5.Digital_econonmy

1 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy ส่งิ นสี้ าคัญฉไหน Digital Economy สิ่งนสี้ ำคัญฉไหน จัดทาโดย อนสุ รา อนุวงค์ มกราคม 2558 จากการแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 12 กันยายน 2557 ได้มีการกล่าวถึง Digital Economy โดยส่ิงท่ีสะท้อนการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือ การเปล่ียนกระทรวงไอซีทีเป็น “กระทรวงดิจทิ ัลเพอื่ เศรษฐกิจและสงั คม” ซึ่งทาให้หลายฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนประชาชนท่ัวไป ให้ความสนใจประเด็นดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง ดังน้ันเพื่อให้ทราบถึงความสาคัญของ Digital Economy บทความน้ีจึงนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับที่มาของ Digital Economy ความหมาย ความสาคัญและประโยชน์ของ Digital Economy ตลอดจนศกึ ษาบทเรยี นต่างๆ ของ Digital Economy จากตา่ งประเทศ Digital Economy หมายถึง ระบบเศรษฐกิจที่อาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ มีการใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ต่าง ๆ เช่น การขนส่ง การค้าปลีก ภาคบริการทางการเงิน การศึกษา เป็นต้น หรือ เศรษฐกิจที่มีอินเตอร์เน็ต ในอดีตการค้าขายระหว่างประเทศจะเน้นการค้าขายเกี่ยวกับปัจจัยการผลิต ต่อมา ใหค้ วามสาคญั กบั กับทรพั ยากรธรรมชาติ เชน่ น้ามนั เปน็ ตน้ และในยคุ หลัง ๆ การพฒั นาเทคโนโลยีท่ีสูงขึ้นจึง มีการนาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีการติดต่อสื่อสารท่ีไร้พรมแดนทาให้ลดต้นทุนการ ติดตอ่ สือ่ สารมากข้ึน ลดต้นทนุ ในการขนสง่ และการดาเนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ โดยการกล่าวถึง Digital Economy ในยุคแรก ๆ น้ันเร่ิมต้นในปลายศตวรรษท่ี 90 จากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาเร่ือง The Emerging Digital Economy1 ที่ได้เป็นตัวจุดประเด็นเกี่ยวกับ Digital Economy ทาให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น หลังจากน้ัน Digital Economy ถูกนามาใช้กันอย่างแพร่หลาย สาหรับประเทศไทยเดิมเคยมีการนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในภาครัฐ โดยจัดต้ังสานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (Electronic Government Agency-EGA) ซ่งึ ได้รับงบประมาณราว 1.5 พันล้านบาทในปี 25572 รวมท้ังสิ้น 10 หน่วยงาน เช่น สานักงานคณะกรรมการกิจการกระเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 1 วิธีร์ พานิชวงศ์, สทุ ธิ สุนทรานรุ ักษ์, วิเชียร แกว้ สมบัติ. 2 ปญั จพล บณิ กาญจน์ และ ศริ ิกญั ญา ตนั สกลุ .ขอ้ สงั เกตและขอ้ เสนอนโยบาย Digital Economy. หน้า 2 ศูนย์บรกิ ารวชิ าการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]

2 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy สง่ิ นส้ี าคญั ฉไหน สานักงานปลัดกระทรวงไอซีที สานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) สานักงานรัฐบาล อิเล็กทรอนิกส์ (EGA) เป็นต้น สาหรับประโยชน์ของ Digital Economy น้ัน มีงานศึกษาไว้อย่างแพร่หลาย โดยประโยชน์หลักของ Digital Economy คือ ทาใหเ้ กิดการแขง่ ขันในระบบเศรษฐกิจ โดยรายละเอยี ด ดังน้ี (ตาราง 1) 1) การเปิดกว้างการแข่งขันมากขึ้นจากการลดข้อจากัดทางภูมิศาสตร์ ลดการกีดกัดทางการค้า และเปิดโอกาสใหผ้ ปู้ ระกอบการรายใหม่ ไดเ้ ขา้ มาแขง่ ขันในตลาดมากขึ้น และขยายขนาดตลาด รวมถึงเพิ่มตลาดใหม่ท่ีเกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยี ตัวอย่างงานศึกษาที่กล่าวถึง เช่น European Commission (2014) A. Alireza (2014) Börje Johansson et al. (2006) Georgios Zekos (2005) 2) เพิ่มผลิตภาพและนวัตกรรมในการผลิต และประสิทธิภาพในห่วงโซ่อุปทานต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างงานศึกษาที่กล่าวถึง เช่น European Commission (2014) Georgios Zekos (2005) 3) ลดต้นทุนทางธุรกรรม Transaction Cost เช่นงานศึกษาของ A. Alireza (2014) Börje Johansson et al. (2006) 4) อ่ืน ๆ เช่น สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบได้มากยิ่งขึ้น ราคาสินค้าถูกลงและมีความหลากหลาย มากยิง่ ขนึ้ ตาราง 1 ตัวอย่างงานศกึ ษาประโยชนข์ อง Digital Economy ตัวอยา่ งงานศึกษา ประโยชน์ European Commission  เพมิ่ โอกาสในการแขง่ ขนั ระดบั โลก (2014)  สามารถแบง่ ปนั แนวคดิ ใหม่ ๆ รวมถึงเป็นโอกาสดีในการสร้างผู้ประกอบการ A. Alireza (2014) และตลาดใหม่  เพ่มิ ผลิตภาพและสง่ ผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ  เพิ่มโอกาสในการแขง่ ขันระดับโลกและระดับภูมิภาค  เข้าถงึ แหล่งวตั ถดุ ิบได้มากยิ่งข้ึน  ลดตน้ ทุนทางธรุ กรรม (Transaction Cost) ศนู ยบ์ รกิ ารวิชาการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]

3 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy สิ่งน้ีสาคัญฉไหน ตวั อย่างงานศึกษา ประโยชน์ Börje Johansson et al.  ลดต้นทนุ ทางธรุ กรรมจากความแตกตา่ งทางภมู ศิ าสตร์ (2006)  เพิ่มช่องทางในการค้าขายในระดับโลกมากขึ้น รวมถึงลดการกีดกันทาง Georgios Zekos (2005) การค้า  เพม่ิ ผลิตภาพในการผลิต OECD (2003)  ขยายขนาดตลาด และเพิ่มช่องทางในการคา้ ขาย  เพ่มิ ประสิทธภิ าพของห่วงโซอ่ ปุ ทาน (Supply Chain) ที่มา : ผ้ศู กึ ษา  เพม่ิ ผลติ ภาพในการผลติ  ราคาสนิ ค้าถูกลงและมีความหลากหลายมากยงิ่ ขนึ้ จากประโยชน์ของ Digital Economy ที่กล่าวมาข้างต้น จึงมีหลากหลายประเทศท่ีนา Digital Economy ไปปรับใช้ในประเทศ ตัวอยา่ งการพัฒนาเป็น Digital Economy ในต่างประเทศ ตัวอย่างดังน้ี จีน จีนได้พยามพัฒนาประเทศผ่านทางการพัฒนาควบคู่กันระหว่างอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศซึ่งเรียกว่า Twin-Track Strategy โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานของอุตสาหกรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศเช่น การเพิ่มปริมาณ Motorway และ ติดตั้ง fibre optic cables และในปี 1998 รัฐบาลจีนได้รวมหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศเช่น Ministry of Posts and Telecommunications (MPT) The Ministry of Electronic Industry (MEI) และอื่น ๆ โดยจัดตั้งเป็น Ministry of Information Industry (MII) และได้จัดต้ัง State Council Information Management Commission (SCIMC) ซ่ึงมีความคล้ายคลึงกับ US Federal Communications Commission (FCC) ของ อเมริกา นอกจากน้ี จีนได้จัดต้ังโครงการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่นโครงการ Chinese Communist Party (CCP) และโครงการ Telephone Village ในจังหวัด Shandong เป็นต้น จากความพยายามในการ ดาเนินงานได้ส่งผลให้จานวนผู้ใช้ในปี 1998 จานวน 1,175 คนเพิ่มเป็น 26,500 คนในปี 2001 และจานวน เวปไซต์เพิ่มขึ้นจาก 3,700 เวปไซต์ในปี 1998 และเพ่ิมเป็น 242,739 เวปไซต์ในปี 2001 ถึงแม้ว่าจีนยังไม่ได้ เป็น Digital Economy อย่างเต็มตัว แต่โครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีรัฐบาลจีนได้สร้าง ขึน้ สามารถรองรบั การเป็น Digital Economy ได้ ออสเตรเลีย สาหรับประเทศออสเตรเลียมีเป้าหมายการเป็น Digital Economy ในปี 2020 กระบวนการหลักท่ีดาเนินการมีรายละเอียดดังนี้ 1) เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคธุรกิจในการใช้ ศนู ย์บริการวิชาการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]

4 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy สงิ่ น้ีสาคญั ฉไหน อินเทอร์เนต เน่ืองจากจานวนการใช้อินเทอร์เนตท่ีเพิ่มข้ึนน้ันส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 2) เพิ่ม การฝึกอบรมการใช้อินเทอร์เนต 3) การจัดการส่ิงแวดล้อมและโครงสร้างพ้ืนฐานท่ีชาญฉลาด โดยเฉพาะการ เพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพของการใช้พลังงานเพื่อลดผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมซ่ึงส่งผลต่อการจ้าง งานและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่นการใช้เทคโนโลยีในการจัดการถนนในเมืองในช่วงเวลารถติดเพ่ือ เพ่ิมประสิทธิภาพและแก้ไขปัญหา การใช้เทคโนโลยีในการจัดการระบบชลประทานให้ตรงกับความต้องการ ของเกษตรกร 4) มีการพัฒนาระบบสาธารณะสุขและการดูแลผู้สูงอายุ เช่นการดูแลรักษารักษาออนไลน์และ ผ่านทาง social Network การให้ผลวินิจฉัยผ่านวิดีโอ เป็นต้น 5) มีการศึกษาออนไลน์มากขึ้นโดยการเพ่ิม เครื่องมือในการศึกษาออนไลน์อีกท้ังอัพเดทอุปกรณ์ให้ทันสมัย 6) เพิ่มการทางานทางไกล โดยการ ประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Telework Australia website และมีการ workshop การนาเสนอการสอนทางไกล 7) ปรับปรุงระบบออนไลน์ของรัฐ เช่นการใช้ high-definition ในการสัมมนา เก็บข้อมูลไว้ใน cloud และ 8) เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศในท้องถ่ินของออสเตรเลีย โดยการพัฒนาทักษะและ การศึกษาในดา้ นเทคโนโลยี สิงค์โปร สงิ ค์โปรมีเป้าหมายท่ีจะเป็น Smart City หรือ Intelligent Island เพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูล ข่าวสาร การคมนาคมขนสง่ ในภูมิภาคอาเซยี น โดยไดล้ งทุนในโครงสร้างพืน้ ฐานของการส่ือสารทางไกลต่าง ๆ ท่ีเกิดจากการร่วมลงทุนในภาครัฐและเอกชนและความร่วมมือของท้ังในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการ พฒั นาทักษะของแรงงานในการใช้เทคโนโลยี ประเมินผลของเทคโนโลยีต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและ การพัฒนาทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีการที่สิงค์โปรเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ Digital Economy คือใช้ 4Cs โดยมี Compute คือการนาเทคโนโลยีและสารสนเทศไปใช้ในรัฐและภาคเอกชน Conduit เชื่อมโยงระบบต่าง ๆ ด้วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ Content คือ การสร้างความเป็นศูนย์กลาง ของความเช่ียวชาญและความรู้ทาให้เกิดอุตสาหกรรมเฉพาะ Communicate เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารโดย บริการมัลติมิเดียและอินเทอร์เนตมากขึ้น โดยหน่วยงานหลักที่ทาหน้าท่ีดาเนินการและประสานความร่วมมือ คือ National Information Infrastructures (NII) อย่างไรก็ตาม Digital Economy ยังคงเป็นเรื่องที่ใหม่ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทย เนอ่ื งจากยงั ตอ้ งสรา้ งความรู้ความเข้าใจใน Digital Economy อย่างมาก โดยความทา้ ยทายสาคัญของการเป็น Digital Economy ท่ีต้องเผชญิ มดี ังน้ี ศนู ยบ์ ริการวชิ าการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]

5 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy ส่งิ นสี้ าคัญฉไหน ควำมทำ้ ทำยดำ้ นเศรษฐกจิ - เนื่องจาก Digital Economy จะมีการใช้เทคโนโลยีท่ีสูงและมีแนวโน้มเปล่ียนแปลงอย่างต่อเน่ือง ดังน้ันแรงงานท่ีอยู่ในระบบเศรษฐกิจลักษณะนี้จะต้องมีทักษะท่ีสูง และมีการพัฒนาทักษะอย่างต่อเน่ือง เชน่ เดยี วกบั เทคโนโลยที ่ีเพ่ิมสงู ข้ึน - การจัดเก็บภาษที างการคา้ และจากผบู้ ริโภคจะมีความซับซ้อนมากย่ิงขึ้น เน่ืองจากการค้าขายในระบบ Digital Economy มีการคา้ ที่เปดิ กว้างไปทวั่ ทกุ มุมโลกอย่างไร้พรมแดน และสนิ คา้ กม็ ีลักษณะหลากหลายและ สนิ ค้าที่จบั ต้องไมไ่ ดม้ ากยิง่ ขน้ึ ทาให้การคานวณอตั ราภาษีที่จัดเก็บต้องมีความซบั ซอ้ นมากขึ้นดว้ ย - ความพรอ้ มของโครงสร้างพ้นื ฐานทางเทคโนโลยีภายในประเทศหากต้องการเปล่ียนแปลงเป็น Digital Economy จะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเก่ียวกับระบบอินเทอร์เนตและเทคโนโลยีสารสนเทศให้ ทนั สมัยและทัว่ ถงึ - Digital Economy นน้ั ส่วนใหญ่เกดิ ขน้ึ จากสังคมเมือง การพัฒนาทางดา้ นเทคโนโลยีไปยังพ้ืนท่ีชนบท ทม่ี ีพื้นทห่ี า่ งไกลและจานวนประชากรในเขตพ้ืนที่ชนบทมีจานวนน้อยกว่าในเขตเมือง จึงทาให้มีต้นทุนท่ีสูงซ่ึง ไม่จูงใจต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในชนบท ด้วยเหตุน้ีอาจสร้างความแตกต่างทางด้านเทคโนโลยีระหว่างเขต เมอื งและชนบท (Digital Gap) และอาจก่อใหเ้ กดิ ปญั หาอน่ื ๆ ตามมาได้ ควำมทำ้ ทำยดำ้ นสังคม - ปัญหา Digital Gap อาจกอ่ ใหเ้ กิดปญั หาทางสงั คมได้ เนื่องจากความแตกต่างในการเข้าถึงเทคโนโลยี สารสนเทศทาให้บางกลุ่มได้รับข้อมูลที่มากกว่ากลุ่มท่ีไม่เข้าถึงซึ่งอาจเกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน หรือเกิด การใช้ประโยชน์จากการท่ีเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศได้มากกว่าตักตวงผลประโยชน์ เป็นผลให้เกิดปัญหา ทางสงั คม - สังคมที่มีการใช้เทคโนโลยี ทาให้เกิดความเสี่ยงสูงในการปลีกตัวของประชาชน เนื่องจากสังคม ดังกล่าวจะมกี ารพบปะกนั น้อยลงเชน่ การทางานที่บา้ น การเจรจาผา่ นทางอินเทอร์เนต เป็นต้น ซ่ึงอาจส่งผล ให้ประชาชนมกี ารปลกี ตวั ได้ง่าย - ความเส่ียงภัยของระบบความปลอดภัยในข้อมูล ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศถูกนามาใช้ใน ชีวิตประจาวันมากยิ่งข้ึนข้อมูลสาคัญต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้ในรูป Digital หากถูกโจรกรรมหรือระบบขัดข้องจะ ส่งผลให้เกิดผลปญั หาได้ ดังนัน้ ความปลอดภยั ของขอ้ มลู จงึ เป็นเรอื่ งที่สาคัญมาก ศนู ย์บรกิ ารวิชาการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]

6 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy ส่งิ นีส้ าคัญฉไหน โดยสรปุ ในการพฒั นาเปน็ Digital Economy ส่งผลดีต่อภายในประเทศและการเช่ือมโยงกับประเทศ อน่ื ๆ โดย Digital Economy ไดเ้ พมิ่ โอกาสในการแข่งขันและลดข้อจากัดทางการค้า อีกท้ังเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนในการดาเนินกิจกรรม แต่การพัฒนาเป็น Digital Economy ไม่จาเป็นจะต้องพัฒนาในภาค ธุรกิจเท่าน้ันแต่ควรพิจารณาในด้านอ่ืน ๆ เช่นการใช้เทคโนโลยีในด้านสาธารณสุข การศึกษาทางไกล การ ทอ่ งเทย่ี ว การขนสง่ เป็นต้น ซ่ึงส่ิงท่ีท้าทายสาหรับเมืองไทยคือ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี ให้ทนั สมยั และท่ัวถึงท่ัวทุกภมู ิภาคอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อีกทั้งควร พัฒนาทักษะของแรงงานให้มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีเพื่อสร้างความพร้อมกับแรงงานภายในประเทศ และคานงึ ถึงผลกระทบที่จะตามมาท้ังทางด้านทางเศรษฐกจิ และสังคม ศนู ย์บรกิ ารวิชาการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]

7 บทความประจาเดอื น มกราคม 2558 : Digital Economy สิง่ นสี้ าคัญฉไหน อำ้ งอิง จรัส สุวรรณมาลา. (2539). เงินอุดหนุนท้องถ่ิน ระบบงบประมำณเพ่ือกำรกระจำยอำนำจทำงกำรคลัง. มูลนิธิ เอเชยี . ดเิ รก ปัทมสริ ิวัฒน์. (2554). ประสทิ ธิภำพของกำรจัดเกบ็ รำยไดข้ องท้องถน่ิ กรณีศกึ ษำองค์กำรบรหิ ำรส่วน จงั หวดั . วารสารการพฒั นาท้องถิ่น. กรงุ เทพฯ. กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถิ่น. ดราภรณ์ เดชพลมาตย์. (2548). กำรประเมนิ ประสิทธิภำพกำรทำงำนของเทศบำล. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. พนนิ ท์ เครือไทย และ ชชิ ญาสุ์ ชา่ งเรียน. (2554). กำรประเมินประสทิ ธิภำพกำรให้บรกิ ำรสำธำรณะของ องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น กรณศี ึกษำจังหวดั อุตรดติ ถแ์ ละจังหวัดพิษณโุ ลก. นาส่ง สานักงาน กองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ. นายวิสุทธ์ิ เหมหมนั . (2553). ประสทิ ธิภำพกำรดำเนนิ งำนของธุรกิจประกนั วนิ ำศภัยในประเทศไทย. สถาบันบัณฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร์. วีระศักด์ิ เครือเทพ. (2554). กำรวิเครำะห์ฐำนะทำงกำรเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น: คู่มือสำหรับ นกั บริหำรยุคใหม่. กรงุ เทพ. สถาบนั พระปกเกล้า. ศนู ยน์ วตั กรรมนโยบาย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกล้าธนบรุ ี. (2553). กำรวิจัยและพฒั นำต้นทนุ มำตรฐำนต่อหน่วยระดับอุดมศกึ ษำ. นาส่ง สานกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา. สกนธ์ วรัญญูวัฒนา ดวงมณี เลาวกลุ พงษ์ธร วราศัย และ ภาวิน ศิริประภานุกูล (2555). โครงกำรศึกษำกำร บรหิ ำรเศรษฐกิจมหภำคระยะปำนกลำงภำยใต้โครงกำรเพิ่มขดี ควำมสำมำรถในกำรวิเครำะห์ กำร ปรับปรุงฐำนข้อมูล และกำรพัฒนำเคร่ืองมือในกำรบริหำรเศรษฐกิจมหภำค และกำรศึกษำวิจัย เพ่ือกำรบริหำรเศรษฐกิจมหภำคในระยะปำนกลำง. นาส่ง สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ. ศนู ย์บริการวชิ าการเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ติดต่อ โทร : 02-6132475 , Email : [email protected]