หลักสูตรและวชิ าพิเศษลูกเสือสํารอง พ.ศ. 2522 ความมุงหมายของการลูกเสือสํารอง คือ เพ่ือสงเสริมการพัฒนาเด็กในวัยลูกเสือสํารองท้ังในทางกาย สติปญ ญา จติ ใจและศีลธรรม โดยถอื วา เปน สวนสําคัญสวนหน่ึงของแผนการฝกอบรมที่ตอเนื่องกันในเด็กวัยตาง ๆ ที่ อยใู นขบวนการลกู เสอื แผนการฝกอบรมลูกเสือสํารองมีระดับสูงข้ึนตามวัย และสมรรถภาพของเด็กแตละคนแบงออกเปน 3 ข้ัน คือ ดาวดวงที่ 1 ดาวดวงท่ี 2 และดาวดวงที่ 3 กับใหเด็กไดมีโอกาสไดรับเครื่องหมายวิชาพิเศษที่กําหนดไวใน หลักสูตรน้ีดวย อน่ึง ผูสมัครเปนลูกเสือสํารองแลวตองผานการทดสอบข้ันตนเพื่อขอรับเครื่องหมายลูกเสือสํารอง เม่ือไดรับเครื่องหมายลูกเสือสํารองแลว จึงนับวาเปนลูกเสือสํารองโดยสมบูรณ นอกจากนี้ยังมีเคร่ืองหมายลูกเสือ สัมพนั ธส ําหรับลูกเสอื ทจี่ ะพนวยั ลูกเสือสํารองและพรอ มจะสมัครเขาเปน ลูกเสอื สามัญตอ ไป หมวดท่ี 1 เคร่อื งหมายลกู เสือสํารอง ลักษณะ ทําดว ยผา สีกากี รูปไข ยาว 4 ซม. กวาง 3.52 ซม. มีรูปหนาเสือและคําวา “ ลูกเสือ ” สี เหลอื งขลิบริมสกี รมทา ติดทอี่ กเสือ้ ขางซา ยเหนือกระเปา หลักสตู รเตรียมลกู เสอื สาํ รอง 1. มคี วามรเู กยี่ วกบั นยิ าม เร่อื ง เมาคลแี ละประวัติการเร่ิมกิจการลกู เสอื สาํ รอง 2. รจู ักการทําความเคารพเปน หมู ( แกรนดฮาวล ) และระเบยี บแถวเบ้อื งตน 3. รูจกั การทําความเคารพเปนรายบคุ คล การจับมือซา ยและคตพิ จนข องลูกเสือ 4. รจู ักคาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื สํารอง หมวดที่ 2 เคร่อื งหมายข้นั ของลกู เสือสํารอง ลกู เสอื สํารองแบงเปน 3 ขั้น คือ ดาวดวงที่ 1 ดาวดวงที่ 2 และดาวดวงที่ 3 แตละขั้นมีกิจกรรม 12 อยาง ซึ่งลกู เสอื สํารองจะตอ งเรียนรแู ละสามารถปฏิบตั ิได ลักษณะ เปนครือ่ งหมายรูปดาว 6 แฉก สีเงิน เสนผานศูนยกลาง 1.5 ซม. ตดิ ที่ขา งขวารปู หนาเสือ หนาหมวก 1 ดวง
หลกั สตู ร 1. อนามัย ก. รูจักวธิ ีและเหตุผลในการรักษาฟน มือ เทา และเล็บใหส ะอาด ข. รูจกั วิธหี ายใจอยา งถกู ตองและรูจกั วธิ ีปองกนั โรคหวัดไมใหแพรอ อกไป ค. แสดงวิธีปฏิบัติเม่ือมีแผลถลอกเล็กนอยและเขาใจถึงความสําคัญในการท่ีจะขอความชวยเหลือจากผูใหญ เมือ่ มีอุบตั ิเหตเุ กิดขึ้น 2. ความสามารถในเชงิ ทักษะ ก. ขวา ง – รบั บอล ระหวาง 2 คน ซงึ่ อยูห า งกนั อยางนอย 5 เมตร ( 16 ฟุต ) ใหได 8 ครง้ั ใน 10 คร้ัง ข. ปฏิบตั กิ จิ กรรมตอ ไปนใี้ หไ ด 2 อยาง • มว นหนา • กระโดดขา มลูกเสือทีม่ ขี นาดเดียวกัน • ข้ึนตนไม • ไตเชอื กสงู 3 เมตร ( 10 ฟตุ ) 3. การสํารวจ รูจักท่ีต้ังของสถานบริการท่ีสําคัญในทองถิ่นใกลเคียง เชน วัด โรงเรียน สถานีตํารวจ สถานี อนามัย โรงพยาบาล สํานักแพทย สถานีดับเพลิง โทรศัพท ท่ีทําการไปรษณียและเวลาเก็บจดหมายจากตู ไปรษณยี ท่จี อดรถประจําทาง / รถรบั จา ง สถานรี ถไฟ ทีใ่ กลทส่ี ดุ และรูจักขอความชวยเหลอื จากผใู หญ 4. การคน หาธรรมชาติ เลือกตน ไม ปลา หรือนก อยางใดอยางหนึ่งที่ไดเคยเห็นและคนหาเรื่องราวเกี่ยวกับ ส่ิงน้ัน ๆ ให ไดม ากทส่ี ุดเทาที่จะทําได 5. ความปลอดภยั ก. เขาใจสาเหตุตาง ๆ ทที่ ําใหเกดิ อุบัติเหตุในบา นและอันตรายที่เกิดจากไฟ ข. รูจักและปฏบิ ัตติ ามกฎจราจรทางบก สําหรับผเู ดินเทา 6. บรกิ าร ก. รูจ ักเกบ็ รกั ษาเสอื้ ผา และรองเทาของตนใหสะอาดเรียบรอย ข. รูจักจดั และเก็บทน่ี อนใหเ รยี บรอ ย ค. รจู กั ตม น้ํารอ นและทําความสะอาดเครือ่ งใชตาง ๆ เม่อื ใชแลว 7. ธงและประเพณตี าง ๆ สามารถรองเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีและรูวิธีปฏิบัติในเมื่อมีการบรรเลง เพลง ชาติหรือเพลงสรรเสริญพระบารมี 8. การฝมอื ทาํ หนุ จาํ ลองหรอื ส่งิ ของงา ย ๆ จากเศษวัสดุ 9. กจิ กรรมกลางแจง เดนิ สะกดรอยตามเคร่ืองหมายทีก่ าํ หนดไว 10. การบันเทงิ แสดงเงยี บตามลาํ พงั หรอื กับเพ่ือนลกู เสือสํารองอีกคนหน่ึง 11. การผูกเงอื่ น ก. ผกู เงอ่ื นพริ อด เงอ่ื นขัดสมาธแิ ละรจู ักวิธใี ชเ งือ่ นดงั กลา ว ข. รจู กั วิธเี กบ็ เชอื กอยางงา ย ๆ 12. คําปฏิญาณและกฎของลูกเสือสาํ รอง
ปฏบิ ตั ติ ามคาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสาํ รองอยา งดที สี่ ุด ลักษณะ เปนเครื่องหมายรูปดาว 6 แฉก สีเงิน เสนผานศูนยกลาง 1.5 ซม. ติดที่ขางซายรูปหนาเสือ หนา หมวก หลักสตู ร 1. อนามัย ก. รจู ักความสําคญั ของการนอนหลับสนทิ ในตอนกลางคนื ข. แสดงวิธปี ฏบิ ัติในกรณที จี่ มกู มีเลอื ดกาํ เดาออก ค. รูจกั ความสําคัญของการขอความชวยเหลอื จากผูใ หญใ นเมอื่ มีอบุ ตั ิเหตเุ กดิ ขึ้น 2. ความสามารถในเชิงทักษะ ก. วา ยนาํ้ ไกล 10 เมตร หรือ ข. ภายในระยะเวลาอยา งนอย 3 เดือน โดยการฝก อยา งสมํ่าเสมอ สามารถปฏิบัติกิจกรรมตอไปน้ีใหดีข้ึน 3 อยาง • กระโดดเชอื กเทา ชดิ กันโดยแกวงเชอื กดวยตนเองไปขางหนา 15 ครัง้ หลงั 15 ครง้ั • เดินทรงตัวบนไม หรือกําแพงอิฐมีความกวางไมเกิน 13 ซม. ( 5 น้ิว ) สูงประมาณ 30 ซม. ( 1 ฟตุ ) เปน ระยะทางอยา งนอย 4.5 เมตร ( 15 ฟุต ) • หงายมือท้ังสองจบั ราวไมสูงอยา งนอยเทากับบ้ันเอวของตน แลวมวนตัวไปขางหนาขามราวไม นน้ั • ขน้ึ บนั ไดที่ยกเคล่อื นท่ีได และรูจกั วางบนั ไดใหม่นั คง เพอ่ื ความปลอดภัย • เล้ียงลกู บอลดว ยเทา อยา งเร็ว ออมเคร่ืองกีดขวางอยางนอย 6 อยางในระยะทางไมเกิน 18 เมตร ( 20 หลา ) 3. การสาํ รวจ ไปเยอื นสถานท่ีในทอ งถน่ิ ทีน่ า สนใจแหง หน่งึ แลวกลบั มารายงานวา ไดพบเหน็ อะไรบาง 4. การคน หาธรรมชาติ ก. เพาะถว่ั งอกหรือเมลด็ พนั ธุพ ชื อยา งอน่ื ทงี่ อกงา ย ข. รจู กั ชนิดของอาหารท่พี ึงใหแกสัตวเลีย้ ง 5. ความปลอดภัย รูจกั หลกั แหง ความปลอดภัยทางนาํ้
6. บรกิ าร ก. สามารถจดจาํ และสง ขาวซ่งึ ประกอบดวยวันที่ ตัวเลขและช่ือตาง ๆ ข. สามารถใชโทรศัพทสาธารณะและสมุดโทรศพั ทอยางถูกตอง ค. ในกรณที ีม่ เี หตฉุ ุกเฉินเกิดขึน้ รูจักวิธีตดิ ตอสง ขา วใหผใู หญหรอื เจาหนาที่ทราบ 7. ธงและประเพณตี า ง ๆ ก. รูจ ักวิธีชักธงขน้ึ สูย อดเสา เชญิ ธงชาตลิ งและเก็บรกั ษาธงชาตใิ หเ รียบรอ ยอยใู นสถานทอี่ ันเหมาะสม ข. สามารถเขียนภาพธงคณะลกู เสอื โลก ค. รจู ักทีต่ ง้ั และสามารถเขียนภาพธงชาติของประเทศอืน่ ๆ รวม 4 ประเทศ 8. การฝมอื ทาํ สิ่งของตอไปนี้อยา งนอย 2 อยาง • วาว • พับกระดาษหรือผาเปน รปู ตา ง ๆ เชน หมวก ดอกบวั กระทง นก ฯลฯ • ไมสงู สําหรับเดิน • นาฬกิ าแดด • เขม็ ทศิ จําลอง 9. กิจกรรมกลางแจง ก. กอไฟและปรงุ อาหารอยางใดอยา งหนง่ึ โดยใชไฟน้นั ข. รูจักวธิ ดี ับไฟและทําสถานท่ีกอ ไฟใหส ะอาดเรยี บรอย เมื่อเสร็จงานแลว 10. การบนั เทิง กระทาํ กิจกรรมตอไปนี้ อยา งนอ ย 2 อยา ง ตามลาํ พังหรอื กับเพ่อื นลกู เสอื สาํ รองอกี คนหน่งึ • แสดงกล • เลานทิ าน / ทอ งกลอนหรอื แสดงทา ทางขบขนั • รอ งเพลง • แสดงการมว นตัวทา ตา ง ๆ 11. การผกู เงอ่ื น ก. ผูกเงือ่ นบว งสายธนู เงือ่ นผูกกระหวดั ไมแ ละรูจักวธิ ใี ชเงอื่ นดังกลาว ข. ทบทวนการผกู เงอื่ นพริ อดและเง่ือนขัดสมาธิ ที่ไดเคยเรียนมาแลวตามหลกั สตู รดาวดวงที่ 1 12. คาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสือสํารอง แสดงวา ไดพยายามปฏบิ ัตติ ามคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสาํ รองอยเู สมอ ลกั ษณะ เปนครื่องหมายรูปดาว 6 แฉก สีเงิน เสนผานศูนยกลาง 1.5 ซม. ติดที่หนาหมวกใต รูปหนาเสือ ระหวางกลางดาวดวงที่ 1 และดาวดวงที่ 2
หลกั สูตร 1. อนามัย ก. รจู ักความสาํ คญั ของการขอความชว ยเหลือจากผใู หญในเม่อื มีอุบัติเหตเุ กิดขึน้ ข. จัดทําถุงหรือท่ีเก็บอุปกรณปจจุบันพยาบาลสําหรับตนเองและเพื่อนําติดตัวไปเม่ือมีการเดินทางออกไป นอกสถานที่ ค. รูจกั วิธปี ฏิบัติเมอ่ื ถกู แมลงกัดหรือตอ ย ง. รูจ กั วิธปี ฏบิ ตั ิยางงาย ๆ ในเมอ่ื ถูกไฟไหมห รอื นํ้ารอนลวก 2. ความสามารถในเชงิ ทักษะ ก. วา ยนา้ํ ไกล 25 เมตร หรอื ข. ภายในระยะเวลาอยางนอ ย 3 เดือน โดยการฝกอยา งสม่ําเสมอ สามารถปฏิบัติกิจกรรมตอไปน้ีใหดีข้ึน 3 อยาง • ว่ิง 50 เมตร • ว่งิ หรือกระโดดไกล • ขวางลูกบอลไกลพอสมควร • กระโดดขา มรว้ั หรอื เคร่อื งกีดขวางสูงไมเ กนิ บนั้ เอวของตน 3. การสํารวจ ก. เขาใจวธิ ีการดนู าฬิกาและสามารถนับเวลา 24 ช่วั โมง ข. วางแผนรวมกับผูกํากับเกี่ยวกับการเดินทางและคาใชจายสําหรับกองหรือหมูลูกเสือสํารองในการออกไป นอกสถานที่พรอ มผูกาํ กับ 4. การคน หาธรรมชาติ แสดงความสนใจและเขาใจเรื่องราวตาง ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติในบางประการ โดยจัดทําสมุดภาพ หรือสะสมสิ่งของตาง ๆ เชน สภาพดิน ฟา อากาศ ชายทะเล แมลง ทองฟาในตอนกลางคืน ส่ิงที่มีชีวิตใน สระนํ้า ฯลฯ 5. ความปลอดภยั ก. รจู ักกฎจราจร ข. โดยการทาํ เปนตวั อยา ง นาํ ลกู เสอื สาํ รองทอี่ ายุนอ ยกวาใหร ูจ ักความปลอดภัยในการใชถนน ค. อธบิ ายถงึ สิง่ ที่ควรทําเมือ่ ทิ้งบานไวโดยไมม คี นอยู 6. บริการ ดว ยความชว ยเหลอื ของผูกาํ กบั วางแผนและดาํ เนินการใหบ ริการแกผูอื่น โดยตนเองหรือรวมมือกับ เพ่อื นลกู เสือสํารองผอู ื่น 7. ธงและประเพณตี า ง ๆ ก. รจู ักธงลูกเสือประเภทตาง ๆ ธงลูกเสอื ประจําจังหวดั และธงคณะลกู เสอื แหง ชาติ ข. รจู กั ท่ีต้งั และสามารถเขียนภาพธงชาติของประเทศอืน่ ๆ รวมรวม 4 ประเทศ 8. การฝม ือ ก. ประดษิ ฐสิง่ ของจากเศษวสั ดุท่ีเปน ไม โลหะหรอื วสั ดอุ ยา งอ่นื โดยใชเ คร่ืองมอื ท่ีเหมาะสม ข. รูจักวิธใี ชและรักษาเคร่ืองมือตอไปน้ี คอื มีดพบั กรรไกร คอ น เลือ่ ยและไขควง 9. กจิ กรรมกลางแจง ก. รจู กั ทิศทง้ั 8 และวิธอี า นเข็มทิศ ข. สามารถหาเสน ทางในระยะประมาณ 400 เมตร โดยใชเข็มทศิ
10. การบันเทงิ เลอื กกระทาํ กจิ กรรมตอ ไปนี้อยางใดอยา งหนง่ึ • จัดและเขารวมในการแสดงละครกบั เพ่ือนลกู เสือสํารองอื่น • จัดใหม ีการรอ งเพลงหรือฟอนราํ โดยมีดนตรปี ระกอบ • ทาํ หนุ และเชิดหุนเรือ่ งส้ัน ๆ กบั เพอื่ นลูกเสืออื่น 11. การผูกเงื่อน ก. ผกู เง่อื นบว งสายธนู และสาธิตวธิ ีใช • ผูกรอบตัวเอง • ผูกรอบตัวคนอนื่ • ผูกเปนหว งเพื่อโยนใหค นอืน่ ข. ผกู เง่ือนกระหวดั ไม 2 ชั้น ค. ขดเชือกยาวหรอื สายยางเสนหนง่ึ ใหเ รยี บรอย ง. ทบทวนการผกู เง่อื นตาง ๆ ทีไ่ ดเคยเรยี นมาแลว ตามหลกั สตู รดาวดวงท่ี 1 และท่ี 2 12. คาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสือสาํ รอง ทบทวนคาํ และปฏิญาณและกฎของลูกเสือสํารอง เขาใจความหมายของคําปฏิญาณและกฎแจมแจง กวาแตกอนและแสดงวาไดใชความพยายามอยางแทจริงในการปฏิบัติตามคําปฏิญาณและกฎของลูกเสือสํารอง ตลอดเวลา
พิธีการตาง ๆ ของลกู เสือนั้น เปนไปอยางส้ัน ๆ งา ย ๆ และดวยจริงใจ พิธีการเปนเร่ืองการทําจริงไมใชส่ิง สมมุติ ผลทไ่ี ดจากพธิ ีการนนั้ คอื - ความมีระเบียบวนิ ยั ในตนเอง ( ความเครง ครัดและมกี ฎเกณฑของพธิ กี าร ทําใหเกิดวนิ ยั ) - ไดมีโอกาสระลึกถึงและรักษาคําม่ันสัญญาอยูเสมอ ( เพราะพิธีการตาง ๆ ตองทบทวนคําปฏิญาณ กอ นเสมอเพื่อใหเ ปน ทแ่ี นใ จแกผูกาํ กับวา ลกู เสือสาํ รองปฏิบัติไดดีจรงิ แลว ) - ทําใหเกดิ ความสมั พันธก ันอยางใกลช ิด ในระหวา งผกู าํ กับลูกเสือของเขาหรือในระหวางผูใหญกับเด็ก ( เพราะผูกํากับมิใชวาจะส่ังใหเด็กทําแตฝายเดียว ผูกํากับเองมีสวนรวมในพิธีการนั้นดวยทําใหเกิด ความภาคภูมิใจในเกียรตทิ ไี่ ดรบั ในพิธนี ้นั ๆ ) พธิ ีการตา ง ๆ ของลกู เสอื สํารอง มอี ยูดวยกนั 7 อยาง คอื 1. การทาํ แกรนดฮ าวล 2. พธิ ีเปด – ปด ประชมุ กอง 3. พธิ ีเขา ประจาํ กอง ( หรือพธิ ีปฏญิ าณตน ) 4. พธิ ีประดับดาวดวงท่ี 1 5. พธิ ีประดับดาวดวงท่ี 2 6. พิธปี ระดบั ดาวดวงที่ 3 7. พิธสี งลกู เสือสาํ รองไปเปน ลกู เสอื สามัญ พิธเี ขาประจํากองลกู เสอื สาํ รอง ในพิธีเขาประจํากองลูกเสือสํารอง หรือที่เรียกกันวาพิธีปฏิญาณตนหรือเรียกวา พิธีตอนรับลูกเสือใหมน้ีให เปน หนาทขี่ องกองลกู เสือตางกองตางจัดทํา มอี ยู 2 วธิ ี คือ • มกี องลกู เสอื อยแู ลว - กองลกู เสอื สํารอง ทาํ รูปวงกลมใหญ - หมวกทีต่ ดิ เครือ่ งหมายลูกเสอื สาํ รองแลว เคร่ืองหมายทลี่ กู เสอื สํารองท่ีจะติดเหนือกระเปาเส้ืออยูที่ผู กํากบั - ธงประจํากอง ( ถา มี ) ใหรองผกู ํากับถอื ไวใ นทา ตรงนอกวงกลม - ลูกเสือใหมอยูนอกวงกลม ( แตงเคร่ืองแบบครบ เวนแตเคร่ืองหมายกับหมวกอยูที่ผูกํากับ ) ดานหลงั ของหมูท่ตี นจะเขา ไปอยู - ผกู ํากับเรียกลกู เสือใหมเ ขามาในวงกลมหนาผูก ํากับ ( หากหลายคนใหเขา แถวหนากระดาน ) - ผูก าํ กบั สอบถามลกู เสอื ใหม ดงั นี้ ผกู ํากบั “ เจา ตอ งการเปนลูกเสือสาํ รองใชไ หม ” ลูกเสอื ใหม “ ใชครบั ” ผกู ํากับ “ เจาเขาใจกฎ คาํ ปฏิญาณ การทาํ ความเคารพ และการทําแกรนดฮาวลห รอื ไม ” ลูกเสอื ใหม “ ขา เขา ใจและปฏิบตั ิได ” ผูกาํ กับ “ กฎมีวา อยางไร ” ลูกเสอื ใหม “ ขอ 1 ลูกเสอื สาํ รองทาํ ตามลกู เสอื รนุ พี่ ”
“ ขอ 2 ลูกเสอื สาํ รองไมท ําตามใจตนเอง ” ผกู าํ กับ ถา เชนนน้ั จะใหเ ช่อื ไดห รือไมว า “ ขอ 1 ขาจะจงรกั ภักดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ” “ ขอ 2 ขาจะยดึ ม่นั ในกฎของลูกเสอื สาํ รองและบําเพ็ญประโยชนตอ ผอู ืน่ ทุกวนั ” ลกู เสือใหม ทําวันทยาหัตถ “ ขาสญั ญาวา ” “ ขอ 1 ขา จะจงรักภักดตี อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ” “ ขอ 2 ขาจะยึดมนั่ ในกฎของลกู เสอื สาํ รองและบําเพ็ญประโยชนตอผูอ ื่นทุกวนั ” ผกู าํ กับ “ เจา จงรักษาคํามัน่ สัญญาของเจาไวใ หม นั่ ตอไป บัดนเี้ จา ไดเขาเปน ลกู เสือสาํ รองและเปน สมาชิกผหู นึง่ ของคณะพี่นองลูกเสอื แหง โลกอนั ยิ่งใหญแลว ” - ผกู ํากับมอบเครอ่ื งหมายลกู เสอื สํารองสาํ หรับตดิ เหนือกระเปาและมอบหมวกใหลูกเสือรับมาสวมเอง ลกู เสอื ทาํ วันทยหัตถแ ละลดมือลง แลวสมั ผัสมือผูกํากับ ในกรณีท่ีผูกํากับกลุมเปนประธานหรือเชิญ ผูอน่ื เปน ประธานควรใหทาํ หนา ทม่ี อบเครื่องหมายแทนผูกํากับข้นั ตอนน้ี - เสรจ็ แลวลูกเสือใหมทํากลับหลังหัน ทําความเคารพลูกเสือเกาดวยทาวันทยหัตถ ลูกเสือเการับการ เคารพดว ยทาวนั ทยหัตถเ ชน กนั แลว ลดมอื ลงพรอมกนั ( โดยไมต องสัง่ ) - ผูกํากับส่ังลูกเสือใหมเขาประจําที่ โดยสั่งวา “ ลูกเสือใหมเขาประจําหมู – วิ่ง ” ลูกเสือใหมว่ิง เขาประจําหมูข องตน ( ซ่ึงจัดแบง ไวเรียบรอ ยแลว ) - เสร็จสน้ิ ดวยการทาํ แกรนดฮ าวล • ยังไมม กี องลกู เสอื - ลูกเสอื ใหมท ้งั หมดเขาแถวเปนแถวตอนหมูห นา ผกู าํ กับ แตง เคร่ืองแบบครบ เวนแตเคร่ืองหมายและ หมวกอยูท่ผี ูกาํ กับ - หมวกทต่ี ดิ เคร่ืองหมายลกู เสือสาํ รองแลว เครอ่ื งหมายท่ีลกู เสือสํารองท่ีจะติดเหนือกระเปาเส้ืออยูท่ีผู กํากบั - ธงประจํากอง ( ถามี ) ใหร องผูกาํ กบั ถือไวในทา ตรงนอกวงกลม - ผูกาํ กับเรียกลูกเสือใหมออกมายืนหนาผูกํากับ คร้ังละหมู โดยออกคําส่ังวา “ หมูสี ...... ” ใหหมูสี นนั้ ออกมายนื เปน แถวหนา กระดาน - ผกู ํากบั สอบถามลกู เสือใหม ( เหมอื นอยางมีกองลกู เสืออยูก อนแลว ) - เม่ือผูกํากับหรือประธานมอบเครื่องหมายลูกเสือสํารองและหมวกและสัมผัสกับลูกเสือใหมแลวให ลูกเสือใหมไปเขาแถว เตรียมเปนรูปวงกลม ( หมายความวาเมื่อทุกหมูเขาแถวเรียบรอยแลว จะ เปน รูปวงกลมลอ มรอบผูกํากับ ) โดยออกคําสั่งวา “ ลูกเสือใหมเขาประจําที่ – ว่ิง ” ลูกเสือใหม วง่ิ ไปทข่ี องตน ( ซง่ึ ผูกาํ กบั นัดหมายไวก อ น ) - เสร็จส้นิ ดว ยการทาํ แกรนดฮาวล แนวทางในการปฏบิ ตั ทิ ีไ่ มควรลืม 1. ขณะท่ีลูกเสือกลาวคําปฏิญาณตอหนาผูกํากับน้ัน ผูกํากับทําวันทยหัตถรับ ( 2 นิ้ว ) สวนรองผู กํากับหรือผบู งั คับบญั ชาลกู เสอื อ่นื ๆ แสดงรหสั ลกู เสือ ( 3 น้วิ ) 2. ลูกเสือท่ีไดกระทําพิธีปฏิญาณตนแลวขณะท่ีลูกเสือใหมกหลาวคําปฏิญาณน้ันตองทําวันทยหัตถดวย ลกู เสือผูใดยังไมไ ดป ฏญิ าณตน ไมตองทําคงยืนตรงเฉย ๆ 3. การส่ังใหแถวแยก หมายความวา แยกไปเรียนวิชาอื่นกอน ใหส่ังวา “ แพค แยก ” ลูกเสือทํา ขวาหนั แลวแยกไป 4. การสั่งใหเลิกแถว หมายความวา เลิกจากการเรียนแลว หรือปดการประชุมใหสั่งวา “ แพค เลิก ” ลูกเสอื ทาํ วนั ทยหัตถ แลวขวาหันเลิกแถวไป
พิธีประดบั ดาวดวงที่ 1 เมือ่ ลูกเสอื สอบไดว ิชาดาวดวงที่ 1 ครบแลว ใหทําพิธปี ระดบั ดาวดวงท่ี 1 ใหป ฏบิ ตั ิดังตอไปนี้ 1. กองลูกเสอื สาํ รองทาํ รูปวงกลมใหญ 2. ผูกํากับลกู เสือสาํ รองอยูกลางวงกลม มรี องผกู าํ กับยืนอยนู อกวงกลมหลงั ผกู ํากบั 3. หมวกทต่ี ิดดาวดวงท่ี 1 แลว อยทู ผี่ ูกาํ กับ 4. ผูกาํ กบั ประกาศใหกองรู จะกระทําพิธีประดบั ดาวดวงที่ 1 5. ผกู ํากับเรยี กลกู เสือทีจ่ ะไดด าวดวงที่ 1 มายืนหนาผกู าํ กับ ( ซ่งึ ขณะนน้ั ตางก็ยืนอยูในหมขู องตน ) 6. ผูกาํ กับอธิบายความหมายของดาวดวงท่ี 1 ใหลูกเสือทราบ ดาวดวงท่ี 1 “ เปรียบเสมือนลูกเสือ ไดล ืมตาขา งหนง่ึ ขึน้ แลว ซึ่งจะทําใหฉลาดข้ึน จึงขอใหเอาใจใส เรียนรูในสิ่งท่ีจะตองกระทําให ดีท่สี ุด ” และส่ังสอนลูกเสือ ฯ 7. ผกู ํากบั มอบเคร่ืองหมายใหลกู เสอื ลูกเสอื รับหมวกมาสวมเอง แลว ทาํ วนั ทยหัตถผ กู าํ กบั 8. ผกู ํากบั แสดงความยนิ ดดี ว ยการสัมผัสมอื กบั ลูกเสอื พธิ ีประดบั ดาวดวงที่ 2 เม่ือลูกเสือสอบไดวิชาดาวดวงที่ 2 ครบแลว ใหท าํ พิธีประดับดาวดวงท่ี 2 ใหป ฏบิ ัตดิ งั ตอไปนี้ 1. กองลูกเสือสํารองทํารูปวงกลมใหญ 2. ผูกํากับลูกเสอื สาํ รองอยกู ลางวงกลม มีรองผกู ํากับยนื อยูนอกวงกลมหลังผูก ํากับ 3. หมวกที่ตดิ ดาวดวงที่ 2 แลว อยทู ่ผี กู ํากับ 4. ลูกเสือที่จะไดรับดาวดวงท่ี 2 มายืนอยูตรงหนาผูกํากับในแถววงกลม ( แมจะมีหลายหมูหลายคนก็ใหมายืน อยรู วมกันหนาผกู าํ กบั ) 5. ผูกํากับอธิบายความหมายของดาวดวงที่ 2 ใหลูกเสือทราบ “ บัดนี้ตาท้ังสองขางไดลืมข้ึนอยางแจมใส เหมือนกับดาว สามารถที่มองเห็นอะไรโดยเร็วและแจมแจง เตรียมพรอมที่จะกระทําส่ิงท่ีพึงกระทํา ให มองไปรอบ ๆ และดูวาจะสามารถชวยเหลือผูอื่นไดอยางไร ตอไปจะไดเปนลูกเสือที่เกงและมีประโยชน ตอผหู น่ึง ใหห มนั่ ศึกษาหาความรูในวิชาพิเศษ ” 6. ผกู ํากับส่งั ใหล ูกเสือทป่ี ระดับดาวทบทวนคาํ ปฏิญาณอีกคร้ังหน่ึง โดยส่งั วา “ เพื่อเปนที่แนใจวา เจายังคงจํา คําปฏญิ าณของเจาได ขอใหเจาทบทวนคําปฏิญาณอีกคร้ังหน่ึง ” และลูกเสือกลาว คําปฏิญาณ โดยการทาํ วันทยหตั ถและกลาววา “ ขาสัญญาวา ” “ ขอ 1 ขาจะจงรกั ภักดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย ” “ ขอ 2 ขา จะยดึ มน่ั ในกฎของลกู เสือสาํ รองและบําเพญ็ ประโยชนตอ ผูอ ื่นทุกวัน” 7. ผกู ํากบั มอบหมวกใหล กู เสือ ลกู เสือรับไปสวม แลว ทาํ วนั ทยหัตถผูก ํากบั 8. ผูกํากับแสดงความยินดีดว ยการสมั ผัสมือกับลกู เสือ 9. ลกู เสือทีไ่ ดรบั ดาวดวงท่ี 2 กลบั หลังหนั วิง่ เขา ท่ีของตน ( แถวหนาผูกาํ กับไมใชหมูตน ) 10. กองลูกเสือแสดงความยินดีดวยการทําแกรนดฮาวล ลูกเสือท่ีไดรับดาวดวงท่ี 2 เปนผูรอง “ จงทําดี จงทําดี จงทําดี ” ( ถามีหลายคนก็ใหร อ งพรอมกันทัง้ หมด )
พธิ ีประดบั ดาวดวงท่ี 3 เมื่อลูกเสือสอบไดว ชิ าดาวดวงท่ี 3 ครบแลว ใหท ําพธิ ปี ระดับดาวดวงที่ 3 ใหปฏบิ ัตดิ งั ตอไปน้ี 1. จัดลกู เสอื ท่จี ะรบั ดาวดวงท่ี 3 ใหยืนอยูในแถววงกลมตดิ นายหมบู ริการทางดา นขวาตรงหนาผกู ํากบั 2. กองลกู เสอื สํารองทําแกรนดฮ าวล นายหมบู ริการเปนผูรอ ง “ จงทาํ ดี จงทําดี จงทําดี ” 3. หมวกทีต่ ิดดาวดวงที่ 1 , 2 และ 3 แลวอยทู ่ีผกู ํากับ 4. ผูก ํากบั เรียกลูกเสอื ทีจ่ ะรบั ดาวดวงที่ 3 ท้งั หมดมายนื ในวงกลมตรงหนา ผูกาํ กบั เปนแถวหนากระดานแถวละ ไมเ กนิ 6 คน 5. ผูกํากับอธิบายความหมายของดาวดวงท่ี 3 ใหลูกเสือทราบ “ บัดนี้ลูกเสือสํารองทุกคนก็ไดเติบโตและ เรยี นรเู ร่ืองราวของการที่จะเปนลูกเสือที่ดีแลว และเชื่อมั่นในตัวเองวาจะสามารถนําเอาความรูท่ีมีอยูทํา ประโยชนแกต นและผอู ืน่ ได ” และใหโอวาทสั่งสอนแลวสั่งใหลูกเสอื กลา วคําปฏญิ าณอีกครัง้ หน่ึง 6. ผูก าํ กบั มอบหมวกใหล ูกเสือ ลกู เสือรบั ไปสวมเองแลวทําความเคารพผกู าํ กับ ผูกาํ กับแสดงความยินดีดวยการ สัมผัสมอื กบั ลกู เสือ 7. ลกู เสอื ทีไ่ ดร บั ดาวดวงที่ 3 กลับหลังหนั วงิ่ เขาทขี่ องตน 8. ลกู เสอื ทกุ คนในแถววงกลม สมั ผัสมอื แสดงความยินดกี บั ลกู เสอื ที่ไดร ับดาวดวงที่ 3 ( ใหเวียนจากซา ยไปขวา ) 9. กองลกู เสอื สาํ รองทาํ แกรนดฮาวลแ สดงความยินดอี ีกครงั้ หน่ึง ใหลูกเสือที่ไดรับดาวดวงที่ 3 เปน ผู รอง “ จงทาํ ดี จงทําดี จงทําดี ” พรอม ๆ กัน
พิธสี งลูกเสือสํารองไปเปน ลูกเสอื สามญั พิธสี งลกู เสือสาํ รองไปเปนลูกเสอื สามัญ ใหป ฏบิ ตั ดิ งั ตอไปนี้ 1. กองลกู เสือสาํ รองจดั แถวเปน รูปวงกลมใหญ กองลกู เสือสามญั จัดแถวเปน รปู เกือกมา 2. ระหวางกองทัง้ สองมีการแบงเขตแดน ( อาจจะใชเชือก ไมพ ลองหรอื โรยปูนขาวไวก ็ได ) 3. กองลกู เสอื ทง้ั สองกองมีธงประจาํ กอง ปายคาํ ขวญั และอยูในแดนของตนใหรองผกู ํากบั เปนคนถือไว 4. กองลกู เสอื สาํ รองทําแกรนดฮาวล 5. ผูกาํ กบั ลกู เสือสํารองอธบิ ายความหมายของการทําพิธีสงลูกเสือ – เนตรนารี สํารองไปเปนลูกเสือ – เนตรนารี สามัญ ใหกองของตนทราบ “ การเขาไปเปนลูกเสอื สามัญนั้นเปนการผจญภัยอันย่ิงใหญ เสมือนไดทองเที่ยวไปในปาดงพงพี และตาก็จะมองเห็นส่ิงท่ีนาพิศวงหลายอยางและกําลังเดินไปสู ดินแดนของการเปนลูกเสือที่กวางขวางยิ่งขึ้นไปอีก จะตองใชหัวคิดและยืนดวยลําแขงของตนเอง จะตองบังคับตัวเอง ตองมีความมานะอดทนอยางแทจริงและสม่ําเสมอ จะไดเปนลูกเสือที่สามารถ และทําประโยชนไดอยางแทจริง หวังวาจะไมลืมเวลาที่ไดอยูกับกองลูกเสือสํารอง ตอไปในวันหนึ่ง ขางหนา ขอใหมีโอกาสกลับมายังกองลูกเสือสํารองอีก เพื่อชวยเหลือลูกเสือสํารองอ่ืน ๆ ใหลืมตา ในปา ดงพงพีเชน เดยี วกนั ” 6. ผูกํากับลูกเสือสํารองเรียกลูกเสือที่จะสงไปเปนลูกเสือสามัญ ออกมายืนหนาผูกํากับแลวใหทบทวน คําปฏิญาณอีกคร้ังหนึ่ง โดยสั่งวา “ เพ่ือเปนที่แนใจวา เจายังจําคําปฏิญาณของเจาได ขอใหเจา ทบทวนคําปฏิญาณอีกครั้งหนึ่ง ” และลูกเสือกลาว คําปฏิญาณ โดยการทําวันทยหัตถและกลาววา “ ขา สัญญาวา ” “ ขอ 1 ขา จะจงรักภกั ดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ” “ ขอ 2 ขา จะยดึ มน่ั ในกฎของลูกเสือสํารองและบําเพ็ญประโยชนต อผอู น่ื ทุกวัน” 7. ลกู เสือกลบั หลังหนั ไปร่ําลาลูกเสือเฉพาะในหมูของตน โดยการสัมผัสมือแลวกลับมายืนหนาผูกํากับ กองลูกเสอื สาํ รองเปลง เสยี ง “ ไชโย ” 3 ครง้ั 8. ผูกํากับลูกเสือสํารองสั่งเปด ทางเพือ่ นาํ ลกู เสือออกไปหาผกู ํากบั ลูกเสอื สามญั ที่เสนกน้ั แดน 9. ผูกํากับลูกเสือสํารองจะแนะนํา และฝากฝงลูกเสือสํารองกับผูกํากับลูกเสือสามัญ แลวนําลูกเสือ สาํ รองขามแดนไป ( ถาหากลูกเสอื สํารองผูใ ดไดร ับเคร่อื งหมายลกู เสือสัมพันธก ใ็ หกระโดดขาม ) 10. ผกู ํากับลูกเสอื สามญั นาํ ลูกเสือสาํ รองผูนน้ั ไปแนะนาํ ใหร จู ักนายหมทู ่ลี ูกเสอื จะเขา ไปอยู 11. นายหมลู กู เสือสามัญแนะนําใหล กู เสือสาํ รองรจู กั ลกู เสอื สามัญในหมูทต่ี นเขาไปอยนู ้นั 12. พิธีเสรจ็ สนิ้ ดวยการเปลง เสียงรองของลูกเสอื สามัญ หรือไชโย 3 ครั้ง
รายละเอยี ดของหลักสตู รลูกเสือสามัญ มหี ลักสตู รดังน้ี ******* ลักษณะเครอ่ื งหมาย ทําดวยผาสีกากี รูปโล ยาว 4 ซม. กวาง 2.5 ซม. มีรูปตราคณะลูกเสือแหงชาติสีแดง แตไมมีแถบคํา ขวญั และมคี าํ วา “ลกู เสอื ” สีแดงติดท่ีกงึ่ กลางกระเปาเสื้อขางซา ย หลกั สตู ร 1. ความรูเกี่ยวกับกระบวนการลกู เสือ 1.1 ประวตั ิสังเขปของลอรดเบเดน – โพเอลล 1.2 พระราชประวัตสิ ังเขป ของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา เจาอยหู วั 1.3 วิวฒั นาการของขบวนการลกู เสือไทยและลูกเสอื โลก 1.4 การทาํ ความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซาย และคติพจนของลกู เสอื 2. คําปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสามัญ เขา ใจและยอมรบั คําปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ 3. กจิ กรรมกลางแจง มีสวนรวมในกจิ กรรมของหมูหรือกองลกู เสอื นอกสถานที่ 4. ระเบยี บแถว 4.1 ทามอื เปลา 4.2 ทาถือไมพ ลอง 4.3 การใชส ญั ญาณมอื และนกหวีด 4.4 การตงั้ แถวและการเรยี กแถว ลักษณะเครอ่ื งหมาย ทําดวยผาสีกากี รูปไต ยาว 4.5 ซม. กวาง 2.5 ซม. มีคําวา “ลูกเสือ” สีเหลืองเหนือกรอบสีแดงใน กรอบสีแดงมคี าํ วา “เสยี ชีพอยาเสยี สัตย” สเี หลอื ง ตดิ ทแ่ี ขนเส้อื ขา งซา ย กง่ึ กลางไหลกับศอก
หลกั สตู ร 1. การรจู ักดแู ลตนเอง 1.1 บรรจสุ ง่ิ ของตาง ๆ ลงในเครือ่ งหลงั สาํ หรับการไปอยคู า ยพักแรมปลายสัปดาห 1.2 เตรยี มเครื่องปจ จบุ ันพยาบาลเปนสวนตัว สาํ หรับการเดนิ ทางไกล 1.3 กอ ไฟ ปรุงเคร่อื งดื่มรอ น ปรุงอาหารงา ย ๆ นอกสถานที่ 1.4 กางเตน็ ทสาํ หรบั พกั แรมในการเดนิ ทางใกล 1.5 ออกไปอยคู า ยพักแรมอยางนอยหนึ่งคนื 2. การชวยเหลือผูอืน่ 2.1 รูจักวิธีปฏิบตั ิตอบาดแผล แมลงสัตวกดั ตอย แดดเผา ไฟไหม นาํ้ รอนลวกและการเปน ลม 2.2 แสดงความสามารถในการชี้ทางใหแกคนตางถิ่น และมีความรูพอสมควรเก่ียวกับการบริการขนสง สาธารณะของทอ งถน่ิ ทห่ี นาสนใจหรือทสี่ ําคญั ของถองถ่ิน รวมท้ังตําบลท่ีอยูของแพทย สถานีตํารวจ สถานีดบั เพลงิ สถานทต่ี ้งั โทรศัพทสาธารณะและสถานที่ราชการตา ง ๆ 3. การเดินทางไกลไปยงั สถานทีต่ าง ๆ 3.1 รทู ิศ 8 ทศิ รวู ิธวี างแผนท่ีใหถกู ทิศทางและรจู ักการใชเข็มทิศ 3.2 แสดงวาเขาใจเร่ืองมาตราสวนเครื่องหมายตาง ๆ ท่ีใชกันเปนธรรมเนียมในการทําแผนท่ีโดยอธิบาย ประกอบเสนทางระยะสนั้ ท่ีกําหนดใหต ามแผนท่ี 3.3 เดินทางไกลไปกลับระยะทาง 10 กิโลเมตร กับเพ่ือนคนหน่ึงซ่ึงมีอายุรุนราวคราวเดียวกันและเม่ือ กลับมาแลวใหรายงานตอผูกํากับลูกเสือดวยวาจาถึงวัตถุประสงค ที่ไดกระทําสําเร็จในระหวางการ เดินทาง (เชน สเก็ตชภาพ หรอื ไดรบั ความรูพ เิ ศษเกย่ี วกับสถานทบี่ างแหงหรอื บุคคล) 3.4 แสดงวา รจู ักและเขา ใจกฎจราจรตลอดจนเคร่อื งหมายที่ใชในการจราจร 3.5 ศึกษาเร่ืองราวเก่ียวกับตางประเทศ 1 ประเทศ หาทางที่หนาสนใจในการที่จะเดินทางไปยัง ประเทศนนั้ และเลา ใหลูกเสอื ในหมขู องตนทราบถงึ สิง่ สําคัญตา ง ๆ ที่หวงั วา จะไดพบเห็นทีน่ ่ัน 4. ทกั ษะในทางวชิ าลกู เสอื 4.1 อธิบายถึงวิธีใชและเก็บรักษามีดและขวาน ใชมีดเหลาใหเปนสมอบกสําหรับขึงเต็นทหรือใหเปน เครื่องใชอ ยา งอื่น ๆ และใชขวานสาํ หรบั ผา ไมเพื่อเตรยี มกอ ไฟ 4.2 แสดงวิธผี ูกเง่ือน ซงึ่ เปนประโยชนใ นการอยูคายพกั แรม หรอื บนเรือ คอื ก. ผกู เงื่อนดว ยเชือกเสน เดียว หรือสองเสนที่มีขนาดเดียวกัน (Knots) เชน เง่ือนประมง เงื่อนผูก รน เงอ่ื นผกู คนลาก ข. ผูกเงื่อนดว ยเชือกท่มี ขี นาดตา งกนั (Bends) เชน เง่ือนขดั สมาธิ เง่ือนขัดสมาธิ 2 ชน้ั ค. ผูกเงื่อนดวยเชือกกับวัสดุอยางใดอยางหน่ึง (Hitches) เชน เงื่อนผูกซุง เง่ือนตะกรุดเบ็ด เงื่อน ผูกรั้ง ง. ผกู แนน (Lashings) เชน ผูกประกบ ผกู ทแยง ผกู กากบาท สาํ หรับเง่ือนตามขอ ก-ข-ค อยาง ละเงื่อน และตามขอ ง. ทั้ง 3 เงื่อน 4.3 แสดงความรูท ่ัวไปและสนใจลกั ษณะเกี่ยวกับอากาศ โดยเฉพาะทเ่ี ก่ียวกบั ทอ งถิน่ ตน 5. งานอดิเรกและเรอื่ งท่ีนาสนใจ แสดงใหหมูหรือกองลูกเสือของตัวเองเห็นวา ตนมีทักษะหรือสมรรถภาพพอสมควรในงานอดิเรก หรือเร่ืองทีส่ นใจสวนตัว เชน การขี่รถจักรยาน การวายนํ้า ธรรมชาติศึกษา เร่ืองราวเกี่ยวกับกาลอากาศ การรูจกั ชนิดของเคร่ืองบิน ดาว การข่ีมา การทําหุนจําลอง การสานตะกรา การสะสมแสตมป วรรณคดี การวาดภาพ การตกแตงบา น การสรางเครอื่ งรับวทิ ยุ การทําเคร่อื งไม เชน ประตูหนา ตางและบันได สงิ่ เหลา นี้เปนเพียงตวั อยา งเทานน้ั เร่ืองที่นา สนใจและงานอยา งอืน่ ยงั มีอกี มาก
6. คําปฏิญาณและกฎของลกู เสอื สนทนากบั นายหมขู องตนเกี่ยวกับความเจรญิ กาวหนาของตนในเรื่องวิชาลูกเสือ ตลอดจนการปฏิบัติ ตามคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ กับการวางแผนเพอ่ื การเจรญิ กา วหนาของตนในอนาคตดวย 7. ระเบียบแถว ทบทวนทาฝกตาง ๆ ที่กําหนดไวในหลักสูตรวิชาลูกเสือตรีและปฏิบัติตาม หนังสือคูมือการฝก ระเบียบแถวลูกเสือ ของสาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แหงชาติ ลักษณะเครือ่ งหมาย สี ทาํ ดวยผา สกี ากี รปู โล ยาว 5 ซม. มีรปู ตราคณะลกู เสือแหงชาติ สีแดงและมีคําวา “ ลูกเสือ ” เหลือง ตดิ ท่แี ขนเสือ้ ขา งซายกึ่งกลางไหลก ับศอก หลกั สูตร 1. การพงึ่ ตนเอง 1.1 นบั แตเ ขาเปน ลกู เสือสามญั ไดอยคู ายพกั แรมแลว ไมน อยกวา 12 คืน 1.2 วายน้ําไดระยะทาง 45 เมตร (ผูอํานวยการกอง กองลูกเสือ ผูอํานวยการกองลูกเสือจังหวัดหรือ ผูอาํ นวยการกองลกู เสืออําเภอ แลวแตกรณีอาจอนุมตั ิสอนวิชาอยางอื่นแทนได) 1.3 เขาใจถึงการรักษาตัว ซ่ึงจําเปนตองกระทํา รวมทั้งความรูเก่ียวการท่ีตองตรากตรําจากการเปล่ียนแปลงของ สภาวะอากาศ สาเหตุของการเจ็บปว ย การปอ งกันอาการ และการรักษาอยางทันทีทันใด กอนท่ีจะเร่ิมปฏิบัติกิจกรรม ซ่ึงมี การผจญภัย เชน การเลนเรือใบ การเดินขา มเนนิ เขา และการสํารวจน้ําเปนตน 1.4 รจู ักไฟ ดแู ลรักษาและระมัดระวังอนั ตรายอนั เน่งิ มาจากการนําสง่ิ ตอ ไปน้มี าใช ตะเกยี ง และเตาสมัยใหม ตะเกียงและเตาที่ใชส ูบ เชน ตะเกียงเจาพายุ และเตาฟู การใชไฟฟาหรือเครื่องมือที่ตองใชไฟฟาในชีวิตประจําวัน เชน พัดลม เตารีด เตาไฟฟา ตเู ย็น วทิ ยุ โทรทศั น เปนตน 1.5 ทาํ เรือ่ งตอไปนอี้ ยา งใดอยางหน่งึ ใหส าํ เร็จ • รูจักพิจารณา ในเมื่อจะเลือกสถานท่ีต้ังคายพักแรมและทํารายการอาหาร ( รวมทงั้ ปรมิ าณ ) สาํ หรับการอยูค ายพักแรมสองคนในวนั หยุดปลายสปั ดาห • ปรุงอาหาร 2 อยาง สาํ หรับ 2 คน 2. การบรกิ าร 2.1 สามารถใหคาํ ช้ีแจงอยางชัดเจนและส้ัน ในเมื่อติดตอขอความชวยเหลือจากรถพยาบาล ตํารวจ หรือ สถานีดับเพลิง กับรูจักวาควรปฏิบัติอยางไรในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินอยางอ่ืน รวมท้ังการชวยเหลือ เน่ืองจากไฟไหม การจมนํา้ การถกู ไฟฟา ชอ็ ตและแกสรั่ว 2.2 รูจักการปฐมพยาบาล สําหรับกรณีมีเลือดออกภายนอก และอาการช็อค รูวิธีที่ถูกตอง ใน การชว ยใหค นหายใจและรถู งึ อนั ตรายตา ง ๆ อนั เก่ียวของกบั การเคล่อื นยา ยคนเจบ็ ตลอดจนการรูจักการนําผูปวยเจ็บ สงโรงพยาบาล
3. การผจญภัย 3.1 เดินทางไกลดวยเทาหรือโดยทางเรือดวยความสามารถของตนเองเปนระยะทาง 20 กิโลเมตร หรือ โดยรถจักรยาน เปนระยะทาง 80 กิโลเมตร และไปอยูคายพักแรมคางคืนกับลูกเสือสามัญคนหนึ่งที่มีอายุรุนราว คราวเดยี วกนั แลวบนั ทกึ การรายงานโดยยอ และกลา วถงึ ส่ิงทนี่ าสนใจ 3.2 ใชเ ขม็ ทิศในทก่ี ลางแจง เพอ่ื ทําแบบฝก หดั งา ย ๆ เกยี่ วกับการหาทิศ 3.3 อธิบายระบบเสนชั้นความสูง (Countour System) กับสามารถแจงและหาตําแหนงท่ีต้ัง โดยอาศยั ระบบพกิ ัดกรดิ (Grid Reference) ในแผนทข่ี องกรมแผนทที่ หารได 3.4 เลอื กทาํ งานตอไปนใ้ี หสําเร็จ 2 อยา ง ก. เขารวมกับหมูหรือกองลูกเสือของตนในกิจกรรมกลางแจงโดยรวมกับลูกเสือหมูหน่ึงจากกองอ่ืน เชน การอยูค ายพักแรม การเดนิ ทางไกล การเลนในทก่ี วางหรือการเดนิ ทางสาํ รวจ ข. เดินทางตามลําพัง หรือกับเพ่ือนคนหนึ่งท่ีมีอายุรุนราวคราวเดียวกัน ไปยังสถานท่ีนาสนใจ หรือเดนิ ทางไกลระยะทางไมนอ ยกวา 40 กโิ ลเมตร และรายงานดวยวาจาโดยยอเกย่ี วกบั เหตุการณท เ่ี กิดขน้ึ ในวันนนั้ ค. พายเรอื น่ังคนเดยี ว เปน ระยะทาง 1600 เมตร หรอื ทําการแลนเรือใบขนาดเล็กรอบระยะทาง รปู สามเหลี่ยม หรือมีความเขาใจในระบบการผูกเชือกพันหลักใหแนน ( the belay system ) และไตลงตามเสน เชอื กจากทสี่ ูง ( abseil ) ระยะ 9 เมตร โดยถกู ตอ งตามวิธี ง. ในขณะที่ไปอยูคายพักแรมในตางประเทศใหใชเวลา 1 วันกับหมูของตน หรือกับลูกเสืออีกคน หนึ่งจากกองลูกเสือของตนหรือกองลูกเสือในทองถ่ิน เพ่ือสํารวจตําบลหรือหมูบานในทองถ่ินเม่ือกลับมาแลวให รายงานดว ยวาจาวาไดทาํ อะไร พบกบั ใครและมอี ะไรบางที่ไดเรียนรเู ก่ยี วกบั ชีวิตในทองถ่นิ 4. การผจญภยั 4.1 ทําโครงการบุกเบิก 1 โครงการใหสําเร็จโดยใชการผูกแนน ( Lashings ) ที่แตกตางกันอยางนอย 2 วิธี และ หรือ ใชร อกประกอบเชอื ก ( Blocks and tackle ) เรื่องนีโ้ ดยปกติควรจะทําเปน โครงการของหมู 4.2 แสดงวิธีผูกเง่ือนตางๆ 3 อยาง ที่มีประโยชนสําหรับชวยเหลือผูที่ตกอยูในอันตราย เชน เงื่อนบวง สายธนู เง่ือนบวงสายธนูสองช้ัน เง่ือนบวงสายธนูสามชั้น เงื่อนเกาอ้ีและวิธีผูกเชือกพันหลักใหแนน ( Belay Procedure ) ที่ถูกตอ ง 4.3 ปรุงอาหารแบบชาวปา และกนิ อาหารน้ัน กับทําท่พี ักแรมช่วั คราวและนอนพกั แรมในท่ีพักแรมนน้ั 4.4 รจู ักกฎแหงความปลอดภัยของการใชขวาน และรูจักวิธีการเก็บรักษา เลื่อยและขวานกับใชเล่ือยหรือ ขวานสาํ หรบั โคนตน ไม รดิ ก่ิงไม หรอื ตัดไมเ นือ้ ออน 4.5 เลือกทํางานตอไปน้ีใหสาํ เรจ็ 2 อยาง ก. จัดทําอนุรักษธรรมชาติ เกี่ยวกับนกหรือสัตวเล้ียง หรือทําการสะสมตัวอยางใบไมและดอกไม เปนเวลา 2 เดือน ข. จดั ทาํ สถติ ิกาลอากาศประจาํ วนั อยางงา ยเปนเวลา 1 เดือนหรือจัดทําสมุดหมายเหตุรายวันของ หมูลูกเสือเปนเวลา 2 เดอื น ค. ไปเยือนอาคารหรือสถานท่ีสําคัญแหงหน่ึงของทองถ่ินและเขียนรายงานพอสังเขป บรรยายถึง ประวัติและวัตถุประสงคของ อาคาร หรือสถานท่ีนั้น หรือนําสํารวจบริเวณเล็กๆ แหงหน่ึงในละแวกบานของตน เชน บรเิ วณสองฝง แมน้ํา หรือลาํ คลองระยะทาง 800 เมตร และแผนผังขนาดใหญแสดงส่ิงสําคัญตางๆ ในบริเวณ นัน้ ง. ไดร ับเครือ่ งหมายวิชาพิเศษลูกเสือสามัญอยางนอย 2 เคร่อื งหมาย จ. แสดงวา ตระหนักในความจําเปนของการอนุรักษธรรมชาติ โดยมีสวนรวมในโครงการอนุรักษ ธรรมชาติ 1 โครงการอยางจรงิ จัง 5. ระเบยี บแถว 5.1 ทบทวนทาฝกตางๆ ท่กี าํ หนดไวในหลักสูตรวชิ าลูกเสอื ตรี โท
ลูกเสือสามัญท่ีกําลังเรียนหลักสูตรลูกเสือโท ลูกเสือเอก อาจสอบวิชาพิเศษลูกเสือสามัญไดตามหลักสูตรท่ี กําหนดไว วิชาพิเศษเหลาน้ีมุงหมายใหลูกเสือสามัญไดแสดงออกซึ่งทักษะและความสนใจขอตนเอง กับเพ่ือใหไดมี สวนในการปฏิบตั กิ ิจกรรมรว มกับลกู เสอื อืน่ ๆ ดวย วิชาพเิ ศษลกู เสอื สามัญมี 54 วชิ า ดังตอไปน้ี เกณฑท จ่ี ะไดสายยงยศ 1. สอบไดลูกเสอื เอก 2. สอบไดว ชิ าพเิ ศษ 6 วิชา ซงึ่ มวี ิชาในขอ ก และขอ ข อยางนอยขอ ละ 1 วิชา • นักผจญภัยในปา นักสาํ รวจ นักบกุ เบกิ • ชาว คาย ผูประกอบอาหารในคาย นักธรรมชาติศึกษา นักดาราศาสตรเบื้องตน นักอุตนุ ยิ มวทิ ยาเบือ้ ตน
พธิ ีการตาง ๆ มดี ังนี้คอื 1. พิธีเขาประจํากอง หรือเรียกวาพิธีปฏิญาณตน เปนส่ิงจําเปนอยางยิ่งเพราะไดกระทํา พธิ เี ขาประจาํ กองแลว จงึ จะเปนลูกเสอื โดยสมบูรณไ ด เดก็ ตอ งเรียนวิชาลูกเสือตรี และทดสอบวิชาลูกเสือตรีไดแลว จึงจะทําพิธีเขาประกองพิธีเขาประจํากองเปน หนาท่ีของกองลูกเสอื ตา งกองตางจดั ทํากนั เอง 2. พธิ สี ง ลูกเสอื สามญั ไปเปนลูกเสอื สามัญรุน ใหญนั้น หากลกู เสือ ผนู น้ั เคยเปนลกู เสือสามัญมาแลว แมมีอายุ ที่จะเปนลูกเสือสามัญรุนใหญได (อายุอยางนอย 12 ป 6 เดือน ถึง18 ปบริบูรณ )ก็ควรทําพิธีสงไปเปนลูกเสือสามัญ รนุ ใหญเ สยี แตถาไมส ะดวกดวยประการใดๆก็ดอี าจจะไมทาํ ก็ได แตถาเด็กไมเคยเปนลูกเสือสามัญมากอน ก็ไมตองทําพิธีสงลูกเสือสามัญไปเปนลูกเสือสามัญรุนใหญ คงจะ เขาประจํากองอยางเดียว 3. พธิ ีรบั ลูกเสอื สาํ รองมาเปนลูกเสอื สามญั เมอ่ื ลูกเสือสาํ รองมคี วามประสงคท่ีจะทําพิธีสงมาเปนลูกเสือสามัญ และมีอายุที่จะเปนลูกเสือสามัญ ( อายุอยางนอย 10 ป 6 เดือน - 17 ปบริบูรณ ) ก็ควรจัดทําใหเขา แตถาโอกาสไม อาํ นวยจะไมท าํ ก็ได 4. พธิ เี ปด ประชุมกอง กอ นจะสอนทกุ คร้ังควรมพี ิธีเปดประชมุ กอง และเมอ่ื สอนเสรจ็ ก็ควรมีพธิ ีปด ประชมุ กอง 1. พธิ ีเขา ประกองลูกเสือสามญั พิธเี ขาประจํากองลกู เสือ หรอื เรยี กวาพธิ ีปฏิญาณตน ใหปฏิบัติดงั ตอ ไปนี้ 1. จดั ลกู เสอื เกา ( คือลกู เสือที่ไดป ฏญิ าณตนแลว ) อยา งนอย 6 คน เปนผแู ทนคณะลูกเสอื แหง ชาติเขา แถวหนากระดาน และลูกเสอื ใหม ( คือลูกเสือทจี่ ะปฏญิ าณตน ) เขาแถวหนากระดานเหมือนกันอยู หลงั ลกู เสอื เกา ( ลูกเสือเกาและลกู เสอื ใหมมีพลอง ) 2. ผูกํากับยืนอยูหนาแถว มีรองผูกํากับยืนอยูดานขวามือของผูกํากับเพื่อรับฝากพลองกับหมวกของ ลูกเสือใหม 3. ผูกํากับเรียกลูกเสือใหม ( สมมติวาลูกเสือใหมช่ือ นายแดง รักไทย ) วา“ นายแดง รักไทย ” ( ถานายแดง รักไทย เคยเปนลกู เสือสาํ รองมากอนกใ็ หเ รียกวา “ลูกเสือแดง รักไทย ” นายหมูท่ีอยูหัวแถวลูกเสือผู น้ันกาวออกมาขางหนา 1 กาว ทําวันทยาวุธ พรอมกับขานวา “ มาแลว ” และใหนายหมูเรียกชื่อซ้ําอีกวา “ นายแดง รกั ไทย ” ขานรับวา “ อยู ” แลวว่ิงออกมามอบพลองกับหมวกไวท่ีรองผูกํากับ ( เวลาวิ่งใหว่ิงหนาแถว หมขู องตนไปทางดา นซายของแถว ) แลว ไปยืนหนา ผูกํากับเปน แถวหนากระดานทีละคนจนหมดหมู ( ครั้งหน่ึงไมควร เกิน 8 คน ) เมื่อหมดคนในหมแู ลว ใหนายหมวู ง่ิ ไปอยูห วั แถว 4. ผกู ํากับเรม่ิ ทําการสอบถามดงั นี้ ผูกํากับ “ เจา เขาใจหรือไมว า คํามนั่ สญั ญาของเจาคืออะไร ” ลกู เสือใหม “ เขาใจแลว คอื ขาสญั ญาวา จะทาํ อยางไรแลวตอ งทําเหมอื นปากพูดทุกอยาง ” ผูกาํ กบั “ ถา เชนนัน้ จะใหเชื่อไดห รือไมว า ขอ 1 เจา จะจงรักภกั ดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย ขอ 2 เจา จะชวยเหลอื ผูอื่นทกุ เม่ือ ขอ 3 เจาจะปฏบิ ัตติ ามกฎของลูกเสือ ” ลูกเสอื ใหม แสดงรหสั “ ดวยเกยี รตขิ องขา ฯ ขา สัญญาวา ขอ 1 ขา จะจงรักภกั ดีตอชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ขอ 2 ขาจะชว ยเหลอื ผอู นื่ ทุกเมื่อ ขอ 3 ขา จะปฏิบัติตามกฎของลกู เสือ ”
( ขณะท่ลี กู เสอื ใหมก ลา วคําปฏิญาณนี้ ลูกเสือเกาและลูกเสือใหมท่ีไดปฏิญาณตนแลว ยกพลองมาวางไวก่ึงกลางระหวางเทาท้ังสอง พลองสวนบนพิงแขนซายซึ่งงอเปนมุม ฉากรอรับอยู ) แลวแสดงรหัส( ผูบังคับบัญชาลูกเสือและลูกเสือที่อยูบริเวณน้ันแสดง รหัสดวย ) ผกู าํ กบั “ เจาจงรักษาคาํ ม่ันสญั ญาของเจาไวใหมน่ั ตอ ไป บดั นี้เจา ไดเ ขา เปน ลูกเสอื สามัญ แลวและเปนสมาชิกผหู นึ่งของคณะลกู เสอื แหงโลกอันยง่ิ ใหญแ ลว ” 5. เมื่อส้ินคําผูกาํ กับในขอ 4 ใหรองผูกํากบั นาํ พลองและหมวกไปมอบใหล กู เสือใหม 6. เ ม่ื อ ลู ก เ สื อ ใ ห ม รั บ พ ล อ ง แ ล ะ ห ม ว ก เ รี ย บ ร อ ย แ ล ว น า ย ห มู ส่ั ง ว า “ ลู ก เ สื อ ใ ห ม กลบั หลังหนั ” แลวนายหมูสั่งตอ “ลูกเสือใหมทําความเคารพลูกเสือเกา วันทยาวุธ” ท้ังลูกเสือใหมและลูกเสือเกา ทําวันทยาวธุ พรอมกัน นายหมูส ัง่ “เรยี บ - อาวธุ ” เม่ือทกุ คนเรยี บอาวุธแลว 7. ผกู าํ กับสง่ั “ ลูกเสือใหมเ ขา ประจําหมู – ว่ิง ” ใหน ายหมลู ูกเสอื ใหมว ง่ิ เขาประจําท่ี ( ทเ่ี ดิม ) 8. เม่ือทกุ คนไดท ําพิธปี ฏญิ าณตนหมดแลว ผกู ํากบั จดั ใหแ ถวหนั หนา ไปทางกรุงเทพมหานคร ถาอยูใน กรุงเทพ ฯ ใหห ันหนา ไปทางพระบรมมหาราชวัง ผูก ํากับวิ่งไปอยูหนาแถวแลวส่ังวา “ ลูกเสือ ถวายความเคารพแด องคพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว – วนั ทยาวธุ ” ลกู เสอื ทกุ คนทําวันทยาวธุ ผูก าํ กับกลาวนาํ “พระบาทสมเด็จพระ เจาอยูหัว ทรงพระเจริญ” ใหลูกเสือทุกคนในที่นั้นรับ“ ไชโย ” พรอมกัน 3 คร้ัง แลวจึงสั่ง “ เรียบ – อาวุธ ” และสัง่ แถวลกู เสือกลับทเ่ี ดิม แลวจึงสัง่ เลิกแถว ………………….เสรจ็ พิธ…ี ……………… พธิ สี ง ตวั ลูกเสือสามัญไปเปนลูกเสือสามัญรนุ ใหญ ใหปฏิบัติดงั ตอ ไปนี้ 1 จัดลูกเสอื ใหเขา แถวรูปครึง่ วงกลม 2 วง - ลูกเสือสามัญวงหนึง่ - ลกู เสือสามญั รนุ ใหญว งหนงึ่ หนั หนา เขาหากนั ระยะหางพอสมควร - ตรงกลางระหวางแดนทั้งสองนั้นจะมี 1 ผกู าํ กับกลมุ 2 ผูกํากบั ลกู เสอื สามัญ 3 ผกู ํากับลูกเสือสามัญรุนใหญย ืนอยู ถาไมมีผกู ํากบั ลูกเสือสามัญรุนใหญ จะให รอง ผกู ํากบั ลกู เสือสามญั รนุ ใหญแทนก็ได 4 และมีนายหมลู กู เสือสามัญรุนใหญท จ่ี ะรับตัวลูกเสือใหมย ืนอยดู วย 5 จะจัดใหมีธงประจํากองลูกเสือสามัญและธงประจํากองของลูกเสือสามัญรุนใหญอยูทางแดนของ ตนกไ็ ด 2 ผูกํากับลูกเสือสามัญนําลูกเสือที่จะมอบตัวเปนลูกเสือสามัญรุนใหญ มายืนอยูตรงหนาผูกํากับลูกเสือ สามญั รนุ ใหญแ ลว กลา ววา 1 ขานํา...(ออกนามลูกเสือ)...ซ่ึงไดเปนลูกเสือสามัญมาหลายปแลว มามอบใหอยูในกองลูกเสือ สามัญรนุ ใหญ ทานจะรับไวไดห รอื ไม 2 ผกู าํ กบั ลูกเสอื สามญั รนุ ใหญตอบวา “ขา พรอ มท่จี ะรับ...(ออกนามลูกเสอื )…ไวในกองลูกเสือสามัญ รุนใหญ” แลวหันไปพูดกับลูกเสือใหมวา “ขณะนี้เจามีอายุท่ีจะเปนลูกเสือสามัญรุนใหญแลว เจาเต็มใจที่จะเปน ลูกเสือสามัญรนุ ใหญใ นกองของเราหรอื ” ลูกเสอื ใหม ตอบวา “ ขา เต็มใจ ”
3 ผูกํากับกลุมพูดกับลูกเสือใหมวา “ การที่เจาจะเปนลูกเสือสามัญรุนใหญนั้น เจามีหนาท่ีสําคัญ อีกข้นั หน่ึงที่จะตอ งปฏบิ ัตติ อไป ขา ไดเหน็ ผลงานอันดที เ่ี จาไดปฏิบัติมาแลว และภูมิใจที่จะเห็นความสําเร็จของเจาใน กจิ การลูกเสอื สามญั รุนใหญในอนาคต” 4 ผูกํากับลูกเสือสามัญรุนใหญพูดกับลูกเสือใหมวา “ในนามของลูกเสือสามัญรุนใหญ ขายินดีรับ เจาไวในกองของเรา ” เมื่อผูกํากับลูกเสือสามัญรุนใหญกลาวจบแลว สัมผัสมือลูกเสือใหมแลวนําลูกเสือใหมไปมอบตัวให นายหมู นายหมูนําลูกเสือใหมไปยังหมูของตน อาจจะพาไปแนะนําสมาชิกภายในหมูใหทราบทุกคน แลวใหไปอยูติด กับรองนายหมูเพ่อื ใหรองนายหมชู ว ยฝก อบรม ขอ บังคับคณะลูกเสือแหงชาติ วาดวยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือสามัญรุนใหญ ( ฉบับท่ี 14 ) พ.ศ. 2528 บงั คับใชตง้ั แตว นั ที่ 1 กรกฎาคม 2528 1. การเขา เปน ลกู เสอื สามัญรนุ ใหญ เด็กชายท่ีมีอายุ 14 – 18 ป หรือยูในช้ันมัธยมศึกษาโดยเฉพาะเด็กหญิง ใหสมัครเปนเนตรนารีสามัญ รนุ ใหญและในขอบังคบั ที่ทุกแหงที่มีคาํ วาลกู เสอื สามัญรนุ ใหญ หมายความรวมถงึ เนตรนารีสามญั รนุ ใหญดว ย 2. กองลกู เสือสามัญรนุ ใหญ ประกอบดว ยหมูลกู เสอื 2 – 6 หมู หมทู ีห่ นึง่ มี 4 ถงึ 8 คน ถา มี 4 กองขน้ึ ไปจดั เปนกลุมได 3. ผกู าํ กบั และรองผกู ํากบั ผูกํากับมีอายุไมตํ่ากวา 23 ป รองผูกํากับมีอายุไมต่ํากวา 21ป ผูกํากับตองผานการอบรอยางนอยข้ัน ความรูเบื้องตน 4. คณะกรรมการดาํ เนนิ งานของกอง ประกอบดวยหัวหนา นายหมูและนายหมูเปน กรรมการฝา ยตา งๆ 5. การฝก อบรมลกู เสือสามญั รนุ ใหญ ผทู ี่เปน ลูกเสือสามัญรนุ ใหญ จะตองพยายามฝก อบรมตนเองเพื่อรับเครื่องหมายตาง ๆดงั ตอ ไปน้ี 1. เครือ่ งหมายลกู เสือโลก 2. เครื่องหมายลกู เสอื ชัน้ พิเศษ 3. เครื่องหมายลกู เสือหลวง 4. เคร่อื งหมายวชิ าพเิ ศษ 5. เครือ่ งหมายผูฝก สอน
การสอนวิชา ลูกเสือสามัญรุนใหญทุกวิชา ใหหัวหนาสถานศึกษา หรือ สโมสรลูกเสือเปนผูดําเนินการสอบ โดยแตงตั้งคณะกรรมการผูทรงคุณวุฒิเปนคณะกรรมการสอบ เมื่อสอบเสร็จแลวใหรายงานเลขาธิการคณะ กรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ หรือผูอํานวยการลูกเสือจังหวัดแลวแตกรณีเพ่ือพิจารณาอนุมัติประดับเครื่องหมาย นนั้ ๆ 1. เครื่องหมายลูกเสอื โลก เปน วงกกลมขนาดเสน ผา ศนู ยกลาง 4.3 เซนตเิ มตร มตี ราหวั ลูกศรสีขาวบนพื้นสีมวง เมื่อทําพิธีเขาประจํากอง แลว ติดท่กี ่ึงกลางทีก่ ระเปา เส้ือขางซา ย มีหวั ขอ รายวชิ า ดังนี้ 1. เขา ใจเรอื่ งราวตอไปน้ีพอสมควร 1.1 กจิ การลกู เสอื แหง ชาติ 1.2 กจิ การคณะลูกเสือโลก ความสัมพนั ธลกู เสอื นานาชาติ 1.3 บทบาทตนเองในฐานะลกู เสอื สามญั รุนใหญ 2. ยอมรบั และปฏิบตั ติ ามคาํ ปฏิญาณและกฎของลกู เสือ 3. เขาใจระเบียบแถวตามคูมือระเบยี บแถว 4. กางและรือ้ เตนทท พ่ี ักแรมกับเพือ่ นลูกเสือสามญั รุน ใหญอีกคนหนึง่ 5. สาธติ การบรรจุเครื่องหลงั อยา งถกู ตอ งสําหรับการเดนิ ทางแรมคืน 6. กอ กองไฟกลางแจงแลวปรุงอาหารสาํ หรับ 2 คน 7. สามารถอา นและใชแ ผนที่ เข็มทศิ และรจู ักบรเิ วณท่ตี นอยู 8. สามารถผกู เงื่อน 10 เง่อื น ( พิรอด ขัดสมาธิ กระหวัดไม บวงสายธนู ตะกรุดเบ็ด ประมง ผูกซุง ผูกร้ัง ปมตาไก ผูกแนน ( กากบาท / ผกู ทะแยง / ผูกประกบ ) 9. วิธกี ารปฐมพยาบาลในเรอ่ื ง บาดแผลธรรมดา ไฟไหมน้ํารอนลวก เปนลม งูกัด แมงมุมกัดแมลงกัดตอย ผวิ หนงั ถลอกและเทา แผลง 10. เร่อื งทพี่ ึงระวังเพ่อื ความปลอดภยั ท่ัวไปเกยี่ วกบั กจิ กรรมของลกู เสือสามัญรนุ ใหญ หมายเหตุ เพื่อสงเสริมใหเด็กไดเปนลูกเสือสามัญรุนใหญโดยสมบูรณ จึงควรเรงรัดใหจบภายใน 6 เดอื น ( ภาคเรยี นท่ี 1 ) ตามขอบังคบั คณะลกู เสือแหง ชาติ กองลูกเสือในโรงเรียน เม่ือถึงภาคเรียนที่ 2 ของปท่ี 1 (ช้ัน ม.1)น้ัน ควรเลือกวิชาพิเศษมาสอน อีก 2 – 3 วิชา และวิชาพิเศษท่ีจะสอนนั้น ควรสอดคลองใกลเคียงกับหลักสูตรวิชาลูกเสือขั้นพิเศษ หรือ วิชา เคร่อื งหมายสายยงยศ เชน 1. นกั ดาราศาสตร 2. นกั อุตุนยิ มวิทยา 3. การจัดการคายพักแรม 4. ผพู ทิ ักษปา 5. นกั เดินทางไกล 6. หวั หนา คนครัว 7. นักบุกเบิก 8. นักสะกดรอย 9. นักธรรมชาติวิทยา 2. เครอ่ื งหมายสายยงยศลูกเสือสามัญรุนใหญ ลกู เสือทจี่ ะประดับสายยงยศได จะตอง 1. สอบไดเ คร่ืองหมายลกู เสือโลกมาแลว 2. สอบไดวิชาพเิ ศษ “นกั ผจญภัย” 3. สอบไดว ชิ าพเิ ศษอืน่ ที่กลา วแลว อยา งนอ ย 2 วชิ า 4. ตอ งถักสายยงยศ (สายหนงั ) ไดด ว ยตนเอง ขอ สังเกต ในภาคเรียนท่ี 2 ของภาคเรียนท่ี 1 (ช้ัน ม.1) อาจมุงจัดใหลูกเสือไดรับสายยงยศไดโดยเพิ่มวิชานักผจญ ภยั ขึน้ อกี 1 วชิ า
3. วิชาเคร่อื งหมายลกู เสือชั้นพิเศษ ตดิ ทก่ี ่ึงกลางกระเปา เส้ือขา งขวา เครื่องหมายนี้ มีวิชาพื้นฐาน 6 วชิ า เชนเดียวกับวิชาเครอ่ื งหมายลูกเสอื หลวง 1. หนาทีพ่ ลเมอื ง 2. สงิ่ แวดลอม 3. การเดินทางสํารวจ 4. การแสดงออกทางศลิ ปะ 5. บรกิ าร 6. ความคดิ รเิ ร่มิ เกณฑที่จะไดร บั เครอื่ งหมายลกู เสือชน้ั พเิ ศษ 1. ไดร บั เคร่อื งหมายลูกเสอื โลกมาแลว 2. สอบวิชาพ้ืนฐานได 5 วิชา โดยจะตองไดวิชาการเดินทางสํารวจ และวิชาบริการและวิชาอ่ืนอีก 3 วิชา ซึ่งลกู เสอื เปน ผเู ลอื ก 3. ผานการฝกอบรมวิชาความคดิ ริเริ่ม ซ่ึงตอ งเดินทางไกลไปพักแรม ณ ทองถ่ินที่ลูกเสือไมเคยไปโดยไปพัก แรม 1 คนื กบั เพื่อนอีก 3 คน แบง เปนชุด ๆ ละ 4 คน การเดินทางไกลท่ีกลาวน้ี ตองมีระยะทางอยางนอย 8 กิโลเมตร ผานเหตุการณสมมติอยางนอย 5 อยาง เชน ชวยเหลอื ผูประสบภัยหรือมีผูติดอยูในท่ีสูง การใชเข็มทิศ การปฏิบัติงานในเวลากลางคืนการแปลรหัส เหตุฉุกเฉินทางน้ํา ฯลฯ และสถานการณดังกลาวใหเวนระยะหางกันพอสมควรและลูกเสือจําเปนตองมีความรูในเรื่อง แผนท่ีและเข็มทิศ การฝกอบรมความคิดริเริ่ม ตองมีลักษณะเปนการทดสอบอยางจริงจังในเร่ืองความต้ังใจ ความคิด รเิ รม่ิ และการพ่ึงตนเอง 4. คณะกรรมการดาํ เนนิ งานของกองและผูกํากบั เหน็ วาเปน ผูท สี่ มควรไดร บั เครือ่ งหมายลูกเสือชัน้ พิเศษ 5. ตองไดรับอนุมัติจากผูอํานวยการลูกเสือจังหวัด หรือเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ แลว แตก รณี หมายความวา การเรียนการสอน การฝกอบรมน้ัน ผูกํากับดําเนินการ แตการสอบจะตองแตงต้ัง คณะกรรมการ การรายงานผล การอนุมัติจะตองผานความเห็นชอบของผูกํากับ และคณะกรรมการดําเนินงานกอง กอ น ไมเหมอื นเครื่องหมายลกู เสอื โลก ขอสังเกต ลูกเสือสามัญรุนใหญ ปท่ี 2 (ม.2) ควรจัดสอนใหไดรับเคร่ืองหมายน้ีและควรจัดสอนวิชาพิเศษ “นักผจญภัย” ไปพรอมกันกับการฝกอบรม ความคิดริเร่ิมสรางสรรค เพราะหลักสูตรคลายกันมาก เมื่อลูกเสือไดรับ เครื่องหมายลูกเสือช้นั พเิ ศษ ก็จะไดป ระดบั สายยงยศไปดวย วิชาเครอื่ งหมายลูกเสือหลวง ติดท่กี ง่ึ กลางกระเปา เส้อื ขา งขวาแทนที่ลกู เสือช้นั พเิ ศษ เครอ่ื งหมายน้ี มีวชิ าพนื้ ฐาน 6 วิชา เหมอื น “ ลูกเสือชั้นพิเศษ ” แตม าตรฐานวิชาสงู กวา เกณฑที่จะไดร ับเคร่ืองหมายลกู เสือหลวง 1. สอบไดเ คร่ืองหมายลูกเสือชัน้ พิเศษ 2. สอบไดว ิชาพื้นฐานในระดบั ลูกเสือชัน้ พเิ ศษ 3 วิชา ซึ่งไมซํ้าวิชาในเครือ่ งหมายช้นั พิเศษทีไ่ ดรบั มาแลว 3. วิชาบริการและวิชาพื้นฐานอกี 3 วิชาในระดับลูกเสือหลวง 4. ผานการฝก อบรมวิชาการเปน ผูนาํ ตามหลักสตู ร 5. ผูก ํากับและคณะกรรมการดําเนนิ งานกอง เหน็ วา เปนผูท่ีปฎิบัติตนเปนตัวอยางท่ีดีตามวิธีการของลูกเสือและ สมควรไดร ับเครือ่ งหมายลกู เสอื หลวง
6. ผูอํานวยการลูกเสือจังหวัด หรือเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติแลวแตกรณี แตงต้ังบุคคลท่ี เหมาะสมสมั ภาษณเ มอ่ื เหน็ สมควร จะรายงานตอไปตามลําดับจนถึงคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติแลว ประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแหงชาติ (รัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการ) เปนผูลงนามใน ประกาศนียบตั ร แสดงวา เปน ผูไดรับเครือ่ งหมายลกู เสอื หลวง ขอ สงั เกต ลูกเสือสามัญรุนใหญปท่ี 3 (ม.3) ควรจัดสอนและสอบใหไดเครื่องหมายนี้ พรอมกับจัดสอบวิชา พิเศษท่ีมีลักษณะใกลเคียงกับหลักสูตรเพ่ือที่จะใหลูกเสือไดรับเครื่องหมายวิชาพิเศษท้ังส้ิน ไมนอยกวา 8 วิชา เพื่อ สิทธิบางอยา งของลกู เสอื ดว ย เหลา่ เสนา เหล่าสมทุ ร เหล่าอากาศ สายยงยศ เคร่ืองหมายชาวเรือ เครื่องหมายการบิน - ไดเ้ คร่ืองหมายลูกเสือโลก..หรือ - ไดเ้ คร่ืองหมายลกู เสือเอก..หรือ - ไดเ้ ครื่องหมายลกู เสือเอก..หรือ สอบไดเ้ ครื่องหมายลูกเสือโลกแลว้ สอบไดเ้ คร่ืองหมายลกู เสือโลกแลว้ สอบไดเ้ ครื่องหมายลูกเสือโลกแลว้ - สอบไดว้ ชิ านกั ผจญภยั และวชิ า - สอบไดว้ ชิ านกั ผจญภยั และวชิ า - สอบไดว้ ชิ านกั ผจญภยั และวชิ า ตอ่ ไปอีก 2 วชิ า ต่อไปอีก 2 วชิ า ตอ่ ไปอีก 2 วชิ า 1. นกั ดาราศาสตร์ 1. ตน้ เด่น 1. ช่างอากาศ 2. นกั อตุ นุ ิยมวทิ ยา 2. นายทา้ ยเรือเลก็ 2. นกั เคร่ืองบินเลก็ 3. ผจู้ ดั การคา่ ย 3. ชาวประมง 3. นกั เดินทางไกล 4. ผพู้ ิทกั ษป์ ่ า 4. นกั ธรรมชาติวทิ ยา 4. นกั อตุ นุ ิยมวทิ ยา 5. นกั เดินทางไกล 5. หวั หนา้ คนครัว 5. นกั ธรรมชาติวทิ ยา 6. หวั หนา้ คนครัว 6. นกั อตุ นุ ิยมวทิ ยา 6. นกั ดาราศาสตร์ 7. นกั บุกเบิก 7. นกั ดาราศาสตร์ 7. วชิ าช่างอากาศเป็ นวชิ าบงั คบั 8. นกั สะกดรอย 8. นกั พายเรือ 9. นกั ธรรมชาติวทิ ยา เป็ นวชิ าบงั คบั ใหเ้ ลือกสอบเพียงวชิ าเดียว เครื่องหมายผฝู้ ึ กสอน เครื่องหมายลูกเสือช้นั พเิ ศษ เครื่องหมายลกู เสือหลวง
เครือ่ งหมายสายยงยศลกู เสือสามัญรนุ ใหญ หลกั สูตร 1. ไดเ คร่อื งหมายลกู เสอื เอกหรือลูกเสอื โลกมาแลว 2. สอบไดว ิชานกั ผจญภัย และวิชาตอ ไปน้ี 2 วชิ า คือนักดาราศาสตร นักอตุ นุ ยิ มวิทยา ผูจัดคายพักแรม ผูพิทักษปา นักเดินทางไกล หัวหนาคนครัว นักบุกเบิก นักสะกดรอย นักธรรมชาติวทิ ยา 3. ตอ งถกั สายหนงั สายยงยศดว ยตนเอง การสอนวชิ าพิเศษลูกเสือทั้งหมดน้ี จะตองดูกรรมการสอบและรายงานทุกกรณี
7. หลกั สูตรวชิ าพเิ ศษ “ เครื่องหมายชาวเรอื ” เปนหลักสูตรของลกู เสอื สามัญรนุ ใหญเ หลา สมุทร จะตองสอบไดดงั น้ี 1. ไดรับเคร่ืองหมายลูกเสือโลกแลว 2. สอบไดเ ครือ่ งหมายตนเดน หรอื นายทายเรอื เลก็ อยา งใดอยา งหนงึ่ 3. สอบไดเ ครือ่ งหมายชาวประมง นกั ธรรมชาตวิ ทิ ยา หวั หนา คนครวั นักอุตุนิยมวทิ ยา นัก ดาราศาสตร นกั พายเรือ อยางใดอยา งหน่งึ อีก 1 วชิ า 8. หลักสูตรวชิ าพิเศษ “ เครอื่ งหมายการบิน ” เปน หลักสตู รของลูกเสอื สามญั รุน ใหญเ หลาอากาศ จะตอ งสอบไดด ังน้ี 1. ไดรับเครือ่ งหมายลกู เสอื โลกแลว 2. สอบไดเครอ่ื งหมายชา งอากาศ 3. สอบไดเคร่อื งหมาย นักเครื่องบนิ เล็ก นักเดนิ ทางไกล นกั อุตนุ ิยมวิทยา นักธรรมชาติวิทยาหรืออยางใด อยางหน่งึ อีก 1 วิชา 9. เครือ่ งหมายผฝู ก สอน เปนเครือ่ งหมายสําหรบั ลกู เสอื สามญั รนุ ใหญ ทุกเหลาจะตองมคี ุณสมบัติดงั น้ี 1. เครอื่ งหมายสายยงยศ หรือ เคร่ืองหมายชาวเรอื หรอื เครอื่ งหมายการบนิ 2. แสดงใหเห็นวา มีลักษณะเปนผูนํา มีความปรารถนาที่จะนําเอาคุณสมบัติท่ีมีอยู พรอมดวย วชิ าความรูในวิชาการลกู เสือไปใชเปน ประโยชนแ กล ูกเสือ สํารองหรือสามัญ 3. ตองไดผานการทดลองปฏิบัติหนาที่เปนผูฝกสอน ในกองลูกเสือสํารอง หรือกองลูกเสือสามัญเปนเวลา 1 เดือนและเตรยี มพรอ มที่จะปฏบิ ตั ิหนา ที่ตอ ไป ผกู าํ กับกลมุ และผกู าํ กบั ลูกเสือสาํ รอง หรอื ผูกํากบั ลกู เสอื สามญั รับรองวา เปนผทู ี่จะทาํ การฝกสอนได 4. กรณีท่ฝี ก สอนในกองลูกเสือสํารองตอ งแสดงใหป ระจกั ษว า 1 เปนผูมีความรูและความสามารถในการสอนดวงดาวที่ 1 – 2 – 3 และเคร่ืองหมาย วชิ าพิเศษอีก 2 วิชา 2 มีความรตู ามหนงั สือคูมอื ลูกเสือสาํ รองตามสมควร 3 รูจกั หนา ท่ีของผูกาํ กบั ลูกเสือสํารองและผูบังคับบัญชาลูกเสือสํารองอื่น ๆ และรูถึงความแตกตาง ของวิธกี ารฝก อบรมของลกู เสอื สาํ รองและวิธกี ารฝก อบรมของลกู เสอื สามัญ 5. ในกรณที ฝ่ี ก สอนในกองลูกเสือสามัญ จะตองแสดงใหป ระจกั ษวา 1. เปน ผูม ีความรูและความสามารถ ในการสอนวิชาลกู เสือเอก และวิชาพเิ ศษลูกเสอื สามญั อีก 2 วิชา 2. มีความรตู ามหนังสอื การลูกเสอื สาํ หรบั เดก็ ชายพอสมควร 3. รูจักหนา ทผี่ ูกํากับลูกเสือสามัญ และผูบังคบั บัญชาลกู เสืออื่น ๆ ทป่ี ระชุมนายหมูต ลอดจนเขาใจระบบ หมู 10. ขอ เสนอแนะการจัดการเรยี นการสอนลกู เสือสามัญรุนใหญ ชั้น ม.1 – 2 – 3 จัดสอนตามหลักสูตรและคูมือของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ มาตรฐานอาจไมถึงช้ันไดรับ เคร่ืองหมายลูกเสือช้ันพิเศษ และเคร่ืองหมายลูกเสือหลวง ผลการเรียนถือวา “ ผาน ” กิจกรรม หากมีเวลาเรียน รอยละ 80 แตควรมุงเนน ใหไ ดร บั เคร่ืองหมายวชิ าพิเศษไมน อ ยกวา 8 วชิ า เพ่ือสิทธิพิเศษการเรียนวิชาทหาร พรอมกัน น้ันก็มุงไปที่เคร่ืองหมายสายยงยศ ( เหลาเสนา ) เครื่องหมายชาวเรือ ( เหลาสมุทร ) และเครื่องหมายการบิน (เหลา อากาศ)
พิธเี ปด ใหมี การเชญิ ธง – สวดมนต สงบน่ิง – ตรวจ – แยก รองผู 1. เปด ผูกํากับยืนอยูหนาเสาธง หางจากเสาธงพอสมควร เรียกลูกเสือเขาแถวรูปครึ่งวงกลม กํากบั ยืนหลังเสาธงแถวหนากระดานหันหนาเขา หาลูกเสือ 2. เชิญธงข้ึน เมื่อลูกเสือเขาแถวเรียบรอยแลว ( เวนระยะระหวางหมู 1 ชวงแขน ) ผูกํากับนัดหมายหมู บรกิ ารเชญิ ธง-นําสวดมนตแลว สั่ง “กอง-ตรงหมูบริการเชิญธง” ส่ังแลวใหกาวเฉียงมาทางขวา 2 – 3 กาว ลูกเสือหมู บริการ 2 คน ฝากไมงามไวกับคนขางเคียง (สามัญ ไมพอง) แลววิ่งไปพรอมกันท่ีหนาเสาธงหางประมาณ 3 กาว ทําวันทยหัตถพ รอมกัน ลดมือลง คนใดคนหน่งึ (นิยมใชค นทางขวา) กา วไปขางหนาเสาธง 2 กาว เทาชิดซ่ึงจะหาง เสาธง 1 กา ว แกเชือกธง แลวถอยหลัง 2 กา ว เขาที่เดมิ ของตน สง เชอื กธงใหอ ีกคนหนึง่ ( ผืนธงอยูก บั คนขวามือ ) เมอื่ พรอมแลวผูกาํ กบั สั่ง “กอง-วันทยา-วุธ” ลกู เสือทุกคนทาํ วันทยาวธุ (ผูก ํากับ รองผกู าํ กบั วนั ทยหัตถ) หมูบริการ (คนเดียว) ขึ้นเพลงชาติวรรคแรก ทุกคนรับพรอมกันวา “ เปนประชารัฐ…… ” ขณะข้ึน เพลงชาติ ผูเ ชิญธงเรม่ิ ชกั ธง จนเพลงชาตจิ บ ใหถ งึ ยอดเสาพอดี ตรงยอดเสาใหกระตุกใหเ ร็วจังหวะเดยี วดวย ลูกเสอื ทเ่ี ชิญธงคนใดคนหน่งึ (นิยมคนขวามอื ) นาํ เชอื กธงไปผูกที่โคนเสาธง การผกู ใหกา วหนา 2 กาว เทาชิดและถอยหลัง 2 กาว มาเขาที่เดิมแลววันทยหัตถพรอมกัน ลดมือลง กลับหลังหันว่ิงเขาที่ ไปรบั ไมง า ม ( ไมพ ลอง ) จากคนขา งเคียงทฝี่ ากไว แลวทําวันทยาวุธใหเ หมือนคนอื่นในแถว ผกู าํ กบั รองผกู ํากับ จะลดมอื ลงจากวนั ทยหัตถ พรอ มกับผเู ชญิ ธง 2 คน ( หลงั จากผูกเชอื กธงเสรจ็ แลว ) 3. สวดมนต สงบน่ิง สวดมนต สงบนิ่ง เม่ือ 2 คนท่ีเชิญธงทําวันทยาวุธเหมือนทุกคนในแถวครึ่งวงกลม แลว ผกู าํ กับสง่ั “เรียบ-อาวธุ -หมูบริการนําสวดมนต” เม่อื สวดมนตจบ ส่ัง “สงบนิ่ง” ทุกคนใหสงบนิ่งประมาณ 1 นาที แลวสั่ง “สวมหมวก” และส่ัง “ตามระเบียบ-พัก” จากนั้นผูกํากับจะกาวเขาไปยืนหนาเสาธงตามเดิมแลวเชิญ รองผกู ํากบั ตรวจ
สวดมนต สงบนง่ิ 4. ตรวจ การตรวจเปดประชุมกอง จะสั่งใหตรวจอะไรก็ไดเชน ความสะอาดของมือ – ปาก – ฟน – ผา เช็ดหนาหรืออปุ กรณก ็ได กอนตรวจ รองผูกํากับจะทําความเคารพผูกํากับกอน แลวเดินตรงไปยังนายหมูของหมูท่ีจะตรวจหาง ประมาณ 3 กาว ขณะน้ันลูกเสืออยูทาพักตามระเบียบนายหมูจะส่ังวา “ หมู..... ตรง วันทยา – วุธ ” รองผูกํากับรับการทําความเคารพและทําวันทยหัตถคางไว นายหมูจะลดมือลง กาวเขาหารองผูกํากับ 1 กาว แลว วันทยาวุธ กลาววา “ หมู ....................... พรอมท่ีจะไดรับการตรวจแลวครับ ” กลาวแลวเรียบอาวุธ ( รองผู กาํ กับลดมอื ลงจากวันทยาหัตถตอนนี้ ) นายหมูจะถอยหลัง 1 กาว เพ่ือกลับเขาสูแถว แลวทําวันทยาวุธใหเหมือน คนอนื่ ๆและนายหมจู ะสั่ง “ เรยี บ – อาวธุ ” ใหอ ยูในทาตรงโดยตลอดขณะตรวจ รองผกู ํากับจะเร่มิ ตรวจนายหมูกอ น จากน้ันจะสืบเทาไปทางขวาเพ่ือตรวจคนอ่ืนๆตอไป นายหมูจะตามไป เร่ือยๆการตามไปก็จะยืนตรงถือไมงามแนบลําตัวแลวกาวสืบเทาตามไป รองผูกํากับจะตรวจลูกเสือแตละคน เม่ือ เห็นบกพรองจะกาํ ชบั ทน่ี ายหมใู หไปตักเตือนแกไข เมื่อตรวจเสร็จถึงคนสุดทาย คือรองนายหมู รองผูกํากับจะเดินกลับที่หัวแถวตามเดิม นายหมูจะเดิน ตามมายืนท่ีหวั แถว ( เดินผานหนา แถว ) จากนัน้ นายหมจู ะส่ังทาํ “ วนั ทยา – วุธ ” นายหมูจะกลาวขอบคุณคน เดยี ว ( กลาวคนเดยี ว ) แลวสงั่ “ เรยี บ – อาวธุ ” และ “ ตามระเบยี บ – พัก ” รองผูกํากับเม่ือตรวจเสร็จแลว ก็เคล่ือนยายไปตรวจหมูอื่นๆ แลวตรงมารายงานผูกํากับจะรายงาน ณ จุด ตรวจ หรือว่ิงเขามาระยะพอควรก็ได การรายงานทําวันทยหัตถ – รายงาน – มือลง – กลับ เขาท่ีในแถวหลังเสาธง โดยใครตรวจเสรจ็ กอนรายงานกอ นเขา ท่ีกอน การรายงานใหก ลาววา “ กระผมไดรบั มอบหมายใหไปตรวจ .............. ของหมู .................... ปรากฎวา ........................ ไดก ําชบั นายหมแู ลว ” ผกู าํ กับจะตอ งรับความเคารพ รองผูกํากับทุกครั้ง ทุกคน ท้ังกอนไปตรวจและตอนรายงานเม่ือรายงานจบก็ กลาวขอบคณุ ทกุ คร้งั ทกุ คนดว ย 5. แยก หลังจากตรวจเสร็จ ผกู ํากบั จะทบทวน แนะนํา ตักเตอื น อีกเล็กนอ ยกไ็ ด แลวส่ังแยกไปเรียนตอ การส่ังแยกใหส่ังตรงกอนเพราะลูกเสืออยูในทาตามระเบียบพัก คือสั่งวา “ กอง – ตรง ”และ“ กอง – แยก ” ลูกเสอื จะทาํ ขวาหันแลว แยกกันไปอยา งอิสระ
พิธปี ด ใหมี นดั หมาย – ตรวจเครอ่ื งแบบ – เชญิ ธง – เลิก ผูกํากบั เรียงแถวคร่ึงวงกลม เสมือนตอนเปด รองผกู ํากับกอ็ ยูในแถวหนา กระดานเชนเดยี วกันเริม่ ดว ย (1) นัดหมาย นัดวาหลังจากเลิกเรียนคร้ังนี้แลว ทําอะไร หรือคราวหนา นําอะไรมาสําหรับฝกครั้ง ตอไปบาง (2) ตรวจเครื่องแบบ เน่ืองจากลูกเสือจะเขาเรียนวิชาอ่ืน หรือกลับบาน ตองแตงกาย ใหเ รยี บรอย จึงตองตรวจเครอ่ื งแบบตอนพธิ ปี ด การตรวจเครอ่ื งแบบกท็ าํ เชน เดยี วกบั การตรวจตอนเปดประชุมกอง เพยี งแตตอนตรวจนายหมูน ้ัน เมือ่ ดูเครอ่ื งแบบจากหัวจรดเทา แลว ใหน ายหมูกลบั หลงั หัน 2 คร้ังเม่ืออยูในทาเดิมแลว เรม่ิ ตรวจคนที่ 2-3-4 เร่ือยไป จนถึงรองนายหมู นายหมสู ืบเทาตามไปตลอด และเมื่อตรวจถึงรองนายหมูแลว ตอง ออมหลังแถวตรวจเคร่ืองแบบดานหลังอีกโดยสืบเทาเชนเดียวกัน ตรวจเสร็จนายหมูส่ังทําความเคารพก็รายงาน ตามปกติ (3) เชิญธง เมือ่ ตรวจเสร็จนน้ั ลูกเสือจะอยูในทาพักตามระเบียบ ผูกํากับจะตองส่ัง “ กอง – ตรง ” เสยี กอน จึงใหผูแทนหมบู รกิ าร 2 คน มาชักธงลงส่งั แลว เดนิ เฉยี งไปทางขวา 2-3 กา ว เมื่อพรอมแลวจึง สั่ง “ กอง – วันทยา – วุธ ” ลูกเสือชักธงลงเลย ไมตองเปนจังหวะ ไมรองเพลงชาติ ไมสวดมนต ไม เปานกหวีด เสร็จแลวก็เขาไปผูกเชือกธงที่โคนเสา แลววันทยหัตถพรอมกัน ลดมือลงกลับหลังหัน วิ่งเขาที่ (รองผู กาํ กับและผูกํากับลดมือลงตอนน้)ี เม่อื ลกู เสอื 2 คนเขา ท่ี นาํ ไมงาม ( ไมพ ลอง ) มาวันทยาวธุ ไวแลว ผกู าํ กบั ส่ัง “ เรยี บอาวุธ ” (4) เลิก ผูกํากับสั่ง “กอง-เลิก” ( ไมตองส่ังตรง เพราะลูกเสือตรงอยูแลว ) การเลิกลูกเสือจะทํา วันทยาวุธพรอมกัน โดยไมตองสั่งแลวขวาหันแยกยายกันไป ( จะกลาวขอบคุณพรอมกันทั้งสองก็ได ) ผูกํากับ ทาํ วันทยหตั ถต อบลกู เสอื ดว ย ขอ ควรจาํ “ ไมค วรลืม ” 1. การเปด-ปดประชุมกอง ผูก ํากบั เรยี กแถวและทําหนา ที่เองโดยตลอด รองผูกาํ กบั ยนื แถวหลังเสาธงหลังผู กาํ กับ
2. การเคารพธงชาตติ อนเชา ในการอยูค ายพักแรม ผูร ยี กแถวคอื พิธีกร ทําหนาที่เสมือนครูเวรในโรงเรียน ผูก ํากบั – รองผกู ํากบั อน่ื ๆ ตลอดท้งั ผอู ํานวยการฝก ( ครูใหญ ) ยืนแถวหลงั เสาธง 3. เชิญธงคายอบรมลงจากยอดเสา เวลา 18.00 น. ( ธงท่ีชักขึ้นไว ตอนเชา ) มีการเปานกหวีดยาว 3 ครง้ั สั้น 1 คร้งั เพราะขณะนนั้ ลกู เสอื กระจายกันอยู ไมอ ยใู นแถวควบคมุ การเชิญธงลงตอนปดประชมุ กอง ไมเปา นกหวดี เพราะทุกคนอยใู นแถว ควบคุมและพรอมแลว 4. การเปด ประชุมกอง มเี พียงการเชิญธงลงอยา งเดยี ว 5. การอยูคายพักแรม / คายอบรม (เลิกคาย / เลิกอบรม) เปนเสาธงใหญ จะเริ่มตนดวยสวดมนต – สงบ น่ิง – เชญิ ธงลงตามลําดับ พิธีการลูกเสือเปนเร่ืองสําคัญมากท่ีผูบังคับบัญชาลูกเสือทุกคนตองเอาใจใส และปฏิบัติเพราะ การ เปนลกู เสอื แมว า เดก็ จะเขามาเปน ลูกเสือดวยความสมัครใจก็ตาม ส่ิงท่ีเด็กจะเกิดความภาคภูมิใจมากท่ีสุดก็ตอเม่ือเขา ไดแตง เครอ่ื งแบบ และไดป ฏบิ ัติงาน ใหค าํ ม่ันสัญญาตอ ผบู งั คบั บญั ชาของเขา ความดีใจ ความภาคภูมิใจของเขาที่มี ตอผูบังคับบัญชา และความภาคภูมิใจท่ีผูบังคับบัญชาลูกเสือมีตอลูกเสือใตบังคับบัญชาของเขา เปนสิ่งท่ีมีคุณคา เปรียบไมไ ด ขาราชการเจาหนา ที่คนงาน ลูกจางของหนวยงานทุกแหง เม่ือเขาไดสัมผัสกับการใหโอวาทจากผูบังคับบัญชา ของเขา กอนเขาเขารับปฏิบัติหนาที่จิตใจยอมจะเปยมลนไปดวยความภาคภูมิใจพรอมที่จะอุทิศรางกาย จิตใจเพื่อ งานของเขาอยางไมตองสงสัยเยี่ยงผูครองตําแหนงอัศวินท้ังหลาย เม่ือเขาไดใหคําสัตยปฏิญาณตอพระพักตร พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ตอหนาผูบังคับบัญชา ตอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และตอบรรดาผูท่ีมีเกียรติและลูกเมียกอนเขา ไดร ับตาํ แหนง อศั วิน เขาจะมคี วามภาคภมู ใิ จเปนอยางยิ่งตอ สิง่ ทเ่ี ขาไดรบั เปน หลายพนั เทา พธิ กี ารลกู เสือเชน เดียวกัน อนง่ึ ในพิธีการตาง ๆ ของลูกเสือน้ันเปนไปอยางส้ัน ๆ งาย ๆ และ ดวยใจจริง เปนเรื่องของการทําจริงตาม ขอ บงั คับฯ ไมใชส ง่ิ สมมติ ผลทไี่ ดรบั จากพิธกี ารนนั้ ก็คือ 1. ความมีระเบยี บเรียบรอย 2. ไดม โี อกาสระลึกถงึ และรักษาคาํ ม่ันสัญญา (คาํ ปฏญิ าณ) 3. ทาํ ใหเกดิ ความใกลชดิ ระหวางผูกาํ กับ รองผกู าํ กับ และลูกเสือในกองของตนเอง 4. ทําใหเ กดิ ความภาคภูมิใจในเกยี รติทไ่ี ดร ับในพธิ กี ารน้นั ๆ พธิ กี ารของลกู เสอื โดยท่ัว ๆ ไปแลวสามารถแบง ได 2 ประเภทใหญ ๆ คอื 1. พิธีการปกติ คือพิธีการที่เปนแบบธรรมเนียมของลูกเสือท่ีไดปฏิบัติอยูเปนประจํา ไดแก การเปด – ปด ประชมุ กอง ตามขอ บังคบั ขอ 292 ซึ่งตอ งปฏบิ ตั เิ ปนประจาํ เม่อื มกี ารเรยี นการสอนทุกครั้ง 2. พิธีการพิเศษ คือพิธีการท่ีไมไดมีการปฏิบัติเปนประจํา แตอาจปฏิบัติในโอกาสพิเศษ เมื่อถึง กําหนดเวลา ไดแ ก 2.1 พิธรี บั ลูกเสือสามญั ไปเปนลกู เสอื สามัญรนุ ใหญ ( การสง ตวั ลกู เสอื สามญั มาสามญั รุน ใหญ ดใู นพิธลี ูกเสือสามญั )
2.2 พิธีเขา ประจํากองลกู เสือ ตามขอ บงั คบั 295 หมายเหตุ 1. พิธีเขาประจํากองนี้ตางคนตางจัดทําของตนเอง (ไมใชมารวมทํากันเปนกลุม) และพิธีนี้อาจจะเชิญ ผปู กครองมารว มเปนเกียรตดิ ว ยก็ได 2. สวนที่ไมมีขอบังคับและควรทําพิธีการใหกับลูกเสือของทานไดก็คือพิธีประดับเคร่ืองหมายวิชาพิเศษ การประดับสายสะพายและสายยงยศ ตามขอบังคับคณะลูกเสือแหงชาติวาดวยการปกครองฯ พ.ศ. 2509 ขอ 294 2. พิธีเขา ประจาํ กองลกู เสือสามัญรนุ ใหญ ( ขอบังคับ 295 ) พิธเี ขา ประจาํ กองลกู เสือสามญั รุนใหญ หรอื เรยี กวา พธิ ปี ฏญิ าณตนของลูกเสือใหป ฏิญาณดังตอไปน้ี 1 กองลกู เสอื สามัญรนุ ใหญจ ดั แถวเปนรปู ครงึ่ วงกลม โดยทุกคนมีไมง า ม นายหมูมีธงประจาํ หมู 2 ผูกาํ กบั ลูกเสือสามัญรุนใหญย ืนอยูใ นคร่งึ วงกลม 3 สวนลูกเสอื ใหมย ืนอยูน อกวง หลังหมูที่จะเขา ไปอยู 4 ผกู าํ กบั เรียกลูกเสอื ใหมเขามายืนอยูหนา ผกู าํ กบั ลกู เสอื สามญั รุนใหญ แลว ถามวา - ...( ออกนามลูกเสือ )... “ เต็มใจท่ีจะปฏบิ ัติตน เปนลูกเสอื สามญั รนุ ใหญห รือ ” -ลูกเสอื ใหมต อบวา “ ขาเต็มใจ ” -ผูกํากับลูกเสือถามตอไปวา “ เจาเขาใจหรือไมวาการที่เจาเขามาเปนลูกเสือสามัญรุนใหญ จะตองปฏบิ ัตติ นใหเ ปน ตัวอยา งทดี่ ีแกลูกเสอื รุนนอ งในกลุมของเรา ตองแสดงใหเห็นความกาวหนาในชีวิตลูกเสือของ เจา และปฏบิ ัตติ ามกฎและคําปฏญิ าณทกุ เมอ่ื ” - ลกู เสอื ใหมต อบไปวา “ ขา ทราบและปฏิบัติได ” - ผกู ํากบั ลกู เสอื พดู วา “ เจาพรอมท่ีจะยืนยันและปฏิบัติตามคาํ ปฏิญาณแลว หรือ ” - ลูกเสอื ใหมต อบวา “ ขา พรอมแลว ” - ผกู ํากับลกู เสอื สามัญรนุ ใหญพูดวา “ ขอใหเจาทบทวนคาํ ปฏิญาณครั้งหนึ่ง ” - ลูกเสือใหมแ สดงรหัสแลวกลาววา “ ดวยเกียรติของขา ฯ ขา ฯ สัญญาวา ” ขอ 1 ขาจะจงรักภกั ดตี อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย ขอ 2 ขาจะชวยเหลอื ผูอ ่ืนทกุ เม่อื ขอ 3 ขา จะปฏบิ ตั ติ ามกฎของลกู เสือ ( ลูกเสือทุกคนรวมท้ังผูบังคับบัญชาลูกเสือท่ีอยูในพิธี ตองแสดงรหัสของลูกเสือและจะเอา มอื ลงตอ เมอ่ื ลกู เสอื กลา วจบ ) - ผกู ํากับลูกเสือสามญั รุนใหญกลาววา “ ขา เชือ่ ในเกยี รตขิ องเจา วาจะปฏบิ ัติตามคาํ มั่นสัญญา ที่เจาไดกลาวไว ” - ผูกํากับลูกเสือสามัญรุนใหญติดอินธนู ซ่ึงอาจจะมอบใหรองผูกํากับใสพานถือไวก็ไดใหกับ ลูกเสือใหม แลวกลาววา “ บัดน้ี เจาไดเปนลูกเสือสามัญรุนใหญและเปนสมาชิกผูหน่ึงของคณะพี่นองลูกเสือแหงโลก อันย่งิ ใหญแ ลว ขอใหเจาปฏิบัตหิ นา ทีข่ องลกู เสอื สามัญรุน ใหญแ ละมคี วามสขุ ความเจรญิ ตลอดกาลนาน ” 5. ในโอกาสนีผ้ ูกาํ กบั ลูกเสอื สามญั รุนใหญอาจจะมอบบัตรประจาํ ตัวหรอื เคร่อื งหมายอืน่ ใหแ กล ูกเสือใหมก็ได 6. ผกู าํ กบั กลมุ ลูกเสอื หรอื ผบู ังคบั บญั ชาลกู เสือจะแสดงความยินดตี อ ลกู เสอื ใหมก็ได 7. ตอ จากน้ีลกู เสือใหมกลับหลังหันไปแสดงความเคารพตอกองลูกเสือดวยทาวันทยหัตถแลวกลับเขาประจํา หมขู องตนเปน จบพธิ ี 3. จะกระทําการรบั ตวั ลูกเสือสามญั เขา เปน ลูกเสอื สามญั รุนใหญเ มื่อไร 1. เม่ือผบู ังคับบญั ชาลูกเสอื สามญั หรอื กองลกู เสอื สามัญขอรอ ง 2. เมือ่ ลกู เสือสามัญผูน น้ั สอบไดลูกเสือเอกแลว 3. เม่ือลกู เสือสามัญคนน้นั มอี ายุครบ 15 ปหรอื อายุ 14 ป กับ 6 เดือนแลว
4. เม่ือลูกเสือสามญั คนน้ันกาํ ลังศึกษาอยชู ้นั มัธยมศึกษา 5. ไดรบั ความยินยอมระหวาง กองลกู เสอื สามญั และกองลกู เสือสามัญรุนใหญแลว 4. จะกระทาํ พิธีการรับตวั กันที่ไหน 1. สถานท่ีซึง่ กองลูกเสือสามัญรุนใหญ จะรับลูกเสือใหมกําหนดข้ึนอาจเปนหองประชุมโรงเรียนหองลูกเสือท่ีมี โตะ หมูบูชาและเคร่อื งสกั การะครบและมเี นื้อที่กวา งขวางทสี่ ามารถทําพธิ ีไดโดยสะดวก 2. ประรําพธิ ที ี่จดั ขึ้นในสนามหนา โรงเรยี น 5. จะกระทําพิธเี ขาประจาํ กองลูกเสอื สามัญรนุ ใหญใหแ กล ูกเสอื ใหมเ มอ่ื ไร 1. เม่อื ลูกเสือสามัญคนนน้ั ไดย ื่นใบสมคั ร ลส.3 ตอ ผกู าํ กบั ลกู เสือสามญั รุนใหญแ ลว 2. ผูก ํากบั ลูกเสอื สามญั รุนใหญท ่รี บั ใบสมคั รคนนั้น ไดบรรจุชื่อลงในทะเบียนลูกเสือ ( ลส.8 )วาใหอยูในหมูใด หมหู น่ึง และกลมุ ใดกลุมหนง่ึ ท่กี องลกู เสือกองนน้ั สังกัดอยู เปน การเรียบรอยแลว 3. เมือ่ ลกู เสือสามัญรนุ ใหญท ไี่ ดร ับมาใหมไดร ับการฝกอบรมและสอบไดเครื่องหมายลูกเสอื โลกแลว 6. จะกระทาํ พธิ เี ขาประจาํ กองท่ไี หน ( โปรดดูขอท่ี 4 ) 7. ลูกเสือสามญั รุนใหญเ ขา พธิ ปี ระจาํ กองทาํ ไม 1. เพื่อใหคําสัตยปฏิญาณหรือคํามั่นสัญญาตอผูกํากับ วาจะรับการฝกอบรมวิชาลูกเสือดวยจิตใจของลูกเสือ อยา งแทจริง โดยไมล ะเมิดสิทธิของบคุ คลอ่นื 2. เพ่ือยอมรับปฏิบัติตามคําปฏิญาณและกฎของลูกเสือ และยึดถือปฏิบัติเปนกิจวัตรประจําวันเกิดความ ภาคภูมิใจในเกยี รติท่ีตนเองไดรับและความดที ่ีผอู ่ืนยกยอ ง 3. เพ่อื จะบาํ เพญ็ ตนเพ่ือสาธารณะประโยชน และมุงที่จะสรางแตค วามดีตลอดไป 4. เพื่อเผยแพรกิจการลูกเสือ และสนับสนุนกิจการลูกเสือแหงชาติใหเจริญกาวหนาโดยประพฤติปฏิบัติเปน ตัวอยา งทีด่ ีแกบุคคลอ่นื 5. เพ่ือเปนการฝกใหรูจักหนาท่ีรับผิดชอบ เพื่อชวยรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมและปองกัน รกั ษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย 3 สถาบนั หลกั ของเราไวต ั้งแตย งั เปนลกู เสือ ขอเสนอแนะเพ่ิมเติม 1. ใหม ีรองผกู าํ กับถือพานท่ีใสอ นิ ธนู สาํ หรับที่จะประดบั ใหลูกเสือใหมโดยยนื อยูทางขวามือของผูกํากบั 2. ใหมธี งประจํากองต้งั ไว หรอื รองผูกํากับเปนผถู ืออยูท างซา ย ของผกู ํากบั คือทางขวาของกองลูกเสือ ทที่ าํ พธิ ีน้นั เอง แนวปฏบิ ตั ิในการประชุมนายหมู จากขอ ตกลงแหง ทปี่ ระชุมคณะผูใหการฝกอบรม วิชาผกู าํ กับลกู เสอื สามัญขั้นความรูขั้นสูงรุนที่ 32 ณ คาย ลกู เสือวชริ าวธุ เม่อื วันที่ 10 สงิ หาคม 2523 โดยทีท่ า นอาจารยก อง วิสุทธารมณ ผตู รวจการลูกเสือฝายฝกอบรม แหงชาติ เปน ประธานในที่ประชมุ และในทีป่ ระชุมมคี วามเห็นชอบในแนวทางปฏิบัติในการประชมุ นายหมูลูกเสือดงั น้ี ทป่ี ระชมุ นายหมู การฝกระบบหมูของลูกเสือ เปนแนวทางที่จะปลูกฝงระบอบประชาธิปไตยใหกับเด็ก และเปนหลัก สําคัญของการฝกอบรมลูกเสือ จึงเปนเร่ืองที่ผูบังคับบัญชาลูกเสือ จะตองเอาใจใสและฝกปฏิบัติใหถูกตองตาม ระเบยี บและวิธีการดงั น้ี
การจดั ที่ประชุมนายหมู 1. หองประชุม ในหองประชุม จัดใหมีโตะหมูบูชา มีพระพุทธรูป ธงชาติและพระบรมฉายาลักษณของ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว องคพระผูพระราชทานกําเนิดลูกเสือ ไทยและรูปของลอรด เบเดน โพเอลล 2. โตะประชมุ ควรจดั ใหม ีเกาอี้ประชมุ ตามจาํ นวนของนายหมูและจัดที่ใหน่ังเปนพิเศษสําหรับ ผู กาํ กับหรือรองผูกํากับทจ่ี ะเขา ประชุมดวยในฐานะท่ีปรึกษา โดยจัดใหน ่ังอยทู างซา ยของประธาน 3. การจัดที่น่งั จะตอ งกําหนดไวใหท ราบโดยมีการเขียนปาย หรือเคร่ืองหมายแสดงไว ณ ที่นั้นๆ เชน ประธาน เลขานกุ าร หมเู สอื หมชู าง หมไู ก ฯลฯ และผกู าํ กับลูกเสือ ( สามญั รุนใหญใ ชก รรมการแทนชื่อหมู ) 4. ผเู ขา ประชุม • นายหมูท ุกคน ถานายหมูไมอ ยใู หรองนายหมูเขาประชุมแทน • ผูกาํ กบั ลกู เสอื ถาผูกํากับลูกเสือไมอ ยูใ หรองผูกํากับเขา ประชมุ แทน • ผูท รงคุณวฒุ ทิ ่กี องลูกเสอื เชญิ มาเพือ่ แนะนําวชิ าการ เปน ครงั้ คราว • การเลือกประธานและเลขานุการท่ีประชุมทาํ ได 2 วธิ ี ก. ที่ประชุมเลือกประธานและเลขานุการ อยูในตําแหนงประธานและเลขาตามเวลาท่ีกําหนด ไว 3 เดือน หรือ 6 เดือน เม่อื ครบกําหนดแลว ควรมกี ารเลอื กกันใหม ข. ใหนายหมูห มุนเวยี นกนั เปนประธาน เลขานุการ ของทีป่ ระชุมคนละหนงึ่ เดือน 5. ทปี่ ระชุมนายหมูลกู เสือ มหี นา ที่ • พจิ ารณากิจกรรมเกย่ี วกบั กองลูกเสอื • จัดรายการกจิ กรรมของกองลกู เสอื • พจิ ารณาการบรหิ ารภายในกองลกู เสือ • ควบคมุ การรบั -จาย เงนิ ของกองลูกเสอื ขอ ควรปฏิบตั ิท่สี ําคัญๆในการประชุมนายหมู 6. การเขาหองประชุม เลขานุการเขากอนแลวจึงเชิญนายหมูตางๆเขาหอง จากน้ันก็เปนประธาน ทีป่ รกึ ษาจะเปนคนสุดทา ย 7. การปฏิบัติกอนเขานั่งประจําท่ีของตนตองเซ็นช่ือ ไหวพระและแสดงความเคารพตอชาติและพระมหากษัตริย โดยการ( ไหวพระ / วนั ทยหตั ถ / วนั ทยหัตถ ) ยกเวนประธานจะตองไป จุดธูปเทียนและกราบท่ี หนาพระ 8. การเปดประชุม เมื่อพรอม ประธานลุกขึ้นยืน หันหนาเขาท่ีประชุม ยื่นมือขวาออกไปขางหนา 45 องศา แสดงรหัสลูกเสอื แลว กลาววา “ บดั นี้สมาชิกของท่ปี ระชุม ไดมาครบองคประชุมแลว ขาพเจาขอเปดการ ประชมุ ขอใหสมาชกิ ท้งั หลาย ไดใชสิทธิและเสรีภาพของทานโดยเสรีภาพ และขอใหถือวาการประชุม นี้เปนความลับไมเปดเผย ” เม่ือประธานกลาวจบ สมาชิกทุกคนยืนข้ึนพรอมทั้งยกมือขวาแสดงรหัสลูกเสือ ( แบบใหค ําปฏญิ าณลกู เสือ ) แลวกลาวพรอ มกนั วา “ ขา พเจา จะถอื วา การประชุมนีเ้ ปนความลับไมเปดเผย เวนไวแตจะไดรับความเห็นชอบจากที่ประชุม ” เสร็จแลวประธานนั่งลงสมาชิกนั่งลงพรอมกันจากน้ันจึงให ดาํ เนินการตอ ไป จนหมดวาระการประชุม
9. การพูดในท่ีประชุม กอนพูดตองยกมือ ขออนุญาต เม่ือประธานอนุญาตจึงจะพูดไดและจะตองพูดกับ ประธานทุกครงั้ เม่ือเวลาพดู นงั่ ไมต อ งยนื 10. การนดั หมายเรียกประชุม เปน หนา ท่ีของเลขานกุ ารที่จะแจงนัดหมายไป 11. การจัดระเบียบวาระการประชุม เปนหนาที่ของเลขานุการโดยประสานงานกับประธาน เรื่องที่จัดเขาวาระ ประชุม ควรเปนเรือ่ งที่เกี่ยวกับหนา ท่คี วามรับผิดชอบในกองลกู เสือ - จัดทํากําหนดการฝกอบรม - การอยูคายพกั แรม - การเงิน - การลงโทษ - การใหร างวัล - การแกปญหาตางๆ ฯลฯ รายงานการประชุมของนายหมู ผูเขารวมประชุมจะตองถือเปนความลับไมเปดเผย เวนแตจะไดรับ ความเหน็ ชอบจากท่ปี ระชุม การจดรายงานการประชุม เปน หนา ที่ของเลขานกุ าร จะตองเปนผูจดและจัดทํารายการประชุม บันทึก ลงในสมดุ และสาํ เนาแจง ใหผเู ขา ประชมุ ทราบ ผูดํารงตําแหนงประธานท่ีประชุมนายหมู เปนบุคคลที่กํากับแตงตั้งจากนายหมู ที่นายหมูสวนมาก เหน็ ชอบดวย เลขานุการของท่ีประชุม ประธานที่ประชุมเปนผูแตงต้ังจากนายหมูโดยใหนั่งอยูทางซายของประธาน ( เลขาฯ เปนผเู ชญิ นายหมูท ี่เขา ประชมุ ทีละคนจนถึงประธาน แลว จงึ เชญิ ผูกาํ กบั เปนคนสุดทาย ) ผูกํากับลูกเสือ ที่เขาประชุม ไมมีสิทธิออกเสียงในท่ีประชุม แตมีสิทธิยับยั้งการกระทําใดๆท่ีผูกํากับ เหน็ วา ถา ปลอยใหท าํ ไปตามขอ ตกลง ของท่ปี ระชมุ แลว อาจกอใหเกิดผลเสยี ขน้ึ ได 12. การปดประชมุ ประธานลุกข้ึนยืนตรงย่ืนมือขวาออกไปขางหนา 45 องศา แสดงรหัสลูกเสือ แลวกลาววา “ ขาพเจาขอปดการประชุม” ประธานกลาวจบ นายหมูทุกคนยืนตรงทําวันทยหัตถตอประธาน ประธาน ทาํ วันทยหัตถตอบ 13. การออกจากหองประชุม ออกตามลําดับดังน้ี ท่ีปรึกษาออกกอน จากนั้นก็เปนประธาน นายหมูตางๆ โดย ปฏิบัติพิธีการ ( ไหวพระ,การทําความเคารพชาติและพระมหากษัตริย ) เชนเดียวกับ การเขาหอง ประชุมและเลขานุการจะออกเปนคนสุดทาย หมายเหตุ ในการประชมุ นายหมู กรณีที่นายหมูคนหน่ึงคนใดไมมาที่กองลูกเสือในวันประชุมใหรองนายหมูเขาประชุมแทน รองนายหมูมีสิทธิแสดง ความคดิ เห็นและออกเสยี งลงคะแนนไดเ ชน เดยี วกับนายหมู ตวั อยา งการจดั ที่ประชมุ นายหมู
ตัวอยางระเบยี บวาระการประชุม ระเบียบวาระการประชุมนายหมลู กู เสือ คร้ังท.ี่ ........................วันท.ี่ ..........................เดอื น..........................พ.ศ. .......................... ณ .............................................................. วาระท่ี 1 เรอื่ งประธานจะแจงใหค วาม ( ถามี ) วาระท่ี 2 เร่อื งรบั รองรายงานการประชุม ครัง้ ที่............ วาระท่ี 3 เรอื่ งท่สี ืบเนี่องจากการประชุมครงั้ กอ น ( ถามี ) วาระที่ 4 เร่ือง.....................( เปนเร่ืองที่จะประชุมพิจารณากันในการประชุมถามีหลายเรื่องก็ใหใส วาระท่ี 4.1, 4.2 จนหมดเรื่องท่จี ะนํามาประชมุ ) วาระที่ 5 เรอื่ งอน่ื ๆ ( ถา มี วาระท่ี 5 หรอื วาระอันดับสุดทายนี้เปน วาระทีก่ ําหนด สําหรบั เรือ่ งที่จะมีข้นึ ภายที่หลังไดกําหนดระเบียบวาระไปแลวจะไดน ํามาเขา พดู ในที่ประชมุ ดวย ) ( ตวั อยา งบัญชีลงช่ือผูเขาประชมุ ) รายช่ือผเู ขาประชมุ นายหมลู ูกเสือ ครัง้ ที.่ .........../............. วนั ท่.ี ......................เดอื น........................พ.ศ. ............................. ณ................................................................. ลาํ ดับที่ ชื่อ ตําแหนง (หมูอะไร) ลายเซน็ หมายเหตุ ตัวอยางบนั ทกึ รายงานการประชมุ บนั ทกึ รายงานการประชุมนายหมูลกู เสอื ครง้ั ที่............../.............. เม่ือวันที.่ ..........เดอื น................พ.ศ. ................ ณ ........................................................ ผเู ขา ประชุม 1. ................................................................................ 2. ................................................................................ 3. ................................................................................ ผทู ีไ่ มม าประชมุ ( ถามี ) เปด ประชมุ เวลา........................................... น. ประธานกลาวเปดการประชมุ แลวดําเนินการประชมุ ตามระเบียบวาระการประชุมตอไปนี้
วาระที่ 1 เร่อื ง .............................................................. ประธานเสนอวา .......................................................................... ท่ปี ระชมุ ( มมี ติหรอื ตกลงกนั อยา งไร ) ฯลฯ ปด ประชุมเวลา ........................................... น. ลงชอื่ .........................................................ผจู ดรายงานการประชมุ ทีป่ ระชมุ รับรองรายงานการประชุมแลว การประชุมคร้ังที่......................../............................ เมื่อ .............................................................. ลงชื่อ ..............................................................................ประธาน ลงชอื่ ............................................................................ นายหมู เกาะบราวนซี ( Brown sea Island ) เปนเกาะเล็ก ๆ มีธรรมชาติท่ีสวยงาม ตั้งอยูท่ี ปากอาวเมืองพลู ( Poole Harbour ) ประเทศอังกฤษ เกาะบราวนซี ถอื เปนคา ยลูกเสือแหงแรกของโลก และถือ เปนจุดกําเนิดของการลูกเสอื แหงโลก ซึ่งมีประวัติความเปนมาดงั นี้ วันแหงประวตั ศิ าสตรของการลูกเสือโลก ไดเริ่มเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2450 เม่ือ บี – พี ไดตัดสินใจ นาํ เด็กชายที่มีอายุ 11 – 15 ป ซึ่งมาจากครอบครัวท่ีมีฐานะแตกตางกัน จํานวน 20 คน พรอมกับหลานชายอีก 1 คน ทีม่ อี ายเุ พียง 9 ขวบไปรวมดวย โดยคอยทําหนาท่ีชวยเหลือรับใช บี – พี เสมือนทหารคนสนิท มาอยูคาย พกั แรมบนเกาะบราวนซ ี เพื่อฝก อบรมเดก็ ๆ โดยแบง เปน 4 หมู ๆ ละ 5 คน ในการอยูคายพักแรม บี – พี ไดจัดกิจกรรมตาง ๆ ท่ีมุงหมายจะสรางลักษณะนิสัยที่ดีใหเกิดขึ้นในตัว เด็ก ตามแบบฉบับของอัศวินในสมัยกอน คือ ฝกใหมีความกลาหาญ มีคุณธรรม สุภาพ ออนโยน ใหความ ชวยเหลือแกผูอ อนแอกวา สุดยอดของกิจกรรมตาง ๆ ในแตละวันจะมารวมอยูท่ีการ“ ชุมนุมรอบกองไฟ ( Camp Fire ) ”ซ่ึง บี – พี ถือวาเปนหัวใจของกิจกรรมท้ังหลาย จบการชุมนุมรอบกองไฟดวยการ เลานิทาน ( Campfire yarn )ซึ่ง สวนใหญ บี – พี จะเลาเรือ่ งการผจญภัยในชวี ิตจรงิ ๆ ของ บี – พี เอง วิธกี ารตาง ๆ ในการฝกอบรมเด็ก ๆ ท่ีเกาะบราวนซี จึงเปนวิธีการของลูกเสือที่ใชเปนแบบฉบับในการ ฝกอบรมลกู เสือทุกหนทกุ แหงในโลกจนถึงทุกวันนี้ การอยูคายพักแรมไดส้ินสุดลง ในวันท่ี 9 สิงหาคม 2450 ซึ่งปรากฎใหเห็นถึงความสําเร็จตามความ มุงหมายท่ี บี – พี ไดคิดและวางแผนไวเปนอยางดี ภายหลังจากน้ีแลว บี – พี จึงรีบดําเนินการจัดพิมพคูมือ “ การลูกเสือสําหรับเด็กชาย ( Scouting for boys ) ” เพื่อใหลูกเสือไดศึกษาและนําไปใชในการฝกอบรมลูกเสือ จนเปนทแ่ี พรหลายตราบถึงปจจบุ ัน
การอยคู ายพกั แรม ขอ บงั คบั คณะลูกเสือแหงชาติ กําหนดเรื่องการเดนิ ทางไกลและแรมคนื ไวดังน้ี ขอ 273 การเดนิ ทางไกล ใหผูกับกํากลุมหรือผูกํากับลูกเสือ นําลูกเสือไปฝกเดินทางไกลและแรมคืนในปหนึ่งไมนอยกวา 1 ครั้ง คร้ังหนึง่ ใหพักแรมอยา งนอ ยหนึ่งคืน การเดินทางไกลและแรมคืน มีวัตถุประสงคเพ่ือฝกใหลูกเสือมีความอดทนอยูในระเบียบวินัย รูจักชวยเหลือ ตัวเอง รูจกั อยแู ละทํางานรว มกบั ผูอื่น ตลอดจนเรียนวิชาลูกเสอื เพม่ิ เติม ในระหวางการเดินทางไกลและแรมคืนลูกเสือพึงเวนการกระทําใด ๆ ที่เปนการรบกวนหรือกอใหเกิดความ เดือดรอนแกผูอ่ืน ผบู ังคบั บัญชาลกู เสือพึงวางแผนการนาํ ลูกเสือไปเดินทางไกลและแรมคืนไวใหพรักพรอมและเนิ่น ๆ ขอ 274 การเดินทางไกลของลกู เสอื ตองไดรับความยินยอมจากผูปกครองของลูกเสือกอน ถาจะแรมคืนดวย นอกจากไดรับความยินยอมจาก ผูปกครองแลว จะตองไดรับอนุญาตจากหนวยราชการที่สังกัด และจากเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือ แหง ชาติ ผูอํานวยการลกู เสือจงั หวัดหรือผอู าํ นวยการลูกเสอื อาํ เภอ แลวแตกรณี การขออนุญาตจะตองแจง ความประสงค บอกรายละเอยี ด เชน การตระเตรยี มตาง ๆ ตลอดจน เตรยี มการฝก เปน ตน ขอ 275 การเดนิ ทางไกลและแรมคนื ผูบังคับบัญชาลูกเสือตองระวังดูแลลูกเสืออยางใกลชิด เพ่ือมิใหเกิดอันตรายแกลูกเสือขึ้นได ทั้งน้ีตั้งแตออก เดนิ ทางจนกระทั่งกลบั ถงึ ทีต่ งั้ กลุม ลูกเสือหรือกองลกู เสือ ขอ 276 เมอื่ เสร็จการเดนิ ทางไกลและแรมคนื ไดปฏิบัติไปอยางไร ไดผลเปนอยางไรใหผูกํากับกลุมหรือผูกํากับกองลูกเสือทํารายงานท่ีไดกระทําไปโดย ละเอียด เสนอตอ ผสู ่งั อนุญาต
ขอ 277 การแรมคนื ของลกู เสอื สํารอง นอกจากตองปฏบิ ัติตามทก่ี ลาวมาขา งตนแลว ใหป ฏิบัตใิ นเร่อื งตอไปนี้ดว ย 1. มผี บู ังคบั บญั ชาลูกเสอื ควบคุมอยางนอ ย 2 คนในจํานวนนตี้ องเปน ผูกํากับลกู เสอื สาํ รองท่ีมปี ระสบการณใ นเร่ืองการอยคู า ยพักแรมของลูกเสือมาแลว เปน อยางดีอีกดว ย 2. ตองมีผบู ังคับบัญชาลกู เสือหรือผูใหญอ ยา งนอ ย 1 คนประจําลูกเสอื สํารองทุก 6 คน 3. ในท่แี รมคืนตอ งมนี าํ้ ประปา หรอื นํ้าสะอาดสาํ หรับบริโภคและมเี ครอื่ งอาํ นวยความ สะดวกตา ง ๆ ในการทาํ ครัว ตลอดจนเครอื่ งสุขภณั ฑท่ีถกู สุขลักษณะ 4. ศาลาท่ีพักของลูกเสอื ตองสะอาดถาไมมศี าลาที่พักจะใชเ ตน ทก ็ไดแ ละตองมจี ํานวนเพียงพอ 5. ผูสั่งอนุญาตใหนําลูกเสือไปแรมคืน จะตองไมอนุญาตจนกวาจะเปนที่พอใจในเร่ืองผูควบคุม ลูกเสอื สถานทพี่ ักและการตระเตรียมตา ง ๆ ขอ 278 ในการเดินทางไกลและแรมคนื ผูบังคับบัญชาลูกเสือไมควรอนุญาตใหลูกเสือลงเลนในแมน้ําลําคลองหรือสระเวนแตจะไดมีการ ควบคุมอยา งใกลช ดิ หากผูบ งั คับบัญชาลูกเสอื จะอนุญาตใหล กู เสือลงเลน นํา้ ตอ งปฏบิ ัตดิ ังตอ ไปนี้ 1. พิจารณาในเร่ืองอายุ สขุ ภาพ ตลอดจนความสามารถในการวายนาํ้ ของลกู เสอื แตล ะคน 2. ตรวจสอบความตน้ื ลกึ ของนาํ้ 3. พิจารณาสภาพของดนิ ฟา อากาศในขณะลงเลน นา้ํ 4. แบงลูกเสอื ออกเปนหมยู อ ยๆตามความสามารถสาํ หรับลงเลน น้าํ โดยใหแตล ะหมูมีผูค วบคุมอยางใกลชดิ 5. ใหมีเจาหนาท่ีสําหรับดูแล ซึ่งควรเปนผูที่ไดรับเครื่องหมายวิชาชวยผูประสบภัยมาแลวและควรมีเครื่อง อปุ กรณส ําหรบั ชว ยคนจมน้าํ ไวใหพ รอ มสามารถที่จะชว ยเหลอื เมื่อเกดิ เหตุฉุกเฉินไดท นั ที 6. ในระหวางการเลนน้ํา อาจใหลูกเสือจับเปนคู ๆ โดยใหแตละคูชวยเหลือซึ่งกันและกัน ในการสอบ จํานวนลูกเสือวาอยูครบหรือไม ใหเปานกหวีดเม่ือไดยินสัญญาณลูกเสือจะตองอยูเปนคู ๆ อาจใหชูมือข้ึนแลว ตรวจสอบจํานวน 7. เมอ่ื ไดยินสญั ญาณนกหวีดหรอื เลกิ ตามท่ีกาํ หนดไว ลกู เสอื ตอ งข้ึนจากนํ้าทันที ขอ 279 การเดินทางไกลไปตา งประเทศ มรี ะเบียบปฏิบตั ดิ ังตอไปน้ี 1. ลูกเสือท่ีมีความประสงคที่จะเดินทางไกลไปตางประเทศ จะตองยื่นเร่ืองราวตามลําดับข้ัน จนถึงสาํ นกั งานคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาติ พรอ มทัง้ ช้ีแจงความประสงคและรายละเอียดตาง ๆ 2. การเชิญลูกเสือตางประเทศมาเยี่ยม หรือแรมคืนในประเทศไทย จะตองไดรับอนุมัติจาก ผูอาํ นวยการลูกเสือจากจงั หวดั หรอื เลขาธิการคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหงชาติ แลวแตก รณี การจัดโปรแกรมอยู่ค่ายพกั แรม การอยคู ายพักแรมนนั้ เปนสิง่ จําเปน สาํ หรบั ลูกเสือ ท้ังนี้เพราะธรรมชาติของเด็กน้ันชอบการผจญภัยชอบชีวิต กลางแจง ดังนั้นกองลูกเสือสามัญรุนใหญจึงตองจัดใหมีการเดินทางไกล อยูคายพักแรมอยางนอยปละ 1 คร้ัง (จะ เปนในหรือนอกสถานท่ีก็ได) เม่อื นาํ ลกู เสอื สามญั รนุ ใหญไปอยคู า ยพักแรมแลวไมควรปลอยใหเด็กอยูวาง ผูกํากับตอง จัดกิจกรรมใหล ูกเสอื
การอยู่ค่ายพกั แรมลกู เสือคร้ังแรกของโลก เกาะบราวนซีต้ังอยูท่ีอาวพลู อยูทางทิศตะวันตกของเกาะไวทประมาณ 32 กม. หางออกไปจากฝงทะเล ทางทิศใตของประเทศอังกฤษ เกาะนี้ยาว ประมาณ 2.50 กม. ภายในเกาะน้ีมีตนไมข้ึนอยูหนาแนน สวน ตอนกลางมีตนไมนอย ณ ท่ีซึ่ง บี.พี ไดทดลองตั้งคายพักแรมขึ้นเปนครั้งแรกนั้น อยูทางทิศตะวันออกเฉียงใตของ เกาะ ซ่ึงมกี ระทอมรางเปนเครื่องหมายยังมีอยู บี.พี ใชเปนที่เก็บพัสดุ สวนที่ทําครัวเพื่อประกอบอาหารก็อยูใกล ๆ ขา ง ๆ กระทอ มนีด้ วย บี.พี มีอุดมการณที่จะต้ังกองลูกเสือข้ึน จึงทําการทดลองฝกวาจะสัมฤทธ์ิหรือไม มีอุปสรรคอยางไร โดยเฉพาะอยางย่ิงในการท่ีจะนําเด็กที่มีฐานะแตกตางกัน มารวมกันเปนกอง จะทําไดเพียงใด ดังน้ัน บี.พี.จึงได รวบรวมเด็กจากลูกเพ่ือนบาน และเด็กอื่น ๆ ในกรุงลอนดอน ยุวสมาคมเมืองพลู และเมืองบอรนเมาท (Bournmouth) เลอื กสง มารว มดวย ในจดหมายที่ทานเขียนถึงพอแมเด็กน้ัน ไดช้ีแจงโครงการวาจะฝกเด็กในวิชาเชิงพราน การสังเกต และจํา ระเบียบวินัย ความอดทน และความกลาหาญ การบําเพ็ญประโยชน ทานไดช้ีแจงสถานท่ีต้ังคายพักแรม พัสดุที่ เตรียมไป การเดินทางจะไปกันอยางไร ตลอดจนใหเด็กฝกผูกเชือกลวงหนา คือ เง่ือนพิรอด เง่ือนขัดสมาธิ เง่ือน ตระกรุดเบ็ด เงื่อนดังกลาวไดเขียนภาพสงไปใหฝกดวยเด็กเหลาน้ันไมทราบมากอนวาการอยูคายพักแรมคืออะไร เขาใจวาคงจะไปพักผอนหยอนใจ และคงจะไดพบวีรบุรุษแหง เมืองมาฟอีคิงเทานั้น ตามกําหนดการอยูคายพักแรม เพียง 7 วัน แตตอมาเด็กเกิดความสนุกสนานเปนอันมาก บี.พี จึงตองยืดเวลาตอไปอีกคืออยูคายพักแรมรวม 12 วัน ต้ังแตว นั ท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2450 ถงึ วันท่ี 9 สงิ หาคม พ.ศ. 2450 ที่นอนสําหรับเด็กท้ังหลายใชเส่ือที่ทําดวยฟาง และเด็กบางคนทําท่ีนอนแบบถุงผา ตามที่กลาวไวในหนังสือ “การลูกเสือสําหรับเด็ก” เด็กแตละหมูกองตองนําเตนทของตนเองไปดวย เด็ก ๆ เหลาน้ีไมมีเคร่ืองแบบลูกเสือ คง แตงตัวธรรมดานั่นเอง มีเคร่ืองหมายหมูทําดวยขนสัตวตาง ๆ นายหมูธงเปนรูปสัตวตาง ๆ เด็กทุกคนไดรับแจก เคร่ืองหมายเฟอเดอรีสําหรับติดเสื้อ และถาใครผานการทดสอบได 2 – 3 วิชาบี.พี ก็ใหเคร่ืองหมาย “จง เตรยี มพรอ ม” สวนผา ผกู คอนั้นทกุ คนใชผ าสกี ากี โปรแกรมการอยู่ค่ายพกั แรมของ บ.ี พี เวลา 06.00 น. ต่นื นอนเอาท่ีนอนผ่ึงแดด ดมื่ นม รับประทานขนมปง ” 06.30 น. ออกกําลังกาย ” 07.00 น. แจงโปรแกรมประจาํ วัน ” 07.30 น. ทําความสะอาดคายพักแรม ” 07.45 น. ตรวจแถว เชญิ ธงขนึ้ สวดมนต รับประทานอาหารเชา ” 09.00 น. ฝก วิชาลูกเสอื ” 12.00 น. อาบนา้ํ ” 13.00 น. พักผอ น ” 14.30 น. ฝก วชิ าลูกเสอื ” 17.00 น. รบั ประทานนา้ํ ชา ” 18.00 น. เลนเกมส ” 19.15 น. เปล่ยี นเครื่องแตง กาย ” 20.00 น. รบั ประทานอาหารค่ํา ” 20.15 น. รอบกองไฟ ออกกาํ ลงั กาย
จะเห็นไดวา บี.พี ไดวางแผนงานเปนอยางดีสําหรับลูกเสือ ด้ังนั้นผูบังคับบัญชาลูกเสือจะตองพยายาม จดั ทาํ โครงการอยูคายพักแรมใหเหมาะสมกับวัยของเด็กตลอดจนสอดคลองกับสภาพภูมิประเทศ ประการสําคัญท่ีสุด ควรทราบวา การพาลูกเสอื ไปคายพักแรมนั้น เรามีวัตถุประสงคอยางไร ในที่น้ีอาจจะกลาวไดวา วัตถุประสงคในการ พาลกู เสือไปคา ยพกั แรมมีดงั นี้ 1. เปนการฝกระบบหมู 2. เปน การเปลี่ยนสถานที่ฝกอบรม ทาํ ใหเด็กเกิดความตื่นเตน ไมเ บอื่ หนาย 3. เปน การฝกระเบยี บวินัย 4. เปนการทดสอบการอยรู วมกัน 5. เปนการฝกการชวยเหลือตนเอง 6. เปนการสอบวชิ าตางๆในหลกั สูตร 7. ฝกใหร ูจักการปรบั ตวั เองใหเ ขากบั สง่ิ แวดลอม 8. ฝกความอดทน 9. รูจักการใชแ ผนท่แี ละเขม็ ทศิ 10. เพอื่ ศกึ ษาธรรมชาติ หลกั การจัดฝึ กอบรมลูกเสือในการอย่คู ่ายพกั แรม 1. จะตอ งมวี ัตถปุ ระสงคห รือเปาหมายในการอยูคา ยพกั แรม 2. ตอ งมีกจิ กรรมทางลูกเสอื 3. ตอ งมีกจิ กรรมทางสุขภาพอนามัย 4. ตอ งมกี ิจกรรมเกีย่ วกับทางสงั คม 5. กจิ กรรมทกุ อยา งควรจะเปนกิจกรรมกลางแจง 6. ตอ งมพี ิธีการทางลกู เสือ
การเดนิ ทางไกลและอยูคายพักแรม เปนรากฐานสําคัญอันหน่ึงของขบวนการลูกเสือ ซ่ึงสามารถฝกอบรมให ลกู เสอื มคี วามอดทน มีระเบียบวนิ ัย ท้งั ยังเปนการสง เสริมสขุ ภาพและพลานามัย 1. ความมุงหมายในการเดนิ ทางไกลและการอยคู า ยพักแรม 1.1 ฝกความอดทน อยใู นระเบยี บวินยั และเสริมสรางพลานามัย 1.2 สนองความตองการของเด็ก ในดานการผจญภัยและการเดนิ ทางสาํ รวจ 1.3 เพอ่ื สอบวิชาลกู เสือหรือทดสอบวิชาทเี่ รยี นมาแลว และเรียนเพ่มิ เตมิ 1.4 เปนการฝก ระบบหมู ฝก การทาํ งานเปน กลุม 1.5 ฝกลูกเสอื ไดปฏิบัตติ ามคําปฏญิ าณและกฎของลกู เสือสามารถนําไปใชในชีวิตประจําวนั 2. หลักการ จะตอ งคํานงึ ถงึ 3 W1h คอื 2.1 What จะทาํ ไปทําไม หมายถึง วัตถุประสงคอยางไร 2.2 Where จะไปทไ่ี หน 2.3 When จะไปเมอ่ื ไร 2.4 How จะไปอยา งไร คอื กาํ หนดจะเอาอะไรไปและไปอยา งไร 3. วธิ ปี ฏบิ ตั ิ 3.1 ตอ งฝก อบรมลว งหนา ( Practice ) 3.2 ตองเตรยี มอุปกรณ – พัสดสุ ่ิงของใหครบ ( Properties ) 3.3 ตอ งไปตรวจสถานท่ีลวงหนา ( Premises ) 3.4 ตอ งจดั เตรยี มรายการอาหาร ( Provision ) 3.5 ตองจัดทํากาํ หนดการฝก อบรม ( Programme ) 3.6 ตองมีกิจกรรมกาวหนา ( Progress )
ในการเดินทางไกลและอยูคายพกั แรมของลกู เสือ ลกู เสือมักใช เป ถงุ ทะเล ยาม กระเปา ฯลฯ บรรจุ ส่ิงของตาง ๆ ทีจ่ ะนําไปคายพกั แรม โดยสะพายหลังซึง่ สะดวกตอการเดินทาง หลกั การบรรจเุ ครื่องหลงั 1. กอนบรรจุเคร่ืองหลัง ควรเอาสิ่งของทั้งหมดท่ีจะเอาไป เชน อุปกรณสวนตัว ไดแก เสื้อผา ผา หม เครื่องใชทจ่ี าํ เปน สบู ยาสฟี น แปรงสีฟน แปง ยาสระผม ฯลฯ ออกมาวางแผเช็คจํานวนเสียกอน สาํ รวจวา ยงั ขาดอะไรอยู เม่อื ครบจึงบรรจลุ งในประเปา 2. เอาส่ิงท่ีไมจําเปนบรรจุลงกอน สวนของท่ีตองการใชกอนหรือตองการใชปจจุบันทันที เชน ไฟ ฉาย ยารักษาโรค ควรเอาไวด า นบน 3. ของท่พี บั ไดพ ยายามพบั ใหเ ล็กที่สุด 4. ผาหมหรือผา ปูทีน่ อนจะพบั ไวดานทีต่ ดิ กบั หลงั เรา เวลาแบกเปจ ะไมเ จ็บ 5. อยา ใหเนอ้ื ที่ภายในเครื่องหลงั หรอื เปมที ่ีวา งโดยทเ่ี ราไมใชใหเ กดิ ประโยชน 6. อยา บรรจุสิง่ ของท่แี ตกงา ย เชน แกว ไขด ิบหรือพวกเนื้อสัตวท ี่จะนาํ ไปประกอบอาหาร เปนธรรมดาเม่ือลูกเสือไปคายพักแรม จึงจําเปนอยางย่ิงที่จะตองสรางและประดิษฐส่ิงตาง ๆโดยอาศัยวัสดุ ธรรมชาติที่มีอยูนํามาใชเปนอุปกรณในการอยูคาย เชน ราวตากผา ที่คว่ําจาน ท่ีวางแกวท่ีวางรองเทา น่ังราน แคร ฯลฯ
หลกั ในการสรา งอปุ กรณในคายพกั แรม 1. ใชวัสดุท่มี ีอยูตามธรรมชาติ เชน ก่งิ ไม ขอนไม หญา กอนหิน ไม 2. ใชว สั ดทุ ี่หางา ยและใชเ วลาทาํ ไมมากหนัก ใชประโยชนไ ดด ี ตัวอยา งการสรา งอุปกรณใ นคา ยพักแรม
พันมอื พันคาง พันศรี ษะ พนั คลองแขน พันขอพับแขน / ขา พนั เทา
1. เงอื่ นพริ อด 2. เงอ่ื นขัดสมาธิ 3. เงอื่ นประมง 4. เงอ่ื นกระหวดั ไม 5. เงอื่ นผกู ซงุ 3. เง่อื นตะกรดุ เบด็ 7. เงอ่ื นปมตาไก 8. เงอื่ นผกู ร้ัง 9. เงอ่ื นบวงสายธนู 10. การผกู แนน ( LASHING ) 10.1 ผูกกากบาท 10.2 ผกู ประกบ 10.3 ผกู ทแยง ( SQUARE LASHING ) ( SHEER LASHING ) ( DIAGONAL LASHING )
เงื่อนตะกรดุ เบด็ ชนั้ เดยี ว เปน เงือ่ นใชง านตา ง ๆ มากมาย เชน ผกู เบ็ด ผกู สง่ิ ของ ผูกบนั ไดเชือก ผูกบนั ไดลงิ ใชในการผูกแนน เชน ผูกกากบาท ผูกประกบ ผกู ทแยงฯลฯซึ่งมีวิธีการผูก ไดห ลายวิธี ท้ังน้ยี อมแลวแตว ัตถุสิ่งของที่จะผกู แบบที่ 1 ผูกเปนบวงตะกรดุ เบด็ แลวนาํ ไปคลองหรือผูกส่งิ ของ ขัน้ ที่ 1 ขน้ั ที่ 2 ขน้ั ที่ 3 แบบท่ี 2 ผูกตะกรดุ เบด็ กับเสาหรือราวในแนวนอน ข้ันท่ี 1 ข้นั ท่ี 2 แบบที่ 3 ผูกตะกรุดเบ็ดกับเสาหรือหลกั ในแนวต้งั ขนั้ ท่ี 1 ข้นั ที่ 2
เง่ือนผูกรั้ง ( Tarbuck knot ) ใชผูกร้ังสิ่งของตาง ๆ เชน เต็นท เสาธง ฯ กับสมอบก ซ่ึงสามารถดึงใหต งึ หรอื หยอ นตามตองการโดยไมต อ งไปแกเ ชือกน้นั อีก ขัน้ ท่ี 1 ข้ันที่ 2 ขนั้ ท่ี 3 พนั รอบเชือก ขน้ั ที่ 4 เมื่อผูกเสร็จ ผูกรัง้ อกี ลักษณะหนง่ึ ผูกรัง้ อีกลกั ษณะหน่งึ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159