Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์

Published by arlirak1455, 2020-02-12 23:31:50

Description: ในหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับดอกไม้ ในบางส่วน อาจจะเป็นประโยชน์ได้บ้างในบางเรื่อง

Search

Read the Text Version

ดอกไม้

คานา หนังสือ ดอกไม้ เลม่ น้ีเปน็ ส่วนหนง่ึ ของวชิ า การสรา้ งหนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ซ่ึงข้าพเจ้าไดร้ ับมอบหมายจากคณุ ครใุ หจ้ ดั ทาหนังสอื น้ีข้ึนตามความ สนใจ โดยบรู ณาการกบั วิชา วทิ ยาสาสตร์ เนอ้ื หาในหนังสอื เล่มนจ้ี ะประกอบไปด้วย เร่อื ง ดอกไม้ เช่น โครงสร้างของดอกไม้ เกสรเพศผู้/เมยี ฯลฯ ซ่ึงขา้ พเจ้าไดร้ วบรวม ไว้ในหนังสือเล่มน้ี ขอขอบคุณครู ประภสั สร กาเขียว ทีใ่ หแ้ นะนา ปรกึ ษา และ เพอ่ื นท่ีช่วยให้คาแนะนา ตลอดจนหนงั สอื เลม่ นเ้ี สร็จลลุ ่วงไปด้วยดี หากผิดพลาด ประการใดก็ขออภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย ผจู้ ดั ทำ ด.ญ.อำรีลกั ษ์ ใจมนั่ ด.ญ.เบญญำภำ จินดำมณี

สำรบญั หนำ้ ก คำนำ ข สำรบญั 1 โครงสร้ำงของดอกไม้ 2 กลีบเล้ียง 3 กลีบดอก 4 เกสรตวั ผู้ 5 กำ้ นชูเกสรตวั ผู้ 6 อบั เกสรตวั ผู้ 7 เกสรตวั เมีย 8 ยอดเกสรตวั เมีย 9 กำ้ นชูเกสรตวั เมีย 10 รังไข่

โครงสรา้ งของดอกไม้ เป็นอวยั วะสาคญั ในการ สบื พนั ธุ์ของพชื ดอก โครงสร้างของดอกไม้ ประกอบด้วยส่วนตา่ งๆ 4 สว่ น โดยแต่ละสว่ นจะเรียงตวั จากช้ันที่ อยู่นอกสุดเขา้ สสู่ ่วนใน คือ กลีบเลย้ี ง กลีบดอก เกสรตวั ผู้ และเกสรตัวเมยี ตามลาดับ โดยสว่ นประกอบทั้ง 4 นจ้ี ะอยบู่ นฐานรองดอก ซึง่ อยูป่ ลายสดุ ของกา้ นชู ดอก โครงสรา้ งของดอกไมป้ ระกอบด้วยอวยั วะสืบพนั ธ์ุ รวมถึงมกี ลีบเลย้ี ง และกลบี ดอก ทา หน้าทล่ี ่อแมลงผสมเกสร

1. กลีบเล้ียง (sepal) เปน็ ส่วนของดอกที่อยนู่ อกสุด มสี ีเขยี ว เหมือนใบ และทาหน้าท่ีสงั เคราะห์ดว้ ย แสงได้ กลีบเลยี้ งทาหนา้ ท่ีหอ่ หุม้ และป้องกันอนั ตรายให้แก่สว่ นของดอกทอี่ ยภู่ ายใน เมื่อดอกบานแล้วส่วนของกลบี เลี้ยงอาจหมดหนา้ ทแี่ ล้วหลดุ ร่วงไป วงของกลบี เลย้ี งเรยี กว่า แคลิกซ์ (calyx) ในพืชดอกบางชนิด กลบี เลย้ี งอาจมรสสี ันสดใส และทาหน้าทล่ี ่อแมลงใหม้ าผสมเกสรได้เชน่ เดยี วกบั กลีบดอก บางครง้ั บรเิ วณใตก้ ลีบ เลีย้ งมกี ลีบสเี ขียวขนาดเลก็ เรยี งตัวเป็นวงอยู่ดว้ ย เรียกวา่ รว้ิ ประดบั (epicalyx) เช่น ใน ดอกชบา และพรู่ ะหง

2. กลบี ดอก (petal) เปน็ ส่วนท่ีอย่ถู ดั จากกลีบเลย้ี งเข้ามากลบี ดอกมักมีสีสันสวยงามเน่อื งจากมรี งค วตั ถุ กลีบดอกบางชนดิ สามารถเปลยี่ นสีได้ เชน่ ดอกพุดตาน บางชนิดมกี ล่ินหอม เนือ่ งจากมีต่อมกลน่ิ อยดู่ ้วยและทโ่ี คนกลบี ดอกมกั มีตอ่ มนา้ หวาน ชว่ ยในการล่อ แมลง (อา่ นเพม่ิ เติม: ดอกไม้ทาไมจงึ หอม) วงกลบี ดอกเรียกวา่ คอโรลา (corolla) ถ้า หากกลีบเลยี้ งและกลีบดอกเหมือนกนั จนแยกไม่ออกจะเรียกรวมกนั ว่า วงกลีบรวม (perianth) ได้แก่ จาปี จาปา บัวหลวง ทวิ ลิป เป็นต้น

3. เกสรตัวผู้ (stamen) เป็นสว่ นทีจ่ าเป็นตอ่ การสืบพนั ธุ์ ทาหนา้ ทส่ี ร้างเซลลส์ ืบพันธุ์เพศผู้ เกสรตัวผมู้ ักมีหลาย อันและเรยี งตวั เป็นวงเรยี กวา่ แอนดรเี ซียม (androecium)เกสรตัวผสู้ ว่ นใหญ่แยกกนั เป็นอนั ๆ แตบ่ างชนดิ อาจติดกัน หรอื อาจติดสว่ นอืน่ ของดอก เช่น เกสรตวั ผเู้ ชอ่ื มติดกับ กลบี ดอก พบในดอกเขม็ ดอกลาโพง หรอื เกสรตัวผตู้ ดิ กบั เกสรตวั เมยี พบในดอกรัก ดอกเทยี น เกสรตวั ผ้แู ตล่ ะอันประกอบดว้ ย 2 สว่ น เกสรตัวผู้ เป็นแหล่งสร้างเซลล์สืบพนั ธเุ์ พศผใู้ นพืช โดยบรรจอุ ยภู่ ายในอับละอองเรณู

3.1 ก้านชเู กสรตัวผู้ (filament) เป็นส่วนทีม่ ลี ักษณะเปน็ เสน้ อาจรวมกนั เป็นกล่มุ หรอื แยกกันอาจยาวหรอื สั้นซ่งึ ก็ แลว้ แต่ชนิดของพชื ทาหน้าที่ชอู ักเกสรตัวผู้หรอื อบั เรณู

3.2 อบั เกสรตัวผู้ (anther) มลี ักษณะเป็นแทงกลมยาวหรอื คอ่ นขา้ งกลม 2 พู ภายในแบง่ เป็นถงุ เลก็ ๆ 4 ถงุ เรยี กว่า ถงุ เรณู (pollen sac) บรรจลุ ะอองเรณู (pollen grain) จานวนมากมลี กั ษณะเป็นเม็ด เลก็ ๆ สเี หลืองๆ ผวิ ของละอองเรณแู ตล่ ะชนดิ จะแตกตา่ งกนั ละอองเรณทู าหน้าที่ เปน็ เซลลส์ บื พนั ธเุ พศผู้ เมอ่ื ดอกเจรญิ เตม็ ทแี่ ล้วถุงละอองเรณจู ะแตกออก ละอองเรณูกจ็ ะ ปลวิ ออกมา เกสรตัวผู้ในพืชแต่ละชนดิ มีจานวนมากนอ้ ยไม่เทา่ กัน ในพืชโบราณหรอื พืช ชนั้ ต่าเกสรตวั ผูม้ กั มีจานวนมาก สว่ นพืชท่มี วี ิวฒั นาการสงู จานวนเกสรตัวผ้จู ะลดนอ้ ยลง

4. เกสรตวั เมีย (pistil) เป็นชั้นทอ่ี ยใู่ นสุดเปลย่ี นแปลงมาจากใบเพอ่ื ทาหน้าที่สรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธ์ุเพศเมยี จงึ เปน็ อวัยวะสาคญั ตอ่ การสืบพันธุ์ ในหน่งึ ดอกเกสรตวั เมยี อาจมอี ันเดยี วหรอื หลายอนั เรยี งตวั เป็นวงของเกสรตวั เมีย เรียกว่า จเิ นเซยี ม (gynaecium) เกสรตวั เมยี ประกอบด้วย 3 สว่ นคอื พืชส่วนใหญ่ มักจะมเี กสรตัวเมียเพยี งหนง่ึ อนั โดยส่วนมากจะอยู่ช้ันในสุดของโครงสร้างดอกไม้

4.1 ยอดเกสรตัวเมยี (stigma) เปน็ สว่ นทพ่ี องออกมลี กั ษณะเป็นตุม่ แผ่แบนเปน็ แฉก เป็นพูและมนี า้ เหนียวๆ หรอื ขน คอยจับละอองเรณทู ลี่ อยมาติด

4.2 ก้านชูเกสรตวั เมยี (style) เปน็ ส่วนทีม่ ลี ักษณะเปน็ เสน้ หรอื ก้านเลก็ ๆ อาจยาวหรือสนั้ เชื่อมต่อจากยอดเกสรตวั เมียลงสรู่ ังไข่ เปน็ ทางให้เสปิร์มนวิ เคลยี สเขา้ ผสมกบั ไข่

4.3 รงั ไข่ (ovary) เปน็ สว่ นที่พองออกมาลักษณะเปน็ กระเปาะยดึ กับฐานรองดอกหรืออาจฝังอยูใ่ นฐานรอง ดอกภายในมีลักษณะเปน็ หอ้ งๆ เรยี กว่า โลคลุ (locule) ซึ่งภายในมอี อวลุ (ovule) บรรจุ อยูแ่ ต่ละหนว่ ยของเกสรตัวเมียท่มี โี ลคลุ ทหี่ อ่ หุ้มไขไ่ ว้ภายในเรยี กว่า คาร์เพล (carpel) ใน 1 โคคุล อาจมี 1 คารเ์ พล หรอื หลายคารเ์ พลก็ไดแ้ ล้วแต่ชนิดของดอกไม้ เมอ่ื เกดิ การ ปฏิสนธแิ ล้วรงั ไขจ่ ะเจรญิ เป็นผล สว่ นออวลุ เจรญิ เปน็ เมล็ด รงั ไข่

แหลง่ อ้างองิ ขอบคุณเรื่องจาก : https://ngthai.com/science/15396/flowerstructure/ /

ผู้จัดทา ด.ญ.อารีลักษ์ ใจมนั่ ม.1/1 เลขที่ 37 ด.ญ.เบญญาภา จินดามณี ม.1/1 เลขที่ 24 เสนอ คณุ ครู ประภสั สร กาเขียว วิชาการสรา้ งหนงั สอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ โรงเรียนแจห้ ่มวิทยา อาเภอ แจห้ ่ม จงั หวดั ลาปาง สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษาลาปางเขต 35 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2562

Thank you


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook