แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เทคโนโลยี วทิ ยาการคานวณ จานวน 8 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจริงอยา่ งเป็นขัน้ ตอน และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) เป็นเครอ่ื งมือทีม่ บี ทบาทสาคญั ตอ่ การเรียนรู้ และการใช้ชีวิตประจาวนั ในปัจจบุ ันมกี ารใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยางแพรห่ ลายดว้ ยประโยชน์ทีห่ ลากหลาย ในการเข้าถึงข้อมลู ผใู้ ชง้ านต้องตระหนกั ถึง ความปลอดภยั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ นโยบาย ขน้ั ตอนการ ปฏิบตั ิ และมาตรการทางเทคนคิ ท่นี ามาใชป้ ้องกันการใชง้ านจากบุคคลภายนอก การเปล่ียนแปลง การขโมย หรือ การทาความเสียหายตอ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ว 4.2 ม.1/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ใชส้ ือ่ และแหล่งขอ้ มลู ตามข้อกาหนดและ ข้อตกลง จดุ ประสงค์ 1. อธบิ ายไดว้ ่าเทคโนโลยีสารสนเทศคอื อะไร (K) 2. ออกแบบเทคโนโลยเี พื่อชว่ ยแกป้ ัญหาในชวี ิตประจาวันได้ (P) 3. เห็นความสาคญั ของเทคโนโลยีทใ่ี ช้ในชวี ิตประจาวนั (A)
4. สาระการเรียนรู้ 1. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น การปกป้องความเปน็ ส่วนตัวและอตั ลกั ษณ์ 2. การจดั การอตั ลักษณ์ เชน่ การตงั้ รหัสผ่าน การปกปอ้ ง ขอ้ มลู สว่ นตัว 3. การพิจารณาความเหมาะสมของเน้อื หา เชน่ ละเมดิ ความเปน็ ส่วนตัวผู้อ่ืน อนาจาร วิจารณ์ ผอู้ ่นื อย่าง หยาบคาย 4. ข้อตกลง ข้อกาหนดในการใช้สอื่ หรือแหลง่ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ เช่น Creative commons 5. สมรรถนะสาคญั 1. ความสามารถในการสอื่ สาร ทักษะการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ ทักษะการคิดอยา่ งเป็นระบบ ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา ทกั ษะการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 1.1 เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ใบงานท่ี 1.2 เทคโนโลยีในฝนั 8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. วิธกี ารสอนโดยการลงมือปฏิบัติ (Practice)
ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ผู้สอนถามผูเ้ รยี นเพอ่ื เป็นการทบทวนความรเู้ ดมิ และเพ่ือกระตุ้นความสนใจของผูเ้ รยี น เช่น “ใน ชวี ิตประจาวันนักเรยี นใชป้ ระโยชน์อะไรจากเทคโนโลยีบา้ ง” แนวคาตอบ : ใช้เพอ่ื อานวยความสะดวก เช่น ตง้ั นาฬกิ าปลกุ ดูแผนที่ โอนเงิน ซอื้ สนิ คา้ และบรกิ าร ใช้เพื่อการศึกษา คน้ คว้าหาความรู้ ทารายงาน ใช้เพือ่ ความบนั เทิง เล่นเกม ดหู นงั ฟังเพลง แชทคยุ กบั เพื่อน ขั้นสอน 2. ผู้สอนแจกใบความรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ ใหก้ ับผู้เรียน พร้อมอธิบายใบความรู้ คือ เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) คอื การประยุกตค์ วามรู้ ทางด้านวิทยาศาสตร์เพอื่ นามาจดั การสารสนเทศทต่ี ้องการ โดยอาศัยเทคโนโลยสี มยั ใหม่ เชน่ เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยดี า้ นเครือข่ายโทรคมนาคมและการสื่อสาร และอาศยั ความรูก้ ระบวนการดาเนินงานสารสนเทศตัง้ แตข่ ัน้ ตอนการแสวงหา การวิเคราะห์ การจัดเกบ็ ตลอด จนถึงการเผยแพรส่ ารสนเทศและแลกเปลยี่ นสารสนเทศ เพ่อื เปน็ การเพิ่มประสทิ ธภิ าพ ความถูกต้อง ความแม่นยา และความรวดเร็วตอ่ การนามาใช้ประโยชน์ องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบพื้นฐานทสี่ าคัญ 2 ส่วน คอื เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยกี ารส่ือสารและโทรคมนาคม 1. เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ (Computer Technology) คอมพิวเตอร์ คอื อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์อย่างหน่ึงท่มี คี วามสามารถในการคานวณ อัตโนมัติตามชดุ คาส่งั สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กับปัญหาเล็ก จนถงึ ปญั หาใหญไ่ ด้ โดยมีกระบวนการ ทางาน ต้งั แต่การรบั ข้อมูลเขา้ (Input) เพอ่ื ทาการประมวลผล (Process) และนามาแสดงผลลพั ธ์ (Output) ตลอดจนถงึ การเกบ็ ขอ้ มลู (Storage)
2. เทคโนโลยกี ารส่ือสารและโทรคมนาคม เทคโนโลยกี ารส่ือสารและโทรคมนาคม เปน็ องคป์ ระกอบที่ทาหน้าที่เผยแพรแ่ ลกเปล่ยี น สารสนเทศไปยังผู้ทต่ี อ้ งการในแหลง่ ตา่ งๆ ได้อยา่ งสะดวก รวดเรว็ ถกู ต้อง ครบถว้ น และทัน สถานการณ์ โดยสารสนเทศในปจั จบุ ันมหี ลากหลายรูปแบบทใี่ ช้ในการแลกเปลยี่ นซ่งึ กัน 3. ผู้สอนแจกใบงานที่ 1.1 เทคโนโลยีสารสนเทศ ให้ผู้เรียน ตอบคาถามเกยี่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ ใหถ้ กู ต้องครบถ้วน 4. ผู้สอนส่มุ ผ้เู รียนออกมาบอกรายการเทคโนโลยสี ารสนเทศทผ่ี เู้ รยี นเขยี น โดยผู้สอน และ ผูเ้ รยี นคน อื่นๆ ชว่ ยกันขยายความ จากรายการเทคโนโลยีสารสนเทศทผี่ ้เู รียนเขียน เชน่ คอมพวิ เตอร์ (Computer) มกี ารประมวลผลตามหลกั เหตุผลของมนษุ ย์หรอื ระบบ ปัญญาประดิษฐ์ สมารท์ โฟน(Smart Phone) สมารท์ เปน็ โทรศพั ท์เคลอื่ นทท่ี ่มี คี วามสามารถท่เี พ่ิมเติม นอกเหนือจากโทรศพั ทม์ อื ถือทัว่ ไปสมารท์ โฟนมีลกั ษณะคลา้ ยเปน็ คอมพวิ เตอรพ์ กพา GPS เป็นระบบทใ่ี ช้แสดงตาแหนง่ บนพน้ื โลก โดยทาการกาหนดตาแหนง่ บนพ้ืนโลกผ่าน ดาวเทยี ม Global Positioning System (GPS) Smart Card เปน็ บัตรพลาสติกท่มี ชี ปิ (Integrated Circuit : IC) ติดหรอื ฝังอยูใ่ นตัวบตั ร พลาสติกมขี นาดเทา่ บตั รเครดิต เพอ่ื ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และประมวลผลภายในตวั เอง ชว่ั โมงที่ 2 ขั้นสอน (ตอ่ ) 1. ผสู้ อนแจกใบงานที่ 1.2 เทคโนโลยีในฝนั โดยให้ผ้เู รียน ออกแบบเทคโนโลยที ช่ี ว่ ยแก้ปญั หาใน ชวี ติ ประจาวนั โดยผเู้ รยี นต้องตอบคาถามตามใบงานใหค้ รบถว้ น รวมทงั้ วาดภาพเพ่อื อธิบายลักษณะ ของเทคโนโลยที ผี่ เู้ รยี นออกแบบ 2. ผู้สอนใหเ้ วลาผ้เู รยี นในการทาใบงาน โดยผสู้ อนคอยดูแลความเรยี บรอ้ ย และคอยให้คาแนะนา เพม่ิ เติม
3. ผู้สอนอธบิ ายเพ่ิมเติมว่า เทคโนโลยี เกดิ จากการท่ีมนษุ ยส์ รา้ งหรือพฒั นาขน้ึ ซง่ึ อาจเปน็ ไดท้ ัง้ ช้นิ งาน หรือวิธีการเพื่อใชแ้ ก้ปัญหา สนองความตอ้ งการ หรือเพิม่ ความสามารถในการทาางานของมนุษย์ ระบบทางเทคโนโลยี เปน็ กลมุ่ ของสว่ นต่าง ๆ ตงั้ แตส่ องสว่ นข้ึนไป ประกอบเขา้ ด้วยกันและ ทางานร่วมกนั เพอื่ ใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงคโ์ ดยในการทาางานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบไป ดว้ ย ตวั ป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ทสี่ มั พนั ธ์กนั นอกจากนร้ี ะบบ ทางเทคโนโลยีอาจมีขอ้ มูลยอ้ นกลบั (feedback) เพ่อื ใชป้ รับปรุงการทาางานไดต้ ามวัตถุประสงค์ เทคโนโลยีมีการเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาต้งั แตอ่ ดตี จนถึงปัจจบุ ันซงึ่ มสี าเหตุหรือปจั จยั มาจาก หลายด้าน เช่น ปัญหา ความตอ้ งการความกา้ วหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สงั คม 4. ผสู้ อนยกตัวอย่าง เทคโนโลยี ทีเ่ กดิ จากปญั หาและความต้องการ อย่างเช่น วคั ซนี Covid-19 ทแ่ี ต่ละ บริษัทได้คดิ คน้ และผลิตขึ้นมาเพอ่ื ใชใ้ นการรักษามนุษย์ ซ่ึงก่อนหนา้ น้ี มนุษยก์ ไ็ ด้ คิดค้นเทคโนโลยี ยา ขึ้นมา เพื่อบรรเทาและรกั ษาอาการเจ็บป่วย หรือ คดิ คน้ จักรยาน เพ่ือชว่ ยให้ใช้เวลาในการ เดินทางนอ้ ยกวา่ การเดนิ 5. ผสู้ อนสุ่มผ้เู รียนออกมานาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น และใหผ้ ู้เรยี นคนอื่นๆช่วยกันแสดงความคิดเหน็ แนะนา เพ่ือนาไปพฒั นาต่อยอดเปน็ ชิ้นงานท่ีอาจเปน็ จริง และช่วยแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั ได้จริง ขนั้ สรุป 6. ผู้สอนสรปุ ให้ผู้เรยี นเข้าใจวา่ ปจั จุบนั เทคโนโลยเี ข้ามามีบทบาทในการดาเนินชวี ติ ประจาวนั อยา่ งมากมาย เปรยี บเสมอื นเป็นอวัยวะท่ี 33 ของมนษุ ย์ ดว้ ยประโยชน์ทีห่ ลากหลายในการเขา้ ถงึ ข้อมูล รวมถงึ การส่งข่าวสารถึงกนั อยา่ งสะดวกและรวดเร็ว ผใู้ ชง้ านจะตอ้ งตระหนักถึงการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั และไมล่ ะเมิดหรือกระทาการใดๆทีจ่ ะส่งผลใหผ้ อู้ นื่ ได้รับความ เสยี หาย ผใู้ ชง้ านตอ้ งใชส้ ารสนเทศอยา่ งสร้างสรรค์ และเกดิ ประโยชนส์ งู สุด 7. ผูส้ อนเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนสอบถามเพ่มิ เตมิ 9. สอื่ การเรียนรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. ใบงานที่ 1.1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. ใบงานที่ 1.2 เทคโนโลยใี นฝนั 0
10. การวดั และประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ แบบประเมนิ พฤติกรรม วิธีการ คุณภาพอยู่ในระดบั ดี ผ่าน รายบคุ คล เกณฑ์ ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบคุ คล จากการทากจิ กรรมใน แบบประเมนิ ผลงาน คณุ ภาพอยูใ่ นระดบั ดี ผ่าน ห้องเรยี น เกณฑ์ แบบประเมนิ ผลงาน ตรวจใบงานท่ี 1.1 เทคโนโลยี คุณภาพอย่ใู นระดบั ดี ผ่าน สารสนเทศ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.2 เทคโนโลยี ในฝนั
แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 8 ชวั่ โมง เทคโนโลยี วิทยาการคานวณ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 เทคโนโลยสี ารสนเทศ ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………….…………….ผูส้ อน (…………………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคดิ เหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………….ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: