Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Gray Illustration Winter Story

Gray Illustration Winter Story

Published by chypti, 2021-12-29 16:48:18

Description: Gray Illustration Winter Story

Search

Read the Text Version

นาฏศิลป์ นานาชาติ โดย นายชัยภัทร พร้อมสมบูรณ์ ม.6.2 เลขที่12



คำนำ สมุดเล่มเล็กนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา ศ33102 ศิลปะ6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่อง นาฏศิลป์นานาชาติ ได้แก่ นาฏศิลป์จีน นาฏศิลป์ญี่ปุ่น นาฏศิลป์เกาหลี นาฏศิลป์อินเดีย นาฏศิลป์อินโดนีเซีย และได้ ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์กับการเรียน ผู้จัดทำหวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านหรือ นักเรียน นักศึกษาที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อบรับไว้และขออภัย มา ณ ที่นี่ด้วย



สารบัญ เรื่อง หน้า นาฏศิลป์จีน 1 นาฏศิลป์ญี่ปุ่น 2 นาฏศิลป์เกาหลี 3 นาฏศิลป์มาเลเซีย 4 นาฏศิลป์อินเดีย 5



นาฏศิลป์จีน อุปรากรจีน อุปรากรจีนที่เป็นแบบมาตรฐาน และนับเป็นศิลปะประจำชาติ คือ อุปรากรปักกิ่ง ซึ่งการแสดงจะเน้นศิลปะด้านดนตรี การขับ ร้อง นาฏลีลา การแสดงอารมณ์ ศิลปะการต่อสู้กายกรรม การแสดง ผู้แสดงจะต้องมีพรสวรรค์ น้ำเสียงมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังต้องมี ความอดทนสูงอีกด้วยองค์ประกอบของอุปรากรจีนจะประกอบ ด้วยสิ่งต่างๆ ดังนี้ 1. ประเภท และบทบาทตัวละคร ตัวละครชายกับหญิงแบ่งออก เป็น \"บู๊และบุ๋น\" โดยประเภทที่แสดงบู๊จะต้องแสดงกายกรรม ส่วน ประเภทที่แสดงบุ๋นจะเน้นที่การขับร้อง และการแสดงอารมณ์ แต่ ถ้าแสดงบทบาทที่คาบเกี่ยวกัน จะเรียกตัวละครนั้นว่า \"บู๊บุ๋น\" 2. เทคนิคการแสดง แสดงตามทฤษฎีการเคลื่อนไหวทุกส่วนของ ร่างกาย มีจังหวะสง่างาม การเคลื่อนไหวของมือ เท้า การเดิน การ เคลื่อนไหวของหนวดเครา ชายเสื้อ ขนนกที่ประดับอยู่บนศีรษะจะ คล้ายกับละครใบ้ ใช้สัญลักษณ์แทนความหมาย เช่น การยกทัพใช้ คนถือธงเพียงคนเดียว เดินนำหน้าแม่ทัพ กิริยาอายของสตรีจะ แสดงโดยการยกแขนเสื้อมาบังใบหน้า และการแสดงว่ากำลังนอน ก็แสดงโดยวางแขนไว้บนโต๊ะแล้วนอนหนุนแขน เป็นต้น 3. เครื่องแต่งกาย แต่งตามชุดประจำชาติ มีชุดจักรพรรดิ ชุด ขุนนาง เครื่องทรงเสื้อเกราะ มงกุฎจักรพรรดิ หมวกขุนนาง นักรบ รองเท้าเป็นรองเท้าผ้าพื้นเรียบ ผู้แสดงแต่งหน้าเองตามบทบาทที่ แสดง



นาฏศิลป์ญี่ปุ่น คาบูกิ คาบูกิ เป็นศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยนางรำที่ชื่อว่า Izumo no okuni กับคณะ ละครของเธอ ในสมัยนั้นยังไม่ประณีตบรรจงเท่าปัจจุบันจึงไม่น่าสนใจ เท่าใดนัก เดิมละครคาบูกิจะใช้ผู้หญิงเล่นเป็นตัวนาง การแสดงจึงดู อ่อนช้อยงดงาม แต่ในสมัยโทคุกาวามีการห้ามโดยเด็ดขาด ด้วยเห็น ว่าหญิงที่มาแสดงส่วนใหญ่เป็นโสเภณี ไม่ดีงามต่อศิลธรรม การแสดง การแสดงคาบูกินั้น ตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวที่กระฉับกระเฉง แสดงออกซึ่งท่าทางที่มีความหมาย เช่น ร้องไห้ เสียใจ ดีใจ โกรธ บ้า คลั่ง ฯลฯ จึงทำให้ละครคาบูกิเป็นที่นิยมดูกัน การแสดงถูกพัฒนามา เรื่อยๆ จนกลายเป็นที่นิยมที่สุดในสมัยเอโดะศตวรรษที่ 20 แต่ไม่ถูก จัดว่าเป็นละครคลาสสิคเนื่องจากคาบูกิเป็นรูปแบบความบันเทิงที่ผสม ผสานกันหลากหลาย ตั้งแต่ดนตรี การร่ายรำ การเล่าเรื่องตลกชวนหัว เรื่องเศร้าซึ้งและทุกๆ อย่างที่ผู้ชมต้องการดู ในละครคาบูกิที่ไม่มีผู้ แสดงหญิง ใช้นักแสดงชายแสดงเป็นผู้หญิงซึ่งเรียกว่า อนนะงาตะ เครื่องแต่งกาย การแต่งหน้าและการแต่งตัวคาบูกินั้นจะเน้นความฉูดฉาดอลังการ มี เอกลักษณ์ที่การแต่งหน้านักแสดงที่เรียกว่า คุมาโดริ (Kumadori) โดย จะทาหน้าเป็นสีขาวและวาดลวดลาย ซึ่งแบ่งสีออกเป็น สีแดงคือฝ่ายดี สีฟ้าคือฝ่ายร้าย สีน้ำตาลคือตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ นอกจากนี้ยังใส่วิก ผมและสวมชุดหรูหราสวยงาม



นาฏศิลป์เกาหลี ระบำหน้ากากเกาหลี ระบำหน้ากากเกาหลี (Korean Mask Dance) ที่เรียกว่า “ทัลชุม” (Talchum) เป็นการแสดงที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณมา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังสามารถหาชมกันได้ในงานเทศกาลหรือการ แสดงในแต่ละเมือง ในสมัยก่อนการระบำหน้ากากเกาหลีนั้น เป็นการแสดงของชนชั้นล่าง ที่มีการคับข้องใจจากการถูกกดขี่จาก ชนชั้นที่สูงกว่า เนื้อหาที่ใช้แสดงจึงจะเกี่ยวกับการเสียดสีสังคม การ เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้น และเรื่องราวในวังต่างๆ ซึ่งขณะ แสดงผู้แสดงจะสวมหน้ากากเพื่อปกปิดตัวตน และว่ากันว่าเสมือน ได้ปลดปล่อยความอึดอัดใจภายใต้หน้ากากอีกด้วย การแสดง การแสดงระบำหน้ากากในแต่ละท้องที่จะมีลักษณะและเอกลักษณ์ ที่แตกต่างกันออกไป อย่างการแสดงระบำหน้ากากของหมู่บ้านพง ซันและยางจูจะมีการใช้หน้ากากกระดาษที่ออกแบบไปทางสีสันและ รูปแบบที่น่ากลัว เดิมหน้ากากโดยส่วนใหญ่จะมีการออกแบบโดยใช้ ไม้ และวัสดุจากธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันมีการปรับแต่งเพื่อให้ง่าย ต่อการแสดงและการรับชมมากขึ้น เช่นถ้าหากเป็นตัวละครเพศ หญิงก็อาจจะมีการตกแต่งใบหน้า ทาสีปาก เพื่อสื่อให้ผู้ชมได้ทราบ ว่าคือตัวแสดงเพศหญิง เป็นต้น เครื่องแต่งกาย นักแสดงและนักแสดงแป้งสวมหน้ากากมักสวมชุดผ้าไหมสีสันสดใส \"ฮันบก\" หรือ \"เสื้อผ้าเกาหลี\" ชุดฮันบกข้างต้นมีต้นแบบมาจากช่วง ปลายราชวงศ์โชซอนซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1392 ถึง 1910 แม้ในปัจจุบัน คนเกาหลีทั่วไปจะสวมเสื้อผ้าประเภทนี้ในโอกาสพิเศษเช่นงาน แต่งงานวันเกิดปีแรกทางจันทรคติ



นาฏศิลป์มาเลเซีย มโนห์รา มโนห์รา นาฏศิลป์ที่จัดว่าเป็นละครรำ ผู้แสดงจะต้องร่ายรำออกท่าทางตรง ตาม บทบาท ลีลาการรำอ่อนช้อยสวยงาม ละครรำแบบนี้จะพบที่รัฐ กลันตันโดยเฉพาะเท่านั้นที่อื่นหาดูได้ยาก ตาม ประวัติศาสตร์กล่าวกันว่า ละครรำแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักร ลิกอร์ (Ligor) ประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว การแสดง ใช้ภาษามาเล ตัวละครเมโนรานี้ใช้ผู้ชายแสดงทั้งหมด การแต่ง กายของตัวละคร จะมีลักษณะแปลก คือมีการใส่หน้ากากรูปทรงแปลกๆ หน้ากาก นั้นทาสีสันฉูดฉาดบาดตาเป็นรูปหน้าคน หน้า ยักษ์ หน้าปีศาจ หน้ามนุษย์นั้นมีสีซีดๆ แลดูน่ากลัว เวลาแสดงสม หน้ากากเต้นเข้าจังหวะดนตรี ตัวละครคล้าย โขน นิยมแสดงเรื่องจักรๆวงศ์ๆ เครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกายประกอบด้วย เทริด เป็นเครื่องประดับศีรษะของตัว นายโรงหรือโนราใหญ่หรือตัวยืนเครื่อง เครื่องลูกปัดร้อยด้วย ลูกปัดสีเป็นลายมีดอกดวง ใช้สำหรับสวมลำตัวท่อนบนแทนเสื้อ ปีกนกแอ่นหรือปีกเหน่ง ทับทรวงปีกหรือหางหงส์ ผ้านุ่ง สนับเพลา ผ้าห้อยหน้า ผ้าห้อยข้างกำไลต้นแขน-ปลายแขน และเล็บ



นาฏศิลป์อินเดีย ภารตะนาฏยัม ภารตะนาฏยัม ภารตะนาฏยัม เป็นนาฏศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดีย มีส่วนสำคัญ ในพิธีของศาสนาฮินดูสมัยโบราณ สตรีฮินดูจะถวายตัวรับใช้ ศาสนาเป็น “เทวทาสี” ร่ายรำขับร้อง บูชาเทพในเทวาลัย ซึ่งจะเริ่ม ฝึกตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ศึกษาพระเวท วรรณกรรม ดนตรี การขับร้อง ของเทวทาสีเปรียบประดุจนางอัปสรที่ทำหน้าที่ร่ายรำบนสวรรค์ การแสดง ผู้แสดงต้องได้รับการฝึกฝนอย่างมีแบบแผน ด้วยระยะเวลา ยาวนานจนมีฝีมือยอดเยี่ยม สามารถเครื่องไหวร่างกายได้ สอดคล้องกับจังหวะดนตรี เนื้อหาสาระของการแสดง สะท้อน สัจธรรมที่ปลูกฝังยึดมั่นในคำสอนของศาสนา แสดงได้ทุกสถานที่ ไม่เน้นเวที ฉาก เพราะความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของภารตะ นาฏยัม คือลีลาการเต้น และการ่ายรำ เครื่องแต่งกาย เครื่องแต่งกาย ในยุคโบราณ จากหลักฐานที่ปรากฏตามรูปปั้ น รูป แกะสลัก ไม่สวมเสื้อ สวมแต่ผ้านุ่งยาวแค่เข่า ใส่เครื่องประดับ สร้อยคอ ต่างหู กำไล ข้อมือ ข้อเท้า ต้นแขน ปละเครื่องประดับที่ ศีรษะ ปัจจุบันสวมเสื้อ ยึดหลักการแต่งกายสตรีที่เป็นชุดประจำ ชาติของอินเดียบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook