Christmas Food

RECOM MEND! Editor : Karnklao Christmas Food.

Christmas Food Someone

คำนำ Christmas Food ในหนังสือออนไลน์(e-book) ผู้จัด ทำ จัดทำขึ้นเพื่อเป็ นส่วนหนึ่งของการแนะนำเมนูต่าง ๆ ในวันคริสมาสต์ เพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจมีไอเดียเกี่ยวกับเมนู อาหารยอดนิยมในวันคริสมาสต์ยึ่งขึ้น ผู้จัดจึงได้รวบรวมข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเมนูอาหารใน วันคริสมาสต์จากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น อินเตอร์เน็ต เพื่อหวัง Christmas Food ในหนังสือ ออนไลน์ (e-book) จะเป็ นแหล่งความรู้สำหรับที่ผู้สนใจ ไม่มากก็น้อย กาญจน์เกล้า ผู้จัดทำ

สารบัญ 1 3 5 7 9 11 13

Intro Risalamande Buche de Noel Turrón Eggnog Christmas Pudding Gingerbread

Christmas สำหรับอาหารในเทศกาลเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสนั้น ที่เรารู้กันดีว่า ต้องมี ก็คือ ไก่งวงอบ เป็ นพระเอกของโต๊ะนั่นเอง โดยชาวตะวันตกจะ มีธรรมเนียมให้ชายผู้อาวุโสที่สุดของบ้าน เป็ นคนตัดแบ่งไก่งวงให้แก่ สมาชิกทุกคน และในค่ำคืนนี้ เขาจะมีเครื่องดื่มสุดพิเศษประจำ เทศกาล ได้แก่ “คริสต์มาสไวน์” ถือเป็ นเครื่องดื่มที่เป็ นที่นิยมใน เทศกาลวันคริสต์มาสเช่นนี้มาก ส่วนหนึ่งเป็ นเพราะ ในวันคริสต์มาส ของทุกปี นั้นอยู่ในช่วงหน้าหนาว ชาวตะวันตกจึงนิยมดื่มไวน์ เพราะ ถือว่าเป็ นเครื่องดื่มที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

ในขณะที่อังกฤษเองนอกจากดื่มไวน์แล้ว ยังมี “วาสเซล” ซึ่งเป็ น เครื่องดื่มร้อนที่ผสมแอลกอฮอล์และเครื่องเทศ ไว้สำหรับดื่มใน เทศกาลวันต์มาสนี้เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีวัฒนธรรม ด้านอาหารในเทศกาลคริสต์มาสที่แต่ละประเทศมีไม่เหมือนกัน ด้วย เมนูประเทศไหนเป็ นอย่างไร มีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

Risala mande

Risalamande ทำจากข้าวเมล็ดกลมต้มกับนมจนแฉะคล้ายข้าวเปี ยก จาก นั้นนำมาคลุกกับวิปครีม ใส่น้ำตาลและเกลือลงไปเล็กน้อย ตามด้วยเมล็ด อัลมอนด์ทุบจนได้ข้าวแฉะๆ ที่มีรสชาติหอมมัน นุ่มละมุนลิ้น ต่อมาก็นำไป แช่เย็น ก่อนรับประทานคู่กับซอสสีแดงที่ทำจากน้ำเชอรี่ รสชาติออก เปรี้ยวหวานตัดความเลี่ยนของตัวข้าวได้อย่างดีเลิศ เสน่ห์ของประเพณี การรับประทาน Risalamande ที่เด็กๆ ชอบกันเป็ นพิเศษก็คือ แม่ครัวจะ ใส่เมล็ดอัลมอนด์ (ที่ยังไม่ได้ทุบ) ลงไปในหม้อข้าวต้มก่อนที่จะตักแบ่งให้ สมาชิกครอบครัวซึ่งมารวมตัวกันเพื่อ งานนี้โดยเฉพาะ และหากคนไหนได้ อัลมอนด์ (เต็มเมล็ด) จะถือว่าเป็ นผู้โชคดีได้รับของขวัญซึ่งเจ้าภาพเตรียม ไว้ แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามเผลอเคี้ยวและกลืนไปซะก่อน ไม่งั้นอด

Buche de Noel “ฝรั่งเศส” จะรับประทาน เค้กรูปขอนไม้ หรือ Buche de Noel หรือ Yule Log โดยมากเค้กชนิดนี้จะทำจากแผ่นสปั นจ์เค้กม้วนจน กลม (คล้ายๆ แยมโรล) ตกแต่งด้วยครีมสีน้ำตาล เป็ นเปลือกไม้ไอ ซิ่งแทนหิมะ เมอร์แรงแทนเห็ด ผลราสเบอรี่ และตามด้วยลูกสนจน หน้าตาดูเหมือนขอนไม้จริงๆ ตามตำนานเล่าว่า ในสมัยพระเจ้านโป เลียนที่ 1 ได้มีกฎให้ประชาชนในปารีสปิ ดปล่องไฟในระหว่างฤดู หนาว เพราะเชื่อกันว่า การเปิ ดปล่องไฟทิ้งไว้ทำให้อากาศหนาว เมื่ออยู่บ้านจะทำให้เจ็บไข้ได้ป่ วย คำสั่งนี้ทำให้ชีวิตของชาวปารีสที่ ผูกพันอยู่กับเตาผิงต้องเปลี่ยนไป และเพื่อระลึกถึงชีวิตเก่าๆ ที่ สวยงาม

จึงมีการทำเค้กรูป ขอนไม้เป็ น สัญลักษณ์ขึ้นมา แทนไม้ฟื นที่เคยใช้ เป็ นเชื้อเพลิง นอกจากนั้นก็ยัง เป็ นการสร้าง โอกาสให้สมาชิกใน ครอบครัวมาร่วม รับประทานเค้ก ด้วยกัน และพูดคุย เล่าเรื่องต่างๆ เหมือนครั้งที่เคย นั่งผิงไฟ สร้าง ความอบอุ่นร่วม กันเหมือนเมื่อตอน ที่เตาผิงยังใช้ได้อยู่

Turrón

ไปที่ดินแดนกระทิงดุกันบ้าง สเปนก็มีของหวานยอดฮิตที่ขาดไม่ได้ของชาว สเปน สำหรับเทศกาลคริสต์มาสในทุกๆ ปี คือ ขนมหวานที่เรียกว่า ตูรอน (Turrón) ดูไปดูมาอารมณ์ประมาณ “ถั่วตัด” บ้านเรา ทำจากน้ำผึ้ง ไข่ขาว และถั่ว มีทั้งแบบใส่อัลมอนด์ เฮเซลนัท และถั่วชนิดอื่นๆ นำมากวนให้เข้ากัน จนงวด แข็ง แล้วตัดแบ่ง มีทั้งแบบเป็ นแต่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบบกลม แบบ หนา แบบบาง ขนมตูรอนนั้นมีประวัติความเป็ นมาเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 บ้างก็ว่าขนมชนิดนี้แท้จริงแล้วถูกทำขึ้นครั้งแรกโดยแขกมัวร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคย เข้ามาครอบครองดินแดนแถบเมืองคิโคน่า แคว้นอลิกันเต้ ต่อมาก็แพร่หลาย และได้รับความนิยมไปถึงแคว้นอื่นๆ รวมทั้งประเทศที่เคยเป็ นอาณานิคมของ สเปนด้วย ไม่ว่าจะเป็ นฟิ ลิปปิ นส์หรือละตินอเมริกา

Egg nog

ที่อเมริกา นอกจากเมนูหลักๆ อย่างไก่ งวง และคริสต์มาสพุดดิ้งแล้ว แล้วที่นี่เขา ยังมีเครื่องดื่มแก้หนาวสูตรพิเศษที่เรียก ว่า เอ้กน็อค (EggNog) เพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่ง เจ้าเอ้กน็อคที่ว่านี้ทำมาจากครีม น้ำตาล นมสด และไข่ไก่ ก่อนจะนำไปปั่ นรวมกัน ก่อนจะเติมเหล้ารัมตบท้าย

Christmas Pudding

เสไัมกมแเญืกั่นอนสืตใา่่ชจอลงมรลรุ่ัะ่ผอผงกนทาะูต้จะสดชษบ้ตำีิอ้ไ่ามกอพาณอรกงุหน์ยใอรดืมุใ่นแ่่มาลนชนดาัั้คิหง้กกนอ่ชงพอ“ร้ง่เมธัุชวำคอปิคีงดต็ษสยนรกบูวนิดิาติกฐดส้ฤาคัผลงารนตนมษีชรท์ลน้เัคมนอฉวนไรัขทินามบบีพาด่้เอสนสแพอยวีานุ่่่พพี่ขวาหน้แะรุม้เรนดนทีงดาใปีเไ่็นผะดแมนเงดิืนป้ม้้คลสง็ออีกแน1ธ”ระมิอคลจ่อถรเขนรัออั่ก้ะิแร่บวจอนนนกิรมลคน้แสเขรลัะำเีอ้ัรลลนจเมารัก้ีชงวสวืงะยะพ่ษอำจอิหหเเมเณขพมหะอนศวว์ั่สา่ทรรกาษกขาีัถ่มบางมืคออีสอะเคหคสลงพยโมกี้นว่รดตดััำาิรนางสกถำยนงา็ชึวมสิงหะม่สกขาืัดามา้นบาเนทีึมสำ่ปกสุง็ตต่กตา่วนใข์ออรคนนอถนนง

Ginger bread

Gingerbread หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ขนมปั ง ขิง นั่นเองค่ะ ขนมปั งขิงมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ สมัยอียิปต์โบราณ ขนมปั งขิงในเทศกาล คริสต์มาสนิยมทำเป็ นรูปเด็ก (แต่ก็มีทำเป็ นรูป ทรงอื่นำได้เช่นกัน) แล้วตกแต่งหน้าตาด้วย น้ำตาลไอซิ่ง โดยจะใส่ส่วนผสมของเครื่องเทศ หลายหลากชนิด และหนึ่งในนั้นก็คือผงขิง ทำให้ขนมปั งขิงมีรสชาติของขิงที่โดดเด่นกว่า เครื่องเทศชนิดอื่น ทานกับชาร้อนเข้ากันสุดๆ