Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนพัฒนาอำเภอ ๕ ปี ทบทวน ๖๓ (ฉบับร่าง QR Code)

แผนพัฒนาอำเภอ ๕ ปี ทบทวน ๖๓ (ฉบับร่าง QR Code)

Description: แผนพัฒนาอำเภอ ๕ ปี ทบทวน ๖๓ (ฉบับร่าง QR Code)

Search

Read the Text Version

- ร่าง สำหรับเสนอคณะกรรมการ กบอ. - แผนพัฒนาอาเภอ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) ฉบับทบทวนปี พ.ศ. ๒๕๖๓ อาเภอพนมสารคาม จังหวดั ฉะเชงิ เทรา วสิ ัยทศั น์อำเภอพนมสารคาม เกษตรปลอดภัย ชีวติ สดใส ใสใ่ จสงิ่ แวดลอ้ ม พรอ้ มเขา้ สู่ประชาคมอาเซยี น คณะกรรมการบรหิ ารงานอำเภอแบบบูรณาการ (กบอ.) ทบทวนเม่อื มถิ นุ ายน ๒๕๖๓

ประกาศอำเภอพนมสารคาม เรือ่ ง ประกาศใช้แผนพฒั นาอำเภอพนมสารคาม ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ฉบบั ทบทวนปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ****************** ตามท่ี อำเภอพนมสารคาม ได้ประกาศใชแ้ ผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) และฉบบั ทบทวนปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปแล้วนนั้ คณะกรรมการบริหารงานอำเภอแบบบูรณาการ (ก.บ.อ.) อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชงิ เทรา ได้ร่วมกันพิจารณาทบทวนแผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อให้ข้อมูลต่าง ๆ ของแผนแผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม ๕ ปี เกิดความทันสมัย สอดคล้อง กับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น อำเภอ พนมสารคาม จึงขอประกาศใช้แผนพัฒนาอำเภอพนมสารคาม ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ฉบับทบทวนปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ตง้ั แต่บดั นีเ้ ปน็ ต้นไป จึงประกาศมาใหท้ ราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ (นางปิณฑริ า เกง่ การพานิช) นายอำเภอพนมสารคาม

สารบัญ สว่ นท่ี ๑ ข้อมูลท่ัวไปของอำเภอพนมสารคาม ......................................................................................... ๔ ๑.๑ ความเปน็ มาของอำเภอ .....................................................................................................................๕ ๑.๒ คำขวญั ของอำเภอ.......................................................................................................................... ๑๒ ๑.๓ ขอ้ มลู สภาพท่วั ไปและการวิเคราะหส์ ถานการณ์ในปจั จุบัน............................................................. ๑๓ ๑.๔ วสิ ัยทัศน์และประเด็นยทุ ธศาสตร์ของแผนพัฒนาจงั หวัด................................................................ ๓๐ ๑.๕ สภาพปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นท่ีอำเภอพนมสารคาม ..................................... ๓๓ ส่วนที่ ๒ บทวเิ คราะห์หารพัฒนา...........................................................................................................๓๖ ๒.๑ การวเิ คราะห์ศกั ยภาพของพืน้ ทอ่ี ำเภอพนมสารคาม....................................................................... ๓๗ - ภาพรวมของบริบทอำเภอ Context Map..................................................................................... ๔๐ ๒.๒ การกำหนดตำแหนง่ การพัฒนาอำเภอ (Positioning)..................................................................... ๔๑ ๒.๓ การประเมินศักยภาพทางยทุ ธศาสตร์ของพน้ื ทอ่ี ำเภอ (SWOT Analysis)...................................... ๔๒ ๒.๔ การวเิ คราะห์ทิศทางการพัฒนายุทธศาสตร์การพฒั นาพนื้ ท่ีอำเภอ (TOWS Matrix)....................... ๔๓ ๒.๕ การกำหนดกา้ วยาง ๓ ระยะ (๓ Horizons)................................................................................... ๔๔ สว่ นท่ี ๓ ข้อมูลยุทธศาสตร์แผนพฒั นาอำเภอ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) ...........................................๔๕ ๓.๑ วิสัยทศั น์อำเภอพนมสารคาม ......................................................................................................... ๔๖ ๓.๒ พนั ธกจิ อำเภอพนมสารคาม............................................................................................................ ๔๖ ๓.๓ วัตถปุ ระสงค์ (เปา้ ประสงค์รวม)...................................................................................................... ๔๖ ๓.๔ ประเด็นยุทธ์ศาสตร์........................................................................................................................ ๔๖ ๓.๕ เป้าหมายเชงิ ยุทธศาสตรต์ วั ช้วี ัด คา่ เป้าหมาย................................................................................. ๔๗ สว่ นที่ ๔ โครงการภายใต้ประเด็นการพฒั นา .........................................................................................๕๑ ๔.๑ โครงการภายใตป้ ระเด็นยุทธศาสตร์ ............................................................................................... ๕๒ ภาคผนวก ..........................................................................................................................................๑๒๒ สำเนาคำสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการบรหิ ารงานอำเภอ (กบอ.) ................................................................ ๑๒๓ สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการบรหิ ารงานอำเภอ (กบอ.) ทีร่ ับรองและประกาศใชแ้ ผนพัฒนา อำเภอ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) .................................................................................................... ๑๒๖

สว่ นท่ี ๑ ข้อมลู ท่ัวไปของอำเภอพนมสารคาม องค์ประกอบ ๑.๑ ความเปน็ มาของอำเภอ ๑.๒ คำขวัญอำเภอ ๑.๓ ข้อมลู สภาพทวั่ ไปและการวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบนั ๑.๔ วสิ ัยทศั น์และประเดน็ ยุทธศาสตรข์ องแผนพฒั นาจังหวัดฉะเชิงเทรา ๑.๕ ประเด็นปัญหาและความต้องการเชิงพ้ืนที่ ๔

ความเป็นมาของอำเภอ ๕ ๑.๑ ความเปน็ มาของอำเภอ อำเภอพนมสารคาม เป็นอำเภอหนึง่ ในจงั หวัดฉะเชงิ เทรา จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ ในเขตอำเภอพนมสารคาม สนั นษิ ฐานวา่ มกี ารตง้ั ถิน่ ฐานในบรเิ วณน้ี ๒ ยุค คอื ยุคที่ ๑ สมัยทวารวดี (พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๒ – ๑๖) หลักฐานทางโบราณคดีที่พบจากแหล่งโบราณคดีบ้านต้นกระจับ หมู่ ๖ ตำบลเมืองเก่า อำเภอพนมสารคาม พบเศษเคร่ืองปั้นดินเผาแบบเดียวกับเมืองศรีมโหสถ เศษเครื่องถ้วยจนี เคลือบสีเขียวสมัย ราชวงศ์ถัง ชุมชนแห่งนี้อยู่ในสมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑ – ๑๖ แหล่งโบราณคดีบ้าน โคกหัวข้าว (วัดอุดมธัญญาหาร) หมู่ ๓ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม พบระฆังหินปูนขนาดใหญ่ ๓ ชิ้น ฐานประติมากรรมทำจากหินทรายสีเขียว ศิลปะทวารวดี โบราณสถานก่อสร้างด้วยอิฐแบบทวารวดี เศษเครื่องปั้นดินเผา เครื่องสังคโลกและเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หมิง และบริเวณบ้านคูเมือง หมู่ ๓ ตำบล เกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม พบเศษเครื่องปั้นดินเผา หินบดยา และโบราณสถานก่อด้วยศิลาแลง ศิลปะ สมัยทวารวดี ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ เป็นต้นมา ประกอบกับบริเวณนี้เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง มีคลอง ท่าลาดไหลผ่านลงสู่แม่น้ำบางปะกงที่ปากน้ำโจ้โล้ อำเภอบางคล้ำ จังหวัดฉะเชิงเทรา ดังนั้น พนมสารคาม จงึ เหมาะสมทจี่ ะเป็นเมืองท่าค้าขายกบั ดนิ แดนอ่นื ๆ ในละแวกใกล้เคียงทั้งทางบกและทางน้ำ กบั เมืองโบราณ ในสมัยเดียวกันในจังหวัดปราจีนบรุ ี เช่น เมืองศรีมโหสถ ชุมชนบริเวณโบราณสถานสระมรกต ชุมชนบ้านโคก ขวาง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ชุมชนบ้านโคกหัวข้าว ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม บ้านคูเมือง ตำบลเกาะขนุน อำเภอพนมสารคาม เมืองพระรถ อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เมืองดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ชุมชนโบราณบ้านโคกกระโดน อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก นอกจากนี้ยังติดต่อกับดินแดนที่อยู่ไกลออกไป เช่น บุรีรัมย์ นครปฐม เป็นต้น รวมทั้งดินแดนโพ้น ทะเล เช่น จนี อินเดีย เปอร์เซยี อกี ด้วย ยุคที่ ๒ สมัยกรงุ ศรีอยธุ ยา (พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๐ – ๒๓) จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบ ดังเช่น บริเวณบ้านโคกหัวข้าว (วัดอุดมธัญญาหาร) หมู่ ๓ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม พบใบเสมาทำด้วยหินทรายแดงปักอยู่เป็นคู่ขนานและลวดลายเหมือนกัน สลักเป็นลวดลายศิลปะอยุธยาตอนปลาย – รัตนโกสินทร์ เครื่องปั้นดินผาประเภทไห เช่นเดียวกับที่พบ ในชุมชนอยุธยา บริเวณริมคลองท่าลาด ด้านทิศเหนือของวัดท่าลาดเหนือและวัดท่าลาดใต้ ตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม พบเครื่องปั้นดินเผา เครื่องถ้วยเครื่องสังคโลกเคลือบสีเขียวและเขียนลายสีดำใต้เคลือบ ขาว เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. ๑๘๒๐ - ๑๙๑๑) และราชวงศ์หมิง (ค.ศ. ๑๙๑๑ - ๒๑๘๗)

อายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๒๓ และบริเวณวัดท่าลาดเหนือ พบใบเสมาหินทรายแดง มีลวดลายซึ่งเป็น ลักษณะศิลปะอยุธยาตอนต้น และเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองแบบศิลปะอยุธยาตอนปลาย จากหลักฐานดังกล่าว สันนิษฐานว่าบริเวณนี้นำจะเป็นแหล่งชุมชนมาแล้ว ตั้งแต่ช่วงอยุธยาตอนน จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์และเป็น ทางผ่านที่เป็นเส้นทางของชายฝั่งทะเลตะวันออกซึ่งหลักฐานโบราณคดีที่ พบทางภาคตะวันออกในเขต นครนายก ปราจีนบรุ ี ชลบุรี คงเปน็ เส้นทางทมี่ นุษย์ในสมยั ประวัติศาสตรต์ อนต้นที่พบวัฒนธรรมแบบทวารวดี ซึ่งนับได้จากวัฒนธรรมอินเดียทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้นการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างชัดเจน อาทิ เมืองศรีมโหสถ เมืองดงละคร เมืองพระรถ เมืองบริเวณบา้ นค่ายและเมืองเพนียด ในกลุ่มเมืองเหล่านี้มัก พบวัฒนธรรมเเขมร สอดแทรกด้วย โดยเฉพาะในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘ นั้น เพราะความเลื่อมของ วัฒนธรรมทวารวดี ภายหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๘ เเขมรเสื่อมอำนาจลง ศูนย์กลางอำนาจได้เปลี่ยนมาอยู่ท่ี อยธุ ยา กลุ่มเมืองดังกล่าวเปน็ ชุมชนเล็ก ๆ และมีการย้ายทต่ี ้ังเมืองไปตั้งตามลำน้ำเพ่ือเหตุผลในการเศรษฐกิจ และการค้า การคมนาคม การป้องกันตัวเองจากภัยสงคราม การอาศัยแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและใช้ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ชุมชนพนมสารคาม จึงมีการตั้งถิ่นฐานตามลำน้ำคลองท่าลาดมาในช่วงสมัยอยุ ธยา ถึงรัตนโกสินทร์ ภาพรวมประวตั ศิ าสตร์อำเภอพนมสารคาม บริเวณอำเภอพนมสารคาม เคยเป็นชุมชนมาตั้งแต่สมัยทวารวดีและอยุธยา โดยอาศัย หลักฐานทางโบราณคดีดังกล่าวข้างตัน แต่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ในปี พ.ศ. ๒๓๒๑ สมเด็จเจ้าพระยากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์และหัวเมืองขึน้ มาเป็นของไทยกวาดต้อน ผู้คนชาวเวียงจันทน์ลงมาอยู่แถวเมืองลพบุรี สระบุรี นครนายก และเมืองฉะเชิงเทรา ชาวลาวบางส่วน จึงตั้งบ้านเรือน กระจัดกระจายอยู่แถบบริวณคลองท่าลาด และตั้งชื่อหมู่บ้านและวัดตามชื่อบ้านเดิมในลาว เช่น วัดจอมมณี วัดโพธิ์ใหญ่ วัดนาเหล่าน้ำ วัดเมืองแมด วัดบ้านเล้อ วัดจอมศรี วัดเชัยงใต้ วัดเตาเหล็ก วัดมหาเจดีย์ วัดเมืองกาย และวัดราชฮ้วง ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทรต์ อนต้น พระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) โปรดเกล้า ให้พระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยกกองทัพไปตีลาวและเขมร ในปี พ.ศ. ๒๓๗๖ ได้กวาดต้อนชาวลาวและเเขมรเข้ามาเป็นเชลยจำนวนมาก และกำหนดพื้นที่ให้ตั้งบ้านเรือนโดย ให้ลาวเวียงและลาวพวนตั้งบ้านเรือนที่บ้านท่าทร่าน ชุมชนบริเวณนี้จึงหนาแน่นขึ้นเป็นลำดับ จนในรัชสมัย พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลท่ี ๔) โปรดเกล้าฯ ใหย้ กบ้านท่าทรา่ น ซึ่งตั้งอย่รู มิ คลองท่าลาด เป็นเมืองพนมสารคาม ในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ โดยแบ่งเขตแดน ตั้งแต่ปากน้ำโจ้โล้ เข้าไปตามลำคลองท่าลาด ฝ่ายเหนือ เป็นเมืองพนมสารคาม ส่วนตั้งแต่ปากน้ำโจ้โล้ เข้าไปตามลำคลองท่าลาดฝ่ายใต้ เป็ นแขวงเมือง ฉะเชิงเทรา ๖

สำหรับคำว่า \"พนมสารคาม\" เป็นชื่อทีใ่ ช้เรียกบริเวณนีม้ ากอ่ นการอพยพของชาวลาวในสมยั รัชกาลที่ ๓ โดยมีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีกองส่วยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๗๐ โดยส่งส่วยทอง แร่ หมากพอก ไม้รางปืน และโค ส่งเจ้าเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อนำส่งต่อยังราชธานี มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ เมืองพนมสารคาม มีศาลา กลางเมือง มีเรือนจำ และมีพระพนมสารนรินทร์เป็นเจ้าเมืองปกครอง ต่อมาในปี พศ. ๒๔๓๖ รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงโปรดเกล้าฯ ให้รวมหัวเมืองทางลำแม่น้ำ บางปะกง จำนวน ๔ เมือง คือ เมืองปราจีนบุรี เมืองฉะเชิงเทรา เมืองนครนายก และเมืองพนมสารคาม ตั้งขึ้นเป็นมณฑลปราจีน มีที่ตั้งมณทลอยู่เมืองปราจีนบุรี จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้มีการยุบเมือง พนมสารคามเปน็ อำเภอพนมสารคาม และในปี พ.ศ. ๒๘๕๗ ได้ย้ายท่ีตั้งมณฑลปราจีน มาต้ังทีเ่ มืองฉะเชงิ เทรา ในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ สมุหเทศาภิบาลมณทล ปราจนี (พ.ศ. ๒๔๔๖ - ๒๔๕๘) ได้รายงานการตรวจราชการอำเภอเมืองพนม ไว้ดงั น้ี \"อำเภอเมืองพนมสารคาม ตงั้ ที่ว่าการอำเภอท่ีบา้ นโพธใิ์ หญ่ มอี ำเภอสนามไชยเขตรเป็นสาขา มีปลัดอำเภอประจำรักษาการ หลวงประเทศธุรารักษ์เป็นนายอำเภอ อำเภอนี้ตั้งท่ีว่าการอำเภอตรงที่ปากอ่าว ท่ากระบือใกล้กับวัด ที่ว่าการอำเภอเข้าไปถูกกระหนาบอยู่ระหว่างกลาง ด้านเหนือก็เป็นบ้านราษฎร ท่าที่จะลงน้ำก็เป็นการลำบาก และไม่เหมาะกับไชยภูมิ หลวงประเทศธุรารักษ์แจ้งว่า พระวรวงศ์เธอพระองค์ เจ้าอลังการ ได้ทรงเลือกท่ีตั้งที่ว่าการอำเภอไว้เยื้องตลาดท่าเกวยี นข้ามฝั่งตะวันตกเพราะเป็นชมุ ชน ได้ขึ้นมา ไปตรวจเหน็ ไมส่ มควร เพราะในลำนำ้ เมืองพนม ใต้ตลาดท่าเกวยี นลงหนทางราว ๕๐ เสน้ เป็นดนิ ดานเป็นการ ลำบาก หลวงประเทศธุรารักษ์แจ้งว่า พระวรวงศ์เธอพระองคเ์ จ้าอลังการ ทรงดำรจิ ะขุดเป็นคลองลัดข้ามท่ีกิน ดาน ให้เรือไปมาได้ทุกฤดู ถ้าขุดได้เป็นการดีอยู่ แต่เกรงด้วยเกล้าฯ ว่าจะดอนขึ้นมาเสียอีกเพราะขุด เป็นทางอ้อมมิใช่ทางตรง จึงจะทำให้น้ำพัดแทงกัดให้ลึกอยู่เสมอไม่ได้ พอจวนค่ำไม่มีเวลาตรวจเลือกหา ทวี่ า่ การอำเภอได้ เกลา้ กระหมู่อมฯ จะได้ตรวจจัดการต่อไปภายหลัง\" นอกจากนี้ จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ยังพบว่า พนมสารคามมีศาลเจ้าพ่อ และ ศาลหลักเมือง จำนวน ๒ แห่ง แห่งแรก คือ ศาลเจ้าพ่อเมืองพนมสารคาม ตั้งอยู่บริเวณบ้านโพธิ์ใหญ่ (พ.ศ. ๒๕๔๖) อยูร่ ิมคลองทา่ ลาด ในเขตวดั โพธ์ิใหญ่ ฝังตรงขา้ มเปน็ อ่าวท่ากระบือ เขตบา้ นโฮง ตำบลเมอื งเก่า อำเภอพนมสารคาม ซ่งึ ต่อมาเมื่อมีการออกโฉนดที่ดินในสมยั รัชกาลที่ ๕ บา้ นโฮงจดั อยใู่ นเขตตำบลท่าเกวียน อำเภอพนมสารคาม ส่วนแห่งที่สอง คือ ศาลหลักเมืองพนมสารคาม อยู่ด้านหลังของอาคารเรียนเด็กเล็ก โรงเรียนวัดท่าลาดเหนือ ๗

สำหรับที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม มีการย้ายที่ตั้ง ๒ ครั้ง กล่าวคือ เดิมที่ว่าการอำเภอ พนมสารคาม ตั้งอยู่ บ้านโพธิ์ใหญ่ (เมืองเก่า) ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ฝั่งขวาของท่าลาดบริเวณโรงเรียนไพบูลย์ ประชานุกูล ที่บ้านเมืองใหมู่ ตำบลเมืองเก่า ต่อมาได้มีการย้ายที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม ไปต้ังที่บนเมือง ใหมู่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอพนมสารคาม ปัจจุบันที่ตั้งเดิมของที่ว่าการอำเภอเรียกว่า บ้านเมืองใหมู่ หรือ บ้านสะพานใหมู่ หรือ บ้านคลองต้อน หมู่ ๗ ตำบลเมืองเก่า อำเภอพนมสารคาม อยู่ริมถนนสายพนมสารคาม - บางคล้า (ถนนฤทธิ์ประศาสน์ ชาวบ้านเรียกว่าถนนหลวงฤทธิ์) ถ้าเดินทางจากพนมสารคามไปปากน้ำ บางคลา้ เมอ่ื เลยโรงเรียนไพบลู ย์ประชานุกลู จะมที างเดนิ เล็ก ๆ ข้างโรงเรียนมแี นวต้นจามจุรขี นาดใหญ่หลาย ตันอยู่ริมทางและด้านในมีสระน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งที่ว่าการอำเภอพนมสารคามสมัยนั้น อยู่ฝั่งคลองท่าลาด ด้านตะวันออก ส่วนฝัง่ คลองท่าลาดด้านตะวันตก ยงั มชี ่อื บรเิ วณน้นั ว่า สวนเมือง คลองคเู มือง และคลองต้อน ส่วนคลองท่ีคดเคี้ยว ยังมีชื่อเรียกว่า คุ้งตะราง เนื่องจากบริเวณนั้นเคยเป็นคุกของเมืองพนมสารคามมาก่อน บรเิ วณโรงเรยี นไพบูลยป์ ระชานกุ ลู และแนวถนนเดิมขา้ งโรงเรยี น ในช่วงท่ีอำเภอพนมสารคาม ตั้งอยบู่ ้านเมอื ง ใหมู่ บรเิ วณใกล้อำเภอ จงึ เปน็ ตำบลพนม สว่ นอีกฟากถนนบริเวณวัดจอมศรี วัดเตาเหล็ก เปน็ ตำบลทา่ เกวยี น ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้มีการออกโฉนดที่ดิน ส่งผลให้ เมืองพนมสารคาม ในฐานะที่เคยเป็น เมืองมาก่อน ก็ได้มีการออกโฉนดที่ดินด้วย จึงนับว่าเป็นโฉนดที่ดินสมัยแรก ๆ ของประเทศสยาม ซง่ึ นายอำเภอผู้ทล่ี งนามในสมัยนนั้ คอื พระพนมสารนรินทร์ และหลวงรามบรุ านุกิจ สมุหทศาภิบาล (ผู้บัญชา การเมือง) คือ พระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ และเจ้าพนักงานเกษตราธิการ (เดิมเขียน กระเษตราธิการ) คือ พระโภชนาการ และยังใช้รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) จากหลักฐานในโฉนดที่ดินที่พบเป็นปี ร.ศ. ๑๒๖ (พ.ศศ ๒๔๕๑) เรียกว่าอำเภอพนมสารคาม (ไม่มีคำว่าเมือง) ในสมัยนั้นยังไม่มีการใช้นามสกุล ผู้ชายใช้คำนำหน้าว่า นาย ผู้หญิงใช้คำนำหน้าว่า อำแดง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ สมัยนายชวน สุริยจันทร์ เป็นนายอำเภอ ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอพนมสารคาม มาอยู่ที่บ้านทำเกวียน หมู่ ๑ ตำบลพนมสารคาม ฝั่งซ้าย ของคลองทา่ ลาด ใกลต้ ลาดทา่ เกวียน และอย่ทู ่นี ่ีจนถึงปัจจบุ ัน ดงั นัน้ ในปจั จบุ ันนีบ้ า้ นท่าเกวียน จึงเป็นตำบล พนมสารคาม (เดิมอยู่ตำบลท่าเกวียน) บ้านโพธิ์ใหญ่ที่เคยเป็นที่ตั้งอำเภอครั้งแรกจึงเป็นตำบลเมืองเก่า และ บริเวณโรงเรยี นไพบลู ย์ประชานกุ ูลจงึ เปน็ ตำบลเมืองใหมู่ ประวตั ิการแยกตำบลต่าง ๆ ของอำเภอพนมสารคาม ไปรวมตัง้ อำเภอใหมู่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการเรียกชื่อ ข้าหลวงประจำจังหวัดเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอพนมสารคาม เป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งสมัยนั้นมีอยู่ ๖ อำเภอ คือ อำเภอฉะเชิงทรา อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอบางคล้า อำเภอบางปะกง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว และอำเภอพนมสารคาม (เดิมอำเภอพนมสารคาม มีเขตการปกครองครอบคลุมพื้นที่ท้ังหมดของอำเภอ สนามชัยเขต อำเภอราชสาส์น อำเภอแปลงยาว และอำเภอท่าตะเกียบ) ๘

ในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้แยกตำบลคู่ยายหมี ตำบลท่ากระดาน และตำบลท่าตะเกียบ ออกจาก ๙ อำเภอพนมสารคาม จึงตั้งเป็นกิ่งอำเภอสนามไชย โดยในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เปลี่ยนชื่อจากกิ่งอำเภอสนามไชย เป็นกิ่งอำเภอสนามชัยเขต และในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้ยกฐานะเป็นอำเภอสนามชยั เขต ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้แยกตำบลท่าตะเกียบ และตำบลคลองตะเกรา ออกจากอำเภอสนามชัยเขต ตั้งเป็นกิ่งอำเภอท่าตะเกียบ และในปี ๒๕๓๙ ไดย้ กฐานะเป็นอำเภอทา่ ตะเกียบ ในปี พศ. ๒๕๒๐ ได้แยกตำบลดงน้อย ตำบลบางคา และตำบลเมืองใหมู่ออกจากอำเภอ พนมสารคาม เป็นก่งิ อำเภอราชสาส์น และในปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ยกฐานะขนึ้ เปน็ อำเภอราชสาสน์ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้แยกตำบลแปลงยาว ตำบลวังน้ำเย็น และตำบลหัวสำโรง ออกจาก อำเภอบางคลา้ ข้ึนเปน็ ก่งิ อำเภอแปลงยาว และในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้ยกฐานะข้นึ เป็นอำเภอแปลงยาว ตำนานเอกลกั ษณ์การตงั้ นามสกุลของชาวพนมสารคาม กอ่ นรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ กล้ำเจา้ อยู่หัว (รัชกาลท่ี ๖) ชาวไทยยังไม่มีนามสกุลใช้ จะมีเพียงแต่ชื่อตัวทีบ่ ิดามารดาหรือผู้อาวุโสตั้งให้ หรือใช้เรียก ทำให้คนชั้นลูกหลานยากท่ีจะจดจำบรรพบุรุษ หรอื รู้จักญาตเิ ชื้อสายเดยี วกันได้ เมอื่ พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอย่หู ัว เสดจ็ ขนึ้ ครองราชยใ์ หมู่ๆ ทรงตระหนักว่าการที่ บ้านเมืองมิได้กำหนดใหร้ าษฎรมนี ามสกลุ ใช้ เมอ่ื มพี ลเมอื งมากขึ้นย่อมก่อใหเ้ กดิ ความยุ่งยากนานัปการในด้าน การปกครอง การบริหารราชการและการดำรงชีวิตส่วนตัวของราษฎร ในปี พ.ศ. ๒๔๕๕ ทรงรเิ ริม่ ให้มีประเพณี ขนานนามสกุลอันเป็นประโยชน์สำคัญต่อการบริหารบ้านเมือง กล่าวคือทำให้เกิดการบัญญัติวิธีจดทะเบียน คนเกิด คนตายและการสมรสซึ่งใช้เป็นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับบุคคลสืบเนื่องจากพระราชดำริทำให้มี พระราชบัญญัติขนานนามสกุลพุทธศักราช ๒๔๕๖ ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๕ และทรงมี พระมหากรุณาธิคุณแก่บรรดา ราชตระกูล เชื้อพระวงศ์ ข้าราชการตลอดจนสามัญชนทั่วไปจำนวนมากที่ได้ กราบบังคมทูลขอรับพระราชทานนามสกุลเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนและผู้สืบสกุล และด้วยพระปรีชาสามารถ ในเชิงอักษรศาสตร์ได้ทรงคิดร้อยกรองศัพท์ต่าง ๆ เป็นชื่อสกุล มีความหมาย เหมาะสมกับประวัติบรรพบุรุษ ต้นตระกูลที่ผู้ขอพระราชทานจะสืบสาวขึ้นไปได้และจะทรงเขียนอักษรโรมันที่ทรงเคยเ ท่ียบเสียงไว้กับ พยัญชนะและสระของไทยกำกบั ไว้ดว้ ย เพ่อื วา่ ผใู้ ชน้ ามสกุลเดียวกนั เขียนนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษจะได้เขียน ตรงกัน ดังเช่น พระยาราชพินิจจัย (ชุบ) มีบิดา ชื่อพระสุพรรณสมบัติ (ยา) ได้รับพระราชทานนามสกุลว่า \"โอสถานนท์) พระสุพรรณสมบัติ (ยา โอสถานนท์) นี้เป็นผู้สร้างพระอุโบสถวัดสุวรรณรังสรรค์ (นาเหล่าน้ำ) และวัดนาเหล่าบก ตำบลหนองยาว อำเภอพนมสาคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงยังคงมีลูกหลานผู้สืบเชื้อสาย สกลุ “โอสถานนท”์ อยู่ในอำเภอพนมสารคาม นอกจากนามสกุลพระราชทานดังกล่าวข้างตน้ แล้ว ราษฎรทั่วไปในอำเภอพนมสารคาม ยังมี เอกลกั ษณใ์ นการการตงั้ นามสกลุ โดยใชอ้ กั ษรตัวหลงั ของชื่อตำบลท่ีอยู่ เชน่ ตำบลหนองแหน (น) ใช้นามสกุล นพเกตุ นพกาด นพศิริ นพฤทธิ์ นพโกฏิ นพเกล้า นพกัณ นพโสภณ และยงั มีนามสกุล นนทเกษม นันทวสิ ิทธิ์ นนทเวช

ตำบลเกาะขนุน (ข) ใช้นามสกลุ เข็มเฉลมิ เข็มจรูญ เขม็ เจรญิ เข็มราช เข็มนมิ ติ เข็มประดบั ๑๐ ตำบลหนองยาว (ย) ใชน้ ามสกุล ยะหตั ตะ ยะอนันต์ ยะคะเรศ ยะระสทิ ธิ์ ยะโสภา ยะคะเสม ตำบลทา่ ถ่าน (ท) ใชน้ ามสกลุ ไทยสมบรู ณ์ ไทยสรุ ยิ ะ ไทยมานพ ตำบลเมืองเก่า - ใหมู่ (ใหมู่) ใช้นามสกุล ใหมู่อนิ ทร์ ไหมโสภา ใหมู่ทุมมา ใหมู่จันดี ไหมปียะ ใหมู่ผงึ้ ใหมู่เกตุ ใหมู่ดำ ใหมู่หะรา ใหมู่สุวรรณ ใหมู่บญุ มี เป็นต้น ประวตั ิเจ้าเมอื งพนมสารคาม เมืองพนมสารคาม มีที่มาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) โปรดเกล้าฯ ยกบ้านท่าซ่าน (ท่าทร่าน) ขึ้นเป็นเมืองพนมสารคาม และพระราชทานบรรดาศักดิ์ เจ้าเมือง พนมสารคามว่า “พระพนมสารนรินทร์” เมืองพนมสารคาม เป็นเมืองจัตวาขึ้นกับเมืองฉะชิงเทรา นับตั้งแต่ รัชกาลที่ ๔ ตั้งเมืองพนมสารคามในปี พ.ศ. ๒๓๙๕ จนกระทั้งยุบเป็นอำเภอพนมสารคาม ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ รวมระยะเวลาที่เป็นเมืองพนมสารคามอยู่ ๔๙ ปี มีเจ้าเมืองปกครองในตำแหน่ง พระพนมสารนรินทร์ อยู่หลายคน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนและสืบคันประวัติได้ มี ๒ ท่าน คือ พระยาวิเศษฤๅชยั (ชา้ ง) และพระพนมสารนรินทร์ (กลึง ภาษติ ) พระพนมสารนรินทร์ ทา่ นที่ ๑ : พระยาวิเศษฤๅชยั (ช้าง) พระยาวิเศษฤๅชัย เดิมชื่อ \"ช้าง\" เป็นคนบ้านทา่ ลาด มีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกนั ชื่อ \"เสือ\" สืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองกรมการเมือง มาตั้งแต่สมัยเมืองฉะเชิงทรายังตั้งอยู่ปากน้ำโจ้โล้ ก่อนยกมาตั้ง แปดร้วิ แลว้ ยา้ ยไปตั้งโสธร ตระกลู นรี้ ับราชการมาโดยตลอดต้ังแตค่ รั้งกรุงศรีอยธุ ยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) “นายช้าง” ได้รับพระราชทาน บรรดาศักดิ์เป็น หลวงจ่าเมือง “นายเสือ” ผู้น้อง ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงมงคลมหาดไทย ต่อมาสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) “นายช้าง” ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระกำพุชภักดี ตำแหน่งปลัดเมืองฉะเชิงเทรา (ซึ่งเป็นตำแหน่งใหมู่ตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เพื่อดูแลราษฎร ชาวเเขมร คู่กับหลวงวิสุทธิจีนชาติ ที่คอยดูแลชาวจีนที่มีอยู่มากในเมืองฉะเชิงเทรา) ส่วน “นายเสือ” ได้รบั บรรดาศกั ดเ์ิ ปน็ หลวงบุรพี ิทกั ษย์ กบตั ร สองท่านรับราชการมาด้วยดีและมีความดีความชอบอย่างยิ่ง “นายช้าง” จึงได้เล่ือน ตำแหน่งเปน็ พระพนมสารนรนิ ทร์ เจา้ เมืองพนมสารคาม “นายเสือ” ไดเ้ ลอื่ นเป็นพระกำพชุ ภักดี ปลัดเมือง ฉะเชิงเทราแทน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) จึงโปรดเกล้าฯ ให้ พระพนมสารนรินทร์ (ช้าง) เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระวิเศษฤๅชัย” เจ้าเมืองฉะเชิงเทรา และได้เลื่อน บรรดาศักดเ์ิ ปน็ พระยาวิเศษฤชัย ส่วนนายเสอื ดำรงตำแหน่ง พระเกรียงไกรกระบวนยุทธ (ตำแหน่งปลัดเมือง ฉะเชิงเทรา ตั้งขึ้นใหมู่ สมัยรัชกาลที่ ๔ ได้เปลี่ยนมาจากชื่อเดิม คือ พระยาวิเชัยรไชยชาญยุทธ) เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๖ นายช้างเป็นคนบ้านท่าลาด ภรรยาชื่อมี (ไม่มีบุตรด้วยกัน) สันนิษฐานจากบันทึกและช่วงเวลาดำรง ตำแหน่ง นายช้างน่าจะเป็นเจ้าเมืองพนมสารคาม ในตำแหน่งพระพนมสารนรินทร์คนแรก และเป็นผู้สร้าง

ศาลหลักเมืองพนมสารคามในสถานที่ใกล้บ้านถ่าน ปัจจุบันศาลหลักเมืองอยู่ใกล้วัดท่าลาดเหนือที่บ้านของ ๑๑ นายดำรงค์ พงษ์นิทรัพย์ อดีตกำนันตำบลท่าถ่าน ใกล้ศาลหลักเมือง มีภาพของพระยาวิเศษฤๅชัย (ช้าง) ดาบ เส้อื เกราะ และของใช้บางอยา่ งของท่าน ท่านผู้นี้ยังเป็นผู้สรา้ งพระอโุ บสถวดั โสธร (หลงั เดิม) ส่วนนายเสือ สร้างพระเจดยี ์บรรจุพระบรมธาตุท่วี ัดสัมปทวน อำเภอเมอื ง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา พระพนมสารนรินทร์ ท่านท่ี ๒ : นายกลงึ ภาษติ นายนรินทร์ กลึง หรือ กลึง ภาษิต เกิดที่บ้านสวนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในครอบครัวชาวสวน คลองบางขวาง ตำบลบ้านไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันพุธปีจอ พศ. ๒๔๑๗ เคยเป็นนายอำเภอ ทจ่ี งั หวดั ชลบุรี (ในบรรดาศักด์ิ หลวงศภุ มาตรา) เปน็ นายอำเภอพนมสารคาม (ในบรรดาศักด์ิ หลวงรามบุรานุกิจ) ในปี พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๐ ในช่วงที่อำเภอพนมสารคามตั้งอยู่ทีด่ ้านขา้ งโรงเรียนไพบูลย์ประชานุกลู และมีการ ออกโฉดทด่ี ินท่ีทำโดยพระบรมราชานุญาตในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ พระเจ้าแผน่ ดินสยาม ร.ศ.๑๒๖ (พ.ศ. ๒๔๕) นามนายอำเภอณะนน้ั คอื หลวงรามบุรานกุ จิ จากบัญชรี ายชอื่ หลวงรามบรุ านุกิจ เปน็ นายอำเภอ พนมสารคาม ใน พ.ศ. ๒๔๔๘-๒๔๕๐ ต่อมาปี พศ. ๒๔๕๐ ได้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการเมืองนครนายก ในบรรดาศักดิ์ “พระพนมสารนรินทร์” จากบัญชีรายชื่อ พระพนมสารนรินทร์ เป็นผู้ว่าราชการเมือง นครนายก ปี พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๔๕๑ และพระพนมสารนรินทร์ (กลึง ภาษิต) ได้ลาออกจากราชการในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ ในขณะเป็นผู้ว่าราชการเมืองนครนายก ที่มีอายุเพียง ๓๕ ปี นายกลึง ภาษิต จึงเป็นพระพนม สารนรินทร์คนสุดท้าย และเมื่อยุบมืองพนมสารคามไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ถึงปัจจุบัน บ้านของกลึง ภาษติ จงึ กลายเป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วของจังหวัดนนทบรุ ใี นเวลาต่อมา ความหมายของชื่อ “พนมสารคาม” พนมสารคาม เป็นคำผูกขึ้นใหมู่สมัยรัชกาลที่ ๔ จากชื่อเดิม ดงยาง (มีมาแต่ครั้งกรุงศรี อยุธยา) แรกผูกเป็นชื่อเจ้าเมืองดงยางว่า พนมสารนรินทร์ ต่อมาเรียกเมืองดงยางตามเจ้าเมืองว่า พนมสารคาม ตั้งเมืองอยู่บ้านท่าเกวียน ริมลำน้ำท่าลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา พระพนมสารนรินทร์ และ พนม สารคาม เปน็ คําบาลี ๓ คํา คือ พนม, สาร, นรนิ ทร์, คาม พนม หมายถึง ป่า, ดง, ปา่ ไม,้ ดงไม้ ฯลฯ มีรากคำจากบาลีวา่ วน (อา่ นว่า วะ-นะ) สาร หมายถงึ สำคัญ, ประเสริฐย่งิ , แขง็ แรง, แกน่ ของไมช้ น้ั ในสด และส่วนแข็งท่สี ด คาม หมายถึง หมู่บา้ น, ชมชน นรินทร หมายถึง คนผู้มีอำนาจ ได้จากคําบาลีว่า นร (อ่านว่า นะ-ระ) กับ อินทร (อ่านว่า อนิ -ทะ-ระ) มีข้อสงเกตจากชื่อ พนมสารคาม ว่าแต่เดิมน่าจะให้สะกดว่า พนมสาลคาม เพราะคำบาลี สาล (อ่านว่า สา-ละ) หมายถึง ต้นรัง หรือต้นยางก็ได้ (แต่นี้ยมเรียกทับศัพท์ว่าต้นสาละ) สอดคล้องกับภูมิ ประเทศบริเวณ ลำน้ำท่าลาดเต็มไปด้วยต้นยาง มีชื่อ เขาดงยาง เป็นพยาน แล้วได้น้ำมันยางจากต้นยางเป็น สินคา้ ขณะเดยี วกันก็เอาต้นยางมาเผาสุมเปน็ ถ่านได้อีก ตรงตามที่ตง้ั เมืองครงั้ แรกว่าท่าถา่ น

๑.๒ คำขวญั ของอำเภอ “คลองท่าลาดทวิ ทัศน์นา่ ยล ถนนพระรถเสน อาชพี เด่นเกษตรกรรม วฒั นธรรมไทยพวน สวนพฤกษศาสตรล์ ้ำค่า ศนู ย์ศกึ ษาการพัฒนาเขาหินซ้อน” ๑๒

๑.๓ ขอ้ มูลสภาพทัว่ ไปและการวิเคราะห์สถานการณ์ในปจั จุบัน ๑. สภาพท่วั ไป ๑.๑ ลักษณะท่ีตั้ง อำเภอพนมสารคาม ตัง้ อยทู่ างทิศตะวันออกเฉยี งเหนือของจังหวัดฉะเชิงเทรา ตามทางหลวง หมายเลข ๓๐๔ (ฉะเชิงเทรา-กบนิ ทร์บุรี) ต้งั อยใู่ นพื้นทห่ี มู่ที่ ๑ ตำบลพนมสารคาม ระยะทางห่างจาก จังหวัด ฉะเชิงเทรา ประมาณ ๓๔ กิโลเมตร และห่างจากกรงุ เทพมหานคร ประมาณ ๑๐๐ กโิ ลเมตร ๑.๒ พื้นทีอ่ าณาเขต อำเภอพนมสารคามมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น ๕๗๒ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๓๕๗,๕๐๐ ไร่ และมอี าณาเขตติดตอ่ ดังน้ี - ทิศเหนอื ตดิ ตอ่ กับ อำเภอบ้านสรา้ ง และ อำเภอศรมี โหสถ จังหวดั ปราจนี บรุ ี - ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ กับ อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชงิ เทรา - ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอสนามชยั เขต จังหวัดฉะเชิงเทรา และ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวดั ปราจีนบรุ ี - ทิศตะวนตก ติดตอ่ กับ อำเภอราชสาส์น จังหวัดฉะเชงิ เทรา ๑.๓ ลักษณะภูมปิ ระเทศ สภาพพ้ืนทล่ี กั ษณะสภาพพน้ื ท่ีอำเภอพนมสารคามสว่ นใหญ่จะเป็นท่ีราบล่มุ สลับกับที่ราบสูง มีภเู ขาที่สำคญั คอื เขาดงยาง อยใู่ นตำบลหนองแหน และมคี ลองเพียงสายเดียวทไ่ี หลผ่าน คอื คลองทา่ ลาด ๑.๔ ภมู อิ ากาศ ลกั ษณะภมู ิอากาศเป็นแบบมรสมมี ๓ ฤดู คอื - ฤดูรอ้ น เรมิ่ ตง้ั แตเ่ ดอื น มนี าคม ถงึ เดือน มิถุนายน - ฤดูฝน เรม่ิ ตง้ั แต่เดอื น กรกฎาคม ถึงเดือน ตลุ าคม - ฤดูหนาว เร่มิ ตง้ั แตเ่ ดือน พฤศจกิ ายน ถึงเดือน กมุ ภาพนั ธ์ ๑.๕ การปกครอง แบ่งเขตการปกครองตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องท่ี พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๕๗ ออกเปน็ ๘ ตำบล ๘๗ หมู่บา้ น และราชการบริหารส่วนทอ้ งถ่ิน ดงั นี้ (๑) ตำบลเกาะขนุน มี ๑๕ หมู่บา้ น นายบญุ ฤทธิ์ สุขเกษม เปน็ กํานัน (๒) ตำบลบ้านซ่อง มี ๑๔ หมู่บา้ น นายสมบัติ จันธรรมาพทิ กั ษ์ เป็นกํานัน (๓) ตำบลพนมสารคาม มี ๓ หมู่บา้ น นางยุวดี ชัยวรวทิ ย์กลุ เปน็ กํานนั (๔) ตำบลเมืองเก่า มี ๗ หมู่บ้าน นายมานพ ราเชาวด์ ี เป็นกาํ นนั (๕) ตำบลหนองยาว มี ๑๒ หมู่บา้ น นายคเชนทร์ บุญประเสรฐิ เปน็ กํานน (๖) ตำบลท่าถา่ น มี ๗ หมู่บา้ น นางสมบัติ ตันซอ้ เป็นกํานัน (๗) ตำบลหนองแหน มี ๑๕ หมู่บ้าน นายกรฑี า นพเกตุ เปน็ กํานนั (๘) ตำบลเขาหนิ ซ้อน มี ๑๔ หมู่บ้าน นายประวิทย์ เขยี วจันทร์ เป็นกํานนั ๑๓

เทศบาลตำบล ๕ แหง่ ไดแ้ ก่ (๑) เทศบาลตำบลพนมสารคาม - นายนิกร จนั ธรรมาพิทักษ์ เปน็ นายกเทศมนตรี (๒) เทศบาลตำบลเกาะขนนุ - นายวชิรศักด์ิ ศกั ดถิ าวรเลศิ เปน็ นายกเทศมนตรี (๓) เทศบาลตำบลเขาหินซอ้ น - นางละออง วิริยะสมบตั ิ รองปลดั เทศบาล รักษาราชการแทน ปลดั เทศบาล ปฏบิ ัตหิ น้าท่ี นายกเทศมนตรี (๔) เทศบาลตำบลบา้ นซ่อง - นายสมชาย จันธรรมาพิทกั ษ์ เปน็ นายกเทศมนตรี (๕) เทศบาลตำบลท่าถ่าน - นายดำรงค์ พงษ์นทิ รพั ย์ เป็นนายกเทศมนตรี องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล ๖ แห่ง ได้แก่ (๑) องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลพนมสารคาม - นายทนงศกั ด์ิ จามิกรณ์ เปน็ นายกฯ (๒) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลเกาะขนุน - นายสมชาย กมลวงษ์ เป็นนายกฯ ๑๔

(๓) องคก์ ารบริหารส่วนตำบลหนองยาว - นายสุนันท์ บญุ ประเสริฐ เป็นนายกฯ (๔) องค์การบรหิ ารส่วนตำบลเมอื งเกา่ - นางสาวพิมพช์ นก วงษ์ศรีแกว้ รองปลดั องคก์ ารบริหารส่วนตำบล รกั ษาราชการแทน ปลดั องคก์ ารบริหาร ส่วนตำบล ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี นายกฯ (๕) องค์การบริหารสว่ นตำบลเขาหนิ ซอ้ น - นายสมพงษ์ เรืองสมั ฤทธ์ิ ปลัดองค์การบริหารสว่ นตำบล ปฏบิ ัติหน้าท่ี นายกฯ (๖) องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลหนองแหน - นายฉลอง กองอังกาบ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปฏิบตั ิหน้าท่ี นายกฯ ๑.๖ ประชากร สถิติจำนวนประชากรจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ณ วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๓ มีประชากรทั้งสิ้น ๘๑,๙๘๑ คน แยกเป็นชาย ๓๙,๘๒๖ คน หญิง ๕๒,๑๕๕ คน จำนวนบ้าน ท้ังสิ้น ๓๕,๒๓๙ หลังคาเรอื น ความหนาแนน่ เฉลี่ยต่อพ้ืนทป่ี ระมาณ ๑๔๓ คน/ตารางกิโลเมตร แยกออกเป็น ลำดบั ตำบล ชาย (คน) หญิง (คน) รวม (คน) จำนวนบา้ น หมายเหตุ ๑. เกาะขนนุ ๖,๘๗๖ ๗,๑๘๐ ๑๔,๐๕๖ ๕,๒๕๓ ๒. บ้านซอ่ ง ๔,๙๔๗ ๕,๒๓๕ ๑๐,๑๘๒ ๓,๗๗๔ ๓. พนมสารคาม ๑,๖๖๒ ๑,๙๐๒ ๓,๕๖๔ ๒,๒๘๗ ๔. เมืองเก่า ๑,๔๒๑ ๑,๕๐๔ ๒,๙๒๕ ๑,๓๗๕ ๕. หนองยาว ๔,๔๑๘ ๔,๘๐๓ ๙,๒๒๑ ๓,๓๒๑ ๖. ทา่ ถา่ น ๓,๙๓๑ ๔,๒๕๐ ๘,๑๘๑ ๓,๙๓๙ ๗. หนองแหน ๕,๐๒๗ ๕,๒๑๔ ๑๐,๒๔๑ ๔,๒๓๗ ๘. เขาหนิ ซอ้ น ๖,๒๒๘ ๖,๓๕๕ ๑๒,๕๘๓ ๕,๒๖๑ รวมประชากรทั้งสิน ๓๔,๕๑๐ ๓๖,๔๔๓ ๗๐,๙๕๓ ๒๙,๔๔๒ ๑๕

๑.๗ พนื้ ที่และการใชป้ ระโยชน์ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ของอำเภอพนมสารคามจะใช้ประโยชน์ในการ ประกอบอาชีพทางด้าน เกษตรกรรมสำหรับที่ลุ่ม ได้แก่ การทำนาสลับกับการเพาะปลูกพืชไร่ โดยเฉพาะการ ปลูกพืชผักสวนครัว สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกรอยูใ่ นระดบั ที่น่าพอใจ ได้แก่ ในพื้นที่ตำบลพนมสารคาม ตำบล หนองยาว ตำบลเมืองเก่า ตำบลทา่ ถ่าน สำหรับท่ีราบสงู ส่วนใหญ่เกษตรกรจะเพาะปลูกมนั สำปะหลัง ยู คาลิปตัส ในพ้ืนท่ตี ำบลเกาะขนุน ตำบลบา้ นซ่องและตำบลเขาหนิ ซ้อน การถือครอบที่ดิน การออกเอกสารสิทธิ์ให้ราษฎร ข้อมล ณ วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๒ มรี ายละเอยี ด ดังนี้ ๑. โฉนดท่ดี นิ จำนวน ๕๓,๒๙๔ แปลง ๒. แปลงหนังสือรบั รองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ก.) จำนวน ๑,๙๗๕ แปลง ๓. หนงั สือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓) จำนวน ๘๐๒ แปลง ๔. หนงั สือสำคญั สำหรับทห่ี ลวง (น.ส.ล.) จำนวน ๑๔๓ แปลง ๕. ตราจอง จำนวน ๑๐๕ แปลง ๖. ใบจอง จำนวน ๖๗ แปลง ๗. ส.ค.๑ จำนวน ๒๓๐ แปลง รวม ๕๖,๖๔๖ แปลง หนงั สือสำคัญสำหรบั ท่ีหลวง อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ลำดับที่ เลขที่ น.ส.ล. ชือ่ ที่ดนิ ตำบล เนือ้ ที่ วา ๑๖ ไร่ งาน ๔๓.๓ ๑ ๓๒๗๖/๒๕๑๓ หนองคอกควายสาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง ๑๗ ๓ ๓๐ ๒ ๓๒๗๗/๒๕๑๓ ทีส่ าธารณะเกาะขนนุ ๒ เกาะขนนุ ๗๐ ๑๓ ๓ ๓๒๗๘/๒๕๑๓ ทสี่ าธารณะเกาะขนุน ๑ เกาะขนุน ๓๐ ๕๖ ๔ ๓๒๘๑/๒๕๑๓ หนองพรวน ท่าถา่ น ๓๖ ๓ ๐๕ ๕ ๓๕๙๒/๒๕๑๔ หนองกรดสาธารณประโยชน์ เกาะขนุน ๘๔ ๐ ๕๔.๖ ๖ ๓๕๙๓/๒๕๑๔ หนองสองตอนสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๑๕ ๒ ๒๐.๓ ๗ ๗๗๐๒ หนองบัว หนองแหน ๑๒ - ๐๐.๓ ๘ ๘๖๐๘ กระทรวงมหาดไทย (หนองเชยั งแงะ) เมืองเก่า ๑๒ ๒ ๓๑ ๙ ๑๐๑๒๒ กระทรวงมหาดไทย (ป่าผาก) หนองแหน ๓๕๗ ๑ ๐๒ ๑๐ ๑๑๐๓๐ กระทรวงมหาดไทย (หนองแหลมไผศ่ ร)ี หนองยาว ๑๙ ๓ ๐๒ ๑๑ ๑๑๐๓๑ กระทรวงมหาดไทย (หนองอ้อหวั ควาย) หนองยาว ๑๙ ๓ ๓๙ ๑๒ ๑๑๐๓๒ กระทรวงมหาดไทย (หนองจิก) ทา่ ถา่ น ๑๙ ๓ ๑๑ ๑๓ ๑๑๐๓๓ กระทรวงมหาดไทย (หนองคอลอย) หนองแหน ๒๔ ๒ ๒๒.๙ ๑๔ ๑๑๐๓๔ กระทรวงมหาดไทย (หนองยาง) หนองแหน ๒๒ ๐ ๑๘ ๑๕ ๑๗๘๗๐ บึงกระจบั เมืองเก่า,หนองแหน ๙๗ ๒ ๒๐ ๑๖ ๑๗๘๗๑ บึงกระจบั เมอื งเก่า,หนองแหน ๑๒๙ ๐

ลำดบั ท่ี เลขท่ี น.ส.ล. ชื่อทดี่ ิน ตำบล เน้ือที่ ไร่ งาน วา ๑๗ ๑๗๙๔๖ หนองใหญห่ รือหนองตน้ ตาล หนองยาว ๒๔ ๓ ๔๔ ๓ ๓ ๖๕ ๑๘ ๑๗๙๔๗ หนองทรายสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๕ ๒ ๓๐ ๒๔ ๐ ๗๗ ๑๙ ๑๗๙๔๘ หนองบวั ทา่ ลาดสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๘ ๐ ๔๙.๔ ๒ ๐ ๒๙ ๒๐ ๑๗๙๔๙ หนองกระทมุ่ ท่าถา่ น ๐ ๐ ๖๑ ๐ ๑ ๑๒ ๒๑ ๓๑๗๕๑ หนองรี ท่าถ่าน ๑ ๑ ๑๖ ๖ ๐ ๒๔ ๒๒ ๓๑๗๕๓ หนองตาผินสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๘ ๐ ๐๐ ๑ ๒ ๕๗ ๒๓ ฉช ๐๐๑๓๕ ที่สาธารณประโยชน์ หนองแหน ๐ ๓ ๔๒ ๓ ๓ ๔๙ ๒๔ ฉช ๐๐๑๓๖ ท่ีสาธารณประโยชน์ หนองแหน ๑๐ ๓ ๓๓ ๐ ๓ ๑๗ ๒๕ ฉช ๐๐๑๓๗ หนองหัวลงิ หนองแหน ๖ ๐ ๗๒ ๐ ๒ ๓๖ ๒๖ ฉช ๐๐๑๓๘ หนองตากลบั สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑ ๓ ๔๑ ๒ ๒ ๔๘ ๒๗ ฉช ๐๐๑๓๙ หนองชัญตาหลบั เขาหินซอ้ น ๖ ๐ ๘๓ ๑ ๒ ๐๕ ๒๘ ฉช ๐๐๑๔๐ ปา่ ช้าวดั เกา่ สาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๐ ๐ ๗๐ ๒ ๐ ๗๗ ๒๙ ฉช ๐๐๑๔๑ ศาลปูต่ าสาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๑ ๓ ๓๖ ๐ ๓ ๐๖ ๓๐ ฉช ๐๐๑๔๒ ทีท่ ำเลเลย้ี งสตั วส์ าธารณประโยชน์ หนองยาว ๑ ๐ ๘๕ ๔ ๐ ๙๔ ๓๑ ฉช ๐๐๑๔๓ หนองออ้ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๓ ๓๗ ๖ ๐ ๒๐ ๓๒ ฉช ๐๐๑๔๔ หนองวงั ทรายสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๒ ๕๐ ๓ ๒ ๖๕ ๓๓ ฉช ๐๐๑๔๕ หนองคนั ชง่ั สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๕ ๐ ๕๖ ๑ ๑ ๕๑ ๓๔ ฉช ๐๐๑๔๖ สระน้ำสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓๕ ฉช ๐๐๑๔๗ ที่สาธารณประโยชนป์ ระจำหมู่บา้ นท่ี ๓ ท่าถ่าน ๓๖ ฉช ๐๐๑๖๐ หนองขา่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓๗ ฉช ๐๐๑๖๑ หนองลำเกวยี นสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓๘ ฉช ๐๐๑๖๒ หนองบัวสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓๙ ฉช ๐๐๑๖๓ ศาลาประชาธิปไตยสาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง ๔๐ ฉช ๐๐๑๖๕ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ เมอื งเกา่ ๔๑ ฉช ๐๐๑๖๖ หนองจกิ เมอื งเก่า ๔๒ ฉช ๐๐๑๖๗ ปา่ ช้าสาธารณประโยชน์ เมืองเกา่ ๔๓ ฉช ๐๐๑๖๒ หนองสาธารณประโยชน์ เมอื งเก่า ๔๔ ฉช ๐๐๑๖๙ หนองกมุ่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔๕ ฉช ๐๐๑๗๐ หนองน้ำสาธารณประโยชน์ เมืองเก่า ๔๖ ฉช ๐๐๑๗๑ หนองเทวดาสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔๗ ฉช ๐๐๑๗๒ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔๘ ฉช ๐๐๑๗๓ หนองกระบอกสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔๙ ฉช ๐๐๑๗๔ หนองตาเรอื งสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๗ ๕๐ ฉช ๐๐๑๗๕ ปา่ ชา้ เก่าสาธารณประโยชน์ ท่าถ่าน

ลำดับท่ี เลขท่ี น.ส.ล. ชอื่ ทีด่ ิน ตำบล เน้ือที่ ไร่ งาน วา ๕๑ ฉช ๐๐๑๗๖ ป่าช้านอ้ ยสาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๑ ๑ ๘๖ ๗ ๐ ๓๗ ๕๒ ฉช ๐๐๑๗๗ หนองโพรงสาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๑๕ ๐ ๔๑ ๐ ๐ ๖๑ ๕๓ ฉช ๐๐๑๗๘ หนองผกั ชสี าธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๑ ๑๒ ๑ ๑ ๑๖ ๕๔ ฉช ๐๐๑๓๕ ทีส่ าธารณประโยชน์ หนองแหน ๖ ๐ ๒๔ ๘ ๐ ๐๐ ๕๕ ฉช ๐๐๑๓๖ ที่สาธารณประโยชน์ หนองแหน ๑ ๒ ๕๗ ๐ ๓ ๔๒ ๕๖ ฉช ๐๐๑๓๗ หนองหัวลงิ หนองแหน ๓ ๓ ๔๙ ๑๐ ๓ ๓๓ ๕๗ ฉช ๐๐๑๓๘ หนองตากลับสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๓ ๑๗ ๖ ๐ ๗๒ ๕๘ ฉช ๐๐๑๓๙ หนองชัญตาหลบั เขาหินซ้อน ๐ ๒ ๓๖ ๑ ๓ ๔๑ ๕๙ ฉช ๐๐๑๔๐ ป่าชา้ เก่าสาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๒ ๒ ๔๘ ๖ ๐ ๘๓ ๖๐ ฉช ๐๐๑๔๑ ศาลปูต่ าสาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๑ ๒ ๐๕ ๐ ๐ ๗๐ ๖๑ ฉช ๐๐๑๔๒ ที่ทำเลเลี้ยงสตั วส์ าธารณประโยชน์ หนองยาว ๒ ๐ ๗๗ ๑ ๓ ๓๖ ๖๒ ฉช ๐๐๑๔๓ หนองออ้ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๐ ๓ ๐๖ ๑ ๐ ๘๕ ๖๓ ฉช ๐๐๑๔๔ หนองวงั ทรายสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๔ ๐ ๙๔ ๐ ๓ ๓๗ ๖๔ ฉช ๐๐๑๔๕ หนองคันชงั่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖ ๐ ๒๐ ๓ ๒ ๕๐ ๖๕ ฉช ๐๐๑๔๖ สระน้ำสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๓ ๒ ๖๕ ๕ ๐ ๕๖ ๖๖ ฉช ๐๐๑๗๔ ท่สี าธารณประโยชน์ประจำหมู่บา้ นท่ี ๓ ทา่ ถา่ น ๑ ๑ ๕๑ ๑ ๑ ๘๖ ๖๗ ฉช ๐๐๑๖๐ หนองขา่ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๗ ๐ ๓๗ ๖๘ ฉช ๐๐๑๖๑ หนองลำเกวยี นสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖๙ ฉช ๐๐๑๖๒ หนองบัวสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๗๐ ฉช ๐๐๑๖๓ ศาลาประชาธิปไตยสาธารณประโยชน์ บา้ นซ่อง ๗๑ ฉช ๐๐๑๖๕ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๗๒ ฉช ๐๐๑๖๖ หนองจกิ เมอื งเกา่ ๗๓ ฉช ๐๐๑๖๗ ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ เมอื งเก่า ๗๔ ฉช ๐๐๑๖๘ หนองสาธารณประโยชน์ เมอื งเกา่ ๗๕ ฉช ๐๐๑๖๙ หนองก่มุ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๗๖ ฉช ๐๐๑๗๐ หนองนำ้ สาธารณประโยชน์ เมืองเก่า ๗๗ ฉช ๐๐๑๗๑ หนองเทวดาสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๗๘ ฉช ๐๐๑๗๒ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๗๙ ฉช ๐๐๑๗๓ หนองกระบอกสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๘๐ ฉช ๐๐๑๗๔ หนองตาเรืองสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๘๑ ฉช ๐๐๑๗๕ ป่าชา้ เกา่ สาธารณประโยชน์ ท่าถ่าน ๘๒ ฉช ๐๐๑๗๖ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๑๘ ๘๓ ฉช ๐๐๑๗๗ หนองโพรงสาธารณประโยชน์ บ้านซอ่ ง

ลำดบั ที่ เลขท่ี น.ส.ล. ชอื่ ท่ีดิน ตำบล เน้อื ที่ ไร่ งาน วา ๘๔ ฉช ๐๐๑๗๘ หนองผักชีสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๕ ๐ ๔๑ ๑๓ ๐ ๗๔ ๘๕ ฉช ๐๐๑๗๙ หนองหลวงสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๑ ๑ ๐๒ ๐ ๐ ๓๘ ๘๖ ฉช ๐๐๑๘๐ หนองยาวน้อยสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๒ ๐ ๖๔ ๕ ๒ ๕๑ ๘๗ ฉช ๐๐๑๘๑ บ่อน้ำสาธารณประโยชน์ หนองแหน ๔ ๒ ๓๗ ๕ ๑ ๕๔ ๘๘ ฉช ๐๐๑๘๒ หนองกมุ่ สาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๔ ๐ ๖๗ ๓ ๑ ๕๗ ๘๙ ฉช ๐๐๑๘๓ หนองน้ำสาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๖ ๐ ๖๓ ๕ ๒ ๕๔ ๙๐ ฉช ๐๐๑๘๔ หนองบัวสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑ ๒ ๕๐ ๗ ๒ ๔๘ ๙๑ ฉช ๐๐๑๘๕ หนองตานวนสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๘ ๑ ๓๗ ๙ ๑ ๒๓ ๙๒ ฉช ๐๐๑๘๖ หนองยายกาสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๑ ๑ ๕๓ ๓ ๑ ๐๐ ๙๓ ฉช ๐๐๑๘๗ หนองยายขลบิ สาธารณประโยชน์ หนองยาว ๙ ๓ ๘๕ ๙๔ ฉช ๐๐๑๘๘ หนองตาแบนสาธารณปะโยชน์ หนองยาว ๗ ๓ ๓๗ ๙๕ ฉช ๐๐๑๘๙ หนองตากาดสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑๓๒ ๓ ๖๑ ๙๖ ฉช ๐๐๑๙๐ ปา่ ชา้ นอ้ ยสาธารณประโยชน์ บ้านซ่อง ๒๘ ๑ ๗๖ ๑ ๑ ๖๙ ๙๗ ฉช ๐๐๑๙๑ หนองบัวสาธารณประโยชน์ แปลง ๑ บา้ นซ่อง ๐ ๓ ๙๕ ๐ ๓ ๙๕ ๙๘ ฉช ๐๐๑๙๒ หนองบวั สาธารณประโยชน์ แปลง ๒ บา้ นซอ่ ง ๐ ๐ ๖๕ ๒๓ ๓ ๒๐ ๙๙ ฉช ๐๐๑๙๓ หนองปลาชะโดสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๖๔ ๑ ๗๒ ๔๔ ๓ ๑๖ ๑๐๐ ฉช ๐๐๑๙๘ หนองยายเล็กสาธารณประโยชน์ หนองยาว ๑ ๓ ๑๓ ๑๐๑ ฉช ๐๐๑๙๙ หนองปลาหมอสาธารณประโยชน์ พนมสารคาม ๑๐๒ ฉช ๐๐๒๐๐ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว แปลง ๑ ๑๐๓ ฉช ๐๐๒๐๑ หนองบอนสาธารณประโยชน์ หนองยาว แปลง ๒ ๑๐๔ ฉช ๐๐๒๐๓ ลำหัวแมแ่ ครส่ าธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๑๐๕ ฉช ๐๐๒๐๔ หนองลำแม่แคร่สาธารณประโยชน์ บา้ นซอ่ ง ๑๐๖ ฉช ๐๐๒๐๕ ทเ่ี ลี้ยงสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนุน ๑๐๗ ฉช ๐๐๒๐๖ ทเี่ ลี้ยงสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๑๐๘ ฉช ๐๐๒๐๗ ทเ่ี ลี้นงสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนุน ๑๐๙ ฉช ๐๐๒๐๘ ศาลาประชาธิปไตย บา้ นซอ่ ง ๑๑๐ ฉช ๐๐๒๑๖ หนองตาเอียน เกาะขนนุ ๑๑๑ ฉช ๐๐๒๑๗ ท่ีเลี้ยงสตั วส์ าธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๑๑๒ ฉช ๐๐๒๑๘ หนองบอ่ เกาะขนนุ ๑๙ ๑๑๓ ฉช ๐๐๒๑๙ ที่เลีย้ งสตั วช์ ำปา่ หวาย เกาะขนนุ

ลำดบั ที่ เลขที่ น.ส.ล. ชอ่ื ทดี่ นิ ตำบล เนอ้ื ท่ี ไร่ งาน วา ๑๑๔ ฉช ๐๐๒๒๐ ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๔๖ ๐ ๔๖ ๑๑๕ ฉช ๐๐๒๒๑ ทส่ี าธารณประโยชน์ เกาะขนนุ ๐ ๓ ๒๗ ๑๑๖ ฉช ๐๐๒๒๓ ตลาดสด หนองแหน ๐ ๑ ๒๖ ๑๑๗ ฉช ๐๐๒๒๔ ปา่ ชา้ สาธารณประโยชน์ เมอื งเก่า ๐ ๐ ๙๖ ๑๑๘ ฉช ๐๐๒๒๕ ท่สี าธารณประโยชน์ปา่ ผาก หนองแหน ๖๒ ๓ ๔๔ ๑๑๙ ฉช ๐๐๒๒๖ ทส่ี าธารณะสระนำ้ ร.พ.ช. เกาะขนนุ ๔๖ ๐ ๒๑ ๑๒๐ ฉช ๐๐๒๒๗ ที่สาธารณประโยชน์แปลง ๑ เมอื งเกา่ ๔ ๐ ๒๓ ๑๒๑ ฉช ๐๐๒๒๘ ทส่ี าธารณะบา้ นชายเคือง เกาะขนนุ ๓๑ ๒ ๕๐ ๑๒๒ ฉช ๐๐๒๒๙ หนองลำคลองคตและบึงกระจบั เมอื งเก่า ๓๕ ๐ ๑๔ ๑๒๓ ฉช ๐๐๒๓๐ ทส่ี าธารณประโยชนแ์ ปลง ๒ เมอื งเกา่ ๗ ๓ ๖๒ ๑๒๔ ฉช ๐๐๒๓๑ ทีส่ าธารณประโยชนแ์ ปลง ๓ เมืองเก่า ๓ ๓๐ ๑๒๕ ฉช ๐๐๒๓๒ ป่าชา้ สาธารณประโยชน์ ทา่ ถ่าน ท่าถ่าน ๐ ๓ ๔๗ ๑๒๖ ฉช ๐๐๒๓๓ ท่สี าธารณะบา้ นห้วยสาม เกาะขนุน ๑๓๙ ๓ ๒๑ ๑๒๗ ฉช ๐๐๒๓๔ หนองตาอน้ เมืองเก่า ๓ ๑ ๖๓ ๑๒๘ ฉช ๐๐๒๓๕ หนองทองสขุ เขาหนิ ซ้อน ๓๘ ๐ ๐๓ ๑๒๙ ฉช ๐๐๒๓๗ สระบา้ นหนองปรือ เขาหินซอ้ น ๓ ๓ ๗๕ ๑๓๐ ฉช ๐๐๒๔๑ บึงปลาเค้า เมืองเก่า ๓๕ ๒ ๓๔ ๑๓๑ ฉช ๐๐๒๔๙ หนองตาองค์ หนองแหน ๐ ๓ ๓๑ ๑๓๒ ฉช ๐๐๒๕๑ ทป่ี า่ ช้าสาธารณประโยชน์ หนองแหน ๓ ๑ ๕๔ ๑๓๓ ฉช ๐๐๒๕๔ ทุ่งโลน เขาหนิ ซ้อน ๑๑๙ ๑ ๕๓ ๑๓๔ ฉช ๐๐๒๕๖ หนองโคกกลาง หนองแหน ๓ ๒ ๘๒ ๑๓๕ ฉช ๐๐๒๖๑ ป่าชา้ หนองนำ้ พแุ ปลง ๑ บา้ นซ่อง ๓ ๐ ๔๒ ๑๓๖ ฉช ๐๐๒๖๒ หนองพงั พวย หนองแหน ๓ ๑ ๔๒ ๑๓๗ ฉช ๐๐๓๒๑ ปา่ ชา้ บา้ นหนองน้ำพแุ ปลง ๒ บา้ นซอ่ ง ๑ ๐ ๑๑ ๑๓๘ ฉช ๐๐๓๒๒ หนองบุญนอ้ ย หนองแหน ๔ ๐ ๗๙ ๑๓๙ ฉช ๐๐๓๖๓ หนองยาว หนองแหน ๑ ๓ ๓๘.๖ ๑๔๐ ฉช ๐๐๓๖๔ หนองตะเฆ่ตาย หนองแหน ๗ ๒ ๖๗.๓ ๑๔๑ ฉช ๐๐๓๖๕ ชวดกระจบั แปลง ๒ หนองแหน ๑ ๐ ๒๓ ๑๔๒ ฉช ๐๐๓๖๖ หนองเลนเลก็ หนองแหน ๕ ๓ ๖๗.๔ ๑๔๓ ฉช ๐๐๓๖๖ ชวดกระจับแปลง ๑ หนองแหน ๐ ๓ ๓๖ ๒๐

๑.๘ หน่วยงานราชการ - สวนกลาง ๑. สำนักพฒั นาภาค ๑ หนว่ ยบัญชาการทหารพฒั นา ๒. สถานตี ำรวจภธู รพนมสารคาม ๓. สถานีตำรวจภูธรเขาหนิ ซอ้ น ๔. สถานีตำรวจภธรหนองแหน ๕. ศนู ย์ศกึ ษาการพฒนาเขาหนิ ซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ๖. สรรพากรพื้นที่จังหวดฉะเชงิ เทรา สาขาพนมสารคาม ๗. สำนกั งานสรรพามติ พ้ืนทจี่ ังหวัดฉะเชิงเทรา สาขาพนมสารคาม ๘. สำนักงานขนสง่ จงั หวดั ฉะเชิงเทรา สาขาพนมสารคาม ๙. สำนักงานท่ีดนิ จังหวัดฉะเชงิ เทรา สาขาพนมสารคาม ๑๐. สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาฉะเชิงเทรา เขต ๒ ๑๑. โรงพยาบาลพนมสารคาม ๑๒. สำนักงานประกันสงั คมจังหวดั ฉะเชิงเทรา สาขาพนมสารคาม - ส่วนภมู ภิ าค ๑. สำนักงานเกษตรอำเภอพนมสารคาม ๒. สำนักงานสาธารณสขุ อำเภอพนมสารคาม ๓. สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพนมสารคาม ๔. สำนักงานปศุสัตวอ์ ำเภอพนมสารคาม ๕. ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอพนมสารคาม ๖. สำนกั งานวัฒนธรรมอำเภอพนมสารคาม ๗. สำนกั งานสัสดีอำเภอพนมสารคาม ๘. สำนกั งานท้องถนิ่ อำเภอพนมสารคาม ๙. สำนักงานประมงอำเภอพนมสารคาม ๑.๙ หนว่ ยงานรัฐวสิ าหกิจ ๑. การไฟฟา้ สว่ นภมู ภิ าคพนมสารคาม ๒. การประปาสว่ นภูมภิ าคพนมสารคาม ๓. ศูนยบ์ ริการลูกค้าทโี่ อทส่ี าขาพนมสารคาม ๒๑

๑.๑๐ ธนาคาร ๑. ธนาคารกรุงเทพ จำกดั (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๒. ธนาคารกรุงเทพ จำกดั (มหาชน) สาขา เทสโก้ โลตัส พนมสารคาม ๓. ธนาคารกรุงไทย จำกดั (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๔. ธนาคารไทยพาณชิ ย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๕. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกดั (มหาชน) สาขา เทสโก้ โลตสั พนมสารคาม ๖. ธนาคารกสกิ รไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๗. ธนาคารกรงุ ศรอี ยุธยา จำกดั (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๘. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๙. ธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๑๐. ธนาคารออมสิน สาขาพนมสารคาม ๑๑. ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร สาขาพนมสารคาม ๑.๑๑ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ๑.๑๒.๑ ไฟฟ้า - มีหน่วยบริการผู้ใช้ไฟฟ้า สังกัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอพนมสารคาม จำนวน ๓ แห่ง ได้แก่ อำเภอราชสาส์น อำเภอสนามชัยเขต และอำเภอท่าตะเกียบ ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า แบ่งเป็นอำเภอ พนมสารคาม -อำเภอราชสาส์น รวม ๒๔,๖๓๑ ครอบครัว และอำเภอสนามชัยเขต – อำเภอท่าตะเกียบ รวม ๒๒,๔๓๒ ครอบครวั ๑.๑๒.๒ ประปา มีการประปาระดับอำเภอและตำบล หมู่บ้าน ดังน้ี - การประปาส่วนภูมิภาค จำนวน ๑ แห่ง ได้แก่ สำนกังานการประปาส่วนภูมิภาค อำเภอพนมสารคาม มีผู้ใช้บริการ จำนวน ๗,๐๑๓ ครอบครัว กำลังการผลิต ๖,๕๐๐ ลูกบาศก์เมตร ตอ่ วัน โดยสูบนำ้ จากคลองท่าลาด - การประปาหมู่บา้ น จำนวน ๕๑ แห่ง ๑.๑๒.๓ โทรศัพท์ มกี ารใหบ้ รกิ ารตดิ ตอ่ สื่อสารทางโทรศัพท์ โดยมีจำนวนคสู่ าย ๓,๑๕๒ เลขหมาย มกี ารให้บริการตโู้ ทรศพั ท์สาธารณะ จำนวน ๑๑๒ ตู้ ๑.๑๒.๔ การสื่อสารและโทรคมนาคม มีทที่ ำการไปรษณียโ์ ทรเลข จำนวน ๑ แห่ง ๒๒

๑.๑๒ การคมนาคม การคมนาคมติดต่อระหว่างอำเภอและจังหวัด รวมทั้งการคมนาคมภายในตำบลและหมบู่ ้าน มีรายละเอยี ด ดงั นี้ ๑. ทางหลวงแผ่นดิน ๓๐๔ ฉะเชงิ เทรา – กบนิ ทรบ์ ุรี ๒. ทางหลวงแผ่นดนิ ๓๑๙ ฉะเชิงเทรา – ปราจีนบรุ ี ๓. ทางหลวงแผ่นดนิ ๓๐๒๕ ระยอง – ปราจนี บรุ ี ๔. ทางหลวงแผ่นดนิ ๓๐๔๗ พนมสารคาม - บ้านสรา้ ง * สำหรับเส้นทางเช่ือมระหว่างตำบลและหมู่บ้าน มีสภาพเปน็ ถนนลกู รัง จำนวน ๖๓ สาย ๑.๑๓ ดา้ นเศรษฐกจิ ๑.๑๔.๑ ด้านเกษตรกรรม พ้ืนทีท่ งั้ หมดของอำเภอพนมสารคาม ๓๕๗,๕๐๐ ไร่ (๕๗๒ ตารางกโิ ลเมตร) พ้นื ทก่ี ารเกษตร ๒๗๘,๖๙๐ ไร่ เกษตรกร จำนวน ๖,๗๘๑ ครวั เรอื น พชื เศรษฐกจิ ทีส่ ำคญั ข้าว พื้นที่ปลูก ๑๐๙,๑๐๘ ไร่ สามารถทำนาได้ทั้งนาปีและนาปรัง (นาปรัง ๖๐,๙๗๙ ไร่) ผลผลิตเฉลยี่ นาปี ๖๙๘.๓ ก.ก./ไร่ มันสำปะหลงั พ้ืนท่ีปลูก ๗๕,๖๙๕ ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย ๒,๘๔๑.๒๙ ก.ก./ไร่ ถัว่ เหลือง พื้นที่ปลกู ๑๔๐ ไร่ มะมว่ ง พ้ืนที่ปลกู ๔,๔๒๔ ไร่ สว่ นใหญเ่ ปน็ มะมว่ งพันธด์ุ ี เชน่ น้ำดอกไม้เบอร์ ๔ น้ำาดอกไม้ สีทอง เขยี วเสวย แรด และอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรชาวสวนได้มีการรวมตวั กนั ตง้ั เป็นชมรมชาวสวน อำเภอพนมสารคาม มีสมาชิก ๕๐ คน สร้างสวนมะม่วงคุณภาพเพื่อการส่งออก พื้นที่ ประมาณ ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ ไร่ นับเป็นแหลง่ ใหญ่ทส่ี ุดของจังหวดั ฉะเชิงเทรา พชื ผกั มพี ้ืนทป่ี ลูกผัก ประมาณ ๖๖๓ ไร่ ส่วนใหญอ่ ยใู่ นเขตตำบลหนองยาวและ ตำบลบ้าน ซ่อง ซึ่งสามารถส่งขายในตลาดเขตอำเภอพนมสารคาม พอเพียงกับความต้องการของตลาด โดยไม่ต้องนําเข้า พืชผักจากต่างจังหวัด และยังมีกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ ๒ กลุ่ม สมาชิก ๕๐ คน ส่งผักขายทั้งในตลาด อำเภอ และจังหวัด ซึ่งในอนาคตมีแผนจะผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษ ส่งให้ โรงพยาบาลพนมสารคาม เปน็ ประจำ ขณะน้อี ยู่ระหวา่ งจดั ทำโครงกํารรว่ มกัน พืชสมุนไพร มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกสมุนไพรครบวงจรขึ้น ที่บ้านม่วงโพรง หมู่ที่ ๑ ตำบลเขาหินซ้อน สมาชิก ๔๗ คน ผลผลิตที่ได้ส่งให้ชมรมพืชยาไทยพนมสารคาม เพื่อผลิตเป็นอาหาร เสริมป้องกันและรักษาโรคในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำ และการเลี้ยงไก่เนื้อ นกกระทาไข่ เพื่อลดการใช้ยาและ ๒๓

แก้ไขปญั หาสารพิษตกคา้ งในสนิ ค้าเกษตร ซึง่ เป็นการดำเนินการทส่ี อดคล้องกับนโยบายของรฐั บาล นอกจากนี้ ผลผลติ สมนุ ไพรบางส่วน ยังสง่ ใหโ้ รงพยาบาลเจา้ พระยาอภยั ภูเบศ และองคก์ ารเภสัชกรรม การปศุสัตว์ อำเภอพนมสารคามเป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงชาวจังหวัดฉะเชิงเทราและ จังหวัดใกล้เคยี ง มกี ารเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจทสี่ ำคญั ดงั น้ี โคพันธ์ุเนือ้ ๔,๕๙๕ ตัว กระบือ ๕๖๕ ตัว สุกร ๑๐๓,๒๔๙ ตวั ไก่พนั ธ์เุ น้อื ๖,๖๗๕,๔๐๘ ตัว ไก่พันธไุ์ ข่ ๑,๐๐๗,๕๐๐ ตวั ไก่พนั ธุ์พื้นเมือง ๒๒,๕๐๕ ตวั เปด็ พนั ธเ์ุ น้อื ๑,๑๐๕,๑๐๐ ตวั เป็ดเทศ ๕๐๕ ตวั เป็ดพนั ธไ์ุ ข่ ๒๐,๐๐๐ ตวั ปัญหาที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะฟาร์มสุกรมักเกิดในฤดูฝนซึ่งน้ำเสียล้นจากบ่อพัก ไหลไปในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งอำเภอได้แก้ไขโดยการส่งเสริมให้ผู้เลี้ยงสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย มีผู้ประกอบการ รายใหญ่ให้ความร่วมมือสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย จำนวน ๔๐ ฟาร์ม สร้างบ่อแก๊สชวี ภาพ ประมาณ ๖๐ ราย ปจั จบุ นั ไมม่ ีการรอ้ งเรยี นปัญหานำ้ เสยี จากฟารม์ สุกรแต่อย่างใด การประมง อำเภอพนมสารคาม มีเกษตรกรผู้ทําการประมง จำนวน ๕๗๓ ราย จำนวน ๑,๐๒๕ บ่อ ปรมิ าณทีเ่ ล้ียงได้ ๗๖๕.๖๕ ตนั เนื้อที่ในการเพาะเลยี้ ง ๒,๔๒๒.๙๗ ไร่ ๑.๑๔.๒ การอุตสาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตดำเนินการประกอบการ จำนวน ๙๙ แห่ง ที่สำคัญ ได้แก่ โรงงานเกษตรรุ่งเรืองผลิตกระดาษตรา Double A โรงงานผลิตไฟฟ้า Thai Power Supply ซึ่งผลิต ไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงจากวัสดุการเกษตร สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ในเครือกลุ่มโรงงานพนมสารคามและเหลือ จำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของสวนป่ากิตติ ซึ่งส่งเสริมการปลูกและ รบั ซือ้ ไมย้ คู าลิปตัส และพชื ผลการเกษตรทั่วภาคตะวนั ออก และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ๑.๑๔.๓ การพาณิชย์ - มสี ถานบริการนำ้ เช้ือเพลิงขนาดใหญ่ จำนวน ๒๘ แห่ง - ศนู ย์การค้าเทสโก้ โลตสั ศนู ย์กลางการค้าตลาดทา่ เกวยี น ศนู ย์การค้าศริ ิพนม ตลาดเกาะขนนุ และตลาดเขาหินซอ้ น ๒๔

๑.๑๔.๔ การทอ่ งเท่ยี ว สถานที่ท่องเทย่ี วทส่ี ำคญั ได้แก่ - ศูนย์ศึกษาพัฒนาการเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาหินซ้อน ห่างจากอำเภอประมาณ ๑๗ กิโลเมตร สถานที่แห่งนี้เปน็ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาแหง่ แรก ซึ่ง พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอุดลเดช ได้ทรงมีพระราชดำริให้ตั้งขึ้นเมือ่ วนั ท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๒๒ ปัจจุบันเป็นสถานท่ี ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาท่ีดิน เศรษฐกิจพอเพียง และพักผ่อนหย่อนใจของชาวอำเภอ พนมสารคามและ อำเภอใกล้เคียง - สวนรุกขชาตพิ ระบาทสมเด็จพระปนิ่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ตง้ั อยูใ่ นพ้ืนทตี่ ำบลเขาหินซ้อน - อำเภอกำลังพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวรรณคดีแห่งใหมู่เพื่อเชื่อมโยงกับการสถานที่ ทอ่ งเท่ยี วของจงั หวดั ได้แก่ อทุ ยานพระรถเสน ซงึ่ ต้ังอยู่ทห่ี นองรี เขตเทศบาล ตำบลท่าถ่าน - อำเภอพนมสารคาม มโี รงแรมและสถานบริการที่จะรองรบั นกั ท่องเทย่ี วได้ ดังน้ี โรงแรม ๑๑ แหง่ สถานบริการและเรงิ รมย์ ๒ แห่ง ๑.๑๔ ดา้ นสงั คม การศกึ ษา แหง่ ประถมศกึ ษา ๑๒ แห่ง มธั ยมศึกษา ๓ แห่ง อาชีวศึกษา ๒ ๑.๑๕ การสาธารณสุข (๑) มีการให้บรกิ ารดา้ นการสาธารณสขุ โดยมสี ถานบริการ ดงั น้ี - โรงพยาบาลขนาด ๑๒๐ เตยี ง จำนวน ๑ แห่ง - สำนกั งานสาธารณสุขอำเภอ จำนวน ๑ แหง่ - โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตำบล จำนวน ๑๒ แห่ง - สถานพยาบาลเอกชน - คลินิกเวชกรรม จำนวน ๑๑ แหง่ - คลนี ิคการพยาบาลและผดงุ ครรภ์ จำนวน ๑ แหง่ - คลนี ิคเฉพาะทาง จำนวน ๓ แหง่ - คลีนคิ ทันตกรรม จำนวน ๔ แหง่ - รา้ นขายยาแผนปัจจุบนั จำนวน ๑๕ แหง่ - ร้านขายยาแผนปัจจบุ นั บรรจเุ สร็จ จำนวน ๕ แห่ง - ร้านขายยาแผนปจั จบุ ันสำหรบั สตั ว์ จำนวน ๔ แหง่ ๒๕

- สถานท่ีผลติ ยาแผนโบราณ จำนวน ๑ แห่ง - รา้ นขายยาแผนโบราณ จำนวน ๘ แหง่ - เทคนิคการแพทย์ จำนวน ๑ แหง่ (๒) อตั ราการมแี ละใชส้ ้วมราดนำ้ ร้อยละ ๑๐๐ (๓) เสยี งตามสาย จำนวน ๗๖ แหง่ ครอบคลุมได้ ร้อยละ ๑๐๐ ๑.๑๖ ความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ย์สนิ มีสถานีตำรวจภธู ร จำนวน ๓ แหง่ ดังน้ี ๑. สถานตี ำรวจภธู รพนมสารคาม ๒. สถานตี ำรวจภธู รหนองแหน ๓. สถานตี ำรวจภธู รเขาหนิ ซอ้ น ๑.๑๗ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม แหล่งน้ำธรรมชาติ ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรน้ำ ในอำเภอพนมสารคามนั้นขาดความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีสาเหตุ มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติมีน้อยมีคลองท่าลาดเพียงสายเดียวที่ไหลผ่านพื้นที่บางส่วนของอำเภอ ส่วนแหล่ง เก็บน้าธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ห้วย หนอง บึง หลายแห่งมีสภาพตื้นเขินไม่สามารถกักเก็บน้ำ ไว้ใช้ เมื่อถึงฤดูแล้งได้อำเภอได้ส่ังการให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ทุกแหง่ จัดทำโครงการพัฒนาแหลง่ นำ้ โดยเน้น ท่ีการพฒั นาจติ สาํ นกึ ของประชาชนท่อี ยใู่ กล้แหลง่ นำ้ ให้เหน็ ความสำคัญ ในการอนุรักษ์ และพัฒนาแหล่งน้ำ ทรัพยากรปา่ ไม้ อำเภอมีพื้นที่ป่าไม้ที่สำคัญ ได้แก่ป่าแควระบมสียัด เนื้อที่ประมาณ ๔๖ ตารางกิโลเมตร แต่ในสภาพปัจจบุ ันราษฎรได้ทำการบุกรกุ ท่ีป่าผืนดงั กล่าวจนไมเ่ หลือสภาพเปน็ ป่าอกี ต่อไป ทรพั ย์กรดิน ทรัพยากรดินในอำเภอพนมสารคามส่วนใหญ่ขาดความอุดมสมบรณ์ในหลายพื้นที่เป็ นดิน เปรี้ยว การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดินซึ่งประกอบไปด้วยดินเหนียว ใช้ในการประกอบการกสิกรรม ดิน ร่วนจะใช้เพาะปลูกพืชไร่และพืชสวนครัว และดินลุกรังจะปลูกมันสำปะหลังและยูคาลิปตัส จะมีการขุด หน้าดินไปขายหรือมกี ารบ่อลุกรังทำใหเ้ กิดการพังทลายของดินและดนิ ส่วนที่เหลอื จะขาดความอุดมสมบรู ณ์ ประกอบกับการใชป้ ระโยชน์จากดนิ ของเกษตรกรยังไมถ่ ูกวิธี และไม่มีการบำรุงรักษาดิน ทำให้ดินเสื่อมสภาพ ความอุดมสมบูรณล์ ง ๒๖

๒. การดำเนนิ งานตามนโยบายของรฐั บาล ๒.๑ ปญั หาทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และภัยธรรมชาตติ ่าง ๆ พื้นที่อำเภอพนมสารคาม ไม่มีพื้นที่ป่า หรือป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้ทรัพยากรดินและ น้ำขาดความอุดมสมบรณ์ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นท่ี ซงึ่ มกี ารลกั ลอบท้งิ กากของเสยี ในพ้ืนท่ี ตำบลหนองแหน ตำบลเกาะขนุน และ ตำบลเขาหนิ ซ้อน ส่วนปัญหา ทางดา้ น ภยั ธรรมชาติ มีดงั น้ี ๑. ภัยแล้ง จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปี เนื่องจากปริมาณ น้ำฝนมีน้อยไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ทำให้น้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตรซึ่งส่วนใหญ่ประชาชนในพื้นที่ อำเภอพนมสารคามประกอบอาชีพเกษตรกรรม ต้องใช้น้ำปริมาณมากในการทำการเกษตร ได้ดำเนินการ แกไ้ ขปัญหา ดังน้ี ๑.๑ ประสานสำนักงานชลประทานจังหวัด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาน้ำเพ่ือ ขอสบู น้ำมาใหป้ ระชาชนในพน้ื ที่อปุ โภค บรโิ ภค โดยใช้งบฉกุ เฉินเพ่อื ชว่ ยเหลือผูป้ ระสบปญั หาภยั แล้ง ๑.๒ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร กักเก็บน้ำไว้ให้เพียงพอในช่วงปลายฤดูฝนเพ่ือ สาํ รองน้ำไว้อุปโภค บรโิ ภค ในชว่ งฤดูแล้ง ๒. น้ำท่วม จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน มีฝนตกมาก อำเภอพนมสารคามมีคลองที่สำคัญ คือ คลองท่าลาด เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำในเขื่อนระบบสียัดมีปริมาณมากเกินที่จะกักเก็บไว้ได้ จึงต้องมีการ ระบายน้ำลงสู่คลองท่าลาดซึ่งจะมีผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม อำเภอได้ดำเนินการ แก้ไข ดงั น้ี ๒.๑ สํารวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำท่วม และเตรียมความพร้อมใน การอพยพผู้ประสบภยั ๒.๒ เมือเกิดสถานการณ์น้ำท่วม เร่งจดหาเครื่องยงชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพ้ืนท่ี ๒.๒ ปญั หายาเสพติดและแรงงานตา่ งดา่ วท่ลี กั ลอบทำงานอย่ใู นพืน้ ที่ ๑) ปัญหายาเสพติด อำเภอพนมสารคาม เป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่พอสมควร มีจำนวน ประชากรมากและมีแนวเขตติดต่อกับหลายจังหัวด ทำให้เป็นช่องทางให้ผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนํายาเสพติด เขา้ มาจำหน่ายในพื้นทไ่ี ดห้ ลายทาง อำเภอจงึ ได้มีแนวทางในการแก้ไขปญั หายาเสพติด ดังนี้ ๒๗

๑.๑ ดา้ นการปอ้ งกัน ๑.๑.๑ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดอำเภอและจัดต้ัง แหล่งขา่ วในทุกหมู่บา้ น ทุกตำบลเพ่อื หาขา่ วในการจำหน่ายยาเสพตดิ ๑.๑.๒ จัดอบรมผู้นำหมู่บ้าน เยาวชน อาสาสมัครทุกกลุ่มเพื่อเป็นพลัง มวลชนในการช่วยสอดสอ่ งดแู ลในทุกพ้นื ท่ีหมู่บา้ น ตำบล มิให้ผ้ใู ดเข้ามาจำหนา่ ยยาเสพตดิ ในพนื้ ทไี่ ด้ ๑.๑.๓ ประสานงานกบสถาบันการศึกษาในพื้นที่จัดทำแผนอบรมให้ ความรู้ ปลูกจติ สาํ นึกให้ทราบถึงโทษและพิษภัยของยาเสพติด เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในพ้นื ที่ ๑.๑.๔ เน้นย้ำใหก้ าํ นนั ผูใ้ หญ่บา้ น ประสานงานติดตอ่ กับผู้นำครอบครัวที่ มีผูเ้ สพยาเสพตดิ มารายงานตัวและนาํ ตัวเขา้ รบั การบำบดั รกั ษา ๑.๑.๕ จัดเวรยามเฝ้าระวังในชุมชน หมู่บ้านและรายงานผลมายังศูนย์ฯ อำเภอ ๑.๑.๖ จัดทำโครงการหมู่บ้าน/ชุมชน ต้นแบบแก้ไขปัญหายาเสพติดเพ่ือ จดทำหมู่บ้านแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยอาศัยประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้สอดส่องดูแลบุตร หลานมใิ ห้เก่ียวขอ้ งกับยาเสพตดิ ๑.๒ ดา้ นการปราบปราม ๑.๒.๑ ดำเนินการรีเอกซเรย์ในพื้นท่ีอำเภอพนมสารคามทุกหมู่บ้าน ทุก ตำบลเพอื่ สืบคน้ หาผูเ้ สพและผคู้ า้ ๑.๒.๒ ประสานสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ จัดตั้งชุดปฏิบัติการ ป้องกันปราบปรามยาเสพตดิ เพื่อจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพตดิ และขยายผลถึงการยดึ ทรพั ยข์ องผู้จำหน่าย ยาเสพติด ๑.๒.๓ ประสานเรื่องการข่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมผู้จำหน่าย ยาเสพตดิ ตามที่แหล่งขา่ วในพ้นื ทร่ี ายงานและตรวจสอบกล่ันกรองข่าวเพือ่ ใหท้ ราบขอ้ มูลทถ่ี กู ต้องและแน่ชดั ๑.๓ ด้านการบำบัดรักษา ประสานสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลพนมสารคาม ในการนำตวั ผู้ตดิ ยาเสพติดเขา้ รับการบำบัดรกั ษา ๑.๔ ดา้ นการบรหิ ารจัดการ ๑.๔.๑ จัดประชมุ คณะกรรมการ ศตส.อ.เปน็ ประจำทุกเดอื น ๑.๔.๒ ประสาน/อำนวยการ การดำเนินการจัดกิจกรรมฝึกอบรมการ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ของเทศบาลตำบลและองค์การบริหารสว่ นตำบล ทกุ แหง่ ๑.๔.๓ ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพื้นที่ เพื่อสร้างความ เข้มแข็งให้กบั หมู่บ้าน/ชมุ ชน สามารถยกระดบั ให้เปน็ หมู่บา้ น/ชุมชนปลอดยาเสพตดิ ๒๘

๒) แรงงานตา่ งด้าวที่ลักลอบทำงานในพื้นท่ี ๒.๑ ประสานงานกับสถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในพื้นที่ จัดชุดออกตรวจจับกุม แรงงานต่างดา้ วท่ลี ักลอบทำงานในพนื้ ท่ีอำเภอพร้อมนายจ้างทีจ่ ัดจ้างหรอื ให้ท่ีพักพิงจะดำเนนิ คดีทุกราย ๒.๒ ประสานงานกับสำนักงานสวัสดิ์การและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สำนักงาน จัดหางานจังหวัดเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวที่ขออนุญาตทำงานใ นพื้นที่และจัดชุดพนักงานฝ่าย ปกครองออกตรวจตามสถานทีท่ ำงานตามข้อมูล ๒.๓ ประสานสายข่าวในพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล เพื่อรวบรวมแหล่งข่าวและออก กวดขนั จบั กมุ ๒.๔ แจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจสอบในพื้นที่ หากพบแรงงานต่างด้าวที่ ลกั ลอบทำงาน ให้ดำเนินการจบั กุมหรอื รายงานอำเภอเพอ่ื ดำเนนิ การจับกมุ ต่อไป ๒.๓ ปญั หาอาชญากรรมและการก่อการร้ายทม่ี ีลกษณะทีเ่ ปน็ ภัยต่อความมน่ั คง พื้นที่อำเภอพนมสารคาม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและนบถือศาสนาพุทธมี ความเป็นอยู่อย่างสงบและสมานฉันท์ ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดีจึงไม่มี ปัญหาอาชญากรรมและการก่อการร้ายที่มีลักษณะเป็นภยั ตอ่ ความมัน่ คง ๒.๔ ปญั หาดา้ นการเมืองการปกครองท้องถ่นิ อำเภอพนมสารคาม มเี ทศบาลตำบล จำนวน ๕ แห่ง และองค์กํารบรหิ ารสว่ นตำบล จำนวน ๖ แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่งให้ความร่วมมือกับอำเภอพนมสารคามเป็นอย่างดี ไม่มี ปญั หาด้านการเมืองการปกครอง ๒๙

๑.๔ วิสัยทศั นแ์ ละประเด็นยทุ ธศาสตรข์ องแผนพัฒนาจงั หวัด ๓๐ วิสัยทัศน์และประเด็นยุทธศาสตร์ของแผนพฒั นาจังหวดฉะเชิงเทรา (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) วสิ ัยทัศน์จังหวัดฉะเชิงเทรา “เมอื งอตุ สาหกรรมสีเขียว ทอ่ งเทีย่ วเชงิ วฒั นธรรม แหล่งผลิต สินคา้ เกษตรปลอดภยั สังคมมีคุณภาพป่าและน้ำอดุ มสมบูรณ์” ประเด็นการพฒั นาที่ ๑ : พฒั นาศกั ยภาพการผลิตการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมและ พาณชิ ยกรรม ให้มีขดี ความสามารถในการแข่งขนั และเป็นมติ รกับสง่ิ แวดล้อม วัตถุประสงค์ : ภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม มีการใช้นวัตกรรม และการ บรหิ าร จดั การสงิ่ แวดล้อมที่มีประสิทธภิ าพ เพอื่ รองรบั การพฒั นาระเบยี งเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และ เพม่ิ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั เป้าหมายและตัวช้ีวัด : ๑. อตั ราการขยายตวั ของภาคอตุ สาหกรรม (ร้อยละ) ๒. อตั ราการขยายตวั ของภาคพาณชิ ยกรรม (ร้อยละ) ๓. ร้อยละทเ่ี พม่ิ ขึ้นของแรงงานท่ไี ดร้ ับการพฒั นาฝมี ือแรงงาน (ร้อยละ) ๔. อัตราการขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมที่ร่วมกับภาครัฐในการรักษา ส่งิ แวดลอ้ ม (ร้อยละ) แนวทางการพัฒนา : ๑. พฒั นาโครงสรา้ งพน้ื ฐานทางเศรษฐกิจใหส้ ามารถรองรบั การเจริญเติบโตได้อย่าง ท่วั ถงึ ๒. พัฒนาภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขันและเป็นมติ รกับสงิ่ แวดล้อม ประเดน็ การพัฒนาท่ี ๒ : พฒั นาแหล่งทอ่ งเที่ยวและบรกิ ารด้านการทอ่ งเท่ยี วให้ได้มาตรฐาน และมีอัตลักษณส์ ามารถสร้างมลู คา่ เพ่ิมใหแ้ ก่ชุมชน วัตถุประสงค์ : ๑. จงั หวัดมรี ายได้จากการทอ่ งเท่ยี วเพมิ่ มากขึ้น ๒. แหลง่ ท่องเที่ยวและบรกิ ารดา้ นการทอ่ งเที่ยวมคี ณุ ภาพได้มาตรฐาน เปา้ หมายและตวั ช้วี ัด : ๑. ร้อยละท่ีเพิ่มขึ้นของจำนวนผูเ้ ย่ยี มเยอื น (รอ้ ยละ) ๒. อตั ราการขยายตัวของรายได้การทอ่ งเท่ียว (รอ้ ยละ) แนวทางการพัฒนา : พัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งเสริมสรา้ งอตั ลักษณ์ดา้ นการทอ่ งเท่ยี วของชุมชน ประเด็นการพัฒนาที่ ๓ : พัฒนาการผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตร ให้เป็นแหล่งผลิต สนิ คา้ เกษตรและเกษตรแปรรปู ทมี่ ีคุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล

วัตถปุ ระสงค์ : ๓๑ ๑. ผลผลติ สนิ คา้ เกษตร ปลอดภัยสงู เพม่ิ ข้ึน ๒. ผลผลิตการเกษตรมีคุณภาพ และได้มาตรฐานสากล สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดทั้งในและตา่ งประเทศ ๓. เกษตรกรน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปปฏิบตั ิ เปา้ หมายและตัวชว้ี ดั : ๑. ร้อยละของเกษตรกรที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP (ร้อยละ) (พืชผัก มะม่วง กุง้ ทะเลและไกไ่ ข)่ ๒. รอ้ ยละทีเ่ พิม่ ข้นึ ของเกษตรกรทีผ่ ลติ สินค้าเกษตรปลอดภัยสูง (รอ้ ยละ) ๓. รอ้ ยละของเกษตรกรในจงั หวดั ที่นำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปปฏบิ ัติ (ร้อยละ) ๔. ผลผลิตของพืชเศรษฐกจิ (ขา้ ว) เฉลยี่ ต่อไรใ่ นเขตพื้นท่ชี ลประทาน (กก./ไร)่ แนวทางการพฒั นา : พัฒนาระบบการผลิตสนิ ค้าเกษตรปลอดภยั ประเดน็ การพัฒนาที่ ๔ : พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ และสวัสดิการสังคม รวมทั้งเพม่ิ ประสิทธิภาพ การรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สนิ ของประชาชน ให้ครอบคลุมประชาชน ทุกวยั อยา่ งทว่ั ถึง วัตถุประสงค์ : ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความปลอดภัยในชีวิตและ ทรัพยส์ นิ เป้าหมายและตัวช้วี ัด : ๑. จำนวนปีการศกึ ษาเฉล่ยี ของประชากร อายุ ๑๕ – ๕๙ ปี ในจังหวดั ท่เี พม่ิ ขึน้ (ปี) ๒. สัดสว่ นจำนวนคดที ่จี ับกมุ ได้ตอ่ คดที ่ีรบั แจ้ง (ร้อยละ) ๓. ร้อยละของหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดไม่เกิน ๓ คน ต่อ ๑,๐๐๐ คน (หมู่บา้ น/ชมุ ชน) เพิม่ ขึ้น ๔. รอ้ ยละของผ้ปู ระสบสาธารณภยั ท่ีไดร้ ับความช่วยเหลอื (ร้อยละ) ๕. รอ้ ยละของประชากรในจงั หวัดทีอ่ ยู่ใต้เสน้ ความยากจนที่ลดลง (ร้อยละ) ๖. ร้อยละของสถานพยาบาลในจังหวัดท่ีได้การรับรองคุณภาพ HA ทเ่ี พ่ิมข้ึน (ร้อยละ) แนวทางการพัฒนา : ๑. พัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียงและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตามแนวทางประชารัฐ ๒. พฒั นาการจดั สวสั ดกิ ารสังคมให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ประเด็นการพัฒนาที่ ๕ : อนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม อยา่ งบูรณาการ มปี ระสทิ ธิภาพ และเปน็ ธรรม ตอบสนองตอ่ การพัฒนาท่ยี ง่ั ยืน วตั ถุประสงค์ :

๑. เกิดการบรหิ ารจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ภายใตก้ ารมสี ่วนร่วม ของภาคีเครือข่ายอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เพ่อื ก่อให้เกิดความยัง่ ยืนตอ่ ระบบนิเวศและการใชป้ ระโยชนท์ ่ีสมดลุ ๒. สิ่งแวดลอ้ มด้าน นำ้ อากาศ ขยะมลู ฝอย และของเสยี อันตราย ได้รบั การบริหาร จัดการอย่างมีส่วนร่วม เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อแก้ไข ลด และขจัดมลพิษที่อาจช่วยส่งผลกระทบ ตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มและพร้อมรับมอื ตอ่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภยั ธรรมชาติ เปา้ หมายและตวั ชวี้ ดั : ๑. อตั ราการขยายตัวของพื้นที่ปา่ ไม้ในจังหวัด (รอ้ ยละ) ๒. ร้อยละทลี่ ดลงของขยะมูลฝอยชมุ ชนทไี่ ด้รบั การเกบ็ ขนไปก าจดั (ร้อยละ) ๓. จำนวนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ท่มี ีระบบบ าบดั น้ าเสยี ชมุ ชน (แห่ง) แนวทางการพฒั นา : เพ่มิ ประสิทธิภาพในการบรหิ ารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ๓๒

๑.๕ สภาพปญั หาและความต้องการของประชาชนในพ้ืนทอ่ี ำเภอพนมสารคาม ๑. ปัญหาด้านเศรษฐกจิ ประเด็นปญั หา สาเหตุของปัญหา แนวทางแกไ้ ข ๑. ราคาผลผลิตทางการเกษตร ๑. ไม่มีตลาดรองรับผลผลิตและ ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรโดยเน้น ตกต่ำ ขาดการประกันราคาพชื ผลผลติ คุณภาพ มาตรฐาน อาหารปลอดภัย ๒. ปัจจัยการผลติ มรี าคาสูง ๒. ไม่มีการควบคุมราคาปัจจัย ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เพื่อเพิ่มมูลค่า ๓. ไม่มตี ลาดรองรบั จำหน่าย ของการผลิต และเพิ่มขีดความสามารถในการ ผลิตผล ๔. ขาดเงนิ ทนุ ในการ ๓. ไม่มีสถานที่ที่ใช้สำหรับ แข่งขัน แก้ปัญหาสินค้าเกษตรราคา ประกอบอาชีพ ๕. ขาดความรู้ รองรับผลผลติ ตกคต่ำโดยพัฒนาการผลิตสินค้า ในกํารประกอบอาชีพอน่ื ๔. ไม่มีเงินทุนสำหรับใช้ในการ เกษตรให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยการ ประกอบอาชพี ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ที่จะช่วยรักษา ๕. ไม่มีความรู้ความชํานาญใน สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับ การนาไปใช้ประกอบอาชีพอ่ืน การสนับสนุนการ หาตลาดและ หลงฤดูกาลเกบ็ เกี่ยว ส ถ า น ที่ จ ำ ห น ่ า ย ส ิ น ค ้ า เ ก ษ ต ร ปลอดภัยสงู ๒. ปญั หาด้านสังคม สาเหตขุ องปญั หา แนวทางแก้ไข ประเด็นปญั หา ๑. ความเข้มแขง็ ของชมุ ชน ๑. ราษฎรในพื้นที่ขาดความ ๑. การขอความร่วมมือจากทุกภาค ๒. ยาเสพติด ๓. กีฬาและนันทนาการ สามัคคีในการรวมกลมุ่ ส่วนร่วมกันในการปัญหายาเสพติด ๔. ภาวะการวา่ งงาน ๒. การให้ความรู้แก่ชุมชนใน อย่างเข้มข้นตลอดจนสร้างเสริม เรื่องเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดไม่ สขุ ภาพและปัจจยั เสย่ี งต่าง ๆ ท่วั ถงึ ๒. เร่งพัฒนาการศึกษาตลอดจนการ ๓. ขาดผู้นําด้านการกีฬาและ เรยี นรทู้ ่ีมีคุณภาพ สถานที่ออกกำลังกายและ ๓. สร้างความมั่นคงทางอาชีพเพื่อ สถานท่พี กั ผ่อนไมเ่ พยี งพอ รองรับกําลังแรงงานที่เป็นประชากร ในพ้ืนที่ทถี่ กู เลิกจ้างตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง ๓. ปัญหาดา้ นโครงสร้างพ้ืนฐาน ๓๓

ประเดน็ ปัญหา สาเหตขุ องปัญหา แนวทางแก้ไข ๑. คมนาคม ๒. ไฟฟ้าและประปา ๑. สภาพถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ๑. จัดสรรงบประมาณเพื่อซ่อมแซม ทำให้การสัญจรไปมาเป็นไปด้วย ถนนและจำกัด น้ำหนักรถบรรทุกที่ ความลำบาก ว่งิ เพ่ือปอ้ งกนั ถนนชํารดุ ๒. การขยายเขตบริการประปา ๒. ซ่อมแซมระบบประปาหมู่บ้านให้ ภูมิภาคยังไม่ ครอบคลุม และ ได้มาตรฐาน ประปาหมู่บ้านไม่ได้คณุ ภาพ , ไฟ ตก ๔. ปัญหาด้านแหลง่ นำ้ ประเด็นปัญหา สาเหตขุ องปญั หา แนวทางแกไ้ ข ๑. นำ้ เพื่ออปุ โภค - บรโิ ภค ๑. ขาดแคลนแหล่งน้ำสะอาด จัดสรรและขอสนับสนุนงบประมาณ ๒. น้ำเพือ่ การเกษตร เ พ ื ่ อ น ำ ม า ใ ช ้ ใ น ก า ร ผ ลิ ต เพื่อจัดหาแหล่งน้ำขุดลอกคูคลองที่ น้ำประปา ต้ืนเขินโดยประสานหน่วยงานที่ ๒. ระบบชลประทานไม่คลอบ เกย่ี วขอ้ งให้การสนับสนนุ คลุมพื้นที่ฝายกักเก็บน้ำและ สภาพคลองต้ืนเขนิ ๕. ปัญหาดา้ นสาธารณสขุ ประเดน็ ปญั หา สาเหตุของปญั หา แนวทางแก้ไข ๑. ป้องกนั โรคติดต่อ ๑. ขาดความรู้ คำแนะนําที่ ส่งเสริมกิจกรรมที่ทำให้ประชาชนใส่ ๒. สุขภาพอนามยั ถกู ตอ้ งเกยี่ วกบั ปัญหา ใจสุขภาพจัดหน่วยบริการเคลื่อนท่ี ๓. การบรกิ ารสาธารณสุขมูล ๒. ขาดความสนใจ ดูแลเอาใจใส่ ตามสวนสาธารณะให้ ความรู้แก่ ฐาน สขุ ภาพ ประชาชนอย่างสมำ่ เสมอ ๓. ขาดแคลนวัสดุ อุปกรณ์ บคุ ลากรใหบ้ ริการ อย่างทัว่ ถึง ๖. ปัญหาดา้ นการเมอื ง การบรหิ าร ๓๔

ประเด็นปัญหา สาเหตขุ องปัญหา แนวทางแก้ไข ๑. การปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย ๑. ขาดความรู้ ความสนใจใน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมี ๒. ความสนใจในกํารมสี ว่ นร่วม ระบอบประชาธปิ ไตย ส่วนร่วมนกิจกรรมของชุมชน เช่น ๒. ประชาชนขาดความสนใจการ การประชมุ ประชาคม เป็นต้น เข้าร่วมประชาคม และไม่ทราบ ถึงประโยชน์ของการเข้าร่วม ประชาคม ๗. ปัญหาด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ประเดน็ ปญั หา สาเหตขุ องปัญหา แนวทางแกไ้ ข ขอสนับสนุนงบประมาณจาก ๑. ดา้ นอปุ กรณส์ อ่ื การเรียน ๑. ขาดแคลนอุปกรณส์ อ่ื การ ส่วนกลางในการดำเนินการและขอ ความร่วมมือจากผู้ประกอบการใน ๒. อุปกรณ์สำหรับสนามเด็ก เรยี นการสอนท่ี ทันสมัย พ ื ้ น ท ี ่ / ช ุ ม ช น ร ่ ว ม ส น ั บ ส นุ น งบประมาณอกี ทางหน่งึ เล่นไมม่ ีมาตรฐาน ๒. สนามเดก็ เลน่ มสี ภาพชํารดุ ทรุดโทรม ๘. ปญั หาด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ประเดน็ ปัญหา สาเหตุของปญั หา แนวทางแกไ้ ข ๑. ขยะมูลฝอยและส่งิ ปฏิกูล ๑. ขาดความรู้ในการกําจัดขยะ ส่งเสริมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ มูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่ถูกวิธี ประชาชนในการ แยกทง้ิ ขยะ และจัด ส่งผลให้เกดิ มลพิษ ใหม้ ีจดุ ท้ิงขยะอย่างเพยี งพอใน แต่ละ ชุมชน ๓๕

ส่วนท่ี ๒ บทวเิ คราะห์หารพฒั นา องค์ประกอบ ๒.๑ การวิเคราะห์ศกั ยภาพของพ้ืนที่อำเภอ - ภาพรวมของบริบทอำเภอ (Context Map) ๒.๒ การกำหนดตำแหนง่ การพฒั นาอำเภอ (Positioning) ๒.๓ การประเมนิ ศักยภาพทางยุทธศาสตรข์ องพืน้ ที่อำเภอ (SWOT Analysis) ๒.๔ การวเิ คราะห์ทิศทางการพฒนายุทธศาสตรก์ ารพฒั นา พ้ืนทอ่ี ำเภอ (TOWS Matrix) ๒.๕ การกำหนดก้าวยา่ ง ๓ ระยะ (๓ Horizons) ๓๖

๒.๑ การวิเคราะหศ์ ักยภาพของพ้ืนที่อำเภอพนมสารคาม ๓๗ ๑. ดา้ นเศรษฐกิจ พื้นท่ีอำเภอพนมสารคามมลี ักษณะทางธรรมชาติท่เี อ้ือต่อการผลติ ด้านการเกษตรเปน็ หลัก มีโรงงานอตุ สาหกรรมขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมกลมุ่ ฝีมืออาชีพ และอตุ สาหกรรมครัวเรือน ซึ้งเปน็ รายได้ของ ประชาชนในพืน้ ที่ ๒. ด้านการเกษตร - พืน้ ท่ีการเกษตร ๒๗๘,๖๙๐ ไร่ เกษตรกร จำนวน ๖,๗๘๑ ครัวเรือน - ขา้ ว พนื้ ทป่ี ลกู ๑๐๙,๑๐๘ ไร่ , มนั สำปะหลัง พืน้ ทป่ี ลูก ๗๕,๖๙๕ ไร่ , ถ่ัวเหลอื ง พ้ืนที่ ปลกู ๑๔๐ ไร่ มะมว่ ง พ้ืนทปี่ ลูก ๔,๔๒๔ ไร่ , พืชผกั พนื้ ทป่ี ลกู ผัก ประมาณ ๖๖๓ ไร่ ๓. ดา้ นการสาธารณสุข และการศกึ ษา การศกึ ษา - ระดบั อาชีพ ๑ แห่ง - ระดบั มัธยม ๓ แห่ง - ระดับประถมศกึ ษา ๑๒ แห่ง - โรงเรียนเอกชน ๑ แห่ง - การศึกษานอกโรงเรยี นมีห้องสมุดประชาชน ๑ แหง่ ทอ่ี ่านหนังสอื ประจำหมบู่ า้ น ๘๗ แหง่ - การศาสนา ประชาชนส่วนใหญ่นบั ถอื ศาสนาพุทธ มวี ดั ในพระพทุ ธศาสนาทุกตำบล การสาธารณสุข มีโรงพยาบาลประจำอำเภอ ๑ แหง่ และมีโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบลทุกตำบล ประเพณี วัฒนธรรม อำเภอพนมสารคามเป็นสังคมเมือง ประชากรส่วนใหญ่มีการศึกษาสูง มีรายได้ดี สภาพ ครอบครัวเปน็ ครอบครัวกิจการขนาดใหญ่ มปี ระเพณวี ฒั นธรรมทห่ี ลากหลายแต่สามารถทำกจิ กรรมร่วมกนั ได้ ๔. ด้านอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และแรงงาน การอตุ สาหกรรม มีโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน ๙๙ แหง่ และมโี รงสแี ละโรงไมเ้ กือบทกุ ตำบล การพาณชิ ยกรรมและบรกิ าร มีสถานบริการน้ำเช้ือเพลงิ ขนาดใหญ่ จำนวน ๒๘ แห่ง และมีศนู ย์การคา้ เทสโก้ โลตัส ศนู ยก์ ลางการค้าตลาดท่าเกวียน ศนู ยก์ ารคา้ ศิริพนม ตลาดเกาะขนนุ ตลาดเขาหินซ้อน การประมง มีเกษตรกรผทู้ ําการประมง จำนวน ๕๗๓ ราย จำนวน ๑,๐๒๕ บ่อ ปริมาณที่เลี้ยงได้ ๗๖๕ .๖๕ ตนั เน้ือท่ใี นการเพราะเลีย้ ง ๒,๔๒๒.๙๗ ไร่

การปศสุ ัตว์ อำเภอพนมสารคามเปน็ แหลง่ ผลิตอาหารเล้ยี งชาวจงั หวัดฉะเชิงเทราและ จงั หวดั ๓๘ ใกลเ้ คียง มีการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกจิ ทีส่ ำคญั เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะสกุ ร การสหกรณ์ มสี หกรณ์ จำนวน ๑ แหง่ คือ สหกรณ์การเกษตรพนมสารคาม จำกดั การธนาคาร มีธนาคาร ๑๑ แหง่ ๑. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๒. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขา เทสโก้ โลตัส พนมสารคาม ๓. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๔. ธนาคารไทยพณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม๕. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา เทสโก้ โลตัส พนมสารคาม ๖. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๗. ธนาคารกรงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๘. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๙. ธนาคารธนชาติ จำกัด (มหาชน) สาขาพนมสารคาม ๑๐. ธนาคารออมสิน สาขาพนมสารคาม ๑๑. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร สาขาพนมสารคาม ๕. ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ปจั จบุ ันทรพั ยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรปา่ ไม้ และผนื ปา่ ของอำเภอพนมสารคาม ถกู บุกรกุ ทำลาย อย่างมากในหลายรูปแบบ เนื่องจากอำเภอพนมสารคาม มีโรงงานนอุตสาหกรรมจำนวนมาก และโรงงานเหล่านั้น ได้ปล่อยสารเคมีลงในแม่น้ำ ลำคลอง จนทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งผลให้ ทรัพยากรธรรมชาติ ลำน้ำ ผืนป่าเสียหาย มลภาวะเป็นพิษ มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของ ประชาชนในพื้นที่ และพื้นที่ป่าไม้ของอำเภอพนมสารคามก็ถูก ตดั ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก โดยไมม่ กี ารปลูกทดแทน การอนุรกั ษฟ์ ้นื ฟูทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ๑. การปลูกจิตสำนกึ ๑.๑ รณรงค์ประชาสมั พันธใ์ ห้ประชาชนเหน็ ความสำคัญ ตระหนกั ถึงคุณคา่ ของ ทรพั ยากรธรรมชาติ ร้จู กั หวงแหน รจู้ ักใช้อยา่ งมเี หตผุ ล รวมท้งั มีสว่ นร่วมในการดูแล ป้องกันและแก้ไข ปญั หา ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มในท้องถิน่ ของตน ๑.๒ สร้างแรงจูงใจ และยอมรบภมู ปิ ัญหาท้องถน่ิ ในการปอ้ งกนั สงวนรกั ษาระบบ นิเวศน์ ความหลากหลายทางชวี ภาพ ๑.๓ กระตน้ ใหท้ ้องถ่ินและชมชนใหค้ วามสำคัญ และมีสว่ นร่วมในการเฝ้าระวงั ปอ้ งกันและ แกไ้ ขปญั หาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม รวมทัง้ ระบบนิเวศน์ ๒. การบรหิ ารจดั การ ๒.๑ กำกบั ดูแลให้มีการใชป้ ระโยชน์ทดี่ นิ ให้เหมาะสมสอดคลอ้ งกับศกั ยภาพของพนื้ ที่ และรักษาดุลยภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ๒.๒ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการวางแผนจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของ เภอ

รวมทงั้ พัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศ เพ่ือการวางแผนจดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ของอำเภอ ๒.๓ พฒั นาและจดสร้างสวนสาธารณะในเขตเมืองและชมุ ชน เพื่อสร้างภมู ิทัศน์และ สง่ เสรมิ คณุ ภาพชวี ิตของคนในชมุ ชน ๒.๔ ส่งเสริมและสนบั สนนุ การจดั ตง้ั อาสาสมัครปอ้ งกันและเฝา้ ระวงั คุณภาพ สงิ่ แวดลอ้ ม ๒.๕ สง่ เสริมและสนับสนนุ ให้ประชาชน และชมุ ชนมีสว่ นในกระบวนการวางแผน ตัดสินใจ และตดิ ตามผลในทุกขนั้ ตอนโดยเฉพาะขัน้ ตอนการทำประชาวจิ ารณ์ ๓. การเฝ้าระวงั ป้องกนั และการฟน้ื ฟูสภาพแวดล้อม ๓.๑ พฒั นาและบูรณะเอกลักษณ์ของท้องถน่ิ ทีม่ ีอยูท่ างธรรมชาติ และทางวฒั นธรรม เชน่ โบราณสถาน เพอ่ื นรักษ์และสงวนไวเ้ ป็นแหลง่ ศึกษา และแหลง่ ท่องเทย่ี วอันน่าภาคภมู ใิ จ ๒.๒ จดสรา้ งระบบบูรณาการทำงานระหวา่ งหนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวข้อง ท้งั ฝ่ายตำรวจ ฝา่ ยปกครอง กํานนั ผู้ใหญ่บ้าน องคก์ รประชาชน มลู นิธิ อาสาสมคั ร ในการป้องกนั แก้ไขปัญหา อาชญากรรม การปอ้ งกันบรรเทาสาธารณภัยและอบตเิ หตุ เพื่อใหส้ ามารถปฏิบัติไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ รวดเร็วและเป็นธรรม ๒.๓ สง่ เสรมิ ให้หมู่บา้ น / ชุมชน มีสว่ นรว่ มในการป้องกนั และแก้ไขปัญหา อาชญากรรมในทุกพ้นื ที่ ตลอดจนปลกู จิตสํานกึ ของประชาชน ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ใหแ้ ก่ทาง งานราชการ ๒.๔ ปรับปรุงกระบวนการอาํ นวยความเปน็ ธรรมแกป่ ระชาชน การพัฒนาผนู้ ํา ชุมชนให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในการทำหน้าที่ไกลเ่ กลี่ย ประนปี ระนอมขอ้ พิพาทแกป่ ระชาชน ทั้งในคดี แพง่ และคดีอาญาทย่ี อมความได้ ๓๙

- ภาพรวมของบรบิ ทอำเภอ Context Map ๔๐

๒.๒ การกำหนดตำแหน่งการพัฒนาอำเภอ (Positioning) การกำหนดตำแหน่งการพัฒนาอำเภอพนมสารคาม “เปน็ แหล่งผลิตสินค้าทางการเกษตรส่งออก และม่งสูแ่ หลง่ อุตสาหกรรมท่ียงยนื ” ตารางวเิ คราะห์ตำแหน่งในการพัฒนาอำเภอ การวเิ คราะหแ์ ละการประเมนิ ผลรวม ความสำคัญ ความเรง่ ดว่ นใน ความเป็น ความเป็นไปได้ ความสอดคลอ้ ง คะแนนการ (๕) การดำเนนิ การ ประโยชนพ์ ้นื ท่ี ในการพัฒนา กบั สภาพของ วเิ คราะห์ (๕) (๕) (๕) จังหวดั และ (๕) ประเมิน ประเดน็ ศักยภาพ (๒๕) ๑.มีคลองท่าลาดไหลผา่ น ✓ ✓ ✓ ๑๕ ๒.เปน็ แหล่งผลติ สินค้า ทาง ✓ ✓ ✓ ✓ ๒๐ การเกษตร และมโี รงงาน ✓ ✓✓ ๑๕ อตุ สาหกรรม ๓.อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยมถี นนทางหลวงหลายเสน้ เดินทางสะดวกติดต่อหลาย จงั หวดั ๔.ผูน้ ําท้องท่ที อ้ งถิ่น และ ✓ ✓ ✓ ๑๕ ประชาชนมสี ่วนรว่ มและให้ การสนับสนนุ กจิ กรรมต่าง ๆ ประจำปี เปน็ อยา่ งดี ๕.ประชาชนในพนื้ ทท่ี ำ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ๒๕ การเกษตรเปน็ หลกั มพี ้ืนที่ การเกษตรหลากหลายท่ีมี ขนาดใหญใ่ นพนื้ ทอ่ี ำเภอ หมายเหตุ: การวเิ คราะห์และประเมินศักยภาพของพ้ืนท่ีในแต่ละข้อจะต้องมีข้อเท็จจรงิ และหลักฐานรองรับ โดย ค่าคะแนน ๒๑ - ๒๕ หมายถึง ประเด็นศักยภาพที่เป็นปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ (Key Success Factors) ของอำเภอ ต้องใช้แผนยุทธศาสตร์ในการพฒั นาให้เปลย่ี นแปลงเตบิ โตสูอ่ นาคต ค่าคะแนน ๑๖ - ๒๐ หมายถึง ประเด็นศักยภาพที่เป็นปัจจัยความสำเร็จ (Success Factors) ของ อำเภอ ซ่งึ สามารถใช้กลไกของอำเภอในการพัฒนาและดำเนนิ การได้ ค่าคะแนน ๑๑ - ๑๕ หมายถึง ประเด็นศักยภาพที่เป็นประเด็น (Factors) ของอำเภอ ซึ่งสามารถใช้ เพียงกลไก การทำงำนประจำ ของอำเภอ (Function) ในการพัฒนาและดำเนนิ การได้ ค่าคะแนนนอ้ ยกว่า ๑๐ หมายถึง ไมม่ ีนัยยะในการพฒั นา ๔๑

๒.๓ การประเมนิ ศกั ยภาพทางยทุ ธศาสตร์ของพน้ื ท่ีอำเภอ (SWOT Analysis) จดุ แขง็ (Strengths) โอกาส ( Opportunities) ๑. มีพ้นื ที่เหมาะต่อการทำเกษตรกรรม ๑. ทุกภาคส่วนการสนับสนุนทั้งด้านงบประมาณและด้าน ๒. มีโครงการพระราชดาํ รใิ นพ้ืนท่ี วชิ าการ ๓. มีทดี่ นิ มากเพยี งพอสำหรบั ทำการเกษตร ๒. มีแหล่งรับซื้อสินค้าทางการเกษตรในจังหวัดและพื้นที่ ๔. มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสามารถติดต่อได้หลาย ใกล้เคียง จังหวดั ๓. มเี ส้นทางคมนาคมติดต่อกับหลายจังหวัดสามารถอํานวย ๕. มโี รงงานอตุ สาหกรรมในพ้ืนท่ี ความสะดวกในการ ๖. บุคลากรมอี งคค์ วามรู้ทางด้านการเกษตร ขนส่งสนิ ค้าอุตสาหกรรมและสินค้าทางการเกษตร ๗. มีการเรยี นร้ตู าํ มโครงการเกษตรพระราชดาํ ริ ๔. มีการสนบั สนนุ ในการแปรรปู สนิ คา้ ทางการเกษตร ๘. มภี มู ิปญั ญาท้องถ่นิ ทหี่ ลากหลาย จุดอ่อน (Weaknesses) ภัยคกุ คาม (Threats) ๑. ประสบกบปัญหาภยั ธรรมชาตแิ ละโรคระบาด ๑. ขาดแหลง่ นำ้ และระบบชลประทานทเี่ พยี งพอ ๒. ขาดการประกนั สินค้าทางการเกษตร ๒. ตน้ ทนการผลิตสินค้าทางการเกษตรมรี าคาสงู ๓. ผลผลิตสินค้าทางการเกษตรมีราคาไม่แน่นอนและมี ๓. ทรัพยากรธรรมชาติดินและนำ้ าเส่อื มโทรม ความแปรปรวนสง ๔. ขาดทกั ษะในการพฒั นาด้านอาชีพและดา้ นการตลาด ๔. มกี ารใช้สารเคมใี นผลผลิตทางการเกษตรมาก ๕. ไม่มีการรวมกลุ่มเพื่อประสานงานในเรืองราคาผลผลิต ๕. มกี ารขยายตวั ของภาคอตุ สาหกรรมในพื้นท่ี สนิ ค้าการเกษตร ๖. ผู้ผลิตจำหน่ายปุ๋ยและยกัดจัดศัตรูพืชมีอำนาจในการ ๖. ประชากรแฝง ทำให้ขาดความปลอดภัยในชีวิตและ ต่อรองราคาสูง ทรพั ย์สิน ๗. เส้นทางคมนาคมในพน้ื ทอี่ ำเภอขาดการบำรุงรกั ษา ๘. มปี ัญหายาเสพติดในพื้นที่ ๔๒

๒.๔ การวเิ คราะห์ทิศทางการพฒั นายุทธศาสตรก์ ารพฒั นาพื้นที่อำเภอ (TOWS Matrix) ปจั จยั ภายใน จุดแขง็ (Strengths) จุดออ่ น (Weaknesses) s๑. มพี ้ืนทเ่ี หมาะตอ่ การทำเกษตรกรรม w๑. ขาดแหล่งน้ำและระบบชลประทานท่ี ปัจจยั ภายนอก s๒. มโี ครงการพระราชดาํ ริในพืน้ ท่ี เพยี งพอ s๓. มที ดี่ ินมกกเพยี งพอสำหรบั ทำ w๒. ตน้ ทนุ การผลิตสินค้าทางการเกษตรมี โอกาส(Opportunities) การเกษตร ราคาสงู o๑. ทุกภาคส่วนการสนับสนนุ ทงั้ ด้าน s๔. มีเสน้ ทางคมนําคมที่สะดวกสามารถ w๓. ทรัพยากรธรรมชาตดิ นิ และน้ำเสือ่ มโทรม งบประมาณและด้านวชิ าการ ติดตอ่ ได้หลายจงั หวดั w๔. ขาดทักษะในการพฒั นาด้านอาชพี และ o๒. มแี หลง่ รังซือ้ สนิ คา้ ทางการเกษตรใน s๕. มีโรงงานอุตสาหกรรมในพน้ื ท่ี ด้านการตลาด จังหวัดและพ้นื ทใี่ กล้เคียง s๖. บคุ ลากรมอี งค์ความรู้ทางดา้ นการเกษตร w๕. ไม่มีการรวมกลุม่ เพอ่ื ประสานงานในเรอื ง o๓. มเี ส้นทางคมนาคมติดตอ่ กับหลาย s๗. มีการเรยี นรู้ตาํ มโครงการเกษตรพระรําช ราคาผลผลิตสนิ คา้ การเกษตร จงั หวัดสามารถอำนวยความสะดวกใน การ ดาํ ริ w๖. ขาดความปลอดภยั ในชวี ิตและทรัพยส์ ิน ขนสง่ สินค้าทาง s๘. มีภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่นทีห่ ลากหลาย w๗. เส้นทางคมนาคมในพ้นื ที่อำเภอขาดการ การเกษตร บำรุงรกั ษา o๔. มีการสนับสนนุ ในการแปรรูปสินค้า ทาง SO : กลยุทธเ์ ชิงรุก w๘. มปี ญั หายาเสพติดในพ้นื ท่ี การเกษตร (ใชค้ วามเขม้ แข็งจากภายในแสวงประโยชน์ จากโอกาสภายนอก) WO : กลยทุ ธเ์ ชิงเชิงแก้ไข ภยั คกุ คาม (Theat) ๑) คมนาคมสะดวก (ขจดั ความออ่ นแอภายในโดยฉวยประโยชน์ T๑. ประสบกบปญั หาภัยธรรมชาตแิ ละโรค ๒) สง่ สินคา้ ทางการเกษตรไดร้ วดเร็ว จากโอกาสภายนอก) ระบาด ๓) ส่งเสริมแหล่งอตสาหกรรม ฯลฯ ๑) ปอ้ งกนปญั หายาํ เสพติด T๒. ขาดการประกนั สินคา้ ทางการเกษตร ๒) ซอ่ มแซมถนน T๓. ผลผลิตสินคา้ ทางการเกษตรมรี าคาไม่ ST : กลยทุ ธเ์ ชงิ ป้องกัน ๓) ขดลอกคคลอง แน่นอนและมีความแปรปรวนสงู (ใช้ความเขม้ แขง็ ภายในหลีกเลี่ยงสงิ่ กดี ขวาง ฯลฯ T๔. มกี ารใชส้ ารเคมีในผลผลิตทาง ภายนอก) การเกษตรมาก ๑)ปอ้ งกนั นำ้ เสียโดยร่วมมอื กนในทง้ั WT : กลยทุ ธ์เชิงรบั T๕. มกี ารขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมใน ภาครฐั ภาคเอกชนและภาคประชาชน (ลดความอ่อนแอภายในและหลีกเลยี งสงิ กดี พืน้ ที่ ๒) สร้างจติ สำนึกในการรักษาสิง่ แวดลอ้ ม ขวางภายนอก) T๖. ผูผ้ ลติ จำหน่ายปยุ๋ และยากาํ จัดศตั รูพืช ๓) พัฒนาแหลง่ น้ำในพนื้ ท่ี ฯลฯ ๑) ส่งเสริมการดำเนินชวี ติ ตามแนวเศรษฐกจิ มอี ำนาจในการตอ่ รองราคาสงู พอเพยี ง ๒) พัฒนาระบบการใชน้ ำ้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๓) สร้างความรคู้ วามเข้าใจเกย่ี วกับการรักษา สิง่ แวดลอ้ ม ฯลฯ ๔๓

๒.๕ การกำหนดกา้ วยาง ๓ ระยะ (๓ Horizons) ๔๔

สว่ นท่ี ๓ ขอ้ มูลยุทธศาสตร์แผนพฒั นาอำเภอ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ - ๒๕๖๕) องค์ประกอบ ๓.๑ เป้าหมายการพัฒนาอำเภอ (วิสยั ทัศนอ์ ำเภอ) ๓.๒ พนั ธกจิ ๓.๓ วตั ถปุ ระสงค์ (เปา้ หมายรวม) ๓.๔ ประเดน็ การพัฒนาอำเภอ (ประเด็นยุทธศาสตร์) ๓.๕ เป้าหมายเชงิ ยุทธศาตร์ ตวั ชว้ี ดั คา่ เป้าหมาย ๔๕

๓.๑ วิสัยทัศนอ์ ำเภอพนมสารคาม “เกษตรปลอดภยั ชีวิตสดใส ใสใ่ จสิ่งแวดล้อม พร้อมเข้าสปู่ ระชาคมอาเซยี น” ๓.๒ พนั ธกิจอำเภอพนมสารคาม ๑. สง่ เสริมพฒั นา ปรับปรุงแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วและสงิ่ แวดลอ้ ม ๒. ปรุบปรงั เส้นทางคมนาคมขนสง่ ทง้ั ทางน้ำาและทางบก ๓. บริหารจดการทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มและสุขภาพชวี ติ ของประชาชน ๔. สง่ เสริมการบริหารกจิ การบ้านเมืองทด่ี ี และการมสี ว่ นร่วมของประชาชน ๕. รกั ษาความสงบเรียบรอ้ ยและความปลอดภยั ของสงั คมและการแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ๖. ขับเคล่ือนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติ ๗. อนุรกั ษแ์ ละฟ้ืนฟปู ระเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม ๘. บูรณาการทุกภาคสว่ นในการพฒั นาและแก้ไขปญั หาในพื้นท่ี ๓.๓ วัตถปุ ระสงค์ (เป้าประสงคร์ วม) “ประชําชนอำเภอพนมสารคามมีความสุขตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง อย่างสร้างสรรค์” ๓.๔ ประเด็นยุทธศ์ าสตร์ ประเด็นยทุ ธศาสตร์ท่ี ๑: เพ่มิ ขีดความสามารถการแขง่ ขนั ของภาคอสุ าหกรรมและพาณชิ ย์กรรมรองรบ AEC และ ตลาดโลก ประเด็นยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๒: เพิ่มประสิทธภิ าพและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสนิ ค้าเกษตรปลอดภัย ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี ๓: พฒั นาการท่องเท่ยี วเชงิ นิเวศและวัฒนธรรมให้ได้มาตรฐานสากล ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ี่ ๔: สง่ เสริมการบรหิ ารจดั การทรัพยากรธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ มใหส้ มดล ประเด็นยทุ ธศาสตร์ท่ี ๕: พฒั นาทนุ ทางสังคมและความมนั่ คงสู่สังคมเปน็ สขุ ๔๖

๓.๕ เปา้ หมายเชงิ ยุทธศาสตรต์ วั ชีว้ ดั คา่ เป้าหมาย ประเด็นยุทธศาสตร์ ที่ ๑ เพ่ิมขดี ความสามารถการแข่งขันของภาคอุสาหกรรมและพาณิชยก์ รรม รองรับ AEC และตลาดโลก เป้าประสงค์ อุตสาหกรรมและพานิชยกรรมมีความเจริญเติบโตและชุมชนสามารถอยรู่ ่วมกัน โดยไม่มี ปัญหาส่งิ แวดล้อม กลยุทธ์ ๑. พฒั นาระบบโครงสรา้ งพื้นฐานรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและพาณชิ ยกรรมเพือ่ เตรยี ม เขา้ สู่ AEC ๒. ส่งเสรมิ เทคโนโลยกี ารผลิตทเี่ ป็นมิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม พฒั นาฝมี ือแรงานและสร้างนวตั กรรมสนิ คา้ อตุ สาหกรรมใหไ้ ด้มาตรฐาน ๓. สง่ เสริมความรว่ มมอื ระหว่างภาคอุตสาหกรรมและชุมชน ตัวชี้วดั ๑.ร้อยละของจำนวนโครงสรา้ งพ้นื ฐานท่ีไดร้ บั การปรับปรุงเพือ่ รองรับภาคอุตสาหกรรมและพานชิ ยก รรมเพมิ่ ขึ้น (ร้อยละ ๕) ๒. รอ้ ยละของจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมทีร่ ่วมกบั ภาครฐั ในการรักษา ส่งิ แวดล้อม ที่เพิ่มข้ึน (ร้อยละ ๓) ๓. รอ้ ยละของแรงงานที่ไดร้ บั การพฒั นาฝมี ือแรงงาน (ร้อยละ ๕) ค่าเป้าหมาย ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ ๖๐ % ๗๐ % ๘๐ % ๙๐ % ๘๕ % ประเด็นยทุ ธศ์ าสตร์ที่ ๒ เพิ่มประสทิ ธภิ าพและยกระดับขีดความสามารถในการแขง่ ขันของสินค้า ๔๗ เกษตรปลอดภัย เปา้ ประสงค์ เพิ่มผลผลติ ทางการเกษตรทมี่ ีคุณภาพ ไดม้ าตรฐานและสามารถแขง่ ขันได้ กลยทุ ธ์ ๑. พฒั นาและปรับปรุงโครงสรา้ งพนื้ ฐานทางการเกษตร ๒. พัฒนา เพม่ิ ผลผลิต แปรปรสู ินค้าเกษตรและผลติ ภณั ฑ์ OTOP ใหไ้ ด้มาตรฐานและปลอดภัย คิดคน้ ผลติ ภัณฑ์ใหมู่ใหส้ ร้างมลู คา่ เพิม่ ๓. ส่งเสริมภาพลักษณ์ และช่องทางการตลาดสนิ ค้าเกษตรและ OTOP ของจังหวัด ที่มีความ หลากหลาย ๔. สง่ เสรมิ เกษตรกรและสถาบนั เกษตรกรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งและ โครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดำริเพอื่ เพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต

ตวั ช้ีวัด ๑. รอ้ ยละจำนวนแปลง/ฟาร์มทผ่ี ่านมาตรฐาน (ร้อยละ ๓) ๒. ร้อยละของการลดตน้ ทนุ การผลติ (ร้อยละ ๓) ๓. จำนวนพนื้ ทเี่ กษตรที่ได้รบั ประโยชน์ (รอ้ ยละ ๓) ค่าเป้าหมาย ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ ๙๐ % ๙๕ % ๖๐ % ๗๐ % ๘๐ % ประเด็นยทุ ธศ์ าสตรท์ ่ี ๓ พัฒนาการทอ่ งเทีย่ งเชงิ นเิ วศและวฒั นธรรมให้ไดม้ าตรฐานสากล เปา้ ประสงค์ พฒั นาทรัพยากรท่องเทีย่ วเชงิ นิเวศ วฒั นธรรมและชุมชนใหไ้ ดม้ าตรฐาน กลยทุ ธุ์ ๑. พฒั นาแหล่งทอ่ งเท่ียวและการบริการให้ไดม้ าตรฐาน โดยการมีส่วนรว่ มของชุมชน ๒. ส่งเสริมการตลาดและการประชาสมั พนั ธท์ ่องเที่ยว ๓. ส่งเสริมการผลติ และการจำหนา่ ยสนิ ค้าทีร่ ะลึกจากการทอ่ งเท่ียว ๔. สรา้ ง ส่งเสรมิ และพฒั นาบุคลากรดา้ นการท่องเทย่ี ว ตัวชว้ี ดั ๑. รอ้ ยละทเ่ี พ่ิมขึน้ ของจำนวนนักทอ่ งเท่ียวและนักทัศนาจรที่เพมิ่ ข้นึ (ร้อยละ ๕) ๒. ร้อยละของรายไดจ้ ากนกั ท่องเทย่ี วที่เพ่มิ ขึ้น (รอ้ ยละ ๕) ๓. รอ้ ยละของความพึงพอใจของนักท่องเท่ียวและนกั ทัศนาจรท่เี พ่มิ ขน้ึ (ร้อยละ ๕) ๔. จำนวนทเ่ี พม่ิ ขึน้ ของนักพัฒนาแหลง่ ท่องเท่ยี วใหมู่/ผลิตภณั ฑท์ ่องเที่ยวรูปแบบใหมู่ สนิ ค้า OTOP (๑แห่งตอ่ ปี) คา่ เป้าหมาย ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ ๖๐ % ๗๐ % ๘๐ % ๙๐ % ๙๕ % ๔๘

ประเดน็ ยุทธ์ศาสตร์ที่ ๔ ส่งเสรมิ การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติสง่ิ แวดล้อมใหส้ มดลุ เปา้ ประสงค์ ทรัพยากรธรรมชาติสง่ิ แวดล้อมไดร้ ับการสงวนรักษาไวใ้ ช้ประโยชน์อยา่ งเหมาะสม และสมดลุ ย่ังยนื กลยุทธ์ ๑. บูรณะฟน้ื ฟู คู คลองแม่นำ้ และชายฝัง่ ทะเลไม่ใหเ้ ส่ือมโทรมมากกวา่ ท่เี ป็นอยู่ ๒. สง่ เสริมจิตสำนกึ ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ๓. สง่ เสรมิ สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีสว่ นร่วมในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ ตัวช้ีวดั ๑. ปรมิ าณนำ้ ท่กี ักเกบ็ ไดห้ รอื จำนวนแหลง่ นำ้ เพิ่มขน้ึ (๓แห่ง) ๒. จำนวนพื้นท่ีทไ่ี ด้รบั การปรับปรุงและรกั ษาคุณภาพสง่ิ แวดลอ้ ม (๒แห่ง) ๓. รอ้ ยละของจำนวนพื้นทป่ี ่าทีค่ งอยู่ ( ๒ ) ๔. ร้อยละทลี่ ดลงต่อไปของมลพษิ ทางน้ำทีเ่ กินมาตรฐานจำแนกตามพืน้ ที่ ( ๒ ) ค่าเปา้ หมาย ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ ๖๐ % ๗๐ % ๘๐ % ๙๐ % ๙๕ % ประเด็นยุทธ์ศาสตรท์ ่ี ๕ พัฒนาทุนทางสังคมและความม่ันคงสู่สงั คมเป็นสุข เป้าประสงค์ ประชาชน ครอบครวั และชมุ ชน มีการศึกษา คุณภาพชวี ิตที่ดี มีความมัน่ คง ปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ นิ สงั คมอยู่เยน็ เป็นสขุ กลยทุ ธ์ ๑. พัฒนาระบบบริหารจัดการป้องกันปราบปราม บำบัด ฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติด ผู้ค้ายาเสพติด ที่มี ประสิทธิภาพ ๒. ส่งเสริมให้ความรู้ และเสริมสร้างเครือข่ายในด้ำนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ ประชาชน/ชมุ ชน ๓. สง่ เสริมโอกาสของประชาชนในการเข้าถึงการศึกษา ความรู้ อาชพี สขุ ภาพ และถา่ ยทอดความรู้ ภูมิปัญญาท้องถนิ่ เพอ่ื การดำรงชีวิตที่ดี ๔. ส่งเสริมการมสี ่วนร่วมและปลุกจติ อาสาของประชาชน/องคก์ รภาคเอกชน/ภาคประชาชนในสงั คม ทกุ ภาคสว่ นมคี วามสมานฉนั ท์ และประชาธปิ ไตย ๔๙

ตัวชวี้ ัด ๑. สดั ส่วนจำนวนผ้เู สพ/ผตู้ ิดยาเสพตดิ ไมเ่ กนิ ๓ คนต่อ ๑,๐๐๐ คน ๒. รอ้ ยละของจำนวนผกู้ ระทำผดิ ลดลง (คดอี ุกฉกรรจ์) (ร้อยละ ๓) ๓. ร้อยละของหญงิ ต้ังครรภก์ ่อนวัยอนั ควร (อายุต่ำกว่า๒๐ ปี) ลดลงไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๑๐ ๔. อัตราปว่ ยและตายของปญั หาโรคท่เี ป็นปัญหาสาธารณสุขในพ้นื ทีล่ ดลง ๕. ร้อยละของครวั เรอื นยากจนตามเกณฑ์ จปฐ. ลดลง ร้อยละ ๑๐ ค่าเปา้ หมาย ปี ๒๕๖๑ ปี ๒๕๖๒ ปี ๒๕๖๓ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ ๖๐ % ๗๐ % ๘๐ % ๙๐ % ๙๕ % ๕๐