Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เนื้อหา

เนื้อหา

Published by ลักษณพร มีสกุล, 2021-06-28 08:10:48

Description: เนื้อหา

Search

Read the Text Version

จุดเดน่ ของโปรแกรมน้ี คอื การใช้เทคโนโลยีการสแกนไวรสั ดว้ ยระบบความปลอดภัยแบบ คลาวด์ (Cloud Security) โดยเนน้ ตรวจจบั ไวรสั สแกนไวรัส ก่อนที่ไวรัสจะเข้ามาติด และสรา้ งความเสยี หาย อยู่ในเคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ้ังน้ี โปรแกรม Baidu Antivirus จะปอ้ งกนั ช้ันนอกเอาไวก้ ่อน สรปุ ทา้ ยหน่วย ไวรัสคอมพวิ เตอร์ เป็นโปรแกรมชนดิ หนึ่งทีม่ คี วามสามารถในการสาเนาตวั เองเข้าไปติดอยู่ในระบบ คอมพิวเตอรไ์ ด้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเขา้ ไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อนื่ ๆ อาจจะทาความเสียหาย แข้อมลู ทอ่ี ยู่ในคอมพิวเตอรห์ รือรบกวนการทางานของระบบปฏิบตั ิการ การที่เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งใดตดิ ไวรสั หมายถึงวา่ ไวรสั ไดเ้ ข้าไปฝงั ตัวอยใู่ นหนว่ ยความจาของคอมพิวเตอรเ์ รยี บรอ้ ยแล้ว จึงจาเป็นท่ีจะต้องมวี ธิ ีการ ปอ้ งกันและกาจดั ไวรัสโดยใชโ้ ปรแกรมท่เี หมาะสมและสามารถท่จี ะป้องกนั และกาจัดไวรัสได้เป็นอย่างดี

ใบงาาบทที่ 8 ตอนท่ี 1 จงตอบคาถามต่อไปนี้ใหไ้ ด้ใจความสมบรู ณ์ 1. จงอธบิ ายความหมายของไวรัส 2. จงบอกประเภทของไวรสั มา 5 ประเภท 3. จงอธิบายลกั ษณะของไฟล์ไวรัส 4. จงอธบิ ายลกั ษณะของบตู๊ เซกเตอรไ์ วรสั 5. จงอธิบายลักษณะของมาโครไวรัส 6. จงอธิบายลกั ษณะของหนอนไวรัส 7. จงอธิบายลักษณะของโทรจนั 8. จงอธิบายความหมายของสปายแวร์ 9. จงอธิบายวิธกี ารป้องกันสปายแวรแ์ ละซอฟต์แวรท์ ่ีไมพ่ งึ ประสงค์ 10. จงบอกชือ่ โปรแกรมทีน่ ยิ มใช้ในการปอ้ งกนั ไวรัส มา 5 ชื่อ ตอาท่ี 2 จงทาเครื่องหชายกากบาท (X) ลงหาา้ ข้อทย่ี กู ต้องทสี่ ุด 1. ไวรสั คอมพิวเตอร์ แบง่ ออกเป็นกชี่ นดิ ก. 2 ชนิด ข. 3 ชนิด ค. 4 ชนดิ ง. 5 ชนิด จ. 6 ชนิด 2. ไวรัสคอมพวิ เตอร์ประเภทใดทเี่ รยี กว่าหนอนไวรสั ก. File Virus ข. Boot Sector Virus ค. Macro Virus ง. Worm จ. Trojan 3. ไวรสั คอมพิวเตอรป์ ระเภทใดมักจะตดิ ทางอุปกรณพ์ กพา ก. File Virus ข. Boot Sector Virus ค. Macro Virus ง. Worm จ. Trojan 4. ไวรสั คอมพวิ เตอร์ประเภทใดทม่ี กั จะทาใหไ้ ฟลท์ ใ่ี ชโ้ ปรแกรม Office เสยี หาย ก. File Virus ข. Boot Sector Virus ค. Macro Virus ง. Worm จ. Trojan 5.วิธีการปอ้ งกนั คอมพิวเตอร์จากสปายแวร์มกี ี่ขั้นตอน ก. 2 ข้นั ตอน ข. 3 ข้ันตอน ค. 4 ข้นั ตอน ง. 5 ขน้ั ตอน จ. 6 ข้ันตอน 6.ข้ันตอนการท่องเวบ็ ไซตแ์ ละดาวนโ์ หลดข้อมลู อย่างรอบคอบเปน็ ข้ันตอนทเี่ ท่าใดของการปอ้ งกนั สปาย แวร์ ก. ขั้นตอนท่ี 1 ข. ขนั้ ตอนที่ 2 ค. ข้นั ตอนท่ี 3 ง. ข้ันตอนที่ 4 จ. ขัน้ ตอนท่ี 5

7. ขน้ั ตอนการใชไ้ ฟว์วอลลเ์ ป็นข้ันตอนท่ีเท่าใดของการป้องกันสปายแวร์ ก. ขน้ั ตอนท่ี 1 ข. ขั้นตอนที่ 2 ค. ข้นั ตอนที่ 3 ง. ขั้นตอนท่ี 4 จ. ขั้นตอนที่ 5 8. การป้องกนั ไวรัสคอมพิวเตอรค์ วรท่จี ะทาการตรวจหาไวรัสอย่างน้อยในระยะเวลาเท่าใด ก. 1 ครัง้ ต่อวัน ข. 1 คร้ังต่อสัปดาห์ ค. 1 ครง้ั ต่อเดือน ง. 1 ครัง้ ตอ่ 3 เดือน จ. 1 ครงั้ ตอ่ 6 เดือน 9. โปรแกรมปอ้ งกันไวรสั ทม่ี ักจะมากับ E-Mail คอื ขอ้ ใด ก. AVG Antivirus Free Edition 2011 ข. Avira AntiVir Personal Free Edition ค. Avast Free Antivirus ง. PC Tools Antivirus Free จ. Microso Security Essentials 10. โปรแกรมปอ้ งกนั ไวรสั ชนดิ ใดทร่ี องรบั ภาได้มากวา่ 19 ภาษา ก. AVG Antivirus Free Edition 2011 ข. Avira AntiVir Personal Free Edition ค. Avast Free Antivirus ง. PC Tools Antivirus Free จ. Microso Security Essentials

บทท่ี 9 จรยิ ธรรชและกฎหชายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การใชอ้ ิาเทอรเ์ า็ต จริยธรรชและกฎหชายท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การใช้อาิ เทอรเ์ าต็ สาระสาคัญ เนอื่ งจากผู้ท่ีเขา้ ไปใช้อินเทอรเ์ น็ตมเี ปน็ จานวนมาก มหี ลายระดบั ทง้ั การศึกษา ฐานะ และอาชีพ จงึ ทาให้การเขา้ ไปใช้มีความหลากหลายและบางครั้งการใช้อาจจะมคี วามไมเ่ หมาะสม เชน่ การใช้ภาษาการส่ง ข้อมูลไม่เหมาะสม การทาลายขอ้ มูลหรือสง่ ขอ้ มูลท่มี ีไวรัสคอมพิวเตอร์ จงึ ควรท่ีจะรณรงคใ์ ห้ผู้ใช้มี จริยธรรม คณุ ธรรมในการใชค้ อมพิวเตอร์ให้ถกู ต้อง และควรท่ีจะต้องเรียนรูก้ ฎหมายท่เี กยี่ วข้องกบั การใช้ อินเทอรเ์ นต็ โดยเฉพาะเร่ืองของการละเมลิ ลิขสิทธ์ิ เพื่อป้องกันไมใ่ ห้เกดิ การกระทาผิดเนอ่ื งมาจากใช้ อินเทอรเ์ นต็ ควาชหชายของจริยธรรชใาการใช้อิาเตอร์เา็ต จริยธรรม หมายถึง หลกั การท่มี นุษย์ในสังคมยึดถอื ปฏบิ ตั ิ เพ่ือการอย่รู ่วมกนั อยา่ งเปน็ สขุ ใน สังคม และเมื่อนาไปใชก้ ับอนิ เทอร์เน็ต ซ่งึ เป็นกจิ กรรมหนึ่งทีน่ ิยมใช้มากท่สี ุดของมนษุ ย์ในขณะนี้ ยอ่ มหมายถึง มนษุ ยจ์ ะตอ้ งมจี ริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต เพราะในการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต มนษุ ย์ยอ่ ยต้องมสี งั คม ซึง่ ประกอบด้วยคนหลายคนท่วั โลก ดังนั้น จึงสมควรทจี่ ะมีการวางกรอบให้มนษุ ย์ประพฤติ เพ่ือการใช้อินเทอร์เนต็ ร่วมกันอยา่ งมีความสขุ โดยการกาหนดแนวทางในการปฏิบัติหรือควบคุมการใช้ ซ่งึ เมอ่ื พจิ ารณาจริยธรรม เกีย่ วกบั การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ แล้ว สรุปได้ 4 ประเดน็ ดงั น้ี 1. ควาชเปา็ สว่ าตวั (Information Privacy) ความเป็นสว่ นตัวของขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยท่ัวไปหมายถึง สิทธิที่จะอยูต่ ามลาพังและเป็นสิทธิที่ เจ้าของสามารถท่ีจะควบคมุ ข้อมูลของตนเองในการเปดิ เผยใหก้ บั ผอู้ ่นื ปจั จุบนั มีประเดน็ เกย่ี วกบั การละเมดิ ความ เปน็ สว่ นตวั ท่ีเป็นข้อนา่ สงั เกต ดังน้ี 1.1 การเขา้ ไปดูข้อความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล 1.2 การใช้สื่ออินเทอรเ์ น็ตในการตดิ ตามความเคลอ่ื นไหวหรอื พฤตกิ รรมของบคุ คล 1.3 การใชข้ อ้ มูลของลกู ค้าระบบอินเทอรเ์ นต็ เพ่ือผลประโยชนใ์ นการขยายตลาด 1.4 การเข้าถึงขอ้ มูลเกีย่ วกับบุคคล เชน่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบตั รเครดิต และขอ้ มลู ส่วนตวั อื่นๆ 2. ควาชยูกต้อง (Information Accuracy) ในการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการรวบรวม จดั เกบ็ และเรียกใช้ข้อมูลนัน้ คณุ ลักษณะท่ีสาคญั ประการ หน่ึง คือ ความนา่ เชื่อถอื ของขอ้ มลู ทง้ั นี้ ขอ้ มลู จะมีความน่าเช่ือถอื มากเพยี งใด ยอ่ มขึ้นอยกู่ บั ความถูกตอ้ งใน การบันทกึ ขอ้ มูลด้วย ประเดน็ ด้านจรยิ ธรรมเกี่ยวกับความถูกตอ้ งจองขอ้ มูล โดยทั่วไปจะพจิ ารณาวา่ ใครจะเป็น ผรู้ ับผิดชอบต่อความถกู ต้องของขอ้ มูลที่จัดเก็บและเผยแพร่ ไมว่ ่าจะเป็นตวั บุคคลหรือองคก์ ร 3. ควาชเป็าเจา้ ของ (Information Property) ในสงั คมของโลกอินเทอร์เน็ต มกั จะกลา่ วถึงการละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ โดยเฉพาะท่เี ป็นปัญหามาก ท่สี ดุ คือ ลิขสิทธเ์ิ พลง ภาพยนตร์ รูปภาพ วดิ ีโอ และข้อมูลขา่ วสาร ซ่งึ ผ้ทู ่ีเปน็ เจา้ ของย่อมมีสิทธใิ์ นการ ปกป้องเปน็ เจา้ ของ

4.การเขา้ ยึงขอ้ ชลู (Data Accessibility) เป็นการปอ้ งกนั การเข้าไปดาเนินการกับข้อมลู ผู้ใชท้ ไ่ี มม่ ีส่วนเก่ียวขอ้ ง และเป็นการรักษาความลับของ ข้อมูล ตัวอยา่ งสทิ ธิในการใชง้ านระบบ เช่น การซือ้ ของขายสินคา้ ด้วยบตั รเครดิต การสัง่ จองสนิ คา้ ที่จะตอ้ งระบุ รายละเอยี ดส่วนบุคคล เป็นตน้ ดังน้นั ในการพฒั นาระบบอินเทอร์เนต็ จึงได้มกี ารออกแบบระบบรกั ษาความ ปลอดภยั ในการเข้าถึงขอ้ มูลของผู้ใช้ และการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของผู้อน่ื โดยไม่ไดร้ บั ความยนิ ยอมนัน้ ถอื วา่ เป็นการผิด จรยิ ธรรมเชน่ เดยี วกบั การละเมดิ ขอ้ มลู สว่ นตัว ในการใช้งานคอมพิวเตอรแ์ ละเครอื ขา่ ยรว่ มกนั หากผู้ใชร้ ว่ มใจกัน ปฏิบตั ติ ามระเบียบและขอ้ บงั คบั ของแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัดแล้วการผดิ จรยิ ธรรมตามประเด็นที่กล่าวมา ขา้ งต้นกค็ งจะไม่เกิดข้ึน คุณธรรชและจริยธรรชใาการใช้อาิ เทอร์เา็ต ผู้ใช้อินเทอร์เนต็ มเี ป็นจานวนมากและเพิ่มข้ึนทกุ วัน การใช้งานระบบเครือข่ายท่อี อนไลน์และส่งขา่ วสาร ถึงกนั ย่อมมีผ้ทู ม่ี ีความประพฤตไิ ม่ดบี า้ ง และมกั จะสรา้ งปญั หาให้กบั ผูใ้ ช้อ่นื อยเู่ สมอ หลายเครอื ขา่ ยจงึ ไดอ้ อก กฎเกณฑ์การใชง้ านภายในเครอื ข่าย เพอื่ ใหส้ มาชิกในเครอื ข่ายของตนยดึ ถือ ปฏบิ ตั ติ ามกฎเกณฑแ์ ละได้รับ ประโยชน์สูงสุด ผูใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ตทุกคนท่เี ป็นสมาชกิ เครือข่าย จะตอ้ งเข้าใจกฎเกณฑ์ข้อบงั คับของเครอื ขา่ ย น้นั มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและผูร้ ่วมใช้บริการคนอื่นและจะต้องรับผดิ ชอบต่อการกระทาของตนเองทเี่ ขา้ ไป ขอใชบ้ ริการตา่ งๆบนเครอื ข่ายระบบคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื ให้การอยรู่ ว่ มกันในสังคมอินเทอรเ์ นต็ สงบสุข Arlene H. Rinaldiแหง่ มหาวิทยาลัย ฟอร์รดิ า แอตแลนติก จงึ รวบรวมกฎกติกา มารยาทและกาหนดเปน็ จรรยาบรรณอินเทอร์เนต็ หรือที่ เรียกวา่ Netiquette ไว้ดงั น้ี 1.จรรยาบรรณสาหรับผใู้ ชไ้ ปรษณยี อ์ เิ ล็กทรอากิ ส์ ผู้ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ทุกคนมีเมลบอ็ กซ์ (mail box) หรอื เมลแอดเดรส (E-mail Address) ท่ีใช้อา้ งอิงในการ รับ-สง่ จดหมายความรับผิดชอบตอ่ การใชง้ านอเี มลในระบบจงึ เป็นเร่อื งทีท่ ุกคนตองใหค้ วามสาคญั เพราะจดหมายมี การรบั -ส่งโดยระบบหากมจี ดหมายค้างในระบบจานวนมากจาทาให้พื้นที่ของจดหมาะในระบบหมดจะเปน็ ผลให้ ระบบไมส่ ามารถรับ-ส่งจดหมายตอ่ ไปได้หลายตอ่ หลายครง้ั ระบบปฏเิ สธ การรับ-ส่งจดหมายเพราะไฟลร์ ะบบเต็ม ดังนั้น จงึ ควรมคี วามรับผดิ ชอบในการดแู ลกล่องจดหมาย (Inbox) ของตนเอง ดังน้ี 1.ตรวจจดหมายใหบ้ ่อยครง้ั และจะตอ้ งจากัดจานวนไฟลแ์ ละข้อมูลในกลอ่ งจดหมายของตนใหเ้ ลือกภายใน โควตาที่กาหนด เพราะในปจั จบุ นั มกั จะมจี ดหมายขยะหรอื จดหมายจาก Face book เขา้ มาเป็นจานวนมาก 2.ลบขอ้ ความหรอื จดหมายท่ไี มต่ ้องการออกจากระบบกล่องจดหมาย เพอื่ ลดปรมิ าณจานวนจดหมายทอี่ ยใู่ นกล่อง จดหมาย (Inbox) ให้มจี านวนน้อยทีส่ ดุ 3.ทาการโอนยา้ ยจดหมายจากระบบไปไว้ยังแหลง่ เก็บข้อมูลอน่ื เชน่ ในเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้อ้างองิ ใน ภายหลงั แต่ตอ้ งระมดั ระวงั เรื่องความปลอดภัย 4.พึงระลกึ เสมอวา่ จดหมายทีเ่ ก็บไว้ในกล่องจดหมายนีอ้ าจถกู ผอู้ ่ืนแอบอา่ นได้ ไมค่ วรเก็บขอ้ มลู หรอื จดหมายที่ คุณคิดวา่ ไมใ่ ชแ้ ลว้ เสมือนเป็นประกาศไว้ในต้จู ดหมาย 2.จรรยาบรรณสาหรบั ผู้สาทาา บนเครือขา่ ยอินเทอร์เน็ตมีคาสงั่ ให้ใช้ในการสนทนาออนไลน์ เชน่ chat, line, facebookในการเรียกหา หรอื เปดิ การสนทนา ดงั น้นั การสนทนาจะตอ้ งมมี ารยาทท่ีสาคัญ ได้แก่

1. ควรสนทนากบั ผู้ท่ีเรารจู้ กั และต้องสนทนาด้วย หรือมีเรอื่ งสาคัญทจี่ ะตดิ ต่อด้วย ควรระลกึ เสมอวา่ การ ขัดจังหวะผ้อู ืน่ ทกี่ าลงั ทางานอยอู่ าจสรา้ งปัญหาได้ 2. กอ่ นการเรียนคสู่ นทนาควรตรวจสอบสถานการณใ์ ช้งานของค่สู นทนาทต่ี ้องการเรยี ก เพราะการเรียกแต่ ละครัง้ จะมีขอ้ ความไปปรากฏบนจอภาพของฝ่ายถกู เรียกซงึ่ กส็ รา้ งปญั หาการทางานได้ 3. หลงั จากเรียนเรียกไปชว่ั คณะคูท่ ่ีถูกเรียกไมต่ อบกลับ แสดงว่าคู่สนทนาอาจจะตดิ งานสาคัญ ขอใหห้ ยดุ การเรยี นเพราะข้อความทเี่ รยี กไปปรากฏบนจออย่างแน่นอน 4. ควรใชว้ าจาสุขภาพ และให้เกยี ติซ่ึงกันและกนั การแทรกอารมณข์ ัน ควรกระทากับคนที่รูจ้ กั คุน้ เคย แล้วเท่านั้น 3. จรรยาบรรณสาหรับผใู้ ชก้ ระดาาขา่ ว เวบ็ บอรด์ หรอื สื่อทางขา่ วสาร ข่าวและผู้อภปิ รายเรอ่ื งตา่ ง ๆท่เี ขยี นลงไปจะกระจายออกไปทัว่ โลก ผูใ้ ช้บริการโดยเฉพาะท่ีต้องการเขียน ขา่ วสารบนกระดานขา่ ว จะตอ้ งเคารพกฎกติกามารยาทโดยเคร่งครดั ข้อปฏิบัติท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ 1. เขียนเร่อื งใหก้ ระชบั ข้อความควรสนั้ และตรงประเดน็ ไมก่ ากวม ใชภ้ าษาที่สุขภาพ 2. ในแต่ละเรื่องทีเ่ ขียนให้ตรงโดยข้อความทเ่ี ขียนควรจะมหี ัวข้อต่อเรอื่ ง 3. การเขยี นพาดพิงถงึ ผู้อนื่ ให้ระมัดระวงั ในการละเมิดหรอื สรา้ งความเสียหายให้ผู้อ่นื การให้อีเมลอาจจะ ตรงประเด็นกวา่ 4. ใหแ้ หล่งทีม่ าของขอ้ ความ ควรอ้างอิงแหลง่ ข่าวได้ โคมลอยหรอื ข่าวลือ หรอื เขียนข่าวเพือ่ ความสนุก โดยขาดความรบั ผดิ ชอบ 5. จากดั ความยาวของข่าว และหลกี เลย่ี งตวั อักษรควบคุมพิเศษอ่ืน ๆ เพราะหลายครง้ั ท่ีอ่านข่าว อาจจะ มปี ญั หาในการแสดงผล 6. ขา่ วบางข่าวมีการกระจายกันมาเปน็ ลาดับใช้ และอา้ งอิงต่อ ๆ กันมา การเขยี นขา่ วจงึ ควรพจิ ารณาใน ประเด็นน้ีด้วย 7. ไมค่ วรใชเ้ ครอื ข่ายของมหาวิทยาลัยเพือ่ ประโยชนท์ างการคา้ หรอื งานเฉพาะของตน เพื่อประโยชน์ สว่ นตัวในเรื่องการคา้ 8. การเขยี นภาพขา่ วทกุ ครัง้ จะตอ้ งลงชือ่ ไว้ตอนลา่ งของขอ้ ความ เพื่อบอกชอื่ อีเมลแอดเดรสทอ่ี ้างอิงได้ ทางอินเทอร์เน็ตหรอื ใหท้ ่ีอยแู่ ละหมายเลขโทรศัพท์ที่ตดิ ต่อได้ 9. ไม่ควรนาขอ้ ความทผ่ี อู้ ่นื เขียนไปกระจายตอ่ โดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าตจากเจา้ ของเรอื่ ง 10. ใหค้ วามสาคญั ในเรอ่ื งลขิ สิทธิ์ ไม่ควรละเมดิ ลิขสิทธ์ผิ ู้อ่นื 11. ไม่ควรคดั ลอกข่าวจากท่ีอ่นื เช่น จากหนงั สอื พมิ พท์ ั้งหมด โดยไม่มีการสรปุ ย่อและเมื่อส่งข่าวย่อ จะต้องอ้างอิงทมี่ า 12. ไมค่ วรใช้กระดาษข่าวเปน็ ที่ตอบโต้หรือละเมิดผู้อน่ื 4. บัญญัติ 10 ประการ บญั ญตั ิ 10 ประการ เป็นจรรยาบรรณที่ผูใ้ ชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตควรยึดถือไวเ้ สมือนเปน็ แม่บทแห่งการปฏบิ ัติ ดังนค้ี ือ 1. ต้องไม่ใชค้ อมพวิ เตอร์ทาร้ายหรอื ละเมิดผูอ้ ่นื 2. ตอ้ งไมร่ บกวนการทางานของผอู้ นื่

3. ต้องไมส่ อดแนมหรือแก้ไขเปดิ ดใู นแฟม้ ของผอู้ ื่น 4. ตอ้ งไม่ใช้คอมพิวเตอรเ์ พอื่ การโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร 5. ตอ้ งไมใ่ ช้คอมพวิ เตอร์สรา้ งหลกั ฐานที่เปน็ เท็จ 6. ต้องไม่คดั ลอกโปรแกรมผู้อ่นื ทม่ี ลี ิขสิทธิ์ 7. ต้องไม่ละเมดิ การใช้ทรพั ยากรคอมพวิ เตอร์โดยท่ีตนเองไมม่ สี ิทธิ์ 8. ต้องไม่นาเอาผลงานของผู้อนื่ มาเปน็ ตนเอง 9. ตอ้ งคานึงถงึ ส่ิงทจี่ ะเกิดขึ้นกบั สังคมอนั ติดตามมาจากการกระทา 10. ตอ้ งใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบยี บ กตกิ ามารยาท จรรยาบรรณเปน็ ส่ิงที่ทาให้สังคมอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ระเบยี บ ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คมเป็นเรือ่ งทจ่ี ะต้อง ปลกู ฝัง กฎเกณฑข์ องแต่ละเครอื ข่าย จงึ ต้องมีการวางระเบยี บเพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานเป็นไปอย่างมรี ะบบและเอ้ือ ประโยชน์ซ่ึงกนั และกัน บางเครือขา่ ยมบี ทลงโทษและจรรยาบรรณท่ชี ัดเจน เพ่อื ช่วยให้สังคมสงบสุขและหากการ ละเมิดรุนแรงกฎหมายกจ็ ะเขา้ มาบทบาทได้เชน่ กัน อิาเทอรเ์ าต็ กับผลกระทบต่อสังคชไทย อินเทอร์เน็ตเขา้ มาเปน็ สว่ นหนง่ึ ของสงั คมไทย เห็นไดจ้ ากหนังสอื พมิ พ์ วารสาร รายการโทรทศั น์ วิทยุต่าง ๆ ได้นา เร่อื งของอินเทอรเ์ นต็ เปน็ ส่วนหนง่ึ ของเนอ้ื หาท่ีนาเสนอต่อสาธารณะในแง่มุมต่าง ๆ การเผยแพรข่ า่ วสารทาง อนิ เทอร์เน็ตเรมิ่ มมี ากขนึ้ และในรูปแบบท่หี ลากหลายกวา่ เดมิ ผลกระทบต่อสงั คมไทยมที ้ังด้านบวกและดา้ นลบ เช่น ผลกระทบทางบวก อินเทอร์เน็ตมีผลกระทบทางบวกตอ่ สังคม ดงั นี้ 1.ทาให้มีความสะดวกในการติดต่อส่อื สารในเครอื ข่ายขนาดใหญ่ กล่าวคือ ทาให้คนในสังคมติดตอ่ ส่ือสาร ไดท้ ุกสถานท่ี ทกุ เวลา 2.ชว่ ยพฒั นาประสิทธิภาพการทางาน เช่น การติดตอ่ สือ่ สารผา่ นอเี มล การประชมุ ทางไกลผ่านเครือขา่ ย 3.ช่วยพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ทาให้เกิดการศึกษารปู แบบใหม่ทีก่ ระต้นุ ความสนใจของผู้เรยี นให้เกดิ ความสนกุ สนานในการเรยี นรู้ อีกท้งั ทาใหผ้ ู้เรยี นสามารถเรียนร้ไู ดต้ ลอดเวลา ไดแ้ ก่ ระบบการเรยี นทางไกลผ่าน อนิ เทอรเ์ น็ต ( E-Learning) ผลกระทบทางลบ อนิ เทอร์เน็ตมีผลชกระทบทางลบตอ่ สังคม ดังนี้ 1.กอ่ ให้เกิดความเครยี ดคนในสังคม กล่าวคอื อนิ เทอร์เน็ตทาให้คนในสงั คมเข้าถึงขอ้ มูลมากมายมหาศาล สภาพสังคมจงึ เปล่ียนเป็นสงั คมฐานความรู้ หรือสังคมที่ใช้ความร้ใู นการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมดังน้นั จงึ เกิด การแข่งขนั ด้านเศรษฐกิจกันอยา่ งรนุ แรง ซ่ึงการตัดสนิ ใจในการทางานต้องใชข้ ้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อใหต้ ัดสนิ ใจได้ ถูกตอ้ ง ทาให้คนในสงั คมเกิดความกดดันและเกิดความเครยี ดสูงขึ้น 2.เกิดความแลกเปลี่ยนวฒั นธรรมจากสงั คมหนงึ่ ไปสอู่ กี สังคมหน่งึ ซง่ึ อาจก่อให้เกดิ คา่ นิยมทไี่ ม่พึง ประสงค์ขน้ึ ในสังคม เช่น การแต่งกายท่ไี ม่เหมาะสมของเยาวชน การตดิ เกมประเภทความรนุ แรง เปน็ ต้น

3.เกดิ ช่องว่างระหวา่ งคนในสังคม เน่อื งจากคนในสงั คมใช้เวลาในการเล่นอนิ เทอร์เน็ตมากข้นึ ทาให้การ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางสังคมลดลง จนเกดิ คาพดู ทว่ี ่า “เทคโนโลยีทาให้คนไกลใกลก้ ันมากขึ้น แต่เทคโนโลยกี ท็ าให้คน ใกลไ้ กลกันมากข้ึน “ หรอื ท่นี ยิ มเรียกกนั วา่ “เปน็ สังคมกม้ หนา้ ” กล่าวคอื เครือข่ายอินเทอร์เนต็ ทาให้คนท่อี ยูไ่ กล กันสามารถสอ่ื สารได้เหมอื นอยใู่ กลก้ นั ในขณะที่ทาให้คนทีอ่ ยู่ใกลก้ นั เกดิ ความหา่ งไกลกันมากข้นึ เช่น คนใน ครอบครัวทต่ี า่ งคนต่างคยุ กับเพ่อื นในอินเทอร์เนต็ จึงมีเวลาพดู คยุ กับคนในครอบครวั น้อยลง 4.เกิดการละเมดิ สิทธเิ สรีภาพสว่ นบุคคล เน่ืองจากอินเทอรเ์ น็ตเป็นโลกเสรที ี่ใหผ้ ู้คนสามารถแสดงความ คิดเหน็ ร่วมกนั ได้ แตก่ ารแสดงความคดิ เหน็ ทไ่ี รข้ อบเขต ยอ่ มสง่ ผลต่อการละเมิดสิทธิสว่ นบุคคล เชน่ การนาขอ้ มูล สว่ นบุคคลออกเผยแพรต่ ่อสาธารณชน ซ่งึ ขอ้ มูลบางอยา่ งอาจไม่เป็นจรงิ หรอื ไม่ได้พสิ จู น์ความถูกตอ้ ง การแสดง ความคิดเหน็ ด้วยถอ้ ยคาที่รุนแรงตอ่ บคุ คลผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เป็นตน้ 5.อาจกอ่ ให้เกดิ ปญั หาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ผูไ้ มห่ วังดอี าจใช้อินเทอรเ์ นต็ ในทางที่ผิด เช่นการล่อลวงผูท้ เ่ี ล่น อนิ เทอร์เนต็ และกอ่ คดีลว่ งละเมดิ ทางเพศ การเผยแพรข่ อ้ มลู ที่ไมช่ อบด้วยกฎหมายในแงม่ ุมตา่ ง ๆ ทัง้ ภาพลามก อนาจาร การพนนั ออนไลน์ การจาหน่ายของผิดกฎหมาย การสง่ ไวรัสไปทาลายข้อมูลของผูอ้ น่ื เปน็ ตน้ กฎหชายท่ีเกย่ี วข้องกับการใชอ้ าิ เทอร์เา็ต กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้องกบั การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตทสี่ าคัญ นอกจากพระราชบัญญัตวิ ่าด้วยการกระทาความผดิ เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ กค็ อื กฎหมายที่เก่ยี วกับลิขสิทธิ์ เพราะขอ้ มลู ข่าวสารในอนิ เทอร์เนต็ เป็นอิสระของผใู้ ช้ แต่กม็ ีสว่ นที่ ทาใหม้ ีการละเมิดลขิ สิทธอ์ิ ยู่บอ่ ยครง้ั จึงควรทีจ่ ะเรยี นรเู้ ก่ียวกบั ลขิ สทิ ธิ์ดว้ ย ลขิ สทิ ธิ์ ( Copyright ) คอื อะไร ลิขสิทธ์ิ เปน็ ทรัพย์สินทางปญั ญาอยา่ งหนึ่ง ทก่ี ฎหมายใหค้ วามคุ้มครอง โดยให้เจา้ ของลิขสทิ ธแิ์ ตเ่ พียงผู้ เดียว ทจี่ ะกระทาการใด ๆ เกี่ยวกบั งานสรา้ งสรรค์ท่ตี นได้กระทาขน้ึ งาาอาั ชีลขิ สทิ ธ์ิ งานสรา้ งสรรค์ท่จี ะได้รบั ความคุ้มครองตามพระราชบญั ญัตลิ ิขสิทธติ์ ้องเปน็ งานในสาขา วรรณกรรม นาฏกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทศั นวัสดุ ภาพยนตร์ สงิ่ บันทกึ เสียง งานแพร่เสยี งแพร่ภาพ รวมถึงงานอน่ื ๆ ในแผนก วรรคดี วทิ ยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ งานเหล่านี้ถือเป็นผลงานทเี่ กิดจากการใช้สติปัญญา ความรคู้ วามสามารถ และความวิรยิ ะอุตสาหะในการสร้างสรรค์งานใหเ้ กิดข้นึ ซ่ึงถอื เป็นทรพั ย์สนิ ทางปญั ญาประเภทหนงึ่ ทม่ี ีคณุ ค่าทาง เศรษฐกิจ การไดช้ าซ่ึงลขิ สิทธิ์ สทิ ธิในลิขสิทธ์เิ กิดข้นึ ทนั ที นับแต่ผู้สรา้ งสรรคไ์ ด้สร้างผลงานออกมาโดยไมต่ อ้ งจดทะเบยี น หรือผา่ นพธิ ีการ ใด ๆ การคชุ้ ครองลิขสทิ ธิ์ ผูเ้ ปน็ เจ้าของลิขสิทธิ์มสี ทิ ธแิ ต่เพียงผู้เดยี วในการใช้ประโยชน์จากผลงานสรา้ งสรรคข์ องตนในการทาซา้ ดดั แปลง หรอื เผยแพรต่ ่อสาธารณชน รวมทั้งสินสิทธใิ นการเช่า โดยท่วั ไปอายุการคุ้มครองสิทธจิ ะมผี ลเกิดขึ้นทันที ท่ีมกี ารสร้างสรรค์ผลงาน โดยความคมุ้ ครองน้ีจะมตี ลอดอายขุ องผู้สรา้ งสรรค์ และคมุ้ ครองต่อไปอกี 50 ปี นับ แต่ผ้สู ร้างสรรค์เสยี ชีวิต ประโยชา์ต่อผบู้ รโิ ภค

การคุ้มครองและพทิ กั ษ์สิทธใิ นผลงานลขิ สิทธ์ิ มผี ลใหเ้ กิดแรงจูงใจแก่ผ้สู รา้ งสรรค์ ทาการสรา้ งสรรค์ ผลงานทมี่ ปี ระโยชน์ มีคุณค่าทางวรรณกรรมและศิลปกรรมออกสู่ตลาด สง่ ผลให้ผ้บู ริโภคไดร้ บั ความรู้ ความ บนั เทงิ และได้ใชผ้ ลงานทีม่ ีคณุ ภาพ พระราชบัญญัตลิ ขิ สทิ ธิ์ กฎหมายลิขสิทธม์ิ วี ตั ถุประสงคใ์ ห้ความคุ้มครองปอ้ งกนั ผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจแบะทางศลี ธรรมซง่ึ บคุ คลพึงไดร้ บั จากผลงานสรา้ งสรรคอ์ ันเกดิ จากความนกึ คดิ และสติปัญญาของตน นอกจากนี้ ยงั ม่งุ ทจ่ี ะ สนับสนนุ สง่ เสรมิ ใหเ้ กิดการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน กล่าวคือ เมื่อผู้สร้างสรรค์ไดร้ บั ผลตอบแทนจากหยาดเหงอ่ื แรงกายและสติปญั ญาของตน ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทนุ ก็ย่อมจะเกิดกาลังใจทจี่ ะคดิ ค้น สรา้ งสรรคแ์ ละเผยแพร่ผลงานใหแ้ พร่หลายออกไปมากย่งิ ขนึ้ อันจะเป็นประโยชน์ตอ่ การพฒั นาประเทศชาติท้งั ด้านเศรษฐกจิ สงั คม และเทคโนโลยี การกระตนุ้ ให้เกิดการพฒั นาสติปัญญาของคนในชาติ เปน็ ปัจจยั สาคญั ทส่ี ดุ ท่จี ะนาไปสกู่ ารพัฒนาทยี่ ังยืนตอ่ ไปในอนาคต ประเทศไทยได้ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิลิขสิทธิ์ พ.ศ.2557 เพ่อื ใช้บงั คบั แทนพระราชบัญญตั ลิ ิขสิทธ์ิ พ.ศ. 2521 โดยมีผลบงั คับใชเ้ มือ่ วนั ท่ี 21 มีนาคม 2538 พระราชบัญญตั ลิ ิขสทิ ธิ์ ให้ความคุ้มครองต่อ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ โดยจดั เป็นผลงานทางวรรณกรรมประเภทหนงึ่ และงานที่ได้จัดทาขนึ้ ก่อนวันท่ี พระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ ังคบั และเป็นงานที่ได้รับความคมุ้ ครองลขิ สิทธิต์ ามพระราชบญั ญตั นิ ี้ จะไดร้ บั ความ ค้มุ ครองลิขสิทธ์ิตามพระราชบัญญัตินี้ แมว้ ่าประเทศไทยจะมีกฎหมายคมุ้ ครองลิขสิทธมิ์ าเป็นระยะเวลานานแลว้ แตค่ วามเขา้ ใจของประชาชน โดยทัว่ ไปในเรอ่ื งลิขสทิ ธยิ์ งั ไมใ่ ช่เจน ความตระหนักร้ถู ึงความสาคัญของการคุ้มครองลิขสิทธ์ิและทัศนคติทถ่ี กู ต้อง เกยี่ วกับการค้มุ ครองทรัพย์สนิ ทางปญั ญาเปน็ ปัจจัยสาคญั ท่จี ะนาไปสู่การคุม้ ครองทรัพย์สินทางปัญญาที่ยั่งยืน กวา่ การปราบปรามการละเมิดลขิ สิทธ์ิซึ่งเป็นการแกป้ ัญหาทีป่ ลายเหตุ พระราชบญั ญตั ลิ ิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ไดใ้ ห้ความหมายคาว่า “ลิขสทิ ธ์ิ” วา่ หมายถงึ สิทธ์ิแตเ่ พยี งผู้ เดียวทจ่ี ะทาการการใดๆตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ เกี่ยวกบั งานทผ่ี ้สู รา้ งสรรค์ไดท้ าขนึ้ น่ันก็หมายความว่าเจา้ ของ ลขิ สิทธ์ิเพยี งผเู้ ดียวเท่าน้ันท่มี ีสิทธ์ขิ องตนเอง การละเชดิ ลขิ สทิ ธ์ิ การละเชดิ ลขิ สิทธโ์ิ ดยตรง: คือ การทาซ้า ดดั แปลง เผยแพร่โปรแกรมคอมพวิ เตอร์แก่สาธารณชนรวมท้งั การนาต้นฉบับหรือสาเนางานดังกลา่ วออกใหเ้ ช่า โดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าตจากเจา้ ของลิขสทิ ธิข์ องตนเอง การละเชดิ ลิขสิทธิโ์ ดยออ้ ช: คอื การกระทาทางการคา้ หรือการกระทาท่ีมสี ว่ นสนบั สนุนให้เกิดการ ละเมิดลขิ สิทธด์ิ งั กล่าวข้างต้นโดยผู้กระทารอู้ ยูแ่ ล้ววา่ งานใดไดท้ าข้นึ โดยละเมดิ ลิขสิทธ์ิของผอู้ ่ืน แต่ก็ยงั กระทา เพอ่ื หากาไรจากงานนนั้ ได้แก่ การขาย มีไว้เพอ่ื ขาย ให้เช่า เสนอใหเ้ ช่า ใหเ้ ช่าซอ้ื เผยแพรต่ ่อ สาธารณชน แจกจ่ายในลกั ษณะทอ่ี าจกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ เจา้ ของลิขสิทธ์ิ และนาหรือสง่ั เขา้ มาใน ราชอาณาจักร บทกาหาดโทษ 1.การละเมดิ ลิขสิทธโิ์ ดยตรง : มีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หากเป็นการ กระทาเพอ่ื การค้า มโี ทษจาคุกตงั้ แต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรบั ตั้งแต่ 100,000 บาท ถงึ 80,000 บาท หรือท้ังจาทง้ั ปรบั

2.การละเมิดลขิ สิทธ์ิโดยอ้อม : มโี ทษปรับตัง้ แต่ 10,000 บาท ถงึ 100,000 บาท หากเปน็ การการ กระทาเพื่อการค้า มโี ทษจาคกุ ต้ังแต่ 3 เดอื น ถึง 2 ปี หรือปรบั ตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือทั้งจาท้ังปรบั ผู้ใดกระทาความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติลิขสทิ ธ์ฉิ บับนี้ เม่อื พน้ โทษแล้วยงั ไม่ครบกาหนด หา้ ปีกระทาความผิดตอ่ พระราชบญั ญัตนิ ี้อกี จะตอ้ งระวางโทษเปน็ สองเทา่ ของโทษท่กี าหนดไวส้ าหรบั ความผิดนน้ั ปรบั กรณีท่นี ติ ิบุคคลกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี ใหถ้ อื ว่ากรรมการหรอื ผ้จู ัดการทกุ คนของนติ บิ คุ คล นัน้ เปน็ ผ้กู ระทาความผิดกับนิตบิ ุคคลนั้น เว้นแตพ่ ิสจู นไ์ ดว้ ่ามไิ ดร้ ้เู ห็นหรือยินยอม ค่าปรบั ท่ไี ด้มีการชาระตามคาพพิ ากษาน้ัน ครงึ่ หนง่ึ จะตกเปน็ ของเจา้ ของลขิ สิทธิ์ อย่างไรก็ดี การได้ คา่ ปรบั ดงั กลา่ วไม่กระทบต่อสิทธิ์ของเจา้ ของสิทธ์ิ ท่จี ะฟอ้ งเรยี กค่าเสยี หายในทางแพ่งสาหรับส่วนทีเ่ กินจานวน เงินค่าปรับที่เจ้าของลิขสิทธ์ไิ ด้รบั ไวแ้ ล้ว สาระาา่ รู้ จรยิ ธรรมในการใชค้ อมพวิ เตอรเ์ ป็นส่ิงจาเปน็ เพราะจะไดป้ ้องกันการกระทาผดิ อนั เนือ่ งมาจากการใช้ คอมพวิ เตอร์ โดยเบื้องต้น เพียงแคไ่ ม่ทาการรปู แล้วสง่ ขอ้ สอบทางไลน์ หรอื การกลา่ วหา ใส่รา้ ย เพ่ือนๆ ทาง Face bookและทีส่ าคัญ ไมม่ กี ารเข้าไปในโลกอนิ เทอรเ์ น็ตระหวา่ งที่กาลงั เรียน ก็แสดงวา่ ในเบอื้ งต้น ถอื เปน็ ผู้ จริยธรรมในการใชอ้ ินเทอร์เน็ตแล้ว

คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะทพ่ี ึง่ ประสงคข์ องผู้สาเรจ็ การศกึ ษาตามระดบั คณุ วุฒิอาชีวศึกษา คณุ ธรรช จริยธรรช ค่าาิยช พฤติกรรชบ่งช้ี และคุณลกั ษณะทพ่ี งึ่ ประสงค์ 1.รับผดิ ชอบ หมายถงึ การยอมรบั ผลการกระทาของตนเองทั้งใน 1.1ปฏบิ ัตงิ านตามที่ไดร้ บั มอบหมายสาเรจ็ ตามที่กาหนด สิ่งทด่ี ีและไมด่ ี และสามารถควบคุมตนเองได้ มคี วามมงุ่ มนั่ และ 1.2ปฏิบตั ิงานโดยคานึงถงึ ความปลอดภัยตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน เพยี รพยามยาม ในการเรียนและการปฏิบตั งิ านให้บรรลุ 1.3ยอมรบั ผลการกระทาของตนเอง วัตถุประสงคท์ ันกาหนดเวลา มีการวางแผนการปฏิบตั ิงาน การใช้ เวลาอยา่ งมรี ะบบและเหมาะสม ตลอดทงั้ การปฏบิ ตั อิ ย่าง ครบถว้ น โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภยั ตอ่ ตนเอง ผู้อนื่ และสงั คม 2.ขยัน หมายถึง ความต้งั ใจเพยี รพยายามทาหน้าท่กี ารงานอยา่ ง 2.1ศกึ ษาค้นควา้ แสวงหาความรใู้ หมๆ่ ด้วยตนเอง ตอ่ เนือ่ ง สมา่ เสมออดทน ไมท่ ้อถอยเมื่อพบอุปสรรค ความขยัน 2.2แสวงหาประสบการณเ์ พ่ือพฒั นาการปฏบิ ตั งิ านอาชีพ ตอ้ งปฏบิ ตั ิควบค่กู ับการใชส้ ตปิ ญั ญาแกป้ ญั หาและหรอื พัฒนาสิง่ 2.3ต้งั ใจทาหน้าทก่ี ารทางานอย่างตอ่ เนอ่ื งจนเกิดผลสาเร็จ ใหม่ๆจนเกิดผลสาเร็จตามความมงุ่ หมาย 2.4คดิ ริเริม่ สรา้ งสรรคส์ ง่ิ ใหม่ๆท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อตนเองและสงั คม 2.5มีความคิดหลายหลายในการแกป้ ัญหา 3.ประหยัด หมายถึง การรจู้ กั เกบ็ ออมถนอมใช้ ทรัพย์สนิ ส่ิงของ แต่พอควรพอประมาณ ใหเ้ กดิ 3.1ใช้วสั ดถุ กู ต้อง เพียงพอและเหมาะสมกับงาน ประโยชน์ คมุ้ คา่ ไมฟ่ ุ่มเฟอื ย ฟ้งุ เฟอ้ 3.2ปิดนา้ ปิดไฟทกุ ครง้ั เมอื่ เลิกใช้ 3.3เกบ็ ออม ถนอมใช้ทรัพยส์ ิน สิ่งของใหเ้ กิดประโยชนค์ มุ้ คา่ 4.ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต หมายถงึ ความประพฤติทีต่ รงและจรงิ ใจ ทั้งต่อ 4.1ประพฤตติ รง ท้ังต่อหนา้ ทแี่ ละตอ่ วิชาชพี หน้าทแี่ ละวชิ าชพี ไม่คดิ คดทรยศ ไมค่ อโกง ไมห่ ลอกหลวง ไม่ 4.2ไม่โกหก เอนเอียง ไมม่ ีเล่หเ์ หล่ยี ม ปลอดจากความรสู้ กึ ลาเอียงหรือคติ 4.3ไม่ลกั ขโมย 4.4ไมท่ ุจริตในการสอบ 5.จติ อาสา หมายถึง การมีจติ ใจเป็นผูใ้ ห้มนี ้าใจ เหน็ อกเห็นใจใน 4.5ไม่นาผลงานของคนอื่นมาแอบอ้างเปน็ ของตนเองทง้ั ดา้ นวชิ าการ เพอื่ นมนษุ ย์ เอ้อื อาทรชว่ ยเหลือดว้ ยกาลงั และวชิ าชพี แรงกาย สตปิ ัญญา และเสียสละเพื่อสว่ นรวม 4.6ปฏิบตั หิ นา้ ทแ่ี ละรกั ษาประโยชน์ขององค์กร 4.7ไมเ่ พิกเฉยตอ่ ส่ิงท่ีได้รบั ร้แู ละการกระทาทไ่ี มถ่ กู ต้อง 6.สามคั คี หมายถงึ ความพร้อมเพรียงกันความกลมเกลียว กนั ความปรองดองกันร่วมใจกนั ปฏิบตั งิ านให้บรรลุผลตามท่ี 5.1ชว่ ยเหลือผูอ้ น่ื ดว้ ยกาลังแรงกายและสติปญั ญา ตอ้ งการเกดิ จากงานอย่างสร้างสรรค์ ปราศจากการทะเลาะ 5.2อุทิศตนเพอ่ื ประโยชน์ตอ่ สงั คมและสว่ นรวม วิวาท ไม่เอารัดเอาเปรียบกันเปน็ การยอมรับความมี 5.3แบ่งปัน เสียสละความสุขสว่ นตน เพอ่ื ทาประโยชนแ์ ก่ผู้อ่ืน เหตผุ ล ยอมรบั ความแตกต่างหลากหลายทางความคิด ความ 5.4อาสาชว่ ยเหลืองานครอู าจารย์ หลากหลายในเรอื่ งเชือ้ ชาติ 6.1รว่ มมือในการทางานด้วยความกลมเกลียวและปรองดอง 6.2รับฟังความคดิ เห็นของผู้อน่ื 6.3ปฏบิ ัติตนตามบทบาทผู้นาและผ้ตู ามท่ีดี 6.4ยอมรับความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม ความคดิ ความเช่อื ท่ี หลากหลาย พร้อมท่จี ะปรบั ตัวเพอ่ื อยรู่ ่วมกนั อย่างสันติ 6.5ไม่ทะเลาะวิวาท

7.มีวินยั หมายถงึ การยึดมน่ั ในระเบยี บแบบแผน ข้อบังคบั และ 7.1ปฏบิ ัติตามกฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของสถานศึกษา และสงั คม ขอ้ ปฏิบัติ ซ่ึงมีทง้ั วินยั ต่อสถานศึกษา สถาบนั องคก์ ร สงั คมและ 7.2ปฏิบัติตามกติกาและมารยาทของสงั คม ประเทศ 7.3ประพฤติตนตามหลกั ศลี ธรรมอันดีงาม 7.4ประพฤติตนตรงตอ่ เวลา 8.สะอาด หมายถงึ การปราศจากความมั่วหมอง ทง้ั กายใจและ 8.1คิดดี พดู ดี ทาดี สภาพแวดล้อม ความผอ่ งใสเปน็ ทเ่ี จริญตา ทาใหเ้ กดิ ความสบาย 8.2รักษาสขุ ภาพรา่ งกายตามหลกั สุขอนามัย ใจแก่ผ้พู บเหน็ 8.3รักษาทอี่ ยู่อาศยั สิง่ แวดล้อมตามคณุ ลกั ษณะท่ดี ี 9.สภุ าพ หมายถงึ ความเรียบร้อย อ่อนโยน ละมุนละม่อมมี กริยามารยาทที่ดงี าม มีสมั มาคารวะ และสรา้ งความสัมพนั ธ์ทาง 9.1ประพฤติตน สุภาพ เรียบร้อย ออ่ นนอ้ มถ่อมตน ตาม สงั คมระหว่างบคุ คล สถานภาพและกาลเทศะ 9.2ประพฤติตนเหมาะสมตามมารยาทของวฒั นธรรมไทย 10.ละเว้นอบายมุข หมายถงึ การประพฤติปฏบิ ตั ติ นเพ่ือ 9.3ไม่ประพฤติกา้ วร้าวรุนแรง วางอานาจขม่ ผูอ้ ่ืนท้งั โดยวาจาและ หลีกเลยี่ งหนทางแห่งความเส่อื ม ท่าทาง 9.4ควบคุมกรยิ ามารยาทในสถานการณ์ทไ่ี มพ่ ่ึงประสงค์ 9.5แสดงสัมมาคารวะตอ่ ครู อาจารย์อยา่ งสมา่ เสมอท้ังตอ่ หน้าและ ลับหลงั 9.6แสดงความมีมนษุ ย์สมั พนั ธ์ 10.1ไมเ่ สพสิ่งเสพตดิ และของมนึ เมา 10.2ไม่เลน่ การพนัน 10.3หลกี เลีย่ งการเขา้ ไปอย่ใู นแหล่งมัว่ สมุ สรุปทา้ ยหาว่ ย จริยธรรม หมายถงึ หลักการทม่ี นษุ ยใ์ นสงั คมยดึ ปฏิบัติ เพ่ือการอยรู่ ่วมกันอย่างมคี วามสขุ ในสงั คมและ เมือ่ นาไปใชก้ ับการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต ซ่งึ เป็นกจิ กรรมหนึ่งท่ีนิยมใช้มากท่ีสุดของมนษุ ย์ในขณะนก้ี ็ยอ่ ม หมายถึง มนษุ ยจ์ ะต้องมจี ริยธรรมในการใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ โดยการกาหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกบั การใช้ อนิ เทอร์เน็ตที่สาคัญ นอกจากจากพระราชบัญญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผิดเก่ยี วกับคอมพิวเตอร์แลว้ ก็ คอื กฎหมายท่เี ก่ียวกบั ลิขสิทธิ์ เพราะขอ้ มลู ข่าวสารในอินเทอร์เน็ตเป็นอสิ ระของผใู้ ช้ แตก่ ็มสี ่วนทท่ี าใหม้ ีการ ละเมดิ ลิขสทิ ธ์อิ ยู่บ่อยครั้ง จึงควรท่ีจะเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั สทิ ธดิ์ ว้ ย

ใบงาาบทท่ี 9 ตอนที่ 1 จงตอบคาถามตอ่ ไปนใี้ หไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์ 1.จงอธบิ ายความหมายของจริยธรรมในการใช้อนิ เทอร์เน็ต 2.จงอธิบายความหมายความเป็นส่วนตัวในการใช้อินเทอร์เนต็ 3.จงอธบิ ายความหมายของความถกู ต้องในการใช้อินเทอร์เน็ต 4.จงอธิบายความเป็นเจ้าของในการใชอ้ นิ เทอร์เน็ต 5.จงอธิบายการเข้าถึงข้อมลู ในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ 6.จงอธบิ ายวิธกี ารดแู ลตจู้ ดหมาย (Inbox) 7.จงอธบิ ายจรรยาบรรณสาหรบั ผู้สนทนา 8.จงอธบิ ายจรรยาบรรณสาหรับผใู้ ชก้ ระดานข่าว 9.จงบอกบญั ญัติ 10 ประการในการใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต 10.จงบอกผลกระทบทางบวกต่อสงั คมไทยในการใช้อนิ เทอร์เน็ต ตอาที่ 2 จงทาเครื่องหชายกากบาท (X) ลงหาา้ ขอ้ ทยี่ ูกตอ้ งท่สี ดุ 1.Information Privacy ตรงกบั จริยธรรชใาการใชอ้ าิ เทอร์เาต็ ขอ้ ใด ก.ความเปน็ สว่ นตัว ข.ความถูกต้อง ค.ความเป็นเจา้ ของ ง.ความมอี ิสระ จ.การเขา้ ถึงข้อมูล 2.Data Accessibility ตรงกบั จริยธรรชใาการใชอ้ าิ เทอร์เา็ตขอ้ ใด ก.ความเปน็ ส่วนตวั ข.ความถกู ตอ้ ง ค.ความเปน็ เจา้ ของ ง.ความมอี ิสระ จ.การเขา้ ถงึ ขอ้ มูล 3.เรอื่ งของลิขสิทธ์ิตรงกับจรยิ ธรรชใาการใช้อิาเทอร์เาต็ ขอ้ ใด ก.ความเป็นส่วนตวั ข.ความถูกตอ้ ง ค.ความเปน็ เจา้ ของ ง.ความมอี ิสระ จ.การเข้าถงึ ขอ้ มูล 4.กลอ่ งจดหชาย ตรงกบั ข้อใด ก.Mail box ข.Inbox ค. Letter box ง.Box mail จ. Box Letter 5.ขอ้ ใดเป็าจรรยาบรรณสาหรับผู้สาทาา ก. ควรใช้วาจาสภุ าพ และใหเ้ กยี รตซิ ่ึงกันและกนั ข. ควรลบขอ้ ความท่ไี มต่ ้องการออกจากระบบ ค. ให้ทาการโอนย้ายขอ้ ความตา่ งๆออกจากระบบ ง. จากัดความยาวของข่าวและหลีกเล่ียงตวั อกั ษรควบคมุ พิเศษอ่ืนๆ จ. ควรมีการกระจายขา่ วกนั ใหก้ นั มากข้ึน 6.Copyright หชายยึงข้อใด ก. การฉ้อโกง ข. งานสรา้ งสรรค์ ค. ลขิ สิทธ์ิ ง. การละเมดิ จ. การคุม้ ครอง

7.การคชุ้ ครองลิขสทิ ธิ์จะชีผลการคชุ้ ครองกป่ี ี ก. 25 ปี ข. 30 ปี ค. 35 ปี ง. 40 ปี จ. 50 ปี 8.พระราชบัญญัติลขิ สทิ ธ์ิ พ.ศ.2537 ใช้บงั คบั แทาพระราชบัญญตั ลิ ิขสทิ ธิ์ พ.ศ.ใด ก. พ.ศ.2521 ข. พ.ศ.2525 ค. พ.ศ.2530 ง. พ.ศ.2535 จ. พ.ศ.2536 9.การละเชิดลิขสิทธโ์ิ ดยตรง ชโี ทษปรับเทา่ ใด ก. 5,000-10,000 บาท ข. 10,000-100,000 บาท ค.20,000-200,000 บาท ง.30,000-50,000 บาท จ.30,000-100,000 บาท 10.การละเชดิ ลิขสทิ ธโ์ิ ดยออ้ ช ชีโทษปรบั เท่าใด ก. 5,000-10,000 บาท ข. 10,000-100,000 บาท ค.20,000-200,000 บาท ง. 30,000-50,000 บาท จ.30,000-100,000 บาท

บทท่ี 10 พระราชบญั ญัติว่าดว้ ยการกระทาควาชผิดเกี่ยวกบั คอชพวิ เตอร์ พระราชบัญญตั ิว่าด้วยการกระทาควาชผิดเกี่ยวกบั คอชพิวเตอร์ สาระสาคญั เน่อื งจากมผี ใู้ ช้คอมพิวเตอร์จานวนมาก โดยเฉพาะการใช้คอมพิวเตอร์ในการสือ่ สารทางอินเทอรเ์ น็ต จงึ มี ความจาเปน็ ท่ตี อ้ งจะต้องมกี ารกาหนดกฎหมายข้ึนมา เรยี กวา่ พระราชบญั ญัติ วา่ ดว้ ยการกระทาความผิด เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ และใหก้ ารใชง้ านคอมพิวเตอรใ์ นประเทศไทยเป็นไปในทาวท่ีสรา้ งสรรค์ พระราชบัญญตั ิวา่ ด้วยการกระทาควาชผดิ เกี่ยวกบั คอชพิวเตอร์ พระราชบญั ญัติว่าด้วยการกระทาความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มีผลบงั คับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เป็นพระราชบญั ญตั ทิ ส่ี าคญั อย่างมากในทุกวงการ เพราะปัจจบุ นั คอมพวิ เตอร์ไดเ้ ข้ามามี บทบาทและเป็นสว่ นหนึ่งในชีวติ ประจาวันมากทส่ี ุด ไม่วา่ จะเปน็ หนว่ ยงาน องคก์ รตา่ ง ๆ ภาครัฐ เอกชน คนทางาน นสิ ิต นกั ศึกษา ล้วนเกี่ยงข้องกับคอมพิวเตอร์ทงั้ สิ้น จงึ จาเป็นอย่างยิ่งทจ่ี ะตอ้ งศึกษาขอ้ มูลและทาความ เข้าใจเกย่ี วกับ พ.ร.บ. ฉบบั นี้ เพื่อปอ้ งกันไม่ให้เกิดการกระทาผดิ ทางคอมพิวเตอร์ และใหก้ ารใชง้ านคอมพิวเตอร์ ในประเทศไทยไปในทางทีส่ รา้ งสรรค์ พระราชบญั ญตั ิ ว่าด้วยการกระทาควาชผิดเกย่ี วกบั คอชพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 ภมู พิ ลอดดุลยเดช ป.ร. ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2550 เปน็ ปีท่ี 62 ในรชั กาลปจั จุบนั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ใหป้ ระกาศวา่

โดยทีเ่ ปน็ การสมควรมกี ฎหมายวา่ ด้วยการกระทาความผดิ เกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ ตราพระราชบัญญตั ิขน้ึ ไวโ้ ดยคาแนะนาและยนิ ยอมของสภานิติบญั ญัตแิ ห่งชาติ ดงั ตอ่ ไป มาตรา 1 พระราชบัญญตั ิน้เี รยี กวา่ “พระราชบัญญัตวิ ่าด้วยการกระทาความผิดเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 2 พระราชบญั ญตั ิน้ใี หใ้ ช้บังคับเม่ือพ้นกาหนดสามสิบวนั นับต้งั แต่วนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา 3 ในพระราชบญั ญตั ิน“้ี ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความวา่ อปุ กรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ท่ี เช่อื มการทางานเขา้ ดว้ ยกนั โดยได้มีการกาหนดคาสงั่ ชดุ คาสง่ั หรอื สงิ่ อ่ืนใด และแนวทางปฏบิ ัตงิ านให้อปุ กรณ์ หรอื ชุดอปุ กรณ์ทาหนา้ ทร่ี ะมวลขอ้ มลู โดยอัตโนมัติ“ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์” หมายความว่า ขอ้ มูล ขอ้ ความ คาสงั่ ชดุ คาสง่ั หรอื สิ่งอ่ืนใดบรรดาท่ีอยู่ในระบบคอมพวิ เตอรใ์ นสภาพทีร่ ะบบคอมพวิ เตอร์อาจประมวลผลได้ และให้ ความหมายความรวมถึงขอ้ มลู อิเล็กทรอนิกสต์ ามกฎหมายว่าด้วยธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ สด์ ว้ ย“ข้อมลู จราจรทาง คอมพวิ เตอร์” หมายความวา่ ข้อมลู เก่ียวกับการติดต่อส่ือสารของระบบคอมพวิ เตอร์ ซึ่งแสดงถงึ แหลง่ กาเนิด ตน้ ทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบรกิ าร หรืออ่นื ๆ ท่ีเกยี่ วข้องกบั การตดิ ต่อส่ือสาร ของระบบคอมพิวเตอร์ นนั้ “ผใู้ หบ้ ริการ” หมายความว่า (1).ผู้ให้บริการแก่บุคคลอนื่ ในการเขา้ ส่อู ินเทอรเ์ น็ต หรือให้สามารถตดิ ต่อถงึ กันโดยประการอน่ื โดยผา่ ทางระบบคอมพวิ เตอร์ ทัง้ นี้ ไม่วา่ จะเปน็ การใหบ้ ริการในนามของตนเอง หรือในนามหรอื เพอื่ ประโยชน์ของบุคคล อื่น (2).ผใู้ ห้บริการเก็บรกั ษาข้อมลู คอมพวิ เตอร์เพอ่ื ประโยชนข์ องบุคคลอนื่ “ผู้ใช้บรกิ าร” หมายความว่า ผใู้ ช้บริการของผู้ให้บริการไม่วา่ ต้องเสียค่าใช้บรกิ ารหรอื ไม่ก็ตาม “พนักงานเจ้าหน้าท่ี “ หมายความว่า ผซู้ ึ่ง รัฐมนตรแี ตง่ ตง้ั ใหป้ ฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั ินี้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรผี ูร้ ักษาการตาม พระราชบญั ญัตนิ ี้ มาตรา 4 ใหร้ ัฐมนตรวี า่ การกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารรักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ้ี และให้ มีอานาจออกกฎกระทรวง เพ่ือปฏิบัติการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี กฎหมายทรวงนนั้ เม่อื ไดป้ ระกาศในราชกจิ จา นุเษกษาแล้วให้ใชบ้ ังคับได้ สาระา่ารู้ พระราชบญั ญัติว่าดว้ ยการกระทาความผิดเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ เปน็ กฎหมายทไี่ มม่ ใี ครคิดวา่ จะเกิดข้นึ ได้ เพราะการใช้คอมพิวเตอรส์ ว่ นใหญก่ เ็ ป็นไปเพ่ือการทางานใหเ้ กดิ ความสะดวกสบาย และเป็นแหลง่ เรียนรู้ ตา่ งๆแต่เมื่อมบี ุคคลหรอื บางกล่มุ เขา้ ไปกระทาให้เกดิ ความเสียหายตอ่ ข้อมูล และกระทบความเปน็ ส่วนตวั จึงทา ใหม้ ีการกาหนดพระราชบัญญัตวิ า่ ด้วยการกระทาความผดิ เกี่ยวคอมพวิ เตอรน์ ี้ขน้ึ ฉะนนั้ ควรทจี่ ะ ทาการศึกษา เพ่อื ปอ้ งกนั มิให้กระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีบทลงโทษในลกั ษณะทแ่ี ตกต่างกัน

หชวด 1 ควาชผดิ เกยี่ วกับคอชพวิ เตอร์ มาตรา 5 ผ้ใู ดเข้าถงึ โดยมชิ อบซ่งึ ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเขา้ ถงึ โดยเฉพาะและมาตรการนนั้ มิไดม้ ไี ว้สาหรบั ตน ต้องระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ หกเดือน หรอื ปรับไม่เกินหน่งึ หม่ืนบาท หรอื ท้งั จาท้งั ปรับ มาตรา 6 ผใู้ ดลว่ งรู้มาตรการปอ้ งกนั การเข้าถงึ ระบบคอมพวิ เตอรท์ ี่ผอู้ ืน่ จัดทาข้นึ เป็นการเฉพาะถ้านามาตรการ ดงั กล่าวไปเปิดเผยโดยมชิ อบ ในประกาศทนี่ า่ จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อนื่ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ หนง่ึ ปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ สองหมน่ื บาท หรือทัง้ จาทง้ั ปรับ มาตรา 7 ผู้ใดเขา้ ถึงโดยมิชอบซงึ่ ขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ทม่ี ีมาตรการป้องกนั การเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการน้นั มไิ ด้ มไี ว้สาหรบั ตน ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสีห่ ม่ืนบาท หรอื ทง้ั จาทั้งปรบั มาตรา 8 ผูใ้ ดกระทาด้วยการประการใดโดยมิชอบดว้ ยวิธกี ารทางอิเลก็ ทรอนิกสเ์ พ่อื ดักรับไว้ซ่งึ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ ของผอู้ ื่นทีอ่ ยรู่ ะหวา่ งการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และขอ้ มลู คอมพวิ เตอรน์ ้ันมิได้มไี ว้เพ่ือประโยชนส์ าธารณะหรอื เพอ่ื ใหบ้ ุคคลทัว่ ไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวังโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรบั ไมเ่ กินหกหมน่ื บาท หรือทั้งจาทั้งปรบั มาตรา 9 ผใู้ ดทาให้เสยี หาย ทาลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรอื เพิ่มเติมไมว่ ่าทั้งหมดหรือบางสว่ น ซ่งึ ขอ้ มูลคอมพิวเตอรข์ องผอู้ ่ืนโดยมชิ อบ ตอ้ งระวางจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท หรอื ท้งั จาท้ังปรับ มาตรา 10 ผู้ใดกระทาดว้ ยการประการใดโดยมิชอบ เพอื่ ให้การทางานของระบบคอมพวิ เตอรข์ องผูอ้ ่ืนถกู ระงบั ชะลอ ขัดขวาง หรอื รบกวนจนไม่สามารถทางานตามปกติไดต้ อ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หา้ ปี หรือปรับไมเ่ กนิ หนึง่ แสนบาท หรือทง้ั จาท้ังปรบั มาตรา 11 ผู้ใดส่งข้อมลู คอมพวิ เตอร์หรอื จดหมายอเิ ล็กทรอนกิ สแ์ กบ่ คุ คลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลง แหล่งท่มี าของการสง่ ข้อมูลดงั กลา่ ว อนั เปน็ การรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอน่ื โดยปกตสิ ุข ตอ้ ง ระวางโทษปรับไม่เกนิ หนงึ่ แสนบาท มาตรา 12 ถ้ากระทาความผิดตามมาตรา 9 หรอื มาตรา 10 (1).ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่ประชาชน ไมว่ ่าความเสียหายนั้นจะเกดิ ขึน้ ในทนั ทีหรือในภายหลัง และไม่ว่าจะ เกิดข้นึ พรอ้ มกันหรือไม่ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสบิ ปี และปรบั ไมเ่ กินสองแสนบาท (2).เป็นการกระทาโดยประการทีน่ า่ จะเกดิ ความเสียหายตอ่ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพวิ เตอรท์ ีเ่ กย่ี วกับ การรกั ษาความม่ันคงปลอดภยั ของประเทศ ความปลอดภยั สาธารณะ ความมน่ั คงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรอื การบริการสาธารณะ หรือเปน็ การกระทาต่อขอ้ มูลคอมพิวเตอร์หรอื ระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพวิ เตอร์ ทมี่ ีไวเ้ พ่อื ประโยชน์สาธารณะ ตอ้ งวางโทษจาคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับต้งั แตห่ กหม่ืนบาทถึงสามแสน บาทถา้ กระทาความผิดตาม ( 2 ) เปน็ เหตุให้ผู้อืน่ ถงึ แกค่ วามตาย ต้องระวางทาจาคกุ ต้ังแต่สิบปถี งึ ยี่สบิ ปี มาตรา 13 ผู้ใดจาหน่ายหรือเผยแพร่ชดุ คาสัง่ ท่จี ัดทาขน้ึ โดยเฉพาะเพื่อนาไปใช้เคร่ืองมือในการกระทาความผิด ตามมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 10 ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หนึ่งปี หรือปรบั ไม่ เกินสองหมน่ื บาท หรอื ทัง้ จาทั้งปรับ มาตรา 14 ผูใ้ ดกระทาความผิดทร่ี ะบุไวด้ งั ตอ่ ไปนี้ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หา้ ปี หรอื ปรบั ไม่เกินหน่งึ แสนบาท หรอื ทงั้ จาท้งั ปรับ

(1).นาเข้าสรู่ ะบบคอมพิวเตอรซ์ ึง่ ข้อมลู ปลอมไมว่ า่ ทัง้ หมดหรือบางส่วน หรอื ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดย ประการทจี่ ะนาเกดิ ความเสียหายแก่ผอู้ น่ื หรอื ประชาชน (2).นาเข้าสู่ระบบคอมพวิ เตอรซ์ งึ่ ข้อมลู คอมพวิ เตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการทีน่ า่ จะเกิดความเสียหายต่อความ ม่นั คงของประเทศหรือกอ่ ใหเ้ กิดความต่ืนตระหนกั แกป่ ระชาชน (3).นาสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซง่ึ ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกยี่ วกบั ความมัน่ คงแหง่ ราชอาณาจักรหรือ ความผิดเก่ียวกับการกอ่ การรา้ ยตามประมวลกฎหมายอาญา (4).นาสู่ระบบคอมพิวเตอรซ์ ่ึงขอ้ มลู คอมพิวเตอรใ์ ดๆ ท่มี ีลกั ษณะอันลามกและขอ้ มลู คอมพิวเตอรน์ นั้ ประชาชน นน้ั ประชาชนท่วั ไปอาจเขา้ ถึงได้ (5).เผยแพร่หรือส่งตอ่ ซึง่ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์โดยรู้อยู่แลว้ วา่ เปน็ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอรต์ าม (1)(2)(3)หรอื (4) มาตรา 15 ผใู้ หบ้ รกิ ารผู้ใดจงใจสนับสนนุ หรอื ยินยอมใหม้ ีการกระทาความผิดตามมาตรา 14 ในระบบ คอมพวิ เตอร์ทอี่ ยู่ในความควบคมุ ของตน ตอ้ งระวางโทษเชน่ เดียวกบั ผู้กระทาความผิดมาตรา 14 มาตรา 16 ผใู้ ดนาเข้าส่รู ะบบคอมพวิ เตอรท์ ปี่ ระชาชนทว่ั ไปอาจเขา้ ถงึ ได้ซง่ึ ขอ้ มลู คอมพิวเตอรท์ ่ปี รากฏเป็นภาพ ของผูอ้ นื่ และภาพนน้ั เป็นภาพทเ่ี กดิ จากการสร้างขนึ้ ตดั ตอ่ เติม หรือดดั แปลงดว้ ยวธิ กี ารทางอิเลก็ ทรอนกิ สห์ รือ วธิ ีการอน่ื ใด ทง้ั น้ัน โดยประการทน่ี ่าจะทาใหผ้ อู้ ืน่ นัน้ เสียช่อื เสยี ง ถูกดหู ม่ิน ถกู เกลียดชัง หรอื ไดร้ บั ความอบั อาย ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกนิ หกหมื่นบาท หรอื ทัง้ จาท้ังปรับการกระทาตามวรรคหนึง่ เป็น การนาเขา้ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์โดยสุจรติ ผูก้ ระทาไมม่ ีความผิดความผิดตามวรรคหนง่ึ เป็นความผิดอันยอมความได้ ถา้ ผู้เสียหายในความผดิ ตามวรรคหนง่ึ ตายเสยี ก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา ค่สู มรส หรือบตุ รของผู้เสียหายร้อง ทุกขไ์ ด้ และให้ถือวา่ เป็นผเู้ สียหาย มาตรา 17 ผู้ใดกระทาความผิดตามพระราชบญั ญัตนิ น้ี อกอาณาจกั รและ (1).ผ้กู ระทาความผดิ นัน้ เป็นคนไทย และรฐั บาลแห่งประเทศท่คี วามผดิ ไดเ้ กิดข้ึนหรอื ผู้เสยี หายไดร้ ้องขอใหล้ งโทษ หรอื (2).ผู้กระทาความผดิ น้ันเป็นคนตา่ งดา้ วและรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผเู้ สียหายไดร้ ้องขอใหล้ งโทษจะตอ้ งรบั โทษ ภายในราชอาณาจกั ร หชวด 2 พาักงาาเจา้ หา้าที่ มาตรา 18 ภายใตบ้ ังคบั มาตรา 19 เพื่อประโยชนใ์ นการสืบสวนและสอบสวนในกรณีท่มี ีเหตอุ ันควรเช่อื ได้ว่ามี การกระทาผิดตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ใหพ้ นกั งานเจ้าหน้าท่ที ม่ี อี านาจอยา่ งหนงึ่ อย่างใด ดังตอ่ ไปนเี้ ฉพาะท่ีจาเป็น เพอ่ื ประโยชนใ์ นการเป็นหลักฐานเกย่ี วกับการกระทาความผดิ และหาตวั ผกู้ ระทาความผิด (1).มีหนังสือสอบถามหรอื เรียกบุคคลทเี่ ก่ียวข้องกับการกระทาความผดิ ตามพระราชบญั ญัตนิ ีม้ าเพ่ือใหถ้ อ้ ยคา สง่ คาช้ีแจ้งเป็นหนังสือ หรอื ส่งเอกสาร ขอ้ มูล หรอื หลักฐานอ่นื ใดอยใู่ นรปู แบบท่ีสามารถเข้าใจได้ (2).เรยี กขอ้ มลู จราจรทางคอมพิวเตอร์จากผใู้ หบ้ ริการเก่ียวกบั ติดตอ่ สอ่ื สารผา่ นระบบคอมพวิ เตอร์หรอื จากบุคคล อ่ืนที่เกี่ยวข้อง

(3).สัง่ ให้ผู้ใหบ้ รกิ ารส่งมอบข้อมูลเก่ียวกบั ผใู้ ชบ้ ริการทตี่ ้องเกบ็ มาตรา 26 หรอื ทอ่ี ย่ใู นความครอบครองหรอื ควบคุมของผู้ให้บรกิ ารใหแ้ กพ่ นักงานเจา้ หน้าท่ี (4).ทาสาเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์ จากระบบคอมพิวเตอรท์ ี่มีเหตุอันควรเช่อื ได้ว่ามี การกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ในกรณรี ะบบคอมพิวเตอรน์ น้ั ยังมไิ ด้อยูใ่ นความครอบครองของพนกั งาน เจา้ หน้าท่ี (5).ส่งั ให้บุคคลซงึ่ ครอบครัวหรือควบคมุ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์ หรืออปุ กรณท์ ีใ่ ช้เก็บขอ้ มลู คอมพิวเตอร์สง่ มอบ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกลา่ วให้แก่พนกั งานเจ้าหนา้ ท่ี (6).ตรวจสอบหรือเขา้ ถึงระบบคอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ขอ้ มูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์หรืออปุ กรณ์ท่ใี ช้เก็บ ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ของบคุ คลใด อันเป็นหลักฐานหรอื อาจใชเ้ ปน็ หลกั ฐานเก่ยี วกับการกระทาความผดิ หรือเพ่อื สบื สวนหาตัวผู้กระทาความผิดและส่ังให้บุคคลน้ันสง่ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพวิ เตอร์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เท่าท่ีจาเปน็ ใหด้ ว้ ยกไ็ ด้ (7).ถอดรหัสลบั ของขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ของบคุ คลใด หรือสั่งใหบ้ คุ คลทีเ่ ก่ียวกับการเข้ารหัสลับของ ข้อมลู คอมพิวเตอร์ ทาการถอดรหัสสลับ หรอื ให้ความร่วมมือกบั พนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหสั ลบั ดงั กล่าว (8).ยดึ หรืออายัดระบบคอมพิวเตอรเ์ ท่าที่จาเป็นเฉพาะเพือ่ ประโยชนใ์ นการทราบรายละเอยี ดแห่งความผิดละ ผูก้ ระทาความผิดตามพระราชบญั ญตั ิ มาตรา 19 การใชอ้ านาจของพนักงานทตี่ ามมาตรา 18 (4) (5) (6) (7) และ (8) ใหพ้ นกั งานเจ้าหนา้ ที่ย่ืนคาร้อง ตอ่ ศาลทมี่ ีเขตอานาจเพื่อมีคาสั่งอนุญาตใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทด่ี าเนนิ การตามคาร้อง ท้งั นี้คารอ้ งตอ้ งระบเุ หตอุ ัน ควรเช่ือได้วา่ บุคคลใดกระทาหรอื กาลังจะกระทาการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดอนั เปน็ ความผดิ ตามพระราชบัญญตั ิน้ี เหตทุ ี่ ตอ้ งใชอ้ านาจ ลักษณะของการกระทาความผดิ รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นการกระทาความผิดและ ผูก้ ระทาความผิด เทา่ ที่สามารถจะระบไุ ด้ ประกอบคาร้องด้วยในการพจิ ารณาคารอ้ งด้วยในการพจิ ารณาคาร้องให้ ศาลพจิ ารณาคารอ้ งดังกลา่ วโดยเร็วเม่อื ศาลมคี าส่ังอนุญาตแล้ว ก่อนดาเนนิ ตามคาส่งั ของศาลใหพ้ นักงานทีส่ ่ง สาเนาบันทึกเหตุอนั ควรเชอื่ ที่ทาให้ต้องใช้อานาจตามมาตรา 18 (4) (5) (6) (7) และ (8) มอบให้เจ้าของหรือผู้ ครอบครองระบบคอมพวิ เตอร์น้นั ไว้เปน็ หลักฐาน แต่ถ้าไมม่ เี จ้าของหรอื ผคู้ รอบครองเครอ่ื งคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ท่ี นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าทสี่ ่งมอบสาเนาบันทึกนน้ั ใหแ้ ก่เจ้าของหรอื ผู้ครอบครองดงั กล่าวในทันทีท่ีกระทาได้ให้ พนกั งานเจ้าหน้าท่ผี ้เู ป็นหวั หน้าในการดาเนินการมาตรา 18 (4) (5) (6) (7) และ (8) สง่ สาเนาบนั ทกึ รายละเอียดการดาเนินการและเหตุผลแห่งการดาเนินการให้ศาลทม่ี ีเขตอานาจภายในสี่สิบแปดชว่ั โมง นับแต่เวลา ลงมือดาเนินการ เพ่อื เป็นหลักฐานการทาสาเนาข้อมลู คอมพวิ เตอรต์ ามมาตรา 18 (4) ให้กระทาได้เฉพาะเมื่อมี เหตุอันควรเชือ่ ดว้ ยวา่ มีการกระทาความผดิ ตามพระราชบัญญตั ิน้ี และตอ้ งไมเ่ ปน็ อปุ สรรคในการดาเนินการ เจ้าของหรอื ผูค้ รอบครองขอ้ มลู คอมพิวเตอร์น้ันเกิดความจาเป็นการยึดอายัดตามมาตรา 18 (8) นอกจากจะตอ้ ง ส่งมอบสาเนาหนังสือแสดงการยดึ อายดั มอบให้เจ้าของหรอื ผคู้ รอบครองระบบคอมพวิ เตอรน์ ัน้ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานแล้ว พนกั งานเจา้ หน้าทีจ่ ะสง่ั ยึดหรืออายัดไวเ้ กินสามสิบวนั มิได้ ในกรณจี าเป็นทต่ี อ้ งยึดหรืออายดั ไวน้ านกว่าน้นั ใหย้ ื่น คารอ้ งตอ่ ศาลทม่ี เี ขตอานาจเพอื่ ขอขยายเวลายดึ หรอื อายดั ได้ แต่ศาลจะอนญุ าตให้ขยายเวลาครง้ั เดียวหรือหลาย ครัง้ รวมกนั ไดอ้ กั ไมเ่ กนิ หกสิบวนั เมอ่ื หมดความจาทีจ่ ะยดึ หรืออายัดหรือครบกาหนดเวลาดังกลา่ วแล้ว พนักงาน เจา้ หน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ทยี่ ึดหรอื ถอนการอายัดโดยพลันหนงั สอื แสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคทา ให้เปน็ ไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 20 ในกรณีทก่ี ารกระทาความผิดตามพระราชบญั ญัตนิ ้ีเป็นการทาใหแ้ พร่หลายซงึ่ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ ท่ี อาจกระทบกระเทอื นตอ่ ความมนั่ คงแหง่ ราชอาณาจักร ตามท่กี าหนดไว้ในภาคสอง ลักษณะ 1 หรือลกั ษณะ 1/1 แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา หรอื ท่มี ีลกั ษณะขัดต่อความสงบเรียบรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอันดขี องประชาชน พนกั งาน เจา้ หน้าทโ่ี ดยได้รับความเหน็ ชอบขดั ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศีลธรรมอันดขี องประชาชน พนักงานเจา้ หน้าที่โดย ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากรฐั มนตรีอาจยนื่ คาร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานตอ่ ศาลท่มี ีเขตอานาจให้มคี าสง่ั ระงบั การทาให้แพร่หลายซ่งึ ขอ้ มูลคอมพิวเตอรน์ ้ันได้ ในกรณที ่ีศาลมีคาส่งั ใหร้ ะงับการทาให้แพรห่ ลายหลายซงึ่ ข้อมลู คอมพวิ เตอรต์ ามวรรคหนงึ่ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทีท่ าการระงับการทาใหแ้ พรห่ ลายนน้ั เอง หรอื สั่งให้ผใู้ ห้ บริการระงบั การทาให้แพรห่ ลายซึ่งข้อมลู คอมพวิ เตอรน์ ้ันกไ็ ด้ มาตรา 21 ในกรณที พี่ นกั งานเจ้าหน้าท่ีพบวา่ ขอ้ มลู คอมพวิ เตอร์ใดมีชุดคาส่ังไมพ่ ึง่ ประสงคร์ วมอยดู่ ว้ ยพนกั งาน เจา้ หน้าทอ่ี าจยื่นคาร้องตอ่ ศาลที่มีเขตอานาจเพอื่ ขอใหม้ ีคาสัง่ หา้ มจาหนา่ ยหรือเผยแพร่ หรือส่งั ให้เจ้าของหรือผู้ ครอบครองขอ้ มูลคอมพิวเตอร์น้ันระงับการใช้ ทาลายหรือแกไ้ ขขอ้ มูลคอมพวิ เตอรน์ ้ันได้ หรือจะกาหนดเงอื่ นไขใน การใช้ มไี วใ้ นครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคาสัง่ ไมพ่ งึ ประสงคด์ งั กล่าวกไ็ ด้ชดุ คาส่ังไมพ่ งึ ประสงคต์ ามวรรคหนึง่ หมายถึง ชดุ คาส่งั ท่ีมีผลทาให้ขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพวิ เตอรห์ รอื ชดุ คาสงั่ อืน่ เกนิ ความเสยี หาย ถูก ทาลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพม่ิ เติมขัดข้อง หรือปฏิบตั งิ านไมต่ รงตามคาสัง่ ทีก่ าหนดไว้ หรือโดยประกาศอน่ื ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง ทง้ั น้ี เวน้ แต่เป็นชุดคาสั่งที่มุง่ หมายในการป้องกันหรอื แกไ้ ขชุดคาส่งั ดงั กล่าวข้างต้น ตามทร่ี ฐั มนตรปี ระกาศในราชกิจานเุ บกษา มาตรา 22 หา้ มมิใหพ้ นกั งานท่เี ปดิ เผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพวิ เตอร์ ขอ้ มลู จราจรทางคอมพิวเตอร์ หรอื ขอ้ มลู ของใชบ้ รกิ าร ทไ่ี ดต้ ามมาตรา 18 ให้แก่บุคคลใด ความในวรรคหนงึ่ มไิ ดใ้ ห้ใชบ้ ังคับกบั การกระทาเพ่ือประโยชนใ์ น การดาเนนิ คดีกบั ผกู้ ระทาความผิดตามพระราชบัญญตั นิ ี้ หรือเพือ่ ประโยชนใ์ นการดาเนินคดกี บั พนกั งานเจา้ หน้าท่ี เกีย่ วกับการใช้อานาจหนา้ ทโ่ี ดยมิชอบ หรอื เป็นการกระทาตามคาสงั่ หรอื ทีไ่ ด้รับอนุญาตจากศาล พนักงาน เจา้ หนา้ ท่ีผ้ใู ดฝ่าฝืนวรรคหน่งึ ตอ้ งระวางโทษเกินสามปี หรือปรบั ไมเ่ กินหกหมื่นบาท หรอื ทัง้ จาทง้ั ปรบั มาตรา 23 พนกั งานเจ้าหน้าทผ่ี ใู้ ดกระทาโดยประมาทเป็นเหตุใหผ้ อู้ ื่นล่วงรขู้ ้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทาง คอมพิวเตอร์ หรอื ข้อมูลของผู้ใชบ้ รกิ าร ทไ่ี ด้มาตามมาตรา 18 ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หนึง่ ปหี รือปรับไมเ่ กนิ สองหมนื่ บาท หรือทัง้ จาทั้งปรบั มาตรา 24 ผู้ใดล่วงร้ขู อ้ มูลคอมพิวเตอร์ ขอ้ มูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรอื ข้อมูลของผู้ใชบ้ รกิ าร ท่ีพนกั งาน เจา้ หน้าท่ีได้มาตรา 18 และเปดิ เผยข้อมลู ของผู้ใชบ้ รกิ าร ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กินสองปีหรอื ปรบั ไม่เกินสห่ี ม่ืน บาท หรือท้ังจาทงั้ ปรบั มาตรา 25 ข้อมลู ขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ทางคอมพิวเตอรท์ ่พี นกั งานเจา้ หน้าทไี่ ด้มาตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ใหอ้ ้างและ รบั ฟงั เปน็ พยานหลกั ฐานตามแบบบัญญัตแิ ห่งประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญาหรอื กฎหมายอืน่ อันว่าดว้ ย การสืบพยานได้ แตต่ อ้ งเปน็ ชนดิ ท่มี ไี ดเ้ กิดขนึ้ จากการจงู ใจมคี าม่นั สญั ญาข่เู ข็ญ หลวกลวง หรอื โดยมชิ อบประกาศ อื่น มาตรา 26 ผ้ใู หบ้ รกิ ารต้องเกบ็ รักษาข้อมูลทางจราจรทางคอมพวิ เตอรไ์ วไ้ มน่ ้อยกวา่ เก้าสบิ วัน นบั ตัง้ แต่วันท่ีขอ้ มูล น้นั เขา้ ส่รู ะบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณจี าเป็นพนกั งานเจ้าหน้าท่ีจะส่งั ให้ผ้บู รกิ ารผู้ใดเกบ็ รักษาขอ้ มูลจราจรทาง คอมพวิ เตอรแ์ ตไ่ มเ่ กนิ หน่งึ ปเี ป็นกรณีพเิ ศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวกไ็ ด้

ผใู้ หบ้ ริการจะต้องเก็บรกั ษาขอ้ มูลของผใู้ ชบ้ ริการเทา่ ทจี่ าเปน็ เพื่อให้สามารถระบตุ ัวผู้ใช้บรกิ าร นบั ตั้งแตเ่ ร่มิ ใช้ บริการและตอ้ งเก็บรักษาไวเ้ ป็นเวลาไมน่ ้อยกวา่ เก้าสบิ วัน นบั ต้ังแต่การใช้บริการสิน้ สดุ ลงความในวรรคหนง่ึ จะใช้ กบั ผใู้ ชก้ บั ผใู้ ห้บริการประเภทใด อยา่ งไร และเม่อื ใด ให้เป็นไปตามทรี่ ัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาผู้ ใหบ้ ริการผใู้ ดไมป่ ฏบิ ัตติ ามมาตรานี้ ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกนิ ห้าแสนบาท มาตรา 27 ผใู้ ดไมป่ ฏิบัติตามคาสัง่ ของศาลหรือพนักงานเจ้าทท่ี สี่ ั่งมาตรา 18 หรอื มาตรา 20หรอื ไม่ปฏบิ ตั ิตาม คาส่ังของศาลตามมาตรา 21 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและหรับเปน็ รายวันอกี ไมเ่ กนิ วันละห้าพัน บาทจนกว่าจะปฏบิ ัตใิ หถ้ กู ต้อง มาตรา 28 การแต่งตั้งพนกั งานเจา้ หน้าทตี่ ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้รัฐมนตรีแต่งต้ังจากผมู้ ีความร้แู ละความชานาญ เกย่ี วกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รฐั มนตรีกาหนด มาตรา 29 ในปฏิบัตหิ นา้ ท่ตี ามพระราชบญั ญตั ิน้ี ให้พนกั งานเจา้ หนา้ ที่เปน็ พนักงานฝ่ายปกครองหรอื ตารวจช้ัน ผใู้ หญ่ตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญามีอานาจคาร้องทุกขห์ รอื รับกล่าวโทษและมอี านาจในการ สบื สวนเฉพาะความผิดตามพระราชบญั ญตั ินี้ในการจบั ควบคุม ค้น การทาสานวนสอบสวนและดาเนนิ คดี ผกู้ ระทาความผิดตามพระราชบญั ญตั ินี้ บรรดาทีเ่ ปน็ อานาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจช้นั ผใู้ หญ่ หรือ พนกั งานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญาใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ทกี่ ับพนกั งานสอบสวน ผู้รบั ผดิ ชอบเพอื่ ดาเนินการตามอานาจหน้าทต่ี ่อไปใหน้ ายกรัฐมนตรใี นฐานะผ้กู ากบั ดแู ลสานกั งานตารวจ แห่งชาติ และรฐั มนตรีมีอานาจ รว่ มกันกาหนดระเบยี บเกยี่ วกับแนวทางและวธิ ีปฏิบตั ใิ นการดาเนินการตามวรรค สอง มาตรา 30 ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี พนักงานเจ้าหนา้ ท่ตี ้องแสดงบัตรประจาตวั ต่อบคุ คลซึ่งเกี่ยวข้อง บตั รประจาตวั ของพนักงานเจา้ หนา้ ทใี่ หเ้ ปน็ ไปตามแบบทร่ี ัฐมนตรีประกาศในราชกจิ านุเบกษา ผ้รู บั สนองพระบรมราชโองการ พลเอก สรุ ยุทธ์ จลุ านนท์ นายกรฐั มนตรี หมายเหตุ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คอื เนอื่ งจากในปัจจุบนั ระบบคอมพวิ เตอร์ไดเ้ ป็นส่วน สาคัญของประกอบกจิ การ และการดารงชีวติ ของมนษุ ย์ หากมีผู้กระทาด้วยประการใดๆใหร้ ะบบคอมพวิ เตอร์ไม่ สามารถทางานตามคาส่ังที่กาหนดไว้ หรอื ทาให้การทางานผดิ พลาดไปจากคาสงั่ ทีก่ าหนดไว้ หรอื วธิ กี ารใดๆ เข้า ลว่ งรขู้ ้อมูล แก้ไข หรือทาลายข้อมลู ของบุคคลอ่ืน ในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรอื ใชร้ ะบบ คอมพิวเตอร์ เพ่อื เผยแพรข่ ้อมูลคอมพวิ เตอรอ์ ันเป็นเทจ็ หรอื มีลกั ษณะอันลามกอนาจาร ยอ่ มก่อให้เกดิ ความ เสียหาย กระทบกระเทอื นต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมน่ั คงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดี ของประชาชน สมควรกาหนดมาตรการเพ่อื ป้องกันและปราบปรามการกระทาดังกล่าว จึงจาเปน็ ต้องตรา พระราชบัญญตั ินี้

สรปุ ท้ายหาว่ ย ในปี พ.ศ.2550 มีกาหนดพระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระทาความผดิ เก่ยี วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซงึ่ มผี ลบังคับใชต้ ัง้ แต่วันท่ี 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เป็นพระราชบัญญัติท่สี าคัญอย่างมากในทกุ วงการ เพราะปัจจุบันคอมพวิ เตอรไ์ ด้เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนหน่งึ ในชวี ติ ประจาวันมากทส่ี ุดไม่วา่ เปน็ หนว่ ยงาน องค์กรตา่ งๆ ภาครัฐ เอกชน คนทางาน นสิ ติ นักศึกษา ก็ล้วนเกยี่ วข้องกับคอมพิวเตอร์ทง้ั สนิ้ จงึ จาเป็นอยา่ งยง่ิ ท่ีต้องศกึ ษาขอ้ มูลและทาความเข้าใจเกย่ี วกับ พ.ร.บ. ฉบับน้ีเพอื่ ปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ กิดการกระทา ความผิดทางคอมพิวเตอร์ และให้การใชง้ านคอมพวิ เตอร์ในประเทศไทยเปน็ ไปในทางสร้างสรรค์ ใบงาาบทท่ี 10 ตอนที่ 1 จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหไ้ ด้ใจความสมบรู ณ์ 1.จงอธิบายความหมายของระบบคอมพิวเตอร์ 2.จงอธิบายความหมายความของข้อมลู คอมพวิ เตอร์ 4.จงอธบิ ายความหมายของผู้ใหบ้ ริการ 5.จงบอกเนอ้ื หาในมาตรา 7 ของพระราชบัญญตั วิ า่ ด้วยการกระทาความผดิ เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ 6.จงบอกเนื้อหาในมาตรา 9 ของพระราชบญั ญตั วิ า่ ด้วยการกระทาความผิดเกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร์ 7.จงบอกเนื้อหาในมาตรา 11 ของพระราชบัญญตั วิ ่าด้วยการกระทาความผิดเกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ 8.จงบอกความผดิ ตามมาตรา 14 วา่ มกี รณีใดบ้าง 9.จงบอกเนอ้ื หาในมาตรา 16 ของพระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทาความผิดเกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ 10.จงบอกเนอื้ หาในมาตรา 23 ของพระราชบัญญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผิดเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook