ส่ือการเรียนรู้แบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง ( Self – Learning Package ) แบบหน่วยการเรียน ( Instructional Module ) เล่ม 2 วชิ างานเคร่ืองมือกลเบือ้ งต้น ช่ืองานตัดเหลก็ เพลากลมด้วยเครื่องเลื่อยกล จัดทาโดย กล่มุ ปลูกต้นกล้าอาชีพ
เริ่มต้น ศึกษาและทาแบบฝึ กหัด เรียนซ่อมเสริม ผ่านเกณฑ์ 80 % ศึกษาบทเรียนต่อไป ไม่ผ่านเกณฑ์
❄เม่ือท่านศึกษาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบหน่วยการเรียน ช่ืองานตดั เหลก็ เพลากลม ด้วยเครื่องเลื่อยกลนีแ้ ล้ว ท่านจะสามารถ ......... 8. อธิบายวธิ ีใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทใ่ี ช้ตดั เหลก็ เพลากลมด้วยเคร่ืองเล่ือยกลได้ถูกต้อง 8.1 วธิ ีใช้บรรทดั เหลก็
ใบเนื้อหา ( Information Sheet : IS ) ช่ือวชิ า งานเคร่ืองมือกลเบื้องต้น ช่ืองาน : งานตดั เหลก็ เพลากลมด้วยเคร่ืองเลื่อยกล 8. วธิ ีใช้เคร่ืองมืออปุ กรณ์ในงานตัดเหลก็ เพลากลมด้วยเคร่ืองเล่ือยกล 8.1 บรรทดั เหลก็ 8.1.1 วธิ ีอ่านค่าบรรทัดเหลก็ รูปท่ี 1.20 แสดงบรรทดั เหลก็ บรรทดั เหลก็ เป็ นเคร่ืองมือวดั ทมี่ วี ธิ ีการใช้งานทไี่ ม่ยุ่งยากซับซ้อนมากนักโดยมวี ธิ ีการใช้ งานดงั ต่อไปนีก้ ารอ่านค่าบนบรรทดั เหลก็ น้ันสามารถทาการอ่านและวดั ได้ท้งั มลิ ลเิ มตร เซนตเิ มตร และนิว้ โดยจะขออธิบายเลยี งตามลาดบั หน่วยเลก็ ไปหาหน่วยใหญ่ดงั นี้ 0 1 cm0.5mm 2 cm 3 cm 4 cm 5 cm รูปที่ 1.21 แสดงขดี มาตราระบบเมตริกหน่วยวดั เป็ นเซนติเมตร 8.1.2 หน่วยการวดั ระบบเมตริก หน่วยการวดั ระบบเมตริกน้ันเป็ นระบบการวดั ทม่ี สี เกลหลกั เป็ นเซนติเมตร และ สเกลรองเป็ นมิลลเิ มตร โดยทสี่ เกลตวั เลขแต่ละตวั จะมคี ่าเท่ากบั 1 เซนติเมตร ไปตลอดความ ยาวของบรรทัดเหลก็ เช่น 15 , 30 เซนตเิ มตรเป็ นต้น
ตัวอย่างการอ่านค่าบนขีดมาตราระบบเมตริกหน่วยวดั เป็ นเซนติเมตร C B A 0 1 cm0.5mm 2 cm 3 cm 4 cm 5 cm รูปท่ี 1.22 การอ่านค่าบนสเกลบรรทัดเหลก็ A มคี ่าเท่ากบั 1 เซนตเิ มตร B มคี ่าเท่ากบั 2 เซนตเิ มตร C มคี ่าเท่ากบั 3 เซนตเิ มตร นอกจากนีห้ น่วยการวดั แบบเซนตเิ มตร ยงั แบ่งช่องสเกลย่อยออกมาอกี หน่ึงหน่วยการวดั ซ่ึงมคี วามละเอยี ดกว่า น่ันคือหน่วยการวดั ทมี่ หี น่วยเป็ นมลิ ลเิ มตร ซ่ึงจะถูกแบ่งอยู่ใน ระหว่างช่องสเกลของเซนตเิ มตร ดงั รูปดงั รูปที่ 1.22 ขีดมาตราเป็ นมิลลิเมตร รูปที่ 1.23 แสดงหน่วยการวดั เป็ นมลิ ลเิ มตร จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าระหว่างตวั เลข 11 – 12 น้ันจะมขี ดี มาตราช่องเลก็ ๆ ถูกแบ่ง ออกเป็ น 10 ขดี ซ่ึงแต่ละขดี น้ันมคี ่าเท่ากบั 1 มลิ ลเิ มตร เพราะฉะน้ัน จากตัวเลข 11- @# กจ็ ะ สามารถแบ่งออกได้เป็ น 10 ส่วน หรือ 10 มลิ ลเิ มตร ดงั น้ันในระยะความยาว 1 เซนตเิ มตร จะ มคี ่าเท่ากบั 10 มลิ ลเิ มตร
สเกล 0.05 มิลลเิ มตร cm cm รูปที่ 1.24 แสดงขีดมาตราความละเอยี ด 0.5 มิลลเิ มตร นอกจากขดี มาตราทม่ี ขี นาด ช่องละ 1 มลิ ลเิ มตรแล้วบรรทดั เหลก็ บางตวั ยงั มีขดี มาตราที่ เลก็ ลงไปอกี ซ่ึงสามารถอ่านค่าได้เท่ากบั 0.5 มลิ ลเิ มตร แต่ขดี มาตราเหล่าน้ันจะมรี ะยะห่าง ระหว่างขดี น้ันน้อยมากจึงทาให้ยากต่อการอ่านค่าโดยเฉพาะในสภาพการทไ่ี ม่เอือ้ อานวยเช่น แสงสว่างน้อยเกนิ ไป หรือ ขดี มาตราเกดิ การจางลง ลกั ษณะของการแบ่งขีดมาตราทม่ี คี ่า เท่ากบั 0.5 มลิ ลเิ มตร ดงั รูปที่ 1.24 3 2 1 mm รูปท่ี 1.25 แสดงการอ่านค่าความละเอยี ด 0.5 มลิ ลเิ มตร 1 มคี ่าเท่ากบั 5.5 มลิ ลเิ มตร 2 มคี ่าเท่ากบั 7.5 มลิ ลเิ มตร 3 มคี ่าเท่ากบั 9.5 มลิ ลเิ มตร
การอ่านค่าหน่วยการวดั ระบบเมตริก ชิ้นงาน 00.5 mm 1 2 34 5 6 รูปที่ 1.26 แสดงตัวอย่างวดั ชิ้นงาน วดั ขนาดด้วยบรรทัดเหลก็ จากรูปที่ 1.26 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 2 เซนตเิ มตร สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 0.00 เซนตเิ มตร ดงั น้ัน อ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 2.00 เซนตเิ มตร ชิ้นงาน 00.5 mm 1 2 34 5 6 รูปที่ 1.27 แสดงตัวอย่างวดั ชิ้นงาน วดั ขนาดด้วยบรรทดั เหลก็ จากรูปที่ 1.27 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 2.00 เซนตเิ มตรสเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 0.80 เซนตเิ มตรดงั น้ัน อ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 2.80 เซนตเิ มตร ชิ้น งาน 00.5 mm 1 2 34 5 6 รูปท่ี 1.28 แสดงตัวอย่างวดั ชิ้นงาน วดั ขนาดด้วยบรรทดั เหลก็ จากรูปที่ 1.28 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 3.00 เซนตเิ มตร สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 0.55 เซนตเิ มตร ดงั น้ัน อ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 3.55 เซนตเิ มตร
ชิ้นงาน 00.5 mm 1 2 34 5 6 รูปท่ี 1.29 แสดงตวั อย่างการชิ้นงาน วดั ขนาดด้วยบรรทัดเหลก็ จากรูปที่ 1.29 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 4.00 เซนตเิ มตร สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 0.85 เซนตเิ มตร ดงั น้ัน อ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 4.85 เซนตเิ มตร 8.1.3 หน่วยการวดั ระบบองั กฤษ หน่วยการวดั ระบบองั กฤษทม่ี อี ยู่บนบรรทดั เหลก็ จะเป็ นหน่วยการวดั ทอี่ ่านค่าเป็ น นิว้ เช่น 1, 2 เป็ นต้น สเกลหรือขดี มาตราทใี่ ช้บนบรรทดั เหลก็ น้ันจะถูกแบ่งออกเป็ นส่วน ๆ เช่น ถ้าภายใน 1 นิว้ ถูกแบ่งออกเป็ น 2 ส่วน กจ็ ะเป็ น 1 /2 นิว้ , ถ้าภายใน 1 นิว้ ถูกแบ่ง ออกเป็ น 16 ส่วน กจ็ ะเป็ น 1 /16 นิว้ เป็ นต้น รูปที่ 1.30 ลกั ษณะการแบ่งสเกลของบรรทดั เหลก็ ระบบองั กฤษ เพ่ือให้เกดิ ความเข้าใจได้ง่ายจะขออธิบายการอ่านค่าการวดั โดยเริ่มจากสเกลหลกั ก่อนและ ถัดไปจะเป็ นสเกลรองหลกั ต่าง ๆ ดงั นี้
สเกลหลกั หน่วยการวดั เป็ นนิว้ 2 01 รูปท่ี 1.31 แสดงสเกลหลกั บนบรรทดั เหลก็ ระบบองั กฤษ สเกลหลกั ของหน่วยการวดั ระบบองั กฤษนีเ้ ป็ นสเกลทมี่ กั จะมตี วั เลขกากบั อยู่เสมอ โดยทวั่ ไปจะเร่ิมต้น จาก 0 ถึง ความยาวสุดท้ายของบรรทดั เหลก็ ซึ่งขนึ้ อยู่กบั ความยาวของ บรรทดั เหลก็ โดยมลี กั ษณะดงั รูป สเกลรอง 1/2 นิว้ สเกลรอง 1/2 นิว้ รูปที่ 1.32 แสดงสเกลรอง 1/2 นิว้ บนบรรทัดเหลก็ ระบบองั กฤษ สเกลรอง 1 /2 นิว้ เป็ นช่องระยะทมี่ กี ารแบ่งออกมาจากความยาว 1 นิว้ โดยแบ่งออกมาเป็ น 2 ส่วน หรือคร่ึงหน่ึงของความยาว 1 นิว้ สเกลรอง 1/4 นิว้ สเกลรอง 1/4 นิว้
4/4 นิว้ หรือ 1 นิว้ / / / รูปที่ 1.33 แสดงสเกลรอง 1/4 นิว้ บนบรรทดั เหลก็ ระบบองั กฤษ สเกลรอง 1/4 นิว้ ถูกแบ่งออกมาจากสเกล 1/2 นิว้ โดยภายในความยาว 1 นิว้ จะถูกแบ่ง ออกเป็ น 4 ส่วน และแต่ละส่วนจะมคี ่าเท่ากบั 1/4 นิว้ สเกลรอง 1/8 นิว้ สเกลรอง 1/8 นิว้ / 8/8 หรือ 1 นิว้ / ////// รูปที่ 1.34 แสดงสเกลรอง 1/8 นิ้ว บนบรรทดั เหลก็ ระบบองั กฤษ สเกลรอง 1/8 นิว้ น้ันถูกแบ่งออกมาจากสเกลแบบ 1/4 นิว้ โดยการแบ่งคร่ึงของ 1/8 นิว้ ออกเป็ นอกี หนึ่งส่วน และเม่ือครบความยาว 1 นิว้ กจ็ ะกลายเป็ น 8 ส่วน หรือ 1/8
สเกลรอง 1/16 นิว้ 16/16 หรือ 1 นิว้ / / / / / // / / // / / / // รูปท่ี 1.35 แสดงสเกลรอง 1/16 นิ้ว บนบรรทดั เหลก็ ระบบองั กฤษ สเกลรอง 1/16 นิว้ ถูกแบ่งออกมาจากสเกลแบบ 1/8 นิว้ เป็ น 16 ส่วน และแต่ละช่องสเกล จะมคี ่าเท่ากบั 1/16 นิว้ ท้งั หมด 16 ช่อง ตลอดความยาว 1 นิว้ สเกลรอง 1/32 นิว้ สเกล 1/32 นิว้ เหมือนกบั สเกลทไ่ี ด้กล่าวมาแล้ว คือ แบ่งออกมาจาก สเกล รอง 1/16 นิว้ ซ่ึงในหนึ่งนิว้ จะถูกแบ่งออกเป็ น 32 ส่วน หรือ 32 ช่อง ดงั รูป สเกลรอง 1/32 นิว้ สเกลรอง 1/32 นิว้ / // / / // // รูปท่ี 1.36 แสดงสเกลรอง 1/32 นิว้ บนบรรทัดเหลก็ ระบบองั กฤษ
สเกลรอง 1/64 นิว้ สเกล 1/64 นิว้ ถูกแบ่งย่อยออกมาจาก 1/32 โดยจะถูกแบ่งออกเป็ น 64 ส่วน หรือ 64 ช่อง แต่ละขดี จะมคี ่าเท่ากบั 1/64 นิว้ เป็ นช่องสเกลทคี่ ่อนข้างจะเลก็ กว่า ช่องสเกลอ่ืน ๆ / / / / / / รูปที่ 1.37 แสดงสเกลรอง 1/64 นิว้ บนบรรทัดเหลก็ ระบบองั กฤษ / การอ่านค่าหน่วยการวดั ระบบองั กฤษ 2 01 ชิ้นงาน รูปท่ี 1.38 แสดงการอ่านสเกลระบบองั กฤษ จากรูปท่ี 1.38 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 1 สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 18/32 นิว้ หรือ 9/16 นิว้ ดงั น้ันอ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 1 9/16 นิว้ 012 ชิ้นงาน รูปท่ี 1.39 แสดงการอ่านสเกลระบบองั กฤษ จากรูปท่ี 1.39 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 1 นิว้ สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 8/32 นิว้ หรือ 1/4 นิว้ ดงั น้ันอ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 1 1/4 นิว้
012 ชิ้น งาน รูปท่ี 1.40 แสดงการอ่านสเกลระบบองั กฤษ จากรูปท่ี 1.40 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 0 นิว้ สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 16/32 นิว้ หรือ 1/2 นิว้ ดงั น้ัน อ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 1/2 นิว้ 012 ชิ้นงาน รูปท่ี 1.41 แสดงการอ่านสเกลระบบองั กฤษ จากรูปท่ี 1.41 สเกลหลกั อ่านค่าได้เท่ากบั 0 นิว้ สเกลรองอ่านค่าได้เท่ากบั 24/32 นิว้ หรือ 3/4 นิว้ ดงั น้ัน อ่านค่ารวมได้เท่ากบั สเกลหลกั + สเกลรอง = 3/4 นิว้ 8.1.4 วธิ ีใช้งานบรรทดั เหลก็ การวดั ขนาดของชิ้นงานด้วยบรรทัดเหลก็ น้ันสามารถวดั ได้ท้งั ชิ้นงานทรงกลม และ สี่เหลยี่ ม ซึ่งกจ็ ะมเี ทคนิคในการวดั ทผ่ี ู้ปฏิบตั งิ านจาเป็ นจะต้องทราบเพ่ือการวดั ทถ่ี ูกต้อง และ ได้ขนาดของชิ้นงานทถ่ี ูกต้อง โดยจะขออธิบายหลกั การใช้บรรทดั เหลก็ วดั ขนาดชิ้นงาน ต่าง ๆ ดงั นี้
8.1.5 การวดั ขนาดชิ้นงานกลม การวดั ขนาดความยาวของชิ้นงานกลมน้ัน ในกรณที ชี่ ิ้นงานน้ันมบี ่าของชิ้นงานอยู่ แล้วกส็ ามารถทาการวดั ได้เลย โดยการใช้บ่างานน้ันเป็ นตวั กาหนดจุดอ้างองิ ในการวดั ชิ้นงาน โดยมลี กั ษณะดงั รูป รูปท่ี 1.42 แสดงการวดั ความยาวชิ้นงานกลม ในระหว่างข้นั ตอนการวดั น้ันส่ิงทต่ี ้องระวงั คือ แนวการวางของบรรทดั เหลก็ จะต้องวาง แนวขนานกบั ผวิ ของชิ้นงานพอดไี ม่เอยี งไปด้านใดด้านหนึ่ง เพราะจะทาให้ค่าทไ่ี ด้จากการวดั น้ันไม่ตรงกบั ขนาดจริงของชิ้นงาน 1234 ชิ้นงาน รูปที่ 1.43 แสดงแนวการวดั ทถี่ ูกต้อง จากรูปที่ 1.43 เป็ นแนวการวดั ของบรรทดั เหลก็ ทถี่ ูกต้อง โดยบรรทดั เหลก็ น้ันจะต้อง วางอยู่ในแนวขนานกบั ชิ้นงานไปจนสุดความยาวของชิ้นงานทต่ี ้องการทาการวดั
1234 ชิ้นงาน รูปที่ 1.44 แสดงแนวการวดั ทไ่ี ม่ถูกต้อง จากรูปท่ี 1.44 เป็ นแนวการวดั ทไี่ ม่ถูกวธิ ี เนื่องจากบรรทดั เหลก็ น้ันไม่ได้อยู่ในตาแหน่ง ขนานไปกบั ผวิ ของชิ้นงานทาให้เม่ืออ่านค่าบนบรรทดั เหลก็ แล้วจะได้ขนาดทผ่ี ดิ เน่ืองมาจาก วธิ ีการวดั ทไี่ ม่ถูกต้อง รูปท่ี 1.45 แสดงแนวการวดั พ้ืนที่หนา้ ตดั ชิ้นงานกลม สาหรับการวดั ขนาดความโตของชิ้นงานกลม หรือ การวดั ขนาดบริเวณพืน้ ทีห่ น้าตดั ของ ชิ้นงานกลม ส่ิงทต่ี ้องคานึงคือ แนวการวดั ของบรรทดั เหลก็ จะต้องอยู่ตรงบริเวณเส้นผ่าน ศูนย์กลางของชิ้นงานพอดี เนื่องจากว่าตรงเส้นผ่านศูนย์กลางน้ันจะเป็ นส่วนทช่ี ิ้นงานมีขนาด โตทสี่ ุด
รูปท่ี 1.46 แสดงแนวเสน้ การวดั พ้นื ท่ีหนา้ ตดั ชิ้นงานกลม ในกรณีท่ีทาการวดั พืน้ ท่ีหน้าตดั ของชิ้นงาน ควรมกี ารขยบั และทาการอ่านค่า 2 -3 คร้ัง เพ่ือ ต้องการหาขนาดทถ่ี ูกต้องของชิ้นงานโดยจะต้องกาหนดจุดเริ่มต้นทชี่ ัดเจน ในระหว่างการ ขยบั น้ันจะต้องระวงั ไม่ให้จุดเริ่มต้นของการวดั น้ันขยบั ซ่ึงจะส่งผลต่อขนาดทวี่ ดั ได้ 8.1.6 การวดั ขนาดชิ้นงานทรงสี่เหลยี่ ม ชิ้นงานทรงส่ีเหลยี่ มน้ันสามารถทาการวดั ได้ง่ายกว่าชิ้นงานทรงกลม เนื่องจากผวิ ของชิ้นงานน้ันจะเป็ นผวิ ทเี่ ป็ นผวิ ราบไม่มสี ่วนโค้ง ทาให้สามารถทาการวดั ขนาดได้ง่ายขนึ้ โดยมวี ธิ ีในการวดั ดงั นี้ 1234 1234 ชิ้นงาน ชิ้นงาน รูปท1ี่ .47 แสดงการวดั ขนาดชิ้นงานทรงส่ีเหลยี่ มทถี่ ูกวธิ ี รูปท1ี่ .48 แสดงการวดั ขนาดชิ้นงานทรงสี่เหลยี่ มทีผ่ ดิ การวดั ขนาดชิ้นงานทรงส่ีเหลย่ี ม มวี ธิ ีการวดั ไม่ย่งุ ยากซับซ้อนมาก แต่จะต้องคานึงถงึ ส่ิง จะทาให้เกดิ ความผดิ พลาดในระหว่างทาการวดั โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกดิ จากวธิ ีการวดั ท่ีไม่ ถูกต้อง หรือบางคร้ังบรรทดั เหลก็ น้ันไม่อยู่ในแนวขนานกบั ผวิ ของงาน
0 0.5 mm 2 6 1 34 5 รูปท่ี 1.49 แสดงลกั ษณะทิศทางการมองดว้ ยสายตา นอกจากความผดิ พลาดทเ่ี กดิ ขนึ้ จากลกั ษณะการวดั แล้ว ความผดิ พลาดอกี ประการหนึ่งทเี่ กดิ ขนึ้ อยู่บ่อยคร้ังคือ การผดิ พลาดทเี่ กดิ ขนึ้ จากสายตา โดยเกดิ จากลกั ษณะของการมองทผ่ี ดิ วธิ ี การมองทถี่ ูกต้อง จะต้องให้บรรทดั เหลก็ อยู่ในแนวขนานกบั สายตา เพื่อให้การอ่านสเกลบน บรรทดั เหลก็ น้ันถูกต้อง
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: