Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด สสว 6 ปี 63

สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด สสว 6 ปี 63

Published by Takkey Chaiyasing, 2020-10-12 00:37:42

Description: สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด สสว 6 ปี 63

Search

Read the Text Version

รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จงั หวัดในเขตพื้นที่รบั ผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวชิ าการ 6 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ์,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

คำนำ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 6 (สสว.6) ทำหน้าที่เชื่อมโยงประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค ในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบ การแปลงนโยบาย ข้อมลู สารสนเทศ องค์ความรู้ และแผนต่างๆ ของกระทรวงฯ ให้เกิด การบูรณาการการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ในส่วนภูมิภาค ให้เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ ทั้งน้ี เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 จึงจัดทำรายงาน สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 7 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากแหล่งข้อมูล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการปกครอง สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในพื้นที่กลุ่มจังหวัด การคาดการณ์แนวโน้ม สถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบพร้อมข้อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางสังคมในพื้นที่ กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ซึ่งรายงานประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 บทนำ ส่วนที่ 2 ข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มจังหวัด ส่วนที่ 3 ข้อมูลสถานการณ์ทางสังคม กลุ่มจังหวัด เชิงกลุ่มเป้าหมายและเชิงประเด็น ส่วนที่ 4 การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคม กลุม่ จังหวัด และส่วนที่ 5 บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ขอขอบคุณข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายในการนำข้อมูล ไปใช้ในการวางแผนงานปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาทางสงั คมใหส้ อดคล้องกับบรบิ ทพ้ืนท่ีต่อไป สำนักงานสง่ เสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6 สงิ หาคม 2563 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นทร่ี ับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6 ก (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

สารบญั หน้า ก คำนำ ข สารบัญ ค สารบัญตาราง จ สารบญั แผนภาพ ฉ บทสรุปผู้บรหิ าร 1 สว่ นท่ี 1 บทนำ 1 1 1.1 หลักการและเหตุผล 2 1.2 วัตถปุ ระสงค์ 4 สว่ นที่ 2 ขอ้ มูลพืน้ ฐานของกลมุ่ จงั หวดั 6 2.1 ทตี่ ั้งและอาณาเขต 7 2.2 ข้อมูลการปกครอง 8 2.3 ข้อมูลประชากร 9 2.4 ด้านการศึกษา 13 2.5 ด้านศาสนา และวฒั นธรรม 14 2.6 ด้านสาธารณสขุ 18 2.7 ดา้ นเศรษฐกิจและรายได้ 19 2.8 ข้อมลู ภาคเี ครือขา่ ย 19 ส่วนที่ 3 ขอ้ มลู สถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวดั 3.1 สถานการณ์ทางสงั คมเชงิ กล่มุ เปา้ หมาย 19 3.1.1 กลมุ่ เดก็ 20 3.1.2 กลุ่มเยาวชน 21 3.1.3 กล่มุ สตรี 22 3.1.4 กลมุ่ ครอบครัว 23 3.1.5 กลุ่มผสู้ งู อายุ 3.1.6 กลมุ่ ผู้พกิ าร 24 3.1.7 กล่มุ ผู้ด้อยโอกาส 3.2 สถานการณ์ทางสังคมเชงิ ประเดน็ ความรนุ แรงในครอบครัว 25 3.3 สถานการณ์ทางสังคมที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนที่ 4 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจงั หวดั 26 ส่วนท่ี 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ ภาคผนวก 30 บรรณานุกรม 37 45 47 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพ้นื ที่รบั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 6 ข (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

สารบญั ตาราง ตารางที่ หน้า 1 แสดงพนื้ ที่ 7 จงั หวดั ในเขตพ้ืนทรี่ ับผดิ ชอบของ สสว.6 3 2 แสดงจำนวนเขตการปกครองรายจังหวดั ในเขตพนื้ ท่ีรับผดิ ชอบของ สสว.6 6 3 แสดงจำนวนประชากรแยกตามชว่ งอายุ จำแนกตามเพศรายจงั หวัด 7 4 แสดงจำนวนสถานศึกษาในระบบ นอกระบบ จำแนกรายสังกัด รายจังหวดั ปี 2562 8 5 แสดงจำนวนหน่วยบรกิ ารสาธารณสุข ภาครฐั ภาคเอกชน จำแนกรายจังหวดั ในเขต 13 พื้นท่ีรับผิดชอบของ สสว.6 6 แสดงสดั ส่วนจำนวนประชากรตอ่ แพทยร์ ายจงั หวัดในเขตพื้นทีร่ ับผิดชอบของ สสว.6 14 7 แสดงอัตราการขยายตัวของผลิตภณั ฑม์ วลรวมจงั หวดั ในเขตพ้ืนที่รบั ผิดชอบของ สสว.6 14 8 แสดงผลติ ภณั ฑจ์ ังหวดั ตอ่ หัว (GPP per capita) ปี 2561 ในเขตพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบของ 15 สสว.6 9 แสดงรายไดโ้ ดยเฉลย่ี ต่อเดือนต่อครวั เรอื นรายจังหวดั พ.ศ.2552-2560 15 10 แสดงหนี้สนิ เฉลย่ี ต่อครวั เรือนรายจงั หวดั จำแนกตามวัตถปุ ระสงค์ของการก้ยู ืม พ.ศ. 15 2552-2560 11 แสดงจำนวนองค์กรภาคีเครือข่ายในเขตพนื้ ทีร่ ับผดิ ชอบของ สสว.6 18 12 แสดงจำนวนภาคีเครือขา่ ยอาสาสมัครในเขตพ้ืนท่รี ับผิดชอบของ สสว.6 18 13 แสดงจำนวนเดก็ จำแนกตามจังหวัดรายปี พ.ศ.2553-2562 19 14 แสดงจำนวนเยาวชนจำแนกตามจังหวัดรายปี พ.ศ.2553-2562 20 15 แสดงจำนวนสตรีจำแนกตามจังหวดั รายปี พ.ศ.2553-2562 21 16 แสดงจำนวนการจดทะเบียนสมรสจำแนกตามจงั หวดั รายปี พ.ศ.2553-2562 22 17 แสดงจำนวนผู้สงู อายจุ ำแนกตามจงั หวัดรายปี พ.ศ. 2553-2562 23 18 แสดงจำนวนคนพิการทีม่ บี ัตรประจำตวั คนพิการ จำแนกตามจังหวดั รายปี 24 พ.ศ. 2553-2562 19 แสดงจำนวนคนยากจน จำแนกตามรายจงั หวัดรายปี 25 พ.ศ. 2553-2562 20 แสดงเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครวั ปี 2563 ของจงั หวัดในเขตรบั ผดิ ชอบของ 27 สสว.6 21 แสดงจำนวนเหตกุ ารณ์ความรุนแรงในครอบครัวจำแนกตามประเภทเหตุการณค์ วาม 28 รุนแรง ปี 2563 ในเขตพน้ื ทีร่ ับผดิ ชอบของ สสว.6 22 แสดงจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวจำแนกตามสาเหตุ/ปจั จยั ในเขตพืน้ ที่ 29 รับผดิ ชอบของ สสว.6 23 ผลกระทบจากสถานการณโ์ ควดิ 33 24 อาชีพของผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณโ์ ควดิ -19 33 25 การตอ้ งการความชว่ ยเหลือในสถานการณโ์ ควิด -19 34 26 การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์จำนวนเด็ก จำแนกตามจังหวัดรายปี 37 27 การคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณ์จำนวนเยาวชนจำแนกตามจังหวดั รายปี 38 28 การคาดการณ์แนวโนม้ สถานการณ์จำนวนสตรีจำแนกตามจงั หวัดรายปี 39 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกล่มุ จงั หวดั ในเขตพนื้ ท่รี ับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวิชาการ 6 ค (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

สารบญั ตาราง (ตอ่ ) ตารางท่ี การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนการจดทะเบยี นสมรส จำแนกตามจงั หวดั หน้า 29 รายปี 40 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณ์จำนวนผสู้ งู อายุ จำแนกตามจังหวดั รายปี 30 การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์จำนวนคนพกิ ารทีม่ บี ตั รประจำตวั คนพิการ 41 31 จำแนกตามจังหวดั รายปี 43 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนคนยากจน จำแนกตามจงั หวดั รายปี 32 44 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกล่มุ จังหวัดในเขตพนื้ ท่รี ับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6 ง (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,์ุ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

สารบัญแผนภาพ แผนภาพที่ แสดงความหนาแนน่ ของประชากร 7 จังหวดั ในเขตพื้นทรี่ ับผิดของของ สสว.6 หน้า 1 แสดงพนื้ ที่ 7 จังหวดั ในเขตพ้ืนทีร่ ับผิดชอบของ สสว.6 3 2 แสดงจำนวนประชากรรวมของ 7 จังหวดั ในเขตพน้ื ทรี่ ับผดิ ชอบของ สสว.6 4 3 แสดงจำนวนประชากรตามช่วงอายุ 7 จังหวดั ในเขตพน้ื ท่รี บั ผดิ ขอบของ สสว.6 7 4 แสดงแนวโน้มจำนวนเด็ก จำแนกตามรายจังหวดั พ.ศ.2553-2562 8 5 แสดงแนวโน้มจำนวนเยาวชน จำแนกตามรายจังหวดั พ.ศ.2553-2562 20 6 แสดงแนวโนม้ จำนวนสตรี จำแนกตามรายจังหวดั พ.ศ.2553-2562 21 7 แสดงแนวโน้มจำนวนการจดทะเบียนสมรส จำแนกตามรายจังหวัด 22 8 พ.ศ.2553 -2562 23 แสดงแนวโนม้ จำนวนผู้สูงอายุ จำแนกตามรายจังหวัด พ.ศ.2553 -2562 9 แสดงแนวโน้มจำนวนคนพิการท่มี บี ตั รประจำตวั คนพิการ จำแนกตามรายจังหวัด 24 10 พ.ศ.2553 -2562 25 แสดงแนวโนม้ จำนวนยากจนจำแนกตามรายจังหวัด พ.ศ.2553 -2562 11 แสดงเหตกุ ารณ์ความรนุ แรงในครอบครัวปี 2563 ในเขตพ้ืนท่รี บั ผดิ ชอบของ สสว.6 26 12 แสดงจำนวนเหตกุ ารณ์ความรุนแรงจำแนกตามประเภทเหตุการณ์ความรุนแรงใน 27 13 เขตพ้นื ทีร่ บั ผิดชอบของ สสว.6 28 แสดงจำนวนสาเหต/ุ ปจั จัยความรนุ แรงในเขตพ้นื ท่ีรับผดิ ชอบของ สสว.6 14 แสดงสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โควดิ -19 29 15 ประมาณการแนวโนม้ สถานการณ์จำนวนเด็ก จำแนกตามจังหวัดและปี 31 16 พ.ศ 2563-2565 37 ประมาณการแนวโน้มสถานการณ์จำนวนเยาวชน จำแนกตามจงั หวดั และปี 17 พ.ศ.2563 - 2565 38 ประมาณการแนวโน้มสถานการณ์จำนวนสตรี จำแนกตามจังหวัดและปี 18 พ.ศ.2563 - 2565 40 ประมาณการแนวโนม้ สถานการณ์จำนวนการจดทะเบยี นสมรส จำแนกตามจงั หวัด 19 และปี พ.ศ.2563 - 2565 41 ประมาณการแนวโนม้ สถานการณ์จำนวนผ้สู งู อายุ จำแนกตามจงั หวดั และปี 20 พ.ศ.2563 - 2565 42 ประมาณการแนวโน้มสถานการณจ์ ำนวนคนพิการทมี่ ีบตั รประจำตัวคนพิการ 21 จำแนกตามจังหวดั และปี พ.ศ.2563 - 2565 43 ประมาณการแนวโนม้ สถานการณ์จำนวนคนยากจนจำแนกตามจงั หวัดและปี พ.ศ. 22 2562 - 2564 44 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวดั ในเขตพื้นทีร่ ับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6 จ (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ์,ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

บทสรปุ ผูบ้ ริหาร รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 6 จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมท่ีสำคัญ โดยการรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ จากแหล่งข้อมลู หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง อาทิ กรมการปกครอง สำนักงานสถิตแิ ห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในพื้นที่กลุ่มจั งหวัด การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่กลุ่มจังหวัด โดยการใช้ข้อมูลสถิติ ที่เกิดขึ้น ย้อนหลัง 10 ปี ระหว่างปี 2553-2562 ซึ่งรายงานฉบับนี้ ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 บทนำ ส่วนท่ี 2 ขอ้ มูลพนื้ ฐานกลุ่มจังหวัด สว่ นท่ี 3 ข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด ท้งั เชิงกลุ่มเป้าหมายและ เชิงประเด็น ส่วนที่ 4 การคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด ส่วนที่ 5 บทสรุปและ ขอ้ เสนอแนะ โดยมเี น้ือหาสรุปไดด้ งั นี้ 1. ขอ้ มูลพื้นฐานของกลมุ่ จงั หวัด กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดสกลนคร จังหวัดมุกดาหาร จังหวัด กาฬสนิ ธุ์ จงั หวดั อำนาจเจริญ จงั หวัดอบุ ลราชธานี มพี ้ืนที่รวมทั้งส้ิน 48,267 ต า ร า ง ก ิ โ ล เ ม ต ร ห รื อ 27,475,026 ไร่ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 95 อำเภอ 737 ตำบล 8,686 หมู่บ้าน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น จำนวน 834 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด 7 แห่ง เทศบาลนคร 2 แห่ง เทศบาลเมือง 7 แห่ง เทศบาลตำบล 279 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 539 แห่ง จังหวัดที่มีพื้นที่ทางการปกครอง มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี มีจำนวนทั้งสิ้น 25 อำเภอ 737 ตำบล 8,727 หมู่บ้าน และจังหวัดที่มี พื้นที่ทางการปกครองน้อยที่สุด ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร มีจำนวน 7 อำเภอ 53 ตำบล 526 หมู่บ้าน ประชากรในกลุ่มจังหวัดมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 7,272,405 คน แบ่งเป็นเพศชาย 4,323,549 คน คิดเป็นร้อยละ 59 เป็นเพศหญิง 2,948,856 คน คิดเป็นร้อยละ 41 ของประชากรในกลุ่มจังหวัด มีจำนวนประชากรช่วงอายุ 26-59 ปี มากที่สุด จำนวน 3,075,393 คน คิดเป็นร้อยละ 42 รองลงมาคือช่วงอายุ 0-17 ปี จำนวน 2,640,607 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 36 ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 888,389 คน คิดเป็นร้อยละ 12 และช่วงอายุ 18-25 ปี จำนวน 668,016 คน คิดเป็นร้อยละ 9.1 ของประชากรในกลุ่มจังหวัด ความหนาแน่นของประชากร 151:1 คน/ตร.กม. ความหนาแน่นของประชากร พบว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ มีความหนาแน่นของประชากร มากที่สุด 341 คน/ตร.กม. รองลงมา คือ จังหวัดมกุ ดาหาร 277 คน/ตร.กม. 2. ข้อมลู สถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวดั เชิงกลุ่มเปา้ หมายและเชิงประเด็น ❖ สถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็ก กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ และกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ในการจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม กลุ่มจังหวัด ประจำปี 2563 ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลย้อนหลงั เป็นระยะเวลา 10 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2553 – 2562 จากเวบ็ ไซต์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (www.dopa.go.th) และ สำนักงานสถติ ิแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (www.nso.go.th) โดยมีผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์ทางสังคม ของแตล่ ะกลุม่ เป้าหมาย ดังต่อไปน้ี ➢ ประชากรเด็ก หรือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ของกลุ่มจังหวัดในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 1,247,159 คน และจากข้อมูลประชากรเด็กโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มวา่ จำนวนประชากรเด็กลดลงอย่างต่อเนือ่ ง รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวัดในเขตพ้ืนท่รี บั ผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6 ฉ (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ์,อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

➢ ประชากรที่เป็นเยาวชน หรือบุคคลที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ถึง 25 ปีบริบูรณ์ ของกลุ่มจงั หวัดในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 664,612 คน และจากข้อมลู ประชากรเยาวชนโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เหน็ แนวโน้มวา่ จำนวนประชากรเยาวชนลดลงอย่างตอ่ เนอื่ ง ➢ ประชากรที่เป็นสตรี (เพศหญิงทุกช่วงวัย) ของกลุ่มจังหวัวด ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 2,952,026 คน และจากข้อมูลประชากรสตรีโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็น แนวโนม้ ว่าจำนวนประชากรสตรเี พิ่มขึ้น ➢ สถานการณ์ครอบครัวของกลุ่มจังหวัด ในปี พ.ศ. 2562 มีการจดทะเบียนสมรส 22,985 คู่ และจากข้อมูลระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่ามีการจดทะเบียนสมรส ทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงในบางปี ดังตารางที่ 16 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทยี บรายจังหวดั 3 ปี (พ.ศ.2560-2562) พบว่า จังหวัดมุกดาหาร มีการจดทะเบียนสมรสที่ลดลง สำหรับอีก 6 จังหวัด (บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อบุ ลราชธานี) มที ศิ ทางการจดทะเบยี นสมรสเพ่ิมขน้ึ ➢ ประชากรสูงอายุของกลุ่มจังหวัดในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 897,150 คน และ จากข้อมูลประชากรผู้สูงอายุโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากร ผู้สูงอายุเพม่ิ ข้นึ อย่างต่อเน่อื ง ➢ ประชากรคนพกิ ารของกลุ่มจงั หวัด ในปี พ.ศ. 2562 มจี ำนวนรวม 203,752 คน และ จากข้อมูลประชากรคนพิการโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากร คนพกิ ารเพม่ิ ขึ้นและเม่ือพจิ ารณาเปรียบเทียบรายจงั หวัด ปี 2562 พบว่า จงั หวดั มกุ ดหาร มปี ระชากรคนพิการ ต่ำที่สุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 11,247 คน คิดเป็นร้อยละ 5.51 ของประชากรคนพิการในกลุ่มจังหวัด และ จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีประชากรคนพิการสงู สุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 68,116 คน คิดเป็นร้อยละ 33.43 ของประชากรคนพกิ ารในกล่มุ จังหวัด ➢ จำนวนคนยากจนที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน วิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2561 มีจำนวนรวม 746,000 คน และจากข้อมูลจำนวนคนยากจนโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มวา่ จำนวนคนยากจนลดลง และเมื่อพิจารณาเปรยี บเทียบรายจงั หวดั ปี 2562 พบว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ มีจำนวนคนยากจนสูงที่สุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 251,500 พันคน และ จงั หวัดบึงกาฬเปน็ จังหวัดท่ีมจี ำนวนคนยากจนต่ำทส่ี ดุ ในกลมุ่ จงั หวดั จำนวน 41,400 คน ❖ สถานการณ์เชงิ ประเด็นความรนุ แรงในครอบครวั จากการรวบรวมข้อมูลจาก กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว www.violence.in.th ในปี พ.ศ. 2563 พบว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวในกลุ่มจังหวัด จำนวน 54 เหตุการณ์ ผู้ชาย เป็นผู้กระทำมากที่สุด จำนวน 45 ราย ผู้หญิงเป็นผู้กระทำจำนวน 9 ราย สำหรับจำนวนผู้ถูกกระทำมีทั้งส้ิน 53 ราย ผู้หญิงเป็นผู้ถูกกระทำมากที่สุด จำนวน 41 ราย ผู้ชายถูกกระทำจำนวน 12 ราย เหตุการณ์ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่ การทำร้ายร่างกาย รองลงมาคือ ดุด่า/ดูถูก และ หยาบคาย/ตะคอก/ ประจาน/ขู่/บังคับ สาเหตุที่สำคัญอันดับ 1 คือ เมาสุรา/ยาเสพติด จำนวน 38 ราย คิดเป็นร้อยละ 51 รองลงมาคือ สาเหตุจากสุขภาพกาย/จิต จำนวน 13 ราย คิดเป็นร้อยละ 18 เศรษฐกจิ /ตกงาน จำนวน 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 นอกใจ/หึงหวง จำนวน 8 ราย คดิ เปน็ ร้อยละ 11 และสาเหตุอ่ืน ๆ จำนวน 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ตามลำดบั รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพน้ื ท่ีรบั ผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 6 ช (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,์ุ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จงั หวัดในเขตพื้นที่รบั ผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวชิ าการ 6 ซ (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ์,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

❖ สถานการณท์ างสงั คมทีเ่ กดิ จากสถานการณก์ ารแพร่เชือ้ ไวรัสโควิด-19 การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มต้นที่ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ต่อมาได้พบผู้ป่วยยืนยันในหลายประเทศทั่วโลก วันที่ 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลกประกาศ โรค COVID-19 ระบาดใหญ่ (Pandemic) มีจำนวนผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างรวดเรว็ อัตราการเสียชีวิตจากโรคประมาณร้อยละ 4.6 กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ และผู้ที่มโี รค ประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 21019 กระทรวงมหาดไทย (สบค.มท.) ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2563 พบว่า มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก จำนวน 23,801,729คน เสียชีวิต 816,552 คน รักษาหาย 16,349,839 คน และในประเทศไทย พบว่ามีผู้ติดเชื้อ จำนวน 3,402 คน เสียชีวิต 58 คน รักษาหาย 3,229 คน อายุของผู้ติดเชื้ออายุน้อยสุด 1 เดือน อายุมากสุด 97 ปี อายเุ ฉลีย่ 37 ปี และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ของ 7 จังหวัดในเขต พื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 พบว่า มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 27 ราย รักษาหาย 27 ราย ไมม่ ผี ู้เสียชีวติ รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุม่ จงั หวัดในเขตพน้ื ท่รี บั ผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6 ฌ (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ์,อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

5.1 ข้อเสนอแนะ 1) จากสถานการณ์ทีแ่ นวโน้มเดก็ และเยาวชนมีจำนวนลดลงอย่างต่อเน่ือง จึงควรมีกิจกรรมเสริมสร้าง ศกั ยภาพใหแ้ กเ่ ดก็ และเยาวชน โดยครอบครวั ชมุ ชนมีส่วนร่วม 2) จากสถานการณ์แนวโน้มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรจัดระบบการส่งเสริมและสนับสนุน ความเขม้ แขง็ ของผู้สูงอายุ ภูมิปญั ญาผู้สงู อายุ ซ่งึ เป็นกลไกในการพบปะ ชว่ ยเหลือเกอ้ื กูลกันของผู้สูงอายุและ คนในชุมชน 3) การลดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ควรส่งเสริมให้ชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของการอยู่ รว่ มกนั เป็นครอบครวั ที่สามารถพ่ึงพาอาศยั ดูแลซงึ่ กนั และกนั ได้ 4) ควรจัดทำการสำรวจข้อมลู ผปู้ ระสบปญั หาทางสังคมในระดบั พื้นที่ เพื่อการวางแผนการดูแลร่วมกับ กำนนั ผูใ้ หญบ่ า้ น ผ้นู ำชุมชน และอาสาสมคั รตา่ ง ๆ ในชมุ ชน 5) เนื่องจากสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รายได้ วิถีการดำเนิน ชีวิต จงึ ควรให้ความร้ใู นการวางแผนด้านการเงินและการออม การจดั การความเครียดในภาวะวิกฤต สำหรบั ผู้ที่ ได้รบั ผลกระทบ รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจังหวดั ในเขตพ้นื ทรี่ ับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6 ญ (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

สว่ นท่ี 1 บทนำ 1.1 หลักการและเหตผุ ล ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการบูรณาการ โดยกำหนดว่า “ในกรณีที่ภารกิ จใดมีความเกี่ยวข้องกับ หลายส่วนราชการหรือเป็นภารกิจที่ใกล้เคียงหรือต่อเนื่องกัน ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนั้นกำหนดแนวทาง ปฏบิ ตั ิราชการ เพ่ือให้เกิดการบริหารราชการแบบบูรณาการรว่ มกัน โดยมุ่งใหเ้ กิดผลสมั ฤทธติ์ ่อภารกิจของรัฐ” (มาตรา 10 วรรค 1) ในทางปฏิบัติแม้ว่าจะมีความพยายามในการบริหารแบบบูรณาการในภารกิจ ที่มีความสำคัญหลายเรื่อง แต่ยังเกิดปัญหาความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติในหลายๆภารกิจ เป็นผลให้เป็นการ ส้นิ เปลอื งทรพั ยากรเป็นอย่างมาก การปฏิรูปงบประมาณประเทศจาก “ระบบงานงบประมาณเชงิ ยุทธศาสตร์” สู่ “ระบบงบประมาณเชิงพื้นที่”(Arae-Based Budgeting : ABB) ซึ่งเป็นแนวคิดของการทำงบประมาณแบบ มีส่วนร่วม (Participatory Budgeting) โดยมีการฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ มีกระบวนการทำแผนพัฒนา จากล่างขึ้นบนตั้งแต่แผนชุมชนจนถึงแผนจังหวัด และให้หน่วยงานทั้งภูมิภาคและท้องถิ่นร่วมกันกลั่นกรอง ทำให้งบประมาณสามารถใช้ให้ตรงกับปัญหาความต้องการของคนในพื้นที่ได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นทั้งกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลการใช้งบประมาณแผ่นดิน การมีส่วนร่วมของประชาชน ในการบริหารจัดการตนเอง การสร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาล การควบคุมพฤติกรรมนักการเมือง โดยประชาชนในพืน้ ทแี่ ละการบูรณาการการทำงานของหน่วย Function และหนว่ ย Area ที่อยใู่ นพ้นื ที่ร่วมกัน ซงึ่ ตามแผนปฏริ ปู กำหนดให้เร่มิ ต้ังแตป่ ีงบประมาณ 2548 สำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 1-11 (สสว.) เปน็ สว่ นราชการส่วนกลางทต่ี ง้ั อย่ใู นส่วนภูมิภาค โดยมีอำนาจหน้าที่ คือ ข้อ 1 พัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สอดคล้องกับพื้นที่และเป้าหมาย ข้อ 2 ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการองค์ความรู้ข้อมูลสารสนเทศ ให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานบริการกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้บริการในความรับ ผิดชอบของกระทรวง รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชนและประชาชน ข้อ 4 ศึกษา วิเคราะห์สถานการณ์และสภาพแวดล้อมเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคมและการจัดยุทธศาสตร์ในพื้นที่กลุ่ มจังหวัด ข้อ 5 สนับสนุน การนิเทศงาน ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการตามนโยบายและภารกิจของกระทรวงในพื้นท่ี กลุ่มจังหวัด มีหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นอกจากนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 1-11 ทำหน้าที่เช่ือมโยงประสานนโยบายระหวา่ งหน่วยงานสว่ นกลางกับสว่ นภูมภิ าคในการ แปลงนโยบาย ข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้ และแผนต่างๆ ของกระทรวงฯ ให้เกิดการบูรณาการ การปฏบิ ตั งิ านของหน่วยงานสังกัดกระทรวงฯ ในส่วนภูมิภาค ให้เหมาะสมกับบริบทพ้นื ที่ และมกี ารปฏิบัติงาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องขับเคลื่อนให้เกิดการบูรณาการโครงการ ด้านสังคมเชิงพื้นที่ในระดับพื้นที่จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ทั้งในส่วนของแผนปฏิบัติงานและแผน คำของบประมาณเชิงพื้นท่ี เพื่อตอบสนองความต้องการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดในการบูรณาการ การดำเนินงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการสังคมที่สอดคล้องกับพื้นที่และยุทธศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมและคาดการณ์แนวโน้ม สถานการณ์ทางสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดตามการรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ทค่ี รอบคลุม 7 จังหวัด ไดแ้ ก่ บงึ กาฬ นครพนม มกุ ดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ อบุ ลราชธานี รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลุ่มจังหวดั ในเขตพนื้ ทรี่ ับผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6 1 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ์,ุ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และจัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ กลมุ่ จงั หวัดในเขตรับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6 1.2.2 เพื่อคาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบในพื้นที่กลุ่มจังหวัดในเขต รบั ผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 1.2.3 เพื่อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6 1.3 วิธกี ารดำเนนิ งาน กจิ กรรมการจัดทำรายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวดั มขี ้นั ตอน ดงั น้ี 1.3.1 ประชุมกำหนดกรอบการจดั ทำรายงานสถานการณ์ทางสังคมประจำปี 2563 ผ่านระบบประชุม ทางไกลออนไลน์ Web Conference 1.3.2 รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ ง 1.3.3 จัดทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ให้หน่วยงานด้านสังคม นำไปใช้ประโยชน์ 1.3.4 การประชมุ เชงิ ปฏิบัตกิ ารถอดบทเรยี นการจดั ทำรายงานสถานการณ์ทางสังคม ประจำปี 2563 ผา่ นระบบประชุมทางไกลออนไลน์ Web Conference 1.4 ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รับ 1.4.1 มีข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมระดับพื้นที่ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถใช้ประโยชน์ ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หาสังคม 1.4.2 หน่วยงานระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด สามารถนำข้อมูลในพื้นที่ไปใช้ในการกำหนดนโยบาย แผนงาน โครงการ ในการคุ้มครอง ป้องกัน และแก้ไขปัญหาทางสังคมในระดับพื้นท่ี และหน่วยงานระดับ กระทรวง สามารถนำข้อมูลในภาพรวมไปใช้ประโยชน์วิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาทางสังคมที่สำคัญและ กำหนดนโยบาย แผนงานในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสังคมภาพรวมตอ่ ไป รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพนื้ ทีร่ ับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวชิ าการ 6 2 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ์,ุ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

สว่ นที่ 2 ข้อมูลพ้ืนฐานของกลุ่มจงั หวัด 2.1 ทีต่ ้ังและอาณาเขต ตารางที่ 1 แสดงพื้นที่และความหนาแนน่ ประชากรของจังหวดั ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว. 6 จงั หวัด พ้นื ที่ จำนวนประชากร ความหนาแน่นของประชากร ตาราง ไร่ (คน) (คน/ตร.กม.) กิโลเมตร บึงกาฬ 4,306 2,690,62 423,031 98:1 นครพนม 4,340 2,712,394 719,135 166:1 สกลนคร 9,606 6,003,602 349,474 36:1 มุกดาหาร 4,162 2,601,040 1,153,390 277:1 กาฬสินธ์ุ 6,947 4,341,716 2,370,792 341:1 อำนาจเจริญ 3,161 1,975,748 378,438 120:1 อบุ ลราชธานี 15,745 9,840,526 1,878,145 119:1 รวม 48,267 27,475,026 7,272,405 151:1 ที่มา: ระบบสถติ ิทางทะเบียน กรมการปกครอง ณ ธันวาคม 2562 แผนภาพท่ี 1 แสดงความหนาแน่นของประชากร 7 จังหวดั ในเขตพ้ืนท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.6 จากตารางที่ 1 และแผนภาพที่ 1 พบว่า 7 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 6 มีพื้นที่ทั้งหมด 48,267 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 27,475,026 ไร่ และมีประชากร ทั้งหมด 7,272,405 คน โดยจังหวดั ทีม่ ีพื้นที่มากเป็นอันดับ 1 คือ จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ 15,745 ตาราง กิโลเมตร หรือ 9,840,526 ไร่ รองลงมา คือ จังหวัดสกลนคร มีพื้นที่ 9,606 ตารางกิโลเมตร 6,003,602 ไร่ และจังหวัดที่มีพื้นที่น้อยที่สุด คือ จังหวัดอำนาจเจริญ มีพื้นที่ 3,161 ตารางกิโลเมตร 1,975,748 ไร่ และ ความหนาแน่นของประชากร พบว่า จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ มคี วามหนาแนน่ ของประชากรมากทสี่ ุด 341 คน/ตร.กม. รองลงมา คือ จังหวัดมุกดาหาร 277 คน/ตร.กม. รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุม่ จงั หวดั ในเขตพนื้ ท่ีรับผิดชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 6 3 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ์,อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

❖ ทตี่ ง้ั แผนภาพท่ี 2 แสดงพน้ื ที่ 7 จงั หวัดในเขตพ้นื ที่รับผิดชอบของ สสว. 6 จากแผนภาพที่ 2 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ประกอบด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี โดยมีทตี่ ง้ั และอาณาเขต ดังน้ี จังหวัดบึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร และกาฬสินธ์ุ ตั้งอยู่ในกลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ตอนบน โดยจังหวดั บงึ กาฬ มที ตี่ ัง้ อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 765 กิโลเมตร จังหวัด นครพนม มีที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 740 กิโลเมตร เป็นจังหวัดชายแดนของประเทศไทย มีลักษณะ เปน็ แนวยาวตามฝ่ังแม่น้ำโขงประมาณ 153 กโิ ลเมตร ตง้ั อยรู่ ะหวา่ งละติจดู ท่ี 16-18 องศาเหนอื และลองติจูด ที่ 104-105 องศาตะวันออก จังหวัดมุกดาหาร เป็นจังหวัดชายแดนมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นพรมแดน ตั้งอยู่เส้นรุ้งที่ 16-17 องศาเหนือ และ เส้นแวงที่ 104 -105 องศาตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 642 กิโลเมตร จังหวัดกาฬสินธ์ุ ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 16 - 17 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 103 -104 องศาตะวันออก อยู่ห่างจาก กรงุ เทพมหานคร ประมาณ 520 กโิ ลเมตร จังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง โดยจังหวัดอำนาจเจริญ ตั้งอยู่ระหวา่ งเส้นรุ้งที่ 15 - 16 องศาเหนือ และเส้นแวงที่ 104 - 105 องศา ตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 568 กิโลเมตร และจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ที่เส้นแวง 105 องศาตะวนั ออก โดยเปน็ จงั หวัดแรกท่ไี ดเ้ ห็นดวงอาทิตยก์ ่อนพื้นที่อ่ืน ๆ ทั่วประเทศ ❖ อาณาเขตของกล่มุ จังหวัดในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบของ สสว.6 มดี ังน้ี ทศิ เหนือ ตดิ ตอ่ แขวงบอลิคาไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมี แมน่ ำ้ โขงเป็น เส้นกัน้ พรมแดน ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กบั แขวงคำม่วน และแขวงบลคิ ำไช แขวงสะหวนั นะเขต สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว สปป.ลาว โดยมแี ม่นำ้ โขงเปน็ เส้นกั้นพรมแดน ทิศตะวันตก ตดิ ตอ่ จังหวดั ศรสี ะเกษ จังหวัดยโสธร จงั หวดั สารคาม จังหวดั ขอนแกน่ ทศิ ใต้ ตดิ ต่อ จังหวัดศรีสะเกษ และราชอาณาจักรกมั พชู า ❖ ลักษณะภมู ิประเทศ ดงั นี้ จังหวัดบึงกาฬ มีลักษณะภูมิประเทศของจังหวัด โดยทั่วไปเป็นทีร่ าบสงู แยกได้เป็น ๓ บริเวณคอื (1) พ้นื ที่เป็นคลนื่ ลอนลาด กระจายอยู่ทุกอำเภอเป็นหย่อมๆ ซง่ึ เปน็ พ้นื ท่ที ำนาส่วนใหญ่และ ปลูกพชื ไร่ พืชสวน และป่าธรรมชาติ รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6 4 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ์,อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

(2) พื้นที่เป็นคลื่นลอนชันและเป็นเขาเป็นป่าธรรมชาติ เช่น ป่าไม้เต็งรัง เบญจพรรณ (3) สภาพพื้นที่เป็นภูเขาที่มีความสูงชัน จากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ ๒๐๐ เมตร เป็นบริเวณ เทอื กเขาตา่ งๆ ในเขตอำเภอเมอื งบงึ กาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอเซกา และอำเภอบงึ โขงหลง จงั หวัดนครพนม เปน็ ทรี่ าบลมุ่ มีท่ีราบสูงและภูเขาอยู่บา้ งมีแมน่ ้ำสายสั้น ๆ เปน็ สาขาย่อยแยกจาก แมน่ ้ำโขงมาหลอ่ เล้ยี งความอดุ มสมบรู ณ์ภายในพ้ืนที่ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่มีแมน่ ำ้ โขงไหลผ่าน นครพนม จงึ นบั ว่าเป็น จังหวัดที่มีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์มาก ด้านตะวันออกมีแม่น้ำโขงทอดยาวกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับลาว และจังหวัดนครพนมมีจุดผ่านแดนไปประเทศลาว รวม 6 จุด เป็นจุดผ่านแดนถาวร 2 จุด และจุดผ่อนปรน 4 จดุ จุดผ่านแดนทีส่ ำคัญและเป็นสากล คือ ด่านสะพานมติ รภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ซงึ่ เป็นประตไู ปสอู่ นิ โดจนี จังหวัดมุกดาหาร ทางทิศเหนือและทิศใต้ของจังหวัดเป็นที่ราบสูง ทางทิศตะวันตกมีเทือกเขา ภูพาน มีลักษณะเป็นป่าไม้ บางแห่งเป็นป่าทึบ ส่วนทิศตะวันออกเป็นที่ราบสลับป่าไม้ และมีแม่น้ำโขง เป็นเส้นก้ันพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีความยาวประมาณ 72 กม.มีพื้นที่ราบ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มีพื้นที่ป่าไม้ ประมาณ 953,300 ไรค่ ดิ เปน็ ร้อยละ 35.15 ของพืน้ ท่จี งั หวัด จังหวัดสกลนคร โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง สูงกว่าระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยประมาณ 172 เมตร ด้านทิศเหนือของจังหวัด (บริเวณอำเภอบ้านม่วง อำเภอคำตากล้า อำเภอสว่างแดนดิน อำเภออากาศอำนวย และอำเภอเจริญศิลป์) มีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มลอนคลื่นไม่สม่ำเสมอกัน ใช้น้ำจากลำห้วยสาขา ในการทำนา ทิศเหนอื ของอำเภออากาศอำนวยเปน็ ท่ีราบนำ้ ท่วมถึง เนอ่ื งจากตดิ กบั แมน่ ำ้ สงคราม ทำให้เหมาะ แก่การทำนากว่าพื้นที่โดยรอบ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทาม ที่ขึ้นริมน้ำและปล่อยรกร้างว่างเปล่า ส่วนทางตอนใต้มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะขนาดใหญ่ เรียกว่าแอ่งสกลนคร จุดต่ำสุดของแอ่งคือ ทะเลสาบ หนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร และหนองญาติ อำเภอเมืองนครพนม นอกจากนี้ยังมีทิวเขาภูพานทางด้าน ทิศตะวันตกและทิศใต้บริเวณอำเภอภูพานและอำเภอกุดบากมีลักษณะภูมิประเทศแบบภูเขาสูงสลับกับ ท่รี าบลกู คล่ืนท่อี ยู่ช่วงกลางระหว่างทวิ เขาภูพานในเขตจังหวัดกาฬสินธ์ุและจังหวดั สกลนคร จงั หวัดกาฬสินธ์ุ มลี ักษณะภูมิประเทศแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ (1) ลักษณะพื้นที่ตอนบน ได้แก่ บริเวณอำเภอท่าคันโท อำเภอคำม่วง อำเภอสามชัย อำเภอ นาคูและอำเภอเขาวง ซึ่งเป็นบริเวณแนวเทือกเขาภูพาน มีภูเขาสลับซับซ้อน และมีที่ราบในบริเวณระหว่าง หุบเขาสลบั กบั ป่าทึบ ได้แก่ ปา่ ดงมลู และปา่ ดงแม่เผด บริเวณดังกล่าวเปน็ แหล่งตน้ น้ำลำธารหล่อเลี้ยงจังหวัด กาฬสนิ ธุ์ ทสี่ ำคัญได้แก่ ลำน้ำปาว และลำน้ำพาน มีเขอื่ นลำปาวเพือ่ เกบ็ กกั น้ำไว้ใช้ในการเพาะปลกู ทั้งในฤดูฝน และฤดแู ล้ง (2) ลักษณะพื้นที่ตอนกลาง ได้แก่ บริเวณอำเภอหนองกุงศรี อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอสมเด็จ อำเภอห้วยผง้ึ อำเภอนามน อำเภอกุฉนิ ารายณ์ และอำเภอหว้ ยเม็ก ลักษณะภูมปิ ระเทศเป็นเนินเขาสลับกับป่า โปรง่ และทุ่งราบ 3) ลักษณะพน้ื ทตี่ อนล่าง ไดแ้ ก่ บรเิ วณอำเภอยางตลาด อำเภอเมืองกาฬสนิ ธ์ุ อำเภอรอ่ งคำ อำเภอกมลาไสย อำเภอดอนจาน และอำเภอฆ้องชัยลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบต่ำเป็นแหล่งเพาะปลูก ที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นบริเวณที่รับน้ำชลประทาน จากโครงการชลประทานลำปาว และมีลำน้ำชี ลำนำ้ พาน ลำห้วย บึง และ หนองน้ำทวั่ ไป จงั หวัดอำนาจเจริญ โดยทัว่ ไปเป็นทลี่ ่มุ มีเนนิ เขาเตย้ี ๆ ทอดยาวไปจรดจงั หวดั อบุ ลราชธานี ท่ีอำเภอ ชานุมาน ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางเฉลี่ยประมาณ 68 เมตร (227 ฟุต) สภาพดินโดยทั่วไป เป็นดนิ รว่ นปนทรายและดินลกู รังบางส่วน มลี ำน้ำสายใหญ่ไหลผา่ น ได้แก่ ลำเซบก และลำเซบาย รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพน้ื ทรี่ ับผิดชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 5 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า แอ่งโคราช (Korat basin) สูงจากระดับน้ำทะเลปาน กลางเฉลี่ย ๖๘ เมตร (๒๒๗ ฟุต) ลักษณะโดยทั่วไป เป็นที่ราบสูงต่ำสลับกัน ลาดเอียงไปทางตะวันออก มีแม่น้ำมูล ไหลผ่านกลางจังหวัด จากทิศตะวันตกมายังทิศตะวันออก ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอโขงเจียม มีลำน้ำสำคัญ ได้แก่ ลำเซบก ลำเซบาย ลำโดมใหญ่ ลำโดมน้อย และมีภูเขาซับซ้อนหลายแห่งบริเวณชายแดน ทางตอนใต้มีเทือกเขาที่สำคัญ คือ เทือกเขาบรรทัด และเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งกั้นอาณาเขตระหว่างจังหวัด อุบลราชธานี กบั สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกมั พูชา 2.2 ข้อมูลการปกครอง ตารางที่ 2 แสดงจำนวนเขตการปกครองรายจังหวดั ในพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบของ สสว.6 (หน่วย:แห่ง) จังหวัด อำเภอ ตำบล หมบู่ า้ น องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน อบจ. เทศบาล เทศบาล เทศบาล อบต นคร เมือง ตำบล บงึ กาฬ 8 53 617 1 0 0 18 41 นครพนม 12 99 1,128 1 0 1 22 81 สกลนคร 18 125 1,520 1 1 0 65 74 มุกดาหาร 7 53 526 1 0 1 25 29 กาฬสนิ ธ์ุ 18 135 1,584 1 0 0 72 76 อำนาจเจริญ 7 56 607 1 0 1 23 39 อบุ ลราชธานี 25 216 2,704 1 1 4 54 199 รวม 95 737 8,686 7 2 7 279 539 ทม่ี า: ระบบสถติ ิทางทะเบยี น กรมการปกครอง ข้อมลู ณ 31 ธนั วาคม 2562 จากตารางที่ 2 แสดงจำนวนเขตการปกครองรายจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวชิ าการ 6 ประกอบด้วย 95 อำเภอ 737 ตำบล 8,686 หมู่บ้าน องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น จำนวน 834 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด 7 แห่ง เทศบาลนคร 2 แห่ง เทศบาลเมือง 7 แห่ง เทศบาลตำบล 279 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 539 แห่ง จังหวัดที่มีพื้นที่ทางการปกครองมากที่สุด ได้แก่ จังหวัด อุบลราชธานี มีจำนวนทั้งสิ้น 25 อำเภอ 737 ตำบล 8,727 หมู่บ้าน และจังหวัดที่มีพื้นที่ทางการปกครอง น้อยที่สุด ได้แก่ จังหวดั มุกดาหาร มีจำนวน 7 อำเภอ 53 ตำบล 526 หมบู่ ้าน รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6 6 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ,์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

2.3 ข้อมูลประชากร ตารางท่ี 3 แสดงจำนวนประชากรแยกตามช่วงอายุ จำแนกตามเพศ และรายจงั หวัด (หน่วย : คน) ทีม่ า: ระบบสถติ ิทางทะเบยี นกรมการปกครอง ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2562 แผนภาพท่ี 3 แสดงจำนวนประชากรรวมของ 7 จังหวดั ในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบของ สสว.6 ทีม่ า: ระบบสถิติทางทะเบียน กรมการปกครอง ข้อมลู ณ 31 ธนั วาคม 2562 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุม่ จังหวดั ในเขตพ้ืนทีร่ บั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 6 7 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

แผนภาพที่ 4 แสดงประชากรตามชว่ งอายุ 7 จังหวัดในเขตพน้ื ทรี่ บั ผดิ ชอบของ สสว.6 ท่ีมา: ระบบสถติ ิทางทะเบยี นกรมการปกครอง ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2562 จากตารางที่ 3 แผนภาพที่ 3และ4 พบว่า ในปี 2563 ประชากรกลุ่มจังหวัดในเขตพื้นท่ีรับผิดชอบ ของสสว.6 มีประชากรทั้งสิ้น 7,272,405 คน แบ่งเป็นเพศชาย 4,323,549 คน คิดเป็นร้อยละ 59 ของประชากรในกลุ่มจังหวัด เป็นเพศหญิง 2,948,856 คน คิดเป็นร้อยละ 41 ของประชากรในกลุ่มจังหวัด มี จำนวนประชากรช่วงอายุ 26-59 ปี มากที่สุด จำนวน 3,075,393 คน คิดเป็นร้อยละ 42 รองลงมาคือช่วงอายุ 0-17 ปี จำนวน 2,640,607 คน คิดเป็นร้อยละ 36 ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 888,389 คน คิดเป็น ร้อยละ 12 และชว่ งอายุ 18-25 ปี จำนวน 668,016 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 9.1 ของประชากรในกลุม่ จงั หวัด 2.4 ด้านการศึกษา ตารางท่ี 4 แสดงจำนวนสถานศกึ ษาในระบบ นอกระบบ จำแนกรายสังกดั รายจงั หวัด ปีการศกึ ษา 2562 (หนว่ ย:แห่ง) จงั หวัด รายการสถานศึกษา ในระบบ นอกระบบ รวม สพฐ. เอกชน อาชวี ศกึ ษา ทอ้ งถิ่น สำนักพุทธ กศน. ศาสนาแหง่ ชาติ อำเภอ ตำบล บึงกาฬ 227 16 7 4 - 8 53 254 นครพนม 481 20 12 11 - 12 99 524 สกลนคร 848 123 31 44 - 18 125 778 มกุ ดาหาร 274 11 6 5 - 7 53 296 กาฬสินธุ์ 589 53 18 25 - 18 135 685 อำนาจเจริญ 274 10 5 6 - 7 56 981 อบุ ลราชธานี 1,119 81 27 31 - 25 216 1,258 รวม 3,812 314 106 126 - 95 737 4,358 ที่มา : ศูนยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการข้อมลู สบื คน้ ณ วนั ที่ 7 สงิ หาคม 2563 จากตารางที่ 4 แสดงจำนวนสถานศึกษาในระบบ นอกระบบ จำแนกรายจังหวัด ปีการศึกษา 2562 พบวา่ สถานศกึ ษาในพื้นที่ส่วนใหญ่เปน็ การศกึ ษาในระบบ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) จำนวน 3,812 แห่ง รองลงมาสังกัดเอกชน จำนวน 314 แห่ง ท้องถิ่น 126 แห่ง อาชีวศึกษา 106 แห่ง ตามลำดับ อกี ทัง้ มสี ถานศกึ ษานอกระบบ (กศน. ) ในระดับอำเภอ 95 แหง่ ระดบั ตำบล 737 แหง่ รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุม่ จงั หวดั ในเขตพืน้ ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6 8 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

2.5 ข้อมูลดา้ นศาสนา และวฒั นธรรม ❖ จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองที่สำคัญของจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขง มีสภาพแวดล้อม ที่สมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยภูเขาและน้ำตกที่สวยงาม โดยมีประเพณีที่สำคัญ คือ เทศกาลบุญบั้งไฟ เทศกาล สงกรานต์ ประเพณีแข่งขันเรือยาว วันยางพาราบึงกาฬ ดังคำขวัญของจังหวัด “ภูทอกแหล่งพระธรรม ค่าล้ำ ยางพารา งามตาแก่งอาฮง บึงโขงหลงเพลินใจ น้ำตกใสเจ็ดสี ประเพณีแข่งเรือ เหนือสุดแดนอีสาน นมสั การองคพ์ ระใหญ่ ” ❖ จังหวัดนครพนม เป็นเมืองชายแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ความสวยงามของทิวทัศน์ และมีความหลากหลาย ของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ รวมทั้งประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมีองค์พระธาตุพนม ซึ่งเป็นพระธาตุเจดีย์ อันศักดิ์สิทธิ์ ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ เป็นที่สักการะ ศูนย์รวมจิตใจ ความศรัทธาของชาวจังหวัดนครพนม ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ิคูเ่ มืองนครพนมมาแตโ่ บราณกาลกว่า 2500 ปี นอกจากนี้ ยังมีพระธาตุอื่น ๆ ที่ชาวจังหวดั นครพนมเคารพนับถือ ได้แก่ พระธาตุประสิทธิ์ พระธาตุท่าอุเทน พระธาตุเรณู พระธาตุศรีคุณ พระธาตุนคร และพระธาตุมหาชัย เป็นต้น ซึ่งถือเป็นเมืองพระธาตุโดยแท้ และเป็นจังหวัดชายแดนริมโขง ตรงข้ามกับเมือง ท่าแขกของลาว เป็นเมืองเก่าแก่เคียงคู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ โดยมีคำขวัญของจังหวัด “ พระธาตุพนม คา่ ล้ำ วฒั นธรรมหลากหลาย เรณผู ู้ไท เรอื ไฟโสภา งามตาฝัง่ โขง ” ❖ จังหวดั มุกดาหาร เป็นจังหวัดชายแดน อยู่ในแอ่งสกลนคร เป็นจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของภาคอีสาน ภูมิประเทศติดกับแม่น้ำโขง มีหอแก้วมุกดาหารและมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่นอุทยาน แห่งชาติภูผาเทิบ ภูสระดอกบัว วัดภูมโนรมย์ เป็นต้น ประชาชนจังหวัดมุกดาหาร มีถึง 8 ชนเผ่า อันได้แก่ ชาวผู้ไท ชาวไทยญ้อ ชาวไทยข่าชาวไทยโซ่ ชาวไทยกะเลิง ชาวไทยแสก ชาวไทยกุลา และชาวไทยอีสาน ดังคำขวัญของจังหวัด “หอแก้วสูงเสียดฟ้า ภูผาเทิบแก่งกะเบา แปดชนเผ่าพื้นเมือง ลือเลื่องมะขามหวาน กองโบราณล้ำเลิศ ถิ่นกำเนิดลำผญา ตระการตาชายโขง เชื่อมโยงอินโดจีน ”ชาวมุกดาหารส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธ มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่สำคัญ และยังคงถือปฏิบัติสืบต่อกันมา คือ “ฮี ตสิบสอง ครองสิบสี่” และยังคงมีวัฒนธรรม ประเพณีของชนเผ่าที่ควรอนุรักษ์ ฟื้นฟูและยังคงมีอยู่ คือ ถั่งบั้ง พิธีเหยา รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพนื้ ที่รับผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6 9 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ์,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

พิธีบายศรีสู่ขวัญ การรำเต้ยหัวดอนตาล การรำวงผู้ไท การลำผญา เป็นต้น งานประเพณีที่สำคัญ ได้แก่ งานประเพณีแข่งเรือออกพรรษาระหว่างจังหวัดมุกดาหารกับแขวงสะหวันนะเขต จัดขึ้นในวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี งานกาชาดและงานประจำปจี ังหวัดมกุ ดาหาร จดั ข้นึ เปน็ ประจำทกุ ปใี นช่วงเดอื นมกราคม ❖ จงั หวดั สกลนคร มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยมีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ บริเวณแนวทวิ เขาภูพาน อำเภอวาริชภมู ิ ภาพเขยี นสีก่อนประวตั ิศาสตร์ ชมุ ชนโบราณในพืน้ ที่จังหวัดสกลนคร อยู่ร่วมสมัยเดียวกับอารยธรรมบ้านเชียงในจังหวัดอุดรธานี จากการสำรวจแหล่งชุมชนโบราณในพื้นท่ี แอ่งสกลนคร บริเวณลุ่มแม่น้ำสงครามครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน จังหวัด อุดรธานี อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอวารชิ ภูมิ อำเภอพังโคน อำเภอวานรนิวาส อำเภอพรรณานคิ ม และรอบ ๆ หนองหาน อำเภอเมืองสกลนคร พบแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์จำนวน 83 แห่ง ชุมชนโบราณของ แอ่งสกลนครนี้มีอายุประมาณ 600 ปีก่อนพุทธกาลจนถึงพุทธศตวรรษที่ 8 (ระหว่าง 3,000-1,800 ปีมาแล้ว) จากหลักฐานการค้นพบต่าง ๆ ของที่นี่พบว่า ชุมชนโบราณในแอ่งสกลนครได้มีการรวมตัวกันเป็นสังคม ขนาดใหญ่และอาจจะพัฒนาเป็นสังคมเมืองในสมัยต่อมา สกลนครเป็นแหล่งธรรมะ(ดินแดนแห่งธรรม) มปี ชู นียสถานทสี่ ำคญั ทางพระพทุ ธศาสนาหลายแหง่ เชน่ พระธาตเุ ชิงชมุ พระธาตดุ ูม พระธาตุนารายณ์เจงเวง พระธาตุศรมี งคล พระธาตุภูเพ็ก และมีพระเกจิอาจารย์ดังทีเ่ ป็นท่ีรจู้ ักของคนทัง้ ประเทศ อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม และหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้น ดังคำขวัญของจังหวัด “พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่อง หนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสดุ ซง้ึ สาวภูไท ถิน่ มั่นในพทุ ธธรรม”ประเพณที ่สี ำคัญ ไดแ้ ก่ เทศกาล นมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อองค์แสนเทศกาลตรุษไทสกล คนจีน เวียดนาม งานรวมน้ำใจไทสกล และงานกาชาดจังหวัดสกลนคร เทศกาลโส้รำลึก บุญข้าวจ่ี เซิ้งผีโขน วันวิสาขบูชา ประเพณีแห่ปราสาทผ้ึง ลอยพระประทปี พระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล ประเพณแี ห่ดาว เทศกาลครสิ ตม์ าส จังหวัดสกลนคร รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จังหวัดในเขตพนื้ ท่ีรับผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6 10 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ์ุ,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

❖ จังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ จังหวัดกาฬสินธุ์มีการสืบสานประเพณีท้องถิ่นอีสาน “ฮีตสิบสอง คองสิบส่ี” เช่น งานมหกรรม โปงลางแพรวา และงานกาชาด งานมหกรรมวิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหม งานบุญบั้งไฟตะไลล้าน บ้านกุดหว้า งานสรงน้ำพระธาตุยาคู งานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ งานบุญคูณลาน และมหกรรม เส็งกลองกิ่ง ประเพณีท้องถิ่นอีสาน“ฮีตสิบสอง คองสิบสี่” คำว่า “ฮีต” คือ “จารีต และ “สิบสอง” หมายถึง สิบสองเดือน ดังนั้น “ฮีตสิบสอง” จึงหมายถึงประเพณีที่ชาวลาวในภาคอีสานปฏิบัติกันมาในโอกาสต่าง ๆ ทั้งสิบสองเดือนของแต่ละปีเป็นการผสมผสานพิธีกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องผีและพิธีกรรมทางการเกษตรเข้ากับ พิธีกรรมทางพุทธศาสนา ขณะที่ “คองสิบสี่” เป็นคำและข้อปฏิบัติคู่กับ “ฮีตสิบสอง”คำว่า “คอง” แปลว่า แนวทาง หรือ ครรลอง ธรรมเนียมประเพณี และ “สิบส่ี” หมายถึง ข้อวัตรหรือแนวทางปฏิบัติสิบสี่ข้อ ดังนั้น “คองสิบส่ี” จงึ หมายถึง ข้อวตั รหรอื แนวทางที่ประชาชนทกุ ระดับ นับต้งั แตพ่ ระมหากษัตริย์ ผู้มีหน้าทีป่ กครอง บา้ นเมือง พระสงฆ์ และ คนธรรมดาสามัญพึงปฏบิ ัติสิบสข่ี ้อ นอกนี้ยังมีวัฒนธรรมที่โดดเดน่ และเป็นเอกลักษณ์ อย่าง “วัฒนธรรมภูไท” หรือ“วัฒนธรรม ผู้ไท”ชาวผู้ไทเป็น ชนกลุ่มน้อยที่อพยพมาจากเมืองวัง และเมืองตะโปน ซึ่งอยู่ทาง ทิศตะวันออกของ เมืองสะหวันนะเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบัน และแยกย้ายกันตั้งหลักแหล่ง อยู่บริเวณเทือกเขาภูพานในเขต 3 จงั หวดั คอื จงั หวัดกาฬสินธ์ุ จงั หวดั สกลนคร และจงั หวัดนครพนม โดยชาว ผู้ไทจังหวัดกาฬสินธุ์ อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเขาวง อำเภอ กุฉินารายณ์ อำเภอสหัสขันธ์อำเภอคำม่วง ชาวผู้ไท จะมอี ัตลักษณเ์ ฉพาะตัว เชน่ วัฒนธรรมการแต่งกาย การฟอ้ น ลกั ษณะ การสรา้ งบ้านเรือน ลักษณะทางสังคม และวถิ ีชวี ติ เปน็ ตน้ ❖ จงั หวัดอำนาจเจริญ อำนาจเจริญ เป็นจังหวดั มีประวัติศาสตร์มาอยา่ งยาวนานจากการค้นพบแหลง่ ชุมชนโบราณ โบราณสถาน และโบราณวัตถุตามที่กรมศิลปากรค้นพบและสนั นิษฐานไว้ตามหลักฐานทางโบราณคดี (ใบเสมา อายุราว 1,000 ปี) และได้ตั้งเป็นเมืองมานานหลายร้อยปี คำว่าอำนาจเจริญเป็นคำยืมจากภาษาเขมร มีความหมายตามตัว คือ อำนาจเจริญ เมืองที่มีสมญานามว่า เมืองข้าวหอมโอชา ถิ่นเสมาพันปี โดยชาว อำนาจเจริญ ปฏิบัติสืบเนื่องต่อมาจนปัจจุบัน คือ ฮีตสิบสอง ซึ่งเป็นจารีตประเพณีที่ประชาชนนำมาปฏิบัติ ประจำเดอื น ท้ัง ๑๒ เดอื นในรอบปี เป็นประเพณกี ารทำบุญประจำเดือนที่เก่ียวเน่ืองกับพทุ ธศาสนาโดยจัดงาน ฮีตสิบสองและงานกาชาดให้เป็นงานประจำปี ในวันที่ ๑-๑๐ ธันวาคม ของทุกปี และมีงานประเพณีประจำปี ที่สำคัญ ได้แก่ งานนมัสการพระมงคลมิ่งเมือง (พระใหญ่) งานนมัสการพระเหลาเทพนิมิต งานบุญคูนลาน งานบุญบั้งไฟ งานแข่งเรือยาวล่องน้ำโขง งานครูสลามายามบ้าน(งานมหรสรรพ)งานบุญข้าวจี่ และมีพิธีกรรม ท้องถิ่น ได้แก่ การละเล่นพื้นบ้าน การเส็งกลองกิ่ง วิถีชีวิตชนเผ่าภูไท พิธีกรรม รำผีไท้ ดังคำขวัญจังหวัด “พระมงคลมิ่งเมือง แหล่งรุ่งเรืองเจ็ดลุ่มน้ำ งามล้ำถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เทพนิมิตพระเหลา เกาะแก่งเขาแสนสวย เลอค่าดว้ ยผ้าไหม ราษฏรเ์ ลอ่ื มใสใฝ่ธรรม ” รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพ้นื ท่รี ับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 6 11 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

❖ จงั หวัดอบุ ลราชธานี มีภาษาถิ่นวัฒนธรรมและประเพณีที่โดดเด่น คือประเพณีแห่เทียนพรรษาทุ่งศรีเมือง อุบลราชธานีและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นผาแต้ม ผาชนะได สามพันโบก เสาเฉลียง น้ำตกแสงจันทร์ และ ความงามตามธรรมชาติของแม่น้ำโขง ดังคำขวัญของจังหวัด “เมืองดอกบัว งาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ไฝ่ธรรม งามล้ำ เทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ” ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือเป็นจังหวัดท่ีแม่น้ำสายสำคัญทัง้ หมด ของภาคอีสานทั้งโขงชมี ูลไหลมาบรรจบกนั โดยแม่นำ้ ชีและแมน่ ้ำมลู ไหลมารวมกันท่ีอำเภอวารินชำราบซ่ึงเป็น สถานที่ตั้งของสถานีรถไฟหลักที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเช่นจังหวัดอื่น ๆ ทั่วไป ส่วนสถานที่ราชการ ศาลากลางประจำจังหวัด สนามบินอุบลราชธานีอยู่ฝั่งอำเภอเมืองซึ่งเชื่อมกับอำเภอวารินด้วยสะพาน รัตนโกสินทร์ 200 ปี และสะพานเสรีประชาธิปไตย โดยมีแม่น้ำมูลไหลกั้นทุ่งศรีเมืองและอำเภอวารินชำราบ ก่อนจะไหลไปรวมกับแม่น้ำโขงบริเวณจุดชมวิวทางธรรมชาติ โขงสีปูน มูลสีคราม อำเภอโขงเจียมต่อไป และ จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากว่า 200 ปี และ แหล่งโบราณคดีบ้านก้านเหลืองยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบ้านก้านเหลือง ตำบลขามใหญ่ ในตัวอำเภอเมอื ง กรมศิลปากรได้ทำการขุดค้นเมื่อปี 2539 พบโบราณวตั ถุตา่ ง ๆ มากมาย เช่น ลูกปัด เครื่องปั้นดินเผา การทำโลหะผสม กระพรวนสำริด ขวานเหล็ก และแกลบข้าวจำนวนมาก แต่ไม่พบ โครงกระดูกมนุษย์ สันนิษฐานว่าชุมชนโบราณแห่งนี้เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีอายุระหว่าง 2,500-2,800 ปี มาแล้ว อยู่ในยคุ โลหะตอนปลาย รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวัดในเขตพนื้ ท่ีรับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6 12 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

2.6 ด้านสาธารณสุข ตารางท่ี 5 แสดงจำนวนหน่วยบริการสาธารณสุข ภาครัฐ ภาคเอกชน จำแนกรายจังหวัดในเขตพ้ืนที่รับผดิ ชอบ สสว.6 (หนว่ ย:แหง่ ) จงั หวัด ภาครฐั ภาคเอกชน บงึ กาฬ โรงพยาบาล โรงพยาบาล โรงพยาบาล โรงพยาบาล ศนู ย์ 1 ศูนย์ (รพศ.) ท่ัวไป ชมุ ชน สง่ เสรมิ สขุ ภาพ (รพท.) (รพช.) ชุมชน 0 สขุ ภาพตำบล 1 7 (รพ.สต.) 2 61 นครพนม 0 1 11 151 1 1 สกลนคร 1 1 15 168 3 1 มกุ ดาหาร 0 1 6 78 0 1 กาฬสนิ ธุ์ 0 1 17 156 1 2 อำนาจเจรญิ 0 1 6 77 2 1 อบุ ลราชธานี 1 3 22 317 19 3 รวม 2 9 84 1008 28 10 ที่มา : HDC Report กระทรวงสาธารณสขุ สบื คน้ ข้อมูล ณ วนั ท่ี 26 มิถุนายน 2563 จากตารางที่ 5 แสดงจำนวนหน่วยบริการสาธารณสุข ภาครัฐ ภาคเอกชน จำแนกตามจังหวัดในเขต พื้นที่รับผิดชอบ สสว.6 พบว่า มีหน่วยบริการสาธารณสุขภาครัฐ ทั้งสิ้นจำนวน 1,131 แห่ง แบ่งเป็น โรงพยาบาลศูนย์ (รพศ.) จำนวน 2 แห่ง โรงพยาบาลท่ัวไป (รพท.) จำนวน 9 แห่ง โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 84 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 1,008 แห่ง ศูนย์สุขภาพชุมชน จำนวน 28 แห่ง และ มหี น่วยบรกิ ารภาคเอกชน 10 แห่ง ตารางที่ 6 แสดงสัดสว่ นจำนวนประชากรต่อแพทย์รายจังหวดั ในเขตพนื้ ทีร่ ับผิดชอบ สสว.6 (หน่วย:คน) จังหวดั แพทย์ ประชากร ประชากรต่อแพทย์ บงึ กาฬ นครพนม 353 423,031 1,198:1 371 719,135 1,938:1 สกลนคร 1,032 349,474 339:1 มกุ ดาหาร 316 1,153,390 3,649:1 กาฬสนิ ธ์ุ 877 2,370,792 2,703:1 อำนาจเจรญิ 451 378,438 839:1 อบุ ลราชธานี 4,998 1,878,145 376:1 รวม 8,398 7,272,405 866:1 ที่มา : ระบบสถิติทางการทะเบยี น กรมการปกครอง,HDC Report กระทรวงสาธารณสขุ สืบค้นข้อมูล ณ 26 มถิ ุนายน 2563 จากตารางที่ 6 แสดงสัดส่วนประชากรต่อแพทย์รายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มีแพทย์มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4,998 คน รองลงมา คือ จังหวัดสกลนคร จำนวน 1,032 คน จังหวัดกาฬสินธุ์ 877 คน ตามลำดับ แต่เมื่อดูสัดส่วนประชากรต่อแพทย์พบว่า จังหวัดมุกดาหารมีสัดส่วนประชากรต่อแพทย์ มากที่สุด จำนวนประชากร 3,649 คน ต่อแพทย์ 1 คน รองลงมาคือจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวนประชากร 2,703 คน ต่อแพทย์ 1 คน จังหวัดนครพนม จำนวนประชากร 1,938 คนต่อแพทย์ 1 คน ซึ่งจากขอ้ มลู องค์การ รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวัดในเขตพ้นื ท่รี ับผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวชิ าการ 6 13 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

อนามัยโลก (WHO) กำหนดมาตรฐานจำนวนแพทย์ไว้ที่ 1 คน ต่อประชากร 1,000 คน ดังนั้น เมื่อพิจารณา สัดส่วนประชากรต่อแพทย์ของพื้นที่จังหวัดในเขตรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 มี 4 จังหวัดมีสัดสว่ นประชากรต่อแพทยเ์ กินกว่าจำนวนเกณฑ์ท่ี WHO กำหนด ซึ่งอาจทำให้ประชาชนในพ้นื ที่ เข้าใช้บริการทางการแพทย์ไม่สะดวก ไดแ้ ก่ จังหวัดมุกดาหาร จงั หวดั นครพนม จงั หวดั กาฬสินธ์ุ จังหวดั บึงกาฬ 2.7 ดา้ นเศรษฐกจิ และรายได้ ตารางที่ 7 แสดงอัตราการขยายตัวของผลิตภณั ฑ์มวลรวมจงั หวัด ในเขตพน้ื ท่ีรับผิดชอบ สสว.6 จงั หวัด อัตราการขยายตัว GPP (รอ้ ยละ) ปี 2560 ปี 2561 บงึ กาฬ 8.2 -1.1 นครพนม 0.5 2.2 สกลนคร 1.1 3.1 มุกดาหาร 7.4 1.0 กาฬสนิ ธุ์ 1.4 10.3 อำนาจเจริญ 4.1 4.9 อบุ ลราชธานี 5.3 -0.7 ท่ีมา: สำนกั งานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ สบื คน้ ข้อมูล ณ เมษายน 2563 จากตารางท่ี 7 แสดงการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 เมื่อเปรียบเทียบอัตราการขยายตัว GPP ปี 2560 กับ ปี 2561 พบว่า มี 4 จังหวัดมีอัตรา GPP เพิ่มขึ้น ได้แก่ จังหวัดนครพนม มีการขยายตัวของ GPP เพิ่มขึ้น จาก 0.5 เป็น 2.2 จังหวัดสกลนคร การขยายตัวของ GPP เพิ่มขึ้น จาก 1.1 เป็น 3.1 จังหวัดกาฬสินธุ์ มีการขยายตัวของ GPP เพิ่มขึ้น จาก 1.4 เป็น 10.3 และจังหวัด อำนาจเจริญ การขยายตัวของ GPP เพิ่มขึ้น จาก 4.1 เป็น 4.9 มี 3 จังหวัดมีอัตรา GPP ลดลง ได้แก่ จังหวัด บึงกาฬ การขยายตัวของ GPP ลดลง จาก 8.2 เป็น -1.1 จังหวัดมุกดาหาร การขยายตัวของ GPP ลดลง จาก 7.4 เป็น 1.0 และจงั หวัดอบุ ลราชธานี มีการขยายตัวของ GPP ลดลง จาก 5.3 เป็น -0.7 ตารางที่ 8 แสดงผลติ ภณั ฑจ์ งั หวดั ต่อหัว (GPP per capita) ปี 2561 ในเขตพ้ืนทร่ี ับผิดชอบของ สสว.6(หน่วย:บาท/ปี) จงั หวัด บาทตอ่ ปี บงึ กาฬ 67,476 นครพนม 78,802 สกลนคร 64,084 มุกดาหาร 62,766 กาฬสนิ ธุ์ 73,998 อำนาจเจรญิ 65,742 อุบลราชธานี 71,469 ทม่ี า: ผลติ ภัณฑภ์ าคและจังหวัด แบบปรมิ าณลกู โซ่ ฉบับ พ.ศ. 2561 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ สบื คน้ ข้อมูล ณ เมษายน 2563 จากตารางที่ 8 แสดงผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัว (GPP per capita ) ปี 2561 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สสว.6 พบว่า จังหวัดนครพนมมีผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวสูงที่สุด จำนวน 78,802 บาทต่อปี รองลงมาคือ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 73,998 บาทต่อปี จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 71,469 บาทต่อปี ตามลำดับ และ จังหวัดมกุ ดาหาร มีผลิตภัณฑจ์ งั หวัดต่อหวั ตำ่ ทสี่ ุด จำนวน 62,766 บาทตอ่ ปี รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพ้นื ท่รี บั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 6 14 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ์,ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

ตารางท่ี 9 แสดงรายได้โดยเฉล่ยี ต่อเดอื นต่อครัวเรอื นรายจังหวัด พ.ศ.2552-2560 (หนว่ ย:บาท) จงั หวัด 2552 2554 2556 2558 2560 บงึ กาฬ - - 20,207 23,767 22,668 นครพนม 12,859 14,053 14,310 15,804 15,834 สกลนคร 16,679 15,326 16,854 19,281 17,820 มุกดาหาร 17,370 19,048 16,494 22,870 20,440 กาฬสินธุ์ 11,748 17,293 13,921 15,452 14,264 อำนาจเจรญิ 14,763 15,975 17,273 21,173 18,231 อุบลราชธานี 16,747 21,660 22,344 20,453 24,380 ทีม่ า : สำนักงานสถติ แิ ห่งชาติ สบื ค้นข้อมลู ณ 26 มิถุนายน 2563 ตารางที่ 9 แสดงรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนรายจังหวัด พ.ศ.2552-2560 พบว่า รายได้ โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนของจังหวดั ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 6 ส่วนใหญ่มีรายได้เฉลี่ยตอ่ เดือนต่อครวั เรือนลดลง และเมื่อเปรียบเทียบปี 2558 กับ ปี 2560 จังหวัดที่มีรายได้ โดยเฉล่ียตอ่ เดอื นต่อครวั เรือนลดลง 3 อนั ดับแรก ได้แก่ 1) จังหวัดอำนาจเจรญิ จาก 21,173 บาท ลดลงเหลือ 18,231 บาท 2) จังหวัดมุกดาหาร จาก 22,870 บาท ลดลงเหลือ 20,440 บาท 3) จังหวัดสกลนคร จาก 19,281 บาท ลดลงเหลือ 17,820 บาท ในขณะที่จังหวัดที่มีรายได้โดยเฉลี่ยต่อเดือนต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น ไดแ้ ก่ จังหวดั อบุ ลราชธานี จาก 20,453 บาท เพม่ิ ขน้ึ เปน็ 24,380 บาท ตารางท1ี่ 0 แสดงหนสี้ นิ เฉลี่ยตอ่ ครวั เรอื นรายจังหวดั จำแนกตามวตั ถปุ ระสงค์ของการก้ยู มื พ.ศ. 2552 - 2560 (หน่วย:บาท) จังหวัด วตั ถุประสงคข์ อง 2552 2554 2556 2558 2560 การกูย้ มื หนี้สินทัง้ ส้ิน - - 69,432 257,989 212,781 เพอ่ื ใช้จา่ ยใน - - 27,282 108,967 133,947 ครวั เรอื น บงึ กาฬ เพ่ือใช้ทำธุรกิจท่ีไมใ่ ช่ - - 9,591 75,485 14,493 การเกษตร เพื่อใช้ทำการเกษตร - - 28,103 31,695 40,337 เพื่อใช้ในการศึกษา - - 843 5,054 8,369 เพื่อใช้ซื้อ/เช่าซื้อ - - 3,614 36,362 15,635 บา้ นและท่ดี นิ อื่น ๆ - 0 426 0 หน้สี ินทัง้ ส้ิน 92,430 76,338 90,411 102,816 192,868 เพอ่ื ใช้จา่ ยใน 29,130 29,348 43,509 58,182 96,150 ครัวเรอื น เพอ่ื ใชท้ ำธรุ กจิ ที่ไม่ใช่ 17,971 7,601 7,029 7,966 10,586 การเกษตร นครพนม เพอ่ื ใช้ทำการเกษตร 17,908 16,107 8,844 11,419 21,888 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพ้นื ที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6 15 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

จังหวดั วตั ถปุ ระสงคข์ อง 2552 2554 2556 2558 2560 การกยู้ มื เพอ่ื ใช้ในการศึกษา 2,208 877 731 1,379 13,733 เพื่อใช้ซ้อื /เช่าซื้อ 23,781 21,052 28,978 21,554 44,151 บา้ นและท่ีดิน อนื่ ๆ 1,432 1,353 1,321 2,315 6,360 หนสี้ ินทง้ั สน้ิ 161,441 138,725 157,855 164,190 197,078 65,573 69,890 71,377 84,899 เพื่อใช้จา่ ยใน 61,836 10,512 8,246 25,120 19,273 ครัวเรือน 24,810 29,132 27,829 51,186 เพอ่ื ใช้ทำธรุ กิจที่ไม่ใช่ 12,082 1,079 4,921 1,216 1,855 36,385 45,630 37,537 39,866 มุกดาหาร การเกษตร สกลนคร 366 37 1,111 0 กาฬสินธ์ุ เพื่อใช้ทำการเกษตร 20,195 182,411 123,125 184,067 171,992 85,253 62,740 87,682 83,662 เพ่อื ใช้ในการศึกษา 4,196 11,991 20,619 42,348 8,758 เพื่อใชซ้ อื้ /เชา่ ซื้อ 60,070 11,413 18,926 19,345 28,988 บ้านและท่ดี นิ 4,438 4,031 5,739 5,268 65,942 16,685 28,800 45,086 อืน่ ๆ 3,061 3,375 125 152 229 หนี้สนิ ทั้งสน้ิ 129,737 154,871 124,725 131,577 134,002 86,766 66,534 56,519 47,550 เพื่อใชจ้ ่ายใน 44,088 16,990 15,288 16,586 18,575 ครวั เรอื น 17,528 29,672 33,068 40,676 เพือ่ ใชท้ ำธุรกจิ ท่ีไมใ่ ช่ 16,462 5,449 2,512 413 5,514 28,138 10,719 24,991 21,687 การเกษตร 0 0 0 0 เพ่ือใชท้ ำการเกษตร 18,226 เพื่อใชใ้ นการศึกษา 6,035 เพอ่ื ใช้ซอ้ื /เช่าซื้อ 28,221 บ้านและทด่ี ิน อ่นื ๆ 16,705 หนีส้ ินทั้งสนิ้ 97,711 เพื่อใชจ้ ่ายใน 34,478 ครัวเรอื น เพอ่ื ใช้ทำธรุ กจิ ที่ไมใ่ ช่ 14,563 การเกษตร เพือ่ ใช้ทำการเกษตร 17,592 เพื่อใช้ในการศึกษา 2,692 เพื่อใช้ซื้อ/เช่าซ้ือ 27,852 บา้ นและท่ีดนิ อน่ื ๆ 533 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกล่มุ จงั หวดั ในเขตพ้ืนท่ีรบั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 6 16 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

จงั หวดั วัตถุประสงคข์ อง 2552 2554 2556 2558 2560 อำนาจเจริญ การก้ยู ืม 145,074 134,560 173,276 226,033 78,256 57,590 63,775 89,496 หนส้ี นิ ท้ังส้นิ 159,633 21,169 11,896 19,005 24,344 เพ่ือใชจ้ า่ ยใน 65,138 15,241 24,054 49,761 57,249 ครัวเรอื น 3,094 3,186 4,496 6,419 27,147 37,813 36,208 46,790 เพอ่ื ใชท้ ำธรุ กจิ ที่ไม่ใช่ 39,867 167 21 31 1,736 การเกษตร เพ่ือใช้ทำการเกษตร 19,230 เพอ่ื ใช้ในการศึกษา 2,989 เพื่อใช้ซอ้ื /เช่าซื้อ 32,408 บ้านและทดี่ นิ อ่ืน ๆ 0 หนีส้ นิ ทงั้ สนิ้ 116,045 173,065 166,222 136,208 195,122 เพอ่ื ใชจ้ ่ายใน 60,319 104,807 111,163 77,425 116,714 ครวั เรอื น เพอ่ื ใชท้ ำธุรกจิ ท่ีไมใ่ ช่ 17,027 12,011 15,600 22,412 8,058 อบุ ลราชธานี การเกษตร เพื่อใชท้ ำการเกษตร 21,907 21,474 25,989 16,589 38,157 เพื่อใชใ้ นการศึกษา 645 2,103 828 1,563 2,156 เพอ่ื ใชซ้ ื้อ/เช่าซื้อ 16,147 31,744 12,642 18,219 30,038 บ้านและทีด่ นิ อื่น ๆ 0 925.80 0 0 0 ทม่ี า: การสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแหง่ ชาติ กระทรวงดิจิทัลเพอ่ื เศรษฐกิจและสังคม สบื ค้นข้อมลู เมอ่ื วันที่ 2 กรกฎาคม 2563 หมายเหต:ุ หนี้อน่ื ๆ ไดแ้ ก่ หน้ีจากการค้ำประกันบคุ คลอ่นื หนค้ี ่าปรับหรอื จ่ายชดเชยคา่ เสียหายเปน็ ต้น จากตารางท่ี 10 แสดงหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนรายจังหวัด จำแนกตามวัตถุประสงค์ของการกู้ยืม พ.ศ. 2552 – 2560 ของจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 พบว่า แนวโน้มของหนี้สินมีทิศทางเพิ่มขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบปี 2558 กับ ปี 2560 พบว่า หน้ีสนิ ท่เี พม่ิ ขึน้ มากท่ีสุด ได้แก่หนี้สินเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน รองลงมาไดแ้ กห่ น้ีสินเพ่อื ทำการเกษตรและเพอ่ื ใช้ซ้ือ/เช่าซ้ือบ้านและท่ดี ิน ตามลำดบั รายงานสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จงั หวดั ในเขตพน้ื ทร่ี บั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6 17 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

2.5 ขอ้ มลู ภาคีเครือขา่ ย ตารางท่ี 11 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครือข่ายในเขตพนื้ ที่รับผดิ ชอบของสสว.6 (หน่วย:แหง่ ) องคก์ ร องค์กร องคก์ ร กองทนุ สภาองคก์ ร ศพอส. ศพค. จงั หวัด สวสั ดกิ าร สาธารณะ สวัสดกิ าร ชมุ ชน ชุมชน ประโยชน์ ชุมชน บงึ กาฬ 17 14 33 57 12 45 นครพนม 61 26 74 105 30 101 สกลนคร 63 45 91 60 29 179 มกุ ดาหาร 32 56 47 54 11 53 กาฬสินธ์ุ 110 95 128 135 24 150 อำนาจเจรญิ 54 96 53 63 10 63 อบุ ลราชธานี 91 115 91 189 2,813 176 รวม 428 447 517 663 2,929 767 ท่ีมา : สำนกั งานพัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ ข้อมูล ณ วนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2563 หมายเหตุ ศพอส. หมายถงึ ศนู ยพ์ ฒั นาคุณภาพชีวติ และส่งเสรมิ อาชีพผูส้ งู อายุ /ศพค.หมายถึง ศูนย์พัฒนาครอบครวั ตารางท่ี 12 แสดงจำนวนภาคเี ครอื ขา่ ยอาสาสมคั รในเขตพ้ืนท่ีรับผดิ ชอบของ สสว.6 (หน่วย:คน) องค์กร สภาเด็กและ อพม. อพมก. คลงั ปัญญา จังหวดั เยาวชน ผ้สู ูงอายุ บงึ กาฬ 68 4,936 - 90 นครพนม 2,461 3,183 19 354 สกลนคร 539 4,616 80 750 มกุ ดาหาร 1,134 1,250 24 880 กาฬสนิ ธุ์ 3,150 6,480 200 531 อำนาจเจริญ 1,176 2,200 11 90 อบุ ลราชธานี 238 13,506 4,998 680 รวม 8,766 36,171 5,332 3,375 ท่มี า : สำนักงานพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์จงั หวดั ขอ้ มูล ณ วันท่ี 20 สงิ หาคม 2563 หมายเหตุ อพม. หมายถงึ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ อพมก. หมายถึง อาสาสมัครดแู ลผ้พู ิการ จากตารางที่ 11 และ 12 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครอื ข่ายและเครือขา่ ยอาสาสมัครของจังหวัดในเขต พื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 ส่วนใหญ่เป็นองค์กรผู้สูงอายุศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ 2,929 แห่ง รองลงมา ศูนย์พัฒนาครอบครัว 767 แห่ง และจำนวนเครือข่ายอาสาสมัครในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สสว.6 ส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จำนวน 36,171 คน รองลงมา คือ สภาเด็กและเยาวชน จำนวน คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของ สสว.6 มคี วามเขม้ แข็งด้านองคก์ รผสู้ งู อายสุ ำหรบั การเตรียมความพรอ้ มส่สู งั คมผูส้ งู อายุ รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุม่ จงั หวดั ในเขตพนื้ ทรี่ บั ผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6 18 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

สว่ นที่ 3 สถานการณ์ทางสงั คมกลุม่ จังหวดั 3.1 ข้อมูลสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวัด พื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ครอบคลุมจำนวน 7 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จงั หวัดมุกดาหาร จังหวัดสกลนคร จงั หวัดกาฬสินธุ์ จงั หวดั อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี มีสถานการณ์ทางสังคมของกลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็ก กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ และกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ในการจัดทำรายงานสถานการณ์ ทางสังคมกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2563 ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลย้อนหลังเป็นระยะเวลา 10 ปี ในช่วงปี พ.ศ. 2553 – 2562 จากเว็บไซต์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (www.dopa.go.th) และ สำนักงานสถติ แิ ห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (www.nso.go.th) โดยมีผลจากการวิเคราะห์ สถานการณท์ างสงั คมของแตล่ ะกลุ่มเป้าหมาย ดังตอ่ ไปน้ี 3.1.1 กล่มุ เด็ก ประชากรเด็ก หรือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงาน ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 1,247,159 คน และจากข้อมูลประชากรเด็ก โดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากรเด็กลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังตารางที่ 13 และถ้าพิจารณารายจังหวัด พบว่า ประชากรเด็กลดลงในทุกๆ ปีทั้ง 7 จังหวัดเช่นเดียวกับ ภาพรวม ดังตารางที่ 13 และแผนภาพที่ 5 นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัด ปี 2562 พบว่า จังหวัดสกลนครมปี ระชากรเด็กต่ำทีส่ ดุ ในกลุ่มจังหวัด จำนวน 75,546 คน คิดเป็นร้อยละ 6.06 ของประชากร เด็กในกลุ่มจังหวดั และ จงั หวัดอบุ ลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีประชากรเด็กสูงสุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 404,322 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 32.4 ของประชากรเด็กในกล่มุ จงั หวดั ตารางท่ี 13 แสดงจำนวนเดก็ จำแนกตามจังหวดั รายปี พ.ศ. 2553-2562 (หน่วย:คน) จังหวดั 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บึงกาฬ - 107,727 108,298 107,903 106,482 104,645 102,657 101,005 99,340 97,293 นครพนม 182,553 180,532 178,202 175,710 172,463 168,588 164,877 161,699 157,963 154,759 มกุ ดาหาร 285,635 282,184 279,165 275,272 270,666 265,629 260,864 256,414 251,788 247,470 สกลนคร 85,885 84,685 83,864 82,306 80,713 79,310 77,908 77,104 76,298 75,546 กาฬสนิ ธ์ุ 230,704 226,290 222,385 217,612 212,723 207,604 203,224 199,173 195,105 191,580 อำนาจเจริญ 92,007 90,236 88,305 86,457 84,460 82,446 80,476 79,114 77,637 76,189 อบุ ลราชธานี 474,691 467,936 461,090 453,936 444,898 435,972 427,038 418,781 411,468 404,322 รวมกลุ่ม 1,351,475 1,439,590 1,421,309 1,399,196 1,372,405 1,344,194 1,317,044 1,293,290 1,269,599 1,247,159 จงั หวดั ทมี่ า : กรมการปกครอง ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 เดก็ หมายถงึ บคุ คลท่ีมีอายุตำ่ กว่า 18 ปีบริบรู ณ์ (ทมี่ า พรบ.คุ้มครองเด็ก ปี พ.ศ. 2546) รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพ้นื ทร่ี บั ผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชาการ 6 19 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

แผนภาพท่ี 5 แสดงแนวโน้มจำนวนเด็ก จำแนกตามรายจงั หวัด พ.ศ.2553 – 2562 (หน่วย:คน) 500,000 450,000 400,000 350,000 300,000 250,000 200,000 150,000 100,000 50,000 - 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บงึ กาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธ์ุ อานาจเจรญิ อบุ ลราชธานี 3.1.2 กลมุ่ เยาวชน ประชากรที่เป็นเยาวชน หรือบุคคลที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ถึง 25 ปีบริบูรณ์ ที่อยู่ในพื้นที่ความ รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 664,612 คน และ จากข้อมูลประชากรเยาวชนโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากร เยาวชนลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังตารางที่ 14 และแผนภาพที่ 6 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัด ปี 2562 พบว่า จังหวัดอำนาจเจริญมีประชากรเยาวชนต่ำที่สุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 42,361 คน คิดเป็น ร้อยละ 6.37 ของประชากรเยาวชนในกลุ่มจังหวัด และ จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีประชากรเยาวชน สูงสดุ ในกลมุ่ จงั หวดั จำนวน 222,111 คน คิดเปน็ ร้อยละ 33.41 ของประชากรเยาวชนในกลุม่ จังหวัด ตารางท่ี 14 แสดงจำนวนเยาวชนจำแนกตามจังหวัดรายปี พ.ศ.2553-2562 (หน่วย : คน) จงั หวดั 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บึงกาฬ 0 46528 46721 47641 47963 48,652 48,686 48,233 47,387 46,821 นครพนม 82750 82193 82400 82867 83559 85,008 85,434 85,021 84,036 83,126 สกลนคร 135702 134077 133274 134949 136134 137,371 135,933 134,074 132,175 129,735 มกุ ดาหาร 41043 40248 39777 40088 40488 40,919 41,242 40,780 40,115 39,250 กาฬสนิ ธ์ุ 119037 118436 117336 114882 113700 112,637 110,767 108,450 104,967 101,208 อำนาจเจริญ 45635 45901 46191 46422 46369 46,370 46,087 45,158 43,816 42,361 อุบลราชธานี 228521 228880 229625 232993 234076 235,579 234,677 232,204 227,120 222,111 รวมกลุ่ม 652,688 696,263 695,324 699,842 702,289 706,536 702,826 693,920 679,616 664,612 จงั หวดั ท่มี า : กรมการปกครอง ข้อมูล ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2562 เยาวชน หมายถึง บุคคลท่ีมอี ายตุ งั้ แต่ 18 ปบี ริบรู ณ์ ถึง 25 ปบี รบิ ูรณ์ (ทมี่ า พรบ.ส่งเสรมิ การพฒั นาเด็ก และเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550) รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6 20 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

แผนภาพท่ี 6 แสดงแนวโนม้ จำนวนเยาวชน จำแนกตามรายจังหวดั พ.ศ.2553-2562 (หน่วย:คน) 3.1.3 กล่มุ สตรี ประชากรที่เป็นสตรี (เพศหญิงทุกช่วงวัย) ที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 2,952,026 คน และจากข้อมูลประชากรสตรีโดยรวม ระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากรสตรีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังตาราง ที่ 15 และแผนภาพที่ 7 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัด ปี 2562 พบว่า จังหวัดมุกดาหาร มีประชากรสตรีต่ำที่สุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 176,466 คน คิดเป็นร้อยละ 5.97 ของประชากรสตรี ในกลุ่มจังหวัด และจงั หวัดอุบลราชธานีเปน็ จังหวัดท่มี ปี ระชากรสตรีสงู สุดในกลมุ่ จังหวดั จำนวน 939,092 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 31.81 ของประชากรสตรีในกลุ่มจงั หวดั ตารางที่ 15 แสดงจำนวนสตรีจำแนกตามจงั หวดั รายปี พ.ศ.2553-2562 (หนว่ ย : คน) จังหวดั 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บงึ กาฬ 0 200514 203187 206406 207545 208,520 209,193 210,226 211,009 211,232 360,415 นครพนม 349139 350641 352480 355907 357229 358,390 359,053 359,716 360,201 579,048 176,466 สกลนคร 555087 557624 560844 567443 569652 571,900 573,986 576,126 578,205 495,967 189,806 มกุ ดาหาร 166707 167686 168850 171554 172563 173,703 174,302 175,133 175,963 939,092 2,952,026 กาฬสนิ ธ์ุ 487921 489392 491274 493954 494322 495,156 495,615 496,235 496,570 อำนาจเจริญ 183310 184259 184953 187177 187636 188,276 188,747 189,370 189,851 อบุ ลราชธานี 889361 894833 900205 914898 919193 926,679 929,881 933,581 936,782 รวมกลุ่ม 2,631,525 2,844,949 2,861,793 2,897,339 2,908,140 2,922,624 2,930,777 2,940,387 2,948,581 จังหวัด ทม่ี า : กรมการปกครอง ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 2562 หมายเหตุ สตรี หมายถงึ ข้อมูลทเี่ ปน็ เพศหญงิ ทุกช่วงวยั รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพนื้ ทีร่ บั ผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 6 21 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ,์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

แผนภาพท่ี 7 แสดงแนวโนม้ จำนวนสตรี จำแนกตามรายจงั หวัด พ.ศ. 2553-2562 (หน่วย:คน) 3.1.4 กลมุ่ ครอบครวั สถานการณค์ รอบครวั ทีอ่ ยู่ในพ้นื ท่ีความรับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6 ในปี พ.ศ. 2562 มีการจดทะเบียนสมรส 22,985 คู่ และจากข้อมูลตารางที่ ระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่ามีการจดทะเบียนสมรสทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงในบางปี ดังตารางที่ 16 และแผนภาพที่ 8 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัด 3 ปี (พ.ศ.2560-2562) พบว่า จังหวัดมุกดาหาร มีการจดทะเบียน สมรสที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับอีก 6 จังหวัด(บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ อำนาจเจริญ อบุ ลราชธานี) มีทิศทางการจดสะเบียนสมรสเพมิ่ ขน้ึ อย่างต่อเนื่อง ตารางที่ 16 แสดงจำนวนการจดทะเบยี นสมรสจำแนกตามจังหวัดรายปี พ.ศ.2553 – 2562 (หนว่ ย : คู่) จงั หวัด 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บงึ กาฬ 0 1,245 1,878 1,688 1,736 1,825 1,543 1,611 1,713 1,753 นครพนม 2,530 2,682 2,695 2,447 2,444 2,519 2,496 2,336 2,568 2,522 สกลนคร 4,520 4,530 4,474 4,520 4,496 4,748 4,471 4,025 4,309 4,643 มุกดาหาร 1,262 1,393 1,463 1,378 1,327 1,496 1,399 1,355 1,337 1,328 กาฬสินธุ์ 4,072 4,172 4,141 4,249 3,853 3,995 3,972 3,734 3,733 3,861 อำนาจเจรญิ 1,570 1,612 1,575 1,440 1,423 1,445 1,128 1,085 1,205 1,344 อบุ ลราชธานี 7,941 8,245 7,653 7,268 7,073 7,791 6,830 6,428 6,974 7,534 รวมกลมุ่ จังหวดั 21,895 23,879 23,879 22,990 22,352 22,352 21,839 20,574 21,839 22,985 ท่มี า : กรมการปกครอง ข้อมูล ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม 2562 รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุม่ จงั หวัดในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6 22 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

แผนภาพที่ 8 แสดงแนวโนม้ จำนวนการจดทะเบียนสมรส จำแนกตามรายจังหวัด พ.ศ. 2553 – 2562 (หน่วย:ค)ู่ 10,000 5,000 0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มกุ ดาหาร กาฬสินธ์ุ อานาจเจริญ อบุ ลราชธานี 3.1.5 กล่มุ ผู้สูงอายุ ประชากรสูงอายุ ที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2562 มจี ำนวนรวม 897,150 คน และจากข้อมูลประชากรผ้สู งู อายโุ ดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังตารางที่ 17และแผนภาพที่ 9 และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัด ปี 2562 พบว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีประชากรสูงอายุสูงที่สุด ในกลุ่มจังหวัด จำนวน 288,746 คน คิดเป็นร้อยละ 32.18 ของประชากรผู้สูงอายุในกลุ่มจังหวัด และจังหวัด มุกดาหารเป็นจังหวัดที่มีประชากรผู้สูงอายุต่ำสุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 52,925 คน คิดเป็นร้อยละ 5.89 ของประชากรผสู้ งู อายุในกล่มุ จังหวัด ตารางที่ 17 แสดงจำนวนผู้สูงอายุจำแนกตามจังหวัดรายปี พ.ศ.2553 – 2562 (หน่วย : คน) จงั หวดั 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บึงกาฬ 0 40,475 42,337 45,612 47,496 49,571 51,994 54,301 56,738 56,744 นครพนม 72,605 75,843 78,952 84,645 87,804 91,705 95,271 99,047 102,935 107,366 สกลนคร 106,708 112,052 117,372 126,836 132,836 139,194 146,107 153,389 160,508 168,863 มุกดาหาร 34,225 35,769 37,358 41,104 42,673 44,578 46,607 48,498 50,535 52,925 กาฬสนิ ธุ์ 106,628 111,426 116,330 126,284 131,429 136,690 141,963 147,902 154,372 160,764 อำนาจเจรญิ 40,082 42,064 43,896 48,004 49,900 51,903 54,307 56,608 59,043 61,742 อบุ ลราชธานี 188,423 196,750 205,581 226,690 235,723 245,327 254,622 265,383 276,516 288,746 รวมกลมุ่ 548,671 614,379 641,826 699,175 727,861 758,968 790,871 825,128 860,647 897,150 จงั หวดั ที่มา : กรมการปกครอง ข้อมูล ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2562 ผู้สูงอายุ หมายถงึ บุคคลทมี ีอายุ 60 ปีขึน้ ไป รายงานสถานการณท์ างสังคมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพน้ื ทร่ี บั ผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6 23 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

แผนภาพที่ 9 แสดงแนวโน้มจำนวนผสู้ งู อายุ จำแนกตามรายจังหวัด พ.ศ.2553 – 2562 (หนว่ ย:คน) 400,000 200,000 0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บงึ กาฬ นครพนม สกลนคร มกุ ดาหาร กาฬสินธ์ุ อานาจเจริญ อบุ ลราชธานี 3.1.6 กลุ่มคนพิการ ประชากรคนพิการที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนรวม 203,752 คน และจากข้อมูลประชากรคนพิการโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงให้เห็นแนวโน้มว่าจำนวนประชากรคนพิการเพิ่มขึ้น ดังตารางที่ 18 และแผนภาพที่ 10 และ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบรายจังหวัด ปี 2562 พบว่าจังหวัดมุกดหาร มีประชากรคนพิการต่ำที่สุด ในกลุ่มจังหวัด จำนวน 11,247 คน คิดเป็นร้อยละ 5.51 ของประชากรคนพิการในกลุ่มจังหวัด และ จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีประชากร คนพิการสูงสุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 68,116 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 33.43 ของประชากรคนพิการในกลุ่มจังหวดั ตารางที่ 18 จำนวนคนพิการทม่ี ีบตั รประจำตวั คนพิการจำแนกตามจงั หวดั พ.ศ.2553 - 2562 (หน่วย: คน) จงั หวดั 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บึงกาฬ - 7,498 8,235 9,467 10,403 11,148 10,735 11,338 11,777 12,137 นครพนม 14,191 16,871 18,214 20,149 21,613 22,602 21,585 22,629 23,024 23,354 สกลนคร 21,898 25,039 27,176 29,984 32,457 34,457 34,060 36,166 37,028 37,967 มกุ ดาหาร 5,365 6,894 7,979 8,890 9,819 10,630 10,259 10,708 10,955 11,247 กาฬสินธ์ุ 11,486 14,868 18,284 21,670 25,365 27,957 29,603 32,792 34,417 36,086 อำนาจเจรญิ 5,238 7,301 8,479 9,592 11,304 12,085 12,440 13,533 14,080 14,845 อุบลราชธานี 25,256 29,842 35,658 41,603 47,922 54,830 58,597 64,482 66,524 68,116 รวม 83,434 108,313 124,025 141,355 158,883 173,709 177,279 191,648 197,805 203,752 ทมี่ า : กรมสง่ เสรมิ และพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนพิการ ข้อมูล ณ วันท่ี 30 มถิ ุนายน 2563 คนพกิ าร คอื คนทจี่ ดทะเบียนเปน็ ผู้พกิ ารหรือทุพพลภาพ ตามความหมายของ พรบ.ส่งเสริมและพฒั นา คุณภาพชวี ิตคนพกิ าร พ.ศ. 2550 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวัดในเขตพนื้ ทรี่ ับผดิ ชอบของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนุนวชิ าการ 6 24 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

แผนภาพที่ 10 แสดงแนวโน้มจำนวนคนพกิ ารทีม่ ีบัตรประจำตวั คนพกิ าร จำแนกตามจังหวดั (หน่วย:คน) 100,000 50,000 - 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 บงึ กาฬ นครพนม สกลนคร มกุ ดาหาร กาฬสินธ์ุ อานาจเจริญ อบุ ลราชธานี 3.1.7 กลุม่ ผดู้ ้อยโอกาส จำนวนคนยากจนที่อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ในปี พ.ศ. 2561 มีจำนวนรวม 746 พันคน และจากข้อมูลจำนวนคนยากจนโดยรวมระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 แสดงใหเ้ ห็นแนวโน้มวา่ จำนวนคนยากจนลดลง ดงั ตารางที่ 19 และแผนภมู ทิ ่ี 11 และเมอื่ พจิ ารณาเปรยี บเทียบ รายจังหวัด ปี 2562 พบว่า จังหวัดกาฬสินธ์ุ มีจำนวนคนยากจนสูงที่สุดในกลุ่มจังหวัด จำนวน 251,500 คน และ จังหวัดบงึ กาฬเป็นจังหวดั ท่ีมีจำนวนคนยากจนตำ่ ทสี่ ดุ ในกลุม่ จงั หวัด จำนวน 41,400 คน ตารางที่ 19 แสดงจำนวนคนยากจน จำแนกตามรายจงั หวดั รายปี พ.ศ.2553-2562 (หน่วย: พนั คน) จังหวัด 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 บึงกาฬ 0 0 13.9 10.7 14.6 8.3 26.6 19.5 41.4 นครพนม 270.9 186.5 204 179.2 142.5 94.9 171.5 156.8 98.4 สกลนคร 238.3 228.9 320.1 209 218.5 158.6 126.8 72.7 107.5 มกุ ดาหาร 64 35.5 109 103 83.3 44.5 69.8 48.8 40.5 กาฬสินธุ์ 486.3 235 326.8 254.1 348.4 144.7 259.3 266.2 251.5 อำนาจเจรญิ 54.1 41.9 62.4 54.3 49.5 39.8 66.6 39.0 64.8 อุบลราชธานี 375.1 128.6 181.1 419.6 228.7 198.5 234.6 181.0 141.4 รวม 1,488.7 856 1,217 1,230 1,086 689 955 784 746 ทม่ี า : สำนกั งานสถติ ิแห่งชาติ สืบคน้ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 30 มิถุนายน 2563 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกล่มุ จังหวดั ในเขตพนื้ ท่รี ับผิดชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 25 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

แผนภาพที่ 11 แสดงแนวโน้มจำนวนคนยากจน จำแนกตามจงั หวัด พ.ศ.2553-2562 (หน่วย:คน) 600 400 200 0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 บงึ กาฬ นครพนม สกลนคร มกุ ดาหาร กาฬสินธ์ุ อานาจเจริญ อบุ ลราชธานี 3.2 สถานการณ์ทางสังคมเชิงประเดน็ ❖ สถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัว นิยามศพั ท์ ตามพระราชบัญญัติคุม้ ครองผูถ้ ูกกระทำความรนุ แรงในครอบครัว พ.ศ. 2560 ความรุนแรงในครอบครัว หมายความว่า การกระทำใดๆ โดยมุ่งประสงค์ให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ หรือกระทำโดยเจตนาในลักษณะที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพ ของบุคคลในครอบครัว หรือบังคับหรือใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมให้บุคคลในครอบครัวต้องกระทำการ ไมก่ ระทำการ หรอื ยอมรับการกระทำอย่างหนึง่ อยา่ งใดโดยมิชอบ แตไ่ ม่รวมถึงการกระทำโดยประมาท การถูกกระทำรนุ แรง แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ➢ การกระทำรุนแรงทางกาย หมายถึง การใช้กำลังและ/หรือ อุปกรณ์ใด ๆ เป็นอาวุธทำร้าย ร่างกาย เกนิ กว่าเหตุมีผลทำใหร้ ่างกายได้รับบาดเจ็บ ➢ การกระทำรุนแรงทางจิต หมายถึง การกระทำใด ๆ ที่มีผลให้ผู้ถูกกระทำได้รับ ความกระทบกระเทือนด้านจิตใจหรือเสียสิทธิเสรีภาพ ได้แก่ การทอดทิ้ง การดูถูก เหยียด หยาม หรือดุดา่ การกกั ขังหนว่ งเหนี่ยว ➢ การกระทำรุนแรงทางเพศ หมายถึง การกระทำที่มีผลให้ผู้ถูกกระทำได้รับ ความกระทบกระเทือนหรือเสียหายเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ได้แก่ การถูกข่มขืน การถูก ลวนลาม อนาจาร และการถูกบงั คับคา้ ประเวณี รายงานสถานการณท์ างสงั คมกล่มุ จงั หวดั ในเขตพ้ืนที่รบั ผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 6 26 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

ตารางท่ี 20 แสดงเหตุการณค์ วามรนุ แรงในครอบครวั ปี 2563 ของจงั หวดั ในเขตพื้นทร่ี บั ผิดชอบของ สสว.6 จงั หวัด รวมเหตุการณ์ จำนวนผูก้ ระทำ จำนวนผถู้ กู กระทำ (ราย) (ราย) ชาย หญิง ไมร่ ะบุ ชาย หญิง ไมร่ ะบุ บงึ กาฬ 5 2 3 0 2 3 0 นครพนม 4 40 310 มกุ ดาหาร 11 8 3 0 1 10 0 สกลนคร 13 12 1 0 4 9 0 กาฬสินธ์ุ 3 2 1 0 020 อำนาจเจรญิ 5 5 0 0 050 อุบลราชธานี 13 12 1 0 2 11 0 รวม 54 45 9 0 12 41 0 ท่มี า : www.violence.in.th สบื คน้ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2563 แผนภาพท่ี 12 แสดงเหตกุ ารณ์ความรนุ แรงในครอบครัว ปี 2563 รายจงั หวดั ในเขตพน้ื ท่ีรบั ผิดชอบของ สสว.6 14 13 13 12 11 10 8 5 3 65 4 4 2 0 จากตารางที่ 20 และแผนภาพที่ 12 แสดงเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ปี 2563 ของ จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว. 6 พบว่า ความรุนแรงในครอบครัวปี 2563 มีจำนวน 54 เหตุการณ์ ผู้ชายเป็นผู้กระทำมากที่สุด จำนวน 45 ราย ผู้หญิงเป็นผู้กระทำ จำนวน 9 ราย สำหรับจำนวนผู้ถูกกระทำมี ท้ังสนิ้ 53 ราย ผู้หญิงเปน็ ผู้ถกู กระทำมากทีส่ ดุ จำนวน 41 ราย ผชู้ ายถูกกระทำจำนวน 12 ราย เมื่อพิจารณา รายจังหวัดพบว่าจังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุบลราชธานี พบเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด จำนวน 13 เหตุการณ์ รองลงมาคือจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 11 เหตุการณ์ และจังหวัดที่พบเหตุการณ์ความรุนแรง นอ้ ยท่สี ดุ คอื จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ จำนวน 3 เหตกุ ารณ์ รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวดั ในเขตพน้ื ที่รบั ผิดชอบของสำนักงานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวชิ าการ 6 27 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

ตารางที่ 21 แสดงจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวจำแนกตามประเภทเหตุการณ์ความรุนแรง ของจงั หวดั ในเขตพื้นที่รบั ผิดชอบของ สสว.6 ประเภท จำนวน จงั หวัด เหตกุ ารณ์ เหตุการณ์ บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสนิ ธุ์ อำนาจเจรญิ อบุ ลราชธานี ความ 7จังหวัด รุนแรง กกั ขงั / 2 0 0 0 1 1 0 0 หนว่ ง เหน่ียว การละเลย/ 4 0 0 3 0 0 1 0 ทอดทงิ้ ขม่ ขืน 1 0 0 0 0 0 0 1 ดุด่า/ดูถูก 19 0 2 10 3 1 0 3 ทำรา้ ย 43 5 1 9 9 1 5 13 รา่ งกาย ลอ่ ลวง 0 0 0 0 0 0 0 0 หยาบคาย/ 15 0 1 6 4 2 0 2 ตะคอก/ ประจาน/ ข่/ู บังคบั อนาจาร 0 0 0 0 0 0 0 0 ไมร่ ะบุ 0 0 0 0 0 0 0 0 ท่ีมา : www.violence.in.th สืบค้นขอ้ มูล ณ วันท่ี 7 สิงหาคม 2563 แผนภาพที่ 13 แสดงจำนวนเหตุการณค์ วามรนุ แรงจำแนกตามประเภทเหตุการณค์ วามรุนแรงของ 7 จังหวัด ในเขตพื้นทร่ี ับผิดชอบของ สสว.6 00 1 0 15 2 4 19 กักขัง/หน่วงเหนี่ยว การละเลย/ทอดท้งิ 43 ขม่ ขนื ท่มี า : www.violence.in.th ณ สบื คน้ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2563 จากตารางท่ี 21 และแผนภาพท่ี 13 แสดงจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวจำแนก ตามประเภทเหตุการณ์ความรุนแรงของจังหวัดในเขตรับผิดชอบของสสว.6 ปี 2563 พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 84 เหตุการณ์ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมากที่สุด ได้แก่ การทำร้ายร่างกาย จำนวน 43 เหตุการณ์ รองลงมาคือ ดุด่า/ดูถูก จำนวน 19 เหตุการณ์ และ หยาบคาย/ตะคอก/ประจาน/ขู่/บังคับ จำนวน 15 เหตุการณ์ รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพน้ื ทีร่ บั ผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6 28 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธุ์,อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

ตารางท่ี 22 แสดงจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวจำแนกตามสาเหตุ/ปัจจัยของจังหวัดในเขต พ้นื ท่ีรบั ผดิ ชอบของ สสว.6 (หน่วย:ราย) สาเหต/ุ นอกใจ/หึง เมาสรุ า/ เศรษฐกิจ/ สาเหตุ สื่อลามก สขุ ภาพ ไม่ระบุ อ่ืนๆ กาย/จิต ปัจจัย หวง ยาเสพติด ตกงาน 2 0 10 จงั หวัด 0 0 00 0 0 11 0 บงึ กาฬ 0 2 0 0 0 00 0 0 00 นครพนม 0 3 0 0 0 00 1 0 10 มกุ ดาหาร 4 8 7 3 0 13 0 สกลนคร 1 9 4 กาฬสนิ ธ์ุ 0 1 0 อำนาจเจริญ 1 4 1 อุบลราชธานี 2 11 0 รวม 8 38 12 ท่มี า : www.violence.in.th ณ วนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2563 แผนภาพที่ 14 แสดงจำนวนสาเหต/ุ ปจั จยั ความรุนแรงของ 7 จังหวัดในเขตพ้ืนท่รี ับผิดชอบของ สสว.6 สอ่ื ลามก สขุ ภาพกาย/จิต ไมร่ ะบุ นอกใจ/หงึ หวง 0% 18% 0% 11% สาเหตอุ ่ืนๆ 4% เศรษฐกิจ/ตกงาน 16% เมาสรุ า/ยาเสพตดิ 51% ท่มี า : www.violence.in.th สืบคน้ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 7 สิงหาคม 2563 จากตารางที่ 22 และแผนภาพที่ 14 แสดงสาเหตุ/ปัจจัยการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ปี 2563 ของจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.6 พบว่า มีสาเหตุที่สำคัญอันดับ 1 คือ เมาสุรา/ยาเสพติด จำนวน 38 ราย คิดเปน็ ร้อยละ 51 รองลงมาคอื สาเหตุจากสขุ ภาพกาย/จติ จำนวน 13 ราย คิดเป็นรอ้ ยละ 18 เศรษฐกิจ/ตกงาน จำนวน 12 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 นอกใจ/หึงหวง จำนวน 8 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 และ สาเหตอุ ื่น ๆ จำนวน 3 ราย คดิ เป็นรอ้ ยละ 4 ตามลำดับ รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวดั ในเขตพ้ืนท่รี ับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6 29 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,์ุ อำนาจเจริญ,อุบลราชธาน)ี

3.3 สถานการณ์ทางสังคมท่เี กดิ จากสถาณการณ์การแพรเ่ ชื้อไวรัสโควดิ -19 3.3.1 ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 คืออะไร ? ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เป็นตระกูลของไวรัสที่ก่อให้มีอาการป่วยตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดา ไปจนถึงโรคที่มีความรุนแรงมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบ ทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) เป็นต้น ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ ก่อให้เกิดอาการปว่ ยระบบทางเดินหายใจในคน และสามารถแพร่เช้ือจากคนส่คู นได้ โดยเชื้อไวรสั น้พี บครั้งแรก ในการระบาดในเมอื งอู่ฮ่นั มณฑลหเู ปย่ ์ สาธารณรฐั ประชาชนจีน ในชว่ งปลายปี 2019 3.3.2 อาการของผู้ป่วยไวรสั โคโรนาสายพนั ธุ์ใหม่ 2019 อาการทั่วไป ได้แก่ อาการระบบทางเดินหายใจ มีไข้ ไอ หายใจถี่ หายใจลำบาก ในกรณีที่อาการ รนุ แรงมาก อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซอ้ น เช่น ปอดบวม ปอดออักเสบ ไตวาย หรืออาจเสยี ชวี ิต 3.3.3 กลุ่มเส่ียงตดิ เช้ือไวรสั โคโรนาสายพันธ์ใุ หม่ หรอื โควดิ -19 • เด็กเลก็ (แตอ่ าจไม่พบอาการรนุ แรงเท่าผสู้ ูงอายุ) • ผสู้ ูงอายุ • คนที่มโี รคประจำตวั อยแู่ ล้ว เชน่ โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเร้ือรัง • คนทภ่ี มู คิ มุ้ กนั ผิดปกติ หรอื กินยากดภูมติ า้ นทานโรคอยู่ • คนที่มีน้ำหนักเกนิ มาตรฐานมาก (คนอว้ นมาก) • ผ้ทู ี่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเช้อื เชน่ จีน เกาหลีใต้ ญ่ีปุน่ ไต้หวนั ฮ่องกง มาเก๊า สงิ คโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อติ าลี อหิ ร่าน ฯลฯ • ผทู้ ่ีต้องทำงาน หรอื รักษาผ้ปู ่วย ตดิ เช้ือไวรสั โคโรนาสายพันธใุ์ หม่ หรือโควิด-19 อยา่ งใกล้ชดิ ผู้ทท่ี ำอาชีพท่ีต้องพบปะชาวต่างชาตจิ ำนวนมาก เชน่ คนขับแท็กซ่ี เจา้ หนา้ ท่ีในโรงพยาบาล ลกู เรือสายการบิน ต่าง ๆ เป็นตน้ 3.3.4 ความรุนแรงของการติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนาสายพนั ธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีอาการคล้ายไข้หวัด อาการทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดออักเสบ ไตวาย หรืออาจเสียชีวติ แม้ว่าอาการหลายอย่างจะคล้ายคลงึ แต่เนื่องจากเกิดจากเชื้อไวรัสท่ีแตกตา่ งกัน จึงเป็นเร่อื ง ยากที่จะสามารถระบโุ รคตามอาการเพียงอยา่ งเดยี ว จึงตอ้ งอาศัยการทดสอบทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารเพ่ือยนื ยันเช้ือ 3.3.5 การแพร่กระจายและการระบาดของเช้ือไวรสั โคโรนาสายพนั ธใ์ุ หม่ หรือ โควิด-19 ไวรัสชนิดนี้มคี วามเป็นไปได้ทีม่ ีสัตว์เป็นแหลง่ รังโรค ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการสมั ผัสกับผู้ติดเชือ้ ผ่านทางละอองเสมหะจากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนการแพร่กระจายเช้ือ ผ่านทางการพื้นผิวสัมผัสที่มีไวรัสแล้วมาสัมผัส ปาก จมูกและตา สามารถแพร่เชื้อผ่านทาง Fexo-oral route ได้ด้วย การระบาดครั้งแรกที่ตลาด South China Seafood เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน จากนั้นแพร่ ระบาดไปหลายๆ พื้นที่ในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ และสำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รายแรกเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 61 ปีและพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางมาจากเมืองอฮู่ นั่ และชาวไทยที่เดินทางกลับจากประเทศญปี่ นุ่ อหิ ร่าน อติ าลีและชาติอ่ืนๆ (ทีม่ า: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/faq_more.php) รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวัดในเขตพน้ื ทร่ี ับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6 30 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ,์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

แผนภาพที่ 15 แสดงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โควิด-19 การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มต้นที่ประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ต่อมาได้พบผู้ป่วยยืนยันในหลายประเทศทั่วโลก วันที่ 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลกประกาศ โรค COVID-19 ระบาดใหญ่ (Pandemic) มีจำนวนผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างรวดเรว็ อัตราการเสียชีวิตจากโรคประมาณร้อยละ 4.6 กลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ และผู้ที่มโี รค ประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งจากรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ วันท่ี 25 สิงหาคม 2563 พบว่า มีผู้ติดเชื้อทั่วโลก จำนวน 23,801,729คน เสียชีวิต 816,552 คน รักษาหาย 16,349,839 คน และในประเทศไทย พบว่ามผี ูต้ ิดเชอื้ จำนวน 3,402 คน เสียชีวิต 58 คน รักษาหาย 3,229 คน อายุของผู้ติดเชื้อ อายุน้อยสุด 1 เดือน อายุมากสุด 97 ปี อายุเฉลี่ย 37 ปี และสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ 7 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน วิชาการ 6 พบวา่ มผี ู้ตดิ เชือ้ จำนวน 27 ราย รักษาหาย 27 ราย ไมม่ ีผเู้ สยี ชีวติ ดงั แผนภาพที่ 15 รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพืน้ ทรี่ ับผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 6 31 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

3.3.6 ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 จากผลการสำรวจคนเมืองในภาวะวิกฤตโควิด- 19 พบว่าสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบ เป็นวงกว้างในดา้ นเศรษฐกจิ และสังคม การหยดุ งานของทั้งภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงการ ขยายตัวของภาคเกษตรกรรม ร้อยละ 18.87 นายจ้างให้หยุดงานหรือเลิกจ้าง ร้อยละ 18.44 อาชีพอิสระและไม่มีผู้ว่าจ้างหรือมีผู้ใช้บริการ ลดลง ร้อยละ 18.22 อาชีพค้าขาย ค้าขายได้ น้อยลง ร้อยละ 18 นายจ้างให้ลดเวลาทำงาน และรอ้ ยละ 8.24 ผลกระทบอืน่ ๆ นอกจากส่งผลกระทบต่อการทำงานแล้วยัง ส่งผลให้รายได้ของประชาชนลดลงตามไปด้วย ร้อยละ 60.24 รายได้ลดลงเกือบทั้งหมด ร้อย ละ 31.21 รายได้ลดลงกึ่งหนึ่ง ร้อยละ 8.55 ร า ย ไ ด ้ เ ท ่ า เ ด ิ ม จ ะ เ ห ็ น ไ ด ้ ว ่ า ป ร ะ ช า ช น เ กิ น ครึ่งหนึ่งมีรายได้ลดลงจากผลกระทบของ สถานการณ์โควิด-19 จากการที่มีรายได้ลดลง ส่งผลใหป้ ระชาชนเดือดร้อนเรื่องการไม่มีเงินสง่ หนี้สิน หนี้รถยนต์ หนี้ผ่อนบ้าน ร้อยละ 54.41 ต้องกู้หนี้ยืมสิน ร้อยละ 33.82 ต้องนำเงินออม ออกมาใช้ ร้อยละ 29.83 ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าที่อยู่ อาศัย ร้อยละ 26.02 ไม่มีเงินสำหรับรายจ่ายที่ จำเป็นของครัวเรอื น เช่นดูแลผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และต้องเอา ขา้ วของไปจำนำ รอ้ ยละ 20.80 ที่มา http://the standard.co รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจังหวัดในเขตพืน้ ที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วิชาการ 6 32 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธุ์,อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

3.3.7 การสำรวจขอ้ มูลผู้ได้รบั ผลกระทบการแพรร่ ะบาดในพืน้ ท่ีกลมุ่ จงั หวดั จ า ก ก า ร ส ำ ร ว จ ข ้ อ ม ู ล ผ ู ้ ไ ด ้ ร ั บ ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ก า ร แ พ ร ่ ร ะ บ า ด ใ น พ ื ้ น ท ี ่ ก ล ุ ่ ม จ ั ง ห วั ด โดยสำนักงานพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนุษยจ์ ังหวัด ณ วันที่ 30 เมษายน 2563 กลุ่มเปา้ หมายในพ้ืนท่ี กลุ่มจังหวัดในเขตรับผิดชอบของ สสว.6 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 พบว่า กลุม่ ทที่ ำการสำรวจ ส่วนใหญ่ไดร้ บั ผลกระทบในส่วนของรายไดล้ ดลง จำนวน 17,090 คน รองลงมาคือ วา่ งงาน 6,756 ราย ถูกเลิกจ้าง 952 ราย และอื่น ๆ 4,536 ราย ดังตารางที่ 23 ตารางที่ 23 ผลกระทบจากสถานการณโ์ ควิด (หนว่ ย:ราย) ผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 กลมุ่ กลมุ่ เสีย่ ง ติดเชอื้ COVID-19 ถกู เลิกจา้ ง วา่ งงาน รายได้ลดลง อน่ื ๆ เดก็ 0 0 21 157 279 147 ผสู้ งู อายุ 2 0 58 1301 3646 1036 เยาวชน 0 0 139 307 609 114 สตรี 1 0 483 1915 6753 1275 ผูพ้ ิการ 0 0 46 729 1138 633 คนยากจน 1 0 205 2347 4665 1331 รวม 4 0 952 6756 17090 4536 ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด – 19 ในกลุ่มจังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 พบว่าส่วนใหญ่ ไม่มีอาชีพ/ว่างงาน 5,442 ราย คิดเป็น 32.02 % รองลงมา ประกอบอาชีพรับจ้าง 4,331 ราย คิดเป็น 25.48 % และ ประกอบอาชีพ เกษตรกร (ทำไร่/ทำนา/ ทำสวน/เลยี้ งสตั ว์/ประมง 3,527 ราย คดิ เปน็ 20.75 % ดังตารางที่ 24 ตารางที่ 24 อาชีพของผ้ไู ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด – 19 (หน่วย:ราย) อาชพี ของผู้ได้รบั ผลกระทบ จำนวน ร้อยละ ไม่มีอาชพี /ว่างงาน 5,442 32.02 นกั เรียน/นักศึกษา 571 3.36 ค้าขาย/ธุรกจิ สว่ นตวั 2,048 12.05 ภกิ ษุ/สามเณร/แมช่ ี 7 0.04 เกษตรกร (ทำไร่/นา/สวน/เลย้ี งสัตว์/ประมง) 3,527 20.75 รบั จา้ ง 4,331 25.48 ขา้ ราชการ/พนักงานของรฐั 44 0.25 พนักงานรัฐวิสาหกิจ 12 0.07 พนักงานบริษทั 229 1.34 อ่นื ๆ 781 4.59 รวม 16,992 จากผลกระทบของสถานการณ์ โควิด – 19 ในกลุ่มจังหวัดรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริม และสนับสนุนวิชาการ 6 พบว่า ผู้ได้รับผลกระทบมีความต้องการช่วยเหลอื มากที่สุด คือ ต้องการเงินอุดหนุน/ เงินสงเคราะห์ จำนวน 26,803ราย รองลงมา ต้องการเงินซ่อมแซมบ้าน 6,277 ราย ต้องการการประกอบ อาชีพ 5,811 ราย ต้องการการจา้ งงาน 5,028 ราย และตอ้ งการการจัดหาที่อยูอ่ าศัย 937 ราย ดงั ตารางที่ 25 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุม่ จงั หวัดในเขตพน้ื ทรี่ ับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนุนวชิ าการ 6 33 (บงึ กาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

ตารางที่ 25 การตอ้ งการความชว่ ยเหลือ (หน่วย:คน) จำนวนผตู้ ้องการความช่วยเหลอื กลมุ่ เงนิ อุดหนนุ / การประกอบ การจ้างงาน เงนิ ทนุ ประกอบ เงนิ ซอ่ มแซมปรบั ปรุง การจดั หาที่พกั เงินสงเคราะห์ อาชพี อาชพี ที่อยู่อาศยั อาศยั เดก็ 551 125 88 93 109 19 ผ้สู งู อายุ 5,487 1,054 988 1,121 1,364 178 เยาวชน 1,085 280 198 144 167 35 สตรี 9,427 2,092 1,708 1,755 1,874 334 ผู้พิการ 2,308 492 497 593 758 97 คน 7,945 1,768 1,549 1,459 2,005 274 ยากจน 26,803 5811 5,028 5,165 6,277 937 รวม 3.3.8 กระบวนการทำงานในระดบั พืน้ ที่ในเขตรบั ผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ าการ 6 ในภาวะวิกฤติภายใต้สถานการณแ์ พร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ✓ ออกคำสัง่ จังหวดั ทสี่ อดคล้อง กบั พ.ร.ก.ฉกุ เฉิน /พ.ร.บ.โรคตดิ ต่อ พ.ศ. 2558 ✓ มาตรการควบคมุ การดำเนนิ งานของกิจการต่าง ๆ - งดจำหนา่ ยสรุ า ควบคมุ ราคาสนิ ค้าและการกักตนุ สนิ ค้า - ปิด/ลดเวลา การดำเนนิ งานของกจิ กรรมบางประเภท - ใหง้ ดเวน้ การบรกิ ารท่ีมีการรวมตัวกนั ของคนจำนวนมาก - ปดิ สถานศกึ ษาทุกประเภท สถานพฒั นาเด็กเลก็ และสถานรับเลี้ยงเดก็ ✓ มาตรการปอ้ งกันการแพร่ระบาดในชุมชน - มาตรการเดนิ ทางข้ามจังหวดั /ประเทศ - ขออนญุ าตเดนิ ทางข้ามจงั หวัด/ประเทศ - เข้ารับการตรวจคดั กรองโรคโดย จนท.ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย - เข้ารบั การกักตัวยังสถานทที่ ี่รัฐกำหนดเป็นเวลา 14 วัน เจา้ หน้าทที่ ่ไี ด้รับมอบหมาย เขา้ ดูแลอย่างใกล้ชดิ - งดการจดั งานทมี่ กี ารรวมตวั กันของคนจำนวนมาก - หน่วยงาน/ภาคเี ครือข่ายใหค้ วามรแู้ กป่ ระชาชน - คนในชมุ ชนร่วมกนั สงั เกตบุคคลท่เี ข้ามาอยูใ่ นชุมชน - มกี ารคดั กรอง/สุ่มตรวจ ผมู้ ีความเสีย่ ง โดย เจา้ หนา้ ทท่ี ี่ไดร้ ับมอบหมาย 3.3.9 การขับเคล่ือนงานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนั่ คงมนษุ ย์ในเขตพ้ืนท่ีรบั ผดิ ชอบ ของสำนักงานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 6 ตามมาตรการ ดงั นี้ ❖ ด้านการสาธารณสุข หน่วยงานในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.6 ได้ผลิต Infographic ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) และให้คำปรึกษาแนะนำแก่ประชาชนและเจ้าหน้าท่ี ของหน่วยงานในการปฏิบัติตนในการป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เชน่ การใช้หน้ากากอนามยั การล้างมอื อยา่ งถกู วิธี การลา้ งมือดว้ ยเจลแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องใช้ตา่ งๆ ไม่สัมผัสกับเคสหรอื ผู้รับบรกิ ารโดยตรง เป็นต้น และ สสว.6 ได้ผลิตคลปิ วีดีโอ สสว.6 ร่วมต้าน Covid-19 https://youtu.be/daNxIxtJDHU และการเยียวยาสภาพจิตใจ พร้อมทั้งวิธีการ รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวดั ในเขตพ้ืนทีร่ ับผดิ ชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวชิ าการ 6 34 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ,ุ์ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

ใช้ชีวิตประจำวันในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดย สสว.6 ได้ผลิต คลิปวีดีโอ ทางเลือก ทางรอด https://youtu.be/0PaPM0V16TA และภัยโควิด วิกฤติอารมณ์ https://youtu.be/JlRnN8oHi0Q และกำชบั ใหบ้ ุคลากรของหนว่ ยงานปฏบิ ัตติ ามประกาศของ ศนู ย์บริการ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) และประกาศกรมควบคุม โรคอย่างเครง่ ครัด ❖ ดา้ นเวชภณั ฑ์ปอ้ งกัน หนว่ ยงานในเขตพื้นที่รบั ผิดชอบของ สสว.6 ได้ดำเนนิ การผลิตหน้ากากผา้ เจลแอลกอฮอล์ ลา้ งมอื พร้อมท้งั แจกจา่ ยแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพนื้ ที่ ❖ ด้านมาตรการป้องกัน หนว่ ยงานในเขตพนื้ ที่รับผดิ ชอบของ สสว.6 ไดด้ ำเนินการ ดังน้ี (1) มาตรการป้องกันในการบรหิ าร ได้ออกคำสั่งจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระดับจังหวัด ประกอบด้วย ผอ.สสว.6 เป็นที่ปรึกษา พมจ.เป็นประธานกรรมการ หัวหน้า หน่วยงาน One Home เป็นกรรมการ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นกรรมการและ เลขานุการ ออกคำสั่งจัดตั้งทีมบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สสว.6 เพื่อปฏิบัติงานแทนกันในภาวะวิกฤติออกคำสั่งให้บุคลากรของหน่วยงานเหลื่อมเวลา ในการ เข้าปฏิบตั ิงานในสำนกั งาน ออกคำสง่ั ใหบ้ ุคลากรสามารถปฏบิ ตั ิงานท่ีบา้ นได้ (Work form Home) (2) มาตรการป้องกันในหน่วยงาน ได้มีคำสง่ั ให้บุคลากรของหนว่ ยงาน เหล่อื มเวลาในการเข้าปฏิบัตงิ านในสำนกั งาน ใหบ้ ุคลากร สามารถปฏิบตั ิงานทบ่ี ้านได้ (Work form Home) ตั้งจดุ คัดกรองกอ่ นเข้าปฏิบัติงาน โดยการตรวจวัดอณุ หภมู ิ สวมหนา้ กาก ลา้ งมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ลา้ งมือ จัดโต๊ะทำงานให้ห่างกัน 1 เมตร และทำความสะอาดบรเิ วณ สำนักงานเป็นประจำ (3) มาตรการป้องกันผู้รบั บรกิ าร ตั้งจุดคัดกรองผู้มาติดต่อราชการ โดยการตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากาก ล้างมือด้วยเจล แอลกอฮอล์ล้างมือ และเวน้ ระยะหา่ งในการเขา้ รบั บริการ มกี ารจดั ทำหน้ากากแจกจ่ายใหแ้ ก่ประชาชนท่ีมาใช้ บริการและจัดส่งให้ตามบ้าน สำหรับศูนย์/สถาน/บ้าน/นิคนที่มีผู้รับบริการงดเข้าเยี่ยมและจัดกิจกรรม จากบคุ คลภายนอก หา้ มผูไ้ มม่ ีสว่ นเกย่ี วข้องเขา้ ในบรเิ วณของผรู้ บั บริการ (4) ดา้ นมาตรการใหค้ วามช่วยเหลือเยียวยา หน่วยงานในเขตพน้ื ทร่ี ับผิดชอบของ สสว.6 ได้ดำเนินการลงพื้นทเ่ี ยย่ี มบ้านผูไ้ ดร้ ับผลกระทบ ให้คำปรึกษาแนะนำ และสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือเงินอุดหนุนสงเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อน โดยใช้กลไกเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เงินสงเคราะห์ครอบครัว ผ้มู ีรายไดน้ ้อยและไร้ท่ีพงึ่ เงนิ สงเคราะห์เด็กในครอบครวั ยากจน เงินสงเคราะห์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนพกิ าร และ ส่งเสริมด้านการประกอบอาชีพ เงินกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพคนพิการ เงินกู้ยืมเพื่อการประกอบอาชีพ ผู้สูงอายุ พร้อมทั้ง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ สสว.6 ได้จัดเตรียมสถานที่พักพิงชั่วคราว รายงานสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวัดในเขตพืน้ ที่รับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6 35 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ์ุ,อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

ในพื้นท่อี าคารเรอื นนอนของ สสว.6 เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มกรณีทีม่ เี หตุจำเปน็ เร่งด่วน และจดั เจ้าหนา้ ทอ่ี ำนวยความ สะดวก ณ สถานที่พักพิงชั่วคราวของจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกับทีม One Home จังหวัดกาฬสินธุ์ แจกจ่าย อาหารกล่อง นมผง/นมกลอ่ ง และมอบถงุ ยงั ชีพพรอ้ มทั้งจัดต้งั ตู้ พม.ปนั สขุ (5) ด้านอืน่ ๆ เปิดรบั บรจิ าคเวชภัณฑ์ป้องกนั และเครื่องอปุ โภคบริโภคเพอื่ ไปแจกจา่ ยชว่ ยเหลือ ประชาชนตามกลมุ่ เปา้ หมาย รายงานสถานการณท์ างสงั คมกลมุ่ จังหวัดในเขตพ้ืนที่รบั ผิดชอบของสำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6 36 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ์,ุ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธานี)

ส่วนที 4 การคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จังหวัด (เปน็ การนำข้อมูลจากสว่ นท่ี 3 มาพยากรณใ์ ห้เหน็ ถงึ อนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า) 4.1 การคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณ์ทางสังคม 4.1.1 กลุ่มเด็ก จากขอ้ มลู ที่รายงานสถานการณแ์ นวโน้มจำนวนเด็กในเขตพื้นท่ีความรบั ผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสริม และสนับสนุนวิชาการ 6 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ที่ทราบแล้วว่ามีลักษณะแนวโน้มทีล่ ดลงในแตล่ ะปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนเด็กในเขตพื้นที่รับผิดชอบสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน วิชาการ 6 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มที่ลดลงตามรูปแบบของสมการทำนายที่วิเคราะห์ได้ ดงั ตารางที่ 26 และแผนภาพท่ี 16 โดยพบว่าจำนวนเด็กในจังหวัดอุบลราชธานี จะมอี ัตราการลดลงในแต่ละปี มากทส่ี ดุ ในกลุ่มจังหวัดเฉล่ียลดลงปีละ 8,059 คน (b = - 8059.16) รองลงมาคือ จังหวดั กาฬสินธุ์ จำนวยเด็ก ลดลงเฉลี่ยปีละ 4453 คน (b = -4453.05) และจังหวัดที่มีจำนวนเด็กลดลงในอัตราต่อปีต่ำสุด คือ จังหวัด มุกดาหาร จำนวนเดก็ ลดลงเฉลยี่ ปลี ะ 1,213 คน (b = 1213.07) ทั้งนี้สมการทำนายที่ได้ดังตารางที่ 23 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนเด็กได้แม่นยำ 94.2% - 99.8% (R2 = 0.942 - 0.998) ตารางที่ 26 การคาดการณแ์ นวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนเดก็ จำแนกตามจังหวดั รายปี (หน่วย:คน) จงั หวัด สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 บึงกาฬ จำนวนเด็กt = 109676.51 - 1437.18Xt 0.942 96,741.86 95,304.68 93,867.49 นครพนม จำนวนเดก็ t = 184107.82 - 3194.05Xt 0.992 152,167.33 148,973.28 145,779.24 สกลนคร จำนวนเดก็ t = 287097.96 - 4353.17Xt 0.996 243,566.27 239,213.10 234,859.93 มุกดาหาร จำนวนเด็กt = 85820.73 - 1213.07Xt 0.988 73,690.00 72,476.93 71,263.85 กาฬสินธุ์ จำนวนเด็กt = 230678.75 - 4453.05Xt 0.998 186,148.20 181,695.15 177,242.09 อำนาจเจริญ จำนวนเด็กt = 91818.16 - 1796.76Xt 0.996 73,850.47 72,053.70 70,256.93 อบุ ลราชธานี จำนวนเดก็ t = 476279.44 - 8059.16Xt 0.998 395,687.80 387,628.64 379,569.47 ปเี รม่ิ ต้น (t = 0) ณ ปี 2553 ยกเวน้ จงั หวดั บึงกาฬ เรม่ิ ตน้ ปี 2554 แผนภาพที่ 16 ประมาณการแนวโนม้ สถานการณ์จำนวนเดก็ จำแนกตามจงั หวดั และปี พ.ศ.2563-2565 (หนว่ ย:คน) รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลมุ่ จงั หวดั ในเขตพื้นที่รับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 6 37 (บงึ กาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ์,ุ อำนาจเจริญ,อบุ ลราชธาน)ี

4.1.2 กลุม่ เยาวชน จากข้อมูลที่รายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนเยาวชนในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงาน ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 6 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ที่ทราบแล้วว่ามีลักษณะแนวโน้มที่ลดลง ในแต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมลู เพื่อหาสมการทำนายจำนวนเยาวชนในเขตพื้นที่รับผดิ ชอบสำนักงานส่งเสริม และสนับสนุนวิชาการ 6 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มที่ลดลงตามรูปแบบของสมการทำนาย ที่วิเคราะห์ได้ ดังตารางที่ 24 และ แผนภาพที่ 16 โดยพบว่าจำนวนเยาวชนในจังหวัดกาฬสินธ์ุ จะมีอัตราการ ลดลงในแต่ละปีมากที่สุดในกลุ่มจังหวัด เฉลี่ยปีละ 1,894 คน (b = -1894.44) รองลงมาคือ จังหวัดสกลนคร ลดลงเฉล่ียปลี ะ 356 คน (b = -356.53) ทั้งนี้สมการทำนายที่ได้ดังตารางที่ 24 สามารถใช้ทำนายสถานการณ์จำนวนเยาวชนได้แม่นยำมาก ทสี่ ุดคอื 95.2% (R2 = 0.952) ตารางท่ี 27 แสดงการคาดการณแ์ นวโน้มสถานการณ์จำนวนเยาวชนจำแนกตามจังหวัดรายปี(หนว่ ย:คน) จังหวดั สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 บึงกาฬ จำนวนเยาวชนt = 47287.31 + 84.62Xt 0.080 48,048.86 48,133.48 48,218.09 นครพนม จำนวนเยาวชนt = 82588.31 + 233.57Xt 0.362 84,924.07 85,157.64 85,391.22 สกลนคร จำนวนเยาวชนt = 135946.80 - 356.53Xt 0.237 132,381.47 132,024.93 131,668.40 มุกดาหาร จำนวนเยาวชนt = 40617.55 - 49.45Xt 0.058 40,123.00 40,073.55 40,024.09 กาฬสนิ ธุ์ จำนวนเยาวชนt = 120666.96 - 1894.44 Xt 0.952 101,722.60 99,828.16 97,933.73 อำนาจเจรญิ จำนวนเยาวชนt = 46800.91 - 304.42Xt 0.474 43,756.67 43,452.24 43,147.82 อบุ ลราชธานี จำนวนเยาวชนt = 231957.51 - 306.42Xt 0.050 228,893.27 228,586.84 228,280.42 ปเี ริ่มต้น (t = 0) ณ ปี 2553 ยกเว้นจงั หวดั บึงกาฬ เริ่มต้นปี 2554 แผนภาพที่ 17 ประมาณการแนวโน้มสถานการณจ์ ำนวนเยาวชน จำแนกตามจงั หวัด พ.ศ.2563-2565 (หน่วย:คน) 48,048.86 48,133.48 48,218.09 84,924.07 85,157.64 85,391.22 132,381.47 132,024.93 131,668.40 40,123.00 40,073.55 40,024.09 101,722.60 99,828.16 97,933.73 43,756.67 43,452.24 43,147.82 228,893.27 228,586.84 228,280.42 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลุม่ จงั หวดั ในเขตพ้นื ท่รี ับผดิ ชอบของสำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 6 38 (บึงกาฬ,นครพนม,มกุ ดาหาร,สกลนคร,กาฬสินธ์ุ,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)

4.1.1 กลมุ่ สตรี (สตรีทุกช่วงวัย) จากขอ้ มลู ทรี่ ายงานสถานการณ์แนวโน้มจำนวนสตรีในเขตพ้นื ท่ีความรับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริม และสนับสนนุ วิชาการ 6 ในระหว่างปี พ.ศ. 2553 – 2562 ท่ที ราบแลว้ ว่ามีลักษณะแนวโนม้ ที่เพ่ิมขนึ้ ในแต่ละปี ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาสมการทำนายจำนวนสตรีในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 6 ระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2565 จึงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นตามรูปแบบของสมการทำนายท่ี วิเคราะห์ได้ ดังตารางที่ 28 และแผนภาพที่ 18 โดยพบว่าจำนวนสตรีในจังหวัดอุบลราชธานี จะมีอัตราการ เพ่ิมขึ้นในแตล่ ะปีมากท่ีสุดในกลุ่มจงั หวดั เฉลี่ยปีละ 5,821 คน (b =+ 5821.44) รองลงมาคือ จงั หวัดสกลนคร เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2,775 คน (b =+ 2775.77) และจังหวัดที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตราต่อปีต่ำสุด คือ จังหวัด อำนาจเจรญิ เพม่ิ ข้ึนเฉล่ยี ปลี ะ 757 คน (b =+ 757) ทั้งนส้ี มการทำนายท่ีได้ดงั ตารางท่ี 25 สามารถใชท้ ำนายสถานการณ์จำนวนสตรีได้แม่นยำสูงสุด 96% (R2 = 0.960) ตารางที่ 28 แสดงการคาดการณ์แนวโนม้ สถานการณจ์ ำนวนสตรีจำแนกตามจงั หวดั รายปี (หน่วย:คน) จงั หวดั สมการทำนาย ณ เวลา t R2 ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565 บงึ กาฬ จำนวนสตรีt = 0.898 213,839.06 215,099.49 216,359.92 202495.16 + 1260.43Xt นครพนม จำนวนสตรีt = 0.907 363,489.87 364,794.01 366,098.15 350448.47 + 1304.14Xt สกลนคร จำนวนสตรีt = 0.960 584,258.27 587,034.04 589,809.82 556500.51 + 2775.77Xt มุกดาหาร จำนวนสตรีt = 0.960 178,511.67 179,642.39 180,773.11 167204.45 + 1130.72Xt กาฬสินธุ์ จำนวนสตรีt = 0.849 498,750.00 499,678.98 500,607.96 489460.18 + 928.98Xt อำนาจเจริญ จำนวนสตรีt = 0.931 191,506.60 192,264.44 193,022.27 183928.24 + 757.84Xt อบุ ลราชธานี จำนวนสตรีt = 0.951 950,468.40 956,289.84 962,111.27 892254.04 + 5821.44Xt ปีเรมิ่ ต้น (t = 0) ณ ปี 2553 ยกเวน้ จงั หวัดบึงกาฬ เริม่ ตน้ ปี 2554 รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวัดในเขตพน้ื ท่รี บั ผิดชอบของสำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวชิ าการ 6 39 (บึงกาฬ,นครพนม,มุกดาหาร,สกลนคร,กาฬสนิ ธ์ุ,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook