Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ของแข็ง ของเหลว แก๊ส

ของแข็ง ของเหลว แก๊ส

Published by ครูพิรุณวดี สาโยธา, 2022-03-14 02:34:26

Description: ของแข็ง ของเหลว แก๊ส

Search

Read the Text Version

กฎของเกย์-ลูสแซก หมายเหตุ 1. อณุ หภมู ิใชห้ น่วยเคลวินหมด 2. หน่วยความดนั P1 และ P2 3. ท่อี ุณหภูมิ -273 0C หรอื 0 K แกส๊ มีความดนั เปน็ ศนู ย์ หมายความว่า แก๊สจะเปล่ยี นสถานะเป็นของเหลวหมด จงึ ไมม่ ี ความดนั ทจ่ี ะเกิดจากแกส๊

ตัวอย่างการคานวณกฎของเกย์-ลสู แซก ตวั อยา่ ง แกส๊ ชนดิ หน่ึงบรรจุในถังปิดมีความดนั 1 atm ที่ 27 0C จงหาความดันของแก๊สในถงั นเ้ี มื่ออุณหภูมิเพ่ิมข้นึ เป็น 80 0C

ตวั อย่างการคานวณกฎของเกย์-ลูสแซก จากโจทย์ P1 = 1 atm P2 = ? atm T1 = 273 + 27 0C = 300 K T2 = 273 + 80 0C = 353 K กฎของเกย-์ ลูสแซก P1/T1 = P2/T2 1 atm / 300 K = P2/ 353 K P2 = (1 atm x 353 K) / 300 K P2 = 1.177 atm ถา้ มอี ุณหภูมิ 80 0C จะมีความดนั = 1.177 atm

ตวั อยา่ งการคานวณกฎของเกย์-ลสู แซก ตัวอยา่ ง แกส๊ He ทคี่ วามดนั 775 mmHg บรรจุในภาชนะ ขนาด 1.05 L ท่อี ุณหภมู ิ 26 0C จงหาอุณหภมู ิทเ่ี ปล่ยี นแก๊ส ให้มคี วามดันเป็น 725 mmHg สมมตวิ ่าปรมิ าตรของแก๊ส คงที่

ตวั อยา่ งการคานวณกฎของเกย์-ลสู แซก ตัวอยา่ ง แกส๊ ชนิดหน่ึงบรรจอุ ยใู่ นกระบอกสูบขนาด 10 ลติ ร ภายใตค้ วามดนั 4.68 atm ท่อี ณุ หภมู ิ 22 0C ถา้ อุณหภูมเิ พิ่มเป็น 600 0C ความดันของแก๊สจะเท่ากบั ก่ี atm

กฎรวมแก๊ส เนือ่ งจากกฎของบอยล์และชาร์ลกลา่ วถึงเฉพาะ  ความสัมพันธร์ ะหว่างปรมิ าตรกับความดนั  ความสัมพนั ธร์ ะหว่างปรมิ าตรกบั อณุ หภูมิ แตก่ ารเปลยี่ นแปลงในธรรมชาตอิ าจเกิดขน้ึ พร้อม ๆ กัน ดังนั้นจงึ มีการศึกษาความสมั พนั ธ์ระหว่าง ปริมาตร ความดัน และอณุ หภูมิของแก๊สในขณะท่ีมมี วลคงท่ี

กฎรวมแก๊ส จากกฎของบอยล์ Vα 1 จากกฎของชารล์ P VαT • รวมกฎของบอยลแ์ ละกฎของชาร์ล V αT P

กฎรวมแก๊ส V = k3T โดย k3 เป็นคา่ คงท่ี P PV = k3 T P1V1 = P2V2 = P3V3 =…= PnVn = k3 (เมื่อมวลคงท่ี) T1 Tn T2 T3

ตวั อย่างการคานวณกฎรวมแกส๊ ตัวอย่าง แกส๊ ชนดิ หนึ่งมีปริมาตร 10.0 ลิตร ทคี่ วามดัน 1.0 บรรยากาศ อณุ หภมู ิ 0 องศาเซลเซียส ถ้าแกส๊ น้ีมีปรมิ าตร และความดนั เปล่ยี นเปน็ 11.5 ลติ ร และ 900 มลิ ลิเมตรปรอท ตามลาดบั จงหาอุณหภมู ิที่เปลีย่ นไปในหนว่ ยองศาเซลเซยี ส

ตวั อย่างการคานวณกฎรวมแกส๊ จากโจทย์ P1 = 1 atm = 760 mmHg P2 = 900 mmHg V1 = 10.0 L V2 = 11.5 L T1 = 0 ๐C + 273 = 273 K T2 = ? K จากกฎรวมแก๊ส P1V1 = P2V2 T1 T2

ตวั อยา่ งการคานวณกฎรวมแก๊ส แทนคา่ ในสมการ = 900mmHg 11.5L 760mmHg 10.0L T2 273K = 900mmHg 11.5L  273K T2 760mmHg 10.0L T2 = 372 K T (K ) = t (๐C) + 273 t (๐C) = 372 ๐C - 273 = 99 ๐C อุณหภมู ขิ องแกส๊ ทเ่ี ปลี่ยนแปลง = 99๐C - 0 ๐C = 99 ๐C

ตวั อยา่ งการคานวณกฎรวมแกส๊ ตัวอย่าง แกส๊ ในภาชนะ 500 cm3 ท่ีอุณหภมู ิ 25 0C มคี วาม ดัน 760 mmHg ถูกถา่ ยเทไปยงั ภาชนะ 250 cm3 ท่ีอณุ หภมู ิ 0 0C จงหาความดันสดุ ท้ายของแก๊ส

ตวั อย่างการคานวณกฎรวมแกส๊ จากโจทย์ P1 = 760 mmHg P2 = ? V1 = 500 cm3 V2 = 250 cm3 T1 = 25 ๐C + 273 = 298 K T2 = 0 ๐C + 273 = 273 K จากกฎรวมแกส๊ P1V1 = P2V2 T1 T2

ตัวอยา่ งการคานวณกฎรวมแก๊ส แทนคา่ ในสมการ P2x 250cm3 760 mmHg x 500 cm3 = 273 K 298 K 760 mmHg x 500 cm3 x 273 K 298 K x 250cm3 P2 = = 1390 mmHg ความดนั สุดทา้ ยของแก๊ส 1390 mmHg

ตวั อยา่ งการคานวณกฎรวมแก๊ส ตัวอยา่ ง แก๊สนีออนมีปริมาตร 105 L ท่ี 27 0C ภายใตค้ วาม ดนั 985 mmHg จงหาปรมิ าตรที่เกดิ ขึน้ ทภ่ี าวะมาตรฐาน STP

กฎของอาโวกาโดร อาโวกาโดร ได้ศกึ ษาสมบัตขิ อง แก๊สและได้สรุปวา่ “ท่อี ุณหภมู ิ และความดนั คงท่ี แก๊สที่มี ปริมาตรเท่ากัน จะมจี านวน โมเลกลุ เท่ากันด้วย”

กฎของอาโวกาโดร

กฎของอาโวกาโดร กล่าวอีกนัยหน่ึงว่า “ทอ่ี ุณหภมู แิ ละความดันคงที่ ปริมาตร ของแกส๊ ใดๆ จะแปรผันโดยตรง กบั จานวนโมลของแกส๊ นน้ั ” V α n เมอ่ื T และ P คงท่ี V = kn V =K n

กฎของอาโวกาโดร V1 = K และ V2 = K ดังนั้น n1 n2 V1 = V2 เมอื่ P และ T คงท่ี n1 n2

ตวั อย่างการคานวณกฎของอาโวกาโดร ตวั อย่าง หลอดไฟขนาด 100 วตั ต์มีปริมาตร 130 cm3 บรรจุ แก๊สอารก์ อน 3 x 10-3 mol จงหาจานวน mol ของแกส๊ อาร์กอนท่ีบรรจุในหลอดไฟขนาด 150 วตั ต์ ปริมาตร 185 cm3 ภายใต้อุณหภูมิและความดันเดียวกนั

ตัวอยา่ งการคานวณกฎของอาโวกาโดร จากโจทย์ V1 = 130 cm3 V2 = 185 cm3 n1 = 3 x 10-3 mol n2 = ? mol กฎของอาโวกาโดร V1/n1 = V2/n2 130 cm3 / 3 x 10-3 mol = 185 cm3 / n2 nn22 = (185 cm3 x 3 x 10-3 mol ) /130 cm3 = 4x 10-3 mol หลอดไฟขนาด 150 วัตต์ มีอารก์ อน 4x 10-3 mol

กฎแก๊สสมบรู ณ์ V = k1 กฎของบอยล์ P กฎของชารล์ V = k2T กฎของอาโวกาโดร V = k4n

กฎแก๊สสมบรู ณ์  รวมความสมั พันธเ์ ข้าด้วยกัน V α nT P V = R nT P

กฎแกส๊ สมบรู ณ์ PV = nRT R คอื ค่าคงทขี่ องแกส๊

กฎแก๊สสมบรู ณ์ หมายเหตุ 1. n คือ จานวนโมลของแก๊ส 2. แก๊สใดๆ 1 mol มีปรมิ าตร 22.414 L ที่ STP ( ที่ STP คอื ที่อณุ หภมู ิ 0 0C หรอื 273 K ความดนั 1 atm) แทนคา่ หาค่า R จากสตู ร ดังนี้ PV = nRT 1 atm x 22.414 L = 1 mol x R x 273 K R = 1 atm x 22.414 L 1 mol x 273 K = 0.08206 L .atm . K-1 .mol-1

กฎแก๊สสมบูรณ์ 3. คา่ คงท่ขี องแกส๊ ในสตู ร PV = nRT สามารถหาได้ 3 ทาง ถงึ มหี นว่ ยได้ 3 แบบ ดงั ตาราง คา่ R เมอ่ื 0.082058 L .atm . K-1 .mol-1 P มหี น่วย atm 62.364 L . torr. K-1 .mol-1 P มหี นว่ ย torr 8.3145 J. K-1 .mol-1 P มีหน่วย Pa และ V มหี นว่ ย m3

กฎแกส๊ สมบูรณ์ 4. เนื่องจากจานวนโมลของแก๊ส (n) = มวล (m) มวลโมเลกลุ (M) จาก PV = nRT แทนคา่ n ได้ PV = m RT M

ตวั อยา่ งการคานวณกฎแก๊สสมบูรณ์ ตัวอย่างท่ี 7 บรรจุแก๊สออกซเิ จนจานวน 0.885 กโิ ลกรัม ไว้ ในถังเหล็กกลา้ ซ่ึงมปี ริมาตร 438 ลิตร จงคานวณความดัน ของแก๊สออกซเิ จนในถังนที้ ่ีอณุ หภมู ิ 21 ๐C

ตวั อย่างการคานวณกฎแก๊สสมบรู ณ์ จากโจทย์ P = ? V = 498 L T = 21 ๐C = 21 ๐C + 273 = 294 K m = 0.885 kg = 885 g จากสูตร PV = m RT M

ตวั อย่างการคานวณกฎแก๊สสมบรู ณ์ จากสตู ร PV = m RT แทนค่า M P x 498 L = 885 g x 0.0821 L .atm . K-1 .mol-1 x 294 K 32 g . mol-1 P = 885 x 0.0821 x 294 32 x 498 P = 1.53 atm แกส๊ ออกซเิ จนมคี วามดนั 1.53 บรรยากาศ ทีอ่ ุณหภูมิ 21 ๐C

ตวั อยา่ งการคานวณกฎแกส๊ สมบรู ณ์ ตัวอย่างท่ี 8 แก๊สธรรมชาติในแหล่งแก๊สธรรมชาติแห่งหนึ่ง ประกอบด้วยมีเทน 3.20 X 105 L ทค่ี วามดนั 1500 atm อณุ หภูมิ 45 0C แก๊สธรรมชาติในแหล่งน้มี แี ก๊สมแี ทนอย่กู ี่ กโิ ลกรัม

กฎแกส๊ สมบรู ณ์ ความหนาแน่นของแกส๊ หาได้จากกฎของแก๊สสมบูรณ์ ดงั น้ี PV = m RT M PM = m RT PM = dVRT d = PM RT

ตวั อย่างการคานวณกฎแกส๊ สมบูรณ์ ตัวอยา่ งที่ 9 แกส๊ ออกซเิ จน 1 mol ที่อุณหภมู ิ 62.4 ความดัน 3.45 atm มีความหนาแน่นเท่าใด

การแพร่ของแกส๊  การที่อนุภาคของสารเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางจากท่ีหนึ่ง ไปสอู่ ีกทห่ี นึ่งเรยี กวา่ การแพร่  การแพร่เกิดขึ้นกับสารได้ทุกสถานะ ทั้งของแข็ง ของเหลว และแก๊ส  การแพร่ของไอมีความสัมพันธ์กับมวลโมเลกุลของสาร คือ ในระยะเวลาที่เท่ากันสารท่ีมีมวลโมเลกุลต่าจะ แพร่ไปได้ไกลกวา่ สารที่มีมวลโมเลกลุ สงู

การแพร่ของแก๊ส  การแพร่ผ่าน เป็นกระบวนการท่ีแก๊สภายใต้ความดัน ค่าหนึ่งเคล่ือนทอ่ี อกจากภาชนะที่บรรจุ แก๊สจะเคล่ือนท่ี ผ่านรเู ลก็ ๆไปสู่อีกภาชนะหนึง่ โดยโมเลกุลไม่ชนกนั

การแพร่ผา่ นของเกรแฮม  สรุปกฎการแพรผ่ ่านของเกรแฮม ได้ดังนี้ ท่ีอุณหภูมิและความ ดันเดียวกัน อัตราการแพร่ ผ่ า น ข อ ง แ ก๊ ส เ ป็ น สั ด ส่ ว น ผกผันกับรากท่ีสองของมวล ตอ่ โมลของแก๊ส

การแพร่ผ่านของเกรแฮม  สามารถเขียนแสดงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ได้ ดงั น้ี อตั ราการแพร่ของแกส๊ α 1 M

การแพร่ผา่ นของเกรแฮม  เปรียบเทียบอัตราการแพร่ผ่านของแก๊ส 2 ชนิดท่ี อุณหภมู แิ ละความดนั เดียวกันจะไดด้ ังนี้ r1 = M2 M1 r2 r1 และ r2 คอื อตั ราการแพรผ่ ่านของแกส๊ ชนดิ ท่ี 1 และ 2 M1 และM2 คอื มวลตอ่ โมลของแกส๊ ชนดิ ที่ 1 และ 2

การแพร่ผา่ นของเกรแฮม  การแพร่ผ่านของแก๊ส เป็นไปเช่นเดียวกับการ แพร่ของแก๊ส คือ แก๊สที่ เบากว่าจะแพร่ผา่ นได้เร็ว กวา่ แก๊สท่หี นกั ทอ่ี ณุ หภูมิ และความดันเดียวกัน

การแพร่ผ่านของเกรแฮม ตวั อย่างท่ี 10 จงเปรียบเทียบอัตราการแพรผ่ ่านของแกส๊ ไฮโดรเจนกับฮีเลยี มท่อี ุณหภูมแิ ละความดนั เดยี วกนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook