Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำราพิชัยสงครามซุนวู

ตำราพิชัยสงครามซุนวู

Published by chainarong_2536, 2019-12-19 00:20:44

Description: ตำราพิชัยสงครามซุนวู

Search

Read the Text Version

ผทู้ หี่ นุ หันพลันแล่น อาจได้รับการยว่ั เยา้ รําคาญ ผู้ที่คิดแตค่ วามบรสิ ทุ ธผิ์ ่องแผ้วของตน (ถืออดุ มคติเกินไป) อาจถกู เหยียบยํา่ ใส่ไคล้ ผูท้ รี่ ักพสกนิกร มักไดร้ ับความยงุ่ ยากใจ บรรดาจุดอันตรายท้งั ๕ น้ี เป็นปมดอ้ ยของผนู้ าทัพ เปน็ มหันตภัยของการทหาร ทพั จะล่ม ขุนพลจะถูกเขน่ ฆา่ ดว้ ยจุดอนั ตรายทงั้ ๕ นี้ ควรใชค้ วามพิเคราะหจ์ งหนกั ทเี ดียว

ปราชญซ์ ุนวกู ล่าวว่า อันการคุมทัพและพินจิ ความศึกนน้ั ถ้าเดินทัพขา้ มภเู ขา จักตอ้ งเดินตามหุบหว้ ยละหาน ถ้าอยใู่ นคมนาคมสะดวกตอ้ งตั้งทพั ในทีส่ งู ถ้าขา้ ศกึ ต้ังอยูใ่ นทส่ี งู ชนั ก็อยา่ ได้พยายามตีฝาุ ขนึ้ ไป นค้ี ือคุมทพั ในท่ีดอยแล ถ้าเดินทัพข้ามแม่น้ํา ตอ้ งรีบเร่งใหห้ ่างสายน้ํานั้นทันที ถา้ ฝุายข้าศึกขา้ มแม่น้าํ มา ก็อย่าได้เข้าปะทะกนั กลางน้ํา ต้องรอใหอ้ ยู่ในสะเทนิ น้ําสะเทินบก จงึ โหมกําลังตโี ดยฉบั พลัน (อน่งึ ) การยุทธน้ันอย่าไดเ้ รียงค่าย ตามฝ่๎งแม่น้ําคอยรบั ทัพศกึ พงึ ต้งั ทพั ลงบนทสี่ งู ซึ่งมีการคมนาคมสะดวก และ (ครารุกไล่) กอ็ ยา่ ไดอ้ ยใู่ นตาํ แหนง่ ทที่ วนนํา้ น้คี ือการคุมทพั ในลาํ น้าํ แล

ถ้าเดนิ ทัพในทล่ี ุ่มซ่ึงเปน็ เน้อื ดนิ เคม็ ตอ้ งเร่งรดุ ขา้ มไปโดยพลนั ถา้ เกดิ ปะทะกับขา้ ศกึ ในทีเ่ ช่นนี้ ต้องหนั หลงั เข้าอิงปาุ และต้องทอดคา่ ยตามที่ซ่งึ มีพืชนํา้ จืดอยู่ นค้ี อื การคุมทพั ในท่ีลมุ่ แล ถา้ อยใู่ นทีร่ าบ ต้องเลอื กชยั ภมู ิทอี่ าํ นวยความไดเ้ ปรียบ คอื ปกี ขวาอิงเนนิ สงู เบอื้ งหน้าเปน็ แดนตาย (เชน่ หว้ งน้าํ หรือหน้าผา ฯ,ฯ เพือ่ ข้าศึกยกเข้าตยี าก) เบอ้ื งหลังเป็นแดนเปน็ (คมนาคมสะดวก) นค้ี ือการคุมทพั ในที่ราบแล อนั ความไดเ้ ปรียบในการคมุ ทัพ ๔ ประการคือ (จอมกษตั รยิ ์สมยั ดึกดาํ บรรพ์ของจีน - ผแู้ ปล) ชํานะกษตั รยิ ์อน่ื ๆ ตลอดทง้ั ๔ ทิศแล อันการตง้ั ทพั ชอบท่ีจะอยทู่ ีส่ งู พงึ รงั เกยี จทต่ี ่ํา เหมาะที่หนั สทู่ ศิ โปรง่ (อาคเนย์) แตร่ ังเกยี จทิศทึบ (ทศิ พายัพ) ต้องต้งั อยู่ในที่ถูกสขุ ลักษณะมอี าหารของใช้อุดม เมือ่ รีพ้ ลปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแลว้

ยอ่ มกลา่ วได้ว่าจักตอ้ งมีชยั แนน่ อน ถ้าตั้งทัพตามสันเนินหรอื บนทํานบกั้นน้าํ ตอ้ งเลอื กอาคเนย์ และทอดปีกขวาอิงไว้ จะได้เปรยี บทง้ั ทางการยทุ ธและพ้นื ภมู แิ ล หากฝนเหนอื ตกชุกมีฟองนา้ํ ลอยฟุองมา (เปน็ สัญญาณวา่ นํา้ จะหลาก) เม่อื จะลุยข้ามห้วยนํ้านัน้ ควรรอใหร้ ะดับนา้ํ นนั้ แน่เสยี กอ่ น (มิฉะน้นั ขา้ มไปโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ เม่ือนาํ้ ทะลกั มาจนเช่ียวกราก อาจประสบหายนะ) อันภูมปิ ระเทศย่อมมีลักษณะต่าง ๆ กนั เช่น มีหบุ ห้วยอนั มหี นา้ ผาสงู ชัน ท่ลี ุ่มซ่งึ เหมอื นอยู่กน้ บ่อ ถนิ่ ท่มี ีปาุ เขาล้อมรอบ (ยากแก่การเขา้ ออก) รกชัฏเต็มไปดว้ ยขวากหนาม เหมอื นข่ายธรรมชาติ ที่หลม่ เต็มไปดว้ ยโคลนเลน และทางแคบซงึ่ มหี ุบเหวขนาบขนานอยู่ สถานทีเ่ ชน่ นี้ เมอ่ื ประสบพบเขา้ ตอ้ งรบี รดุ ออกหา่ งทันที อย่าไดก้ รายใกล้มันเลย (ถ้าเกดิ สัประยทุ ธ์ข้นึ ) เราต้องผละหา่ งจากมัน โดยต้องให้ข้าศึกเข้าประชดิ หรือใหม้ นั อยูเ่ บื้องหน้าเรา แต่ขวางอยูเ่ บือ้ งหลังข้าศึก ถ้ารมิ ทางเป็นทีว่ ิบาก หรือสระหนองหบุ หว้ ย หรอื พงอ้อกอแขม หรอื แนวปาุ หมู่ไม้

หรอื ท่ไี พรพฤกษร์ กทึบ ตอ้ งตรวจค้นอย่างระแวดระวัง เพราะสถานทีเ่ ชน่ นี้มักเปน็ ทซ่ี ุ่มทพั หรือที่ซ่อนตัวของกองสอดแนมฝุายข้าศกึ (เมอื่ สองทพั เขา้ ประชดิ กนั ) ฝาุ ยขา้ ศึกยังคงสงบเงียบ นน่ั หมายถึงเขาวางใจ ในความไดเ้ ปรียบแห่งชัยภูมิของเขา ถ้าทัพขา้ ศกึ มาท้ารบแต่ทางไกล เขาประสงคจ์ ะใหฝ้ าุ ยเรารุกไล่ตดิ ตามไป ถา้ ขา้ ศกึ ตัง้ ทัพในทงี่ า่ ยตอ่ การโจมตี น่ันเขาทอดเหย่ือลอ่ แล ถ้าเหน็ หมูไ่ ม้ไหวตน้ นัน่ แสดงว่าข้าศึกยกมาแลว้ ถา้ เห็นผกู หญ้าคาพรางไว้มากหลาย น่นั เขาประสงคจ์ ะให้เราเกดิ สนเทห่ ์ใจ ถ้าเห็นหมู่นกตกใจบนิ ถลาขนึ้ แสดงว่ามที หารซุม่ อยู่ ถ้าเหน็ เหล่าสัตว์แตกกระเจิดกระเจงิ แสดงวา่ มีกองจู่โจมซ่อนอยู่แล ถ้าเหน็ ฝนุ ตลบสูงเปน็ ลาํ แหลม แสดงว่ากองรถขา้ ศกึ วิง่ ตะลุยมา ถา้ ตํ่าและปรมิ ณฑลกวา้ ง เปน็ การเดนิ ทัพของพลราบ ถ้ากระจายเป็นหย่อม ๆ เปน็ ลํา ๆ แสดงว่าเป็นการเก็บผกั หกั ฟืนของกองเกียกกาย

ถ้าฝุนมเี พียงบาง ๆ เคล่ือนไหวไปมา แสดงวา่ ข้าศึกกําลังตัง้ คา่ ย (ถ้าข้าศึกส่งทูตมาติดตอ่ ) วาจาถอ่ มแต่เรง่ รุดในการเตรยี ม แสดงว่าจะมกี ารรกุ ถ้าพาทอี หงั การมีทว่ งทีประหนึง่ จะตะลุมบอนด้วย แสดงว่าจะถอนทพั ถา้ ขอสงบศึกดว้ ยวาจา มไิ ดม้ หี นังสือรบั รองเป็นกจิ จะลกั ษณะ แสดงว่าเปน็ กลศกึ ถ้าเห็นกองรถเบาของข้าศึกขบั แยกออกทางปีก แสดงวา่ กําลังแปรขบวนทัพ (ซง่ึ จะมกี ารสัประยุทธก์ ัน) ถ้าเหน็ ข้าศกึ ว่ิงทบไปมาและขยายกาํ ลัง แสดงว่า กําลังเตรยี มพร้อมในการรับมือ ถ้ามีท่าทีถอยแต่มใิ ช่ หมายความว่ามีเชงิ แสดงวา่ จะลอ่ ให้หลงกล ถ้าเหน็ ทหารข้าศึกยืนแซว่ โดยใช้อาวุธยันกาย แสดงว่าหวิ โหย ถ้าเห็นตักนํา้ แลว้ รีบดม่ื ก่อน แสดงวา่ กระหาย ถา้ ข้าศึกเห็นความไดเ้ ปรียบแต่ไมย่ กั รุกเอา แสดงวา่ เหน่อื ยลา้ อิดโรยแล้ว

ถา้ เหน็ หมู่วหิ ควกบินลงจับกลุ่ม แสดงว่าเปน็ ทีเ่ ปล่าปลอดคนแลว้ ถ้าไดย้ ินเสียงขา้ ศึกกู่ก้องรอ้ งขานในเพลาคํ่าคืน แสดงว่าข้าศึกมีความขลาดกลวั ถา้ สงั เกตว่าค่ายข้าศกึ มีความอลวนไม่เปน็ ระเบยี บ แสดงวา่ แมท่ ัพนายกองไม่เปน็ ทเ่ี ลือ่ มใสของเหล่าพล ถา้ เห็นธงทวิ เคลอ่ื นไหวไมเ่ ป็นระเบยี บ แสดงวา่ ระสํ่าระสาย ถา้ เหน็ จ่าทหารดาลเดอื ดดุดา่ แสดงว่าพลทหารเหน่อื ยอ่อน ถ้าข้าศกึ ฆา่ ม้ากนิ แสดงว่ากองทัพขาดแคลนเสบียงอาหาร ถ้าเทย่ี วแขวนภาชนะเครื่องหุงต้มทง้ิ ไว้โดยไม่กลบั ค่ายอีก แสดงวา่ ขา้ ศึกไดต้ กเป็นหมูโ่ จรอันจนตรอกแลว้ แมท่ พั นายกองพดู จากบั ผูอ้ ยใู่ ต้บังคับบญั ชาเช่ืองชา้ ซ้ําซาก ทงั้ กริ ิยาก็เซอ่ื ง ๆ ไม่มผี ง่ึ ผาย แสดงวา่ กองทัพนัน้ ขาดความสามคั คี ถา้ มกี ารปูนบําเหน็จรางวลั กนั ครัง้ แล้วครั้งเล่า แสดงว่าจนตอ่ การควบคุมบงั คับบญั ชา (จึงใช้วธิ ีนเ้ี หน่ยี วรัง้ นาํ้ ใจร้พี ล) ถา้ มีการทาํ โทษบอ่ ยคร้งั ตดิ กัน แสดงวา่ แมท่ พั นายกองยงุ่ ยากใจตอ่ การคุมพลปานใด ถ้าโหดเห้ยี มดรุ า้ ยในเบ้ืองต้น แตภ่ ายหลังกลับมีอาการหวาดระแวงในรพี้ ลของตนเอง นนั่ แสดงวา่ เป็นผู้นาํ ท่ีบรมเลวทีเดียว ถ้าข้าศกึ สง่ เครื่องบรรณาการมา แสดงวา่ ต้องการพักรบ

ถา้ ขา้ ศึกยกมาต้ังรบั อย่างฮกึ เหมิ แต่ต้งั อยู่นานวันโดยมยิ ุทธแยง้ ด้วย และกไ็ มย่ กไปเสีย ความศกึ เชน่ นีพ้ งึ พิเคราะหจ์ งหนกั แล อนั พลรบน้นั มิใช่สาํ คัญท่ีจํานวนมาก ถึงจะไมม่ ีการรุกพฆิ าตอันเกริกก้อง แต่รจู้ กั ชุมนุมกําลังเปน็ อย่างดี พเิ คราะหค์ วามศึกได้ถูกตอ้ งแมน่ ยาํ และเข้ารอนรานขา้ ศึกได้ กเ็ ปน็ เพยี งพอแลว้ มแี ตผ่ ูค้ ุมทพั ทไ่ี ร้ความคิดและหม่ินขา้ ศกึ เท่าน้นั ทีไ่ มแ่ คล้วตอ้ งตกเป็นเชลยแนน่ อน การลงโทษทณั ฑท์ หาร ทีย่ ังไมม่ ีความเชื่อถอื ในผู้บงั คับบัญชา ย่อมจะกอ่ ให้เกิดความกระด้างกระเดอ่ื ง เมื่อปรากฏความกระด้างกระเดื่องแลว้ ยอ่ มยากต่อการชว่ งใช้ ถ้าพลทหารมีความเชื่อถือดี แตผ่ บู้ งั คับบญั ญาไม่ทาโทษในเวลาพงึ มี (เหลา่ พลกจ็ ะกาเริบเสิบสาน) กองพลเชน่ นจ้ี ะใชใ้ นการสัประยทุ ธ์ไม่ได้ เพราะฉะน้ัน การบังคับบัญชาทัพ จงตงั้ อย่ใู นพรหมวิหารธรรม แต่ปรบั ใหเ้ ขา้ แถวแนวด้วยอาชญา นคี้ ือกองทัพพชิ ิตแล

ในเวลาปกติ คําส่งั ของมุขบรุ ุษ ได้รบั การปฏบิ ัติตามเปน็ อย่างดี เม่อื ฝกึ สอน (วิชาการทหาร) แก่เหลา่ พสกนกิ ร เขากจ็ ะเลื่อมใส หากคําสั่งของมขุ บรุ ุษ มไิ ดร้ บั การปฏบิ ัตอิ ยา่ งครบถว้ น เมอื่ ฝกึ สอน (วชิ าการทหาร) แก่เหล่าพสกนกิ ร เขายอ่ มไมเ่ ลอ่ื มใสเป็นธรรมดา ฉะนั้น การบงั คับบญั ชาซง่ึ ได้รับการปฏิบตั ิด้วยดนี นั้ แสดงว่ามขุ บรุ ษุ ได้รับความไวว้ างใจจากหมู่ชนแล้ว ปราชญซ์ ุนวกู ล่าววา่ ลกั ษณะพน้ื ภมู นิ ้ัน มที ี่สญั จรสะดวก มีที่แขวน มีท่ยี นั มีทีแ่ คบ มที ีค่ บั ขัน และมที ่คี ่นั ไกล

ถ้าเปน็ พน้ื ภมู ทิ เ่ี รายกไปได้ และขา้ ศึกกย็ กมาได้ เรียกวา่ ทส่ี ัญจรสะดวก ในทีส่ ญั จรสะดวก ฝาุ ยเราตอ้ งรีบยกเข้าต้งั ยังทสี่ ูงโปรง่ (หนั สูท่ ิศอาคเนย์) กอ่ น และต้องรักษาเสน้ ทางลําเลยี งอาหารให้ดี เม่อื เขา้ สัประยทุ ธ์ชงิ ชัยจกั ได้ชัยชนะ ถา้ เป็นพื้นภูมิทเ่ี ราไปได้แต่กลบั ยาก เรียกว่าที่แขวน (ลาดชัน) ในที่แขวน หากขา้ ศึกไมไ่ ดเ้ ตรยี มพรอ้ ม เราเขา้ โจมตจี กั ได้ชยั ชนะ ถา้ ข้าศกึ เตรยี มพรอ้ มอยแู่ ลว้ เม่ือเรายกเขา้ ตแี ล้วยังไม่สามารถชนะ จะยากต่อการถอยกลับ ไม่ดีแล ถา้ เปน็ พื้นภูมิทีเ่ ราไมไ่ ด้เตรียมยกออก ข้าศกึ ก็ตกอยใู่ นฐานะเช่นเดียวกัน เรียกวา่ ท่ยี นั ในทีย่ นั หากข้าศึกเปิดชอ่ งใหด้ ว้ ยกลลอ่ เราอย่าไดย้ กออกเลย จงถอยค่ายไปเสีย รอเม่อื ขา้ ศึกเคล่อื นทัพออก ติดตามได้ครึง่ หน่งึ จงึ เข้าโจมตี จกั ได้ชัยชนะ ในพ้ืนภมู ิที่แคบ เราเขา้ ตัง้ ม่ันก่อน ต้องชุมนมุ กาํ ลงั เพอ่ื คอยทัพศกึ

หากข้าศกึ เขา้ ตั้งเสยี ก่อนและมกี าํ ลังสมบรู ณ์ จงหลกี เลย่ี งการยุทธเสีย รอเมือ่ กําลงั ขา้ ศกึ พร่องแลว้ จงยกเขา้ โจมตีเทอญ ในพืน้ ภูมิที่คับขัน ถ้าเราเขา้ ต้ังอยกู่ ่อน จงต้งั ทัพยังท่สี งู โปร่ง (หันสูท่ ิศอาคเนย์) เพื่อคอยรบั ขา้ ศกึ หากข้าศึกเขา้ ตงั้ เสยี กอ่ น จงถอนค่ายมาเสยี อย่าได้เข้าชิงชยั เลย ในพนื้ ภูมทิ ค่ี นั่ ไกล และกาํ ลังท้ังสองฝุายตา่ งไลเ่ ลยี่ กัน ยอ่ มยากตอ่ การท้ารบ ถึงรบก็จะเสียเปรยี บ บรรดาพน้ื ภูมิทง้ั ๖ ประการดังกลา่ วนี้ เปน็ หลักแห่งภมู ิศาสตร์ ขนุ พลผ้แู บกภาระอนั ใหญ่หลวง ชอบท่ีพิเคราะหจ์ งดี เพราะฉะนั้น ในการศกึ น้ัน จงึ มีกองทัพที่มุ ทีห่ ย่อน ทีล่ ม่ ทท่ี ลาย ทร่ี ะสํา่ ระสาย และทีแ่ ตกพา่ ยปราชัย ทง้ั ๖ ประเภทนี้ มใิ ชเ่ ป็นเคราะห์กรรมธรรมชาตบิ นั ดาลใหเ้ ปน็ ไป หากเป็นความผิดของผู้นาํ ทพั เอง

อนั ว่ากําลงั ทงั้ สองฝุายไลเ่ ล่ียกนั กลบั เอากําลงั เพียง ๑ เขา้ ตี ๑๐ น้ีเรียกวา่ ทพั มุ เหล่าพลเข้มแขง็ แตจ่ ่าขนุ ออ่ นแอ น้ีเรยี กว่า ทัพหย่อน ถา้ จ่าขนุ ฮึกหา้ วแตเ่ หล่าพลอ่อนแอ น้ีเรียกวา่ ทัพลม่ แม่ทัพนายกองมเี หตุโกรธเคือง ไม่เลอ่ื มใสในตัวขุนพล เมอ่ื ปะทะข้าศกึ กอ็ อกรบ ดว้ ยความฉนุ เฉียวตามลําพงั โดยพลการ ท้ังขนุ พลกไ็ มท่ ราบความสามารถของเขา นี้เรยี กว่า ทพั ทลาย ขนุ พลออ่ นแอไม่เด็ดขาด วธิ ฝี ึกพลก็ไมก่ ระจา่ งแจง้ ทัง้ ยกั ยา้ ยสบั เปล่ยี นตาํ แหนง่ จา่ ขุนไม่หยดุ หย่อน ครน้ั เวลาแปรขบวนทัพกห็ นั รีหนั ขวาง นี้เรียกว่า ทพั ระสํา่ ระสาย ขุนพลไม่สามารถพนิ ิจความศึกได้ถกู ตอ้ ง จงึ ใชก้ ําลงั น้อยเขา้ ตีกาํ ลงั มาก เอาทหารออ่ นแอเขา้ ตจี ุดเขม้ แข็ง

ทัง้ ทัพหน้ากม็ ิไดค้ ัดเลือกพลรบท่ีชาญฉกรรจเ์ ขา้ ประจาํ น้ีเรียกวา่ ทัพพา่ ย บรรดาทัพทั้ง ๖ นี้ มีทางแหง่ ความปราชัย ขุนพลผแู้ บกภาระอนั ย่งิ ใหญ่ จงึ ควรพินิจจงดี อนั ลักษณะพ้ืนภมู ินั้น เป็นเพียงอุปกรณ์ชว่ ยเหลอื ในการศกึ เท่านั้น การพนิ ิจพิเคราะห์การศึก และหาหนทางไปสคู่ วามมชี ยั ตลอดจนการคาํ นวณความคับขันใกลไ้ กลเหลา่ น้ี จะเป็นคุณลกั ษณะโดยแทข้ องผู้เปน็ ขนุ พล รู้หลกั นี้และปฏิบตั ิต่อการยทุ ธ จงึ จะชนะ ถา้ ไม่รู้จกั เขา้ สัประยุทธ์ จักต้องพา่ ยแพ้แน่นอน ฉะนัน้ เม่ือพิเคราะห์ตามหลกั ยุทธศาสตรว์ ่าจักต้องชนะ แมม้ ขุ บรุ ษุ จะกลา่ วว่าอยา่ รบ กพ็ ึงรบเถิด ถา้ พิเคราะห์ผ่านหลกั ยุทธศาสตร์ เหน็ วา่ ไม่มีท่าทจี ะเอาชนะได้ แม้มุขบรุ ษุ จะบญั ชาใหร้ บ กอ็ ย่าไดร้ บเลย ฉะนน้ั ขุนพลผู้เข้ารับภารกจิ ทางทหาร

มิใช่ผู้ประสงคจ์ ะแสวงหาชอื่ เสียง และเม่ือยบั ย้ังถอนตัวกม็ ใิ ชด่ ้วยเกรงอาญาโทษทัณฑ์ เขามีเจตจานงแน่วแนแ่ ต่จะคุ้มครองเหลา่ พสกนิกร และอวยประโยชน์แก่ผู้เป็นนาย ขนุ พลเช่นว่านีค้ ือมิ่งขวญั ของประเทศชาตแิ ล ปฏบิ ตั ติ ่อร้พี ล ตอ้ งเยีย่ งมารดาถนอมลูกอ่อน จึงอาจนําทัพไปส่หู บุ ห้วงมหนั ตราย ถา้ ปฏิบัติเช่นบิดาทรี่ กั บตุ ร จึงกอดคอกันตายได้ หากวา่ ชุบเลย้ี งอย่างถึงขนาดแลว้ แต่ไมส่ ามารถช่วงใช้ได้ รักอยา่ งสุดใจ แตไ่ มอ่ ยใู่ นบงั คบั บญั ชา คราวทาผิดระเบยี บวนิ ยั กไ็ มอ่ าจลงโทษทัณฑก์ นั เหลา่ พลเช่นน้ีเปรียบเหมอื นบุตรท่ีกาเรบิ เสบิ สาน ใชท้ าศกึ ไมไ่ ด้เลย รู้กาํ ลงั ฝาุ ยตนพอเขา้ ตีได้ แต่ไมท่ ราบวา่ ขา้ ศกึ จกั ตไี ดห้ รือยังก็ดี หรือรวู้ ่าขา้ ศกึ อาจตเี อาได้ แตป่ ระมาณไมถ่ กู วา่ กําลังตน เพียงพอแล้วหรอื ไฉนกด็ ี หรอื แมจ้ ะรวู้ ่าขา้ ศึกพงึ ตเี อาได้ แต่มิรูว้ ่าลกั ษณะพ้นื ภูมิ ไมอ่ าํ นวยผลในการรบกด็ ี ทัง้ นี้ นบั วา่ ชนะเพยี งครึ่งเดยี วเท่าน้นั

ฉะน้ัน ผเู้ ช่ียวชาญการศกึ ปฏบิ ัตกิ ารอันใดยอ่ มไมผ่ ดิ พลาด ดาเนินการยุทธยอ่ มไมม่ ีทางอบั จน จึงกลา่ วไดว้ า่ ร้เู ขารูเ้ รา ชยั ชานะจกั ไม่พลาด หย่งั รูด้ ินฟา้ อากาศ ชัยชนะจักสมบรู ณ์แล ปราชญ์ซนุ วูกลา่ วว่า พ้ืนภมู ใิ นการทําศึกนัน้ มี อทุ ธจั จภูมิ๑ ลหภุ ูมิ๑ อกุ ฤษฏภ์ ูมิ๑ สัญจรภูมิ๑ มรรคภูมิ๑ ครุภมู ิ๑ ทรุ ภูมิ๑ บญั ชรภูมิ๑ มรณภมู ๑ิ

ข้าศกึ รุกเข้าโจมตใี นแดนเรา เรยี กวา่ เรียกว่าอทุ ธจั จภมู ิ กองทพั ฝาุ ยเราล่วงลาํ้ เข้าไป ในแดนข้าศกึ เพยี งผิวเผนิ นั้นเรียกว่า ลหภุ ูมิ พืน้ ทีซ่ งึ่ ฝาุ ยใดยึดได้ ย่อมอวยผลทางยุทธการ เรียกวา่ อุกฤษฏภ์ ูมิ พนื้ ท่ีซึ่งฝุายใดก็ไปมาได้โดยสะดวก เรยี กวา่ สญั จรภูมิ ประเทศราชใดมีเขตแดนต่อเนือ่ งหลายประเทศ ผูใ้ ดถึงกอ่ นยอ่ มไดร้ ับความสนับสนุนจากชนทัว่ ไป เรียกว่า มรรคภูมิ พื้นที่ซึง่ ฝาุ ยเรารุกลกึ เขา้ ไป เบือ้ งหลงั เราได้ผ่านดา่ นตั้งขวางมากหลาย เรยี กวา่ ครุภมู ิ

ในแดนโขดเขาลําเนาไม้ หรอื ที่วิบาก หรอื ห้วยหนองคลองบงึ บาง และวถิ ีทางอันยากแกก่ ารสัญจรทวั่ ไป เรยี กวา่ ทุรภมู ิ ปากทางท่ีจะเขา้ นั้นแคบ คราวถอยตอ้ งอ้อมวกเป็นระยะทางไกล พน้ื ท่เี ชน่ นี้ขา้ ศึกยอ่ มใชก้ าํ ลงั สว่ นนอ้ ย โจมตีกําลงั ส่วนใหญ่ของเราได้ เรียกวา่ บญั ชรภูมิ ในพื้นทที่ ตี่ ้องรบพงุ่ อย่างอุตลุดรวดเร็วจ่งึ จะพน้ ภยั มิฉะนน้ั จะตอ้ งถึงแกล่ ่มทพั เรียกวา่ มรณภูมิ เพราะฉะนนั้ จ่งึ หลกี เลี่ยงในอทุ ธัจจภมู ิ แต่รุกตะลยุ ไปในลหุภมู อิ ย่าหยุดยง้ั จงอย่าวู่วามเข้าตอี กุ ฤษฏ์ภมู ิ และอยา่ ไดส้ ะกดั ก้ันขา้ ศกึ ในสัญจรภูมิ พึงผกู ไมตรีกับประเทศซ่ึงเปน็ มรรคภมู ิ และเมื่อตกอยใู่ นครภุ มู แิ ล้ว พึงกวาดเกบ็ เสบียงอาหาร (เพือ่ เลย้ี งกองทัพ)

ในทรุ ภมู ิ จงรีบเดินทัพผา่ นไป หากตกอยู่ในบัญชรภมู ิ กต็ ้องคดิ แกไ้ ขหกั ออกดว้ ยกลอุบาย ถ้าอยใู่ นมรณภมู ิจงรีบรบเพอ่ื เอาตวั รอด อนั ผใู้ ดได้ชอ่ื วา่ เชยี่ วชาญศกึ ในบรรพกาล ทา่ นยอ่ มสามารถทําให้ ทัพหน้าทัพหลงั ของข้าศึกขาดจากกนั กองใหญ่กองย่อยต่างไมค่ ิดพึ่งพิงกัน นายไพร่ไมม่ จี ติ ชว่ ยเหลอื กนั ผ้ใู หญผ่ ู้นอ้ ยไม่ถ้อยทีออมชอมกนั เหลา่ พลแตกแยกมเิ ปน็ สํา่ แมจ้ ะชุมนุมพลไวพ้ รกั พร้อม กข็ าดความสามคั คี ท่านย่อมปฏบิ ตั กิ ารเมอื่ เห็นผล และระงับเม่ือเห็นผลยงั ไมอ่ านวย หากต้งั ปจุ ฉาวา่ \"เมื่อขา้ ศกึ พรกั พร้อม ไหลหลง่ั ถะถั่นมา ควรปฏบิ ัตดิ งั ฤา?\" เฉลยวา่ \"ควรชว่ งชิงจดุ สาํ คญั ซ่งึ ขา้ ศกึ ประสงค์เสียก่อน\" น้ีจะทาํ ใหข้ า้ ศกึ จําต้อง คล้อยตามยุทธกระบวนของเรา

อนั การศึกนัน้ สําคญั ท่ฉี ับไว จึ่งเอาความไมป่ ระมาทของเรา เข้าจู่โจมจุดท่ขี ้าศึกขาดความระวงั อันกองทพั ตเี ข้าไปในแดนข้าศึก ย่งิ รกุ ลึกเขา้ ไป เหล่าพลก็ยิ่งเด็ดเดยี่ วขนึ้ แต่ฝุายรบั จะอลวนคุมกันไม่ติด (เพราะถูกรงั ควาญถงึ ถิ่นตน) ฝุายรกุ เม่ือเก็บกวาดเสบียงอาหาร ในแดนสมบรู ณไ์ ด้แล้ว จงเลย้ี งดูทวยหาญใหอ้ ิ่มหมพี ีมัน อย่าใชต้ รากตราํ งานหนัก ออมกําลงั และบาํ รุงขวัญไว้จงดี คราวจะใช้กาํ ลงั ทหารหรอื กะการณใ์ ด ๆ พึงเป็นไปอยา่ งลึกลาํ้ คาดไม่ถึง (เม่ือฉะน้ี) จะตอ้ นพลเข้าส่ทู ีอ่ ับจน แมต้ ายกไ็ มแ่ พ้ เมื่อความตายยังไมอ่ าจเอาชนะได้ รพี้ ลจึงนบั ไดว้ ่าอทุ ศิ กําลงั งานอยา่ งเตม็ ท่ี อันวิสยั ของเหลา่ พลนั้น เมอ่ื ตกอย่ใู นทลี่ ้อมความกลัวกห็ มดไป ถ้าเข้าทค่ี ับขันก็รวมกนั อย่างแน่นแฟนู เมอ่ื รกุ ลกึ เข้าไปก็จะสมัครสมานร่วมมือกัน และยอมรบอยา่ งเด็ดเดย่ี วเมอื่ ถึงคราวจาํ เปน็ ด้วยเหตุน้ี เหลา่ พล (ของฝุายทรี่ กุ ลึกเข้าไปในแดนของขา้ ศกึ )

ไม่ต้องกระต้นุ เตือนก็จักระมัดระวังตัวไม่ประมาท เช่อื ฟ๎งคําสง่ั โดยไมต่ ้องเรียกรอ้ ง รกั ชิดสนิทชอบโดยไมต่ อ้ งมีส่ิงรัดรึง ซอื่ ตรงต่อหนา้ ทข่ี องตนโดยไม่ตอ้ งพรํา่ สง่ั จงขจัดป๎ดเปาุ เสียซึง่ ความเชอ่ื ถอื ในโชคลางและคาํ เล่าอ้าง เหล่าพลจะรบจนสุดใจไมเ่ ปล่ียนแปรเลย อันเหลา่ พลของเราไม่เก็บออมทรัพย์สนิ จะด้วยเกลยี ดการมีทรัพยก์ ็หาไม่ เหล่าพลยอมมอบกายถวายชีวติ จะดว้ ยเกลยี ดการมชี ีวติ ยืนยาวนานก็หาไม่ (แต่ทส่ี ละเสยี ได้ก็เพราะความเดด็ เดยี่ วม่นั คงนัน่ เอง) ในวนั ท่ผี ูบ้ ัญชาการสั่งทพั เหล่าพลท่นี ัง่ ไดน้ ํ้าตาจะช่มุ เส้อื สว่ นผทู้ ี่ลม้ หมอนนอนเสอื่ นาํ้ ตาจะนองหน้า (ดว้ ยเสียใจตนเองที่บาดเจ็บหรือปุวยไข้ ไม่สามารถไปรบศกึ กับเขาได้) (เหลา่ ทหารเช่นว่าน้ี) หากใช้ไปปฏิบตั ิงานในที่คบั ขันปานใด เขากแ็ สดงความกล้าหาญชาญชยั เยยี่ งจวนจู (๑*) และเฉากุ้ย (๒**)ใหป้ ระจักษ์เปน็ แมน่ มนั่

เพราะฉะน้ัน การนาํ ทพั ของผชู้ ํานาญการศึก จงึ เปรียบเชน่ ไสวห้ ยาน ไสวห้ ยานคอื อสรพิษแหง่ หบุ เขาฉางซาน เมอ่ื ถูกตีด้านหัว หางจะตวัดถึงทันที ถา้ ถูกตีทางหาง หัวจะแวง้ กดั โดยฉับพลัน ถ้าถกู ตีกลางตัว หัวและหางจะตลบถึงทงั้ สองขา้ ง ถา้ ตั้งปุจฉาวา่ \"กองทพั ก็อาจทําให้เหมอื น ไสวห้ ยานแหละหรอื ?\" ตอบว่า \"ทาํ ได้\" อนั ชาวหวูกับชาวเยยี ะเปน็ อรกิ นั แตข่ ณะทรี่ ่วมสําเภาและประสบมรสมุ เขาจักช่วยเหลือซ่งึ กันและกนั ดังหน่ึงแขนซา้ ยและแขนขวาทีเดยี ว ดว้ ยเหตนุ ี้ การทผ่ี กู ม้ารบติดกัน ให้รวมกลมุ่ ฝ๎งล้อรถลงดินไว้ (อปุ มาการตะลอ่ มผูกรัดเหล่าทหาร ใหอ้ ยใู่ นระเบยี บวินยั มนั่ คง) จึงเปน็ ส่งิ ท่หี วงั อะไรไมไ่ ด้เลย จาํ เปน็ ตอ้ งใหเ้ หล่าพล มคี วามกลา้ หาญสม่าํ เสมอกนั นเี้ ปน็ หลกั ของการนําทพั รู้จักสมคลอ้ ย ถือประโยชน์จากสภาพลมุ่ ดอนแหง่ พ้ืนที่ นเ้ี ปน็ ทฤษฎีทางภมู ศิ าสตร์ เพราะฉะนน้ั การนําทัพของผ้เู ช่ยี วชาญการศึก อปุ มาดงั่ จงู คน ๆ เดียวให้ปฏบิ ัติงานไดน้ ั้น เนอ่ื งจากเข้าใจบม่ กอ่ ความจําเป็นให้เกดิ ขน้ึ น่นั เอง

คุณสมบัติของผู้บัญชาการทพั คือ ความเยอื กเย็นสขุ มุ และความเทีย่ งธรรมมีระเบยี บ สามารถพรางหูตาของเหล่าพล ไมใ่ ห้รูอ้ ะไรเลย (ในด้านปฏบิ ัตติ อ่ ขา้ ศกึ ) รจู้ กั ยักย้ายวธิ ดี าํ เนนิ การ และเปลยี่ นแปลงยทุ โธบาย เพื่อให้ขา้ ศึกตกอย่ใู นความมดื มน หรอื แปลงที่ตงั้ อ้อมวกวถิ ที างเดิน เพ่ือมิให้ข้าศกึ คาดหมายได้ การนาํ ทพั สสู่ มรภมู ิดังท่กี าํ หนดไว้ เปรยี บเหมอื นไตเ่ ต้าไปส่ทู ีส่ งู แลว้ ชักบนั ไดออกเสีย นําทพั ลึกเขา้ แดนข้าศกึ เปรียบเสมือนน้าวหนา้ ไม้แล้วลนั่ ไก (ท้ังนท้ี ั้งนนั้ ) อุปมาเหมือนด่งั ตอ้ นฝงู แพะ จะขับไลใ่ หไ้ ปหรือจะชกั พาใหม้ า เหล่าแพะย่อมไม่ร้กู ลความเลย)

การชุมนุมพลมหาศาล คุมเข้าส่แู ดนมหนั ตราย (ซึ่งเปน็ เหตุให้เหล่าพลรว่ มใจกนั ) เป็นศลิ ปะของผบู้ ญั ชาทพั ความพิเคราะหถ์ งึ ความเปลย่ี นแปรแห่งนวภมู ิ รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ในคณุ หรอื โทษของการหยดุ ย้ัง ตั้งรับ หรอื เคลอ่ื นไหว รกุ ไล่ ตลอดจนจิตวิสยั ของมนษุ ย์ เปน็ สิง่ ทคี่ วรพเิ คราะห์จงหนักแล หลักการคุมทัพเขา้ ชงิ ชัยในแดนขา้ ศึก ถา้ รุกลกึ เขา้ ไป ขวัญทัพย่อมแน่วแนเ่ ด็ดเดี่ยว ถ้ากลา้ํ กรายเพียงชายแดน จติ ใจยอ่ มไม่สาํ รวมดี รบพงุ่ ถึงถนิ่ แดนทีห่ ่างไกลจากประเทศของตน โดยต้องข้ามประเทศเขตขัณฑเ์ ข้าไปน้ัน เรียกว่า อรันถภูมิ แผน่ ดินถน่ิ ท่ีถงึ ไหนถงึ ได้ เรยี กว่า มรรคภูมิ ทรี่ กุ ลึกเขา้ ไป เรียกวา่ ครุ ภุ ูมิ ทีก่ ล้าํ กรายเพยี งชายแดนคือ ลหภุ ูมิ ดา้ นหลงั ยันทสี่ ูง ดา้ นหนา้ เป็นทางแคบ เรียกวา่ บญั ชรภมู ิ ที่จนตรอกไรท้ างออก เรยี กว่า มรณภูมิ ดว้ ยเหตุน้ี เม่ือกองทัพอยู่ในอธุ ัจจภมู ิ ต้องเขม็งจิตใจรี้พลใหเ้ ปน็ อนั หนง่ึ อนั เดียวกัน เมื่ออย่ใู นลหุภูมิ ต้องใหส้ มคั รสมานคมุ กนั ตามลาํ ดับ ในอกุ ฤษฏภ์ ูมิ ตอ้ งตีโอบเข้าทางด้านหลงั ในสัญจรภูมิ ตอ้ งรักษาไว้โดยไมป่ ระมาท ในมรรคภมู ิตอ้ งเพิ่มพนู สมั พนั ธภาพกบั ประเทศนั้น ๆ ในครภุ มู ติ ้องอาศยั เสบยี งอาหารจากขา้ ศึก ในทรุ ภมู ติ อ้ งรีบรุดออกเสยี ในบญั ชรภูมิ ต้องปดิ ช่องโหวซ่ ่ึงขา้ ศกึ เปดิ ล่อไว้

ในมรณภูมติ อ้ งปลุกใจรี้พลใหถ้ อื ว่าเปน็ เรือนเป็นเรอื นตาย (เพอื่ ใหร้ บพุ่งเตม็ ความสามารถจะไดห้ ักฝุาออกไปได้) เพราะว่าวิสยั ของทหาร เมื่อถกู ลอ้ มกจ็ ะโต้ เมือ่ จําเปน็ กจ็ ะสู้ ครน้ั มีเหตุคบั ขนั กจ็ ะปฏิบัตมิ น่ั ตามคาํ ส่ังของผู้เป็นนาย ฉะน้ัน ถ้าไม่ร้เู จตจาํ นง ของเหลา่ เจ้าครองนคร เราก็ผูกมติ รดว้ ยไมไ่ ด้ ไม่รจู้ กั ลักษณะภเู ขา ลาํ เนาไม้ แดนวิบาก ตลอดจน หว้ ยหนองคลองบงึ บาง จะยาตราไม่ได้ ไม่ใช้ชาวพน้ื เมืองนําทาง จะไมไ่ ดเ้ ปรียบจากพนื้ ภมู ปิ ระเทศ เงือ่ นงําไดเ้ สยี แหง่ นวภมู ิ หากไม่รู้แจ้งแม้เพียง ๑ จะเรยี กว่า กองทพั ผูพ้ ชิ ิตไมไ่ ดเ้ ลย อนั กองทพั ของผู้พชิ ิตนัน้ เมอ่ื เขา้ โจมตีประเทศใหญ่

ประเทศนั้นแมจ้ ะมีรพี้ ลมากมายกร็ วมกนั ไม่ตดิ แสนยานุภาพซึง่ เข้าบดบังข้าศกึ จะทําใหแ้ มป้ ระเทศทม่ี ีพันธะกับศัตรูอยู่ ก็ต้องละลา้ ละลังเอาใจออกหากเสยี ดว้ ยเหตุนี้ ไมพ่ ึงกระตือรอื รน้ ชงิ ผูกมติ รท่ัวหล้า ซึ่งยังผลให้ประเทศทเ่ี ราผูกมิตรดว้ ย พลอยก่อหวอดเพม่ิ พนู อทิ ธบิ าทยิ่งใหญ่ จงเชอ่ื ม่นั ในกาํ ลงั ของตน ถงึ คราวใชแ้ สนยานุภาพเขา้ ทําศึก ก็จกั ถอนเมืองและลม่ ประเทศแห่งอริราชได้ (ยามฉุกเฉนิ ) จงปูนบําเหนจ็ รางวัลแกเ่ หลา่ พล ทท่ี ําความดีความชอบอย่างถงึ ใจ และตั้งกฎเขม้ งวดเกินอาชญาธรรมดา เพ่ือลงโทษผปู้ ระพฤติผิด จงคุมแสนยากรให้ไดด้ ง่ั ชว่ งใชค้ น ๆ เดยี ว จงบญั ชาให้เหล่าพลปฏิบตั กิ าร (โดยเครง่ ครัด) อยา่ ไดแ้ จงเหตุผล

จงชีใ้ ห้เหน็ คณุ ประโยชนข์ องงาน อยา่ ได้เกรนิ่ กลา่ วถึงดา้ นทอี่ าจเปน็ โทษ (วสิ ยั ของพลรบนั้น) ตกอยู่ในทจี่ นมุม กจ็ ะดิน้ รนเพ่ือหาทางรอด ตกอยใู่ นแดนตายกจ็ ะขวนขวายเพ่ือสวสั ดภิ าพ ดงั นน้ั เม่ือกองทพั ตกอยใู่ นท่ีคับขัน จงึ อาจกลบั แพเ้ ป็นชนะได้ เพราะฉะนั้น ในการทําศึกจงึ สําคัญทีส่ มคลอ้ ย ไปตามรูปรอยทีข่ า้ ศกึ มงุ่ หมายไว้ ครน้ั ไดท้ กี ร็ วมกาํ ลัง พุ่งเขา้ ทลายยังจดุ เดยี ว ไลร่ ุกบกุ ตะลุยเข่นฆา่ แม่ทัพข้าศึก แมใ้ นหนทางยาวพนั หล่ี ผชู้ ํานาญการศกึ ยอ่ มมี ประสิทธภิ าพในการทาํ ศกึ เชน่ นแ้ี ล ด้วยเหตนุ ี้ ในวันประกาศสงคราม ตอ้ งสั่งปดิ พรมแดนและงดใชห้ นงั สือเดินทาง เพือ่ ตดั ขาดการติดตอ่ ในทางทูต และเขม้ งวดกวดขนั ในงานบรหิ ารปกครองภายในประเทศ เพ่ือใหเ้ กดิ ประสทิ ธิภาพจริงจงั

ข้าศกึ หลวมตวั เปดิ ช่องให้เมื่อใด ก็รบี รุดบกุ เข้าทนั ที จงจโู่ จมเข้ายดึ จุดสาํ คญั ไวก้ ่อน แล้วกะการอย่างเงียบเชียบมดิ เม้น คลุกคลตี รี บข้าศึกตามแผนการรบเพื่อเผดจ็ ศึก เพราะฉะน้นั หะแรกดปู ระหนึง่ สาวพรหมจารี (ซึง่ มีความสงบเสงย่ี มและเชอ่ื งช้าเอียงอาย) ครัน้ แล้วกจ็ ะเปน็ เชน่ กระต่ายทรี่ อดข่ายแร้ว หาทันทขี่ า้ ศกึ จะปดิ จะปูองไม่ * ในสมยั ชนุ ชิว หวูกวาง มคี วามประสงคจ์ ะสังหารเจ้าครองนครหวู ซึง่ มีนามวา่ เหลยี วจง่ึ ในโอกาสงานกนิ เลี้ยง คร้งั หนึ่ง ใหจ้ วนจเู อามีดส้ันซ่อนไวใ้ นตวั ปลาและปลอมแปลงเปน็ คนนาํ เขา้ ถวาย ครน้ั ประชิดตดิ ตัวกจ็ โู่ จม เจา้ เหลี่ ยวถงึ แกค่ วามตาย แตใ่ นวาระเดียวกัน จวนจูก็ต้องตายด้วยนํ้ามือทหารองครักษ์ของเจา้ เหลยี วเชน่ เดียวกนั เรื่องน้ี ง้วิ แสดงเสมอ เรียกวา่ \"หนา้ ดาํ ถวายปลา\" ** ในสมยั ดังกลา่ วของข้างต้น ยงั มีกระทาชายคนหนงึ่ ชือ่ เฉากยุ้ เปน็ ชาวหลู่ มีกาํ ลังผดิ มนุษยธ์ รรมดา จงึ ไดร้ ับ การแต่งต้งั จากจวงกงใหน้ ําทัพไปรบกับประเทศฉี แต่ตอ้ งปราชยั ถึงสามครง้ั ตดิ ๆ กัน เปน็ ผลใหจ้ วงกงต้องยอมยก ดินแดนสว่ นหนึ่งให้ประเทศฉีเพอ่ื ขอสงบศึก แตใ่ นโอกาสท่ีจวงกงและเจา้ ครองนครฉพี บปะเพือ่ ลงนามสัญญานั้น เฉากุ้ยก็แสดงความห้าวหาญโดยปรากฏตัวทปี่ ระชมุ พร้อมมดี สั้น และบังคับให้เจ้าครองนครฉคี ืนดินแดนแกจ่ วงกง เป็นผลสาํ เร็จ

ปราชญซ์ ุนวกู ลา่ ววา่ อันการพิฆาตดว้ ยเพลิงนั้นมี ๕ กลา่ วคอื ๑. คลอกพลเมืองของขา้ ศึก ๒. เผาผลาญบรรดาเสบยี งอาหารของขา้ ศึก ๓. ทําลายกองลาํ เลยี ง ๔. กวาดล้างคลงั ยทุ โธปกรณ์ ๕. พิฆาตรพ้ี ลศัตรู แต่การใช้เพลงิ ตอ้ งมีกรณีแวดลอ้ มเหมาะสม และเครื่องอุปกรณ์เช้ือเพลิงจะต้องเตรยี มไว้พร้อม ยอ่ มมกี าํ หนดเวลาในการวางเพลงิ และวันจะใช้เพลิงก็ควรต้องตามฤดูกาลดว้ ย เวลาวางเพลิงตอ้ งคอยวันเวลาทีอ่ ากาศแห้งแลง้ สว่ นฤดูทีจ่ ะใช้เพลงิ ต้องรอ เมื่อพระจนั ทรโ์ คจรระหวา่ งกล่มุ ดาว จีปเ้ี จิน่ อี้ (คลิกที่นี่ ดูคําอธบิ าย - ผู้แปล) (เพราะเหตวุ ่า) เม่อื พระจนั ทร์เสวยฤกษด์ าวทั้งส่ีนี้ เป็นวันทลี่ มพัดจัดแล

อนั การพฆิ าตด้วยเพลิงนน้ั ยงั ต้องใช้กําลังทหารสนองสําทับ ตามประเภทการใชเ้ พลิงทัง้ ๕ อกี ด้วย กลา่ วคือ เมื่อเกิดเพลิงภายในคา่ ยขา้ ศกึ พงึ ตซี ้าํ จากภายนอก หากเกิดเพลงิ ขน้ึ แล้ว แตข่ ้าศึกยังเงียบเชยี บอยู่ จงคอยที อย่าเพง่ิ วูว่ ามเขา้ ตี เม่อื เพลิงไหม้ลกุ ลามจนสุดขดี เห็นวา่ ควรซาํ้ เตมิ ได้ กจ็ งึ่ ลงมือทันที ถา้ เหน็ วา่ ยงั มใิ ชโ่ อกาสก็พงึ ระงบั เสยี ในกรณีที่ก่อเพลิงภายนอกไดส้ ะดวก กไ็ ม่จําเปน็ ตอ้ งรอใหเ้ กิดจากภายใน ควรกาํ หนดวันเวลาจดั การเสยี ทเี ดียว ในขณะทไ่ี ฟลุกไหม้ทางเหนือลม จงอย่าเข้าตีทางด้านใตล้ ม

ลมในเวลากลางวันพัดนาน แตล่ มในเวลาคา่ํ คืนสงบ การศึกน้นั พึงรกู้ ารเปลี่ยนแปร อนั เนือ่ งแต่ประเภทการใชเ้ พลิงท้งั ๕ และระมดั ระวังตนเองตามหลักคาํ นวณพยากรณ์ เพราะฉะนั้น ผทู้ ใี่ ชเ้ พลงิ ประกอบการโจมตี จงึ สมั ฤทธิ์ผลแนช่ ดั ส่วนวธิ ปี ล่อยน้ําเขา้ ชว่ ยทาํ ลาย เพียงแตเ่ พม่ิ พนู กําลงั ให้ยิ่งใหญ่ ดว้ ยว่าน้าํ นั้นตดั ทางคมนาคมของขา้ ศกึ ได้ แต่ไมอ่ าจบดขยข้ี ้าศกึ ให้แหลกลาญไป อนั การศึกนน้ั มาตรวา่ จะได้ชยั ชนะในบ้ันปลายก็ตาม แต่ถา้ มิสามารถย่นระยะเวลาการรบ โดยเผด็จศกึ เร็วพลนั ยอ่ มเปน็ โทษมหนั ต์ จึงขอให้ช่ือวา่ 'เฟยุ หลิว' (การกระทําซึง่ พล่าเสยี ซึ่งทรพั ยส์ มบตั ิ และชีวติ มนษุ ย์แตม่ ิไดร้ ับผลเป็นแกน่ สารเลย) ดว้ ยเหตนุ จี้ ึงกลา่ ววา่ ราชาผู้ทรงธรรมพึงใคร่ครวญ ผลไดผ้ ลเสียในการทาสงครามจงหนกั และขนุ พลทด่ี ยี อ่ มเผด็จศึกไดใ้ นเรว็ วนั เมอ่ื ไม่อาํ นวยประโยชน์ ไมพ่ งึ เคลอ่ื นทัพ เมือ่ มิสามารถเอาชนะ ไม่พงึ ใช้กาํ ลงั ทหาร

เมือ่ มอิ ยใู่ นสถานะล่อแหลมอนั ตราย ไมพ่ งึ ทาํ สงคราม ประมขุ แห่งประเทศ จงอย่าก่อสงครามเพราะความโกรธแค้น และขนุ พลจงอยา่ รุกรบดว้ ยความขึ้งเคียด จงลงมอื ปฏิบัติการต่อเมอ่ื เห็นผลประโยชนแ์ ลว้ และพงึ ระงบั เสียเม่ือเหน็ ทีจะเสียผล อนั ความโกรธแคน้ นั้นอาจกลบั เปน็ ความยินดี ถึงความข้ึงเคียดกอ็ าจจะกลายเป็นความหรรษาไดเ้ ช่นเดียวกนั แตป่ ระเทศทีล่ ม่ แล้วจะหวังธารงอยอู่ ีก ผู้ทีเ่ สยี ชวี ติ ไปแล้ว จะชุบใหก้ ลบั ฟ้นื คืนชพี นน้ั หาไดไ้ ม่ เพราะฉะนนั้ ราชาผู้ทรงธรรม จงึ ระมดั ระวังต่อการทําศกึ อยา่ งย่งิ ยวด และขนุ พลท่ดี ีก็ยอ่ มจะสงั วรณไ์ มบ่ ่มุ บา่ ม น้ีคอื วถิ ธี ํารงประเทศให้สถาพร และรักษากาํ ลงั ทพั ใหส้ มบูรณ์คงไวแ้ ล

ปราชญซ์ นุ วูกลา่ วว่า การยกพลหนึง่ แสน เพอ่ื ทาํ การรณรงคส์ งครามในแดนไกลนบั พนั หล่ี เงนิ ทองซงึ่ ประชากรต้องสง่ เสยี เป็นสว่ ยสาอากร และทั้งคา่ ใชจ้ า่ ยในราชการงานทหาร วันหน่งึ นับต้งั พนั ตาํ ลงึ ทอง ซ้ําจะทําให้เกิดความอลวนทั่ว ทงั้ ส่วนกลางและภูมภิ าค ผู้คนซงึ่ จาํ ต้องต้องละงานประจาํ มาสมบกุ สมบนั อยู่ตามถนนหนทาง กับงานลาํ เลยี งขนสง่ และอน่ื ๆ นนั้ นับเจ็ดแสนครัวเรือนทีเดยี ว ครั้นตอ้ งมารบติดพนั อยู่หลายปี เพ่ือชิงชัยชนะในวนั หนึง่ ถ้ามวั แต่หวงแหนเนยี วแน่นการใชจ้ า่ ยเงนิ หลวง โดยไมช่ ว่ งใชจ้ ารชน ซ่ึงเปน็ เหตใุ ห้ไมส่ ามารถล่วงรู้ ความในของข้าศึกเสยี เลยนน้ั นับวา่ ขาดการุณยธรรม ต่อไพร่ฟ้าประชากรอยา่ งย่งิ อนั มิใช่วสิ ยั ขุนพล มิใช่ผูแ้ บง่ เบาภารกจิ ของทา่ นประมุข มิใชร่ าชาผู้พิชติ โลก

ราชาผู้ทรงธรรมและขุนพลผู้หลกั แหลม เมื่อถึงคราวทาํ ศกึ ก็จักชํานะ ทั้งได้รบั ผลสําเรจ็ เปน็ เย่ียมกวา่ บุคคลอ่นื น้นั กเ็ นอ่ื งจากสืบรู้ความในของขา้ ศึกกอ่ นนัน่ เอง การทจี่ ะล่วงรู้ถึงความในของขา้ ศึกนนั้ จงอยา่ ถอื เอาจากภูติพรายหรือเทพดาอารักษ์ อย่าคาดคะเนจากปรากฏการณ์ หรอื ลางเหตุเพยี งผิวเผิน อย่าพสิ ูจน์จากมุมฉากโคจรแหง่ วถิ ีดาวเดือน จาํ เป็นตอ้ งรจู้ ากบุคคล จงึ จะนบั วา่ รู้ความในของขา้ ศึกอยา่ งแทจ้ ริง ดังนัน้ การใช้จารชนจึงมี ๕ ประเภท กล่าวคอื จารชนชาวพนื้ เมอื ง จารชนไส้ศกึ จารชนซอ้ น จารชนฝาุ ความตาย และจารชนผกู้ ลบั เปน็ ผ้ชู ่วงใช้จารชนท้งั ๕ พร้อมกนั ตามรูปการณ์ ซึ่งทําให้ข้าศกึ มดื แปดด้าน ไม่รคู้ วามแยบยลของเราอันดจุ ปาฏหิ ารยิ ์ของเทพเจา้ จงึ นับได้วา่ เป็นบรุ ษุ แกว้ แห่งพสกนกิ ร และประมุขของชาติทีเดียว

จารชนชาวพื้นเมืองนั้น หมายความวา่ การช่วงใช้บคุ คลซ่งึ เป็นชาวพนื้ เมอื งของข้าศกึ จารชนไส้ศึกนั้น หมายความวา่ การใชเ้ สนาอํามาตย์ราชพฤฒาจารยข์ องขา้ ศึก จารชนซอ้ นนัน้ หมายความว่า ซ้อนกลข้าศกึ โดยกลับใช้จารชนของขา้ ศึกเอง จารชนฝุาความตายนน้ั คือ ฝุายเราประโคมขา่ วเท็จภายนอก แล้วใหจ้ ารชนของเรา ทราบความไปแจ้งแกข่ ้าศกึ (ซ่งึ มกั จะต้องพลชี พี เพอ่ื ใหบ้ รรลจุ ุดหมาย) จารชนผูก้ ลับเปน็ นน้ั คอื จารชนทไ่ี ปบาํ เพญ็ กรณียกจิ ถึงแดนขา้ ศกึ และสามารถกลบั มารายงานขา่ ว ยงั ประเทศของตนเอง เพราะฉะน้นั ในวงการทหาร ผทู้ ี่สนิทชดิ เชือ้ ทีส่ ุด ผู้ที่ควรปนู บําเหน็จรางวลั งามท่ีสดุ และผู้ทส่ี งวนความลับอยา่ งมดิ ชดิ เรน้ ลบั ทสี่ ุด

จะไม่มีผูใ้ ดเกินกว่าจารชนไปอีก จ่ึงหากมิใชผ่ ้ทู ่ที รงสตปิ ญ๎ ญาปราดเปรื่องย่งิ ไม่อาจใช้จารชน มใิ ชผ่ ูท้ ่เี ปย่ี มไปดว้ ยเมตตาการุณยธรรม ไมอ่ าจบัญชาจารชน และหากมใิ ชผ่ ทู้ ีล่ ะเอียดสุขมุ คัมภรี ภาพประดจุ มีญานวเิ ศษ จกั ไม่อาจถงึ ซึง่ สารัตถประโยชน์ในจารกรรมได้ มนั ชา่ งแยบยลพิลึกพลิ อื หนอ ซงึ่ ไมม่ อี ะไรจะพสิ ดารยิ่งไปกว่า การใช้จารชนอกี แลว้ ในกรณีท่ียงั มิทนั ลงมือประกอบจารกรรม แต่ความก็แพร่งพรายเสยี กอ่ น จารบุรษุ พรอ้ มท้ังผ้รู บั บอกกล่าว ใหล้ งทณั ฑ์ถึงตายทงั้ ส้นิ บรรดากองทพั ซง่ึ ประสงค์ จะตเี มืองด่านอันกําหนดจะทลาย และบคุ คลซ่งึ ม่งุ หมายจะสังหารเสีย เราจําเป็นต้องใหจ้ ารชน สืบนามนายทหารผรู้ ักษาเมอื ง บรรดาบริวารนายทหารคนสนทิ ซง่ึ ทาํ หนา้ ที่ตอ้ นรบั แขก ทหารองครักษ์และคนรับใช้อ่นื ๆ

ทัง้ ต้องสบื ทราบจารชนซง่ึ ขา้ ศกึ ใช้ มาประกอบจารกรรมในประเทศเรา แลว้ จงลอ่ ด้วยอามสิ ประโยชน์ เกล้ยี กล่อมให้เอาใจออกหากจากศตั รู เพอื่ จะไดใ้ ช้เปน็ จารชนซ้อนในภายหลัง ถ้าหากรู้ความจรงิ จากจารชนซอ้ นน้ีไซร้ ก็สามารถช่วงใช้ จารชนชาวพื้นเมือง หรอื จารชนไสศ้ ึกได้ สว่ นจราชนฝาุ ความตาย ก็จะไดอ้ าศัยเปน็ ปจ๎ จัยนาํ ความเท็จ ไปแจง้ แกข่ ้าศึกตามช่องทางทแ่ี นะ ทั้งเรายงั สามารถกําหนดเวลา ให้จารชนผู้กลับเป็น ไดแ้ จ้งรหสั แก่เราตามโอกาส จารกรรมท้ัง ๕ ประเภทดังกล่าว จอมทัพย่อมต้องทราบดี และจะทราบได้จากจารชนซ้อน ด้วยเหตนุ ้ี การตดิ สินบนตอ้ งให้ถึงขนาดแล ในเบ้อื งโบราณกาล ราชวงศ์ \"อนิ \" รงุ่ เรืองขึ้นได้ กโ็ ดยอจิ อ้ื เคยรบั ราชการ

ในแผ่นดิน 'เสย้ี ' มาก่อน (ภายหลังมาเป็นเสนาธกิ ารแหง่ ซาง ทางกษัตริยร์ าชวงศ์ 'อิน' จึง ไดล้ ้มแผ่นดนิ 'เอย้ี ' สําเรจ็ - ผแู้ ปล) ครั้งราชวงศ์ 'โจว สืบแทน ราชวงศ์ 'อิน' โดยรุ่งโรจนส์ ืบมา ก็โดยอาศยั หลูห่ ยา เคยรบั ราชการในแผน่ ดนิ 'อนิ ' มากอ่ นดุจกนั เพราะฉะนนั้ ราชาผทู้ รงธรรม และขนุ พลผ้หู ลักแหลม สามารถใชผ้ ู้ทรงปญ๎ ญาชนเลิศ ทาํ หน้าที่จารกรรม ยอ่ มสมั ฤทธิผลยงิ่ ใหญ่ นเี้ ปน็ หลกั สําคญั ของการทาํ ศกึ ดว้ ยเหตวุ า่ กองทัพได้อาศยั รหสั นั้น ๆ เป็นแนวทางในการทําศกึ แล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook