Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กาพย์ยานี 11

กาพย์ยานี 11

Published by patcharaboonwan, 2018-03-05 03:34:38

Description: กาพย์ยานี 11

Search

Read the Text Version

คาชีแ้ จง แบบฝึกทกั ษะการแต่งคาประพนั ธ์ เลม่ ๑ เรื่อง กาพยย์ านี ๑๑ ท่ีนกั เรียนกาลงั อา่ นอยใู่ นขณะน้ี เป็นบทเรียนสนุก ๆ ท่ีนกั เรียนสามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเองไดโ้ ดยวธิ ีง่าย ๆ ก่อนอ่นื นกั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิตามกติกาในการใชแ้ บบฝึกทกั ษะดงั น้ี ๑. ใหเ้ ตรียมสมดุ ปากกา เพ่ือใชส้ าหรับเขียนตอบกิจกรรมในแบบฝึกทกั ษะ ๒. ใหท้ าแบบทดสอบก่อนเรียนเพ่ือตรวจสอบความรู้พ้นื ฐาน หา้ มดูเฉลยก่อนตอบ ๓. ใหศ้ ึกษาเน้ือหาสาระและฝึกปฏบิ ตั ิตามท่ีแบบฝึกกาหนดไปตามลาดบั ถา้ ไมเ่ ขา้ ใจหรือเกิดปัญหานกั เรียนสามารถเปิ ดกลบั ไปศึกษาเน้ือหาที่ผา่ นมาไดห้ รือสอบถามครูผสู้ อน ๔. เมอ่ื เรียนครบทุกแบบฝึกแลว้ ใหท้ าแบบทดสอบหลงั เรียนเพือ่ ประเมนิ ความรู้ที่ไดจ้ ากแบบฝึกโดยที่ไม่เปิ ดดเู ฉลยก่อนตอบ ๕. ในการเฉลยแบบฝึกครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยตามภาคผนวก ๖. คะแนนทดสอบก่อนเรียน ๑๕ คะแนน คะแนนทดสอบหลงั เรียน ๑๕ คะแนนคะแนนแบบฝึกจาก ๒๔๐ คะแนน เฉลีย่ เป็นคะแนนจริง ๔๐ คะแนน

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝึ กทกั ษะแต่งคาประพนั ธ์ เรื่อง กาพย์ยานี ๑๑ วชิ าวรรณศิลป์ ไทย ท ๓๒๒๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๕คาส่ัง จงเลือกตอบขอ้ ที่เห็นวา่ ถกู ตอ้ งท่ีสุด โดยทาเคร่ืองหมาย ( x ) ในช่องตวั อกั ษร ของกระดาษคาตอบ จานวน ๑๕ ขอ้ เวลา ๒๐ นาที คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน๑. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ กาพยย์ านี ๑๑ ถกู ตอ้ ง ก. ๑ บท มี ๑๑ คา ข. ๑ บาท มี ๑๑ คา ค. ๑ คณะ มี ๑๑ คา ง. ๑ วรรค มี ๑๑ คา๒. กาพยย์ านี ๑๑ มขี อ้ บงั คบั จานวนคาตามขอ้ ใด ก. วรรคหนา้ ๖ คา วรรคหลงั ๕ คา ข. วรรคหนา้ ๕ คา วรรคหลงั ๖ คา ค. วรรคหนา้ ๖ คา วรรคหลงั ๖ คา ง. วรรคหนา้ ๖ คา วรรคหลงั ๗ คา๓. จากตวั เลอื กในขอ้ ๒ ขอ้ ใด ไม่ใช่ขอ้ อนุโลมในการแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ก. ขอ้ ก ข. ขอ้ ข ค. ขอ้ ค ง. ขอ้ ง๔. ขอ้ ใดควรเป็นวรรคหลงั ของกาพยย์ านี ๑๑ ก. นาฬิกาทราย ข. เธอผนู้ ้ีสตรีเหลก็ ค. เมอื งไทยคือเมืองทอง ง. ลกู เอ๋ยลกู แกว้ ช่างแวววาว

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๕. ขอ้ ใดคือกาพยย์ านี ๑๑ ก. ฉนั คนเดินชา้ แต่วา่ ไม่ถอยไม่มวั รอคอยโชควาสนา ข. ถึงฉนั จะเดินเชื่องชา้ ฉนั ยงั กม้ หนา้ กม้ ตาเดินไปไมถ่ อย ค. แมฉ้ นั เดินชา้ ใชเ้ วลานานไมน่ อ้ ยแต่ฉนั ไมท่ อ้ ถอยไมม่ วั คอยวาสนา ง. ถึงแมจ้ ะเดินเช่ืองชา้ แต่ว่าไมเ่ คยถอยหลงั ถึงแมค้ วามฝันจะพงั ฉนั ยงั เดินต่อไป๖. ขอ้ ใดแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ต่อจากที่กาหนดให้ ไดต้ รงตามขอ้ บงั คบั มากที่สุด “ หว้ ยสกั บา้ นของเรา มที ิวเขาเราหวงแหน ” ก. อาหารไม่ขาดแคลน ช่างมีสุขทุกดินแดน ข. ถิ่นใดไมเ่ หมอื นแมน้ เป็นดินแดนดุจดงั่ ฝัน ค. ทอ้ งนาทุกผนื แผน่ ตน้ ขา้ วออกรวงแน่นนกั ง. เราเป่ี ยมน้าใจไม่คลาดแคลน โอด้ ินแดนแควน้ สุขสม๗. กาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี แต่งผดิ ในเรื่องใด “ เรียนเชิญท่านประธาน จุดธปู เทียนบูชาพระจากน้นั ท่านก็จะ กล่าวเปิ ดงานประเพณี “ ก. จานวนคา ข. สมั ผสั ใน ค. สมั ผสั นอก ง. เสียงวรรณยกุ ต์๘. ขอ้ ใดใชค้ าซ้าความหมาย ทาใหใ้ ชค้ ามากแต่ไดใ้ จความนอ้ ย ก. ค่าคืนน้ีไมม่ ดี าว ข. ทอ้ งนภาฟ้ าอมั พร ค. จาจากเจา้ เศร้าใจจริง ง. เหมอื นนกนอ้ ยนอนหนาวเหน็บ๙. ตวั เลอื กในขอ้ ใดเติมในช่องวา่ งแลว้ ทาใหผ้ ดิ ตาแหน่งคารับสมั ผสั ของกาพยย์ านี ๑๑“คิดถงึ แม่หนกั หนา ....................................” ก. แมจ่ ๋าลกู ข่มเหง ข. อยากมาหาไม่เวน้ วนั ค. อยากใหแ้ ม่กลบั มาหา ง. ฟ้ ากวา้ งไกลไมอ่ าจขวาง

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๑๐. ขอ้ ใดไม่ได้ เพม่ิ คุณค่าของกาพยย์ านี ๑๑ ดว้ ยโวหารภาพพจน์ ก. น้าคา้ งพราวพรมหญา้ คือน้าตานางฟ้ าหลง่ั ข. น้าใจของทุกคน ดุจหยาดฝนชุ่มฉ่าทรวง ค. น้าพระทยั ไหลหลงั่ นอง ทวั่ ทอ้ งถิ่นแผน่ ดินไทย ง. น้าใสไหลกระเซน็ มองเห็นปลามาแหวกว่าย๑๑. ขอ้ ใดเรียงลาดบั ไดถ้ กู ตอ้ ง๑. “พอดี” อยทู่ ี่ไหน๒. นอ้ ยเกินไปไม่เพียงพอ๓. บอกไดไ้ หมคาพอ่ สอน๔. ทาใหไ้ ดม้ ากก่อน ก. ๑, ๔, ๒, ๓ ข. ๑, ๓, ๔, ๒ ค. ๓, ๑, ๔, ๒ ง. ๓, ๒, ๑, ๔๑๒. กาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี มขี อ้ บกพร่องในขอ้ ใดความผดิ ในคร้ังน้ี ถกู โบยตีจากเทพทณั ฑ์ถกู ซดั ถนดั ครัน ดว้ ยผงครามติดตามตวัหลงั ขา้ จึงเขียวคล้า และกน้ ดาประจาตนเกิดใหม่อีกหลายหน ปานท่ีกน้ เป็นมลทิน ก. คณะ ข. สมั ผสั ซ้า ค. สมั ผสั เชื่อมบท ง. สมั ผสั เช่ือมวรรค๑๓. ขอ้ ใดใชค้ าสมั ผสั ที่มีท้งั สมั ผสั สระและสมั ผสั อกั ษร ก. กตญั ํูรู้คุณท่าน ข. ความดีท่ีฉนั น้ีก่อ ค. อภยั กนั อนนั ตก์ าล ง. ทดแทนคุณท่านทุกเม่ือ

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๕๑๔. ขอ้ ใดใชเ้ ป็นวรรคสุดทา้ ยแลว้ สื่อความหมายไดด้ ีที่สุด“ขวญั เอยขวญั เจา้ อ่อน ขวญั เจา้ ร่อนไปแห่งไหนขวญั เจา้ จอมดวงใจ ..........................................” ก. รู้หรือไม่ใจจายอม ข. เจา้ จบั จิตเจา้ จบั ใจ ค. อยา่ จากไกลจงกลบั คืน ง. จิตแจ่มจา้ ดุจดวงจนั ทร์๑๕. เลือกคาในขอ้ ใด เติมในช่องวา่ ง จึงจะทาใหไ้ พเราะดว้ ยเสียงสมั ผสั อกั ษรดวงดาวพร่างพราวฟ้ า (๑) ดวงตาฟ้ าสุกใสแลโลก(๒)___________ห่วงใย เจา้ คลายร้อน(๓) หรือยงัก. (๑) ดงั่ ( ๒) แลว้ ( ๓) ลงข. (๑) คือ (๒) แสน (๓) เยน็ ๓) บา้ ง ๓) แลว้ค. (๑) ราว (๒) ดว้ ย (ง. (๑) เปรียบ ( ๒) นึก (

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๖ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน๑. ข ๒. ข ๓. ง๔. ข ๕. ค ๖. ข๗. ค ๘. ข ๙. ค๑๐. ง ๑๑. ข ๑๒. ค๑๓. ค ๑๔. ค ๑๕. ก

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๗ กาพย์นกั การศึกษาไดใ้ หค้ วามหมายของ กาพย์ ไวด้ งั ต่อไปน้ี พรทิพย์ แฟงสุด (๒๕๔๔ : ๑๒๙) ใหค้ วามหมายของกาพย์ ว่า กาพย์ คือ คาประพนั ธ์ชนิดหน่ึงซ่ึงมีการกาหนดคณะ พยางค์ จานวนคาและสมั ผสั คลา้ ยกบั ฉนั ท์ จะต่างกนั ตรงที่กาพย์ไม่มีการบงั คบั คาครุ และคาลหุหรือรูปวรรณยกุ ต์ เสนีย์ วลิ าวรรณ (๒๕๔๗ : ๑๙๔) กลา่ วว่า กาพย์ คือ บทร้อยกรองที่บงั คบั เฉพาะจานวนคา วรรคและสมั ผสั เช่นเดียวกบั กลอน บุญเหลอื ใจมโน (๒๕๔๙ : ๘๓) ระบุว่า กาพย์ คือ คาประพนั ธช์ นิดหน่ึงที่คลา้ ยกลอนแต่ไมใ่ ช่กลอน คลา้ ยฉนั ทท์ ี่สุด แต่ไมใ่ ชค้ รุ ลหุ ยงั คงมคี ณะ พยางค์ และการสมั ผสั ท่ีกวนี ิยมแต่งในคาประพนั ธช์ นิดอนื่ เหมอื นเดิม วิเชียร เกษประทุม (๒๕๕๐ : ๑๐๒) ใหค้ าจากดั ความว่า กาพย์ คือ คาประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงของไทย ซ่ึงกาหนด คณะ พยางค์ และสมั ผสั มีลกั ษณะคลา้ ยฉนั ท์ แต่ไม่นิยมครุ ลหุเหมือนฉนั ท์ บรรจง ชาครัตพงศ์ (๒๕๕๑ : ๑๓๘) ใหค้ วามหมายวา่ กาพย์ คือคาประพนั ธช์ นิดหน่ึงที่มีความไพเราะไมแ่ พค้ าประพนั ธช์ นิดอน่ื ๆ แต่งไดง้ ่าย มขี อ้ บงั คบั เพียง ๒ ชนิด คือ คณะและสมั ผสั กาพยม์ ีลกั ษณะคลา้ ยฉนั ท์ แต่ไมม่ ีครุ ลหุเหมือนฉนั ท์ ฉะน้นั กาพย์ หมายถงึ คาประพนั ธช์ นิดหน่ึงมลี กั ษณะคลา้ ยกลอนและฉนั ท์ ซ่ึงมีกาหนด คณะ พยางค์ และสมั ผสั ไมบ่ งั คบั ครุ ลหุ หรือรูปวรรณยกุ ต์ กาพยม์ หี ลายชนิด แต่ท่ีนิยมแต่งกนั มาก มี ๓ ชนิด คือ กาพยย์ านี กาพยฉ์ บงั และกาพย์สุรางคนางค์ สาหรับแบบฝึกน้ีนกั เรียนจะไดฝ้ ึกแต่งเฉพาะ กาพยย์ านี ๑๑ ซ่ึงเป็นกาพยช์ นิดท่ีนิยมแต่งกนั มากและหากสามารถแต่งกาพยย์ านี ๑๑ไดเ้ ป็นอยา่ งดีแลว้ กาพยอ์ ่นื ๆกเ็ ป็นเรื่องง่ายที่จะแต่ง นอกจากน้ี กาพยย์ านี ๑๑ ยงั เป็นบทร้อยกรองที่ใชอ้ า่ นออกเสียงเป็นทานองต่างๆไดอ้ ยา่ งหลากหลายทาใหเ้ กิดความเพลดิ เพลินและสนุกสนานไปกบั การแต่งและการอา่ นออกเสียงใหเ้ สนาะ

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๘ กาพย์ยานี ๑๑ การแต่งกาพยย์ านี ๑๑ มีขอ้ บงั คบั หรือที่เรียกวา่ “ฉนั ทลกั ษณ์” คือบงั คบั จานวน (คณะ) และบงั คบั สมั ผสั (คาคลอ้ งจอง) ข้อบังคบั คณะ๑ บท มี ๒ บาท คือ บาทเอก กบั บาทโท๑ บาท มี ๒ วรรค คือ วรรคหนา้ กบั วรรคหลงัวรรคหนา้ มี ๕ คา วรรคหลงั มี ๖ คา รวม ๒ วรรค มี ๑๑ คา แผนผงั กาพย์ยานี ๑๑ สัมผสั ระหว่างวรรค (๑ บาท ๒ วรรค) สัมผสั ระหว่างบาท (๑ บท ๔ วรรค)

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๙สัมผสั ระหว่างบท (๒ บท) สัมผสั บังคบั ท้งั หมด (๒ บท)OOOOO OOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOO OOOOOOOOOOO OOOOOO ตวั อย่างกาพย์ยานี ๑๑ จานวน ๒ บท สุวรรณหงสท์ รงพหู่ อ้ ย งามชดชอ้ ยลอยหลงั สินธุ์ เพยี งหงสท์ รงพรหมินทร์ ลินลาศเลอ่ื นเตือนตาชม เรือชยั ไววอ่ งวง่ิ รวดเร็วจริงยงิ่ อยา่ งลม เสียงเสา้ เร้าระดม ห่มทา้ ยเยน่ิ เดินคู่กนั (กาพยเ์ ห่เรือ เจา้ ฟ้ าธรรมธิเบศร จากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้นื ฐาน วรรณคดีวจิ กั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๖) กาพยย์ านี ๑๑ เวลาอ่านออกเสียง จะตอ้ งมจี งั หวะ ซ่ึงใน ๑ บาท มคี าจานวน ๑๑ คา แบ่งวรรคเพ่ือใหม้ ีจงั หวะการอา่ นดงั น้ีวรรคหนา้ ๕ คา มีจงั หวะ หน่ึงสอง / สามสี่หา้ วรรคหลงั ๖ คา มีจงั หวะ หน่ึงสองสาม / สี่หา้ หก ตวั อย่างการคนั่ จงั หวะอ่าน สอง / สาม สาม / สามหมายเหตุ : วรรคหนา้ ท่ีกาหนดไว้ ๕ คาน้นั อนุโลมใหเ้ ป็น ๖ คาไดใ้ นบางวรรค และวรรคหนา้ ท่ีมี ๖ คา ใหแ้ บ่งจงั หวะการอ่านเหมือนวรรคหลงั

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๐ แบบฝึ กที่ ๑ อ่านตามจงั หวะ๑. ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี ใหไ้ ดจ้ งั หวะตามเคร่ืองหมาย / เร่ือยเรื่อย / มารอนรอน ทิพากร / จะตกต่าสนธยา / จะใกลค้ ่า คานึงหนา้ / เจา้ ตาตรู เรื่อยเรื่อย / มาเรียงเรียง นกบินเฉียง / ไปท้งั หมู่ตวั เดียว / มาพลดั คู่ เหมอื นพีอ่ ยู่ / ผเู้ ดียวดาย เห็นฝงู / ยงู ราฟ้ อน คิดบงั อร / ร่อนรากรายสร้อยทอง / ยอ่ งเย้อื งชาย เหมือนสายสวาท / นาดนวยจร สาลกิ า / มาตามคู่ ชมกนั อยู่ / สู่สมสมรแต่พ่ี / น้ีอาวรณ์ ห่อนเห็นเจา้ / เศร้าใจครวญ (กาพยเ์ ห่เรือ เจา้ ฟ้ าธรรมธิเบศร จากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้นื ฐาน วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๖) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้อา่ นถกู ตอ้ งตามเกณฑก์ ารประเมิน ๑๖

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๑๒. ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย / คนั่ ใหเ้ ห็นจงั หวะการอ่านท่ีถกู ตอ้ งชายตาชายหาเจา้ ชายตาเยา้ ยวนวิญญาณ์ชายหาดดาษนาวา ชายคงคาพานุชจรหวั หินหวั หาดเหิน โอบอรเดินแดนสาครลุยคลนื่ รื่นสมร เอวอ่อนชอ้ นเช่นมจั ฉา (กาชยั ทองหล่อ) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้แบ่งวรรคถกู ตอ้ ง ๘ คะแนน ๘๓. ใหน้ กั เรียนเขียนพยญั ชนะ “น” หนา้ ขอ้ ท่ีเห็นว่าเป็น วรรคหนา้ เขียนพยญั ชนะ “ล” หนา้ ขอ้ ท่ีเห็นว่าเป็น วรรคหลงั และเขียนพยญั ชนะ “น ล” หนา้ ขอ้ ที่เห็นว่าเป็นไดท้ ้งั วรรค หนา้ และวรรคหลงั (คาท่ีเป็นอกั ษรนา เช่น สมทุ ร นบั เป็น ๑ หรือ ๒ คาก็ได)้.……….. ๑. กาพยย์ านีลานา ……….. ๖. วรรคหนา้ หา้ คาหมาย……….. ๒. ไม่สาคญั อยา่ ระแวง ……….. ๗. ใหถ้ กู ตอ้ งตามวธิ ี……….. ๓. ครุลหุน้นั ……….. ๘. สมั ผสั ตอ้ งจดั แจง……….. ๔. วรรคหลงั หกยกแสดง ……….. ๙. พระสมุทรสุดลึกลน้……….. ๕. สิบเอด็ คาจาอยา่ คลาย ……….. ๑๐. กาหนดไวใ้ หพ้ ึงฟัง ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ทาถกู ตอ้ ง ขอ้ ละ ๐.๕ คะแนน ๕

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๒๔. ต่อไปน้ีใหน้ กั เรียนพิจารณาว่า ใช่กาพยย์ านี ๑๑ หรือไม่ ถา้ ใช่ใหท้ าเครื่องหมาย ✓ ถา้ ไม่ใช่ ใหท้ าเคร่ืองหมาย × ไวห้ นา้ ขอ้ น้นั ๆ ................๑. วิชาเหมอื นสินคา้ อนั มีค่าอยเู่ มืองไกล ................๒. จงต้งั เอากายเจา้ เป็นสาเภาอนั โสภา ................๓. กเุ ราเยา้ ยวนจิต คิดถึงมติ รชิดหทยั ................๔. วอนนางพลางเพง่ เลง็ พกั ตร์ เหตุรักใหร้ ้อนถอนจิต ................๕. ความเพียรเป็นโยธา แขนซา้ ยขวาเป็นสาเภา ................๖. สีชงั ชงั แต่ช่ือ เกาะน้นั ฤๅจะชงั ใคร ................๗. วาจาบงั อรวอนวา่ นยั นาอาจองคท์ รงศกั ด์ิ ................๘. ตวั ไกลใจพอ่ี ยู่ เป็นค่นู อ้ งครองยนื ยงั ................๙. หนา้ นวลนวลแต่นอ้ ย แช่มชอ้ ยสมกบั ผมมวย ................๑๐. ตอ้ งยากลาบากไป จึงจะไดส้ ินคา้ มา ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ทาถกู ตอ้ ง ขอ้ ละ ๑ คะแนน ๑๐๕. ใหน้ กั เรียนเติมคาใหค้ รบ ๕ คา เพ่ือทาเป็น “วรรคหน้า” ของกาพยย์ านี ๑๑ตวั อย่าง : ดาวเดือนกเ็ ล่อื นลบั๑. นอ้ ง............................................................................................๒. ขา้ ว.............................................................................................๓. อ่าน.............................................................................................๔. เขียน............................................................................................ ๕. ของ............................................................................................. ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ทาถกู ตอ้ ง ขอ้ ละ ๒ คะแนน ๑๐

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๓๖.ใหน้ กั เรียนเติมคาใหค้ รบ ๖ คา เพ่ือใหเ้ ป็น “วรรคหลงั ” ของกาพยย์ านี ๑๑ ตวั อย่าง : หวนคานึงถงึ เคหา๑. ต้งั ใจ............................................................................................๒. ชายตา..........................................................................................๓. คิด...............................................................................................๔. เสียง............................................................................................ ๕. น้าพริก........................................................................................ ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ทาถกู ตอ้ ง ขอ้ ละ ๒ คะแนน ๑๐๗. ใหน้ กั เรียนเรียงคาใหม่โดยแบ่งเป็นกาพยย์ านี ๑๑ วรรคหนา้ ๕ คา วรรคหลงั ๖ คา ขอ้ ละ ๑ บท ๗.๑ ผกู งูดว้ ยมนตราวทิ ยาอาคมหมายผกู สารบ่เคลื่อนคลายดว้ ยเชือกบาศกระสนั พลนั ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ๗.๒ ผกู ชนดว้ ยไมตรีจิตปรีดีหฤหรรษร์ ักดงั ชีวาวนั มรณาศฤๅหน่ายแหนง ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ๗.๓ บนั ดาลลงบนั ไดบนั ทึกใหด้ จู งดีรื่นเริงบนั เทิงมเี สียงบนั ลอื สนนั่ ดงั ................................................................................................................................... ................................................................................................................................... ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้จดั วรรคถกู ตอ้ ง (ขอ้ ละ ๓ คะแนน) ๑๐คดั ลายมอื สวยงามถกู ตอ้ ง สวยงาม ๙ คะแนน ๑ คะแนน

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๔แบบฝึ กท่ี ๒ร้อยรัดสัมผสั คาสมั ผสั บงั คบั น้ีเรียกอกี อยา่ งหน่ึงวา่ “สมั ผสั นอก”และ เสน้ ประในแผนผงั น้นั หมายถึงคารับ สมั ผสั เลอื่ นไปตาแหน่งน้นั ได้ นะจ๊ะ๑. กาพยย์ านี ๑๑ท่ียกมาน้ีมีคาใดบา้ งที่สมั ผสั คลอ้ งจองกนั ใหน้ กั เรียนพิจารณาวา่ เป็นคาสมั ผสั ชนิดใดแลว้ ตอบตามตวั อยา่ ง ๑. งามเอยงามทอ้ งน้า ยามใกลค้ ่ายา่ สุริยศ์ รี ลดลอยถอยรัศมี อาลาพรากจากทอ้ งธาร ๒. เรืองรองดุจทองทาบ วะวบั วาบซาบตาลาน มือมนุษยส์ ุดบนั ดาล ตอ้ งเทพฤทธ์ิประดิษฐส์ รรค์ ๓. คลนื่ นอ้ ยเพยี งฝอยทอง เรืองรังรองท่องตามกนั เหลอื นบั จบั ตาทนั กระทบฝ่ังกระทง่ั ใจ ๔. ลมเยน็ มาเรื่อยเร่ือย หววิ หวิวเฉ่ือยเหน่ือยสิ้นไป รวยร่ืนช่ืนสดใส ลมื เลอื นทุกขส์ ุขหฤหรรษ์ ๕. แสงทองพร่องพริบหาย ค่ากาจายรายทวั่ พลนั เพยี งครู่จ่คู ลมุ สรร- พสิ่งไวใ้ นเง้ือมมือ (เสนีย์ วิลาวรรณ)

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๕ ตวั อย่าง ไดแ้ ก่ น้า – ค่า ไดแ้ ก่ ศรี – (รัศ) มีบทท่ี ๑สมั ผสั ระหวา่ งวรรค ท่ี ๑ กบั ๒ ไดแ้ ก่ ธาร – ลานสมั ผสั ระหวา่ งบาทสมั ผสั ระหวา่ งบท บทที่ ๒สมั ผสั ระหว่างวรรค ไดแ้ ก่ สมั ผสั ระหวา่ งบาท ไดแ้ ก่ สมั ผสั ระหว่างบท ที่ ๒ กบั ๓ ไดแ้ ก่ บทท่ี ๓สมั ผสั ระหว่างวรรค ไดแ้ ก่ สมั ผสั ระหวา่ งบาท ไดแ้ ก่ สมั ผสั ระหวา่ งบท ที่ ๓ กบั ๔ ไดแ้ ก่ บทท่ี ๔สมั ผสั ระหวา่ งวรรค ไดแ้ ก่ สมั ผสั ระหว่างบาท ไดแ้ ก่ สมั ผสั ระหวา่ งบท ท่ี ๔ กบั ๕ ไดแ้ ก่หมายเหตุ : คาว่า “ระหว่าง” จะใชค้ าวา่ “เชื่อม” แทน วา่ สมั ผสั เช่ือมวรรค, เช่ือมบาท, เช่ือมบทก็ได้ สมั ผสั บงั คบั หรือ สมั ผสั นอก ตอ้ งเป็น “สมั ผสั สระ” เท่าน้นั จะเป็นสมั ผสั อกั ษรไม่ไดน้ ะครับ ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ทาถกู ตอ้ ง คาตอบละ ๑ คะแนน ๙

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๖๒. ใหน้ กั เรียนขีดเสน้ โยงคาสมั ผสั บงั คบั ของกาพยย์ านี ๑๑ ตามตวั อยา่ งในบาทที่ ๑จาปาหนาแน่น เน่ือง คล่กี ลีบ เหลอื งเรืองอร่ามคิดคะนึงถึงนงราม ผวิ เหลอื งกวา่ จาปาทองประยงคท์ รงพวงหอ้ ย ระยา้ ยอ้ ยหอ้ ยพวงกรองเหมือนอุบะนวลละออง เจา้ แขวนไวใ้ หเ้ รียมชมพุดจีบกลีบแสลม้ พิกลุ แกมแซมสุกรมหอมชวยรวยตามลม เหมอื นกลิ่นนอ้ งตอ้ งติดใจสาวหยดุ พุทธชาด บานเกลือ่ นกลาดดาษดาไปนึกนอ้ งกรองมาลยั วางใหพ้ ขี่ า้ งที่นอน(กาพยเ์ ห่เรือ เจา้ ฟ้ าธรรมธิเบศร จากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้โยงเสน้ ถกู เสน้ ละ ๑ คะแนน ๑๐๓. เติมคาสมั ผสั คลอ้ งจอง ซ่ึงเป็นสมั ผสั บงั คบั แต่ละบท (๑) หนาวลมใหห้ ่มผา้ หนาว...............ให.้ .............. หนาวใจคิดไฉน ไมร่ ู้แกอ้ ยา่ งไรดี (๒) ผกู พนั กบั ................ ยากลมื เลอื นไปจากใจ ห่างกนั .................... ใจยงั คิดมผิ นั แปร (๓) หมอกควนั มดื มวั มน ................ไม่สบาย เจบ็ ป่ วย.................. เพราะคนเผาบนป่ าดอย (๔) เหน่ือยนกั .............. แต่อยา่ นอน.................. ขยนั หมน่ั เพยี รดี วนั ขา้ งหนา้ จะรุ่งเรือง (๕) นิสยั รักการอา่ น จะ.............ใหเ้ จริญ รู้ทนั คน............... ไม่โง่เขลาเบาปัญญา (ลิขิต ภิระบนั ) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้เติมถกู ตอ้ ง ช่องละ ๑ คะแนน ๑๐

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๗ แบบฝึ กที่ ๓ ไพเราะดมี คี ุณค่ากาพยย์ านี ๑๑ ท่ีแต่งไดถ้ กู ตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์แลว้ ยงั สามารถเพ่ิมคุณค่าได้ ดงั น้ี ๑. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ เพ่ิมโดยการเลอื กใชถ้ อ้ ยคาสานวนที่มเี สียงไพเราะ และความหมายกินใจ ไดแ้ ก่ การเพ่มิ คาสมั ผสั นอก และสมั ผสั ใน การเล่นคา ซ้าคา ซ้าเสียง และการใชโ้ วหารภาพพจน์ เป็นตน้ ๒. คุณค่าด้านสังคม เพิม่ ในการส่ือความในเชิงอนุรักษ์ ช่ืนชม ส่งเสริม สิ่งดีงามของสงั คม เช่น ธรรมชาติ ศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณี คุณธรรม และค่านิยมที่พงึ ประสงค์ เป็นตน้ เพมิ่ สัมผสั เชื่อมวรรคที่ ๓ กบั วรรคท่ี ๔ตวั อย่าง(สมั ผสั คาที่ ๑) ไก่ฟ้ ามาตวั เดียว เดินท่องเที่ยวเล้ียวเหลี่ยมเขา เหมอื นพรากจากนง เยาว์ เปล่าใจเปลยี่ วเหลียวหานาง(สมั ผสั คาท่ี ๒) เห็นฝงู ยงู ราฟ้ อน คิดบงั อรร่อนรากรายสร้อยทองยอ่ งเย้อื ง ชาย เหมอื น สายสวาทนาดนวยจร(สมั ผสั คาที่ ๓) เรื่อยเร่ือยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปท้งั หมู่ตวั เดียวมาพลดั คู่ เหมอื นพ่ี อยู่ผเู้ ดียวดาย(กาพยเ์ ห่เรือ เจา้ ฟ้ าธรรมธิเบศร จากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖)

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๘ ๑. ใหน้ กั เรียนอา่ นกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี แลว้ โยงเสน้ คาสมั ผสั บงั คบั เชื่อมวรรค ๑ กบั ๒ และเช่ือมวรรคท่ี ๒ กบั ๓ ดว้ ยสีน้าเงิน เชื่อมบท ดว้ ยสีดาและโยงเสน้ คาสมั ผสั เพ่ิม (เช่ือม วรรค ๒ กบั ๓) ดว้ ยสีแดงตบั เหลก็ ลวกหลอ่ นตม้ เจือน้าสม้ โรยพริกไทยโอชาจะหาไหน ไมม่ เี ทียบเปรียบมอื นางหมแู นมแหลมเลศิ รส พร้อมพริกสดใบทองหลางพิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่ วนใจโหยกอ้ ยกุง้ ปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดยรสทิพยห์ ยบิ มาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทนั ขวญัเทโพพ้ืนเน้ือทอ้ ง เป็นมนั ยอ่ งลอ่ งลอยมนัน่าซดรสครามครัน ของสวรรคเ์ สวยรมย์ (กาพยเ์ ห่ชมเคร่ืองคาวหวาน พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั จากหนงั สือเรียนภาษาไทย ท ๓๐๕ ท ๓๐๖ ชุดทกั ษสัมพนั ธ์ เล่ม ๓ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๓) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้โยงเสน้ ถกู ตอ้ ง เสน้ ละ ๑ คะแนน ๑๐

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๑๙ เพม่ิ คาสัมผสั ภายในวรรคเดยี วกนัจะเป็นสมั ผสั สระ (คาคลอ้ งจอง) หรือสมั ผสั อกั ษร (สมั ผสั พยญั ชนะ) ก็ได้ตวั อย่าง ระฆงั ดงั วงั เวง โหง่งหง่างเหง่งเก่งก่างดงัเสน้ โยงดา้ นบนแสดงสมั ผสั อกั ษร เสน้ โยงดา้ นลา่ งแสดงสมั ผสั สระ ๒. ใหน้ กั เรียนโยงเสน้ ดา้ นบนของคาที่เป็นสมั ผสั อกั ษร และโยงเสน้ ดา้ นลา่ งของคาที่ เป็นสมั ผสั สระ ข้ึนกกตกทุกขย์ าก แสนลาบากจากเวียงไชย มนั เผอื กเลอื กเผาไฟ กินผลไมไ้ ดเ้ ป็นแรง รอนรอนออ่ นอสั ดง พระสุริยงเยน็ ยอแสง ช่วงดงั น้าครั่งแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร ลงิ ค่างครางโครกครอก ฝงู จ้ิงจอกออกเห่าหอนชะนีวิเวกวอน นกหกร่อนนอนรังเรียง ลกู นกปกปี กป้ อง อา้ ปากร้องซอ้ งแซ่เสียงแมน่ กปกปี กเคียง เล้ยี งลกู อ่อนป้ อนอาหาร (กาพยเ์ ร่ืองพระไชยสุริยา สุนทรภู่ จากหนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวจิ กั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้สมั ผสั อกั ษรถกู ตอ้ ง วรรคละ ๑ คะแนน ๓๒สมั ผสั สระถกู ตอ้ ง วรรคละ ๑ คะแนน

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๐๓. ใหน้ กั เรียนเติมคาต่อจากท่ีกาหนดให้ ใหเ้ ป็น วรรคหน้า ของกาพยย์ านี ๑๑ (๕ คา) โดยใหม้ คี าสมั ผสั ใน ซ่ึงจะเป็นสมั ผสั สระ หรือสมั ผสั อกั ษรกไ็ ด้ ๑. โรงเรียน....................................................... ๒. นกั เรียน....................................................... . ๓. อดทน........................................................... ๔. ชาวไทย........................................................ ๕. ในหลวง....................................................... ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ ๑๐ทาถกู ตอ้ ง ขอ้ ละ ๑ คะแนน (๕ คะแนน)ไพเราะเหมาะสม ขอ้ ละ ๑ คะแนน (๕ คะแนน)๔. ใหน้ กั เรียนเติมคาต่อจากท่ีกาหนดให้ ใหเ้ ป็น วรรคหลงั ของกาพยย์ านี ๑๑ (๖ คา) โดยใหม้ สี มั ผสั ใน ซ่ึงจะเป็นสมั ผสั สระ หรือสมั ผสั อกั ษรก็ได้ ๑. ท่งุ รวงทอง........................................................... ๒. ปลกู ตน้ ไม.้ ...................................................... .... ๓. หยดุ เผาป่ า........................................................... ๔. ลดโลกร้อน......................................................... ๕. น้าทว่ มบา้ น........................................................ ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ ๑๐ทาถกู ตอ้ ง ขอ้ ละ ๑ คะแนน (๕ คะแนน)ไพเราะเหมาะสม ขอ้ ละ ๑ คะแนน (๕ คะแนน)

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๑ ฝึ กสังเกต การเล่นคา ซ้าคา ซ้าเสียง ตวั อย่างการเล่นคา ลา่ เตยี งคิดเตียงนอ้ ง นอน เตยี งทองทาเมอื งบนลดหลน่ั ช้นั ชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน (กาพยเ์ ห่ชมเคร่ืองคาวหวาน พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั จากหนงั สือเรียนภาษาไทย ท ๓๐๕ ท๓๐๖ ชุดทกั ษสมั พนั ธ์ เล่ม ๓ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๓) กาพยบ์ ทน้ี เล่นคาวา่ “เตียง” ค่ะ๕.ใหน้ กั เรียนอา่ นกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี แลว้ เติมคาตอบลงในวงเลบ็ ทา้ ยวรรค(๑)เน้ืออ่อนออ่ นแต่ชื่อ เน้ือนอ้ งฤๅอ่อนท้งั กาย (เลน่ คาว่า..........................)(๒) อม่ิ ทุกขช์ ลนา อม่ิ โศกาหนา้ นองชล (เล่นคาวา่ ..........................)(๓) ชมดวงพวงนางแยม้ บานแสลม้ แยม้ เกสร (เลน่ คาวา่ ..........................)(๔) ประยงคท์ รงพวงหอ้ ย ระยา้ ยอ้ ยหอ้ ยพวงกรอง (เลน่ คาวา่ ..........................)(๕) ยามสองฆอ้ งยามยา่ ทุกคืนค่ายา่ อกเอง (เล่นคาว่า..........................) (กาพยเ์ ห่เรือ เจา้ ฟ้ าธรรมธิเบศร จากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้นื ฐาน วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๖)๖.ใหน้ กั เรียนเลน่ คาโดยที่เติมคาลงในช่องวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสมตวั อย่าง หมอกควนั ปกคลมุ ทวั่ เมืองมดื มวั เมอื งในหมอก(๑) ขอฝนหล่นจากฟ้ า .........ลงมาชุ่มฉ่าดิน(๒) น้าท่วมถงึ บางกอก พดู ไมอ่ อก...........ปาก(๓) น้ามนั ข้ึนราคา ไยมลู ค่า...........ตกต่า(๔) ชาวนาเขายากจน เพราะทุกคนไมม่ ี..........(๕) นกั เรียนเรียนจบแลว้ ครูแนะแนวให.้ .......ต่อ ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้รวมขอ้ ๕. และขอ้ ๖. คาตอบละ ๑ คะแนน ๑๐

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๒การใชโ้ วหารภาพพจนเ์ ป็นการเพิ่มคุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ อกี ทางหน่ึงโวหารภาพพจน์ คือ ศลิ ปะการใชภ้ าษาที่สร้างภาพในจิตนาการและสร้างอารมณ์ความรู้สึกใหค้ ลอ้ ยตาม ไดแ้ ก่อุปมา คือ การเปรียบสิ่งหน่ึง เหมอื นอีกสิ่งหน่ึงอุปลกั ษณ์ คือ การเปรียบส่ิงหน่ึง เป็ นอีกสิ่งหน่ึงสญั ลกั ษณ์ คือ การใชส้ ่ิงหน่ึง แทนอีกสิ่งหน่ึงอติพจน์ คือ การกลา่ วเกินจริงอพั ภาส คือ การแทรกเสียง อะ ตรงพยางคห์ นา้บุคลาธิษฐาน คือ การทาใหส้ ิ่งต่างๆมกี ิริยาอาการเหมอื นมนุษย์๗.ใหน้ กั เรียนพจิ ารณากาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ีว่าบทใดมีการใชโ้ วหารภาพพจน์แบบใด แลว้ จบั คู่ ใหถ้ กู ตอ้ ง (ขอ้ ๑ เป็นตวั อยา่ ง)ตวั นอ้ายเ่างงินคือเงินยวง ข่าวพรายช่วงสีสาอาง ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง งามเรืองเร่ือเน้ือสองสี..............๑. แมลงภู่ค่เู คียงว่าย เห็นคลา้ ยคลา้ ยน่าเชยชม ก. อุปมา คิดความยามเมอ่ื สม สนิทเคลา้ เจา้ เอวบาง ข. อุปลกั ษณ์..............๒. เห็นฝงู ยงู ราฟ้ อน คิดบงั อรร่อนรากราย ค. สญั ลกั ษณ์ สร้อยทองยอ่ งเย้อื งชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร ง. บุคลาธิษฐาน..............๓. แต่เชา้ เท่าถึงเยน็ กล้ากลืนเข็ญเป็นอาจิณ จ. อติพจน์ ชายใดในแผน่ ดิน ไมเ่ หมอื นพท่ี ่ีตรอมใจ ฉ. อพั ภาส...............๔. เพียนทองงามดง่ั ทอง ไมเ่ หมือนนอ้ งห่มตาดพราย กระแหแหห่างชาย ดงั สายสวาทคลาดจากสม................๕. เสียงสรวลระร้ีน้ี เสียงแกว้ พ่ีหรือเสียงใคร เสียงสรวลเสียงทรามวยั สุดสายใจพต่ี ามมา (กาพยเ์ ห่เรือ เจา้ ฟ้ าธรรมธิเบศร จากหนงั สือเรียนสาระการเรียนรู้พ้นื ฐาน วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ตอบถกู ขอ้ ละ ๑ คะแนน ๕

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๓๘.ใหน้ กั เรียนจบั ค่วู ิธีเพ่มิ คุณค่าความไพเราะ ของกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี โดยนาตวั อกั ษร หนา้ ขอ้ ความ มาเขียนที่หนา้ กาพยย์ านี ๑๑ ขอ้ ท่ีสมั พนั ธก์ นั ก. เลน่ คา ข. ซ้าคา ซ้าเสียง ค. ใชค้ าสมั ผสั อกั ษร ง. ใชโ้ วหารภาพพจน์แบบ อปุ มา จ. ใชโ้ วหารภาพพจน์แบบ บุคลาธิษฐาน(๑)........................รอนรอนอ่อนอสั ดง พระสุริยงเยน็ ยอแสง ช่วงดงั น้าคร่ังแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร(๒).......................ลิงค่างครางโครกครอก ฝงู จ้ิงจอกออกเห่าหอน ชะนีวกิ เวกวอน นกหกร่อนนอนรังเรียง(๓)........................พิณพาทยร์ ะนาดฆอ้ ง ตะโพนกลองร้องเป็นเพลง ระฆงั ดงั วงั เวง โหง่งหง่างเหง่งเก่งก่างดงั(๔)........................ระงบั หลบั เนตรน่ิง เอนองคอ์ ิงพิงสิงขร เหมือนกบั หลบั สนิทนอน สงั วรศีลอภิญญาณ(๕)........................บาเพง็ เลง็ เห็นจบ พ้นื พิภพจบจกั รวาล สวรรคช์ ้นั วมิ าน ท่านเห็นแจง้ แหล่งโลกา (กาพยเ์ รื่องพระไชยสุริยา สุนทรภู่ จากหนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวจิ กั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ตอบถกู ขอ้ ละ ๑ คะแนน ๕

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๔ แบบฝึ กที่ ๔ ฝึ กแต่งกาพย์ยานี ๑๑๑. ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั วรรคในแต่ละบทของกาพยย์ านี ๑๑ น้ีใหม่ใหถ้ กู ตอ้ งตวั อย่าง ๑. มสี ุดามเหสี ๒. ช่ือพระไชยสุริยา ๓. อยบู่ ุรีไม่มีภยั ๔. ช่ือวา่ สุมาลี เรียงใหมเ่ ป็น ๒ ๑ ๔ ๓๑. (๑) ทาไร่ขา้ วไถนา (๒) ชาวบุรีก็ปรีดา (๓) ไดข้ า้ วปลาแลสาลี (๔) ไพร่ฟ้ าประชาชีเรียงใหม่ เป็น......................................................................๒. (๑) อยมู่ าหมขู่ า้ เฝ้ า (๒) ที่หนา้ ตาดีดี (๓) ก็หาเยาวนารี (๔) ทามโหรีที่เคหาเรียงใหม่ เป็น......................................................................๓. (๑) โลโภพาใหบ้ า้ ใจ (๒) เขา้ แต่หอลอ่ กามา (๓) ค่าเชา้ เฝ้ าสีซอ (๔) หาไดใ้ หภ้ ริยาเรียงใหม่ เป็น......................................................................๔. (๑) ถอื ดีมีขา้ ไท (๒) ฉอ้ แต่ไพร่ใส่ขื่อคา (๓) เหไปเขา้ ภาษาไสย (๔) ไม่จาคาพระเจา้เรียงใหม่ เป็น......................................................................๕. (๑) คดีท่ีมคี ู่ (๒) ใหส้ ุภาก็ว่าดี (๓) ใครเอาขา้ วปลามา (๔) คือไก่หมเู จา้ สุภาเรียงใหม่ เป็น......................................................................(กาพยเ์ รื่องพระไชยสุริยา สุนทรภู่ จากหนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจกั ษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑) ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้ตอบถกู ขอ้ ละ ๒ คะแนน ๑๐

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๕๒. ใหน้ กั เรียนแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ต่อใหค้ รบ๑. การเรียนแมเ้ หน่ือยยาก ยอมลาบากอยา่ ทอ้ ถอยสุดทางท่ีรอคอย ....................................................๒. การบา้ นต้งั ใจทา มีค่าล้าให้นาพา.................................................... ...........................................................๓. การงานรับผดิ ชอบ ........................................................................................................ ..........................................................๔. การ................................ ..... ................................................................................................ ..... ..................................................... เลอื กสรรคามาใชใ้ หไ้ พเราะเหมาะสมส่ือความหมายชดั เจน อยา่ ใหเ้ ป็นแบบกลอนพาไปและเน้ือหาตอ้ งสร้างสรรคด์ ว้ ยนะ ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้แต่งถูกต้องตามฉันทลกั ษณ์ วรรคละ ๒๐มคี ณุ ค่าและความไพเราะ วรรคละ ๑ คะแนน ๑ คะแนน

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๖๓. ใหน้ กั เรียนแต่งกาพยย์ านี ๑๑ จานวน ๒ บท (อยา่ ลมื สมั ผสั ระหวา่ งบท) โดยใหม้ ีเน้ือความเก่ียวกบั “พอเพยี ง”ผปู้ ระพนั ธ.์ .......................................................................ช้นั ..............เลขท่ี.......... พอเพยี ง...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้แต่งถกู ตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ ๗ คะแนน ๑๐มคี ุณค่าและความไพเราะ ๓ คะแนน

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๗๔.ใหน้ กั เรียนนาช่ือ ดอกไม้ มาแต่งเป็นกาพยย์ านี ๑๑ จานวน ๔ บทข้ึนไป ผปู้ ระพนั ธ.์ .............................................................................ช้นั ..............เลขที่.......... .............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ประเมนิ ผล คะแนนเตม็ ได้แต่งถกู ตอ้ ง / มีคุณค่า / มีความไพเราะ รูปแบบถกู ตอ้ งสวยงาม ๒๐

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๘ แบบทดสอบหลงั เรียน แบบฝึ กทกั ษะแต่งคาประพนั ธ์ เร่ือง กาพย์ยานี ๑๑ วชิ าวรรณศิลป์ ไทย ท ๓๒๒๐๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๕คาส่ัง จงเลือกตอบขอ้ ท่ีเห็นว่าถกู ตอ้ งที่สุด โดยทาเคร่ืองหมาย x ในช่องตวั อกั ษร ของกระดาษคาตอบ จานวน ๑๕ ขอ้ ภายในเวลา ๒๐ นาที๑. ขอ้ ใดคือกาพยย์ านี ๑๑ ก. ฉนั คนเดินชา้ แต่วา่ ไม่ถอยไมม่ วั รอคอยโชควาสนา ข. ถึงฉนั จะเดินเช่ืองชา้ ฉนั ยงั กม้ หนา้ กม้ ตาเดินไปไมถ่ อย ค. แมฉ้ นั เดินชา้ ใชเ้ วลานานไมน่ อ้ ยแต่ฉนั ไม่ทอ้ ถอยไมม่ วั คอยวาสนา ง. ถงึ แมจ้ ะเดินเช่ืองชา้ แต่วา่ ไมเ่ คยถอยหลงั ถงึ แมค้ วามฝันจะพงั ฉนั ยงั เดินต่อไป๒. ขอ้ ใดควรเป็นวรรคหลงั ของกาพยย์ านี ๑๑ ก. นาฬิกาทราย ข. เธอผนู้ ้ีสตรีเหลก็ ค. เมอื งไทยคือเมืองทอง ง. ลกู เอ๋ยลกู แกว้ ช่างแวววาว๓. กาพยย์ านี ๑๑ มีขอ้ บงั คบั จานวนคาตามขอ้ ใด ก. วรรคหนา้ ๖ คา วรรคหลงั ๕ คา ข. วรรคหนา้ ๕ คา วรรคหลงั ๖ คา ค. วรรคหนา้ ๖ คา วรรคหลงั ๖ คา ง. วรรคหนา้ ๖ คา วรรคหลงั ๗ คา๔. จากตวั เลอื กในขอ้ ๓ ขอ้ ใด ไม่ใช่ขอ้ อนุโลมในการแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ก. ขอ้ ก ข. ขอ้ ข ค. ขอ้ ค ง. ขอ้ ง

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๒๙๕. ขอ้ ใดกลา่ วถึงกาพยย์ านี ๑๑ ถกู ตอ้ ง ก. ๑ บท มี ๑๑ คา ข. ๑ บาท มี ๑๑ คา ค. ๑ คณะ มี ๑๑ คา ง. ๑ วรรค มี ๑๑ คา๖. ขอ้ ใดแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ต่อจากท่ีกาหนดให้ ไดต้ รงตามขอ้ บงั คบั มากที่สุด “ หว้ ยสกั บา้ นของเรา มที ิวเขาเราหวงแหน ” ก. อาหารไมข่ าดแคลน ช่างมสี ุขทุกดินแดน ข. ถนิ่ ใดไม่เหมอื นแมน้ เป็นดินแดนดุจดงั่ ฝัน ค. ทอ้ งนาทุกผนื แผน่ ตน้ ขา้ วออกรวงแน่นนกั ง. เราเป่ี ยมน้าใจไมค่ ลาดแคลน โอด้ ินแดนแควน้ สุขสม๗. กาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี แต่งผดิ ในเรื่องใด “ เรียนเชิญท่านประธาน จุดธูปเทียนบชู าพระจากน้นั ท่านกจ็ ะ กล่าวเปิ ดงานประเพณี “ ก. จานวนคา ข. สมั ผสั ใน ค. สมั ผสั นอก ง. เสียงวรรณยกุ ต์๘. ขอ้ ใดใชค้ าซ้าความหมาย ทาใหใ้ ชค้ ามากแต่ไดใ้ จความนอ้ ย ก. ค่าคืนน้ีไม่มีดาว ข. ทอ้ งนภาฟ้ าอมั พร ค. จาจากเจา้ เศร้าใจจริง ง. เหมอื นนกนอ้ ยนอนหนาวเหน็บ๙. ตวั เลอื กในขอ้ ใดเติมในช่องว่างแลว้ ทาใหผ้ ดิ ตาแหน่งคารับสมั ผสั ของกาพยย์ านี ๑๑“คิดถงึ แม่หนกั หนา ....................................” ก. แม่จ๋าลกู ข่มเหง ข. อยากมาหาไม่เวน้ วนั ค. อยากใหแ้ ม่กลบั มาหา ง. ฟ้ ากวา้ งไกลไมอ่ าจขวาง

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๐๑๐. ขอ้ ใดใชค้ าสมั ผสั ที่มีท้งั สมั ผสั สระและสมั ผสั อกั ษร ก. กตญั ํรู ู้คุณท่าน ข. ความดีท่ีฉนั น้ีก่อ ค. อภยั กนั อนนั ทก์ าล ง. ทดแทนคุณท่านทุกเม่ือ๑๑. ขอ้ ใดเรียงลาดบั ไดถ้ กู ตอ้ ง ๑. “พอดี” อยทู่ ี่ไหน ๒. นอ้ ยเกินไปไมเ่ พียงพอ ๓. บอกไดไ้ หมคาพอ่ สอน ๔. ทาใหไ้ ดม้ ากก่อน ก. ๑, ๔, ๒, ๓ ข. ๑, ๓, ๔, ๒ ค. ๓, ๑, ๔, ๒ ง. ๓, ๒, ๑, ๔๑๒. กาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี มขี อ้ บกพร่องในขอ้ ใดความผดิ ในคร้ังน้ี ถกู โบยตีจากเทพทณั ฑ์ถกู ซดั ถนดั ครัน ดว้ ยผงครามติดตามตวัหลงั ขา้ จึงเขียวคล้า และกน้ ดาประจาตนเกิดใหมอ่ ีกหลายหน ปานท่ีกน้ เป็นมลทิน ก. คณะ ข. สมั ผสั ซ้า ค. สมั ผสั เชื่อมบท ง. สมั ผสั เชื่อมวรรค๑๓. ขอ้ ใดไม่ได้ เพม่ิ คุณค่าของกาพยย์ านี ๑๑ ดว้ ยโวหารภาพพจน์ ก. น้าคา้ งพราวพรมหญา้ คือน้าตานางฟ้ าหลง่ั ข. น้าใจของทุกคน ดุจหยาดฝนชุ่มฉ่าทรวง ค. น้าพระทยั ไหลหลงั่ นอง ทว่ั ทอ้ งถนิ่ แผน่ ดินไทย ง. น้าใสไหลกระเซ็น มองเห็นปลามาแหวกว่าย

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๑๑๔. เลอื กคาในขอ้ ใด เติมในช่องวา่ ง จึงจะทาใหไ้ พเราะดว้ ยเสียงสมั ผสั อกั ษรดวงดาวพร่างพราวฟ้ า (๑) ดวงตาฟ้ าสุกใสแลโลก(๒)___________ห่วงใย เจา้ คลายร้อน(๓) หรือยงัก. (๑) ดง่ั (๒) แลว้ ( ๓) ลงข. (๑) คือ (๒) แสน (๓) เยน็ค. (๑) ราว ( ๒) ดว้ ย ( ๓) บา้ งง. (๑) เปรียบ ( ๒) นึก ( ๓) แลว้๑๕. ขอ้ ใดใชเ้ ป็นวรรคสุดทา้ ยแลว้ สื่อความหมายไดด้ ีท่ีสุด“ขวญั เอยขวญั เจา้ ออ่ น ขวญั เจา้ ร่อนไปแห่งไหน ขวญั เจา้ จอมดวงใจ ..........................................” ก. รู้หรือไม่ใจจายอม ข. เจา้ จบั จิตเจา้ จบั ใจ ค. อยา่ จากไกลจงกลบั คืน ง. จิตแจ่มจา้ ดุจดวงจนั ทร์

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๒ เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน๑. ค ๒. ข ๓. ข๔. ง ๕. ข ๖. ข๗. ค ๘. ข ๙. ค๑๐. ค ๑๑. ข ๑๒. ค๑๓. ง ๑๔. ก ๑๕. คเก่งมากเลยครับ

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๓ บรรณานุกรมกรมวิชาการ กระทรวงศกึ ษาธิการ. หนังสือเรียนภาษาไทย ท ๓๐๕ ท ๓๐๖ ชุด ทักษ สัมพนั ธ์ เล่ม ๓ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓. พมิ พค์ ร้ังท่ี ๑๔. กรุงเทพมหานคร : กรมฯ , ๒๕๔๔.กาชยั ทองหล่อ. หลกั ภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร : อมรการพิมพ,์ ๒๕๕๒.บรรจง ชาครัตพงศ.์ เคลด็ ลบั การแต่งคาประพนั ธ์. กรุงเทพมหานคร : ดอกหญา้ วิชาการ, ๒๕๕๑.บุญเหลอื ใจมโน. การแต่งคาประพนั ธ์. กรุงเทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๔๙.พรทิพย์ แฟงสุด. ฉันทลกั ษณ์ไทย. กรุงเทพมหานคร : ฟิ สิกสเ์ ซ็นเตอร์, ๒๕๔๔.วเิ ชียร เกษประทุม. ลกั ษณะคาประพนั ธ์ไทย. กรุงเทพมหานคร : พฒั นาศึกษา, ๒๕๕๐.เสนีย์ วิลาวรรณ. การเขยี น ๑. กรุงเทพมหานคร : วฒั นาพานิช, ๒๕๔๗.สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือเรียนรายวชิ า พนื้ ฐาน ภาษาไทย วรรณคดวี จิ กั ษ์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑. กรุงเทพมหานคร : สานกั งานฯ, ๒๕๕๓.________. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พนื้ ฐาน วรรณคดีวจิ กั ษ์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖. พิมพค์ ร้ังที่ ๓. กรุงเทพมหานคร : สานกั งานฯ, ๒๕๕๐.

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๔ภาคผนวก

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๕ เฉลยแบบฝึ กแบบฝึ กท่ี ๑ (แนวการตอบ)๒. ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมาย / คนั่ ใหเ้ ห็นจงั หวะการอา่ นที่ถกู ตอ้ งชายตา /ชายหาเจา้ ชายตาเยา้ /ยวนวญิ ญาณ์ชายหาด /ดาษนาวา ชายคงคา /พานุชจรหวั หินลุยคลืน่ /หวั หาดเหิน โอบอรเดิน /แดนสาคร /ร่ืนสมร เอวออ่ นชอ้ น /เช่นมจั ฉา (กาชยั ทองหล่อ)๓. ใหน้ กั เรียนเขียนพยญั ชนะ “น” หนา้ ขอ้ ท่ีเห็นว่าเป็น วรรคหนา้ เขียนพยญั ชนะ “ล” หนา้ ขอ้ ที่เห็นว่าเป็น วรรคหลงั และเขียนพยญั ชนะ “น ล” หนา้ ขอ้ ท่ีเห็นว่าเป็นไดท้ ้งั วรรคหนา้ และวรรคหลงั (คาที่เป็นอกั ษรนา เช่น สมทุ ร นบั เป็น ๑ หรือ ๒ คากไ็ ด)้ ……น..….. ๑. กาพนยย์ านีลานา ……..….. ๖. วรรคหนา้ หา้ คาหมาย ……ล..….. ๒. ไมลส่ าคญั อยา่ ระแวง ……..….. ๗. ใหถ้ กู ตอ้ งตามวธิ ี ……น..….. ๓. ครนุลหุน้นั ……..….. ๘. สมั ผสั ตอ้ งจดั แจง ……ล..….. ๔. วนรรลคหลงั หกยกแสดง … ……..... ๙. พระสมุทรสุดลึกลน้ ……ล..….. ๕. สิบลเอด็ คาจาอยา่ คลาย ... …..…... ๑๐. กาหนดไวใ้ หพ้ งึ ฟัง

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๖๔. ต่อไปน้ีใหน้ กั เรียนพิจารณาว่า “ใช่กาพยย์ านี ๑๑ หรือไม”่ ถา้ ใช่ใหท้ าเครื่องหมาย ✓ ถา้ ไมใ่ ช่ ใหท้ าเครื่องหมาย × ไวห้ นา้ ขอ้ น้นั ๆ .........✓.......๑. วิชาเหมือนสินคา้ อนั มคี ่าอยเู่ มอื งไกล ........✓........๒. จงต้งั เอากายเจา้ เป็นสาเภาอนั โสภา ........✓........๓. กุเราเยา้ ยวนจิต คิดถงึ มิตรชิดหทยั ........×.......๔. วอนนางพลางเพ่งเลง็ พกั ตร์ เหตุรักใหร้ ้อนถอนจิต ........✓........๕. ความเพียรเป็นโยธา แขนซา้ ยขวาเป็นสาเภา ........✓........๖. สีชงั ชงั แต่ช่ือ เกาะน้นั ฤๅจะชงั ใคร ........×.......๗. วาจาบงั อรวอนวา่ นยั นาอาจองคท์ รงศกั ด์ิ ........✓........๘. ตวั ไกลใจพ่อี ยู่ เป็นค่นู อ้ งครองยนื ยงั .......✓.........๙. หนา้ นวลนวลแต่นอ้ ย แช่มชอ้ ยสมกบั ผมมวย ........✓.......๑๐. ตอ้ งยากลาบากไป จึงจะไดส้ ินคา้ มา๕. ใหน้ กั เรียนเติมคาใหค้ รบ ๕ คา เพือ่ ทาเป็น “วรรคหน้า” ของกาพยย์ านี ๑๑๑. นอ้ ง นางหน้านวลผ่อง๒. ขา้ ว ปลาและข้องใช้๓. อ่าน เก่งเป็ นนสิ ัย๔. เขียน คล่องต้องฝึ กไว้ ๕. ของเราอย่ามองข้าม๖. ใหน้ กั เรียนเติมคาใหค้ รบ ๖ คา เพ่ือนใหเ้ ป็น “วรรคหลงั ” ของกาพยย์ านี ๑๑๒. ชายตา มองกองขยะ๓. คิด ทางบวกสะดวกไป๔. เสียง นกกาพาสุขใจ ๕. น้าพริกหนุ่มเหง่ือชุ่มตวั

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๗๗. ใหน้ กั เรียนเรียงคาใหมโ่ ดยแบ่งเป็นกาพยย์ านี ๑๑ วรรคหนา้ ๕ คา วรรคหลงั ๖ คา ขอ้ ละ ๑ บท ๗.๑ ผกู งดู ว้ ยมนตราวทิ ยาอาคมหมายผกู สารบ่เคลอ่ื นคลายดว้ ยเชือกบาศกระสนั พลนั ผกู งดู ว้ ยมนตรา วิทยาอาคมหมายผกู สารบ่เคลื่อนคลาย ดว้ ยเชือกบาศกระสนั พลนั๗.๒ ผกู ชนดว้ ยไมตรีจิตปรีดีหฤหรรษร์ ักดงั ชีวาวนั มรณาศฤๅหน่ายแหนงผกู ชนดว้ ยไมตรี จิตปรีดีหฤหรรษ์รักดงั ชีวาวนั มรณาศฤๅหน่ายแหนง๗.๓ บนั ดาลลงบนั ไดบนั ทึกใหด้ จู งดีรื่นเริงบนั เทิงมเี สียงบนั ลือสนน่ั ดงับนั ดาลลงบนั ได บนั ทึกใหด้ ูจงดีร่ืนเริงบนั เทิงมี เสียงบนั ลอื สนนั่ ดงั

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๘แบบฝึ กที่ ๒ (แนวการตอบ)๑. กาพยย์ านีท่ียกมาน้ีมีคาใดบา้ งที่สมั ผสั คลอ้ งองกนั ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาวา่ เป็นคาสมั ผสั ชนิดใดแลว้ ตอบตามตวั อยา่ ง บทท่ี ๒ สมั ผสั ระหว่างวรรค ไดแ้ ก่ ทาบ – วาบ สมั ผสั ระหวา่ งบาท ไดแ้ ก่ ลาน – ดาล สมั ผสั ระหวา่ งบท ท่ี ๒ กบั ๓ ไดแ้ ก่ สรรค์– กนั บทที่ ๓ สมั ผสั ระหวา่ งวรรค ไดแ้ ก่ ทอง – รอง สมั ผสั ระหวา่ งบาท ไดแ้ ก่ กนั – ทนั สมั ผสั ระหวา่ งบท ที่ ๓ กบั ๔ ไดแ้ ก่ ใจ – ไป บทท่ี ๔ สมั ผสั ระหวา่ งวรรค ไดแ้ ก่ เรื่อย – เฉื่อย สมั ผสั ระหวา่ งบาท ไดแ้ ก่ ไป – ใส สมั ผสั ระหวา่ งบท ที่ ๔ กบั ๕ ไดแ้ ก่ หรรษ์ – พลนั

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๓๙๒. ใหน้ กั เรียนขีดเสน้ โยงคาสมั ผสั บงั คบั ของกาพยย์ านี ๑๑ ตามตวั อยา่ งในบาทที่ ๑จาปาหนาแน่น เนื่อง คลี่กลีบ เหลืองเรืองอร่ามคิดคะนึงถึงนง ราม ผวิ เหลืองกว่าจาปา ทองประยงคท์ รงพวง หอ้ ย ระยา้ ยอ้ ยหอ้ ยพวงกรองเหมอื นอุบะนวลละ ออง เจา้ แขวนไวใ้ หเ้ รียม ชมพุดจีบกลีบ แสลม้ พิกลุ แกมแซมสุกรมหอมชวยรวยตาม ลม เหมือนกลน่ิ นอ้ งตอ้ งติด ใจสาวหยดุ พุทธ ชาด บานเกลือ่ น กลาดดาษดาไปนึกนอ้ งกรองมา ลยั วางใหพ้ ่ีขา้ งที่นอน๓. เติมคาสมั ผสั คลอ้ งจอง ซ่ึงเป็นสมั ผสั บงั คบั แต่ละบท(๑) หนาวลมใหห้ ่มผา้ หนาว ฟ้ าใหผ้ งิ ไฟ หนาวใจคิดไฉน ไม่รู้แกอ้ ยา่ งไรดี(๒) ผกู พนั กบั ผองเพอ่ื น ยากลืมเลอื นไปจากใจ ห่างกนั ไกลแสนไกล ใจยงั คิดมิผนั แปร(๓) หมอกควนั มดื มวั มน ทาให้คนไมส่ บาย เจ็บป่ วยกนั มากหลาย เพราะคนเผาบนป่ าดอย(๔) เหนื่อยนกั กพ็ กั ก่อน แต่อยา่ นอน มากไม่ดีขยนั หมน่ั เพยี รดี วนั ขา้ งหนา้ จะรุ่งเรือง(๕) นิสยั รักการอา่ น จะ สืบสานใหเ้ จริญ รู้ทนั คนสรรเสริญ ไม่โง่เขลาเบาปัญญา

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๐แบบฝึ กท่ี ๓ (แนวการตอบ)๑. ใหน้ กั เรียนอ่านกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี แลว้ โยงเสน้ คาสมั ผสั บงั คบั เช่ือมวรรค ๑ กบั ๒และเช่ือมวรรคที่ ๒ กบั ๓ ดว้ ยสีน้าเงิน เชื่อมบท ดว้ ยสีดาและโยงเสน้ คาสมั ผสั เพ่มิ (เช่ือมวรรค ๒ กบั ๓) ดว้ ยสีแดงตบั เหลก็ ลวกหล่อนตม้ เจือน้าสม้ โรยพริกไทยโอชาจะหาไหน ไมม่ ีเทียบเปรียบมอื นางหมแู นมแหลมเลศิ รส พร้อมพริกสดใบทองหลางพิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่ วนใจโหยกอ้ ยกงุ้ ปรุงประทิ่น วางถงึ ลิ้นด้ินแดโดยรสทิพยห์ ยบิ มาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทนั ขวญัเทโพพ้ืนเน้ือทอ้ ง เป็นมนั ยอ่ งล่องลอยมนัน่าซดรสครามครัน ของสวรรคเ์ สวยรมย์

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๑ ๒. ใหน้ กั เรียนโยงเสน้ ดา้ นบนของคาท่ีเป็นสมั ผสั อกั ษร และโยงเสน้ ดา้ นลา่ ง ของคาท่ีเป็นสมั ผสั สระข้ึนกกตกทุกขย์ าก แสนลาบากจากเวียงไชยมนั เผอื กเลอื กเผาไฟ กินผลไมไ้ ดเ้ ป็นแรงรอนรอนออ่ นอสั ดง พระสุริยงเยน็ ยอแสงช่วงดงั น้าครั่งแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธรลิงค่างครางโครกครอก ฝงู จ้ิงจอกออกเห่าหอนชะนีวเิ วกวอน นกหกร่อนนอนรังเรียง ลกู นกปกปี กป้ อง อา้ ปากร้องซอ้ งแซ่เสียงแมน่ กปกปี กเคียง เล้ยี งลกู ออ่ นป้ อนอาหาร๓. ใหน้ กั เรียนเติมคาต่อจากท่ีกาหนดให้ ใหเ้ ป็น วรรคหน้า ของกาพยย์ านี ๑๑ (๕ คา) โดยใหม้ ีคาสมั ผสั ใน ซ่ึงจะเป็นสมั ผสั สระ หรือสมั ผสั อกั ษรก็ได้ ๑. โรงเรียนนักเรียนดี ๒. นกั เรียนเพยี รศึกษา ๓. อดทนฝึ กฝนไว้ ๔. ชาวไทยใจเข้มแขง็ ๕. ในหลวงหวงประชา

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๒๔.ใหน้ กั เรียนเติมคาต่อจากที่กาหนดให้ ใหเ้ ป็น วรรคหลงั ของกาพยย์ านี ๑๑ (๖ คา) โดยใหม้ สี มั ผสั ใน ซ่ึงจะเป็นสมั ผสั สระ หรือสมั ผสั อกั ษรก็ได้๑. ทุง่ รวงทองมองงามตา๒. ปลกู ตน้ ไมใ้ ห้ร่มร่ืน๓. หยดุ เผาป่ าอย่าทาลาย๔. ลดโลกร้อนผ่อนคลายลง๕. น้าทว่ มบา้ นนานหลายวนั๕.ใหน้ กั เรียนอา่ นกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี แลว้ เติมคาตอบลงในวงเลบ็ ทา้ ยวรรค(๑) เน้ือออ่ นออ่ นแต่ช่ือ เน้ือนอ้ งฤๅอ่อนท้งั กาย (เลน่ คาว่า อ่อน)(๒) อ่มิ ทุกขช์ ลนา อิ่มโศกาหนา้ นองชล (เลน่ คาว่า อิ่ม)(๓) ชมดวงพวงนางแยม้ บานแสลม้ แยม้ เกสร (เล่นคาวา่ แยม้ )(๔) ประยงคท์ รงพวงหอ้ ย ระยา้ ยอ้ ยหอ้ ยพวงกรอง (เล่นคาว่า หอ้ ย)(๕) ยามสองฆอ้ งยามยา่ ทุกคืนค่ายา่ อกเอง (เล่นคาวา่ ยา่ )๖.ใหน้ กั เรียนเล่นคาโดยที่เติมคาลงในช่องว่างใหถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม(๑) ขอฝนหลน่ จากฟ้ า หลน่ ลงมาชุ่มฉ่าดิน(๒) น้าท่วมถงึ บางกอก พดู ไมอ่ อก น้าท่วมปาก(๓) น้ามนั ข้ึนราคา ไยมลู ค่า มนั ตกต่า(๔) ชาวนาเขายากจน เพราะทุกคนไมม่ ี นา(๕) นกั เรียนเรียนจบแลว้ ครูแนะแนวให้ เรียนต่อ

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๓๗.ใหน้ กั เรียนพจิ ารณากาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ีวา่ บทใดมีการใชโ้ วหารภาพพจน์แบบใด แลว้ จบั คู่ ให้......ค........๑. แมลงภู่ค่เู คียงว่าย เห็นคลา้ ยคลา้ ยน่าเชยชม ก. อุปมาคิดความยามเมอ่ื สม สนิทเคลา้ เจา้ เอวบาง ข. อปุ ลกั ษณ์…..ง.......๒. เห็นฝงู ยงู ราฟ้ อน คิดบงั อรร่อนรากราย ค. สญั ลกั ษณ์ สร้อยทองยอ่ งเยอ้ื งชาย เหมอื นสายสวาทนาดนวยจร ง. บุคลาธิษฐาน…...จ.......๓. แต่เชา้ เท่าถงึ เยน็ กล้ากลนื เขญ็ เป็นอาจิญ จ. อติพจน์ ชายใดในแผน่ ดิน ไมเ่ หมอื นพท่ี ่ีตรอมใจ ฉ. อพั ภาส…...ก.....๔. เพียนทองงามดงั่ ทอง ไม่เหมอื นนอ้ งห่มตาดพราย กระแหแหห่างชาย ดงั สายสวาทคลาดจากสม......ฉ......๕. เสียงสรวลระร้ีน้ี เสียงแกว้ พี่หรือเสียงใคร เสียงสรวลเสียงทรามวยั สุดสายใจพต่ี ามมา

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๔๘.ใหน้ กั เรียนจบั ค่วู ิธีเพ่มิ คุณค่าความไพเราะ ของกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปน้ี โดยนาตวั อกั ษร หนา้ ขอ้ ความ มาเขียนที่หนา้ กาพยย์ านี ๑๑ ขอ้ ท่ีสมั พนั ธก์ นั ก. เล่นคา ข. ซ้าคา ซ้าเสียง ค. ใชค้ าสมั ผสั อกั ษร ง. ใชโ้ วหารภาพพจน์ อุปมา จ. ใชโ้ วหารภาพพจน์ บุคลาธิษฐาน(๑)..........ง............รอนรอนออ่ นอสั ดง พระสุริยงเยน็ ยอแสง ช่วงดงั น้าครั่งแดง แฝงเมฆเขาเงาเมรุธร(๒).........ค............ลิงค่างครางโครกครอก ฝงู จิ้งจอกออกเห่าหอน ชะนีวิกเวกวอน นกหกร่อนนอนรังเรียง(๓)..........จ............พิณพาทยร์ ะนาดฆอ้ ง ตะโพนกลองร้องเป็นเพลง ระฆงั ดงั วงั เวง โหง่งหง่างเหง่งเก่งก่างดงั(๔)..........ข..........ระงบั หลบั เนตรนิ่ง เอนองคอ์ งิ พงิ สิงขร เหมอื นกบั หลบั สนิทนอน สงั วรศลี อภิญญาณ(๕)..........ก...........บาเพง็ เลง็ เห็นจบ พ้ืนพิภพจบจกั รวาล สวรรคช์ ้นั วมิ าน ท่านเห็นแจง้ แหล่งโลกา

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๕แบบฝึ กที่ ๔ (แนวการตอบ ข้อ ๓, ๔ อยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)๑. ใหน้ กั เรียนเรียงลาดบั วรรคในแต่ละบทของกาพยย์ านี ๑๑ น้ีใหมใ่ หถ้ กู ตอ้ ง๑. (๑) ทาไร่ขา้ วไถนา (๒) ชาวบุรีกป็ รีดา (๓) ไดข้ า้ วปลาแลสาลี (๔) ไพร่ฟ้ าประชาชีเรียงใหม่ เป็น ๔ ๒ ๑ ๓๒. (๑) อยมู่ าหมขู่ า้ เฝ้ า (๒) ที่หนา้ ตาดีดี (๓) กห็ าเยาวนารี (๔) ทามโหรีท่ีเคหาเรียงใหม่ เป็น ๑ ๓ ๒ ๔๓. (๑) โลโภพาใหบ้ า้ ใจ (๒) เขา้ แต่หอลอ่ กามา (๓) ค่าเชา้ เฝ้ าสีซอ (๔) หาไดใ้ หภ้ ริยาเรียงใหม่ เป็น ๓ ๒ ๔ ๑๔. (๑) ถือดีมีขา้ ไท (๒) ฉอ้ แต่ไพร่ใส่ข่ือคา (๓) เหไปเขา้ ภาษาไสย (๔) ไม่จาคาพระเจา้เรียงใหม่ เป็น ๔ ๓ ๑ ๒๕. (๑) คดีที่มีคู่ (๒) ใหส้ ุภากว็ า่ ดี (๓) ใครเอาขา้ วปลามา (๔) คือไก่หมเู จา้ สุภาเรียงใหม่ เป็น ๑ ๔ ๓ ๒

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๖๒. ใหน้ กั เรียนแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ต่อใหค้ รบ๑. การเรียนแมเ้ หนื่อยยาก ยอมลาบากอยา่ ทอ้ ถอยสุดทางที่รอคอย คืออนาคตอนั งดงาม๒. การบา้ นต้งั ใจทา มีค่าล้าใหน้ าพา ชีวติ วนั ขา้ งหนา้ จะสบายหายยากจน๓. การงานรับผดิ ชอบ ความนบนอบพจิ ารณา ยนื ยนั ถงึ คุณค่า คนดีแทแ้ น่ใจเอย๔. การ อยอู่ ยา่ งประหยดั มธั ยสั ถแ์ ละพอเพียง ส่ิงผดิ ใหห้ ลีกเลย่ี ง ประพฤติตนตามครรลอง๓. ใหน้ กั เรียนแต่งกาพยย์ านี ๑๑ จานวน ๒ บท (อยา่ ลืมสมั ผสั ระหว่างบท) โดยใหม้ ีเน้ือความเก่ียวกบั “พอเพยี ง” พอเพยี งเมืองไทยเราโชคดี ดว้ ยเรามีพระราชาทรงเปรี่ยมพระเมตตา แก่พสกนิกรเนน้ ใหเ้ ราประหยดั ใหภ้ าครัฐเอ้ืออาทรส่งเสริมประชากร ดารงชีพอยา่ งพอเพียง

แบบฝึ กทกั ษะการแต่ง กาพยย์ านี ๑๑ ๔๗๔. ใหน้ กั เรียนนาช่ือ ดอกไม้ มาแต่งเป็นกาพยย์ านี ๑๑ จานวน ๔ บทข้ึนไป กหุ ลาบ ดอกกุหลาบสีสดใส พาหวั ใจฉนั พองโต ไดร้ ับดีใจโข แสดวา่ มคี นปอง กหุ ลาบมหี ลายสี มคี วามหมายหลายก่ายกอง บ่งบอกเป็นครรลอง ใหร้ ู้วา่ คืออะไร สีขาวรักบริสุทธ์ิ เปรียบประดุจน้าคา้ งใส ชมพมู คี วามนยั ถนอมรักใหย้ ดื ยาว สีแดงรักเขา้ แลว้ ช้ีเป็นแนวรักหนุ่มสาว รักกนั เป็นเร่ืองราว เป็นสีดอกท่ีบอกกนั สีเหลืองเรืองรองน้นั ความสาคญั มนั ผกผนั ไมแ่ น่ในรักน้นั ถา้ ใครไดใ้ หร้ ะวงั สีดาคือรักแท้ รักแน่วแน่ไมแ่ ปรผนั ซาบซ้ึงซ่ึงคามน่ั วา่ รักกนั ตลอดกาล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook