รา่ งกายมนษุ ย์
ทำไมนกั เรียน จึงควรเลือกรบั ประทำนอำหำรใหไ้ ด้รบั สำรอำหำรครบถว้ น ? ในปรมิ ำณที่เหมำะสมกับเพศและวัยของตนเอง
กำรเจรญิ เตบิ โตของรำ่ งกำยมนุษย์ วยั ทำรก วัยก่อนเรยี น วยั เรียน วยั ร่นุ วัยหนุ่มสำว วยั กลำงคน วัยสงู อำยุ 0 − 1 ปี 1 − 6 ปี 7 − 12 ปี 13 − 19 ปี 20 − 39 ปี 40 − 59 ปี 60 ปขี ึ้นไป วัยเด็ก วยั ร่นุ วัยผู้ใหญ่
วยั ทำรก วัยเดก็ ช่วงอำยุ ฟนั นำ้ นมเร่ิมข้นึ เมื่ออำยุประมำณ 5 – 6 เดือน ผวิ หนงั ออ่ นนุม่ ส่วนใหญ่มีสีชมพู 0 − 1 ปี มีกลำ้ มเนอื้ น้อย แขนและขำงออยู่เกอื บตลอด
วัยก่อนเรียน วยั เด็ก ชว่ งอำยุ รูปรำ่ งค่อยๆ ยืดตวั ออก ใบหน้ำและศีรษะจะ เล็กลง เม่อื เทยี บกบั ขนำดตวั 1 − 6 ปี ควำมสงู เฉลี่ยเพมิ่ ข้นึ ประมำณปีละ 7.5 เซนติเมตร แขน ขำ ลำตวั และคอเรยี วยำวขน้ึ อกและไหล่ กว้ำงขนึ้ มอื กับเท้ำใหญ่และแขง็ แรงขน้ึ
วยั เรยี น วยั เด็ก ชว่ งอำยุ ฟันนำ้ นมเริม่ หลดุ มฟี นั แทง้ อกข้นึ มำแทนที่ สว่ นสูงเพม่ิ ขนึ้ ประมำณ 4 - 5 เซนตเิ มตรตอ่ ปี 7 − 12 ปี น้ำหนกั ตวั เพ่มิ ขึ้นประมำณ 2 – 3 กโิ ลกรัม
วยั รนุ่ วยั รุ่น ชว่ งอำยุ เพศชำยเรมิ่ มหี นวดเครำ เสียงห้ำว ชว่ งแรกเพศหญงิ จะมนี ้ำหนกั และสว่ นสงู 13 − 19 ปี มำกกวำ่ เพศชำย เพศหญิงเรม่ิ มีประจำเดอื น แขน ขำ เริ่มยำวขึ้น
วยั หนมุ่ สำว วยั ผู้ใหญ่ ชว่ งอำยุ เพศชำยไหล่กวำ้ ง ขนำดของตน้ แขนเพม่ิ ข้ึน เพศชำยและเพศหญิง มพี ฒั นำกำรของรำ่ งกำย 20 − 39 ปี อย่ำงเตม็ ท่ี เพศหญิงเต้ำนมและสะโพกเจรญิ เตม็ ท่ี
วัยกลำงคน วยั ผใู้ หญ่ ชว่ งอำยุ ผวิ เรม่ิ ไม่เตง่ ตึง เคล่อื นไหวเร่มิ ชำ้ ลง น้ำหนกั ตวั เพ่มิ ข้ึน 40 − 59 ปี สำยตำเริ่มยำว หเู ริ่มตงึ เส้นผมเริม่ หงอก
วัยสูงอำยุ วยั ผู้ใหญ่ ช่วงอำยุ ผิวหนงั แตกแหง้ และเหี่ยวยน่ ผมเร่มิ เปล่ยี นเปน็ สีขำวและหลุดรว่ ง 60 ปีขึ้นไป สมองเริม่ เสอ่ื ม กลำ้ มเนอ้ื ลบี กระดูกเปรำะ
วิธีกำรตดิ ตำมกำรเจริญเติบโตของตนเอง ช่ังนำ้ หนกั และวดั ส่วนสูงของตนเองสมำ่ เสมอ อย่ำงน้อยปีละ 2 ครงั้ สำรวจและจดบนั ทึกกำรเปลี่ยนแปลงทำงร่ำงกำยตนเอง และนำมำเปรียบเทียบกับเกณฑ์มำตรฐำน สังเกตหรอื สอบถำมเพื่อนในวัยเดียวกัน เพือ่ เปรียบเทียบกำร เจรญิ เตบิ โตของตนเองกับเพอื่ น ควรเขำ้ รบั กำรตรวจสุขภำพประจำปี
สำรอำหำรท่จี ำเปน็ ตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของรำ่ งกำย แกงจดื เต้ำหูห้ มสู บั ยำวนุ้ เส้น ปลำทอด อำหำร หมำยถึง สง่ิ ที่เรำรบั ประทำน เขำ้ ไปในร่ำงกำยได้อยำ่ งปลอดภัย และมปี ระโยชน์ตอ่ รำ่ งกำย ต้มยำกุ้ง ผัดผักรวมมติ ร ตม้ ข่ำไก่ น้ำพริก-ปลำทู ขำ้ วผัด แกงเขียวหวำนไก่
อำหำรหลกั 1หมู่ท่ี 2หมทู่ ี่ เน้อื สัตว์ นม ไข่ ถั่วชนดิ ตำ่ งๆ ข้ำว แปง้ เผอื ก มนั น้ำตำล และอำหำรแปรรูปจำกแป้ง 3หมู่ท่ี 5หมทู่ ่ี พชื ผกั ชนดิ ต่ำงๆ ไขมันและน้ำมนั จำกพชื หรอื สัตว์ 4หมู่ที่ ผลไม้ชนดิ ตำ่ ง ๆ หมู่
สำรอำหำรมี 6 ประเภท ไดแ้ ก่ น้ำ เกลือแร่ โปรตีน วิตำมิน คำร์โบไฮเดรต เนย ไขมนั
สำรอำหำรประเภท คำรโ์ บไฮเดรต ใหพ้ ลังงำน ประโยชน์ ให้พลังงำนแก่ร่ำงกำยในกำรทำกิจกรรมตำ่ งๆ ให้ควำมอบอนุ่ แกร่ ่ำงกำย ใหพ้ ลังงำนเพอ่ื ทำกิจกรรม
สำรอำหำรประเภท โปรตีน ให้พลังงำน ประโยชน์ สร้ำงเซลล์กลำ้ มเน้ือและเนื้อเยอ่ื กระดกู ซ่อมแซมส่วนที่สกึ หรอ ช่วยเสรมิ สร้ำงภูมิต้ำนทำนให้ร่ำงกำย สรำ้ งภมู ิตำ้ นทำนตอ่ เช้อื โรค
สำรอำหำรประเภท ไขมัน ใหพ้ ลังงำน ประโยชน์ ให้ควำมอบอนุ่ แกร่ ำ่ งกำย เป็นตัวทำละลำยวติ ำมิน A D E และ K โทษของไขมนั หำกร่ำงกำยไดร้ บั ไขมนั มำกเกินไป อำจจะทำให้เกิดภำวะโรคอว้ น
สำรอำหำรประเภท วติ ำมิน ไมใ่ หพ้ ลังงำน ประโยชน์ ชว่ ยควบคุมกำรทำงำนของรำ่ งกำยใหป้ กติ ช่วยสรำ้ งภมู ิต้ำนทำนโรคตำ่ งๆ ช่วยให้ร่ำงกำยเจรญิ เติบโตและมีสุขภำพดี ช่วยให้รำ่ งกำยทำงำนไดเ้ ปน็ ปกติ
ช่วยทำใหก้ ลำ้ มเนื้อทำงำนได้ดแี ละ B1 A ช่วยบำรงุ สำยตำและช่วยบำรุง ช่วยป้องกันโรคเหน็บชำ ประเภทของวิตำมิน D และผวิ พรรณ หำกขำดจะทำให้เป็นโรคเหนบ็ ชำ B2 วติ ำมิน วติ ำมนิ หำกขำดจะทำใหผ้ มรว่ ง ผิวหนงั แห้ง เป็นสะเก็ด ชว่ ยป้องกันโรคปำกนกกระจอกและ ที่ละลำย ท่ลี ะลำย ชว่ ยป้องกนั กำรอักเสบที่ตำและปำก ช่วยให้กระดกู และฟนั แข็งแรงและ หำกขำดจะทำให้รมิ ฝปี ำกแห้ง ในนำ้ ในไขมัน E ทำให้เปน็ โรคกระดกู ออ่ น ลิ้นแตก ตำมวั CK หำกขำดจะทำให้รำ่ งกำย เจริญเติบโตช้ำ ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตำมไรฟันและ ทำให้ระบบขบั ถ่ำยทำงำนไดด้ ี ช่วยควบคมุ กำรทำงำนของระบบ หำกขำดจะทำใหเ้ ลือดออกตำมไรฟัน สืบพนั ธุ์ เหงือกบวม หำกขำดอำจทำให้เปน็ หมัน และ มบี ตุ รยำก ชว่ ยทำให้เลือดแข็งตวั เพือ่ ห้ำมเลือด ท่ีไหลออกจำกบำดแผล หำกขำดจะทำให้เลอื ดแขง็ ตัวช้ำ เมอ่ื มแี ผล
สำรอำหำรประเภท เกลือแร่ ไม่ใหพ้ ลงั งำน ประโยชน์ ชว่ ยควบคุมกำรทำงำนของร่ำงกำยใหป้ กติ ช่วยชะลอควำมเส่ือมของร่ำงกำย ช่วยใหร้ ำ่ งกำยเจริญเติบโตและมีสุขภำพดี ช่วยชะลอควำมเสอ่ื มของร่ำงกำย
เกลอื แร่ทค่ี วรรู้จกั ประโยชน์ ผลจำกกำรขำด แคลเซยี มCa • เสรมิ สรำ้ งกระดกู และฟนั ใหแ้ ข็งแรง • ทำให้เปน็ โรคกระดูกอ่อน • ช่วยในกำรทำงำนของกลำ้ มเน้ือและ กระดกู เปรำะและหักงำ่ ย ประสำท ฟนั ผุ P ฟอสฟอรสั ประโยชน์ ผลจำกกำรขำด • ทำหนำ้ ท่รี ว่ มกับแคลเซยี มในกำร • มอี ำกำรต่ำงๆ คลำ้ ยกับ สรำ้ งกระดูกและฟนั กำรขำดแคลเซยี ม เหล็ก ประโยชน์ ผลจากการขาด Fe • เปน็ ส่วนประกอบสำคัญของสำร • ทำให้เป็นโรคโลหติ จำง เฮโมโกลบนิ ในเม็ดเลอื ดแดง ออ่ นเพลียและเหนอ่ื ยง่ำย
เกลือแร่ท่ีควรรู้จัก ไอโอดีน ประโยชน์ ผลจำกกำรขำด I • ควบคมุ กำรเผำผลำญอำหำรให้เกิด • ทำให้เป็นโรคคอพอก พลังงำน ประโยชน์ ผลจำกกำรขำด โซเดียมNa • ควบคุมควำมสมดลุ ของน้ำภำยใน • ทำให้รำ่ งกำยออ่ นเพลยี และภำยนอกเซลล์ ควำมดันโลหติ ต่ำและเปน็ ตะครวิ งำ่ ย F ฟลอู อไรด์ ประโยชน์ ผลจำกกำรขำด • เปน็ สำรเคลือบฟันป้องกันฟนั ผุ • ทำให้ฟันผุง่ำย
สำรอำหำรประเภท นำ้ ไมใ่ ห้พลังงำน ประโยชน์ ช่วยในกำรขับถำ่ ยของเสยี เป็นส่วนประกอบของอวัยวะและสว่ นตำ่ งๆ ของรำ่ งกำย ช่วยลำเลียงสำรในร่ำงกำย ควบคมุ อณุ หภูมิร่ำงกำยให้คงท่ี ช่วยให้กำรขับถ่ำยของเสียดขี ้ึน
สดั ส่วนอำหำรและพลังงำนทร่ี ่ำงกำยต้องกำร แผนภมู ิแทง่ แสดงควำมต้องกำรพลงั งำนท่คี วรไดร้ ับใน 1 วัน (สำหรับคนไทย) กิโลแคลอรี (Kcal) 2500 − อำยุ (ปี) 2400 − 2300 − 2200 − 2100 − 2000 − 1900 − 1800 − 1700 − 1600 − 1500 − 1400 − 1300 − 1200 − 1000 − 13 45 68 9 12 13 15 16 18 9 12 13 15 16 18 19 30 31 50 51 70 71 ปีขน้ึ ไป 19 30 31 50 51 70 71 ปีขน้ึ ไป เด็กเลก็ วยั รุน่ ชำย วยั รุน่ หญงิ เพศชำย เพศหญงิ
เมอ่ื เรำได้รับพลงั งำนนอ้ ยหรอื มำกเกินไป พลงั งำนท่ไี ด้รบั นอ้ ยกว่ำพลังงำนทต่ี ้องกำร พลงั งำนทไ่ี ดร้ บั มำกกว่ำพลงั งำนที่ตอ้ งกำร ปรมิ ำณพลงั งำน ปรมิ ำณพลังงำน ที่ร่ำงกำยตอ้ งกำร ทร่ี ำ่ งกำยไดร้ บั ปริมำณพลังงำน ปรมิ ำณพลงั งำน ท่รี ำ่ งกำยได้รบั ที่รำ่ งกำยตอ้ งกำร พลงั งำนท่ีนอ้ ยกว่ำควำมตอ้ งกำรของรำ่ งกำยจะ พลังงำนท่ีมำกเกินควำมต้องกำรของร่ำงกำยจะถูก ทำให้รสู้ กึ ออ่ นเพลีย มึนงง ไมส่ ดชนื่ และไม่มแี รง สะสมในรปู ของไขมนั ซ่ึงเป็นสำเหตุของโรคอ้วน
ธงโภชนำกำร กล่มุ ขำ้ ว แป้ง ควรรับประทำนปริมำณมำกท่ีสดุ 8-12 ทพั พีต่อวัน กลมุ่ ผักและผลไม้ ให้สำรอำหำรประเภทคำรโ์ บไฮเดรต ซงึ่ เปน็ แหล่ง กล่มุ เนอื้ สัตว์ ถั่ว ไข่ และนม พลงั งำนหลัก กล่มุ นำ้ มัน นำ้ ตำล และเกลอื มีใยอำหำรและใหส้ ำรอำหำรประเภทวติ ำมนิ และเกลือแร่ นำ้ ควรรับประทำนปรมิ ำณรองลงมำ โดยรบั ประทำนผัก 4-6 ทพั พตี อ่ วัน รบั ประทำนผลไม้ 3-5 ส่วนต่อวัน ให้สำรอำหำรประเภทโปรตีนและเกลือแร่ ควรรับประทำนปริมำณท่ี พอเหมำะ โดยรับประทำนเน้ือสัตว์ 6-12 ช้อนโต๊ะต่อวัน ส่วนนมด่ืมได้ วันละ 1-2 แก้ว ให้สำรอำหำรประเภทไขมันและเกลือแร่ ควรรับประทำนในปริมำณน้อยที่สุด เท่ำทีจ่ ำเป็น นอกจำกสำรอำหำรในธงโภชนำกำรแล้ว น้ำก็เป็นสำรอำหำรหน่ึงที่ ร่ำงกำยขำดไม่ได้ โดยน้ำช่วยให้ระบบต่ำง ๆ ของร่ำงกำยทำงำนได้ เป็นปกติ เรำควรดมื่ นำ้ สะอำดอยำ่ งน้อยวนั ละ 6-8 แก้ว
ตวั อยำ่ งกำรเปรียบเทียบสดั ส่วนอำหำร กลมุ่ ข้ำว-แป้ง ขำ้ วสกุ 1 ทพั พี บะหม่ี 1 กอ้ น ขนมจีน 1 จับ ขนมปัง 1 แผ่น ผักคะน้ำสกุ 1 ทัพพี ผักบุ้งจนี สุก 1 ทัพพี ฟกั ทองสุก 1 ทัพพี แตงกวำดิบ 2 ผล กลุ่มผัก มะละกอสุก 6 − 8 ชิ้น กลุ่มผลไม้ เงำะ 4 ผล กล้วยนำ้ ว้ำ 1 ผล อง่นุ 6 − 8 ผล เตำ้ หูแ้ ขง็ 1 ชิ้น เนื้อหมสู ุก 1 ช้อนโตะ๊ (1 สว่ น) ปลำทู 1 ช้อนโตะ๊ ไข่ไก่ 1 ฟอง 4 นมสด 1 แก้ว โยเกิร์ต 1 ถ้วย 2 กลุ่มเนื้อสัตว์ นมพรอ่ งมันเนย 1 แก้ว กลุ่มนม
จำกตำรำงตัวอยำ่ งกำรเปรยี บเทยี บสัดสว่ นอำหำร เรำจะพบวำ่ กำรตวงนับ ปรมิ ำณอำหำรจะใชห้ นว่ ยแบบครัวเรือนไทย ซึ่งมตี วั อยำ่ ง ดังนี้ ทพั พี ช้อนโตะ๊ หรือชอ้ นกนิ ขำ้ ว ส่วน แก้ว ใช้ตวงปริมำณอำหำรกลุ่มของขำ้ ว ใชต้ วงปริมำณอำหำรกล่มุ เนอ้ื สัตว์ ใชต้ วงปริมำณอำหำรกล่มุ ผลไม้ ใชต้ วงปรมิ ำณอำหำรกลุ่มนม เช่น แปง้ ผกั เช่น คือ ผลไม้ 1 ส่วน เช่น • ขำ้ ว 1 ทัพพี หรือ 1 ถ้วยตวง • เนื้อหมสู กุ 1 ชอ้ นโตะ๊ ประมำณ 15 • สำหรบั ผลไม้ท่เี ปน็ ผล เช่น กล้วยนำ้ วำ้ • นมสด 1 แกว้ ประมำณ 200 มลิ ลลิ ติ ร ประมำณ 60 กรัม 2 กรัม 1 ผล เงำะ 4 ผล หรือ 200 ลูกบำศก์เซนตเิ มตร หรือ ซีซี • ผักสุก 1 ทพั พี หรอื 1 ถว้ ยตวง ประมำณ 40 กรมั 2 (cc) • ขนมปงั 1 แผ่น ประมำณ 30 กรัม • ไข่ไก่ 1 ฟอง ประมำณ 25 กรมั • สำหรับผลไมท้ ห่ี ัน่ เปน็ ชนิ้ เชน่ มะละกอ 2 สุก สบั ปะรด หรอื แตงโม 6 − 8 ชนิ้ • โยเกริ ต์ 1 ถว้ ย ประมำณ 150 กรัม ประมำณ 70 − 120 กรัม
กำรรับประทำนอำหำรในแตล่ ะมอื้ ควรคำนึงปรมิ ำณและคุณคำ่ สำรอำหำรที่ไดร้ ับให้เหมำะสม กับเพศ วยั และสภำพแวดลอ้ มของแต่ละบคุ คล เชน่ วยั เด็ก ต้องกำรโปรตีนสงู กวำ่ ปกติ เพรำะเป็นวัยทร่ี ำ่ งกำยกำลังเจริญเติบโต วัยผใู้ หญ่ ตอ้ งกำรโปรตีน คำรโ์ บไฮเดรต และไขมนั สูงกวำ่ วัยสงู อำยุ เพรำะเป็นวยั ทีต่ ้องใช้พลังงำนในกำรทำงำนสูง วัยสงู อำยุ ตอ้ งกำรคำร์โบไฮเดรตและไขมันนอ้ ยลง แต่ตอ้ งกำรโปรตนี วิตำมิน เกลอื แร่ เพอื่ นำไปซ่อมแซมและชะลอควำมเสื่อมของรำ่ งกำย สตรมี คี รรภ์ ต้องกำรสำรอำหำรทุกประเภทสูงกว่ำทกุ ๆ วัย เพรำะอำหำร บำงสว่ นถกู นำไปใช้เล้ียงทำรกในครรภ์และนำไปผลติ น้ำนม
ตวั อยำ่ งปริมำณอำหำรสำหรบั คนในวัยต่ำงๆ ท่คี วรรับประทำนใน 1 วนั ชนดิ ของอำหำร วัยก่อนวัยเรียน วยั เรยี น วยั หนุ่มสำว วยั ผู้ใหญ่ ไข่ 1 ฟอง 1 ฟอง 1 ฟอง 1 − 1 ฟอง นม 2 2−4 ขำ้ วทห่ี งุ สกุ แล้ว 3−4 3−4 0−1 เนื้อสัตว์และ แก้ว เครือ่ งในสตั ว์ แก้ว แกว้ แกว้ 1 − 3 ถ้วยตวง ไขมันหรอื นำ้ มัน 4 − 5 ถว้ ยตวง 5 − 6 ถว้ ยตวง 3 − 6 ถว้ ยตวง 2 ผกั ใบเขียว ประมำณ 180 กรัม ประมำณ 200 กรมั ประมำณ 150 กรมั 3 − 4 ชอ้ นโต๊ะ (≈ 3 − 1 ถ้วยตวง) (≈ 1 ถ้วยตวง) (≈ 3 ถ้วยตวง) ผลไม้ 2 ช้อนโต๊ะ 4 4 4 − 8 ชอ้ นโต๊ะ มอื้ ละ 3 ผล 2 1 − 3 ชอ้ นโตะ๊ 2 1 − 3 ช้อนโตะ๊ 2 1 − 4 ชอ้ นโต๊ะ 2 2 2 4 1 − 1 ถ้วยตวง 1 − 2 ถ้วยตวง 1 − 2 ถว้ ยตวง 2 มื้อละ 1 − 1 ผล มอ้ื ละ 1 − 1 ผล มอ้ื ละ 1 − 1 ผล 2 2 2
วัตถุเจอื ปนอำหำร คอื สำรเคมที ี่ชว่ ยเสริมหรอื ชว่ ยเพิ่มสมบตั บิ ำงอย่ำงให้กับอำหำร เชน่ วตั ถใุ หค้ วำมหวำนแทนน้ำตำล วตั ถุปรุงแต่งรสอำหำร สำรควบคมุ ควำมเปน็ กรด สำรควบคุมควำมเป็นกรด สำรแต่งกล่นิ สังเครำะห์ สำรใหค้ วำมข้นเหนียว สำรแตง่ กล่นิ เลียนแบบธรรมชำติ สีสังเครำะห์
หลกั โภชนบัญญัติ 5 ดื่มนมให้เหมำะสมตำมวยั 1 กนิ อำหำรให้ครบ 5 หมู่ แตล่ ะหม่ใู ห้ ประกำร 6 กนิ อำหำรท่ีมีไขมนั แตพ่ อสมควร หลำกหลำย และหม่นั ดแู ลน้ำหนกั ตัว 7 หลีกเล่ียงกำรกินอำหำรทีห่ วำนจดั 2 กินขำ้ วเปน็ หลกั สลบั กับอำหำรประเภท และเคม็ จัด แปง้ บำงมอ้ื 8 กินอำหำรทสี่ ะอำด ปรำศจำกกำร 3 กนิ พชื ผักให้มำกและกินผลไมเ้ ป็น ปนเปื้อน ประจำ 9 งดหรือลดเครือ่ งดื่มทม่ี ีแอลกอฮอล์ 4 กินปลำ เนื้อสตั วไ์ มต่ ิดมัน ไข่ และถ่ัวเมล็ดแห้งเป็นประจำ
ทำไมนักเรยี น ? สรุป เพรำะอำหำรช่วยให้ จึงควรเลือกรบั ประทำนอำหำรให้ไดร้ ับสำรอำหำรครบถว้ น รำ่ งกำยเจริญเตบิ โต ในปริมำณท่ีเหมำะสมกบั เพศและวัยของตนเอง เพรำะอำหำรช่วยให้ เพรำะอำหำรช่วยให้ รำ่ งกำยแข็งแรง และมี พลังงำนแกร่ ำ่ งกำย ในกำรทำกจิ กรรมตำ่ งๆ สุขภำพดี
ระบบย่อยอำหำร สำคญั กบั ร่ำงกำยของเรำอยำ่ งไร ?
นพร้ไู หมว่ำ ระบบยอ่ ยอำหำร ระบบย่อยอำหำร ทำหน้ำที่ย่อยอำหำร มีหน้ำที่อย่ำงไร ที่เรำรับประทำนเข้ำไปให้เป็นสำรอำหำร ขนำดเล็ก จนร่ำงกำยสำมำรถดูดซึมเข้ำสู่ มีหน้ำท่อี ย่ำงไร หลอดเลือดและถูกลำเลียงไปยังส่วนต่ำง ๆ หรอครบั ของร่ำงกำย
ระบบย่อยอำหำร ประกอบดว้ ยอวัยวะทเี่ ป็นทำงเดนิ อำหำรและอวยั วะท่ีชว่ ยสรำ้ งน้ำดีและเอนไซม์สำหรบั กำรย่อยอำหำร ดงั น้ี ปำก (ฟนั ลิ้น ต่อมน้ำลำย) ตบั หลอดอำหำร ตบั ออ่ น กระเพำะอำหำร ลำไส้เลก็ ลำไสใ้ หญ่ ทวำรหนัก
กำรทำงำนของอวยั วะในระบบยอ่ ยอำหำร กำรย่อยอำหำรเป็นกำรเปลยี่ นแปลงโมเลกุลของ สำรอำหำรใหม้ ีขนำดเล็กลง จนร่ำงกำยสำมำรถดดู ซึมไปใชป้ ระโยชน์ได้ 1.กำรย่อยเชิงกล แบ่งกำรยอ่ ยออกเปน็ 2 ประเภท คอื 2.กำรยอ่ ยเชิงเคมี เป็นกำรย่อยอำหำรโดยไมใ่ ช้เอนไซม์ ได้แก่ เปน็ กำรยอ่ ยอำหำรโดยใชเ้ อนไซมย์ อ่ ยสลำย กำรบดเค้ียวอำหำรในปำก สำรอำหำรประเภทคำร์โบไฮเดรต โปรตนี และ กำรบบี ตัวของทำงเดนิ อำหำร ไขมนั ซ่งึ พบได้ที่บรเิ วณปำก กระเพำะอำหำร ซ่ึงจะพบในหลอดอำหำร และลำไสเ้ ล็ก กระเพำะอำหำร และลำไส้เล็ก
ข้นั ตอน เมอ่ื เรำรบั ประทำนอำหำรเขำ้ ไปภำยในปำกจะมฟี นั เค้ยี วอำหำร ลน้ิ ชว่ ย 1 คลุกเคลำ้ อำหำร และตอ่ มนำ้ ลำยจะขบั น้ำลำยท่ีมีเอนไซม์อะไมเลสออกมำ ทำงำนร่วมกนั ย่อยสำรอำหำรประเภทคำร์โบไฮเดรต ของอวยั วะตำ่ งๆ ในระบบยอ่ ยอำหำร หด 2 เมือ่ อำหำรเริ่มเคลอื่ นท่ผี ่ำนคอหอยเขำ้ สู่หลอดอำหำร กล้ำมเน้ือหลอดอำหำรจะ คลำย หดและคลำยตัว เพอื่ บีบใหอ้ ำหำรเคล่ือนทไี่ ปยังกระเพำะอำหำร กล้ำมเนื้อกระเพำะอำหำรหดและคลำยตวั เพ่อื คลกุ เคล้ำอำหำรและจะผลติ 3 เอนไซม์เพปซินออกมำยอ่ ยอำหำรประเภทโปรตีนให้มขี นำดเล็กลง แล้วส่ง ตอ่ ไปส่ลู ำไสเ้ ลก็ ลำไสเ้ ลก็ รับนำ้ ดที ่ีส่งมำจำกตับ เอนไซม์จำกตับอ่อน และเอนไซมท์ ่ผี ลติ ข้ึนที่ 4 ลำไส้เล็กเองเพื่อย่อยสำรอำหำรทกุ ประเภทใหม้ ขี นำดเล็กจนเซลลส์ ำมำรถดดู ซึม ผำ่ นผนังลำไส้เล็กเข้ำสูก่ ระแสเลือด สง่ ไปยงั สว่ นตำ่ งๆ ของร่ำงกำย กำกอำหำรที่เหลอื จำกกำรย่อยและสว่ นทย่ี ่อยไม่ไดจ้ ะถูกส่งจำกลำไส้เล็กตอ่ ไปยงั 5 ลำไสใ้ หญ่ ซึ่งทำหน้ำทด่ี ดู น้ำ วิตำมินและเกลือแร่บำงส่วน กลบั เข้ำส่รู ่ำงกำย สว่ นกำกอำหำรถูกขบั ถ่ำยเป็นอุจจำระออกจำกรำ่ งกำยผ่ำนทวำรหนัก
หน้ำทข่ี องอวัยวะต่ำงๆ ในส่วนทีเ่ ป็นทำงเดินอำหำร 1. ปำก (Mouth) ล้ิน (Tongue) เปน็ จดุ เรม่ิ ต้นของทำงเดินอำหำร ทำหน้ำท่ี คลกุ เคลำ้ อำหำร ช่วยกำรกลนื และรับรสชำติอำหำร ประกอบด้วย 3 สว่ น ได้แก่ ฟนั (Tooth) ตอ่ มน้ำลำย (Salivary gland) ทำหน้ำที่ ตัด ฉีก บด และเค้ยี วอำหำร มี 3 คู่ อยู่บรเิ วณใต้ขำกรรไกรใต้ลิน้ ใหม้ ขี นำดเลก็ ลงกอ่ นจะกลืน และข้ำงกกหู ทำหนำ้ ที่ สร้ำงนำ้ ลำยที่ประกอบด้วยนำ้ สำรเมอื ก และเอนไซม์ (น้ำยอ่ ย) ที่ใชย้ อ่ ยคำรโ์ บไฮเดรต
หนำ้ ทขี่ องอวัยวะตำ่ งๆ ในส่วนทีเ่ ปน็ ทำงเดนิ อำหำร 2. หลอดอำหำร (Esophagus) มีลักษณะเปน็ ทอ่ ตรงยำวประมำณ 25 เซนตเิ มตร อยบู่ รเิ วณหลงั ทอ่ ลม มีกล้ำมเนือ้ ที่ สำมำรถหดและคลำยตวั ได้ หลอดอำหำร ทำหน้ำที่ ลำเลียงและส่ง อำหำรไปยงั บรเิ วณกระเพำะอำหำร โดยกลำ้ มเนอื้ จะบบี ตวั ทำใหอ้ ำหำร เคลื่อนทผ่ี ่ำนไปได้
ขนั้ ตอนกำรกลนื อำหำร 1 ขณะเค้ยี วอำหำร ฝำปดิ กล่องเสยี ง และกำรลำเลยี งอำหำร ยกตัวสงู กลำ้ มเนอื้ หูรดู ท่ีอยบู่ ริเวณ หลอดอำหำรหดตัว ลงสู่กระเพำะอำหำร 2 ขณะกลืนอำหำร ฝำปิดกล่องเสียง เล่ือนลงมำปิดกล่องเสียง กล้ำมเนื้อ หูรูดท่ีอยู่บริเวณหลอดอำหำรมีกำร คลำยตัว 3 กล้ำมเนื้อหลอดอำหำรหดตัวและ คลำยตัว เพื่อชว่ ยลำเลียงอำหำรลงไป ยังกระเพำะอำหำร
หน้ำทข่ี องอวยั วะต่ำงๆ ในสว่ นท่ีเปน็ ทำงเดินอำหำร 3. กระเพำะอำหำร (Stomach) กระเพำะอำหำรประกอบดว้ ยเซลล์ 3 ชนดิ ทำหน้ำทีต่ ำ่ งกนั ดงั น้ี อย่ใู นช่องทอ้ งคอ่ นไปทำงฝัง่ ซำ้ ยมอื มกี ล้ำมเนื้อหนำ แขง็ แรง และยืดหย่นุ ไดด้ ี 1. สร้ำงสำรเมือก เพอ่ื ปอ้ งกันไม่ให้น้ำยอ่ ยต่ำงๆ ยอ่ ยเนอ้ื เยื่อของกระเพำะอำหำร นอกจำกนี้ ยังมเี อนไซม์ เรนนิ (นำ้ ย่อย) เพื่อใช้ 2. สร้ำงกรดไฮโดรคลอริก ทำให้กระเพำะอำหำร ยอ่ ยโปรตนี ในนำ้ นม มีสภำพเปน็ กรด 3. สรำ้ งเอนไซม์เพปซิน (นำ้ ยอ่ ย) เพอ่ื ย่อย สำรอำหำรประเภทโปรตีนให้มีขนำดเล็ก แล้วส่งตอ่ ไปยังลำไสเ้ ล็ก
หน้ำท่ขี องอวยั วะตำ่ งๆ ในส่วนท่เี ป็นทำงเดนิ อำหำร 4. ลำไส้เล็ก (Small intestine) ลำไสเ้ ลก็ ทำหน้ำท่ี ย่อยอำหำรและดดู ซึม สำรอำหำรมำกทสี่ ดุ ในทำงเดินอำหำร เป็นอวัยวะทร่ี ับอำหำรตอ่ มำจำกกระเพำะอำหำร โดยจะสร้ำงเอนไซม์ (นำ้ ยอ่ ย) หลำยชนดิ มีลักษณะเปน็ ทอ่ ยำวประมำณ 6 − 7 เมตร และกว้ำงประมำณ 2.5 เซนติเมตร รวมท้ังรบั น้ำดีจำกตบั ท่สี รำ้ งแลว้ มำเกบ็ ไว้ มว้ นขดอยู่ภำยในช่องท้อง ในถงุ นำ้ ดี และเอนไซม์ (นำ้ ย่อย) จำกตบั อ่อน เพ่ือย่อยสำรอำหำรทุกประเภท
หน้ำทข่ี องอวยั วะต่ำงๆ ในสว่ นท่เี ป็นทำงเดินอำหำร 5. ลำไส้ใหญ่ (Large intestine) ลำไสใ้ หญ่ ทำหนำ้ ที่ • ดูดซึมน้ำ วิตำมิน และเกลือแร่ที่เหลือ เปน็ ทอ่ ทีต่ อ่ จำกลำไส้เล็ก มีควำมยำวประมำณ 1.5 เมตร บำงส่วน จำกกำกอำหำรที่ไม่มีกำรย่อย กว้ำงประมำณ 6 เซนตเิ มตร แล้วกลบั คืนสู่กระแสเลือด โดยผนงั ด้ำนในของลำไสใ้ หญ่จะทำหนำ้ ท่ี ดูดซึมสำรตำ่ งๆ ท่ียงั เหลืออยใู่ นกำกอำหำร • กำกอำหำรที่ถูกดูดซึมแล้วจะมีลักษณะ เหนียวข้น หำกไม่มีกำรถ่ำยอุจจำระ ทีถ่ กู ส่งมำจำกลำไสเ้ ลก็ หลำยวันจะแข็งตัว เนื่องจำกลำไส้ใหญ่ จ ะ ดู ด น้ ำ อ อ ก จ ำ ก ก ำ ก อ ำ ห ำ ร ม ำ ก เกินไป
หนำ้ ท่ขี องอวยั วะต่ำงๆ ในส่วนท่เี ป็นทำงเดินอำหำร 6. ทวำรหนัก (Anus) ทำหน้ำท่ี ขบั กำกอำหำรที่สะสมและรวมกัน อยู่ในลำไสต้ รงใหอ้ อกจำกร่ำงกำย ในรปู ของอุจจำระ
หน้ำทข่ี องอวยั วะในส่วนท่ีช่วยสรำ้ งน้ำดีและเอนไซมส์ ำหรบั กำรยอ่ ยอำหำร ตบั (Liver) ตบั ออ่ น (Pancreas) ทำหน้ำที่ สร้ำงนำ้ ดที มี่ สี ีเขียวเขม้ และมีกลน่ิ ฉนุ ทำหนำ้ ที่ สรำ้ งเอนไซมห์ ลำยชนดิ ที่ใช้สำหรบั แลว้ ส่งไปเก็บทถ่ี งุ นำ้ ดี กำรยอ่ ยสำรอำหำร จำกนนั้ จะส่งไปท่ลี ำไส้เล็ก น้ำดจี ะถกู สง่ เขำ้ สู่ลำไสเ้ ล็ก เพอ่ื ช่วยยอ่ ยไขมนั เอนไซมค์ อื อะไร ? โดยทอ่ ส่งนำ้ ดีของตบั และทอ่ สง่ เอนไซมท์ ่ีมำจำก ตบั ออ่ นจะเปดิ ท่บี รเิ วณลำไสเ้ ลก็ สว่ นต้นเมอื่ มี กำรยอ่ ยอำหำรเกิดขนึ้ ถงุ เกบ็ นำ้ ดี (Gallbladder) ทำหนำ้ ที่ เก็บนำ้ ดีที่ผลิตจำกตับ แลว้ สง่ ตอ่ ไปทล่ี ำไส้เลก็ สว่ นตน้ ดงั นั้น ถงุ นำ้ ดจี ึงไม่ไดท้ ำหน้ำทผ่ี ลิตนำ้ ดี
เอนไซม์ เป็นสำรอินทรีย์ประเภทโปรตีนทส่ี ร้ำงขน้ึ โดยเซลลข์ องสิ่งมีชวี ิต ทำหน้ำท่ี เป็นตัวเร่งอตั รำกำรเกิดปฏิกริ ิยำเคมีท่ีเกิดขึ้นภำยในเซลล์ของสง่ิ มีชวี ติ ตำ่ ง ๆ เอนไซมม์ คี วำมสำคัญต่อกระบวนกำรต่ำงๆ ในรำ่ งกำยของเรำ เช่น เอนไซมท์ ่ี ทำหน้ำทใ่ี นกำรย่อยอำหำร เรำเรียกวำ่ นำ้ ยอ่ ย เอนไซม์ อำหำร
แนวทำงในกำรดแู ลอวัยวะในระบบยอ่ ยอำหำร ระบบยอ่ ยอำหำรเป็นระบบท่ีมคี วำมสำคัญตอ่ ร่ำงกำย ดงั นน้ั เรำควรปฏบิ ตั ติ นและดแู ลรักษำอวัยวะตำ่ ง ๆ เช่น 1 รับประทำนอำหำรทส่ี ะอำดและปรงุ สุกใหม่ 2 รับประทำนอำหำรท่มี ใี ยอำหำรสูง ไดแ้ ก่ ผักและผลไมต้ ำ่ งๆ 3 รบั ประทำนอำหำรให้เปน็ เวลำ ครบทง้ั 3 มื้อ และรับประทำนอำหำรในปริมำณที่เหมำะสม 4 หลกี เล่ยี งกำรรบั ประทำนอำหำรทีม่ ีรสจดั เพรำะจะทำให้เกดิ กรดในกระเพำะอำหำรมำกเกินไป
แนวทำงในกำรดูแลอวัยวะในระบบย่อยอำหำร 5 ออกกำลงั กำยสมำ่ เสมอ เพ่อื ช่วยใหอ้ วยั วะตำ่ งๆ แขง็ แรง และทำงำนได้เปน็ ปกติ 6 หลกี เลีย่ งเนือ้ สตั วต์ ดิ มันหรืออำหำรท่มี ีไขมนั สูง 7 หลกี เลีย่ งกำรสบู บุหรีห่ รือกำรดมื่ เครื่องดืม่ ทม่ี ีแอลกอฮอล์ 8 ดื่มนำ้ อยำ่ งน้อย 6 − 8 แกว้ หรือ 2 ลติ รตอ่ วัน หรอื ตำมทร่ี ่ำงกำยตอ้ งกำรตอ่ วัน
สรปุ ระบบยอ่ ยอำหำรสำคัญกับร่ำงกำยของเรำอย่ำงไร ? ระบบยอ่ ยอำหำรมคี วำมสำคญั ตอ่ รำ่ งกำยของเรำ เพรำะร่ำงกำยของเรำต้องกำร สำรอำหำรไปเล้ยี งส่วนตำ่ งๆ ของร่ำงกำย อำหำรทเี่ รำรับประทำนเขำ้ ไปประกอบด้วยสำรอำหำรหลำยประเภทและมักมขี นำด ใหญเ่ กินกวำ่ ท่ีรำ่ งกำยจะดูดซึมเขำ้ ไปได้ ดังนัน้ ระบบยอ่ ยอำหำรจงึ มหี น้ำที่สำคัญ ในกำรยอ่ ยสำรอำหำรต่ำงๆ ใหม้ ีขนำดเล็กลง เมอ่ื รำ่ งกำยดดู ซึมสำรอำหำรเขำ้ สกู่ ระแสเลอื ด กจ็ ะไปเล้ียงส่วนต่ำงๆ ของรำ่ งกำย ทำให้รำ่ งกำยเจรญิ เติบโต แขง็ แรง และมีสขุ ภำพดี
Search