Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม 5 ปี ฉบับทบทวน 2564

แผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม 5 ปี ฉบับทบทวน 2564

Description: แผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม 5 ปี ฉบับทบทวน 2564

Search

Read the Text Version

แผนพฒั นาอำเภอ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) อำเภอพนมสารคาม จงั หวัดฉะเชิงเทรา วิสยั ทศั น์อำเภอพนมสารคาม “เกษตรปลอดภัย ชีวติ สดใส ใสใ่ จส่งิ แวดล้อม พร้อมเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียน” คณะกรรมการบริหารงานอำเภอแบบบรู ณาการ (กบอ.) ฉบบั ทบทวนปี พ.ศ. ๒๕๖4

สารบัญ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลทั่วไปของอำเภอพนมสารคาม ......................................................................................... ๑ ๑.๑ ความเปน็ มาของอำเภอ .....................................................................................................................๒ ๑.๒ คำขวัญของอำเภอ.............................................................................................................................8 ๑.๓ ข้อมลู สภาพท่ัวไปและสถานการณ์ในปัจจุบัน ข้อมูลหนว่ ยงานของรัฐ สว่ นราชการ รัฐวสิ าหกิจ ภาคเอกชนในพื้นที่......................................................................................................................... ๑๐ ๑.๔ เป้าหมายการพัฒนาจังหวัดและประเดน็ การพฒั นาของแผนพัฒนาจังหวดั ..................................... ๒๓ ๑.๕ ประเดน็ ปัญหาและความตอ้ งการเชิงพืน้ ทปี่ ระเดน็ การพฒั นา ........................................................ ๒๙ ๑.๖ ผลการพัฒนาและแก้ไขปญั หาของอำเภอในชว่ งทผ่ี ่านมา (ในปีงบประมาณ ๒ ปที ่ีผ่านมา)............. ๓๒ ๑.๗ ข้อมูลความเส่ียงการเกิดสถานการณ์โรคระบาดในพ้นื ที่ ข้อมลู ความเส่ยี งด้านสาธารณภยั ในพนื้ ที่ และทด่ี ินอนั เป็นสาธารณสมบัตขิ องแผน่ ดนิ ................................................................................... ๓๗ ๑.๘ ขอ้ มลู อืน่ ๆ ทส่ี ำคัญตอ่ การพฒั นาอำเภอพนมสารคาม .................................................................. ๔๖ สว่ นที่ ๒ บทวเิ คราะห์หารพฒั นา...........................................................................................................๖๒ ๒.๑ การวิเคราะหศ์ กั ยภาพของพน้ื ท่ีอำเภอพนมสารคาม....................................................................... ๖๓ - ภาพรวมของบรบิ ทอำเภอ Context Map..................................................................................... ๖๖ ๒.๒ การกำหนดตำแหนง่ การพัฒนาอำเภอ (Positioning)..................................................................... ๖๗ ๒.๓ การประเมนิ ศักยภาพทางยทุ ธศาสตร์ของพ้นื ทอ่ี ำเภอ (SWOT Analysis)...................................... ๖๗ ๒.๔ การวิเคราะหท์ ิศทางการพฒั นายทุ ธศาสตร์การพฒั นาพื้นท่ีอำเภอ (TOWS Matrix)....................... ๖๙ ๒.๕ การกำหนดก้าวยาง ๓ ระยะ (๓ Horizons)................................................................................... ๗๐ สว่ นท่ี ๓ ข้อมูลยุทธศาสตรแ์ ผนพฒั นาอำเภอ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ...........................................๗๑ ๓.๑ เปา้ หมายการพัฒนาอำเภอ (วสิ ัยทัศน์อำเภอ) ................................................................................ ๗๒ ๓.๒ พันธกจิ อำเภอพนมสารคาม............................................................................................................ ๗๒ ๓.๓ วัตถุประสงค์ (เป้าประสงคร์ วม)...................................................................................................... ๗๒ ๓.๔ ประเดน็ การพฒั นา......................................................................................................................... ๗๒ ๓.๕ เปา้ หมายเชิงยทุ ธศาสตร์ตวั ชวี้ ัด ค่าเปา้ หมาย................................................................................. ๗๓ ส่วนที่ ๔ โครงการภายใตป้ ระเดน็ การพฒั นา .........................................................................................๗๗ ๔.๑ โครงการภายใต้ประเดน็ การพัฒนา................................................................................................. ๗๘ ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๑ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขนั ของภาคอุสาหกรรมและพาณชิ ยกรรมรองรบ AEC และ ตลาดโลก......................................................................................................................... ๗๘

ประเด็นการพฒั นาที่ ๒ เพิม่ ประสทิ ธิภาพและยกระดบั ขดี ความสามารถในการแข่งขันของสนิ ค้าเกษตร ปลอดภยั ....................................................................................................................................... ๑๑๐ ประเดน็ การพฒั นาท่ี ๓ พัฒนาการท่องเท่ยี วเชงิ นิเวศและวฒั นธรรมให้ได้มาตรฐานสากล............ ๑๑๔ ประเดน็ การพัฒนาที่ ๔ ส่งเสรมิ การบริหารจัดการทรพั ยากรธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ มให้สมดลุ ........ ๑๑๘ ประเด็นการพัฒนาท่ี ๕ พัฒนาทุนทางสงั คมและความมนั่ คงส่สู ังคมเปน็ สขุ .................................. ๑๒๐ ภาคผนวก ..........................................................................................................................................๑๓๗ สำเนาคำส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการบริหารงานอำเภอ (กบอ.) ................................................................ ๑๓๘ สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารงานอำเภอ (กบอ.) ท่ีรบั รองและประกาศใชแ้ ผนพฒั นา อำเภอ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๖๕).................................................................................................... ๑๔๑

สว่ นท่ี ๑ ข้อมูลทวั่ ไปของอำเภอพนมสารคาม องคป์ ระกอบ ๑.๑ ความเป็นมาของอำเภอ ๑.๒ คำขวัญอำเภอ ๑.๓ ข้อมูลสภาพท่วั ไปและสถานการณ์ในปจั จุบนั ขอ้ มลู หน่วยงานของรัฐ สว่ นราชการ รฐั วสิ าหกจิ ภาคเอกชนในพ้ืนท่ี ๑.๔ เป้าหมายการพัฒนาจังหวัดและประเด็นการพัฒนาของแผนพัฒนา จังหวัด ๑.๕ ประเด็นปญั หาและความต้องการเชงิ พ้ืนที่ประเด็นการพฒั นา ๑.๖ ผลการพัฒนาและแกไ้ ขปญั หาของอำเภอในชว่ งท่ผี ่านมา (ในปีงบประมาณ ๒ ปีทผี่ ่านมา) ๑.๗ ข้อมูลความเสี่ยงการเกิดสถานการณ์โรคระบาดในพื้นที่ ที่ดินอันเปน็ สาธารณสมบัติของแผ่นดิน และข้อมูลความเสี่ยงด้านสาธารณภัย ในพื้นที่ ๑

ความเป็นมาของอำเภอ ๒ ๑.๑ ความเปน็ มาของอำเภอ อำเภอพนมสารคาม เป็นอำเภอหนงึ่ ในจงั หวัดฉะเชิงเทรา จากหลกั ฐานทางโบราณคดีท่ีพบ ในเขตอำเภอพนมสารคาม สนั นิษฐานว่ามีการตง้ั ถิ่นฐานในบริเวณน้ี ๒ ยุค คือ ยุคท่ี ๑ สมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๖) หลักฐานทางโบราณคดีที่พบจากแหล่งโบราณคดีบ้านต้นกระจับ หมู่ ๖ ตำบลเมืองเก่า อำเภอพนมสารคาม พบเศษเคร่ืองป้ันดินเผาแบบเดียวกบั เมืองศรีมโหสถ เศษเครอ่ื งถ้วยจนี เคลือบสีเขียวสมัย ราชวงศ์ถัง ชุมชนแห่งนี้อยู่ในสมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑ – ๑๖ แหล่งโบราณคดีบ้าน โคกหัวข้าว (วัดอุดมธัญญาหาร) หมู่ ๓ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม พบระฆังหินปูนขนาดใหญ่ ๓ ชิ้น ฐานประติมากรรมทำจากหินทรายสีเขียว ศิลปะทวารวดี โบราณสถานก่อสร้างด้วยอิฐแบบทวารวดี เศษเครื่องปั้นดินเผา เครื่องสังคโลกและเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หมิง และบริเวณบ้านคูเมือง หมู่ ๓ ตำบล เกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม พบเศษเครื่องปั้นดินเผา หินบดยา และโบราณสถานก่อด้วยศิลาแลง ศิลปะ สมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ เป็นต้นมา ประกอบกับบริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง มีคลอง ท่าลาดไหลผ่านลงสู่แม่น้ำบางปะกงที่ปากน้ำโจ้โล้ อำเภอบางคล้ำ จังหวัดฉะเชิงเทรา ดังนั้น พนมสารคาม จงึ เหมาะสมทจ่ี ะเปน็ เมืองท่าค้าขายกบั ดนิ แดนอื่น ๆ ในละแวกใกลเ้ คียงทงั้ ทางบกและทางน้ำ กบั เมืองโบราณ ในสมัยเดียวกันในจังหวัดปราจนี บรุ ี เช่น เมืองศรีมโหสถ ชุมชนบริเวณโบราณสถานสระมรกต ชุมชนบ้านโคก ขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ชุมชนบ้านโคกหัวข้าว ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม บ้านคูเมือง ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม เมืองพระรถ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เมืองดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ชุมชนโบราณบ้านโคกกระโดน อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก นอกจากนี้ยังติดต่อกับดินแดนที่อยู่ไกลออกไป เช่น บุรีรัมย์ นครปฐม เป็นต้น รวมทั้งดินแดนโพ้น ทะเล เช่น จีน อนิ เดยี เปอรเ์ ซยี อีกดว้ ย ยคุ ที่ ๒ สมัยกรุงศรีอยุธยา (พุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๓) จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ ดังเช่น บริเวณบ้านโคกหัวข้าว (วัดอุดมธัญญาหาร) หมู่ ๓ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม พบใบเสมาทำด้วยหินทรายแดงปักอยู่เป็นคู่ขนานและลวดลายเหมือนกัน สลักเป็นลวดลายศิลปะอยุธยาตอนปลาย – รัตนโกสินทร์ เครื่องปั้นดินผาประเภทไห เช่นเดียวกับที่พบ ในชุมชนอยุธยา บริเวณริมคลองท่าลาด ด้านทิศเหนือของวัดท่าลาดเหนือและวัดท่าลาดใต้ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม พบเครื่องปั้นดินเผา เครื่องถ้วยเครื่องสังคโลกเคลือบสีเขียวและเขียนลายสีดำใต้เคลือบ ขาว เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. ๑๘๒๐ - ๑๙๑๑) และราชวงศ์หมิง (ค.ศ. ๑๙๑๑ - ๒๑๘๗) อายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๒๓ และบริเวณวัดท่าลาดเหนือ พบใบเสมาหินทรายแดง มีลวดลายซึ่งเป็น ลักษณะศิลปะอยุธยาตอนต้น และเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองแบบศิลปะอยุธยาตอนปลาย จากหลักฐานดังกล่าว สันนิษฐานว่าบริเวณนี้นำจะเป็นแหล่งชุมชนมาแล้ว ตั้งแต่ช่วงอยุธยาตอนน จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์และเป็น ทางผ่านที่เป็นเส้นทางของชายฝั่งทะเลตะวันออกซึ่งหลักฐานโบราณคดีที่พบทางภาคตะวันออกในเขต นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี คงเป็นเสน้ ทางที่มนุษย์ในสมัยประวัติศาสตร์ตอนตน้ ทีพ่ บวฒั นธรรมแบบทวารวดี ซึ่งนับได้จากวัฒนธรรมอินเดียทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้นการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างชัดเจน อาทิ เมืองศรีมโหสถ เมืองดงละคร เมืองพระรถ เมืองบริเวณบ้านค่ายและเมืองเพนียด ในกลุ่มเมอื งเหลา่ นี้มัก

พบวัฒนธรรมเเขมร สอดแทรกด้วย โดยเฉพาะในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘ นั้น เพราะความเลื่อมของ วัฒนธรรมทวารวดี ภายหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๘ เเขมรเสื่อมอำนาจลง ศูนย์กลางอำนาจได้เปลี่ยนมาอยู่ที่ อยธุ ยา กล่มุ เมืองดงั กล่าวเป็นชุมชนเล็ก ๆ และมีการย้ายทต่ี ั้งเมืองไปตั้งตามลำน้ำเพื่อเหตุผลในการเศรษฐกิจ และการค้า การคมนาคม การป้องกันตัวเองจากภัยสงคราม การอาศัยแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและใช้ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ชุมชนพนมสารคาม จึงมีการตั้งถิ่นฐานตามลำน้ำคลองท่าลาดมาในช่วงสมัยอยุธยา ถงึ รตั นโกสนิ ทร์ ภาพรวมประวัตศิ าสตร์อำเภอพนมสารคาม บริเวณอำเภอพนมสารคาม เคยเป็นชุมชนมาตั้งแต่สมัยทวารวดีและอยุธยา โดยอาศัย หลักฐานทางโบราณคดีดังกล่าวข้างตัน แต่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ในปี พ.ศ. ๒๓๒๑ สมเด็จเจ้าพระยากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพไปตีเมืองเวียงจันทนแ์ ละหวั เมืองขึ้นมาเป็นของไทยกวาดต้อน ผู้คนชาวเวียงจันทน์ลงมาอยู่แถวเมืองลพบุรี สระบุรี นครนายก และเมืองฉะเชิงเทรา ชาวลาวบางส่วน จึงตั้งบ้านเรือน กระจัดกระจายอยู่แถบบริวณคลองท่าลาด และตั้งชื่อหมู่บ้านและวัดตามชื่อบ้านเดิมในลาว เช่น วัดจอมมณี วัดโพธิ์ใหญ่ วัดนาเหล่าน้ำ วัดเมืองแมด วัดบ้านเล้อ วัดจอมศรี วัดเชัยงใต้ วัดเตาเหล็ก วัดมหาเจดีย์ วัดเมืองกาย และวัดราชฮ้วง ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทรต์ อนต้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกลา้ เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) โปรดเกล้า ให้พระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยกกองทัพไปตีลาวและเขมร ในปี พ.ศ. ๒๓๗๖ ได้กวาดต้อนชาวลาวและเเขมรเข้ามาเป็นเชลยจำนวนมาก และกำหนดพื้นที่ให้ตั้งบ้านเรือนโดย ให้ลาวเวียงและลาวพวนตั้งบ้านเรือนที่บ้านท่าทร่าน ชุมชนบริเวณนี้จึงหนาแน่นขึ้นเป็นลำดับ จนในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว (รชั กาลท่ี ๔) โปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านทา่ ทรา่ น ซ่ึงตงั้ อยรู่ ิมคลองท่าลาด เป็นเมืองพนมสารคาม ในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ โดยแบ่งเขตแดน ตั้งแต่ปากน้ำโจ้โล้ เข้าไปตามลำคลองท่าลาด ฝ่ายเหนือ เป็นเมืองพนมสารคาม ส่วนตั้งแต่ปากน้ำโจ้โล้ เข้าไปตามลำคลองท่าลาดฝ่ายใต้ เป็นแขวงเมือง ฉะเชิงเทรา ๓

สำหรับคำว่า \"พนมสารคาม\" เป็นชือ่ ที่ใช้เรียกบรเิ วณนีม้ าก่อนการอพยพของชาวลาวในสมยั รัชกาลที่ ๓ โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีกองส่วยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๗๐ โดยส่งส่วยทอง แร่ หมากพอก ไม้รางปืน และโค ส่งเจ้าเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อนำส่งต่อยังราชธานี มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ เมืองพนมสารคาม มีศาลา กลางเมือง มีเรือนจำ และมีพระพนมสารนรินทร์เป็นเจ้าเมืองปกครอง ต่อมาในปี พศ. ๒๔๓๖ รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงโปรดเกล้าฯ ให้รวมหัวเมืองทางลำแม่น้ำ บางปะกง จำนวน ๔ เมือง คือ เมืองปราจีนบุรี เมืองฉะเชิงเทรา เมืองนครนายก และเมืองพนมสารคาม ตั้งขึ้นเป็นมณฑลปราจีน มีที่ตั้งมณทลอยู่เมืองปราจีนบุรี จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้มีการยุบเมือง พนมสารคามเปน็ อำเภอพนมสารคาม และในปี พ.ศ. ๒๘๕๗ ได้ยา้ ยทต่ี งั้ มณฑลปราจีน มาตั้งท่ีเมืองฉะเชิงเทรา ในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ สมุหเทศาภิบาลมณทล ปราจนี (พ.ศ. ๒๔๔๖ - ๒๔๕๘) ได้รายงานการตรวจราชการอำเภอเมืองพนม ไวด้ งั น้ี \"อำเภอเมอื งพนมสารคาม ต้ังท่วี า่ การอำเภอทบี่ า้ นโพธ์ใิ หญ่ มีอำเภอสนามไชยเขตรเป็นสาขา มีปลัดอำเภอประจำรักษาการ หลวงประเทศธรุ ารักษ์เป็นนายอำเภอ อำเภอนี้ตัง้ ที่ว่าการอำเภอตรงที่ปากอ่าว ท่ากระบือใกล้กับวัด ที่ว่าการอำเภอเข้าไปถูกกระหนาบอยู่ระหว่างกลาง ด้านเหนือก็เป็นบ้านราษฎร ท่าที่จะลงน้ำก็เป็นการลำบาก และไม่เหมาะกับไชยภูมิ หลวงประเทศธุรารักษ์แจ้งว่า พระวรวงศ์เธอพระองค์ เจ้าอลังการ ได้ทรงเลือกที่ตั้งที่ว่าการอำเภอไว้เยื้องตลาดท่าเกวียนข้ามฝั่งตะวันตกเพราะเป็นชุมชน ได้ขึ้นมา ไปตรวจเห็นไมส่ มควร เพราะในลำน้ำเมอื งพนม ใตต้ ลาดทา่ เกวยี นลงหนทางราว ๕๐ เสน้ เปน็ ดินดานเป็นการ ลำบาก หลวงประเทศธุรารกั ษ์แจ้งวา่ พระวรวงศเ์ ธอพระองคเ์ จา้ อลังการ ทรงดำรจิ ะขดุ เป็นคลองลัดข้ามท่ีกิน ดาน ให้เรือไปมาได้ทุกฤดู ถ้าขุดได้เป็นการดีอยู่ แต่เกรงด้วยเกล้าฯ ว่าจะดอนขึ้ นมาเสียอีกเพราะขุด เป็นทางอ้อมมิใช่ทางตรง จึงจะทำให้น้ำพัดแทงกัดให้ลึกอยู่เสมอไม่ได้ พอจวนค่ำไม่มีเวลาตรวจเลือกหา ท่ีวา่ การอำเภอได้ เกลา้ กระหมู่อมฯ จะไดต้ รวจจัดการตอ่ ไปภายหลัง\" นอกจากนี้ จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ยังพบว่า พนมสารคามมีศาลเจ้าพ่อ และ ศาลหลักเมือง จำนวน ๒ แห่ง แห่งแรก คือ ศาลเจ้าพ่อเมืองพนมสารคาม ตั้งอยู่บริเวณบ้านโพธิ์ใหญ่ (พ.ศ. ๒๕๔๖) อยูร่ ิมคลองท่าลาด ในเขตวดั โพธใิ์ หญ่ ฝงั ตรงขา้ มเป็นอ่าวทา่ กระบอื เขตบ้านโฮง ตำบลเมอื งเก่า อำเภอพนมสารคาม ซ่งึ ตอ่ มาเม่ือมีการออกโฉนดท่ีดินในสมัยรชั กาลท่ี ๕ บ้านโฮงจัดอย่ใู นเขตตำบลท่าเกวียน อำเภอพนมสารคาม ส่วนแห่งที่สอง คือ ศาลหลักเมืองพนมสารคาม อยู่ด้านหลังของอาคารเรียนเด็กเล็ก โรงเรียนวัดท่าลาดเหนือ ๔

สำหรับที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม มีการย้ายที่ต้ัง ๒ ครั้ง กล่าวคือ เดิมที่ว่าการอำเภอ พนมสารคาม ตั้งอยู่ บ้านโพธิ์ใหญ่ (เมืองเก่า) ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ฝั่งขวาของท่าลาดบริเวณโรงเรียนไพบูลย์ ประชานุกูล ที่บ้านเมืองใหมู่ ตำบลเมืองเก่า ต่อมาได้มีการย้ายที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม ไปตั้งที่บนเมือง ใหมู่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอพนมสารคาม ปัจจุบันที่ตั้งเดิมของที่ว่าการอำเภอเรียกว่า บ้านเมืองใหมู่ หรือ บ้านสะพานใหมู่ หรือ บ้านคลองต้อน หมู่ ๗ ตำบลเมืองเก่า อำเภอพนมสารคาม อยู่ริมถนนสายพนมสารคาม - บางคล้า (ถนนฤทธิ์ประศาสน์ ชาวบ้านเรียกว่าถนนหลวงฤทธิ์) ถ้าเดินทางจากพนมสารคามไป ปากน้ำ บางคลา้ เมื่อเลยโรงเรยี นไพบูลย์ประชานุกูล จะมีทางเดินเล็ก ๆ ขา้ งโรงเรยี นมีแนวต้นจามจรุ ีขนาดใหญ่หลาย ตันอยู่ริมทางและด้านในมีสระน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอพนมสารคามสมัยนั้น อยู่ฝั่งคลองท่าลาด ด้านตะวันออก สว่ นฝ่งั คลองท่าลาดด้านตะวันตก ยงั มีช่ือบรเิ วณนัน้ ว่า สวนเมอื ง คลองคเู มือง และคลองต้อน ส่วนคลองที่คดเคี้ยว ยังมีชื่อเรียกว่า คุ้งตะราง เนื่องจากบริเวณนั้นเคยเป็นคุกของเมืองพนมสารคามมาก่อน บริเวณโรงเรยี นไพบูลยป์ ระชานุกูล และแนวถนนเดมิ ข้างโรงเรยี น ในชว่ งท่อี ำเภอพนมสารคาม ตง้ั อยบู่ ้านเมือง ใหมู่ บริเวณใกล้อำเภอ จึงเป็นตำบลพนม สว่ นอกี ฟากถนนบรเิ วณวัดจอมศรี วัดเตาเหล็ก เปน็ ตำบลทา่ เกวยี น ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีการออกโฉนดที่ดิน ส่งผลให้ เมืองพนมสารคาม ในฐานะที่เคยเป็น เมืองมาก่อน ก็ได้มีการออกโฉนดที่ดินด้วย จึงนับว่าเป็นโฉนดที่ดินสมัยแรก ๆ ของประเทศสยาม ซึง่ นายอำเภอผู้ที่ลงนามในสมัยน้ัน คอื พระพนมสารนรินทร์ และหลวงรามบุรานุกจิ สมหุ ทศาภิบาล (ผู้บัญชา การเมือง) คือ พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ และเจ้าพนักงานเกษตราธิการ (เดิมเขียน กระเษตราธิการ) คือ พระโภชนาการ และยังใช้รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) จากหลักฐานในโฉนดที่ดินที่พบเป็นปี ร.ศ. ๑๒๖ (พ.ศศ ๒๔๕๑) เรียกว่าอำเภอพนมสารคาม (ไม่มีคำว่าเมือง) ในสมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล ผู้ชายใช้คำนำหน้าว่า นาย ผู้หญิงใช้คำนำหน้าว่า อำแดง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ สมัยนายชวน สุริยจันทร์ เป็นนายอำเภอ ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม มาอยู่ที่บ้านทำเกวียน หมู่ ๑ ตำบลพนมสารคาม ฝั่งซ้าย ของคลองท่าลาด ใกล้ตลาดท่าเกวียน และอยู่ทีน่ ีจ่ นถงึ ปัจจุบัน ดงั นน้ั ในปจั จบุ ันนี้บ้านทา่ เกวียน จึงเป็นตำบล พนมสารคาม (เดิมอยู่ตำบลท่าเกวียน) บ้านโพธิ์ใหญ่ที่เคยเป็นที่ตั้งอำเภอครั้งแรกจึงเป็นตำบลเมืองเก่า และ บรเิ วณโรงเรียนไพบูลยป์ ระชานกุ ูลจึงเปน็ ตำบลเมืองใหมู่ ประวตั กิ ารแยกตำบลตา่ ง ๆ ของอำเภอพนมสารคาม ไปรวมตง้ั อำเภอใหมู่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการเรียกชื่อ ข้าหลวงประจำจังหวัดเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอพนมสารคาม เป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งสมัยนั้นมีอยู่ ๖ อำเภอ คือ อำเภอฉะเชิงทรา อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอบางคล้า อำเภอบางปะกง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว และอำเภอพนมสารคาม (เดิมอำเภอพนมสารคาม มีเขตการปกครองครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของอำเภอ สนามชยั เขต อำเภอราชสาสน์ อำเภอแปลงยาว และอำเภอทา่ ตะเกยี บ) ๕

ในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้แยกตำบลคู่ยายหมี ตำบลท่ากระดาน และตำบลท่าตะเกียบ ออกจาก ๖ อำเภอพนมสารคาม จึงตั้งเป็นกิ่งอำเภอสนามไชย โดยในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เปลี่ยนชื่อจากกิ่งอำเภอสนามไชย เป็นกิ่งอำเภอสนามชัยเขต และในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้ยกฐานะเป็นอำเภอสนามชัยเขต ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้แยกตำบลท่าตะเกียบ และตำบลคลองตะเกรา ออกจากอำเภอสนามชัยเขต ตั้งเป็นกิ่งอำเภอท่าตะเกียบ และในปี ๒๕๓๙ ได้ยกฐานะเปน็ อำเภอท่าตะเกยี บ ในปี พศ. ๒๕๒๐ ได้แยกตำบลดงน้อย ตำบลบางคา และตำบลเมืองใหมู่ออกจากอำเภอ พนมสารคาม เป็นกงิ่ อำเภอราชสาสน์ และในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ยกฐานะข้ึนเป็นอำเภอราชสาส์น ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้แยกตำบลแปลงยาว ตำบลวังน้ำเย็น และตำบลหัวสำโรง ออกจาก อำเภอบางคลา้ ขึ้นเปน็ ก่ิงอำเภอแปลงยาว และในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ไดย้ กฐานะข้ึนเป็นอำเภอแปลงยาว ตำนานเอกลกั ษณ์การตง้ั นามสกุลของชาวพนมสารคาม กอ่ นรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎกลำ้ เจ้าอยหู่ ัว (รัชกาลท่ี ๖) ชาวไทยยังไมม่ นี ามสกุลใช้ จะมีเพียงแต่ชื่อตัวที่บิดามารดาหรือผู้อาวุโสตั้งให้ หรือใช้เรยี ก ทำให้คนชั้นลูกหลานยากท่ีจะจดจำบรรพบุรษุ หรอื ร้จู ักญาติเช้อื สายเดียวกันได้ เมอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว เสด็จขน้ึ ครองราชย์ใหมู่ๆ ทรงตระหนกั ว่าการท่ี บ้านเมืองมไิ ด้กำหนดให้ราษฎรมีนามสกลุ ใช้ เมือ่ มีพลเมืองมากขึ้นย่อมก่อใหเ้ กิดความยุ่งยากนานัปการในด้าน การปกครอง การบริหารราชการและการดำรงชีวิตส่วนตัวของราษฎร ในปี พ.ศ. ๒๔๕๕ ทรงรเิ ร่ิมให้มปี ระเพณี ขนานนามสกุลอันเป็นประโยชน์สำคัญต่อการบริหารบ้านเมือง กล่าวคือทำให้เกิดการบัญญัติวิธีจดทะเบียน คนเกิด คนตายและการสมรสซึ่งใช้เป็นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับบุคคลสืบเนื่องจากพระราชดำริทำให้มี พระราชบัญญัติขนานนามสกุลพุทธศักราช ๒๔๕๖ ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ และทรงมี พระมหากรุณาธิคุณแก่บรรดา ราชตระกูล เชื้อพระวงศ์ ข้าราชการตลอดจนสามัญชนทั่วไปจำนวนมากที่ได้ กราบบังคมทูลขอรับพระราชทานนามสกุลเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและผู้สืบสกุล และด้วยพระปรีชาสามารถ ในเชิงอักษรศาสตร์ได้ทรงคิดร้อยกรองศัพท์ต่าง ๆ เป็นชื่อสกุล มีความหมาย เหมาะสมกับประวัติบรรพบุรุษ ต้นตระกูลที่ผู้ขอพระราชทานจะสืบสาวขึ้นไปได้และจะทรงเขียนอักษรโรมันที่ทรงเคยเ ท่ียบเสียงไว้กับ พยัญชนะและสระของไทยกำกับไว้ด้วย เพอ่ื ว่าผใู้ ชน้ ามสกลุ เดียวกนั เขียนนามสกุลเปน็ ภาษาอังกฤษจะได้เขียน ตรงกัน ดังเช่น พระยาราชพินิจจัย (ชุบ) มีบิดา ชื่อพระสุพรรณสมบัติ (ยา) ได้รับพระราชทานนามสกุลว่า \"โอสถานนท์) พระสุพรรณสมบัติ (ยา โอสถานนท์) นี้เป็นผู้สร้างพระอุโบสถวัดสุวรรณรังสรรค์ (นาเหล่าน้ ำ) และวัดนาเหล่าบก ตำบลหนองยาว อำเภอพนมสาคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงยังคงมีลูกหลานผู้สืบเชื้อสาย สกุล “โอสถานนท”์ อยใู่ นอำเภอพนมสารคาม นอกจากนามสกุลพระราชทานดงั กลา่ วข้างตน้ แล้ว ราษฎรทั่วไปในอำเภอพนมสารคาม ยังมี เอกลักษณใ์ นการการตงั้ นามสกุลโดยใช้อกั ษรตัวหลงั ของช่ือตำบลท่ีอยู่ เชน่ ตำบลหนองแหน (น) ใช้นามสกุล นพเกตุ นพกาด นพศิริ นพฤทธ์ิ นพโกฏิ นพเกล้า นพกัณ นพโสภณ และยงั มนี ามสกุล นนทเกษม นันทวิสิทธิ์ นนทเวช ตำบลเกาะขนุน (ข) ใชน้ ามสกลุ เขม็ เฉลิม เข็มจรญู เขม็ เจริญ เข็มราช เขม็ นมิ ิต เขม็ ประดับ ตำบลหนองยาว (ย) ใชน้ ามสกุล ยะหัตตะ ยะอนนั ต์ ยะคะเรศ ยะระสทิ ธ์ิ ยะโสภา ยะคะเสม ตำบลท่าถา่ น (ท) ใช้นามสกุล ไทยสมบรู ณ์ ไทยสุริยะ ไทยมานพ ตำบลเมอื งเก่า - ใหมู่ (ใหมู่) ใชน้ ามสกุล ใหมู่อนิ ทร์ ไหมโสภา ใหมู่ทมุ มา ใหมู่จันดี ไหมปียะ ใหมู่ผง้ึ ใหมู่เกตุ ใหมู่ดำ ใหมู่หะรา ใหมู่สวุ รรณ ใหมู่บญุ มี เป็นตน้

ประวตั ิเจ้าเมอื งพนมสารคาม ๗ เมืองพนมสารคาม มีที่มาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) โปรดเกล้าฯ ยกบ้านท่าซ่าน (ท่าทร่าน) ขึ้นเป็นเมืองพนมสารคาม และพระราชทานบรรดาศักดิ์ เจ้าเมือง พนมสารคามว่า “พระพนมสารนรินทร์” เมืองพนมสารคาม เป็นเมืองจัตวาขึ้นกับเมืองฉะชิงเทรา นับตั้งแต่ รัชกาลที่ ๔ ตั้งเมืองพนมสารคามในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ จนกระทั้งยุบเป็นอำเภอพนมสารคาม ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ รวมระยะเวลาท่ีเป็นเมืองพนมสารคามอยู่ ๔๙ ปี มีเจ้าเมืองปกครองในตำแหน่ง พระพนมสารนรินทร์ อยู่หลายคน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนและสืบคันประวัติได้ มี ๒ ท่าน คือ พระยาวิเศษฤๅชัย (ชา้ ง) และพระพนมสารนรินทร์ (กลงึ ภาษิต) พระพนมสารนรินทร์ ท่านที่ ๑ : พระยาวเิ ศษฤๅชยั (ชา้ ง) พระยาวิเศษฤๅชัย เดิมชื่อ \"ช้าง\" เป็นคนบ้านทา่ ลาด มีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกนั ชื่อ \"เสือ\" สืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองกรมการเมือง มาตั้งแต่สมัยเมืองฉะเชิงทรายังตั้งอยู่ปากน้ำโจ้โล้ ก่อนยกมาตั้ง แปดร้วิ แล้วยา้ ยไปต้ังโสธร ตระกลู นรี้ ับราชการมาโดยตลอดตง้ั แต่ครัง้ กรงุ ศรีอยธุ ยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) “นายช้าง” ได้รับพระราชทาน บรรดาศักดิ์เป็น หลวงจ่าเมือง “นายเสือ” ผู้น้อง ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงมงคลมหาดไทย ต่อมาสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) “นายช้าง” ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระกำพุชภักดี ตำแหน่งปลัดเมืองฉะเชิงเทรา (ซึ่งเป็นตำแหน่งใหมู่ตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เพื่อดูแลราษฎร ชาวเเขมร คู่กับหลวงวิสุทธิจีนชาติ ที่คอยดูแลชาวจีนที่มีอยู่มากในเมืองฉะเชิงเทรา) ส่วน “นายเสือ” ได้รับบรรดาศกั ดเิ์ ปน็ หลวงบุรีพิทกั ษย์ กบตั ร สองท่านรับราชการมาด้วยดีและมีความดีความชอบอย่างยิ่ง “นายช้าง” จึงได้เลื่อน ตำแหนง่ เป็น พระพนมสารนรินทร์ เจ้าเมอื งพนมสารคาม “นายเสอื ” ได้เลอื่ นเป็นพระกำพชุ ภกั ดี ปลัดเมือง ฉะเชิงเทราแทน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) จึงโปรดเกล้าฯ ให้ พระพนมสารนรินทร์ (ช้าง) เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระวิเศษฤๅชัย” เจ้าเมืองฉะเชิงเทรา และได้เลื่อน บรรดาศกั ดิเ์ ปน็ พระยาวิเศษฤชัย ส่วนนายเสือ ดำรงตำแหน่ง พระเกรยี งไกรกระบวนยุทธ (ตำแหน่งปลัดเมือง ฉะเชิงเทรา ตั้งขึ้นใหมู่ สมัยรัชกาลที่ ๔ ได้เปลี่ยนมาจากชื่อเดิม คือ พระยาวิเชัยรไชยชาญยุทธ) เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๖ นายช้างเป็นคนบ้านท่าลาด ภรรยาชื่อมี (ไม่มีบุตรด้วยกัน) สันนิษฐานจากบันทึกและช่วงเวลาดำรง ตำแหน่ง นายช้างน่าจะเป็นเจ้าเมืองพนมสารคาม ในตำแหน่งพระพนมสารนรินทร์คนแรก และเป็นผู้สร้าง ศาลหลักเมืองพนมสารคามในสถานที่ใกล้บ้านถ่าน ปัจจุบันศาลหลักเมืองอยู่ใกล้วัดท่าลาดเหนือที่บ้านของ นายดำรงค์ พงษ์นิทรัพย์ อดีตกำนันตำบลท่าถ่าน ใกล้ศาลหลักเมือง มีภาพของพระยาวิเศษฤๅชัย (ช้าง) ดาบ เสือ้ เกราะ และของใชบ้ างอย่างของท่าน ท่านผนู้ ย้ี ังเป็นผสู้ ร้างพระอโุ บสถวดั โสธร (หลงั เดมิ ) สว่ นนายเสอื สรา้ งพระเจดยี บ์ รรจพุ ระบรมธาตทุ ีว่ ัดสมั ปทวน อำเภอเมอื ง จังหวัดฉะเชิงเทรา พระพนมสารนรนิ ทร์ ท่านที่ ๒ : นายกลึง ภาษติ นายนรินทร์ กลึง หรือ กลึง ภาษิต เกิดที่บ้านสวนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในครอบครัวชาวสวน คลองบางขวาง ตำบลบ้านไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันพุธปีจอ พศ. ๒๔๑๗ เคยเป็นนายอำเภอ ทจี่ งั หวดั ชลบุรี (ในบรรดาศักด์ิ หลวงศุภมาตรา) เปน็ นายอำเภอพนมสารคาม (ในบรรดาศักด์ิ หลวงรามบุรานุกิจ) ในปี พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๐ ในช่วงที่อำเภอพนมสารคามตั้งอยู่ที่ด้านขา้ งโรงเรียนไพบูลย์ประชานุกลู และมีการ ออกโฉดที่ดนิ ที่ทำโดยพระบรมราชานุญาตในพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้า พระเจ้าแผ่นดินสยาม ร.ศ.๑๒๖ (พ.ศ. ๒๔๕) นามนายอำเภอณะนน้ั คอื หลวงรามบุรานุกิจ จากบัญชรี ายชือ่ หลวงรามบุรานุกิจ เป็นนายอำเภอ

พนมสารคาม ใน พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๐ ต่อมาปี พศ. ๒๔๕๐ ได้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการเมืองนครนายก ในบรรดาศักดิ์ “พระพนมสารนรินทร์” จากบัญชีรายชื่อ พระพนมสารนรินทร์ เป็นผู้ว่าราชการเมือง นครนายก ปี พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๔๕๑ และพระพนมสารนรินทร์ (กลึง ภาษิต) ได้ลาออกจากราชการในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ในขณะเป็นผู้ว่าราชการเมืองนครนายก ที่มีอายุเพียง ๓๕ ปี นายกลึง ภาษิต จึงเป็นพระพนม สารนรินทร์คนสุดท้าย และเมื่อยุบมืองพนมสารคามไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ถึงปัจจุบัน บ้านของกลึง ภาษิต จงึ กลายเปน็ แหล่งทอ่ งเที่ยวของจงั หวัดนนทบุรีในเวลาต่อมา ความหมายของชอ่ื “พนมสารคาม” พนมสารคาม เป็นคำผูกขึ้นใหมู่สมัยรัชกาลที่ ๔ จากชื่อเดิม ดงยาง (มีมาแต่ครั้งกรุงศรี อยุธยา) แรกผูกเป็นชื่อเจ้าเมืองดงยางว่า พนมสารนรินทร์ ต่อมาเรียกเมืองดงยางตามเจ้าเมืองว่า พนมสารคาม ตั้งเมืองอยู่บ้านท่าเกวียน ริมลำน้ำท่าลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา พระพนมสารนรินทร์ และ พนม สารคาม เป็นคาํ บาลี ๓ คํา คอื พนม, สาร, นรนิ ทร์, คาม พนม หมายถงึ ปา่ , ดง, ป่าไม,้ ดงไม้ ฯลฯ มีรากคำจากบาลีว่า วน (อ่านวา่ วะ-นะ) สาร หมายถึง สำคัญ, ประเสริฐยิ่ง, แขง็ แรง, แกน่ ของไม้ชัน้ ในสด และส่วนแข็งท่ีสด คาม หมายถึง หมู่บ้าน, ชมชน นรินทร หมายถึง คนผู้มีอำนาจ ได้จากคําบาลีว่า นร (อ่านว่า นะ-ระ) กับ อินทร (อ่านว่า อนิ -ทะ-ระ) มีข้อสงเกตจากชื่อ พนมสารคาม ว่าแต่เดิมน่าจะให้สะกดว่า พนมสาลคาม เพราะคำบาลี สาล (อ่านว่า สา-ละ) หมายถึง ต้นรัง หรือต้นยางก็ได้ (แต่นี้ยมเรียกทับศัพท์ว่าต้นสาละ) สอดคล้องกับภูมิ ประเทศบริเวณ ลำน้ำท่าลาดเต็มไปด้วยต้นยาง มีชื่อ เขาดงยาง เป็นพยาน แล้วได้น้ำมันยางจากต้นยางเปน็ สนิ คา้ ขณะเดียวกนั ก็เอาตน้ ยางมาเผาสมุ เป็นถา่ นได้อีก ตรงตามท่ตี งั้ เมืองครัง้ แรกว่าทา่ ถ่าน ๑.๒ คำขวัญของอำเภอ “คลองท่าลาดทิวทัศน์น่ายล ถนนพระรถเสน อาชีพเดน่ เกษตรกรรม วัฒนธรรมไทยพวน สวนพฤกษศาสตรล์ ้ำคา่ ศนู ย์ศกึ ษาการพัฒนาเขาหนิ ซ้อน” ๘



๑.๓ ขอ้ มลู สภาพทัว่ ไปและสถานการณ์ในปัจจุบัน ข้อมลู หนว่ ยงานของรัฐ ส่วนราชการ รฐั วสิ าหกจิ ภาคเอกชนในพ้นื ที่ ๑. สภาพทวั่ ไป ๑.๑ ลกั ษณะท่ีตั้ง อำเภอพนมสารคาม ตง้ั อยทู่ างทิศตะวันออกเฉยี งเหนือของจังหวัดฉะเชิงเทรา ตามทางหลวง หมายเลข ๓๐๔ (ฉะเชงิ เทรา-กบินทรบ์ รุ ี) ตัง้ อยู่ในพื้นท่ีหมู่ที่ ๑ ตำบลพนมสารคาม ระยะทางหา่ งจาก จังหวัด ฉะเชงิ เทรา ประมาณ ๓๔ กิโลเมตร และห่างจากกรงุ เทพมหานคร ประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร ๑.๒ พน้ื ท่อี าณาเขต อำเภอพนมสารคามมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น ๕๗๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕๗,๕๐๐ ไร่ และมีอาณาเขตติดตอ่ ดงั น้ี - ทศิ เหนอื ติดต่อกับ อำเภอบา้ นสรา้ ง และ อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบรุ ี - ทิศใต้ ตดิ ต่อกับ อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชงิ เทรา - ทิศตะวันออก ติดตอ่ กับ อำเภอสนามชยั เขต จังหวัดฉะเชิงเทรา และ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี - ทิศตะวนตก ตดิ ต่อกับ อำเภอราชสาสน์ จังหวดั ฉะเชงิ เทรา ๑.๓ ลกั ษณะภูมิประเทศ สภาพพ้ืนทลี่ กั ษณะสภาพพ้ืนท่ีอำเภอพนมสารคามสว่ นใหญจ่ ะเป็นท่ีราบลมุ่ สลับกับที่ราบสูง มีภเู ขาท่สี ำคญั คือ เขาดงยาง อยใู่ นตำบลหนองแหน และมคี ลองเพียงสายเดียวทไ่ี หลผ่าน คอื คลองทา่ ลาด ๑.๔ ภมู ิอากาศ ลกั ษณะภมู อิ ากาศเป็นแบบมรสมมี ๓ ฤดู คอื - ฤดรู ้อน เริ่มตง้ั แตเ่ ดอื น มีนาคม ถึงเดือน มิถุนายน - ฤดูฝน เรม่ิ ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม ถึงเดอื น ตลุ าคม - ฤดหู นาว เร่มิ ตั้งแตเ่ ดอื น พฤศจิกายน ถงึ เดอื น กมุ ภาพันธ์ ๑.๕ การปกครอง แบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี พระพุทธศกั ราช ๒๔๕๗ ออกเป็น ๘ ตำบล ๘๗ หมู่บา้ น และราชการบริหารสว่ นทอ้ งถ่ิน ดังนี้ (๑) ตำบลเกาะขนุน มี ๑๕ หมู่บ้าน นายบุญฤทธิ์ สุขเกษม เป็นกาํ นนั (๒) ตำบลบ้านซ่อง มี ๑๔ หมู่บา้ น นายสมบัติ จันธรรมาพทิ ักษ์ เปน็ กํานัน (๓) ตำบลพนมสารคาม มี ๓ หมู่บา้ น นางยวุ ดี ชยั วรวิทย์กลุ เปน็ กาํ นนั (๔) ตำบลเมืองเก่า มี ๗ หมู่บ้าน นายมานพ ราเชาวด์ ี เปน็ กํานัน (๕) ตำบลหนองยาว มี ๑๒ หมู่บา้ น นายคเชนทร์ บุญประเสรฐิ เป็นกาํ นน (๖) ตำบลท่าถ่าน มี ๗ หมู่บา้ น นางสมบตั ิ ตนั ซอ้ เป็นกาํ นนั (๗) ตำบลหนองแหน มี ๑๕ หมู่บา้ น นายกรฑี า นพเกตุ เป็นกํานนั (๘) ตำบลเขาหินซอ้ น มี ๑๔ หมู่บ้าน นายประวทิ ย์ เขียวจันทร์ เป็นกํานัน ๑๐

เทศบาลตำบล ๕ แห่ง ไดแ้ ก่ (๑) เทศบาลตำบลพนมสารคาม - นายนกิ ร จนั ธรรมาพทิ ักษ์ เป็นนายกเทศมนตรี (๒) เทศบาลตำบลเกาะขนุน - นายวชิรศกั ดิ์ ศกั ดิถาวรเลศิ เป็นนายกเทศมนตรี (๓) เทศบาลตำบลเขาหินซ้อน - นางละออง วริ ิยะสมบตั ิ รองปลดั เทศบาล รักษาราชการแทน ปลัดเทศบาล ปฏบิ ัติหนา้ ท่ี นายกเทศมนตรี (๔) เทศบาลตำบลบา้ นซอ่ ง - นายสมชาย จนั ธรรมาพทิ ักษ์ เปน็ นายกเทศมนตรี (๕) เทศบาลตำบลทา่ ถ่าน - นายดำรงค์ พงษ์นทิ รัพย์ เป็นนายกเทศมนตรี องค์การบรหิ ารสว่ นตำบล ๖ แหง่ ไดแ้ ก่ (๑) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลพนมสารคาม - นายทนงศกั ดิ์ จามิกรณ์ เป็นนายกฯ (๒) องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลเกาะขนนุ - นายสมชาย กมลวงษ์ เป็นนายกฯ (๓) องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลหนองยาว - นายสุนนั ท์ บุญประเสริฐ เปน็ นายกฯ (๔) องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลเมืองเก่า - นางสาวพมิ พ์ชนก วงษ์ศรแี ก้ว รองปลดั องคก์ ารบริหารสว่ นตำบล ๑๑ รักษาราชการแทน ปลัดองคก์ ารบรหิ าร

ส่วนตำบล ปฏิบตั หิ นา้ ที่ นายกฯ (๕) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลเขาหินซอ้ น - นายสมพงษ์ เรืองสมั ฤทธ์ิ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี นายกฯ (๖) องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลหนองแหน - นายฉลอง กองอังกาบ ปลดั องค์การบรหิ ารสว่ นตำบล ปฏิบตั หิ นา้ ที่ นายกฯ ๑.๖ ประชากร สถิติจำนวนประชากรจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ มีประชากรทั้งสิ้น ๘๑,๙๘๑ คน แยกเป็นชาย ๓๙,๘๒๖ คน หญิง ๕๒,๑๕๕ คน จำนวนบ้าน ทั้งส้ิน ๓๕,๒๓๙ หลังคาเรอื น ความหนาแนน่ เฉลย่ี ต่อพ้ืนท่ีประมาณ ๑๔๓ คน/ตารางกโิ ลเมตร แยกออกเป็น ลำดับ ตำบล ชาย (คน) หญิง (คน) รวม (คน) จำนวนบ้าน หมายเหตุ ๑. เกาะขนนุ ๖,๘๗๖ ๗,๑๘๐ ๑๔,๐๕๖ ๕,๒๕๓ ๒. บ้านซอ่ ง ๔,๙๔๗ ๕,๒๓๕ ๑๐,๑๘๒ ๓,๗๗๔ ๓. พนมสารคาม ๑,๖๖๒ ๑,๙๐๒ ๓,๕๖๔ ๒,๒๘๗ ๔. เมืองเกา่ ๑,๔๒๑ ๑,๕๐๔ ๒,๙๒๕ ๑,๓๗๕ ๕. หนองยาว ๔,๔๑๘ ๔,๘๐๓ ๙,๒๒๑ ๓,๓๒๑ ๖. ทา่ ถ่าน ๓,๙๓๑ ๔,๒๕๐ ๘,๑๘๑ ๓,๙๓๙ ๗. หนองแหน ๕,๐๒๗ ๕,๒๑๔ ๑๐,๒๔๑ ๔,๒๓๗ ๘. เขาหินซ้อน ๖,๒๒๘ ๖,๓๕๕ ๑๒,๕๘๓ ๕,๒๖๑ รวมประชากรท้ังสนิ ๓๔,๕๑๐ ๓๖,๔๔๓ ๗๐,๙๕๓ ๒๙,๔๔๒ ๑๒

๑.๗ พ้ืนทแ่ี ละการใช้ประโยชน์ พน้ื ท่ีส่วนใหญข่ องอำเภอพนมสารคามจะใชป้ ระโยชน์ในการ ประกอบอาชีพทางด้าน เกษตรกรรมสำหรับที่ลุ่ม ได้แก่ การทำนาสลับกับการเพาะปลูกพืชไร่ โดยเฉพาะการ ปลูกพืชผักสวนครัว สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกรอยู่ในระดบั ที่น่าพอใจ ได้แก่ ในพื้นที่ตำบลพนมสารคาม ตำบล หนองยาว ตำบลเมอื งเก่า ตำบลท่าถา่ น สำหรับท่รี าบสูงสว่ นใหญ่เกษตรกรจะเพาะปลูกมันสำปะหลัง ยู คาลิปตสั ในพ้ืนท่ตี ำบลเกาะขนนุ ตำบลบ้านซอ่ งและตำบลเขาหินซ้อน การถือครอบท่ีดิน การออกเอกสารสิทธิ์ให้ราษฎร ข้อมล ณ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ มีรายละเอยี ด ดงั นี้ ๑. โฉนดท่ดี นิ จำนวน ๕๓,๒๙๔ แปลง ๒. แปลงหนังสอื รับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ก.) จำนวน ๑,๙๗๕ แปลง ๓. หนงั สอื รบั รองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) จำนวน ๘๐๒ แปลง ๔. หนงั สอื สำคัญสำหรับทหี่ ลวง (น.ส.ล.) จำนวน ๑๔๓ แปลง ๕. ตราจอง จำนวน ๑๐๕ แปลง ๖. ใบจอง จำนวน ๖๗ แปลง ๗. ส.ค.๑ จำนวน ๒๓๐ แปลง รวม ๕๖,๖๔๖ แปลง ๑.๘ หน่วยงานราชการ - สวนกลาง ๑. สำนกั พฒั นาภาค ๑ หนว่ ยบัญชาการทหารพัฒนา ๒. สถานีตำรวจภธู รพนมสารคาม ๓. สถานีตำรวจภธู รเขาหินซ้อน ๔. สถานตี ำรวจภธรหนองแหน ๕. ศูนย์ศกึ ษาการพฒนาเขาหินซอ้ น อนั เนือ่ งมาจากพระราชดาํ ริ ๖. สรรพากรพ้นื ท่ีจังหวดฉะเชิงเทรา สาขาพนมสารคาม ๗. สำนักงานสรรพามิตพนื้ ทจี่ งั หวัดฉะเชิงเทรา สาขาพนมสารคาม ๘. สำนกั งานขนส่งจงั หวัดฉะเชงิ เทรา สาขาพนมสารคาม ๙. สำนักงานทด่ี นิ จงั หวัดฉะเชิงเทรา สาขาพนมสารคาม ๑๐. สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาฉะเชงิ เทรา เขต ๒ ๑๑. โรงพยาบาลพนมสารคาม ๑๒. สำนกั งานประกนั สงั คมจงั หวัดฉะเชงิ เทรา สาขาพนมสารคาม ๑๓

- สว่ นภูมภิ าค ๑. สำนกั งานเกษตรอำเภอพนมสารคาม ๒. สำนกั งานสาธารณสุขอำเภอพนมสารคาม ๓. สำนักงานพัฒนาชมุ ชนอำเภอพนมสารคาม ๔. สำนักงานปศุสตั วอ์ ำเภอพนมสารคาม ๕. ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอพนมสารคาม ๖. สำนกั งานวฒั นธรรมอำเภอพนมสารคาม ๗. สำนักงานสสั ดีอำเภอพนมสารคาม ๘. สำนกั งานทอ้ งถิน่ อำเภอพนมสารคาม ๙. สำนกั งานประมงอำเภอพนมสารคาม ๑.๙ หนว่ ยงานรัฐวสิ าหกจิ ๑. การไฟฟ้าส่วนภมู ิภาคพนมสารคาม ๒. การประปาส่วนภูมภิ าคพนมสารคาม ๓. ศนู ย์บรกิ ารลกู ค้าทโ่ี อทสี่ าขาพนมสารคาม ๑.๑๐ ธนาคาร ๑. ธนาคารกรงุ เทพ จำกดั (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๒. ธนาคารกรงุ เทพ จำกดั (มหาชน) สาขา เทสโก้ โลตัส พนมสารคาม ๓. ธนาคารกรงุ ไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๔. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกดั (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๕. ธนาคารไทยพาณชิ ย์ จำกัด (มหาชน) สาขา เทสโก้ โลตสั พนมสารคาม ๖. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๗. ธนาคารกรงุ ศรอี ยธุ ยา จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๘. ธนาคารทหารไทย จำกดั (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๙. ธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๑๐. ธนาคารออมสนิ สาขาพนมสารคาม ๑๑. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาพนมสารคาม ๑๔

๑.๑๑ ดา้ นโครงสร้างพื้นฐาน ๑๕ ๑.๑๒.๑ ไฟฟ้า - มีหน่วยบริการผู้ใช้ไฟฟ้า สังกัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพนมสารคาม จำนวน ๓ แห่ง ได้แก่ อำเภอราชสาส์น อำเภอสนามชัยเขต และอำเภอท่าตะเกียบ ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า แบ่งเป็นอำเภอ พนมสารคาม -อำเภอราชสาส์น รวม ๒๔,๖๓๑ ครอบครัว และอำเภอสนามชัยเขต – อำเภอทา่ ตะเกียบ รวม ๒๒,๔๓๒ ครอบครวั ๑.๑๒.๒ ประปา มีการประปาระดับอำเภอและตำบล หมู่บา้ น ดงั นี้ - การประปาส่วนภูมิภาค จำนวน ๑ แห่ง ได้แก่ สำนกังานการประปาส่วนภูมิภาค อำเภอพนมสารคาม มีผู้ใช้บริการ จำนวน ๗,๐๑๓ ครอบครัว กำลังการผลิต ๖,๕๐๐ ลูกบาศก์เมตร ตอ่ วนั โดยสบู น้ำจากคลองท่าลาด - การประปาหมู่บ้าน จำนวน ๕๑ แห่ง ๑.๑๒.๓ โทรศพั ท์ มีการใหบ้ รกิ ารตดิ ต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ โดยมจี ำนวนค่สู าย ๓,๑๕๒ เลขหมาย มีการใหบ้ ริการตูโ้ ทรศัพทส์ าธารณะ จำนวน ๑๑๒ ตู้ ๑.๑๒.๔ การสือ่ สารและโทรคมนาคม มีท่ที ำการไปรษณยี ์โทรเลข จำนวน ๑ แห่ง ๑.๑๒ การคมนาคม การคมนาคมติดต่อระหว่างอำเภอและจังหวัด รวมทั้งการคมนาคมภายในตำบลและหมบู่ ้าน มีรายละเอยี ด ดงั น้ี ๑. ทางหลวงแผ่นดนิ ๓๐๔ ฉะเชิงเทรา – กบินทรบ์ รุ ี ๒. ทางหลวงแผน่ ดนิ ๓๑๙ ฉะเชงิ เทรา – ปราจีนบุรี ๓. ทางหลวงแผน่ ดนิ ๓๐๒๕ ระยอง – ปราจีนบุรี ๔. ทางหลวงแผ่นดิน ๓๐๔๗ พนมสารคาม - บ้านสร้าง * สำหรับเสน้ ทางเช่ือมระหว่างตำบลและหมู่บา้ น มีสภาพเป็นถนนลกู รงั จำนวน ๖๓ สาย ๑.๑๓ ดา้ นเศรษฐกจิ ๑.๑๔.๑ ดา้ นเกษตรกรรม พน้ื ทท่ี ั้งหมดของอำเภอพนมสารคาม ๓๕๗,๕๐๐ ไร่ (๕๗๒ ตารางกโิ ลเมตร) พน้ื ท่กี ารเกษตร ๒๗๘,๖๙๐ ไร่ เกษตรกร จำนวน ๖,๗๘๑ ครัวเรอื น พืชเศรษฐกิจท่ีสำคัญ - ข้าว พื้นที่ปลูก ๑๐๙,๑๐๘ ไร่ สามารถทำนาได้ทั้งนาปีและนาปรัง (นาปรัง ๖๐,๙๗๙ ไร่) ผลผลติ เฉลี่ย นาปี ๖๙๘.๓ ก.ก./ไร่ - มนั สำปะหลงั พ้ืนทปี่ ลกู ๗๕,๖๙๕ ไร่ ผลผลิตเฉลยี่ ๒,๘๔๑.๒๙ ก.ก./ไร่ - ถว่ั เหลอื ง พ้นื ท่ปี ลกู ๑๔๐ ไร่

- มะมว่ ง พ้ืนท่ีปลกู ๔,๔๒๔ ไร่ สว่ นใหญ่เปน็ มะม่วงพันธ์ดุ ี เช่น น้ำดอกไมเ้ บอร์ ๔ นำ้ ดอกไม้ สที อง เขียวเสวย แรด และอ่นื ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรชาวสวนได้มีการรวมตวั กนั ต้ังเป็นชมรมชาวสวน อำเภอพนมสารคาม มีสมาชิก ๕๐ คน สร้างสวนมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออก พื้นที่ ประมาณ ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ ไร่ นับเปน็ แหล่งใหญ่ทส่ี ุดของจังหวัดฉะเชิงเทรา - พืชผัก มีพื้นที่ปลูกผัก ประมาณ ๖๖๓ ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตตำบลหนองยาวและ ตำบล บ้านซ่อง ซึ่งสามารถส่งขายในตลาดเขตอำเภอพนมสารคาม พอเพียงกับความต้องการของตลาด โดยไม่ต้อง นําเขา้ พชื ผักจากต่างจงั หวดั และยงั มกี ลมุ่ ผู้ปลกู ผักปลอดสารพษิ ๒ กลุ่ม สมาชิก ๕๐ คน สง่ ผักขายทงั้ ในตลาด อำเภอ และจังหวัด ซึ่งในอนาคตมีแผนจะผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษ ส่งให้ โรงพยาบาลพนมสารคาม เป็นประจำ ขณะน้อี ยู่ระหวา่ งจดั ทำโครงกาํ รร่วมกนั - พืชสมุนไพร มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรครบวงจรขึ้น ที่บ้านม่วงโพรง หมู่ที่ ๑ ตำบลเขาหินซ้อน สมาชิก ๔๗ คน ผลผลิตที่ได้ส่งให้ชมรมพืชยาไทยพนมสารคาม เพื่อผลิตเป็นอาหาร เสริมป้องกันและรักษาโรคในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ และการเลี้ยงไก่เนื้อ นกกระทาไข่ เพื่อลดการใช้ยาและ แก้ไขปญั หาสารพษิ ตกคา้ งในสนิ คา้ เกษตร ซึง่ เป็นการดำเนนิ การทสี่ อดคล้องกับนโยบายของรฐั บาล นอกจากนี้ ผลผลติ สมุนไพรบางสว่ น ยังส่งให้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศ และองคก์ ารเภสัชกรรม - การปศุสัตว์ อำเภอพนมสารคามเป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงชาวจังหวัดฉะเชิงเทราและ จังหวัดใกลเ้ คียง มีการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจที่สำคญั ดังน้ี โคพนั ธเ์ุ น้ือ ๔,๕๙๕ ตวั กระบือ ๕๖๕ ตวั สกุ ร ๑๐๓,๒๔๙ ตวั ไก่พนั ธ์ุเนื้อ ๖,๖๗๕,๔๐๘ ตวั ไก่พนั ธ์ไุ ข่ ๑,๐๐๗,๕๐๐ ตวั ไก่พันธุพ์ ้นื เมือง ๒๒,๕๐๕ ตัว เปด็ พนั ธเุ์ น้ือ ๑,๑๐๕,๑๐๐ ตวั เปด็ เทศ ๕๐๕ ตวั เปด็ พนั ธุไ์ ข่ ๒๐,๐๐๐ ตวั ๑๖

ปัญหาที่เกิดจากการเลีย้ งสัตว์ โดยเฉพาะฟาร์มสุกรมกั เกิดในฤดูฝนซึ่งน้ำเสียล้นจากบ่อพัก ๑๗ ไหลไปในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งอำเภอได้แก้ไขโดยการส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย มีผู้ประกอบการ รายใหญ่ให้ความร่วมมอื สร้างระบบบำบดั น้ำเสีย จำนวน ๔๐ ฟาร์ม สร้างบ่อแก๊สชวี ภาพ ประมาณ ๖๐ ราย ปจั จบุ ันไมม่ กี ารรอ้ งเรียนปญั หานำ้ เสยี จากฟารม์ สกุ รแต่อย่างใด - การประมง อำเภอพนมสารคาม มีเกษตรกรผู้ทําการประมง จำนวน ๕๗๓ ราย จำนวน ๑,๐๒๕ บอ่ ปริมาณทีเ่ ล้ยี งได้ ๗๖๕.๖๕ ตัน เนื้อทใี่ นการเพาะเลยี้ ง ๒,๔๒๒.๙๗ ไร่ ๑.๑๔.๒ การอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตดำเนินการประกอบการ จำนวน ๙๙ แห่ง ที่สำคัญ ได้แก่ โรงงานเกษตรรุ่งเรืองผลิตกระดาษตรา Double A โรงงานผลิตไฟฟ้า Thai Power Supply ซึ่งผลิต ไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงจากวัสดุการเกษตร สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ในเครือกลุ่มโรงงานพนมสารคามและเหลือ จำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของสวนป่ากิตติ ซึ่งส่งเสริมการปลูกและ รบั ซอื้ ไม้ยคู าลปิ ตัส และพืชผลการเกษตรท่วั ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ๑.๑๔.๓ การพาณิชย์ - มีสถานบริการน้ำเชอื้ เพลิงขนาดใหญ่ จำนวน ๒๘ แห่ง - ศูนย์การคา้ เทสโก้ โลตัส ศนู ยก์ ลางการค้าตลาดทา่ เกวยี น ศนู ย์การคา้ ศิริพนม ตลาดเกาะขนุน และตลาดเขาหนิ ซ้อน ๑.๑๔.๔ การทอ่ งเทย่ี ว สถานทที่ อ่ งเท่ยี วทีส่ ำคญั ไดแ้ ก่ - ศูนย์ศึกษาพัฒนาการเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาหินซ้อน ห่างจากอำเภอประมาณ ๑๗ กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาแหง่ แรก ซึ่ง พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอุดลเดช ได้ทรงมีพระราชดำริให้ตัง้ ขึ้นเมือ่ วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๒๒ ปัจจุบันเป็นสถานที่ ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาที่ดิน เศรษฐกิจพอเพียง และพักผ่อนหย่อนใจของชาวอำเภอ พนมสารคามและ อำเภอใกล้เคียง - สวนรุกขชาตพิ ระบาทสมเดจ็ พระป่นิ เกล้าเจา้ อย่หู วั ต้งั อยู่ในพ้นื ท่ตี ำบลเขาหินซอ้ น - อำเภอกำลังพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวรรณคดีแห่งใหมู่เพื่อเชื่อมโยงกับการสถานที่ ทอ่ งเท่ยี วของจังหวัด ได้แก่ อุทยานพระรถเสน ซึง่ ตงั้ อย่ทู ่หี นองรี เขตเทศบาล ตำบลทา่ ถ่าน - อำเภอพนมสารคาม มโี รงแรมและสถานบริการทจี่ ะรองรบั นักท่องเทยี่ วได้ ดังนี้ โรงแรม ๑๑ แห่ง สถานบรกิ ารและเริงรมย์ ๒ แหง่ ๑.๑๔ ดา้ นสังคม การศึกษา ประถมศึกษา ๑๒ แหง่ มธั ยมศกึ ษา ๓ แห่ง อาชีวศึกษา ๒ แห่ง ๑.๑๕ การสาธารณสุข

(๑) มกี ารใหบ้ ริการดา้ นการสาธารณสุข โดยมีสถานบริการ ดังน้ี - โรงพยาบาลขนาด ๑๒๐ เตยี ง จำนวน ๑ แหง่ - สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จำนวน ๑ แห่ง - โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำบล จำนวน ๑๒ แหง่ - สถานพยาบาลเอกชน - คลนิ กิ เวชกรรม จำนวน ๑๑ แห่ง - คลีนคิ การพยาบาลและผดงุ ครรภ์ จำนวน ๑ แห่ง - คลนี คิ เฉพาะทาง จำนวน ๓ แหง่ - คลีนิคทนั ตกรรม จำนวน ๔ แหง่ - ร้านขายยาแผนปจั จบุ ัน จำนวน ๑๕ แห่ง - ร้านขายยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จ จำนวน ๕ แหง่ - รา้ นขายยาแผนปจั จบุ นั สำหรับสตั ว์ จำนวน ๔ แห่ง - สถานที่ผลิตยาแผนโบราณ จำนวน ๑ แห่ง - ร้านขายยาแผนโบราณ จำนวน ๘ แห่ง - เทคนิคการแพทย์ จำนวน ๑ แห่ง (๒) อัตราการมแี ละใชส้ ้วมราดนำ้ รอ้ ยละ ๑๐๐ (๓) เสยี งตามสาย จำนวน ๗๖ แหง่ ครอบคลุมได้ รอ้ ยละ ๑๐๐ ๑.๑๖ ความปลอดภัยในชีวติ และทรัพย์สนิ มสี ถานีตำรวจภูธร จำนวน ๓ แห่ง ดังนี้ ๑. สถานตี ำรวจภธู รพนมสารคาม ๒. สถานีตำรวจภูธรหนองแหน ๓. สถานตี ำรวจภูธรเขาหนิ ซ้อน ๑๘

๑.๑๗ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม แหลง่ นำ้ ธรรมชาติ ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรน้ำ ในอำเภอพนมสารคามนั้นขาดความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีสาเหตุ มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้อยมีคลองท่าลาดเพียงสายเดียวที่ไหลผ่านพื้นที่บางส่วนของอำเภอ ส่วนแหล่ง เก็บน้าธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ห้วย หนอง บึง หลายแห่งมีสภาพตื้นเขินไม่สามารถกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ เมื่อถึงฤดแู ลง้ ได้อำเภอไดส้ งั่ การให้องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ทุกแห่งจัดทำโครงการพฒั นาแหลง่ นำ้ โดยเน้น ที่การพัฒนาจิตสํานกึ ของประชาชนท่ีอยู่ใกล้แหล่งน้ำใหเ้ ห็นความสำคัญ ในการอนุรกั ษ์ และพัฒนาแหล่งน้ำ ทรัพยากรปา่ ไม้ อำเภอมีพื้นที่ป่าไม้ที่สำคัญ ได้แก่ป่าแควระบมสียัด เนื้อที่ประมาณ ๔๖ ตารางกิโลเมตร แตใ่ นสภาพปัจจบุ ันราษฎรได้ทำการบกุ รุกทป่ี า่ ผืนดงั กล่าวจนไมเ่ หลือสภาพเปน็ ป่าอีกต่อไป ทรพั ย์กรดนิ ทรัพยากรดินในอำเภอพนมสารคามส่วนใหญ่ขาดความอุดมสมบรณ์ในหลายพื้นที่เป็นดิ น เปรี้ยว การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดินซึ่งประกอบไปด้วยดินเหนียว ใช้ในการประกอบการกสิกรรม ดิน ร่วนจะใช้เพาะปลูกพืชไร่และพืชสวนครัว และดินลุกรังจะปลูกมันสำปะหลังและยูคาลิปตัส จะมีการขุด หน้าดินไปขายหรือมีการบอ่ ลุกรังทำให้เกิดการพังทลายของดินและดินสว่ นที่เหลือจะขาดความอุดมสมบรู ณ์ ประกอบกับการใช้ประโยชน์จากดนิ ของเกษตรกรยังไมถ่ ูกวิธี และไม่มีการบำรุงรักษาดิน ทำให้ดินเสื่อมสภาพ ความอดุ มสมบรู ณล์ ง ๑๙

๒. การดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ๒.๑ ปญั หาทรัพยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม และภัยธรรมชาตติ ่าง ๆ พื้นที่อำเภอพนมสารคาม ไม่มีพื้นที่ป่า หรือป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้ทรัพยากรดินและ น้ำขาดความอุดมสมบรณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ซง่ึ มกี ารลักลอบท้งิ กากของเสียในพื้นที่ ตำบลหนองแหน ตำบลเกาะขนนุ และ ตำบลเขาหนิ ซ้อน ส่วนปัญหา ทางดา้ น ภยั ธรรมชาติ มดี งั นี้ ๑. ภัยแล้ง จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เนื่องจากปริมาณ น้ำฝนมีน้อยไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ทำให้น้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตรซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนในพื้นที่ อำเภอพนมสารคามประกอบอาชีพเกษตรกรรม ต้องใช้น้ำปริมาณมากในการทำการเกษตร ได้ดำเนินการ แกไ้ ขปัญหา ดังน้ี ๑.๑ ประสานสำนักงานชลประทานจังหวัด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำเพ่ือ ขอสูบน้ำมาใหป้ ระชาชนในพ้ืนท่ีอปุ โภค บริโภค โดยใช้งบฉุกเฉินเพ่อื ช่วยเหลือผูป้ ระสบปญั หาภยั แล้ง ๑.๒ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร กักเก็บน้ำไว้ให้เพียงพอในช่วงปลายฤดูฝนเพื่อ สาํ รองน้ำไวอ้ ุปโภค บรโิ ภค ในช่วงฤดแู ลง้ ๒. น้ำท่วม จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน มีฝนตกมาก อำเภอพนมสารคามมีคลองที่สำคัญ คือ คลองท่าลาด เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำในเขื่อนระบบสียัดมีปริมาณมากเกินที่จะกักเก็บไว้ได้ จึงต้องมีการ ระบายน้ำลงสู่คลองท่าลาดซึ่งจะมีผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม อำเภอได้ดำเนินการ แก้ไข ดงั น้ี ๒.๑ สํารวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำท่วม และเตรียมความพร้อมใน การอพยพผู้ประสบภยั ๒.๒ เมือเกิดสถานการณ์น้ำท่วม เร่งจดหาเครื่องยงชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพ้ืนท่ี ๒.๒ ปัญหายาเสพติดและแรงงานตา่ งด่าวที่ลักลอบทำงานอยูใ่ นพนื้ ท่ี ๑) ปัญหายาเสพติด อำเภอพนมสารคาม เป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่พอสมควร มีจำนวน ประชากรมากและมีแนวเขตติดต่อกับหลายจังหัวด ทำให้เป็นช่องทางให้ผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนํายาเสพติด เข้ามาจำหน่ายในพน้ื ที่ได้หลายทาง อำเภอจงึ ได้มแี นวทางในการแก้ไขปญั หายาเสพตดิ ดงั นี้ ๒๐

๑.๑ ดา้ นการปอ้ งกัน ๑.๑.๑ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดอำเภอและจัดต้ัง แหล่งขา่ วในทุกหมู่บา้ น ทุกตำบลเพ่อื หาขา่ วในการจำหน่ายยาเสพตดิ ๑.๑.๒ จัดอบรมผู้นำหมู่บ้าน เยาวชน อาสาสมัครทุกกลุ่มเพื่อเป็นพลัง มวลชนในการช่วยสอดสอ่ งดแู ลในทุกพ้นื ท่ีหมู่บา้ น ตำบล มใิ หผ้ ใู้ ดเข้ามาจำหน่ายยาเสพตดิ ในพน้ื ท่ีได้ ๑.๑.๓ ประสานงานกบสถาบันการศึกษาในพื้นที่จัดทำแผนอบรมให้ ความรู้ ปลูกจติ สาํ นึกให้ทราบถึงโทษและพิษภัยของยาเสพตดิ เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในพ้นื ที่ ๑.๑.๔ เน้นย้ำใหก้ าํ นนั ผู้ใหญบ่ า้ น ประสานงานติดตอ่ กบั ผนู้ ำครอบครัวที่ มีผูเ้ สพยาเสพตดิ มารายงานตัวและนาํ ตัวเขา้ รบั การบำบัดรักษา ๑.๑.๕ จัดเวรยามเฝ้าระวังในชุมชน หมู่บ้านและรายงานผลมายังศูนย์ฯ อำเภอ ๑.๑.๖ จัดทำโครงการหมู่บ้าน/ชุมชน ต้นแบบแก้ไขปัญหายาเสพติดเพ่ือ จดทำหมู่บ้านแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยอาศัยประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้สอดส่องดูแลบุตร หลานมใิ ห้เก่ียวขอ้ งกับยาเสพตดิ ๑.๒ ดา้ นการปราบปราม ๑.๒.๑ ดำเนินการรีเอกซเรย์ในพื้นท่ีอำเภอพนมสารคามทุกหมู่บ้าน ทุก ตำบลเพอื่ สืบคน้ หาผูเ้ สพและผคู้ า้ ๑.๒.๒ ประสานสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ จัดตั้งชุดปฏิบัติการ ป้องกันปราบปรามยาเสพตดิ เพื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและขยายผลถึงการยดึ ทรพั ยข์ องผู้จำหน่าย ยาเสพติด ๑.๒.๓ ประสานเรื่องการข่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมผู้จำหน่าย ยาเสพตดิ ตามที่แหล่งขา่ วในพ้นื ทร่ี ายงานและตรวจสอบกลั่นกรองข่าวเพอ่ื ใหท้ ราบขอ้ มูลท่ถี ูกตอ้ งและแน่ชดั ๑.๓ ด้านการบำบัดรักษา ประสานสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลพนมสารคาม ในการนำตวั ผู้ตดิ ยาเสพติดเขา้ รับการบำบัดรกั ษา ๑.๔ ดา้ นการบรหิ ารจัดการ ๑.๔.๑ จัดประชมุ คณะกรรมการ ศตส.อ.เปน็ ประจำทุกเดอื น ๑.๔.๒ ประสาน/อำนวยการ การดำเนินการจัดกิจกรรมฝึกอบรมการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ของเทศบาลตำบลและองค์การบริหารสว่ นตำบล ทกุ แหง่ ๑.๔.๓ ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อสร้างความ เข้มแข็งให้กบั หมู่บ้าน/ชมุ ชน สามารถยกระดบั ให้เปน็ หมู่บ้าน/ชมุ ชนปลอดยาเสพติด ๒๑

๒) แรงงานตา่ งด้าวที่ลกั ลอบทำงานในพนื้ ท่ี ๒.๑ ประสานงานกับสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ จัดชุดออกตรวจจับกุม แรงงานต่างด้าวท่ลี ักลอบทำงานในพนื้ ท่ีอำเภอพร้อมนายจ้างท่ีจัดจ้างหรือให้ท่ีพักพิงจะดำเนนิ คดีทุกราย ๒.๒ ประสานงานกับสำนักงานสวัสดิ์การและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สำนักงาน จัดหางานจังหวัดเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่ขออนุญาตทำงานในพื้นที่และจัดชุดพนักงานฝ่าย ปกครองออกตรวจตามสถานทีท่ ำงานตามข้อมลู ๒.๓ ประสานสายข่าวในพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล เพื่อรวบรวมแหล่งข่าวและออก กวดขนั จบั กมุ ๒.๔ แจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจสอบในพื้นที่ หากพบแรงงานต่างด้าวที่ ลกั ลอบทำงาน ให้ดำเนินการจบั กมุ หรอื รายงานอำเภอเพอ่ื ดำเนนิ การจับกุมต่อไป ๒.๓ ปญั หาอาชญากรรมและการก่อการรา้ ยท่มี ลี กษณะทเ่ี ปน็ ภัยต่อความมน่ั คง พื้นที่อำเภอพนมสารคาม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและนบถือศาสนาพุทธมี ความเป็นอยู่อย่างสงบและสมานฉันท์ ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดีจึงไม่มี ปัญหาอาชญากรรมและการก่อการร้ายที่มีลักษณะเป็นภัยตอ่ ความมัน่ คง ๒.๔ ปญั หาดา้ นการเมืองการปกครองทอ้ งถิน่ อำเภอพนมสารคาม มเี ทศบาลตำบล จำนวน ๕ แหง่ และองค์กาํ รบรหิ ารส่วนตำบล จำนวน ๖ แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่งให้ความร่วมมือกับอำเภอพนมสารคามเป็นอย่างดี ไม่มี ปญั หาด้านการเมืองการปกครอง ๒๒

๑.๔ เปา้ หมายการพัฒนาจงั หวดั และประเดน็ การพฒั นาของแผนพัฒนาจงั หวดั วสิ ยั ทศั น(์ Vision) ของจังหวดั ฉะเชงิ เทรา “ฉะเชิงเทรา เชื่อม EEC ส่เู มืองท่ีอยู่อาศัยชั้นด”ี ภายใตก้ ารพฒั นาแบบจาํ แนกเชงิ พื้นท่ี “อุตสาหกรรมสเี ขยี ว ท่องเที่ยวเชงิ วัฒนธรรม แหลง่ ผลติ สินคา้ เกษตรปลอดภยั สงั คมมีคุณภาพ ป่าและน้ำอดุ มสมบรู ณ”์ พนั ธกิจ (Mission) ๑) พฒั นาและเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพนื้ ฐานและโลจสิ ติกสเ์ พ่ือเพ่ิมศกั ยภาพการพัฒนาเศรษฐกจิ การค้า การลงทุน และอุตสาหกรรม รองรบั EEC ๒) พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สินคา้ และบรกิ ารทางการท่องเที่ยวใหม้ ีความหลากหลาย มีมาตรฐาน ๓) พฒั นาและสง่ เสริมการผลิตภาคการเกษตรอยา่ งครบวงจรโดยใชเ้ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมท่ี เหมาะสม ๔) พัฒนาคุณภาพชวี ติ และการศกึ ษาให้มีคุณภาพ และเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภยั ในชีวิตและ ทรัพย์สนิ ๕) ฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมเพื่อสนับสนุนการพฒั นาอย่างสมดุลและ ยั่งยืน เปา้ ประสงค์รวม (Ultimate Goals) ๑) การเจริญเติบโตทางเศรษฐกจิ ขยายตัวอยา่ งมเี สถียรภาพและยงั่ ยนื ตวั ชี้วดั : อตั ราการขยายตัวของผลิตภณั ฑม์ วลรวมจงั หวดั (GPP) ๒) ภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การท่องเท่ียว และเกษตรกรรมมขี ีดความสามารถในการแข่งขันสงู ข้ึน ตัวชว้ี ดั : อตั ราการขยายตวั ของผลิตภณั ฑ์มวลรวมจังหวดั (GPP) ภาคอุตสาหกรรม ตวั ชว้ี ดั : อตั ราการขยายตัวของผลติ ภณั ฑม์ วลรวมจังหวัด(GPP) ภาคการเกษตร ตวั ช้ีวัด : รอ้ ยละของรายได้จากการท่องเทยี่ วทเ่ี พิ่มขน้ึ ๓) คุณภาพชวี ิตและสวสั ดิการสงั คมมคี ุณภาพ ประชาชนสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารอย่างท่ัวถงึ และเท่าเทยี ม ตัวชว้ี ดั : ดชั นีความก้าวหน้าของคน (ด้านสุขภาพ การศกึ ษา ชวี ิตการงาน รายได้ และการ คมนาคมและการส่ือสาร) สูงกวา่ เกณฑค์ า่ เฉลีย่ ของประเทศ ๔) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มไดร้ บั การพัฒนาอย่างย่ังยนื ตวั ชวี้ ัด : อัตราการขยายตวั ของพ้นื ที่ป่าไม้จังหวดั เพิ่มข้นึ (รอ้ ยละ) ตัวชี้วัด : ร้อยละของขยะมลู ฝอยชมุ ชนท่ีได้รับการเก็บขนไปกําจดั ท่ลี ดลง ๒๓

ตําแหนง่ การพัฒนา (Positioning) • เมอื งอุตสาหกรรมสเี ขยี ว • แหลง่ ท่องเทย่ี วเชิงวฒั นธรรม • แหลง่ ผลติ เกษตรปลอดภยั (พืชผัก ปลากะพง ไข่ไก่ และสุกร) ตัวชี้วัดความสําเร็จตามเปา้ หมายการพัฒนาจังหวัด เป้าหมายการพัฒนา “ฉะเชงิ เทรา เช่ือม EEC สู่เมืองท่ีอยู่อาศัยช้นั ดี” ตัวช้ีวดั ๑.๑) อตั ราการขยายตวั ของผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจงั หวัด (GPP) ๑) อตุ สาหกรรมสีเขียว ๑.๒) อตั ราการขยายตวั ของภาคอุตสาหกรรม (ร้อยละ) ๒) ทอ่ งเที่ยวเชิงวฒั นธรรม ๑.๓) อัตราการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมที่ร่วมกับ ๓) แหล่งผลิตสนิ ค้าเกษตรปลอดภัย ๔) สังคมมีคุณภาพ ภาครัฐในการรกั ษาสง่ิ แวดล้อม (ร้อยละ) ๒.๑) รอ้ ยละของจํานวนผู้เยี่ยมเยือนท่เี พิ่มขึน้ ๕) ป่าและน้ำอดุ มสมบรู ณ์ ๒.๒) อตั ราการขยายตวั ของรายได้การทอ่ งเท่ยี ว (ร้อยละ) ๓.๑) ร้อยละของเกษตรกรทผี่ ่านการรบั รองมาตรฐาน GAP ๒๔ (พชื ผกั มะม่วง กงุ้ ทะเลและไกไ่ ข่) ๓.๒) รอ้ ยละที่เพ่มิ ขนึ้ ของเกษตรกรท่ผี ลติ สินคา้ เกษตร ปลอดภัยสูง ๔.๑) จาํ นวนปกี ารศกึ ษาเฉลยี่ ของประชากรอายุ ๑๕ –๕๙ ปี ในจังหวดั ท่ีเพมิ่ ขึ้น (ปี) ๔.๒) สัดสว่ นจาํ นวนคดีทีจ่ ับกุมไดต้ ่อคดีท่รี บั แจ้ง (ร้อยละ) ๔.๓) จาํ นวนหม่บู า้ น/ชมุ ชนท่ีมีผ้เู สพ/ผู้ตดิ ยาเสพติดไม่เกนิ ๓ คน ต่อ ๑,๐๐๐ คน(หมู่บา้ น/ชุมชน) เพิม่ ขึ้น ๔.๔) ร้อยละของผูป้ ระสบสาธารณภัยท่ไี ดร้ ับความชว่ ยเหลอื ๔.๕) รอ้ ยละของสถานพยาบาลในจงั หวดั ทีไ่ ด้การรบั รอง คุณภาพ HA ที่เพ่มิ ขึน้ ๕.๑) อตั ราการขยายตัวของพน้ื ทีป่ ่าไมใ้ นจังหวดั (ร้อยละ) ๕.๒) รอ้ ยละของขยะมูลฝอยชุมชนท่ีได้รับการเก็บขนไปกาํ จัด ทล่ี ดลง

ประเดน็ การพฒั นาของจังหวัด ๒๕ แผนพัฒนาจงั หวดั ฉะเชิงเทรา(พ.ศ. ๒๕๖๑ –๒๕๖๕) ได้กําหนดประเดน็ การพัฒนาทั้งส้นิ ๕ ประเดน็ การพัฒนา โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี ประเดน็ การพฒั นาที่ ๑ : พัฒนาศกั ยภาพการผลิตการบรหิ ารจัดการ ภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยก รรม ให้มีขีดความสามารถในการแขง่ ขนั และเปน็ มิตรกับสิง่ แวดล้อม ประเด็นการพัฒนาที่ ๒ : พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการด้านการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและ มอี ตั ลกั ษณ์สามารถสรา้ งมลู คา่ เพ่ิมให้แก่ชมุ ชน ประเด็นการพฒั นาที่ ๓ : พัฒนาการผลติ และการแปรรูปสินค้าเกษตร ให้เป็นแหลง่ ผลิตสินค้าเกษตร และเกษตรแปรรปู ทม่ี คี ณุ ภาพ ปลอดภยั และได้มาตรฐานสากล ประเด็นการพฒั นาที่ ๔ : พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตและสวสั ดิการสังคม รวมทงั้ เพ่ิมประสิทธิภาพการรักษา ความสงบเรยี บร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพยส์ ินของประชาชน ใหค้ รอบคลมุ ประชาชนทุกวัยอย่าง ท่วั ถงึ ประเด็นการพัฒนาท่ี ๕ : อนรุ กั ษ์ ฟ้นื ฟู และบรหิ ารจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมอย่าง บรู ณาการมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม ตอบสนองตอ่ การพฒั นาทย่ี ั่งยืน ประเดน็ การพัฒนาที่ ๑ : พัฒนาศักยภาพการผลติ การบริหารจดั การ ภาคอตุ สาหกรรมและพาณิชยกรรม ให้มี ขดี ความสามารถในการแข่งขันและเป็นมิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมมีการใช้นวัตกรรมและการบริหารจัดการ ส่งิ แวดล้อมทม่ี ีประสิทธภิ าพเพ่ือรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและเพ่ิมขีดความสามารถใน การแขง่ ขัน เป้าหมายและตัวชี้วัด: ๑) อตั ราการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม (ร้อยละ) ๒) อตั ราการขยายตวั ของภาคพาณชิ ยกรรม (ร้อยละ) ๓) รอ้ ยละทเ่ี พิม่ ขน้ึ ของแรงงานทไี่ ดร้ ับการพัฒนาฝีมือแรงงาน (รอ้ ยละ) ๔) อตั ราการขยายตวั ของโรงงานอตุ สาหกรรมท่รี ว่ มกับภาครัฐในการรักษา สิ่งแวดลอ้ ม(ร้อยละ) แนวทางการพัฒนา: ๑) พฒั นาระบบโครงสรา้ งพ้นื ฐานเพอื่ รองรับภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม (พฒั นาและปรบั ปรงุ เสน้ ทางสายหลัก สายรอง สายย่อย จุดเส่ียง รวมถึงขยายเขตประปาภมู ภิ าคระบบประปา หมบู่ ้านใหค้ รอบคลุม) ๒) พฒั นาการวางผังเมืองเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมและพาณชิ ยกรรม ๓) พฒั นาฝีมอื แรงงานใหส้ ามารถรองรบั การขยายตวั ภาคการผลิต อุตสาหกรรม พาณิชกรรมและการเกษตร ๔) พัฒนาศักยภาพผปู้ ระกอบการอุตสาหกรรม และ SMEs ใหม้ ขี ดี ความสามารถใน การแข่งขัน

สงิ่ แวดลอ้ ม ๕) พฒั นาผลติ ภณั ฑ์และกระบวนการผลติ ภาคอตุ สาหกรรมให้เปน็ มติ รกับสงั คมและ ๖) สง่ เสริมการขยายช่องทางการตลาด การค้า การลงทนุ การจัดจําหน่าย ประเด็นการพฒั นาท่ี ๒ : พัฒนาแหล่งทอ่ งเทย่ี วและบริการดา้ นการท่องเทีย่ วให้ไดม้ าตรฐานและมีอัตลักษณ์ สามารถสรา้ งมลู ค่าเพ่ิมใหแ้ ก่ชมุ ชน วัตถปุ ระสงค:์ เพ่ือพฒั นาแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วและบริการด้านการทอ่ งเทยี่ วใหไ้ ด้มาตรฐานและมีอตั ลักษณส์ ามารถ สร้างมูลคา่ เพิ่มใหแ้ ก่ชมุ ชน เป้าหมายและตัวชี้วดั : ๑) รอ้ ยละทเ่ี พิม่ ขึ้นของจาํ นวนผู้เยยี่ มเยอื น (ร้อยละ) ๒) อตั ราการขยายตวั ของรายไดก้ ารท่องเที่ยว (รอ้ ยละ) แนวทางการพัฒนา: ๑) พฒั นาและปรบั ปรงุ แหล่งท่องเทยี่ วให้มีคุณภาพและเกิดความย่งั ยืน ๒) พัฒนาโครงสรา้ งพืน้ ฐานและส่ิงอํานวยความสะดวกเพอื่ การทอ่ งเที่ยว ๓) สรา้ งความเชอ่ื มั่นและความปลอดภัยในการทอ่ งเทยี่ ว ๔) พัฒนาบุคลากรด้านการท่องเทีย่ วผู้ประกอบการ และสถานประกอบการให้ได้ มาตรฐาน ๕) สง่ เสริมการบรหิ ารจัดการด้านการท่องเท่ยี วอย่างบูรณาการและมีส่วนร่วม ๖) ยกระดบั คุณภาพและมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ชุมชน (OTOP) ๗) ส่งเสริมภาพลกั ษณ์ การตลาดและการประชาสมั พันธ์การท่องเท่ยี ว ประเดน็ การพฒั นาท่ี ๓ : พัฒนาการผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตร ใหเ้ ป็นแหล่งผลิตสนิ คา้ เกษตรและ ๒๖ เกษตรแปรรูปทีม่ ีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล วตั ถุประสงค:์ เพื่อพัฒนาการผลติ และการแปรรูปสินค้าเกษตร ให้เป็นแหลง่ ผลติ สินค้าเกษตรและเกษตรแปร รปู ทมี่ ีคุณภาพ ปลอดภยั และไดม้ าตรฐานสากล เปา้ หมายและตัวชี้วัด: ๑) ร้อยละของเกษตรกรทีผ่ า่ นการรับรองมาตรฐาน GAP (รอ้ ยละ) (พชื ผกั มะม่วง กุ้งทะเลและไก่ไข)่ ๒) ร้อยละทเ่ี พม่ิ ข้ึนของเกษตรกรทผ่ี ลติ สนิ ค้าเกษตรปลอดภยั สูง (ร้อยละ) ๓) ร้อยละของเกษตรกรในจงั หวัดทน่ี าํ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏบิ ตั ิ (ร้อยละ) ๔) ผลผลติ ของพืชเศรษฐกิจ (ข้าว) เฉล่ียต่อไรใ่ นเขตพ้นื ท่ีชลประทานเพมิ่ ขึ้น (กก./ไร่) แนวทางการพัฒนา: ๑) พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพอ่ื รองรบั ภาคเกษตรกรรม ๒) พฒั นาการผลิตสนิ ค้าเกษตรใหม้ คี ณุ ภาพ ปลอดภยั สงู และไดม้ าตรฐานสากล

๓) สง่ เสริมและพฒั นาเกษตรกร และสถาบนั เกษตรกรให้มีความเขม้ แข็งตามหลกั ๒๗ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔) พฒั นาการแปรรูปสนิ คา้ เกษตรและการผลติ ผลติ ภัณฑช์ ุมชน/OTOP ๕) เสรมิ สร้างภาพลกั ษณ์ และช่องทางการตลาดสนิ ค้าเกษตร และสนิ ค้าเกษตรแปรรูป ประเด็นการพฒั นาที่ ๔ : พัฒนาคณุ ภาพชีวิตและสวัสดกิ ารสงั คม รวมท้งั เพิ่มประสทิ ธิภาพการรกั ษาความ สงบเรยี บร้อยและความปลอดภัยในชวี ิตและทรัพยส์ ินของประชาชน ให้ครอบคลุมประชาชนทุกวยั อย่างท่ัวถึง วตั ถปุ ระสงค์: เพื่อสง่ เสรมิ ให้ประชาชนมีคุณภาพชวี ิตท่ดี ี และมีความปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ย์สนิ เปา้ หมายและตัวช้ีวดั : ๑) จํานวนปกี ารศึกษาเฉลีย่ ของประชากร อายุ ๑๕ – ๕๙ ปี ในจงั หวดั ที่เพมิ่ ขึ้น (ป)ี ๒) สัดส่วนจาํ นวนคดีท่จี ับกมุ ไดต้ อ่ คดีท่รี ับแจง้ (ร้อยละ) ๓) จาํ นวนหมบู่ ้าน/ชุมชนทมี่ ผี ้เู สพ/ผู้ติดยาเสพติดไม่เกิน ๓ คน ต่อ ๑,๐๐๐ คน เพ่ิมขนึ้ ๔) ร้อยละของผปู้ ระสบสาธารณภยั ท่ีไดร้ บั ความช่วยเหลอื (รอ้ ยละ) ๕) รอ้ ยละของประชากรในจงั หวดั ทอ่ี ย่ใู ต้เสน้ ความยากจนท่ีลดลง (รอ้ ยละ) ๖) รอ้ ยละของสถานพยาบาลในจงั หวัดที่ได้การรับรองคณุ ภาพ HA ท่ีเพ่ิมขึน้ (ร้อยละ) แนวทางการพัฒนา: ๑) เพมิ่ คุณภาพการศึกษา ๒) เพ่มิ คุณภาพงานสาธารณสุข ๓) ส่งเสรมิ คุณภาพการกีฬา และนนั ทนาการ ๔) เสริมสร้างคณุ ธรรมและค่านยิ มความเป็นไทย ๕) เพม่ิ ประสิทธภิ าพการรักษาความสงบเรยี บร้อยและความปลอดภัยในชีวติ และ ทรัพยส์ ินของประชาชน ๖) เสรมิ สร้างความเข้มแขง็ และส่งเสรมิ การมีส่วนรว่ มของประชาชนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๗) พฒั นาคุณภาพชวี ิตและสวัสดกิ ารสงั คมของประชาชนและสรา้ งอาสาสมัคร ป้องกันภัย ประเด็นการพัฒนาที่ ๕ : อนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณา การมปี ระสิทธิภาพ และเปน็ ธรรม ตอบสนองต่อการพฒั นาทย่ี ั่งยนื วัตถุประสงค์: เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างบูรณาการ มปี ระสทิ ธภิ าพ และเปน็ ธรรม ตอบสนองตอ่ การพัฒนาทีย่ ัง่ ยนื เปา้ หมายและตัวชี้วดั : ๑) อัตราการขยายตัวของพ้ืนทปี่ า่ ไม้ในจังหวดั (รอ้ ยละ) ๒) ร้อยละทีล่ ดลงของขยะมูลฝอยชุมชนทไ่ี ดร้ ับการเกบ็ ขนไปกาํ จัด (ร้อยละ) ๓) จาํ นวนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ทมี่ ีระบบบาํ บดั นำ้ เสยี ชุมชน (แห่ง) ๔) พ้ืนท่เี ส่ยี งจากภยั ธรรมชาติได้รบั การป้องกันความเสียหายเพิ่มขนึ้ (แห่ง)

แนวทางการพฒั นา: ๑) ฟนื้ ฟูป่าตน้ น้ำและเพ่ิมพน้ื ท่ีปา่ ให้สมบูรณเ์ กดิ ความสมดุลต่อระบบนิเวศ ๒) ป้องกันการกัดเซาะชายฝง่ั ทะเล และการพังทลายของตล่ิงริมแม่น้ำและคลองสาขา ๓) สรา้ งองค์ความรู้ในการคดั แยกขยะต้นทาง และการกาํ จัดขยะตามหลักวิชาการ ๔) เสริมสร้างการสร้างจิตสํานึกในการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ๕) สรา้ งเครือข่ายพลเมืองผู้อนุรกั ษ์ส่งิ แวดลอ้ มและอาสาสมคั รปอ้ งกนั สาธารณภยั ๒๘

๑.๕ ประเด็นปัญหาและความต้องการเชิงพ้ืนท่ีประเด็นการพฒั นา ๑. ปญั หาด้านเศรษฐกิจ ประเด็นปัญหา สาเหตขุ องปัญหา แนวทางแกไ้ ข ๑. ราคาผลผลติ ทางการเกษตร ๑. ไม่มีตลาดรองรับผลผลิตและ ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรโดยเน้น ตกต่ำ ขาดการประกันราคาพชื ผลผลิต คุณภาพ มาตรฐาน อาหารปลอดภัย ๒. ปัจจัยการผลิตมีราคาสงู ๒. ไม่มีการควบคุมราคาปัจจัย ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อเพิ่มมูลค่า ๓. ไมม่ ีตลาดรองรบั จำหน่าย ของการผลติ และเพิ่มขีดความสามารถในการ ผลิตผล ๔. ขาดเงินทุนในการ ๓. ไม่มีสถานที่ที่ใช้สำหรับ แข่งขัน แก้ปัญหาสินค้าเกษตรราคา ประกอบอาชีพ ๕. ขาดความรู้ รองรบั ผลผลติ ตกคต่ำโดยพัฒนาการผลิตสินค้า ในกํารประกอบอาชีพอน่ื ๔. ไม่มีเงินทุนสำหรับใช้ในการ เกษตรให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยการ ประกอบอาชพี ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ที่จะช่วยรักษา ๕. ไม่มีความรู้ความชํานาญใน สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับ การนาไปใช้ประกอบอาชีพอ่ืน การสนับสนุนการ หาตลาดและ หลงฤดกู าลเก็บเก่ยี ว ส ถ า น ท่ี จ ำ ห น ่ า ย ส ิ น ค ้ า เ ก ษ ต ร ปลอดภยั สูง ๒. ปัญหาด้านสังคม สาเหตุของปัญหา แนวทางแก้ไข ประเด็นปญั หา ๑. ราษฎรในพื้นที่ขาดความ ๑. การขอความร่วมมือจากทุกภาค ๑. ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชน สามัคคใี นการรวมกลมุ่ ส่วนร่วมกันในการปัญหายาเสพติด ๒. ยาเสพตดิ ๓. กีฬาและนันทนาการ ๒. การให้ความรู้แก่ชุมชนใน อย่างเข้มข้นตลอดจนสร้างเสริม ๔. ภาวะการว่างงาน เรื่องเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดไม่ สุขภาพและปจั จัยเสี่ยงตา่ ง ๆ ทั่วถึง ๒. เร่งพฒั นาการศึกษาตลอดจนการ ๓. ขาดผู้นําด้านการกีฬาและ เรยี นรทู้ มี่ ีคณุ ภาพ สถานที่ออกกำลังกายและ ๓. สร้างความมั่นคงทางอาชีพเพ่ือ สถานทีพ่ ักผอ่ นไม่เพียงพอ รองรับกําลังแรงงานที่เป็นประชากร ในพ้ืนท่ที ถ่ี กู เลกิ จ้างตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ๒๙

๓. ปัญหาด้านโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ประเดน็ ปญั หา สาเหตุของปญั หา แนวทางแก้ไข ๑. คมนาคม ๑. สภาพถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ๑. จัดสรรงบประมาณเพื่อซ่อมแซม ๒. ไฟฟา้ และประปา ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วย ถนนและจำกัด น้ำหนักรถบรรทุกท่ี ความลำบาก ว่ิงเพื่อปอ้ งกนั ถนนชาํ รดุ ๒. การขยายเขตบริการประปา ๒. ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้านให้ ภูมิภาคยังไม่ ครอบคลุม และ ไดม้ าตรฐาน ประปาหมู่บ้านไมไ่ ดค้ ณุ ภาพ , ไฟ ตก ๔. ปญั หาดา้ นแหลง่ นำ้ ประเดน็ ปญั หา สาเหตขุ องปญั หา แนวทางแก้ไข ๑. นำ้ เพอ่ื อปุ โภค - บรโิ ภค ๑. ขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาด จัดสรรและขอสนับสนุนงบประมาณ ๒. น้ำเพอ่ื การเกษตร เ พ ื ่ อ น ำ ม า ใ ช ้ ใ น ก า ร ผ ลิ ต เพื่อจัดหาแหล่งน้ำขุดลอกคูคลองที่ น้ำประปา ตื้นเขินโดยประสานหน่วยงานที่ ๒. ระบบชลประทานไม่คลอบ เก่ยี วขอ้ งให้การสนบั สนุน คลุมพื้นที่ฝายกักเก็บน้ำและ สภาพคลองตื้นเขนิ ๕. ปัญหาด้านสาธารณสขุ ประเดน็ ปัญหา สาเหตุของปญั หา แนวทางแกไ้ ข ๑. ป้องกันโรคตดิ ต่อ ๑. ขาดความรู้ คำแนะนําท่ี ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้ประชาชนใส่ ๒. สุขภาพอนามัย ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั ปญั หา ใจสุขภาพจัดหน่วยบริการเคลื่อนท่ี ๓. การบรกิ ารสาธารณสขุ มูล ๒. ขาดความสนใจ ดูแลเอาใจใส่ ตามสวนสาธารณะให้ ความรู้แก่ ฐาน สุขภาพ ประชาชนอย่างสม่ำเสมอ ๓. ขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ บคุ ลากรให้บรกิ าร อย่างท่วั ถงึ ๖. ปัญหาดา้ นการเมอื ง การบริหาร ประเดน็ ปญั หา สาเหตุของปญั หา แนวทางแก้ไข ๓๐

๑. การปกครองระบอบ ๑. ขาดความรู้ ความสนใจใน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมี ประชาธิปไตย ๒. ความสนใจในกํารมสี ว่ นร่วม ระบอบประชาธิปไตย ส่วนร่วมนกิจกรรมของชุมชน เช่น ๒. ประชาชนขาดความสนใจการ การประชมุ ประชาคม เปน็ ต้น เข้าร่วมประชาคม และไม่ทราบ ถึงประโยชน์ของการเข้าร่วม ประชาคม ๗. ปัญหาดา้ นการศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ประเดน็ ปัญหา สาเหตุของปญั หา แนวทางแกไ้ ข ๑. ด้านอปุ กรณ์สือ่ การเรยี น ๑. ขาดแคลนอปุ กรณ์สอื่ การ ขอสนับสนุนงบประมาณจาก ส่วนกลางในการดำเนินการและขอ ๒. อุปกรณ์สำหรับสนามเด็ก เรยี นการสอนที่ ทนั สมยั ความร่วมมือจากผู้ประกอบการใน พ ื ้ น ท ี ่ / ช ุ ม ช น ร ่ ว ม ส น ั บ ส นุ น เล่นไมม่ ีมาตรฐาน ๒. สนามเด็กเล่นมสี ภาพชํารุด งบประมาณอกี ทางหน่งึ ทรุดโทรม ๘. ปัญหาดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ประเดน็ ปัญหา สาเหตุของปัญหา แนวทางแก้ไข ๑. ขยะมูลฝอยและสงิ่ ปฏกิ ลู ๑. ขาดความรู้ในการกําจัดขยะ ส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ มูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่ถูกวิธี ประชาชนในการ แยกทงิ้ ขยะ และจัด ส่งผลใหเ้ กดิ มลพษิ ใหม้ ีจุดทงิ้ ขยะอยา่ งเพียงพอใน แต่ละ ชมุ ชน ๓๑

๑.๖ ผลการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของอำเภอในช่วงท่ีผา่ นมา (ในปีงบประมาณ ๒ ปีท่ีผ่านมา) สรุปงบประมาณท่ีอำเภอได้รับการสนับสนนุ เพ่ือดำเนินโครงการ/กิจกรรมตามแผนพัฒนาอำเภอ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ (เฉพาะโครงการสำคญั ) ลำดบั แหลง่ งบประมาณ จำนวนโครงการ/กิจกรรม จำนวน(บาท) หมาย ทั้งหมด (รวมทุกประเดน็ การ เหตุ พัฒนา) ๑. โครงการท่ใี ชง้ บประมาณตาม นโยบายพเิ ศษของรัฐบาล ๒. โครงการที่ใช้งบประมาณของงบ ๑๑ ๓๖,๙๙๙,๒๐๐ จงั หวดั โครงการที่ใชง้ บประมาณของ ๓. หน่วยงาน (งบ Function) ทด่ี ำเนนิ การใน ภูมภิ าค ๔. โครงการที่ใชง้ บประมาณขององค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น ๕ โครงการทใ่ี ช้งบประมาณของเอกชน รวม ๑๑ ๓๖,๙๙๙,๒๐๐ ๓๒

๓๓

๓๔

๓๕

๓๖

๑.๗ ข้อมลู ความเสยี่ งการเกิดสถานการณ์โรคระบาดในพนื้ ที่ ข้อมลู ความเสย่ี งดา้ นสาธารณภยั ในพน้ื ที่ และที่ดินอนั เป็นสาธารณสมบตั ขิ องแผ่นดนิ ๑.๗.๑ ข้อมูลความเสี่ยงการเกิดสถานการณ์โรคระบาดในพื้นท่ี และข้อมูลความเสี่ยงด้านสาธารณภยั ในพืน้ ท่ี ๑) โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา๒๐๑๙ (COVID-๑๙) (๑) หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง - สำนกั งานสาธารณสขุ อำเภอพนมสารคาม - ทีท่ ำการปกครองอำเภอพนมสารคาม - องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ (๒) ผลกระทบ ๑.ด้านการดำเนนิ ชวี ิต ตอ้ งมีการปรบั เปลย่ี นรปู แบบการดำเนนิ ชีวติ วถิ ีใหม่ ๒.ด้านเศรษฐกจิ ผปู้ ระกอบการต้องมีการปรบั เปลีย่ นรูปแบบในการดำเนินการ ต้นทุนสูงขน้ึ รายได้ลดลง ในส่วนของลูกจา้ งมีอัตราว่างงาน และรายได้ลดลง ๓.ด้านสงั คม การรวมกลมุ่ กันทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ต้องเป็นไปตามมาตรการท่ีรฐั กำหนด (๓) ประเภททางเลือกในการจัดการภยั พิบัติ/สถานการณ์โรคระบาดในพนื้ ที่ - การปอ้ งกนั /หลีกเล่ยี ง ๑. ลงทะเบยี นคัดกรอง ๖. ลดการแออดั ๒. สวมหน้ากากอนามยั ๗. กกั กนั ผู้เดินทางท่ีมาจากพื้นที่เส่ียง ๓. ลา้ งมือ ๘. ค้นหาผู้เสยี่ ง/ผสู้ มั ผัส เชิงรกุ ๔. ทำความสะอาด ๙. ประชาสมั พนั ธใ์ ห้ความรู้ ๕. เว้นระยะหา่ ง - การลดผลกระทบ บรู ณาการจดั ระบบทัง้ ดา้ นการดำเนินชีวิต เศรษฐกจิ และสังคม - การเตรยี มความพร้อม ๑.จัดต้ังคณะทำงาน ๒.ประชมุ ชแี้ จงแนวทางการปฏบิ ัติงาน ๓.จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ - การถา่ ยโอนหรอื แบ่งปนั ความเส่ยี ง บูรณาการกับภาคเี ครือขา่ ยทเ่ี กยี่ วข้องรว่ มกันดำเนินการ ๓๗

๔) มาตรการ/วธิ ลี ดความเสย่ี ง ๑. จัดทำแผนรองรบั การระบาดของโรค ๒. กำหนดมาตรการในการปฏบิ ตั ิ ๓. กำกบั ควบคุมติดตามตามมาตรการท่รี ัฐกำหนด ๔. จดั หาวัสดุ อุปกรณ์ ๕. จดั ทำแผนงาน/โครงการขอรับการสนับสนนุ จาก พชอ. ,กองทนุ หลกั ประกนั สขุ ภาพระดบั ท้องถ่ินหรือพน้ื ท่ี ๒) โรคไข้เลือดออก (๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - สำนกั งานสาธารณสุขอำเภอพนมสารคาม - ท่ีทำการปกครองอำเภอพนมสารคาม - องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ (๒) ผลกระทบ จากสถติ ขิ อ้ มูลผู้ป่วยโรคไขเ้ ลือดออกในช่วง ๕ ปีทีผ่ ่านมา พบผู้ป่วยสงู ในปี พ.ศ.๒๕๕๘ และ ปี พ.ศ.๒๕๖๑ จากข้อมูลการวเิ คราะห์ ของกองระบาดวิทยา ปรากฏว่า โรคไข้เลอื ดออก มกั จะมกี ารระบาด ๑ ปี เว้น ๒ ปี และสำหรับอำเภอพนมสารคาม พบข้อมูลผู้ป่วยปรากฎขึ้นตั้งแต่ต้นปีและมากสุดในช่วงฤดูฝน และด้วยมสี ภาพพ้ืนท่ีขนาดใหญ่และประชากรมาก ทำให้อำเภอพนมสารคามเป็นพ้นื ท่ีเส่ยี งต่อการแพร่ระบาด อนั ดบั ต้น ๆ ของจังหวัดฉะเชิงเทรา (๓) ประเภททางเลอื กในการจดั การภัยพบิ ตั ิ/สถานการณโ์ รคระบาดในพน้ื ท่ี - การป้องกนั /หลีกเลย่ี ง จัดทำแผนแบ่งเปน็ ๓ ระยะ คือ ๑.ก่อนเกิดโรค ๒.ขณะเกิดโรค ๓.หลังเกิดโรค - การลดผลกระทบ การมสี ว่ นรว่ มกบั อสม.ผนู้ ำชุมชน แกนนำครอบครวั หนว่ ยงานตา่ งๆในพื้นที่ - การเตรียมความพร้อม ๑.จดั ต้ังคณะทำงาน ๒.ประชมุ ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน ๓.จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ - การถา่ ยโอนหรอื แบ่งปันความเสย่ี ง รพ.สต.จัดทำแผน ขอรบั การสนับสนุนจากกองทุนหลกั ประกันสุขภาพระดบั ท้องถิ่นหรือพนื้ ที่ ๓๘

๔) มาตรการ/วิธีลดความเสยี่ ง หน่วยงานสาธารณสุข ระดับอำเภอและระดับตำบลจัดทำแผนแบ่งเป็น ๓ ระยะ ได้แก่ ๑.ก่อนเกิดโรค ๒.ขณะเกิดโรค และ ๓.หลังเกิดโรค โดยเน้น การมีส่วนร่วมกับ อสม.ผู้นำชุมชน แกนนำ ครอบครัว หน่วยงานตา่ งๆในพ้นื ที่ โดยมกี ระบวนการทำงาน ๑.จัดตั้งคณะทำงาน ๒.ประชมุ ช้ีแจงแนวทางการปฏิบตั ิงาน ๓.จัดเตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ อาศัยการมีสว่ นรว่ มโดยรพ.สต.จัดทำแผน ขอรบั การสนบั สนนุ จาก กองทุนหลักประกันสุขภาพระดบั ท้องถิน่ หรอื พ้นื ที่ ๓๙

๔๐

๔๑

๑.๗.๒ ท่ดี นิ อันเป็นสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดิน ลำดบั ที่ เลขท่ี น.ส.ล. ชอื่ ทีด่ นิ ตำบล เนอื้ ที่ วา ๔๒ ไร่ งาน ๔๓.๓ ๑ ๓๒๗๖/๒๕๑๓ หนองคอกควายสาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๑๗ ๓ ๓๐ ๒ ๓๒๗๗/๒๕๑๓ ทีส่ าธารณะเกาะขนนุ ๒ เกาะขนนุ ๗๐ ๑๓ ๓ ๓๒๗๘/๒๕๑๓ ที่สาธารณะเกาะขนนุ ๑ เกาะขนนุ ๓๐ ๕๖ ๔ ๓๒๘๑/๒๕๑๓ หนองพรวน ทา่ ถ่าน ๓๖ ๓ ๐๕ ๕ ๓๕๙๒/๒๕๑๔ หนองกรดสาธารณประโยชน์ เกาะขนุน ๘๔ ๐ ๕๔.๖ ๖ ๓๕๙๓/๒๕๑๔ หนองสองตอนสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๑๕ ๒ ๒๐.๓ ๗ ๗๗๐๒ หนองบัว หนองแหน ๑๒ - ๐๐.๓ ๘ ๘๖๐๘ กระทรวงมหาดไทย (หนองเชัยงแงะ) เมอื งเก่า ๑๒ ๒ ๓๑ ๙ ๑๐๑๒๒ กระทรวงมหาดไทย (ป่าผาก) หนองแหน ๓๕๗ ๑ ๐๒ ๑๐ ๑๑๐๓๐ กระทรวงมหาดไทย (หนองแหลมไผศ่ ร)ี หนองยาว ๑๙ ๓ ๐๒ ๑๑ ๑๑๐๓๑ กระทรวงมหาดไทย (หนองอ้อหัวควาย) หนองยาว ๑๙ ๓ ๓๙ ๑๒ ๑๑๐๓๒ กระทรวงมหาดไทย (หนองจกิ ) ท่าถ่าน ๑๙ ๓ ๑๑ ๑๓ ๑๑๐๓๓ กระทรวงมหาดไทย (หนองคอลอย) หนองแหน ๒๔ ๒ ๒๒.๙ ๑๔ ๑๑๐๓๔ กระทรวงมหาดไทย (หนองยาง) หนองแหน ๒๒ ๐ ๑๘ ๑๕ ๑๗๘๗๐ บงึ กระจับ เมอื งเกา่ ,หนองแหน ๙๗ ๒ ๒๐ ๑๖ ๑๗๘๗๑ บงึ กระจับ เมอื งเกา่ ,หนองแหน ๑๒๙ ๐ ๔๔ ๑๗ ๑๗๙๔๖ หนองใหญ่หรือหนองต้นตาล หนองยาว ๒๔ ๓ ๖๕ ๑๘ ๑๗๙๔๗ หนองทรายสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓๓ ๓๐ ๑๙ ๑๗๙๔๘ หนองบัวท่าลาดสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๕๒ ๗๗ ๒๐ ๑๗๙๔๙ หนองกระทุม่ ทา่ ถ่าน ๒๔ ๐ ๔๙.๔ ๒๑ ๓๑๗๕๑ หนองรี ทา่ ถ่าน ๑๘ ๐ ๒๙ ๒๒ ๓๑๗๕๓ หนองตาผนิ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๒๐ ๖๑ ๒๓ ฉช ๐๐๑๓๕ ที่สาธารณประโยชน์ หนองแหน ๐๐ ๑๒ ๒๔ ฉช ๐๐๑๓๖ ทสี่ าธารณประโยชน์ หนองแหน ๐๑ ๑๖ ๒๕ ฉช ๐๐๑๓๗ หนองหวั ลงิ หนองแหน ๑๑ ๒๔ ๒๖ ฉช ๐๐๑๓๘ หนองตากลับสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖๐ ๐๐ ๒๗ ฉช ๐๐๑๓๙ หนองชญั ตาหลบั เขาหินซ้อน ๘๐ ๕๗ ๒๘ ฉช ๐๐๑๔๐ ป่าช้าวดั เก่าสาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๑๒ ๔๒ ๒๙ ฉช ๐๐๑๔๑ ศาลปู่ตาสาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง ๐๓ ๔๙ ๓๐ ฉช ๐๐๑๔๒ ที่ทำเลเลี้ยงสัตวส์ าธารณประโยชน์ หนองยาว ๓๓ ๓๓ ๓๑ ฉช ๐๐๑๔๓ หนองออ้ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๐ ๓ ๑๗ ๓๒ ฉช ๐๐๑๔๔ หนองวงั ทรายสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐๓ ๗๒ ๓๓ ฉช ๐๐๑๔๕ หนองคนั ชัง่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖๐ ๓๖ ๓๔ ฉช ๐๐๑๔๖ สระน้ำสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐๒ ๔๑ ๓๕ ฉช ๐๐๑๔๗ ทสี่ าธารณประโยชน์ประจำหมู่บา้ นที่ ๓ ท่าถ่าน ๑๓ ๔๘ ๓๖ ฉช ๐๐๑๖๐ หนองข่าสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๒๒ ๘๓ ๓๗ ฉช ๐๐๑๖๑ หนองลำเกวียนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖๐ ๐๕ ๓๘ ฉช ๐๐๑๖๒ หนองบวั สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๒

ลำดับที่ เลขที่ น.ส.ล. ช่ือท่ดี ิน ตำบล เนอ้ื ท่ี ๔๓ ไร่ งาน วา ๓๙ ฉช ๐๐๑๖๓ ศาลาประชาธปิ ไตยสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๐ ๐ ๗๐ ๔๐ ฉช ๐๐๑๖๕ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ เมืองเกา่ ๒ ๐ ๗๗ ๔๑ ฉช ๐๐๑๖๖ หนองจิก เมอื งเก่า ๑ ๓ ๓๖ ๔๒ ฉช ๐๐๑๖๗ ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ เมอื งเก่า ๐ ๓ ๐๖ ๔๓ ฉช ๐๐๑๖๒ หนองสาธารณประโยชน์ เมืองเกา่ ๑ ๐ ๘๕ ๔๔ ฉช ๐๐๑๖๙ หนองกุม่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔ ๐ ๙๔ ๔๕ ฉช ๐๐๑๗๐ หนองน้ำสาธารณประโยชน์ เมอื งเก่า ๐ ๓ ๓๗ ๔๖ ฉช ๐๐๑๗๑ หนองเทวดาสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖ ๐ ๒๐ ๔๗ ฉช ๐๐๑๗๒ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๒ ๕๐ ๔๘ ฉช ๐๐๑๗๓ หนองกระบอกสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๒ ๖๕ ๔๙ ฉช ๐๐๑๗๔ หนองตาเรอื งสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๕ ๐ ๕๖ ๕๐ ฉช ๐๐๑๗๕ ป่าช้าเก่าสาธารณประโยชน์ ทา่ ถา่ น ๑ ๑ ๕๑ ๕๑ ฉช ๐๐๑๗๖ ป่าช้าน้อยสาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๑ ๑ ๘๖ ๕๒ ฉช ๐๐๑๗๗ หนองโพรงสาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง ๗ ๐ ๓๗ ๕๓ ฉช ๐๐๑๗๘ หนองผกั ชีสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๕ ๐ ๔๑ ๕๔ ฉช ๐๐๑๓๕ ที่สาธารณประโยชน์ หนองแหน ๐ ๐ ๖๑ ๕๕ ฉช ๐๐๑๓๖ ทสี่ าธารณประโยชน์ หนองแหน ๐ ๑ ๑๒ ๕๖ ฉช ๐๐๑๓๗ หนองหัวลงิ หนองแหน ๑ ๑ ๑๖ ๕๗ ฉช ๐๐๑๓๘ หนองตากลับสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖ ๐ ๒๔ ๕๘ ฉช ๐๐๑๓๙ หนองชัญตาหลับ เขาหนิ ซอ้ น ๘ ๐ ๐๐ ๕๙ ฉช ๐๐๑๔๐ ป่าชา้ เกา่ สาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง ๑ ๒ ๕๗ ๖๐ ฉช ๐๐๑๔๑ ศาลปตู่ าสาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๐ ๓ ๔๒ ๖๑ ฉช ๐๐๑๔๒ ทีท่ ำเลเล้ียงสตั วส์ าธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๓ ๔๙ ๖๒ ฉช ๐๐๑๔๓ หนองอ้อสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๐ ๓ ๓๓ ๖๓ ฉช ๐๐๑๔๔ หนองวังทรายสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๓ ๑๗ ๖๔ ฉช ๐๐๑๔๕ หนองคนั ชั่งสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖ ๐ ๗๒ ๖๕ ฉช ๐๐๑๔๖ สระนำ้ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๒ ๓๖ ๖๖ ฉช ๐๐๑๗๔ ที่สาธารณประโยชนป์ ระจำหมู่บา้ นท่ี ๓ ท่าถ่าน ๑ ๓ ๔๑ ๖๗ ฉช ๐๐๑๖๐ หนองขา่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๒ ๒ ๔๘ ๖๘ ฉช ๐๐๑๖๑ หนองลำเกวียนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖ ๐ ๘๓ ๖๙ ฉช ๐๐๑๖๒ หนองบวั สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑ ๒ ๐๕ ๗๐ ฉช ๐๐๑๖๓ ศาลาประชาธปิ ไตยสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๐ ๐ ๗๐ ๗๑ ฉช ๐๐๑๖๕ ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๒ ๐ ๗๗ ๗๒ ฉช ๐๐๑๖๖ หนองจกิ เมอื งเกา่ ๑ ๓ ๓๖ ๗๓ ฉช ๐๐๑๖๗ ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ เมืองเก่า ๐ ๓ ๐๖ ๗๔ ฉช ๐๐๑๖๘ หนองสาธารณประโยชน์ เมืองเก่า ๑ ๐ ๘๕ ๗๕ ฉช ๐๐๑๖๙ หนองก่มุ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔ ๐ ๙๔ ๗๖ ฉช ๐๐๑๗๐ หนองน้ำสาธารณประโยชน์ เมอื งเกา่ ๐ ๓ ๓๗ ๗๗ ฉช ๐๐๑๗๑ หนองเทวดาสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖ ๐ ๒๐ ๗๘ ฉช ๐๐๑๗๒ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๒ ๕๐

ลำดบั ท่ี เลขที่ น.ส.ล. ช่อื ที่ดิน ตำบล เนอ้ื ท่ี ไร่ งาน วา ๗๙ ฉช ๐๐๑๗๓ หนองกระบอกสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๒ ๖๕ ๕ ๐ ๕๖ ๘๐ ฉช ๐๐๑๗๔ หนองตาเรืองสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑ ๑ ๕๑ ๑ ๑ ๘๖ ๘๑ ฉช ๐๐๑๗๕ ปา่ ชา้ เกา่ สาธารณประโยชน์ ท่าถา่ น ๗ ๐ ๓๗ ๑๕ ๐ ๔๑ ๘๒ ฉช ๐๐๑๗๖ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๑๓ ๐ ๗๔ ๑ ๑ ๐๒ ๘๓ ฉช ๐๐๑๗๗ หนองโพรงสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๐ ๐ ๓๘ ๒ ๐ ๖๔ ๘๔ ฉช ๐๐๑๗๘ หนองผักชีสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๕ ๒ ๕๑ ๔ ๒ ๓๗ ๘๕ ฉช ๐๐๑๗๙ หนองหลวงสาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๕ ๑ ๕๔ ๔ ๐ ๖๗ ๘๖ ฉช ๐๐๑๘๐ หนองยาวน้อยสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๑ ๕๗ ๖ ๐ ๖๓ ๘๗ ฉช ๐๐๑๘๑ บอ่ นำ้ สาธารณประโยชน์ หนองแหน ๕ ๒ ๕๔ ๑ ๒ ๕๐ ๘๘ ฉช ๐๐๑๘๒ หนองกมุ่ สาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๗ ๒ ๔๘ ๘ ๑ ๓๗ ๘๙ ฉช ๐๐๑๘๓ หนองน้ำสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๙ ๑ ๒๓ ๑๑ ๑ ๕๓ ๙๐ ฉช ๐๐๑๘๔ หนองบัวสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๑ ๐๐ ๙๑ ฉช ๐๐๑๘๕ หนองตานวนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๙ ๓ ๘๕ ๙๒ ฉช ๐๐๑๘๖ หนองยายกาสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๗ ๓ ๓๗ ๙๓ ฉช ๐๐๑๘๗ หนองยายขลิบสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๓๒ ๓ ๖๑ ๒๘ ๑ ๗๖ ๙๔ ฉช ๐๐๑๘๘ หนองตาแบนสาธารณปะโยชน์ หนองยาว ๑ ๑ ๖๙ ๐ ๓ ๙๕ ๙๕ ฉช ๐๐๑๘๙ หนองตากาดสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๓ ๙๕ ๐ ๐ ๖๕ ๙๖ ฉช ๐๐๑๙๐ ปา่ ชา้ นอ้ ยสาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง ๒๓ ๓ ๒๐ ๖๔ ๑ ๗๒ ๙๗ ฉช ๐๐๑๙๑ หนองบัวสาธารณประโยชน์ แปลง ๑ บา้ นซ่อง ๔๔ ๓ ๑๖ ๑ ๓ ๑๓ ๙๘ ฉช ๐๐๑๙๒ หนองบัวสาธารณประโยชน์ แปลง ๒ บ้านซ่อง ๔๖ ๐ ๔๖ ๙๙ ฉช ๐๐๑๙๓ หนองปลาชะโดสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๐๐ ฉช ๐๐๑๙๘ หนองยายเล็กสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๐๑ ฉช ๐๐๑๙๙ หนองปลาหมอสาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๑๐๒ ฉช ๐๐๒๐๐ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว แปลง ๑ ๑๐๓ ฉช ๐๐๒๐๑ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว แปลง ๒ ๑๐๔ ฉช ๐๐๒๐๓ ลำหวั แมแ่ คร่สาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๑๐๕ ฉช ๐๐๒๐๔ หนองลำแมแ่ ครส่ าธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๑๐๖ ฉช ๐๐๒๐๕ ท่เี ลย้ี งสัตวส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๑๐๗ ฉช ๐๐๒๐๖ ที่เลย้ี งสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๑๐๘ ฉช ๐๐๒๐๗ ที่เล้ีนงสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนุน ๑๐๙ ฉช ๐๐๒๐๘ ศาลาประชาธปิ ไตย บา้ นซ่อง ๑๑๐ ฉช ๐๐๒๑๖ หนองตาเอยี น เกาะขนนุ ๑๑๑ ฉช ๐๐๒๑๗ ท่ีเลี้ยงสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๑๑๒ ฉช ๐๐๒๑๘ หนองบ่อ เกาะขนนุ ๑๑๓ ฉช ๐๐๒๑๙ ทีเ่ ลย้ี งสัตวช์ ำปา่ หวาย เกาะขนุน ๔๔ ๑๑๔ ฉช ๐๐๒๒๐ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ เกาะขนุน

ลำดับที่ เลขที่ น.ส.ล. ชื่อท่ดี นิ ตำบล เนื้อที่ ไร่ งาน วา ๑๑๕ ฉช ๐๐๒๒๑ ที่สาธารณประโยชน์ เกาะขนุน ๐ ๓ ๒๗ ๑๑๖ ฉช ๐๐๒๒๓ ตลาดสด หนองแหน ๐ ๑ ๒๖ ๑๑๗ ฉช ๐๐๒๒๔ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ เมืองเกา่ ๐ ๐ ๙๖ ๑๑๘ ฉช ๐๐๒๒๕ ที่สาธารณประโยชน์ปา่ ผาก หนองแหน ๖๒ ๓ ๔๔ ๑๑๙ ฉช ๐๐๒๒๖ ทส่ี าธารณะสระน้ำ ร.พ.ช. เกาะขนนุ ๔๖ ๐ ๒๑ ๑๒๐ ฉช ๐๐๒๒๗ ที่สาธารณประโยชนแ์ ปลง ๑ เมอื งเก่า ๔ ๐ ๒๓ ๑๒๑ ฉช ๐๐๒๒๘ ทส่ี าธารณะบา้ นชายเคือง เกาะขนนุ ๓๑ ๒ ๕๐ ๑๒๒ ฉช ๐๐๒๒๙ หนองลำคลองคตและบงึ กระจบั เมอื งเก่า ๓๕ ๐ ๑๔ ๑๒๓ ฉช ๐๐๒๓๐ ทส่ี าธารณประโยชนแ์ ปลง ๒ เมืองเกา่ ๗ ๓ ๖๒ ๑๒๔ ฉช ๐๐๒๓๑ ทส่ี าธารณประโยชนแ์ ปลง ๓ เมอื งเก่า ๓ ๓๐ ๑๒๕ ฉช ๐๐๒๓๒ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ ทา่ ถ่าน ทา่ ถ่าน ๐ ๓ ๔๗ ๑๒๖ ฉช ๐๐๒๓๓ ที่สาธารณะบา้ นห้วยสาม เกาะขนนุ ๑๓๙ ๓ ๒๑ ๑๒๗ ฉช ๐๐๒๓๔ หนองตาอ้น เมอื งเกา่ ๓ ๑ ๖๓ ๑๒๘ ฉช ๐๐๒๓๕ หนองทองสุข เขาหนิ ซ้อน ๓๘ ๐ ๐๓ ๑๒๙ ฉช ๐๐๒๓๗ สระบา้ นหนองปรือ เขาหินซอ้ น ๓ ๓ ๗๕ ๑๓๐ ฉช ๐๐๒๔๑ บึงปลาเคา้ เมืองเก่า ๓๕ ๒ ๓๔ ๑๓๑ ฉช ๐๐๒๔๙ หนองตาองค์ หนองแหน ๐ ๓ ๓๑ ๑๓๒ ฉช ๐๐๒๕๑ ที่ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ หนองแหน ๓ ๑ ๕๔ ๑๓๓ ฉช ๐๐๒๕๔ ทงุ่ โลน เขาหนิ ซอ้ น ๑๑๙ ๑ ๕๓ ๑๓๔ ฉช ๐๐๒๕๖ หนองโคกกลาง หนองแหน ๓ ๒ ๘๒ ๑๓๕ ฉช ๐๐๒๖๑ ป่าชา้ หนองนำ้ พุแปลง ๑ บา้ นซอ่ ง ๓ ๐ ๔๒ ๑๓๖ ฉช ๐๐๒๖๒ หนองพังพวย หนองแหน ๓ ๑ ๔๒ ๑๓๗ ฉช ๐๐๓๒๑ ป่าชา้ บา้ นหนองน้ำพุแปลง ๒ บา้ นซอ่ ง ๑ ๐ ๑๑ ๑๓๘ ฉช ๐๐๓๒๒ หนองบญุ นอ้ ย หนองแหน ๔ ๐ ๗๙ ๑๓๙ ฉช ๐๐๓๖๓ หนองยาว หนองแหน ๑ ๓ ๓๘.๖ ๑๔๐ ฉช ๐๐๓๖๔ หนองตะเฆ่ตาย หนองแหน ๗ ๒ ๖๗.๓ ๑๔๑ ฉช ๐๐๓๖๕ ชวดกระจับแปลง ๒ หนองแหน ๑ ๐ ๒๓ ๑๔๒ ฉช ๐๐๓๖๖ หนองเลนเล็ก หนองแหน ๕ ๓ ๖๗.๔ ๑๔๓ ฉช ๐๐๓๖๖ ชวดกระจับแปลง ๑ หนองแหน ๐ ๓ ๓๖ ๔๕

๑.๘ ข้อมูลอน่ื ๆ ทีส่ ำคัญต่อการพัฒนาอำเภอพนมสารคาม ๑.๘.๑ สถานการณ์การจดั การขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ในพ้นื ทอ่ี ำเภอพนมสารคาม ในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม มีโรงงานคัดแยกซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) จำนวน ๑๗ แห่ง โดยตั้งแต่ช่วง พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นต้นมา อำเภอพนมสารคาม อุตสาหกรรมจังหวดั ฉะเชิงเทรา กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบโรงงาน ทั้งในด้านการสำรวจ ตรวจสอบการปนเปือ้ นของโลหะหนัก และการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรยี นและเอาผดิ กับโรงงานทกี่ ระทำความผิด ในขอ้ หาตา่ ง ๆ อย่างต่อเนอื่ ง ทงั้ น้ี จากข้อมลู รายงานผลการตรวจสอบการปนเปื้อนโลหะหนักจากโรงประกอบกิจการคัดแยกซาก ผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ (E-Waste) ในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม โดยกรมควบคุมมลพิษ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ พบว่ามี ๕ โรงงานทถ่ี กู ดำเนินการตรวจสอบแลว้ ดังนี้ ๑) บริษัท ทรพั ยเ์ จรญิ รไี ซเคลิ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ ๒/๒ หมู่ที่ ๙ ถนนเขาหินซ้อน - หนองว่านเหลือง ตำบลขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเหรา ประกอบกิจการหลอมหล่อเศษโลหะจากเศษชั้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อกลับมาใช้ ใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยเข้าตรวจสอบ และพบว่าขณะตรวจสอบพบโรงงานหยุดประกอบกิจการเนื่องจาก สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเหรา มีคำสั่งปิดกิจการชั่วคราว (ไม่มีการหลอม) และมีการเปลี่ยนแปลง ติดตั้งเตาหลอมและระบบขจัดมลพิษทางอากาศทดแทนเตาหลอมและระบบขจัดมลพิษทางอากาศชุดเดิมแต่ ยังไม่มีการใช้งาน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรโดยไม่แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้ที่ทราบภายใน ๗ วัน นบั ต้งั แตว่ ันทม่ี ีการเปลีย่ นแปลง สำนักงานอุตสาหกรรมจงั หวัดฉะเชิงเทราได้พจิ ารณดำเนนิ ดตตี ามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และพบว่ามีการกองวัตถุติบจำนวนมากไว้กลางแจ้งนอกอาคาร โรงงานและนอกบริเวณโรงงานที่ได้รับอนุญาต ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราจะได้มีคำสั่งตาม มาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ไห้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานโดยใหก้ องเก็บวัตถุดิบไว้ภายใน อาคารโรงงานที่มีหลังคาคลุมและพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กและเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๐ โรงงานดังกล่าวเคยถูก รอ้ งเรียนกลน่ิ เหมน็ จากปล่องเตาหลอมและระบายน้ำเสียออกจากโรงงานลงสู่คลองสาธารณะ ลงส่คู ลองหนอง แสง ขณะตรวจสอบ พบว่าโรงงานหยดุ ประกอบกจิ การเน่ืองจากถูกส่ังปิดกิจการช่ัวคราว (ไมม่ กี ารหลอม) พบ บ่อดินยาวตลอดโรงงานด้านทิศตะวันออก บรเิ วณรมิ บอ่ พบตะกอนสแี ดง สว่ นดา้ นหลังโรงงาน ทศิ ใต้ มีบ่อดิน เก็บกักน้ำเสียอยู่ติดกับลำน้ำสาธารณะ โรงงานมิได้มีวิธีการใดที่ถือว่าเป็นการบำบัดน้ำเสีย นอกจากนี้พบว่า การจดั การสภาพแวดล้อมภายในโรงงานอยา่ งไมถ่ ูกต้องตามหลักวิชาการ ได้แก่ (๑) การกองขยะอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ภายนอกอาคารโรงงานซึ่งมีโอกาสชะล้างสารเคมี แพร่กระจายออกสู่ภายนอก (๒) ระบบการจัดการและ ป้องกันฝนุ่ และการปนเป้ือนสารเคมีจากขยะอิเล็กทรอนิกสอ์ อกสู่บรรยากาศ ดนิ และนำ้ ในชนั้ ตอนการคัดแยก รื้อ และถอดชิ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์ ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ซึ่งจากการตรวจฝุ่นตินบริวณพื้นคอนกรีต ภายในโรงงานตรวจพบโลหะหนกั บางชนดิ ซงึ่ บ่งชก้ี ารปนเปื้อนโลหะหนกั ภายในโรงงาน (๓) ระบบกำจดั มลพิษ ทางอากาศจากการหลอมโลหะขยะอิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ (๔) ภายในโรงงานมีบ้านพัก คนงานแต่ไมม่ ีระบบบัดนำ้ เสยี ชมุ ชนเบ้อื งต้น เช่น ถงั ดกั ไขมัน เปน็ ตน้ ๔๖

๒) บรษิ ทั นวิ สส์ กาย เมทลั จำกัด ตั้งอยู่เลขท่ี ๑๑๑/๒ หมู่ท่ี ๙ ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงหรา มีใบอนุญาต จำนวน ๑๖ ใบ แบ่งเป็นใบอนุญาตประเกท ๑๐๕ จำนวน ๗ ใบ และใบอนุญาตประเภท ๑๐๖ จำนวน ๙ ใบ แยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย ถอดแยกอุปกรณ์ไฟฟ้าและได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการคัด แยกวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ และบดย่อยชิ้นสว่ นอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ บดย่อยแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ เศษสายเคเบิ้ลใต้น้ำ ตะกรันทองแดง ตะกรันทองเหลือง และตะกรันซิงค์ จากการตรวจสอบพบ ชิ้นส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า สายไฟ ทองแดง และทองเหลือง มีการก่อสร้างเทพ้ืนคอนกรตี ภายในพื้นท่ีโรงงาน และ เทพ้ืนบางสว่ นของโรงงาน และบรเิ วณดา้ นหลงั โรงงานมีสระน้ำขนาดใหญ่จำนวน ๑ บ่อ ซึ่งรับนำ้ จากกิจกรรม ในกระบวนการผลิตปล่อยลงสู่สระน้ำ และพบเตาหลอมโลหะจำนวน ๑ เตา และสำนักงานอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินคดีในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และองค์การบริหารส่วน ตำบลเกาะขนุน ได้ออกคำสั่งระงับการประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ นอกจากนพี้ บวา่ มกี ารจดั การสภาพแวดล้อมภายในโรงงานอยา่ งไม่ถูกต้องตามหลักวชิ าการ ไดแ้ ก่ (๑) การกอง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ไว้ภายนอกอาคารโรงงานซึ่งมีโอกาสการชะล้างสารเคมีแพร่กระจายออกสู่ภายนอก (๒) ระบบการจัตกรและป้องกันฝุ่นและการปนเปื้อนสารเคมีจากขยะอิเล็กทรอนิกส์สู่บรรยากาศ ดินและนำใน ขั้นตอนการคัดแยก หรือ และถอดชิ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ (๓) ภายในโรงงานมี บ้านพักคนงานแตไ่ มม่ รี ะบบบำบัดน้ำเสียชมุ ชนเบอื้ งต้น เชน่ ถงั ดกั ไขมนั เปน็ ต้น ๓) บริษัท เจ.พี.เอส. เมทลั กรุ๊ป อนิ เตอร์เนช่ันแนล จำกดั ตัง้ อยเู่ ลขที่ ๙๙/๖๖ หมูท่ ี่ ๙ ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ทะเบยี นโรงงาน เลขที่ จ๓-๖๐ -๖/๕๖ ฉช ประกอบกิจการประเภท ๑๐๕ และ ๑๐๖ ขณะตรวจสอบโรงงานหยุดประกอบ กิจการชั่วคราว เนื่องจากสำนักงานอุตสาหกรรมได้เข้ามาตรวจสอบเมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๑ พบกอง ชิ้นส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สงสัยมีการกระทำความผิดตามมาตรา ๕๔ (๓) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ ๒๕๓๕ นอกจากนี้พบว่ามีการปูพื้นคอนกรีตรอบบริเวณโรงงานมีการ กองวัสดุแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ สายไฟ ทองแดงนอกอาคารปิดคลุมด้วย ผ้าใบ ภายในโรงงานพบเครื่องจกั รคัดแยกและบดย่อย และใช้น้ำในกระบวนการล้าง และยังพบบ่อน้ำมีสภาพ เป็นบ่อดินและบ่อพักน้ำมีสภาพเป็นพื้นคอนกรีตด้านหลังของโรงงานซึ่งรับนำจากกระบวนการผลิต และไม่มี ระบบบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการของโรงงานดังกล่าว และพบว่ามีการจัดการสภาพแวดล้อมภายในโรงงาน อยา่ งไมถ่ กู ต้องตามหลักวิชาการ ไดแ้ ก่ (๑) การกองขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ไวภ้ ายนอกอาคารโรงงานซึ่งมีโอกาสชะ ลา้ งสารเคมีแพร่กระจายออกสูภ่ ายนอก (๒) ระบบการจัดการและปอ้ งกนั ฝุน่ และการปนเป้ือนสารเคมีจากขยะ อิเล็กทรอนิกส์ออกสู่บรรยากาศ ดิน และน้ำในขั้นตอนการคัดแยก รื้อ และถอดชิ้นส่วนขยะ อิเล็กทรอนิกส์มี ประสิทธภิ าพไม่เพียงพอ (๓) ภายในโรงงานมีบ้านพักคนงานแต่ไม่มีระบบบดั น้ำเสียชุมชนเบื้องต้น เช่น ถังดัก ไขมนั เปน็ ตน้ ๔๗