ชดุ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ( Self - Learning Package ) รวมเนอ้ื หา เลม่ ที่ 1 งานตรวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสบู เครอื่ งยนตด์ เี ซลดว้ ยเกจวดั การอดั ตามคมู่ อื ซอ่ ม โดย ครปู ระดษิ ฐ์ เจอื จาน
คำชี้แจงชุดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ( Self – Learning Package ) ❄จุดประสงค์ของชุดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง สื่อการสอนช่ือชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ( Self – Learning Package ) สนองความแตกต่าง กนั ของสมรรถภาพทางสมองของผเู้ รียน ❄ส่ วนประกอบของชุดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง 1. คาแนะนาการใชช้ ุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. ข้นั ตอนการใชช้ ุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 3. จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ( Behavioral Objectives ) 4. แบบทดสอบก่อนเรียน ( Pre – Test ) 5. ใบเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 6. ใบเน้ือหา ( Information Sheet ) 7. แบบฝึกหดั 8. ใบเฉลยแบบฝึกหดั 9. แบบทดสอบหลงั เรียน ( Post – Test ) 10. ใบเฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ✽ คำแนะนำในกำรใช้ชุดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง 1. ขอใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามคาแนะนาและข้นั ตอนการใชอ้ ยา่ งเคร่งครัด 2. นกั เรียนตอ้ งมีความซื่อสัตยต์ ่อตนเอง โดยไม่เปิ ดดูขอ้ เฉลยคาตอบก่อนทาแบบทดสอบ ก่อนเรียนแบบฝึ กหดั และแบบทดสอบหลงั เรียน เพราะจะทาใหน้ กั เรียนขาดความมนั่ ใจ ในการเรียนดว้ ยตนเองและไม่เกิดความเขา้ ใจที่แทจ้ ริง 3. เมื่อนกั เรียนศึกษาชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ( Self – Learning Package ) เขา้ ใจดีแลว้ นกั เรียนสามารถท่ีจะประเมินผลสมั ฤทธ์ิการเรียนของตนเองผา่ นทางบทเรียนบน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ( E – Learning ) 4. ชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ( Self – Learning Package ) น้ีนกั เรียนสามารถใชเ้ รียนไดต้ าม ตอ้ งการ ความพร้อมและความสะดวก โดยไม่จากดั เวลาเรียนและสถานท่ีเรียน
ข้นั ตอนกำรใช้ชุดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง 1. นกั เรียนจะตอ้ งศกึ ษาชุดการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ทุกบทเรียนตามลาดบั หา้ มขา้ มบทเรียนใด บทเรียนหน่ึง 2. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนโดยทาเฉพาะขอ้ ท่ีนกั เรียนมีความรู้แทจ้ ริง โปรดอยา่ เดาคาตอบ ถา้ ขอ้ ใดไม่มีความรู้กข็ า้ มขอ้ น้นั ต่อไป 3. ดูเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนแลว้ ประเมินผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน ซ่ึงเป็นการวดั พ้นื ฐานความรู้ของผเู้ รียน ซ่ึงไม่มีผลใด ๆ ต่อคะแนนในการเรียนวชิ าน้ี 4. ขอใหน้ กั เรียนศึกษาวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 5. ใหน้ กั เรียนศึกษาเน้ือหาบทเรียนจากใบเน้ือหาใหเ้ กิดความเขา้ ใจตามลาดบั 6. เมื่อศึกษาเน้ือหาในบทเรียนเขา้ ใจดีแลว้ ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึ กหดั ในบทเรียนน้นั ๆ 7. เมื่อทาแบบฝึกหดั แลว้ ใหต้ รวจคาตอบจากใบเฉลยแบบฝึกหดั ในหนา้ ถดั ไป 8. ถา้ ผา่ นเกณฑท์ ี่ต้งั ไว้ 80 % ใหน้ กั เรียนไปทาแบบทดสอบหลงั เรียน แต่ถา้ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ใหก้ ลบั ไปเรียนเน้ือหาเดิมและทาแบบฝึ กหดั ใหม่อีกคร้ัง 9. เมื่อนกั เรียนผา่ นเกณฑแ์ ลว้ ใหท้ าแบบทดสอบหลงั เรียน 10. ถา้ หากผลการประเมินไม่ผา่ นเกณฑน์ กั เรียนตอ้ งเรียนซ่อมเสริมทบทวนเน้ือหาของ บทเรียนน้ีสามารถกลบั ไปศกึ ษาเน้ือหาเดิมไดต้ ามความตอ้ งการความพร้อมและความ สะดวกโดยไม่จากดั เวลาและสถานท่ีเรียน 11. เม่ือผา่ นเกณฑก์ ารประเมินดา้ นทฤษฏี ใหน้ กั เรียนเปิ ดดู VDO การบรรยายและสาธิตการ ปฏิบตั ิงานจากครูผสู้ อนและนกั เรียนลงมือฝึกปฏิบตั ิงานตามสถานประกอบการ/ โรงงาน/ หน่วยงานที่มีความพร้อมตามใบส่ังงานและ ใบลาดบั ข้นั การปฏิบตั ิงาน จนเกิด ทกั ษะแลว้ ใหน้ กั เรียนถ่ายทา VDO ขณะท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิงานส่งมาใหค้ รูผสู้ อนเพอื่ ประเมินผลดา้ นการปฏิบตั ิงาน
❄เม่ือท่ำนศึกษำชุดกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง ช่ืองำนตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบ ของเคร่ืองยนต์นีแ้ ล้ว ท่ำนจะสำมำรถ ......... 1. บอกความหมายของเครื่องยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 2. บอกหนา้ ท่ีการทางานของเส้ือสูบเครื่องยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 3. บอกการแบ่งโครงสร้างของเส้ือสูบเครื่องยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 4. บอกโลหะที่ใชท้ าเส้ือสูบของเคร่ืองยนตด์ ีเซลไดถ้ ูกตอ้ ง 5. บอกหนา้ ที่การทางานของปลอกสูบเครื่องยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 6. บอกชนิดของปลอกสูบเครื่องยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 7. บอกหนา้ ท่ีการทางานของฝาสูบเคร่ืองยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 8. บอกโลหะที่ใชท้ าฝาสูบเคร่ืองยนตด์ ีเซลไดถ้ ูกตอ้ ง 9. บอกหนา้ ที่การทางานของลูกสูบเคร่ืองยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 10. บอกหนา้ ที่การทางานของสลกั ลูกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 11. บอกหนา้ ท่ีการทางานของแหวนลูกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 12. บอกชนิดของแหวนลูกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 13. บอกโลหะท่ีใชท้ าแหวนลูกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 14. บอกสาเหตุการเกิดแรงตบขา้ ง ( Piston slap ) ของลูกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 15. บอกหนา้ ท่ีการทางานของกา้ นสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 16. บอกหนา้ ที่การทางานของลิ้นเคร่ืองยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 17. บอกหนา้ ที่การทางานของเพลาขอ้ เหวยี่ งไดถ้ ูกตอ้ ง 18. บอกหนา้ ท่ีการทางานส่วนต่างๆ ของเพลาขอ้ เหวย่ี งไดถ้ ูกตอ้ ง 19. บอกหนา้ ที่การทางานของเพลาลูกเบ้ียวไดถ้ ูกตอ้ ง 20. บอกการจดั วางเพลาลูกเบ้ียวอยภู่ ายในเส้ือสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 21. บอกการจดั วางเพลาลูกเบ้ียว 1 เพลาอยดู่ า้ นบนฝาสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 22. บอกการจดั วางเพลาลูกเบ้ียว 2 เพลาอยดู่ า้ นบนฝาสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 23. บอกหนา้ ท่ีของลอ้ ช่วยแรงไดถ้ ูกตอ้ ง 24. บอกประเภทของการส่งกาลงั ขบั เพลาลูกเบ้ียวไดถ้ ูกตอ้ ง 25. อธิบายหลกั การทางานของเครื่องยนตด์ ีเซล 4 จงั หวะไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 26. บอกวธิ ีใชเ้ ครื่องมืออุปกรณ์ใชต้ รวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง
27. บอกสถานที่เกบ็ เครื่องมืออุปกรณ์ใชต้ รวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 28. บอกวธิ ีเบิกเครื่องมืออุปกรณ์ใชต้ รวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 29. บอกขอ้ ควรระวงั การเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ใชต้ รวจสอบกาลงั อดั ไดถ้ ูกตอ้ ง 30. อธิบายวธิ ีประกอบสายไฟเขา้ กบั ข้วั แบตเตอร่ีไดถ้ ูกตอ้ ง 31. บอกขอ้ ควรระวงั ในการประกอบสายไฟเขา้ กบั ข้วั แบตเตอรี่ไดถ้ ูกตอ้ ง 32. บอกวธิ ีเปิ ดสวติ ชต์ ิดเครื่องยนตอ์ ุ่นเคร่ืองใหไ้ ดอ้ ุณหภูมิการทางานไดถ้ ูกตอ้ ง 33. บอกขอ้ ควรระวงั เปิ ดสวติ ชต์ ิดเครื่องยนตอ์ ุ่นเครื่องใหไ้ ดอ้ ุณหภูมิการทางานไดถ้ ูกตอ้ ง 34. บอกวธิ ีปิ ดสวติ ชด์ บั เครื่องยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 35. บอกขอ้ ควรระวงั ในการปิ ดสวติ ชด์ บั เคร่ืองยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 36. อธิบายวธิ ีวดั กาลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั แหง้ ไดถ้ ูกตอ้ ง 37. บอกขอ้ ควรระวงั ในการวดั กาลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั แหง้ ไดถ้ ูกตอ้ ง 38. บอกวธิ ีบนั ทึกผลการวดั กาลงั อดั แบบแหง้ ลงในตารางใบงานไดถ้ ูกตอ้ ง 39. บอกขอ้ ควรระวงั ในการบนั ทึกผลการวดั กาลงั อดั แบบแหง้ ลงในตารางใบงานไดถ้ ูกตอ้ ง 40. อธิบายวธิ ีวดั กาลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั เปี ยกไดถ้ ูกตอ้ ง 41. บอกขอ้ ควรระวงั ในการวดั กาลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั เปี ยกไดถ้ ูกตอ้ ง 42. บอกวธิ ีบนั ทึกผลการวดั กาลงั อดั แบบเปี ยกลงในตารางใบงานไดถ้ ูกตอ้ ง 43. บอกขอ้ ควรระวงั การบนั ทึกผลการวดั กาลงั อดั แบบเปี ยกลงในตารางใบงานไดถ้ ูกตอ้ ง 44. ประเมินผลและวนิ ิจฉยั ผลการตรวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสูบเคร่ืองยนตก์ บั คู่มือการ ซ่อมไดถ้ ูกตอ้ ง 45. บอกขอ้ ควรระวงั ในการประเมินผลและวนิ ิจฉยั ผลการตรวจสอบกาลงั อดั ในกระบอก สูบเคร่ืองยนตไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 46. บอกวธิ ีถอดข้วั สายไฟแบตเตอร่ีออกไดถ้ ูกตอ้ ง 47. บอกขอ้ ควรระวงั ในการถอดข้วั สายไฟแบตเตอร่ีออกไดถ้ ูกตอ้ ง 48. บอกวธิ ีทาความสะอาดเคร่ืองมืออุปกรณ์ใชต้ รวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสูบไดถ้ ูกตอ้ ง 49. บอกขอ้ ควรระวงั การทาความสะอาดเคร่ืองมืออุปกรณ์ใชต้ รวจสอบไดถ้ ูกตอ้ ง 50. บอกวธิ ีเกบ็ เคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีใชต้ รวจสอบส่งคืนเจา้ หนา้ ที่ไดถ้ ูกตอ้ ง 51. บอกขอ้ ควรระวงั นาเคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีใชต้ รวจสอบส่งคืนเจา้ หนา้ ท่ีไดถ้ ูกตอ้ ง
ใบเนื้อหำ ( Information Sheet ) ชื่อวชิ ำ งานเคร่ืองยนตด์ ีเซล รหสั วชิ ำ 20101 – 2002 ชื่องำน งานตรวจสอบกาลงั อดั ในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ตามคูม่ ือการซ่อม 1. ควำมหมำยของเครื่องยนต์ เครื่องยนตห์ มายถึงเคร่ืองมือกล ที่เปล่ียนพลงั ความ ร้อนซ่ึงเกิดจากการเผาไหมข้ องเช้ือเพลิงภายใน เคร่ืองยนตใ์ หเ้ ป็นพลงั กล จากหนา้ ที่ดงั กล่าว เครื่องยนตจ์ ึงถูกเรียกวา่ เครื่องยนตส์ ันดาปภายใน ( Internal Combustion Engine ) เคร่ืองยนตป์ ระกอบ ข้ึนจากชิ้นส่วนหลายชิ้น ท่ีจบั ยดึ ติดกนั สวมหมุนไป ดว้ ยกนั หรือประกอบกนั เป็นชุดแลว้ เคล่ือนตวั กลบั ไป – กลบั มา ตลอดเวลาท่ีเครื่องยนตท์ างาน เน่ืองจากชิ้นส่วนของเคร่ืองยนตม์ ีจานวนมากและแต่ละชิ้นส่วนกท็ างานแตกต่างกนั ออกไป 2. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของเสื้อสูบเครื่องยนต์ เส้ือสูบเป็นโครงหลกั ของเคร่ืองยนตห์ ล่อเป็นชิ้น เดียวกนั ยกเวน้ เส้ือสูบท่ีระบายความร้อนดว้ ยอากาศ เส้ือสูบจะมีความแขง็ แรงทาใหเ้ ป็นแนวของแบร่ิง เพลาขอ้ เหวย่ี ง และกระบอกสูบ เที่ยงตรงแน่นอน และเส้ือสูบยงั ประกอบดว้ ยช่องและรูต่าง ๆ ซ่ึงสาร หล่อเยน็ และน้ามนั หล่อลื่นไหลผา่ นไปหล่อเยน็ และ หล่อล่ืนใหก้ บั เคร่ืองยนต์ เส้ือสูบเป็นชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเครื่องยนต์ 3. โครงสร้ำงของเสื้อสูบเครื่องยนต์ โครงสร้างของเส้ือสูบแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของเรือนสูบและส่วนของหอ้ งเพลาขอ้ เหวย่ี ง โดยอาจจะหล่อเป็นชิ้นเดียวกบั เส้ือสูบ หรือเป็น ชิ้นส่วนแยกต่างหาก และยดึ ติดเขา้ กนั ดว้ ยสลกั เกลียว กไ็ ด้ เคร่ืองยนตด์ ีเซลระบายความร้อนดว้ ยอากาศ ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบใหห้ อ้ งเพลาขอ้ เหวยี่ งแยก
ต่างหากจากชุดกระบอกสูบ เส้ือสูบจะตอ้ งผา่ นการ เจาะ, กลึง และแต่งดว้ ยเคร่ืองมือกล เส้ือสูบจะถูก ควา้ นเป็นกระบอกสูบหรือเพื่อใส่ปลอกสูบ เพือ่ เป็น ปลอกนาการเคล่ือนท่ีของลูกสูบ เส้ือสูบเครื่องยนต์ ดีเซลมีราคาแพง จึงจาเป็นตอ้ งใหม้ ีอายกุ ารใชง้ านยาว นาน ดงั น้นั เคร่ืองยนตด์ ีเซลส่วนใหญ่จึงใชป้ ลอกสูบ ท่ีเป็นชนิดแหง้ หรือเปี ยก ซ่ึงสามารถเปลี่ยนไดเ้ มื่อปลอกสูบเสียหายหรือสึกหรอเกินขีดจากดั การใชง้ าน 4. โลหะทใี่ ช้ทำเสื้อสูบของเคร่ืองยนต์ดีเซล ในการผลิตเส้ือสูบจะตอ้ งผา่ นการเจาะ กลึง และแต่งดว้ ยเคร่ืองมือกลหลายกระบวนการ เส้ือสูบจะถูกควา้ นเป็นกระบอกสูบหรือเพอ่ื ใส่ปลอกสูบ ส่วนที่รองรับเมนแบร่ิงถูกควา้ นและรู เพลาลูกเบ้ียวถูกเจาะแต่ง นอกจากน้ียงั มีการแต่งผวิ ของเส้ือสูบใหร้ าบเรียบบางบริเวณ เพ่อื ให้ ไดเ้ ป็นหนา้ สัมผสั หรือหนา้ แปลนที่จะติดต้งั อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนภายนอกไดแ้ ก่ ฝาสูบ ป๊ัมน้า เส้ือเครื่องกรองน้ามนั หล่อลื่น อ่างน้ามนั หล่อลื่น ฝาครอบไทมม์ ่ิง เส้ือสูบเครื่องยนตด์ ีเซล ทว่ั ไปทาดว้ ยเหลก็ หล่อหลายเกรด เพอื่ ใหม้ ีความแขง็ แรงเพยี งพอที่จะทนกบั ความดนั ความ ร้อนและการส่นั สะเทือนท่ีเกิดข้ึน 5. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของปลอกสูบ ( Liner ) เคร่ืองยนต์ ปลอกสูบมีหนา้ ที่บงั คบั ลูกสูบใหเ้ คลื่อนท่ีในทิศทาง ท่ีกาหนด ผวิ ดา้ นในของปลอกสูบจะตอ้ งสมั ผสั กบั แหวนลูกสูบและลูกสูบ ทาใหเ้ กิดการเสียดสี ตลอดเวลาที่ลูกสูบเคล่ือนที่และนอกจากน้ียงั เกิดแรง เบียดขา้ ง ( Side thrust ) เน่ืองจากกา้ นสูบทามุมกบั แนวแกนลูกสูบอีกดว้ ย ส่วนบนของปลอกสูบจะรับ ความร้อนสูงจากการเผาไหมข้ องน้ามนั เช้ือเพลิง ดว้ ยเหตุน้ีปลอกสูบตอ้ งมีคุณสมบตั ิในการ ตา้ นทานต่อการสึกหรอและสามารถทนต่อความร้อนและระบายความร้อนออกไดอ้ ยา่ งเพียงพอ เพือ่ ป้องกนั การสึกหรอและทนต่อความร้อน จึงไดม้ ีการใชว้ สั ดุต่างๆ ทาปลอกสูบเช่น เหลก็ หล่อผสม เหลก็ กลา้ ผสมคาร์บอนและเหลก็ กลา้ ผสม ปลอกสูบส่วนมากทาดว้ ยเหลก็ หล่อ ผสมซ่ึงมีนิเกลและแมงกานิสผสมอยดู่ ว้ ยเลก็ นอ้ ยปลอกสูบ ( Liner ) มี 2 ชนิดคือ
6. ชนิดของปลอกสูบเครื่องยนต์ดีเซล ปลอกสูบ ( Liner ) มี 2 ชนิดคือ 6.1 ปลอกสูบแห้ง ( Dry Liner ) ปลอกสูบชนิดน้ีทาเป็นกระบอกสูบและสวมอดั อยกู่ บั กระบอกของเส้ือสูบ ดงั น้นั ปลอกสูบจึงไม่ไดส้ มั ผสั กบั น้าเพอ่ื ระบายความร้อนโดยตรง ปลอกสูบชนิดน้ี ผลิตแยกต่างหากจากเส้ือสูบ ดงั น้นั จึงสามารถผลิต จากวสั ดุท่ีมีคุณภาพเหมาะท่ีจะเป็นกระบอกสูบได้ อยา่ งดี อยา่ งไรกต็ ามการสวมปลอกสูบเขา้ กบั เส้ือสูบ จะตอ้ งตรวจดูความเรียบร้อยท้งั ภายนอกปลอกสูบ และภายในกระบอกสูบ ท้งั จะตอ้ งทาอยา่ งประณีต ยง่ิ กวา่ น้นั ภายนอกของปลอกสูบตอ้ งสัมผสั กบั เส้ือ สูบอยา่ งแน่นและตลอดแนวมิฉะน้นั การระบายความร้อนจะไม่ไดผ้ ลโดยสมบูรณ์ เม่ือสวม ปลอกสูบเขา้ กบั กระบอกสูบอดั แน่นโดยตลอดดีแลว้ ความโตของปลอกสูบอาจเปลี่ยนไป จึง ตอ้ งมีการตรวจความโตอีกคร้ังหน่ึง ปกติเม่ือสวมปลอกสูบแลว้ จะตอ้ งขดั ปลอกสูบอีกคร้ัง 6.2 ปลอกสูบเปี ยก ( Wet Liner ) ภายนอกของปลอกสูบจะสัมผสั กบั น้า ซ่ึงเป็นตวั ระบายความร้อนโดยตรง ดงั น้นั การระบายความร้อน จึงไดผ้ ลสมบูรณ์ ปลอกสูบเปี ยกยงั ประกอบไดง้ ่าย กวา่ ปลอกสูบแหง้ จากลกั ษณะเด่นน้ีเอง เคร่ืองยนต์ ดีเซลจึงนิยมใชป้ ลอกสูบเปี ยก ตอนบนของปลอกสูบ ชนิดน้ีมหี นา้ แปลนเพ่อื ประโยชนใ์ นการติดต้งั และ ป้องกนั น้ารั่ว ส่วนตอนล่างของปลอกสูบจะใชแ้ หวน กลม ( O – ring ) เพื่อป้องกนั น้าร่ัวเช่นเดียวกนั 7. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของฝำสูบ ( Cylinder head ) ของเครื่องยนต์ ฝาสูบ ติดต้งั อยสู่ ่วนบนของกระบอกสูบ ทาดว้ ย เหลก็ หล่อและถูกยดึ ติดเขา้ กบั กระบอกสูบโดยใช้ สลกั เกลียวทนแรงดึงสูง ฝาสูบเป็นส่วนบนของหอ้ ง เผาไหม้ ซ่ึงรวมกนั เขา้ กบั ลูกสูบและผนงั กระบอกสูบ
ในฝาสูบมีช่องไอดีและช่องไอเสียสาหรับนาเอาอากาศเขา้ และเอาไอเสียออก ฝาสูบตอ้ งมีช่อง สาหรับการหมุนเวียนของสารหล่อเยน็ เพ่อื ใหม้ ีการหล่อเยน็ บริเวณท่ีมีอุณหภูมิสูงรอบ ๆ ลิน้ , ปลอกกา้ นลิน้ และหอ้ งเผาไหม,้ นอกจากน้ีหวั ฉีดและกลไกของลิน้ ไอดีและไอเสียยงั ถูกติดต้งั ไว้ ในฝาสูบ บนกระบอกสูบแต่ละอนั ปะเกน็ ฝาสูบถูกติดต้งั ไว้ ระหวา่ งฝาสูบและเส้ือสูบ เพ่อื ป้องกนั การร่ัวของหอ้ ง เผาไหมแ้ ละช่องทางของน้าและน้ามนั หล่อล่ืนระหวา่ ง ชิ้นส่วนท้งั สอง ดงั น้นั ฝาสูบจึงตอ้ งมีความแขง็ แรง และทนต่ออุณหภูมิที่สูง จากการทางานของเคร่ืองยนต์ ฝาสูบแบบธรรมดาจะมีช่องไอดีและช่องไอเสียอยดู่ า้ นหน่ึง แต่มีฝาสูบบางแบบที่ถูกสร้างข้ึนโดยมีช่องไอดีอยู่ ดา้ นหน่ึงและช่องไอเสียอยอู่ ีกดา้ นหน่ึง ซ่ึงเรียกวา่ ฝา สูบแบบไหลตรงขา้ ม ( Cross – flow head ) ที่ ออกแบบมาเพ่อื ปรับปรุงประสิทธิภาพของการไหล ของอากาศเขา้ และไอเสียออกจากเครื่องยนต์ สาหรับ วสั ดุท่ีใชท้ าฝาสูบเครื่องยนตด์ ีเซลน้นั จะทาดว้ ยโลหะ เหลก็ หล่อมีความแขง็ แรงดีกวา่ วสั ดุโลหะผสม แต่มี น้าหนกั มากและการถ่ายเทความร้อนไดช้ า้ 8. โลหะทใ่ี ช้ทำฝำสูบเครื่องยนต์ดเี ซล ฝาสูบทาดว้ ยเหลก็ หล่อและถูกยดึ ติดเขา้ กบั กระบอกสูบโดยใชส้ ลกั เกลียวทนแรงดึงสูง ฝาสูบเป็นส่วนบนของหอ้ งเผาไหมซ้ ่ึงรวมกนั เขา้ กบั ลูกสูบและผนงั กระบอกสูบ 9. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของลกู สูบ ( Piston ) ของเคร่ืองยนต์ ลูกสูบและแหวนลูกสูบออกแบบเพ่ือใหท้ าหนา้ ท่ี ป้องกนั การรั่วภายในกระบอกสูบและในเวลาเดียวกนั จะถ่ายทอดกาลงั งานของการเผาไหมผ้ า่ นทางสลกั ลูกสูบและกา้ นสูบไปยงั เพลาขอ้ เหวย่ี ง การเคลื่อนที่ ของลูกสูบและกา้ นสูบทางานร่วมกนั ในการเปลี่ยน การเคลื่อนที่กลบั ไป กลบั มา ของลูกสูบใหเ้ ป็น
หมุนของเพลาขอ้ เหวยี่ ง ลูกสูบยงั ทาหนา้ ท่ีเหมือนป๊ัม ในช่วงจงั หวะดูดและจงั หวะคายเพอ่ื เอาอากาศเขา้ ไป ในกระบอกสูบและไล่ไอเสียออกจากกระบอกสูบ ลูกสูบเป็นชิ้นส่วนท่ีสาคญั ของเครื่องยนตท์ ี่ตอ้ งทน ต่อกาลงั ดนั และอุณหภูมิสูงท่ีเกิดข้ึนภายในกระบอก สูบไดจ้ งั หวะกาลงั งานแต่ละคร้ังกาลงั ดนั ท่ีเกิดข้ึนบน หวั ลูกสูบมีจานวนมากลูกสูบตอ้ งมีน้าหนกั เบาเพือ่ ให้ แรงดนั จากแรงเฉ่ือยนอ้ ย มีความแขง็ แรงสูงและทน ต่อการสึกหรอหวั ลูกสูบจะร้อนมากเน่ืองจากผลของการเผาไหม้ ความร้อนท่ีเกิดข้ึนน้ีจะถูก ถ่ายเทออกไปโดยผา่ นแหวนลูกสูบและน้ามนั หล่อลื่น เพ่ือรักษาอุณหภูมิขณะทางานของลูกสูบ ใหอ้ ยรู่ ะดบั ท่ีปลอดภยั สาหรับเครื่องยนตด์ ีเซลท่ีติดเทอร์โบชาร์จและเครื่องยนตแ์ บบธรรมดา ที่ใหส้ มรรถนะสูง บางอุณหภูมิของลูกสูบอาจสูงข้ึนถึงระดบั ท่ีวธิ ีการถ่ายเทความร้อนออก ตามปกติอาจไม่เพียงพอดงั น้นั จึงจาเป็นตอ้ งเพ่มิ การหล่อลื่นข้ึนไปดา้ นล่างของหวั ลูกสูบโดยใช้ หวั ฉีดท่ีติดต้งั ไวท้ ่ีฐานของกระบอกสูบหรือโดยการฉีดน้ามนั ออกจากดา้ นบนของกา้ นสูบ 10. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของสลกั ลูกสูบ ( Piston pin ) ลูกสูบถูกต่อเขา้ กบั กา้ นสูบโดยใชส้ ลกั ลูกสูบ สลกั ลูก ทาดว้ ยเหลก็ กลา้ ผสมชุบแขง็ และสามารถใส่เขา้ พอดี ภายในบูชกา้ นสูบและรูสลกั ลูกสูบ สลกั ลูกสูบจะ กลวงเพ่ือลดน้าหนกั ซ่ึงกจ็ ะลดแรงเฉื่อยในระหวา่ ง การเคล่ือนท่ี ข้ึน – ลง ของชุดลูกสูบและกา้ นสูบ 11. หน้ำทกี่ ำรทำงำนของแหวนลูกสูบ ( Piston ring ) แหวนลูกสูบเป็นตวั ป้องกนั การร่ัวของแก๊สใน กระบอกสูบการรั่วน้ีเรียกวา่ “ Blow by ” ซ่ึงแก๊สท่ี รั่วน้ีมีท้งั แกส๊ ท่ีไม่ไดเ้ ผาไหม้ และแกส๊ ท่ีเผาไหมแ้ ลว้ ลงไปในหอ้ งเพลาขอ้ เหวยี่ ง ( Crankcase ) นอกจากน้ี แหวนลูกสูบยงั ช่วยระบายความร้อนผา่ นไปยงั ผนงั
กระบอกสูบประมาณ 1/ 3 หนา้ ท่ีอีกประการหน่ึงของแหวนลูกสูบกค็ ือ การควบคุมการหล่อลื่น ผนงั กระบอกสูบ โดยควบคุมไม่ใหน้ ้ามนั เคร่ืองข้ึนไปบนหวั ลูกสูบ เพราะน้ามนั เคร่ืองที่ข้ึนไป บนหวั ลูกสูบจะทาใหเ้ กิดเขม่าและสมรรถของภาพเครื่องยนตล์ ดลง ข้อควรจำ ในการประกอบแหวนลูกสูบมีขอ้ สงั เกตวา่ ตวั ไหนเป็นตวั บน และดา้ นใดเป็นดา้ นบน ใหส้ งั เกตจากตาแหน่งดา้ นบน ตรงบริเวณปากแหวนท้งั 2 ดา้ น - ดา้ นขวาบอกวา่ เป็นแหวนตวั ลาดบั ท่ีเท่าไร - ดา้ นซา้ ยเป็นขนาด ซ่ึงถา้ เขียนวา่ st แสดงวา่ เป็น แหวนมาตรฐาน เช่นถา้ มีตวั เลขบอก 0.25 ม.ม. แสดงวา่ เป็นขนาดโตกวา่ มาตรฐาน ( Over size ) 12. ชนิดของแหวนลูกสูบ ชนิดของแหวนลูกสูบมี 2 ชนิดคือ แหวนอดั ตัวท่ี 1, 2 1. แหวนอดั ( Compression Ring ) หนา้ ที่หลกั ของ แหวนอดั กค็ ือ ป้องกนั การร่ัวของแก๊สผา่ น ผนงั กระบอกสูบที่ดา้ นบนของแหวนลูกสูบนอก จากน้ีแหวนอดั ยงั จาเป็นตอ้ งทาหนา้ ท่ีถ่ายเทความ ร้อนจากลูกสูบไปสู่ผนงั กระบอกสูบดว้ ย แหวนอดั ท่ีไม่สามารถซีลหรือป้องกนั การร่ัวไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง อาจทาใหเ้ กิดปัญหาการติดหรือสตาร์ทเครื่องยนต์ ไดล้ าบากในขณะเยน็ ท้งั น้ีเน่ืองจากขาดความร้อน จากความดนั ในการอดั ท่ีต่าและจะไปลดประสิทธิภาพทางความร้อนของเคร่ืองยนตด์ ว้ ย แหวน อดั ในสภาวะอิสระจะมีขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางเลก็ ลง เป็นผลใหเ้ กิดแรงดึงข้ึนในแหวนและดนั ใหแ้ หวนติดกบั ผนงั กระบอกสูบ 2. แหวนควบคุมนำ้ มนั ( Oil control ring ) ช่วย ป้องกนั น้ามนั หล่อล่ืนท่ีเหลือข้ึนไปบนหอ้ งเผา ไหมน้ ้ามนั หล่อล่ืนถูกปั๊มส่งไปยงั แบริ่ง และผา่ น ออกทางช่องวา่ งของแบร่ิง ซ่ึงกเ็ ป็นการหล่อลื่น ลูกสูบ อยา่ งไรกต็ ามน้ามนั กม็ ีมากกวา่ ที่ผนงั แหวนควบคุมนำ้ มัน กระบอกสูบตอ้ งการ ซ่ึงเป็นหนา้ ท่ีแหวนควบคุม น้ามนั ที่จะกวาดน้ามนั ลงไปในอ่างน้ามนั เคร่ือง จึงกล่าวไดว้ า่ หนา้ ท่ีของแหวนควบคุมน้ามนั
กค็ ือการควบคุมน้ามนั หล่อลื่นบนผนงั กระบอกสูบ ใหม้ ีปริมาณที่พอเหมาะคือไม่มากเกินไป จนทาใหน้ ้ามนั หล่อล่ืนเขา้ ไปในหอ้ งเผาไหมข้ องเคร่ืองยนตแ์ ละตอ้ งไม่นอ้ ยเกินไปจนทาให้ กระบอกสูบสึกหรอ 13. โลหะทใี่ ช้ทำแหวนลกู สูบ แหวนลูกสูบทาจากเหลก็ หล่อผสมแกรไฟท์ และชุบแหวนลูกสูบดา้ นที่สัมผสั กบั ผนงั กระบอกสูบดว้ ยโครเมียมซ่ึงมีคุณสมบตั ิทนต่อการสึกหรอและมีแรงกดกบั ผนงั กระบอกสูบ อยา่ งเพียงพอ ปกติแหวนอดั จะเคลือบผวิ ไวเ้ พื่อใหท้ นต่อการสึกหรอ 14. สำเหตุกำรเกดิ แรงตบข้ำง ( Piston slap ) ของลูกสูบ กระบอกสูบ ช่องวา่ งของลูกสูบ ( Piston clearance ) คือ ช่องวา่ ง ระหวา่ งลูกสูบกบั ผนงั กระบอกสูบ ช่องวา่ งน้ี ลกู สูบ เปลี่ยนแปลงไปตามความแตกต่างของเคร่ืองยนต์ แต่ โดยทวั่ ๆไป จะอยรู่ ะหวา่ ง 0.03 – 0.06 มม. ( 0.0012 – ช่องว่ำงลูกสูบ 0.0024 นิ้ว ) เม่ือเคร่ืองยนตท์ างานช่องวา่ งน้ีจะมี น้ามนั อยเู่ ตม็ ดงั น้นั ลูกสูบและแหวนลูกสูบจะเล่ือนอยู่ บนฟิ ลม์ น้ามนั ( Oil film ) ถา้ ช่องวา่ งน้ีนอ้ ยเกินไป เครื่องยนตจ์ ะเสียกาลงั เนื่องจากความฝืดการสึกหรอ มากและอาจจะติดได้ ถา้ ช่องวา่ งน้ีมากเกินไปจะเกิดแรงตบขา้ ง ( Piston slap ) ข้ึนไดแ้ รงตบ ขา้ งจากการเอียงอยา่ งทนั ทีทนั ใดของลูกสูบเมื่อลูกสูบเริ่มเลื่อนลงต่าในจงั หวะกาลงั งาน ลูกสูบ จะเปลี่ยนจากดา้ นหน่ึงของลูกสูบไปยงั อีกดา้ นหน่ึง ซ่ึงทาใหเ้ กิดเสียงดงั ปกติแรงตบขา้ งที่เกิด ข้ึนกบั เครื่องยนตท์ าใหผ้ นงั กระบอกสูบสึกหรอหรือกระโปงลูกสูบสึกหรอซ่ึงทาใหเ้ กิดช่องวา่ ง ไดม้ าก แรงดนั ที่เกิดจากการเผาไหมข้ องแกส๊ ในหอ้ งเผาไหมด้ นั ใหล้ ูกสูบเล่ือนลงดนั กา้ นสูบ และทาใหเ้ พลาขอ้ เหวยี่ งหมุน ดงั น้นั ลูกสูบจึงตอ้ งมีความทนทานต่อท้งั ความร้อนและแรงท่ี กระทาจึงกล่าวไดว้ า่ ลูกสูบตอ้ งมีคุณลกั ษณะดงั น้ี 1. ตอ้ งมีความแขง็ แรงทนทานต่ออุณหภูมิสูง 2. ตอ้ งมีช่องวา่ งระหวา่ งลูกสูบกบั กระบอกสูบเพียงพอที่จะไม่ใหล้ ูกสูบติดเมื่อลูกสูบ ขยายตวั และตอ้ งมีความฝืดนอ้ ย 3. ท้งั ลูกสูบและแหวนลูกสูบตอ้ งทนทานต่อการสึกหรอและตอ้ งมีน้าหนกั เบา
15. หน้ำทกี่ ำรทำงำนของก้ำนสูบ ( Connecting rod ) กา้ นสูบเป็นตวั กลางท่ีจบั ยดึ อยรู่ ะหวา่ งลูกสูบกบั เพลา ขอ้ เหวย่ี งโดยดา้ นหน่ึงยดึ อยกู่ บั ขอ้ เหวยี่ ง (Crankpin) ของเพลาขอ้ เหวย่ี ง ปลายอีกดา้ นหน่ึงประกอบอยกู่ บั ลูกสูบโดยสลกั ลูกสูบ กา้ นสูบตอ้ งมีความแขง็ แรงสูง และน้าหนกั เบาเพราะกา้ นสูบตอ้ งรับแรงอยา่ งมากใน จงั หวะกาลงั งานขณะเดียวกนั ตอ้ งมีน้าหนกั เบาเท่าท่ี จะเป็นไดเ้ พราะแรงเหวยี่ งและภาระแรงเฉื่อยบนแบร่ิงจะตอ้ งไม่มากเกินกว่าความจาเป็น กา้ น สูบน้นั จะทาดว้ ยเหลก็ ผสมหรือเหลก็ หล่อเหนียว หรืออลูมิเนียมผสมเพือ่ ใหแ้ ขง็ แรงไม่ยดื หดตวั น้าหนกั เบา กา้ นสูบน้นั จะทาหนา้ ที่ต่อลูกสูบกบั เพลาขอ้ เหวย่ี ง โดยที่ปลายดา้ นเลก็ น้นั จะยดึ ติด กบั สลกั ลูกสูบ และปลายดา้ นใหญ่จะยดึ ติดกบั เพลาขอ้ เหวยี่ ง หนา้ ที่ของกา้ นสูบคือเปล่ียนการ เคล่ือนที่แนวตรงของลูกสูบไปเป็นการเคล่ือนท่ีแบบหมุนของเพลาขอ้ เหว่ยี ง ปลำยเลก็ กา้ นสูบของเคร่ืองยนตบ์ างชนิดมีรูน้ามนั จากปลาย ดา้ นใหญ่ ( Big end ) ไปถึงดา้ นเลก็ ( Small end ) เม่ือ เคร่ืองยนตท์ างาน น้ามนั จะผา่ นจากรูดา้ นใหญ่ไปยงั รูดา้ นเลก็ เพื่อหล่อล่ืนสลกั ลูกสูบ เครื่องยนตบ์ างชนิด มีรูสาหรบั น้ามนั ฉีดขณะที่ขอ้ เหวย่ี งหมุนน้ามนั จะฉีด ออกจากรูท่ีกา้ นสูบ น้ามนั น้ีจะฉีดไปที่ผนงั กระบอก ปลายใหญ่ สูบเพ่ือใหก้ ารหล่อล่ืนผนงั กระบอกสูบเพียงพอ น้ามนั จะฉีดไปท่ีผนงั กระบอกสูบเม่ือลูกสูบเล่ือนข้ึน รูน้ามนั หล่อล่ืนจะฉีดไปที่ผนงั ถึงศูนยต์ ายบน ดงั น้นั ผนงั กระบอกสูบจึงเตม็ ไปดว้ ย กระบอกสูบ น้ามนั 16. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของลนิ้ ( Valve ) เครื่องยนต์ ลิน้ คือกลไกการทางานของเคร่ืองยนตส์ ันดาปภายใน ทาหนา้ ทีเ่ ปิ ดและปิ ดลิ้นไอดีและลิ้นไอเสีย โดยอาศยั แรงขบั จากเพลาลูกเบ้ียวที่รับแรงขบั มาจากเพลาขอ้ เหวยี่ ง ลิ้นทาหนา้ ท่ีปิ ดและเปิ ดไอดีและไอเสียโดย
การควบคุมของเพลาลูกเบ้ียว เพอื่ ควบคุมการบรรจุ ไอดีและขบั ไล่ก๊าซไอเสียของเครื่องยนต์ 4 จงั หวะ ลิน้ มีชื่อเรียกตามการทางาน ลนิ้ ไอดี (Intake valve) มีหนา้ ที่เปิ ดใหอ้ ากาศเขา้ กระบอกสูบในจงั หวะดูด และตอ้ งปิ ดในจงั หวะอดั และจงั หวะกาลงั ลนิ้ ไอเสีย (Exhaust valve) ทาหนา้ ท่ีเปิ ดใหก้ า๊ ซ ไอเสียที่เกิดจากการเผาไหมไ้ หลออกไปจากกระบอก สูบในจงั หวะคาย โดยปกติลิ้นไอดีจะมีขนาดโตกวา่ ลิ้นไอเสียเพือ่ ใหม้ ีพ้นื ที่ในการบรรจุอากาศหรือไอดี ไดม้ ากที่สุด ลิ้นไอดีผลิตมาจากเหลก็ กลา้ ผสมคาร์บอนหรือเหลก็ กลา้ ผสม ส่วนลิน้ ไอเสียจะตอ้ ง ทามาจากวสั ดุที่ทนความร้อนสูงจาพวก เหลก็ กลา้ ผสมซิลิคอนและโครเมียม เหลก็ กลา้ ผสม นกั เกิลและโครเนียม เป็นตน้ ลิน้ ติดต้งั อยบู่ นฝาสูบดว้ ยชิ้นส่วนต่างๆ 17. หน้ำทก่ี ำรทำงำนของเพลำข้อเหวย่ี ง ( Crankshaft ) เพลาขอ้ เหวยี่ ง ทาหนา้ ท่ีรับแรงกระทาที่ส่งมาจาก กา้ นสูบโดยเปลี่ยนจากแรงกาลงั แนว ข้ึน – ลง ของ ลูกสูบมาเป็นแรงกาลงั ในแนวหมุนเพลาขอ้ เหวยี่ ง มี แกนขา้ งหน่ึงโพล่ออกไปนอกเส้ือสูบเพอ่ื ยดึ ติดกบั ลอ้ ช่วยแรง ส่วนแกนอีกขา้ งหน่ึง กโ็ ผล่ออกไปนอก เส้ือสูบเช่นกนั เพ่ือยดึ ติดกบั พลูเล่ยเ์ พลาขอ้ เหวยี่ ง 18. หน้ำทกี่ ำรทำงำนส่วนต่ำงๆ ของเพลำข้อเหวยี่ ง ข้อหลกั ข้อหลกั ( Crank Journal ) ของเพลาขอ้ เหวย่ี งรองรับ ดว้ ยแบริ่งขอ้ หลกั ( Main Bearing ) เพลาขอ้ เหวยี่ ง หมุนรอบขอ้ หลกั ที่ขอ้ หลกั แต่ละขอ้ มีแขนขอ้ เหวยี่ ง ( Crank Arm ) หรือ ( Crank Throw ) และมีขอ้ กา้ น ( Crank Pin ) อยรู่ ะหวา่ งของแขนขอ้ เหวย่ี ง
ข้อก้ำน ข้อก้ำน( Crank Pin ) อยใู่ นลกั ษณะเย้อื งศูนยก์ ลาง นำ้ หนักถ่วงสมดุล จากแกนกลางของเพลา และมีน้าหนกั ถ่วงสมดุล ( Counterbalance Weight ) ยดึ อยเู่ พ่อื ชดเชยความไม่ สมดุลในการหมุนท่ีเกิดข้ึนกบั เพลาขอ้ เหวยี่ งใน ขณะที่เคร่ืองยนตท์ างาน รูนำ้ มนั เคร่ือง สาหรับจ่ายน้ามนั เครื่องไปหล่อล่ืน ใหก้ บั แบร่ิงขอ้ หลกั แบร่ิงกา้ นสูบ สลกั ลูกสูบและ อื่นๆ โดยน้ามนั น้ีจะส่งมาจากรูน้ามนั ท่ีเส้ือสูบ รูน้ามนั เคร่ือง แบริ่งเพลำข้อเหวยี่ ง ( Main Bearing ) แบริ่งหรือ แแบบรร่ิง่ิงหหลลกักั ตตวัวั บบนน รองล่ืน เป็นชิ้นส่วนท่ีอยรู่ ะหวา่ งชิ้นส่วนที่เคล่ือนที่ ในทางหมุนเช่นระหวา่ งลูกสูบกบั กา้ นสูบระหวา่ ง กา้ นสูบกบั เพลาขอ้ เหวยี่ ง และระหวา่ งเพลาขอ้ เหวยี่ ง กบั เส้ือสูบเป็นตน้ แบริ่งทาหนา้ ท่ีลดความเสียดทาน ใหเ้ หลือนอ้ ยท่ีสุด ดว้ ยความสามารถของผวิ หนา้ ของ แบร่ิงที่รับเยอ่ื น้ามนั ไวบ้ นผวิ หนา้ เพื่อป้องกนั เพลา แบริ่งกนั รุน สมั ผสั โดยตรงกบั แบร่ิงและรักษาชิ้นส่วนใหอ้ ยใู่ น แนว ลดค่าใชจ้ ่ายในการซ่อมบารุงซ่ึงค่าใชจ้ ่ายใน การเปลี่ยนแบร่ิงจะถูกกว่าการเปลี่ยนเพลาหรือเส้ือท้งั อนั 19. หน้ำทกี่ ำรทำงำนของเพลำลกู เบีย้ ว ( Camshaft ) หนา้ ที่ของเพลาลูกเบ้ียวทาหนา้ ที่ควบคุมการเปิ ดวาลว์ ไอดี (ปิ ดวาลว์ ไอเสีย) เพ่อื ใหไ้ อดีไหลเขา้ มาสู่หอ้ งเผา ไหมแ้ ละเปิ ดวาลว์ ไอเสีย (ปิ ดวาลว์ ไอดี) เพอ่ื ใหไ้ อเสีย ไหลออกไปสรุปคือ เม่ือเพลาลูกเบ้ียวหมุนเม่ือใดก็ จะตอ้ งมีการ เปิ ด – ปิ ด ของวาลว์ เกิดข้ึนเม่ือน้นั จะไปดนั เอาลูกกระทุง้ ลิน้ ( Valve Lifter )
20. กำรจัดวำงเพลำลกู เบีย้ วอยู่ภำยในเสื้อสูบ เครื่องยนตร์ ุ่นเก่าจะมเี พลาลูกเบ้ียวเป็นแกนอยภู่ ายใน หอ้ งเส้ือสูบ ซ่ึงไดร้ ับแรงหมุนมาจากเพลาขอ้ เหวยี่ ง เคร่ืองยนตท์ ี่มีเพลาลูกเบ้ียวติดต้งั อยใู่ นหอ้ งเส้ือสูบน้ี เวลาเพลาลูกเบ้ียวหมุนกจ็ ะดนั ลูกกระทุง้ ลิ้นใหไ้ ปดนั กา้ นกระทุง้ ( Push rod ) ซ่ึงแกนอีกดา้ นหน่ึงของกา้ น กระทุง้ กจ็ ะไปดนั กระเดื่องวาลว์ (Rocker arm) ใหไ้ ป กดลิน้ ใหเ้ ปิ ดออก วาลว์ ท่ีติดต้งั อยบู่ นฝาสูบ เรียกวา่ Over Head Valve หรือ OHV 21. กำรจัดวำงเพลำลูกเบีย้ ว 1 เพลำอยู่ด้ำนบนฝำสูบ ส่วนเคร่ืองยนตท์ ี่มีการติดต้งั เพลาลูกเบ้ียวอยดู่ า้ นบน ของฝาสูบ เรียกวา่ Over Head Camshaft หรือ OHC การทางานในลกั ษณะน้ี จะไม่ใชก้ า้ นกระทุง้ ในการส่ง ต่อกาลงั เพราะเพลาลูกเบ้ียวจะควบคุมการ เปิ ด – ปิ ด วาลว์ ดว้ ยตวั เองซ่ึงเป็นการควบคุมการทางานโดยตรง และลดชิ้นส่วนอุปกรณ์ใหน้ อ้ ยลงดว้ ย เครื่องยนต์ OHC ส่วนใหญ่จะใชล้ ูกเบ้ียวในการควบคุมการเปิ ด – ปิ ดวาลว์ โดยตรง แต่กอ็ าจมีเคร่ืองยนตบ์ างรุ่นที่ใช้ กระเด่ืองวาลว์ ในการทางาน 22. กำรจดั วำงเพลำลูกเบยี้ ว 2 เพลำอยู่ด้ำนบนฝำสูบ เครื่องยนตท์ ี่ใชเ้ พลาลูกเบ้ียวแกนเดียว ติดต้งั อยเู่ หนือ ฝาสูบในการควบคุมการ เปิ ด – ปิ ด วาลว์ เรียก วา่ มีการทางานแบบ Single Over Head Camshaft หรือ SOHC ต่อมามีการออกแบบใหม้ ีเพลาลูกเบ้ียวอยู่ 2 แกน ติดต้งั อยคู่ ู่ขนานกนั แกนหน่ึงควบคุมการ เปิ ด – ปิ ดไอดีโดยเฉพาะส่วนอีกแกนหน่ึง ควบคุม การ เปิ ด – ปิ ดไอเสีย เรียกวา่ มีการ ทางานแบบ Double Over Head Camshaft หรือ DOHC
23. หน้ำทขี่ องล้อช่วยแรง ( Flywheel ) หนา้ ที่ของลอ้ ช่วยแรงคือช่วยทาใหเ้ พลาขอ้ เหวย่ี ง หมุนดว้ ยความเร็วสม่าเสมอ เพราะขณะเคร่ืองยนต์ ทางาน กาลงั งานที่เกิดข้ึนตามจงั หวะน้นั เหลื่อมล้ากนั อาการเช่นน้ีถา้ ไม่มีลอ้ ช่วยแรงจะทาใหเ้ พลาขอ้ เหวย่ี ง หมุนไม่เรียบ ลอ้ ช่วยแรงยดึ ติดกบั เพลาขอ้ เหวยี่ ง ดา้ นหลงั และทาใหส้ มดุลเพ่อื ใหเ้ คร่ืองยนตท์ างานได้ เรียบทุกความเร็ว ขอบของลอ้ ช่วยแรงทาเป็นฟันเฟื อง เอาไวเ้ พ่อื ช่วยการติดเครื่องยนต์ โดยเฟื องของมอเตอร์ สตาร์ทจะมาขบกบั เฟื องของลอ้ ช่วยแรง ผิวหนา้ ดา้ นหลงั ของลอ้ ช่วยแรงตอ้ งเจียระไนใหเ้ รียบ เพราะเป็นส่วนหน่ึงของการส่งต่อกาลงั โดยแผน่ คลทั ชจ์ ะกดอยดู่ า้ นหลงั ของลอ้ ช่วยแรง 24. ประเภทของกำรส่งกำลงั ขบั เพลำลูกเบยี้ ว การส่งกาลงั ขบั จากเฟื องไทมม์ ิ่งเพลาขอ้ เหวยี่ งหมุนขบั เฟื องไทมม์ ิ่งเพลาลูกเบ้ียวใหห้ มุน ตามเพอ่ื ส่งผา่ นกาลงั ผา่ นกลไกข้ึนอยกู่ บั ประเภทของวธิ ีการขบั เพลาลูกเบ้ียวดงั น้ี 24.1 กำรส่งกำลงั ควบคุมด้วยเฟื อง การส่งกาลงั ดว้ ยเฟื องใชเ้ ฟื องฟันเฉียง เฟื องเพลาลูก เบ้ียวอาจเคลือบดว้ ยพลาสติกหรือทาดว้ ยวสั ดุ สังเคราะหเป็นวธิ ีการลดเสียงใหน้ อ้ ยลง ระยะฟรี ฟันเฟื องที่ขบกนั จะมีระยะเพยี งเลก็ นอ้ ยเท่าน้นั 24.2 กำรส่งกำลงั ควบคุมด้วยโซ่ การส่งกาลงั ดว้ ยโซ่กรณีเพลาขอ้ เหวยี่ งอยหู่ ่างเพลาลูก เบ้ียวตอ้ งใชร้ ะบบขบั ดว้ ยโซ่จึงจะเหมาะสมกวา่ เช่น เพลาลูกเบ้ียวอยเู่ หนือฝาสูบ การใชโ้ ซ่มีความทนทาน มาก ความตึงของโซ่มีชุดดนั โซ่ใหต้ ึง ลดการกระพือ ของโซ่ หล่อลื่นดว้ ยน้ามนั เครื่องเสียงดงั กวา่ ใชเ้ ฟื อง
24.3 กำรส่งกำลงั ควบคุมด้วยสำยพำน ปัจจุบนั การส่งกาลงั ขบั เพลาลูกเบ้ียว นิยมใชส้ ายพาน ทอ้ งฟันเฟื องเพราะส่งกาลงั ไดย้ ดื หยนุ่ ไม่ล่ืน น้าหนกั นอ้ ยไม่ตอ้ งบารุงรักษาและลดเสียงดนั ลงไดม้ ากแมแ้ ต่ การส่งกาลงั ขบั ปั๊มฉีดน้ามนั ดีเซลกม็ ีใชเ้ ช่นเดียวกนั 25. หลกั กำรทำงำนของเครื่องยนต์ดีเซล 4 จังหวะ เคร่ืองยนตด์ ีเซล (Diesel Engine) เป็นเคร่ืองยนตส์ นั ดาปภายใน (Internal Combustion Engine หรือ ICE) ในเคร่ืองยนตด์ ีเซลอากาศเท่าน้นั ที่ถูกอดั ในจงั หวะอดั น้ามนั เช้ือเพลิงที่ ตอ้ งการซ่ึงถูกนาเขา้ ไปเพ่อื ใหเ้ กิดจงั หวะกาลงั จะถูกจดั ใหม้ ีปริมาณท่ีถูกตอ้ งและเพม่ิ ความดนั โดยปั๊มฉีดน้ามนั เช้ือเพลิง แลว้ จะถูกส่งต่อไปยงั หวั ฉีดความดนั สูงและฉีดพ่นเขา้ ไปในหอ้ งเผา ไหมซ้ ่ึงผสมกบั อากาศที่ถูกอดั จนร้อนและถูกจุดระเบิด อากาศถูกอดั จากปริมาตรมากใหเ้ หลือ ปริมาตรนอ้ ย เรียกวา่ อตั ราส่วนการอดั ( Compression Ratio ) ซ่ึงอตั ราส่วนการอดั ตวั น้ีมีผลต่อ กาลงั ของเครื่องยนต์ คือ อตั ราส่วนการอดั ตวั ยง่ิ สูงกาลงั จะเพม่ิ มากข้ึน ตาแหน่งการเคลื่อนที่ของลูกสูบบนกระบอกสูบมีดงั น้ี TDC จุดศูนย์ตำยบน ( Top Dead Center TDC ) คือตาแหน่งที่ลูกสูบเล่ือนข้ึนไปบนกระบอกสูบบนสุด BDC จุดศูนย์ตำยล่ำง ( Bottom Dead Center BDC ) คือตาแหน่งลูกสูบเลื่อนลงล่างสุดของกระบอกสูบ Total V1 V1 คืออตั ราปริมาตรดูดอากาศท่ีถูกแทนท่ีเมื่อลูกสูบ Volume เคล่ือนท่ีลงจากศนู ยต์ ายบน (Top Dead Center TDC) ลงสู่ศูนยต์ ายล่าง (Bottom Dead Center BDC) ต่าสุด 15 CC มีปริมาตรมากจานวน 15 CC
V2 V2 คือปริมาตรอากาศที่ถูกอดั ตวั เป็นปริมาตรอากาศ Volume ระหวา่ งดา้ นบนของลูกสูบและฝาสูบเม่ือลูกสูบอยทู่ ี่ ตาแหน่งศูนยต์ ายบน (Top Dead Center TDC) ใน 1 CC จงั หวะอดั ท่ีสิ้นสุดลง V2 อตั ราส่วนกาลงั อดั = V1 สรุป อตั ราส่วนกาลงั อดั คือ อตั ราส่วนระหวา่ งปริมาตรความจุของกระบอกสูบกบั ปริมาตร ในกระบอกสูบในขณะท่ีลูกสูบอยศู่ นู ยต์ ายบน เครื่องยนตท์ ี่มีอตั ราส่วนกาลงั อดั เท่ากบั 10 กค็ ือ เครื่องยนตท์ ี่ลูกสูบสามารถบีบส่วนผสมในหอ้ งเผาไหมใ้ หเ้ หลือเพยี ง 1 ใน 10 ของปริมาตร ความจุนนั่ เอง ในเคร่ืองยนตด์ ีเซลจะใชค้ วามร้อนของอากาศท่ีถูกอดั เพือ่ จุดระเบิดน้ามนั เช้ือเพลิงให้ รวดเร็วท่ีสุดเท่าท่ีจะเป็นไปไดเ้ ม่ือถูกฉีดเขา้ ไปในกระบอกสูบเมื่ออากาศถูกอดั จะมีความร้อน เกิดข้ึนเน่ืองจากอตั ราส่วนการอดั ที่สูงถูกใชใ้ นเครื่องยนตด์ ีเซล ( 15 : 1 – 24 : 1 ) อากาศที่ถูก นาเขา้ ไปในกระบอกสูบ จึงถูกอดั มาก ( ความดนั สูงถึง 3,800 kPa ) เม่ือน้ามนั เช้ือเพลิงถูกฉีด เขา้ ไปและผสมกบั อากาศท่ีถูกอดั ตวั ไวส้ ูง ความร้อนในอากาศกจ็ ะเพียงพอท่ีจะทาใหเ้ กิดการจุด ระเบิดของเช้ือเพลิงซ่ึงเรียกวา่ การจุดระเบิดโดยการอดั ( Compression Ignition ) สาหรับเคร่ืองยนตแ์ กส๊ โซลีนจะตอ้ งจาไวว้ า่ น้ามนั เช้ือเพลิงและอากาศถูกผสมกนั ภายนอกกระบอกสูบ แลว้ สารผสมจึงถูกนาเขา้ ไปในกระบอกสูบและถูกอดั ซ่ึงทาใหก้ ารจุดระเบิดโดยการอดั แบบที่ใชใ้ น เคร่ืองยนตด์ ีเซลใชไ้ ม่ได้ เนื่องจากไอของน้ามนั เบนซินจะจุดระเบิดในช่วงจงั หวะอดั ทาใหเ้ กิดความ เสียหายอยา่ งรุนแรงต่อชิ้นส่วนของเคร่ืองยนต์ ดงั น้นั จึงจาเป็นตอ้ งใชอ้ ตั ราส่วนการอดั ต่า ( 8 : 1 – 12 : 1 ) และใหม้ กี ารจุดระเบิดสารผสมระหวา่ งอากาศกบั น้ามนั เช้ือเพลิงในหอ้ งเผาไหมโ้ ดยใชป้ ระกายไฟจากหวั เทียน
เครื่องยนต์ดเี ซล มหี ลกั กำรทำงำนดังนี้ ลนิ้ ไอดีเปิ ด ลนิ้ ไอเสียปิ ด 1. จังหวะดูด ( Intake Stroke ) ลิน้ ไอดีเปิ ดและลิ้นไอ เสียปิ ด ลูกสูบเคลื่อนท่ีจาก TDC ลงสู่ BDC ทาให้ เกิดความดนั ต่าข้ึนภายในกระบอกสูบและอากาศ TDC สะอาดท่ีผา่ นกรองอากาศไหลผา่ นลิน้ ไอดีท่ีเปิ ด BDC บรรจุอยเู่ ตม็ ในกระบอกสูบและกระบอกสูบกถ็ ูก เติมดว้ ยอากาศ ลนิ้ ไอดปี ิ ด ลนิ้ ไอเสียปิ ด 2. จงั หวะอดั ( Compression Stroke ) ดว้ ยลิน้ ท้งั สอง TDC ปิ ดลูกสูบเคล่ือนท่ีจาก BDC ไปยงั TDC อดั อากาศ BDC ในช่วงจงั หวะน้ีอากาศจะร้อนข้ึนอุณหภูมิท่ีสูงเพียง พอที่จะจุดระเบิดเช้ือเพลิง ลิ้นไอดีปิ ด ลิ้นไอเสียปิ ด 3. จงั หวะระเบิดหรือจงั หวะกำลงั ( Power Stroke ) ที่ ประมาณ TDC น้ามนั เช้ือเพลิงถูกฉีดพุ่งเขา้ ไปใน TDC อากาศท่ีถูกอดั และร้อนที่ซ่ึงจะจุดระเบิด เผาไหม้ BDC และขยายตวั ซ่ึงลิ้นท้งั สองปิ ดอยู่ ความดนั กระทาท่ี ดา้ นบนของลูกสูบผลกั ดนั ใหล้ ูกสูบเคลื่อนท่ีลงใน กระบอกสูบจาก TDC ถึง BDC
ลนิ้ ไอดีปิ ด ลนิ้ ไอเสียเปิ ด 4. จังหวะคำย ( Exhaust Stroke ) ท่ีประมาณ ศนู ยต์ าย TDC ล่างลิ้นไอเสียเปิ ดและลูกสูบเริ่มเคลื่อนท่ีจากศนู ย์ BDC ตายล่างไปสู่ศนู ยต์ ายบนขบั ไล่แก๊สไอเสียท่ีเผาไหม้ แลว้ ออกจากกระบอกสูบผา่ นลิ้นไอเสียที่เปิ ดอยู่ เมื่อสิ้นสุดจงั หวะคาย ลิน้ ไอเสียปิ ด ลิ้นไอดีเปิ ด และลูกสูบเคล่ือนท่ีลงในกระบอกสูบ กจ็ ะเป็น จงั หวะดูดของวงจรถดั ไป 26. วธิ ใี ช้เครื่องมืออปุ กรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบของเคร่ืองยนต์ 26.1 วธิ ีใช้งำนเกจวดั กำรอดั ( Compression gauge ) เกจวดั การอดั เป็นอุปกรณ์ที่ใชส้ วมต่อกบั ตวั เกจ ในกรณีท่ีวดั กาลงั อดั ทางรูหวั เผา เช่น อแดปเตอร์ แบบเกลียวอุปกรณ์น้ีทาใหก้ ารทางานสะดวก หรือจะวดั ทางเบา้ หวั ฉีดกไ็ ด้ เกจวดั การอดั น้ี ใชว้ ดั กาลงั อดั แต่ละกระบอกสูบ โดยถอดหวั เผา ออกใหห้ มดทุกสูบแลว้ นาอแดปเตอร์ขนั เขา้ กบั เกลียวช่องหวั เผาแลว้ ขนั ใหแ้ น่น ต่อเคร่ืองทดสอบ การอดั เขา้ กบั อแดปเตอร์ทาการวดั ในแต่ละ กระบอกสูบโดยเปิ ดลิ้นเร่งใหส้ ุดและสตาร์ท เครื่องยนตข์ ณะที่เคร่ืองยนตห์ มุนใหอ้ ่านค่าที่ หนา้ ปัดเครื่องวดั แลว้ จดบนั ทึกค่าไว้ เมื่อเสร็จให้ กดลิ้นทางเดียวเพอ่ื ปล่อยใหล้ มออก การวดั ตอ้ ง กระทาในระยะเวลาท่ีส้นั ท่ีสุด
26.2 วธิ ีใช้งำนประแจกระบอกยำว ประแจกระบอกยาวจะใชค้ รอบบนหวั แป้นเกลียว 26.3 วธิ ีใช้งำนประแจกระบอกส้ัน หรือหวั สลกั เกลียวอยตู่ ่า ( ลึก ) จนประแจกระบอก แบบส้ันไม่สามารถใชง้ านได้ ประแจกระบอกยาว ส่วนบนจะทาเป็นรูสี่เหล่ียมไวแ้ ลว้ ใชด้ า้ มต่อหรือ ดา้ มขนั แบบต่างๆ ที่ปลายทาเป็นสี่เหล่ียมเพื่อสวม ลงไปประกอบการใชง้ านในรูส่ีเหล่ียมของตวั ประแจจะเซาะร่องรูปคร่ึงวงกลมไวร้ ะหวา่ งกลาง ของความลึกของรูไวท้ ้งั สี่ดา้ นเพ่ือเป็นท่ีลอ็ กใหต้ วั ประแจติดกบั ดา้ มโดยที่ดา้ มกจ็ ะฝังลูกปื นกลมมี สปริงดนั ใหย้ นื่ พน้ ผวิ เรียบของขอ้ ต่อส่ีเหลี่ยม ประแจกระบอกใชค้ รอบบนหวั แป้นเกลียวหรือ หวั สลกั เกลียว ปากประแจมีลกั ษณะภายในคลา้ ย ประแจแหวน ประแจกระบอกส่วนบนจะทาเป็น รูส่ีเหล่ียมไวแ้ ลว้ ใชด้ า้ มต่อหรือดา้ มขนั ที่มีปลาย ทาเป็นส่ีเหล่ียมเพ่ือสวมประกอบการใชง้ านในรู สี่เหล่ียมของตวั ประแจจะเซาะร่องรูปคร่ึงวงกลม ไวร้ ะหวา่ งกลางของความลึกของรูไวท้ ้งั สี่ดา้ นเพอ่ื เป็นที่ลอ็ กใหต้ วั ประแจติดกบั ดา้ มโดยท่ีดา้ มกจ็ ะ ฝังลูกปื นกลมมีสปริงดนั ใหย้ นื่ พน้ ผวิ เรียบของขอ้ ต่อสี่เหลี่ยม ใชข้ นั หรือคลายแป้นเกลียวและสลกั เกลียวไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพคือไม่ทาใหห้ วั แป้น เกลียวหรือหวั สลกั เกลียวชารุด
26.4 วธิ ีใช้งำนประแจรวม ประแจรวมเป็ นประแจที่รวมเอาประแจปากตาย และประแจแหวนอยใู่ นตวั เดียวกนั มีประโยชน์ ยง่ิ ข้ึนประแจรวมหน่ึงตวั มีเบอร์เดียว การใชง้ าน ประแจปากตาย ใชเ้ ม่ือเน้ือที่ขา้ งเคียงคบั แคบ ประแจแหวนใชเ้ มื่อตอ้ งการขนั ใหแ้ น่นหรือตอ้ งการคลายออกคร้ังแรกทาใหก้ ารทางานมี ประสิทธิภาพยงิ่ ข้ึน 26.5 วธิ ใี ช้งำนด้ำมขนั เล่ือน ดา้ มขนั เล่ือนใชร้ ่วมกบั ประแจกระบอก ใชส้ าหรับ ขนั และคลายแป้นเกลียวหรือสลกั เกลียวที่ตอ้ งการ แรงกดทางดา้ นซา้ ยและดา้ นขวาเท่า ๆ กนั ดา้ มขนั เลื่อนใชง้ านไดส้ ะดวกรวดเร็ว นอกจากน้ีดา้ มขนั เล่ือนยงั ใชแ้ ทนดา้ มขนั เหวยี่ งไดด้ ว้ ย แต่เนื่องจาก ดา้ มขนั เลื่อนส้ันกวา่ จึงใชข้ นั ไดแ้ รงนอ้ ยกวา่ ไม่ควร ต่อดา้ มขนั เล่ือนในการขนั ใหแ้ น่นหรือคลายออกเพราะจะทาใหด้ า้ มขนั เล่ือนชารุดเสียหาย 26.6 วธิ ใี ช้งำนด้ำมต่อ ดา้ มต่อใชต้ ่อกบั ประแจกระบอกและดา้ มขนั เล่ือน หรือดา้ มขนั เหวย่ี งเพื่อขนั สลกั เกลียวหรือ แป้น เกลียวอยลู่ ึกท่ีประแจอื่น ๆ ไม่สามารถใชง้ านได้ ดา้ มต่อมีท้งั แบบยาวและแบบส้ันจึงตอ้ ง เลือกใช้ ใหเ้ หมาะสมกบั งาน ไม่ควรใชด้ า้ มต่อแทนคอ้ น หรือเหลก็ ตอกจะทาใหช้ ารุดเสียหาย 26.7 วธิ ีใช้งำนคมี ปำกขยำย คีมปากขยายออกแบบเป็น 2 จุดหมุน ปากของคีม สามารถขยายออกใหก้ วา้ งข้ึนถา้ ตอ้ งการจบั ชิ้นงาน ใหญ่หรือลดลงไดต้ ามความเหมาะสมกบั ขนาด ชิ้นงาน บริเวณกลางของปากคีมมีลกั ษณะโคง้ ใช้
จบั ของกลมเช่นท่อเลก็ ๆ คีมปากขยายทาดว้ ยเหลก็ ชุบผวิ แขง็ ดงั น้นั จึงไม่ควรนาคีมไปใชก้ บั งานที่ไดร้ ับความร้อนสูง ๆเช่นนาไปจบั ชิ้นงานเชื่อมแก๊สหรือเชื่อมไฟฟ้า เพราะจะทาให้ คุณภาพความแขง็ ของเหลก็ ลดลง เม่ือใชง้ านแลว้ ควรหยอดน้ามนั หล่อล่ืนชนิดใสที่บริเวณจุด หมุนเพื่อป้องกนั การเป็นสนิมและลดความฝื ด 26.8 วธิ ีใช้งำนคู่มือกำรซ่อม ในคู่มือการซ่อมเม่ือเปิ ดหนา้ แรกจะพบวธิ ีการใช้ คู่มือประกอบดว้ ย คานา, คู่มือการซ่อมเคร่ืองยนต์ ( สารบญั ) ซ่ึงไดร้ ะบุ ชื่อหมวด และหวั ขอ้ หลกั ไวท้ ่ีดา้ นบนของทุกๆ หนา้ ซึงหวั ขอ้ เร่ืองไดถ้ ูก ระบุไวใ้ นหนา้ แรกของแต่ละหมวดเพื่อนาไปสู่ หวั ขอ้ ท่ีตอ้ งการซ่อมเช่น บทนา บน , กลไก เคร่ืองยนต์ กย , ระบบเช้ือเพลิง ชพ , ระบบหล่อ เยน็ ลย , ระบบหล่อล่ืน ลล , ระบบสตาร์ท สต , ระบบไฟชาร์จ ฟช , ค่ากาหนดการบริการ ก , ค่ากาหนดแรงขนั โบลทม์ าตรฐาน ข , เคร่ืองมือ พิเศษและวสั ดุพิเศษสาหรับบริการ ค , นกั เรียนตอ้ งการจะซ่อมหวั ขอ้ หลกั ใดใหน้ กั เรียนเปิ ดดู ท่ีดา้ นบนหนา้ กจ็ ะพบวธิ ีการซ่อมและค่ากาหนด 26.9 วธิ ใี ช้งำนสำยลมและปื นเป่ ำลม สายลมและปื นเป่ าลมใชเ้ ป่ าสิ่งสกปรก ทาความ สะอาดชิ้นส่วนของเครื่องยนตข์ อ้ ควรระวงั หา้ มนา ปื นเป่ าลมทาความสะอาดส่ิงที่ติดอยบู่ นเส้ือผา้ หรือ บริเวณศีรษะอาจเกิดอนั ตรายได้
26.10 วธิ ีใช้งำนผ้ำเช็ดมือ การปฏิบตั ิงานตอ้ งกระทาอยา่ งมีประสิทธิภาพและ ถูกตอ้ งตามหลกั การ ท้งั น้ีกเ็ พ่อื ใหผ้ ลงานน้นั ออกมาดี มีคุณภาพ มีอายกุ ารใชง้ านยนื ยาว การปฏิบตั ิงานช่าง น้นั ความสะอาดเป็นส่ิงสาคญั อยา่ งยง่ิ เพราะการ ประกอบชิ้นส่วนท่ีเคลื่อนไหวเขา้ ในตาแหน่งเดิม ถา้ มี สิ่งสกปรกหลงเหลือหรือติดคา้ งอยจู่ ะทาใหช้ ิ้นส่วน เกิดการเสียดสีบด บ้ี กบั ส่ิงสกปรกเกิดการสึกหรอเร็ว กวา่ ปกติและอาจชารุดเสียหายโดยทนั ทีกไ็ ด้ เพราะฉะน้นั ตอ้ งระมดั ระวงั ในการปฏิบตั ิงานเรื่อง ความสะอาด ผา้ เช็ดมือท่ีสะอาดมีส่วนช่วยใหก้ าร ทางานไดอ้ ยา่ งดีท่ีเช็ดชิ้นส่วนใหส้ ะอาดก่อนประกอบ เขา้ ตาแหน่งเดิม แต่ก่อนประกอบตอ้ งไม่ลืมวา่ ชิ้นส่วน ที่มีการเคลื่อนไหวดว้ ยการหมุนหรือเคลื่อนที่ ข้ึน – ลง ตอ้ งใชน้ ้ามนั หล่อลื่นที่สะอาดมีคุณภาพคุณภาพ ชโลมชิ้นส่วนก่อนประกอบ 26.11 วธิ ใี ช้งำนกระบะใส่เคร่ืองมืออปุ กรณ์ กระบะใชใ้ ส่เคร่ืองมืออุปกรณ์ในการปฏิบตั ิงานและ ใชส้ าหรับใส่น้ามนั เพ่อื ลา้ งชิ้นส่วนต่าง ๆ ใหส้ ะอาด กระบะตอ้ งมีขอบท่ีสูงพอสมควรท้งั น้ีกเ็ พอื่ จะป้องกนั ไม่ใหน้ ้ามนั ที่ใชท้ าความสะอาดน้นั กระเดน็ ลงพ้ืนโต๊ะ ท่ีใชป้ ฏิบตั ิงานการทาความสะอาดกระบะควรใชล้ ม เป่ าและผา้ เชด็ ใหแ้ หง้ ไม่ควรเคาะกระบะกบั พ้ืนเพอ่ื ทา ใหน้ ้ามนั ท่ีติดอยหู่ รือส่ิงสกปรกออกใหห้ มดเพราะจะ ทาใหข้ อบกระบะบุบเสียรูปทรง
26.12 วธิ ใี ช้งำนกำนำ้ มนั หล่อล่ืน กาน้ามนั หล่อลื่นเป็นอุปกรณ์อานวยความสะดวกท่ีจะ น้ามนั หล่อลื่นเขา้ ไปในผวิ ชิ้นส่วนเคร่ืองยนตท์ ี่อยกู่ บั ท่ีหรือเคลื่อนท่ี ทาใหก้ ารปฏิบตั ิงานเป็นไปไดอ้ ยา่ ง รวดเร็วสะอาดและประหยดั น้ามนั หล่อล่ืนเครื่องยนต์ หรือน้ามนั เคร่ือง ประกอบไปดว้ ย 2 ส่วนท่ีสาคญั คือ น้ามนั พ้นื ฐานและสารเพิม่ คุณภาพน้ามนั เคร่ืองมี หนา้ ท่ีลดแรงเสียดทานของวตั ถุชิ้นที่เสียดสีกนั ระบายความร้อนเคร่ืองยนต์ เคลือบช่องวา่ ง ระหวา่ งผวิ สัมผสั ทาความสะอาดเขม่าและเศษโลหะภายในเครื่องยนตป์ ้องกนั การกดั กร่อนจาก สนิมและกรดต่างๆ และป้องกนั กาลงั อดั เคร่ืองยนตร์ ่ัวไหลเป็นตน้ 27. สถำนทเี่ กบ็ เครื่องมืออปุ กรณ์ทใ่ี ช้งำนตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ เคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีใชต้ รวจสอบเกบ็ ไวใ้ นหอ้ งเคร่ืองมือการนาเคร่ืองมือไปใชง้ านมีข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี 27.1 นาใบเบิกเครื่องมือใหก้ บั ผจู้ ่ายเคร่ืองมือ ผเู้ กบ็ เครื่องมือจ่ายเคร่ืองมือใหก้ บั นกั เรียน 27.2 ผเู้ กบ็ รักษาเคร่ืองมือจะเกบ็ ใบเบิกเคร่ืองมือไวจ้ นกวา่ จะนาเคร่ืองมือมาส่งคืน 28. วธิ เี บิกเคร่ืองมืออปุ กรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบของเคร่ืองยนต์ การเขียนใบเบิกเคร่ื องมือเป็ นการสร้างจิตสานึกให้ ช่วยกนั รักษาเครื่องมือไม่ใหส้ ูญหาย และมีวนิ ยั ใน การทางานรับผดิ ชอบร่วมกนั การนาเคร่ืองมือไปใช้ งานจะตอ้ งเขียนใบเบิกเครื่องมือใหก้ บั เจา้ หนา้ ที่ผู้ ควบคุมดงั น้ี 28.1 เขียนชื่อ นามสกลุ ช้นั ปี กลุ่ม รหสั แผนกวชิ า เขียนวนั ที่ เดือน พ.ศ. 28.2 เขียนรายการเครื่องมือ จานวนที่เบิก ลงช่ือผเู้ บิก และ ลงช่ือ อาจารยผ์ สู้ อน 29. ข้อควรระวงั ในกำรเตรียมเคร่ืองมืออปุ กรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบเครื่องยนต์ 29.1 นกั เรียนไม่สวมใส่ของมีค่าเช่นนาฬิกา แหวน สร้อยคอเพราะจะเสียหายและทาใหเ้ กิด อุบตั ิเหตุได้
29.2 นกั เรียนนาเคร่ืองมืออุปกรณ์ที่เบิกไปแลว้ จดั วางลงโตะ๊ ปฏิบตั ิงานใหเ้ ป็นระเบียบง่ายต่อ การหยบิ ไปใชง้ าน 29.3 ไม่นาเครื่องมืออุปกรณ์วางทบั เกจวดั การอดั จะทาใหช้ ารุดเสียหาย 29.4 นกั เรียนนาเคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีเบิกไปแลว้ จดั วางลงโตะ๊ ปฏิบตั ิงานใหเ้ ป็นระเบียบง่ายต่อ การหยบิ ไป 30. วธิ ปี ระกอบสำยไฟเข้ำกบั ข้วั แบตเตอร่ี 30.1 ประกอบสายไฟข้วั 30 จากมอเตอร์สตาร์ทเขา้ กบั ข้วั ข้วั บวกแบตเตอร่ีสังเกตข้วั บวกมีขนาด ใหญ่กวา่ ข้วั ลบหรือมีเคร่ืองหมาย + ( บวก ) ท่ี ฝาหมอ้ แบตเตอร่ีแลว้ ใชป้ ระแจขนั ยดึ แป้น เกลียวใหแ้ น่น 30.2 ประกอบสายกราวด์ ท่ียดึ กบั แท่นเคร่ืองเขา้ กบั ข้วั ลบแบตเตอรี่สังเกตท่ีข้วั จะมีขนาดเลก็ กวา่ ข้วั บวกหรือมีเคร่ืองหมาย – ( ลบ ) ที่ฝาหมอ้ แบตเตอรี่แลว้ ใชป้ ระแจขนั ยดึ แป้นเกลียวให้ แน่น 31. ข้อควรระวงั ในกำรประกอบสำยไฟข้วั แบตเตอร่ีเข้ำทตี่ ำแหน่ง 31.1 ใส่สายไฟข้วั บวกก่อนป้องกนั สายไฟลงกราวด์ 31.2 ไม่เคาะหรือตอกตีท่ีข้วั แบตเตอรี่จะทาใหเ้ สียหาย 31.3 นกั เรียนไม่หยอกลอ้ เล่นกนั ขณะปฏิบตั ิงานจะทาใหไ้ ดร้ ับบาดเจบ็ และเกิดอุบตั ิเหตุได้ 32. วธิ เี ปิ ดสวติ ช์ตดิ เครื่องยนต์อ่นุ เคร่ืองให้ได้อณุ หภูมกิ ำรทำงำน OFF 32.1 เสียบกญุ แจไปที่สวติ ชต์ ิดเคร่ืองยนตท์ ี่ตาแหน่ง OFF
ON 32.2 บิดกญุ แจไปตาแหน่ง ON START 32.3 บิดกุญแจไปตาแหน่ง START เมื่อเครื่องยนต์ ติดปล่อยมือกุญแจจะกลบั มาอยทู่ ี่ตาแหน่ง ON เครื่องยนตต์ ิดรอบเดินเบาอุ่นเคร่ืองประมาณ 5 นาที อุณหภูมิในการทางาน 80 - 90 C ท้งั น้ีเพอื่ ใหช้ ิ้นส่วนของเครื่องยนตเ์ ช่น ลูกสูบ แหวนลูกสูบ กระบอกสูบเป็นตน้ ไดข้ ยายตวั เน่ืองจากความร้อนในการเผาไหมจ้ ะทาใหก้ ารวดั ค่ากาลงั อดั ในกระบอกสูบไดค้ ่าที่เป็นจริง 33. ข้อควรระวงั ในกำรติดเครื่องยนต์อ่นุ เคร่ืองให้ได้อณุ หภูมกิ ำรทำงำน 33.1 เปิ ดหนา้ ต่างประตูโรงฝึกงานใหอ้ ากาศถ่ายเทไดด้ ีเพราะในไอเสียมีแกส๊ ที่เป็นพิษให้ โทษต่อร่างกาย 33.2 เมื่อเคร่ืองยนตต์ ิดแลว้ ใหป้ ล่อยมือทนั ที ถา้ ยงั หมุนสวติ ชส์ ตาร์ตจะทาใหม้ อเตอร์ สตาร์ตเสียหายได้ 34. วธิ ีปิ ดสวติ ช์ดบั เคร่ืองยนต์ OFF บิดกญุ แจสวติ ชส์ ตาร์ทเคร่ืองยนตใ์ หไ้ ปอยทู่ ่ีตาแหน่ง OFF 35. ข้อควรระวงั ในกำรดบั เครื่องยนต์ ดึงกญุ แจสวติ ชส์ ตาร์ทออกทุกคร้ังที่ดบั เคร่ืองยนต์
36. ข้นั ตอนตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบแบบแห้ง 36.1 ปลดข้วั สายไฟสวติ ชโ์ ซลินนอยดเ์ พอ่ื ตดั น้ามนั เช้ือเพลิงปั๊มหวั ฉีดออก 36.2 ดึงเหลก็ วดั ระดบั น้ามนั เคร่ืองออก 36.3 ใชค้ ีมปากขยายบีบเขม็ ขดั รัดแลว้ ถอดท่อยาง อุ่นไอดีออก 36.4 ใชป้ ระแจกระบอกขนาด 12 มม. ถอดสลกั เกลยี ว 3 ตวั และถอดท่อไอดีออก 36.5 ใชป้ ระแจกระบอกขนาด 8 มม. ถอดแป้น เกลียวยดึ สะพานไฟหวั เผาเขา้ กบั หวั เผา 4 ตวั ออก
36.6 ใชป้ ระแจกระบอกขนาด 12 มม. ถอดแป้น เกลียว ยดึ สะพานไฟหวั เผาเขา้ กบั ท่อร่วมไอดี ออก 36.7 ถอดฉนวนกนั ความร้อน 2 ตวั และสะพานไฟ หวั เผาออก 36.8 ใชป้ ื นเป่ าสิ่งสกปรกฝ่ นุ ผงบริเวณโดยรอบหวั เผา ท้งั 4 หวั 36.9 ใชป้ ระแจกระบอกยาวขนาด 12 มม. ถอดหวั เผา 4 หวั ออก 36.10 ประกอบอแดปเตอร์เขา้ กบั ช่องหวั เผาแลว้ ขนั ใหแ้ น่น
36.11 ประกอบขอ้ ต่องอเขา้ กบั ขอ้ ต่อตรง 36.12 ประกอบเกจวดั การอดั เขา้ กบั ขอ้ ต่องอแลว้ สตาร์ทเครื่องยนต์ วดั กาลงั อดั ขณะท่ีเครื่องยนต์ กาลงั หมุนอ่านค่าบนหนา้ ปัด บนั ทึกค่าไวใ้ น ตารางใบงาน การวดั กาลงั อดั น้ีแบตเตอร่ี ตอ้ งมีประจุไฟเตม็ 36.13 ทาข้นั ตอนที่ 10. ถึง 12. ซ้าอีกคร้ังในการวดั กาลงั อดั แต่ละสูบจนครบทุกสูบ 37. ข้อควรระวงั ในกำรวดั กำลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั แห้ง 37.1 กดลิน้ ทางเดียวท่ีตวั เกจวดั การอดั เพอ่ื ปลดปล่อยลมออกก่อนวดั สูบต่อไป 37.2 ขณะปฏิบตั ิงานไม่หยอกลอ้ เล่นกนั จะทาใหไ้ ดร้ ับบาดเจบ็ และอาจเกิดอุบตั ิเหตุได้ 38. วธิ ีบันทกึ ผลกำรวดั กำลงั อดั แบบแห้งลงในตำรำงใบงำน จุดตรวจวดั ผลการตรวจสอบ ประเมินผลและวนิ ิจผลการตรวจสอบกบั คู่มือการ วดั แหง้ และ ซ่อม วดั แบบเปี ยก ค่าท่ีวดั ได้ ค่าท่ีวดั ได้ ใชไ้ ด้ กระบอกสูบ/ ลิ้นรั่วหรืออาจมีการรั่ว แบบแหง้ แบบเปี ยก แหวนสึกหรอ ที่ปะเกน็ สูบท่ี 1 …………. …………. ……… ……… ……………… สูบท่ี 2 …………. …………. ……… ……… ………………. สูบที่ 3 …………. …………. ……… ……… ………………. สูบท่ี 4 …………. …………. ……… ……… ………………. ใหบ้ นั ทึกค่ากาลงั อดั ในกระบอกสูบท่ีวดั ไดล้ งในช่อง “ค่าท่ีวดั ไดแ้ บบแหง้ ” และระบุหน่วย วดั ใหช้ ดั เจน การบนั ทึกค่ากาลงั อดั ในกระบอกสูบใหบ้ นั ทึกเรียงจากสูบที่ 1, 2, 3, 4, เป็นลาดบั
39. ข้อควรระวงั กำรบนั ทกึ ผลกำรวดั กำลงั อดั แบบแห้งลงในตำรำงใบงำน เชด็ มือใหส้ ะอาดก่อนที่จะบนั ทึกผลการตรวจสอบลงในใบงานเพราะถา้ ใบงานเป้ื อนสกปรก จะทาใหข้ อ้ มูลที่บนั ทึกเสียหาย 40. ข้นั ตอนตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบแบบเปี ยก การวดั กาลงั อดั แบบเปี ยกใหน้ าค่าที่มีความดนั ในกระบอกสูบต่าผดิ ปกติมาพิจารณาวา่ ความดนั น้นั รั่วผา่ นลิ้นหรือแหวนลูกสูบสึกหรอมาทดสอบใหม่อีกคร้ัง 40.1 ใชน้ ้ามนั เคร่ืองที่มีคุณภาพดีและสะอาดใส่เขา้ ใน กระบอกสูบผา่ นทางช่องหวั เผาเพ่อื ทดสอบอีก คร้ัง 40.2 ติดต้งั ขอ้ ต่อตรงเขา้ กบั ช่องหวั เผาแลว้ ขนั ใหแ้ น่น 40.3 ติดต้งั ขอ้ ต่องอเขา้ กบั ขอ้ ต่อตรง 40.4 ต่อเกจวดั การอดั เขา้ กบั ขอ้ ต่องอแลว้ สตาร์ท เคร่ืองยนต์ วดั กาลงั อดั ขณะท่ีเคร่ืองยนตห์ มุน อ่านค่าที่หนา้ ปัดแลว้ บนั ทึกค่าที่วดั แบบเปี ยกไว้ กดลิ้นทางเดียวท่ีตวั เคร่ืองเพ่อื ปลดปล่อยลมออก
41. ข้อควรระวงั ในกำรวดั กำลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั เปี ยก 41.1 ไม่ใส่น้ามนั เครื่องเขา้ ในกระบอกสูบเกินความจาเป็น 41.2 การวดั ค่ากาลงั อดั ตอ้ งกระทาในเวลาที่ส้ันท่ีสุด 41.3 นกั เรียนแต่งกายดว้ ยชุดฝึ กงานที่รัดกมุ เพราะเส้ือผา้ ท่ีรุ่มร่ามจะเป็นบ่อเกิดของอุบตั ิเหตุ 42. วธิ ีบันทกึ ผลกำรวดั กำลงั อดั ในกระบอกสูบแบบวดั เปี ยกลงในตำรำงใบงำน จุดตรวจวดั ผลการตรวจสอบ ประเมินผลและวนิ ิจผลการตรวจสอบกบั คู่มือการซ่อม วดั แหง้ และ ค่าท่ีวดั ได้ ค่าท่ีวดั ได้ ใชไ้ ด้ กระบอกสูบ/ ลิน้ ร่ัวหรืออาจมีการรั่ว วดั แบบเปี ยก แบบแหง้ แบบเปี ยก แหวนสึกหรอ ท่ีปะเกน็ สูบท่ี 1 …………. …………. ……… ……… ……………… สูบที่ 2 …………. …………. ……… ……… ………………. สูบท่ี 3 …………. …………. ……… ……… ………………. สูบที่ 4 …………. …………. ……… ……… ………………. ใหบ้ นั ทึกผลการตรวจสอบกาลงั อดั แบบเปี ยก ของสูบท่ีมีความดนั ต่าผดิ ปกติลงในช่อง “ ค่าท่ีวดั ไดแ้ บบเปี ยก” ลงในแบบฟอร์มระบุหน่วยวดั ใหช้ ดั เจน 43. ข้อควรระวงั ในกำรบนั ทกึ ผลกำรวดั กำลงั อดั แบบเปี ยกลงในตำรำงใบงำน เชด็ มือใหส้ ะอาดก่อนท่ีจะบนั ทึกผลการตรวจสอบลงในใบงานเพราะถา้ ใบงานเป้ื อนสกปรก จะทาใหข้ อ้ มูลที่บนั ทึกเสียหาย 44. วธิ ีประเมนิ ผลและวนิ ิจฉัยผลกำรตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบกบั คู่มือกำรซ่อม นาค่ากาลงั อดั ในกระบอกสูบท่ีตารางใบงาน มาเปรียบเทียบกบั ค่ากาลงั อดั มาตรฐานท่ีระบุไวใ้ น คู่มือการซ่อมแลว้ ประเมินผลและวนิ ิจฉยั ลงที่ตาราง ใบงานวา่ ใชไ้ ด.้ กระบอกสูบหรือแหวนสึกหรอ,ลิ้นรั่ว หรืออาจมีการรั่วท่ีปะเกน็ เพอ่ื ตดั สินใจในการซ่อม และบริการ
45. ข้อควรระวงั ในกำรประเมนิ ผลและวนิ ิจฉัยกำลงั อดั ในกระบอกสูบเครื่องยนต์ ค่ากาลงั อดั ตอ้ งเป็นตามที่ระบุในคู่มือซ่อมของบริษทั ผผู้ ลิตเท่าน้นั 46. วธิ ีถอดข้วั สำยไฟออกจำกแบตเตอรี่ 46.1 ใชป้ ระแจรวมคลายแป้นเกลียวยดึ ข้วั ลบ แบตเตอรี่ถอดข้วั ลบแบตเตอร่ีออก 46.2 ใชป้ ระแจรวมคลายแป้นเกลียวยดึ ข้วั บวก แบตเตอรี่ ถอดข้วั บวกแบตเตอร่ีออก 47. ข้อควรระวงั ในกำรถอดข้วั สำยไฟแบตเตอร่ีออก ไม่ใชค้ อ้ นหรือประแจเคาะหรือตีที่ข้วั ของแบตเตอร่ีเพอ่ื เอาข้วั สายไฟออกเพราะจะทาให้ เสียหาย 48. วธิ ที ำควำมสะอำดเคร่ืองมืออปุ กรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ 48.1 ใชผ้ า้ สะอาดเชด็ ท่ีตวั เรือนเกจวดั การอดั และที่ หนา้ ปัดใหส้ ะอาด 48.2 ใชผ้ า้ เชด็ ดา้ มขนั เลื่อนใหส้ ะอาด
48.3 ใชผ้ า้ เชด็ ประแจกระบอกยาวใหส้ ะอาด 48.4 ใชผ้ า้ เช็ดคีมปากขยายใหส้ ะอาดและหยอด น้ามนั หล่อล่ืนชนิดใสท่ีจุดหมุน 48.5 ใชผ้ า้ เช็ดดา้ มต่อใหส้ ะอาด 48.6 ใชผ้ า้ เชด็ ประแจรวมใหส้ ะอาด 48.7 ใชผ้ า้ เช็ดกาน้ามนั หล่อล่ืนใหส้ ะอาด
48.8 ทาความสะอาดพ้ืนท่ีปฏิบตั ิงาน เชด็ คราบ น้ามนั บนพ้ืน และจดั โต๊ะปฏิบตั ิงานใหเ้ ป็น ระเบียบ 49. ข้อควรระวงั ในกำรทำควำมสะอำดเคร่ืองมืออปุ กรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบ 49.1 ขณะทาความสะอาดเกจวดั การอดั ใหร้ ะวงั ตกลงพ้ืนจะชารุดเสียหาย 49.2 นกั เรียนไม่ควรวง่ิ เล่นกนั ในขณะปฏิบตั ิงานทาความสะอาดอาจหกลม้ ไดร้ ับบาดเจบ็ 50. วธิ เี กบ็ เคร่ืองมือ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบส่งคืนเจ้ำหน้ำที่ 50.1 นาเกจวดั การอดั เกบ็ ไวใ้ นกล่องที่แขง็ แรง ไม่ปะปนกบั เคร่ืองมืออ่ืน 50.2 นาเคร่ืองมือวางในกระบะส่งคืนเจา้ หนา้ ท่ีผู้ ควบคุมเมื่อตรวจสอบแลว้ นาใบเบิกคืน 51. ข้อควรระวงั ในกำรเกบ็ เคร่ืองมืออปุ กรณ์ทใี่ ช้ตรวจสอบกำลงั อดั ในกระบอกสูบของ เคร่ื องยนต์ ส่ งคืนเจ้ำหน้ ำที่ 51.1 ไม่นาเครื่องมือหรืออุปกรณ์อ่ืนๆ วางทบั ลงบนเกจวดั การอดั จะชารุดเสียหาย 51.2 ไม่วางกาน้ามนั หล่อล่ืนเอียงนอนจะทาใหน้ ้ามนั ไหลออกมาทาความสกปรก 51.3 เครื่องมืออุปกรณ์ท่ีชารุดเสียหายนกั เรียนตอ้ งแจง้ ใหค้ รูผสู้ อนทราบทนั ที
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: