แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคานวณ 2 รหัสวชิ า ว32103 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 / ผู้สอน นางสาวหทัยชนก ตระกูลจาลอง ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ชานาญการ โรงเรยี นพระบางวทิ ยา อาเภอเมอื งนครสวรรค์ จงั หวดั นครสวรรค์ สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษานครสวรรค์
แผนการจดั การเรียนรู้ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 โรงเรยี นพระบางวิทยา รายวิชา วทิ ยาการคานวณ 2 รหสั วิชา ว32103 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวนคาบ 1 คาบ/สัปดาห์ จานวน 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น ชื่อครูผสู้ อน นางสาวหทยั ชนก ตระกลู จาลอง กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระฯ ความเหน็ ของกลุ่มบริหารวชิ าการ ได้ตรวจสอบแล้วเห็นวา่ ถกู ต้องและเหมาะสม เหน็ สมควรให้จดั การเรียนรู้ตามแผนนีไ้ ด้ ลงชอ่ื ลงชื่อ (นายภคพล ศรพี ลอย) (นางสาวกมลรตั น์ อนงคณะศักด์ิ) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผชู้ ว่ ยผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ วนั ที่ ……….… เดอื น ………..…….….. พ.ศ. ………..…… วนั ที่ ……….… เดือน ………..…….….. พ.ศ. ………..…… ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา อนญุ าตใหใ้ ชส้ อนตามแผนการสอนนไ้ี ด้ ลงชอ่ื (นายอทิ ธริ ัฐ น้อยเกดิ ) ผอู้ านวยการโรงเรยี นพระบางวิทยา วันที่ ........ เดอื น .................... พ.ศ. ..........
ตารางวเิ คราะหแ์ ผนการจดั การเรยี นรูร้ ายชั่วโมงกับมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วดั รายวิชาพืน้ ฐาน วิทยาการคานวณ 2 รหสั วชิ า ว32103 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชว้ี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี ว 4.2 แผนการจดั การเรยี นรู้ ม.5/1 ✓ ข้อมูลมีคุณค่า การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และสารวจขอ้ มูล ✓ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู การทาข้อมลู ใหเ้ ป็นภาพ ✓ สรุป ✓ ✓
โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ าพน้ื ฐาน วทิ ยาการคานวณ 2 รหัสวชิ า ว32103 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 20 ชั่วโมง ลาดับ ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ที่ การเรยี นร้/ู ตวั ชวี้ ดั (ชวั่ โมง) คะแนน 1 ขอ้ มูลมคี ณุ ค่า ว 4.2 ม.5/1 วทิ ยาการขอ้ มลู เป็นศาสตร์ทม่ี ไี วจ้ ดั การ จัดเกบ็ 4 รวบรวม ตรวจสอบ ประมวลผล วเิ คราะหผ์ ล และ นาเสนอผลของการวิเคราะห์ข้อมลู หรือแปลงขอ้ มูล เพ่ือ นาไปสู่การค้นหาความร้ทู ซ่ี ่อนอยใู่ นขอ้ มลู ซ่ึงขอ้ มูลใน ปจั จุบันมีความหลากหลายและมปี ริมาณมาก ดงั น้นั จงึ ตอ้ งมีการจัดเก็บและประมวลผลอยา่ งมีประสทิ ธิภาพกอ่ น นาไปใชป้ ระโยชน์ ซ่งึ กระบวนเหลา่ น้จี ะถูกเรยี กว่า Big Data 2 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ว 4.2 ม.5/1 การสารวจขอ้ มลู (data exploration) เปน็ การ 4 และ ทาความเขา้ ใจเพือ่ พิจารณาภาพรวมของขอ้ มลู โดยอาจใช้ สารวจขอ้ มลู แผนภาพ หรือกราฟของข้อมูลในรูปแบบตา่ งๆ ระหว่าง การสารวจ อาจจะพบข้อผดิ พลาดหรอื ปญั หาอนื่ ๆ จาก การตั้งคาถาม หรือการรวบรวมขอ้ มูล ซ่ึงทาให้ต้องกลบั ไป ดาเนินการแกไ้ ขให้ถกู ต้อง เครื่องมอื ท่ใี ช้ในการสารวจ ข้อมูลอาจใช้โปรแกรมสาเร็จรปู หรอื การเขียนโปรแกรม ภาษา การประมวลผลข้อมลู เปน็ กระบวนการตา่ งๆ ท่ี 3 การวิเคราะหข์ ้อมลู ว 4.2 ม.5/1 กระทากับข้อมูลเพื่อใหไ้ ดผ้ ลลัพธ์ท่ีสามารถนาไปใช้ประโยชน์ 4 ได้ ซึ่งขัน้ ตอนการประมวลผลข้อมลู เปน็ พ้นื ฐานทีส่ ามารถ นาไปใชป้ ระยุกต์ใช้กับเทคโนโลยกี ารบรหิ ารหรอื การ วิเคราะหข์ ้อมลู ต่าง ๆ โดยมขี นั้ ตอนเบอ้ื งต้น 6 ขั้นตอน ได้แก่ การทาความเขา้ ใจวตั ถุประสงคข์ องการประมวลผล ขอ้ มลู การเก็บรวบรวมข้อมูล การเตรียมข้อมลู การ ประมวลผลข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มลู ทางสถติ ิ และการทา ข้อมูลใหเ้ ป็นภาพ กระบวนการทาข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพ เป็นการจัดการ 4 การทาขอ้ มลู ว 4.2 ม.5/1 หรือการแปลงข้อมูลให้อยใู่ นรปู ของแผนภาพ แผนภมู ิ หรือ 6 กราฟทีเ่ หมาะสมกับชดุ ข้อมลู ท่ตี ้องการนาเสนอ โดยสามารถ ให้เปน็ ภาพ เลือกใชต้ ัวแปรในการมองเหน็ ท่ที าให้ผรู้ ับสารเขา้ ใจถูกต้อง ตรงประเดน็ ชัดเจน และดึงดูดความสนใจ สอบกลางภาค 1 สอบปลายภาค 1 รวม 20
การวิเคราะห์หลกั สูตร รายวชิ าพืน้ ฐาน วิทยาการคานวณ 2 รหัสวชิ า ว32103 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 เวลา 20 ชั่วโมง หน่วยการ สาระการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ เจตคติ เรียนรทู้ ี่ (K) (P) (A) วิทยาการข้อมูล 1. อธิบายองค์ความรูส้ าหรบั วิทยาการข้อมูลไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ✓ 1. และกระบวนการ 2. เขยี นกระบวนการของวิทยาการข้อมูลได้อยา่ งถกู ต้อง ✓ ขอ้ มูล ✓ มีคณุ ค่า วิทยาการข้อมลู 3. เห็นความสาคัญขององค์ความรู้สาหรับวิทยาการข้อมลู ✓ ✓ แนวคดิ เชิง 1. อธบิ ายหลกั การของแนวคิดเชงิ ออกแบบ ✓ ออกแบบ 2. ประยกุ ต์การคดิ เชงิ ออกแบบกบั วิทยาการขอ้ มลู ในการแกป้ ัญหา 3. เหน็ ความสาคญั ของแนวคิดเชงิ ออกแบบในการแกป้ ัญหา 1. รวบรวมขอ้ มูลทุตยิ ภมู ติ ามวตั ถปุ ระสงค์ ✓ 2. การเก็บรวบรวม 2. เลอื กแหลง่ ข้อมูลสาธารณะทเี่ ชือ่ ถอื ได้ ✓ การเก็บ ข้อมูล 3. จดั เตรียมข้อมูลก่อนการประมวลผล ✓ รวบรวม 4. เห็นประโยชน์ของการวิเคราะห์ข้อมลู ✓ ข้อมูลและ การสารวจ 1. สารวจข้อมูลเพื่อทาความเข้าใจ รูปแบบ ความสัมพันธ์ ✓ สารวจ ขอ้ มลู และผลลัพธเ์ ชงิ พรรณนาเบื้องตน้ เก่ยี วกบั ข้อมลู ขอ้ มูล ✓ 2. เลอื กใช้เคร่ืองมือในการสารวจข้อมูลตามความถนัด ✓ 3. เห็นประโยชนข์ องการสารวจข้อมูล 1. อธบิ ายหลักการวิเคราะห์ข้อมลู เชงิ พรรณนา ✓ การวิเคราะห์ 2. เลอื กใชค้ ่าสถติ ทิ ีเ่ หมาะสมในการวิเคราะหข์ อ้ มลู เชงิ พรรณนา ✓ เชิงพรรณนา ✓ 3. ใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รูป หรือโปรแกรมภาษาเพอ่ื วิเคราะหข์ ้อมลู เชงิ พรรณนา ✓ 4. อธิบายผลการวเิ คราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา 3. 5. เห็นประโยชน์ของการวิเคราะห์ข้อมูลเชงิ พรรณนา ✓ การ 1. อธิบายหลกั การวิเคราะห์ข้อมูลเชงิ ทานายโดยใช้ตัวเลข ✓ วิเคราะห์ 2. ทานายค่าโดยใช้สมการเชงิ เส้น และคานวณค่าความ ✓ ข้อมูล การวเิ คราะห์ คลาดเคลือ่ นในการทานาย เชิงทานาย 3. ใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รปู หรือโปรแกรมภาษาในการทานาย ✓ เชงิ ตัวเลข 4. อธบิ ายผลการทานายเชงิ ตัวเลข ✓ 5. เห็นประโยชน์ของการวเิ คราะห์ข้อมลู เชงิ ทานาย ✓
การวิเคราะห์หลกั สตู ร รายวชิ าพ้ืนฐาน วิทยาการคานวณ 2 รหัสวิชา ว32103 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 20 ชั่วโมง หนว่ ยการ สาระการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ความรู้ ทักษะ เจตคติ เรยี นรู้ท่ี (K) (P) (A) การทาข้อมลู ให้ 1. อธบิ ายหลักการและจดุ ประสงค์ของการทาข้อมูล ✓ 4. เป็นภาพ ใหเ้ ปน็ ภาพ การทา 2. เลือกใช้วธิ ีการทาข้อมูลใหเ้ ป็นภาพได้อยา่ งเหมาะสม ✓ ขอ้ มูลให้ 3. เห็นความสาคญั ของการทาข้อมูลให้เป็นภาพ ✓ เปน็ ภาพ ในการนาเสนองาน
คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ว32103 วิทยาการคานวณ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และเทคโนโลยีสารสนเทศกับการดาเนินชีวิต เทคโนโลยีการจัดการข้อมูล ข้อมูล ฐานข้อมูล คลังข้อมูล การทาเหมืองข้อมูล ประมวลผลข้อมูล วิทยาการ ขอ้ มลู ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ การวเิ คราะหข์ ้อมูล วทิ ยาการข้อมลู โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning) และการเรียนรู้ แบบใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-based Learning) เพอ่ื เนน้ ใหผ้ ู้เรียนไดล้ งมอื ปฏิบัติ ฝึกทกั ษะการคดิ เผชิญ สถานการณ์การแก้ปัญหาวางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และนาเสนอผ่านการทากิจกรรมโครงงาน เพ่ือให้เกิดทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการวิเคราะห์โจทย์ปัญหา จนสามารถนาเอาแนวคิดเชิง คานวณมาประยกุ ตใ์ ช้ในการสรา้ งโครงงานได้ เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร เพอ่ื รวบรวมขอ้ มลู ในชีวติ จรงิ จากแหล่งต่างๆ และความรจู้ ากศาสตรอ์ ่นื มาประยุกต์ใช้ สร้างความรู้ ใหม่ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิต อาชีพ สังคม วัฒนธรรม และใช้อย่าง ปลอดภัยมีจริยธรรม ตลอดจนนาความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อสังคมและการดารงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และการจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์ รหัสตัวช้ีวดั ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใชค้ วามรดู้ า้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทลั เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ญั หา หรอื เพ่ิมมลู ค่าให้กับบรกิ ารหรอื ผลิตภณั ฑ์ทใี่ ชใ้ นชวี ิตจริงอยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมท้ังหมด 1 ตวั ช้ีวดั
การวิเคราะห์หลกั สตู ร รายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาการคานวณ 2 รหัสวชิ า ว32103 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 20 ชั่วโมง สัปดาหท์ ่ี แผนท่ี เรื่อง เวลา (คาบ) หน่วยท่ี 1 ข้อมูลมคี ณุ ค่า 1-2 1 วิทยาการข้อมลู และกระบวนการวิทยาการขอ้ มูล 2 3-4 2 แนวคดิ เชิงออกแบบ 2 หน่วยท่ี 2 การเก็บรวบรวมข้อมูลและสารวจข้อมลู 5-6 3 การเก็บรวบรวมข้อมลู 2 7-8 4 การสารวจขอ้ มลู 2 หนว่ ยที่ 3 การวเิ คราะห์ข้อมูล 9-10 5 การวเิ คราะหเ์ ชิงพรรณนา 2 11 สอบกลางภาคเรียน 1 12-13 6 การวเิ คราะหเ์ ชงิ ทานาย 2 หนว่ ยที่ 4 การทาขอ้ มูลให้เปน็ ภาพ 14-19 7 การทาข้อมลู ให้เป็นภาพ 6 20 สอบปลายภาคเรยี น 1 รวม 20
การวัดและประเมนิ ผลการเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาการคานวณ 2 รหัสวชิ า ว32103 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 20 ช่ัวโมง 1. อตั ราส่วนคะแนนระหวา่ งภาคเรียน : ปลายภาคเรียน = 80 : 20 2. คะแนนระหว่างภาคเรียน 80 คะแนน ดงั น้ี 2.1 คะแนนผลการเรยี นรู้ กอ่ นวัดผลกลางภาคเรียน 30 คะแนน ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม.5/1 รวม (ก่อนกลางภาค) คะแนน 30 30 2.2 คะแนนวัดผลการเรยี นรู้กลางภาคเรยี น 20 คะแนน รวม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ม.5/1 20 (กลางภาค) คะแนน 20 2.3 คะแนนผลการเรยี นรู้ หลังกลางภาคเรียน 30 คะแนน รวม ตัวชว้ี ดั ว 4.2 ม.5/1 30 (หลงั กลางภาค) คะแนน 30 2.4 คะแนนวดั ผลปลายภาคเรยี น ว 4.2 ม.5/1 20 คะแนน 20 รวม ตวั ชี้วัด 20 (หลังกลางภาค) คะแนน
การประเมนิ ผลการเรียน รายวิชาพื้นฐาน วทิ ยาการคานวณ 2 รหสั วิชา ว32103 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 20 ชั่วโมง 1. รายละเอียดการประเมนิ 1.1 การประเมนิ สภาพจริง 60 คะแนน 1.2 คะแนนสอบกลางภาค 20 คะแนน 1.3 คะแนนสอบปลายภาค 20 คะแนน 2. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มงุ่ พฒั นาผเู้ รียนแบบองคร์ วมเพอ่ื ให้เป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ มีทกั ษะในการแกป้ ัญหาใน การทางาน การแสวงหาความรู้ มคี วามคิดรเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ มีความคดิ เป็นระบบ รจู้ กั ใชเ้ หตุผล ใช้เทคโนโลยี และเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสทิ ธภิ าพ สามารถทางานอยา่ งมกี ลยทุ ธ์ มคี วามรบั ผดิ ชอบ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ใฝ่รู้ รกั การทางาน ประหยดั อดออม ตรงตอ่ เวลา เสยี สละ เอ้ือเฟื้อ และมวี นิ ยั เห็นคุณค่าความสาคัญของงานและอาชีพสุจริต ตระหนักถึงความสาคญั ของเทคโนโลยี สารสนเทศ การอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดลอ้ ม และพลงั งาน 3. เกณฑ์การประเมิน กาหนดการประเมินผลงานตามใบงาน 1. วดั ผลความรู้ 40 % (K Knowledge) 2. ผลงานท่ีปฏบิ ัติกจิ กรรม 40 % (P Preformance) 3. จติ พิสัย 20% (A Attitude) 3.1 ความรับผดิ ชอบ 3.2 การตรงต่อเวลา 3.3 ความสนใจ 3.4 การดูแลรกั ษาอุปกรณ์
รายวิชา วทิ ยาการคานวณ 2 การวเิ คราะห์ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5/1 เวลา 1 ชวั่ โมง / สัปดาห์ รหสั วชิ า ว32103 จานวน 0.5 หนว่ ยกติ รวม 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน เก่ง ปานกลาง ออ่ น เลขท่ี เลขประจาตวั คานาหน้า ชอ่ื -นามสกุล 1 07657 นาย เจษฎา สขุ รนิ 2 07697 นาย พสั ภพ แรงเขตกจิ 3 07708 นาย รชั ดล สรอ้ ยทับทมิ 4 08353 นาย ฉตั รชัย รักกล่ิน 5 07738 นางสาว กษมา ศรมี ่วง 6 07742 นางสาว จุฑาภัทร์ จันทะพาช 7 07748 นางสาว ฐริ ญา บญุ ประทีป 8 07763 นางสาว น้าฝน ภักดี 9 07769 นางสาว ปรยี าภัทร เผา่ โพนทอง 10 07771 นางสาว ปยิ ะฉตั ร ไชยศรี 11 07772 นางสาว ปุญญิศา สิงหโ์ ตเเก้ว 12 07774 นางสาว พรชติ า เงินนาค 13 07777 นางสาว พิชญาภา ใยขา 14 07779 นางสาว พิมลพรรณ สขุ ขี 15 07789 นางสาว ศศธิ ร ทวรี ่าง 16 07791 นางสาว ศิริประภา ครองชติ 17 07792 นางสาว ศุภสุตา โพธบิ์ ญุ 18 07797 นางสาว สุชาดา ปานพรม 19 07804 นางสาว อภญิ ญา อภวิ าสกุล 20 07807 นางสาว อลสิ า บงั คัล 21 08348 นางสาว บญุ สิตา ฐานโพธิ์
รายวิชา วิทยาการคานวณ 2 การวิเคราะหผ์ เู้ รียนเป็นรายบุคคล ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5/2 เวลา 1 ชั่วโมง / สปั ดาห์ รหัสวิชา ว32103 จานวน 0.5 หนว่ ยกติ รวม 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน เกง่ ปานกลาง ออ่ น เลขท่ี เลขประจาตัว คานาหน้า ชือ่ -นามสกุล 1 07656 นาย เจตนพิ ัทธ์ เอ่ยี มพันธ์ 2 07660 นาย ชตยิ า เขม็ ทอง 3 07678 นาย ธรรมนญู เพ็ชนะ 4 07686 นาย นฐั วฒุ ิ อินทร์หนุน 5 07728 นาย อนุชา โตมว่ ง 6 07732 นาย อาทติ ย์ เกิดศรี 7 08349 นาย จกั พงษ์ เพชรรัตน์ 8 07570 นางสาว จรัญพร ตรมี งคล 9 07743 นางสาว ชณติ า พลู เกล้ียง 10 07750 นางสาว ณภสั เกตกุ ลมเกลา 11 07753 นางสาว ดารุณี เกดิ ด้วง 12 07754 นางสาว ณัฐนันท์ ยมนา 13 07760 นางสาว ธญั ญาภัทร หอมจันทร์ 14 07761 นางสาว นพวรรณ ศกั ดิ์สนธ์ิ 15 07766 นางสาว นิรนรรณ์ ประทุมนันท์ 16 07794 นางสาว สิรกิ านดา อว่ มศรีภริ มย์ 17 07796 นางสาว สชุ ัญญา อภทิ ักษ์กาญจนา 18 07798 นางสาว สุชาดา โพธ์ิทอง 19 07803 นางสาว อาภสั รา โลหะกาลก 20 08168 นางสาว นิพาดา ศิรวิ ัฒวงษ์ 21 08350 นางสาว ปิยะธดิ า เทียนนชุ 22 08546 นางสาว ภัทรธิดา รงุ่ สุวรรณ
รายวิชา วทิ ยาการคานวณ 2 การวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเปน็ รายบคุ คล ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5/3 เวลา 1 ชั่วโมง / สัปดาห์ รหสั วิชา ว32103 จานวน 0.5 หน่วยกติ รวม 20 ชั่วโมง / ภาคเรียน เก่ง ปานกลาง ออ่ น เลขที่ เลขประจาตัว คานาหน้า ชอื่ -นามสกุล 1 07649 นาย 2 07665 นาย คชานน ถนอมเกียรติ์ 3 07667 นาย 4 07672 นาย ณฐกร พฒุ เษม 5 07680 นาย 6 07692 นาย ณัฐกมล ปากเเกว้ 7 07693 นาย 8 07702 นาย ณฐั วธุ มณีศุก 9 07704 นาย 10 07723 นาย ธรี เทพ ปรจี ารัส 11 07724 นาย 12 07996 นาย ปฏพิ ล จกั รแก้ว 13 07741 นางสาว 14 07749 นางสาว ประณิธาณ โตม่วง 15 07757 นางสาว 16 07764 นางสาว ภตู นิ นั ท์ กล่ินสอน 17 07765 นางสาว 18 07767 นางสาว มง่ิ เพชร วงษ์ทอง 19 07770 นางสาว 20 07782 นางสาว สุเทพ จันทร์เอีย่ ม 21 07787 นางสาว 22 07788 นางสาว สุภทั รดิษฐ์ คลาเฉยดี 23 07800 นางสาว 24 07819 นางสาว ภรู ิภัทร ศรีคามี 25 07990 นางสาว 26 08352 นางสาว จิดาภา เหมอื นสงั ข์ ณปภา ผลอนิ ทร์ แสงเดอื น เปล่งศรี นชิ าภา วิชัยรัมย์ นธิ ิวดี สวุ พร นศิ ากร ฟกั เขยี ว ปาริฉัตร บตุ รฉตั ร ไพลิน บตุ รรกั ษ์ วริ าสิณี ขนุ แท้ วไิ ลพร ปรางทอง สุภาพร ม่งิ เมือง วรนชุ จ่ันเงนิ จริ ฐั ติกานต์ คงต่ี นันทกา บุญพยอม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 จานวน 0.5 หน่วยกติ รายวชิ า วิทยาการคานวณ 2 รหัสวชิ า ว32103 เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ข้อมูลมีคุณคา่ เรอื่ ง วิทยาการคอมพิวเตอร์กับการดาเนนิ ชวี ิต 1. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคานวณในการแกป้ ญั หาทพี่ บในชีวติ จริงอย่างเป็นข้นั ตอนและ เป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม ตวั ชวี้ ดั ม.5/1 รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สือ่ ดิจิทัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ญั หา หรือเพ่ิมมลู ค่าให้กับบริการหรอื ผลิตภัณฑ์ทใี่ ชใ้ นชวี ิตจริงอย่างสรา้ งสรรค์ 2. สาระสาคัญ “วทิ ยาการข้อมลู ” เปน็ การศึกษาถึงกระบวนการ วิธีการ หรอื เทคนิคที่นาขอ้ มลู จานวนมหาศาลมา ประมวลผล เพ่อื ให้ได้องค์ความรู้ เขา้ ใจปรากฏการณ์ สามารถตีความ ทานายหรือพยากรณ์ ค้นหารปู แบบหรือ แนวโนม้ จากขอ้ มลู เพื่อนามาวิเคราะห์ตอ่ ยอดและแนะนาทางเลอื กทเ่ี หมาะสมในการตัดสนิ ใจกระบวนการวิทยาการ ข้อมูลประกอบดว้ ย การตั้งคาถาม การเก็บรวบรวมข้อมลู การสารวจขอ้ มูล การวเิ คราะห์ข้อมลู การสื่อสารและการ ทาผลลพั ธ์ใหเ้ ป็นภาพ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลส่ผู ู้ใช้กลมุ่ เปา้ หมาย 3. ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และใช้ความรูด้ ้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหาหรือเพ่ิมมูลค่าให้กบั บรกิ ารหรอื ผลติ ภัณฑท์ ใี่ ชใ้ นชีวติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. สารวจและเห็นตวั อย่างของการใช้วทิ ยาการข้อมลู จากแหล่งเรียนรู้ หรอื เว็บไซตต์ ่าง ๆ 2. อธิบายความหมายและความสาคญั ของวิทยาการข้อมูล 3. อธิบายกระบวนการวิทยาการข้อมลู 5. สาระการเรยี นรู้ ความหมายและบทบาทของวทิ ยาการข้อมูล หลักการและกระบวนการวิทยาการข้อมลู
6. กิจกรรมการเรยี นรู้ การจดั เตรยี ม 1. ใบกจิ กรรม ข้อมูลเปลยี่ นมุมมอง ตามจานวนกลุ่ม 2. ใบกจิ กรรม ข้อมูลชว่ ยชุมชนและโลกอย่างไร ตามจานวนกลุ่ม 3. ใบกจิ กรรม เวลาของฉนั / Surprise!!! / ฝน / ไดโนเสาร์ และแบบสอบถามนักวิทยาศาสตร์ ขอ้ มลู แบบออนไลน์ ตามจานวนกล่มุ ขน้ั ตอนการดาเนินการ 1. ผู้สอนนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยเปดิ วีดทิ ศั น์ “นักวทิ ยาศาสตร์ขอ้ มูล” เพ่ือสร้างแรงบนั ดาลใจ ในการเรียนรูเ้ กี่ยวกับวทิ ยาการขอ้ มลู ให้กบั ผู้เรยี น และตั้งคาถามว่า นักวิทยาศาสตรข์ ้อมูลคอื ใคร ทาหน้าที่ เกย่ี วกับอะไร รู้อะไรเกยี่ วกบั นกั วทิ ยาศาสตร์ข้อมลู บา้ ง 2. ผู้สอนให้ผู้เรยี นทาแบบสอบถามออนไลนเ์ พ่ือตรวจสอบคุณลักษณะการเป็นนักวิทยาศาสตร์ ข้อมูลของตนเอง 3. แบง่ ผู้เรียนออกเป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน ศกึ ษาหวั ข้อที่ 1.2 วทิ ยาการข้อมูล ในหนงั สือเรียน และใหแ้ ต่ละคนในกลุ่มศึกษากรณศี ึกษาคนละ 1 ตวั อย่าง จากนัน้ ใหผ้ ลัดกนั เล่าให้เพอ่ื นในกล่มุ ฟัง 4. ผู้เรียนในแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั ทาใบกจิ กรรมข้อมูลเปล่ยี นมุมมอง และใบกจิ กรรม ข้อมลู ชว่ ย ชุมชนและโลกอยา่ งไร 5. ผสู้ อนสุ่มผู้เรียนนาเสนอคาตอบของใบกจิ กรรมจากน้ันร่วมกันสรุปความหมาย บทบาท และ ความสาคญั ของวิทยาการข้อมลู 6. ผเู้ รียนศกึ ษาหวั ข้อ กระบวนการวทิ ยาการข้อมลู ในหนงั สือเรยี น 7. ผูส้ อนให้ผู้เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ทากิจกรรมเกย่ี วกับแนวคิดของวิทยาการขอ้ มลู โดยเลือกทาเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง ดงั นี้ ใบกิจกรรม เวลาของฉัน / ใบกิจกรรม Surprise!!! / ใบกจิ กรรม ฝน และ ใบกิจกรรม ไดโนเสาร์ 8. ผสู้ อนสุ่มผเู้ รยี นนาเสนอใบกิจกรรมให้ครบทุกกจิ กรรม และสรปุ แนวคดิ กระบวนการ วิทยาการข้อมูลรว่ มกบั ผู้เรยี น 7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 2. เครอื่ งคอมพิวเตอร์พร้อมระบบอนิ เทอร์เน็ต 3. Google Application 4. วดี ิทศั น์อาชีพนักวทิ ยาศาสตรข์ ้อมูล โดย Kenan Institute Asia https://www.youtube.com/watch?v=Au65nEnQEZA 5. วีดทิ ศั นอ์ าชพี นักวิทยาศาสตร์ขอ้ มูล โดย สสวท. https://www.facebook.com/ipst.thai/videos/483657335467347/ 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1. อนิ เทอร์เน็ต 2. หอ้ งสมุด 3. Google Classroom 4. แหล่งเรียนรู้ออนไลนเ์ ก่ียวกับวทิ ยาการข้อมูล https://tuvalabs.com
8. การวัดและประเมินผล 1. ประเมนิ จากใบกจิ กรรม 2. สงั เกตพฤติกรรมจากการทางานกลุม่ 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ควรใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถามท้าทายอย่างอิสระ โดยไม่เน้นถูกผิด แต่ต้องอธิบายเหตุผลได้ 10. บนั ทกึ หลงั สอน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ข้อมูลมีคุณคา่ เร่ือง วทิ ยาการคอมพิวเตอร์กับการดาเนินชีวิต นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใช้แผนการเรียนรู้ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ควรแก้ไข ดังนี้ ที่ รายการ 1 เวลา 2 เนอ้ื หาสาระ 3 จดุ ประสงค์ 4 ขัน้ สอน/กจิ กรรมทจี่ ัด 5 สอื่ 6 การวดั ผล/เครือ่ งมือวดั ผล 2. ผลการเรียนการสอน จากการสอนครงั้ นี้ ไม่มกี ารวัดผล มีการวัดผล มีนักเรียนผ่านจุดประสงค์ตามแผนการ เรียนรู้จานวน ................ คน และนกั เรยี นท่ียังไม่ผา่ น จานวน ..................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรับนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ น ได้ดาเนินการตามข้นั ตอน ดงั น้ี ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... -ปญั หาที่พบคอื ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. .......................................................
3. แกป้ ญั หาด้วยวธิ ี สอนซ่อมเสริม ฝกึ ดว้ ยแบบฝึกตา่ ง ๆ อน่ื ๆ ได้แก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ผลการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวดั ผลก่อนซอ่ มเสรมิ นักเรียนมคี ะแนนสงู ขึ้นคดิ เป็นร้อยละ .............................. และผ่านตวั ชีว้ ดั / ผลการเรยี นรู้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...................... ลงชื่อ ............................................ ครูผสู้ อน (นางสาวหทัยชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บนั ทกึ ความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน/หรอื ผทู้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงชอื่ ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 จานวน 0.5 หน่วยกิต รายวิชา วิทยาการคานวณ 2 รหสั วิชา ว32103 เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ข้อมูลมีคณุ คา่ เร่ือง แนวคดิ เชิงออกแบบ 1. มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชีว้ ดั สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ญั หาท่พี บในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขนั้ ตอนและ เป็นระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ช้ีวดั ม.5/1 รวบรวม วิเคราะหข์ อ้ มลู และใช้ความรู้ด้านวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ทิ ลั เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ัญหา หรอื เพ่ิมมูลค่าให้กบั บรกิ ารหรอื ผลติ ภณั ฑ์ทใ่ี ช้ในชวี ิตจริงอย่างสรา้ งสรรค์ 2. สาระสาคญั การใช้วิทยาการข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งานนั้น ต้องอาศัยแนวคิดเชิงออกแบบ (design thinking) หลักการพื้นฐานของแนวคิดเชิงออกแบบ ได้แก่ การมองในมุมของผู้ใช้ การลองผิดลองถูก การเรียนรู้ ผา่ นการทดลองกับกลุ่มผ้ใู ช้จรงิ การทาซา้ และปรบั ปรงุ 3. ตวั ช้ีวัด / ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปญั หาหรือเพิ่มมลู ค่าให้กับบรกิ ารหรือผลติ ภณั ฑ์ที่ใชใ้ นชีวิตจริงอยา่ งสร้างสรรค์ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลักการของแนวคิดเชงิ ออกแบบ 2. ประยกุ ตก์ ารคิดเชงิ ออกแบบกับวทิ ยาการข้อมูลในการแก้ปญั หา 3. เหน็ ความสาคัญของแนวคิดเชงิ ออกแบบในการแก้ปัญหา 5. สาระการเรยี นรู้ แนวคดิ เชงิ ออกแบบ และ การนาแนวคดิ เชงิ ออกแบบมาใช้กบั กระบวนการวทิ ยาการข้อมลู 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ การจัดเตรียม 1. ใบกจิ กรรม คิดแบบนักออกแบบ ตามจานวนกลมุ่ 2. ใบกจิ กรรม โครงงานวิทยาการข้อมูลของฉนั ตามจานวนกลุม่ 3. บัตรคาถามสาหรับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในการสมั ภาษณผ์ ซู้ ้อื ตามจานวนนักวิทยาศาสตรข์ อ้ มูล 4. บตั รคาถามสาหรับนักวทิ ยาศาสตรข์ ้อมูล ในการสัมภาษณ์ผ้ขู าย ตามจานวนนักวทิ ยาศาสตร์ข้อมลู 5. แบบฟอร์มการเก็บข้อมูลผู้ซื้อ ตามจานวนนกั วิทยาศาสตรข์ อ้ มลู 6. แบบฟอร์มการเก็บข้อมูลผู้ขาย ตามจานวนนกั วทิ ยาศาสตร์ขอ้ มูล 7. แบบทดสอบ ข้อมูลมีคณุ ค่า แบบออนไลน์ ขนั้ ตอนการดาเนินการ 1. ผสู้ อนนาเข้าสู่บทเรียนโดยเปดิ เวบ็ ไซต์ CODAP และหาอาสาสมัครเล่นเกม Markov และหลังจาก เพือ่ นเล่นจนจบเกม ผสู้ อนต้งั คาถาม เชน่ - นักเรียนคดิ ว่าการเป่า ยิง ฉุบ ของ Dr.Markov เป็นการสุ่มหรือไม่ เพราะเหตใุ ด
- นักเรยี นคิดวา่ นกั เรียนจะสามารถเป่า ยงิ ฉบุ ชนะอยา่ งต่อเนอ่ื งโดยไม่แพ้เลย ได้หรือไม่ - เวบ็ ไซตน์ ้ีชว่ ยการเรียนร้วู ิทยาการข้อมูลอย่างไร - ในมมุ มองของนกั เรยี นคดิ วา่ เว็บไซต์น้ีใช้งานงา่ ยหรือไม่ มีแนวคดิ การออกแบบอย่างไร - มจี ดุ ใดบ้างในเว็บไซต์นี้ที่ต้องการปรับปรงุ เพ่ือชว่ ยให้นกั เรยี นเรียนรู้ได้ดขี นึ้ 2. ผูเ้ รียนศึกษาหัวข้อท่ี 1.4 การคิดเชิงออกแบบ สาหรบั วทิ ยาการข้อมลู ในหนงั สือเรยี น 3. แบง่ ผ้เู รยี นออกเปน็ 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลมุ่ ผู้ซอื้ (2) กลุ่มผขู้ าย (3) กลุม่ นักวทิ ยาศาสตร์ ขอ้ มูล โดยการจับสลาก 4. จดั กลมุ่ ใหม่โดยใหแ้ ต่ละกลมุ่ มผี ้ซู ือ้ 2 คน ผู้ขาย 2 คน และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล 2 คน ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงบทบาทสมมติตามสลากที่จับได้ 5. ผู้สอนแจกบตั รคาถามสาหรบั นักวทิ ยาศาสตร์ข้อมูล ในการสมั ภาษณผ์ ซู้ อื้ บัตรคาถามสาหรบั นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในการสมั ภาษณ์ผขู้ าย แบบฟอร์มการเก็บข้อมลู ผูซ้ ือ้ และแบบฟอร์มการเก็บข้อมลู ผู้ขาย ใหแ้ ก่นักเรยี นที่แสดงบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ขอ้ มูลคนละ 1 ชุด (1 ชดุ ประกอบด้วย 2 บตั รคาถาม และ 2 แบบฟอรม์ ) 6. ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบกจิ กรรมที่ 3.1 คดิ แบบนักออกแบบ เพอื่ ฝกึ ทกั ษะการคดิ เชิงออกแบบ ให้ได้ ส่ิงท่ดี ีขนึ้ เชน่ การเพ่ิมมูลคา่ ใหก้ ับบริการหรอื ผลติ ภณั ฑ์ โดยนักวทิ ยาศาสตรข์ ้อมลู สัมภาษณ์ผซู้ อ้ื และผขู้ าย ตาม บตั รคาถามและกรอกลงในแบบฟอร์มขา้ งต้น พรอ้ มทง้ั ออกแบบบรกิ ารหรือผลิตภัณฑล์ งในใบกจิ กรรมท่ี 3.1 7. ให้สมาชกิ แต่ละคนของแต่ละกลุ่มนาเสนอคาตอบในใบกิจกรรมที่ 3.1 ตามบทบาททีต่ นเองได้รบั 8. ผู้สอนและผูเ้ รียนร่วมกนั สรุปการใช้แนวคิดเชิงออกแบบท่ีเหมาะสมกับสถานการณ์ในใบกิจกรรมท่ี 3.1 9. แบง่ ผู้เรียนออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ 4 คน ทาใบกจิ กรรมท่ี 3.2 โครงงานวทิ ยาการข้อมูลของฉัน โดย ใหเ้ ลอื กหวั ข้อที่แตล่ ะกลุ่มสนใจ ในประเดน็ ที่กาหนด 10. ผู้เรยี นทาแบบทดสอบ - ขอ้ มูลมีคณุ ค่า เพื่อประเมนิ ความเข้าใจ 7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.5 2. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์พร้อมระบบอินเทอร์เน็ต 3. Google Application 4. แบบทดสอบ ข้อมลู มีคณุ ค่า 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1. อนิ เทอร์เน็ต 2. Google Classroom 8. การวัดและประเมินผล 1. ประเมินจากใบกิจกรรม 2. สงั เกตพฤติกรรมจากการทางานกลมุ่ 3. แบบทดสอบ – ข้อมูลมีคณุ คา่ 9. กิจกรรมเสนอแนะ 9.1 ผู้สอนอาจใหผ้ ู้เรียนศึกษาเวบ็ ไซต์ CODAP เพมิ่ เติม โดยใชใ้ บความรทู้ ่ี 3.1 เกมเปา่ ยิงฉุบ เพื่อศกึ ษา ความร้เู รอ่ื งวทิ ยาการข้อมลู
9.2 เนอื่ งจากผู้เรียนอาจยังไม่สามารถเลือกหวั ข้อโครงงานวทิ ยาการข้อมูลทส่ี นใจ จงึ เป็นไปได้ท่ีผ้เู รียน อาจมกี ารเปลี่ยนแปลงหัวขอ้ ของตนเองในภายหลงั ผู้สอนจงึ อาจแนะนาในการเลอื กหวั ข้อโครงงานของผ้เู รยี น อกี ครง้ั เม่อื ผเู้ รยี นมีประสบการณจ์ ากการเรียนวชิ าน้ีมากขึน้ 10. บนั ทึกหลังสอน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ข้อมูลมีคณุ คา่ เรื่อง แนวคดิ เชิงออกแบบ นักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ควรแกไ้ ข ดังน้ี ท่ี รายการ 1 เวลา 2 เนอื้ หาสาระ 3 จดุ ประสงค์ 4 ขั้นสอน/กิจกรรมท่ีจัด 5 ส่ือ 6 การวัดผล/เครอื่ งมือวดั ผล 2. ผลการเรียนการสอน จากการสอนคร้ังนี้ ไม่มีการวัดผล มกี ารวัดผล มีนักเรยี นผ่านจดุ ประสงค์ตามแผนการ เรียนร้จู านวน ................ คน และนกั เรยี นท่ียังไมผ่ ่าน จานวน ..................คน ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรบั นักเรียนทไ่ี ม่ผา่ น ไดด้ าเนินการตามขัน้ ตอน ดงั น้ี ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... -ปัญหาท่ีพบคอื ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 3. แกป้ ญั หาด้วยวิธี สอนซอ่ มเสริม ฝึกด้วยแบบฝึกต่าง ๆ อน่ื ๆ ได้แก่ ............................................................................................................................. .......................................................
ผลการแกป้ ญั หา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวัดผลก่อนซ่อมเสรมิ นกั เรยี นมคี ะแนนสูงขึน้ คิดเป็นรอ้ ยละ .............................. และผา่ นตัวช้วี ดั / ผลการเรยี นรู้ คิดเปน็ รอ้ ยละ ...................... ลงช่อื ............................................ ครผู สู้ อน (นางสาวหทัยชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บันทกึ ความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน/หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงช่อื ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 รายวิชา วิทยาการคานวณ 2 รหสั วิชา ว32103 จานวน 0.5 หน่วยกิต หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และสารวจข้อมลู เรือ่ ง การเกบ็ รวบรวมข้อมูล เวลา 2 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ช้วี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อยา่ งเป็นขนั้ ตอนและ เปน็ ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชี้วัด ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจทิ ลั เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปญั หา หรือเพ่ิมมลู คา่ ให้กับบรกิ ารหรือผลิตภณั ฑท์ ใ่ี ชใ้ นชีวิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 2. สาระสาคญั ขอ้ มลู ทุติยภูมทิ เ่ี ผยแพร่บนอนิ เทอร์เน็ต มอี ยหู่ ลากหลายรปู แบบ เช่น xls, xlsx, odp, csv หรอื อยู่ ในรูปแบบรายงานหรือตารางบนเว็บไซต์ แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เช่น เว็บไซต์ให้บริการข้อมูลของสานักงานพัฒนา รฐั บาลดิจทิ ลั data.go.th สานกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ www.nso.go.th การพจิ ารณาความเหมาะสมของแหล่งข้อมูล สามารถใช้มุมมองท้ัง 5 ด้าน ได้แก่ ความทันสมัยของข้อมูล ความสอดคล้องกับการใช้งาน ความน่าเช่ือถือของ แหลง่ ข้อมูล ความถูกต้องแม่นยา และจดุ มุง่ หมายของแหล่งขอ้ มูล การจัดเตรียมข้อมูล (data preparation) เพือ่ เตรียมพร้อมสาหรบั การประมวลผล ประกอบดว้ ย การทาความสะอาดข้อมูล (data cleansing) การแปลงข้อมลู (data transformation) และการเชื่อมโยงข้อมลู (combining data) 3. ตัวช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และใช้ความรดู้ า้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ิทัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ญั หาหรอื เพ่ิมมลู คา่ ให้กบั บริการหรือผลิตภณั ฑ์ที่ใช้ในชวี ติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. รวบรวมข้อมูลทุตยิ ภูมติ ามวตั ถุประสงค์ 2. เลือกแหลง่ ข้อมลู สาธารณะท่เี ช่ือถอื ได้ 3. จดั เตรยี มข้อมูลก่อนการประมวลผล 4. เหน็ ประโยชน์ของการวิเคราะหข์ ้อมลู 5. สาระการเรยี นรู้ การรวบรวมข้อมูล และการจัดเตรียมข้อมลู
6. กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดเตรียม 1. ใบกิจกรรมท่ี 4.1 ข้อมลู ตอบโจทย์ ตามจานวนกลุม่ 2. ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 ผู้จัดการขอ้ มลู ตามจานวนผู้เรยี น ข้นั ตอนการดาเนนิ การ 1. ผู้สอนนาเขา้ สู่บทเรียน โดยอธิบายเรื่องข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ซ่งึ ในปัจจุบันมีความสาคญั มากต่อองคก์ รภาครัฐ และเอกชนในการนาข้อมลู ขนาดใหญม่ าช่วยในการวางแผน หรอื ตัดสนิ ใจ โดยเปดิ วดิ ีโอ เรือ่ ง “Big data คืออะไร จาเป็นตอ่ องคก์ รหรือไม่?” 2. ผู้สอนชีแ้ จงเพ่มิ เติมวา่ สาหรับในระดับชน้ั ของนักเรยี น ให้เขา้ ใจกระบวนการของการนาข้อมลู มา วเิ คราะห์ อาจไมจ่ าเปน็ ต้องใชข้ อ้ มูลขนาดใหญ่ แต่นักเรียนต้องสามารถค้นหาขอ้ มูล เพื่อนามาวเิ คราะห์ และตอบ คาถามท่ีตนเองสนใจได้ พรอ้ มทง้ั อธบิ ายจุดประสงค์ของการเรยี นครั้งนี้ 3. ผสู้ อนอธิบายเรอ่ื งขอ้ มลู ทุตยิ ภมู ิ และใหผ้ ้เู รียนยกตัวอย่างขอ้ มลู ทุตยิ ภูมิ พร้อมทั้งระบแุ หล่งข้อมูล แนวการตอบ ตัวอย่างเชน่ ขอ้ มลู จานวนนักเรียน ค้นหาได้จากฝา่ ยทะเบยี นข้อมลู ผลการเรียนของนักเรยี น คน้ หา ได้จากฝ่ายวชิ าการขอ้ มลู จานวนประชากรในอาเภอ ค้นหาได้จากฝา่ ยทะเบยี นทว่ี ่าการอาเภอขอ้ มลู อตั ราการทา เกษตรกรรมในอาเภอ คน้ หาไดจ้ ากสานักงานเกษตรอาเภอ 4. ผเู้ รยี นศกึ ษาหัวข้อที่ 2.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ในหนังสือเรียน 5. ผสู้ อนต้งั ประเด็นคาถาม “รายได้เฉล่ียตอ่ ครัวเรอื นของจงั หวัดของตนเองและจังหวัดใกล้ เคียง 5 จังหวดั มคี วามสัมพันธ์กบั ปัจจยั ใดได้บ้าง” ให้ผเู้ รียนต้งั ประเดน็ ทสี่ นใจแล้วต้งั สมมตฐิ านเกีย่ วกับ ประเด็นนัน้ แนวการตอบ ตัวอย่างเช่น คาถาม : รายได้เฉลี่ยตอ่ ครัวเรือนสัมพันธ์กบั อัตราการวา่ งงานหรอื ไม่ สมมติฐาน : ถ้าอัตราการวา่ งงานสงู ข้นึ จะทาให้รายไดเ้ ฉล่ยี ตอ่ ครัวเรอื นต่าลง คาถาม : รายได้เฉลีย่ ต่อครัวเรอื นมีความสัมพันธก์ ับจานวนสมาชิกในครัวเรอื นหรือไม่ สมมติฐาน : ถ้าจานวนสมาชิกในครวั เรือนมาก รายไดเ้ ฉลย่ี ต่อครวั เรือนจะสูงขน้ึ คาถาม : รายไดเ้ ฉล่ียมคี วามสัมพนั ธก์ บั จานวนหนีส้ ินหรอื ไม่ สมมตฐิ าน : ถ้ารายได้เฉลย่ี ต่อครวั เรอื นสูงขนึ้ จะมีจานวนหน้สี ินลดลง 6. ผู้เรียนค้นหาข้อมูลทุตยิ ภมู ิของปจั จยั ทน่ี ักเรยี นเลือกในการตอบประเดน็ ในข้อ 5 โดยแนะนาผ้เู รียน เพ่ิมเติมว่า ควรจะหาข้อมลู ท่ีมคี า่ เปน็ ตวั เลข เพ่ือใหส้ ามารถนามาใชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูลต่อได้ พร้อมทง้ั บนั ทึก ไฟล์ทีส่ ืบคน้ ได้ไว้ในเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของตนเอง 7. ผ้เู รยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบกจิ กรรมที่ 4.1 ขอ้ มูลตอบโจทย์ แล้วนาเสนอความเหมาะสมของ แหล่งข้อมูลทผ่ี เู้ รียนไดส้ บื ค้นมา 8. ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรุปกจิ กรรมท่ี 4.1 9. ผเู้ รียนศึกษาหวั ข้อท่ี 2.2 การเตรียมข้อมลู (data preparation) ในหนงั สอื เรยี น 10. ผู้สอนถามผู้เรยี นจากคาถามชวนคิด “การตรวจสอบขอ้ มลู ระเบียนผปู้ ่วยของโรงพยาบาล แห่งหนึง่ ” ในหวั ข้อ 2.2.1 การทาความสะอาดข้อมลู โดยใหผ้ ู้เรียนร่วมกนั หาขอ้ ผดิ พลาดของข้อมลู และอธิบายเหตุผล 11. ผเู้ รียนแต่ละคนทาใบกิจกรรมที่ 4.2 ผ้จู ัดการขอ้ มลู โดยศึกษาวธิ กี ารดาเนินการจากหนังสอื เรยี น และเว็บไซต์ data.programming.in.th
12. ผสู้ อนและผูเ้ รยี นรว่ มกนั สรปุ กิจกรรมท่ี 4.2 7. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.5 2. เคร่อื งคอมพวิ เตอร์พรอ้ มระบบอินเทอร์เน็ต 3. Google Application 4. เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=QuGlZrXPjiI 5. เว็บไซต์ data.programming.in.th 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1. อินเทอรเ์ นต็ 2. Google Classroom 8. การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ จากใบกิจกรรม 2. สังเกตพฤติกรรมจากการทางานกล่มุ 9. กิจกรรมเสนอแนะ 9.1 ในการคน้ หาขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ิ เพอ่ื นามาใชใ้ นกิจกรรม ควรแนะนาใหผ้ เู้ รยี นคน้ หาขอ้ มลู ท่เี ปน็ ตัวเลข เพ่อื สามารถ นามาใช้ในการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลขต่อไป 9.2 ขอ้ มลู ทตุ ิยภมู ิในประเทศไทย ส่วนมากเปน็ ขอ้ มลู ที่สรปุ มาแล้ว อาจจะไมส่ ามารถใช้ในการฝึก เร่ือง การทาความ สะอาดขอ้ มลู และยากต่อการนามาใชใ้ นการวิเคราะหเ์ ชิงทานายในบทท่ี 3 สว่ นใหญ่จะใชไ้ ด้ในการวิเคราะหเ์ ชงิ พรรณนาเพ่ือ ศกึ ษาภาพรวมของข้อมลู เทา่ น้ัน นอกจากน้ีในการจัดเตรยี มขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ทิ าไดย้ าก เพราะขอ้ มลู ท่ีจะสามารถนามาใชไ้ ด้ อาจมา จากหลายแหล่งซง่ึ มรี ปู แบบท่ีแตกตา่ งกนั ดังนนั้ ผสู้ อนควรใหค้ าแนะนาเปน็ ระยะ ๆ และให้เวลาผู้เรยี นในการจดั เตรียมขอ้ มลู เพื่อ ตอบคาถามท่ตี นเองสนใจ 9.3 โดยทั่วไปข้อมูลทตุ ิยภมู ิของตา่ งประเทศจะสามารถนามาใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู ได้ดกี วา่ ผสู้ อนอาจแนะนาให้ นกั เรยี นใช้ขอ้ มูลทตุ ิยภูมิจากตา่ งประเทศ เพอื่ ฝกึ ข้ันตอนของการทาความสะอาดและขน้ั ตอนอืน่ ๆ รวมทั้งอาจเลือกเป็นหวั ขอ้ โครงงานของตนเอง แตโ่ ดยท่ัวไปข้อมลู ทตุ ิยภมู ขิ องต่างประเทศจะเปน็ ข้อมลู ขนาดใหญ่ ทาให้การดูขอ้ มูลผดิ ปกติดว้ ยตาจะทาได้ ยาก ดังนนั้ ในการทากจิ กรรม ผสู้ อนควรแนะนาใหน้ กั เรยี นสารวจขอ้ มลู โดยใชฮ้ สิ โทแกรม แผนภาพการกระจาย หรอื แผนภาพ กล่อง
10. บนั ทึกหลงั สอน แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 การเก็บรวบรวมข้อมูลและสารวจข้อมลู เรอ่ื ง การเก็บรวบรวมข้อมลู นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใช้แผนการเรียนรู้ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ควรแกไ้ ข ดังน้ี ท่ี รายการ 1 เวลา 2 เนือ้ หาสาระ 3 จุดประสงค์ 4 ขัน้ สอน/กจิ กรรมที่จัด 5 สอื่ 6 การวัดผล/เครอื่ งมอื วดั ผล 2. ผลการเรียนการสอน จากการสอนครงั้ นี้ ไม่มีการวัดผล มีการวัดผล มีนักเรยี นผ่านจดุ ประสงค์ตามแผนการ เรยี นรจู้ านวน ................ คน และนักเรียนท่ียงั ไมผ่ า่ น จานวน ..................คน ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรับนักเรียนทไี่ ม่ผ่าน ไดด้ าเนนิ การตามขัน้ ตอน ดงั น้ี ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... -ปัญหาท่ีพบคือ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 3. แกป้ ัญหาด้วยวธิ ี สอนซ่อมเสรมิ ฝกึ ดว้ ยแบบฝกึ ต่าง ๆ อน่ื ๆ ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ผลการแกป้ ญั หา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................
ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวดั ผลก่อนซอ่ มเสรมิ นกั เรยี นมีคะแนนสงู ข้นึ คดิ เป็นรอ้ ยละ .............................. และผา่ นตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ คิดเป็นรอ้ ยละ ...................... ลงช่ือ ............................................ ครผู ู้สอน (นางสาวหทยั ชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บันทึกความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน/หรอื ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงช่ือ ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน 0.5 หน่วยกิต รายวิชา วิทยาการคานวณ 2 รหัสวิชา ว32103 เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การเก็บรวบรวมข้อมูลและสารวจข้อมูล เร่ือง การสารวจข้อมลู 1. มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชวี้ ัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาท่พี บในชวี ติ จรงิ อย่างเป็นข้นั ตอนและ เป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ตัวชว้ี ดั ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และใชค้ วามรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ทิ ลั เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ญั หา หรือเพ่ิมมูลคา่ ให้กบั บริการหรือผลติ ภัณฑท์ ่ใี ชใ้ นชวี ิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 2. สาระสาคัญ การสารวจข้อมูล (data exploration) เป็นการทาความเข้าใจเพ่ือพิจารณาภาพรวมของข้อมูล โดยอาจ ใชแ้ ผนภาพ หรือกราฟของข้อมูลในรปู แบบตา่ ง ๆ ระหว่างการสารวจ อาจจะพบขอ้ ผิดพลาดหรอื ปัญหาอืน่ ๆ จาก การต้ังคาถาม หรือการรวบรวมข้อมูล ซ่ึงทาให้ต้องกลับไปดาเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง เคร่ืองมือท่ีใช้ในการสารวจ ขอ้ มูลอาจใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป หรอื การเขยี นโปรแกรมภาษา 3. ตัวช้ีวดั / ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดิจทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปญั หาหรอื เพิ่มมูลคา่ ให้กบั บรกิ ารหรือผลติ ภัณฑ์ทีใ่ ชใ้ นชวี ิตจรงิ อยา่ งสร้างสรรค์ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สารวจข้อมูลเพ่ือทาความเขา้ ใจ รูปแบบ ความสัมพันธ์ และผลลัพธเ์ ชิงพรรณนาเบ้ืองต้นเกยี่ วกบั ข้อมลู 2. เลอื กใชเ้ คร่ืองมือในการสารวจขอ้ มลู ตามความถนดั 3. เห็นประโยชนข์ องการสารวจข้อมลู 5. สาระการเรยี นรู้ การสารวจข้อมลู โดยใชก้ ารวาดแผนภาพ แผนภมู ิ กราฟ เครื่องมือที่ใช้ในการสารวจข้อมูล เช่น โปรแกรม ตารางทางาน โปรแกรมภาษา และโปรแกรมเฉพาะสาหรบั งานด้านวทิ ยาการข้อมูล 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั เตรียม 1. ใบกจิ กรรม นกั สารวจ ตามจานวนผู้เรียน 2. ชดุ ขอ้ มลู สาหรับทากจิ กรรมเพมิ่ เติมจากเว็บไซต์ data.programming.in.th เช่น ชุดข้อมลู ไดโนเสาร์ สินค้าอปุ โภคบรโิ ภคของไทย 3. แบบทดสอบ การเก็บรวบรวมและสารวจขอ้ มูลแบบออนไลน์ ข้ันตอนการดาเนินการ 1. ผสู้ อนทบทวนกระบวนการในการจดั เตรยี มข้อมลู จากกจิ กรรมทผี่ ่านมา และตรวจสอบ ผูเ้ รยี นในการจัดเตรยี มชุดข้อมูล ดงั น้ี income.xls average-income.xls และ average-income.csv
expense58.xls income-expense.xls และ income-expense.csv ชดุ ขอ้ มลู จังหวดั ตนเองและจงั หวัดใกลเ้ คยี ง 5 จงั หวัด และปจั จยั ท่ไี ด้เลือกไว้ 2. ผู้เรยี นศกึ ษาหัวข้อท่ี 2.3 การสารวจขอ้ มลู ในหนงั สอื เรียน 3. ผูเ้ รยี นแต่ละคนทาใบกิจกรรมท่ี 5.1 นักสารวจ และระหว่างทากิจกรรมให้ศึกษาเครื่องมือท่ีใชใ้ น การสารวจข้อมลู เพ่ิมเติมจากเว็บไซต์ data.programming.in.th 4. ผู้สอนให้ผเู้ รยี นโพสตผ์ ลลพั ธ์ของขอ้ มูลจากการสารวจของตนเองลงบน Padlet หรืออาจ ใช้โปรแกรมอนื่ ตามความเหมาะสม 5. ผู้เรียนทาแบบทดสอบบทท่ี 2 การเกบ็ รวบรวมและสารวจข้อมลู เพ่ือประเมนิ ความเข้าใจ 7. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.5 2. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์พร้อมระบบอินเทอร์เน็ต 3. Google Application 4. เวบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=QuGlZrXPjiI 5. เวบ็ ไซต์ data.programming.in.th 6. แบบทดสอบ การเก็บรวบรวมและสารวจข้อมลู 2. แหลง่ การเรียนรู้ 1. อนิ เทอร์เนต็ 2. Google Classroom 8. การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินจากใบกจิ กรรม 2. สังเกตพฤติกรรมจากการทางานกลมุ่ 3. แบบทดสอบ - การเก็บรวบรวมและสารวจข้อมูล 9. กิจกรรมเสนอแนะ ควรใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถามทา้ ทายอย่างอสิ ระ โดยไม่เนน้ ถกู ผดิ แต่ต้องอธิบายเหตุผลได้
10. บนั ทกึ หลงั สอน แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และสารวจข้อมลู เรอ่ื ง การสารวจขอ้ มูล นักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ควรแกไ้ ข ดงั นี้ ท่ี รายการ 1 เวลา 2 เนอื้ หาสาระ 3 จดุ ประสงค์ 4 ขัน้ สอน/กิจกรรมทจ่ี ดั 5 ส่อื 6 การวัดผล/เครือ่ งมอื วดั ผล 2. ผลการเรยี นการสอน จากการสอนครั้งน้ี ไม่มีการวดั ผล มกี ารวดั ผล มีนกั เรยี นผา่ นจดุ ประสงค์ตามแผนการ เรยี นรจู้ านวน ................ คน และนักเรยี นที่ยงั ไม่ผา่ น จานวน ..................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรับนักเรียนทไ่ี มผ่ ่าน ไดด้ าเนนิ การตามขน้ั ตอน ดงั น้ี ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... -ปัญหาที่พบคอื ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 3. แก้ปญั หาด้วยวธิ ี สอนซ่อมเสรมิ ฝึกดว้ ยแบบฝึกต่าง ๆ อนื่ ๆ ได้แก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ผลการแก้ปญั หา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................
ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวดั ผลก่อนซอ่ มเสรมิ นกั เรยี นมีคะแนนสงู ข้นึ คดิ เป็นรอ้ ยละ .............................. และผา่ นตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ คิดเป็นรอ้ ยละ ...................... ลงช่ือ ............................................ ครผู ู้สอน (นางสาวหทยั ชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บันทึกความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน/หรอื ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงช่ือ ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 จานวน 0.5 หน่วยกิต รายวิชา วทิ ยาการคานวณ 2 รหัสวิชา ว32103 เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การวเิ คราะห์ข้อมูล เรื่อง การวเิ คราะห์ข้อมลู เชงิ พรรณนา 1. มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาทีพ่ บในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอนและ เป็นระบบใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทัน และมจี ริยธรรม ตวั ชว้ี ัด ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะห์ขอ้ มลู และใชค้ วามรดู้ า้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดจิ ิทลั เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหา หรอื เพ่ิมมลู ค่าให้กับบริการหรือผลติ ภัณฑท์ ี่ใช้ในชีวิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 2. สาระสาคญั การวิเคราะห์เชิงพรรณนา (descriptive analytics) เป็นการวิเคราะห์ข้ันพ้ืนฐาน ท่ีทาให้เห็นภาพรวม ของข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล ช่วยอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงท่ีผ่านมา และอาจนามาช่วยใน การตัดสินใจ โดยอาจใช้สถิติ เช่น การหาสัดส่วนหรือร้อยละ การวัดค่ากลางของข้อมูล (central tendency) การหาความสัมพันธข์ องชุดข้อมลู (correlation) 3. ตวั ช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปญั หาหรอื เพ่ิมมูลคา่ ให้กับบรกิ ารหรอื ผลิตภัณฑ์ทีใ่ ช้ในชีวิตจริงอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลักการวเิ คราะหข์ ้อมูลเชงิ พรรณนา 2. เลอื กใชค้ า่ สถิติที่เหมาะสมในการวเิ คราะห์ข้อมลู เชงิ พรรณนา 3. ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู หรือโปรแกรมภาษาเพ่ือวิเคราะห์ข้อมลู เชิงพรรณนา 4. อธบิ ายผลการวเิ คราะหข์ ้อมูลเชงิ พรรณนา 5. เห็นประโยชน์ของการวเิ คราะหข์ ้อมลู เชงิ พรรณนา 5. สาระการเรยี นรู้ การวิเคราะห์ข้อมูลเชงิ พรรณนา สถติ สิ าาหรับวิเคราะหข์ ้อมูล เชน่ ค่ากลาง ค่าตา่ สุด สงู สดุ เพ่อื อธิบาย ข้อมูลเชิงพรรณนา และการหาความสมั พันธ์ของขอ้ มลู โดยใชแ้ ผนภาพการกระจาย
6. กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดเตรยี ม 1. ใบกจิ กรรม ข้อมลู นี้มีอะไร ตามจานวนผเู้ รียน 2. ใบกิจกรรม สมั พันธ์กนั หรือไม่ ตามจานวนกลมุ่ ขั้นตอนการดาเนนิ การ 1. ผูส้ อนนาเข้าส่บู ทเรียนโดยทบทวนเรือ่ งการเก็บรวบรวมขอ้ มูลและสารวจข้อมลู และช้ีแจงการเรียน ในบทนโ้ี ดยใช้สถานการณ์ของสิงโตและสนุ ัขจ้งิ จอก จากหนงั สอื เรยี นและเช่ือมโยงการวิเคราะห์ข้อมูล 3 ประเภท 2. ผู้เรียนศกึ ษาหัวข้อท่ี 3.1 การวเิ คราะหเ์ ชิงพรรณนา หวั ข้อย่อย 3.1.1 และ 3.1.2 ในหนงั สอื เรียน 3. ผูเ้ รยี นจบั คกู่ ันทาาใบกิจกรรมท่ี 6.1 ขอ้ มลู นมี้ ีอะไร โดยใหโ้ พสต์ภาพคาตอบไวบ้ น Padlet และให้ รางวัลสาหรับค่ทู ่ที าเสร็จได้เร็วทส่ี ุด 4. ผเู้ รียนพจิ ารณาคาตอบของคอู่ ื่น และร่วมกนั โหวตว่าการแสดงผลลพั ธข์ องคาตอบของกลมุ่ ใด แสดงผลการวิเคราะห์ไดช้ ัดเจนทส่ี ดุ 5. ผู้สอนและผเู้ รียนรว่ มกันสรุปและเปรยี บเทยี บความเหมาะสมของผลของการวิเคราะห์ ข้อมูลเชงิ พรรณนา 6. ผู้เรยี นศึกษาหัวข้อท่ี 3.1.3 ในหนงั สือเรียน 7. แบง่ ผเู้ รยี นออกเป็นกลุม่ กลุ่มละ 3 คน ชว่ ยกันทาใบกจิ กรรมที่ 6.2 สมั พันธ์กนั หรือไม่ 8. ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลือกโพสต์คาตอบ 1 คาตอบที่ตนเองพบเจอความสมั พันธ์ของชุดข้อมูลท่ีศึกษา และ เขียนอธิบายไวบ้ น Padlet 9. ผู้เรียนร่วมกนั โหวตว่าคาตอบของกลมุ่ ใดนา่ สนใจมากท่ีสุด 10. ผสู้ อนและผ้เู รียนร่วมกนั สรุปการวิเคราะห์เชิงพรรณนา 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 2. เคร่อื งคอมพิวเตอร์พร้อมระบบอนิ เทอรเ์ น็ต 3. Google Application 4. ใบกิจกรรม ข้อมูลนม้ี ีอะไร และ ใบกจิ กรรม สมั พันธก์ นั หรอื ไม่ 5. วิดีโอสอนการใช้ Pivot Table ในการสรา้ งกราฟ 6. วดิ ีโอสอนการใช้ Tableau ในการสรา้ งกราฟ 7. วิดโี อสอนการเขยี นโปรแกรมภาษา R ในการสรา้ งกราฟ และหาค่าความสัมพันธ์ 8. วดิ ีโอสอนการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอนในการสร้างกราฟและหาค่าความสัมพนั ธ์ 2. แหล่งการเรียนรู้ 1. อินเทอรเ์ น็ต 2. Google Classroom 8. การวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินจากใบกิจกรรม 2. สงั เกตพฤติกรรมจากการทางานกล่มุ 3. แบบทดสอบ – ข้อมลู มีคุณคา่
9. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผสู้ อนสามารถแนะนาให้ผู้เรียนเลอื กใช้เคร่ืองมือในการวเิ คราะหข์ ้อมูลตามความถนัดของผ้เู รียน โดยผเู้ รียนอาจเลอื กใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู หรือโปรแกรมภาษา 2. สาาหรับใบกจิ กรรมท่ี 6.1 และ 6.2 อาจให้ผูเ้ รียนเลือกชุดข้อมลู เพยี งชุดเดยี ว เช่น ข้อมูลไฟปา่ และ ตอบคาถามทีเ่ ก่ยี วข้องให้ครบทกุ ประเดน็ 3. สาหรบั ขอ้ 4 ในใบกิจกรรมท่ี 6.1 ใหผ้ ู้เรยี นทส่ี นใจศึกษาวธิ ีการทาจากเวบ็ ไซต์ data.programming.in.th 10. บนั ทึกหลงั สอน แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 การวิเคราะห์ข้อมูล เร่ือง การวเิ คราะหข์ ้อมูลเชงิ พรรณนา นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใช้แผนการเรยี นรู้ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ควรแกไ้ ข ดงั นี้ ท่ี รายการ 1 เวลา 2 เนอื้ หาสาระ 3 จดุ ประสงค์ 4 ขน้ั สอน/กจิ กรรมทจี่ ัด 5 ส่อื 6 การวัดผล/เครอื่ งมือวัดผล 2. ผลการเรยี นการสอน จากการสอนครั้งนี้ ไม่มกี ารวดั ผล มกี ารวดั ผล มนี ักเรียนผ่านจดุ ประสงค์ตามแผนการ เรยี นร้จู านวน ................ คน และนกั เรยี นท่ียังไมผ่ า่ น จานวน ..................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรับนกั เรยี นท่ไี มผ่ า่ น ได้ดาเนินการตามข้ันตอน ดงั นี้ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... -ปัญหาที่พบคือ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. .......................................................
3. แกป้ ญั หาด้วยวิธี สอนซอ่ มเสรมิ ฝึกด้วยแบบฝึกตา่ ง ๆ อน่ื ๆ ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ผลการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวดั ผลก่อนซ่อมเสรมิ นกั เรียนมีคะแนนสูงขึน้ คดิ เป็นรอ้ ยละ .............................. และผา่ นตวั ชวี้ ดั / ผลการเรยี นรู้ คดิ เป็นรอ้ ยละ ...................... ลงช่อื ............................................ ครูผู้สอน (นางสาวหทยั ชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บนั ทกึ ความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรยี น/หรอื ผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงชื่อ ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 จานวน 0.5 หน่วยกติ รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ 2 รหสั วิชา ว32103 เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 การวเิ คราะห์ข้อมูล เร่อื ง การวเิ คราะห์ข้อมูลเชงิ ทานาย 1. มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเปน็ ข้ันตอนและ เปน็ ระบบใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม ตัวชี้วดั ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมลู และใช้ความรูด้ ้านวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ัญหา หรือเพ่ิมมูลคา่ ให้กับบริการหรอื ผลิตภัณฑ์ทใี่ ช้ในชีวิตจริงอยา่ งสรา้ งสรรค์ 2. สาระสาคัญ การวิเคราะห์เชิงทานาย (predictive analysis) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตเพื่อหารูปแบบ ความสัมพันธ์ในชุดข้อมูลที่สามารถนามาเป็นต้นแบบในการทานาย การคาดการณ์ผลหรือส่ิงท่ีน่าจะเกิดข้ึนใน อนาคต ซ่งึ จะช่วยให้บุคคลหรือองค์กร สามารถตดั สินใจไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ การทานายข้อมูลเชิงตัวเลข ( numeric prediction) เป็นการใช้ข้อมูลในอดีตมาวิเคราะห์ หาความสัมพันธ์ระหว่างชุดข้อมูลและสร้างแบบจาลองในการทานายท่ีให้ผลลัพธ์เป็นตัวเลข โดยท่ัวไปมีวิธีการ ทานาย 2 วธิ ีคอื การทานายโดยใชก้ ราฟและการทานายโดยใช้สมการเชงิ เสน้ 3. ตัวช้ีวัด / ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และใช้ความรูด้ ้านวิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ิทัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปญั หาหรือเพิ่มมูลค่าให้กบั บริการหรอื ผลิตภัณฑ์ทใ่ี ช้ในชวี ติ จริงอย่างสรา้ งสรรค์ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลักการวิเคราะหข์ ้อมลู เชิงทานายโดยใชต้ วั เลข 2. ทานายคา่ โดยใช้สมการเชิงเสน้ และคานวณค่าความคลาดเคล่ือนในการทานาย 3. ใช้โปรแกรมสาเร็จรปู หรือโปรแกรมภาษาในการทานายเชิงตัวเลข 4. อธิบายผลการทานายเชิงตัวเลข 5. เห็นประโยชนข์ องการวิเคราะห์ข้อมลู เชงิ ทานาย 5. สาระการเรียนรู้ ความหมายของการทานายเชิงตัวเลข การทานายค่าจากเส้นแนวโนม้ โดยใช้กราฟและใช้สมการเชิงเส้น การหาค่าความคลาดเคลอ่ื นในการทานาย การสร้างเสน้ แนวโน้ม และสมการเชงิ เสน้ โดยใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู หรอื การเขียนโปรแกรม
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั เตรียม 1. ใบกจิ กรรม ยอดวิว ตามจานวนผ้เู รียน 2. ใบกิจกรรม ผลทานายใครแมน่ ตามจานวนผเู้ รียน 3. ใบกจิ กรรม รแู้ ล้วรวย ตามจานวนผู้เรยี น 4. ไฟลต์ ารางคานวณค่าความคลาดเคลือ่ น ข้นั ตอนการดาเนนิ การ 1. ผู้สอนนาเขา้ สู่บทเรียนโดยทบทวนเรือ่ งการตง้ั คาถามสาหรับการวเิ คราะหเ์ ชงิ ทานายโดย ใช้สถานการณ์สิงโตและสนุ ขั จ้ิงจอก จากในหนังสอื เรียนและเพิ่มเตมิ สถานการณ์อนื่ ๆ เพอ่ื ยกตวั อย่างการทานาย เชิงตัวเลข เชน่ นักเรียนคิดว่าเวลาทีน่ กั เรยี นใช้ในการอา่ นหนงั สือสอบสามารถทานายเกรดของนักเรยี นได้หรือไม่ นกั เรยี นคดิ ว่าอุณหภมู ิสามารถทานายยอดขายไอศกรีมไดห้ รือไม่ 2. ผเู้ รียนศกึ ษาหัวข้อที่ 3.2 การวเิ คราะหเ์ ชงิ ทานาย และ หวั ข้อย่อย 3.2.1 การทานายเชงิ ตัวเลข ในหนงั สือเรยี น 3. ผู้เรียนจับคูก่ นั ทาใบกิจกรรมที่ 7.1 ยอดวิว 4. สมุ่ ผเู้ รยี นนาเสนอคาตอบและใหเ้ ปรียบเทียบกับคาตอบกบั คู่อื่นว่าเหมอื นหรือตา่ งกนั อยา่ งไร 5. ผู้เรยี นคเู่ ดิมทาใบกจิ กรรมท่ี 7.2 คาทานายใครแม่น 6. ผู้สอนและผูเ้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายข้อดีข้อเสียของการทานายคา่ จากเสน้ แนวโน้ม โดยใชก้ ราฟ สมการเชิงเส้น โปรแกรมสาเร็จรปู หรอื การเขียนโปรแกรมภาษา 7. ผสู้ อนเปดิ ไฟล์ราคาทองคา และรว่ มกนั อภปิ รายกบั ผเู้ รยี นว่า เราจะจัดเตรียม ไฟล์ราคาทองคา อยา่ งไร ถงึ จะสามารถทานายได้ว่า เดือนทเี่ ราเกดิ ในปีหนา้ ราคาทองคาจะเป็นเท่าไร 8. ผเู้ รียนแตล่ ะคนทาใบกจิ กรรมที่ 7.3 ร้แู ลว้ รวย 9. ใหผ้ ู้เรยี นเขียนสรุปเรอื่ งราวและผลลัพธข์ ้อมูลท่ีได้จากใบกิจกรรมท่ี 7.3 ลงใน Padlet 10. ผเู้ รยี นรว่ มกนั อา่ นเร่ืองราวของเพอ่ื นและแสดงความคดิ เห็นในเชิงบวก 11. ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ การวิเคราะห์การทานายเชงิ ตัวเลข 7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 1. สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.5 2. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์พร้อมระบบอนิ เทอร์เน็ต 3. Google Application 4. ใบกจิ กรรมยอดววิ , ใบกิจกรรมผลทานายใครแม่น และ ใบกิจกรรมรูแ้ ล้วรวย 5. ชุดขอ้ มลู วัวปา่ และม้าลายจากเว็บไซต์ data.programming.in.th 6. ชุดข้อมลู ทองคา 7. เว็บไซต์ data.programming.in.th 2. แหลง่ การเรยี นรู้ 1. อินเทอร์เนต็ 2. Google Classroom
8. การวดั และประเมินผล 1. ประเมินจากใบกิจกรรม 2. สงั เกตพฤติกรรมจากการทางานกลมุ่ 9. กิจกรรมเสนอแนะ 1. ผสู้ อนแนะนาให้ผเู้ รียนเลอื กใชเ้ ครอ่ื งมือการวิเคราะหข์ ้อมลู ตามความถนดั โดยอาจเลือกใชโ้ ปรแกรม สาเรจ็ รูปหรือการเขียนโปรแกรมภาษา 2. กจิ กรรมน้ปี ระกอบดว้ ยใบกิจกรรม 3 ใบ ใชเ้ วลา 4 ชั่วโมง ให้ผสู้ อนพจิ ารณาตามความเหมาะสมใน การแบ่งการทากจิ กรรมในแต่ละสปั ดาหห์ รอื ให้ทาใบกจิ กรรมท่ี 7.3 รูแ้ ลว้ รวยนอกเวลาเรียน 10. บนั ทึกหลงั สอน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 การวิเคราะห์ข้อมลู เร่ือง การวเิ คราะหข์ ้อมลู เชงิ ทานาย นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใชแ้ ผนการเรยี นรู้ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ควรแก้ไข ดงั น้ี ท่ี รายการ 1 เวลา 2 เนอ้ื หาสาระ 3 จุดประสงค์ 4 ขัน้ สอน/กจิ กรรมทจ่ี ัด 5 สือ่ 6 การวดั ผล/เครื่องมือวดั ผล 2. ผลการเรยี นการสอน จากการสอนครงั้ นี้ ไม่มกี ารวัดผล มีการวดั ผล มีนักเรยี นผา่ นจุดประสงค์ตามแผนการ เรยี นรู้จานวน ................ คน และนักเรยี นที่ยงั ไมผ่ ่าน จานวน ..................คน ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรับนกั เรียนทีไ่ มผ่ ่าน ไดด้ าเนินการตามข้นั ตอน ดังน้ี ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. .......................................................
-ปัญหาท่ีพบคอื ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 3. แก้ปัญหาด้วยวธิ ี สอนซ่อมเสรมิ ฝึกด้วยแบบฝึกต่าง ๆ อนื่ ๆ ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ผลการแกป้ ญั หา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวดั ผลก่อนซอ่ มเสริม นกั เรยี นมคี ะแนนสูงข้ึนคดิ เป็นร้อยละ .............................. และผ่านตัวชวี้ ัด/ ผลการเรยี นรู้ คดิ เป็นรอ้ ยละ ...................... ลงชือ่ ............................................ ครูผู้สอน (นางสาวหทยั ชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บนั ทกึ ความเห็นผู้อานวยการโรงเรียน/หรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงช่อื ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 จานวน 0.5 หน่วยกิต รายวิชา วทิ ยาการคานวณ 2 รหสั วชิ า ว32103 เวลา 4 คาบ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 การทาขอ้ มลู ให้เป็นภาพฯ เรอ่ื ง การทาขอ้ มูลให้เป็นภาพ 1. มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชี้วดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชีวิตจรงิ อยา่ งเป็นขั้นตอนและ เปน็ ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทัน และมจี รยิ ธรรม ตวั ชว้ี ดั ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูล และใช้ความรดู้ า้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดจิ ิทัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหา หรอื เพ่ิมมูลคา่ ให้กบั บริการหรือผลิตภณั ฑท์ ใ่ี ช้ในชีวติ จรงิ อยา่ งสร้างสรรค์ 2. สาระสาคัญ กระบวนการทาขอ้ มลู ใหเ้ ป็นภาพ เป็นการจดั การหรอื การแปลงขอ้ มลู ใหอ้ ยู่ในรูปของแผนภาพ แผนภมู ิ หรือกราฟที่เหมาะสมกับชุดข้อมูลที่ต้องการนาเสนอ โดยสามารถเลือกใช้ตัวแปรในการมองเห็นที่ทาให้ผู้รับสาร เขา้ ใจถูกตอ้ ง ตรงประเด็น ชดั เจน และดึงดูดความสนใจ 3. ตวั ช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมลู และใช้ความรู้ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์ สื่อดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ญั หาหรือเพ่ิมมูลค่าให้กบั บริการหรอื ผลิตภัณฑท์ ีใ่ ช้ในชวี ิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลักการและจดุ ประสงค์ของการทาขอ้ มลู ให้เปน็ ภาพ 2. เลือกใช้วธิ กี ารทาข้อมูลใหเ้ ป็นภาพได้อย่างเหมาะสม 3. เห็นความสาคญั ของการทาขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพในการนาเสนองาน 5. สาระการเรยี นรู้ ความหมายของการทาขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพ วิธกี ารทาข้อมูลให้เปน็ ภาพ การทาข้อมูลใหเ้ ปน็ ภาพอยา่ ง เหมาะสม และ การเลา่ เร่ืองราวจากขอ้ มูล
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั เตรียม 1. ใบกจิ กรรม นาเสนออย่างมืออาชพี ตามจานวนกลมุ่ 2. ใบกจิ กรรม แบบน้ีใช่รเึ ปล่า ตามจานวนกล่มุ ข้นั ตอนการดาเนินการ 1. ผู้สอนนาาเข้าสู่บทเรียนดว้ ยการใหผ้ เู้ รยี นดรู ูปภาพข้อมลู การวิง่ ของคนในนิวยอรค์ โดยเส้นที่มสี ี เขม้ หมายถึงเส้นทางทมี่ ีคนว่ิงจาานวนมาก จากน้ันตง้ั คาาถามถามผ้เู รยี น เชน่ “ถา้ นักเรยี นเปน็ ตารวจจราจร จะนาภาพน้ีไปใช้ประโยชน์ในงานได้อยา่ งไร” “ถ้านักเรยี นเปน็ เจ้าของร้านอาหารไทยในนิวยอร์ค จะนาภาพนไี้ ป ใชใ้ นการวางแผนจัดการรา้ นของตนเองอย่างไร” 2. ผ้สู อนแบง่ ผู้เรยี นออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน ศึกษาตัวอย่างการทาข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพจากเว็บไซต์ https://www.tableau.com/learn/articles/best-beautiful-data-visualization-examples โดยแต่ละกลุ่ม เลือกภาพมา 1 ภาพ ไม่ซา้ กัน และนาเสนอให้เพื่อนกล่มุ อ่ืนฟังว่าภาพของกลุ่มตนเองมีจุดเดน่ ของการนาเสนอ อย่างไร 3. ผู้เรยี นศึกษาหวั ข้อที่ 4.1 การสือ่ สารด้วยข้อมลู ในหนังสอื เรยี น แล้วผสู้ อนและผ้เู รยี นร่วมกัน อภิปรายเปรยี บเทยี บการนาเสนอข้อมูลด้วยตารางและภาพ 4. ผู้เรยี นศกึ ษาหัวข้อท่ี 4.2 การทาข้อมลู ให้เป็นภาพ ในหนงั สอื เรยี นโดยอาจแบ่งกลุ่มในการศกึ ษาดังนี้ กล่มุ ที่ 1 และ 5 ศกึ ษาแผนภูมริ ูปวงกลม กลมุ่ ที่ 2 และ 6 ศกึ ษาแผนภูมแิ ท่ง กลมุ่ ท่ี 3 และ 7 ศึกษากราฟเส้น กลมุ่ ท่ี 4 และ 8 ศกึ ษาแผนภาพการกระจาย ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ทาความเข้าใจ วเิ คราะห์จุดเดน่ จดุ ด้อยและความเหมาะสมในการนาแผนภาพ แผนภมู ิ หรอื กราฟไปใช้ หลงั จากนน้ั สุ่มเลือกตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอ 5. ผเู้ รยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบกิจกรรมที่ 9.1 นาเสนออยา่ งมืออาชีพ เม่ือทาเสร็จแล้วผ้สู อนสุ่มผู้เรียน ออกมานาเสนอคาตอบ และร่วมกันอภปิ รายสรุปการเลือกแผนภาพ แผนภูมิ หรอื กราฟ ทเ่ี หมาะสมกับข้อมูล 6. ผูเ้ รยี นศกึ ษาหัวข้อท่ี 4.3 การทา ขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ภาพอยา่ งเหมาะสม ในหนังสือเรยี นแลว้ ผูส้ อนและ ผ้เู รียนร่วมกนั สรปุ เทคนิคต่างๆ ทน่ี ามาใช้ในการทาขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ภาพทน่ี ่าสนใจ 7. ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ ทาใบกจิ กรรมที่ 9.2 แบบน้ใี ชร่ เึ ปลา่ 8. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ นาภาพท่ีออกแบบไว้ ไปตดิ ไวท้ ผ่ี นงั หอ้ ง เพ่ือให้เพ่ือนกล่มุ อ่ืนใหค้ วามเหน็ ว่าภาพที่ นาเสนอตรงกับจุดประสงคข์ องผนู้ าเสนอหรอื ไม่ ต้องปรบั ปรุงแกไ้ ขอย่างไร 9. ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ เกย่ี วกบั การทาข้อมูลใหเ้ ป็นภาพอยา่ งเหมาะสม
7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 1. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.5 2. เคร่อื งคอมพิวเตอร์พรอ้ มระบบอนิ เทอร์เน็ต 3. Google Application 4. ใบกจิ กรรมนาเสนออยา่ งมืออาชีพ และ ใบกิจกรรมแบบน้ใี ชร่ เึ ปล่า 5. เว็บไซต์ data.programming.in.th 2. แหล่งการเรยี นรู้ 1. อนิ เทอรเ์ นต็ 2. Google Classroom 8. การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินจากใบกจิ กรรม 2. สงั เกตพฤติกรรมจากการทางานกลมุ่ 9. กิจกรรมเสนอแนะ 1. หากผ้สู อนไมส่ ามารถเขา้ ถึงเวบ็ ไซตไ์ ด้ ให้ผู้สอนจัดหาภาพตวั อยา่ งจากเวบ็ ไซต์อื่นหรืออาจตดั ข้นั ตอน การดาเนนิ กจิ กรรมน้ีออกได้ 2. ถ้าจาานวนกลุม่ ของผ้เู รยี นไม่เท่ากบั 8 กล่มุ ใหผ้ ู้สอนดาาเนินการแบง่ กลุม่ ตามความเหมาะสม
10. บนั ทึกหลงั สอน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การทาขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพฯ เรอ่ื ง การทาขอ้ มูลใหเ้ ป็นภาพ นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวนเตม็ 69 คน 1. ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้ เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ควรแก้ไข ดงั น้ี ที่ รายการ 1 เวลา 2 เน้ือหาสาระ 3 จดุ ประสงค์ 4 ขัน้ สอน/กจิ กรรมท่ีจัด 5 สอื่ 6 การวดั ผล/เครือ่ งมือวัดผล 2. ผลการเรยี นการสอน จากการสอนครัง้ น้ี ไม่มกี ารวดั ผล มีการวัดผล มีนักเรยี นผา่ นจุดประสงค์ตามแผนการ เรยี นรู้จานวน ................ คน และนักเรยี นท่ียังไมผ่ ่าน จานวน ..................คน ไดแ้ ก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สาหรับนกั เรยี นที่ไม่ผ่าน ไดด้ าเนนิ การตามขน้ั ตอน ดงั นี้ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... -ปัญหาท่ีพบคอื ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 3. แก้ปญั หาด้วยวิธี สอนซอ่ มเสริม ฝกึ ด้วยแบบฝกึ ต่าง ๆ อน่ื ๆ ได้แก่ ............................................................................................................................. ....................................................... ผลการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................
ผลการสอนซ่อมเสริม จากการวดั ผลก่อนซอ่ มเสรมิ นกั เรยี นมีคะแนนสงู ข้นึ คดิ เป็นรอ้ ยละ .............................. และผา่ นตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ คิดเป็นรอ้ ยละ ...................... ลงช่ือ ............................................ ครผู ู้สอน (นางสาวหทยั ชนก ตระกูลจาลอง) ............./............../............. บันทึกความเหน็ ผู้อานวยการโรงเรียน/หรอื ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ………………………………………………..…………………………………………………..……………………………………..………………… ลงช่ือ ................................................................. (................................................................................) ............../.............../.............
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: