คำนำ หนงั สือเรียนวชิ าการผลติส่ือส่ิงพิมพ์ รหสั วชิ า 20204- 2109 เล่มน้ีเรียบเรียงข้ึนเพ่อื ใหป้ ระกอบการเรียนการ สอนที่เนผเู้ รียนเป็นสาคญั ตามหลกั สูตรประกาศนียบตั ร วิชาชีพ ปวช. พธุ ศกั ราช 2562 ของสานกั งนคณะ กรรมการการศึกษาอาชีวการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ผเู้ รียบเรียง นายสุรศกั ด์ิ ภูยดื น.ส มินตรา กดุ เสนา หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ หนงั สือเรียนวิชาการผลิตสิ่ ส่ิงพิมพเื ล่มน้ีจะสามารถใหค้ วามรู้และเกิดประ โยฃนแ์ ก่ผสู้ อนผเู้ รียนตลอดจนผษู้ ฃศึกษาทว่ั ไปเป็น อยา่ งดีหากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใดผเู้ รียนเรียง ขอ นอ้ งรับคพติชมเพอ่ื เป็นประโยชนแ์ ก่การแกไ้ ขใน โอกาศ
สำรบญั หนว่ ยท่ี 5 ภำพประกอบส่อื สง่ิ พมิ พ์ 5.1 ภำพและคณุ สมบตั ิของไฟลภ์ ำพ 2 5.2ควำมสำคญั และประเภทของส่อื สง่ิ พมิ พ์ 2 5.3 ลกั ษณะของภำพวำดในโปรแกรมอโดบีอินดไี วน์ 4-23 ซีเอสหก 5.4 กำรนำรูปภำพจำกภำยนอกเขำ้ มำใชง้ ำนในโปรแกรมอโดบ อินดีไซนซ์ ีเอสหก 24-26
ภาพประกอบส่ือส่ิงพมิ พ หน่วยที่ 5 หัวข้อเรื่อง (Topics) 5.1 ภาพและคุณสมบัตขิ องไฟล์ภาพ 5.2 ความสาคญั และประเภทของภาพประกอบส่ือส่ิงพมิ พ์ 5.3 ลกั ษณะของภาพวาดในโปรแกรมอโดบีอนิ ดไี ซน์ซีเอส 6 5.4 การนารูปภาพจากภายนอกเข้ามาใช้งานในโปรแกรมอโดบอี นิ ดีไซน์ซีเอส สมรรถนะย่อย (Element of Competency) ปฏบิ ัตกิ ารออกแบบสร้างแก้ไขและตกแต่งภาพประกอบส่ือส่ิงพมิ พ์ด้วยโปรแกรมสาเรจจรูป จุดประสงค์การเรียนรู้ (Learning Objective) จุดประสงค์ทว่ั ไปเพ่ือให้ผู้เรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั ภาพและคุณสมบัติของไฟล์ภาพ ภาพประกอบส่ือสิ่งพมิ พ์ลกั ษณะของภาพวาดในโปรแกรมอโดบีอนิ ดไี ซน์ซีเอส 6 และการนา รูปภาพจากภายนอกเข้ามางานในโปรแกรมอโดบอี นิ ดไี ซน์ซีเอส 6 จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกความหมายของภาพประกอบสื่อสิ่งพมิ พ์ได้ 2. อธบิ ายคุณสมบตั ขิ องไฟล์ภาพได้ 3. เลือกประเภทของภาพเพื่อนาไปใช้ประกอบส่ือสิ่งพมิ พ์ได้ 4. อธบิ ายการใช้เคร่ืองมือทนี่ ามาใช้สร้างรูปทรงตายตวั และรูปทรงอสิ ระได้ 5. เลือกเครื่องมือสาหรับวาดภาพเส้นพาธ ได้ 6. วาดภาพเส้นพาธ ทมี่ รี ูปทรงตายตวั และรูปทรงอสิ ระได้ 7. อธบิ ายข้นั ตอนการนารูปภาพจากภายนอกเข้ามาใช้งานในโปรแกรมได้ 8. นารูปภาพจากภายนอกเข้ามาใช้งานในโปรแกรมอโดบอี นิ ดไี ซน์ซีเอส 6 ได้ 9. มเี จตคตทิ ด่ี ีตามแนวปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งด้านการตรงต่อเวลาต้งั ใจทางาน รอบคอบมวี นิ ัยและปรับปรุงแก้ไขเมื่อผดิ พลาด
1 เนื้อหาสาระ (Content) เหมือนจรงิ การไดม้ องเหน็ ภาพจะทาให้เกิดความเขา้ ใจได้ทนั ทีโดยไมต่ อ้ งใชเ้ วลาตคี วามหรอื ทาความเชน่ เดียวกับตัวอักษร แตม่ ลี กั ษณะพเิ ศษคอื ให้รายละเอียดได้มากกวา่ และยังสามารถ ทาให้เห็นภาพไดเ้ ข้าใจนอกจากน้ภี าพยังถือว่าเปน็ ภาษาสากลแม้คนทีไ่ มร่ ้หู นังสือกส็ ามารถดรู ู้ เร่อื งได้การใชภ้ าพประกอบภาพประกอบในสอ่ื สิ่งพมิ พท์ ้งั ทเี่ ปน็ ภาพวาดและภาพถ่ายต่างก็ใช้ เพอ่ื ส่ือความหมายจงึ มคี วามหมายและสาคญั ตอ่ สิง่ พมิ พไ์ มน่ ้อยไปกว่าตัวพมิ พ์ 5.1 ภาพและคุณสมบตั ขิ องไฟลภ์ าพ “ ภาพ” ในความหมายตามพจนานกุ รมไทยฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หมายถึง ความมีความเป็นมกั ใช้ประกอบเปน็ ส่วนท้ายของคาสมาสเชน่ มรณภาพเปน็ ต้นรูป ที่ปรากฏเหน็ หรอื นกึ เห็นเช่นภาพทิวทศั นภ์ าพในฝนั เปน็ ต้นสง่ิ ท่วี าดขน้ึ เป็นรปู หรอื สง่ิ ทถี่ า่ ย แบบไวเ้ ชน่ ภาพสนี า้ มนั ภาพถ่ายเป็นตน้ ภาพประกอบสือ่ สงิ่ พิมพห์ มายถงึ เนอ้ื หาส่วนทเี่ ปน็ ภาพทป่ี รากฏอยู่ในเอกสารสื่อสง่ิ พิมพ์ตา่ ง ๆ นอกจากเนื้อหาทเี่ ปน็ ข้อความและตวั อักษรภาพ เหล่านี้อาจจะเป็นภาพวาดหรือภาพถ่ายก็ได้และยงั นบั รวมถึงภาพกราฟกิ ต่าง ๆ ได้แก่ จุดเสน้ สแี ถบกราฟกิ ภาพลายเส้นและภาพเรขาคณติ อน่ื ๆ ทใ่ี ช้ในการตกแตง่ สอ่ื ส่ิงพิมพ์ 5.2 ความสาคญั และประเภทของภาพประกอบสื่อส่ิงพิมพ์ ภาพประกอบส่ิงพมิ พ์ท้งั ภาพวาดและภาพถา่ ยตา่ งกใ็ ชเ้ พ่อื สื่อความหมายเชน่ เดียวกับตัวอกั ษร แต่มีลักษณะพเิ ศษคอื ให้รายละเอียดได้มากกว่าและสามารถทาใหเ้ ห็นภาพไดเ้ หมือนจริงการ ไดม้ องเหน็ ภาพจะทาให้เกิดความเขา้ ใจไดท้ นั ทีโดยไม่ตอ้ งใชเ้ วลาตคี วามหรือทาความเขา้ ใจ นอกจากนีภ้ าพยงั ถือว่าเป็นภาษาสากลแม้คนไมร่ หู้ นังสอื กส็ ามารถดูรู้เร่อื งไดก้ ารใช้ ภาพประกอบจงึ มีความหมายและสาคัญตอ่ สอ่ื สงิ่ พมิ พ์ไมน่ ้อยไปกวา่ ตวั พิมพ์ Tab 5.2.1 ความสาคญั ของภาพประกอบสอื่ สิง่ พิมพภ์ าพประกอบมคี วามสาคญั ตอ่ สอื่ สงิ่ พมิ พ์มาก โดยเฉพาะในการส่ือความหมายการถา่ ยทอดความร้ทู างดา้ นวชิ าการเพราะภาพประกอบ สามารถใหร้ ายละเอยี ดและความเหมือนจรงิ เหนอื คาบรรยายใหค้ วามสวยงามและความ ประทับใจหรอื ใชเ้ ป็นหลกั ฐานอ้างอิงความสาคญั ของภาพประกอบส่อื สิ่งพิมพ์มีสาระสาคญั สรปุ ได้ดังนี้
2 1. ใชส้ รา้ งความเข้าใจในการอธบิ ายถึงสงิ่ หน่ึงสงิ่ ใดบางครั้งตัวอกั ษรกม็ ขี ้อจํากัดทจ่ี ะบง่ บอก ถึงส่งิ ท่ีอธบิ ายนั้นวา่ เปน็ อย่างไรในบางกรณีแม้ผู้บรรยายจะมคี วามสามารถในการใชถ้ ้อยคํา แต่ ไม่อาจทําใหเ้ กิดความเข้าใจไดโ้ ดยง่ายเชน่ การอธิบายความแตกต่างระหว่างมากับลาใหก้ ับคนท่ี ไมเ่ คยเห็นสตั ว์ทั้งสองชนดิ น้คี งเปน็ เร่ืองยาก แตถ่ า้ แสดงด้วยรูปภาพจะทําให้เข้าใจได้ง่ายขน้ึ 2. ใชเ้ สริมความเข้าใจการนําภาพประกอบมาใช้ในกรณีทข่ี อ้ ความสามารถสร้างความเข้าใจได้ ระดับหนง่ึ แล้ว แต่ไมช่ ัดเจนจึงจาํ เปน็ ตอ้ งใชภ้ าพประกอบเพอื่ เสรมิ ความเขา้ ใจใหช้ ดั เจนย่งิ ขน้ึ เชน่ การอธบิ ายพุทธลักษณะของพระพุทธรปู สมยั ตา่ ง ๆ ถ้ามีภาพประกอบเพอื่ เสรมิ ความเข้าใจ ในรายละเอยี ดเพมิ่ เติมกจ็ ะทําใหเ้ ข้าใจมากยิง่ ข้ึนเปน็ ต้น 154 3. ใชเ้ ปน็ หลักฐานเพอ่ื บง่ บอกบุคคลในการบง่ บอกถงึ ตวั บุคคลทไ่ี ม่อาจใช้ขอ้ ความอธบิ ายให้ เห็นภาพหรือเขา้ ใจไดว้ ่าบคุ คลผูน้ มี้ หี นา้ ตาเป็นอย่างไร แต่ถา้ พมิ พ์ภาพลงแล้วบอกชอ่ื ผ้ทู ่เี หน็ ก็ จะร้จู กั และจดจาํ ได้ทนั ที 4. ใชเ้ ป็นหลกั ฐานอา้ งอิงหรอื แสดงเหตุการณ์ภาพประกอบสามารถนาํ มาใชเ้ ปน็ หลักฐาน ประกอบคาํ บรรยายในกรณเี หตกุ ารณน์ ั้นสําคญั ขนาดต้องบนั ทกึ เปน็ ประวัตศิ าสตร์เป็นบอกเล่า เหตกุ ารณ์ใหเ้ ข้าใจโดยง่าย 5. ใชต้ กแต่งหนา้ สง่ิ พมิ พ์ภาพประกอบชว่ ยให้สือ่ ส่ิงพิมพส์ วยงามน่าอา่ นมากยงิ่ ขน้ึ เทคโนโลยี การถา่ ยภาพตกแต่งภาพและการพมิ พ์ในปจั จบุ นั เออ้ื อํานวยใหก้ ารทํางานกบั ภาพประกอบ สะดวกยงิ่ ข้ึนการถา่ ยภาพทาํ ไดง้ ่ายขนึ้ ลดขนั้ ตอนการตกแตง่ ภาพลงใช้เวลาน้อยลง 5.2.2 ประเภทของภาพประกอบส่ือสิง่ พิมพ์ การใชภ้ าพประกอบสอ่ื สงิ่ พิมพ์นนั้ อาจกล่าวไดว้ ่าสามารถใชก้ บั ภาพได้ทกุ ประเภทเพราะ เทคโนโลยีทางดา้ นการพมิ พ์ทําใหส้ ามารถถ่ายทอดภาพประเภทใด ๆ กไ็ ดล้ งบนสื่อสง่ิ พมิ พ์การ แบ่งประเภทของภาพประกอบสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ตามสอ่ื ท่ใี ช้ในการผลติ แบง่ ได้ดังนมี้ คี ณุ ค่าและมีความ สวยงาม 1.
3 2) ควำมเขม้ ของสีและส่ิงท่ีปรำกฏในภำพเด่นชดั เม่ือตอ้ งผำ่ นกระบวนกำรพมิ พแ์ ลว้ (3) ขนำดของภำพภำพท่ีใชค้ วรมีขนำดใหญ่เม่ือย่อใหเ้ ลก็ ลงจะยงั คงใหร้ ำยละเอียดท่ีภำพจะยงั คง ควำมชดั อย่คู มชดั (4) ควำมมนั เงำภำพท่ีเป็นเงำจะมีคณุ สมบตั ิดีเม่ือผำ่ นขน้ั ตอนกำรพมิ พจ์ ะยงั คงให้ 2. ภำพวำดลำยเสน้ เป็นภำพท่ีใชป้ ระกอบส่ือส่งิ พมิ พม์ ำตง้ั แตย่ คุ แรกและยงั คงไดร้ บั ควำม กำรผสมสกรนี กำรสรำ้ งพนื้ ผิวลวดลำยตำ่ ง ๆ รว่ มกบั ภำพลำยเสน้ เป็นตน้ นิยมอยู่จนถงึ ปัจจบุ นั เช่นกำรวำดลำยเสน้ แบบภำพกำรต์ นู โดยกำรใชด้ ินสอพกู่ นั ปำกกำหมกึ รวมทง้ั 3. ภำพวำดนำ้ หนกั สีตอ่ เน่ืองและภำพระบำยสีภำพทง้ั สองชนิดนีม้ ีลกั ษณะภำพคลำ้ ยคลงึ กนั คำว่ำภำพวำดนำ้ หนกั สีตอ่ เน่ืองโดยใชเ้ รยี กภำพวำดสีเดียวท่ีมีนำ้ หนกั อ่อนแก่ลดหล่นั กนั สำหรบั ภำพระบำยสีจะประกอบดว้ ยสีต่ำง ๆ มำกมำยหลำยสีโดยกำรเขียนหรอื ระบำยสีดว้ ย กรรมวิธีหรอื เทคนิคต่ำงกนั ภำพวำดอำจเป็นภำพท่ีวำดในมมุ มองและรำยละเอียดเหมือนกบั ภำพถ่ำยไดแ้ ละยงั สำมำรถวำดในมมุ ท่ีภำพถ่ำยอำจทำไม่ไดอ้ ีกดว้ ยภำพวำดจงึ เป็นภำพอีก ชนดิ หนง่ึ ท่ีใชเ้ ป็นภำพประกอบไดอ้ ยำ่ งดี 4. ภำพพมิ พห์ มำยถงึ ภำพท่ีผำ่ นกำรพมิ พม์ ำแลว้ มีทง้ั ชนดิ ท่ีพมิ พเ์ ป็นภำพลำยเสน้ และพมิ พ์ เป็นภำพเม็ดสกรนี ภำพทงั้ สองประเภทนีส้ ำมำรถนำมำพมิ พซ์ ำ้ ไดถ้ ำ้ เป็นภำพลำยเสน้ จะได้ คณุ ภำพใกลเ้ คียงของเดมิ แต่ภำพท่ีเป็นเม็ดสกรนี รำยละเอียดอำจหำยไปควำมคมชดั ใน รำยละเอียด 5. ภำพดจิ ทิ ลั หมำยถงึ ภำพท่ีผ่ำนกระบวนกำรจดั กำรโดยคอมพวิ เตอรด์ ว้ ยพฒั นำกำรของ เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรใ์ นปัจจบุ นั ทำใหภ้ ำพทกุ ชนิดท่ีจะเขำ้ สรู่ ะบบกำรพมิ พต์ อ้ งผ่ำน กระบวนกำรแปลงรูปภำพนน้ั ใหเ้ ป็นภำพดิจทิ ลั ก่อนเช่นกำรสแกนภำพกำรถ่ำยภำพดว้ ยกลอ้ ง ดจิ ทิ ลั และกำรสรำ้ งภำพขนึ้ ใหมด่ ว้ ยคอมพวิ เตอรเ์ ป็นตน้ 5.3 ลักษณะของภาพวาดในโปรแกรมอโดบอี นิ ดไี ซนซเี อส 6 ลกั ษณะการวาดภาพในโปรแกรมอโดบีอินดีไซนซีเอส 6 จะมี ลกั ษณะในรูปของเสน้ พำ ธ (Path) สำมำรถสรำ้ งเป็นเสน้ ตรงหรอื สรำ้ งเป็นเสน้ โคง้ ใหเ้ กิด รูปรำ่ งตำ่ ง ๆ ไดต้ ำมท่ีผใู้ ชต้ อ้ งกำรลกั ษณะของเสน้ พำ ธ แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทดงั นี้
4 5.3.1 เส้นพาธ ทม่ี รี ปู ทรงตายตัวเสน้ พาธ ท่ีมรี ูปทรงตายตวั เป็นเสน้ พาธ ที่สร้างจากเครื่องมอื ไลนทูล (Line Tool) ใชเ้ ป็นเคร่ืองมในการวาดภาพในกล่มุ การวาดเส้นและการสร้างเสน้ ตรงนอกจากน้ี ยงั มเี คร่อื งมือเรคแทงเกิลทลู (Rectangle Tool) เครอ่ื งมืออิลิพ ทูล (Ellipse Tool) และเครอื่ งมือพอลลิกอนทลู (Polygon Tool) เป็นเครอ่ื งมอื ในกลมุ่ วาด รูปทรงเพ่ือใชใ้ นการสร้างรปู สเี่ หลยี่ มรปู หลายเหลี่ยมรปู วงกลมรูปวงรีและรปู ดาว 1. การวาดเสน้ ตรงการวาดเสน้ ตรงดว้ ยเครื่องมอื ในกลุ่มการใช้วาดเสน้ ดว้ ย เคร่อื งมือไลนทูลมีขั้นตอนการทาดังนก้ี ารผลิตสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ (1) คลิกเลือกไลนทูล (2) คลิกเมาส์ลากเป็นเส้นตรง (3) ดับเบิลคลกิ ที่เคร่ืองมอื สโทรค (Stroke) เพ่ือเปล่ียนสเี ส้น (4) คลกิ เลอื กสที ่ตี ้องการ
5 2. การวาดรปู ทรงแบบตายตัวการวาดรูปทรงแบบตายตวั ดว้ ย เครอ่ื งมือในกลุ่มทใี่ ชว้ าดรูปทรงด้วยเคร่ืองมอื เรคแทงเกิลทูล เครอ่ื งมืออลิ ิพทลู และเครื่องมือพอลลิกอนทูลมขี ั้นตอนการ ทาดังนี้ (1) การวาดรูปสเ่ี หลยี่ มด้วยเรคแทงเกิลทูล YUDAR การวาด รูปสเ่ี หลย่ี มดว้ ยเรคแทงเกิลทลู สามารถทาได้ 2 วธิ ดี ังน้ี (1.1) วาดรปู ตามขนาดท่ีต้องการดว้ ยการคลิกลากเมาส์ (1.1.1) คลกิ เลือกเครื่องมือเรคแทงเกลิ ทลู (1.1.2) คลกิ เมาส์บนพนื้ ทอี่ ารท์ บอร์ดเพื่อวาดรูปสเ่ี หล่ยี ม ตามขนาดทีต่ ้องการ
6 (1.2.4) ปรากฏรูปส่เี หลีย่ มท่ีได้จากการกาหนดคา่ - (2.4) รูปส่เี หล่ียมทไ่ี ด้จากการกาหนดคา่ 6 (2) การวาดวงกลมหรือวงดว้ ยเครื่องมืออิลพิ ทลู (2.1) วาดรูปวงกลมหรอื วงตามขนาดทตี่ ้องการดว้ ยการคลกิ เมาส์ (2.1.1) คลกิ เลอื กเคร่อื งมอื อิลิชทลู การวาดรปู วงกลมหรอื วงดว้ ยเครื่องมอื อิลพิ ทูลสามารถทาได้ 2 วิธดี งั น้ี (2.1.2) คลกิ ลากวาดรูปวงกลมหรอื วงรตี ามขนาดทตี่ อ้ งกการ
Z7 (2.1) วำดรูปวงกลมหรอื วงตำมขนำดท่ีตอ้ งกำรดว้ ยกำรคลิกเมำส์ (2.1.1) คลิกเลือกเครอ่ื งมืออลิ ชิ ทลู กำรวำดรูปวงกลมหรอื วงดว้ ย เครอ่ื งมืออลิ พิ ทลู สำมำรถทำได้ 2 วิธีดงั นี้ (2.1.2) คลิกลำกวำดรูปวงกลมหรอื วงรตี ำมขนำดท่ีตอ้ งกำร (3) การวาดรปู หลายเหล่ยี ม NSI การวาดรปู หลายเหลี่ยมสามารถทาได้ 2 วธิ ีคอื (3.1) วาดรปู หลายเหลยี่ มตามขนาดทต่ี ้องการดว้ ยการคลิกลากเมาส์ (3.1.1) คลิกเลือกเครอื่ งมือพอลลิกอนทูล (3.1.2) คลกิ เมาส์วาดรปู หลายเหลี่ยมตามขนาดทต่ี อ้ งการ CD
8 (3.2) กำรวำดรูปหลำยเหล่ียมดว้ ยกำรกำหนดค่ำในหนำ้ ตำ่ งพอลลิกอนทลู (3.2.1) คลิกเลือกเครอ่ื งมือพอลลกิ อนทลู (3.2.3) กำหนดควำมกวำ้ งรูปอำรท์ บอรด์ จะปรำกฏหนำ้ ตำ่ งพอลลิ กอน (6) คลิกลำกวำดรูปขนำดตำมตอ้ งกำร (3.2.2)คลกิ ในพนื้ ท่ีในอำรท์ บอรด์ จะปรำกกฏหนำ้ ตำ่ งพอลิกอน (3.2.4) กำหนดคำ่ ควำมสงู (3.2.5) กำหนดจำนวนดำ้ น (3.2.6) กำหนดลกั ษณะเพ่มิ เตมิ เป็นรูปดำว (3.2.7) คลกิ ป่มุ ตกลงเพ่อื วำดรูปหลำยเหล่ียมตำมค่ำท่ีกำหนด
9 5.3.2 เสน้ พำธ ท่ีมีรูปทรงอิสระเสน้ พำธ ท่ีมีรูปทรงอิสระเป็นกำร วำดภำพวตั ถแุ บบอสิ ระสำมำรถวำดรูปทรงต่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำง 1. กำรวำดภำพดว้ ยเคร่อื งมือเพนทลู (Pen Tool) เพนทลู เป็นเคร่อื งมือท่ีใชส้ ำหรบั กำรวำดเสน้ ท่ีเป็นเสน้ อสิ ระ โดยแตล่ ะสว่ นของเสน้ จะถกู เช่ือมต่อถึงกนั ดว้ ยจดุ ยดึ ในกล่มุ ของเพน ทลู จะประกอบดว้ ยเคร่อื งมือต่ำง ๆ สำหรบั กำรปรบั แต่งเสน้ พำธ ให้ เป็นรูปทรงต่ำง ๆ ไดต้ ำมตอ้ งกำรดงั นี้ ใชว้ ำดเสน้ ดว้ ยปำกกำ- ใชเ้ พ่มิ จดุ ในแนวเสน้ พำธ ใชเ้ ปล่ียนแขนของเสน้ พำธ ใหเ้ ป็นเสน้ โคง้ หรอื เสน้ ตรง ใชล้ บจดุ ในแนวเสน้ พำธ
10 สถำนะของเมำสท์ ่ีใชเ้ ครอ่ื งมือเพนทลู ในกำรวำดภำพสงั เกตไดจ้ ำก สญั ลกั ษณข์ องตวั เมำสท์ ่ีแสดงในขณะทำงำนกบั เสน้ พำธ มีลกั ษณะดงั นี้ ใชส้ รำ้ งจดุ เรม่ิ ตน้ สำหรบั เสน้ พำธใหม่ ใชเ้ พ่มิ จดุ ยดึ ตอ่ ไปเรอ่ื ย ๆ ในกำรสรำ้ งเสน้ พำธ ใชส้ รำ้ งเสน้ พำธแบบปลำยปิดโดยคลกิ ท่ีจดุ เรม่ิ ตน้ อีกครงั้ ใชต้ ่อเสน้ พำธเดมิ ใชเ้ พ่มิ จดุ ยดึ บนเสน้ พำธ ใชล้ บจดุ ยดึ บนเสน้ พำธ (1) กำรวำดเสน้ ตรงดว้ ยเคร่อื งมือเพนทลู สำมำรถทำได้ โดยกำหนดจดุ ยดึ 2 จดุ คือจดุ เรม่ิ ตน้ และจดุ ปลำยดงั ขน้ั ตอนดงั นี้ (1.2) คลิกสรำ้ งจดุ เรม่ิ ตน้ ในกำรวำดเสน้ (1.3) ลำกเสน้ และคลกิ เมำสเ์ ป็นจดุ ปลำยเสน้
11 14) คลกิ วำดจดุ เพม่ิ เพ่อื วำด เสน้ เพ่มิ เติมสำมำรถต่อเสน้ ใหเ้ ป็น รูปทรงตำมตอ้ งกำร 1.5) เม่ือสรำ้ งรูปทรงไดต้ ำมตอ้ งกำร สำมำรถเตมิ สีใหก้ บั รูปทรงดว้ ยกำรคลิก เลือกเครอ่ื งมือสีเติม (Fill) และคลกิ เลือก สีจำกแพนเนลิ คลั เลอร์ 1.6) จะไดร้ ูปทรงท่ีเติมสีสวยงำมตำมตอ้ งกำร 2) กำรวำดเสน้ โคง้ ดว้ ยเครอ่ื งมือแพน ทลู กำรใชเ้ คร่อื งมือเพนทลู ในกำรวำดเสน้ โคง้ จะมีแขนสำหรบั ปรบั ควำมโคง้ ย่ืนออกมำ สำหรบั ใหป้ รบั ควำมไดต้ ำมตอ้ งกำรสำมำรถทำ ไดด้ งั นี้ (2.1) กำรวำดเสน้ โคง้ แบบตวั ซี (C) เสน้ โคง้ แบบตวั เป็นเสน้ โคง้ ท่ีเกิดจำกกำรปรบั ทิศทำงของแขนปรบั ควำมโคง้ ทงั้ สองดำ้ นไปใน ทศิ ทำงตรงขำ้ มกนั กำรสรำ้ งเสน้ โคง้ แบบตวั ซี ทำไดด้ งั นี้
12 2.1.1) คลกิ เลือกเคร่อื งมือเพนทลู (2.1.2) คลิกวำดจดุ เรม่ิ ตน้ และดงึ แขนของจดุ ขนึ้ ดำ้ นบน (2.1.3) คลิกจดุ ปลำยและดงึ แขนของ จดุ ปลำยลงดำ้ นลำ่ งจะปรำกฏเป็นเสน้ โคง้ (2.2) กำรวำดเสน้ โคง้ แบบตวั เอส (S) เสน้ โคง้ แบบตวั เอสเป็นเสน้ โคง้ ท่ีเกิดจำก กำรปรบั ทศิ ทำงของแขนปรบั ควำมโคง้ ทง้ั สอง ดำ้ นไปในทิศทำงตรงขำ้ มกนั กำรสรำ้ งเสน้ โคง้ แบบตวั เอง 2.2.1) คลกิ เลือกเครอ่ื งมือเพนทลู
13 (2.2.2) คลกิ และดงึ แขนของจดุ เรม่ิ ตน้ ขนึ้ (2.2.3) คลิกและดงึ แขนของจดุ ปลำยขนึ้ จะปรำกฏเป็นรูปเสน้ โคง้ รูปตวั โดยเสน้ โคง้ ท่ีเช่ือมต่อกนั เกิดเสน้ โคง้ ท่ีมีลกั ษณะเหมือนกนั และท่ีแตกต่ำงกนั (2.3) กำรวำดเสน้ โคง้ ท่ีเช่ือมต่อกนั เป็นกำรเช่ือมตอ่ กนั ระหวำ่ งเสน้ โคง้ กบั เสน้ โคง้ วิธีท่ี 1 กำรเช่ือมเสน้ โคง้ ท่ีมีลกั ษณะแตกตำ่ งกนั (2.3.1) คลกิ เลือกเครอ่ื งมือเพนทลู CROON (2.3.2) คลกิ จดุ เรม่ิ ตน้ และดงึ แขนของจดุ เรม่ิ ตน้ นนั้ ขนึ้ ดำ้ นบน chakunan Me IMPORE (2.3.3) คลิกจดุ ปลำยและดงึ แขนของจดุ ปลำยลงดำ้ นลำ่ งจะไดร้ ูป เสน้ โคง้ สู้ (2.3.4) คลกิ ตำแหนง่ จดุ เช่ือมต่อและดงึ แขนของจดุ เรม่ิ ตน้ จดุ ท่ี 2 ลง (2.3.5) คลกิ และดงึ แขนของจดุ ปลำยท่ี 2 ขนึ้ จะปรำกฏรูปเสน้ โคง้ 2 รูปเช่ือมกนั
14 2.3.1 คลิกเลือกเคร่อื งมือเพลทลู (2.3.2) คลิกจดุ เรม่ิ ตน้ และดงึ แขนของจดุ ขนึ้ เรม่ิ ตน้ ขนึ้ ดำ้ นบน (2.3.3) คลิกจดุ ปลำยและดงึ แขนของจดุ ปลำยลงดำ้ นล่ำงจะไดร้ ูปเสน้ โคง้ (2.3.4) คลิกตำแหน่งจดุ เช่ือมต่อและดงึ แขนของจดุ เรม่ิ ตน้ จดุ ท่ี 2 ขนึ้ (2.3.5) คลิกและดงึ แขนของจดุ ปลำยจดุ ท่ี 2 ลงจะปรำกฏรูปเสน้ โคง้ สองรูป (2.4) กำรลำกเสน้ ต่อจำกเสน้ เดิมกำรลำกเสน้ พำ ธ ต่อจำกเสน้ เดิมท่ีวำดไวแ้ ลว้ โดยกำร คลกิ เลือกเสน้ พำ ธ ท่ีตอ้ งกำรตอ่ เติมกำรลำกเสน้ ตอ่ เตมิ ดว้ ยเคร่อื งมือเพนทลู ทำไดด้ งั นี้ d (2.4.1) คลกิ เลือกเคร่อื งมือซเี ล็กชนั ทลู (Selection Tool)
15 2.4.2 คลกิ เลอื กเส้นพาธ ดว้ ยเครอ่ื งมือซีเล็กชน่ั ทลู 2.4.3 คลกิ เลอื กเคร่ืองมอื เพลทูล 2.4.4 คลิกท่ปี ลายเส้นพาธ 2.4.5 คลิกเพ่อื เพ่มิ จดุ ตอ่ เติมจดุ ไหกม่ 2.5 การเพิม่ จดุ ยดึ การใช้เสน้ พาธ ผู้ใช้สามาถเพ่มิ จุดยดึ ภายในเสน้ พาธให้มี นานวมากข้ึน เพื่อชว่ ยในการปรบั แต่งเสน้ พาธขึน้ มขี นั้ ตอนดงั น้ี 2.5.1 คลิกเลือกเคร่อื งมอื ซเี ล็กชั้นทลู
16 2.4.2 คลิกเลือกเสน้ พำธ ดว้ ยเคร่อื งมือซีเลก็ ช่นั ทลู 2.4.3 คลิกเลือกเคร่อื งมือเพลทลู 2.4.4 คลิกท่ีปลำยเสน้ พำธ 2.4.5 คลิกเพ่อื เพ่มิ จดุ ตอ่ เตมิ จดุ ไหกม่ 2.5 กำรเพม่ิ จดุ ยดึ กำรใชเ้ สน้ พำธ ผใู้ ชส้ ำมำถเพ่มิ จดุ ยดึ ภำยในเสน้ พำธใหม้ ี นำนวมำกขนึ้ เพ่อื ช่วยในกำรปรบั แต่งเสน้ พำธขนึ้ มีขนั้ ตอนดงั นี้
17 • • • (2.5.2) คลิกเลือกเสน้ พำ ธ ดว้ ยเครอ่ื งมือซีเลก็ ชนั ทลู • (2.5.3) คลิกเลือกเคร่อื งมือแอดแองเคอรพ์ อยททลู (Add Anchor Point Tool (2.5.4) คลิกเพ่มิ จดุ ยดึ เพ่อื ปรบั รูปรำ่ งของเสน้ พำธ • • (2.5.5) คลกิ เลือกเคร่อื งมือไดเรก็ ซ่เี • ล็กชนั ทลู (Direct Selection Tool) • (2.5.6) คลกิ จดุ ยดึ เพ่อื ปรบั รูปรำ่ งของวตั ถุ
18 (2.5.7) รูปร่างของวตั ถุจะปรากฏตามท่ีปรับแต่ง (2.6) การลบจุดยดึ การใชง้ านเสน้ พาธ เม่ือผใู้ ชต้ อ้ งการปรับรูปร่างของเสน้ พาธ ดว้ ยการลบ จุดยดึ ที่ไม่ตอ้ งการออกเพ่อื ปรับรูปร่างหรือรูปทรงตามท่ีตอ้ งการมีข้นั ตอนดงั น้ี (2.6.1) คลิกเลือกเคร่ืองมือดิทแองเคอร์พอยททูล (Delete Anchor Point Tool) (2.6.2) คลิกลบจุดยดึ บนเสน้ พาธ (2.6.3) จะไดเ้ สน้ พาธ ท่ีมีรูปร่างที่ตอ้ งการ
19 (2.7) การเปลี่ยนเส้นโคง้ เป็นเสน้ ตรงการใชง้ านเสน้ พา ธ ผใู้ ชส้ ามารถปรับเสน้ โคง้ ใหเ้ ป็น เสน้ ตรงและปรับเสน้ ตรงใหเ้ ป็นเสน้ โคง้ ไดม้ ีข้นั ตอนดงั น้ี (2.7.1) คลิกเลือกเครื่องมือไดเร็กซ่ีเลก็ ชนั ทูล (2.7.2) คลิกเสน้ พาธ ท่ีตอ้ งการปรับ 2.7.3) คลิกเลือกเคร่ืองมือคอนเวริ ์ตไดเร็กชนั พอยตท์ ูล (Convert Point Tool)
20 (2.7.4) คลิกจดุ ยึดเพื่อปรับเป็นเส้นตรง (2.7.5) เสน้ พาธจะเปลี่ยนจากเสน้ โคง้ เป็นเส้นตรง (2.8) การเปลี่ยนเสน้ ตรงเป็นเส้นโคง้ การใชง้ านเส้นพาธ เม่ือผใู้ ชส้ ามารถปรับเปล่ียนเสน้ ตรงใหเ้ ป็นเสน้ โคง้ เสน้ ตรงใหเ้ ป็นเส้นโคง้ มีข้นั ตอนดงั น้ี (2.8.1) คลิกเลือกเครื่องมือไดเร็กซ่ีเลก็ ชนั ทูล (2.8.2) คลิกเลือกวตั ถุทตี่ อ้ งการ (2.8.3) คลิกจุดยดึ (2.8.4) คลิกเลือกเครื่องมือคอนเวิร์ตไดเร็กชนั พอยตท์ ูล
21 2.8.5) ปรับเสน้ ใหเ้ ป็นเสน้ โคง้ (2.8.6) เสน้ พาธ จะเปล่ียนจากเส้นตรงเป็นเสน้ โคง้ 2. การวาดภาพดว้ ยดินสอ (Pencil Tool) เพนเซิลทูลเป็นเคร่ืองมือท่ีใชส้ าหรับการวาด เส้นใหเ้ ป็นรูปต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งอิสระตามการลากเมาส์และสามารถแกไ้ ขไดง้ ่ายเส้นท่ีวาดดว้ ย ดินสอจะประกอบดว้ ยจุดยดึ ที่วางในแนวโคง้ ของเส้นโดยอตั โนมตั ิซ่ึงจะข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของ เส้นท่ีวาด ในกลุ่มของเพนเซิลทูลจะประกอบดว้ ยเครื่องมือต่าง ๆ สาหรับการวาดเส้นการ ปรับแต่งแกไ้ ขเพื่อใหไ้ ดร้ ูปทรงตามตอ้ งการดงั น้ี ใชว้ าดเส้นเป็นรูปรูป รูปทรงต่าง ๆ ใชต้ กแต่งเสน้ ใหโ้ คง้ เรียบ
22 ใชล้ บเสน้ ท่ีไม่ตอ้ งการ (1) การวาดเสน้ การใชเ้ ครื่องมือเพนเซิลทูลวาดเส้นดว้ ยดินสอใหม้ ี รูปร่างและรูปทรง (1.1) คลิกเลือกเครื่องมือเพนเซิลทูล INS (1.2) คลิกเมาส์บนพ้ืนท่ีอาร์ทบอร์ดเพอื่ วาดภาพวาดเสน้ เป็นรูปร่างรูปทรงต่างตกแต่งเสน้ ใหโ้ คง้ เรียบ (1.3) เมื่อวาดภาพสาเร็จจะไดภ้ าพตามตอ้ งการ (2) กำรแกไ้ ขลำยเสน้ ของภำพกำรใชเ้ คร่อื งมือเพน เซลิ ทลู นอกจำกจะใชใ้ นกำรวำดเสน้ ใหมแ่ ลว้ ยงั สำมำรถแกไ้ ขลำยเสน้ ท่ีมีอย่ใู หเ้ ปล่ียนแปลงรูปรำ่ ง หรอื วำดตอ่ เติมลำยเสน้ เดิมไดม้ ีขนั้ ตอนกำรทำดงั นี้ (2.2) คลกิ เมำสบ์ รเิ วณจดุ ยดึ ท่ีตอ้ งกำร เปล่ียนแปลงจำกนน้ั ลำกเมำสจ์ ำกจดุ ยดึ มตน้ ไปยงั จดุ ยดึ ปลำย (2.3)จะไดภ้ ำพตำมตอ้ งกำร
23 • (3.2) กดคียค์ อนโทรล (Ctrl) และคลิกเมำสบ์ รเิ วณเสน้ ท่ีตอ้ งกำรปรบั แต่ง • (3.3) ใชเ้ ครอ่ื งมือสมธู ทลู เพ่อื ปรบั แตง่ เสน้ บรเิ วณท่ีตอ้ งกำรเพ่อื ใหเ้ ป็นเสน้ เรยี บ • 3.4) จะไดภ้ ำพท่ีเสน้ มีควำมเรยี บตำมตอ้ งกำร • (4) กำรลบเสน้ ท่ีไมต่ อ้ งกำรกำรใชเ้ คร่อื งมือเพนเซิลทลู วำดภำพนน้ั ในกำรคลิกลำกเสน้ ตอ้ งกำรไดด้ ว้ ยเครอ่ื งมืออเิ รชทลู (Erase Tool) มีขนั้ ตอนกำรทำดงั นีแ้ ต่ละครงั้ อำจจะ มีเสน้ ท่ีเกินออกมำหรอื มีเสน้ ท่ีทบั กนั เป็นเสน้ ท่ีไม่ตอ้ งกำรผใู้ ชส้ ำมำรถลบเสน้ ท่ีไม่ • (4.1) คลกิ เลือกอเิ รซทลู • (4.2) กดคอนโทรล (Ctrl) และคลิกเมำสเ์ สน้ ท่ีตอ้ งกำรปรบั แตง่
24 (4.3) กดคอนโทรล (Ctrl) และคลิกเมำสเ์ พ่อื ลบเสน้ ท่ีไมต่ อ้ งกำรออกไป (4.4) จะไดภ้ ำพตำมตอ้ งกำร 5.4 กำรนำรูปภำพจำกภำยนอกเขำ้ มำใชง้ ำนในโปรแกรมอโดบีอนิ ดีไซนซ์ เี อส 6 นอกจำกกำรใชเ้ คร่อื งมือวำดภำพสำหรบั สรำ้ งภำพประกอบตำ่ ง ๆ ในส่ือส่ิงพมิ พ์ แลว้ โปรแกรมอโดในดีไซนซีเอส 6 ยงั สำมำรถใหผ้ ใู้ ชน้ ำรูปภำพจำกภำยนอกโปรแกรม เขำ้ มำเพ่อื ใชง้ ำนไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพดงั ขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ 1. คลกิ เลือกคำส่งั ไฟล>์ เพลส (File> Place (4.3) กดคอนโทรล (Ctrl) และคลกิ เมาสเ์ พอื่ ลบเสน้ ทไี่ มต่ อ้ งการออกไป (4.4) จะได้ภาพตามต้องการ
25 2. ปรากฏหนา้ ตา่ งเพลสขนึ้ มา 3. เลือกโฟลเดอรท์ ี่เก็บไฟลร์ ปู ภาพทตี่ อ้ งการ 4. เลอื กไฟล์รูปภาพทต่ี อ้ งการ 5. คลกิ ปุ่มโอเพน่ (Open)
26 6.ปรากกฏผลลพั ธ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: