การรกั ษาดแู ลระยะหลงั คลอด ใชม้ าตรการเดียวกบั มารดาหลงั คลอดทวั ไป และใช้ หลกั UP ควรจดั ใหพ้ กั เป็ นสดั สว่ นเฉพาะในกรณีทีผิดปกติ การมีเพศสมั พนั ธท์ ีปลอดภยั การคมุ กาํ เนิด ใชไ้ ดท้ กุ ชนิด ถา้ ไดย้ า EFV, LPV/r ประสทิ ธิภาพการคมุ กาํ เนิดชนิดกนิ ลดลง งดการเลียงดบู ตุ รดว้ ยนํานมแม่ การใหย้ าตา้ นไวรสั แกม่ ารดาหลงั คลอด
ยาตา้ นไวรสั► enofovir (TDF) ► Lamivudine (3TC)► Efavirenz (EFV) ► NVP (nervirapine)► Lopinavir/ritonavir (LPV/r,RTV)► Zidovudine (ZDV หรอื AZT) คําอธิบายสตู รที 2 AZT+ 3TC (300+150) 1 เม็ด +LPV/r (200/50) 2 เม็ด ทกุ 12 hr หรอื TDF(300mg)+3TC(300mg) วนั ละครงั + LPV/r (200/50) 2 เม็ด ทกุ 12 hr
การป้ องกนั การถ่ายทอดเชือเอชไอวีจากแมส่ ลู่ กูการเรมิ ยาตา้ นไวรสั เรมิ ยาทนั ทีทกุ รายโดยไม่ตอ้ งรอผล CD4สตู รแรก: ใหย้ าต่อหลงั คลอดในหญิงตงั ครรภ์ ทกุTDF (300 mg)+ 3TC (300 ราย โดยผตู้ ิดเชือสมคั รใจและสามารถกินmg)+ EFV (600 mg) ทกุ 24 ยาได้ ต่อเนืองและสมําเสมอ โดยเฉพาะhr อยา่ งยงิ กรณี discordant couple, เป็ นวณั โรค หรอื มีการติดเชือ ตบั อกั เสบบีหรอื ซี เรอื รงัสตู รที 2 กรณีทีสงสยั เชือ ดือยาไม่แน่ใจว่าจะสมคั รTDF + 3TC + LPV/r หรอื ใจกินยาตอ่ หลงั คลอด ไมม่ ีขอ้ บ่งชีตามสตู รAZT + 3TC + LPV/r แรก
ยาตา้ นไวรสัIntrapartum Newbornใหย้ าชนิดเดิม + AZT AZT(syr) 4 mg/kg ทกุ 12300 mg ทกุ 3 ชม. หรอื ชม. นาน 4 wks (เรมิ ภายใน 1 ชม.600 mg ครงั เดียวจน หลงั คลอดดีทีสดุ )คลอดเสรจ็C/Sใหก้ ินยากอ่ นเรมิ ผา่ ตดั เด็กคลอดจากแม่ทีมีภาวะเสยี งสงูอยา่ งนอ้ ย 4 ชม. AZT(syr) 4 mg/kg ทกุ 12ชม.อาจยกเวน้ การให้ AZT 3TC (syr) 2 mg/kg ทกุ 24ชม.ระหว่างคลอดเฉพาะในรายที NVP (syr) 4 mg/kgทกุ 24ชม.VL< 50 copies/mL นาน 6 wks
การดแู ลทารกในหอ้ งคลอด ใสถ่ งุ มือทกุ ครงั เมือจบั ตวั ทารกทีปนเปื อนเลือดและสิง คดั หลงั ตดั สายสะดือดว้ ยความระมดั ระวงั ไมใ่ หเ้ ลอื ดกระเด็น เช็ดตวั ทารกทนั ทีหลงั คลอด กอ่ นทีจะยา้ ยออกจาก หอ้ ง คลอดและกอ่ นฉีดยา ระวงั การภาวะ hypothermia เรมิ ใหย้ าตา้ นไวรสั แกท่ ารก สามารถให้ vitamin K วคั ซีน BCG และวคั ซีน HBV ได้ เช่นเดียวกบั เด็กปกติ
การดแู ลเด็กหลงั คลอด ใหง้ ดนมแม่ ใหก้ ินนมผสม หา้ มผเู้ ลียงเด็กเคียวขา้ วเพือป้ อนใหเ้ ด็กกนิ ติดตาม S/E จากยาตา้ นไวรสั หรอื อาการที เกียวกบั การติดเชือ HIV เด็กควรไดร้ บั การตรวจ anti-HIV ทีอาย ุ 18 เดือน เพือยนื ยนั การติดเชือหรอื ไมต่ ิดเชือ ใหว้ คั ซีนเพือสรา้ งเสรมิ ภมู ิคมุ้ กนั โรค
การใหว้ คั ซีนในทารก วคั ซีน BCG ใหใ้ นทารกแรกเกดิ ทกุ คนทีคลอดจากแมท่ ีติดเชือ HIV ได้ แต่กรณีทียงั ไมเ่ คยไดร้ บั BCG ตอนแรกเกิดและตรวจพิสจู นแ์ ลว้ ว่า ติด เชือ HIV และเรมิ มีอาการของ HIV ไมค่ วรใหว้ คั ซีน BCG ถา้ เคยมี ประวตั ิ ฉีด BCG แลว้ แมไ้ มม่ ีแผลเป็ น ไมต่ อ้ งใหซ้ าํ วคั ซีนตบั อกั เสบบี ใหเ้ หมือนเด็กปกติ หลงั จากฉีดตอนแรกเกิด หากใช้ วคั ซีนรวม DTP-HBV ใหฉ้ ีดเมืออาย ุ 2, 4, 6 เดือนได้ วคั ซีนโปลโิ อ สามารถใชไ้ ดท้ งั IPV และ OPV โดยควรเลือก IPV หาก สามารถให้ ได้ โดยเฉพาะในกรณีทีผปู้ ่ วยมีอาการแลว้ วคั ซีนรวม MMR ไม่ใหใ้ นรายทีภมู ิคมุ้ กนั ตํา (CD4 < 15%) เด็กทีมี CD4 > 15% ใหเ้ หมือนเด็กปกติ
การพยาบาลมีวตั ถปุ ระสงคด์ งั นี ► ป้ องกนั การแพรก่ ระจายเชือไปยงั ทารกในครรภ์ ► ป้ องกนั การแพรก่ ระจายเชือไปยงั ทารกแรกเกดิ ► ป้ องกนั การแพรเ่ ชือไปยงั ผอู้ ืน ► สง่ เสรมิ ใหม้ ีสขุ ภาพแข็งแรง
การติดเชือ Human papillomavirus (HPV) เป็ นไวรสั ขนาดเล็กรปู รา่ งทรงกลม เป็ น DNA virus เมือมีการติดเชือ เซลลจ์ ะมีลกั ษณะรปู รา่ งทีเปลียนไป และอาจทําใหม้ ีการแบ่งตวั ของเซลลผ์ ิดปกติ ทําให้ เซลลไ์ มต่ าย และมีสารพนั ธกุ รรมทีผิดปกติ และทําให้ เกดิ เป็ นมะเรง็ ไดใ้ นทีสดุ ► กลม่ ุ สายพนั ธค์ุ วามเสียงตําในการกอ่ มะเรง็ ไดแ้ กส่ ายพนั ธ์ ุ 6 กบั 11 ► กลม่ ุ สายพนั ธค์ ุ วาม เสียงสงู ในการกอ่ มะเรง็ ไดแ้ ก่ สายพนั ธ์ ุ 16 , 18
อาการของการติดเชือ HPV การติดเชือ HPV บรเิ วณอวยั วะสืบพนั ธ์ ุ ไมไ่ ดท้ ําใหเ้ กดิ อาการทีผิดปกติ เวน้ แต่การติดเชือนนั ทําใหเ้ กดิ เป็ น รอยโรค เช่น หดู ทําใหค้ ลาํ พบกอ้ นเนือ คนั อาจมี เลือดออกจากบรเิ วณผิวหดู หลงั การติดเชือ จะมีการดําเนินของโรคเป็ นไปได้ 4 แนวทางไดแ้ ก่ *หายเป็ นปกติ *การคงอยขู่ องเชือ *การเกดิ รอยโรคทีรนุ แรงขนึ *การกลบั เป็ นซํา
ผลกระทบต่อการตงั ครรภแ์ ละการคลอด ทารกทีคลอดทางช่องคลอดมีโอกาสทีจะติดเชือ HPV ทีเยอื บทุ างเดินหายใจทีเรยี กว่า Juvenile-Onset Recurrent Respiratory Papillomatosis (JORRP)
การวินิจฉยั เป็ นการตรวจหาการติดเชือ HPV สายพนั ธค์ุ วามเสียงสงู ใน ระดบั DNA จากเซลลเ์ ยอื บผุ วิ และสารคดั หลงั บรเิ วณปาก มดลกู ทีนิยมใชม้ ี 2 เทคนิด คือ ► Singal amplification เรยี กว่า DNA hybridization ไมส่ ามารถบอกชนิดสายพนั ธข์ุ องเชือ HPV และตอ้ งมีปรมิ าณเชือทีมากพอ ► Target amplification ใชว้ ิธี PCR สามารถ ตรวจพบเชือทีมีปรมิ าณนอ้ ยได้
การรกั ษาและการป้ องกนั ไม่มีวิธีการรกั ษาทีทําใหห้ ายขาด เป็ นการรกั ษา รอย โรคทีเกดิ จากการติดเชือ เช่น หดู หงอนไก่ และรอยโรค ระยะกอ่ นเป็ นมะเรง็ หลีกเลียงการมีเพศสมั พนั ธ์ หลีกเลยี งการมีค่นู อนหลายคน การใชถ้ งุ ยางอนามยั หลกี เลียงการเป็ นโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์
การรกั ษาและการป้ องกนั การฉีดวคั ซีนป้ องกนั การติดเชือ HPV ► Quadrivalent vaccine ป้ องกนั ไวรสั สายพนั ธ์ ุ 6, 11, 16 และ 18► Bivalent vaccine ป้ องกนั ไวรสั 2 สายพนั ธ์ ุ 16, 18 ► กลม่ ุ เป้ าหมายคือหญิงทีมีอาย ุ 9 – 26 ปี ทียงั ไม่ เคยมีเพศสมั พนั ธ์ ฉีด 3 เขม็ ► S/E ของวคั ซีน ปวดบรเิ วณตําแหน่งทีฉีด ไขต้ ําๆ หรอื บวม แดง รอ้ น คนั เฉพาะที
การพยาบาลมารดาทีเป็ นหดู หงอนไก่ ► เกดิ จากเชือ Human papilloma virus สว่ น ใหญ่เป็ นชนิดที 6 กบั 11อาการและอาการแสดง ► มีติงเนือสชี มพู ลกั ษณะคลา้ ยหงอนไก่ น่มุ ผิว ขรขุ ระ มีสะเกด็ รวมกนั เป็ นกอ้ นคลา้ ยดอกกะหลาํ ตก ขาวมีกลินเหม็น และคนั
การวินิจฉยั การซกั ประวตั ิ การตรวจรา่ งกาย การตรวจทางหอ้ งปฏิบตั ิ นิยมทํา pap smear และตดั ชินเนือสง่ ตรวจผลกระทบ ► ต่อมารดา ตกเลอื ด การทํา C/S สงู ขึน แผลฝี เยบ็ หายชา้ ► ต่อทารก อาจทําใหเ้ กดิ laryngeal papilloma
หดู หงอนไกบ่ รเิ วณforchette และรอบทวารหนกั หดู หงอนไก่บรเิ วณปากมดลกู และช่องคลอดสว่ นบน
แนวทางการรกั ษา1.หดู ขนาดเล็กจีดว้ ยสารเคมีเช่น trichloroaceticacid ทายาทีหดู สปั ดาหล์ ะ 1-2 ครงั หดู ขนาดใหญ่จีดว้ ยความเยน็ ไฟฟ้ า เลเซอร์ ผา่ ตดั2.จะทํา C/S ถา้ เสียงต่อการคลอดยากหรอื ตกเลือด3.ควรรบั การตรวจมะเรง็ ปากมดลกู ทกุ ราย
การพยาบาลมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พือ 1.ลดการติดเชือ 2.ลดความวิตกกงั วล ใหข้ อ้ มลู เกียวกบั สาเหต ุการดแู ลรกั ษา การใชถ้ งุ ยาง การรกั ษาความสะอาดบรเิ วณอวยั วะสืบพนั ธใ์ หส้ ะอาดและ แหง้ ชดุ ชนั ในซกั ใหส้ ะอาดและตากแดด การปฏิบตั ิตนใหร้ า่ งกายแข็งแรง กินอาหารครบ 5 หมู่ นอน พกั ผอ่ นใหพ้ อ ออกกําลงั กาย ดืมนําใหเ้ พียงพอ
การพยาบาล หลงั การรกั ษาดว้ ย trichloroacetic acid ใหใ้ ชน้ ํา และสบ่ลู า้ งยาออกหลงั ทายา 1-4 ชม. หลงั คลอด ดแู ลเหมือนมารดาหลงั คลอดทวั ไป เนน้ การทํา ความสะอาดบรเิ วณอวยั วะสบื พนั ธไ์ มอ่ บั ชืน ใหล้ กู ดดู นมได้ แนะนําใหม้ าตรวจมะเรง็ ปากมดลกู เพราะกอ่ ใหเ้ กิดมะเรง็ ปากมดลกู ได้
ไวรสั ซิกากบั หญิงตงั ครรภ์ พาหะนําโรค คือ ยงุ ลาย เป็ นเชือไวรสั ในตระกลู เฟลวิ ไวรสั (Flavivirus) อาการและอาการแสดง อาจจะไม่มีอาการแสดง ถา้ มีอาการ สว่ นใหญ่มีไขต้ ําๆ ผืนขนึ ตามรา่ งกาย อาจพบมีเยอื บตุ าอกั เสบ ปวด กลา้ มเนือ และขอ้ อ่อนเพลีย ซึงจะเกดิ อาการหลงั จาก การถกู ยงุ ทีมีเชือกดั 2 - 7 วนั
การถ่ายทอดสทู่ ารกระหว่างตงั ครรภห์ รอื ช่วงแรกเกดิ ปัจจบุ นั ยงั มีจํากดั มาก ยงั อยใู่ นช่วงของการศึกษาวิจยั หญิงตงั ครรภท์ ีติดเชือควรไดร้ บั การติดตาม และดแู ล สขุ ภาพอยา่ งใกลช้ ิด ผลกระทบของโรคต่อทารก อาจเป็ นสาเหตขุ องภาวะศีรษะเล็กแต่กาํ เนิด และอาจ เกยี วขอ้ งกบั การติดเชือในช่วงไตรมาสแรกของการ ตงั ครรภ์ ทารกจําเป็ นตอ้ งผา่ นการตรวจสขุ ภาพ การ ติดตามดแู ลอยา่ งใกลช้ ิด
ภาวะศีรษะเลก็ แต่กาํ เนิด หมายถึงเด็กแรกเกิดทีมีรอบศีรษะขนาดเลก็ กว่าทีควรจะเป็ น เมือพิจารณาตามอายคุ รรภท์ ีแรกคลอด และเพศ เป็ นภาวะทีพบไดไ้ ม่บ่อยเป็ นความผิดปกติอาจมีสาเหตจุ าก พนั ธกุ รรมหรอื สงิ แวดลอ้ มทีเป็ นพิษ การฉายรงั สี หรอื การ ติดเชือ ภาวะนีอาจเป็ นเดียวๆ หรอื อาจจะมีความเกียวขอ้ งกบั อาการ อืน ๆ เชน่ อาการชกั พฒั นาการลา่ ชา้ หรอื มีความผิดปกติ ในการดดู หรอื กลืน อาการเหลา่ นีมีความแตกตางกนั ของ ความรนุ แรง และอาจเป็ นอนั ตรายถึงชีวิต
การวินิจฉยั ซกั ประวตั ิแล อาการและอาการแสดง มีผืนและมีอาการ 1 ใน 3 ดงั นี ไข้ ปวดขอ้ ตาแดง หรอื มีไข้ และมอี าการ 2ใน 3 ดงั นี ปวดศีรษะ ปวดขอ้ ตาแดง หรอื มีผืน ทีอาศยั อยหู่ รอื มปี ระวตั ิเดินทางไปในพืนทีทีพบผปู้ ่ วย การวินิจฉยั ทาง Lab เกบ็ ตวั อยา่ งเลอื ด ปัสสาวะ และ สารคดั หลงั เช่นนําลาย เกบ็ serum ทงั มารดาและทารกทีมีศีรษะเลก็ เพือตรวจ IgM
การรกั ษาและการป้ องกนั ยงั ไมม่ ีวคั ซีน และการรกั ษาเฉพาะ เป็ นการรกั ษาตาม อาการเพือบรรเทาอาการ ป้ องกนั การถกู ยงุ กดั โดยการสวมใสเสอื แขนยาว กางเกงขายาว และหมวก ใชย้ าทากนั ยงุ ทีผา่ นการรบั รองมาตรฐาน โดยปฎบิ ตั ิ ตามคําแนะนําบนฉลากผลติ ภณั ฑอ์ ยางเครง่ ครดั นอนหลบั ในหอ้ งทีมีมงุ้ ลวด หรอื นอนกางมงุ้ คน้ หา และกาํ จดั แหลง่ เพาะพนั ธย์ ุ งุ
การดแู ลรกั ษากรณีสงสยั /ยนื ยนั การติดเชือ มีไข้ เช็ดตวั หรอื อาบนําอ่นุ ดว้ ยฝั กบวั ใหย้ า Acetaminophen 2 เม็ด ทกุ 4-6 ชม. ขาดนํา ใหด้ ืมนํา นําผลไม้ ปวด ใหย้ า Acetaminophen 2 เม็ด ทกุ 4-6 ชม. ออ่ นแรง ใหพ้ กั ผอ่ น ผนื ทา Calamine lotion ตาแดงไม่มีขตี า ให้ Loratadine บรรเทาคนั ตา ตาแดง นําตาไหล
การดแู ลทารกในครรภ์ ยนื ยนั GA ใหใ้ กลเ้ คียงความจรงิ ตรวจ U/S ทนั ทีทีเรมิ ดแู ลเพือคน้ หาความพิการแต่ กาํ เนิด ตรวจ U/S ติดตามภาวะหวั เลก็ และความพิการแต่ กาํ เนิด ประเมินสขุ ภาพทารกในครรภ์ และการเจรญิ เติบโต ถา้ พบความผดิ ปกติ ปรกึ ษาทีมแพทยผ์ เู้ ชียวชาญตาม ความเหมาะสม
Search