คำ� น�ำ ตามทสี่ �ำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำ� หนดให้มกี ารพฒั นา หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พ.ศ. 2562 เพื่อให้สอดคล้องกบั การปฏิรูปการศึกษาตาม แผนพฒั นา เศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และพระราชบญั ญตั กิ าร อาชีวศึกษา จงึ จำ� เป็ นอย่างยงิ่ ทผ่ี ู้เขยี นในสายวชิ าชีพจะต้องได้รับการพฒั นาให้สอดคล้องกบั มาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะของแต่ละ สาขาอาชีพตามความต้องการของตลาด แรงงานและความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รองรับการเข้าสู่ ประชาคมอาเซียน ท้งั ด้านความรู้ ทกั ษะ และคุณธรรมจริยธรรมทเี่ หมาะสมกบั การปฏบิ ตั งิ าน การอยู่ร่วมกนั ในสังคม และบูรณาการ กบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง คณะผู้จดั ทำ� จงึ ได้ดำ� เนินการจดั ทำ� หนังสือเรียนวชิ า คณติ ศาสตร์พืน้ ฐานอาชีพขนึ้ ซึ่งมเี นื้อหา ตรงตามจุดประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ าและท้า อธิบายรายวชิ า และมแี ผนการจดั การเรียนทบ่ี ูรณาการ ทกั ษะกระบวนการคดิ และวธิ ีการสอนอย่าง หลากหลายทเี่ ป็ นการปฏิบัตจิ ริง โดยจดั ทำ� ในรูปของหน่วยการเรียน น�ำเสนอเนื้อหาสาระทเี่ หมาะ สมกบั ผู้เรียน สอดแทรกสาระน่ารู้ อาเซียนน่ารู้ คำ� ถามชวนคดิ คำ� ศัพท์ทคี่ วรรู้ เวบ็ ไกด์ กจิ กรรม พฒั นาการเรียนรู้ แบบฝึ กหัดตามลำ� ดบั การเรียนรู้ และเกม ทุกหน่วยการเรียน คณะผู้จดั ทำ� ขอขอบคุณผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษาทุกท่านทไ่ี ว้วางใจใช้ หนังสือของส�ำ นักพมิ พ์ฯ ด้วยดแี หมอมา และหวงั เป็ นอย่างยงิ่ ว่าหนังสือเรียนชุดนีจ้ ะมสี ่วนช่วยในการพฒั นา การ จดั การเรียนการสอนของสถานศึกษาเพ่ือพฒั นาผู้เรียนไปสู่การเป็ นบุคคลทม่ี คี ุณภาพและมคี วามรู้ ตรงตาม มาตรฐาน ท้งั ในระดบั ชุมชน ระดบั ท้องถนิ่ และระดบั ชาตติ ่อไป
สารบญั หนว่ ยที่ 1 .สถติควิ ามหมายของสถติ ิ . ข้อมูลสถติ ิ . การเกบ็ รวบรวมข้อมูล . การน�ำเสนอข้อมูล . แบบทดสอบหลงั เรียน . เฉลยแบบทดสอบ บรรณานุกรม
หน่วยท่ี1 สถติ ิ สถติ ิ ความหมาย ขอ้ มูลสถติ ิ ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ ข้อมูลเชิงคุณภาพ ขอ้ มลปฐมภมู ิ ข้อมลู ทุตยิ ภูมิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล รายงาน สำ�รวจ ทดลอง สังเกต การน�ำเสนอขอ้ มูล เป็นแบบแผน ตาราง แผนภมู ิ กราฟ ไมเ่ ป็นแบบแผน บทความ บทความกงึ่ ตาราง
1.ความหมายของสถติ ิ (Meaning of Statistics) สถติ ิ อาจมีความหมายได้ 2 ประการ คือ 1. สถติ ิ หมายถึง ตวั เลขท่ีแสดงขอ้ เทจ็ จริงอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง เช่น คะแนนสอบวชิ าคณิตศาสตร์ของ นกั เรียน หอ้ งหน่ึง ค่าใชจ้ ่ายในแต่ละเดือนของครอบครัว จำ� นวนนกั เรียนที่มีความสูงเกิน 160 เซนติเมตร เป็นตน้ 2. สถติ ิ หมายถึง ศาสตร์ท่ีเป็นท้งั วทิ ยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ ซ่ึงเรียกวา่ ระเบียบวธิ ีการทางสถิติ ประกอบ ดว้ ย การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล (Collection of Data) การนำ� เสนอขอ้ มูล (Presentation of Data) การวเิ คราะห์ขอ้ มูล (Analysis of Data) และการตีความหมายขอ้ มูล (Interpretation of Data) 2.ข้อมูลสถติ ิ (Statistical Data) ข้อมูลสถติ ิ หมายถึง ขอ้ เทจ็ จริงท่ีอาจเป็นตวั เลขหรือไม่ใช่ตวั เลข ซ่ึงเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองใดเร่ืองหน่ึงที่ ตอ้ งการ ศึกษา และขอ้ เทจ็ จริงดงั กล่าวน้นั จะตอ้ งมีจำ� นวนมากพอสำ� หรับแสดงถึงลกั ษณะของสิ่งน้นั เพื่อท่ีจะนำ� ไปใชใ้ น การเปรียบเทียบและตีความหมายได้ เช่น ผลการวดั ส่วนสูงของนกั เรียนกลุ่มหน่ึง ขอ้ มูลแสดงปริมาณ การ จำ� หน่ายสินคา้ ในแต่ละปี ของบริษทั แห่งหน่ึง ขอ้ มูลแสดงปริมาณสินคา้ การนำ� เขา้ และส่งออกของไทย เป็นตน้ ชนิดของขอ้ มูล อาจจำ� แนกไดเ้ ป็น 2 ประเภท ดงั น้ี 1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) เป็นขอ้ มูลท่ีแสดงขอ้ เทจ็ จริงเกี่ยวกบั ปริมาณท่ีสามารถ วดั ไดเ้ ป็น ตวั เลข เช่น น้ำ� หนกั ความสูง อายุ รายได้ คะแนนสอบ ค่าใชจ้ ่าย จำ� นวนผลผลิต เป็นตน้ 2. ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) เป็นขอ้ มูลที่แสดงถึงคุณลกั ษณะ สมบตั ิ สภาพ สถานะ อาจจะเป็น ตวั เลขหรือขอ้ ความ เช่น สถิติประชากรจำ� แนกตามเพศ สถิติคนไขจ้ ำ� แนกตามชนิดของโรค สถิติของ พนกั งาน ในบริษทั จำ� แนกตามสถานภาพการสมรส ขนาดของรองเทา้ หมายเลขโทรศพั ท์ เป็นตน้ นอกจากน้ี ขอ้ มูลบางชนิดอาจจำ� แนกตามแหล่งท่ีเกิดของขอ้ มูล ดงั น้ี 1. ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นขอ้ มูลซ่ึงเกบ็ รวบรวมไดจ้ ากแหล่งท่ีเกิดของขอ้ มูลน้นั ๆ โดยตรง เช่น การศึกษาเกี่ยวกบั ระยะทางท่ีนกั เรียนของวทิ ยาลยั แห่งหน่ึงใชส้ ำ� หรับเดินทางจากบา้ นไปวทิ ยาลยั แหล่งท่ี จะให้ ขอ้ มูลดงั กล่าวคือ นกั เรียนของวทิ ยาลยั แห่งน้นั และขอ้ มูลที่เกบ็ รวบรวมไดจ้ ากนกั เรียนเหล่าน้นั เรียกวา่ ขอ้ มูล ปฐมภูมิ เป็นตน้ 2. ข้อมูลทุตยิ ภูมิ (Secondary Data) เป็นขอ้ มูลท่ีเกบ็ รวบรวมไดจ้ ากแหล่งขอ้ มูลท่ีไดร้ วบรวม 45 ขอ้ มูลเหล่า น้นั ไวแ้ ลว้ เช่น การศึกษาเกี่ยวกบั ราคาสินคา้ ในแต่ละเดือนของ พ.ศ. 2561 แหล่งท่ีจะให้ ขอ้ มูลน้ี ไดแ้ ก่ กรมการ คา้ ภายใน ซ่ึงเป็นผเู้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลน้ีไวก้ ่อนแลว้ ดงั น้นั ขอ้ มูลที่ไดม้ าจาก กรมการคา้ ภายในดงั กล่าวน้ีเรียกวา่ ขอ้ มูลทุติยภูมิ เป็นตน้ 3.การเกบ็ รวบรวมข้อมูล (Collection of Data) การเกบ็ รวบรวมข้อมูล หมายถึง กระบวนการเพือ่ จะใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีตอ้ งการศึกษาภายใตข้ อบข่ายที่กำ� หนด ใน การศึกษาเก่ียวกบั ขอ้ มูลเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงน้นั กลุ่มของขอ้ มูลท้งั หมดท่ีอยใู่ นขอบข่ายที่ตอ้ งการ จะศึกษา ซ่ึงอาจ ไดแ้ ก่ คน สตั ว์ ส่ิงของ หรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ เรียกวา่ ประชากร (Population) ส่วน คำ� ที่แสดงลกั ษณะหรือ สมบตั ิของประชากรเรียกวา่ ค่าพารามิเตอร์ (Parameter) ในกรณีที่ไม่สามารถเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากประชากรท้งั หมดท่ีตอ้ งการได้ อาจเนื่องจากประชากรมี จำ� นวน มาก ทำ� ใหต้ อ้ งใชเ้ งิน เวลา และกำ� ลงั คนเป็นจำ� นวนมากเพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ มูลน้นั มา จึงไม่สะดวกในการเกบ็ รวบรวม ขอ้ มูลดงั กล่าว ดงั น้นั จึงอาจเกบ็ รวบรวมจากบางส่วนของขอ้ มูลท้งั หมดมาทำ� การศึกษาแทน ขอ้ มูลที่ ไดม้ าซ่ึง เป็นขอ้ มูลส่วนหน่ึงของประชากรท่ีถูกเลือกมาใชเ้ พ่อื เป็นตวั แทนในการศึกษาประชากรท้งั หมดน้ีเรียกวา่ กลุ่ม ตวั อยา่ ง (Sample) ส่วนค่าที่แสดงลกั ษณะหรือสมบตั ิของกลุ่มตวั อยา่ งเรียกวา่ ค่าสถิติ (Statistic)
วธิ ีเกบ็ รวบรวมข้อมูล โดยทว่ั ไปน้นั อาจจำ� แนกออกไดเ้ ป็น 4 วธิ ี คือ 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากทะเบียนประวตั หิ รือรายงาน เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งที่มี ขอ้ มูล เหล่าน้นั อยแู่ ลว้ เช่น ขอ้ มูลเกี่ยวกบั รายละเอียดของนกั เรียนสามารถเกบ็ ไดจ้ ากงานทะเบียน ทางวทิ ยาลยั ใต้ บนั ทึกไว้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั อุบตั ิเหตุในทอ้ งที่แห่งหน่ึงสามารถเกบ็ ไดจ้ ากสถานีตำ� รวจในทอ้ งท่ีน้นั ๆ ขอ้ มูลของ พนกั งานบริษทั แห่งหน่ึงสามารถเกบ็ ไดจ้ ากฝ่ ายบุคลากรของบริษทั ซ่ึงไดร้ วบรวมขอ้ มูลเหล่าน้ีไว้ เป็นตน้ 3.2 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากการส�ำรวจ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยวธิ ีน้ี ผสู้ ำ� รวจจะตอ้ งเตรียมแบบสำ� รวจ ไว้ ล่วงหนา้ และวธิ ีสำ� รวจที่จะใหไ้ ดข้ อ้ มูลตามแบบสำ� รวจท่ี ตอ้ งการน้นั อาจทาํ ได้ 2 วธิ ี คือ 1.การสัมภาษณ์ 2.การส่ งแบบสอบถาม 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากการทดลอง เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากผลการทดลอง ซ่ึงไดแ้ ก่ การทดลอง ทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ การทดลองทางดา้ นการเกษตร การทดลองทางดา้ นการแพทย์ 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยวธิ ีสังเกต เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยผทู้ ำ� การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลตอ้ ง ทำ� การจดบนั ทึกขอ้ มูลที่ไดพ้ บเห็นจากการสงั เกต เช่น การจดบนั ทึกจำ� นวนรถจกั รยานยนตท์ ่ีผา่ น ณ จุดจุดหน่ึง ในช่วงเวลาท่ีตอ้ งการ การจดบนั ทึกจำ� นวนคนที่ขา้ มถนนโดยใชส้ ะพานลอย เป็นตน้ 4.การน�ำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) การน�ำเสนอข้อมูล เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลที่รวบรวมไดม้ าจดั แสดงใหบ้ ุคคลที่สนใจไดท้ ราบ โดย ทวั่ ไป ขอ้ มูลที่เกบ็ รวบรวมมาไดน้ ้นั มกั จะไม่เป็นระเบียบ และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ตอ้ งการทราบมกั ปรากฏไม่ ชดั เจน ทำ� ใหไ้ ม่สามารถมองเห็นขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ เปรียบเทียบต่าง ๆ ที่ตอ้ งการทราบได้ จึงจำ� เป็นจะตอ้ งมี การนำ� เสนอ ขอ้ มูลดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ เพือ่ ใหผ้ อู้ ่านไดเ้ ห็นขอ้ เทจ็ จริงท่ีตอ้ งการทราบไดอ้ ยา่ งชดั เจน สะดวก รวดเร็ว ท้งั ยงั สามารถนำ� ขอ้ มูลไปใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นต่าง ๆ ไดโ้ ดยง่าย วธิ ีการนำ� เสนอขอ้ มูลน้นั แบ่งเป็น 2 วธิ ีใหญ่ ๆ ซ่ึง ไดแ้ ก่ การนำ� เสนอขอ้ มูลอยา่ งไม่เป็นแบบแผน และการนำ� เสนอขอ้ มูลอยา่ งเป็นแบบแผน 4.1 การน�ำเสนอข้อมูลอย่างไม่เป็ นแบบแผน (Informal Presentation) เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลที่ ในระเบียบและรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ตอ้ งมีกฎเกณฑแ์ ละแบบแผนแต่อยา่ งใด วธิ ีที่นิยมใชม้ ี 2 วธิ ี ดงั ต่อไปน้ี 4.1.1 การน�ำเสนอข้อมูลในรูปบทความ เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลท่ีตอ้ งการเสนอมาอธิบาย หรือ สรุปใหไ้ ดร้ ายละเอียดเก่ียวกบั ขอ้ มูลน้นั ๆ ตวั อยา่ ง บริษทั ไทยรับประกนั ภยั ต่อ จำ� กดั เป็นบริษทั ท่ีประกอบธุรกิจรับประกนั ภยั ต่อท้งั ทางดา้ น การประกนั ชีวติ และการประกนั วนิ าศภยั ผลการดำ� เนินงานในรอบปี 2561 บริษทั ขาดทุนจากการรับประกนั ภยั ต่อจำ� นวน 10 ลา้ นบาท ลดลงจากปี ก่อน 35 ลา้ นบาท หรือลดลงร้อยละ 20 นอกจากน้ี บริษทั ยงั มีรายได้ จากการ ลงทุนและรายไดอ้ ื่น ๆ จำ� นวน 112 ลา้ นบาท หกั ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจำ� นวน 32 ลา้ นบาท ทำ� ให้ บริษทั มีกำ� ไร สุทธิจำ� นวน 71 ลา้ นบาท กำ� ไรสุทธิในปี น้ีเพ่มิ ข้ึนจากปี ก่อนจำ� นวน 11 ลา้ นบาท หรือเพิม่ ข้ึน ร้อยละ 18.33 4.1.2 การน�ำเสนอข้อมูลในรูปบทความกงึ่ ตาราง เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลที่ตอ้ งการเสนอมาแยก ขอ้ ความและตวั เลข เพื่อใหเ้ ห็นการเปรียบเทียบไดช้ ดั เจนข้ึน การประกนั สงั คม ประเภทกองทุน กรณีเจบ็ ป่ วยฉุกเฉิน จำ� เป็นจะตอ้ งเขา้ รักษาสถานพยาบาลอื่น ก่อน และใหผ้ ปู้ ระกนั ตนจ่ายเงินค่ารักษาไปก่อน แลว้ นำ� ใบเสร็จรับเงินไปเบิกกบั สำ� นกั งานประกนั สงั คมภายหลงั ในอตั ราดงั น้ี ผปู้ ่ วยนอก ไม่เกิน200 บาท/คร้ัง ไม่เกิน400 บาท/ปี ผปู้ ่ วยใน ไม่เกิน1,600 บาท/คร้ัง ไม่เกิน3,200 บาท/ปี ผปู้ ่ วยในและผา่ ตดั ใหญ่ ไม่เกิน0,000 บาท/คร้ัง
4.2 การน�ำเสนอข้อมูลอย่างเป็ นแบบแผน (Formal Presentation) เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลท่ีมี 47 การกำ� หนดระเบียบกฎเกณฑต์ ่าง ๆ วธิ ีที่นิยมใชม้ ี 6 วธิ ี ดงั ต่อไปน้ี 4.2.1 การน�ำเสนอข้อมูลในรูปตาราง เป็นการนำ� ขอ้ มูลมาจดั ใหอ้ ยใู่ นรูปตามแนวนอน หรือ เรียกวา่ แถว (Row) และตามแนวต้งั หรือเรียกวา่ สดมภ์ (Column) ท้งั น้ีเพื่อใหเ้ ห็นขอ้ มูลไดช้ ดั เจน สะดวก ในการอ่าน การ วเิ คราะห์ และยงั ช่วยใหส้ ามารถเปรียบเทียบขอ้ มูลไดอ้ ีกดว้ ย ตวั อย่างตาราง จำ� นวนจงั หวดั ภาค เนื้อท(่ี ตร.กม.) เหนือ 9 93,388.72 กลาง 22 91,582.25 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ 20 168,805.50 ตะวนั ออก 7 34,376.45 ตะวนั ตก 5 53,695.76 ใต้ 14 59,968.68 รวม 77 501,817.37 4.2.2 การน�ำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมแิ ท่ง เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลโดยใชร้ ูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก รูป สี่เหลี่ยมมุมฉากแต่ละรูปจะมีดา้ นกวา้ งเท่ากนั ทุกรูป ส่วนดา้ นยาวของแต่ละรูปข้ึนอยกู่ บั ปริมาณของขอ้ มูล รูป ส่ีเหล่ียมมุมฉากแต่ละรูปอาจเรียงไวต้ ามแนวต้งั หรือแนวนอนกไ็ ด้ โดยเวน้ ระยะใหห้ ่างเท่ากนั พองาม ซ่ึงนิยม เรียกรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉากน้ีวา่ แท่ง การระบายสีหรือแรเงา หรือทำ� เคร่ืองหมายแต่ละแท่งจะทำ� ใหด้ ูสวยงาม และ เห็นขอ้ มูลไดช้ ดั เจนข้ึน การเขียนตวั เลขแสดงขอ้ มูลที่แทจ้ ริงกำ� กบั ไวบ้ นยอดหรือตอนปลายของแต่ละแท่ง จะ ทำ� ใหส้ ามารถอ่านปริมาณของขอ้ มูลไดถ้ ูกตอ้ ง แน่นอน แผนภูมิแท่งอาจแบ่งออกไดเ้ ป็นประเภทต่าง ๆ ดงั น้ี 1) แผนภูมแิ ท่งเชิงเดยี ว (Simple Bar Chart) เป็นแผนภูมิแท่งท่ีแสดงถึงการเปรียบเทียบขอ้ มูล ที่สนใจเพียงชนิด เดียว เช่น
2) แผนภูมแิ ท่งเชิงซ้อน (Multiple Bar Chart) เป็นแผนภูมิแท่งท่ีแสดงการเปรียบเทียบใหเ้ ห็น ถึงลกั ษณะของ ขอ้ มูลต้งั แต่ 2 ชุดข้ึนไป เช่น 3) แผนภูมแิ ท่งส่วนประกอบ (Component Bar Chart) เป็นแผนภูมิแท่งที่ใชแ้ สดงรายละเอียดส่วนยอ่ ยของ ขอ้ มูลท่ีจะนำ� เสนอ เช่น
4) แผนภูมแิ ท่งบวก-ลบ (Plus-minus Bar Chart) เป็นแผนภูมิแท่งท่ีใชเ้ ปรียบเทียบขอ้ มูลที่มี ท้งั ค่าบวกและลบ เช่น 5) แผนภูมแิ ท่งซ้อนกนั (Overlapping Bar Chart) เป็นแผนภูมิแท่งที่แสดงการเปรียบเทียบ ของขอ้ มูลต้งั แต่ 2 ชุดข้ึนไป ในลกั ษณะที่ซอ้ นกนั เพ่อื ประหยดั เน้ือท่ีในการนำ� เสนอ เช่น
4.2.3 การน�ำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมริ ูปวงกลม (Pie Chart) เป็นแผนภูมิท่ีแสดงอยใู่ นลกั ษณะ รูป วงกลม โดยเริ่มจากการคำ� นวณขอ้ มูลแต่ละชนิดที่ตอ้ งการนำ� เสนอใหอ้ ยใู่ นรูปร้อยละ หลงั จากน้นั กจ็ ะแบ่ง รูป วงกลม โดยเริ่มจากแบ่งมุมท่ีจุดศูนยก์ ลางของวงกลมออกเป็นส่วน ๆ ตามอตั ราส่วนของขอ้ มูลท่ีจะนำ� เสนอ 4.2.4 การน�ำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนภูมริ ูปภาพ (Pictogram) เป็นแผนภูมิที่ใชร้ ูปภาพ แทนขอ้ มูลซ่ึงตอ้ งการนำ� เสนอ
4.2.5 การน�ำเสนอข้อมูลโดยใช้แผนทสี่ ถติ ิ (Statistical Map) เป็นการนำ� เสนอขอ้ มูลโดยอาศยั หลกั การทาง ภูมิศาสตร์ ซ่ึงจะช่วยใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะ การเปรียบเทียบขอ้ มูลไดช้ ดั เจนข้ึน รวมท้งั แสดงใหเ้ ห็น ถึงความสมั พนั ธ์ ของขอ้ มูลกบั สถานที่ เช่น 4.2.6 กราฟเส้น (Graph) เป็นกราฟที่เปรียบเทียบค่าของตวั เลขด้วยจุดต่าง ๆ เป็นขอ้ มูลของชว่ งเวลา หลาย ๆ ชว่ ง การน�ำเสนอข้อมลู โดยใช้กราฟเสน้ น้ที �ำให้เหน็ ค่าความแตกต่างของแต่ละขอ้ มลู ได้ชดั เจน
แบบทดสอบหลงั เรียน 1.ขอ้ มลู ในขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ ไมเ่ ปน็ ข้อมลู สถิติ ก.ปริมาณขา่้ วสง่ ออกรายเดือน ข.ตัวเลขแสดงการเปลย่ี นแปลงราคาสินค้าในแต่ละปี ค.จ�ำนวนอาชญากรรม แต่ละจงั หวดั ในรอบหลายปี ง.ผลผลิตเฉลี่ยต่อไรข่ ้าวโพดเลย้ี งสตั วใ์ นปีเพราะปลูก 2560/2561 จ.คะแนนสอบกลางภาคเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ของมนัส 2. ขอ้ ใดเปน็ ข้อมูลเชิงคุณภาพ ก.ขนาดเสื้อ ข.อายุ ค.น�ำ้ หนัก ง.ส่วนสงู จ.รายได้ 3. ผูจ้ ดั การฝ่ายบุคคลของ บริษทั แห่งหน่ึงตอ้ งการทราบว่านักเรียนของวทิ ยาลัยแหง่ หนึ่งท่ีจบระดับปวช. ปี การศกึ ษา 2561 และยงั ไม่มงี านท่าแยกตามกลุ่มวิชามกี ่คี นเขาจึงไปติดตอ่ ขอขอ้ มลู จากโดยวิธีใดหัวหนา้ งาน ผู้น้ีเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยวธิ ใี ด ก.การสังเกตุ ข.การทดลอง ค.การสัมภาษณ์ ง.การส่งแบบสอบถาม จ.การคดั ลอกจากทะเบียนประวตั หิ รอื รายงาน 4. การน่งั จดบนั ทึกจำ� นวนลกู ค้าท่เี ขา้ มาชมงานนิทรรศการแห่งหน่งึ เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยวิธใี ด ก.การสำ� รวจ ข.การทดลอง ค.การสงั เกตุ ง.การลงทะเบยี น จ.การคัดลอกจากทะเบียนลูกคา้
5. มานพตอ้ งการศกึ ษาเปรยี บเทียบผลผลติ ของผักบุ้งที่ปลกู ในดินธรรมดากบั ดินวทิ ยาศาสตรเ์ ขาจึงปลูกผกั บงุ้ ในดนิ 2ประเภทดงั กล่าวแสดงว่ามานพเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวธิ ีใด ก.การสำ� รวจ ข.การทดลอง ค.การสังเกตุ ง.การลงทะเบยี น จ.ถกู ทุกข้อ 6. ป่ายซึ่งแสดงรายการและราคาอาหารตามร้านอาหารทัว่ ไปเป็นเรอ่ื งเกยี่ วกับข้อใด ก.การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ข.การนำ� เสนอข้อมูล ค.การวิเคาระห์ข้อมูล ง.การตคิ วามหมายขอ้ มลู จ.ถกู ทุกข้อ 7. ในการจดั สรรงบประมาณสำ� หรับการจัดใหม้ ีนำ้� สะอาดใช้ในชนบทของต�ำบลหนึง่ ปรากฏว่าตำ� บลไดร้ ับงบ ประมาณในการจดั ให้มนี ำ�้ สะอาดใชโ้ ดยแบง่ เป็นประเภทต่าง ๆ ดังนี้สรา้ งบอ่ นำ้� ตืน้ จํานวนสร้างถงั คอนกรีต จำ� นวนสร้างและซ่อมแซมสระหนองบงึ จาํ นวนรวมทั้งสิ้น สร้างหนองบอ่ น้�ำตืน่ จ�ำนวน 16,500 บาท สรา้ งถังคอนกรีดจำ� นวน 9,500 บาท สร้างและซอ่ มแซมสระหนอง บึง จ�ำนวน 24,000 บาท รวมทงั้ สนิ 50,000 บาท การนำ� เสนอข้อมูลดังกล่าว เปน็ การนำ� เสนอวิธใี ด ก.บทความ ข.บความกง่ึ ตาราง ค.ตาราง ง.แผนภมู แิ ทง่ จ.แผนภมู ริ ูปวงกลม 8. ในการน�ำเสนอขอ้ มลู แบบตารางน้ันตารางบางตารางอาจไม่มีองค์ประกอบในขอ้ ใดกไ็ ด้ ก.ชอื่ เรอื่ ง ข.ตนั ข่ัว ค.หวั เร่อื ง ง.ตัวเรื่อง จ.หมายเหตุล่าง
9. ตารางแสดงปรมิ าณสารคอเลสเตอรอลในอาหารชนดิ ตา่ ง ๆ ชนดิ ละ 100 กรมั ดงั นี้ ชอื่ อาหาร ปรมิ าณสารคอเลสเตอรอล ไขป่ ลา 300 ไขแ่ ดง 1,500 ตบั หมู 280 เนย 250 น้�ำมันหมู 95 ตับววั 320 ถา้ มีการน�ำเสนอขอ้ มลู สถติ ิในตารางดังกล่าวเสยี ใหม่โดยใช้แผนภมู ิควรใช้แบบในข้อใดจึงจะเหมาะสมที่สดุ ก.แผนภูมแิ ท่งเชงิ เดยี ว ข.แผนภมู แิ ท่งชิงช้อน ค.แผนภูมิแทง่ ส่วนประกอบ ง.แผนภมู แิ ทง่ ซอ้ นกลับ จ.แผนภูมิแทง่ บวก-ลบ 10. แผนภูมิรูปภาพมลี ักษณะเดน่ ทสี่ ุดในข้อใด ก. แสดงการเปรยี บเทยี บข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดข้นึ ไป ข. แสดงรายละเอียดส่วนย่อยของขอ้ มลู ค. เปรียบเทียบขอ้ มูลทม่ี ที ัง้ ค่าบวกและลบ ง. ช่วยให้เหน็ ภาพรวมของขอ้ มูลไดร้ วดเรว็ จ. นำ� เสนอขอ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ข.ตวั เลขแสดงการเปล่ยี นแปลงราคาสนิ ค้าในแต่ละปี 2. จ.รายได้ 3. จ.การคัดลอกจากทะเบยี นประวตั ิหรอื รายงาน 4. ก.การส�ำรวจ 5. ข.การทดลอง 6. ข.การน�ำเสนอขอ้ มลู 7. ค.ตาราง 8. ง.ตัวเรอื่ ง 9. ก.แผนภมู ิแทง่ เชงิ เดยี ว 10. ข.แสดงรายละเอยี ดส่วนย่อยของขอ้ มูล
บรรณานุกรม ก่ิงพร ทองใบ และคณะ คณิตศาสตรแ์ ละสถิติ หนว่ ยที่ 9-15. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 6. นนทบุรี : มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิ ราช, 2535. คณาจารย์สาขาคณติ ศาสตรแ์ ละสถิต,ิ คณิตศาสตร์ท่ัวไประดบั มหาวิทยาลยั , กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลัย ธรรมศาสตร,์ 2530 ไพรตั น์ วงษน์ าม และคณะ, คณิตศาสตร์ ค.015-016. กรงุ เทพฯ : ส�ำนกั พิมพป์ ระสานมิตร, ม.ป.ป. มนสั ประสงค์ คณิตศาสตรช์ า่ ง 1-2. กรุงเทพฯ : สำ� นักพมิ พ์ศูนย์ส่งเสริมวชิ าการ2545. มนัส ประสงค์, รศ.ดร. คณติ ศาสตร์พน้ื ฐานอาชพี , กรุงเทพฯ จติ รวฒั น์, 2562 วินัย ธรรมศลิ ป,์ คณติ ศาสตรช์ า่ ง, กรงุ เทพฯ : ส�ำนักพิมพ์ศูนย์สง่ เสรมิ วชิ าการ, ม.ปป. สมศกั ดิ์ ยุพิน แบบทดสอบคณติ ศาสตร์ ค.311-ค.312. กรงุ เทพฯ : สำ� นกั พิมพว์ ัฒนาพานชิ , 2530. สุรชยั พิศาลบตุ ร คณติ ศาสตร์พาณิชยกรรม 1-2. กรุงเทพฯ : สำ� นกั พมิ พศ์ นู ยส์ ง่ เสริมวิชาการ, 2535. สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี, สถาบัน หนงั สือเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 1. กรงุ เทพฯ : สถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลย,ี 2539. (อัดสาํ เนา) หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ค.203-ศ.204. กรุงเทพฯ : คุรสุ ภาลาดพรา้ ว, 2521 สพุ ล สุวรรณนพ และคณะ, แบบเสรมิ ประสบการณ์และทดสอบวดั จุดประสงค์การเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ค.204. กรุงเทพฯ : พิมพ์ นิยมวิทยา 2534 สนุ นั ทา นิลสทิ ธ์สิ ถาพร และคณะ, แบบทดสอบคณติ ศาสตร์ 1-2-3, กรงุ เทพฯ : สำ� นกั พิมพแ์ มค็ จำ� กัด, 2535 สรุ ศกั ด์ิ อมรรตั นศกั ด์,ิ รศ.ดร. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ค.311-1.312. กรงุ เทพฯ : สำ� นักพมิ พศ์ ูนยส์ ง่ เสริมวชิ าการ, 2538 สุรศกั ดิ์ อมรรตั นศกั ด์ิ และคณะ, คณติ ศาสตรป์ ระยกุ ต์ 1. กรุงเทพฯ : ส�ำนกั พมิ พศ์ นู ย์สง่ เสริมวิชาการ, 2554. คณิตศาสตรป์ ระยุกต์ 2. กรุงเทพฯ : สำ� นกั พิมพ์ศูนย์สง่ เสริมวชิ าการ, 2554 คณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐานอาชพี , กรงุ เทพฯ : สำ� นกั พมิ พศ์ ูนย์ส่งเสรมิ วิชาการ, 2556 อุษา ศรอี กั ษร, ดร. คณติ ศาสตร์ 1. กรงุ เทพฯ : สำ� นกั พมิ พจ์ ติ รวตั น,์ 2542.
หนงั สือเรียน คณิตศาสตร์พ้นื ฐานอาชีพ รหสั วชิ า 20000-1401 หมวดวชิ า สมรรถนะแกนกลางเล่มน้ี จดั พมิ พโ์ ดยสำ� นกั พิมพศ์ ูนยส์ ่งเสริมวชิ าการ สำ� หรับใชป้ ระกอบ การจดั การเรียนรู้ ตรงตามจุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคำ� อธิบายรายวชิ า หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ของ สำ� นกั งานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีโครงสร้างเน้ือหาตามท่ีสำ� นกั พมิ พก์ ำ� หนด และมี ผเู้ รียบเรียง ผตู้ รวจ และบรรณาธิการ จดั ทำ� โดย:นาย สมหมาย ปรากฎระัตน์
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: