Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยผู้สูงอายุพิการ 59

วิจัยผู้สูงอายุพิการ 59

Published by Takkey Chaiyasing, 2020-10-22 01:55:44

Description: วิจัยผู้สูงอายุพิการ 59

Search

Read the Text Version

78 (7.2) เกษตรกรรม 244 33.89 (7.3) รับจ้าง 170 23.61 (7.4) รับราชการ หรอื รฐั วสิ าหกจิ 17 2.36 (7.5) คา้ ขาย 76 10.56 (7.6) บริษัทเอกชน 7 0.97 (7.7) แมบ่ ้านหรือ นักศึกษา 22 3.06 (7.8) ผูด้ แู ลผู้ป่วย (อสม. สท. อบต. ผช.ญ.) 7 0.97 (7.9) ธุรกิจส่วนตัว 8 1.11 8. ความรู้ทักษะเกีย่ วกับการดูแลผสู้ ูงอายพุ ิการ (8.1) ไม่มี 515 71.53 (8.2) มคี วามรู้ทกั ษะ (ตอบได้มากกว่า 1 ขอ้ ) 163 22.64 - ไดร้ ับการอบรมทางดา้ นการดูแลผสู้ งู อายุ หรอื ผู้พิการ 9 1.25 - ผา่ นหลกั สูตรการรกั ษาพยาบาลจากสถานศึกษา 33 4.58 - พยาบาลวิชาชพี อสม. 20 2.78 - ประสบการณ์ 720 100.00 รวม ตารางท่ี 4.18 แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตัวอย่างจำแนกตามข้อมลู ทว่ั ไปของผ้ดู ูแลผู้สงู อายุพกิ าร (ตอ่ ) ข้อมูลท่ัวไป จำนวน รอ้ ยละ 9. ระยะเวลาดูแลผู้สูงอายพุ กิ ารคนปจั จุบัน 156 21.67 (9.1) ไม่เกิน 1 ปี 195 27.08 (9.2) 2–5 ปี 171 23.75 (9.3) 5–10 ปี

79 (9.4) มากกว่า 10 ปี 198 27.50 ระยะเวลาต่ำสุด 0.6 ปี สูงสดุ 11 ปี ระยะเวลาเฉลี่ย 6.06 ปี รวม 720 100.00 จากตารางท่ี 4.18 พบว่า ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการท้ังหมด 720 คน เมื่อพิจารณาตามเพศส่วนใหญ่ เปน็ หญงิ จำนวน 558 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 77.50 และเป็นชายจำนวน 162 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 22.50 เมื่อพิจารณาตามอายุผู้ดูแลผสู้ ูงอายุพิการส่วนใหญ่อายุ 30–60 ปี จำนวน 457 คน คิดเป็น ร้อยละ 63.47 รองลงมาอายุ 61 ปีข้ึนไป จำนวน 230 คน คิดเป็นร้อยละ 31.94 โดยผู้ดูแลผู้สูงอายุ พิการมอี ายุต่ำสุด 12 ปี อายุสงู สุด 97 ปี อายุเฉลยี่ 53.46 ปี เมื่อพิจารณาตามความเกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุพิการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการส่วนใหญ่เป็นบุตร หรือ หลาน จำนวน 384 คน คิดเป็นร้อยละ 53.33 รองลงมาเป็นคู่สมรส จำนวน 198 คน คิดเป็นร้อยละ 27.50 เมื่อพิจารณ าตาม สถานภ าพผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ ส่วนใหญ่ สมรส หรืออยู่ด้วยกัน จำนวน 519 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 72.08 รองลงมาโสด จำนวน 106 คน คดิ เป็นร้อยละ 14.72 เมื่อพิจารณาตามการนับถือศาสนาผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ จำนวน 672 คน คิดเป็นร้อยละ 93.33 รองลงมา นับถือศาสนาอิสลาม จำนวน 40 คน คิดเป็นร้อยละ 5.56 เมื่อพิจารณาตามระดับการศึกษาสูงสุด ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับ ประถมศึกษา จำนวน 423 คน คิดเป็นร้อยละ 58.75 รองลงมาจบมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 86 คน คิดเป็นร้อยละ 11.94 เม่ื อ พิ จ าร ณ า ต าม อ า ชี พ ข อ งผู้ ดู แ ล ผู้ สู งอ า ยุ พิ ก า ร ส่ ว น ให ญ่ ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ เก ษ ต ร ก ร ร ม จำนวน 244 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 33.89 รองลงมา อาชพี รับจา้ ง จำนวน 169 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 23.47 และไมไ่ ดป้ ระกอบอาชีพ จำนวน 170 คน คิดเป็นร้อยละ 23.61 เมื่อพิจารณาตามความรู้ทักษะเก่ียวกับการดูแลผู้สูงอายุพิการของผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ ส่วนใหญ่ ไม่มี จำนวน 515 คน คิดเป็นร้อยละ 71.53 และท่ีมีความรู้ ส่วนใหญ่ได้รับการอบรมทางด้านการดูแล ผสู้ ูงอายุ หรือผูพ้ กิ าร จำนวน 163 คน คดิ เป็นร้อยละ 22.64 เม่ือพิจารณาตามระยะเวลาดูแลผู้สูงอายุพิการคนปจั จุบันของผดู้ ูแลผู้สงู อายุพิการ ส่วนใหญ่ดูแล มามากกว่า 10 ปี จำนวน 198 คน คิดเป็นร้อยละ 27.50 รองลงมาดูแลมา 2–5 ปี จำนวน 195 คน คิดเป็นร้อยละ 27.08 โดยผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการใช้ระยะเวลาดูแลผู้สูงอายุพิการคนปัจจุบัน ระยะเวลา ต่ำสดุ 0.6 ปี สูงสดุ 11 ปี ระยะเวลาเฉล่ีย 6.06 ปี ตารางท่ี 4.19 แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตวั อย่างจำแนกตามประเภทความพิการ

80 ประเภทความพิการ จำนวน ร้อยละ ประเภทความพกิ าร (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) 73 10.14 1. ทางการเห็น 90 12.50 (1.1) ตาบอด (1.2) เหน็ เลอื นราง 50 6.94 112 15.56 2. ทางการได้ยิน หรอื สื่อความหมาย 23 3.19 (2.1) หหู นวก (2.2) หตู ึง 219 30.42 (2.3) ความพกิ ารทางการสอ่ื ความหมาย 39 5.42 17 2.36 3. ทางการเคลื่อนไหว หรอื ทางรา่ งกาย 41 5.69 (3.1) การเคลือ่ นไหว 88 12.22 (3.2) อัมพฤต 59 8.19 (3.3) กระดูก หรอื ทับเส้น 9 1.25 (3.4) กล้ามเน้ืออ่อนแรง 25 3.47 (3.5) แขน หรอื ขาพิการ 38 5.28 (3.6) เดินไม่ได้ 6 0.83 (3.7) ติดเตียง 2 0.28 720 100.00 4. ทางจติ ใจ หรือพฤตกิ รรม 5. ทางสติปัญญา 6. ทางการเรียนรู้ (LD) 7. ออทิสติก รวม จากตารางที่ 4.19 พบว่า ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการท้ังหมด 720 คน ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุพิการท่ี ต้องดูแลเป็นคนพิการทางการเคล่ือนไหว หรือร่างกาย สำหรับการพิการทางการเคล่ือนไหวส่วนใหญ่พิการ ประเภทการเคลื่อนไหว จำนวน 219 คน คิดเป็นร้อยละ 30.42 รองลงมาผู้สูงอายุพิการที่ต้องดูแลเป็น คนพิการทางการได้ยิน หรือส่ือความหมาย สำหรับการพิการทางการได้ยินส่วนใหญ่พิการประเภทหูตึง จำนวน 112 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 15.56

81 ตารางท่ี 4.20 แสดงจำนวนและร้อยละของกลุ่มตวั อย่างจำแนกตามการเขา้ ร่วมกลมุ่ หรอื ชมรม การเข้าร่วมกลุ่ม หรือชมรม จำนวน รอ้ ยละ 1. มโี อกาสแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณก์ บั ผูด้ แู ล 500 69.44 (1.1) ไมเ่ คย 220 30.56 (1.2) เคย 2. ผสู้ งู อายพุ ิการเขา้ ร่วมกิจกรรมของกลุ่ม หรือชมรม 413 57.36 (2.1) ไม่เคยเข้าร่วม 252 35.00 (2.2) เขา้ ร่วมบ้างบางครัง้ 55 7.64 (2.3) เขา้ ร่วมบ่อยครั้ง 720 100.00 รวม จากตารางที่ 4.20 พบว่า ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการท้ังหมด 720 คน เม่ือพิจารณาจากการมี โอกาสแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ประสบการณ์กับผู้ดูแลส่วนใหญ่ไม่เคยมีโอกาสในการแลกเปล่ียน จำนวน 500 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 69.44 และเคยมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์กับผู้ดูแล จำนวน 220 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 30.56 เมื่อพิจารณาจากการเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่ม หรือชมรม ส่วนใหญ่ไม่เคยเข้ารว่ มกิจกรรมของ กลุม่ หรือชมรม จำนวน 413 คน คดิ เป็นร้อยละ 57.36 รองลงมาเข้าร่วมบ้างบางคร้ัง จำนวน 252 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 35.00 และเขา้ ร่วมบ่อยคร้งั จำนวน 55 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 7.64

82 ตารางท่ี 4.21 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของกลมุ่ ตวั อย่างจำแนกตามการใช้กายอุปกรณ์ การใช้กายอปุ กรณ์ จำนวน รอ้ ยละ 1. ผสู้ ูงอายุพิการไม่ไดใ้ ช้กายอุปกรณ์ เพราะ 137 19.03 (1.1) ตาบอด หรือหหู นวก หรอื เป็นใบ้ 20 2.78 (1.2) เดนิ ไม่ได้ 22 3.06 (1.3) ตดิ เตยี ง 55 7.64 (1.4) ช่วยเหลือตวั เองได้ 7 0.97 (1.5) ไม่มีเงิน 3 0.42 (1.6) ไม่สะดวก หรือไมช่ นิ 30 4.17 (1.7) ไม่มี 4 0.56 (1.8) พิการทางจิต 2 0.28 (1.9) ไม่ได้ขึ้นทะเบียนผู้พกิ าร 2. ผูส้ งู อายุพิการใช้กายอุปกรณ์ 51 7.08 (2.1) ใช้แวน่ ตา หรือแว่นขยาย 219 30.42 (2.2) ใชไ้ ม้เทา้ หรอื ไมเ้ ท้าสามขา 52 7.22 (2.3) ใชค้ อกชว่ ยเดิน 37 5.14 (2.4) ใชเ้ คร่อื งช่วยฟัง 156 21.67 (2.5) รถเขน็ (2.6) อน่ื ๆ 10 1.39 6 0.83 - เตียง 720 100.00 - ขาเทียม รวม จากตารางที่ 4.21 พบว่า ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการทั้งหมด 720 คน เมื่อพิจารณาจากการใชก้ าย อุปกรณ์พบว่า ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุพิการไม่ได้ใช้กายอุปกรณ์ เพราะกายอุปกรณ์ที่ได้รับไม่เหมาะสมกับ

83 สภาพความพิการในปัจจุบันที่เป็นอยู่ เช่น ตาบอด หูหนวก หรือเป็นใบ้ จำนวน 137 คน คิดเป็นร้อยละ 19.03 รองลงมาไม่ได้ใชก้ ายอุปกรณ์ เพราะช่วยเหลือตวั เองได้ จำนวน 55 คน คิดเป็นร้อยละ 7.64 และ ไมไ่ ดใ้ ชก้ ายอปุ กรณ์ เพราะไม่มกี ายอุปกรณใ์ ห้ใช้ จำนวน 30 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 4.17 เมอ่ื พิจารณาจากผู้สูงอายพุ กิ ารใช้กายอุปกรณ์สว่ นใหญ่ใช้กายอุปกรณป์ ระเภทไม้เทา้ หรอื ไมเ้ ท้า สามขา จำนวน 219 คน คิดเป็นร้อยละ 30.42 รองลงมาใช้กายอุปกรณ์ ประเภ ท รถเข็น จำนวน 156 คน คิดเปน็ ร้อยละ 21.67 ตารางที่ 4.22 แสดงจำนวนและรอ้ ยละของกลุ่มตัวอย่าง จำแนกตามการดแู ลชว่ ยเหลอื การดูแลชว่ ยเหลือ จำนวน ร้อยละ 1. ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองของผสู้ ูงอายุ พิการ 92 12.78 376 52.22 (1.1) ชว่ ยเหลือตวั เองไม่ได้ 252 35.00 (1.2) ช่วยเหลอื ตวั เองได้บา้ ง (1.3) ชว่ ยเหลือตัวเองได้ 161 22.36 2. ช่วงเวลาท่ที ่านดแู ลผสู้ งู อายพุ ิการ 97 13.47 (2.1) กลางวัน 462 64.17 (2.2) กลางคืน (2.3) 24 ช่ัวโมง 662 91.94 3. รายไดจ้ ากการดแู ลผู้สูงอายพุ กิ าร (3.1) ไม่ได้รับ 8 1.11 (3.2) ได้รบั 32 4.44 18 2.50 - ประมาณ 50-100 บาทต่อวัน 720 100.00 - ประมาณ 500 บาทต่อเดอื น - ประมาณ 1,000 บาทตอ่ เดือน รวม

84 จากตารางท่ี 4.22 พบว่า ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการทั้งหมด 720 คน เม่ือพิจารณาจาก ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองของผู้สูงอายุพิการ ส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง จำนวน 376 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 52.22 รองลงมา ผู้สูงอายุพกิ ารช่วยเหลือตัวเองได้ จำนวน 252 คน คิดเป็นร้อยละ 35.00 และผู้สูงอายพุ ิการชว่ ยเหลอื ตัวเองไมไ่ ด้ จำนวน 92 คน คดิ เป็นร้อยละ 12.78 เมื่อพิจารณาจากช่วงเวลาที่ดูแลผู้สูงอายุพิการส่วนใหญ่ดูแล 24 ชั่วโมง จำนวน 462 คน คิดเป็นร้อยละ 64.17 รองลงมาดูแลช่วงกลางวัน จำนวน 161 คน คิดเป็นร้อยละ 22.36 และดูแล ชว่ งกลางคืน จำนวน 97 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 13.47 เม่ือพิจารณาจากรายได้จากการดูแลผู้สูงอายุพิการ ส่วนใหญ่ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการไม่ได้รับรายได้ จำนวน 662 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 91.94 รองลงมา ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการได้รับรายได้ประมาณ 500 บาทต่อเดือน จำนวน 32 คน คิดเป็นร้อยละ 4.44 ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการได้รับรายได้ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 2.50 และผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการได้รับรายได้ประมาณ 50-100 บาทต่อวัน จำนวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1.11 2.2) ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลเกย่ี วกบั ผดู้ แู ลผู้สงู อายุพิการประสบปญั หาดา้ นตา่ ง ๆ ตารางท่ี 4.23 แสดงจำนวนและร้อยละของกล่มุ ตวั อย่าง จำแนกตามปัญหาจากการดแู ลผสู้ งู อายพุ ิการ ปัญหาจากการดแู ลผู้สูงอายุพิการ จำนวน รอ้ ยละ ปญั หาจากการดูแลผูส้ ูงอายุพกิ าร (1) ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ หรือการประกอบอาชพี 436 60.56 (2) ปญั หาดา้ นสขุ ภาพจติ หรือความเครยี ด 273 37.92 (3) ปัญหาด้านสุขภาพกาย หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ 227 31.53 (4) ปัญหาทางด้านสงั คม 78 10.83 (5) ปญั หาขาดกายอุปกรณ์ หรือเวชภณั ฑ์ 164 22.78 (6) ปญั หาทางด้านที่อยู่อาศัยท่ีไมเ่ หมาะสม 67 9.31 (7) อน่ื 7 0.97 รวม 720 100.00

85 จากตารางที่ 4.23 ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการทั้งหมด 720 คน เมื่อพิจารณาจากปัญหาจาก การดูแลผู้สูงอายุพิการพบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ หรือการประกอบอาชีพ จำนวน 436 คน คิดเป็นร้อยละ 60.56 รองลงมามีปัญหาด้านสุขภาพจิต หรือความเครียด จำนวน 273 คน คิดเป็น ร้อยละ 37.92 มีปัญหาด้านสุขภาพกาย หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ จำนวน 227 คน คิดเป็น ร้อยละ 31.53 มีปัญหาด้านขาดกายอุปกรณ์ หรือเวชภัณฑ์ จำนวน 164 คน คิดเป็นร้อยละ 22.78 มปี ัญหาทางด้านสังคม จำนวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 10.83 มีปัญหาทางด้านที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมาะสม จำนวน 67 คิดเป็นร้อยละ 9.31 และมีปญั หาอ่ืน ๆ จำนวน 7 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0.97 ตามลำดับ 2.3) ความต้องการได้รับการบริการในด้านต่าง ๆ จากการจัดสวัสดิการสังคมและ การจัดบริการด้านสุขภาพสำหรับผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ ตารางที่ 4.24 แสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจัดสวัสดิการสงั คมในดา้ นตา่ ง ๆ สำหรบั ผสู้ งู อายุพิการโดยรวม ความต้องการไดร้ ับการบริการในด้านตา่ ง ๆ จาก ระดบั ความต้องการได้รบั บริการ การจดั สวสั ดิการสังคม  S.D. แปลผล 4.09 1.15 มาก ความตอ้ งการดา้ นการศึกษา 3.58 1.44 มาก ความต้องการด้านท่อี ยู่อาศัย 3.83 1.42 มาก ความตอ้ งการดา้ นการทำงานและการมีรายได้ 3.85 1.17 มาก ความต้องการดา้ นนันทนาการ 4.03 1.25 มาก ความตอ้ งการด้านกระบวนการยุตธิ รรม 4.02 1.12 มาก ความต้องการดา้ นบริการทางสังคมทั่วไป 4.13 1.10 มาก ความตอ้ งการด้านสุขภาพอนามยั 3.91 0.97 มาก รวม จากตารางที่ 4.24 พบว่า ความตอ้ งการไดร้ ับการบริการจากการจัดสวัสดิการสังคมในด้านต่าง ๆ สำหรับผู้สงู อายพุ กิ ารจากทัศนะของผู้ดแู ลผู้สูงอายุพิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมีความต้องการไดร้ ับบริการอยู่ ในระดับมาก (  =3.91) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ส่วนใหญ่ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการได้รับ การบริการในด้านสุขภาพอนามัยมีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด (  = 4.13) รองลงมาผู้สูงอายุพิการมีความต้องการ ด้านการศึกษา (  = 4.09) ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการด้านกระบวนการยุติธรรม (  = 4.03) ผู้สูงอายุ พิการมีความต้องการด้านบริการทางสังคมท่ัวไป (  = 4.02) ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการด้านนันทนาการ (  = 3.85) ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการด้านการทำงานและการมีรายได้ (  = 3.83) และผู้สูงอายุพิการ มีความตอ้ งการด้านท่ีอยู่อาศยั มคี วามตอ้ งการเฉลี่ยน้อยทีส่ ุด (  = 3.58) ตามลำดบั

86 ตารางท่ี 4.25 แสดงค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจัดสวสั ดกิ ารสังคมในดา้ นการศกึ ษาสำหรบั ผ้สู งู อายุพิการ ความต้องการได้รับการบรกิ าร ระดับความต้องการได้รบั บริการ ในด้านการศึกษา น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก  SD แปล ที่สดุ กลาง ทส่ี ดุ ผล 1. การไดร้ ับความรเู้ กย่ี วกับ 73 23 48 214 363 4.07 1.27 มาก การดูแลสขุ ภาพผูส้ ูงอายุพิการ (10.12) (3.19) (6.66) (29.68) (50.35) 2. การไดร้ ับความร้เู กีย่ วกบั 81 27 54 215 344 3.99 1.31 มาก การสง่ เสริมการออกกำลังกาย (11.23) (3.74) (7.49) (29.82) (47.71) สำหรบั ผู้สงู อายพุ ิการ 3. การไดร้ บั ความรเู้ กยี่ วกบั 77 27 65 183 369 4.03 1.31 มาก การทำกายภาพบำบดั สำหรบั (10.68) (3.74) (9.02) (25.38) (51.18) ผูส้ ูงอายุพิการ 4. การได้รับความรู้เก่ียวกับ 70 19 51 213 368 4.10 1.25 มาก โภชนาการของผู้สงู อายุพกิ าร (9.71) (2.64) (7.07) (29.54) (51.04) 5. การไดร้ บั ความรู้วธิ ปี ฏบิ ตั ิ 67 27 61 193 373 4.08 1.26 มาก กรณเี ผชญิ เหตุฉกุ เฉิน (9.29) (3.74) (8.46) (26.77) (51.73) 6. การได้รับข่าวสารด้านสิทธิ 53 20 39 151 458 4.31 1.17 มาก และสวัสดิการจากภาครฐั (7.35) (2.77) (5.41) (20.94) (63.52) รวม 4.09 1.15 มาก จากตารางท่ี 4.25 พบว่า ความต้องการได้รับการบริการจากการจัดสวัสดิการสังคมใน ด้านการศึกษาสำหรับผสู้ ูงอายุพิการจากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายพุ ิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมีความต้องการ ได้รับบริการอยู่ในระดับมาก (  =4.09) เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า มีความต้องการได้รับ การบริการในด้านการไดร้ ับข่าวสารด้านสิทธิและสวัสดิการจากภาครัฐ ผู้สูงอายุพิการมีความตอ้ งการมคี ่าเฉล่ีย มากท่ีสุด (  = 4.31) รองลงมา มีความต้องการได้รับการบริการในด้านการได้รับความรู้เกี่ยวกับโภชนาการ ของผู้สูงอายุพิการ (  = 4.10) และมีความต้องการได้รับการบริการในด้านการได้รับความรู้วิธีปฏิบัติกรณี เผชิญเหตุฉุกเฉิน (  = 4.08) ตามลำดับ ส่วนมีความต้องการได้รับการบริการในด้านการได้รับความรู้ เกย่ี วกับการสง่ เสริมการออกกำลงั กายสำหรบั ผสู้ ูงอายุพกิ ารมคี วามต้องการเฉลย่ี น้อยทส่ี ดุ (  = 3.99) ตารางท่ี 4.26 แสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจัดสวสั ดกิ ารสงั คมในดา้ นทอี่ ยอู่ าศัย สำหรบั ผ้สู งู อายพุ กิ าร ความต้องการไดร้ ับการบริการ ระดบั ความต้องการได้รับบริการ

87 ในด้านที่อยอู่ าศยั น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก SD แปล ทีส่ ุด กลาง ทีส่ ุด ผล  1. การปรบั ปรงุ บันไดบ้าน 190 33 86 148 264 3.36 1.62 ปาน ทางเดนิ ให้มรี าวใหย้ ึดเกาะ (26.35) (4.58) (11.93) (20.53) (36.62) กลาง 2. ปรับพนื้ ท่ีให้มีทางลาดขนึ้ -ลง 198 32 92 138 261 3.32 1.64 ปาน ภายในบ้าน (27.46) (4.44) (12.76) (19.14) (36.2) กลาง 3. หอ้ งนำ้ /หอ้ งส้วมอยภู่ ายใน 167 21 80 135 318 3.58 1.61 มาก บ้านและเป็นแบบนั่งหอ้ ยเทา้ (23.16) (2.91) (11.1) (18.72) (44.11) 4. หอ้ งนอนหรอื ทีน่ อนของ 167 29 70 169 286 3.52 1.59 มาก ผสู้ ูงอายุพิการอย่ชู น้ั ลา่ ง/บ้าน (23.16) (4.02) (9.71) (23.44) (39.67) ชั้นเดียวมหี ้องสำหรบั ผสู้ งู อายุ พกิ าร 5. ปรับทนี่ อนหรอื ห้องนอนให้มี 156 25 50 164 326 3.66 1.58 มาก ความเหมาะสม (21.64) (3.47) (6.93) (22.75) (45.21) 6. บา้ นทอี่ ย่อู าศัยมีอากาศ 153 21 42 154 351 3.73 1.58 มาก ถ่ายเทไดส้ ะดวก (21.22) (2.91) (5.83) (21.36) (48.68) 7. บา้ นทอ่ี ยู่อาศัยมีแสงสวา่ งท่ี 152 23 42 159 345 3.72 1.58 มาก เพยี งพอ (21.08) (3.19) (5.83) (22.05) (47.85) 8. ปรบั สภาพแวดล้อมของที่อยู่ 151 19 47 147 357 3.75 1.58 มาก อาศัยมีความเหมาะสมกบั (20.94) (2.64) (6.52) (20.39) (49.51) สภาพความพิการ รวม 3.53 1.44 มาก จากตารางท่ี 4.26 พบว่า ความต้องการได้รบั การบริการจากการจดั สวัสดิการสังคมในดา้ นที่อยู่ อาศัยสำหรับผู้สูงอายุพิการ จากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมีความต้องการได้รับ บริการอยู่ในระดับมาก (  =3.58) เม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า มีความต้องการได้รับการปรับ สภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยมคี วามเหมาะสมกับสภาพความพกิ ารผู้สงู อายุพิการมีความตอ้ งการมีค่าเฉลี่ยมาก ท่ีสุด (  = 3.75) รองลงมา มีความต้องการได้รับการปรับปรุงบ้านที่อยู่อาศัยให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก (  =3.73) และมีความต้องการได้รับการปรับปรุงให้บ้านท่ีอยู่อาศัยมีแสงสว่างที่เพียงพอ (  = 3.72) ตามลำดับ ส่วนมีความต้องการได้รับปรับพ้ืนท่ีให้มีทางลาดข้ึน-ลงภายในบ้านมีความต้องการเฉล่ียน้อยท่ีสุด (  = 3.32)

88 ตารางที่ 4.27 แสดงค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจดั สวัสดิการสงั คมในด้านการทำงานและการมรี ายได้ สำหรบั ผสู้ ูงอายุพิการ ความตอ้ งการไดร้ บั การบริการ ระดบั ความต้องการได้รบั บริการ ในดา้ นการทำงานและ นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก  SD แปล การมรี ายได้ ท่สี ดุ กลาง ที่สดุ ผล 1. การให้ความรู้ทักษะเก่ียวกับ 112 33 57 169 350 3.85 1.46 มาก การประกอบอาชพี ที่บา้ น (15.53) (4.58) (7.91) (23.44) (48.54) 2. การประกอบอาชพี เสริมที่ 113 30 59 161 358 3.86 1.46 มาก บ้าน (15.67) (4.16) (8.18) (22.33) (49.65) 3. การสนับสนนุ เงินทนุ ในการ 106 29 62 140 384 3.93 1.45 มาก ประกอบอาชีพ (14.70) (4.02) (8.60) (19.42) (53.26) 4. การจัดหาวัตถุดิบในการ 119 25 58 155 364 3.86 1.48 มาก ประกอบอาชีพ (16.5) (3.47) (8.04) (21.5) (50.49) 5. การช่วยเหลือสง่ เสรมิ ในการ 128 28 78 156 331 3.74 1.50 มาก พัฒนาผลติ ภัณฑ์ (17.75) (3.88) (10.82) (21.64) (45.91) 6. การจัดหาสถานที่จำหน่าย 131 30 74 155 331 3.73 1.51 มาก ผลติ ภณั ฑ์และช่องทางการตลาด (18.17) (4.16) (10.26) (21.5) (45.91) รวม 3.83 1.42 มาก จากตารางท่ี 4.27 พบว่า ความต้องการได้รับการบริการจากการจัดสวัสดิการสังคมใน ด้านการทำงานและการมีรายได้สำหรับผู้สูงอายุพิการจากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ โดยรวมผู้สูงอายุ พิการมีความต้องการได้รับบริการอยู่ในระดับมาก (  =3.83) เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า มีความต้องการได้รับการสนับสนุนเงินทุนในการประกอบอาชีพผู้สูงอายพุ ิการมีความต้องการมคี ่าเฉลี่ยมากท่ีสุด (  = 3.93) รองลงมา มีความต้องการได้รับการจัดหาวัตถุดิบในการประกอบอาชีพและมีความต้องการได้รับ การประกอบอาชีพเสริมท่ีบ้าน (  = 3.86) ตามลำดับ ส่วนมีความต้องการได้รับการจัดหาสถานท่ีจำหน่าย ผลติ ภัณฑแ์ ละช่องทางการตลาดมีความต้องการเฉล่ียน้อยที่สุด (  = 3.73)

89 ตารางท่ี 4.28 แสดงค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจากการจัด สวสั ดกิ ารสงั คมในดา้ นนันทนาการ สำหรบั ผู้สงู อายพุ ิการ ความตอ้ งการได้รบั การบริการ ระดับความต้องการได้รับบริการ ในดา้ นนันทนาการ น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก  SD แปล ท่สี ุด กลาง ท่สี ดุ ผล 1. การเขา้ รว่ มกจิ กรรมรน่ื เริง 78 36 81 258 268 3.83 1.28 มาก ของชุมชน (10.82) (4.99) (11.23) (35.78) (37.17) 2. การเขา้ รว่ มในกจิ กรรมทาง 72 34 76 237 302 3.92 1.27 มาก สงั คม การเขา้ กลุ่ม (9.99) (4.72) (10.54) (32.87) (41.89) 3. การเขา้ รว่ มกิจกรรมทาง 62 24 53 228 354 4.09 1.21 มาก ศาสนา (8.60) (3.33) (7.35) (31.62) (49.1) 4. การเขา้ รว่ มกจิ กรรมตาม 65 24 69 232 331 4.03 1.23 มาก ประเพณวี ัฒนธรรมทอ้ งถ่ิน (9.02) (3.33) (9.57) (32.18) (45.91) 5. การเขา้ รว่ มกิจกรรมดา้ น 83 52 105 245 236 3.69 1.31 มาก กีฬา การออกกำลังกาย (11.51) (7.21) (14.56) (33.98) (32.73) 6. การไดท้ ำงานอดเิ รกท่ชี อบ 102 65 123 207 224 3.54 1.38 มาก เช่น งานศลิ ปะ ดนตรี (14.15) (9.02) (17.06) (28.71) (31.07) รวม 3.85 1.17 มาก จากตารางท่ี 4.28 พบว่า ความต้องการได้รับการบริการจากการจัดสวัสดิการสังคมใน ด้านนันทนาการสำหรับผู้สูงอายุพิการจากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมี ความต้องการได้รับบริการอยู่ในระดับมาก (  =3.85) เม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า มีความต้องการ ได้รับการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาผู้สูงอายุพิการมีความต้องการมีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด (  = 4.09) รองลงมา มีความต้องการได้รับการเข้าร่วมกิจกรรมตามประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น (  = 4.03) และมีความต้องการ ได้รับการเข้าร่วมในกิจกรรมทางสังคม การเข้ากลุ่ม (  = 3.92) ตามลำดับ ส่วนความต้องการได้ทำงาน อดิเรกท่ชี อบ เชน่ งานศิลปะ ดนตรีมคี วามต้องการเฉล่ยี นอ้ ยที่สดุ (  = 3.54)

90 ตารางท่ี 4.29 แสดงค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจัดสวัสดิการสงั คมในดา้ นกระบวนการยุติธรรม สำหรบั ผสู้ งู อายพุ ิการ ความตอ้ งการได้รบั การบรกิ าร ระดับความต้องการไดร้ บั บริการ ในด้านกระบวนการยตุ ธิ รรม น้อย นอ้ ย ปาน มาก มาก  SD แปล 1. ตอ้ งการให้ผู้สงู อายพุ ิการ ทีส่ ดุ กลาง ทส่ี ดุ ผล ไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื ทาง กฎหมาย 138 22 43 166 352 3.79 1.53 มาก 2. ต้องการให้ผู้สงู อายพุ ิการไม่ ถกู เลือกปฏบิ ัตจิ ากสังคม 19.14 3.05 5.96 23.02 48.82 3. ต้องการให้ผสู้ งู อายพุ ิการ ได้รับการชว่ ยเหลือทางคดแี ละ 110 20 36 137 418 4.02 1.45 มาก การเจรจาไกล่เกล่ีย 15.26 2.77 4.99 19.00 57.98 4. ตอ้ งการให้ผสู้ งู อายุพิการได้ 152 15 58 171 325 3.70 1.56 มาก เข้าถึงสิทธขิ องผสู้ งู อายุพิการ 21.08 2.08 8.04 23.72 45.08 5. ตอ้ งการใหผ้ ูส้ ูงอายพุ ิการ ไดร้ บั การจดทะเบยี นและการ 62 13 16 109 521 4.41 1.19 มาก ไดร้ ับสิทธิประโยชนท์ าง 8.60 1.80 2.22 15.12 72.26 กฎหมาย 95 16 8 104 498 4.24 1.39 มาก 13.18 2.22 1.11 14.42 69.07 รวม 4.03 1.25 มาก จากตารางท่ี 4.29 พบว่า ความต้องการได้รับการบริการจากการจัดสวัสดิการสังคมใน ด้านกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้สูงอายุพิการจากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการ มีความต้องการได้รับบรกิ ารอยู่ในระดับมาก (  =4.03) เมือ่ พิจารณาเป็นรายประเด็นพบวา่ มคี วามต้องการ

91 ให้ผู้สูงอายุพิการได้เข้าถึงสิทธิของผู้สูงอายุพิการ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด (  = 4.41) รองลงมา มีต้องการให้ ผู้สูงอายุพิการได้รับการจดทะเบียนและการได้รับสิทธิประโยชน์ทางกฎหมาย (  = 4.24) และมีความ ต้องการให้ผู้สูงอายุพิการไม่ถูกเลือกปฏิบัติจากสังคม (  = 4.02) ตามลำดับ ส่วนความต้องการให้ผู้สูงอายุ พิการไดร้ บั การช่วยเหลือทางคดีและการเจรจาไกลเ่ กล่ยี มคี วามต้องการเฉลี่ยน้อยที่สดุ (  = 3.70) ตารางที่ 4.30 แสดงค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจดั สวัสดกิ ารสังคมในดา้ นบริการทางสงั คมทั่วไป สำหรบั ผ้สู ูงอายพุ กิ าร ความต้องการไดร้ ับการบรกิ าร ระดับความต้องการไดร้ ับบริการ ในด้านบรกิ ารทางสังคมท่ัวไป นอ้ ย นอ้ ย ปาน มาก มาก  SD แปล ท่ีสดุ กลาง ทีส่ ดุ ผล 1. การไดร้ บั การเชิดชยู กย่อง 123 22 67 227 282 3.73 1.44 มาก จากสังคม (17.06) (3.05) (9.29) (31.48) (39.11) 2. การไดร้ บั การลดหย่อน 129 28 70 168 326 3.74 1.50 มาก ทางดา้ นภาษี (17.89) (3.88) (9.71) (23.3) (45.21) 3. การไดส้ ทิ ธิในการกู้ยืมเงินทุน 110 24 64 143 380 3.91 1.46 มาก เพอ่ื ประกอบอาชีพทบี่ ้าน (15.26) (3.33) (8.88) (19.83) (52.7) 4. ได้รับการสนับสนนุ ขอ้ มูล 83 27 68 161 382 4.02 1.35 มาก ตา่ ง ๆ จากสหวชิ าชีพ (11.51) (3.74) (9.43) (22.33) (52.98) 5. มชี มรมในการแลกเปลย่ี น 77 27 44 185 388 4.08 1.31 มาก เรยี นร้รู ่วมกนั ในกลมุ่ ผ้ดู แู ล (10.68) (3.74) (6.1) (25.66) (53.81) ผสู้ ูงอายุ 6. สมาชิกในครอบครวั จะชว่ ย 56 20 42 146 457 4.29 1.19 มาก หาแนวทางในการแก้ไขปญั หาท่ี (7.77) (2.77) (5.83) (20.25) (63.38) ท่สี ุด เกิดขึ้นร่วมกัน

92 7. สมาชิกในครอบครัว 61 13 27 129 491 4.35 1.20 มาก ช่วยเหลือดแู ลสนบั สนุนดา้ น อนื่ ๆ แกผ่ ู้ดูแลผู้สงู อายุพิการ (8.46) (1.8) (3.74) (17.89) (68.1) ทส่ี ุด รวม 4.02 1.12 มาก จากตารางท่ี 4.30 พบว่า ความต้องการได้รับการบริการจากการจัดสวัสดิการสังคมใน ด้านบริการทางสังคมท่ัวไปสำหรับผู้สูงอายุพิการจากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมี ความต้องการได้รับบริการอยู่ในระดับมาก (  =4.02) เม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็นพบว่า มีความต้องการ ให้สมาชิกในครอบครัวช่วยเหลือดูแลสนับสนุนด้านอ่ืน ๆแก่ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด (  = 4.35) รองลงมา มีความต้องการให้สมาชิกในครอบครัวจะช่วยหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดข้ึน ร่วมกัน (  = 4.29) และมีความต้องการให้มีชมรมในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ (  = 4.08) ตามลำดับ ส่วนความต้องการให้ได้รับการเชิดชูยกย่องจากสังคม มีความต้องการเฉลี่ยน้อยที่สุด (  =3.73) ตารางท่ี 4.31 แสดงค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและระดับความต้องการได้รับการบริการจาก การจดั สวสั ดกิ ารสงั คมในดา้ นสขุ ภาพอนามยั สำหรบั ผู้สูงอายุพิการ ความตอ้ งการไดร้ ับการบรกิ าร ระดับความต้องการไดร้ ับบริการ ในด้านสุขภาพอนามยั นอ้ ย น้อย ปาน มาก มาก  SD แปล ที่สุด กลาง ทสี่ ดุ ผล 1. การมีเวลาในการออกกำลัง- 68 52 84 261 256 3.81 1.26 มาก กาย (9.43) (7.21) (11.65) (36.2) (35.51) 2. การมเี วลาในการพักผ่อนท่ี 62 22 50 229 358 4.11 1.21 มาก เพียงพอ (8.60) (3.05) (6.93) (31.76) (49.65) 3. การได้ความรักและความ 62 13 25 146 475 4.33 1.20 มาก หว่ งใยและการใหก้ ำลงั ใจจาก (8.60) (1.8) (3.47) (20.25) (65.88) ท่สี ุด ครอบครัว 4. มอี าสาสมคั รมาพบปะ 60 18 40 179 424 4.23 1.20 มาก พดู คุยเพอื่ ใหก้ ำลงั ใจ (8.32) (2.50) (5.55) (24.83) (8.32) ที่สุด 5. การได้รบั คำแนะนำด้าน 63 24 48 188 398 4.16 1.23 มาก

93 สุขภาพจติ และการจัดการ (8.74) (3.33) (6.66) (26.07) (55.2) ความเครยี ด รวม 4.13 1.10 มาก จากตารางที่ 4.31 พบว่า ความต้องการได้รับการบริการในด้านสุขภาพอนามัยจาก การจัดสวัสดิการสังคมและการจัดบริการด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุพิการจากทัศนะของผู้ดูแลผู้สูงอายุ พิการ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมีความต้องการได้รับบริการอยู่ในระดับมาก (  =4.13) เม่ือพิจารณาเป็นรายประเด็น พบว่า มีความต้องการการได้ความรักและความห่วงใย และการให้กำลังใจจากครอบครัวผู้สูงอายุพิการ มีค่าเฉล่ียมากที่สุด (  = 4.33) รองลงมา มีความต้องการมีอาสาสมัครมาพบปะพูดคุยเพ่ือให้กำลังใจ (  = 4.23) และมีความต้องการ ได้รับคำแนะนำด้านสุขภาพจิตและการจัดการความเครียด (  = 4.16) ตามลำดับ ส่วน ความต้องการการ เวลาในการออกกำลังกาย มีความตอ้ งการเฉลยี่ นอ้ ยที่สดุ (  = 3.81) ตอนท่ี 3 นำเสนอรปู แบบการจดั บริการที่เหมาะสมสำหรบั ผ้สู งู อายพุ กิ าร จากข้อมูลการสนทนากลุ่ม (Focus Group) เพ่ือกำหนดรูปแบบการจัดบริการด้านสุขภาพที่ สอดคล้องกับผสู้ ูงอายุพิการ โดยผู้เข้ารว่ มสนทนากลุม่ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านสวัสดิการสังคม สำหรับผู้สูงอายุจากส่วนราชการ เช่น สถานสงเคราะห์คนชรา สถานสงเคราะห์คนพิการ สถานสงเคราะห์ คนไร้ท่ีพง่ึ ศนู ย์บริการสวัสดกิ ารสงั คมผู้สงู อายุ เจ้าหน้าทีโ่ รงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพประจำตำบล เจา้ หนา้ ท่ี สาธารณสุขอำเภอ เป็นต้น ผลการศึกษาพบว่า ตารางที่ 4.32 แสดงประเดน็ ข้อคน้ พบจากการสนทนากลมุ่ ประเด็นศึกษา ข้อค้นพบ 1. ปัญหาของผูส้ งู อายุพิการ 1. ปัญหาด้านสุขภาพร่างกาย ผู้สูงอายุพิการมีสุขภาพร่างกายไม่ แข็งแรง มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ ปัญหาการได้ยินและปัญหาด้าน

94 โรคกระดูก 2. ปัญหาด้านสุขภาพจิต เน่ืองจากผู้สูงอายุพิการบางรายไม่ได้รับการเอา ใจใส่ดูแลจากครอบครัวเท่าที่ควร จึงส่งผลทำให้เป็นโรคซึมเศร้า มักเอาแต่ใจตวั เองและขนี้ ้อยใจ 3. ด้านการทำงานและการมรี ายได้ เนอ่ื งจากไม่สามารถประกอบอาชีพ ได้ ทำให้รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุ พิ ก า ร บ า ง ร า ย ท่ี มี ศั ก ย ภ า พ ต้ อ ง ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ต า ม ค ว า ม เหมาะสมจะได้หารายได้มาช่วยแบ่งเบาภาระให้แกค่ รอบครวั 4. ปัญหาด้านส่ิงอำนวยความสะดวกและกายอุปกรณ์ท่ีมีความจำเป็นใน การดำเนินชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุพิการ เช่น รถเข็น กระโถน ผา้ อ้อมสำหรับผู้ใหญ่ เป็นต้น 5. ปัญหาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการเข้าถึงสิทธิของผู้สูงอายุ หรือ ผู้พิการ 6. ปญั หาจากการดูแล ผู้ดูแลไม่มีความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้สูงอายุ พกิ ารทถี่ ูกตอ้ งและไม่ไดร้ บั การเอาใจใส่จากครอบครัวเทา่ ท่ีควร 7. ปัญหาด้านท่ีอยู่อาศัย บ้านของผู้สูงอายุพิการบางราย มีลักษณะไม่ ถกู สุขลกั ษณะและเหมาะสมสำหรับผสู้ งู อายุพกิ าร 8. ปัญหาการให้บริการต่าง ๆ ช่องทางพิเศษในการบริการทางด่วน ส่ิงอำนวยความสะดวกในสถานที่ต่าง ๆ ตารางท่ี 4.32 แสดงประเดน็ ข้อค้นพบจากการสนทนากล่มุ (ต่อ) ประเด็นศกึ ษา ขอ้ คน้ พบ 2. การไดร้ บั บริการจาก หนว่ ยงานตา่ ง ๆ 1. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดให้บริการ กองทุนสำหรับผู้พิการ การขึ้นทะเบียนผู้พิการ มีล่ามภาษามือ ผู้ช่วยคนพิการ กายอุปกรณ์ การปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัย จัดฝึกอบรมผู้ช่วยคนพิการ ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์บริการผู้พิการ

95 สนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือการเคล่ือนไหวต่าง ๆ สำหรับผู้พิการ จัดอบรมอาสาสมัครดูแลผสู้ งู อายแุ ละผูพ้ ิการ 2. องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้บริการการฝึกอาชีพ เบ้ียยังชีพ การจัดส่ิงอำนวยความสะดวก เช่น การจดทะเบียนผู้พิการ ต่อบัตรประจำตัวผู้พิการ จัดทำทางลาด แจกถุงยังชีพ การเย่ียม บ้านผู้สูงอายุพิการ จัดต้ังศูนย์บริการผู้พิการ จัดเก็บข้อมูลส่วน บุคคลของผู้พิการในตำบล โครงการผู้สูงอายุสัญจรเสริมสร้าง ภูมิปัญญา จัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุพิการได้มีส่วน รว่ มในชมุ ชน 3. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้บริการการเตรียม ความพร้อมเม่ือเข้าสู่วัยทอง การเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย และโรค ศูนย์ให้ความรู้และคำแนะนำเร่ืองสวัสดิการ การดูแล สขุ ภาพและการฟ้ืนฟูสมรรถภาพของผพู้ ิการ ชุดสิทธปิ ระโยชน์ของ ผู้สูงอายุถ้ามีความเส่ียง แนะนำการปฏิบัติตัว การบริการเชิงรุก การตรวจเยยี่ มโดยทีมสหวชิ าชีพ 4. อาสาสมัคร (อผส. อสม. อพมก.) ให้บริการการเย่ียมบ้านให้ กำลังใจ ตรวจวัดความดัน ลงตรวจเย่ียมและร่วมกิจกรรมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 5. ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมคนพิการให้บริการในการประสานความ ชว่ ยเหลือและจดั กิจกรรมตา่ ง ๆ 6. กลุ่มต่าง ๆ เช่น กองทุนสวัสดิการชุมชน กลุ่มออมทรัพย์ กาชาด กองทุนบทบาทสตรี มีการจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกตามระเบียบ ของแตล่ ะแห่ง ตารางที่ 4.32 แสดงประเดน็ ขอ้ ค้นพบจากการสนทนากลมุ่ (ต่อ)

96 ประเดน็ ศึกษา ขอ้ ค้นพบ 3. ปญั หาจากการรับบริการจาก หน่วยงานต่าง ๆ 1. ไม่สามารถให้บริการผู้สูงอายุพิการในชุมชนได้อย่างท่ัวถึง เนื่องจาก หน่วยงานต่าง ๆ มีข้อจำกัดในเร่ืองของบุคลากรที่ไม่เพียงพอในการ 4. รปู แบบการจัดบริการท่ี ดำเนินงาน เหมาะสมสำหรบั ผสู้ ูงอายพุ ิการ 2. ไม่มีทีมสหวิชาชีพท่ีให้บริการแก่ผู้สูงอายุพิการได้อย่างทั่วถึงและ ครอบคลุมทุกกิจกรรม เช่น ไม่มีนักกายภาพบำบัด ไม่มีนัก กจิ กรรมบำบัด เป็นตน้ 3. ไม่มีสถานให้บริการท่ีเป็นการเฉพาะ หรือห้องบริการพิเศษที่ให้บริการ แกผ่ ู้สูงอายพุ กิ าร 4. ปัญหาจากการจัดหารถเข็นสำหรับผู้สูงอายุพิการที่มีความซ้ำซ้อนของ การให้บรกิ ารจากหนว่ ยงานต่าง ๆ 5. ไมม่ สี ถานท่ี หรอื เวทีจัดกจิ กรรมของผสู้ ูงอายพุ กิ าร 6. อาสาสมัครที่ดูแลไม่สามารถทำงานได้เต็มท่ี เพราะขาดงบประมาณ หรือค่าตอบแทนและมภี าระตอ้ งดูแลครอบครัว 1. รูปแบบการบริการทจ่ี ัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น - องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีความใกล้ชิดประชาชนทำให้เขา้ ใจและ เข้าถึงปัญหาของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว แต่จะต้องขยายบทบาท ของหน่วยงานให้มากขึ้นตามโครงสร้างการกระจายอำนาจใหม่และ การจัดสรรทรัพยากรใหม่ สุดท้ายภาคประชาชนจะเป็นผู้ที่ต้องดูแล สวสั ดิการพื้นฐานของตนเอง คุ้มครองรักษาประโยชน์ของตนและทำ หน้าท่ีตรวจสอบการจัดบริการและจัดสรรทรัพยากรขององค์กร ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นไปพร้อมกนั - การดูแลผู้สูงอายุพิการน้ันมีองค์ประกอบจำนวนมากและหลาย อย่าง เป็นสิ่งท่ีมีอยู่ในชุมชน ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินถือ เป็นแหล่งทุนที่สำคัญ รวมท้ังทรัพยากรต่าง ๆ ในพื้นท่ี เช่น โรงพ ยาบ าลชุมช น บุ คลากร ซ่ึงการที่ จะพั ฒ น ารูป แบ บ การจัดบริการท่ีเหมาะสมจะต้องมีเคร่ืองมือที่สำคัญ คือ เครื่องมือ เชิงสถาบัน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในระดับองค์การบริหาร ส่วนตำบล หรือเทศบาลเป็นเคร่ืองมือท่ีทรงพลังในการประสาน ทรัพยากรท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน การดำเนินการต้องอยู่ในรูปของ การรวมกลุ่ม โดยอาศัยฐานเงินและฐานอำนาจ คือ องค์การบริหาร ส่วนตำบล หรอื

97 ตารางที่ 4.32 แสดงประเดน็ ข้อคน้ พบจากการสนทนากลุ่ม (ต่อ) ประเดน็ ศกึ ษา ข้อค้นพบ 4. รปู แบบการจัดบรกิ ารที่ เทศบาลเป็นหน่วยงานสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนให้ชุมชนเกิดเข้มแข็ง เหมาะสมสำหรับผ้สู งู อายพุ ิการ และสามารถดำเนนิ งานได้อยา่ งยง่ั ยืน (ตอ่ ) - องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ต้องเป็นเจ้าภาพหลักในการดึงทุกภาค ส่วน เช่น วัด โรงเรียน หน่วยงานสาธารณสุขเข้าร่วมจัดเวทีเป็นเวที นโยบาย เร่ิมต้ังแต่การสำรวจชุมชน การสร้างความตระหนักร่วม การจัดทำข้อบญั ญัตขิ ององค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาลในการ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุพิการ การจัดต้ังศูนย์ฟ้ืนฟู สมรรถภาพผสู้ งู อายพุ ิการและการให้การสนับสนนุ ดา้ นตา่ ง ๆ - การดูแลสุขภาพคนพิการในเชิงระบบ ต้องทำงานลงไปให้ถึงชุมชน ท้องถ่ิน คำว่า “ชุมชนท้องถิ่น” ไม่ได้หมายถึง องค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ิน ชาวบ้าน หรือจิตอาสา แต่หมายถึงกระบวนการเพ่ือนช่วย เพื่อน ฉะน้ัน จึงต้องมีการส่งเสริมองค์กรคนพิการในระดับต่าง ๆ โดยเป้าหมายต้องการจะให้มีองค์กรคนพิการประจำตำบล เพ่ือ ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน ส่วนบทบาทของเจ้าหน้าที่ภาครัฐเป็นพ่ีเลี้ยง เพอ่ื ใหค้ ำปรกึ ษา แนะนำในเชิงวิชาการเทา่ นนั้ - ข้อจำกัดในการให้บริการ คือ การขาดความรู้ ความเข้าใจต่องาน สวัสดิการสังคม ส่วนใหญ่ใช้ระเบียบและแนวปฏิบัติของกรมพัฒนา สังคมและสวสั ดกิ ารเป็นหลัก ซึง่ ไม่สอดคลอ้ งกับสภาพความจริง แต่มี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งสามารถจัดสวัสดิการได้ตาม แน วทางของชุมชน ตนเอง ซ่ึงข้ึนกับ วิสัยทัศน์ของผู้นำและ คณะกรรมการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ เปน็ หลัก - การทำงานขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ได้แก่ 1) สำรวจชมุ ชน คัดกรองกล่มุ ผสู้ ูงอายพุ ิการ 2) จดั ทำข้อบัญญตั ิขององค์การบริหารส่วนตำบล หรอื เทศบาล 3) จดั ทำแผนตำบล 4) จัดสวัสดกิ ารสนบั สนุนงบประมาณ 5) จดั หาอุปกรณ์

98 6) จัดหา หรือสรา้ ง หรอื ปรับปรงุ สถานท่ี 7) สร้างภาคีเครอื ข่ายและอาสาสมคั ร 8) สร้างอาชีพและจัดหาตลาด ตารางท่ี 4.32 แสดงประเดน็ ข้อคน้ พบจากการสนทนากลุม่ (ต่อ) ประเด็นศกึ ษา ขอ้ คน้ พบ 4. รปู แบบการจดั บริการท่ี 9) ส่งเสริมสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาและวิถีชุมชนในการดูแล เหมาะสมสำหรับผูส้ งู อายุพิการ ผสู้ ูงอายพุ กิ าร (ต่อ) 10) เกือ้ หนนุ ให้เกิดสงั คมเออื้ อาทร 2. รูปแบบการบรกิ ารโดยชุมชนแบบพหภุ าคี หรือพหลุ กั ษณ์ - การจัดการใช้หลักการมีส่วนร่วมเป็นหลักการพ้ืนฐานที่สำคัญของ การให้บริการแบบพหุภาคี หรือพหุลักษณ์ ท่ีมีการเกิดขึ้นแบบค่อย เป็นค่อยไป ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์ปัญหา เพื่อวิเคราะห์หา รูปแบบทางเลือกใหม่ ๆ ที่จะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดทำ สวัสดิการรูปแบบใหม่ ๆ โดยการทดลองและมีการปรับปรุงแก้ไข รูปแบบดังกล่าวให้สาม ารถตอบสนองกับความต้องการของ กลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด มิติการทำงานจึงเป็นแนวราบมากกว่า แนวด่ิง การเปิดโอกาสให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการเข้าร่วมแสดง ความคิดเห็น ร่วมโต้แย้ง ร่วมรับรู้และร่วมวิพากษ์วิจารณ์ มีการหา ประชามติรว่ มกนั จากทุกภาคส่วนในการให้บรกิ าร หากการให้บรกิ ารท่ี จัดไม่เหมาะสมกจ็ ะใช้ประชามติร่วมกนั ปรับปรุง แกไ้ ขกฎและระเบียบ เพ่ือให้เกิดสิทธิประโยชน์ร่วมกัน และมีการพัฒนาการให้บริการไปสู่ การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของกลุม่ เป้าหมายมากข้นึ - รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุพิการมีหน่วยงาน หรือศูนย์บริการหลัก ภายในชุมชน โดยรัฐเข้ามาหนุนเสริมเพื่อความยั่งยืน เป็นระบบ พหุภาคีที่มีการร่วมดำเนินการทุกภาคส่วน หน่วยงานรัฐ ท้องถิ่น กลุ่ม หรือองค์กรชุมชน อาสาสมัครต่าง ๆ ผ่านการจัดตงั้ เป็นกองทุน การสง่ เสริมและดแู ลทางดา้ นสขุ ภาพจิตสำหรบั ผสู้ ูงอายพุ กิ ารและผดู้ ูแล

99 ผูส้ ูงอายพุ ิการ หรือการบูรณาการศนู ยบ์ ริการผู้พิการในชมุ ชนและศูนย์ พฒั นาคณุ ภาพชวี ิตและส่งเสรมิ อาชพี - ข้อจำกัดในการให้บริการ คือ การขาดความรู้ ความเข้าใจต่องาน สวัสดิการสังคม ส่วนใหญ่ใช้ระเบียบและแนวปฏิบัติของกรมพัฒนา สงั คมและสวัสดิการเป็นหลัก ซ่งึ ไม่สอดคล้องกับสภาพความจริง แต่มี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งสามารถจัดสวัสดิการได้ตาม แนวทางของชุมชนตนเอง ซึ่งขนึ้ กบั วสิ ยั ทศั นข์ องผู้นำและคณะกรรมการ ตารางท่ี 4.32 แสดงประเดน็ ข้อค้นพบจากการสนทนากลมุ่ (ตอ่ ) ประเดน็ ศึกษา ขอ้ ค้นพบ 4. รปู แบบการจดั บริการท่ี เหมาะสมสำหรับผ้สู ูงอายพุ ิการ ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เปน็ หลัก (ตอ่ ) - การทำงานของชมุ ชนแบบพหภุ าคี ได้แก่ 1) มเี ปา้ หมายร่วมในการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ผู้สงู อายุพิการ 5. กลไกนโยบาย กลไกการ บรหิ ารจัดการและกลไกการ 2) การเปดิ โอกาสใหค้ นทกุ คนทเ่ี กยี่ วข้องเข้ามาร่วม 3) มมี ตริ ่วมกนั จากทกุ ภาคส่วนในการดำเนนิ การ 4) เป็นระบบพหุภาคีท่ีมีการร่วมดำเนินการทุกภาคส่วน หน่วยงาน รัฐ ท้องถ่ิน กลุ่ม หรือองค์กรชุมชน อาสาสมัครต่าง ๆ โดย ผา่ นการจดั ต้งั เป็นกองทุนชุมชน 5) มีหน่วยงาน หรือศูนย์บรกิ ารหลักภายในชุมชน 6) มีการรว่ มกล่มุ เพอ่ื สรา้ งอาชีพและรายได้ 7) รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาหนนุ เสริมเพอ่ื ความ ยงั่ ยนื 8) หนว่ ยงานเอกชนเข้ามารว่ มสนบั สนนุ งบประมาณ 9) มีการขับเคลื่อนกจิ กรรมโดยภาคีเครือข่ายในชมุ ชน 10) พหภุ าคดี ำเนนิ งานแบบสังคมเอ้ืออาทร 1. กลไกนโยบาย - หนว่ ยงานของรัฐท่ีทำหนา้ ทีใ่ นการกำหนดนโยบาย วางแผน กำกับ

ดำเนนิ การ 100 ติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานด้านการให้บริการผู้สูงอายุ พกิ าร - กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทำหน้าที่ใน การขับเคลื่อนกลไกนโยบาย กลไกการบรหิ ารจัดการและกลไกการ ดำเนนิ งาน 2. กลไกการบริหารจัดการและกลไกการดำเนนิ งาน - กลไกการบริหารจัดการและกลไกการดำเนินงานในระบบพหุภาคี หรือพหุลักษณ์ ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ภาคทอ้ งถิน่ และภาคประชาชน 1) กลไกภาครัฐส่วนกลางมีงบประมาณ มีบุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ แต่มีข้อจำกัดเก่ียวกับกฎระเบียบอันเคร่งครัด และข้นั ตอนอันยุ่งยาก สง่ ผลใหก้ ารดำเนินงานลา่ ช้า ตารางที่ 4.32 แสดงประเดน็ ข้อค้นพบจากการสนทนากล่มุ (ต่อ) ประเด็นศกึ ษา ข้อคน้ พบ 5. กลไกนโยบาย กลไกการ 2) กลไกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถเข้าถึงประชาชนได้ บ ริ ห า ร จั ด ก า ร แ ล ะ ก ล ไก ก า ร ง่าย มีงบประมาณของรัฐสนับสนุนการให้บริการ แต่มีข้อจำกัด ดำเนินการ (ตอ่ ) ดา้ นบคุ ลากรทมี่ ีความรคู้ วามสามารถเฉพาะดา้ นน้อย 3) กลไกภาคเอกชน ส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านบุคลากรและ งบประมาณมีน้อย แต่มีศักยภาพในการทำงานเชิงลึก สามารถ สร้างกระบวนการเรียนร้แู ละเขา้ ถงึ ประชาชนไดร้ วดเร็ว 4) กลไกภาคประชาชนมีทุนทางสังคม ศาสนา วัฒนธรรมชุมชนท่ี เอ้ือต่อการให้บริการ แต่สามารถจัดบริการสวัสดิการสังคมได้ใน ขอบเขตจำกัดเฉพาะกล่มุ เป้าหมายและเฉพาะพ้นื ที่ - เอกภาพของหน่วยงานท่ีทำหน้าที่การจัดบริการสวัสดิการสังคมไม่ เพยี งพอ - ความคลุมเครือของอำนาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

101 มผี ลตอ่ การตดั สินใจในการดำเนินงาน - กฎระเบยี บไม่เอ้อื ตอ่ การดำเนนิ งาน - ข้นั ตอนการดำเนนิ งานมากเกินไป ยุ่งยากซบั ซอ้ น - งบประมาณไม่เพียงพอต่อการให้บริการผู้สูงอายุพิการเพื่อให้ ครอบคลุมกลุ่มเปา้ หมายท่ีเดอื ดร้อน - บุคลากรไม่เพียงพอและบุคลากรขาดการพัฒนาความรู้ ทักษะการ ให้บรกิ ารผูส้ ูงอายุพกิ ารให้มีคณุ ภาพ - ขาดการติดตามและตรวจสอบการให้บรกิ ารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ - ประชาชนมีสว่ นรว่ มในกระบวนการจัดบรกิ ารในรูปแบบของจติ อาสา 6. การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน 1. จดุ แขง็ ปัญหาอุปสรรคและทางเลือกของ - สังคมไท ยเป็ นสังคมพุ ท ธศาสน า ท ำให้ มี ความเอ้ืออาท ร รูปแบบการให้บริการผู้สูงอายุ จิตสาธารณะ จิตบริการ พุทธศาสนาเป็นรากฐานการให้บริการ พกิ ารทเ่ี หมาะสม ผู้สงู อายุพกิ าร - มีผู้นำองค์กรและชุมชนต้นแบบในการให้บริการผู้สูงอายุพิการ ซึ่ง เป็นแหล่งเรียนรู้และผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการให้บริการผู้สูงอายุ พกิ ารให้แกผ่ อู้ ื่นได้นำไปทดลองและขยายผลต่อไป - วัฒนธรรมชุมชนและภูมิปัญญาท้องถ่ินมีส่วนส่งเสริมและสร้าง ความเข้มแข็งในการให้บริการผูส้ งู อายพุ กิ าร ตารางท่ี 4.32 แสดงประเด็นขอ้ คน้ พบจากการสนทนากลุ่ม (ตอ่ ) ประเดน็ ศกึ ษา ข้อค้นพบ 6. การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน - มกี ฎหมายและแผนแม่บทท่ีช้นี ำการจัดสวัสดกิ ารสำหรับประชาชน ปัญหาอุปสรรคและทางเลือกของ โดยเฉพาะผูด้ อ้ ยโอกาส รู ป แ บ บ ก า ร ใ ห้ บ ริ ก า ร ผู้ สู ง อ า ยุ - มชี มรมผสู้ งู อายุและชมรมผูพ้ ิการทม่ี คี วามเขม้ แขง็ พกิ ารท่เี หมาะสม - มีอาสาสมัครทุกหมูบ่ า้ นครอบคลุมทกุ ตำบล - มีกลุ่มชมรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาคประชาชน เช่น จิตอาสา อสม. อผส. ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมผู้พิการ กองทุนสวัสดิการชุมชนและ กลมุ่ ออมทรพั ย์ เปน็ ตน้ ท่มี คี วามเขม้ แขง็

102 2. จดุ อ่อน - ขาดกลไกหลักท่ีประสานเชื่อมโยงงานการให้บริการผู้สูงอายุพิการ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ - กลไกการบริหารและกลไกการดำเนินงานขาดประสิทธิภาพทุก ระดบั - ความไมต่ ่อเน่อื งของนโยบายภาครัฐ - กฎระเบียบขาดความยืดหย่นุ และเป็นอุปสรรคในการดำเนนิ งาน - บุคลากรมีไม่เพียงพอและบุคลากรท่ีมีอยู่จำเป็นต้องได้รับการ พัฒนาคณุ ภาพ - ประชาชนขาดความรู้ ความเข้าใจในสิทธิ หน้าที่และการเข้าถึง สิทธขิ องตน - งบ ป ระมาณ มีจำกัดและการบริห ารงบ ป ระมาณ ยังไม่มี ประสิทธิภาพ - ขาดระบบข้อมูลท่ีมีประสิทธิภาพอันจะเป็นประโยชน์ต่อการ กำหนดนโยบาย วางแผนและดำเนินงาน - การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการจัด สวัสดกิ ารสงั คมมไี มเ่ พียงพอ 3. ปญั หาอปุ สรรค - ผู้สูงอายุพิการไม่ได้รับรู้เรื่องสิทธิและทำให้ไม่เข้าถึงการให้บริการ ตา่ ง ๆ - ผสู้ งู อายพุ กิ ารไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรมในการรับบรกิ าร - บริการในปัจจุบันไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมความต้องการของ ผสู้ งู อายพุ กิ าร สรปุ รปู แบบการบริการที่เหมาะสมสำหรับผสู้ ูงอายุพิการ รูปแบบการบริการผู้สูงอายุพิการที่เหมาะสมจากผลการศึกษาประกอบด้วย 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบการบริการที่จัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รูปแบบการบริการโดยชุมชนแบบพหุภาคี หรือ

103 พหุลักษณ์ และรูปแบบการบริการทางเลือก ได้แก่ รูปแบบการบริการโดยภาคธุรกิจ เอกชน รูปแบบการ บรกิ ารโดยองคก์ รสาธารณกุศลและรูปแบบการบริการโดยครอบครวั 1. รปู แบบการบริการทจ่ี ดั โดยองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น องคก์ รปกครอง ส่วนท้องถิ่น ศูนย์ ผู้สูงอายพุ กิ าร เอกชน รัฐบาล สาธารณกศุ ล ภาคเี ครือขา่ ย ผู้สูงอายพุ กิ าร ผ้ดู แู ลผสู้ ูงอายุพกิ าร องค์กรชมุ ชน อพม. อสม. อผส.รพสต. ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมผพู้ ิการ แผนภาพท่ี 4.1 รปู แบบการบรหิ ารที่จดั โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน การท ำงาน ในรูปแบบ การบ ริการท่ีจัดโดยองค์กรป กครองส่วนท้ องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาลเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินงาน เพ่ือเป็นการยกระดับและพัฒนา รูปแบบการจัดบริการและสวัสดิการสังคมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุส่งเสริมให้เกิดการระดม ทรัพยากรและความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมและบริการ สำหรับผู้สงู อายุ มีการเช่ือมโยงคนทุกวยั ใหไ้ ด้รบั ประโยชน์จากการดำเนินงานศูนย์ผสู้ งู อายุพกิ าร เป็นรูปแบบ การให้บริการที่มีข้อกำหนดรูปแบบที่เป็นทางการ ชัดเจนตามกฎหมายและมีแผนพัฒนาตามนโยบายของ รัฐบาล มีการปฏิบัตติ ามกฎหมายทเี่ ก่ียวข้องโดยมเี จ้าหน้าท่ีในการปฏิบตั ิงานเป็นหลัก มีหนว่ ยงานสำนักงาน ที่ชัดเจน ซง่ึ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมกี ารดำเนนิ งาน ดงั น้ี 1) สำรวจชุมชน คัดกรอง ค้นหากลุ่มเส่ียงและกล่มุ ผสู้ ูงอายุพกิ าร 2) จัดทำขอ้ บัญญัติขององค์การบริหารสว่ นตำบล หรอื เทศบาล 3) จัดทำแผนตำบล 4) จดั สวสั ดกิ ารและสนับสนนุ งบประมาณ 5) จัดหาอุปกรณ์ 6) จดั หา หรือสรา้ ง หรอื ปรบั ปรงุ สถานท่ี

104 7) สรา้ งภาคีเครอื ขา่ ยและอาสาสมคั ร 8) สรา้ งอาชพี และจดั หาตลาด 9) สง่ เสริมสนับสนุนการใชภ้ ูมิปญั ญาและวิถชี ุมชนในการดแู ลผูส้ งู อายุพกิ าร 10) เก้อื หนุนให้เกิดสงั คมเออ้ื อาทร 2. รปู แบบการบรกิ ารโดยชุมชนแบบพหภุ าคี หรือพหุลกั ษณ์ พหภุ าคี ภาคีเครือขา่ ยในพน้ื ที่ ผู้สงู อายพุ ิการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ องคก์ รชุมชน อพม. อสม. อผส. รพ.สต. ชมรมผู้สงู อายุ ศูนย์ ชมรมผู้พิการ ผ้สู ูงอายุ เอกชน รัฐบาล อปท. แผนภาพที่ 4.2 รูปแบบการบริหารท่ีจัดโดยชุมชนแบบพหภุ าคี หรอื พหลุ กั ษณ์ การทำงานในรูปแบบการบริการโดยชุมชนแบบพหุภาคี เป็นภาคีเครือข่ายในชุมชนท่ีมี ความเข้มแขง็ สำหรับกลไกภาคประชาสังคม ได้แก่ กลมุ่ ผูส้ ูงอายพุ ิการ ผู้ดแู ลผู้สงู อายพุ ิการ ชมรมผู้สงู อายุ ชมรมผู้พิการ องค์กรชุมชน อาสาสมัครกลุ่มต่าง ๆ เช่น อสม. อพม. อผส. และ รพ.สต. โดยมีการ ดำเนนิ งาน ดงั นี้ 1) มีเปา้ หมายร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผสู้ งู อายพุ ิการ 2) การเปดิ โอกาสใหค้ นทุกคนทีเ่ ก่ียวข้องเข้ามารว่ ม 3) การหาประชามตริ ว่ มกนั จากทุกภาคสว่ นในการดำเนนิ การ 4) เป็นระบบพหุภาคีท่ีมีการร่วมดำเนินการทุกภาคส่วน หน่วยงานรัฐ ท้องถ่ิน กลุ่ม หรอื องค์กรชุมชน อาสาสมัครต่าง ๆ โดยผ่านการจดั ตั้งเปน็ กองทนุ ชมุ ชน 5) มหี นว่ ยงาน หรือศูนย์บริการหลกั ภายในชุมชน 6) มีการร่วมกลุม่ เพือ่ สรา้ งอาชีพและรายได้ 7) รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเขา้ มาหนนุ เสรมิ เพื่อความยั่งยืน 8) หนว่ ยงานเอกชนเขา้ มารว่ มสนบั สนุนงบประมาณ

105 9) มกี ารขับเคลื่อนกิจกรรมโดยภาคเี ครอื ข่ายในชุมชน 10) พหุภาคดี ำเนนิ งานแบบสังคมเอือ้ อาทร 3. รูปแบบการบรกิ ารทางเลือก เช่น รปู แบบการบรกิ ารโดยภาคธุรกิจเอกชน รปู แบบการ บรกิ ารโดยองคก์ รสาธารณกุศลและรปู แบบการบรกิ ารโดยครอบครวั เปน็ ต้น 3.1 รปู แบบการบรกิ ารโดยภาคธรุ กจิ เอกชน เป็นบริการทางเลือกสำหรับผู้ท่ีมีรายได้สูง เพราะเป็นการบริการท่ีมีค่าใช้จ่ายซึ่ง คอ่ นข้างสูง รัฐไม่มีการกำหนดมาตรฐานกลางและการดูแลกำกับที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายท่ีเก่ยี วข้องชัดเจน ดังนั้น เพื่อให้ผู้สูงอายุพิการได้รับการคุ้มครองจากภาครัฐ จะต้องมีระเบียบ หรือมาตรการต่าง ๆ ในการ ควบคุม เช่น สถานบริการผู้สูงอายุพิการจะต้องจดทะเบียนกับรัฐและดูแลผู้สูงอายุพิการให้เป็นไปอย่างมี คุณภาพ ควรมีการกำหนดมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุพิการ สำหรับสถานบริการให้ครอบคลุมทั้งด้าน โครงสร้างทางกายภาพของสถานบริการ การบริหารจัดการการดูแล ประเภทและคุณลักษณะบุคลากร ทีมสหสาขา และระบบการตรวจสอบคุณภาพการให้บรกิ ารทตี่ ้องได้มาตรฐานตามที่รฐั บาลกำหนด ค่าบรกิ าร ทชี่ ำระตอ้ งมคี วามเหมาะสม เป็นตน้ 3.2 รูปแบบการบรกิ ารโดยองค์กรสาธารณกศุ ล เป็นบริการทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาการให้บริการจากภาครัฐ ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายใน การรับบริการอยู่บ้างแต่ไม่สูงมากนัก สามารถเข้าถึงบริการได้ไม่ยากมาก รัฐบาลควรต้องพัฒนาและกำหนด นโยบายที่เก่ียวกับการดูแลผู้สูงอายุพิการเพื่อให้ผู้สูงอายุพิการได้รับการคุ้มครองจากภาครัฐ โดยอาจจะมี ระเบียบ หรือมาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมเช่นเดียวกับการให้บริการโดยภาคธุรกิจเอกชน สถานบริการ ผู้สูงอายุพิการจะต้องจดทะเบียนกับรัฐบาลในรูปแบบของการให้บริการโดยองค์กรสาธารณกุศลที่ไม่หวังผล กำไร เพื่อให้รัฐบาลสามารถควบคุมได้ในเรื่องการจัดต้ัง มาตรฐานด้านผู้บริหารสถานบริการดูแลผู้สูงอายุ พิการท่ีควรเป็น บุคลากรทางด้านสุขภาพ คุณภาพการให้บริการท่ีต้องได้มาตรฐานตามที่รัฐบาลกำหนด ค่าบรกิ ารที่ชำระต้องมีความเหมาะสม เป็นต้น นอกจากน้ีรัฐบาลต้องให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ แกส่ ถาน บริการผู้สูงอายพุ กิ ารซงึ่ เปน็ องค์กรสาธารณกุศลเพ่อื เป็นการแบง่ เบาภาระของรัฐ 3.3 รปู แบบการบริการท่บี ้านโดยชุมชน เป็นระบบบริการปฐมภูมิที่มีข้อจำกัดด้านบุคลากรทั้งในแง่ของจำนวนและศักยภาพ ของบุคลากรในการให้บริการที่เหมาะสมแก่ผู้สูงอายุพิการ โรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งได้มีการจ้าง นกั กายภาพบำบัดในการให้บรกิ ารในโรงพยาบาลและบริการเชิงรุก โรงพยาบาลส่วนใหญ่มีการจัดต้ังศนู ยด์ ูแล ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ มีการจัดทีมให้บริการเชิงรุกในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน(Home health care) เพ่ือ รองรับการดูแลผู้สูงอายุพิการซึ่ง การให้บริการที่บ้านโดยชุมชนเป็นความสามารถของครอบครัวในการให้การ ดูแลผู้สูงอายุพิการซึ่งต้องใช้ท้ังเวลาและค่าใช้จ่ายท่ีสูง จึงเป็นภาระหนักสำหรับครอบครัว หากปราศจาก มาตรการเก้ือหนุนจากภาครัฐและชุมชนท่ีเหมาะสม ดังนั้น การให้บริการท่ีบ้านโดยชุมชนต้องการให้บริการ การดูแลสุขภาพโดยคณะเจ้าหน้าท่สี าธารณสขุ ที่ไปติดตามดูแลผสู้ ูงอายุพิการที่บา้ น หรอื ให้คำแนะนำเร่ืองการ ดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนกลมุ่ ต่าง ๆ ในชุมชนหมู่บ้าน ซึ่งทมี เจ้าหน้าทส่ี าธารณสุขประกอบดว้ ย บุคลากร

106 กลุ่มสหวิชาชีพหลายด้าน ได้แก่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด นักสังคมสงเคราะห์ นักอาชีวบำบัด เภสัชกร ผู้ช่วยฯ ดูแลสุขภาพท่ีบ้านและคนทำงานบ้าน เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขท่ีปฏิบัติงาน ในพื้นท่ี รปู แบบการดแู ลผสู้ งู อายุพกิ ารในชมุ ชน ไดแ้ ก่ 1) การเยี่ยมบ้าน (Home visit) ในผู้สูงอายุพิการควรมีการเยี่ยมบ้านท่ีมี ลักษณะเฉพาะเป็นการเยี่ยมบ้านเพ่ือประเมนิ ผสู้ ูงอายุ 2) การดูแลสุขภาพที่บ้าน (Home health care) เป็นการดูแลสุขภาพที่มีแบบ แผนการดูแลให้บริการท่ีเป็นทางการ สมำ่ เสมอโดยบุคลากรทางการแพทย์ เช่น พยาบาลชุมชน 3) การบริการที่จดั ในชมุ ชน

บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัย เร่ือง “รูปแบบการบริการที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุพิการ” ในครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพ่ือศึกษารูปแบบการบริการสำหรับผู้สูงอายุพิการท่ีมีในปัจจุบันเพ่ือศึกษาสถานภาพ ผู้สูงอายุพิการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการและความต้องการในการได้รับบริการในด้านต่างๆ จากการจัด สวัสดิการสังคมเพ่ือสนับสนุนการจัดสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุพิการและเพื่อนำเสนอรูปแบบ การจัดบริการทเี่ หมาะสมสำหรบั ผูส้ งู อายุพกิ าร การวิจัยน้ีเป็นการวิจัยประยุกต์ (Applied Research) ศึกษาโดยใช้วิธีการวิจัย แบบผสาน วิธี (Mixed Methodology) การศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดย เก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากผู้สูงอายุพิการ จำนวน 720 คน และผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ จำนวน 720 คน และเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการศึกษาดูงานสถานบริการที่จัดสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุและผู้ พิการสูงอายุในประเทศไทย การจัดเวทีประชุมเพ่ือถอดบทเรียน และแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างผู้สูงอายุพิการ บุคคลซ่ึงดูแลผู้สูงอายุ ผู้บริหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (อปท.) แกนนำ ชุมชน อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพืน้ ท่ีต่อการจดั บริการด้านสุขภาพแกผ่ ู้สูงอายุพิการ/ผู้ พกิ ารสงู อายแุ ละจัดสนทนากลมุ่ (Focus Group) 5.1 ผลการศึกษาวิจัยมีประเด็นสำคัญเก่ียวกับสถานการณ์การจัดบริการสำหรับ ผสู้ ูงอายพุ ิการ ดังนี้ 1. รูปแบบการบรกิ ารสำหรับผู้สูงอายุพกิ ารทีม่ ีในปัจจุบัน มี 5 รูปแบบหลกั ท่สี ำคัญ ไดแ้ ก่ 1) รูปแบบการจัดบริการโดยภาครัฐ รูปแบบน้ีถือเป็นกลไกหลักหรือกระแสหลัก ของ การจัดบริการผู้สูงอายุพิการ โดยรัฐเป็นศูนย์กลาง ในรูปแบบสถาบันของรัฐที่บุคลากรของรัฐเป็น เจ้าภาพหลัก เนื่องจากภาครัฐมีความพร้อมด้านทรัพยากรสูงท้ังบุคลากร งบประมาณ ทรัพยากร พื้นที่ ดำเนนิ งานและตน้ ทนุ ความรเู้ ดมิ ในการบริหารจดั การ 2) รูปแบบการให้บริการท่ีจัดโดยภาคเอกชนและองค์การสาธารณกุศล ซึ่งเกิดจากการ จัดตั้งกลุ่ม สร้างเสริมความเข้มแข็งแก่องค์กรชาวบ้าน องค์กรชุมชนกลุ่มต่างๆ มีการส่งเสริมให้จัดตั้ง เครือข่ายความร่วมมือในกลุ่มปัญหาต่างๆ ซ่ึงจะช่วยให้องค์กรพัฒนาเอกชนเข้าถึงปั ญหาของ กลุ่มเป้าหมายได้ลึกซึ้งกว่า เพราะวิธีการทำงานจะมีลักษณะเกาะติดปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง เป็น การทำงานท่ีมีเป้าหมายทั้งยกระดับความตระหนักรู้ของชุมชน ร่วมไปกับการรณรงค์และ

100 การเคล่ือนไหวทางสังคม จะเน้นการให้ข้อมูลทางเลือกเพ่ือสร้างความเข้าใจแก่สังคม แต่ด้วย ความจำกดั ด้านทรัพยากรและกำลงั คน จงึ ทำให้ไม่สามารถขยายผลของงานได้อย่างกว้างขวางนกั 3) รูปแบบให้บริการท่ีจัดโดยภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งยังไม่มีกฎหมายท่ีควบคุมอย่างเป็น ระบบแต่กเ็ ป็นบริการทางเลอื กสำหรับผู้ที่มรี ายได้สูง ซง่ึ เริม่ เป็นที่นิยมมากขน้ึ ในเมืองใหญ่ๆ ท่ีมีสภาพ ทางเศรษฐกจิ คอ่ นขา้ งดี 4) รูปแบบให้บริการท่ีจัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผลจากการบังคับใช้ พระราชบัญญัติการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ได้ส่งผลบังคับให้เกิดการกระจายอำนาจ การจัดการสวัสดิการและการดูแลด้านสาธารณประโยชน์ ของชุมชนผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรือเทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เป็นรูปแบบ การให้บริการท่ีมีข้อกำหนดรูปแบบท่ีเป็นทางการ ชัดเจนตามกฎหมาย ท้ังนี้ภาครัฐมีภารกิจต้องเร่ง สร้างกระบวนการเรียนรู้ให้กับภาคท้องถ่ินท่ีจะเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการที่ เหมาะสม โดยเฉพาะการใหค้ วามรู้ ความเข้าใจต่อเร่อื งสวัสดิการ 5) รูปแบบให้บริการแบบพหุภาคี หรือ พหุลักษณ์ โดยมีหลักการมีส่วนร่วมถือเป็น หลักการพ้นื ฐานท่ีสำคญั ซงึ่ จะเกิดขึ้นแบบค่อยเปน็ ค่อยไป ผ่านกระบวนการคิด วเิ คราะห์ปญั หา เพ่ือ วิเคราะห์หารูปแบบทางเลือกใหม่ๆ มิติการทำงานจึงเป็นแนวราบมากกว่าแนวด่ิง การเปิดโอกาสให้ คนทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ร่วมโต้แย้ง ร่วมรับรู้ รว่ มวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งกันและกัน การหาประชามติร่วมกันจากทุกภาคส่วนในการให้บริการ หากการ ให้บริการท่ีจัดไม่เหมาะสมก็จะใช้ประชามติร่วมกันปรับปรุง แก้ไข กฎ ระเบียบเพื่อให้เกิดสิทธิ ประโยชนร์ ่วมกนั และมกี ารพฒั นาการให้บรกิ ารไปส่กู ารพฒั นาคุณภาพชีวติ ของกลุ่มเป้าหมายมากขน้ึ 2. รปู แบบการบรกิ ารผู้สูงอายพุ ิการทเี่ หมาะสม รปู แบบการบริการผู้สงู อายุพกิ ารทีเ่ หมาะสม ในพ้ืนทส่ี ามารถสรุปได้ 3 รปู แบบ 1. รปู แบบการบริการที่จัดโดยองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ รูปแบบการบริการผู้สูงอายุพิการท่ีมีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นเจ้าภาพหลักใน การดำเนินงาน และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานท้ังภายในและภายนอกให้มีส่วนร่วมในการจัด กิจกรรมและบริการอีกทั้งเช่ือมโยงคนทุกวัยให้ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานศูนย์ฯ เป็นรูปแบบ การให้บริการท่มี ีข้อกำหนดรปู แบบทีเ่ ป็นทางการ ชัดเจนตามกฎหมาย และมแี ผนพฒั นาตามนโยบาย ของรฐั บาล และปฏบิ ัติตามกฎหมายท่เี ก่ียวข้อง โดยมีเจา้ หน้าที่ในการปฏบิ ตั งิ านเป็นหลัก มีหน่วยงาน สำนักงานท่ชี ดั เจน 2. รปู แบบการบรกิ ารโดยชมุ ชนแบบพหุภาคี หรอื พหลุ ักษณ์

101 รูปแบบการให้บริการผู้สูงอายุพิการโดยชุมชนแบบพหุภาคีในลักษณะของเครือข่ายใน ชุมชน ซึ่งเป็นกลไกภาคประชาสังคมท่ีมีความเข้มแข็ง เช่น กลุ่มผู้สูงอายุพิการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมผู้พิการ องค์กรชุมชน อาสาสมัครกลุ่มต่างๆ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำ หมู่บ้านอาสาสมัครพัฒนาสังคมอาสาสมคั รดแู ลผูส้ ูงอายุ และอาสาสมัครดแู ลคนพิการ 3. รปู แบบการบรกิ ารทางเลือก 3.1 รปู แบบการบริการโดยภาคธุรกจิ เอกชน รูปแบบการบริการโดยภาคธุรกิจเอกชน เป็นบริการทางเลือกสำหรับผู้ท่ีมีรายได้ ค่อนข้างสูง เพราะเป็นการบริการท่ีมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งรัฐยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานกลาง และ การกำกับดูแลเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องชัดเจน ดังนั้นเพ่ือให้ผู้สูงอายุพิการได้รับ การคมุ้ ครองจากภาครัฐ จงึ ควรมีการกำหนดระเบียบหรือมาตรการตา่ งๆ ในการควบคมุ 3.2 รปู แบบการบริการโดยองค์กรสาธารณกุศล รูปแบบการบริการโดยองค์กรสาธารณกุศล ถือเป็นบริการทางเลือกท่ีช่วยแบ่งเบา การใหบ้ ริการจากภาครัฐ ซง่ึ อาจจะมีคา่ ใชจ้ า่ ยในการรบั บรกิ ารอยบู่ า้ ง แต่ไมส่ ูงมากนัก สามารถเข้าถึง บริการได้ไม่ยากมาก ซ่ึงรัฐบาลควรต้องพัฒนาและกำหนดนโยบายที่เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุพิการ เพื่อให้ผู้สูงอายุพิการได้รับการคุ้มครองจากภาครัฐ โดยอาจจะมีระเบียบหรือมาตรการต่างๆ ใน การควบคมุ เช่นเดียวกับการใหบ้ รกิ ารโดยภาคธุรกิจเอกชน 3.3 รูปแบบการบรกิ ารทีบ่ า้ นโดยชมุ ชน รูปแบบการบริการท่ีบ้านโดยชุมชน ส่วนใหญ่มีการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือ ผู้พิการ จัดทีมให้บริการเชิงรุกในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home health care) เพ่ือรองรับการดูแล ผู้สูงอายุพิการ ซึ่งการให้บริการที่บ้านโดยชุมชนยังต้องอาศัยความสามารถของครอบครัวในการให้ การดูแลผู้สูงอายุพิการเป็นหลัก ซ่ึงสมาชิกครอบครัวต้องใช้ท้ังเวลาและค่าใช้จ่ายท่ีสูง ซ่ึงเป็นภาระ หนักสำหรบั ครอบครวั หากปราศจากมาตรการเก้ือหนนุ จากภาครัฐและชุมชนทเี่ หมาะสม 5.2 อภิปรายผล จากการศึกษารูปแบบการบริการสำหรับผู้สูงอายุพิการท่ีเหมาะสม สามารถอภิปราย ผลการวิจยั ได้ดังน้ี 1. รูปแบบการบริการสำหรับผสู้ งู อายุพิการที่มใี นปจั จุบัน มี 5 รปู แบบหลักท่สี ำคัญ ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดบริการโดยภาครัฐ 2) รูปแบบการให้บริการที่จัดโดยภาคเอกชนและองค์การ สาธารณกุศล 3) รูปแบบให้บริการที่จัดโดยภาคธุรกิจเอกชน 4) รูปแบบให้บริการที่จัดโดยองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และ 5) รูปแบบให้บริการแบบพหุภาคี หรือ พหุลักษณ์ สอดคล้องกับ

102 ผลงานวิจัยของ ระพีพรรณคำหอมและคณะ (2547) ท่ีได้ศึกษาเร่ืองทิศทางและรูปแบบการจัด สวัสดิการสังคมของประเทศไทยซึ่งผลการศึกษา พบว่ารูปแบบการจัดสวัสดิการสังคมมี 3 รูปแบบ รูปแบบแรกคือ สวัสดิการสังคมกระแสหลักได้แก่รูปแบบสวัสดิการสังคมเชิงส ถาบันซ่ึงรัฐ เป็นผู้ให้บริการประชาชนโดยความร่วมมือของภาคเอกชน องค์การสาธารณกุศล ภาคธุรกิจเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นสวัสดิการที่จัดให้ตามสิทธิที่ประชาชนพึงได้รับเป็นสวัสดิการ ขั้นพื้นฐานครอบคลุมการสร้างหลักประกันการบริการทางสังคมรูปแบบท่ีสองคือสวัสดิการสังคม กระแสรองหรอื กระแสทางเลือกในท่ีน้ีหมายถึงรูปแบบสวสั ดิการแบบพหุลักษณ์ (Pluralism Model) ที่คำนึงถึงความหลากหลายเน้นวิธีการท่ีต้องผสมผสานกันจากหลายวิชาชีพหลายหน่วยงานองค์กร ภาคีทุกภาคส่วนร่วมกันคิดแก้ไขปญั หาบนฐานความสำคัญท่ีเสมอภาคแบบหุ้นส่วนและการมีสว่ นร่วม ในฐานะ “เจ้าภาพร่วม” 2. สถานภาพผู้สูงอายุพิการ ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการและความต้องการในการได้รับบริการ ในดา้ นตา่ งๆ จากการจดั สวสั ดิการสงั คมเพอื่ สนบั สนนุ การจัดสวสั ดกิ ารสำหรบั ผสู้ งู อายพุ กิ าร 2.1 ปัญหาของผสู้ ูงอายพุ กิ าร จากการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุพิการประสบปัญหาด้านการรักษาพยาบาล มีปัญหา ขาดคา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางไปรักษาพยาบาล ปัญหาขาดกายอุปกรณ์สำหรับคนพิการ ดา้ นทีอ่ ย่อู าศัย ไม่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และมีปัญหาเตียงนอน ด้านสวัสดิการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต มีปัญหารายได้ไม่เพียงพอแก่การครองชีพ และปัญหาไม่มีอาชีพ ปัญหาด้านการรักษาพยาบาล ส่วนใหญ่ มีปัญหาโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน โรคกระดูก ซ่ึงสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ศิริวรรณ ศิริบุญ (2543) ท่ีได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้นำชุมชนสมาชิกกลุ่มต่างๆ และครู ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาที่สำคัญของผู้สูงอายุคือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสุขภาพ ปัญหา ทางด้านจิตใจ ปัญหาครอบครัว และปัญหาอ่ืนๆท่ีสำคัญ พบว่ามีผู้สูงอายุเป็นสัดส่วนท่ีค่อนข้างสูงมี ปัญหาเร่ืองความเหงา ความว้าเหว่ 2.2 ความต้องการในการไดร้ บั บรกิ ารในด้านต่างๆ จากการจัดสวสั ดิการสังคม จากการศึกษาผู้สูงอายุพิการและผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ พบว่ามีความต้องการ การจัดสวัสดิการสังคมและการจัดบริการ อยู่ในระดับมาก 3 ด้าน ได้แก่ ความต้องการด้านสุขภาพ อนามัย โดยเฉพาะความต้องการด้านจิตใจ ในด้านการได้ความรักความห่วงใยและการให้กำลังใจจาก ครอบครัวซ่ึงทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแลมีความต้องการตรงกัน การมีอาสาสมัครมาพบปะพูดคุยเพ่ือให้ กำลังใจ การได้รับคำแนะนำด้านสุขภาพจิตและการจัดการความเครียด เป็นความต้องการของ ผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการ เนื่องจากผู้สูงอายุพิการ ต้องเผชิญกับปัญหาจากการดูแล ปัญหาการไม่มี เวลาว่าง ปัญหาภาวะเศรษฐกิจ จึงทำให้เกิดภาวะความเครียดท่ีสูง จึงมีความต้องการคำแนะนำ ด้านสุขภาพจิต และการจัดการความเครียด ซ่ึงสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ทับทิม รัตนโกศล

103 (2527) ที่พบว่า ความต้องการของผู้สูงอายุ มีความต้องการการสนับสนุนจากครอบครัว ผสู้ ูงอายุท่ีถูก ปล่อยให้อยู่โดดเด่ียวจะขาดความมั่นคงทางอารมณ์ จิตใจ และเศรษฐกิจ จึงต้องหันไปพึ่งการ ช่วยเหลือจากบุคคลหรือองค์กรสังคมสงเคราะห์ภายนอกครอบครัว ผู้สูงอายุจึงมีความต้องการที่จะ ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของตนเองควบคู่ไปกับการช่วยเหลือจากภายนอกครอบครัว เช่น กลุ่มอาสาสมคั รทงั้ องค์กรภาครฐั และเอกชน ปัญหาด้านบริการทางสังคมท่ัวไป ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการได้รับบริการ ช่องทางพิเศษสำหรับผู้สูงอายุพิการในโรงพยาบาล การสนับสนุนค่าใช้จ่าย (เช่น ค่ารถ ค่าอาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม หรือค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น และการอำนวยความสะดวกในสถานที่ของรัฐสอดคล้อง กับผลการวิจัยของ นุชนาฎ ยูฮันเงาะและโสภา อ่อนโอภาส (2546) ได้ทำการวิจัยเร่ืองผู้สูงอายุ: ฟางเส้นสุดท้ายของครอบครัวในชุมชนเมืองเขตกรุงเทพมหานคร พบว่าผู้สูงอายุกลุม่ น้ีไมไ่ ด้รับบริการ จากภาครัฐและเอกชน โดยภาครัฐยังไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึงและครอบคลุม ส่วนแนวทาง การจัดสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุและครอบครัว ควรมีการเย่ียมเยียนให้กำลังใจ ให้บริการ เบ้ียยังชีพและส่งเสริมเกียรติภูมิของผู้ประกอบอาชีพท่ีสูงอายุ ตลอดจนผลักดันนโยบายลดภาษีให้แก่ บตุ รหลานผูร้ ับภาระเลี้ยงดูผูส้ งู อายุ ด้านกระบวนการยุติธรรม ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการได้รับบริการ การเข้าถึง บริการท่ีรัฐจัดให้การเข้าถึงสิทธิของผู้สูงอายุพิการและการจดทะเบียน และการได้รับสิทธิประโยชน์ ทางกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ทับทิม รัตนโกศล (2527) ท่ีพบว่า ความต้องการทาง สังคมของผู้สูงอายุ ได้แก่ ความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและกลุ่มสังคม ความต้องการ การยอมรับและเคารพยกย่องนับถือจากบุคคลในครอบครัวและสังคม ความต้องการเป็นบุคคลที่มี ความสำคัญในสายตาของสมาชิกในครอบครัว ของกลุ่ม ของชุมชน และของสังคม ความต้องการ มคี วามสัมพันธ์อนั ดีกับบุคคลภายในครอบครัว ชุมชน และสังคม สามารถปรับตัวให้เข้ากับบุตรหลาน ในครอบครัวและสงั คมไดแ้ ละความต้องการมีโอกาสทำในสิ่งท่ตี นเองปรารถนา ปญั หาด้านการศึกษา ผู้สูงอายุพกิ ารมีความต้องการได้รับบรกิ าร การได้รับขา่ วสาร ด้านสิทธิและสวัสดิการจากภาครัฐ ความรู้ทางด้านสิทธิทางการแพทย์และการรักษาพยาบาล และ การเรียนรทู้ ักษะในการดำเนนิ ชีวติ ทเี่ หมาะสมกับความพิการซ่งึ สอดคล้องกับผลการศึกษาของ ทับทิม รัตนโกศล (2527) ที่พบว่า ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการลดการพึ่งพาให้น้อยลง หากครอบครัวและ สังคมส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมต่างๆ ในครอบครัวและสังคมแล้ว จะเป็นการช่วย ผู้สงู อายุให้สามารถพ่ึงตนเอง ไมเ่ ป็นภาระแกส่ ังคมในบนั้ ปลายของชวี ิต ด้านท่ีอยู่อาศัย ผู้สูงอายุพกิ ารมคี วามตอ้ งการได้รับบริการ ปรับสภาพแวดลอ้ มของ ที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสมกับสภาพความพิการ บ้านที่อยู่อาศัยมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และ หอ้ งสว้ มอยภู่ ายในบ้านและเปน็ แบบน่ังหอ้ ยเท้า

104 ด้านการทำงานและการมีรายได้ โดยรวมผู้สูงอายุพิการมคี วามต้องการได้รบั บรกิ าร การส่งเสริมการออมและการลงทุน การจัดหาอาชีพท่ีเหมาะสมแก่ผู้สูงอายุพิการ และการจัดหาแหล่ง เงินทุนในการประกอบอาชีพ ซ่ึงสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ทับทิม รัตนโกศล (2527) ท่ีพบว่า ผู้สูงอายุมีความต้องการด้านการประกันรายได้ โดยเฉพาะการประกันสังคมประเภท ประกันชราภาพ เมื่อเข้าสู่วัยชราและเลิกประกอบอาชีพแล้วจะได้รับบำนาญชราภาพเพื่อช่วยให้สามารถดำรงชีวิต อยา่ งมีความสุขและม่ันคงปลอดภัยตามควรแกอ่ ัตภาพในบัน้ ปลายชีวิต ไม่เปน็ ภาระแกบ่ ุตรหลานและ สังคม ต้องการได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากบุตรหลานเพื่อสะสมไว้ใช้จ่ายในภาวะที่ตนเอง เจ็บป่วย ต้องการให้รัฐช่วยจัดหาอาชีพเพื่อเป็นการเพ่ิมพูนรายได้ เพื่อการมีบทบาททางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับผลการศึกษาของ นุชนาฎ ยูฮันเงาะและโสภา อ่อนโอภาส (2546) ได้ทำการวิจัยเรื่อง ผู้สูงอายุ: ฟางเส้นสุดท้ายของครอบครัวในชุมชนเมืองเขตกรุงเทพมหานคร พบว่าผู้สูงอายุขาด การวางแผนในการดำเนินชีวิต ท้ังเรื่องการมีบุตร การใช้จ่าย ให้บริการเบ้ียยังชีพ ตลอดจนผลักดัน นโยบายลดภาษใี หแ้ ก่บุตรหลานผู้รับภาระเลี้ยงดูผสู้ งู อายุ ด้านนันทนาการ ผู้สูงอายุพิการมีความต้องการได้รับบริการ การเข้าร่วมกิจกรรม ทางศาสนา การให้ความชว่ ยเหลือทางสังคมของผู้สูงอายพุ ิการ และการเข้าร่วมกจิ กรรมตามประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ทับทิม รัตนโกศล (2527) ที่พบว่า ผู้สูงอายุมี ความตอ้ งการ การมีส่วนรว่ มในชุมชน โดยเฉพาะการมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมบางประเภทในสังคม สังคม จึงควรให้โอกาสแก่ผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมในชุมชนให้มีโอกาสได้เรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ ในการพัฒนาตนเอง ในการปรับตัวให้ทันสมัยกับการเปล่ียนแปลงต่างๆ และในการรักษาสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ ให้แขง็ แรงอยู่เสมอ 3. รปู แบบการบริการท่ีเหมาะสมสำหรบั ผู้สูงอายุพกิ าร รูปแบบการบริการผู้สูงอายุพิการที่เหมาะสม จากผลการศึกษา ประกอบด้วย 3 รูปแบบ ไดแ้ ก่ 1) รปู แบบการบริการท่ีจัดโดยองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น 2) รูปแบบการบรกิ ารโดยชุมชนแบบ พหุภาคี หรือ พหุลักษณ์ และ 3) รูปแบบการบริการทางเลือก เช่น รูปแบบการบริการโดยภาคธุรกิจ เอกชน รปู แบบการบรกิ ารโดยองค์กรสาธารณกศุ ล รูปแบบการบรกิ ารโดยครอบครวั 1) รูปแบบการบริการท่จี ดั โดยองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น การทำงานในรูปแบบการบริการท่ีจัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซ่ึงองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาล เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินงาน เป็น รูปแบบการให้บริการท่ีมีข้อกำหนดรูปแบบท่ีเป็นทางการ ชัดเจนตามกฎหมายและมีแผนพัฒนาตาม นโยบายของรัฐบาล และปฏิบัติตามกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง โดยมีเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเป็นหลัก มหี น่วยงานสำนกั งานท่ชี ดั เจน โดยองคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ ดำเนนิ งาน ดงั น้ี

105 (1) สำรวจชุมชน คดั กรอง ค้นหากล่มุ เสีย่ ง กลมุ่ ผ้สู ูงอายพุ ิการ (2) จัดทำขอ้ บญั ญัติของอบต.หรือเทศบาล (3) จดั ทำแผนตำบล (4) จดั สวัสดิการ สนบั สนนุ งบประมาณ (5) จัดหาอุปกรณ์ (6) จัดหา/สรา้ ง/ปรบั ปรุงสถานที่ (7) สรา้ งภาคีเครือข่าย อาสาสมัคร (8) สรา้ งอาชพี จดั หาตลาด (9) สง่ เสริมสนบั สนุนการใชภ้ มู ิปญั ญาและวิถีชมุ ชนในการดแู ลผสู้ งู อายพุ ิการ (10) เกื้อหนนุ ใหเ้ กิดสังคมเอื้ออาทร 2) รูปแบบการบริการโดยชุมชนแบบพหุภาคี หรือ พหุลักษณ์ การทำงานในรูปแบบการบริการโดยชุมชนแบบพหุภาคีโดยภาคีเครือข่ายในชุมชน ซ่ึงมี ความเขม้ แขง็ โดยกลไกภาคประชาสงั คม มกี ารดำเนินงาน ดงั นี้ (1) มีเปา้ หมายรว่ มในการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ผูส้ ูงอายุพกิ าร (2) การเปิดโอกาสให้คนทกุ คนท่ีเก่ยี วข้องเขา้ มาร่วม (3) การหาประชามติรว่ มกันจากทุกภาคส่วนในการดำเนินการ (4) เป็นระบบพหุภาคี ที่มีการร่วมดำเนินการทุกภาคส่วน หน่วยงานรัฐ ท้องถ่ิน กลุ่ม/องค์กรชุมชน อาสาสมัครต่างๆ โดยผ่านการจดั ตั้งเป็นกองทุนชุมชน (5) มีหนว่ ยงานหรอื ศูนยบ์ ริการหลักภายในชมุ ชน (6) มกี ารรวมกลุม่ เพื่อสร้างอาชพี และรายได้ (7) รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ เข้ามาหนุนเสรมิ เพ่ือความยงั่ ยนื (8) หน่วยงานเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนงบประมาณ (9) มกี ารขับเคลื่อนกิจกรรมโดยภาคเี ครอื ข่ายในชมุ ชน (10) พหุภาคีดำเนินงานแบบสงั คมเอ้อื อาทร 3. รูปแบบการบริการทางเลือก เช่น รูปแบบการบริการโดยภาคธุรกิจเอกชน รูปแบบ การบริการโดยองคก์ รสาธารณกุศล รูปแบบการบรกิ ารที่บ้านโดยชมุ ชน เป็นตน้

106 3.1 รูปแบบการบรกิ ารโดยภาคธุรกจิ เอกชน รูปแบบการบริการโดยภาคธุรกิจเอกชน เป็นบริการทางเลือกสำหรับผู้ที่มีรายได้ ค่อนข้างสูง เพราะเป็นการบริการท่ีมีค่าใช้จ่ายซ่ึงค่อนข้างสูง ซึ่งรัฐยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานกลาง และการกำกับดูแลเป็นท่ียอมรับของทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน เพ่ือให้ผู้สูงอายุพิการได้รับ การคุ้มครองจากภาครัฐ โดยอาจจะมีระเบียบหรือมาตรการต่างๆ ในการควบคุม เช่น สถานบริการ ผู้สูงอายุพิการ จะต้องจดทะเบียนกับรัฐ และให้การดูแลผู้สูงอายุพิการเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ควรมี การกำหนดมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุพิการ สำหรับสถานบริการให้ครอบคลุมทั้งด้าน โครงสร้าง ทางกายภาพของสถานบริการ การบริหารจัดการการดูแล ประเภทและคุณลักษณะบุคลากร ทีมสหสาขา และระบบการตรวจสอบคุณภาพการให้บริการที่ต้องได้มาตรฐานตามท่ีรัฐบาลกำหนด ราคาค่าบรกิ ารทตี่ อ้ งเหมาะสม เปน็ ต้น 3.2 รปู แบบการบริการโดยองคก์ รสาธารณกศุ ล รูปแบบการบริการโดยองค์กรสาธารณกุศล ถือเป็นบริการทางเลือกท่ีช่วยแบ่งเบา การใหบ้ รกิ ารจากภาครัฐ ซ่ึงอาจจะมีคา่ ใชจ้ ่ายในการรับบริการอยู่บ้าง แต่ไม่สูงมากนัก สามารถเข้าถึง บริการได้ไม่ยากมาก ซึ่งรัฐบาลควรต้องพัฒนาและกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ พิการ เพื่อให้ผู้สูงอายุพิการได้รับการคุ้มครองจากภาครัฐ โดยอาจจะมีระเบียบหรือมาตรการต่างๆ ในการควบคมุ เช่นเดียวกบั การให้บริการโดยภาคธุรกิจเอกชน โดยสถานบริการผู้สงู อายุพกิ าร จะตอ้ ง จดทะเบียนกับรัฐ ในรูปแบบของการให้บริการโดยองค์กรสาธารณกุศล ที่ไม่หวังผลกำไร เพื่อให้ รัฐบาลสามารถควบคุมได้ในเร่ืองการจัดตั้ง มาตรฐานด้านผู้บริหารสถานบริการดูแลผู้สูงอายุพิการ ที่ควรเป็นบุคลากรทางด้านสุขภาพ คุณภาพการให้บริการท่ีต้องได้มาตรฐานตามที่รัฐกำหนด ราคา ค่าบริการที่ต้องเหมาะสม เป็นต้น และนอกจากน้ันรัฐบาลยังต้องให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ แก่สถานบรกิ ารผสู้ ูงอายุพิการ ซึ่งเปน็ องคก์ รสาธารณกศุ ล เพอื่ เป็นการแบ่งเบาภาระของรฐั 3.3 รูปแบบการบริการทบ่ี ้านโดยชุมชน รูปแบบการบริการที่บ้านโดยชุมชน ซึ่งเป็นระบบบริการปฐมภูมิที่มีข้อจำกัด ด้านบุคลากรทั้งในแง่ของจำนวนและศักยภาพของบุคลากร ในการให้บริการท่ีเหมาะสมแก่ผู้สูงอายุ พกิ าร โรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งได้มีการจ้างนักกายภาพบำบัดในการให้บริการในโรงพยาบาลและ บริการเชิงรุก และโรงพยาบาลชุมชนส่วนใหญ่ มีการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือผู้พิการ จัดทีมเจ้าหน้าท่ีและอาสาสมัครให้บริการเชิงรุกในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home health care) เพ่ือ รองรับการดูแลผู้สูงอายุพิการ ซึ่งการให้บริการท่บี ้านโดยชมุ ชนต้องอาศัยความสามารถของครอบครัว ในการใหก้ ารดูแลผู้สงู อายุพิการด้วย ซึ่งครอบครัวต้องใช้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายท่ีสูง ซึ่งเป็นภาระหนัก สำหรบั ครอบครัว หากปราศจากมาตรการเกื้อหนุนจากภาครฐั และชุมชนท่เี หมาะสม

107 5.3ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย 1. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ควรเร่งส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์บริการ คนพิการท่ัวไป โดยทำความเข้าใจกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เห็นความสำคัญของการจัดตั้ง ศูนย์บริการคนพิการท่ัวไป โดยการประชุมสัมมนาผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หรือการทำ ข้อตกลงกับสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สนับสนุน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดต้ังศูนย์บริการคนพิการท่ัวไป เพ่ือให้เกิดความร่วมมืออย่างเต็มท่ี ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ดว้ ยการผลักดันเปน็ นโยบายหลักของทอ้ งถนิ่ 2. ในการให้บริการผู้สูงอายุพิการ ควรมีการจัดประเภทตามความรุนแรง 3 ประเภท คือ 1) ผู้สูงอายุพิการท่ีมีภาวะสุขภาพไม่รุนแรง มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ไม่เน้นการรักษาจากแพทย์ แต่ต้องได้รับการดูแลจากสมาชิกในครอบครัว และการช่วยเหลือจากชุมชนในด้านต่าง ๆ ให้สามารถ ดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักด์ิศรี 2) ผู้สูงอายุพิการที่ติดบ้านไม่สะดวกในการออกไปทำกิจกรรม นอกบ้าน จึงต้องมีบริการเข้าไปดูแลเย่ียมเยียนที่บ้านท้ังในด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ 3) ผู้สูงอายุพิการที่มีภาวะติดเตียง หรือเจ็บป่วยเรื้อรัง ท่ีต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นหลัก และ การบริการดูแลที่บ้าน (Home Care) การให้บริการตามประเภทความรุนแรง จึงเป็นประโยชน์ต่อ การวางแผนปฏิบตั กิ ารฟน้ื ฟแู ละพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ทตี่ รงกบั สภาพข้อเทจ็ จรงิ ทีส่ ดุ 3. อาสาสมัครในชุมชนที่ทำงานเพ่ือคนพิการ ควรได้รับความสำคัญและยกย่องว่าเป็น ผู้เสียสละเวลาและชีวิตส่วนตัว ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจอย่างแท้จริง แต่ถึงแม้จะทำงานด้วย จิตอาสาไม่หวังผลตอบแทน กลุ่มคนเหล่าน้ีก็ควรได้รับการดูแลจากคนในสังคมเช่นเดียวกันเพ่ือให้ สามารถดำรงความเป็นอาสาสมัครได้อย่างยั่งยืน การยกย่องเชิดชูเกียรติเพียงอย่างเดียวอาจไม่ เพยี งพอ การได้รับค่าตอนแทนเป็นตวั เงนิ ทีเ่ หมาะสมเปน็ สง่ิ จำเป็นในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจบุ นั ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏิบัติ 1. รูปแบบการบริการท่ีเหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุพิการ ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบใดใน การดำเนินการ สิ่งสำคัญทที่ ำใหเ้ กดิ ความสำเร็จตามวตั ถปุ ระสงค์ คอื ตัวผู้สูงอายพุ ิการเอง ผู้ดแู ลและ สมาชิกในครอบครวั กล่าวคอื ตัวผู้สูงอายุพิการ ต้องมีการรับรู้และเข้าใจภาวะสุขภาพของตนเองและ ยอมรับสภาพความพิการ มีกำลังใจท่ีจะต่อสู้และพร้อมท่ีจะรับการฟื้นฟูคณุ ภาพชีวติ ซ่ึงต้องไดร้ ับการ พัฒนาจิตใจให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง (Self-Esteem) ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสภาพร่างกาย

108 ส่วนผู้ดูแล จะต้องตระหนักในภาระหน้าที่ ที่อาจต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ท้ังการดูแล ด้านอาหาร การให้อาหารทางสายยาง การขับถ่าย การสวนอุจาระ การทำความสะอาดร่างกาย การพยุงเข้าหอ้ งน้ำ การขยับตัวเพื่อไม่ใหเ้ กดิ แผลกดทับ การปฐมพยาบาลและกายภาพบำบัดเบื้องต้น การใหย้ า และการสังเกตอาการ งานเหล่านี้เปน็ งานทจี่ ำเจและอาจนา่ รังเกียจ สร้างความเบอ่ื หนา่ ยได้ ง่าย ย่ิงกว่านั้นยังต้องการความใส่ใจ ความละเอียดรอบคอบเป็นพิเศษ สมาชิกในครอบครัวที่ไม่ได้ ปฏบิ ัติหน้าท่ีดูแลผู้สูงอายุพิการโดยตรง จะต้องคอยให้กำลงั ใจทั้งผู้สงู อายุพกิ ารและผดู้ ูแล ไม่ปล่อยให้ เปน็ หนา้ ทข่ี องผูด้ แู ลเพยี งผู้เดยี ว แมจ้ ะมีการให้ค่าตอบแทนก็ตาม 2. แนวคิดการให้บริการผู้สูงอายุพิการ ต้องเน้นให้เกิดการแก้ไขฟ้ืนฟูตนเองเป็นพื้นฐาน ให้ดำรงชีวิตอยู่ได้เยี่ยงคนปกติมากท่ีสุดด้วยสภาพจิตใจที่ไม่ท้อแท้ในโชคชะตา อยู่อย่างมีความหวัง และเขา้ รว่ มกจิ กรรมกบั ชุมชนตามความเหมาะสมของสภาพรา่ งกายและโอกาส 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ควรมีบทบาทหลักในการจัดทำฐานข้อมลู คนพิการในพ้ืนท่ี ท้ังในเชิงปริมาณและคุณภาพ อาทิเช่น ข้อมูลภาพรวม ลักษณะและประเภทความพิการ โดยเฉพาะ ข้อมูลคนสูงอายุพิการ ควรมีการสำรวจถึงสาเหตุของความพิการ ความต้องการและปัญหา และ นำข้อมูลเหล่าน้ีมาวิเคราะห์เพื่อหารูปแบบการบริการที่เหมาะสม และวางแผนการดำเนินงาน โดยให้ ภาคเี ครอื ขา่ ยท่ีเกี่ยวขอ้ ง กลุ่มคนพิการและชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผน 4. ควรจัดให้มีการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเกิดความพิการ ด้วยการส่งเสริม ความรู้เก่ียวกบั ดา้ นสุขภาพ โภชนาการ การจดั การภาวะความเครียด การเสริมสร้างความตระหนักใน คุณค่าของตนเอง การออกกำลังกายท่ีเหมาะสมและการเข้าร่วมกิจกรรมกับชุมชน ส่ิงเหล่านี้สามารถ ช่วยใหผ้ ู้สงู อายุมสี ภาพจติ ใจทเี่ ขม้ แข็งและชะลอความเสอื่ มของสขุ ภาพกาย 5. จากผลการวิจัยพบว่า มีผู้สูงอายุพิการบางส่วนต้องการมีรายได้เป็นของตนเอง ดังน้ัน ควรมีการจัดกิจกรรมที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุพิการหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุพิการด้วย เพ่ือสร้าง ความภาคภูมิใจและเห็นคุณคา่ ของตนเอง โดยอาจเป็นกิจกรรมที่ไม่เกิดความเครยี ด เช่น การทำน้ำยา ล้างจาน น้ำยาอาบน้ำ-สระผม เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์นอกจากจะไว้ใช้เองในครอบครัวแล้ว ท่ีเหลือ องค์กรที่เกี่ยวข้องควรรับซ้ือเพื่อจำหน่ายเป็นรายได้กลับคืนสู่ผู้อายุพิการ หรือเก็บไว้เป็นของชำร่วย แจกในงานตา่ งๆ ของชมุ ชนตอ่ ไป 6. ส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรคนพิการหรือองค์กรเพื่อคนพิการ ขอรับการสนับสนุน งบประมาณการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนสงู อายุพิการ จากกองทุนพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนพิการ โดยมีชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนิน โครงการด้วย ขอ้ เสนอแนะในการทำวจิ ัยคร้งั ตอ่ ไป

109 1. ในการศึกษารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุพิการ ควรศึกษาเป็นรายภาคเพื่อหารูปแบบ การบริการท่ีเหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุพิการในแต่ละบริบทเพื่อให้เกิดความหลากหลาย และสามารถ เห็นจดุ เดน่ จุดด้อยของแต่ละภาค 2. ควรมีการศึกษาเจาะลึกรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุพิการ ที่จัดโดยองค์กรปกครอง ส่วนท้องถน่ิ เพ่ือศึกษาปัญหาอปุ สรรคในการจัดบริการให้แก่ผสู้ ูงอายุพิการและหารูปแบบที่เหมาะสม และมีประสทิ ธิภาพในการจดั บริการดังกลา่ ว 3. ควรมีการศึกษาถอดบทเรียน รูปแบบการบริการผู้สูงอายุพิการในแต่ละรูปแบบทั้งท่ี ดำเนินการโดยรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน องค์กรเอกชน พหุภาคีและธุรกิจเอกชน ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นตัวแบบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ชุมชน และภาคส่วนต่างๆ ได้ เรยี นร้แู ละนำไปปรับใช้ให้เกดิ ประสทิ ธิภาพกบั องคก์ รของตน

บรรณานกุ รม กมลพรรณ พนั พ่ึง. (2551). ไอแอล: การดำรงชวี ิตอิสระของคนพิการ. นนทบุรี: สภาศูนย์การดำรงชีวิตอิสระ ของคนพกิ ารประเทศไทย. กรรณิกา ขวัญอารีย์ และภุชงค์ เสนานุช.(2549).รูปแบบการจัดบริการสังคมสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ในชุมชน : กลุ่มพึ่งพา ( Group Home) และบริการดูแลที่บ้าน ( Home Care ).คณะ สังคมสงเคราะหศ์ าสตร์มหาวทิ ยาลัยหวั เฉยี วเฉลิมพระเกียรติ. กรรณิกา ขวัญอารีย์ และภุชงค์ เสนานุช. (2549).“เอกสารประกอบการประชุมคณะทำงานจัดทำแนว ทางการจัดบริการสงั คมรูปแบบกลุ่มพ่ึงพา ( Group Home) และบริการดแู ลท่ีบ้าน (Home Care ) สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุในชุมชน” สำนักพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการ พัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ โรงแรมปรินซพ์ าเลช กรงุ เทพมหานคร. กลุ ยา ตันตผิ ลาชีวะ. (2524). การพยาบาลผสู้ งู อาย.ุ กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพเ์ จรญิ กิจ. จันทนา รณฤทธิ์วิชัย.(2533). คู่มือการพยาบาลผู้สูงอายุ. กรุงเทพมหานคร : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิ ล. ชมพนู ทุ พรหมภกั ดิ.์ (2556). การเข้าสูส่ ังคมผูส้ ูงอายขุ องประเทศไทย.บทความวิชาการ 3(16). สำนักวิชาการ สำนกั งานเลขาธกิ ารวุฒิสภา. นารีรตั น์ จติ รมนตรี และสาวิตรี ทยานศลิ ป์.รายงานการวจิ ยั การทบทวนองคค์ วามรู้และแนวทางการ จัดระบบสวสั ดกิ ารผ้สู งู อายุในประเทศไทย. นิตยา หมายเหน่ียวกลางและคณะ. (2555). การพัฒนาการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุโดยแกนนำสุขภาพบ้านสุข สำราญตำบลหูทำนบอำเภอปะคำจังหวัดบุรีรัมย์. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคก ไม้แดงหวั กระสงั อำเภอปะคำจังหวดั บุรรี ัมย์. นุชนาฎ ยฮู นั เงาะและโสภา อ่อนโอภาส. (2546). ผสู้ ูงอายุ: ฟางเสน้ สุดทา้ ยของครอบครวั ในชุมชนเมอื ง เขตกรงุ เทพมหานคร. วารสารมฉก. ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร.์ 6(12). บรรลุ ศิริพานชิ .(2542).ผู้สงู อายไุ ทย.กรุงเทพมหานคร: หมอชาวบ้าน. ปราโมทย์ วังสะอาด. (2530). ปัจจัยท่ีมีความสัมพันธ์ต่อสุขภาพจิตของผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมือง กาฬสนิ ธุ์.วิทยานิพนธ์ปรญิ ญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาประชากรศึกษาบณั ฑิตวทิ ยาลยั , มหาวิทยาลัยมหิดล. “พระราชบัญญัติผู้สูงอายุพ.ศ. 2546”.ราชกิจจานุเบกษา ุ . เล่ม 120 ตอนท่ี 130 ก. (2546, 31 ธันวาคม): หนา้ 1. “พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550”.ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 124 ตอนที่ 61 ก. (2550, 27 กันยายน) :หน้า 8. พีรสิทธ์ิ คาํ นวณศิลป์ และคณะ. (2533). ความทันสมัย : ภาพพจน์ท่ีเก่ียวกับตนเองและปญั หาบางประการ ของคนชรา. กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์..

109 ภัทรพร อ่อนไว. (2548). ยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวการสร้างพลังศักยภาพของสตรีพิการในประเทศไทย. วทิ ยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าสตรีศกึ ษามหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ศูนย์ศตวรรษิกชน.(2553). ปฏิญญาผู้สูงอายุไทย. นครปฐม : สถาบนั วจิ ัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลยั มหิดล. มานพ ตันสุภายน.2553.รายงานการวจิ ัยประเมินมาตรฐานการสง่ เสรมิ สวัสดิภาพและคุ้มครองพิทักษ์สทิ ธิ ผู้สูงอายุแบบมีส่วนร่วมในชุมชนเทศบาลตำบลหนองตองพัฒนา อำเภอหางดง จังหวัด เชยี งใหม่. มาลินี วงษ์ สิท ธิแ์ ละศิริวรรณ ศิริบุ ญ . (2544). ป ระช าสังค ม กับ ก ารเกื้อ ห นุ น ผู้สู งอายุ . กรุงเทพมหานคร: วทิ ยาลยั ประชากรศาสตรจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.).2555. รายงานประจำปีสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยพ.ศ. 2553.กรงุ เทพมหานครบรษิ ัท: ที คิว พี จำกดั . ไมตรี ติยะรัตนกูร. (2536).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสุขภาพจิตของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร: ก ร ณี ศึ ก ษ า ผู้ สู งอา ยุ ใน ช ม ร มผู้ สู งอ า ยุก รุ งเท พ ม ห า น ค ร .วิ ท ย า นิ พ น ธ์ ป ริญ ญ าสั งคม ศา ส ต ร มหาบัณฑติ ,สาขาวิจยั ประชากรและสังคม, บัณฑติ วิทยาลยั , มหาวิทยาลยั มหดิ ล. ระพีพรรณ คำหอมและคณะ. (2547). โครงการการประเมินผลการจ่ายเงินสงเคราะห์เพ่ือการยังชีพสำหรับ ผูส้ ูงอาย.ุ กรุงเทพมหานคร: คณะสังคมสงเคราะหศ์ าสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ระพพี รรณ คาหอมและคณะ. (2547). รายงานการศกึ ษาทิศทางและรปู แบบการจดั สวสั ดิการสงั คม ของประเทศไทย.กรุงเทพมหานคร : กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์. วณี ป่ินประทีบ และคณะ (2550a) โรงพยาบาล 2 บาท ชุมชนบุ่งคล้า จริงที่ไม่ไกลเกินฝัน กรุงเทพมหานคร: เอมี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด สริญญา ป่ินเพชร.(2555). การพัฒนารูปแบบการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุด้วยการมีส่วนร่วมของ ครอบครัวและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชนโรงพยาบาล หนองหงส์จังหวดั บรุ รี ัมย์. ศรีเรือน แก้วกังวาล. (2540).จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทกุ ช่วงวัย. พิมพ์ครั้งท่ี 7. กรุงเทพมหานคร:สำนักพิมพ์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์ ศศิพัฒน์ ยอดเพชร.2548. รายงานการวิจัยโครงการผู้ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว.กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ศศิพัฒน์ ยอดเพชร (2550) ศูนย์อเนกประสงค์สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน: กลไกการดำเนินงานเพ่ือความ ยง่ั ยืน กรงุ เทพ: มิสเตอรก์ อ๊ ปป้ี ศิรพิ ันธ์ุ สาสัตย,์ ทัศนา ชวู รรธนะปกรณ์, และเพ็ญจันทร์ เลศิ รตั น์. (2552). รูปแบบการปฏิบตั กิ ารดแู ล ผู้สูงอายุระยะยาวในสถานบริการในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: มิสเตอร์ก๊อปปี้ (ประเทศ ไทย).

110 ศริ วิ รรณ ศริ บิ ุญ. (2543). การตอบสนองต่อปัญหาและความต้องการของผ้สู ูงอายุ: ศึกษากรณี ตวั อย่างการจดั ตงั้ ศูนย์บริการทางสงั คมสาหรบั ผ้สู ูงอายุ. กรุงเทพมหานคร: วทิ ยาลยั ประชากรศาสตรจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . ศรที บั ทมิ รตั นโกศล. 2527. “สมั พนั ธภาพทด่ี ใี นครอบครวั .” ประมวลบทความวิทยุ :กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ . สำนกั งานคณะกรรมการฟน้ื ฟูสมรรถภาพคนพิการ. (2540). พระราชบัญญัติฟ้ืนฟูสมรรถภาพคนพกิ าร พ.ศ. 2534.กรุงเท พ ม ห าน คร : สำนั กงาน คณ ะกรรม การฟ้ื น ฟู สมรรถภ าพ คน พิ การกรม ประชาสงเคราะห์. สำนักงานส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2544). คู่มือการส่งเสริมสุขภาพท่ีพึงประสงค์ ในผสู้ ูงอายุ สำหรับบคุ ลกรสาธารณสุข.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย จำกัด. สดุ ารตั น์ สุดสมบูรณ์. (2557). สวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุในประเทศไทย. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้ ปี ที่ 7 ฉบับท่ี 1 มกราคม – มถิ ุนายน 2557. หน้า 73. สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงแรงงาน .2551. รายงานสรุปผลการจัดประชุมสัมมนา เร่ือง“การ ส่งเสรมิ การเตรียมความพรอ้ มขององคก์ รดา้ นแรงงานก่อนเขา้ สู่วัยสูงอายุ”.กรงุ เทพมหานคร : บางกอกบลอ็ ก. สุภาณี ออ่ นช่ืนจติ ร และฤทยั พร ตรีตรง .2549 .การบรกิ ารสขุ ภาพทบี่ ้าน Home Health Care Service (พมิ พค์ รัง้ ท่ี 2 )มปท. รายงานการวิจัย การจัดบริการสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุในระดับตำบลอย่างมีส่วนร่วม. สำนักงาน ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-12 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมนั่ คงของมนุษย์. 2555. รายงานการวิจัย โครงการสร้างและขยายโอกาสในการเข้าถึงหลักประกันทางสังคมข้ันพ้ืนฐานสำหรับ ผู้สูงอาย.ุ กรุงเทพ: สำนกั งานปลัดกระทรวงแรงงาน. คมู่ อื ระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถ่นิ หรือพ้นื ท่ี (กองทนุ หลักประกันสุขภาพองค์การบริหาร ส่วนตำบล/เทศบาล).กรุงเทพ: บริษัท ศรีเมืองการพิมพ์. “กองทุนผูส้ ูงอายุ”แผน่ พับประชาสมั พันธส์ ำนักสง่ เสรมิ และพิทกั ษ์ผ้สู งู อายุ. 2555. แผนกลยทุ ธ์. อรจิตต์ บำรุงสกุลสวัสดิ์, ชนาทิพย์ มารมย์ และกฤดาญชลี เพ็ญภาค .2550 .คู่มือระบบหลักประกันสุขภาพ ในระดับท้องถ่ินหรือพ้ืนท่ี (กองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบล/เทศบาล) กรุงเทพมหานคร: ศรีเมืองการพิมพ์.

111 ประมวลสถิติด้านสังคม ประจำปี 2556. เอกสารประมวลสถิติด้านสังคม 3/2556 . ศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศแลการส่อื สาร สำนกั งานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ Ebersole, P. & Hess, P. (1998).Toward healthy aging : Human need and nursing response. (5th) St. Louis. Toronto. London : The C. V. Mosby Company. Ferrini, A.F., &Ferrini, R.L. (1993).Health in the later years (2nded.). Madison, WI : Brown & Benchmark. Hammerman, S. and Maikowski, S. (1981).The economics of disability international perspection. New York. Holmes, T. H. and Rahe, R. H. (1967).The social readjustment rating scale, Journal of Psychosomatic research, 11(2), 213-21. ภาคผนวก ก. แบบสอบถามสำหรบั ผสู้ งู อายุพกิ าร ข. แบบสอบถามสำหรบั ผูด้ ูแลผสู้ งู อายุพิการ ค. รปู แบบการบรกิ ารที่เหมาะสมสำหรบั ผูส้ ูงอายุพิการ ในพน้ื ที่ สสว.7 ง. ประมวลรูปภาพกจิ กรรมโครงการ

112

แบบสอบถาม (สำหรบั ผสู้ งู อายพุ ิการ) / “รูปแบบการบรกิ ารท่ีเหมาะสมสำหรับผสู้ ูงอายพุ ิการ” / สสว./ตำบล/ลำดบั แบบสอบถามมีทั้งหมด 2 ตอน ขอให้ท่านตอบตรงกับความจริง หรือความคิดเห็นของท่าน เพ่ือเปน็ ข้อมลู ในการพฒั นารูปแบบการบริการที่เหมาะสมสำหรับผู้สงู อายุพิการใหเ้ กิดประสิทธิผลสงู สดุ โปรดทำเครื่องหมาย  ลงใน  หน้าคำตอบที่ท่านเลือกและหรือกรอกข้อความที่ตรงกับ ความเปน็ จรงิ เกยี่ วกบั ตวั ทา่ นในช่องวา่ งต่อไปน้ี ส่วนที่ 1 ลกั ษณะส่วนบคุ คล 1. ผใู้ หข้ อ้ มูล (1) ผสู้ ูงอายุพิการ (2) ผูด้ แู ลผู้สูงอายุพิการ 2. เพศ (1) ชาย (2) หญงิ 3. ปัจจบุ ันอายุ................................ปี 4.สถานภาพ (1) โสด (2) สมรสหรอื อย่ดู ว้ ยกัน (3) หมา้ ย (4) หยา่ ร้าง/ แยกกันอยู่ 5. ศาสนา (1) พุทธ (2) ครสิ ต์ (3) อสิ ลาม (4) อืน่ ๆ ระบุ………................… 6. ระดับการศึกษาสงู สุด (1) ไม่ได้เรยี นหนังสือ/เรียนแต่ไม่จบประถมศึกษา (2) จบประถมศึกษา (3) จบมธั ยมศึกษาตอนต้น (4) จบมัธยมศึกษาปลาย/ปวช. (5) จบอนุปริญญา/ปวส. (6) จบปริญญาตรี (7) จบปริญญาโทหรือสงู กวา่ (8) อนื่ ๆ (ระบ)ุ ............................ 7. สถานภาพการทำงานปัจจุบนั (1) ไมป่ ระกอบอาชพี (2) ประกอบอาชพี ระบุ................................ 8. ประเภทความพกิ าร (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) (1) ทางการเหน็ (1.1)ตาบอด (1.2) เหน็ เลอื นราง (2) ทางการได้ยนิ หรอื สื่อความหมาย (2.1) หูหนวก (2.2) หูตึง (2.3) ความพิการทางการสือ่ ความหมาย (3) ทางการเคล่ือนไหวหรือทางรา่ งกายระบุ................................. (4) ทางจติ ใจหรือพฤติกรรม (5) ทางสตปิ ัญญา (6) ทางการเรยี นรู้ (LD) (7) ออทสิ ติก 9. สถานภาพการจดทะเบียนคนพกิ าร (1) จดทะเบียนคนพิการ (2) ไม่ไดจ้ ดทะเบียนคนพิการ เพราะ.......................................................... 10. สาเหตขุ องความพิการ

113 (1) พิการแต่กำเนดิ (2) พิการเกิดจากอุบัตเิ หตุ (3) พิการจากโรคภัยไข้เจ็บ (4) พิการจากความชรา (5) อน่ื ๆ............................................ 11. อายุเม่ือแรกพบความพิการ..............................ปี 12.ผู้สงู อายุพิการเป็นสมาชิกกลมุ่ /ชมรมในชุมชนหรือไม่ (1) ไม่เป็น(ขา้ มไปตอบข้อ 14) (2) เป็น (ระบุ) ชมรม.................................................. 13. ผู้สงู อายพุ ิการเข้ารว่ มกจิ กรรมของกลมุ่ /ชมรม ในรอบปีที่ผ่านมาบอ่ ยครัง้ แค่ไหน (1) ไม่เคยเข้ารว่ ม (2) เขา้ ร่วมบ้างบางครัง้ (3) เข้าร่วมบ่อยคร้ัง 14. ผูส้ งู อายุพิการใช้กายอปุ กรณ์ใดบา้ ง (0) ไม่ได้ใช้เพราะ....................................................................................................................... (1) ใช้ (ตอบไดม้ ากกวา่ 1 ขอ้ ) (1.1) แว่นตา/แวน่ ขยาย (1.2) ไมเ้ ท้า/ไมเ้ ท้าสามขา (1.3) คอกช่วยเดิน (1.4) เครือ่ งชว่ ยฟัง (1.5) รถเข็น (1.6) อน่ื ๆ ระบุ........................................... 15. ผู้สงู อายพุ ิการอาศัยอยู่กับใครบา้ ง (ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ ) (1) ลำพงั คนเดียว (2) คู่สมรส (3) บุตร.....................คน (4) เขย/สะใภ้...................คน (5) หลาน .....................คน (6) พ่ีน้อง .....................คน (7) บุคคลอนื่ ระบ.ุ ................................................. 16. การช่วยเหลือตวั เองของผู้สงู อายพุ ิการ (1) ชว่ ยเหลอื ตัวเองไม่ได้ (2) ชว่ ยเหลอื ตัวเองไดบ้ ้าง (3) ช่วยเหลอื ตวั เองได้ 17. ผดู้ ูแลผูส้ งู อายุพิการในการใช้ชวี ิตประจำวัน (ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) (1) ไม่มผี ดู้ ูแล (2) คสู่ มรส (3) บุตร (4) ญาติ (5) ผู้ชว่ ยเหลอื คนพกิ าร (มคี า่ ตอบแทน) (6) บุคคลอนื่ ระบุ....................... 18. สทิ ธกิ ารรักษาพยาบาล (1) บัตรทอง/30บาท (2) ขา้ ราชการ/ลูกจ้างประจำ (3) ประกนั สังคม (4) ทหารผา่ นศึก (5) บตั รผู้พิการ 19. สิทธิการรักษาพยาบาลด้วยกรมธรรม์ประกันชีวติ (1) มี (2) ไม่มี

114 20. ผ้สู งู อายุพิการเคยได้รบั ความชว่ ยเหลอื ใดบ้าง (0) ไม่เคยได้รับความช่วยเหลอื (1) เคยไดร้ ับความชว่ ยเหลือ (ตอบไดม้ ากกว่า 1 ข้อ) (1.1) ไดก้ ยู้ ืมเงนิ จากกองทนุ สวสั ดิการภาครัฐ/ชมุ ชน (1.2) ได้รบั เบ้ยี ยงั ชีพคนพิการ (1.3) ไดร้ ับการรักษาพยาบาลโดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จ่าย (1.4) ไดร้ บั เงนิ สงเคราะห์หรือเงินชว่ ยเหลอื กรณีฉุกเฉิน (1.5) ไดร้ ับแจกเคร่ืองอุปโภค บริโภคเป็นครง้ั คราว (1.6) ไดร้ ับการช่วยเหลอื ปรับสภาพแวดล้อมที่อยอู่ าศัย (1.7) ได้รับกายอปุ กรณ์สำหรบั คนพกิ าร เชน่ รถเข็น,ไมเ้ ทา้ ,แว่นตา,ขาเทยี ม (1.8) อ่ืน(ระบุ)................................................................................................ 21. ปัจจุบันผสู้ งู อายพุ ิการประสบปัญหาดา้ นการรักษาพยาบาลหรือไม่ (0) ไม่มปี ญั หา (1) มปี ัญหา(ตอบไดม้ ากกว่า 1 ข้อ) (1.1) ขาดกายอุปกรณ์สำหรบั คนพิการ (1.2) ไม่ได้รบั บริการฟ้นื ฟสู มรรถภาพโดยกระบวนการทางแพทย์ (1.3) ขาดคา่ ใช่จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาล (1.4) ไม่ได้รบั ความสะดวกในการเข้าถึงการรักษาพยาบาล (1.5) ขาดยาและเวชภัณฑ์ (1.6) อนื่ ๆ ระบุ .................................................................... 22.ปัจจุบันผู้สงู อายพุ ิการประสบปญั หาทีอ่ ยู่อาศัยหรือไม่ (0) ไม่มปี ัญหา (1) มีปัญหาสภาพทอ่ี ยู่อาศัยไม่เอ้ือตอ่ การดำเนินชีวติ ประจำวนั ระบุ ..................................................................................................... 23. ปญั หาด้านสวสั ดิการทจ่ี ำเป็นตอ่ การดำรงชวี ิต (0) ไม่มีปญั หา (1) มปี ญั หา(ตอบได้มากกวา่ 1 ข้อ) (1.1) ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในการดำรงชีวิตประจำวัน (1.2) ไมม่ ีผดู้ ูแล (1.3) ไมม่ ีคนอปุ การะ/ไรท้ พ่ี ึง่ พิง (1.4) ไม่มีทุนประกอบอาชพี (1.5) ไมม่ ีอาชีพ (1.6) มีหนี้สนิ (1.7) รายได้ไม่เพียงพอแก่การครองชพี (1.8) ไมส่ ามารถเล้ียงดูบุตรได้ (1.9) อ่ืน ๆ ระบุ..............................................

115 24.ปัญหาทางดา้ นสุขภาพของผูส้ ูงอายพุ ิการ (0) ไม่มปี ัญหา (1) มีปญั หา(ตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ ) (1.1) มีปัญหาทางการขับถ่าย (1.2) อัลไซเมอร์ (1.3) พาร์กินสนั (1.4) หัวใจ/ความดนั /เบาหวาน (1.5) แผลกดทับ (1.6) กระดูก (1.7) อน่ื ๆ ระบ.ุ ............................................. สว่ นที่ 2 ศกึ ษาความตอ้ งการได้รับการบริการในด้านต่างๆ จากการจัดสวัสดกิ ารสังคมสำหรบั ผสู้ ูงอายุ พิการ คำชี้แจง โปรดพจิ ารณารายละเอียดของขอ้ ความและทำเครือ่ งหมาย  ลงในช่องระดับความตอ้ งการใน การได้รับบรกิ ารดา้ นต่างๆ ท่ตี รงกับความคิดของท่านมากทส่ี ุด ระดับความต้องการ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทส่ี ุด กลาง ท่สี ดุ ความตอ้ งการด้านการศกึ ษา 1. การจดั ใหม้ ีการทัศนศึกษาดูงานตามโอกาส 2. ได้รับโอกาสในการศึกษาตามความเหมาะสม 3. การไดร้ บั คำแนะนำวิธีปฏิบัติกรณีเผชิญเหตฉุ ุกเฉิน 4. ความร้เู ก่ยี วกบั การปรับตวั ในการอยู่ร่วมกนั ทางสังคม 5. ความรู้ทางดา้ นกฎหมายและสิทธิทางกฎหมาย 6. ความรทู้ างดา้ นสทิ ธิทางการแพทย์และการรักษาพยาบาล 7. การเรียนรทู้ ักษะในการดำเนินชีวติ ท่ีเหมาะสมกบั ความพิการ 8. การไดร้ ับข่าวสารด้านสทิ ธิและสวัสดิการจากภาครัฐ ระดบั ความต้องการ รายการ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ทสี่ ุด กลาง ท่ีสดุ ความต้องการดา้ นการศกึ ษา 9. การไดเ้ รยี นร้เู กยี่ วกบั การถ่ายทอดและอนุรกั ษภ์ มู ปิ ัญญา 10.การศึกษาดา้ นคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ความต้องการเพิ่มเติมดา้ นการศกึ ษา................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ................ .................................................................................................................. ......................................................... ............................................................................................................................. ..............................................

116 ระดับความต้องการ ความต้องการด้านทีอ่ ยู่อาศยั มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ทีส่ ุด กลาง ทีส่ ุด 11. การปรับปรุงบนั ไดบา้ น ทางเดนิ ให้มีราวใหย้ ดึ เกาะ 12. ปรบั พนื้ ท่ีให้มีทางลาดขน้ึ -ลง ภายในบา้ น 13. ห้องน้ำ/ห้องสว้ มอยู่ภายในบา้ นและเปน็ แบบนั่งห้อยเท้า 14. ปรบั ทีน่ อนหรือห้องนอนให้มีความเหมาะสม 15. บ้านทีอ่ ยู่อาศยั มอี ากาศถ่ายเทได้สะดวก 16. บ้านทีอ่ ยู่อาศัยมแี สงสวา่ งทเ่ี พยี งพอ 17. ปรับสภาพแวดลอ้ มของที่อยู่อาศยั ใหม้ ีความเหมาะสมกับ สภาพความพิการ ความต้องการเพ่ิมเติมดา้ นที่อยู่อาศยั .................................................................................................................. ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. .............................................. ........................................................................................................................................................................... ระดับความต้องการ ความตอ้ งการดา้ นการทำงานและการมีรายได้ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ทส่ี ดุ กลาง ทส่ี ุด 18. การจัดหาอาชีพท่ีเหมาะสมแกผ่ ูส้ ูงอายพุ ิการ 19. การส่งเสรมิ การออมและการลงทนุ 20. การพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ 21. การชว่ ยเหลอื ส่งเสรมิ ในการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ 22. การจดั หาแหลง่ เงนิ ทนุ ในการประกอบอาชพี 23. การจัดหาวตั ถุดบิ ในการประกอบอาชีพ 24.การจดั หาสถานทจ่ี ำหน่ายผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาด 25. การให้ความร้เู ก่ียวกบั อาชพี ความต้องการเพ่มิ เติมด้านการทำงานและการมรี ายได้....................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................................. ............................................................................................................................. ..............................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook