วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั จดั ทําโดย ด.ญ เสาวภา หลักคํา เสนอ คณุ ครู ภัทราวรรณ อุทธสงิ ห์ โรงเรยี นโพธไิ ทรพทิ ยาคาร สาํ นงั านเขตพนื ทีการศึกษา มธั ยมศึกษา อุบลราชธานี เขต 29
คํา นาํ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนีเปนส่วนหนึงของการวิชา การออกแบบและเทคโนโลยี ว22103โดยเนือหาภายใน เล่มนีว่าด้วยเรืองของวัสดุทีมีอยู่ในชีวิตประจาํ วันเช่น ไม้ โลหะ พลาสติก และอืนๆ ประโผยู้จชัดนท์ตํา่อหผวัู้งทเีตป้อนงอกยา่ารงศยึกิงษวา่าไรดา้ไยมง่มาานกฉกบ็นับิ ้อนยีจะเปน หากมีช้อผิดพลาดประการใดผู็จัดทําต้องขออภัยไว้ ณ ทีนีด้วย
สารบญั หนา้ เรอื ง ไมธ้ รรมชาติ 3 ไมป้ ระกอบ 4 โลหะกล่มุ เหล็ก 5 โลหะนอกกล่มุ เหล็ก 6 เทอรโ์ มพลาสติก 7 ยางธรรมชาติ ยางสงั เคราะห์ 8 อ้างอิง 9 10
ไ ม้ธ ร ร ม ช า ติ ไมธ้ รรมชาติ คือ ไมเ้ ปนวสั ดจุ ากธรรมชาติ ทีมนษุ ยร์ จู้ กั นาํ มาใชน้ านแล้วในสมยั โบราณ เมอื ยงั ไมย้ งั มปี รมิ าณมากและมรี าคาถกู มนษุ ยจ์ ะนาํ ไมจ้ ากธรรมชาติมาสรา้ งทีอยูอ่ า สยั และเครอื งมอื เครอื งใชต้ ่างๆ ต่อมาเมอื ประชากรมจี าํ นวลเพมิ มากขนึ สง่ ผลใหป้ าไม้ ถกู ทําลายและปรมิ าณไมม้ จี าํ นวนลดลง อยา่ งรวดเรว็ ทําใหไ้ มจ้ ากธรรมชาติเปน วสั ดทุ ีหายากและมรี าคาทีแพง
ไม้ประกอบ หมายถึง ผลิตภัณฑ์จาก ไม้ทีย่อยเปนชิน ไสเปนฝอย หรือ แยกเปนเส้นใย แล้วนาํ มาอัดรวมกัน เข้าเปนชิน เปนแผ่น ทังนี โดยจะ มีวัตถุเชือมประสานด้วยหรือไม่ก็ได้ จัด เ ป น อุ ต ส า ห ก ร ร ม ที ใ ช้ไ ม้ข น า ด เล็ก ตลอดจนเศษไม้ปลายไม้ให้เปน ประโยชน์อย่างสาํ คัญ ไม้ประกอบ อาจแบ่งออกได้เปน ๓ พวก คือ แผ่นชินไม้อัด แผ่นใบไม้อัด และ แผ่นฝอยไม้อัด
เทอรโ์ มพลาสติก (Thermoplastic) หรอื เรซนิ เปนพลาสติก ทีใชก้ ันแพรห่ ลายทีสดุ ในโลก ไดร้ บั ความรอ้ นจะอ่อนตัว และ เมอื เยน็ ลงจะแขง็ ตัว สามารถเปลียนรปู ได้ พลาสติกประเภท นโี ครงสรา้ งโมเลกลุ เปนโซต่ รงยาว มกี ารเชอื มต่อระหวา่ งโซ่ พอลิเมอรน์ อ้ ย มาก จงึ สามารถหลอมเหลว หรอื เมอื ผา่ นการ อัดแรงมากจะไมท่ ําลายโครงสรา้ งเดมิ ตัวอยา่ ง พอลิเอทิลี น พอลิโพรพลิ ีน พอลิสไตรนี มสี มบตั ิพเิ ศษคือ เมอื หลอมแล้ว สามารถนาํ มาขนึ รปู กลับมาใชใ้ หมไ่ ด้ ชนดิ ของพลาสติกใน ตระกลู เทอรโ์ มพลาสติก
ยางธรรมชาติ (Natural Rubber) ยางธรรมชาติสว่ นมากเปน ยางทีไดม้ าจากต้นยาง Hevea Brazilliensis ซงึ มตี ้นกําเนดิ จาก ล่มุ แมน่ าํ อเมซอนในทวปี อเมรกิ าใต้ นาํ ยางสดทีกรดี ไดจ้ ากต้น ยางมลี ักษณะสขี าวขน้ และมเี นอื ยางแหง้ (dry rubber) ประมาณ 30 % แขวนลอยอยูใ่ นนาํ ถ้านาํ นาํ ยางทีไดน้ ไี ปผา่ นกระบวนการ ปนเหวยี ง (centrifuge) จนกระทังไดน้ าํ ยางทีมปี รมิ าณยางแหง้ เพมิ ขนึ เปน 60 % เรยี กวา่ นาํ ยางขน้ (concentrated latex) การ เติมสารแอมโมเนยี ลงไปจะชว่ ยรกั ษาสภาพของนาํ ยางขน้ ใหเ้ ก็บ ไวไ้ ดน้ าน นาํ ยางขน้ สว่ นหนงึ จะถกู สง่ ออกสตู่ ลาดต่างประเทศ สว่ นทีเหลือจะถกู นาํ ไปใชเ้ ปนวตั ถดุ บิ ในอุตสาหกรรมถงุ มอื ยาง และถงุ ยางอนามยั เปนต้น แต่เมอื นาํ นาํ ยางสดทีกรดี ไดม้ าเติม กรดเพอื ใหอ้ นภุ าคนาํ ยางจบั ตัวกันเปนของแขง็ แยกตัวจากนาํ จากนนั ก็รดี ยางใหเ้ ปนแผน่ ดว้ ยเครอื งรดี (two-roll mill) และ นาํ ไปตากแดดเพอื ไล่ความชนื ก่อนจะนาํ ไปอบรมควนั ทีอุณหภมู ิ ประมาณ 60-70 o C เปนเวลา 3 วนั เราก็จะไดย้ างแผน่ รมควนั
ยางสงั เคราะห์ (Synthetic rubber) เปน ผลิตภัณฑ์ทีสงั เคราะหข์ นึ เพอื เลียนแบบยาง ธรรมชาติ ซงึ จดั วา่ เปนอิลาสโทเมอร์ หรอื วสั ดุ ยดื หยุน่ สงั เคราะห์ (artificial elastomer) ชนดิ หนงึ ทีมสี มบตั ิพเิ ศษคือ สามารถเปลียนรปู ภายใต้ ความเค้นไดม้ ากกวา่ วสั ดชุ นดิ อืนและสามารถกลับ คืนรปู ไดเ้ หมอื นเดมิ โดยไมเ่ กิดการเสยี รปู อยา่ ง ถาวร
อ้างอิง พงษ์ธร แซอ่ ุย, ยาง : ชนดิ สมบตั ิ และการใชง้ าน, ศูนย์ เทคโนโลยโี ลหะและวสั ดแุ หง่ ชาติ (เอ็มเทค), 2547 ↑ บุญธรรม นธิ อิ ุทัย, ยางธรรมชาติ ยางสงั เคราะห์ และคณุ สมบตั ิ, คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตปตตาน,ี 2530, หนา้ 1, 3 ↑ ชยั วฒั น์ เจนวาณชิ ย,์ เคมโี พลิเมอรพ์ นื ฐาน, ภาควชิ าเคมี คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร,์ 2527, หนา้ 9 ↑ พรพรรณ นธิ อิ ุทัย, ยาง : เทคนคิ การออกสตู ร, ภาค วชิ าเทคโนโลยยี างและพอลิเมอร์ คณะวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขต ปตตาน,ี พมิ พค์ รงั ที 1, 26 ธนั วาคม 2540, หนา้ 7-1 ↑ พลชติ บวั แก้ว, ยางสงั เคราะห ์ : หลักสตู รเทคโนโลยยี าง สาํ หรบั พนกั งานโรงงานอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและ อุตสาหกรรมยางล้อ, ฝายพฒั นาและถ่ายทอดเทคโนโลยี ศูนยว์ จิ ยั ยางสงขลา
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: