หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดับช้นั หนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 การหาอายุทางธรณีวทิ ยา เวลา 6 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 7. วเิ คราะห์หลักฐานทางธรณวี ทิ ยาที่พบในปจั จบุ นั และอธบิ ายลำดบั เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลักการ และวธิ กี ารหาอายทุ างธรณีวิทยา (K) 2. อธบิ ายการนำหลักการลำดบั ช้ันหินมาใชใ้ นการหาอายเุ ปรียบเทียบ (K) 3. สบื ค้นข้อมลู เก่ยี วกับซากดึกดำบรรพ์ และการหาอายุสัมบูรณ์ (P) 4. สนใจใฝ่รูใ้ นการศึกษา (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - หลักฐานทางธรณีวิทยา ได้แก่ ซากดึกดำบรรพ์ หิน พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา และลักษณะโครงสร้างทางธรณี ซึ่งนำมาหาอายุได้ 2 แบบ ได้แก่ อายุเปรียบเทียบ คืออายุของ ซากดึกดำ บรรพ์ หิน และ/หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยา เม่ือ เทียบกบั ซากดึกดำบรรพ์ หิน และ/หรือเหตุการณ์ทาง ธรณีวิทยาอ่ืน ๆ และอายุสัมบูรณ์ คือ อายุท่ีระบุเป็น ตัวเลขของหิน และ/หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาซ่ึง คำนวณไดจ้ ากไอโซโทปของธาตุ 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด อายุทางธรณีวิทยา คือ ช่วงเวลาท่ีเวลาที่ซากดึกดำบรรพ์หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาได้ปรากฏหรือ เกิดขนึ้ สามารถแสดงได้ท้ัง อายุสมบูรณ์ และอายเุ ปรียบเทียบ อายุสัมบูรณ์ คือ อายุของหิน ซากดึกดำบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาที่ระบุเป็นจำนวนปี โดย คำนวณได้จากไอโซโทปของธาตุ อายุเปรียบเทียบ คือ อายุของหิน ซากดึกดำบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาเม่ือเทียบกับหิน ซากดึกดำบรรพ์ หรือเหตกุ ารณ์ทางธรณวี ิทยาอ่ืน ๆ โดยไมบ่ อกเป็นจำนวนปี 152
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ลำดบั ชั้นหนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายุทางธรณวี ทิ ยา 5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียนและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวนิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 1) ทกั ษะการสงั เกต 2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 3) ทกั ษะการวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชัว่ โมงท่ี 1 ขน้ั นำ กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูกระตุ้นความสนใจ โดยถามคำถาม prior knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หน้า 62 วา่ การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยามปี ระโยชนอ์ ย่างไร (แนวตอบ อายุทางธรณีวทิ ยาสามารถบอกประวตั ิของพ้นื ที่ หรอื ชว่ งเวลาที่เคยเกดิ เหตุการณ์ ทางธรณีวิทยาที่เคยข้ึนในพ้ืนที่น้ัน เพ่ือนำข้อมูลไปใช้ในการศึกษา การวางแผน การจัดการ พนื้ ท)ี่ 2. ครูต้ังคำถามกระตุน้ ความคิดโดยให้นักเรียนช่วยกนั ระดมความคดิ ในการตอบคำถาม • อายุทางธรณวี ิทยาคืออะไร (แนวตอบ อายุทางธรณีวิทยา คือ ช่วงเวลาที่เวลาที่ซากดึกดำบรรพห์ รอื เหตุการณ์ทาง ธรณวี ิทยาได้ปรากฏหรือเกิดขึ้น สามารถแสดงได้ทั้ง อายสุ มบรู ณ์ และอายุเปรยี บเทียบ) • อายเุ ปรยี บเทียบและอายสุ ัมบูรณ์แตกตา่ งกันอยา่ งไร (แนวตอบ อายเุ ปรยี บเทยี บจะไม่แสดงอายุเปน็ จำนวนปี อายสุ ัมบรู ณ์จะแสดงอายุเปน็ จำนวนปี) • นกั วทิ ยาศาสตร์มีวิธีการหาอายุเปรยี บเทยี บได้อย่างไร (แนวตอบ หาไดจ้ ากกฎและหลกั ในการลำดับช้ันหนิ ) 153
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดับชน้ั หนิ แผนฯ ที่ 2 การหาอายุทางธรณวี ทิ ยา ข้ันสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ใหน้ กั เรียนสบื ค้นข้อมลู เก่ียวกบั การหาอายเุ ปรยี บเทยี บ แลว้ ครูถามคำถามว่า • นักเรียนคดิ วา่ หลกั การและกฎในการลำดับช้ันหนิ เพอ่ื ใชใ้ นการหาอายุเปรยี บเทยี บ ที่ควร ทราบ มอี ะไรบา้ ง (แนวตอบ กฎการลำดบั ชน้ั กฎความสมั พันธท์ ่ีตดั กัน กฎการสบื สัตวชาติ กฎช้ันตอ่ เนือ่ ง กฎช้ันแนวนอน หลักเอกรูปนิยม และกฎอืน่ ๆ ตามท่นี ักเรียนสบื ค้นได้) • นักเรยี นคดิ วา่ การหาอายุเปรียบเทยี บของหินตะกอนทวี่ างตัวซอ้ นทับกันเปน็ ช้นั ควรใชห้ ลกั ใน การลำดบั ช้ันหินขอ้ ใด (แนวตอบ กฎการลำดบั ช้นั กฎชน้ั ต่อเนอื่ ง กฎช้นั แนวนอน และกฎอ่ืน ๆ ตามหลกั ฐานทาง ธรณีวทิ ยาทพ่ี บในชั้นหนิ ตะกอนดงั กล่าว) 2. ให้นกั เรยี นสบื คืนขอ้ มูลเกยี่ วกบั กฎการลำดับช้นั เพ่อื เชือ่ มโยงเขา้ สกู่ ิจกรรมการวางตัวของหนิ ตะกอน 3. ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี น ออกเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 คน ตามระดับความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน 4. ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทำกิจกรรม จากน้ันให้นักเรียนศึกษากฎการลำดับช้ัน โดยทำกิจกรรมการ วางตัวของหนิ ตะกอน 5. ครแู จกแบบบนั ทึกกิจกรรมท่ี 4.2 กิจกรรมการวางตวั ของหนิ ตะกอน 6. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กลุ่มมบี ทบาทหน้าทขี่ องตนเอง ดงั นี้ สมาชกิ คนที่ 1 ทำหนา้ ท่ีเตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์ สมาชกิ คนที่ 2 ทำหน้าท่อี า่ นวิธีการทำกจิ กรรม และนำมาอธิบายให้สมาชกิ ภายในกลุม่ ฟงั สมาชกิ คนท่ี 3 ทำหนา้ ที่บนั ทึกผลการทำกิจกรรม (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ กิจกรรม) 7. ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ทำกจิ กรรมตามข้นั ตอน ดงั น้ี 1) นำขวดน้ำพลาสตกิ ใสขนาด 1 ลิตร ตัดสว่ นบนทางด้านปากขวดออก 2) ใสน่ ้ำลงไปในขวดประมาณคร่ึงหน่ึงของขวด 3) ตกั กรวดขนาดเลก็ ใสล่ งไปในขวดจนมีความหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 4) ตกั ทรายหยาบใส่ลงไปในขวดจนชัน้ ทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 5) ตักทรายละเอยี ดใสล่ งไปในขวดจนชน้ั ทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 6) วาดภาพการวางตวั ของกรวด ทรายหยาบ และทรายละเอียด 8. ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ สง่ ตัวแทนมานำเสนอผลการทำกิจกรรม 154
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 ลำดบั ชั้นหนิ แผนฯ ที่ 2 การหาอายุทางธรณวี ิทยา ชวั่ โมงท่ี 2 ขั้นสอน อธบิ ายความรู้ (Explain) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยครูตั้งคำถามเพ่ือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน แสดงความคดิ เหน็ ดงั น้ี • ถา้ เปรียบเทียบการวางตัวของกรวดและทรายกับชั้นหิน ชั้นใดมีอายุมากที่สดุ และชั้นใดมีอายุนอ้ ย ท่สี ุด เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ ชั้นกรวดมอี ายุมากที่สุด เพราะเทลงในขวดเป็นลำดับแรก ชน้ั ทรายละเอียดมีอายุ นอ้ ยทส่ี ดุ เพราะเทลงในขวดเปน็ ลำดับสดุ ท้าย) • จากผลการทำกิจกรรม สามารถนำมาสรปุ เปน็ กฎการลำดับชนั้ ไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ ชั้นหินที่มีอายุอ่อนจะวางตัวอยู่บนช้ันหินท่ีมีอายุแก่กว่า ถ้าชั้นหินไม่มีการพลิก กลับ) • ชัน้ หินจะเกิดการพลกิ กลับได้อยา่ งไร (แนวตอบ ช้ันหินเกิดการพลิกกลับได้ เน่ืองจากถูกกระทำโดยกระบวนการทางธรณีวิทยา เช่น การเกิดรอยเลอ่ื น รอยคดโค้ง) 2. ครูให้นกั เรียนจับคู่กันสืบคน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั เร่ืองหลักในการหาอายุเปรยี บเทียบ ดังนี้ - กฎช้นั ต่อเน่อื ง - กฎชนั้ แนวนอน - กฎการสืบสัตวชาติ โดยนักเรยี นอาจสืบค้นจากหนังสือเรยี น หรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ แลว้ นำข้อมูลมาแลกเปล่ียนความ คิดเห็น และร่วมกนั ต้งั ประเด็นคำถามเกยี่ วกับเรื่องทส่ี ืบค้นมา (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ พฤติกรรมรายบคุ คล) 3. ให้นกั เรียนรวมกลุม่ กับเพื่อนอกี คู่หนึ่ง รวมเปน็ 4 คน แลว้ แลกเปล่ียนกนั ถามคำถามท่ตี ั้งไว้ จากนน้ั ร่วมกนั สรุปเพ่อื เตรียมนำเสนอหน้าชน้ั เรยี น 4. ครูสมุ่ เลอื กนักเรยี น 2-3 กลมุ่ ให้ออกมานำเสนอคำถามของกล่มุ ตนเอง โดยให้นักเรียนทั้งหอ้ งรว่ มกัน ตอบคำถาม และอภิปรายรว่ มกัน 155
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดบั ชนั้ หนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา ชวั่ โมงที่ 3 ขนั้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครใู หน้ กั เรียนใหน้ กั เรยี นกลับส่กู ลุ่มเดมิ (กลมุ่ 3 คน) ตามท่ีไดแ้ บ่งไวใ้ นชว่ั โมงทีผ่ ่านมา 2. ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทำกิจกรรม จากนั้นให้นักเรียนศึกษากฎความสัมพันธ์ที่ตัดกัน โดยทำ กิจกรรมการตัดผ่านของรอยเลือ่ นและหินอัคนี 3. ครแู จกใบงานท่ี 4.3 กิจกรรมการตดั ผ่านของรอยเลอ่ื นและหนิ อัคนี ใหน้ กั เรียน 4. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กลมุ่ มีบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง ดงั นี้ สมาชิกคนที่ 1 ทำหนา้ ทเ่ี ตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ สมาชิกคนท่ี 2 ทำหน้าทีอ่ า่ นวธิ กี ารทำกจิ กรรม และนำมาอธบิ ายใหส้ มาชกิ ภายในกลุ่มฟัง สมาชิกคนที่ 3 ทำหนา้ ทีบ่ ันทึกผลการทำกจิ กรรม (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินกิจกรรม) 5. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มทำกิจกรรมตามข้นั ตอน ดงั น้ี 1) ปั้นดินน้ำมันให้เป็นแผ่นขนาดประมาณ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ใหแ้ ต่ละแผน่ มสี ีต่างกัน จำนวน 3 แผ่น 2) นำดนิ นำ้ มันทง้ั 3 แผ่นวางซ้อนกัน แล้วกดให้ตดิ กนั แนน่ 3) ใช้ไมบ้ รรทดั ตดั ผา่ นดินนำ้ มนั ทง้ั 3 ชน้ั สังเกตและบันทึกผล 4) ทำซำ้ ตามขน้ั ตอนข้อท่ี 1 – 3 แลว้ ปั้นดนิ น้ำมันสีทตี่ า่ งกนั กบั ช้ันดนิ นำ้ มัน 5) นำดนิ น้ำมันไปแทรกไวต้ รงกลางระหว่างชั้นดินน้ำมันทีถ่ กู ตัดขาด แล้วกดใหต้ ิดกันแนน่ 6) วาดภาพลกั ษณะของชนั้ ดินน้ำมันหลงั การทำกิจกรรม 6. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนมานำเสนอผลการทำกจิ กรรม อธบิ ายความรู้ (Explain) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยครูต้ังคำถามเพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี • ถ้าเปรียบเทียบช้ันดินน้ำมันกับช้ันหิน การตัดของไม้บรรทัดกับรอยเล่ือน สิ่งใดมีอายุมากกว่า เพราะเหตุใด (แนวตอบ ชั้นดนิ นำ้ มันมอี ายุมากกวา่ เนื่องจากไม้บรรทดั ตดั ผา่ นชน้ั ดินน้ำมนั ทีม่ ีอยู่ก่อน) • ถ้าเปรียบเทียบช้ันดนิ นำ้ มนั กบั ชั้นหิน ดินนำ้ มันตา่ งสกี บั หนิ อัคนี สง่ิ ใดมีอายมุ ากกว่า เพราะเหตุใด (แนวตอบ ชั้นดนิ น้ำมันมอี ายุมากกวา่ เนอ่ื งจากดนิ น้ำมนั แทรกเขา้ มาในชนั้ ดนิ น้ำมนั ทมี่ ีอย่กู ่อน) 156
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดบั ชนั้ หนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา • จากผลการทำกจิ กรรม สามารถนำมาสรุปเปน็ กฎความสัมพันธท์ ี่ตัดกนั ได้อย่างไร (แนวตอบ ถ้าหากมีหินแทรกตัวเข้ามาในช้ันหินเดิม หรือรอยเล่ือนตัดผ่านชั้นหินเดิม หินหรือรอย เลื่อนทตี่ ดั ผา่ นเขา้ มาต้องมอี ายุนอ้ ยกว่าชนั้ หินเดมิ ) 8. ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่กันสบื คน้ ข้อมูลเกีย่ วกับเรอ่ื งหลักในการหาอายเุ ปรยี บเทียบ ดังนี้ - การเทียบสมั พนั ธ์ชัน้ หนิ - หลักเอกรูปนิยม โดยนกั เรียนอาจสบื ค้นจากหนังสือเรยี น หรือแหล่งเรียนรู้อื่นๆ แล้วนำขอ้ มูลมาแลกเปลี่ยนความ คดิ เหน็ และร่วมกนั ต้ังประเด็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องท่สี บื คน้ มา 9. ให้นกั เรียนรวมกลุม่ กับเพ่ือนอีกคู่หน่ึง รวมเปน็ 4 คน แลว้ แลกเปล่ยี นกนั ถามคำถามทีต่ ั้งไว้ จากน้นั รว่ มกนั สรุปเพอ่ื เตรียมนำเสนอหน้าช้นั เรียน 10. ครูสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 กล่มุ ใหอ้ อกมานำเสนอคำถามของกลุ่มตนเอง โดยให้นักเรยี นทั้งหอ้ งร่วมกนั ตอบคำถาม และอภปิ รายร่วมกนั ช่ัวโมงท่ี 4 ขั้นสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนนับจำนวน 1-3 วนไปเรื่อย ๆ จนครบทุกคน เพ่ือแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยคนท่นี ับจำนวนเดยี วกันให้อยกู่ ลุ่มเดยี วกนั 2. ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทำกิจกรรม จากนั้นให้นักเรียนศึกษารอยชั้นไม่ต่อเนื่อง โดยทำกิจกรรม รอยชัน้ ไมต่ อ่ เนอ่ื ง 3. ครูแจกใบกจิ กรรมท่ี 4.4 กิจกรรมรอยช้นั ไมต่ อ่ เนอ่ื ง 4. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กล่มุ มีบทบาทหน้าทีข่ องตนเอง ดงั นี้ สมาชกิ คนที่ 1 ทำหนา้ ท่เี ตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์ สมาชิกคนท่ี 2 ทำหนา้ ที่อา่ นวธิ ีการทำกจิ กรรม และนำมาอธิบายให้สมาชิกภายในกลุ่มฟัง สมาชกิ คนที่ 3 ทำหน้าท่ีบนั ทึกผลการทำกิจกรรม (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมินกิจกรรม) 5. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ ทำกิจกรรมตามขนั้ ตอน ดังนี้ 1) ป้ันดินน้ำมันให้เป็นแผ่นขนาดประมาณ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ใหแ้ ตล่ ะแผน่ มีสตี ่างกนั จำนวน 5 แผน่ 2) นำดนิ นำ้ มนั 3 แผน่ วางซอ้ นกนั แล้วกดให้ตดิ กนั แนน่ 157
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 ลำดบั ชั้นหนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายุทางธรณวี ิทยา 3) ใชไ้ มบ้ รรทดั ขีดด้านบนของช้ันดนิ น้ำมันใหเ้ ป็นรอยบากลึกลงไปในชน้ั ดนิ นำ้ มัน 4) นำแผ่นดินน้ำมนั อีก 2 แผ่นวางทบั ช้ันดินมัน แลว้ กดให้ตดิ กนั แนน่ 5) วาดภาพลักษณะของชั้นดินนำ้ มนั หลังการทำกิจกรรม 6. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมานำเสนอผลการทำกิจกรรม อธิบายความรู้ (Explain) 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยครูต้ังคำถามเพื่อให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน แสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี • รอยบากบนชัน้ ดนิ นำ้ มนั เปรยี บเทยี บได้กบั สง่ิ ใด (แนวตอบ รอยชั้นไมต่ ่อเน่อื ง) • รอยชั้นไมต่ อ่ เน่ืองคอื อะไร (แนวตอบ รอยชั้นไม่ต่อเน่ือง คือ รอยต่อของชั้นหินต่างชุดท่ีวางซ้อนกัน เกิดจากช้ันหินชุด ล่างทมี่ อี ายุแก่กวา่ ขาดหายไปชว่ งใดชว่ งหน่ึงเนื่องจากมีการกร่อนเป็นเวลานาน) • รอยชน้ั ไม่ต่อเนื่อง ช่วยในการหาอายเุ ปรยี บเทยี บได้อย่างไร (แนวตอบ รอยชนั้ ไม่เน่ืองแสดงถึงการหยุดสะสมตัวของชั้นหินตะกอน แสดงว่าชั้นหินชุดล่าง จะมอี ายมุ ากกวา่ และอาจมรี ่องรอยท่บี ่งบอกวา่ ชั้นหินมีการพลิกกลบั หรือไม่อีกด้วย) 8. ครูใหน้ กั เรยี นจับคู่กนั สบื ค้นข้อมูลเกี่ยวกบั เรือ่ งรอยชน้ั ไม่ต่อเนอ่ื ง ดังน้ี - รอยช้นั ไม่ต่อเนื่องเชงิ มมุ - รอยชั้นไมต่ ่อเน่ืองคงระดบั - รอยช้นั ไมต่ ่อเนื่องบนหนิ อัคนี โดยนักเรยี นอาจสืบค้นจากหนงั สือเรียน หรอื แหลง่ เรียนรู้อื่นๆ แลว้ นำข้อมูลมาแลกเปลยี่ นความ คดิ เหน็ และรว่ มกนั ตง้ั ประเด็นคำถามเกีย่ วกับเรื่องทีส่ ืบคน้ มา 9. ใหน้ กั เรียนรวมกลุ่มกับเพื่อนอกี คหู่ นึ่ง รวมเปน็ 4 คน แลว้ แลกเปลี่ยนกนั ถามคำถามทตี่ ั้งไว้ จากน้ัน รว่ มกันสรุปเพอ่ื เตรยี มนำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน 10. ครูสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 กลุ่ม ใหอ้ อกมานำเสนอคำถามของกลมุ่ ตนเอง โดยให้นักเรียนทั้งหอ้ งรว่ มกนั ตอบคำถาม และอภิปรายร่วมกัน 158
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 ลำดบั ชน้ั หนิ แผนฯ ที่ 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา ช่วั โมงท่ี 5 ขัน้ สอน สำรวจค้นหา (Explore) 1. ครูให้นักเรียนนับจำนวน 1-3 วนไปเรื่อย ๆ จนครบทุกคน เพ่ือแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยคนท่นี ับจำนวนเดียวกนั ให้อยกู่ ลุ่มเดยี วกนั 2. ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทำกิจกรรม จากนั้นให้นักเรียนศึกษาการหาอายุสัมบูรณ์ โดยทำกิจกรรม อายสุ ัมบูรณ์ของหิน 3. ครูใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือมาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดให้สมาชิกแต่ละคนภายใน กลมุ่ มบี ทบาทหนา้ ทีข่ องตนเอง ดงั น้ี สมาชิกคนท่ี 1 ทำหน้าท่ีเตรยี มวัสดุอปุ กรณ์ สมาชกิ คนที่ 2 ทำหน้าทอี่ ่านวธิ กี ารทำกิจกรรม และนำมาอธบิ ายใหส้ มาชิกภายในกล่มุ ฟัง สมาชิกคนที่ 3 ทำหนา้ ทีบ่ ันทึกผลการทำกจิ กรรม (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 4. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมตามขั้นตอน ดงั น้ี 1) ร่วมกนั สืบคน้ ข้อมูลวิธกี ารหาอายุสัมบูรณ์ รวมถึงข้อมลู ตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วข้อง ดังน้ี - ไอโซโทปของธาตุในหิน -ช่วงเวลาท่ีเหมาะสมกับไอโซโทปของธาตุทใ่ี ช้ในการหาอายุ 2) พิจารณาข้อมูลการหาอายุสัมบูรณ์ที่สืบค้นได้ แล้วนำมาสรุปเป็นหลักการหาอายุสัมบูรณ์ใน รูปแบบแผนภาพ หรอื infographic โดยจดั ทำอย่ใู นรูปแบบโปสเตอร์ (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบประเมนิ ช้ินงาน) 3) ครูและนักเรยี นรว่ มกันพจิ ารณาแผนภาพ หรอื infographic เพอื่ ชว่ ยกันตรวจสอบข้อมูล 5. ครูใหส้ มุ่ นักเรียนบางกลุ่มใหอ้ อกมานำเสนอโปสเตอร์ของกลุ่มตนเอง อธบิ ายความรู้ (Explain) 6. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยครูต้ังคำถามเพ่ือให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน แสดงความคิดเห็น ดงั นี้ • ไอโซโทปของธาตทุ ีใ่ ช้หาอายุของโลกคือธาตุใด (แนวตอบ รูบเิ ดยี ม) • นักวทิ ยาศาสตร์คำนวณหาอายสุ มั บูรณไ์ ดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ คำนวณจากคร่งึ ชวี ติ ของธาตทุ ่พี บในหิน) 159
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดบั ช้นั หนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา • ถ้าหากหินที่ต้องการหาอายุ ไม่มีไอโซโทปของธาตุที่สามารถจะหาอายุสัมบูรณ์ได้ จะมีวิธีการหา อายขุ องหินนัน้ ไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ ใชห้ ลกั การหาอายเุ ปรยี บเทยี บ หรือซากดึกดำบรรพด์ ัชนี) ช่วั โมงท่ี 6 ขัน้ สรปุ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเพ่ือให้ได้ข้อสรุปเก่ียวกับอายุทางธรณีวิทยา โดยอาจมีแนวทางสรุป ดงั น้ี “อายุทางธรณีวิทยา คือ ช่วงเวลาท่ีเวลาที่ซากดึกดำบรรพ์หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาได้ ปรากฏหรือเกิดขึ้น สามารถแสดงได้ทั้ง อายุสมบูรณ์ และอายุเปรียบเทียบ ซึ่งอายุสัมบูรณ์ คือ อายุ ของหิน ซากดึกดำบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาที่ระบุเป็นจำนวนปี โดยคำนวณได้จาก ไอโซโทปของธาตุ และอายุเปรียบเทียบ คือ อายุของหิน ซากดึกดำบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทาง ธรณีวิทยาเม่ือเทียบกับหิน ซากดึกดำบรรพ์ หรือเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาอื่น ๆ โดยไม่บอกเป็น จำนวนป”ี 2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ทำใบงานที่ 4.2 โดยสรุปความรู้ เร่ือง การหาอายุทาง ธรณีวทิ ยา ในรปู ของแผนผงั ความคิดใหม้ ีความถูกตอ้ งและนา่ สนใจ 3. ครูให้ทุกกลุ่มนำเสนอผลงานของกลุ่มตนเองหน้าช้ันเรียน เม่ือนักเรียนทุกกลุ่มนำเสนอเสร็จแล้ว ครู กบั นกั เรียนร่วมกันร่วมกนั อภิปรายความร้ทู ี่ไดอ้ ีกคร้งั (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน) 4. ครูมอบหมายการบ้านให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เรื่อง การหาอายุทางธรณีวิทยา จากแบบฝึกหัด รายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เลม่ 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 ลำดบั ช้ันหิน ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมินผล โดยการสังเกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 2. ครปู ระเมนิ การปฏิบตั ิการจากการทำใบงานที่ 4.2 เรื่อง การหาอายทุ างธรณีวิทยา 3. ครตู รวจสอบผลการทำแบบฝกึ หดั 160
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ลำดบั ชั้นหนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายุทางธรณวี ิทยา 7. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน รายการวดั 7.1 ประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) การวางตัวของหิน - ตรวจใบกิจกรรมท่ี 4.2 - ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 - พจิ ารณาตามผลที่ไดจ้ ริง - ระดับคุณภาพ 2 ตะกอน - ประเมนิ การปฏบิ ัติ - แบบประเมนิ การ ผ่านเกณฑ์ - พิจารณาตามผลทไี่ ดจ้ รงิ กิจกรรม ปฏบิ ัติกจิ กรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 2) การตัดผ่านของรอย - ตรวจใบกจิ กรรมที่ 4.3 - ใบกจิ กรรมที่ 4.3 - พจิ ารณาตามผลทไี่ ดจ้ ริง - ระดบั คณุ ภาพ 2 เล่ือนและหินอคั นี - ประเมนิ การปฏิบัติ - แบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์ - ระดับคณุ ภาพ 2 กิจกรรม ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) รอยชัน้ ไมต่ ่อเนื่อง - ตรวจใบกิจกรรมที่ 4.4 - ใบกิจกรรมที่ 4.4 - ประเมินการปฏบิ ตั ิ - แบบประเมินการ กิจกรรม ปฏิบตั ิกิจกรรม 4) อายสุ มั บรู ณ์ของหนิ - โปสเตอร์หลกั การหา - แบบประเมินชน้ิ งาน อายสุ ัมบรู ณ์ 5) การหาอายทุ าง - ตรวจใบงานท่ี 4.2 - ใบงานที่ 4.2 ธรณวี ทิ ยา 6) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน นำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 7) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 8) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 การทำงานกล่มุ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 9) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มัน่ คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ 161
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดบั ช้ันหนิ แผนฯ ที่ 2 การหาอายุทางธรณวี ทิ ยา 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ลำดบั ชนั้ หนิ 2) แบบฝึกหัดรายวิชาเพม่ิ เตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.4 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 ลำดับช้นั หิน 3) ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง การหาอายทุ างธรณีวทิ ยา 4) ใบกิจกรรมที่ 4.2 กิจกรรมการวางตวั ของหนิ ตะกอน 5) ใบกจิ กรรมที่ 4.3 กจิ กรรมการตดั ผา่ นของรอยเลอื่ นและหนิ อัคนี 6) ใบกิจกรรมที่ 4.4 กิจกรรมรอยชนั้ ไมต่ อ่ เนอื่ ง 7) วัสดุ-อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นกจิ กรรมการวางตัวของหินตะกอน 8) วสั ดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมการตัดผา่ นของรอยเล่ือนและหนิ อคั นี 9) วัสดุ-อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นกจิ กรรมรอยชั้นไมต่ ่อเนอ่ื ง 10) วัสดุ-อปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นกิจกรรมอายุสมั บรู ณข์ องหิน 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) หอ้ งสมดุ 3) บรเิ วณโรงเรียน 4) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 162
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดับชั้นหนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา ใบกิจกรรมที่ 4.2 กิจกรรมการวางตวั ของหนิ ตะกอน คำชี้แจง : ให้นักเรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามขัน้ ตอนที่ให้ แล้วบันทกึ ผลทไ่ี ด้จากการสบื ค้น ชือ่ -สกุลสมาชิกภายในกลุ่ม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามขนั้ ตอนที่ให้ แล้วบันทกึ ผลทไ่ี ด้พร้อมกบั สรปุ และอภปิ รายผลท่ไี ด้ การทำกิจกรรม ข้ันตอนการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 1) นำขวดน้ำพลาสตกิ ใสขนาด 1 ลติ ร ตดั สว่ นบนทางดา้ นปากขวดออก 2) ใสน่ ้ำลงไปในขวดประมาณครึง่ หน่งึ ของขวด 3) ตกั กรวดขนาดเลก็ ใสล่ งไปในขวดจนมคี วามหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 4) ตักทรายหยาบใสล่ งไปในขวดจนชั้นทรายมคี วามหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 5) ตักทรายละเอยี ดใสล่ งไปในขวดจนชัน้ ทรายมคี วามหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 6) วาดภาพการวางตวั ของกรวด ทรายหยาบ และทรายละเอียด บันทกึ ผลการทำกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภิปรายผลการทำกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 163
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ลำดบั ช้ันหนิ เฉลย แผนฯ ที่ 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา ใบกิจกรรมที่ 4.2 กิจกรรมการวางตวั ของหนิ ตะกอน คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนปฏิบัติกิจกรรมตามขั้นตอนท่ใี ห้ แล้วบันทกึ ผลท่ีได้จากการสบื ค้น ช่ือ-สกุลสมาชิกภายในกล่มุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามขน้ั ตอนท่ใี ห้ แล้วบันทกึ ผลทไ่ี ดพ้ ร้อมกบั สรุปและอภปิ รายผลทไ่ี ด้ การทำกิจกรรม ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 1) นำขวดนำ้ พลาสติกใสขนาด 1 ลิตร ตดั ส่วนบนทางด้านปากขวดออก 2) ใส่นำ้ ลงไปในขวดประมาณครง่ึ หนึ่งของขวด 3) ตกั กรวดขนาดเลก็ ใสล่ งไปในขวดจนมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 4) ตกั ทรายหยาบใส่ลงไปในขวดจนชนั้ ทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนตเิ มตร 5) ตกั ทรายละเอยี ดใสล่ งไปในขวดจนช้ันทรายมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตร 6) วาดภาพการวางตวั ของกรวด ทรายหยาบ และทรายละเอยี ด บันทึกผลการทำกจิ กรรม ชนั้ กรวดจะกระจายอยใู่ นแนวระดบั และวางตัวอยูช่ นั้ ลา่ งสดุ ถดั มาเปน็ ชน้ั ทรายหยาบ และชั้นทราย ละเอียดวางตัวอยดู่ ้านบนสดุ มกี ารกระจายตวั เหมือนกบั ช้ันกรวด สรปุ และอภปิ รายผลการทำกิจกรรม ช้ันกรวดและทรายเปรียบไดก้ ับชน้ั หนิ ตะกอน ซ่งึ ชน้ั ทอ่ี ยูด่ ้านลา่ งสดุ จะมีอายมุ ากท่ีสุด และช้ันทีอ่ ยู่ บนสดุ จะมีอายนุ อ้ ยท่ีสุด ถ้าหากไม่มีการพลิกกลับ (ขึ้นอยู่กับดลุ ยพนิ จิ ผสู้ อน โดยพิจารณาจากผลกิจกรรมท่นี ักเรียนทำไดจ้ รงิ ) 164
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ลำดบั ช้นั หนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา ใบกจิ กรรมที่ 4.3 กจิ กรรมการตัดผ่านของรอยเลอ่ื นและหนิ อัคนี คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามข้นั ตอนทใี่ ห้ แล้วบันทกึ ผลทไ่ี ด้จากการสืบค้น ชอ่ื -สกุลสมาชิกภายในกลมุ่ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามข้ันตอนทีใ่ ห้ แล้วบนั ทึกผลที่ไดพ้ ร้อมกับสรุปและอภปิ รายผลทไี่ ด้ การทำกจิ กรรม ขัน้ ตอนการปฏิบตั กิ จิ กรรม 1) ป้ันดินน้ำมันให้เป็นแผ่นขนาดประมาณ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ใหแ้ ต่ละแผ่นมสี ีต่างกนั จำนวน 3 แผน่ 2) นำดินน้ำมนั ทัง้ 3 แผน่ วางซ้อนกัน แลว้ กดให้ตดิ กนั แน่น 3) ใชไ้ ม้บรรทัดตัดผา่ นดินน้ำมันท้ัง 3 ชั้น สังเกตและบนั ทกึ ผล 4) ทำซ้ำตามข้ันตอนขอ้ ท่ี 1 – 3 แล้วปน้ั ดนิ นำ้ มันสที ่ตี ่างกนั กบั ช้นั ดินนำ้ มนั 5) นำดินนำ้ มนั ไปแทรกไว้ตรงกลางระหวา่ งช้ันดินน้ำมันท่ีถกู ตัดขาด แลว้ กดใหต้ ิดกันแนน่ 6) วาดภาพลักษณะของชน้ั ดนิ นำ้ มนั หลงั การทำกจิ กรรม บันทกึ ผลการทำกจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภิปรายผลการทำกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 165
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ลำดบั ชัน้ หนิ เฉลย แผนฯ ที่ 2 การหาอายทุ างธรณวี ิทยา ใบกจิ กรรมท่ี 4.3 กิจกรรมการตดั ผ่านของรอยเลือ่ นและหินอัคนี คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมตามขั้นตอนที่ให้ แล้วบนั ทกึ ผลทไ่ี ด้จากการสบื ค้น ช่อื -สกุลสมาชิกภายในกลุ่ม 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชแ้ี จง : ให้นักเรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามข้นั ตอนทใ่ี ห้ แล้วบนั ทึกผลทีไ่ ดพ้ รอ้ มกบั สรปุ และอภิปรายผลท่ีได้ การทำกจิ กรรม ข้นั ตอนการปฏิบัติกจิ กรรม 1) ปั้นดินน้ำมันให้เป็นแผ่นขนาดประมาณ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ใหแ้ ตล่ ะแผน่ มสี ีตา่ งกนั จำนวน 3 แผน่ 2) นำดนิ น้ำมันทง้ั 3 แผน่ วางซอ้ นกัน แลว้ กดใหต้ ดิ กนั แน่น 3) ใชไ้ มบ้ รรทัดตดั ผ่านดินนำ้ มนั ท้ัง 3 ช้ัน สงั เกตและบันทึกผล 4) ทำซ้ำตามขัน้ ตอนขอ้ ที่ 1 – 3 แล้วปั้นดนิ น้ำมนั สีท่ีตา่ งกนั กับช้นั ดนิ น้ำมัน 5) นำดนิ นำ้ มนั ไปแทรกไวต้ รงกลางระหว่างชน้ั ดนิ นำ้ มนั ท่ีถูกตัดขาด แลว้ กดให้ติดกันแน่น 6) วาดภาพลักษณะของชนั้ ดนิ นำ้ มันหลงั การทำกจิ กรรม บันทึกผลการทำกิจกรรม ดินน้ำมันทง้ั สามแผน่ ถกู ไม้บรรทดั ตัดผา่ นเกิดร่องรอยที่แบ่งชนั้ ดินน้ำมนั ออกเปน็ สองส่วน ดินน้ำมนั ทแ่ี ยกออกเป็นสองสว่ น มีดนิ นำ้ มนั ที่มีสตี ่างกันแทรกเข้ามาตรงกลาง สรปุ และอภิปรายผลการทำกจิ กรรม ดินน้ำมันเปรียบเทียบได้กับช้ันหินตะกอน รอยตัดจากไม้บรรทัดเปรียบเทียบได้กับรอยเลื่อน และ ดินน้ำมันต่างสีที่แทรกอยู่ในชั้นดินน้ำมันเปรียบเทียบได้กับ หินอัคนีท่ีแทรกเข้ามาในช้ันหินตะกอน ซ่ึง รอยเล่ือนหรอื หินอัคนที ีต่ ดั ผ่านช้นั หินตะกอนจะมีอายนุ ้อยกวา่ ช้นั หินตะกอนนั้น (ขน้ึ อยู่กบั ดลุ ยพนิ จิ ผ้สู อน โดยพจิ ารณาจากผลกจิ กรรมทน่ี ักเรยี นทำได้จริง) 166
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 ลำดบั ชั้นหนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายุทางธรณวี ิทยา ใบกิจกรรมท่ี 4.4 กิจกรรมรอยชน้ั ไมต่ ่อเนอื่ ง คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมตามขน้ั ตอนทีใ่ ห้ แล้วบนั ทึกผลทไ่ี ด้จากการสบื ค้น ชือ่ -สกุลสมาชิกภายในกล่มุ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชี้แจง : ให้นักเรยี นปฏิบัตกิ ิจกรรมตามข้นั ตอนท่ใี ห้ แล้วบันทกึ ผลท่ไี ดพ้ รอ้ มกบั สรปุ และอภปิ รายผลทไ่ี ด้ การทำกจิ กรรม ข้นั ตอนการปฏิบัตกิ ิจกรรม 1) ปั้นดินน้ำมันให้เป็นแผ่นขนาดประมาณ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ให้แต่ละแผ่นมสี ตี ่างกนั จำนวน 5 แผ่น 2) นำดินนำ้ มัน 3 แผ่นวางซอ้ นกัน แลว้ กดให้ติดกนั แนน่ 3) ใชไ้ ม้บรรทดั ขีดดา้ นบนของชน้ั ดินนำ้ มันให้เป็นรอยบากลกึ ลงไปในช้นั ดินนำ้ มัน 4) นำแผน่ ดินน้ำมันอีก 2 แผ่นวางทับชนั้ ดนิ มัน แล้วกดใหต้ ิดกนั แน่น 5) วาดภาพลกั ษณะของช้นั ดินนำ้ มันหลังการทำกิจกรรม บนั ทึกผลการทำกจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปและอภปิ รายผลการทำกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 167
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ลำดับชนั้ หนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา ใบกจิ กรรมที่ 4.4 เฉลย กิจกรรมรอยชน้ั ไม่ตอ่ เน่อื ง คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขนั้ ตอนท่ีให้ แล้วบนั ทึกผลทไี่ ด้จากการสบื ค้น ชอื่ -สกุลสมาชิกภายในกลมุ่ 1)___________________________________________________ 2)___________________________________________________ 3)___________________________________________________ คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นปฏิบัตกิ จิ กรรมตามขั้นตอนทใ่ี ห้ แล้วบนั ทกึ ผลที่ไดพ้ ร้อมกบั สรปุ และอภปิ รายผลทไ่ี ด้ การทำกิจกรรม ขั้นตอนการปฏิบตั กิ จิ กรรม 1) ป้ันดินน้ำมันให้เป็นแผ่นขนาดประมาณ กว้าง 5 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ใหแ้ ต่ละแผ่นมีสีตา่ งกัน จำนวน 5 แผน่ 2) นำดินน้ำมนั 3 แผ่นวางซ้อนกนั แล้วกดใหต้ ิดกนั แน่น 3) ใช้ไม้บรรทัดขดี ดา้ นบนของชั้นดินน้ำมันใหเ้ ปน็ รอยบากลกึ ลงไปในชนั้ ดินน้ำมนั 4) นำแผ่นดนิ นำ้ มันอกี 2 แผน่ วางทับชั้นดนิ มัน แล้วกดใหต้ ิดกนั แนน่ 5) วาดภาพลกั ษณะของช้นั ดนิ น้ำมนั หลังการทำกจิ กรรม บันทึกผลการทำกจิ กรรม ดินน้ำมันเปรียบเทียบได้กับช้ันหินตะกอน รอยตัดจากไม้บรรทัดเปรียบเทียบได้กับรอยเล่ือน และ ดินน้ำมันต่างสีท่ีแทรกอยู่ในชั้นดินน้ำมันเปรียบเทียบได้กับ หินอัคนีที่แทรกเข้ามาในช้ันหินตะกอน ซึ่ง รอยเลื่อนหรอื หินอคั นีทีต่ ัดผ่านช้ันหินตะกอนจะมีอายนุ ้อยกวา่ ช้ันหินตะกอนนนั้ สรปุ และอภิปรายผลการทำกิจกรรม ดินนำ้ มันชดุ แรกเปรยี บเทยี บไดก้ บั การสะสมตวั ของหนิ ตะกอนชุดทห่ี นง่ึ หลงั จากน้ันมีการหยุดการ สะสมตัวไปช่วงเวลาหน่งึ และรอยบากจากไม้บรรทัดเปรยี บเทียบได้กับการกรอ่ น และในเวลาตอ่ มา จะมีดิน นำ้ มนั ชุดทีส่ องซึ่งเปรยี บเทียบได้กับหนิ ตะกอนชุดที่สองมาปดิ ทบั ดา้ นบน ร่องรอยระหว่างดนิ น้ำมนั ทัง้ สองชดุ คือ รอยชน้ั ไมต่ ่อเน่ือง ซึ่งแสดงถงึ ช่วงเวลาท่ีมกี ารหยุดสะสมตวั แสดงว่าหนิ ตะกอนชดุ ล่างจะมีอายุแก่กว่า หินตะกอนท่ีอยู่ด้านบน และสะสมตวั ไม่ต่อเนื่องกัน (ขึน้ อยู่กับดุลยพนิ จิ ผสู้ อน โดยพจิ ารณาจากผลกิจกรรมทีน่ ักเรยี นทำได้จรงิ ) 168
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ลำดบั ชั้นหนิ แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา ใบงานท่ี 4.2 เรื่อง การหาอายทุ างธรณีวทิ ยา คำชแี้ จง : ให้นกั เรยี นสรปุ ความรเู้ กี่ยวกบั การหาอายุทางธรณวี ิทยาในรูปแบบของแผนผงั ความคิด และ นำเสนอผลงาน 169
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 ลำดบั ช้ันหนิ แผนฯ ที่ 2 การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา ใบงานที่ 4.2 เฉลย เรอ่ื ง การหาอายุทางธรณีวิทยา คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนสรุปความรเู้ กยี่ วกับการหาอายุทางธรณีวทิ ยาในรปู แบบของแผนผังความคิด และ นำเสนอผลงาน อายทุ างธรณวี ิทยา อายเุ ปรยี บเทยี บ อายสุ ัมบรู ณ์ หลกั ในการลำดับชน้ั หนิ บอกเปน็ จำนวนปโี ดย - กฎการลำดบั ชนั้ คำนวณจากครึ่งชีวติ ของ - กฎความสัมพนั ธ์ท่ีตัดกนั ไอโซโทปของธาตุ เช่น - กฎการสืบสตั วชาติ โพแทสเซยี ม รูบเิ ดยี ม - หลักเอกรูปนยิ ม คาร์บอน ยูเรเนียม - รอยชน้ั ไม่ต่อเน่ือง - การเทียบสัมพันธช์ ั้นหิน (ข้ึนอยู่กบั ดุลยพนิ ิจของผู้สอน) 170
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ลำดบั ช้ันหนิ ................................. แผนฯ ท่ี 2 การหาอายทุ างธรณวี ทิ ยา ................................ ) 9. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรือผู้ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ...... . ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ( ตำแหนง่ 10. บันทกึ ผลหลงั การสอน • ด้านความรู้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น • ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ • ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์ • ดา้ นอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ัญหาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) • ปัญหา/อุปสรรค • แนวทางการแก้ไข 171
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: