Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดการเรียนรู้(พัฒนาผู้เรียน)ตัวอย่าง

ชุดการเรียนรู้(พัฒนาผู้เรียน)ตัวอย่าง

Published by boonserm01062522, 2021-11-17 07:53:09

Description: ชุดการเรียนรู้(พัฒนาผู้เรียน)

Search

Read the Text Version

ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนการสอน เร่ือง .................................................. ตามแนวทางกิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น สงั กดั สานกั งาน กศน. ใส่รปู ภาพประกอบนะคะ ชื่อ.....................................................................................รหสั นักศกึ ษา กศน.ตาบล/ศรช. ....................................................................ชื่อครทู ี่ปรกึ ษา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองนครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั นครราชสีมา ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 1 Life Skills For You

ชุดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต เรื่อง ........................................ ตามแนวทางการจดั กิจกรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน สงั กดั สานักงาน กศน. ชื่อ.....................................................................................รหัสนักศกึ ษา ..................................... กศน.ตาบล/ศรช. ....................................................................ชื่อครูทป่ี รกึ ษา....................................... ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองนครราชสีมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย จงั หวัดนครราชสีมา ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 2 Life Skills For You

เรื่อง กาหนดการรบั และสง่ งาน ความรูเ้ รื่องโควิด เร่อื ง กระชายกับการรกั ษาโรคโควดิ -19 รบั งานวันที่ ลายมือช่ือ สง่ งานวนั ท่ี ลายมือช่อื หมายเหตุ เร่ืองที่ 2 ความรเู้ รือ่ งกระชาย ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 3 Life Skills For You

คานา ชดุ การเรยี นรู้ กระชายกบั การรักษาโรคโควดิ -19 สาหรับนกั ศึกษา กศน.คณะผจู้ ัดทาไดศ้ ึกษาวิเคราะห์ สภาพปญั หาปัจจุบนั จากการสารวจความตอ้ งการของนกั ศึกษาหลกั สตู รการศึกษา นอกระบบและการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 โดยออกแบบการเรยี นรใู้ ห้มีความหลากหลาย เหมาะสมกับนักศกึ ษาและกรอบการจดั กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผู้เรียน มีกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ONIE MODEI การวดั และประเมนิ ผลเปน็ ไปตาม จุดประสงค์การเรยี นรู้ ซง่ึ ชุดการเรยี นรู้นมี้ ีจานวน 2 เรอื่ ง ประกอบด้วยเร่อื งท่ี 1 ความรเู้ รื่องโควดิ เรื่องที่ 2 ความรเู้ ร่อื งกระชาย ชุดการเรียนรชู้ ุดนี้ประกอบด้วย คาชี้แจงสาหรับนักศึกษา กศน. คาชี้แจงสาหรับ ครู บทบาทของครูผู้สอน บทบาทของนักศึกษา ผังความคิด การใช้ขุดการเรียนรู้ ใบความรู้ ใบงาน และ แบบทดสอบ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ท่ีสามารถตรวจความถูกตอ้ งด้วยตนเองได้ ซึ่งครู กศน.สามารถนาไปใช้ใน การจดั การเรยี นการสอนทงั้ ในการปกติ หรอื จดั กจิ กรรมการพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี น คณะผจู้ ัดทาหวังเป็นอยา่ งยิง่ ว่าชุดการเรียนรู้เล่มน้ี จะมีคณุ ค่าในการพฒั นาการเรยี นรูข้ องนกั ศึกษา กศน. ใหเ้ ปน็ ไปตามจดุ มุ่งหมายของกรอบการจดั กิจกรรมการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ตลอดจนมีประโยชนส์ าหรบั ครูผู้สอน และผสู้ นใจ เพื่อนาไปพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน ให้มีคุณภาพการศึกษาสูงย่ิงขึ้นไป คณะผจู้ ัดทา กศน.อาเภอบา้ นเหลื่อม ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 4 Life Skills For You

สารบญั หน้า คานา สารบัญ คาชี้แจงสาหรับนักศึกษา กศน. คาชี้แจงสาหรับครู บทบาทของครผู ้สู อน บทบาทของนักศึกษา ผงั ความคิดการใชข้ ุดการเรียนรู้ เรอ่ื งท่ี 1. ความรเู้ ร่ืองโควิด -บนั ทกึ สรปุ การเรยี นรู้ -ใบงานที่ 1. -แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื งที่ 2 ความรูเ้ รอื่ งกระชาย -บันทึกสรุปการเรียนรู้ -ใบงานที่ 2 -แบบทดสอบหลงั เรยี น บรรณานกุ รม คำส่งั คณะทางาน ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 5 Life Skills For You

คาช้ีแจงสาหรับนักศึกษา กศน. ชดุ การเรยี นรู้เร่ือง กระชายกบั การรักษาโรคโควดิ -19 สาหรบั นักศึกษา กศน. ประกอบด้วย ชุดการเรยี นร้ทู ง้ั หมด 2 เรือ่ ง ดังนี้ เรอื่ งท่ี 1 ความรู้เร่ืองโควดิ เรอ่ื งที่ 2 ความรเู้ รื่องกระชาย ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 6 Life Skills For You

คาชีแ้ จงสาหรับครู ข้อปฏบิ ัติในการใช้ชดุ การเรียนรู้ ชดุ การเรียนรู้เรอื่ ง กระชายกบั การรกั ษาโรคโควิด-19 สาหรับนกั ศกึ ษา กศน. มีจดุ มุ่งหมายเพื่อชว่ ยให้ การดาเนนิ กจิ กรรมการจดั กิจกรรมพฒั นาคุณภาพผุ้เรียนเร่ือง กระชายกบั การรกั ษาโรคโควิด-19 บรรลุ วัตถุประสงค์การเรียนรู้และมีประสทิ ธภิ าพ ครผู ้สู อน ควรดาเนินการดงั น้ี 1. ขนั้ เตรียมการสอน 1.1 ศึกษาคาช้ีแจงในการใชช้ ดุ กจิ กรรมให้เขา้ ใจก่อนอยา่ งละเอียดรอบคอบ 1.2 ศกึ ษาสาระสาคญั และจดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่จะดาเนินการจัดกจิ กรรม ใหเ้ ข้าใจชัดเจนเสยี ก่อน 2. ขั้นสอน/จัดกระบวนการ 2.1 ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการเรียนการสอนแบบ ONIE MODEL 4 ขน้ั คือ ข้นั ท่ี 1 กาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O: Orientation) เป็นการเรยี นรูจ้ ากสภาพ ปญั หา หรือความต้องการของผเู้ รียน และชมุ ชน สังคม โดยให้เชือ่ มโยงกบั ประสบการณ์เดมิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรูข้ อง หลกั สูตร ขน้ั ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ (N: New ways of learning) การแสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ โดยศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ และรวบรวม ข้อมลู ของตนเอง ขอ้ มูลของชมุ ชน สังคม และข้อมลู ทางวชิ าการ จากส่ือและแหลง่ เรียนร้ทู ี่หลากหลายมีการระดมความคดิ เหน็ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ข้อมลู และสรปุ เปน็ ความรู้ ขัน้ ท่ี 3 ปฏิบัตแิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ (I: Implementation) นาความร้ทู ีไ่ ดไ้ ปปฏบิ ตั ิ และประยกุ ตใ์ ช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เหมาะสมกับ วัฒนธรรมและสงั คม ขน้ั ท่ี 4 ประเมินผลการเรยี นรู้ (E: Evaluation) ประเมนิ ทบทวน แกไ้ ขข้อบกพร่อง ผลจากการนาความรไู้ ปประยุกต์ใชแ้ ล้วสรุป เป็นความรู้ใหม่ พร้อมกับเผยแพรผ่ ลงาน 2.2 ขณะทน่ี กั ศึกษาทากจิ กรรม ครูคอยใหค้ วามช่วยเหลอื แนะนากระตุ้นใหน้ ักศึกษาทากิจกรรม อยา่ งกระตือรอื ร้นและตอบข้อสงสัยต่าง ๆ ระหวา่ งเรียนพรอ้ มทง้ั สงั เกตและประเมิน พฤติกรรมการทางานของนักศึกษา 2.3 ประเมินผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น โดยใชแ้ บบทดสอบย่อย ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 7 Life Skills For You

บทบาทของครผู ู้สอน 1. ศกึ ษาชดุ การเรียนรูเ้ ร่ือง กระชายกบั การรกั ษาโรคโควิด-19 ให้เข้าใจก่อนท่ีจะนาไปใช้ 2. ครอู ธิบาย ชแี้ จงเกยี่ วกบั การศกึ ษาและปฏิบตั ิตามชดุ การเรยี นร้เู รอ่ื ง กระชายกบั การรักษาโรคโควิด- 19 และแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นกั ศกึ ษาเข้าใจ 3. ครดู าเนนิ การจัดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามกระบวนการเรียนการสอนท่ีกาหนดไว้ 4. ครกู บั ตดิ ตามการทาใบงาน และใหค้ าปรึกษาแนะนานักศึกษา 5. ครูทดสอบนักศกึ ษาโดยใช้แบบทดสอบ หลงั จากเรียนเน้ือหาจบ เพื่อวัดความรูค้ วามเขา้ ใจของนกั ศกึ ษา ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 8 Life Skills For You

บทบาทนักศกึ ษา 1. รับทราบจุดประสงค์การเรียนรู้จากครูผู้สอน เพอ่ื ให้ทราบวา่ เม่อื จบกิจกรรมการเรยี นร้แู ล้ว นักศึกษา สามารถเรยี นรูอ้ ะไรไดบ้ า้ ง 2. ตงั้ ใจศกึ ษาใบความรู้ และปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามขน้ั ตอนหรอื คาชแี้ จงของแต่ละเน้ือหา อยา่ งจริงจัง ตรงต่อ เวลา และมคี วามซื่อสัตย์ รบั ผิดชอบ ในการทากจิ กรรมแบบทดสอบ และส่งงานครู 3. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น เพ่อื วัดความรู้ความเขา้ ใจ ให้ผ่านเกณทร์ ้อยละ 70 ขน้ึ ไป หากทาได้ไมถ่ ึงเกณท์ ให้นักศึกษากลบั ไปทบทวนเน้ือหา และใบงาน อีกครง้ั 4. ชุดการเรยี นรู้เร่อื ง กระชายกบั การรักษาโรคโควดิ -19 นามาใชใ้ นการจัดกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพ ผูเ้ รียน หรอื หากไม่มเี วลามาพบกลุม่ ทากจิ กรรมสามารถนาไปเรยี นรู้ไดผ้ ่านดจิ ิทลั โดย QR CODE นี้ ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 9 Life Skills For You

ขน้ั ตอนในการเรยี นดว้ ยชดุ การเรียนรู้ ศึกษารายละเอียดของชุดการเรียนรแู้ ตล่ ะเรื่อง ศึกษาผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวัง/จุดประสงค์การเรียนรู้ ดาเนินการใชช้ ุดการเรยี นรู้ ๑. ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน - แจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - บอกสิ่งที่นักศึกษาต้องปฏบิ ตั ิ - ทดสอบกอ่ นเรียน ๒. ขน้ั เรียนรู้ นกั ศึกษาปฏิบตั ิกจิ กรรมตามที่ระบไุ วใ้ นใบงาน ๓. ขั้นสรปุ สรุป อภิปราย แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ ทดสอบหลังเรียน ไม่ผ่าน ผ่าน ทาแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น หมายเหตุ ผา่ น หมายถงึ ผู้เรยี นทาใบงานครบ ทาแบบทดสอบได้รอ้ ยละ 70 และแบบฝกึ หดั ครบ ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 10 Life Skills For You

เรื่องท่ี 1 ความรู้เร่ืองโควดิ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสาคญั ของโรคโควดิ -19 2. อธบิ ายท่มี าของโรค และวิธกี ารรักษา และการป้องกนั โรคโควดิ -19 3. ยกตวั อยา่ งพร้อมนาเสนอวิธีการรักษา และการป้องกันโรคโควิด -19 1. เชอ้ื กอ่ โรค : เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ (CoVs) เป็นไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอสายเดยี่ ว (single stranded RNA virus) ใน Family Coronaviridae มีรายงานการพบเช้อื มาตั้งแต่ชว่ งปี ค.ศ. 1965 โดยสามารถติดเชื้อได้ท้ังในคนและ สตั ว์ เชน่ หนู ไก่ ววั ควาย สนุ ขั แมว กระต่าย และสกุ ร ประกอบดว้ ยชนดิ ย่อยหลายชนดิ และทำให้มีอาการ แสดงในระบบต่างๆ เช่น ระบบทางเดนิ หายใจ (รวมถงึ โรคทางเดนิ หายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส; SARS CoV) ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท หรอื ระบบอ่นื ๆ 2. ระบาดวทิ ยาของเช้อื : เชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ (CoVs) พบได้ท่วั โลก โดยในเขตอบอ่นุ (temperate climates) มกั พบเช้อื โคโรนาไวรสั ในช่วงฤดูหนาวและฤดใู บไม้ผลิ การติดเชื้อโคโรนาไวรสั อาจทำใหเ้ กดิ อาการในระบบ ทางเดนิ หายใจส่วนบนได้ถึงร้อยละ 35 และสดั สว่ นของโรคไขห้ วัดท่เี กดิ จากเช้ือโคโรนาไวรสั อาจสงู ถึงร้อย ละ 15อาจ การตดิ เช้อื พบไดใ้ นทกุ ลุ่มอายุ แต่พบมากในเด็ก อาจพบมกี ารติดเชื้อซ้ำได้ เนอื่ งจากระดับ ภูมิค้มุ กนั จะลดลงอย่างรวดเร็วภายหลงั การตดิ เชือ้ สำหรบั การตดิ เชอื้ ทางเดินหายใจเฉยี บพลันรุนแรง หรือ ซาร์ส (SARS CoV) พบการระบาดปี พ.ศ. 2546 โดยพบเริ่มจากประเทศจีนแลว้ แพร่กระจายไปทั่วโลก พบรายงานผปู้ ่วยโรคซาร์สทั้งส้ินมากกว่า 8, 000 ราย และเสยี ชวี ิตมากกวา่ 750 ราย 3. ลักษณะโรค : - การตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา่ ในระบบทางเดินหายใจ (Respiratory Coronaviruses) อาจทำใหเ้ กิดอาการ ไข้ อ่อนเพลยี ปวดศรี ษะ มีน้ำมูก เจบ็ คอ ไอ โดยในทารกท่ีมอี าการรุนแรง อาจมีลักษณะของปอด อักเสบ (Pneumonia) หรอื หลอดลมฝอยอกั เสบ (Bronchiolitis) ในเดก็ โตอาจมีอาการของหอบหดื (Asthma) ส่วนในผู้ใหญ่ อาจพบลักษณะปอดอกั เสบ (Pneumonia) หลอดลมอักเสบเร้ือรัง (Chronic bronchitis) หรือการกลับเป็นซำ้ ของโรคหอบหืดได้ และอาจทำใหเ้ กดิ อาการรนุ แรงได้มากในผสู้ งู อายุ หรอื ผู้ท่ีภูมิคุม้ กันบกพร่อง โดยพบการติดเชือ้ แบบไม่แสดงอาการได้ในทุกอายุ และหากแสดงอาการ มักพบรว่ มกับการติดเชือ้ ในระบบทางเดนิ หายใจอื่นๆ เช่น Rhinovirus, Adenovirus หรอื เชอ้ื อื่นๆ - การติดเชื้อทางเดนิ หายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซารส์ (Severe Acute Respiratory Syndrome; SAR CoV) จะพบมอี าการไข้ ปวดศรี ษะ อ่อนเพลีย หรอื อาการคลา้ ยไข้หวัดใหญ่ แลว้ มีอาการไอ และ หอบเหนื่อยอย่างรวดเร็ว ซงึ่ อัตราตายจะสูงขน้ึ ในผปู้ ว่ ยสูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว - การติดเชื้อโคโรนา่ ไวรสั ในระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal Coronaviruses) มกั พบบ่อยในเดก็ แรกเกิด และทารกอายุน้อยกวา่ 1 ปี หรอื อาจพบในผู้ใหญ่ทีม่ ภี ูมคิ ุ้มกันบกพร่อง โดยพบเช้ือไดแ้ มผ้ ูป้ ่วย ไมแ่ สดงอาการ และไม่มีฤดูกาลการเกิดโรคท่ีแน่นอน ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 11 Life Skills For You

4. ระยะฟกั ตัวของโรค : โดยเฉลี่ยประมาณ 2 วนั (อาจมีระยะฟกั ตัวนานถึง 3 – 4 วัน) สำหรับโรคซาร์สอาจ ใชร้ ะยะฟกั ตวั 4 – 7 วัน (อาจนานถึง 10 – 14 วัน) 5. วธิ กี ารแพร่โรค : แพรก่ ระจายเชอื้ จากการสมั ผัส (Contact) กับสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจ หรือ แพรก่ ระจายเชื้อจากฝอยละอองนำ้ มูก น้ำลาย (Droplet) จากผปู้ ว่ ยที่มเี ชอื้ โดยการ ไอ หรือจาม 6. การป้องกัน : - ออกกำลังกายสน่ำเสมอและพกั ผอ่ นใหเ้ พียงพอ - รับประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์และครบ 5 หมู่ - ไมค่ ลุกคลีใกล้ชิดกบั ผูป้ ่วย - แนะนำใหผ้ ้ปู ่วยใสห่ น้ากากอนามัย ปดิ ปากปดิ จมูกเวลา ไอ หรือจาม - ควรล้างมอื บอ่ ยๆ ด้วยนำ้ และสบู่ โดยเฉพาะเม่ือสมั ผสั กับสารคดั หลง่ั จากผู้ปว่ ย กอ่ นรับประทาน อาหาร และหลงั ขบั ถา่ ย - ควรหลีกเลยี่ งการเขา้ ไปในพ้ืนที่แออดั หรอื ท่ชี ุมชนสาธารณะท่ีมีคนอยเู่ ปน็ จำนวนมาก เพ่ือลดความ เสีย่ งในการติดโรค -ขอ้ มูลจาก https://www.pidst.or.th/A215.html ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 12 Life Skills For You

บนั ทึกสรุปการเรียนรู้ สรปุ เนอื้ หา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ประโยชนท์ ีไ่ ด้รับ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ............ ...................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ................................................. การนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................................... ....... ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 13 Life Skills For You

ใบงาน ให้นกั ศึกษาตอบคาถามดังนี้ 1.อธิบายความหมาย ความสาคัญของโรคโควดิ -19 .............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. อธบิ ายที่มาของโรค และวิธีการรกั ษา และการป้องกนั โรคโควิด -19 ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 3. ยกตวั อย่างพร้อมนาเสนอวิธกี ารรักษา และการป้องกนั โรคโควดิ -19 .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... แบบทดสอบ 1 ขอ้ ใดกล่าวถงึ โรคโควดิ -19 ไดถ้ ูกตอ้ ง ก เป็นโรคติดตอ่ ทเ่ี กดิ จากเช้อื ไวรัส ข ไมต่ ดิ ต่อจากคนสู่คน ค ตดิ ต่อจากสัตว์สู่สัตว์ ง เป็นโรคไมร่ า้ ยแรง 2 ขอ้ ใดไม่ใช่วธิ ีปอ้ งกนั ตนเองใหป้ ลอดภัยจาก โควิด -19 ก สวมหนา้ กากอนามัย ข กนิ อาหารปรุงสุกใหม่ ค อาบนา้ รว่ มกนั ง พกเจลแอลกอฮอล์ 3 บุคคลใดมีความเสีย่ งต่อการตดิ เช้ือโควดิ -19 มากทีส่ ุด ก นายเอ สวมหนา้ กากตลอดเวลา ข นายบี กนิ อาหารร้อนปรงุ สกุ ใหม่ ค นายซีและนายดี พูดคยุ โดยไมส่ วมหนา้ กากอนามยั ง นาย วี ลา้ งมือด้วยสบ่แู ละเจลแอลกอฮอล์ ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 14 Life Skills For You

เรอื่ งท่ี 2 ความรู้เรือ่ งกระชาย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกองค์ประกอบของทักษะชวี ิตได้ 2. อธบิ ายประโยชน์ของการนาองค์ประกอบของทักษะชวี ติ มาใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ 3. ยกตัวอยา่ งพร้อมนาเสนอการนาองคป์ ระกอบของทักษะชีวติ มาใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ กระชาย กระชาย (กระชายขาว, กระชายเหลอื ง) ชือ่ สามัญ Fingerroot, Chinese ginger, Chinese keys, Galingale กระชาย ชื่อวิทยาศาสตร์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จัดอยใู่ นวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) สมุนไพรกระชาย มีชื่อท้องถิ่นอ่นื ๆ ว่า วา่ นพระอาทิตย์ (กรงุ เทพมหานคร), กระชายดำ กะแอน ขงิ ทราย (มหาสารคาม), จ๊ีปู ซฟี ู เปาซอเร๊าะ เป๊าสี่ เปา๊ ะส่ี ระแอน เปา๊ ะซอเร้าะ (กะเหร่ียง-แมฮ่ ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนอื ), ขิงจนี เป็นต้น ลกั ษณะของกระชายเหลือง • ตน้ กระชาย มีถนิ่ กำเนิดในเขตรอ้ นบริเวณเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยจัดเป็นไม้ล้มลุก มีเหงา้ ส้ัน แตก หนอ่ ได้ มรี ากอวบ เปน็ รูปทรงกระบอกหรอื รูปทรงไขค่ ่อนขา้ งยาว ปลายเรยี ว มคี วามยาวประมาณ 4-10 เซนตเิ มตร และกวา้ งประมาณ 1-2 เซนตเิ มตร ออกเป็นกระจกุ ผิวมีสนี ำ้ ตาลอ่อน ส่วนเน้ือในมสี เี หลือง และมกี ลิน่ หอมเฉพาะตวั มกั พบข้ึนในป่าดิบร้อนช้ืน • ใบกระชาย คือลักษณะของส่วนที่อยู่เหนอื ดนิ มปี ระมาณ 2-7 ใบ ลักษณะของใบเป็นใบเด่ียว เรียงสลับ ลักษณะเปน็ รปู รี ใบยาวประมาณ 12-50 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 5-12 เซนติเมตร โคนใบมนหรือ แหลม ส่วนปลายใบเรียวแหลม มขี อบเรยี บ เสน้ กลางใบ ดา้ นใบ และกาบใบดา้ นบนจะเป็นรอ่ ง ส่วน ดา้ นลา่ งจะนูนเปน็ สนั ดา้ นใบเรียบมคี วามยาวประมาณ 7-25 เซนติเมตร ส่วนกาบใบเปน็ สชี มพยู าว ประมาณ 7-25 เซนตเิ มตร ระหวา่ งกา้ นใบและกาบใบจะมีลน้ิ ใบ • ดอกกระชาย ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลด โดยจะออกทีย่ อดระหวา่ งกาบใบคู่ในสดุ มคี วามยาว ประมาณ 5 เซนติเมตร แตล่ ะดอกจะมีใบประดบั 2 ใบ มีสีขาวหรือสขี าวอมชมพูอ่อน ๆ เปน็ รูปใบหอก กวา้ งประมาณ 8 มิลลเิ มตร และยาวประมาณ 3.5-4.5 เซนตเิ มตร ทกี่ ลีบเลยี้ งมสี ีขาวหรอื สีขาวอมชมพู ออ่ น โคนติดกนั เปน็ หลอด ยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร ปลายจะแยกเป็น 3 แฉก ส่วนกลบี ดอกมสี ีขาว หรือสขี าวอมชมพูอ่อน โคนตดิ กันเป็นหลอด ยาวประมาณ 6 เซนตเิ มตร และปลายแยกเปน็ 3 กลีบ เป็น รปู ใบหอก มีขนาดไม่เท่ากนั กลบี ใหญ่มี 1 กลบี กวา้ งประมาณ 7 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 1.8 เซนตเิ มตร ส่วนอกี 2 กลีบจะมีขนาดเท่ากนั กว้างประมาณ 5 มิลลเิ มตร และยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเกสรตวั ผอู้ ยู่ 6 อนั แต่มี 5 อนั ท่ีเปลี่ยนไปมีลกั ษณะเหมือนกลีบดอก โดย 2 กลีบบนมีสีชมพู ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 15 Life Skills For You

รปู ไข่กลับขนาดเทา่ กัน มคี วามกวา้ งประมาณ 1.2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.7 เซนตเิ มตร ส่วนอกี 3 กลีบล่างมสี ีชมพตู ิดกันเป็นกระพ้งุ มคี วามกวา้ งประมาณ 2 เซนตเิ มตร ยาวประมาณ 2.7 เซนติเมตร และทปี่ ลายจะแผ่กว้างประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร มีสีชมพูหรือสีม่วงแดงเป็นเสน้ อยเู่ กือบทั้งกลบี โดยเฉพาะอย่างยิง่ ตรงกระเปาะและปลายกลีบ จะมเี กสรตัวผูท้ ี่สมบูรณอ์ ยู่ 1 อนั ก้านชอู บั เรณหู มุ้ ก้าน เกสรตวั เมีย • ผลกระชาย ผลแก่จะแตกเป็น 3 เส่ยี ง มีเมล็ดค่อนขา้ งใหญ่ กระชาย มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คอื กระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลือง (แต่ในบทความนี้เราจะพูดกันถงึ กระชายเหลืองครับ) โดยกระชายเป็นพืชสมนุ ไพรทีค่ นไทยตา่ งรูจ้ ักกนั เป็นอย่างดี สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้ หลากหลายเมนู โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในการนำมาใชเ้ ป็นสว่ นผสมสำคัญในแกงปา่ หรือผดั ต่าง ๆ โดยส่วนทีน่ ิยม นำมาใช้ประกอบอาหารกนั มากทสี่ ดุ คือ รากสะสมอาหาร หรือที่เรยี กว่า \"นมกระชาย\" ซ่ึงรากกระชายนีจ้ ะมีกล่นิ หอมเฉพาะตัว สามารถใช้เป็นผกั จ้ิมได้โดยตรง แต่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมนำมาใช้เป็นเครอ่ื งแกงซะมากกวา่ เพราะมคี ณุ สมบัตใิ นการช่วยดบั กลน่ิ คาวของเนอ้ื สัตวเ์ น้อื ปลาไดเ้ ป็นอยา่ งดี กระชายท่นี ิยมใช้กันกค็ อื กระชายเหลืองและกระชายดำ ซึ่งกระชายดำปัจจุบันกำลังเป็นท่ีนิยม จนทำใหก้ ระชาย เหลืองถูกลดความสำคัญลงไป แตว่ า่ กันวา่ ในด้านสรรพคณุ ทางยาสมุนไพร กระชายเหลืองน้นั ดกี ว่ากระชายดำ เพราะบางทีเรากค็ ดิ ไปเองว่าสมนุ ไพรถ้าเปน็ สีเข้มกว่าก็นา่ จะมปี ระโยชน์มากกว่า แถมกระชายดำยังไดร้ บั การโปร โมตทางการตลาดอย่างตอ่ เน่ือง ทำใหค้ นทัว่ ไปหลงคิดวา่ กระชายดำน้นั ดีกวา่ กระชายเหลืองน่ันเอง สมุนไพรกระชาย มสี รรพคณุ ทางยานานับประการ จนได้ช่อื ในวงการแพทย์แผนไทยว่าเปน็ \"โสมไทย\" เน่ืองจาก กระชายกบั โสมมคี วามคลา้ ยคลงึ กนั หลายอย่าง เช่น สรรพคณุ ในการบำรุงกำลงั และเสริมสมรรถภาพทางเพศ ซ่ึง เปน็ ลักษณะเดน่ ของสมุนไพรทัง้ สองชนิด ทั้งกระชายและโสมตา่ งก็เปน็ พืชท่ีมสี ่วนสะสมอาหารทีใ่ ช้เปน็ ยาอยู่ใต้ ดนิ เหมอื นกัน แถมยังสามารถเรอื งแสงในท่ีมดื ได้เหมอื นกันด้วย และในเรอ่ื งของลักษณะท่คี ล้ายกบั รูปรา่ งมนษุ ย์ เหมอื น ๆ กัน ซ่ึงบางครัง้ เราจะเรยี กโสมวา่ \"โสมคน\" และเรียกกระชายวา่ \"นมกระชาย\" (เนอื่ งจากกระชายมี ลักษณะทีค่ ลา้ ยคลงึ กับนมผู้หญิงนนั่ เอง และบางคร้งั กด็ ูคล้ายเพศชาย จงึ เกดิ ความเชือ่ ที่วา่ มนั นา่ จะมคี วาม เกยี่ วข้องในเร่ืองสรรพคณุ ทางเพศ) สรรพคณุ ของกระชาย 1. กระชายมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย เป็นยาอายวุ ัฒนะ 2. ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ) 3. กระชายเหลืองมสี รรพคณุ ช่วยแก้ลมวิงเวียน แนน่ หนา้ อก 4. ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบดั โรคนกเขาไม่ขนั หรอื โรคอดี ี (Erectile Dysfunctional หรอื ED) (เหง้าใตด้ ิน) 5. ชว่ ยบำรงุ หัวใจ ดว้ ยการใชเ้ หงา้ และรากของกระชายนำมาปอกเปลือก ล้างนำ้ ให้สะอาด นำมาหั่นตาก แหง้ แล้วบดจนเป็นผง และให้ใชผ้ งแห้งที่เตรียมไวป้ ระมาณ 1 ช้อนชา นำมาชงกบั น้ำรอ้ นคร่งึ ถว้ ยชา แลว้ รบั ประทานเพียงครงั้ เดียว (เหง้า, ราก) 6. ช่วยบำรงุ กระดูก ชว่ ยทำให้กระดกู ไมเ่ ปราะบาง 7. ช่วยปรับสมดุลของฮอรโ์ มนตา่ ง ๆ ในรา่ งกาย 8. ช่วยบำรงุ กำหนดั แก้อาการกามตายด้าน (เหงา้ ใตด้ นิ ) 9. ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลอื ดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากข้ึน ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 16 Life Skills For You

10. ชว่ ยปรบั สมดลุ ของความดันโลหติ ในรา่ งกาย ช่วยลดความดนั โลหติ เม่ือความดันโลหิตสงู แต่เมือ่ ความ ดันโลหติ ต่ำกจ็ ะชว่ ยทำให้ความดันเพมิ่ ขนึ้ จนเป็นปกติ 11. สรรพคณุ กระชายช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ (ใบ) 12. กระชายมีสรรพคณุ ทางยาช่วยแกโ้ รคในปากและคอ เช่น ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากเป็นแผล (ใบ, เหง้า) 13. ชว่ ยแกฝ้ ้าขาวในปาก ดว้ ยการใช้กระชายทลี่ า้ งสะอาดนำมาบดแบบไม่ต้องปอกเปลือก แลว้ ใสใ่ นโถป่ัน พอหยาบ แล้วนำมาใส่ขวดปดิ ฝาแชไ่ ว้ในตู้เย็น แลว้ นำมากนิ ก่อนอาหารครง้ั ละ 1 ช้อนชาเลก็ กนิ วนั ละ 3 ม้ือกอ่ นอาหารประมาณ 15 นาที ประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก) 14. เหงา้ ใตด้ นิ มรี สเผด็ ร้อนและขม มสี รรพคณุ ช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการทอ้ งอดื ท้องเฟ้อ ด้วยการใชเ้ หง้าและรากประมาณครง่ึ กำมอื ถา้ สดใหใ้ ชป้ ระมาณ 5-10 กรัม แต่ถา้ เป็นแห้งใหใ้ ชป้ ระมาณ 3-5 กรัม แล้วนำมาต้มเอาน้ำด่มื แกอ้ าการ หรือจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารไวร้ ับประทานก็ได้เช่นกัน (เหง้าใตด้ นิ ) 15. ชว่ ยแก้อาการท้องร่วง ท้องเดนิ ด้วยการใช้เหง้าสด 1-2 เหงา้ ใชเ้ หงา้ ท่ีปิ้งไฟแล้วนำมาฝนหรอื ตำผสม กบั น้ำปนู ใส หรือจะคั้นให้ขน้ ๆ แล้วนำมารบั ประทานคร้ังละ 1-2 ช้อนชาก็ได้ (เหง้า, ราก) 16. ช่วยแก้บิด โดยใช้เหง้าสดประมาณ 2 เหง้า นำมาบดจนละเอยี ดแล้วเติมน้ำปูนใส ค้นั เอาแตน่ ้ำมาดืม่ (เหงา้ สด) 17. ชว่ ยรกั ษาอาการท้องเดนิ ในเดก็ (เหง้า, ราก) 18. รากกระชายมีสรรพคุณช่วยแก้โรคกระเพาะ (ราก) 19. ช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด (เหง้า, ราก) 20. ใช้เปน็ ยาขับปัสสาวะ แกอ้ าการปัสสาวะพิการ (เหง้า, ราก) 21. ชว่ ยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง ช่วยรกั ษาโรคไต ชว่ ยทำให้ไตทำงานได้ดียงิ่ ขน้ึ 22. ชว่ ยปอ้ งกันไทรอยดเ์ ปน็ พิษ 23. ช่วยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง ซึง่ ในกรณนี อ้ี าจจะตอ้ งใช้เม็ดบัวทต่ี ้มแลว้ นำมารับประทานรว่ ม ดว้ ย 24. ช่วยแก้อาการไส้เลื่อนในเพศชาย 25. ช่วยควบคุมไมใ่ ห้ต่อมลกู หมากโต 26. ช่วยบำรงุ มดลูกของสตรี ปอ้ งกันไมใ่ ห้มดลูกโต 27. แก้อาการตกขาว ช่วยขบั ระดูขาวของสตรี (เหง้า) 28. ชว่ ยขบั นำ้ คาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร 29. ใช้เปน็ ยารักษาริดสดี วงทวาร ดว้ ยการใช้เหงา้ สดประมาณ 60 กรมั (6-8 เหงา้ ) นำมาผสมกบั เน้อื มะขามเปียกประมาณ 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนแกง และนำมาตำแล้วต้มกับนำ้ 6 แก้ว แล้วเคย่ี วจน เหลือ 2 แกว้ นำมารบั ประทานคร้งั ละครึ่งแกว้ กอ่ นนอน แลว้ รับประทานตดิ ตอ่ กันประมาณ 1 เดอื น จนกวา่ จะหาย (เหงา้ ใตด้ ิน) 30. ใบชว่ ยถอนพิษต่าง ๆ (ใบ) 31. ชว่ ยแก้อาการปวดเมอื่ ย ดว้ ยการใช้เหง้าหรือรากแก่ ๆ นำมาหั่นเป็นแวน่ บาง ๆ แล้วนำไปตากแห้งและ นำมาชงกบั นำ้ ดื่ม (ราก, เหง้า) 32. ช่วยบำรงุ เส้นเอ็นใหแ้ ข็งแรง 33. เหงา้ และรากใช้เปน็ ยาภายนอก สรรพคุณช่วยรกั ษาขี้กลาก ข้เี กล้ือน (เหง้า, ราก) 34. ชว่ ยรักษาโรคน้ำกัดเท้า ด้วยการใชร้ ากกระชายทั้งเปลอื กมาลา้ งแลว้ ผ่ึงใหแ้ ห้ง ฝานเป็นแว่น ๆ และ นำไปบดให้เป็นผงหยาบ ๆ และใชน้ ำ้ มันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวมาอุน่ ในหม้อใบเล็ก ๆ เตมิ ผง ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 17 Life Skills For You

กระชาย ใช้น้ำมนั 3 เทา่ ของปรมิ าณกระชาย แล้วนำมาหุงดว้ ยไฟอ่อน ๆ ราว 15-20 นาที แล้วกรอง กระชายออก เก็บน้ำมนั ไว้ในขวดแกว้ สีชา นำมาใช้ทาบริเวณทเี่ ปน็ (ราก) 35. ช่วยแก้อาการคันหนงั ศรี ษะจากเช้ือรา ดว้ ยการใชน้ ้ำมนั ดังกลา่ ว (จากสตู รรักษาโรคนำ้ กัดเท้า) นำมา เขา้ สตู รทำเปน็ แชมพูสระผม หรอื จะใช้น้ำมันกระชายโกรกผมแล้วนวดให้เขา้ หนงั ศรี ษะก็ได้ แล้วค่อย ล้างออก (นำ้ มนั กระชาย) 36. ช่วยรกั ษาฝดี ้วยการใชเ้ หงา้ กับรากมาตำใหล้ ะเอียดแล้วนำมาทาหวั ฝีท่ีบวม จะทำให้หายเรว็ ย่ิงขึ้น (เหงา้ , ราก) 37. เหงา้ มีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อราท่เี ป็นสาเหตขุ องการเกิดโรคผวิ หนังและโรคในช่องปากดีพอสมควร (เหง้า) 38. กระชายมสี ารทอ่ี อกฤทธิ์ช่วยต้านการกอ่ การกลายพนั ธ์ุ โดยการบรโิ ภครากกระชายสามารถชว่ ยลดความ เส่ียงของการเกิดโรคมะเร็งได้ 39. กระชายมีสารทีอ่ อกฤทธท์ิ ำให้อนมุ ลู อสิ ระเปน็ กลาง จงึ มีผลช่วยลดความเสียหายของการเกดิ อนมุ ลู อิสระ ภายในร่างกายได้ 40. กระชายมีฤทธช์ิ ่วยตา้ นการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็นประจำอาจไดผ้ ลคลา้ ยกับการรบั ประทานยา แอสไพรนิ และอาจจะช่วยป้องกันการเกดิ โรคที่มสี าเหตุมาจากการอกั เสบเร้อื รงั ภายในร่างกายได้ 41. งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่รว่ มกบั มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบวา่ สารสกดั จากกระชาย สามารถชว่ ยต้านการเสอ่ื มของกระดูกออ่ นในหลอดทดลองได้ และได้ผลเปน็ ที่นา่ พอใจ 42. งานวจิ ยั ในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากรากและใบมฤี ทธ์ชิ ่วยต้านเช้ือ Plasmodium falciparum ซึ่งเปน็ สาเหตุของการเกดิ โรคมาลาเรยี 43. งานวิจยั ของมหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์พบวา่ สารสกัดคลอโรฟอร์มและเมทานอลจากรากของกระชาย มีฤทธใ์ิ นการต้านการเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเปน็ พยาธเิ ซลล์เดยี วในลำไสท้ ่ี กอ่ ใหเ้ กดิ ภาวะทอ้ งเสีย ซ่ึงเป็นปัญหาที่สำคญั อยา่ งมากสำหรับผ้ปู ่วยท่ีเป็นโรคภมู คิ มุ้ กนั บกพร่อง 44. งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายน้นั มีฤทธ์ิต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด ประโยชนข์ องกระชาย 1. ประโยชนก์ ระชาย สามารถนำมาทำเป็นนำ้ กระชายปั่น ด่ืมเพอื่ เพิ่มความสดช่นื บำรุงรา่ งกาย ทำให้ รา่ งกายกระปรกี้ ระเปร่าไดเ้ ป็นอย่างดี 2. น้ำกระชายชว่ ยทำให้รา่ งกายกระปร้ีกระเปรา่ ย่งิ ขึ้น ช่วยทำใหเ้ หน่อื ยลง 3. ช่วยทำใหเ้ สน้ ผมแข็งแรง เปล่ียนผมขาวใหก้ ลับเป็นดำ ช่วยทำให้ผมบางกลับมาหนาขนึ้ และช่วย แก้ปญั หาผมหงอก ผมร่วงได้ 4. รากนำมาใชเ้ ป็นเครอื่ งแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดับกลิน่ คาวของเน้ือและปลาไดเ้ ป็นอยา่ งดี โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เปน็ ต้น และยังทำใหอ้ าหารมกี ลน่ิ และรสที่หอมแบบเปน็ เอกลกั ษณ์อีกดว้ ย 5. รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนำตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นำมาตำผสมกนั แลว้ ใชผ้ สมกับน้ำฉดี ในบริเวณท่ีมีแมลงรบกวน ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 18 Life Skills For You

วิธีทำนำ้ กระชาย 1. การทำน้ำกระชายใหเ้ ตรียมวัตถุดิบดังนี้ กระชายเหลืองสดครึง่ กิโล (หรอื จะใช้สูตรผสมก็ได้ โดยใช้ กระชายเหลือง 5 ส่วน กระชายดำ 1 ส่วน และกระชายแดง 1 ส่วน) / น้ำผ้ึง / น้ำมะนาว / น้ำเปล่าต้ม สุกท่ีทิ้งไวจ้ นเยน็ 2. ขนั้ ตอนแรกใหน้ ำกระชายมาล้างใหส้ ะอาด ตัดรากที่รกรงุ รงั ออก ตัดหัวและทา้ ยทิ้งไป ถา้ ขูดเปลอื กออก บ้างกจ็ ะดีมาก 3. เมือ่ เสรจ็ แล้วนำมาห่นั เป็นท่อน ๆ เพ่อื ใหง้ า่ ยต่อการนำมาปัน่ 4. ให้เตรียมผ้าขาวบางรองด้วยกระชอนไวใ้ ห้พร้อม 5. นำกระชายท่ีเตรียมไว้ใส่ในโถปน่ั และผสมกับนำ้ เปลา่ ต้มสกุ พอประมาณ แลว้ ปนั่ จนละเอียด 6. เสร็จแล้วใหเ้ ทใสก่ ระชอนท่ีเตรียมไว้ ถ้านำ้ น้อยก็ใหผ้ สมนำ้ เปลา่ ลงไปอกี แลว้ คน้ั เอาแต่น้ำเทา่ น้ัน 7. ทนี่ ีเ้ รากจ็ ะได้นำ้ กระชายเหลืองสด ๆ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นไดน้ านเป็นเดือน 8. เมอื่ จะดื่มก็เพยี งแคน่ ำมาผสมกับน้ำมะนาว น้ำผง้ึ ในถว้ ยแล้วคนใหเ้ ข้ากัน แลว้ จงึ ใส่น้ำกระชายตามลง ไป 9. เมอ่ื ผสมจนรสชาติกลมกล่อมตามทต่ี ้องการแล้วก็เป็นอนั เสรจ็ 10. แตถ่ า้ กลวั ว่ากล่นิ กระชายจะแรงไป กส็ ามารถใชใ้ บบัวบกหรือใบโหระพามาปน่ั รวมกนั กไ็ ด้ตามใจชอบ เพราะไม่มีส่วนผสมท่เี ป็นสูตรตายตวั เท่าไหร่ Tip : นำ้ กระชายไม่ควรเกบ็ ไวน้ านมาก เพราะจะทำใหค้ วามซา่ และความหอมของกระชายลดนอ้ ยลง ทำให้เกดิ ตะกอนทก่ี ้น ถา้ จะให้ดที ่สี ุดก็ควรดื่มให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะไดท้ ั้งรสชาติท่ีซ่า ดื่มแลว้ ชืน่ ใจ พร้อมสรรพคณุ อกี เต็ม ๆ ดว้ ย แตส่ ำหรับผู้ท่ีดื่มนำ้ กระชายแลว้ มอี าการแปลก ๆ ร้อนวบู วาบ หรือมีอาการเหง่ือออกหรอื เรอ ออกมากไ็ มต่ ้องตกใจ เพราะเป็นอาการปกติทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ได้ หากด่ืมไปสักพกั เด๋ียวก็ชินไปเอง แหล่งอ้างอิง : เวบ็ ไซต์สำนักงานโครงการอนรุ ักษพ์ นั ธกุ รรมพืชอนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี, ช่ือพรรณไม้แห่งประเทศไทย สำนกั งานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา่ และพันธุ์พืช (เต็ม สมิตินันทน)์ , เว็บไซต์เทคโนโลยีชาวบ้าน, เว็บไซต์มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช, เว็บไซต์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จงั หวดั พะเยา, เว็บไซตห์ มอชาวบ้าน (รศ.ดร.สธุ าทพิ ภมร ประวตั ิ), สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ภาพประกอบ : www.flickr.com (by FotoosVanRobin, besitai, camillenoir, G's Garden, Ahmad Fuad Morad) เรยี บเรียงข้อมูลโดยเวบ็ ไซต์เมดไทย (Medthai) https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791854 ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 19 Life Skills For You

• ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 20 Life Skills For You

บนั ทึกสรุปการเรียนรู้ สรปุ เนื้อหา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. การนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................ ...................................... ............................................................................................ .................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 21 Life Skills For You

ใบงาน ให้นักศกึ ษาตอบคาถามดังน้ี 1. บอกประโยชนข์ องกระชาย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. อธบิ ายวธิ ีการปลูก .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 3. ยกตวั อยา่ งพร้อมนาเสนอทานา้ กระชาย .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... แบบทดสอบ 1 ทักษะชีวิต มีความหมายว่า? ก.คุณลักษณะ หรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา เป็นทักษะที่ช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ ต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข. ทักษะท่ีมนุษย์ทุกคนจาเป็นต้อง มีและต้องใช้ในชีวิตประจาวัน เพื่อช่วยให้ตนเองมีความสุข สามารถ ปฏิบัติหน้าท่ีได้ และประสบความสาเร็จ ค.ความสามารถในการปรับตัวและมี พฤติกรรมไปในทิศทางท่ีถูกต้องในการท่ีจะเผชิญกับส่ิงท้าทายต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นในชีวิตประจาวันได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ง.ถูกทุกข้อ 2.องค์ประกอบของทักษะชวี ิตแบ่งออกเป็นกกี่ ลุ่ม? ก.1 กลมุ่ ข.2 กลุ่ม ค.3 กลุม่ ง.4 กลมุ่ 3.ความสามารถในการดูแลตนเอง จัดอยู่ในองค์ประกอบของทักษะชีวิตกลุ่มใด? ก.ทักษะเฉพาะบุคคลและทักษะทางสังคม ข.ทักษะการดารงชีวิตประจาวัน ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 22 Life Skills For You

ค.ทักษะการประกอบอาชีพ ง.ทักษะชีวิต เกง่ มากครบั ลองกลบั ไปทบทวนเน้ือหาอกี ครงั้ ตรวจสอบใบงาน แบบทดสอบ ดว้ ยนะครบั ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 23 Life Skills For You

บรรณานกุ รม บทท4่ี แนวคดิ เรื่องทักษะชีวติ และการพัฒนาทักษะชวี ติ ในหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 https://sites.google.com/site/thanyamaivipfan/bth-thi4 กิจกรรมพัฒนาการเรยี นและทกั ษะชวี ติ https://www.stou.ac.th/offices/oes/oespage/guide/page_2/download/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E 0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8% 92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0 %B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B 1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0% B8%95%2059.pdf แนวทางการจดั กจิ กรรมทักษะชีวิต https://tinyurl.com/y7bueja5 การศึกษาเพือ่ พฒั นาทักษะชวี ิต http://amnat.nfe.go.th/lueamnat_nfe/UserFiles/File/civit.pdf ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 24 Life Skills For You

ทปี่ รกึ ษา คณะทางาน นางกรแกว้ แบบกลาง นายประสิทธิ์ ต้งั ประเสรฐิ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเมอื งนครราชสีมา นางบำเพ็ญ ไทยสะเทอื น ครชู ำนาญการพิเศษ นายปฐมพล โพธ์สิ ุ ครชู ำนาญการ นางงามจิตต์ สวา่ งพลกรัง ครอู าสาสมัคร กศน. นางทศั นา พรมหดี ครอู าสาสมัคร กศน. นายเฉลา ชัยฉิมพลี ครูอาสาสมัคร กศน. นางนวลถนอม พขิ นุ ทด ครอู าสาสมัคร กศน. นางสาวภมร เอนกศลิ ป์ ครอู าสาสมัคร กศน ครู กศน.ตาบล คณะทำงานชุดการเรียนรู้ นางสาวภมร เอนกศลิ ป์ ครู กศน.ตำบล นางสาวแววดาว ฟอพิมาย ครู กศน.ตำบล นางสาวฐาปนยี ์ จำรสั ประเสรฐิ ครู กศน.ตำบล นางสาวดวงธดิ า พรมพนั ธ์ใจ ครู กศน.ตำบล นางสาวศริ ิกัญญา อทิ ธพิ บิ ูล ครู กศน.ตำบล นางสาวธณชั ชา สวุ รรณโชติ ครู กศน.ตำบล รวบรวมข้อมลู /ต้นฉบับ/ออกแบบปก โดย ครู กศน.ตำบล นางสาวภมร เอนกศิลป์ ชุดการเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 25 Life Skills For You

ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 26 Life Skills For You

ชดุ การเรยี นรู้ 10 ทกั ษะชวี ติ เนรมติ รชวี ติ ใหม่ 27 Life Skills For You


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook