THE BEST FOOD RECIPES Food Bible SBEELSLTER breakfast issue Featuring the worlds' best chefs and their easy to prepare breafast recipes 250.-
3 ON EUSSICULTURE 8102 GUA AROUND THE WORLD FLAVORS
Content HEALTHY, EASY TO MAKE 01 2 3 Japanese Food 4 5 Yakisoba 6 Teriyaki Chicken Miso Soup 8 Gyudon 9 Takoyaki 10 11 02 12 Italian Food 14 15 Spaghetti 16 Pizza 17 Macaroni 18 Lasagna 19 Pasta Primavera 20 03 Thai Food Tom Yam Goong Pad Thai Somtum Green Curry Massaman Curry Thai Sour Curry Steamed Curry
JAPAN 3 ON EUSSI ESE 8102 GUA FOOD BOOK BIBLE | 01
Yakisoba HOW TO MAKE ยากิโซบะ จริง ๆ แล้ว ชาวญี่ปุ่นไม่ได้คิดค้น หากแต่ได้รับ 1.นำเส้นยากิโซบะสดมาลวกจนสุกดี จาก อิทธิพลมาจาก บะหมี่ผัด ของประเทศจีน ก่อนที่จะเพร่หลาย นั้นนำไปล้างน้ำ และไปน็อคในน้ำเย็นจัด เป็นเมนูยอดนิยมในประเทศญี่ปุ่น โดยมักเสิร์ฟเป็นอาหาร จากนั้นนำขึ้นมาใส่น้ำมันไว้เพื่อไม่ให้เส้น จานหลักและเครื่องเคียง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว องค์ประกอบของ ติดกัน ยากิโซบะนั้น ตัวเส้นจะทำมาจากแป้งสาลีผสมไข่ไก่ คล้าย บะหมี่จีน เรียกว่า ชูกาเม็ง นำมาผัดกับเนื้อหมู กะหล่ำปลี 2.ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ร้อน ใส่หมูหมักลง หอมใหญ่ แคร์รอต คลุกเคล้ากับซอสยากิโซบะ ไป ตามด้วยเห็ดหอม ผัดใช้ไฟแรง จนหมู เริ่มสุก INGREDIENT 3.ตามด้วยเส้นยากิโซบะ ผัดด้วยไฟแรงต่อ เส้นยากิโซบะ(ลวกแล้ว) 800 กรัม เนื่อง จากนั้นตามด้วยกะหล่ำปลี แครอท หมูหมัก 250 กรัม คลุกเคล้าให้เข้ากัน กะหล่ำปลี 200 กรัม แครอท 200 กรัม 4.ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส เห็ดหอมแห้ง(แช่น้ำ) 100 กรัม ฝาเขียว น้ำตาลทราย พริกไทยป่นตาม ต้นหอม 30 กรัม ชอบ ใส่ซีอิ๊วดำหวานลงไปเพื่อเพิ่มสี ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรสฝาเขียว 3 ช้อนโต๊ะ 5.พอทุกอย่างได้ที่แล้ว ปิดท้ายด้วยต้น น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ หอม คลุกเคล้าให้เข้ากันดี เป็นอันเสร็จ พริกไทย 1 ช้อนชา ซีอิ้วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ TIP การใช้เส้นยากิโซบะสดจะทำให้รสสัมผัส นุ่มกว่า เวลาผัดควรใช้ไฟแรงตลอดเวลา เพราะจะทำให้เครื่องปรุงหอมฟุ้งติด เส้นยากิโซบะดี BOOK BIBLE | 02
26 Teriyaki Chicken 56 ไก่เทอริยากิ เมนูไก่ที่ทำไม่ยากแต่ได้รสชาติของความ BOOK BIBLE | 03 เป็นญี่ปุ่น เนื้อไก่ที่หมักเครื่องปรุงต่างๆจนได้รสเข้มข้น เอาไปย่างบนกระทะย่างหรือเตาร้อนๆ จนได้ไก่เทริยากิ แสนอร่อยที่กินเป็นกับแกล้มหรือทานกับข้าวก็อร่อยเข้า กันได้ดี INGREDIENT เนื้อสะโพกไก่ (หั่นชิ้นพอดีคำ) 200 กรัม ซอสเทอริยากิ (สำหรับหมัก) 150 กรัม ซอสเทอริยากิ (สำหรับผัด) 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ ขา้ วญี่ปุ่นหุงสุก 180 กรัม ไข่ออนเซ็น 1 ฟอง พริกไทยเล็กน้อย งาขาวคั่วเล็กน้อย สาหร่ายเล็กน้อย ขิงดอง / ต้นหอมสำหรับตกแต่ง HOW TO MAKE 1.นำเนื้อไก่มาหมักกับซอสเทอริยากิ น้ำมันงา และพริก ไทย คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาที 2.ตั้งกระทะไฟปานกลาง นำเนื้อไก่ที่หมักไว้มาย่างบน กระทะ โดยนำด้านหนังลงก่อน 3.ย่างเนื้อไก่ให้สุกทั้ง 2 ด้าน แล้วใส่ซอสเทอริยากิลงไป เมื่อซอสเริ่มซึมเข้าเนื้อ ปิดไฟ 41 4.นำไก่เทอริยากิจัดวางบนข้าวที่เตรียมไว้ โรยงาคั่ว ตกแต่งด้วยต้นหอมและขิงดอง 5. จัดเสิร์ฟโดยตอกไข่ออนเซ็นและโรยสาหร่ายลงไป TIP ถ้าหมักเนื้อไก่ไว้ข้ามคืนจะทำให้รสชาติเข้าเนื้อและ นุ่มมากขึ้น วิธีการทำไข่ออนเซ็น ถ้าใช้เครื่องซูวีดจะสามารถ ควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ โดยใช้อุณหภูมิที่ 64 องศา เซลเซียส ประมาณ 44 นาที
Miso Soup ซุปมิโซะ เป็นซุปญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ประกอบไปด้วย น้ำสต๊อกดาชิกับเต้าเจี้ยวมิโซะแบบนิ่มผสมเข้าด้วย กัน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่เป็นตัวเลือกอื่น ๆ อีก มากมายที่อาจจะมีการใส่เพิ่มลงไป ขึ้นอยู่กับสูตร อาหารตามภูมิภาคและตามฤดูกาล รวมไปถึงความ ชอบส่วนบุคคล INGREDIENT HOW TO MAKE แคร์รอตหั่นเต๋า (ถ้วย) 1/4 ถ้วย 1. เทน้ำซุปปลาแห้งและน้ำเปล่าลงไปใน ต้นหอมญี่ปุ่นซอย (ช้อนโต๊ะ) 1 ช้อนโต๊ะ หม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่มิรินคนให้ละลาย เต้าหู้ไข่ไก่ผสมผัก หั่นเต๋าเล็ก 1 หลอด น้ำซุปปลาแห้ง (ถ้วย) 1/2 ถ้วย 2.เติมเต้าหู้ไข่ไก่ สาหร่ายวากาเมะ น้ำเปล่า (ถ้วย) 2ถ้วย แครอท ใช้ไฟปานกลาง ต้มจนเดือด มิโซะ(เต้าเจี้ยวบด) (ช้อนโต๊ะ) 1 ช้อนโต๊ะ มริ ิน (ช้อนโต๊ะ) 1 ช้อนโต๊ะ 3.ตักน้ำซุปเล็กน้อยมาละลายมิโซะ เทมิ สาหร่ายวากาเมะแช่น้ำจนนิ่ม (ถ้วย) 1/4 ถ้วย โซะลงหม้อ คนให้ส่วนผสมทั้งหม้อเข้า กัน ต้มจนเดือดอีกครั้ง โรยต้นหอม ญี่ปุ่นซอย ตักใส่ถ้วยและเสิร์ฟขณะ ร้อน TIP ควรคนมิโซะให้ละลายเข้ากันดีก่อนเท ลงหม้อ หลังจากใส่มิโซะแล้ว ไม่ควรต้มให้ เดือดนานเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่น หอมของมิโซะหายไป BOOK BIBLE | 04
Gyudon 牛ส่วนประกอบหลักคือ เนื้อวัว ( – Gyuu) และหัวหอมใหญ่ นำมาตุ๋นในน้ำซอสที่ใช้ปรุงกิวด้ง ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ผงดาชิต้มทำน้ำ 白滝ซุป แล้วก็ปรุงรสด้วยโชยุและมิริน บางสูตรก็จะใส่เส้นชิระตะกิ ( – Shirataki) คือเส้นที่ทำจากวุ้น Konnyaku ลงไปตุ๋น ด้วย เมื่อตุ๋นเสร็จแล้วก็นำไปราดข้าวทาน ก่อนทานก็จะราดด้วยไข่ดิบ ปกติคนญี่ปุ่นจะทานกับเครื่องเคียงเช่น ขิงดอง, พริกชิจิมิ (เป็นพริก 7 อย่างของญี่ปุ่น คล้ายกับพริกป่นของไทย) INGREDIENT HOW TO MAKE เนื้อใบพายวัวสไลด์ 120 กรัม มิริน 25 กรมั 1.ทำไข่ออนเซ็นโดยตั้งน้ำให้เดือด ใส่เกลือ จากนั้นปิดไฟแล้วใส่ไข่ไก่ลงไป จับ ไข่ไก่ 1 ฟอง แอโร่ น้ำซุปปลาแห้งเข้มข้น 4 เวลา 6 นาที เกลือ เล็กน้อย กรัม พริกไทย เล็กน้อย ต้นหอม 5 กรัม 2. จากนั้นนำไข่ไก่ขึ้นมาน็อคน้ำเย็น หอมใหญ่ 25 กรัม น้ำตาลทราย 4 กรัม 3.นำเนื้อวัวมาปรุงรส เกลือ และพริกไทย กระเทียม 10 กรัม น้ำมันพืช 20 กรัม 4.ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมัน จากนั้นใส่เนื้อวัวลงไป ขิง 12 กรัม ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก 5.ใส่หอมใหญ่ แล้วผัดจนเริ่มหอม แล้วจึงใส่กระเทียม และขิง จากนั้นผัดต่อ ซอสโชยุ ตราแอโร่ 30 กรัม สาหร่ายโนริตัวเส้น สต๊อกไก่ 350 กรัม ขิงดองซอย จนมีกลิ่นหอม 6.ใส่มิรินแล้วผัดสักพัก ใส่สต็อกได่ตามลงไป ต่อด้วยโชยุ น้ำซุปปลาแห้ง BOOK BIBLE | 05 และน้ำตาลทราย 7.ต้มต่อสักพักจนน้ำเริ่มงวด แล้วใส่ต้นหอม (ตามคลิป) 8.นำเนื้อมาวางบนข้าวญี่ปุ่น จากนั้นใส่ไข่ออนเซ็น และขิงดอง พร้อมทาน
Takoyaki ทาโกะยากิ (Takoyaki) เป็นชื่อของอาหารชนิดหนึ่งของญี่ปุ่นที่ คนไทยนิยมกินกัน มีขายตั้งแต่ตลาดนัดไปจนถึงภัตตาคารอาหาร ญี่ปุ่นระดับหรู ในไทยนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ขนมครกญี่ปุ่น” โดยทาโกะยากิมีต้นกำเนิดมาจากเมืองโอซากา และเป็นของขึ้นชื่อ ของที่นั่น เป็นอาหารยอดนิยมในแถบคันไซ ในงานเทศกาลต่างๆ จะมีร้านเทโกยากิมาเปิดขายอยู่จำนวนมาก รวมไปถึงตามร้าน อาหารญี่ปุ่นก็มักจะมีเมนูทาโกะยากิเป็นอาหารทานเล่น และยังมี วางขายในห้างสรรพสินค้ารวมถึงร้านสะดวกซื้ออีกด้วย INGREDIENT แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม น้ำซุปเข้มข้น 50 กรัม น้ำเปล่า 250 กรัม ไข่ไก่ 1 ฟอง กะหล่ำปลี ซอย 200 กรัม ขิงดอง ซอย 30 กรัม ต้นหอมซอย 3-4 ต้น หนวดปลาหมึกยักษ์ 400 กรัม ซอสทาโกะยากิ ตามชอบ มายองเนสญี่ปุ่น ตามชอบ ปลาโออบแห้ง ตามชอบ HOW TO MAKE 1. เตรียมแป้งทาโกะยากิ ตอกไข่ไก่ลงไปในชามผสม ตีให้ไข่แตก ดี ตามด้วยน้ำซุป น้ำเปล่า และแป้งสาลีอเนกประสงค์ ตีให้เข้า กัน กรองหนึ่งครั้ง พักไว้ 2.ตั้งเตาสำหรับทอดทาโกะยากิ ทาน้ำมันลงไปเล็กน้อย จากนั้น เทแป้งลงไปในหลุม ตามด้วยกะหล่ำปลี ต้นหอม ขิงดอง และ ปลาหมึก 3.ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น คอยพลิกแป้งทาโกะยากิให้เป็นทรงกลม รอ จนสุกทั่วกัน ตักขึ้นมาพักไว้ 4.ราดด้วยซอสทาโกะยากิ และมายองเนสญี่ปุ่น สาหร่ายและ ปลาอบแห้งตามชอบ เป็นอันเสร็จ BOOK BIBLE | 06
3 ON EUSSI 8102 GUA ITALIAN FOOD BOOK BIBLE | 07
Spaghetti สปาเกตตี คือเส้นพาสตาที่ยาว บาง แข็ง และเป็นทรงกระบอก สปาเกตตีเป็นอาหารหลักในอาหารอิตาลีแบบดั้งเดิม สปาเกตตี เช่นเดียวกับพาสตาอื่น ๆ ผลิตจากข้าวสาลีโม่ กับน้ำ อาจทีบ้างที่ ผสมแป้งวิตามินหรือแร่ธาตุ สปาเกตตีแบบอิตาลีนั้นนิยมผลิตมา จากแป้งดูรัม ที่เรียกวา่ เซโมลินา INGREDIENT หมูบด 200 กรัม มะเขือเทศท้อ 5 ผล หอมใหญ่สับละเอียด 1/2 หัว ซอสพริก 3 ช้อนโต๊ะ ซอสมะเขือเทศ 6 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ออริกาโน น้ำมันพืช HOW TO MAKE 1.ต้มเส้นสปาเก็ตตี้ ในน้ำเดือดที่ผสมน้ำมันพืชและเกลือ ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นนำเส้นสปาเก็ตตี้ที่ผ่านการต้ม แล้ว ไปผ่านในน้ำเย็นจัด ยกขึ้นพักไว้ในกระชอน คลุกเคล้า ด้วยน้ำมันพืชเล็กน้อย 2.หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำไปปั่ นด้วยเครื่องปั่ นจน เป็นเนื้อเดียวกัน นำขึ้นพักไว้ 3.ตั้งกระทะบนเตา เมื่อร้อนแล้วจึงเติมน้ำมัน แบ่งหอมหัวใหญ่ บดละเอียดมา 1/4 ส่วน ผัดกับน้ำมันจนหอม 4.เติมหมูสับลงไป ผัดจนสุก จากนั้นตามด้วยเนื้อมะเขือเทศปั่ น ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หอมหัวใหญ่บดละเอียด (3/4 ส่วน) และเกลือป่นเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน 5.เคี่ยวส่วนผสมจนเริ่มงวด หรือเริ่มหนืดสักเล็กน้อย ชิม รสชาติ ซึ่งอาจปรุงเพิ่มได้ตามความชอบ 6.ยกลงจากเตา จัดจาน เพิ่มกลิ่นหอมๆ ให้กับจานนี้ด้วยการ เหยาะออริกาโนสักเล็กน้อย TIP ในขั้นตอนการต้มควรทำตามคำแนะนำข้างกล่อง เพราะ แต่ละยี่ห้ออาจไม่เหมือนกัน BOOK BIBLE | 08
Pizza เป็นอาหารอิตาลีและอาหารจานด่วนประเภทหนึ่ง ซึ่งชาวอิ ตาลีเป็นผู้คิดค้น มีลักษณะเป็นแป้งแผ่นกลมแบนราดด้วย ซอสมะเขือเทศ แล้วทำให้สุกโดยการอบในเตาอบ ในประเทศ อิตาลี การเสิร์ฟพิซซาในโอกาสที่เป็นทางการ เช่น การทาน ในภัตตาคาร จะเสริ์ฟโดยไม่หั่นและจะรับประทานโดยใช้มีด และส้อม ในขณะที่ชาวอิตาเลียนโดยทั่วไปเมื่อทานพิซซาใน โอกาสที่ไม่เป็นทางการ เชน่ ทานกันเองที่บ้าน พิซซาจะถูก หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำและนิยมทานโดยใช้มือ INGREDIENT แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ¾ ถ้วย เตรียมเพิ่มไว้เล็ก น้อยสำหรับโรยตอนนวดแป้ง ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา น้ำอุ่น ½ ถ้วยตวง น้ำมันเมล็ดชา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น เล็กน้อย ซอสพิซซ่า มอสซาเรลล่าชีสขูด แซลมอนรมควัน หอมแดงสไลด์ ออริกาโน HOW TO MAKE 1.ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับยีสต์ และน้ำอุ่นแล้วนวดเข้าด้วย กัน ใส่น้ำมันเมล็ดชาลงไปนวดให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วโรยเกลือบาง ๆ ลงไป ห้ามนวดเกลือกับยีสต์โดยตรง เพราะเกลือจะทำให้ยีสต์ ตาย นวดจนแป้งเข้ากันดี ประมาณ 5 นาที นวดให้แป้งเป็นก้อนได้ ไม่เหลวไปและไม่นิ่มไป และโรยแป้งขณะนวดด้วยเพื่อแป้งจะได้ไม่ ติดมือ 2.พักแป้งไว้ 45 นาที เพื่อให้ยีสต์ทำงานจนแป้งขึ้นฟู คลุมด้วยผ้า ชื้น หรือพลาสติกถนอมอาหาร และควรนำไปพักไว้ในที่มืด ๆ หรือ พักไว้ในเตาไมโครเวฟจนก้อนแป้งขึ้นฟูเป็น 2 เท่า 3.อุ่นเตาอบรอไว้ที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เตรียมไว้ 4.นำแป้งที่ขึ้นฟูแล้วมาชก เพื่อไล่อากาศที่ยีสต์ปล่อยไว้ออกแล้ว นวดต่ออีก 30 วินาที แผ่แป้งเป็นแผ่นบาง ๆ ประมาณ ½ เซนติเมตร ให้เป็นวงกลม แผ่บาง ๆ แป้งจะได้กรอบ 5.ทาซอสพิซซ่าให้ทั่ว โรยมอสซาเรลล่าชีส วางปลาแซลมอนรมควัน ลงไป ตามด้วยหอมแดง และออริกาโน 6.นำเข้าอบประมาณ 15-20 นาที ให้แป้งเหลืองกรอบ นำออกจาก เตา พร้อมเสิร์ฟ BOOK BIBLE | 09
Macaroni HOW TO MAKE มักโรนีเป็นผลิตภัณฑ์จากแป้งข้าวสาลี (wheat 1.ต้มน้ำให้เดือดใส่มะกะโรนีลงไปต้มประมาณ 5 flour) ชนิดซีโมลินา (Semolina) ซึ่งได้จากเอนโด นาที เสร็จแล้วแช่ทิ้งไว้ในน้ำร้อนประมาณ 5 เสปอร์มของข้าวสาลีดูรัม (durum wheat) เป็น นาทีจนนิ่มตามชอบ ตักขึ้นใส่ตะแกรงพักให้ ข้าวสาลีพันธุ์ที่มีปริมาณโปรตีนและกลูเตน สะเด็ดน้ำ (gluten) สูง นำมานวดผสมกับน้ำให้เป็นโด (dough) แล้วนวด (knead) และรีดให้เป็นแผ่น 2.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไป ใส่เนื้อสัตว์ลง ไปผัดพอสุก ตามด้วยหอมใหญ่ และมะเขือ INGREDIENT เทศ มะกะโรนี 1 ถ้วย 3.พอผักเริ่มนิ่มแล้วตอกไข่ใส่ลงไป คลุกเคล้า เนื้อสัตว์ตามชอบ 200 กรัม ให้เข้ากันดีจนไข่สุก หอมใหญ่หั่น 1/2 หัว มะเขือเทศหั่น 1 ลูก 4.ใส่มะกะโรนีลงไป ตามด้วยซอสมะเขือเทศ ไขไ่ ก่ 3 ฟอง ปรุงรสด้วยเกลือป่น ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย ใส่ต้นหอมลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันดี ตักใส่ เกลือป่น เล็กน้อย จานเสิร์ฟ ต้นหอมหั่นท่อน TIP ไม่ควรต้มเส้นมะกะโรนีให้สุกเกินไป เมื่อนำไป ผัดจะเละ ไม่อร่อย ควรผัดส่วนผสมต่าง ๆ ให้เข้ากันดีก่อนแล้ว ค่อยใส่เส้นมะกะโรนี เพราะเมื่อผัดรวมกัน นาน ๆ เส้นจะเละ ไม่น่ารับประทาน BOOK BIBLE | 10
Lasagna ลาซัญญา หรือ ลาซัญเญ เป็นพาสตาที่มีลักษณะ เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม อาจเป็นพาสตาที่เก่าแก่ที่สุด ประเภทหนึ่ง โดยทั่วไป คำ ลาซัญญา หรือ ลาซัญเญ ยังหมายถึงอาหารอิตาลีที่ทำจากแผ่นลาซัญญาแห้ง วางสลับชั้นกับซอสและส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เนื้อสัตว์ ซอสมะเขือเทศและผักต่าง ๆ เนยแข็ง และเครื่อง ปรุงรสและเครื่องเทศ เช่น กระเทียม ออริกาโน INGREDIENT เนื้อวัวหรือเนื้อหมูบด 500 กรัม แครอทหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 หัว กระเทียมสับละเอียด 1 กานพลู หอมใหญ่ ครึ่งลูก มะเขือเทศปอกเปลือกและเอาเม็ดออก หั่นบางๆ 5 ลูก ซอสมะเขือเทศ 170 กรัม ผงออริกาโน่ 1 ช้อนชา พริกไทย ½ ช้อนชา ผงน้ำซุปไก่ 1 ช้อนช้า เกลือ 1 ช้อนชา น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ น้ำ 300 มิลลิลิตร นมสด 1,000 มิลลิลิตร เชดดาร์ชีสขูด 250 กรัม เนย 3 ช้อนโต๊ะ แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 1/2 ช้อนชา ผงลูกจันทน์เทศ 1/2 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา HOW TO MAKE 1.อุ่นกระทะให้ร้อน แล้วผัดหอมและกระเทียมสับให้พอ หอม 2.ใส่เนื้อบด ค่อย ๆ คนจนสุก ใส่ซอสมะเขือเทศ และ มะเขือเทศสับลงไป คนให้เข้ากัน 3.โรยเกลือ น้ำตาล พริกไทย และออริกาโน่ เทน้ำและ ปรุงโดยใช้ความร้อนต่ำ ประมาณ 20 นาที แล้วค่อย เอาลงจากเตาแก๊ส พักไว้ด้านข้าง 4.ในการทำซอสชีส ตั้งกระทะ เปิดไฟปานกลาง ละลาย เนยที่เตรียมไว้ จากนั้นใส่แป้งแล้วคนให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทนมสดแล้วคนไปเรื่อย ๆ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และผงลูกจันทน์เทศ ใส่ชีสขูด แล้วคนจนเป็นแผ่นหนา เอาลงจากเตาและพักไว้ 5.ใส่แผ่นลาซานญ่าในถาด ตักซอสเนื้อใส่ลงไปบางๆ เกลี่ยให้ทั่วก้นถาด ตามด้วยซอสชีส และวางแผ่นลา ซานญ่าอีกชั้น ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เรียงสลับกันจน หมด 6.หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ให้นำเข้าเตาอบ ประมาณ 30 นาที ใช้ไฟอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส พอสุกดีแล้ว ก็พร้อมเสิร์ฟ BOOK BIBLE | 11
Pasta Primavera Primavera เป็นภาษาอิตาเลียนแปลว่าฤดูใบไม้ผลิ พาสต้าพรีมาวรี า กำเนิดในช่วงปี 1975 เป็นเมนูดังของร้าน Le Cirque ในเมืองนิวยอร์ก ที่มายังเป็นที่ถกเถียงกัน หนึ่งในที่มาเล่าว่าเกิดขึ้นโดยเชฟ Maccioni และทีมของเขา รสชาติที่ โดดเด่นมาจากผักที่ปรุงกับซอสที่ทำจากเนย ครีม และชีส สูตรนี้ผมเลือกใช้เส้นฟาฟาเลย์ที่มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ และใช้ผัก ที่สามารถหาได้ง่ายในบ้านเรา INGREDIENT ฟาฟาเลย์ เบอร์6 1200 กรัม ซูกนิ ี่ 1 ผล หน่อไม้ฝรั่ง 4 หน่อ บร็อกโคลี 120 กรัม ถัว่ ลันเตาหวาน 100 กรัม กระเทียม 3 กลีบ มะเขือเทศ 80 กรัม โหระพาอิตาเลี่ยน 10 + สำหรับเสิร์ฟ เนย 4 ช้อนโต๊ะ น้ำสต๊อกผัก ¼ ถ้วย ครีม ½ ถ้วย ชีสพาร์มิซาน (Parmesan Cheese) 45 กรัม เกลือปรุงรส พริกไทยปรุงรส HOW TO MAKE 1.หั่นบร็อกโคลีเป็นดอกๆ หั่นซูกินีเป็นเต๋า ผ่าครึ่งมะเขือ เทศควักไส้ออกหั่นเป็นเต๋า หั่นหน่อไม้เป็นท่อน พักไว้ 2.เตรียมหม้อต้มน้ำใบใหญ่ใส่เกลือ พอน้ำเดือด นำหน่อ ไม้ฝรั่ง บร็อกโคลี และถั่วลันเตาทั้งสองชนิดไปต้ม ตัก ออกมาล้างน้ำเย็นเพื่อหยุดความร้อน สะเด็ดน้ำ พักไว้ 3.ในหม้อใบเดิม นำพาสต้าลงไปต้มต่อให้ได้ระดับ Al dente 4.ละลายเนยในกระทะ สับกระเทียมใส่ลงไปพร้อมกับซู กินี ปรุงรสด้วยเกลือ ผัดให้สุกดี แล้วจึงใส่ผักลวก ที่พักไว้ตามลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย ใส่น้ำ สต๊อก และครีม 5.พอซอสเดือดอีกครั้ง ใส่ชีสพาร์มิซานลงไป ตามด้วย เส้นพาสต้า เคล้าให้เข้ากันดี ยกออกจากความร้อน ใส่ ใบโหระพาซอย และมะเขือเทศลงไป BOOK BIBLE | 12
THAI 3 ON EUSSI 8102 GUA FOOD BOOK BIBLE | 13
Tom Yam INGREDIENT HOW TO MAKE Goong กุ้งกุลาดำตัวใหญ่ หรือกุ้งแม่น้ำ 1. ก่อนอื่ นต้องแกะเปลือกกุ้งผ่าเอาเส้น ต้มยำเป็นอาหารไทยที่กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง เห็ดฟางผ่าครึ่ง ดำออกล้างให้สะอาด หั่นเครื่องต้มยำ ของประเทศไทย นิยมรับประทานกันทุกภาค และเป็นที่ พริกขี้หนู พริก ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดและเห็ด นิยมสำหรับชาวต่างชาติด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใบมะกรูดฉีกเอาก้านออก ให้พร้อม ต้มยำกุ้ง ซึ่งมีทั้งแบบน้ำข้นและน้ำใส สูตรนี้เป็นต้มยำ ข่าหั่นแว่น น้ำข้น ที่มีครบรส คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานเล็กน้อย ตะไคร้ทุบแล้วหั่นท่อน 2.นำน้ำซุปไปตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่อง ผกั ชี โรยหน้า ต้มยำลงไปให้หมด พอเดือดอีกครั้งก็ น้ำพริกเผา 1 ช้อนชา ใสกุ้งที่เตรียมไว้ลงไปเลย มะนาว 1 ลูก กะทิหรือนมข้นจืด 1/2 ถ้วย 3.หลังจากใส่กุ้งลงไปแล้ว ให้ใส่ น้ำตาล น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา พริกขี้หนู พริกเผา ใครชอบรส น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ แบบไหนใส่ลงไปตามชอบ ตามด้วยเห็ด เกลือ 1 หยิบมือ ฟาง น้ำซุป (ถ้าไม่มีเป็นซุปสำเร็จรูปกับน้ำเปล่า) 4. ปิดเตาแล้วค่อยปรุงด้วยมะนาว(เคล็ด ลับการบีบน้ำมะนาว ไม่ควรใส่มะนาวใน น้ำที่กำลังเดือด เพราะจะทำให้มะนาว และน้ำซุปมีรสชม) โรยเกลือนิดหน่อย เพื่อดึงรสเปรี้ยวหวานเค้มให้เข้มข้น มากยิ่งขึ้น 5.จัดชามเสิร์ฟ หั่นผักโรยหน้า เพิ่มความ หอม BOOK BIBLE | 14
Pad Thai ผัดไทยโดยทั่วไปจะนำ เส้นเล็ก มาผัดด้วยไฟแรงกับ ไข่ ใบ กุยช่าย สับ ถั่วงอก หัวไชโป๊ สับ เต้าหู้ เหลือง ถั่วลิสง คั่ว และ กุ้งแห้ง ปรุงรสด้วย พริก น้ำปลา และ น้ำตาล เสิร์ฟพร้อมกับ มะนาว ใบ กุยช่าย ถั่วงอกสด และ หัวปลี เป็นเครื่องเคียง ร้านผัดไทยบางแห่ง จะใส่เนื้อหมูลงไปด้วย บางที่อาจจะใช้เส้นจันท์ซึ่งเหนียวกว่าเส้นเล็ก เรียกว่า \"ผัดไทยเส้นจันท์\" หรือใช้ วุ้นเส้น เรียกว่า \"วุ้นเส้นผัดไทย\" รวมทั้งผัดหมี่โคราชที่มีลักษณะคล้ายผัดไทย กินกับ ส้มตำ INGREDIENT HOW TO MAKE วุ้นเส้นแบบแช่น้ำแล้วจนเส้นนุ่ม 1. นำกระทะตั้งไฟให้ร้อนพอประมาณแล้วใส่ ประมาณ 200 กรัม น้ำมันพืชลงไป จากนั้นให้ใส่หอมแดงและ ใบกุยช่าย 2 ต้นแบบหั่นท่อน กระเทียมสับลงไปเจียวพร้อมกัน เมื่อเริ่ม ถั่วงอกประมาณ 100 กรัม มีกลิ่นหอมให้ใส่ไชโป๊สับ กุ้งสด และเต้าหู้ หอมแดงสับแบบหยาบประมาณ 2 เหลืองลงไปผัดพร้อมกัน ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับละเอียดประมาณ 2 2.เติมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ บ พริกป่น ช้อนโต๊ะ และน้ำปลาตามปริมาณที่ระบุไว้แล้วผัดให้ ไชโป๊หวาน 3 ช้อนโต๊ะ เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เต้าหู้เหลือง 2 ช้อนโต๊ะ ถ้าต้องการเพิ่มโปรตีนและเป็นคน 3. จากนั้นให้นำวุ้นเส้นลงไปผัดร่วมกันสัก ชื่นชอบการทานกุ้ง ให้เพิ่มกุ้งสด ครู่ เมื่อเส้นนุ่มแล้วให้พักไว้ในกระทะสัก แบบปอกเปลือกแล้ว 5 ตัว หรือจะ ครู่ เปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ถั่วลิสงแบบคั่วบดแล้ว 1 ถ้วย 4. ตอกไข่ไก่ลงสู่กระทะแล้วผัดจนกระทั่งไข่ น้ำมันพืชประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แดงสุก จากนั้นให้ตักส่วนผสมที่ทำไว้ น้ำตาลปี๊ บ 2 ช้อนโต๊ะครึ่ง ทั้งหมดมาผัดรวมเข้ากับไข่ เพิ่มใบ น้ำมะขามเปียกประมาณ 3-4 ช้อน กุยช่ายกับถั่วงอกแล้วผัดให้เข้ากันอีก โต๊ะ เล็กน้อย น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 2 ช้อนชา 5. เมื่ อเห็นว่าวัตถุดิบและเครื่องปรุงเข้ากัน น้ำครึ่งถ้วย ได้ดี ให้ตักใส่จานแล้วนำถั่วลิสงคั่วบดมา โรยบนผัดไทยวุ้นเส้น จากนั้นให้ใส่พริก ป่นเพิ่ม วางมะนาวครึ่งซีกและมีถั่วงอก สดกับใบกุยช่ายแซมอีกเล็กน้อยเพื่อเป็น เครื่องเคียง BOOK BIBLE | 15
Somtum ส้มตำ เป็นอาหารปรุงมาจากการทำตำส้ม คือการทำให้เปรี้ยว ในลาวจะเรียกว่าตำหมากหุ่ง ปรุงโดยนำมะละกอดิบที่สับ แล้วฝานหรือขูดเป็นเส้นมาตำในครกเป็นหลัก พร้อมด้วยวัตถุดิบอื่น ๆ คือ มะเขือเทศลูกเล็ก มะเขือสีดา มะเขือเปราะ พริกสดหรือพริกแห้ง ถั่วฝักยาว กระเทียม และปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ บ น้ำปลา มะนาวและแหม่ม INGREDIENT HOW TO MAKE มะละกอดิบหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง 1.ใส่กระเทียมและพริกลงในครก ใช้สากตำพอ แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง แหลก จึงใส่กุ้งแห้งและตำต่อไปอีกสักพัก ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ 2.ใส่น้ำตาลปี๊ บ ตำต่อจนน้ำตาลละลาย จึงใส่ น้ำตาลป๊บี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีสามารถใช้ มะละกอฝอย, แครอทฝอย, ถั่วฝักยาว, น้ำตาลทรายแทนได้) มะเขือเทศ, ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและ น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว จากนั้นจึงตำต่อจนส่วนผสม มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึง่ ) ทั้งหมดเคล้ากัน กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง 3.ปรุงรสให้ถูกปากด้วย น้ำตาล, น้ำปลา หรือ พริกขี้หนู 10 เม็ด (ปรับตามความต้องการ) น้ำมะนาวเพิ่ม รสดั้งเดิมจะมีรสหวาน, เผ็ด กระเทียมสด 5 กลีบ และเปรี้ยวพอๆกัน 4.ตักใส่จานและโรยหน้าด้วยถั่วลิสง เสิร์ฟ พร้อมผักสด BOOK BIBLE | 16
Green Curry แกงเขียวหวาน เป็นอาหารไทยประเภทแกง ประกอบด้วย เนื้อ ปลา ไก่ หรือหมู และผัก ปรุงรสด้วยกะทิ มะเขือ น้ำตาล น้ำปลา ใบมะกรูด และใบโหระพา นิยมรับประทานกับข้าวสวย หรือขนมจีนน้ำพริกแกงมีสีเขียวเพราะใช้พริกขี้หนูสดสีเขียว บางท้องที่ใส่ใบพริกลงไปตำด้วย INGREDIENT พริกชี้ฟ้าเขียว 100 กรัม พริกขี้หนูสวนเขียว 20 กรัม กระเทียมไทย 80 กรัม หอมแดง 150 กรมั ข่า 30 กรัม ตะไคร้ 60 กรัม รากผักชี 15 กรัม ผิวมะกรูด 2 ช้อนชา ขมิ้นสด 1/2 ช้อนชา พริกไทยขาวเม็ด 15 เม็ด ลูกผักชีคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ ยี่หร่าคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ1ช้อนชา กะปิ1ช้อนโต๊ะ เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ 1 กิโลกรัม หัวกะทิ 500 กรัม หางกะทิ(กลาง) 1 กิโลกรัม มะเขือเปราะ 400 กรัม มะเขือพวง 100 กรัม ใบมะกรูดฉีก 8 ใบ โหระพาเด็ดเป็นใบ 50 กรัม น้ำปลา 50 กรัม น้ำตาลทรายแดง 20 กรัม พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 20 กรัม HOW TO MAKE 1.ใส่พริกไทย โขลกให้ละเอียด 2.ใส่พริกกับเกลือ โขลกให้ละเอียด 3.ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี โขลกจนละเอียด 4.ใส่หอมแดง กระเทียม เครื่องแกงที่เหลือ โขลกจนเข้ากันดี 5.ใส่กะปิ โขลกให้เข้ากัน 6. วิธีทําแกงเขียวหวาน 7.ตั้งหัวกะทิ 200กรัม ใช้ไฟแรงปานกลาง เคี่ยวให้มันแตก ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดให้สุก ค่อยๆเติมหัวกะทิที่ เหลือ 200กรัม ทีละน้อย ผัดจนแตกมันดี 8.ใส่เนื้อไก่ลงไปผัด ใส่ใบมะกรูดฉีก ผัดให้ไก่สุกดี เติมหาง กะทิกลางที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายแดง 9.ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไปในขณะที่น้ำแกงเดือด คนให้เข้ากัน 10.ปิดฝาหม้อ เพื่อไม่ให้มะเขือดำ ต้มจนมะเขือสุกดี ชิมรสอีก ครั้ง 11.ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ใบโหระพา ปิดไฟ เป็นอันเสร็จสำหรับแกง เขียวหวานไก่รสเด็ด BOOK BIBLE | 17
Massaman Curry แกงมัสมั่น เป็นอาหารประเภทแกงที่ได้รับอิทธิพลมาจาก อาหารมลายู ชาวไทยมุสลิมเรียกแกงชนิดนี้ว่า ซาละหมั่น แกง มัสมั่นแบบมุสลิมไทยออกรสหวานในขณะที่ตำรับดั้งเดิมของ ชาวมุสลิมออกรสเค็มมัน INGREDIENT พริกแห้ง 10 เม็ด หอมแดง 120 กรัม พริกไทย 3 กรัม ถั่วลิสงคั่ว 40 กรัม ตะไคร้ 40 กรัม ลูกเกดขาว 50 กรัม ลูกจันทร์ 1/2 ผล หัวกะทิ 550 กรัม ลูกผักชี 10 กรัม หางกะทิ 1 กิโลกรัม ดอกจันทร์ 3 ดอก ใบกระวาน 15 ใบ ข่าแก่ 3 กรัม ลูกกระวาน 10 เม็ด กานพลู 10 ดอก น้ำมันทอด(มรกต) 1 ลิตร กระเทียมไทย 26 กรัม น้ำมะพร้าว 250 กรัม อบเชย 1 ก้าน น้ำสับประรด 100 กรัม หอมแดง 50 กรัม ดอกเกลือ 10 กรัม เม็ดลูกกระวาน 10 กรัม น้ำปลา (หอยเป๋าฮื้อ) 50 กรัม ลูกผักชี 12 กรัม น้ำมะขามเปียก 50 กรัม ยี่หร่า 8 กรัม น้ำตาลมะพร้าว 170 กรัม เนื้อหมูสันคอ 1 กิโลกรัม น้ำส้มซ่า 60 กรัม มั่นฝรั่ง 500 กรัม น้ำมะนาว 4 กรัม น้ำพริกแกง 1 ส่วน HOW TO MAKE 1.คั่วถั่วลิสงและเครื่องเทศ เลาะเปลือกถั่วลิสง 2. เครื่องเทศโขลกให้ละเอียดคั่วน้ำพริกแกงและโขลกน้ำ พริกแกงให้ละเอียด 3.หั่นหมูชิ้นเขื่อง ๆ ตั้งกระทะจนเดือดใส่หมูและมันฝรั่ง ลงต้ม 4.ตั้งหัวกะทิให้เป็นขี้โล้ ผัดน้ำพริกแกงให้สุก ใส่เนื้อหมู ลงผัดพอเข้าที่ 5.ตักใส่หม้อเติมหางกะทิน้ำมะพร้าว น้ำสับประรด ใบ กระวาน ลูกเกดขาว และถั่วลิสง 6.หั่นมันฝรั่งชิ้นพอคำ นำลงทอดเมื่อสุกใส่ลงในน้ำแกง ปรุงรส ใส่ลูกเกด 7.เมื่อแกงได้ที่ใส่น้ำส้มซ่า น้ำมะนาว ปรับรสอีกครั้ง TIP เนื้อหมู หรือเนื้ออื่นๆที่ใช้ในแกงมัสมั่น ควรเลือกเนื้อที่ เหนียว หากใช้หมูควรเลือกส่วนสันคอ เพราะเนื้อส่วนนี้ จำมีความนุ่ม ไม่แห้งแข็งและส่วนของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (ผังผืด) จะช่วยเก็บรสชาติน้ำแกงไว้ภายใน ทำให้เมื่อรับ ประทานเนื้อจะมีรสชาติ การเลือกพริกแห้งในแกง ควรเลือกพริกแห้งสีแดงสด ไม่คล้ำมากเกินไป พริกคล้ำอาจเป็นพริกเก่า ทำให้สีแกง ไม่สวย และ อาจมีเชื้อราเกิดขึ้นได้ BOOK BIBLE | 18
Thai Sour Curry แกงส้ม เป็นอาหารไทย ประเภทแกง ที่ครบรสโดย มีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยเผ็ด หวาน เค็ม ใส่น้ำพริกแกงส้ม ผัก และ เนื้อ สัตว์ ทำโดยใช้ น้ำพริกแกงส้มละลายน้ำ ต้มให้เดือด ใส่ผักและเนื้อสัตว์ ปรุงรสด้วย น้ำมะขาม น้ำตาลปี๊ บ เกลือ และ วัตถุดิบพื้นบ้านที่ให้รสเปรี้ยว INGREDIENT พริกแห้ง 6 เม็ด หอมแดง 3 ช้อนโต๊ะ กระเทียม 5 กลีบ กะปิ 1 ช้อนชา กระชาย 5 แง่ง กุ้งต้มแล้ว 150 กรัม เกลือ 1 ช้อนชา พริกแกง กุ้งล้างปลอกเปลือกผ่า หลัง มะละกอ น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊ บ ½ ช้อนโต๊ะ น้ำมะขามเปียก 1-2 ช้อน HOW TO MAKE 1.โขลกเครื่องพริกแกงต่างๆ รวมกัน พอโขลกพริกแกงดีแล้วใส่ เนื้อกุ้งลงไปโขลกให้เข้ากัน 2. มะละกอล้างปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆ 3.ต้มน้ำด้วยไฟกลาง รอจนเดือด ใส่พริกแกงส้มลงไป 4.ใส่มะละกอลงไป จากนั้นเริ่มปรุงรสตามใจชอบเลยค่ะ 5.พอมะละกอเริ่มสุก ใส่กุ้งลงไป พอกุ้งสุก ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ TIP การใส่กุ้งไปโขลกกับน้ำพริกแกงส้ม จะทำให้น้ำแกงข้น มากขึ้น BOOK BIBLE | 19
Steamed HOW TO MAKE Curry 1.ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่กะหล่ำปลีหั่นฝอยลงไปให้หมดแล้วรีบตักขึ้นมา ใส่น้ำเย็นด้วยความเร็ว จากนั้นหยิบกะหล่ำปลีขึ้นมาบีบน้ำออก ใส่ลงใน หมก เป็นอาหารอีสานและอาหารลาวประเภทหนึ่ง เป็นการนำเนื้อ ภาชนะ เตรียมไว้ สัตว์และผักมาเคล้ากับน้ำพริกแกง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ห่อด้วย ใบตองทรงสูง นำไปนึ่งหรือย่างให้สุก ต้นหอมและใบแมงลักเป็น 2.ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปในอ่างผสม ใส่ไข่ที่ตีแตกแล้วลงไป ตามด้วย เครื่องปรุงสำคัญ บางถิ่นใส่ผักชีลาวด้วย ตัวอย่างอาหารประเภท น้ำตาลทราย และน้ำปลาคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว หมก ได้แก่ หมกหน่อไม้ หมกไข่ปลา หมกหัวปลี หมกไข่มดแดง หมกปลา หมกเห็ด หมกฮวก 3.แบ่งกะทิใส่ลงไปผสมให้เข้ากัน ตามด้วยเนื้อปลาบด 4.นวดให้เข้ากัน (นวดด้วยมือ หรือพายก็ได้ แต่ใช้มือดีกว่าจะได้สัมผัส INGREDIENT เนื้อปลาและพริกแกงได้ดีกว่า) ค่อย ๆ เติมกะทิที่เหลือลงไปจนหมด เนื้อปลาบด 500 กรัม แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนชา นวดจนส่วนผสมเหนียว เนื้อปลาสไลซ์ 200 กรัม กะหล่ำปลีซอย หรือผักกาดขาว 5.ใส่กะหล่ำปลีลวกลงไปในกระทง ตามด้วยใบโหระพา หยอดเนื้อห่อหมก น้ำพริกแกงเผ็ด 100 กรัม ใบโหระพา ลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยเนื้อปลาสไลซ์ และหยอดห่อหมกทับ ไข่ไก่ 1 ฟอง พริกชี้ฟ้าซอย ลงไปปิดท้ายจนเต็มกระทง น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดหั่นฝอย 6.นำห่อหมกใส่ที่นึ่ง เอาไปนึ่งบนน้ำเดือดพล่าน ใช้ไฟกลางสูงประมาณ น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง กระทงใบตอง (กระทงใบตองแห้ง 20 นาที กะทิ 2 ถ้วยตวง หรือถ้วย) 7.นำหัวกะทิผสมแป้งข้าวเจ้าคนให้เข้ากัน หรือนำเข้าไปในไมโครเวฟ หัวกะทิ (สำหรับตกแต่ง) 1/3 ถ้วย ประมาณ 40 วินาที แต่พอครบ 20 วินาทีให้เอาออกมาคนก่อนครั้ง หนึ่ง หรือจะเอาไปนึ่งก็ได้ 8.เมื่อห่อหมกครบเวลา 20 นาทีแล้ว หยอดหัวกะทิลงไปบนหน้าห่อหมก ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดงซอยและใบมะกรูดหั่นฝอย 9.นำห่อหมกไปนึ่งต่ออีก 5 นาที ตักออกมาใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ BOOK BIBLE | 20
3 ON EUSSI 8102 GUA
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: