หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เวลา 8 ช่ัวโมง ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน 1. ผลการเรียนรู้ 2. อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายหลกั การ และแนวคิด ของทฤษฎีท่เี ก่ยี วข้องกบั การเคล่ือนของแผ่นธรณีได้ (K) 2. อธิบายหลกั ฐานทางธรณีวิทยาทแ่ี สดงว่าแผน่ ธรณีมีการเคลื่อนที่ได้ (K) 3. สืบค้นขอ้ มูลเกยี่ วกบั การศึกษาการเคลื่อนท่ขี องแผน่ ธรณีได้ (P) 4. สนใจใฝ่รใู้ นการศึกษา (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น - แผ่นธรณีต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบของ ธรณีภาค ซ่ึง พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศึกษา เป็ น ชั้ น น อก สุ ด ขอ งโค รงสร้างโล ก โด ยมี การ เปล่ียนแปลงขนาดและตำแหน่งตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน การเคล่ือนที่ของแผ่นธรณีดังกล่าวอธิบายได้ ตามทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน ซ่ึงมีรากฐานมาจาก ทฤษฎีทวีปเล่ือนและทฤษฎีการแผ่ขยาย พื้นสมุทร โดยมีหลักฐานท่ีสนับสนุน ได้แก่ รูปร่างของขอบทวีป ท่ีสามารถเช่ือมต่อกันได้ ความคล้ายคลึงกันของกลุ่ม หินและแนวเทือกเขา ซากดึกดำบรรพ์ ร่องรอยการ เคล่ือนที่ของตะกอนธารน้ำแข็ง ภาวะแม่เหล็กโลก บรรพกาล อายุหินของพื้นมหาสมุทร รวมท้ังการ คน้ พบสนั เขากลางสมทุ ร และรอ่ งลกึ กน้ สมทุ ร 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การศึกษาโครงสร้างโลกพบว่าฐานธรณีภาคมีธรณีภาควางตัวอยู่ด้านบน เม่ือฐานธรณีภาคได้รับความ ร้อนจากภายในโลกจะเคลื่อนท่ีอย่างช้า ๆ และทำให้ธรณีภาคเคลื่อนที่ตามไปด้วย ธรณีภาคเม่ือเคลื่อนท่ีใน ทิศทางต่างกันจะแตกออกเป็นแผ่น เรียกว่า แผ่นธรณี นักวิทยาศาสตร์จึงศึกษาจากหลักฐานทางธรณีวิทยา ที่ปรากฏ เช่น รูปร่างของขอบทวีปที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ความคล้ายคลึงกันของกลุ่มหินและแนวเทือกเขา 51
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ที่ 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ซากดึกดำบรรพ์ ร่องรอยการเคลื่อนท่ีของตะกอนธารน้ำแข็ง ภาวะแม่เหล็กโลกบรรพกาล อายุหินของพ้ืน มหาสมุทร การค้นพบสันเขากลางสมุทรและร่องลึกกน้ สมุทร และอธิบายการเคลอ่ื นทีข่ องแผ่นธรณีจนสามารถ สรุปเปน็ ทฤษฎีธรณีแปรสณั ฐาน ซ่ึงมีรากฐานมาจากทฤษฎที วปี เล่ือนและทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทร 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มีวนิ ยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน 1) ทักษะการสงั เกต 2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพ่ือวดั ความร้เู ดมิ ของนักเรียนกอ่ นเขา้ สกู่ ิจกรรม 2. ครูกระตุ้นความสนใจโดยให้นักเรียนดูแผนท่ีโลก โดยให้นักเรยี นสังเกตรูปรา่ งของทวีปและมหาสมุทร แล้วให้นักเรียนออกมาเขียนสิ่งท่ีสังเกตได้บนกระดาษ โดยที่ครูกระตุ้นให้นักเรียนอภิปรายส่ิงเพื่อน รว่ มช้นั สังเกตได้รว่ มกัน 3. ครูถามคำถาม prior knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หนา้ 17 วา่ โลกในอดีตกบั โลกปจั จุบันมลี กั ษณะเหมือนกนั หรือไม่ (แนวตอบ รูปร่างของทวีป และมหาสมุทรในอดีตแตกต่างจากในปัจจุบัน เนื่องจากภายใน โลกและบนผิวโลกมีกระบวนการเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยาทำให้รูปร่างของทวีปและมหาสมุทร เปล่ียนไป หรอื นักเรียนอาจตอบตามความคิดของตนเอง เชน่ มีลักษณะเหมอื นกนั ) 4. ครูกล่าวเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรม โดยตั้งประเด็นคำถามว่า ส่ิงใดท่ีทำให้นักเรียนคิดว่าโลกในอดีตกับ ปจั จบุ นั ไมเ่ หมอื นกัน (แนวตอบ รูปร่างของทวปี บางทวีปอาจต่อเขา้ กันได้) 52
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ข้ันสอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนนับจำนวน 1-3 วนไปเร่ือย ๆ จนครบทุกคน เพื่อแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยคนท่ีนบั จำนวนเดยี วกนั ใหอ้ ยูก่ ลุ่มเดยี วกนั 2. ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทำกิจกรรม การเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค จากในหนังสือเรียน หน้า 23 จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาแนวคิดของทฤษฎีทวีปเล่ือน โดยทำกิจกรรมการเคล่ือนที่ของแผน่ ธรณภี าค 3. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กลมุ่ มบี ทบาทหนา้ ที่ของตนเอง ดังนี้ สมาชกิ คนที่ 1 ทำหน้าทีเ่ ตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณ์ สมาชกิ คนท่ี 2 ทำหน้าที่อ่านวิธีการทำกจิ กรรม และนำมาอธิบายให้สมาชิกภายในกลุ่มฟงั สมาชกิ คนท่ี 3 ทำหน้าท่ีบนั ทึกผลการทำกจิ กรรม (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบประเมนิ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม) 4. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ทำกจิ กรรมตามข้ันตอน ดงั น้ี 1) ให้นักเรียนศึกษาความรู้จากแผนท่ีโลก และนำแผนท่ีโลกออกมาสังเกตแผ่นทวีปแต่ละทวีปท่ีมี ขนาดใหญ่ เชน่ ทวปี แอฟริกา ทวีปยโุ รป ทวีปอเมรกิ า 2) วเิ คราะห์ข้อมลู ทีไ่ ด้ แล้วสรปุ เป็นหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ของหลักฐานตา่ ง ๆ 3) วางกระดาษลอกลายและวาดภาพทวีปท่ีมขี นาดใหญ่ลงในกระดาษ ใชก้ ระดาษลอกลายท่ีวาดภาพ แล้วไปทาบกับกระดาษ A4 ใหน้ ักเรียนลากขอบทวปี ที่ลอกไว้ในกระดาษลอกลาย 4) ใช้กรรไกรหรือคัตเตอร์ตัดตามรอยที่วาดไว้ในกระดาษ A4 ตัดออกมาให้เป็นชิ้นส่วนของจิกซอว์ ทวีปตา่ ง ๆ แลว้ ลองนำมาต่อกัน สงั เกตว่าชิน้ ส่วนจิกซอวข์ องทวีปใดบา้ งทีต่ อ่ กันได้ บันทึกผล 5) ตอบคำถามทา้ ยกิจกรรมโดยใชข้ ้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากการทำกิจกรรม 5. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมานำเสนอผลการทำกิจกรรม ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยครูตั้งคำถามเพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน แสดงความคดิ เหน็ ดงั นี้ • ทวีปใดบ้างที่สามารถต่อเข้ากนั ได้ (แนวตอบ ทวีปอเมรกิ าใตก้ บั ทวปี แอฟรกิ า ทวปี อเมริกาเหนือกับทวีปยุโรป ทวปี แอฟรกิ ากับทวีป 53
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน ออสเตรเลียและทวีปแอนตรากตกิ า) • นักเรียนคิดว่ามขี ้อมลู ใดท่ชี ว่ ยยืนยนั วา่ ทวีปดังกล่าวเคยอย่ตู ิดกันมาก่อน (แนวตอบ หลกั ฐานทางธรณวี ิทยาตา่ ง ๆ เช่น ซากดึกดำบรรพ์ กลุม่ หินและแนวเทือกเขา) 2. ครูใหน้ ักเรียนจับคู่กนั สืบค้นข้อมลู เก่ียวกบั เรอ่ื งหลักฐานทางธรณีวิทยาท่สี นบั สนนุ แนวคิดทฤษฎี ทวปี เล่อื น ดังนี้ - ซากดกึ ดำบรรพ์ - กลุม่ หนิ และแนวเทอื กเขา - การสะสมตัวของตะกอนจากธารนำ้ แข็ง โดยนักเรยี นอาจสืบค้นจากหนังสอื เรยี น หรือแหลง่ เรียนรู้อื่นๆ แลว้ นำข้อมูลมาแลกเปลีย่ นความ คิดเหน็ และร่วมกันต้งั ประเด็นคำถามเกี่ยวกบั เรื่องทส่ี บื คน้ มา (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) 3. ใหน้ ักเรยี นรวมกลมุ่ กบั เพ่ือนอีกค่หู น่ึง รวมเป็น 4 คน แลว้ แลกเปลีย่ นกนั ถามคำถามทตี่ ้ังไว้ จากนัน้ รว่ มกนั สรุปเพื่อเตรยี มนำเสนอหน้าชนั้ เรียน 4. ครสู ่มุ เลือกนักเรยี น 2-3 กลุ่ม ให้ออกมานำเสนอคำถามของกลมุ่ ตนเอง โดยให้นกั เรยี นท้ังหอ้ งร่วมกัน ตอบคำถาม และอภปิ รายร่วมกัน ขน้ั สรุป ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับทฤษฎีทวีปเลื่อน โดยครูอาจเปิด PowerPoint เรอ่ื ง ธรณแี ปรสนั ฐาน เพือ่ ชว่ ยในการสรุป ซง่ึ ครูและนักเรียนควรมีแนวทางการสรุป ได้ ดังน้ี “ทฤษฎีทวีปเลื่อนอธิบายว่า เมื่อประมาณ 245 ล้านปีก่อน ทวีปในปัจจุบันอยู่ติดกันเป็น แผ่นดินเดียว เรียกว่า พันเจีย ในเวลาต่อมาพันเจียเร่ิมแยกตัวออกจากกัน ออกเป็นสองทวีปขนาด ใหญ่ช่ือ ลอเรเซีย และกอนด์วานา และทั้งสองทวีปก็มีการแยกตัวออกจากกันช้า ๆ จนมีลักษณะ ดังเชน่ ปัจจุบนั ” โดยทฤษฎีทวีปเลอ่ื นมีหลักฐานทางธรณวี ิทยาที่สนับสนุนแนวคดิ ดังน้ี จากการศึกษาซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์และพืชบนทวีปต่าง ๆ ในปัจจุบันที่อยู่ห่างกันและมี มหาสมุทรค่ันกลางระหว่างทวีป ซ่ึงซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์และพืชดังกล่าวไม่สามารถขยายพันธ์ุ ขา้ มมหาสมทุ รได้ จากการสำรวจช้ันหินบริเวณทวีปสองฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก รวมทั้งแนวเทือกเขา บริเวณฝ่ังตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือกับแนวเทือกเขาบริเวณฝั่งตะวันตกของทวีปยุโรป พบว่า ช้นั หินดงั กล่าวเกิดในสภาพแวดลอ้ ม และชว่ งเวลาเดียวกนั 54
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน จากการสำรวจตะกอนที่สะสมตวั จากธารนำ้ แข็ง และรอยครดู ที่เกดิ จากการเคล่อื นท่ีของธาร น้ำแข็งในอดีตบนทวีปแอฟริกา ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ แสดงว่าในอดีตทวีปดังกล่าวมีสภาพ ภูมอิ ากาศคล้ายคลึงกนั และถูกปกคลุมดว้ ยธารนำ้ แขง็ มากอ่ น 2. ครูมอบหมายให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด เรอื่ ง ทฤษฏีทวีปเล่ือน จากแบบฝึกหดั รายวชิ าเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน ชัว่ โมงท่ี 3 ขน้ั นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูกระตุ้นความสนใจ โดยครูตงั้ คำถามเพ่ือใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น ดงั นี้ • หลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาท่ีสนบั สนนุ ทฤษฎที วปี เล่อื น พบที่บรเิ วณใดบ้าง (แนวตอบ พบบนทวีปต่าง ๆ ทวั่ โลก) • ทวีปอเมรกิ าใตแ้ ละทวปี แอฟรกิ าที่อยหู่ ่างกันในปัจจุบนั มีส่ิงใดคนั่ กลางอยู่ (แนวตอบ มหาสมุทรแอตแลนตกิ ) • นักเรยี นคิดวา่ มหาสมุทรแอตแลนติกเกิดข้นึ ได้อยา่ งไร (แนวตอบ ทวีปอเมรกิ าใต้และแอฟรกิ าเคล่ือนทแ่ี ยกออกจากนั เกิดเป็นมหาสมทุ รอยู่ตรงกลาง) ขน้ั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครใู ห้นักเรียนสืบค้นขอ้ มูลเกีย่ วกับการสำรวจบรเิ วณพนื้ มหาสมุทร แลว้ ครูถามนักเรียนว่า • การสำรวจมหาสมุทร ทำโดยวธิ กี ารใด และใครเปน็ ผู้สำรวจ (แนวตอบ สำรวจด้วยเรือของกองทัพเรือในช่วงสงครามโลกคร้ังท่ีสอง โดยนักธรณีวิทยาใน กองทัพเรือเป็นผูท้ ำการสำรวจ) • วิธีการสำรวจ และเครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการมหาสมุทรมอี ะไรบา้ ง (แนวตอบ สำรวจสัณฐานบริเวณพื้นมหาสมุทรโดยใช้คลื่นโซนาร์ สำรวจสภาพความเป็นแม่เหล็ก ของหนิ โดยใชเ้ ครื่องวัดค่าสนามแมเ่ หล็ก และใชเ้ ครื่องมอื เก็บตัวอย่างหนิ บนพ้นื มหาสมุทรมาหาอายุ) • นกั เรยี นคดิ ว่าหลักฐานทางธรณวี ทิ ยาที่พบมอี ะไรบ้าง (แนวตอบ ธรณีสัณฐานบนพื้นมหาสมุทร ได้แก่ สันเขากลางสมุทร และหุบเขาทรุด อายุของหิน บรเิ วณพ้นื มหาสมุทร ภาวะแม่เหลก็ บรรพกาล) 55
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนฯ ที่ 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน 2. ให้นักเรียนสืบคืนข้อมูลเก่ียวกับหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนุนการแผ่ขยายของพื้นมหาสมุทร เพอ่ื เชอ่ื มโยงเขา้ ส่กู จิ กรรม 3. ครูให้นักเรียนจับกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน อย่างอิสระ โดยสมาชิกในกลุ่มจะต้องไม่ซ้ำกับกลุ่มท่ีทำกิจกรรม ในช่ัวโมงทผ่ี า่ นมา 4. ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทำกิจกรรม จากนั้นให้นักเรียนจากน้ันให้นักเรียนอธิบายการแผ่ขยายของ พนื้ มหาสมทุ ร โดยทำกจิ กรรมการแผข่ ยายของพื้นมหาสมุทร 5. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กลมุ่ มบี ทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ดังน้ี สมาชิกคนที่ 1 ทำหนา้ ที่เตรียมวัสดุอุปกรณ์ สมาชิกคนที่ 2 ทำหนา้ ทีอ่ ่านวิธีการทำกจิ กรรม และนำมาอธบิ ายให้สมาชิกภายในกลุม่ ฟัง สมาชิกคนที่ 3 ทำหน้าที่บันทึกผลการทำกิจกรรม (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) 6. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มทำกจิ กรรมตามขั้นตอน ดังนี้ 1) ร่วมกันสืบค้นข้อมูลหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนุนการแผ่ขยายของพื้นมหาสมุทร รวมถึง ข้อมลู ตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง ดังน้ี - ธรณีสัณฐานบนพืน้ มหาสมุทร -อายุของหินบรเิ วณพน้ื มหาสมุทร -ภาวะแมเ่ หล็กบรรพกาล 2) พิจารณาหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนุนการแผ่ขยายของพื้นมหาสมุทรที่สืบค้นได้ แล้วนำมา สรุปเป็นหลักการแบง่ โครงสร้างโลกในรูปแบบแผนภาพ หรอื infographic 3) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั พิจารณาแผนภาพ หรอื infographic เพื่อชว่ ยกันตรวจสอบขอ้ มลู 4) ครูเลือกนกั เรยี นมา 3 กล่มุ ให้แตล่ ะกลมุ่ ส่งแทนมานำเสนอในรูปแบบโปสเตอร์ กลมุ่ ละ 1 เร่ือง (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบประเมินชิ้นงาน) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยให้นักเรียนท้ังห้องร่วมกันอภิปราย และตอบ คำถาม ชัว่ โมงที่ 4 ข้นั สอน อธิบายความรู้ (Explain) 1. ครูกล่าวเช่ือมโยงเข้าส่เู น้ือหาต่อไป โดยตั้งประเด็นคำถาม ดังน้ี • ธรณีสณั ฐานบริเวณพื้นมหาสมุทรบอกให้ทราบถงึ ขอ้ มูลใด (แนวตอบ มหาสมุทรมกี ารแผ่ขยายออกท่ีบรเิ วณสนั เขากลางสมุทร) 56
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ที่ 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน • อายุของหินบริเวณพนื้ มหาสมทุ รบอกให้ทราบถึงข้อมลู ใด (แนวตอบ หินบนพื้นมหาสมุทรมีอายุน้อยท่ีสุดบริเวณสนั เขากลางสมุทร และมีอายุมากขึ้นเมื่ออยู่ ห่างออกไปท้งั สองข้างของสันเขากลางสมทุ ร ข้อมูลอายุของหินยงั แสดงสมมาตรซ้ายและขวาโดยมีสัน เขากลางสมุทรเป็นแกนสมมาตร) • ภาวะแม่เหล็กบรรพกาลบอกให้ทราบถงึ ข้อมูลใด (แนวตอบ รูปแบบการเรียงตัวของสารแม่เหล็กในหินท่ีสมมาตรกันระหว่างสองข้างของสันเขา กลางสมทุ ร ซง่ึ สอดคล้องกับขอ้ มลู อายุหินบนพืน้ มหาสมุทร) • ทฤษฎีการแผ่ขยายพน้ื มหาสมุทรสนบั สนุนแนวคิดของทฤษฎีทวีปเล่อื นอยา่ งไร (แนวตอบ ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรอธิบายว่า พื้นมหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจากแนวสัน เขากลางสมทุ รเน่ืองจากการแทรกดันของแมกมาข้ึนมาบนเปลือกโลก ซ่ึงสนับสนุนแนวคิดของทฤษฎี ทวปี เลอ่ื น ว่าทวีปเคลื่อนทีแ่ ยกออกจากกนั เนอ่ื งจากมหาสมทุ รมีการแผข่ ยายออก) ข้ันสรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปเก่ียวกับทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นมหาสมุทร โดยอาจมี แนวทางสรปุ ดังน้ี “ทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นสมุทรอธิบายว่า พื้นมหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจากแนวสันเขา กลางสมุทรเนื่องจากการแทรกดันของแมกมาขึ้นมาบนเปลือกโลก” โดยทฤษฎีการแผ่ขยายพ้ืน มหาสมทุ ร มีหลักฐานทางธรณีวิทยาท่ีสนับสนนุ แนวคิดดงั น้ี สันเขากลางสมุทร เป็นบรเิ วณท่ีมีการแทรกดนั ของแมกมาข้ึนมาบนเปลือกโลก ทำให้เปลือก โลกโก่งตัวข้ึนและแตกออกจากกัน เปลือกโลกส่วนที่บางจะทรุดตัวลงเกิดเป็นหุบเขาทรุด ลาวาที่ อณุ หภูมิลดลงจะแข็งตัวเป็นหินที่เป็นส่วนหนึ่งของเปลือกโลก การแทรกดันอย่างต่อเน่ืองของแมกมา ทำใหเ้ กดิ แรงดนั ขึ้นทีเ่ ปลือกโลก ก่อนเคลื่อนทอี่ อกหา่ งจากแนวสนั เขากลางสมทุ ร การนำเครื่องวัดความเข้มของสนามแมเ่ หล็กตรวจวัดสภาพความเป็นแม่เหล็กของหิน พบวา่ มี รูปแบบการเรยี งตวั ของสารแม่เหลก็ ในหนิ ทีส่ มมาตรกันระหวา่ งสองข้างของสนั เขากลางสมุทร หนิ บนพนื้ มหาสมุทรที่อยู่ใกล้กบั แนวสนั เขากลางสมุทรจะมีอายนุ ้อยกว่าหนิ บนพืน้ มหาสมุทร ที่อยหู่ า่ งออกไป จากการแทรกดนั ของแมกมาอยา่ งต่อเน่ืองทำใหเ้ กดิ เปลือกโลกมหาสมุทรขึน้ ใหม่ ตลอดเวลาเปน็ สาเหตทุ ำให้พื้นมหาสมุทรแผข่ ยายออกไป 3. ครูมอบหมายให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั เร่ือง ทฤษฎกี ารแผข่ ยายพื้นมหาสมุทร จากแบบฝึกหัด รายวิชาเพมิ่ เตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ธรณีแปรสณั ฐาน 57
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ธรณีแปรสณั ฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ช่ัวโมงท่ี 5 ขั้นนำ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครกู ระตนุ้ ความสนใจ โดยครูต้ังคำถามเพื่อใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ดงั น้ี • ทฤษฎที วปี เลอ่ื น ไม่ไดร้ บั การยอมรบั ในช่วงแรก เพราะเหตุใด (แนวตอบ ไม่สามารถอธบิ ายกระบวนการเคล่อื นท่ีของแผ่นธรณไี ด้) • ทฤษฎีทวปี เลื่อน และทฤษฎีการแผข่ ยายพื้นมหาสมุทร สามารถอธิบายการเคลื่อนทีแ่ ยกออกจาก กันของทวีปไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ ไมไ่ ด้ เพราะจากหลักฐานและข้อมลู ที่พบไมส่ ามารถอธบิ ายกลไกการแทรกดนั ของแมก มาขน้ึ มาบนเปลอื กโลกได้) • นักเรียนคิดว่าแผน่ ธรณี คอื อะไร แตกต่างจากเปลอื กโลกอย่างไร (แนวตอบ แผน่ ธรณี คอื ธรณภี าคท่ีแตกออกเป็นแผน่ มจี ำนวนหลายแผ่น ซง่ึ ธรณีภาคคือส่วนของ เปลอื กโลกรวมกับเน้อื โลกตอนบนสุด) ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ใหน้ ักเรียนสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ทฤษฎีธรณแี ปรสัณฐาน แลว้ ครถู ามคำถามว่า • อะไรเปน็ สาเหตุทท่ี ำให้ มหาสมุทรแผ่ขยายกว้างขึน้ เรอ่ื ย ๆ (แนวตอบ การแทรกดนั ของแมกมาข้นึ มาบริเวณสันเขากลางสมุทร และเกดิ แรงดนั ให้เปลอื กโลก แยกตวั ของห่างจากสนั เขากลางสมุทร) • นกั วิทยาศาสตร์สามารถสำรวจภายในโลก เพอื่ ศึกษาการแทรกดันของแมกมาได้หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ ไม่ได้ เพราะในปัจจบุ นั ยังไม่มีเทคโนโลยีทส่ี ามารถเจาะสำรวจภายในโลกได้) • นกั เรยี นคิดว่า นักวิทยาศาสตร์ศึกษาสงิ่ ใด ในการอธิบายการเคลือ่ นท่ขี องแผน่ ธรณี (แนวตอบ การทดลองเลียนแบบ และลักษณะธรณสี ณั ฐานท่ีพบบนผวิ โลก) 2. ให้นักเรียนสืบคืนข้อมูลเก่ียวกับกลไกการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณี และทฤษฎีธรณีแปรสัณฐาน เพ่ือ เช่อื มโยงเขา้ สูก่ จิ กรรม 58
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ชว่ั โมงที่ 6 ข้นั สอน สำรวจคน้ หา (Explore) (ตอ่ ) 3. ครูให้นักเรียนนับจำนวน 1-3 วนไปเร่ือย ๆ จนครบทุกคน เพื่อแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยคนทน่ี ับจำนวนเดยี วกนั ให้อยู่กลมุ่ เดยี วกนั 4. ครแู จ้งจดุ ประสงค์ของการทำกิจกรรมแบบจำลองวงจรการพาความร้อน จากนน้ั ใหน้ ักเรียนจากนนั้ ให้ นกั เรียนอธบิ ายกลไกการเคลือ่ นท่ขี องแผ่นธรณี 5. ครูแจกใบกิจกรรมที่ 2.1 กจิ กรรมแบบจำลองวงจรการพาความร้อน ให้นักเรยี น 6. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กลุ่มมบี ทบาทหน้าท่ีของตนเอง ดงั น้ี สมาชกิ คนท่ี 1 ทำหน้าทีเ่ ตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ สมาชกิ คนท่ี 2 ทำหน้าทอ่ี ่านวิธีการทำการทดลอง และนำมาอธบิ ายใหส้ มาชกิ ภายในกลุ่มฟงั สมาชิกคนที่ 3 ทำหน้าทบี่ นั ทึกผลการทดลอง (หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินกจิ กรรม) 7. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมตามขนั้ ตอน ดังน้ี 1) ตดั แผน่ โฟมบางขนาดประมาณ กว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 4 เซนตเิ มตร จำนวน 2 แผน่ 2) เทน้ำมันพืชลงในถาดแก้วทนไฟขนาดประมาณ กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ให้มีปริมาตรประมาณสามส่วนสี่ของถาดแก้ว แล้วนำถาดแก้วไปต้ังไฟบนชุดตะเกียง แอลกอฮอล์ 3) ใส่ผงพริกป่น หรอื พรกิ ไทยบดหยาบลงในนำ้ มัน 4) วางแผ่นโฟมสองแผน่ ให้ชดิ ติดกันตรงกลางถาดแกว้ 5) สังเกตการณก์ ารเปลี่ยนแปลงของผงพริกปน่ และแผ่นโฟม แลว้ บันทกึ ผล 8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยให้นักเรียนทั้งห้องร่วมกันอภิปราย และตอบ คำถาม ชวั่ โมงท่ี 7 ขน้ั สอน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูกลา่ วเช่อื มโยงเขา้ สู่เน้ือหาจากการทำกจิ กรรมในช่วั โมงท่ผี า่ นมา โดยตัง้ ประเด็นคำถาม ดงั นี้ • จากการทำกิจกรรมแบบจำลองวงจรการพาความร้อน เปรียบเทยี บได้กบั สิ่งใด 59
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ธรณีแปรสณั ฐาน แผนฯ ที่ 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน (แนวตอบ วงจรการพาความร้อนภายในโลก) • แผน่ ธรณเี คล่ือนทแี่ ยกออกจากกนั ได้ เพราะเหตุใด (แนวตอบ เนื่องจากภายในแก่นโลกมีอุณหภูมิสูงมากทำให้เกิดการพาความร้อน แมกมาใน ฐานธรณีภาคเม่ือได้รับความร้อนจะเคล่ือนท่ขี ึ้นสผู่ ิวโลก เม่ือเคล่อื นท่ีข้นึ มาใกลผ้ วิ โลกซ่ึงหา่ งจากแก่น โลกที่เป็นต้นกำเนิดความร้อนอุณหภูมิจะลดลงและเคลื่อนท่ีกลับลงไปในเน้ือโลก ถ้าหากได้รับความ เพม่ิ จะเคล่อื นท่ขี ึน้ มาสู่ผวิ โลกใหม่ หมนุ วนเป็นวงจรไปตลอด) ขน้ั สรปุ ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปเก่ียวกับทฤษฎีการแผ่ขยายพื้นมหาสมุทร โดยอาจมี แนวทางสรุป ดงั นี้ “ทฤษฎีการแปรสัณฐานของแผ่นธรณี อธิบายว่า ธรณีภาคที่มีสถานะเป็นของแข็ง ประกอบด้วยเปลือกโลกและเนื้อโลกส่วนบนสุด แตกออกเป็นแผ่น เรียกว่า แผ่นธรณี (plate) และ เคล่ือนท่ีอย่างช้า ๆ อยู่บนฐานธรณีภาค เน่ืองจากการพาความร้อนของแมกมาในฐานธรณีภาค การ เคลื่อนท่ีของแผ่นธรณีในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เกิดธรณีสัณฐานและปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา เช่น แนวเทือกเขา ร่องลกึ กน้ สมทุ ร แผน่ ดินไหว ภูเขาไฟระเบิด บรเิ วณขอบของแผ่นธรณี ” 2. ครมู อบหมายการบ้านให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน ช่ัวโมงท่ี 8 ข้นั สรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ตามความสมัครใจ แล้วให้ร่วมกันทำใบงานที่ 2.1 โดยสรุป ความร้เู รื่องทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ในรปู ของแผนผงั ความคิดให้มคี วามถูกตอ้ งและน่าสนใจ (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ) 2. ครูให้นักเรยี นทกุ กลุ่มนำแผนผังความคิดของกลมุ่ ตนเองออกมานำเสนอหน้าชัน้ เรยี น กลมุ่ ละ 3 นาที 3. ครูมอบหมายการบ้านให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดจาก Unit Question 2 ในหนังสือเรียนรายวิชา เพมิ่ เตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินชิน้ งาน) 60
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ธรณแี ปรสัณฐาน แผนฯ ที่ 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูประเมินผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 3. ครปู ระเมินการปฏบิ ตั กิ ารจากการทำใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง ทฤษฎธี รณีแปรสณั ฐาน 4. ครูตรวจสอบผลการทำแบบฝกึ หดั จาก Unit Question 2 5. ครตู รวจสอบผลการทำแบบฝกึ หัดจากแบบฝกึ หัด หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 7. การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวัด 7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมินตามสภาพจริง - แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจแบบทดสอบ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 กอ่ นเรยี น - ประเมนิ การปฏบิ ตั ิ - ระดับคุณภาพ 2 เรื่อง ธรณีแปรสณั ฐาน กิจกรรม ผ่านเกณฑ์ 7.2 ประเมินระหวา่ งการ จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) การเคล่ือนทข่ี อง - ประเมนิ การปฏิบตั ิ แผ่นธรณีภาค กิจกรรม 2) การแผข่ ยายของ - ตรวจใบงานท่ี 2.1 - ใบงานที่ 2.1 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ พ้ืนมหาสมุทร - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) แบบจำลองวงจร - ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 2.1 - ใบกจิ กรรมที่ 2.1 - พิจารณาตามผลที่ได้จริง การพาความร้อน - ระดับคุณภาพ 2 - ประเมินการปฏิบตั ิ - ประเมินการปฏบิ ัติ ผ่านเกณฑ์ 4) แผนผงั ความคิด เรือ่ ง ทฤษฎธี รณี กิจกรรม กจิ กรรม ระดับคุณภาพ 2 แปรสณั ฐาน ผ่านเกณฑ์ - ตรวจและประเมิน - แบบประเมินชนิ้ งาน แผนผังความคิด 5) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 6) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรมการ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ทำงานรายบคุ คล ทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 61
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน 7) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 8) คุณลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ยั คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั อนั พึงประสงค์ ในการทำงาน 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ธรณแี ปรสัณฐาน 2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ธรณแี ปรสัณฐาน 3) ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน 4) ใบกิจกรรมที่ 2.1 เรอ่ื ง กจิ กรรมแบบจำลองวงจรการพาความรอ้ น 5) วัสดุ-อุปกรณท์ ใี่ ช้ในการทำกิจกรรมแบบจำลองวงจรการพาความร้อน 6) วสั ดุ-อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการทำกิจกรรมการเคลือ่ นท่ีของแผ่นธรณภี าค 7) PowerPoint เรอื่ ง ธรณแี ปรสณั ฐาน 8) ภาพแผนทโ่ี ลก 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) ห้องเรยี น 2) หอ้ งสมุด 3) บรเิ วณโรงเรียน 4) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ 62
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ธรณแี ปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ใบกิจกรรมท่ี 2.1 กิจกรรมแบบจำลองวงจรการพาความรอ้ น ช่ือ-สกุลสมาชิกภายในกลุม่ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนปฏบิ ัติกิจกรรมตามขน้ั ตอนที่ให้ แล้วบันทึกผลทไ่ี ดพ้ รอ้ มกบั สรุปและอภิปรายผลท่ไี ด้ การทำกิจกรรม ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 1) ตัดแผ่นโฟมบางขนาดประมาณ กวา้ ง 2 เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร จำนวน 2 แผน่ 2) เทน้ำมันพืชลงในถาดแก้วทนไฟขนาดประมาณ กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ให้มีปริมาตรประมาณสามส่วนสี่ของถาดแก้ว แล้วนำถาดแก้วไปตั้งไฟบนชุดตะเกียง แอลกอฮอล์ 3) ใส่ผงพรกิ ปน่ หรือพริกไทยบดหยาบลงในนำ้ มัน 4) วางแผ่นโฟมสองแผน่ ให้ชิดติดกันตรงกลางถาดแก้ว 5) สังเกตการณเ์ ปลย่ี นแปลงของผงพริกปน่ และแผน่ โฟม แลว้ บันทกึ ผล บันทกึ ผลการทำกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภปิ รายผลการทำกจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 63
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ธรณแี ปรสัณฐาน เฉลย แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ใบกจิ กรรมที่ 2.1 กจิ กรรมแบบจำลองวงจรการพาความรอ้ น ชือ่ -สกุลสมาชิกภายในกล่มุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรมตามข้นั ตอนท่ีให้ แล้วบนั ทึกผลท่ีไดพ้ รอ้ มกบั สรุปและอภิปรายผลทไ่ี ด้ การทำกจิ กรรม 1) ตัดแผ่นโฟมบางขนาดประมาณ กวา้ ง 2 เซนตเิ มตร ยาว 4 เซนติเมตร จำนวน 2 แผน่ 2) เทน้ำมันพืชลงในถาดแก้วทนไฟขนาดประมาณ กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 20 เซนติเมตร สูง 10 เซนติเมตร ให้มีปริมาตรประมาณสามส่วนส่ีของถาดแก้ว แล้วนำถาดแก้วไปตั้งไฟบนชุดตะเกียง แอลกอฮอล์ 3) ใส่ผงพริกปน่ หรือพรกิ ไทยบดหยาบลงในนำ้ มัน 4) วางแผ่นโฟมสองแผน่ ใหช้ ิดตดิ กันตรงกลางถาดแก้ว 5) สงั เกตการณ์การเปลย่ี นแปลงของผงพรกิ ป่น และแผ่นโฟม แล้วบันทกึ ผล บันทกึ ผลการทำกิจกรรม เมือ่ นำ้ มันร้อนจะผงพริกปน่ จะลอยขนึ้ สูผ่ ิวหน้าของน้ำมัน และเคล่ือนทีแ่ ยกออกจากกัน จากน้ันจะจมลงสกู่ ้น ถาด และลอยขน้ึ มาใหม่ หมนุ วนเป็นวงจร และเมือ่ วางแผน่ โฟมลงไป แผ่นโฟมจะเคล่ือนที่แยกออกจากกนั อย่างชา้ ๆ สรุปและอภปิ รายผลการทำกจิ กรรม จากการทดลอง พบว่า เม่ือน้ำมันได้รับความร้อนจากตะเกียงแอลกอฮอล์ จะเกิดการพาความร้อน ภายในน้ำมัน ทำให้ผงพริกป่นลอยขึ้นสู่ผิวหน้าของน้ำมัน และเคลื่อนที่แยกออกจากกัน จากนั้นจะจมลงสู่ก้น ถาด และลอยขึ้นมาใหม่ หมุนวนเป็นวงจร เม่ือวางแผ่นโฟมลงไปบนน้ำมัน แผ่นโฟมจะเคลื่อนท่ีแยกออกจาก กันอย่างช้า ๆ เมื่อทำไปเปรียบเทียบกับวงจรการพาความร้อนภายในโลก จะได้ว่า น้ำมันจะเปรียบได้กับแมก มาภายในโลก ตะเกียงแอลกอฮอลเ์ ปรียบได้กบั ความร้อนภายในโลก แผน่ โฟมเปรยี บไดก้ ับแผ่นธรณี (ข้นึ อยู่กบั ดุลยพินิจของผู้สอน โดยใหผ้ ู้สอนพจิ ารณาจากผลกิจกรรมท่นี ักเรยี นทำได้จริง) 64
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ทฤษฎีธรณแี ปรสณั ฐาน คำชี้แจง : ให้นักเรียนสรุปความรู้เก่ยี วกับทฤษฎีธรณแี ปรสัณฐานในรูปแบบของแผนผังความคิด และนำเสนอ ผลงาน 65
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ธรณีแปรสัณฐาน แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสณั ฐาน ใบงานที่ 2.1 เฉลย เรือ่ ง ทฤษฎีธรณแี ปรสณั ฐาน คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนสรปุ ความร้เู ก่ยี วกบั ทฤษฎีธรณแี ปรสัณฐานในรปู แบบของแผนผงั ความคดิ และนำเสนอ ผลงาน ทฤษฎที วปี เลือ่ น ทวีปในปัจจุบันอยู่ติดกันเป็นแผ่นดินเดียว เรียกว่า พันเจีย ในเวลาต่อมาพันเจียเร่ิมแยกตัวออกจากกัน ออกเป็นสองทวีปขนาดใหญช่ ่ือ ลอเรเซีย และกอนด์วา นา และท้ังสองทวีปก็มีการแยกตวั ออกจากกนั ช้า ๆ จน มีลกั ษณะดงั เชน่ ปัจจุบนั ทฤษฎกี ารแผ่ขยายพ้ืนมหาสมทุ ร พ้ืนมหาสมุทรมีการแผ่ขยายออกไปจากแนวสันเขา กลางสมุทรเนอื่ งจากการแทรกดันของแมกมาข้ึนมาบน เปลือกโลก ทฤษฎีธรณแี ปรสณั ฐาน ธรณีภาคแตกออกเป็นแผ่น เรียกว่า แผ่นธรณี และ เคลื่อนท่ีอย่างช้า ๆ อยู่บนฐานธรณีภาค เน่ืองจากการ พาความร้อนของแมกมาในฐานธรณีภาค ซึ่งมีการ เคล่ือนท่ี 3 รูปแบบ ได้แก่ แนวแผ่นธรณีเคล่อื นท่ีหากัน แนวแผ่นธรณีเคลื่อนที่แยกออกจากกัน แนวแผ่นธรณี เคลอ่ื นที่ผ่านกัน (ขนึ้ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน) 66
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ธรณแี ปรสณั ฐาน ................................. แผนฯ ท่ี 1 ทฤษฎธี รณแี ปรสัณฐาน ................................ ) 9. ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ...... . ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ( ตำแหนง่ 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน • ด้านความรู้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน • ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ • ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์ • ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี) • ปัญหา/อุปสรรค • แนวทางการแกไ้ ข 67
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: