Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

aor

Published by Autchara Pinsinemoon, 2018-10-30 03:23:20

Description: aor

Search

Read the Text Version

ในประวตั ศิ าสตรน์ ้ันเราจะรกู้ นั ดกี วา่ มมี าหลายยคุ หลายสมยั แลว้ เร่มิ ตน้ ตง้ั แตบ่ รรพบรุ ุษแรกของสิ่งมีชวี ติ ลงิ วานร และเริ่มมวี วิ ฒั นาการกลายมาเป็นมนุษย์อย่างในปจั จบุ นั ซง่ึ เม่อื เรามกี ารพฒั นามากข้ึน การไลล่ ่า การกนิ การอยูร่ อด กต็ ามมาเร่อื ยๆในยุคแรกๆ หลายพนั ปีน้ันมสี ตั วห์ ลากหลายขนิดเกดิ ข้ึนมามากมาย และกม็ ไี มน่ อ้ ยทส่ี ญู พนั ธ์ไปเพราะเกดิ จากการไล่ล่าของมนุษย์น่ันเอง วนั น้ีทนี เอม็ ไทยมี 10สัตว์ดึกดาํ บรรพท์ ส่ี ูญพนั ธ์ุเพราะมนษุ ย์ใจร้ าย มาฝากเพื่อนๆ ให่อา่ นเป็นเกรด็ ความรเู้ ล็กๆ น้อยๆ กนั คะ น่ีเป็นเพียงส่วนหน่ึงทนี่ าํ มายกตวั อยา่ งนะคะ .. 10 สัตว์ดกึ ดาํ บรรพ์ ทส่ี ูญพันธ์เุ พราะมนษุ ย์ใจร้าย นกโดโด้1. นกโดโด้ : สูญพนั ธุ ตอนปลายของศตวรรษท่ี17นกโดโดห้ รอื ชอ่ื ทางวทิ ยาศาสตร์เรยี กวา่ Raphus Cucullatus เป็นนกทบ่ี นิ ไม่ได้แหลง่ ทอ่ี ยูอ่ าศยั คอื หมูเ่ กาะเมอริตสั เป็นนกในตระกลู เดยี วกนั กบั นกพิราบและนกนางแอน่ สงู ประมาณ 1 เมตร (3 ฟตุ ) กนิ ผลไมเ้ ป็นอาหารและมกั ทาํ รงั บนพน้ื ดนินกโดโดม้ กั จะไดเ้ ป็นสญั ลกั ษณข์ องการสูญพนั ธุ์ของสตั วต์ า่ งๆเพราะมนั เป็นสตั วช์ นิดแรกของโลกทส่ี ูญพนั ธุ์ในยคุ ท่ีมนุษยเ์ ริม่ บนั ทกึ การหายไปของสตั ว์ เพราะฉะน้ันฝรงั่ จะมสี าํ นวนทวี่ า่ “as deadas dodo” แปลไดว้ า่ ตายหยงั เขยี ดหรอื “togo the wayof the dodo” แปลไดว้ า่ การสูญพนั ธ์ุ หรือ ลา้ สมยั

เพนกวนิ ยกั ษ์2. เพนกวินยักษ์ : สูญพันธ์ใุ นปี 1844เพนกวนิ ยกั ษเ์ ป็นสตั วต์ ระกลู เดยี วกนั กบั เพนกวนิ ซง่ึ บนิ ไม่ได้ สูงประมาณ 75 เซนตเิ มตรหรือ 30-34 น้ิวและหนัก 5กโิ ลกรมัในสมยั กอ่ นพบมากในแถบหมู่เกาะนอกชาวฝัง่ ของแคนาดา กรีนแลนด์ ไอซแ์ ลนด์ นอรเ์ วย์ ไอแลนส์ และองั กฤษ แตจ่ ากการลา่ โดยไม่มกี ารจาํ กดั ทาํ ให้มนั สูญพนั ธ์ใุ นทสี่ ดุ กวางไอรชิ3. กวางไอริช :กวางทใ่ี หญท่ ่สี ุดในโลกสูญพนั ธ์ไุ ปเมอื่ 7,700ปี ก่อน

กวางไอรชิ หรือกวางยกั ษ์อาศยั ในแถบยูเรเชยี ตง้ั แตป่ ระเทศไอแลนด์ไปจนถึงเบงกอลในยุค Pleitocene ถงึ ชว่ งตน้ ยุคHolocene จากการศกึ ษาโครงกระดูกมนั มีชวี ติ อยใู่ นชว่ ง 5,700 BC หรอื 7,700 ปีทแ่ี ลว้ มนั สงู ถึง 2.1 เมตร หรอื ราวๆ 7 ฟุตวดั จากเทา้ ถงึ ไหล่ มีการถกเถียงกนั ถงึ สาเหตขุ องการสญู พนั ธข์ุ องมนั ซ่งึ สว่ นใหญบ่ อกวา่ เป็นเพราะขนาดทใ่ี หญข่ องมนั ทาํใหเ้ ป็นจดุ เดน่ สาํ หรบั ผูล้ า่ พะยนู สเตลล่า4. พะยนู สเตลล่า:สูญพนั ธ์ุในปี 1768สมยั กอ่ นมกั พบมากในเขตทะเลแบร์ลิง่ มนั ถกู พบเห็นเป็นคร้งั แรกในปี 1741 โดยนักธรรมชาตวิ ทิ ยา George Steller พยนู น้ีสามารถโตเตม็ ทแี่ ละยาวไดถ้ ึง 7.9 เมตร (25.9 ฟตุ ) และหนกั ไดถ้ งึ 3 ตนั จากการศึกษาฟอสซลิ ของมนั พยูนน้ีเคยอาศยั อยู่ในแถบทะเลแปซฟิ ิ คยาวไปถึงตอนใตข้ องญป่ี ่นุ และรฐั แคลิฟอเนียสาเหตหุ ลกั ๆทท่ี าํ ให้มนั สูญพนั ธุค์ อื การมาถงึ ของมนุษย์ในแถบชายฝั่งทะเล มีหลายคนอา้ งวา่ ยงั พบเห็นกลมุ่ พยนู สเตลลา่อยบู่ รเิ วณทะเลแบร์ลิ่งและชายฝั่งของประเทศกรนี แลนด์ ซ่งึ กอ็ าจจะยงั มพี ยนู แตลล่าบางส่วนเหลอื รอดมาไดแ้ ตก่ ไ็ มม่ ีหลกั ฐานมายืนยนั แตอ่ ย่างใด

คร่ึงมา้ ลาย คร่ึงมา้ (Quagga)5. ครึ่งม้าลาย คร่ึงม้า (Quagga) : สูญพนั ธ์ุในปี 1883หน่ึงในสตั วส์ ญู พนั ธท์ุ เ่ี ป็นทรี่ ูจ้ ักในแอฟริกา Quagga เป็นสตั วต์ ระกลู เดยี วกบั มา้ ลาย ซ่งึ ในชว่ งหน่ึงพบมากในแถบแอฟริกาใต้ เหมอื นสตั วอ์ ่ืนๆทถี่ ูกลา่ เพอ่ื นํามาเป็นอาหารQuagga ตวั สดุ ทา้ ยถกู ยงิ ในปี 1870 และ Quagga ในสวนสตั วต์ วั สุดทา้ ยของโลกตายเม่ือ 12 สงิ หาคม 1883 ที่ สวนสตั ว์Artis Magistra ในกรุงอมั ส์เตอร์ดมัเพราะความสบั สนในการแยกแยะวา่ Quagga ควรแยกเป็นสตั วอ์ ีกพนั ธุ์จากมา้ ลายหรอื ไม่ มนั กส็ ูญพนั ธไ์ุ ปซะกอ่ นกอ่ นที่มนั จะถกู จดั เป็นสตั วอ์ ีกพนั ธน์ุ ึงทไ่ี ม่ใชม่ า้ ลาย แตจ่ ากการศกึ ษารูปแบบ DNA ของมนั โดยศนู ย์วจิ ยั ของสมิธโซเนี่ยนพบวา่Quagga กค็ อื มา้ ลายธรรมดานี่เองเพียงแตม่ นั เริม่ กลายพนั ธุ์โดยไมท่ ราบสาเหตุ ววั ยกั ษ์ (Aurochs)

6. ววั ยกั ษ์ (Aurochs): สูญพนั ธ์ุในปี 1627เป็นสตั วท์ เ่ี ป็นทรี่ ูจ้ ักกนั อย่างดีในยโุ รป มีแหล่งกาํ เนิดในแถบประเทศอินเดียเมอ่ื กวา่ 2 ลา้ นปีกอ่ นและไดอ้ พยพไปอาศยั ในแถบเอเชยี และอพยพมาอยู่ในยโุ รปเม่อื ราวๆ 250,000 ปีกอ่ น จนเมอ่ื ศตวรรษที่ 13 จะพบมนั ไดเ้ ฉพาะในประเทศโปแลนด์ ลทิ เู นีย โมดาเวยี ทรานซลิ เวเนียและ ปรสั เซยีในสมยั กอ่ นผทู ้ จ่ี ะสามารถล่ามนั ไดม้ ีเฉพาะขุนนางผูใ้ หญแ่ ละเศรษฐเี ทา่ น้ัน เมือ่ การล่าเพิม่ มากข้ึนกฎหมายคมุ้ ครองมนั กถ็ ูกร่างข้นึ มาแตส่ าํ นักราชวงั ยงั คงตอ้ ง ทาํ การลา่ พวกมนั เพราะเป็นส่วนหน่ึงในประเพณีของราชวงศ์ทต่ี อ้ งคงไวแ้ ตห่ ากผูอ้ ื่นใดลา่ มนั จะถูกประหารชวี ติ ทนั ที ในปี 1564 มีการบนั ทกึ โดยราชวงศว์ า่ มี Aurochs เหลืออยเู่ พียง 38ตวั แมมมอธ7. ช้ างแมมมอธ : สูญพันธ์ 10,000 ปี กอ่ นเป็นชา้ งทอี่ าศยั อยใู่ นยุคน้ ําแขง็ เมื่อ20,000 ปีกอ่ น แตส่ ญู พนั ธ์ุไปเพราะถกู มนุษย์ยุคหินลา่ แมก้ อ่ นหนา้ น้ีจะมกี ารสนั นิษฐานสาเหตกุ ารตายของมนั วา่ เกดิ จากสภาพอากาศเปลยี่ นแปลงอยา่ งกะทนั หนั จึงทาํ ใหล้ ม้ ตาย แตห่ ลงั จากมีการคน้ พบสุสานชา้ งขนาดใหญ่ พรอ้ มดว้ ยอาวธู ยคุ หินจาํ นวนมากทฝี่ งั อยู่ใตก้ ระดูกของพวกมนั และดเู หมือนวา่ ทกุ ตวั จะกระดกู ขาหักเพราะตกจากทส่ี งู จึงทาํ ใหบ้ างสว่ นคดิ วา่ น่าจะเกยี่ วกบั การลา่ ของมนุษยด์ ว้ ย ซ่งึ เชอื่ วา่ มนุษยย์ คุ กอ่ นใชไ้ ฟและหอกปลายแหลมไล่ล่าเจา้ แมมมอธพวกน้ีให้ตกจากหน้าผา เพื่อใหง้ ่ายตอ่ การฆา่ ภายหลงั

นกพิราบ (PassengerPigeon)8. นกพิราบ(Passenger Pigeon): สูญพันธ์เมอื่ ปี 1914จากนกพิราบทเ่ี คยมนี ับพนั ลา้ นตวั ในทวปี อเมรกิ าเหนือ ดูเหมอื นวา่ พวกมนั ไดร้ บั ผลกระทบจากการตดั ไมแ้ ละไล่ล่าพวกมนั เพอื่ นําเน้ือมากนิ จนเกอื บสญู พนั ธใ์ นชว่ งยุค1890 แตก่ ย็ งั ประสบปญั หาเดิมอยใู่ นภาวะวกิ ฤติ กอ่ นทจี่ ะหายสาบสูญไปอบา่ งสมบรู ณ์ เมอื่ นกตวั สุดทา้ ยตายลงในปี 1924 ทสี่ วนสตั ว์ Cincinnati Zoological Garden เสือดาวแซนซบิ าร์ (Zanzibarleopard)9. เสือดาวแซนซบิ าร์ (Zanzibar leopard): สูญพันธ์เมอ่ื ปี 2000สตั วต์ ระกลู แมวยอดนกั ล่าทสี่ วยงามสายพนั ธ์นุ ้ี เคยอาศยั อยู่ในผนื ป่าบนเกาะแซนซบิ ารข์ องประเทศแทนซาเนีย เกาะแห่งน้ีตง้ั อยู่ในมหาสมทรุ อินเดีย นอกชายฝั่งอาฟริกาตะวนั ออก

เสือเหลา่ น้ีมีเฉพาะบนเกาะแซนซบิ าร์เทา่ น้ัน ทวา่ มขี อ้ มูลของพวกมนั อยู่น้อยมากโดยมหี นงั ของเสอื ดาวชนิดน้ีถกู เกบ็ ไว้เพียงหกผนื การขยายตวั ของชมุ ชนมนุษย์บนเกาะแห่งน้ีส่งผลคกุ คามตอ่ เสอื ดาว และเมือ่ พวกมนั เขา้ รบกวนสตั วเ์ ล้ียงและมนุษย์ พวกเสอื ดาวจึงถกู ไล่ล่าจนลดจํานวนลงเร่อื ยๆ จนกระทงั่ เมือ่ กลางทศวรรษที่ 1990 เสอื ดาวแซนซบิ ารก์ ถ็ กู ระบวุ า่สูญพนั ธ์ุ อย่างไรกต็ าม มีรายงานทไ่ี มแ่ น่ชดั ถงึ การพบเห็นเสอื ดาวบนเกาะแซนซบิ ารอ์ ย่เู ป็นระยะ ทวา่ ยงั ไม่มีหลกั ฐานอนื่ ท่ีชดั เจนถงึ การเหลอื อย่ขู องพวกมนั เสือทสั มาเนีย (TasmanianTiger)10. เสือทสั มาเนยี (Tasmanian Tiger) : สูญพันธ์ปี 1936หรอื เรียกอีกชอ่ื หน่ึงวา่ หมาป่าทสั มาเนีย (Tasmanian Wolf) ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์เรยี กวา่ Thylacine เป็นสตั วก์ นิ เน้ือทห่ี ายากซ่งึนักวทิ ยาศาสตร์ส่วนใหญล่ งความเห็นวา่ สูญพนั ธห์ุ มดไปจากโลกน้ีแลว้ เป็นสตั วก์ นิ เน้ือทใี่ หญท่ ส่ี ดุ ทสี่ ญู พนั ธุ์ในยคุปจั จุบนั ส่วนใหญท่ ส่ี ูญพนั ธ์จุ ะเป็นสตั วก์ นิ พืชซะมากกวา่ มีถิน่ กาํ เนิดในประเทศออสเตรเลียและปาปัวนิวกนิ ีย์ มกี ารพบเห็นหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ของเสอื ทสั มาเนียคร้งั สดุ ทา้ ย ในเวสตอ์ อสเตเลีย บนแผน่ ดินใหญ่แตพ่ บเป็นฟอสซลิ หรอืซากศพทต่ี ดิ อยใู่ นหินอายุประมาณ 3,100 ปีมีลกั ษณะคลา้ ยๆกบั สนุ ัขในบา้ นเรา แตม่ ฟี ันหน้าทแี่ หลมคม นอกจากน้ันลาํ ตวั และหางของเสือประเภทน้ีมีลกั ษณะคลา้ ยๆกบั จิงโจ้ บางครง้ั มนั ยนื ดว้ ยสองขาหลงั เหมือนจิงโจด้ ว้ ย เสือทสั มาเนียทชี่ าวออสเตเลียเคยเห็นเป็นขนปยุ ลายทางสนี ้ําตาลออ่ น มสี ีดาํ สลบั ทส่ี นั หลงั คอ่ นไปทางกน้

เสือทสั มาเนีย (TasmanianTiger)สาํ หรบั สาเหตทุ ท่ี าํ ให้เสือทสั มาเนียสญู พนั ธ์ุอาจมาจากหลายสาเหตดุ ว้ ยกนั ประการทเ่ี ห็นชดั ๆ คอื การล่าอยา่ งไม่มีของเขตเมอ่ื ชาวยโุ รปเขา้ มาตง้ั ถิ่นฐานใหมๆ่ น้นั เสอื ทสั มาเนียกเ็ ริ่มหดหายไปเน่ืองจากพวกทเี่ ขา้ มาใหมน่ ้ันนําแกะเขา้ มาเล้ยี ง โดยบริษทั VanDiemens Land Co. ใหค้ า่ หัวในการลา่ เสอื ทสั มาเนีย ตอ่ มารฐั บาลสงั่ หา้ มการล่าดงั กลา่ วเสยี แตก่ วา่ จะหยดุ ไดก้ ท็ าํ ให้เสอื ดงั กลา่ วหายากมาก ตามบนั ทกึ บอกวา่ เสือทสั มาเนียตวั สดุ ทา้ ยของโลกตายในสวนสตั วโ์ ฮบาร์ต ทสั มาเนีย เม่อื วนั ที่7 กนั ยายน พ.ศ.2479 และในปีน้ีเองรฐั บาลประกาศการสญู พนั ธอ์ุ ย่างเป็นทางการของเสอื ชนิดน้ี และอกี หลานสาเหตุ ไดแ้ กก่ ารทผ่ี คู ้ นไมใ่ สใ่ จจะอนุรกั ษ์สตั วป์ ระเภทน้ีไว้ แตบ่ างรายงานกบ็ อกวา่ เพราะการแพร่ระบาดของโรคบางชนิด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook