ภมู ปิ ัญญาผลติ ภัณฑเ์ ตยปาหนันประวัตคิ วามเป็ นมาตน้ เตยปาหนันชอบขน้ึ ตามรมิ หาดชายทะเลป่ าโกงกาง ลกั ษณะลาตน้ เป็ นกอและแตกกใิ บยาวเป็ นพมุ่ขนาดเลก็ บา้ ง ใหญต่ ามอายแุ ละสภาพดนิสงู ประมาณ 5 เมตร การทาเครอื่ งจักสานเป็ นหตั ถกรรมพนื้ บา้ นพน้ื เมอื งทที่ ากนั มาแตโ่ บราณและมที ัว่ ไปในทกุ ภาคของประเทศ คาวา่ เครอื่ งจักสาน นัน้ โดยท่ัวไปมกั จะหมายถงึ สง่ิ ทผ่ี ลติ ขนึ้ ดว้ ยมอื โดยวธิ จี กั สาน ถกั และทอ เป็ นหลกั การเรยี กเครอื่ งจกั สานวา่ จกั สานนัน้ เขา้ ใจวา่ เป็ นคาทเ่ี รยี กขนึ้ ตามวธิ กี ารทท่ี าใหเ้ กดิ เครอื่ งจกั สานขน้ึ น่ันเอง เพราะเครอ่ื งจกั สานตา่ งๆจะสาเร็จเป็ นรปู รา่ งทสี่ มบรู ณน์ ัน้ จะตอ้ งผา่ นกระบวนการทปี่ ระกอบขน้ึ ดว้ ยการจกั การสานและการถกั หรอื การขดั กนั ของวสั ดทุ ่ีผา่ นกระบวนการเตรยี มดว้ ยการจกั เพอ่ื แปรรปู วัสดหุ รอื วัตถดุ บิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั การใชส้ อยเสยี กอ่ นเครอ่ื งจักสานจากเคยปาหนันเครอ่ื งจักสานของภาคใตท้ างดา้ นชายฝั่งตะวนั ตกหรอื ชายฝั่งทะเลอนั ดามนั ถอื ไดว้ า่ เป็ นเครอื่ งจกั สานเฉพาะถน่ิ มเี อกลกั ษณเ์ ป็ นของตนเองอยบู่ า้ ง ไดแ้ ก่ พวกเครอื่ งจกั สานทสี่ านดว้ ยใบเตย ใบลาเจยี ก หรอื ปาหนัน ซงึ่สว่ นมากนยิ มสานเสอ่ื สอบ หรอื กระสอบสาหรับใสข่ า้ วหรอื ใสพ่ ชื ผลตา่ งๆโดยเฉพาะจงั หวัดกระบม่ี กี ารสานไวใ้ ชใ้ นครัวเรอื น จังหวดั กระบม่ี กี ารสานเสอื่ ปาหนันทม่ี เี อกลกั ษณเ์ ฉพาะถน่ิ มคี วามประสานกลมกลนื กบั ประเพณีนยิ มของทอ้ งถน่ิ และ
วธิ กี ารสานตลอดจนการใชว้ สั ดใุ นทอ้ งถทิ่ ต่ี า่ งจากเครอื่ งจักสานอน่ื ๆมกี ารสบื ทอดภมู ปิ ัญญาการสานมาจากบรรพบรุ ษุ สลู่ กู หลานและเรยี นรกู ้ นั ภายในครอบครวั โดยเฉพาะผทู ้ น่ี ับถอืศาสนาอสิ ลามนยิ มใชเ้ สอ่ื ในการปนู อนและนาไปรองนั่งทส่ี เุ หรา่ และใชเ้ ป็ นเสอ่ื ปนู อนของคบู่ า่ วสาวทจี่ ะแตง่ งานใหมโ่ ดยคู่บา่ วสาวจะตอ้ งชว่ ยกนั สานไวห้ ลายๆผนื เพอ่ื ใชร้ องแทนทน่ี อนในสมยั โบราณและปัจจบุ นั ไดร้ บั การสง่ เสรมิ จากหน่วยงานภาครฐั จงึ ไดค้ ดิ พฒั นารปู แบบเป็ นผลติ ภณั ฑท์ หี่ ลากหลายเป็ นสนิ คา้ ของฝากประจาจงั หวัดทมี่ ชี อ่ื เสยี งทสี่ วยงามทนทานไดแ้ ก่ เสอื่ ปาหนัน หมอน กระเป๋ า ซองบหุ รี่ หมกุ ใสข่ องเครอ่ื งใชส้ อย เป็ นตน้ เตยปาหนันเตยปาหนันเป็ นพชื ตระกลู ปาลม์ บางคนรจู ้ กั ชอ่ื ทัว่ ไปวา่ ตน้ ลาเจยี กจะชอบขนึ้ ตามรมิ หาดชายทะเล ป่ าโกงกาง ลกั ษณะลาตน้ เป็ นกอ ฃและแตกกงิ่ ใบยาวเป็ นพมุ่ขนาดเลก็ บา้ งใหญบ่ า้ งตามอายแุ ละสภาพดนิ สงู ประมาณ 5 เมตร ใบเตยปาหนันจะมสี เี ขยี วยาวมรี ปู พรรณคลา้ ยกบั ใบเตยหอม ตา่ งกนั ทใี่ บเตยปาหนันนัน้ จะมหี นามรมิ ใบทงั้ 3 ดา้ น คอื ดา้ นขา้ ง 2 ดา้ นและตรงกลางหลงั นามาแปรสภาพเป็ นตอกใชส้ านเป็ นภาชนะตา่ งๆได ้ ราก นามาใชป้ ระโยชนโ์ ดยนามา ตม้ กนิ ขบั ปัสสาวะแกน้ ว่ิ ไดด้ อกนามาใชเ้ ป็ นตอกสานใหเ้ ดก็ ใชป้ ระดบั รา่ งกาย ผล นามาใชห้ นั่ เป็ นชนิ้ ๆ ผสมกบั ตน้ ตายปลาย เป็ น ใชก้ รอกใหว้ วั กนิ ทาใหว้ วั ทเี่ บอื่ หญา้ กนิ หญา้ ไดม้ ากขนึ้
หอยชกั ตนี หอยชกั ตนี เป็ นชอ่ื ของหอยทะเลชนดิ ฝาเดยี วเปลอื กบางชนดิ หนงึ่ โดยมรี ปู รา่ งคลา้ ยหอยสงั ขข์ นาดเลก็ บางทจี งึเรยี กวา่ หอยสงั ขต์ นี เดยี วลกั ษณะและการกระจายพนั ธเุ์ ป็ นหอยฝาเดยี วทจี่ ดั อยใู่ นวงศห์ อยชกั ตนี (Strombidae) พบแพรก่ ระจายท่ัวไปในทะเลเขตอนิ โด-แปซฟิ ิกตงั้ แตป่ ระเทศอนิ เดยี ศรลี งั กา ไปทางตะวนั ตกสดุ ถงึ เมลานเี ซยี เหนอื สดุ ถงึประเทศญปี่ ่ นุ และใตส้ ดุ ถงึ ควนี สแลนดแ์ ละนวิ คาลโี ดเนยี พบอาศยั อยใู่ นบรเิ วณพนื้ ทรายปนโคลนและบรเิ วณหญา้ ทะเลและสาหรา่ ยตงั้ แตเ่ ขตน้าขนึ้ -ลงไปจนถงึ ในระดบั ความลกึ ถงึ ประมาณ 55 เมตรมกี ารเก็บมาใชบ้ รโิ ภคเป็ นอาหารในหลายประเทศในเอเซยี ตะวนั ออกเฉยี งใต ้ รวมทงั้ มกี ารนาเปลอื กมาใชป้ ระโยชน์โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในงานหตั ถกรรมเครอื่ งใชแ้ ละของประดบั ตกแตง่ ตา่ งๆ ขนาดใหญส่ ดุ มคี วามยาวเปลอื ก 10 เซนตเิ มตรแต่โดยท่วั ไปมกั พบขนาดประมาณ 6-7 เซนตเิ มตรในประเทศไทยพบหอยชกั ตนี ไดท้ ั่วไปทงั้ ในฝ่ังอา่ วไทยและฝั่งทะเลอนั ดามนัถอื เป็ นหอยฝาเดยี วชนดิ ทพ่ี บมากสามารถพบเปลอื กตามชายฝั่งทะเลท่วั ไป แตม่ เี พยี งบางแหลง่ ทม่ี กี ารเกบ็ หอยชกั ตนี ขนึ้ มาใชป้ ระโยชนเ์ พอ่ื การบรโิ ภคอยา่ งแพรห่ ลาย สว่ นใหญเ่ ป็ นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว เชน่ แถบจงั หวัดกระบี่ พงั งา ภเู กต็ ระยอง ชมุ พรเป็ นตน้ ซงึ่ โดยทวั่ ไปการเกบ็ หอยชกั ตนี จะใชว้ ธิ ี งมหรอื เดนิ เกบ็ ในเวลาน้าลงในเขตจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธส์ ามารถพบหอยชกัตนี ในพน้ื ทชี่ ายฝ่ังทะเลของทกุ อาเภอ และปัจจบุ นั ยงั คงมอี ยสู่ งั เกตไดจ้ ากทสี่ ามารถพบเปลอื กหอยใหมๆ่ ตามชายหาดทวั่ ไปแตไ่ มม่ แี หลง่ ทท่ี าการประมงเก็บหอยชกั ตนี จากธรรมชาตมิ าบรโิ ภคแพรห่ ลายเชน่ ในพน้ื ทฝี่ ่ังทะเลอนั ดามนั และไมม่ กี ารศกึ ษา
สารวจอยา่ งจรงิ จงั จงึ ไมท่ ราบสภาวะทรพั ยากรหอยชกั ตนี ในเขตจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธใ์ นปัจจบุ นั โมบายทามอื จากวสั ดธุ รรมชาติ สวยแบบงา่ ยๆ เหมาะสาหรับใหส้ มาชกิ ในบา้ นทกุ ๆ คนชว่ ยกนั ทาชว่ ยกนั ออกแบบ เพม่ิ ความอบอนุ่ ในครอบครวัอยา่ งเชน่ “โมบายจากวัสดธุ รรมชาต”ิ การแตง่ บา้ นเป็ นงานอดเิ รกทชี่ นื่ ชอบของหลายๆคน เพราะวา่ แตง่ ไปกเ็ พลนิ ไปไม่เหมอื นงานอนื่ ทต่ี อ้ งเรง่ รดั ใหเ้ สร็จเร็วๆ แตง่ านนท้ี าไปกม็ คี วามสขุ ไปทาไปแลว้ ไมส่ วยกข็ ยบั ปรับเปลยี่ นใหมส่ าหรบั คราวนเี้ ราลองมาทาของแตง่ บา้ นทน่ี ่ารกั และสวยแบบง่ายๆเหมาะสาหรบั ใหส้ มาชกิ ในบา้ นทกุ ๆคนชว่ ยกนั ทาชว่ ยกนั ออกแบบเพม่ิ ความอบอนุ่ ในครอบครัวอยา่ งเชน่ “โมบายจากวสั ดธุ รรมชาต”ิ สงิ่ ทต่ี อ้ งเตรยี ม
เศษกง่ิ ไมข้ นาดพอเหมาะ 3-4 กงิ่ เปลอื กหอยรปู แบบตา่ งๆ เจาะรเู รยี บรอ้ ยเพอ่ื เตรยี มรอ้ ยเชอื กลกู ปัดทป่ี ัน้ จากดนิเยอื่ กระดาษสตี า่ ง ๆ(อาจจะนามาจากตอนทเี่ ราทาเครอื่ งประดบั จากเปลอื กหอยจาลองในครงั้ กอ่ นๆ ก็ได)้ เชอื กหรอื ไหมพรมตดั ตามขนาดมเี่ ราตอ้ งการหลายๆเสน้ กรรไกร วธิ ที า นาเชอื กมามดั กบั กง่ิ ไมห้ ลกั ของโมบายใหแ้ น่น นาเปลอื กหอยทเ่ี จาะรแู ลว้ มารอ้ ยเชอื กแลว้ มดั เป็ นปมใหอ้ ยใู่ นตาแหน่งทต่ี อ้ งการ นาลกู ปัดดนิ เยอื่ กระดาษมารอ้ ยตอ่ รอ้ ยเปลอื กหอยและดนิ เยอื่ กระดาษสลบั กนั ไปเรอ่ื ยๆ จนไดเ้ ชอื กยาวไดข้ นาดตามทต่ี อ้ งการ นาเชอื กทรี่ อ้ ยเปลอื กหอยและลกู ปัดเรยี บรอ้ ยแลว้ มาผกู กบั กง่ิ ไม ้ นาเชอื กมารอ้ ยลกู ปัด และเปลอื กหอยตามทอี่ อกแบบไว ้ และนามาผกู กบั กง่ิ ไม ้ ใหไ้ ดข้ นาดทสี่ วยงาม ทาชน้ิ สว่ นโมบายเสร็จแลว้ สว่ นหนง่ึ วางไวร้ อประกอบกบั สว่ นอน่ื นากงิ่ ไมอ้ กี กง่ิ มาผกู เชอื กทรี่ อ้ ยลกู ปัดกบั เปลอื กหอย ตามการออกแบบของเรา ทาแบบนไ้ี ปเรอ่ื ยๆ กบั กง่ิ ไมท้ กุ กง่ิ ที่เตรยี มไว ้ เมอ่ื ทกุ สว่ นเรยี บรอ้ ยแลว้ กน็ ามาประกอบกนั กบั กง่ิ ไมห้ ลกั โดยวางบนพน้ื ดคู วามสวยงามกอ่ น จากนัน้ ก็ถงึ ตอนสาคญั ทสี่ ดุ แลว้ คอื ลองยกขนึ้ แขวนดเู พอ่ื เชค็ สมดลุ ของกง่ิ ไมว้ า่ เอยี งไปดา้ นหนง่ึ ดา้ นใดมากเกนิ ไปไหมถา้ มากไปกล็ องยา้ ยเปลอื กหอยหรอื ลกู ปัดมาอกี ขา้ งหนง่ึ หรอื เอาออกไป หรอื ปรบั ตาแหน่งของจดุ ทผ่ี กู เชอื กกบั กง่ิ ไม ้โดยเลอ่ื นเขา้ เลอื่ นออกจนกวา่ กงิ่ ไมท้ ัง้ หมดจะสมดลุ ความสนุกเพลดิ เพลนิ ก็จะอยทู่ ต่ี รงการปรบั ไปปรับมา เชค็ ความสมดลุ
ปนู มิ่ นาปมู าลา้ งน้าใหส้ ะอาดแกะกระดองออกและใชว้ ธิ กี ารสบั โดยแยกปเู ป็ นสส่ี ว่ นกา้ มปใู ชม้ ดี บบุ พอแตกจดั เรยี งใสจ่ านทรงลกึ พกั ไว ้ น้าตาลทราย ซอี ๊วิ ขาว น้ามนั งา น้ามนั หอยพรกิ ไทยป่ น ผสมในถว้ ยคนใหล้ ะลายเขา้ กนั สบั กระทยี มใหล้ ะเอยี ดหนั่ รากผกั ชเี ป็ นฝอยใสล่ งในถว้ ยเครอื่ งปรงุ นาไปราดบนตวั ปแู ลว้ นาใสล่ งั ถงึ จะนง่ึ ดว้ ยไฟแรงใชเ้ วลาประมาณ 15 นาทรี ะหวา่ งนัน้ ลา้ งตน้ หอมและขนึ้ ฉ่ายใหส้ ะอาด หน่ั เป็ นทอ่ นๆยาวประมาณ 2 ซม.นาไปโรยหนา้ ตวั ปทู สี่ กุ แลว้ พรกิ ชฟี้ ้าเหลอื ตาใหล้ ะเอยี ดเตมิ น้าสม้ สายผู สมใหเ้ ขา้ กนั แคน่ ก้ี เ็ สร็จแลว้ สว่ นของน้าจม้ิ จดั เสริ ฟ์ ปนู งึ่ กระเทยี มรอ้ นๆพรอ้ มกบั น้าจม้ิ ปทู ที่ รี สจัดจา้ น ตกแตง่ จานหรอื จัดปดู ว้ ยผกั และผลไมใ้ หห้ นา้ รบั ประทานเพอ่ื นเพม่ิ ความน่ากนิ ของเนอ้ื ปลู งไปสามารถนาไปกนิ เลน่ ๆหรอื เป็ นกบั ขา้ วระดบั ภตั ตาคาร ดว้ ยฟรมี อื เราเองไดเ้ ลยคะ่
คกุ ้ กเ้ี ม็ดมะมว่ งหมิ พานต์ จงั หวดั กระบี่ คกุ กเี้ มด็ มะมว่ งหมิ พานต์ เกดิ จากการแปรรปู มะมว่ งหมิ พานตท์ มี่ มี ากในเขตพน้ื ทจ่ี งั หวดั กระบี่ ซง่ึ มคี ณุ คา่ ทางอาหารมากมาย รสชาติ หอม หวาน มนั โดยชาวบา้ นไดจ้ ัดทาเพอ่ื จาหน่ายเป็ นของฝากของจงั หวดั กระบี่ สว่ นผสมทัง้ หมด • แป้งเอนกประสงค์ 200 กรมั • เมด็ มะมว่ งหมิ พานตส์ บั หยาบ 120 กรัม • ไขไ่ ก่ 1 ฟอง • เนยสดชนดิ เคม็ 120 กรมั • ผงฟู 1/2 ชอ้ นชา • เบกกง้ิ โซดา 1/2 ชอ้ นชา • เกลอื 1/2 ชอ้ นชา • น้าตาลทรายแดง 100 กรมั • กลนิ่ วนลิ า 1 ชอ้ นชา วธิ ที า 1.วอรม์ เตาอบรอไว ้ 180 C ไฟบน - ลา่ ง
2.ตเี นยสด กบั น้าตาลทรายแดง ตจี นกวา่ สว่ นผสมขน้ึ ฟเู บา3.เตมิ ไขไ่ ก่4.ใสส่ ว่ นผสมทเ่ี หลอื ลงไป ตจี นเขา้ กนั5.ตกั ใสช่ อ้ น วางบนถาด เตรยี มอบ เอาเมด็ มะมว่ งหมิ พานตม์ าแปะขา้ งหนา้ ใหด้ สู วยงาม6.นาคกุ กเี้ ขา้ อบประมาณ 15-20 นาที7.นาออกมาพกั ไวส้ กั ครแู่ ลว้ แซะออกผงึ่ ไวบ้ นตะแกรง แลว้ เก็บเขา้ ภาชนะทม่ี ดิ ชดิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: