Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการค้นคว้าวิจัย ปี2563

รายงานการค้นคว้าวิจัย ปี2563

Published by Guset User, 2022-07-31 07:10:17

Description: รายงานการค้นคว้าวิจัย ปี2563

Search

Read the Text Version

การเรียนรู้จากงานวิทยานิพนธ์ 1. ช่ืองานวทิ ยานพิ นธ์ วศณิ ี สบื สทุ ธา. ความสัมพันธ์ระหวา่ งการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษากบั การเป็นองคก์ รแหง่ การเรยี นรขู้ องสถานศกึ ษา สงั กัดสานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ประถมศึกษาประจวบครี ขี นั ธ์ เขต 1. วทิ ยานิพนธ์ ค.ม. : มหาวทิ ยาลัย ราชภฏั เพชรบรุ ี เพชรบุรี, 2556. ถา่ ยเอกสาร. 2. ภูมิหลัง การเรยี นร้แู ละนวัตกรรมเปน็ ปัจจยั สาคญั ในการพัฒนาประเทศในอนาคต เพือ่ ให้ทุกคนมีสิทธิและ ความเสมอภาคในการเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนื่องตลอดชวี ิต “สงั คมแหง่ การเรียนรู้เป็นสงั คมแห่งภูมปิ ัญญา ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งตระหนกั ถงึ ความสาคัญและความจาเป็นของการเรียนรูท้ ท่ี ุกคนและทกุ ส่วนในสงั คมตอ้ งมีความใฝ่รแู้ ละ พรอ้ มท่ีจะเรียนรู้อยเู่ สมอ การเรียนรู้ตลอดชีวติ เปน็ เรอื่ งทีเ่ กิดขึ้นและมีความตอ่ เนื่องเปน็ ปกตวิ สิ ยั ใน ชีวติ ประจาวันของทุกคน ไปจนตลอดการสน้ิ อายุขยั เปน็ การเรียนร้ทู ่เี กิดขนึ้ ไดท้ กุ ท่ีทุกเวลาทุกสถานที่และ ทุกสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม ในสถานศึกษาก็เชน่ เดียวกนั การท่ีจะสรา้ งสมรรถนะคนในสถานศกึ ษาให้เป็น บุคคลแหง่ การเรยี นรู้น้นั ผบู้ รหิ ารจาเป็นต้องส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ วิเคราะหป์ ัญหาท่ีเกดิ จากการใช้นวตั กรรมเทคโนโลยีและสารสนเทศ สร้างแหลง่ การเรียนรแู้ ละเครือข่ายการ เรยี นรู้ รวมถงึ นวตั กรรมตา่ ง เพ่ือให้บคุ คลในสถานศึกษาเป็นบคุ คลแหง่ การเรียนรอู้ ย่างแท้จรงิ ดงั นน้ั จึงต้องใหค้ วามสาคัญและความสนใจในการศึกษาการบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การศกึ ษาที่สัมพันธก์ ับการเป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้ของสถานศึกษา เพื่อเปน็ การศึกษาการบรหิ ารเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการศึกษาท่สี ัมพันธ์กับการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ซึง่ จะนาไปสกู่ าร พฒั นาสถานศึกษาใหเ้ ป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีมาเป็นเครอื่ งมอื ในการขับเคลอื่ น โดยคาดว่า ผลการศกึ ษาจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการบรหิ ารการศึกษาในทกุ ด้าน โดยเฉพาะด้านการพฒั นาการเรียนรแู้ ละ ด้านการบริหารจัดการสถานศึกษา โดยทจ่ี ะนาเทคโนโลยมี าสนบั สนนุ การปฏริ ูปการเรยี นการสอน เช่น การ ใชส้ ื่อมัลตมิ เี ดีย การใช้อปุ กรณใ์ นการจดั เก็บข้อมลู การใช้นวัตกรรมต่างๆ และการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการ สบื คน้ ขอ้ มูล จะทาใหผ้ ้เู รียนปรับเปลย่ี นพฤติกรรมการเรยี นรู้ สามารถค้นคว้าดว้ ยตนเองได้ เกิดการทางาน เป็นทีม และที่สาคัญอยา่ งยงิ่ อีกประการหนงึ่ คอื การนาเทคโนโลยีมาบรหิ ารสถานศกึ ษาให้บคุ ลากรใน สถานศกึ ษาเกดิ การเรียนรู้ การมวี สิ ยั ทศั น์กว้างไกล เนื่องจากการเปิดรับขา่ วสารต่างๆ จากสื่อเทคโนโลยี ท้งั น้ีสถานศึกษาจะพัฒนากลายเปน็ องค์กรแหง่ การเรยี นรูไ้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ

2 3. คาสาคัญ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศ, การบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การศกึ ษา, องคก์ รแหง่ การเรียนรู้ 4. คาถามการวจิ ยั 1. การบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการศึกษาของสถานศกึ ษา สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศกึ ษาประจวบครี ีขันธ์ เขต 1 อยใู่ นระดับใด 2. การเป็นองคก์ รแหง่ การเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกดั สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ประจวบครี ขี ันธ์ เขต 1 อยู่ในระดบั ใด 3. การบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศึกษาและการเปน็ องค์กรแหง่ การเรยี นรูข้ องสถานศึกษา สังกัดสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 มีความสมั พันธ์การหรือไม่อย่างไร 5. วัตถปุ ระสงค์การวิจัย 1. เพอ่ื ศึกษาการบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการศึกษาของสถานศึกษา สงั กดั สานักงานเขต พื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาประจวบครี ขี ันธ์ เขต 1 2. เพอื่ ศึกษาการเปน็ องค์กรแหง่ การเรยี นรูข้ องสถานศึกษา สงั กดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษาประจวบคีรีขนั ธ์ เขต 1 3. เพือ่ ศึกษาความสมั พันธร์ ะหวา่ งการบรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศึกษาและการเปน็ องค์กร แห่งการเรยี นรู้ของสถานศึกษา สังกดั สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรีขนั ธ์ เขต 1 6. ขอบเขตของการวิจัย ในการวิจัยครง้ั น้ี ผวู้ จิ ัยมงุ่ ศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างการบรหิ ารเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศึกษา และการเปน็ องค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศกึ ษา สงั กดั สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา ประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1 ซ่งึ มีขอบเขตของข้อมูลในด้านตา่ งๆดังนี้ 1. ขอบเขตดา้ นประการกรและกลุม่ ตัวอย่าง 1.1 ประชากร ประชากรทีใ่ ช้ในการศึกษาครัง้ นี้ ได้แก่ ผู้บรหิ ารสถานศึกษาและครผู ูส้ อนใน สถานศกึ ษา สงั กดั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ปีการศกึ ษา 2553 จานวน 1,701 ประกอบด้วย ผบู้ ริหารโรงเรยี น จานวน 132 คนและครผู สู้ อนโรงเรยี น จานวน 1,569 คน

3 1.2 กลุ่มตัวอย่าง ท่ีใชใ้ นการวิจยั ครง้ั น้ี คอื ผบู้ ริหารสถานศึกษาและครผู ูส้ อนโรงเรียนใน สงั กดั สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธเ์ ขต 1 ปีการศึกษา 2553 โดยการสมุ่ ขนาด กลมุ่ ตัวอย่างจากตารางของยามาเน่ (Yamame, 1967 : 297) ปรากฏว่าตอ้ งใชก้ ลุ่มตัวอย่าง จานวน 476 กาหนดกลุ่มตัวอยา่ ง ดงั นี้ 1.2.1 ผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดสานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1 ปีการศึกษา 2553 โดยการเลอื กแบบเจาะจง จานวน 132 คน 1.2.2 ครผู ูส้ อนโรงเรยี นในสงั กัดสานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1 ปกี ารศึกษา 2553 โดยการสุ่มแบบหลายข้ัน (Multi-stage Ramdom Sampling) ปรากฏวา่ ต้องใช้กลมุ่ ตัวอยา่ ง จานวน 344 คน 2. ขอบเขตดา้ นเนื้อหา การวิจยั ครัง้ น้ีมงุ่ ศึกษาการบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศึกษาทส่ี ัมพนั ธก์ ับการเป็น องค์กรแห่งการเรยี นรขู้ องสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานสานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาประจวนครี ขี ันธ์ เขต 1 3. ขอบเขตด้านสถานท่ี ขอบเขตทใี่ ช้ในการวิจัยครง้ั นี้ คือ สถานศึกษาในสงั กดั สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ประถมศึกษาประจวบครี ีขนั ธ์ เขต 1 4. ขอบเขตด้านระยะเวลา การวิจยั คร้ังนี้ ผู้วจิ ัยไดใ้ ช้ระยะเวลาในการวิจยั ระหวา่ งเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม ปี การศกึ ษา 2554 7. วรรณกรรมที่เก่ียวขอ้ ง ในการวจิ ัยครงั้ น้ี เปน็ การศึกษาความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศึกษา และการเปน็ องคก์ รแห่งการเรียนรูข้ องสถานศึกษา สงั กดั สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา ประจวบครี ีขนั ธ์ เขต 1 ผ้วู ิจัยจงึ ได้ศึกษาจาก เอกสาร แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ยี วขอ้ ง ดังต่อไปน้ี 1. การบรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศกึ ษา 1.1 ความหมายของเทคโนโลยีสารในเทศ 1.2 ความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศกึ ษา 1.3 องค์ประกอบของสารสนเทศ 1.4 กระบวนการบรหิ ารเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การศึกษา 1.5 นโยบายและแผนทเ่ี กยี่ วของกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศกึ ษา

4 2. องค์กรแหง่ การเรียนรู้ 2.1 ประวัตคิ วามเป็นมาของแนวคิดองค์กรแห่งการเรยี นรู้ 2.2 ความหมายขององค์กรแห่งการเรียนรู้ 2.3 ความสาคัญขององค์กรแห่งการเรยี นรู้ 2.4 แนวคิดท่สี าคัญขององค์กรแห่งการเรียนรู้ 2.5 ลกั ษณะของสถานศึกษาทเ่ี ป็นองคก์ รแห่งการเรยี นรู้ 2.6 ระดับของการเรยี นร้ใู นองคก์ รแห่งการเรียนรู้ 2.7 แนวทางการพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้ 3. งานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วข้อง 3.1 งานวิจยั ในประเทศ 3.2 งานวจิ ัยตา่ งประเทศ

1 เก 2 8. วธิ ีดาเนินการวิจยั ระยะท่ี 1 3 4 วธิ ีดาเนนิ การวจิ ัย 5 7 1 2 3 ระยะท่ี 2 4 5 6. เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู

1. กาหนดประชากรและกลุ่มตัวอย่าง และศึกษาเอกสารงานวิจัยที่ ก่ยี วข้อง 2. กาหนดเครอ่ื งมือที่จะใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล แบ่งออกเป็น 3 ตอน 1). เก่ียวกับสถานภาพของผู้ตอบ 2). เกยี่ วกับสภาพการบริหารงานวิชาการ 3). แบบสอบถามปลายเปิด 3. สรา้ งเครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมูล 4. หาคณุ ภาพเครอื่ งมอื และปรับปรงุ เคร่อื งมือ 5. เกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 6. การจัดกระทาข้อมูลและการวเิ คราะห์ข้อมูล 5 7. เสนอรายงานการวิจัยระยะที่ 1 1. ศึกษาผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ระยะที่ 1 และกาหนดกรอบเน้อื หา : สมรรถนะฯดา้ นการทาวิจยั 2. กาหนดกลุ่มผใู้ หข้ ้อมูลสาคญั ในการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ 3. กาหนดเครอื่ งมือท่จี ะใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 4. สร้างเครื่องมอื ที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 5. หาคุณภาพเครอ่ื งมอื และปรบั ปรงุ เคร่อื งมือ 7. วิเคราะหข์ ้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ 8. นาเสนอขอ้ มูลในลกั ษณะเชิงคณุ ภาพ

6 9. สรปุ ผลการวิจยั จากการศึกษาวจิ ัยคร้ังน้ี เป็นการศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างการบรหิ ารเทคโนโลยี สารสนเทศเพ่ือการศึกษาและการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศกึ ษา สงั กัดสานักงาน เขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาประจวบครี ีขนั ธ์ เขต 1 ซึ่งสรปุ ผลการวิจัยได้ ดงั น้ี 9.1 วตั ถุประสงค์ของการวิจัย ผ้ดู าเนนิ การวิจัยได้กาหนดวัตถปุ ระสงคไ์ วด้ ังน้ี 9.1.1 เพือ่ ศึกษาการบรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศึกษาของสถานศกึ ษา สังกัดสานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาประจวบครี ีขนั ธ์ เขต 1 9.1.2 เพื่อศึกษาการเปน็ องค์กรแหง่ การเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสานักงาน เขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 9.1.3 เพื่อศึกษาความสมั พนั ธร์ ะหว่างการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ การศึกษาและการเปน็ องคก์ รแห่งการเรียนร้ขู องสถานศึกษา สังกัดสานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา ประถมศกึ ษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 9.2 สรปุ ผลการวิจัย จากผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลการศึกษาความสัมพันธ์ระหวา่ งการ บรหิ ารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การศึกษาและการเปน็ องค์กรแหง่ การเรยี นรู้ของสถานศึกษา สงั กดั สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ เขต 1 สรุปผลการวจิ ยั ได้ดังนี้ 9.2.1 การบรหิ ารเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศึกษาของสถานศกึ ษา สังกัดสา นักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาประจวบครี ีขันธเ์ ขต 1 ในภาพรวมและรายด้านอยู่ใน ระดบั มาก เมือ่ พิจารณารายด้าน ดา้ นทรัพยากรการเรยี นรู้อยใู่ นอันดบั สูงสดุ และดา้ นการบรหิ าร จดั การภายในอยู่ในอนั ดับตา่ สดุ 9.2.2 การเปน็ องค์กรแห่งการเรยี นร้ขู องสถานศึกษา สงั กัดสานกั งานเขตพืน้ ที่ การศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1 ในภาพรวมอยูใ่ นระดับมาก เมอ่ื พิจารณารายด้าน พบวา่ ด้านการคิดอย่างเปน็ ระบบอยู่ในอันดับสูงสุด และด้านการมรี ปู แบบความคิดรอู้ ยู่ในอันดบั ตา่ สุด 9.2.3 การบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการศึกษากับการเปน็ องค์กรแห่งการ เรียนรขู้ องสถานศกึ ษา สังกดั สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาประจวบครี ีขนั ธ์ เขต 1 ในภาพรวมมีความสมั พันธท์ างบวกอยู่ในระดบั ตา่ อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิตทิ ่รี ะดับ .01 เม่ือ พิจารณาเป็นรายด้าน พบวา่ โดย ดา้ นการเรียนการสอน มีความสัมพนั ธ์อยู่ในอนั ดบั สงู สดุ และ ดา้ นความรว่ มมือภาครัฐ เอกชน และชมุ ชนมคี วามสมั พนั ธ์อยู่ในอันดบั ตา่ สดุ อยา่ งมีนยั สาคัญ ทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั .01

7 10. สรุปขอ้ เสนอแนะของงานวิจัยเรอื่ งน้ี จากการศึกษา ความสมั พันธ์ระหว่างการบรหิ ารเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการศึกษาและ การเปน็ องคก์ รแห่งการเรยี นรู้ของสถานศกึ ษา สงั กดั สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา ประจวบครี ขี ันธ์ เขต 1 ผวู้ จิ ยั มีข้อเสนอแนะ ดงั น้ี 10.1 ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการวิจยั ไปใช้ 10.1.1 การบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการศกึ ษาของสถานศึกษา สงั กัด สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาประจวบครี ีขันธ์ เขต 1 ดา้ นที่มีคา่ เฉลย่ี ตา่ สุด คอื ดา้ นการบรหิ ารจดั การภายในสถานศึกษา ดังน้นั ผบู้ ริหารและครผู ู้สอนในสถานศึกษาควรให้ ความสาคญั กบั การบรหิ ารจดั การภายใน โดยการจดั ทาแผนพฒั นาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือ การศกึ ษา สนบั สนนุ งบประมาณดา้ นเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการเรยี นการสอน ขอความ รว่ มมือจากองค์กรต่างๆ เพื่อตดิ ตามประเมนิ ผลการทางานอยา่ งต่อเน่อื ง และนาข้อมูลมาใช้วาง แผนการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาต่อไปให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้น 10.1.2 การเปน็ องคก์ รแห่งการเรียนรขู้ องสถานศึกษา สงั กัดสานกั งานเขตพนื้ ท่ี การศึกษาประถมศกึ ษาประจวบคีรขี นั ธ์ เขต 1 ท่ีมีคา่ เฉลีย่ ตา่ สดุ คอื ด้านการมีรูปแบบความคดิ ดงั น้ัน ผู้บริหารและครผู ้สู อน ควรปรบั รูปแบบของความคิดใหพ้ ร้อมรับการเปน็ องค์กรแห่งการ เรยี นรู้ โดยพิจารณาไตรต่ รองสถานการณ์กอ่ นตดั สนิ ใจดาเนินงาน ไม่ยึดตดิ กับหลกั การหรอื ทฤษฏีจนเกนิ ไป สง่ เสริมหรือกระตนุ้ ให้มีทักษะทางความคิด คดิ อยา่ งมรี ะบบ และพรอ้ มท่ีจะ เรียนรรู้ ปู แบบใหม่ๆเพอ่ื ให้สถานศกึ ษากลายเป็นองค์กรสาหรับการเรียนรูใ้ นทุกรูปแบบตอ่ ไป 11. การนางานวจิ ยั ช้ินนีไ้ ปใช้ประโยชน์อยา่ งไร 11.1 ใช้เป็นองค์ความรใู้ นด้านการนาเทคโนโลยมี าประยกุ ตใ์ ชก้ บั การบริหารจดั การ สถานศึกษา 11.2 ใชเ้ พอ่ื เป็นแหลง่ ข้อมลู ความรู้ แหลง่ ค้นคว้าและแหลง่ ข้อมูลอ้างอิงสาหรับการนา ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยกุ ต์ใช้กับการบริหารจดั การสถานศึกษา อกี ทง้ั ก่อให้เกิดเป็น องค์กรแหง่ การเรียนรทู้ ีส่ ามารถถา่ ยทอด ผลติ และพัฒนานักเรยี น ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ใหม้ อี งคค์ วามรู้ ทักษะทดี่ ีทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตต่อไป 11.3 ใช้เพ่อื เปน็ ข้อมลู สารสนเทศให้กับผบู้ ริหารและครู ใช้เป็นขอ้ มูลพ้นื ฐาน ในการ พัฒนาการบริหารเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศกึ ษากบั การเปน็ องค์กรแห่งการเรยี นรขู้ อง สถานศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook