพั ย์มรดกไปให้แก่ หมา แมว ไก่ กา หรอื มอบให้ตุ๊กตา บา้ นเรือน ตรงนีย้ อ่ มเปน็ โมฆะคือใช้บงั คับตามกฎหมายไมไ่ ด้เฉพาะส่วนท่มี อบใหแ้ ก่ สง่ิ ทไี่ ม่มสี ภาพบุคคล แต่ทรพั ย์สินที่ระบใุ นพนิ ัยกรรมว่ามอบใหแ้ ก่บคุ คลธรรมดาหรือนิติบคุ คลย่อมใช้บังคบั ไดโ้ ดยชอบ ดว้ ยกฎหมายอยู่ดี ส่ิงหนึ่งที่ ผู้ทำพนิ ยั กรรมทกุ แบบจะต้องระวดั ระวงั เปน็ สมควร กค็ อื พินัยกรรมเปน็ นติ ิกรรมอยา่ งหนงึ่ หรอื เป็นการกระทำทางกฎหมายอย่างหน่ึงซึ่งพินัยกรรมน้ีกฎหมายจะถือเอาพินัยกรรมฉบับหลังสุดเป็นสำคัญ กลา่ วคอื พินยั กรรมฉบบั ใหม่ยอ่ มเปน็ การยกเลกิ พนิ ยั กรรมฉบบั เก่าไปโดยปรยิ าย แมไ้ ม่ฉกี หรือทำลายพนิ ัยกรรมฉบับเกา่ ก็เป็นอันสิ้นผลบังคับไปโดยดี ตวั อยา่ งของพินยั กรรมที่เจ้ามรดกเขียนเองทง้ั ฉบบั * ทวถันำนททนี่.ี่..........................ข......อ......ท.เ..ด..ำ..ขอื.ตพ.้า.นำ.ินพ..บ..ัยเ..จ.ล.ก..้า....ร........ร........ม..........ไ...ว......้ว.....พ่าอ....ำศ.เ.เม..ภ...่ือ.อ....ข.....้า....พ.........เ...จจ....้าัง..ถ.ห..งึ ว..แัด.ก....่ค.อ..ว.า.าย.ม..ุ..ต.....า....ย.ป.แี ลอ้วยใู่ทหี่.้ท...ร..ัพ..ย..ตส์ ินรอทกั้งห/ซมอดยขอ..ง..ข..้า..พ...เจ..้า. ตโกดแยกเขห่..้.าต.พ.พทุ.ิน..ี่ขเ.ัยจ.้า.ก้พ.า..รเเ.จ.ขร.้าี.มย.ไ.นม.น.่ย.ี้ข.ด้า.ก.้พว.ท..เยรจแัพ้าลตทยา่เำพ์สยขนิียม้นึ ใงืดอหผ้ว้ทขู้เยด้าาคียยพววาเาทจมอ้าส่ืนทมนั้ัคงี้ รฉเพใบจรัใบานะแขไดณล้ยะะกไทใดี่มห้ทีส้กตำ่อิสนขึ้ัมนตปาไชยวัญ้แเลญป้ว็ะนแ.ล.ะ.ส..ุข.ภ..า.พ..ส.ม..บ.ูร..ณ..์ ฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน ลงช่ือ............................ผู้ทำพินัยกรรม ตวั อย่างพนิ ัยกรรมจาก หนงั สอื วิชาวา่ ความและมรรยาททนายความ ของ ศาสตราจารยม์ ารตุ บุนนาค พมิ พค์ ร้ังที่ 7 หนา้ 444 27 วารสาร แกว้ ปัญญา

สืบค้นคลงั ความรู้ออนไลน์ กับ เซยี นไอที พษิ ณุ พรมพราย โลกออนไลน์ในทกุ วันนี้ตอ้ งยอมรับกนั ว่าไม่ใชเ่ รอ่ื งไกลตวั ทกุ คนอกี ต่อไป แทบทกุ บ้านมคี อมพวิ เตอร์ทีส่ ามารถ เชือ่ มต่อกบั อนิ เตอร์เนต็ หรอื มือถอื รุ่นธรรมดาๆ ในสมัยนีก้ ็ยงั สามารถท่องโลกออนไลน์ง่ายๆ ขณะทหี่ ลายๆ คนกลับ มองข้ามความสำคญั ของอินเตอรเ์ น็ตไป อาจเพราะมองว่าอนิ เตอรเ์ นต็ ถกู ใช้สำหรับแชทพดู คยุ หรอื ใช้เลน่ เกมส์ แทจ้ ริงแลว้ อินเตอร์เน็ตสามารถเอื้อประโยชนใ์ นการเขา้ ถึงข้อมลู องคค์ วามรูต้ า่ งๆ ให้แก่เราอยา่ งมหาศาล ซ่ึง ข้อดีของการศกึ ษาหาความรจู้ ากอนิ เตอร์เนต็ กม็ อี ยู่หลายอยา่ ง เป็นต้นว่า ราคาถูกกวา่ หากเทยี บกับการศกึ ษาจากหนังสือ เขา้ ถึงงา่ ยกว่าเพราะไม่ต้องเดินทางไปยงั แหล่งขอ้ มลู ที่สำคญั สะดวกแก่เวลาของผตู้ อ้ งการศึกษาหาความรู้ เพราะทา่ นผู้ อา่ นวา่ งเมอ่ื ไรก็สามารถเข้าไปสืบค้นข้อมูลไดัท้ นั ที ไม่ว่าจะกลางวนั กลางคนื ดกึ ด่ืนคนื คอ่ น สำหรับฉบับปฐมฤกษ์ของวารสารแก้วปัญญาผมขออนุญาตแนะนำท่านให้รู้จักกับเว็บไซต์แก้วปัญญา www.kaewpanya.com ช่ือเดยี วกับวารสารทท่ี า่ นกำลังอ่านอยู่ในตอนนี้ เว็บไซต์นีเ้ ป็นแหลง่ รวมองค์ความรหู้ ลากหลาย ด้าน เป็นต้นว่า การเกษตรประมง ดา้ นการบริหาร หรือดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ ทเี่ รานำงานวิจัยจากนักวชิ าการทั่วประเทศมา รวบรวมและเรียบเรยี งเป็นองค์ความรยู้ ่อยๆ ทีอ่ า่ นงา่ ย เข้าใจเร็ว และสามารถนำไปใชต้ อ่ ยอดไดท้ นั ที วารสาร แกว้ ปัญญา 28

เมอ่ื ทา่ นผอู้ ่านเข้ามาถงึ หนา้ แรกของเว็บไซต์แกว้ ปญั ญา ให้ท่านเลอื กคลกิ ตอ่ ไปที่ คลงั ความรู้ หน้าเว็บเพจส่วนนีท้ ่าน จะพบกบั องค์ความร้ทู ่ี คลงั ความรู้ ไดน้ ำเสนอแก่ทา่ นไว้ อย่างหลากหลาย แตห่ ากท่านมีความสนใจเฉพาะดา้ น หรอื ต้องการสืบค้นเฉพาะเรื่องท่ีท่านสนใจท่านเพียงแค่พิมพ์ ข้อความลงไปในชอ่ งค้นหา เชน่ หากท่านตอ้ งการองค์ความ รูเ้ รื่องการเพาะเล้ยี งกบ ให้พิมพ์คำวา่ กบลงไปในช่องแลว้ คลกิ คน้ หา เพยี งเท่านข้ี อ้ มูลท่ีทา่ นต้องการกจ็ ะปรากฎตอ่ หน้าท่านอย่างง่ายดาย ช่องคน้ หา ชอ่ งคน้ หา นอกจากนี้ คลงั ความรู้ออนไลน์ในเว็บไซตแ์ กว้ ปัญญา ยังไดเ้ ชื่อมโยงขอ้ มูลจากโครงการและหน่วยงานอน่ื ๆ เพ่ือแลก เปล่ียนองค์ความรู้ให้มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการองค์ความรู้ของทุกชุมชนโดยคลังความรู้ได้เช่ือมโยง กับโครงการหลวง โครงการอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ หรือจะเปน็ องคค์ วามรจู้ ากหม่บู ่า้ นท่ีประสบความสำเรจ็ ตลอดจน ความรดู้ ้านเทคโนโลยจี ากคลินิคเทคโนโลยแี ห่งมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ท่านผู่้อ่านสามารถเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซตแ์ ก้วปัญญาได้ท่ี www.kaewpanya.com และหากท่านตอ้ งการตดิ ตอ่ หรอื ส อบถามข้อมลู อื่นๆ เพมิ่ เติม เรามชี อ่ งทา่ งออนไลนอ์ นื่ ๆ เพอื่ ตอบสนองความตอ้ งการของท่านอย่างเตม็ ท่ี เช่น เฟซบุคทาง www.facebook.com/kaewpanya หรอื อีเมล์ [email protected] หมายเลขโทรศัพท์ 053-266516-8 และทา้ ยท่ี สุดท่าน สามารถตดิ ตอ่ ทางจดหมายกับเราไดโ้ ดยส่งมาที่ สถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยีสชู่ ุมชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา 98  หมู่ 8  ต.ป่าป้อง  อ.ดอยสะเกด็  จ.เชยี งใหม่  50220  โทรศัพท์ 053-266516-8 29 วารสาร แก้วปัญญา

ดอยภคู า สมัญญาแหง่ กษตั รยิ ์วรนคร พญาภคู า ปจั จุบนั เป็นอทุ ยานแห่งชาติดอยภูคา เรือ่ งเล่านักเดนิ ทาง แอ่วเมอื งเกา่ วารสาร แกว้ ปัญญา 30

วรนคร “ปัว” นำผ้ งึ้ ชราชติ อัตลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองน่านท่ีผู้คนมักกล่าวขานถึงคือเป็นนครรัฐท่ี ผสานผสมอารยธรรมระหวา่ งลา้ นชา้ งกับลา้ นนาไดอ้ ย่างลงตัวเหมาะเจาะ ซึง่ กอ่ เกดิ วฒั นธรรมที่แตกตา่ งจากนครรัฐล้านนาอื่นๆ โดยเฉพาะเชยี งใหม่หรือลำพนู ไมว่ า่ จะ เป็นท่วงทำนองเพลงซอของเมืองน่านที่ผสานเนื้อร้องกับทำนองท่ีเนิบช้าดุจการไหลของ สายนำ้ น่านทีส่ ขุ มุ เยอื กเย็น และออ่ นช้อย จนมคี ำกลา่ วของปราชญพ์ ญาขรัวผรู้ ้วู ่า “คนเจียงใหม่อ้จู ้าซอโวย แตค่ นเมืองน่านอโู้ วย ซอจ้า” 31 วารสาร แกว้ ปญั ญา

พญาภูคาปฐมกษตั รยิ ์นา่ นแหง่ ราชวงศ์ภูคา คูเมอื งเดมิ ของเมอื งปัว อยหู่ ลงั ทวี่ า่ การอำเภอปวั (ศาลพญาภคู า จังหวัดน่าน) หากจะย้อนถึงอดีตเมืองน่าน นครน่าน หรือ นนั ทบุรนี ้ัน คงจะต้องกลา่ วถงึ เมืองวรนคร หรือ เมืองปวั อดตี เมืองหลวงทป่ี จั จุบันกลายเปน็ เพียงอำเภอหนึง่ ของจังหวดั น่านเท่านั้น แมอ้ ดีต เรอื่ งราว และเร่อื งเลา่ ของวรนครจะถกู เกล่ือนกลืนหายไปพร้อมกบั กาลเวลานับสองพันปี หากแตท่ ว่าศิลปะ วัฒนธรรม ตลอดจน ร่องรอยจารีตดั้งเดิมของนครรัฐแห่งความเรืองรองยังคงปรากฏให้เห็นท้ากาลเวลาอยู่ในปัจจุบันขณะคล้าย คอยเช้อื ชักเชิญชวนให้นกั ท่องเทยี่ วตามไปยินยลหาความรงุ่ เรือ่ งในอดีตของ วรนคร คนโบราณเลา่ ขานสบื ต่อกันมาถึงเร่ืองราวการสร้างเมืองพัวหรือเมอื งปัววา่ “ ทนี่ น้ั ควรตัง้ บ้านเมือง พระญาเถรเอาไมเ้ ทา้ ขีดไป หือ้ เปน็ เตชพยหุ ะ ซง่ึ ใสช่ ื่อวา่   วรนคร  เมอ่ื พายลนู คนทงั หลายรอ้ งวา่   เมืองพวั (ปวั ) ”   คำเอ่ยบอกฤกษอ์ วยชยั ของมหาฤาษีเถรแต๋ง ทใ่ี หค้ ำแนะนำแก่พญาขนุ ฟองขณะก่อร่างสร้างเมือง ปวั เมือ่ กวา่ สองพันปีที่ผ่านมา พ.ศ. 1825 พญาภูคาและนางพญาจำปาผเู้ ปน็ ชายา ซง่ึ ทง้ั สองเปน็ ชาวเมืองเงินยาง ได้เปน็ แกน นำพาผูค้ นอพยพมาต้งั ศูนยก์ ารปกครองอยู่ทีเ่ มืองล่าง ตอ่ มาเพ้ยี นเปน็ เมืองย่าง (เชอ่ื กันว่าคอื บรเิ วณริม ฝัง่ ด้านใต้ของแมน่ ้ำย่างบรเิ วณตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว เลยไปถงึ ลำนำ้ บัว่ ใกล้ทิวเขาดอยภคู าในเขต บ้านเส้ียว บา้ นทุง่ ฆอ้ ง บ้านลอมกลาง ตำบลยม อำเภอท่าวังผา) เพราะปรากฏรอ่ งรอยชมุ ชนในสภาพที่ เป็นคูน้ำ คันดิน และกำแพงเมืองซ้อนกันอยู่ เห็นชดั เจนท่สี ดุ คือบริเวณขา้ งพระธาตุจอมพริกบา้ นเสี้ยวมี กำแพงเมอื งปรากฏอยู่ซ่ึงเปน็ ปราการทศิ ใต้ และป้อมปราการทศิ เหนอื ลักษณะทป่ี รากฏเป็นสันกำแพงดิน บนยอดดอยมอ่ นหลวง บ้านลอมกลาง เป็นกำแพงเมืองสูงถงึ 3 ชนั้ ในแต่ละชนั้ กว้าง 3 เมตร สูง 5 เมตร ขนานไปกบั ยอดดอยมอ่ นหลวง วารสาร แก้วปญั ญา 32

ดอกชมพภู ูคา ตน้ ไม้ทีม่ รี ายงานว่าพบเพียงแห่งเดยี ว ในโลก ท่ี อุทยานฯดอยภคู า อ.ปัว จ.นา่ น ต่อมาพระยาภูคาได้ขยายอาณาเขตปกครองของตนออกไปให้กว้างขวาง ย่ิงข้ึน โดยสง่ ราชบตุ รบญุ ธรรม 2 คนไปสรา้ งเมืองใหม่ โดยขนุ นุ่นผู้พ่ไี ปสร้างเมือง จนั ทบุรี (เมืองพระบาง) และขุนฟองผนู้ ้องสรา้ งเมืองวรนครหรือเมืองปวั ในสมัยของพญาการเมอื ง นครรฐั ปัวได้มีการขยายตัวมากขึ้น ตลอดจนมี ความสัมพันธก์ บั เมอื งสโุ ขทยั อยา่ งใกล้ชิด พงศาวดารเมอื งน่านกลา่ วถงึ พญาการเมอื ง วา่ ได้รับเชิญจากเจ้าเมอื งสโุ ขทัย (พระมหาธรรมราชาลิไท) ไปรว่ มสรา้ งวัดหลวงอภยั (วัดอัมพวนาราม) ขากลับเจา้ เมอื งสโุ ขทัย ไดพ้ ระราชทานพระธาตุ 7 องค์ พระพมิ พ์ ทองคำ 20 องค์ พระพิมพเ์ งนิ 20 องค์ ให้กับพญาการเมืองมาบชู า ณ เมืองปัว พญาการเมืองได้ปรึกษาพระมหาเถรธรรมบาลจึงได้ก่อสร้างพระธาตุแช่แห้ง ขึน้ ทบี่ นภเู พยี งแชแ่ หง้ พร้อมทง้ั ไดอ้ พยพผคู้ นจากเมอื งปัวลงมาสรา้ งเมอื งใหมท่ ี่ บรเิ วณพระธาตแุ ช่แหง้ เรียกว่าภูเพียงแชแ่ หง้ ในปีพ.ศ.1902โดยมพี ระธาตแุ ช่แหง้ เป็น ศูนย์กลางเมือง หลงั จากพญาการเมอื งถึงแกพ่ ริ าลยั โอรสคอื พญาผากองขนึ้ ครองแทน อนสุ าวรีย์พระญาผานอง หรือเจ้าหลวงปวั อยมู่ าเกดิ ปัญหาความแหง้ แล้ง จึงยา้ ยเมืองมาสรา้ งใหมท่ รี่ ิมแม่น้ำน่านด้านตะวนั ตก วีรบรุ ุษของเมืองปวั บริเวณหนา้ ทว่ี า่ การอำเภอปัว บรเิ วณบ้านห้วยไค้ คอื บริเวณท่ตี ้งั ของจังหวัดน่านในปจั จบุ นั เมือ่ ปี พ.ศ. 1911 พ.ศ.1993 พระเจ้าตโิ ลกราช กษตั รยิ น์ ครเชยี งใหม่ มคี วามประสงคจ์ ะครอบ ครองเมอื งนา่ น และแหลง่ เกลอื บอ่ มาง (ต.บอ่ เกลือใต้ อ.บอ่ เกลือ) ท่ีมีอยา่ งอดุ ม สมบรู ณแ์ ละหาไดย้ ากทางภาคเหนือ จงึ ได้จัดกองทัพเขา้ ยึดเมอื งน่านพญาอนิ ต๊ะ เแมกือ่นงทน้า่าวนจไึงมถอ่กู าผจนตว้ากนเขทา้ าไนวใ้ นไอดา้จณงึดออาพจยยกัภพรูคลหาา้ นสนไี มนปัญาอตาญ้งัศแาัยตแอ่นหยนั้ง่ ู่ กมทษาเ่ี ตัมรอื ิยงว์ เชรนลคียรง พ(ญศราสีภชั คู นาาปลัจัยจ) ุบนั เป็นอุทยานแห่งชาติดอยภูคา 33 วารสาร แกว้ ปญั ญา

มปี ญั หา อย รบี ถามมา...เร เพื่อนคคู่ ิดมติ รชุมชนยนิ ดชี ่วยไขปญั หาเยียวยาความเดือดรอ้ นของทา่ นผู้อา่ นทุกทา่ นและทกุ ปญั หาไมว่ ่า จะเป็นปญั หาดา้ นการเกษตรกรรม เทคโนโลยี บรหิ ารธรุ กิจ ศลิ ปกรรมหรือด้านอ่ืนๆ เพียงแค่ทา่ นถามมาเรา มนี กั วชิ าการหลากหลายสาขา ทจ่ี ะช่วยไขปัญหาของท่านทันที วรรณิษา จีม้ ลู วารสาร แกว้ ปญั ญา 34

ย่ารอชา้ คำถาม ปญั หาเรอ่ื งโรคของพรกิ ช้ฟี ้า ? เราตอบให้ จากคณุ ณฐั มน รชั นาภรณ์ อ.ปา่ ซาง จ.ลำพูน คำตอบ : โรคพชื ที่มกั เกดิ กับพริกไดแ้ กโ่ รคแอนแทรคโนส หรอื โรค กุ้งแห้ง ซึ่งเกิดจากเช้ือรา คอลเลตโคตริคัมโรคใบด่างซึง่ เกิดจาก เชือ้ ไวรสั โรคใบจดุ ตากลมเกดิ จากเชื้อราเซอโคสปอรา โรคเห่ยี ว ฟวิ ซาเรยี มเกิดจากเชอื้ ราฟวิ ซาเรยี ม โรครากเน่าโคนเน่าเกิดจาก เชือ้ ราสเครอโรเตยี ม โรคเห่ยี วเขียวพริก เกิดจาเชื้อแบคทเี รียซโู ดโม แนสโรคยอดเนา่ หรอื โรคเนา่ เปยี ก เกดิ จากเชอ้ื รา โชอะเนฟ๊ ฟอรา ซึ่งโรคเหล่านี้ทางอาจารย์ผู้เช่ียวชาญให้แนะนำให้ใช้สารชีวภัณฑ์ แทนสารเคมีคือเชื้อราไตรโคเดอร์มาซึ่งเป็นจุลินทรีย์เชื้อราที่เป็น ปฏิปกั ษต์ ่อเชอ้ื ราโรคพืช สามารถขยายพันธโ์ุ ดยการสรา้ งสปอรเ์ มอื่ นำมาเพาะเล้ยี งจะสรา้ งเสน้ ใยสีขาวและสปอรส์ ีเขยี ว สามารถพบ ทวั่ ไปในดนิ ทม่ี คี วามอุดมสมบรู ณ์และมีอนิ ทรยี วตั ถุสงู โดยเชื้อรา ไตรโคเดอรม์ าจะเข้าไปลด และรบกวนกิจกรรมการดำรงชวี ิตของเช้อื ราโรคพืช เช่น ยับยั้งการเจรญิ เติบโต ยับย้งั การขยายพนั ธ์ุ ชว่ ยกระต้นุ ใหพ้ ชื สรา้ งภูมิตา้ นทานตอ่ เชอื้ โรค กระตุ้นใหร้ ากและลำตน้ เจรญิ เติบโตและแข็งแรง วธิ กี ารใช้ ก่อนใชใ้ ห้นำหวั เชอ้ื ราไตรโคเดอรม์ า ในรูปเชื้อสดผสมกับอินทรยี วัตถุ เชน่ รำ หรอื ป๋ยุ หมัก เชอื้ รา ไตรโคเดอร์มาทข่ี ยายเพิ่มปรมิ าณแล้ว สามารถนำไปใช้ไดโ้ ดยตรง และควรใชใ้ ห้หมดภายใน 1-2 วัน รปู แบบและอัตราการใช้ สามารถ ใชก้ บั พืชผัก พืชไร่ ไม้ดอกไมป้ ระดับและไม้ผลโดยรองกน้ หลุม หรอื โรยรอบโคนต้นหลังปลูกพืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นเลก็ อัตรา การใช้ 1 ช้อนแกง/ตน้ หรอื ต่อหลมุ ไมผ้ ลปลูกใหม่ตน้ ใหญ่ อตั ราการ ใช้ 4-5 ชอ้ นแกงต่อหลมุ /ตารางเมตร จากนั้นใช้วสั ดคุ ลุมดิน เช่น ฟางข้าว หญา้ แหง้ ฯลฯ และใหค้ วามชนื้ โดยการรดนำ้ ใหก้ บั พืช อยา่ ให้ดนิ แห้ง สามารถตดิ ต่อผเู้ ชย่ี วชาญ ผศ.กัลลีวลั ย์ สขุ ช่วย และ รศ.ดร.จนิ นั ทนา จอมดวง สถาบนั วจิ ยั เทคโนโลยเี กษตร เบอร์โทรศัพท์ 0-5434-2553 35 วารสาร แก้วปญั ญา

เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ทำความร้อนมีวิธี ตรวจสอบเบือ้ งตน้ อยา่ งไร ? จากคณุ สธุ าสนิ ี ผอู้ ยู่สขุ อ.ฝาง จ.เชยี งใหม่ ตอบ : ม่นั ตรวจสอบการทำงานของเครอ่ื งทำน้ำอุน่ ใหม้ ี สภาพดี อยเู่ สมอ ตลอดจนตรวจดูระบบทอ่ น้ำและรอยตอ่ วา่ ไม่ รว่ั ซมึ เมอื่ พบปญั หาควรตรวจสอบเบื้องตน้ ดงั น้ี 1.ถ้าน้ำท่ี ออกจากเคร่ืองเป็นน้ำเย็นเพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อน เข้าส่ขู ดลวดความรอ้ น สาเหตุเกิดจากฟวิ ส์ขาด หรอื อุ ป ก ร ณ์ ค ว บ คุ ม อุ ณ ห ภู มิ เ สี ย ท ำ ใ ห้ ก ร ะ แ ส ไ ฟ ไ ม่ ผ่ า น 2.ถา้ ไฟสัญญาณตดิ แตข่ ดลวดความร้อนไมท่ ำงาน ทำให้น้ำ ไมอ่ ุ่น สาเหตเุ กิดจากขดลวดความร้อนขาด หรอื อุปกรณ์ ควบคมุ อุณหภมู เิ สีย 3. ถา้ นำจากเครือ่ งทำนำ้ อนุ่ ร้อนหรือเย็น เกินไป สาเหตุเกินจากอปุ กรณค์ วบคมุ อณุ หภูมิทำงานผิดปกติ สนใจติดตอ่ ผ้เู ชยี่ วชาญ อาจารยถ์ าวร อนิ ทโร มหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เขตพ้นื ทเ่ี ชยี งราย เบอรโ์ ทรศัพท์ 053-723971-76 , 053-723979-80 ก า ร ท่ี เ ค ร่ื อ ง สู บ น้ ำ เ ค รื่ อ ง ร้ อ น แลว้ ดับเกดิ จากสาเหตอุ ะไร และมีวิธี แก้ไขอย่างไรครับ ? จาก คุณสันตศ์ ิริกลุ พยอมแย้ม อ.ปา่ โมก จ.อ่างทอง ตอบ : สาเหตุ 1.หวั เทียนลดั วงจร (หวั เทียนเสียหาย) 2.ระบบน้ำมนั เชือ้ เพลิงในท่อเกดิ เปน็ ฟองอากาศ เนือ่ งจากนำ้ มนั สว่ นหน่ึงกลายเป็นไอ ทำให้ไมส่ ามารถไหลได้ วิธแี กไ้ ข 1.ดคู รีบระบายความรอ้ นว่ามอี ะไรกัน้ หรือไม่ 2.ดูฝาครอบระบบลมระบายความร้อนจะต้องอยใู่ นสภาพที่ดี 3.ใชห้ วั เทียนใหถ้ ูกตอ้ ง ให้ใช้หัวเทียนชนิดเย็น ดูทเี่ บอร์แล้ว เทยี บตารางหัวเทียน สนใจตดิ ต่อผู้เชี่ยวชาญ ผศ.สมศกั ดิ์ อนิ ทะไชย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา เขตพนื้ ภาคพายัพ เชียงใหม่ เบอร์โทรศพั ท์ 053-921444 วารสาร แก้วปัญญา 36

คำถาม การจัดการกับแมลงระบาดในแปลงปลกู ผักกาดหอม แบบไฮโดรโปนิกส์ ? จากคณุ พชร สมานิตย์ อ.แมแ่ ตง จ.เชยี งใหม่ ตอบ : มแี มลงระบาดในแปลงและตอ้ งการใช้สารสกดั จากพืชในการปอ้ งกันแมลง ซง่ึ วิเคราะห์แมลงแล้วคอื มวนปีกแก้ว ทำลายวงใบผักกาดหอมออ่ นๆ เป็นจดุ นำ้ ตาล ใช้สารสกดั หางไหล สูตร D1+D4 ขอ้ มลู สตู รสารสกัดหางไหล 1.สูตร D1 ใชป้ อ้ งกันกำจัด ดว้ งหมัดผัก ดว้ งเต่า แตงเพลีย้ จักจั่นสีเขยี ว ด้วงงวงตดั ใบมะมว่ ง ไรศัตรพู ชื เห็บววั หมดั ไรไก่ และ ไลด่ ว้ งนำ้ มนั ยบั ยงั้ การกินอาหารของหนอนผีเสอื้ 2.สตู ร D2 ใช้ป้องกนั กำจดั หนอนไยผัก หนอนไยผักกาด หนอนเจาะยอดกะหล่ำ หนอนแกว้ สม้ หนอนกระทผู้ กั 3.สูตร D3 ใชป้ อ้ งกันกำจัด เพล้ยี ออ่ นผกั กาด เพลย้ี อ่อนแตง เพลยี้ จกั จ่นั สีเขยี ว เพล้ยี ออ่ นพรกิ เพลย้ี แป้ง และเพล้ยี ชนดิ ตา่ งๆ วธิ กี ารใช้ทง้ั 3 สตู ร ผสมนำ้ อัตรา 200-300 ซซี ี ต่อนำ้ 20 ลติ ร ผสมสารจับใบ พ่น 3 ครง้ั ทกุ ๆ 3 วัน ในชว่ งแรก จากนนั้ เวน้ ระยะห่างตามความจำเปน็ (ควรฉดี พน่ ใหถ้ กู ตวั แมลง และพ่นในช่วงเช้าตรู่หรอื ชว่ งเย็น) การเกบ็ รกั ษา ควรเก็บใหห้ า่ งจากมอื เดก็ อาหาร สตั ว์เลี้ยง แสงแดด ความร้อนหรอื เปลวไฟ คำเตอื น สารน้มี สี ่วนผสมของแอลกอฮอล์ ขณะผสมยาควรอยหู่ ่างจากเปลวไฟ อยา่ ใหเ้ ข้าตา ปาก หรอื จมกู ควรอาบนำ้ และทำความสะอาดร่างกายภายหลังการ พ่นยา สนใจตดิ ตอ่ ผูเ้ ชีย่ วชาญ ผศ.ดร. อรณุ โสตถกิ ุล สถาบนั วิจยั เทคโนโลยีเกษตร เบอร์โทรศพั ท์ 0-5434-2553 สำหรับทา่ นทสี่ ่งคำถามมายงั โครงการคู่คดิ มติ รชุมชน และถกู นำมาตอบในวารสารแกว้ ปัญญา โครงการ มีของรางวัลเล็กๆนอ้ ยๆมอบใหก้ บั ท่าน คือ ถ้วยกาแฟและเสอื้ ยดื คคู่ ดิ มิตรชมุ ชน มอบให้แกท่ ่านอยา่ งละ 1 ชุด สง่ คำถามหรอื ขอ้ สงสยั ของทา่ นมาที่โครงการคคู่ ดิ มติ รชมุ ชนสถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ชู่ มุ ชนมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา 98 หมู่ 8 ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชยี งใหม่ 50220 โทรศพั ท์ 053-266516-8 e-mail : [email protected] 37 วารสาร แก้วปญั ญา

วศารนู สายร ์เแรก้วียปนญั รญแู้ าละ3ถ8า่ ยทอดเทคโนโลยีเซรามิก สถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ู่ชมุ ชน



www.Kaewpanya.com สถาบันถา่ ยทอดเทคโนโลยสี ่ชู มุ ชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา 98 หมู่ 8 ต.ป่าปอ้ ง อ.ดอยสะเกด็ จ.เชียงใหม่ 50220