Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore practicum2

practicum2

Published by Onapa Wansawaeng, 2021-12-05 17:39:27

Description: practicum2

Search

Read the Text Version

46 ส32101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 3 1.0 (40) ส32103 สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม 4 1.0 (40) 0.5 (20) ส32102 ประวตั ิศาสตร3์ 0.5 (20) ส32104 ประวัติศาสตร์ 4 0.5 (20) พ32101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 3 0.5 (20) ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 (20) พ32102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 4 0.5 (20) ง32101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 3 1.0 40) อ32101 ภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน 3 0.5 (20) ศ32102 ศลิ ปะ4 7.5 (300) 1.0 (40) รายวิชาเพ่มิ เติม 0.5 (20) ง32102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 4 0.5 (20) ท32201 หลกั การใชภ้ าษาไทย 0.5 (20) ส32201 วิถีชาวพุทธ 3 1.0 (40) อ32102 ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน 4 0.5 (20) ส32202 ถิน่ ฐานย่านฝงั่ ธน 0.5 (20) ส32203 หน้าท่พี ลเมอื ง 1 8.5 (340) รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 1.0 (40) ง32201 งานใบตองและดอกไมส้ ด 1.0 (40) อ32201 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 3 1.0 (40) ท32202 การฟังและดู 1.5 (60) อ32202 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 3 1.0 (40) จ32201 ภาษาจีน3 0.5 (20) ส32205 วิถีชาวพทุ ธ 4 จ32203 ภาษาจนี ฟงั – พูด 3 60 I32202 การสอื่ สารและการนำเสนอ 0.5 (20) ส32206 ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นธนบรุ ี 20 กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน 0.5 (20) ส32207 หน้าทพี่ ลเมือง 2 กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ 15  กจิ กรรมแนะแนว 0.5 (20) ง32203 อาหารเพือ่ อาชพี 20  กิจกรรมนกั เรียน 5 1.0 (40) อ32203 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 4 660 ชุมนุม จรยิ ธรรม 1.0 (40) อ32204 ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 4 กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้งั สิ้น 1.5 (60) จ32202 ภาษาจนี 4 1.0 (40) จ32204 ภาษาจีนฟงั – พดู 4 1.0 (40) 60 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ 20  กิจกรรมแนะแนว  กจิ กรรมนกั เรียน 15 ชุมนมุ 20 จรยิ ธรรม 5 กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ IS3 700 รวมเวลาเรยี นทง้ั สิ้น โครงสร้างหลกั สตู รชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6กลุ่มการเรียนภาษาอังกฤษ-ภาษาจนี

47 ภาคเรยี นที่ 1 (หนว่ ย ภาคเรยี นที่ 2 (หน่วย รายวชิ าพ้ืนฐาน กิต/ชม.) กติ /ชม.) ท33101 ภาษาไทย 5 ค33101 คณติ ศาสตร์ 5 6.0 (240) รายวชิ าพ้นื ฐาน 6.0 (240) ว33101 ชีววทิ ยาพนื้ ฐาน 2 ส33101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) 5 พ33101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 5 1.0 (40) ค33102 คณิตศาสตร์ 6 1.0 (40) ศ33101 ศิลปะ 5 อ33101 ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน5 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1.0 (40) รายวชิ าเพิ่มเติม 1.0 (40) ส33102 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 6 1.0 (40) ท33201 การเขยี น ส33201 อาเซยี นศกึ ษา 0.5 (20) พ33102 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 6 0.5 (20) ส33202 หน้าทพี่ ลเมอื ง 5 0.5 (20) ง33201 คอมพวิ เตอร์ 1 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 1.0 (40) อ33201 ภาษาอังกฤษฟัง-พดู 5 8.0 (320) อ33202 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 5 1.0 (40) อ33102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน6 1.0 (40) จ33201 ภาษาจีน5 1.0 (40) จ33202 ภาษาจีนฟัง – พดู 5 8.0 (320) รายวชิ าเพ่มิ เติม 0.5 (20) 1.0 (40) 1.0 (40) ท33203 วเิ คราะห์วรรณกรรมปจั จุบนั 1.0 (40) 1.0 (40) 1.0 (40) ส33204 ศาสนาสากล 1.5 (60) 1.0 (40) 0.5 (20) ส33205 หนา้ ที่พลเมอื ง 6 1.0 (40) ง33203 คอมพวิ เตอร์ 2 1.0 (40) อ33203 ภาษาองั กฤษฟัง-พูด 6 1.0 (40) อ33204 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 6 1.5 (60) จ33203 ภาษาจนี 6 1.0 (40) จ33204 ภาษาจนี ฟงั – พูด 6 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน 60 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้  กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้  กิจกรรมนกั เรยี น 20  กจิ กรรมแนะแนว 20 ชุมนมุ จรยิ ธรรม  กิจกรรมนกั เรยี น  กิจกรรมเพอื่ สังคมและ สาธารณประโยชน์ 15 ชมุ นุม 15 20 จรยิ ธรรม 20 5  กิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ 5

รวมเวลาเรียนท้ังสน้ิ 620 รวมเวลาเรยี นท้ังส้นิ 48 620 โครงสร้างหลกั สูตรชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 กลุ่มการเรยี นภาษาองั กฤษ-ภาษาฝรั่งเศส ภาคเรยี นท่ี 1 (หนว่ ย ภาคเรยี นท่ี 2 (หน่วย กติ /ชม.) กิต/ชม.) 7.0 (280) 1.0 (40) รายวิชาพน้ื ฐาน 7.0 (280) รายวิชาพื้นฐาน 1.0 (40) 1.0 (40) ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 (40) ท31102 ภาษาไทย 2 0.5 (20) 1.0 (40) ค31101 คณติ ศาสตร์ 1 1.0 (40) ค31102 คณิตศาสตร์ 2 0.5 (20) 0.5 (20) ว31101 ฟิสิกส์พน้ื ฐาน 1 1.0 (40) ว31102 ฟสิ ิกส์พ้นื ฐาน 2 0.5 (20) 1.0 (40) ว31103 เทคโนโลยี 1 0.5 (20) ว31104 เทคโนโลยี 2 7.5 (300) 1.0 (40) ส31101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1 1.0 (40) ส31103 สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม 2 0.5 (20) 0.5 (20) ส31102 ประวตั ศิ าสตร์ 1 0.5 (20) ส31104 ประวัตศิ าสตร์ 2 1.0 (40) 1.0 (40) พ31101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 1 0.5 (20) พ31102 สุขศึกษาและพลศึกษา 2 2.5 (100) ศ31101 ศลิ ปะ 1 0.5 (20) ศ31102 ศลิ ปะ 2 1.0 (40) อ31101 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน 1 1.0 (40) อ31102 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน 2 รายวิชาเพ่ิมเตมิ 6.5 (260) รายวิชาเพิ่มเตมิ ท31201 การพูด 1.0 (40) ท31203 การอ่าน ส31201 วถิ ีชาวพทุ ธ 1 0.5 (20) ส31204 วิถีชาวพุทธ 2 ส31202 นกั กฎหมายร่นุ เยาว์ 1 0.5 (20) ส31205 นักกฎหมายรุ่นเยาว์ 2 อ31201 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 1 1.0 (40) อ31203 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 2 อ31202 ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 1 1.0 (40) อ31204 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 ฝ31201 ภาษาฝรงั่ เศส1 2.5 ฝ31202 ภาษาฝรง่ั เศส 2 (100) I32201 การศกึ ษาค้นควา้ และสรา้ งองค์ ความรู้ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 60 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ 20  กิจกรรมแนะแนว 20  กจิ กรรมแนะแนว

 กจิ กรรมนกั เรยี น  กิจกรรมนกั เรยี น 49 ชุมนมุ 15 ชมุ นุม จริยธรรม 20 จริยธรรม 15 5  กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและ 20  กิจกรรมเพ่ือสังคมและ 5 สาธารณประโยชน์ สาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้ังส้นิ 640 รวมเวลาเรยี นท้งั สิน้ 680 โครงสรา้ งหลกั สูตรช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5 กลมุ่ การเรียนภาษาองั กฤษ-ภาษาฝรงั่ เศส ภาคเรยี นที่ 1 (หนว่ ย ภาคเรยี นที่ 2 (หน่วย กิต/ชม.) กิต/ชม.) 7.5 (300) 1.0 (40) รายวชิ าพื้นฐาน 7.5 (300) รายวชิ าพนื้ ฐาน 1.0 (40) 1.0 (40) ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 (40) ท32102 ภาษาไทย 4 0.5 (20) 1.0 (40) ค32101 คณิตศาสตร์ 3 1.0 (40) ค32102 คณิตศาสตร์4 0.5 (20) ว32101 เคมพี นื้ ฐาน 1.0 (40) ว32102 ชีววิทยาพื้นฐาน 1 0.5 (20) 0.5 (20) ว32103 เทคโนโลยี 3 0.5 (20) ว32104 เทคโนโลยี 4 0.5 (20) 1.0 40) ส32101 สังคมศกึ ษา ศาสนาและ 1.0 (40) ส32103 สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 7.5(300) 1.0 (40) วฒั นธรรม 3 4 0.5 (20) 0.5 (20) ส32102 ประวัตศิ าสตร3์ 0.5 (20) ส32104 ประวัตศิ าสตร์ 4 0.5 (20) 0.5 (20) พ32101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 3 0.5 (20) พ32102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 4 ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 (20) ศ32102 ศลิ ปะ4 ง32101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 3 0.5 (20) ง32102 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 4 อ32101 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 3 1.0 (40) อ32102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 4 รายวิชาเพิ่มเติม 8.5 (340) รายวชิ าเพ่ิมเติม ท32201 หลกั การใช้ภาษาไทย 1.0 (40) ท32202 การฟังและดู ส32201 วถิ ชี าวพุทธ 3 0.5 (20) ส32205 วถิ ีชาวพทุ ธ 4 ส32202 ถิ่นฐานยา่ นฝงั่ ธน 0.5 (20) ส32206 ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ธนบรุ ี ส32203 หนา้ ที่พลเมือง 1 0.5 (20) ส32207 หนา้ ที่พลเมอื ง 2 ง32201 งานใบตองและดอกไม้สด 0.5 (20) ง32203 อาหารเพอื่ อาชพี

50 อ32201 ภาษาองั กฤษฟัง-พูด 3 1.0 (40) อ32203 ภาษาองั กฤษฟัง-พดู 4 1.0 (40) อ32202 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 3 1.0 (40) อ32204 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 4 1.0 (40) ฝ32201 ภาษาฝร่งั เศส 3 2.5 (100) ฝ32202 ภาษาฝร่ังเศส 4 2.5 (100) I32202 การสอ่ื สารและการนำเสนอ 1.0 (40) กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน 60 กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้  กจิ กรรมแนะแนว 20  กิจกรรมแนะแนว 20  กิจกรรมนกั เรยี น  กจิ กรรมนกั เรียน 15 15 ชุมนมุ 20 ชุมนมุ 20 จริยธรรม 5 จรยิ ธรรม 5 660 กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ 700 กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ IS3 รวมเวลาเรียนท้ังส้นิ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น โครงสรา้ งหลกั สตู รชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 กลมุ่ การเรยี นภาษาอังกฤษ-ภาษาฝรั่งเศส ภาคเรยี นที่ 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรยี นท่ี 2 (หน่วย กติ /ชม.) ชม.) 6.0 (240) 1.0 (40) รายวชิ าพน้ื ฐาน 6.0 (240) รายวิชาพ้นื ฐาน 1.0 (40) 1.0 (40) ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) ค33101 คณิตศาสตร์ 5 1.0 (40) ค33102 คณิตศาสตร์ 6 0.5 (20) 0.5 (20) ว33101 ชวี วทิ ยาพ้ืนฐาน 2 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1.0 (40) 9 (360) ส33101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1.0 (40) ส33102 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1.0 (40) 1.0 (40) 56 พ33101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 5 0.5 (20) พ33102 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 6 ศ33101 ศิลปะ 5 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 อ33101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน5 1.0 (40) อ33102 ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน6 รายวิชาเพม่ิ เติม 9.0 (360) รายวชิ าเพิ่มเตมิ ท33201 การเขียน 1.0 (40) ท 33203 วเิ คราะหว์ รรณกรรมปจั จุบนั ส33201 อาเซยี นศึกษา 1.0 (40) ส33204 ศาสนาสากล

51 ส33202 หนา้ ท่ีพลเมือง 5 0.5 (20) ส33205 หน้าที่พลเมอื ง 6 0.5 (20) ง33201 คอมพวิ เตอร์ 1 1.0 (40) ง33203 คอมพิวเตอร์ 2 1.0 (40) อ33201 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 5 1.0 (40) อ33203 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 6 1.0 (40) อ33202 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 5 1.0 (40) อ33204 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 6 1.0 (40) ฝ33201 ภาษาฝรง่ั เศส 5 2.0 (80) ฝ33203 ภาษาฝรงั่ เศส 6 2.0 (80) ฝ33202 ภาษาฝรัง่ เศสเพ่ือการท่องเท่ียว 1 1.5 (60) ฝ32204 ภาษาฝร่งั เศสเพือ่ การท่องเที่ยว 2 1.5 (60) กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 60 กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้  กิจกรรมแนะแนว 20  กจิ กรรมแนะแนว 20  กจิ กรรมนกั เรียน  กจิ กรรมนกั เรียน 15 15 ชมุ นมุ 20 ชุมนุม 20 จรยิ ธรรม 5 จริยธรรม 5  กิจกรรมเพอื่ สงั คมและ  กจิ กรรมเพือ่ สังคมและ สาธารณประโยชน์ 660 สาธารณประโยชน์ 660 รวมเวลาเรยี นทงั้ สน้ิ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น โครงสรา้ งหลกั สูตรชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลุม่ การเรียนภาษาองั กฤษ – สงั คมศกึ ษา – ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 (หน่วย ภาคเรียนท่ี 2 (หน่วย กิต/ชม.) กิต/ชม.) รายวิชาพ้นื ฐาน 7.0 (280) รายวชิ าพืน้ ฐาน 7.0 (280) ท31101 ภาษาไทย 1 1.0 (40) ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 (40) ค31101 คณติ ศาสตร์ 1 1.0 (40) ค31102 คณติ ศาสตร์ 2 1.0 (40) ว31101 ฟิสิกส์พ้ืนฐาน 1 1.0 (40) ว31102 ฟสิ กิ สพ์ ื้นฐาน 2 1.0 (40) ว31103 เทคโนโลยี 1 0.5 (20) ว31104 เทคโนโลยี 2 0.5 (20) ส31101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและ 1.0 (40) ส31103 สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม 1.0 (40) วฒั นธรรม 1 2 ส31102 ประวัตศิ าสตร์ 1 0.5 (20) ส31104 ประวัตศิ าสตร์ 2 0.5 (20) พ31101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 1 0.5 (20) พ31102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2 0.5 (20) ศ31101 ศลิ ปะ 1 0.5 (20) ศ31102 ศลิ ปะ 2 0.5 (20)

52 อ31101 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน 1 1.0 (40) อ31102 ภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน 2 1.0 (40) รายวิชาเพ่ิมเติม 8.0 7.0 (280) รายวิชาเพิ่มเตมิ (320) ท31201 การพดู 1.0 (40) ท31203 การอา่ น 1.0 (40) ท31202 แตง่ คำประพันธ์ 1.0 (40) ท31204 ชวี ิตและงานสนุ ทรภู่ 1.0 (40) ส31201 วถิ ีชาวพทุ ธ 1 0.5 (20) ส31204 วิถีชาวพทุ ธ 2 0.5 (20) ส31202 นกั กฎหมายรุน่ เยาว์ 1 0.5 (20) ส31205 นกั กฎหมายรนุ่ เยาว์ 2 0.5 (20) ส31203 วิวัฒนาการเศรษฐกจิ ไทย 1.0 (40) ส31206 เศรษฐศาสตร์เบอ้ื งตน้ 1.0 (40) ง31201 การแปรรปู อาหาร 1.0 (40) ง31202 งานมาลยั และดอกไมส้ ด 1.0 (40) อ31201 ภาษาอังกฤษฟังพูด 1 1.0 (40) อ31202 ภาษาองั กฤษฟังพูด 2 1.0 (40) อ31203 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 1 1.0 (40) อ31204 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 2 1.0 (40) 1.0 (40) กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น I32201 การส่ือสารค้นควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ 60  กิจกรรมแนะแนว 60 กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน  กิจกรรมนกั เรยี น กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้ 20 ชมุ นุม 20  กจิ กรรมแนะแนว 15 จรยิ ธรรม  กิจกรรมนกั เรียน 20 กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ 10 รวมเวลาเรยี นทงั้ ส้นิ 15 ชุมนมุ 660 20 จรยิ ธรรม 10 กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ 620 รวมเวลาเรยี นท้ังส้ิน โครงสร้างหลกั สตู รชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 กลุ่มการเรยี นภาษาองั กฤษ – สังคมศึกษา – ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 (หน่วย ภาคเรียนที่ 2 (หน่วย กติ /ชม.) กิต/ชม.) รายวิชาพ้ืนฐาน 7.5(300) รายวชิ าพืน้ ฐาน 7.5 (300) ท32101 ภาษาไทย 3 1.0 (40) ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 (40) ค32101 คณิตศาสตร์ 3 1.0 (40) ค32102 คณติ ศาสตร์4 1.0 (40) ว32101 เคมพี นื้ ฐาน 1.0 (40) ว32102 ชีววิทยาพ้นื ฐาน 1 1.0 (40)

53 ว32103 เทคโนโลยี 3 0.5 (20) ว32104 เทคโนโลยี 4 0.5 (20) ส32101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 3 1.0 (40) ส32103 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 4 1.0 (40) ส32102 ประวัติศาสตร3์ 0.5 (20) ส32104 ประวัตศิ าสตร์ 4 0.5 (20) พ32101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 3 0.5 (20) พ32102 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 4 0.5 (20) ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 (20) ศ32102 ศลิ ปะ4 0.5 (20) ง32101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี 3 0.5 (20) ง32102 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 4 0.5 (20) อ32101 ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน 3 1.0 (40) อ32102 ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน 4 1.0 40) รายวชิ าเพมิ่ เติม 9.0(360) รายวชิ าเพิม่ เตมิ 8.0 (320) ท32201 หลักการใช้ภาษาไทย 1.0 (40) ท32203 การฟังและดู 1.0 (40) ท32202 ภาษาเพ่อื อาชีพ 1.0 (40) ท32204 วรรณคดีมรดก 1.0 (40) ส32201 วิถีชาวพุทธ 3 0.5 (20) ส32205 วถิ ีชาวพทุ ธ 4 0.5 (20) ส32202 ถ่นิ ฐานยา่ นฝั่งธน 0.5 (20) ส32206 ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินธนบุรี 0.5 (20) ส32203 หน้าที่พลเมือง 1 0.5 (20) ส32207 หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง 2 0.5 (20) ส32204 เศรษฐกจิ พอเพียง 1.0 (40) ส32208 สังคมและวฒั นธรรมเพือ่ นบา้ น 1.0 (40) ง32201 งานใบตองและดอกไม้สด 0.5 (20) ง32203 อาหารเพ่อื อาชพี 0.5 (20) ง32202 ธรุ กจิ 1.0 (40) ง32204 การขายสินค้าและบริการ 1.0 (40) อ32201 ภาษาอังกฤษฟังพูด 3 1.0 (40) อ32203 ภาษาองั กฤษฟงั พูด 4 1.0 (40) อ32202 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 3 1.0 (40) อ32204 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 4 1.0 (40) I32202 การสอ่ื สารและการนำเสนอ 1.0 (40) กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 60 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้  กจิ กรรมแนะแนว 20  กจิ กรรมแนะแนว 20  กจิ กรรมนกั เรียน  กิจกรรมนกั เรยี น ชมุ นมุ 15 ชุมนมุ 15 จริยธรรม 20 จรยิ ธรรม 20 กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ 5 กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ IS3 5 รวมเวลาเรยี นทั้งส้นิ 720 รวมเวลาเรียนท้งั สนิ้ 680

54 โครงสรา้ งหลกั สูตรช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 กล่มุ การเรยี นภาษาอังกฤษ – สงั คมศกึ ษา – ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 (หน่วย ภาคเรียนท่ี 2 (หน่วย กิต/ชม.) กติ /ชม.) รายวิชาพน้ื ฐาน 6.0 (240) รายวิชาพื้นฐาน 6.0(240) ท33101 ภาษาไทย 5 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) ค33101 คณิตศาสตร์ 5 1.0 (40) ค33102 คณิตศาสตร์ 6 1.0 (40) ว33101 ชีววทิ ยาพนื้ ฐาน 2 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1.0 (40) ส33101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5 1.0 (40) ส33102 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1.0 (40) 6 พ33101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 5 0.5 (20) พ33102 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 6 0.5 (20) ศ33101 ศลิ ปะ 5 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 0.5 (20) อ33101 ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน5 1.0 (40) อ33102 ภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน6 1.0 (40) รายวชิ าเพม่ิ เติม 8.5 (340) รายวชิ าเพ่มิ เติม 8.5(340) ท33201 การเขียน 1.0 (40) ท33203 วิเคราะห์วรรณกรรมปัจจุบนั 1.0 (40) ท33202 วิเคราะหว์ รรณคดีไทย 1.0 (40) ท 33204 วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ธนบรุ ี 1.0 (40) ส33201 อาเซยี นศึกษา 1.0 (40) ส33204 ศาสนาสากล 1.0 (40) ส33202 หนา้ ทพี่ ลเมือง 3 0.5 (20) ส33205 หน้าทพี่ ลเมือง 4 0.5 (20) ส33203 รู้ทนั โลก 1.0 (40) ส33206 เอเชียตะวันออกในโลกปจั จบุ นั 1.0 (40) ง33201 คอมพิวเตอร์ 1 1.0 (40) ง33203 คอมพวิ เตอร์ 2 1.0 (40) ง33202 บญั ชี 1 1.0 (40) ง33204 บญั ชี 2 1.0 (40) อ33201 ภาษาองั กฤษฟงั พูด 5 1.0 (40) อ33203 ภาษาอังกฤษฟงั พดู 6 1.0 (40) อ33202 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 5 1.0 (40) อ33204 ภาษาองั กฤษอ่านเขียน 6 1.0 (40) กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน 60 กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 60 กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้  กิจกรรมแนะแนว 20  กิจกรรมแนะแนว 20  กจิ กรรมนกั เรยี น  กจิ กรรมนกั เรียน ชุมนมุ 15 ชุมนมุ 15 จริยธรรม 20 จรยิ ธรรม 20  กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 10  กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 10

รวมเวลาเรยี นท้ังสน้ิ 640 รวมเวลาเรียนท้งั สน้ิ 55 640 2.2 ความสอดคลอ้ งของหลักสตู รสถานศกึ ษากบั สภาพ และความตอ้ งการของชุมชน การเรยี นการสอนทส่ี ง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รยี นไดเ้ รียนรเู้ ก่ยี วกบั ท้องถน่ิ ของตน ทำใหผ้ เู้ รียนไม่เกดิ ความแปลกแยก กบั ท้องถ่นิ สามารถดำเนินชีวิตและพฒั นาทอ้ งถิน่ ใหเ้ จรญิ กา้ วหน้าได้อย่างสอดคล้องกบั ความเปน็ จรงิ รอบๆตวั การเปดิ โอกาสให้บคุ ลากรในท้องถิ่นเข้ามามีสว่ นร่วมในการเรียนการสอน เปน็ การประสานความสัมพนั ธท์ ่ดี ี ระหวา่ งโรงเรียนกับชมุ ชน ร่วมกันเพือ่ สรา้ งสรรคพ์ ัฒนาทางการศึกษาและทอ้ งถิ่นใหเ้ จรญิ ก้าวหน้าตามความ ตอ้ งการและเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพแวดลอ้ มต่างๆทง้ั ทางเศรษฐกิจ สงั คม ศาสนา วัฒนธรรม ฯลฯ ซึง่ จะ เป็นการพัฒนาทมี่ ่นั คงและย่งั ยนื 2.3 หลักสตู รเพ่มิ เติมในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โครงสรา้ งเวลาเรียนการจัดการเรยี นการสอนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ระดบั มัธยมศึกษาช้นั ปีที่ 1-3 รายวชิ าเพิม่ เติม -ภาษาไทย 20 (0.5 นก.) 10 10 - - - - -คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 1 20 (0.5 นก.) 10 10 10 10 10 10 -คณิตศาสตร์เพ่มิ เติม* 80 (2 นก.) 40 40 40 40 40 40 -วทิ ยาศาสตร*์ 80 (2 นก.) 40 40 40 40 40 40 -หนา้ ทพี่ ลเมอื ง 20 (0.5 นก.) 10 10 10 10 10 10 -อาเซียน 20 (0.5 นก.) - - - - 10 10 -การงานฯ 20 (0.5 นก.) - - 10 10 10 10 -ภาษาจนี 20 (0.5 นก.) 10 10 10 10 10 10 -ภาษาองั กฤษ** 80 (2 นก.) 40 40 40 40 40 40 -IS 80 (1 นก.) - - 20 20 - - รวมเวลาเรียน(เพ่ิมเตมิ ) ปลี ะไม่นอ้ ยกว่า 200 ชั่วโมง

56 โครงสรา้ งเวลาเรียนการจัดการเรียนการสอนรายวชิ าเพ่มิ เติม ระดับมัธยมศกึ ษาชั้นปที ี่ 4-6 เวลาเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กิจกรรม จำนวนหน่วยกิต ม.4 ม.5 ม.6 On-site Online On-site Online On-site Online รายวิชาเพ่ิมเติม -ภาษาไทย 40 (1 นก.) 20 20 20 20 20 20 -ภาษาไทย 2 40 (1 นก.) 20 20 20 20 20 20 -คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเตมิ 80 (2 นก.)/ 40 40 40 40 40 40 60 (1.5 นก.) 40 40 40 40 40 40 -วิทยาศาสตร์ 80 (2 นก.) 10 10 10 10 - - -วถิ ีชาวพทุ ธ 20 (0.5 นก.) 10 10 - - - - -นกั กฎหมายรุน่ เยาว์ 20 (0.5 นก.) - - 10 10 - - -ถิ่นฐานย่านฝั่งธน 20 (0.5 นก.) - - 10 10 10 10 -หนา้ ทพ่ี ลเมือง 20 (0.5 นก.) - - - - 10 10 -อาเซยี นศึกษา 20 (0.5 นก.) - - - - - - -สังคมศกึ ษาฯ 40 (1 นก.) - - 10 10 10 10 -การงานฯ 20 (0.5 นก.) 20 20 20 20 20 20 -ภาษองั กฤษฟัง-พดู 40 (1 นก.) 20 20 20 20 20 20 -ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 40 (1 นก.) 20 20 20 20 20 20 -ภาษาจีนส่อื สาร 40 (1 นก.) 50 50 50 50 50 50 -ภาษาจีน 100 (2.5 นก.) 50 50 50 50 50 50 -ภาษาฝรงั่ เศส 100 (2.5 นก.) 20 20 20 20 20 20 -IS 40 (1 นก.) รวมเวลาเรยี น(เพิ่มเติม) 1,760-2,400 ชวั่ โมง

57 2.4 กระบวนการพฒั นาหลกั สตู รสถานศกึ ษาและการนำไปใช้ เป็นการจดั ระบบบริหารจดั การคุณภาพของสถานศกึ ษา มีการก าหนดเป้าหมาย วสิ ันทัศน์และพันธกจิ อย่างชัดเจนสามารถดำเนนิ งานพฒั นาวิชาการทเ่ี นน้ คณุ ภาพผเู้ รียนรอบด้านตามหลักสตู รสถานศกึ ษาในทุก กลุ่มเป้าหมาย จัดทำแผนพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา ดำเนนิ การพฒั นาครูและบคุ ลากรใหม้ ีความเช่ยี วชาญ ทางวชิ าชีพและจดั ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ สนับสนุนการบริหารจัดการและการเรยี นรู้รวมทัง้ จัด สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมทเี่ อื้อต่อการจัดการเรียนรู้ 1 มเี ป้าหมาย วิสยั ทัศน์ และพนั ธกจิ ท่ีสถานศึกษากำหนดชัดเจน สถานศกึ ษากำหนดเปา้ หมาย วสิ ัยทัศน์ และพันธกจิ ไว้อยา่ งชัดเจน สอดคลอ้ งกบั บริบทของสถานศึกษา ความตอ้ งการของชุมชน ทอ้ งถิน่ วตั ถปุ ระสงคข์ องแผนการศกึ ษาแห่งชาติ นโยบายของรฐั บาลและของตน้ สังกัด รวมทัง้ ทนั ต่อการเปลีย่ นแปลงของสังคม 2 มีระบบบริหารจัดการคณุ ภาพของสถานศึกษา สถานศกึ ษาสามารถบรหิ ารจดั การคณุ ภาพของสถานศกึ ษาอยา่ งเป็นระบบทง้ั ในส่วนการวางแผนพฒั นาคุณภาพ การจดั การศกึ ษาการนำแผนไปปฏบิ ัตเิ พื่อพฒั นาคุณภาพการศกึ ษามีการตดิ ตามตรวจสอบประเมินผลและปรับปรงุ พฒั นางานอยา่ งต่อเน่ือง มีการบรหิ ารอตั รากำลงั ทรัพยากรทางการศึกษา และระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น มี ระบบการนเิ ทศภายใน การนำขอ้ มูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรและผทู้ เี่ ก่ยี วขอ้ งทกุ ฝ่ายมสี ว่ นรว่ มการวางแผน ปรับปรงุ พัฒนา และรว่ มรับผดิ ชอบต่อผลการจดั การศกึ ษา 3 ดำเนนิ งานพฒั นาวชิ าการที่เนน้ คณุ ภาพผู้เรยี นรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศึกษาและทกุ กล่มุ เป้าหมาย สถานศึกษาบรหิ ารจดั การเก่ียวกับงานวิชาการ ทง้ั ดา้ นการพฒั นาหลักสตู ร กจิ กรรมเสริมหลักสูตรที่เน้น คุณภาพผเู้ รยี นรอบด้าน เชอ่ื มโยงวถิ ีชีวติ จริง และครอบคลมุ ทุกกลุ่มเปา้ หมาย 4 พฒั นาครแู ละบคุ ลากรใหม้ คี วามเชีย่ วชาญทางวชิ าชพี สถานศกึ ษาสง่ เสริม สนบั สนนุ พัฒนาครู บคุ ลากร ให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และจัดให้มีชมุ ชนการเรียนรู้ ทางวชิ าชีพ มาใช้ในการพัฒนางานและการเรยี นรขู้ องผู้เรียน 5.จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสงั คมท่เี ออ้ื ตอ่ การจดั การเรียนรู้ สถานศกึ ษาจัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทง้ั ภายในและภายนอกห้องเรียน และสภาพแวดล้อมทางสงั คมท่ีเอ้อื ต่อ การจดั การเรยี นรู้ และมคี วามปลอดภัย 6 จัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและการจดั การเรยี นรู้ สถานศึกษาจดั ระบบการจดั หาการพฒั นาและการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การและการ จัดการเรียนรทู้ เี่ หมาะสมกับสภาพของสถานศกึ ษา

58 3.แนวการจดั การเรยี นรูข้ องสถานศกึ ษา แนวปฏิบัติของสถานศกึ ษา โรงเรียนสตรีวัดระฆงั ด้จัดการเรยี นการสอนตามรปู แบบและแนวทางการบรหารการเรยี นการสอนภายไต้ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาชัน้ พ้นื ฐาน สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 และการประชุมคณะครูบคุ ลากรโรงเรียนสตรวี ัดระฆัง โดยผ่านการเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ได้เลอื กใช้การจดั การเรยี นการสอนฯ ไดว้ างแนวทางไว้ 2 รูปแบบ ทงั้ นขี้ น้ึ อยกู่ บั นโยบายของกระทรวงศึกษาธกิ าร ดังนี้ 1.การจดั การเรยี นการสอนในชั้นเรยี นปกติ จดั การเรียนการสอนปกตใิ นโรงเรยี น โดยเวน้ ระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน(Hybrid Learning) On-site ร้อยละ 50 - Online รอ้ ยละ 50 จดั การเรียนการสอนโดยใช้ตารางเรียนปกติของโรงเรียนสลับกนั ใน ๒ แนวทาง ดังนี้ 2.1 การจัดการเรยี นการสอนในชนั้ เรียนปกติในโรงเรยี น ( On-site) โดยเวน้ ระยะห่างทางสงั คม (Social Distancing เพ่อื ให้ครปู ระจำวชิ าได้สอนองคค์ วามรู้ ตดิ ตามผลการเรียนรู้ ตดิ ตามภาระงาน สอบ เก็บคะแนน ฝกึ ภาคปฏบิ ัติ หรอื สรุปบทเรยี น ให้ครบตามตัวช้ีวัดรายวิชา 2.2 การจดั การเรียนการสอนออนไลน์ (Online) จดั ใหน้ กั เรียนทไ่ี มม่ ีตารางเข้าช้นั เรยี นปกตใิ น โรงเรยี นให้ครจู ัดการเรยี นการสอนออนไลน์ด้วยเครื่องมือเทคโนโลยโี ดยตรงจากครผู ้สู อนประจำวชิ า โดย ใช้ Google Classroom โดยใช้ตารางเรยี นปกติของโรงเรียนเช่นเดยี วกนั กบั ตารางเข้าชัน้ เรียนปกติใน โรงเรยี น แนวปฏบิ ตั กิ ารเรยี นแบบชนั้ เรยี น (On-site) ลกั ษณะผสมผสาน (Hybrid Learning) ภาคเรยี นท2ี่ ปี การศึกษา 2564 ต้งั แตว่ ันท่ี 29 พฤศจิกายนพ.ศ. 2564 เป็นตน้ ไป 1. เร่มิ เรยี นแบบชนั้ เรยี น (On-site) ต้งั แตว่ นั จันทรท์ ี่ 29 พฤศจกิ ายนพ.ศ. 2564 เปน็ ต้นไปโดยการ จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Hybrid Learning) 2. ในวนั ทีน่ ักเรยี นมาเรยี นแบบชั้นเรยี น (On-site) แบ่งนกั เรยี นแตล่ ะห้องออกเป็น2 กลุ่ม (กลุ่มA-กล่มุ B) เพอ่ื เขา้ ห้องเรียนท่ีกำหนดไวต้ าม ตารางการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Hybrid Learning) และในวนั ท่ี นกั เรยี นอยบู่ า้ นใหเ้ รยี นแบบออนไลน์ (Online) 3. สวมหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลาในขณะทม่ี าเรียนทโี่ รงเรยี นพกเจลหรอื สเปยแ์ อลกอฮอล์และหมนั่ ล้าง มอื สม่ำเสมอ

59 4. รกั ษาระยะหา่ งระหวา่ งบุคคลในระหว่างทมี่ าเรียนแบบชนั้ เรียนหรือขณะทำกิจกรรมใดๆอยา่ งเครง่ ครัด 5.เมื่อหมดคาบเรียนสุดท้ายของวันให้นักเรียนออกจากห้องเรียนและกลบั บา้ นทันทีโดยยงั คงเวน้ ระยะห่าง อยา่ งเหมาะสม 4. ด้านความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสถานศกึ ษากับชมุ ชน 4.1 ชมุ ชนและแหลง่ เรียนรทู้ ่ีใกล้เคยี งกบั สถานศึกษา แหลง่ เรียนร้แู ละภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน พิพิธภัณฑท์ ้องถน่ิ กรุงเทพมหานคร เขตบางกอกน้อยจดั ต้ังเพ่ือทำ หน้าทใี่ นการศกึ ษารวบรวม ขอ้ มูล วตั ถุส่ิงของ และองคค์ วามรทู้ ีเ่ กยี่ วข้องกับเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์ภมู ิปัญญา ทอ้ งถนิ่ โดยทำการ เช่ือมโยงใหเ้ หน็ ถงึ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ วิถีชีวติ ของกลมุ่ คนในชมุ ชน สังคม ประเพณี วัฒนธรรม ระบบ เศรษฐกิจ ตลอดจนเทคโนโลยีท่เี กิดขึ้นในทอ้ งถน่ิ น้นั แสดงใหเ้ ห็นถึงการตดิ ต่อส่ือสารเช่อื มโยง ระหวา่ งท้องถ่ิน หรือสังคมรอบขา้ ง ตามปัจจยั และบรบิ ททางสังคมของทอ้ งถิน่ มมุ เด่นในพิพิธภณั ฑ์เมืองธนบรุ ศี รี มหาสมุทร สถาปนากรุงธนบุรแี หลง่ ชมุ ชนช่างฝมี ือ บา้ นช่างหลอ่ บ้านมะตูม ชมุ ชนวันดงมูลเหล็ก ศนู ย์การเรยี นรู้การทำนำ้ ตาลป้นั ชมุ ชนวดั รวก วหิ ารหลวงพ่อดำ (แหล่งเรยี นรูป้ ระวัตศิ าสตร์ของชุมชน) ศาลาการเปรยี ญ,ที่ทำการ ชุมชน.ชมรมผู้สูงอาย,ุ ลานเด็กเล่น ชุมชนวัดอมั พวา อโุ บสถหลวงปู่แปน้ (แหล่งเรียนรปู้ ระวัติศาสตรข์ องชมุ ชน) ชุมชนตรอกขา้ เม่า พพิ ิธภัณฑช์ ุมชนท้องถิ่นตรอกขา้ วเมา่ (แหลง่ เรียนรู้ประวัตศิ าสตรข์ องชุมชน) ชมุ ชนวดั ครุฑ วิหารหลวงพอ่ ลอย (ประวัตศิ าสตรช์ มุ ชน ประวัติศาสตร์หลวงพอ่ ลอยพระพทุ ธรูปท่ี ชาวบา้ นนบั ถอื ) สระนำ้ โบราณ ชมุ ชนวดั โพธเ์ิ รยี ง อโุ บสถ วิหารหลวงป่ถู ม (แหลง่ เรยี นรปู้ ระวัติศาสตร์ของชมุ ชน) ต้นโพธิ์ท่ีทำการ ชมุ ชน ชมรมจักรยาน บ้านภูมิปญั ญาเรือกระทงน้อยกาบมะพรา้ ว ชุมชนวดั สวุ รรณาราม ตลาด 100ปี หรือตลาดไร้คาน หัวเรือโบราณ บ้านปา้ นดิ โรงรถจักร 4.2 ฐานข้อมลู ของสถานศกึ ษา (มี/ไมม่ )ี โรงเรยี นสตรีวดั ระฆัง มีฐานข้อมูลคอื www.sr.ac.th

60 4.3 ความรว่ มมอื ระหวา่ งสถานศกึ ษากบั ชุมชน ในด้านการศึกษาชุมชนมีสว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาอยางชดั เจน เชน่ ในดา้ นภมู ิปัญญาท้องถ่ิน โดย โรงเรียนจะขอความรว่ มมอื มายงั ชุมชนในดา้ นการเปน็ วิทยากรหรือเป็นแหลง่ ศึกษาหาความร้เู พมิ่ เติม ให้กับนกั เรียเกีย่ วกับภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ ในชมุ ชนน้ันๆ ซึ่งชมุ ชนจะ เป็นแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีสําคญั ทโ่ี รงเรยี นจะให้นักเรยี นไปศึกษา หาความรู้ หรือให้ผเู้ รียนเข้าไปศึกษาและฝกึ งานในชมุ ชนด้วยตัวเอง ซงึ่ คนในชุมชนจะทาํ หน้าทเี่ ป็น วิทยากรทคี่ อย ให้ความรู้แกน่ กั เรยี น 4.4 การใช้ทรพั ยากรรว่ มกนั ระหวา่ งสถานศกึ ษากบั ชมุ ชน ทรัพยากรท่โี รงเรยี นมีส่วนหน่งึ ได้รบั การสนับสนุนจากชมุ ชน เวลาที่ชุมชมร้องขอการทำกิจกรรมภายใน โรงเรียน (ทมี่ ปี ระโยชน)์ ผบู้ ริหารโรงเรียนมกั จะตอบรับเสมอดว้ ยความยินดี และมีการหยบิ ยมื วสั ดอุ ุปกรณท์ ง้ั จาก โรงเรยี นใหช้ ุมชน หรือจากชุมชนให้โรงเรยี นอย่เู ป็นระยะๆ โรงเรยี นสตรีวดั ระฆงั มีการใชท้ รพั ยากรร่วมกันระหว่าง สถานศกึ ษากบั ชมุ ชนคือ วดั ระฆงั โฆสิตาราม เมอื่ ทางโรงเรียนมีกจิ กรรมที่เกย่ี วขอ้ งทางพระพทุ ธศาสนา เช่น ไหว้ พระทำบุญ หรือการตักบาตร ทางโรงเรียนจะนิมนต์พระสงฆ์จากวดั ระฆงั โฆสติ าราม เพ่อื มาบิณฑบาตภายใน โรงเรียน หรอื นำนกั เรียนออกไปทำบญุ ที่วัด 4.5 กิจกรรมท่ีทำรว่ มกันระหวา่ งสถานศกึ ษากบั ชมุ ชน โรงเรียนกับชุมชนทำกิจกรรม รว่ มกนั อยูบ่ อ่ ยครงั้ ทั้งเรอ่ื งเกย่ี วกบั การเรียนร้ขู องนักเรยี น หรอื การทำ กิจกรรมทั่วไป แต่ถา้ เปน็ กิจกรรมทางศาสนา จะรว่ มมือกันบอ่ ยครั้งทสี่ ุด 5.ภารกจิ และกจิ กรรมตา่ งๆ ของโรงเรยี น 5.1 กิจกรรมที่สง่ เสรมิ ความสามารถทางวชิ าการ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน เป็นกจิ กรรมทมี่ งุ่ พฒั นาใหผ้ ู้เรียนเป็นพลโลกท่มี คี ุณภาพ ร้จู ักและเห็นคณุ คา่ ใน ตนเองและผู้อน่ื มวี ุฒิภาวะทางอารมณ์ มกี ระบวนการคดิ มีทกั ษะในการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมและมี ความสุข มจี ิตสำนกึ ในการรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ มจี ติ อาสาในการทำ กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ โดยกำหนดกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ดงั น้ี การพัฒนาการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และการเขียนสอ่ื ความ - ครูอาจารย์จัดทำใบความรู้ โดยมีเนือ้ หาตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ทสี่ ังกดั คนละ 3 เร่ือง ความยาว 1 หนา้ กระดาษ มคี ำถามเรือ่ งละ 3 ข้อ

61 นักเรยี นอ่านใบความรู้ บนั ทึกการอา่ น และตอบคำถามตามใบความรู้ - ครทู ปี่ รึกษาประเมนิ ผลการพฒั นาทกั ษะการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ตามเกณฑท์ ี่ กำหนด โดยมเี กณฑ์การผ่านอย่างน้อย 10 เรอ่ื ง ตอ่ 1 ภาคเรยี น โครงงาน การจดั ทำโครงงานให้สอดคลอ้ งกับเรื่องท่เี รยี นไปสูช่ ุมชน โดยเน้นปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงเชงิ คณุ ธรรม เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ กระบวนการ ทเ่ี กิดจากการบรู ณาการตามหลักการของ STEM และ IS (Independent Study) 5.2 กิจกรรมท่ีส่งเสรมิ คุณลักษณ์ของผเู้ รยี น กิจกรรมจติ อาสา การจัดกิจกรรมจติ อาสา ได้กำหนดให้นักเรยี นทกุ ระดับชั้น ได้ทำกจิ กรรมเพ่อื สังคมและ สาธารณประโยชน์ การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนให้สอดคลอ้ งกับการเรียนรโู้ ลกศกึ ษา (Global Education : GE) อนั ประกอบดว้ ย การเปน็ พลโลก การแก้ปัญหาความขดั แยง้ ความเป็นธรรมทางสงั คม คา่ นิยมและ ตระหนักในการรับรูส้ ภาพการณ์ การพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื ความมสี ทิ ธมิ นษุ ยชน การพ่งึ พาอาศัย ซง่ึ กันและกันอย่างหลากหลาย เพื่อพัฒนาผ้เู รยี นให้เป็นผมู้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เปน็ พลโลก 5 ประการ ประกอบดว้ ย ความเปน็ เลิศทางวชิ าการ สามารถส่อื สารได้อยา่ งน้อย 2 ภาษา มคี วามลำ้ หน้าทางความคิด มี การผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์และรว่ มกันรบั ผิดชอบต่อสังคมโลก และมที กั ษะ 4 ประการ คอื ทักษะพ้ืนฐาน (Core Skills) ทักษะการเรยี นรแู้ ละพัฒนาตน(Personal learning & Development Skills) ทักษะ พลเมือง / ความรับผดิ ชอบต่อสังคม(Citizenship Skills) และทกั ษะการทำงาน(Employability Skills) ม. 1-3 - กิจกรรมเพอื่ ประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรยี นและชมุ ชน (อาทิเช่น ตกั บาตรเตมิ บุญเกือ้ หนนุ พุทธศาสตร์ กิจกรรมรกั ษ์......แม่นำ้ เจา้ พระยา เป็นต้น ) ม. 4-6 - กจิ กรรมเพ่อื ประโยชนต์ อ่ สงั คมภายในกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล (อาทิเชน่ กจิ กรรมสชู่ ุมชน กจิ กรรมอา่ นหนงั สอื เพ่ือคนตาบอด/ผู้ป่วยกจิ กรรมเย่ยี มผูพ้ ิการซำ้ ซ้อน กิจกรรม ทำดีเพอ่ื พ่อ เป็นตน้ )

62 5.3 กจิ กรรมสง่ เสรมิ พัฒนาการ การออกแบบกิจกรรมลดเวลาเรยี นเพม่ิ เวลารู้ โรงเรยี นสตรีวดั ระฆงั แบ่งรปู แบบการจดั กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ออกเป็น 4 หมวด ดังน้ี หมวดท่ี 1 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ได้แก่ กิจกรรมเนตรนารี-ยวุ กาชาด, กิจกรรมชุมนมุ , กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน์และกิจกรรมแนะแนว จำนวน 4 คาบ หมวดท่ี 2 กจิ กรรมสร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมภาษาอังกฤษเพ่อื การสื่อสาร, กจิ กรรมสอนเสริม, กจิ กรรมหอ้ งสมดุ หมวดที่ 3 กจิ กรรมสร้างเสรมิ คุณลกั ษณะและค่านยิ ม ไดแ้ ก่ กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม, กิจกรรมธรรมศึกษา หมวดที่ 4 กจิ กรรมสร้างเสรมิ ทักษะการทำงาน การดำรงชพี และ ทกั ษะชวี ิต ได้แก่ กจิ กรรม ตามความถนัดและความสนใจ ซง่ึ จะจัดกิจกรรมใน 3 กลมุ่ สาระการเรียนรเู้ ป็นหลกั คอื กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรีและนาฏศลิ ป,์ กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยแี ละกล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพล ศึกษา โดยแตล่ ะระดบั ช้นั จะมีการจดั กจิ กรรมในหมวดท่ี 2-4 รวม 5 คาบ/สัปดาห์ ซงึ่ แบง่ ได้ดงั นี้

43 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 1. ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่อื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมธรรมศกึ ษา 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 2 คาบ (หมวดท่ี 4) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 2 คาบ (หมวดท่ี 4) รวม 5 คาบ/สัปดาห์ รวม 4 คาบ/สปั ดาห์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 1. ภาษาอังกฤษเพือ่ การสอื่ สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 1. ภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กจิ กรรมคุณธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 3 คาบ (หมวดท่ี 4) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 3 คาบ (หมวดท่ี 4) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 1. ภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่อสาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กจิ กรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กจิ กรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดท่ี 2) 3. กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 1 คาบ (หมวดท่ี 4) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 1 คาบ (หมวดท่ี 4) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 5 คาบ/สปั ดาห์

44 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 1. ภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่อื สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 1. ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 2. กจิ กรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 3. กิจกรรมเพือ่ สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 1. ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่อื สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กจิ กรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กิจกรรมเพือ่ สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) 3. กิจกรรมเพ่อื สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ รวม 3 คาบ/สัปดาห์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 1. ภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 1. ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่ือสาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมเพ่อื สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 3. กจิ กรรมเพอื่ สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 4. กิจกรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดที่ 2) 4. กิจกรรมสอนเสริม 2 คาบ (หมวดท่ี 2) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ โดยการออกแบบกิจกรรมให้ครอบคลุม 4H ดงั นี้ ดา้ น กจิ กรรม Head กิจกรรมภาษาองั กฤษเพื่อการส่อื สาร, กิจกรรมสอนเสรมิ , กิจกรรมห้องสมดุ Heart กิจกรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม, กิจกรรมธรรมศึกษา Hand กิจกรรมตามความถนัดและความสนใจ (กจิ กรรมในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ดนตรีและ นาฏศลิ ป์ และกลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี) Health กจิ กรรมตามความถนัดและความสนใจ (กิจกรรมในกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพล ศกึ ษา)

45 5.4 กจิ กรรมสง่ เสริมการแนะแนว กิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเองและรู้รักสิ่งแวดล้อมสามารถคิด ตัดสินใจคิดแก้ปัญหากำหนดวางเป้าหมายวางแผนชีวิตทั้งในด้านการเรียนและอาชีพสามารถปรับตนเองได้อย่าง เหมาะสม เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยผู้เรียนมีอิสระในการคิดและตัดสินใจด้วยตนเองเรียนรู้ด้วยตัวเองด้วยการ ปฏบิ ัตจิ นกระทง่ั เกดิ ทกั ษะชวี ิต การจดั กจิ กรรมแนะแนว มอี งค์ประกอบ 3 ดา้ นดังน้ี 1. ด้านการศึกษา ให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในด้านการเรียนอย่างเต็มศักยภาพรู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูล ประกอบวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนมีวิธีการเรียนรู้และสามารถ วางแผนการเรยี นหรือการศกึ ษาตอ่ ได้อยา่ งเหมาะสม 2. ดา้ นอาชพี ให้ผูเ้ รียนไดร้ จู้ กั ตนเองในทกุ ดา้ นรูแ้ ละเขา้ ใจโลกของงานอาชพี อยา่ งหลากหลายมเี จตคติท่ดี ี ต่ออาชพี สุจรติ รมกี ารเตรยี มตัวสู่อาชีพสามารถวางแผนเพือ่ ประกอบอาชพี ตามท่ตี นเองมีความถนดั และสนใจ 3. ด้านส่วนตัวและสังคม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเองรักและเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อื่นหรือรัก สิ่งแวดล้อมมีวุฒิภาวะทางอารมณ์มีเจตคติท่ีดีต่อการมีชีวิตท่ีดีมีคุณภาพมีทักษะชีวิตและสามารถปรับตัวดำรงค์ ชีวิตอยู่ในสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ การวดั ผลประเมนิ ผล การวัดและประเมินผลการจดั การเรียนการสอนของโรงเรียนมาตรฐานสาก โรงเรยี นต้อง สนับสนุนการประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้ของผู้เรียนร่วมกับหน่วยงานตน้ สังกัดหรือหน่วยงานอน่ื ๆ เพ่อื สร้าง ภาคีเครือข่ายสำหรับการวัดและประเมินผลเพ่ือเทียบเคียงมาตรฐานในแต่ละสาระการเรียนรู้ ซ่ึงจะวั ดและ ประเมินผลทั้งความรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน สื่อความ และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.การวัดและประเมินผลความรู้ 1.1 การวัดและประเมินผลกลมุ่ สาระพื้นฐาน การวัดและประเมินผลเป็นรายภาคเรียน แบ่งเป็น 8 ระดับ คือ 0 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 และ 4 โดยวดั และประเมินผลการทำงาน ผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ไม่เนน้ ใหผ้ ู้เรียนมุ่งทำคะแนนสูง แต่ผู้เรียนจะต้องแสดงผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนทั้งด้านความรู้และทักษะต่าง ๆ ท่ีมีการพัฒนาจากภาคเรียนหน่ึง ตอ่ ไปอกี ภาคเรียนหน่งึ ให้เป็นทป่ี ระจักษ์ วธิ วี ดั ผลและประเมินผล ดำเนินการ ดังนี้ 1) การสอบขอ้ เขียนและปากเปล่า (Written and Oral Examinations) 2) การประเมนิ ผลรูปแบบอื่น (Other Forms of Assessment) 3) การประเมนิ ภายใน (Internal Assessment)

46 1.2 การวัดและการประเมินผลกลมุ่ สาระหลักเพ่ิมเติม การวดั และประเมินผลกลุม่ สาระหลกั เพ่ิมเติมเนน้ การรายงานผลโดยการเขยี นบทความ ความเรยี ง งานวจิ ัย โครงงาน โดยนำประสบการณ์ท้ังในและนอกห้องเรียนมานำเสนอ 2. การวดั และประเมนิ ผลกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น การวดั และประเมินผลกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน เป็นการประเมินความสามารถและพัฒนาการของผู้เรียนใน การเขา้ รว่ มกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี นในแตล่ ะภาคเรยี น/ปี ตามเกณฑข์ องแต่ละกจิ กรรมและตดั สินผลการประเมนิ เปน็ 2 ระดับ คือ ผ หมายถึง ผ่านเกณฑก์ ารประเมินทสี่ ถานศกึ ษากำหนด มผ หมายถึง ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินที่สถานศึกษากำหนด 3. การวดั และประเมินผลการอ่านคดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี นสือ่ ความ การวัดและประเมนิ ผลการอ่านคิดวิเคราะหแ์ ละเขยี นสอ่ื ความเปน็ การประเมินทกั ษะการอา่ น และการเขียนตามเกณฑข์ องสถานศึกษา และตดั สินผลการประเมนิ เปน็ 3 ระดบั คือ ดเี ย่ียม หมายถึง มที กั ษะที่ดีเย่ียมสูงกวา่ เกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนด ดี หมายถึง มีทักษะทีส่ ูงกวา่ เกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากำหนด ผา่ นเกณฑ์ หมายถึง มที ักษะตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากำหนด 4. การวัดและประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ การวดั และประเมินผลคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เป็นการประเมินพฤตกิ รรมตามเกณฑข์ อง สถานศกึ ษา และตัดสินผลการประเมนิ เปน็ 3 ระดับ คือ ดีเยี่ยม หมายถงึ มพี ฤตกิ รรมทด่ี เี ยยี่ มสงู กว่าเกณฑ์ทสี่ ถานศกึ ษากำหนด ดี หมายถึง มพี ฤตกิ รรมสงู กว่าเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากำหนด ผ่านเกณฑ์ หมายถงึ มีพฤติกรรมตามเกณฑ์ท่สี ถานศกึ ษากำหนด เกณฑก์ ารจบการศกึ ษาของโรงเรียนสตรวี ดั ระฆัง เกณฑก์ ารจบการศกึ ษาของผเู้ รยี นโรงเรียนสตรวี ดั ระฆงั ตามหลักสตู รโรงเรยี น มาตรฐานสากล พทุ ธศกั ราช 2557 แบ่งตามระดบั ชัน้ 2 ระดับ คอื ชนั้ มัธยมศึกษาตอนตน้ และชัน้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ดังนี้ ชนั้ มัธยมศึกษาตอนตน้ 1. เรียนรายวิชาพน้ื ฐานและเพิ่มเตมิ ไมเ่ กิน 81 หน่วยกิต โดยแบง่ เปน็ รายวชิ าพ้ืนฐาน 66 หนว่ ยกิต และรายวิชาเพิ่มเตมิ ตามที่โรงเรยี นกำหนด 2. ต้องมีผลการเรยี นผ่านตลอดหลักสูตรไมน่ อ้ ยกว่า 77 หน่วยกิต โดยประกอบดว้ ย รายวิชาพืน้ ฐาน 66 หน่วยกติ และรายวิชาเพิม่ เตมิ ไม่นอ้ ยกวา่ 11 หนว่ ยกิต 3. มผี ลการประเมนิ ความสามารถการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียนในระดบั 1-3

47 4. มผี ลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคใ์ นระดับ 1-3 5. เขา้ รว่ มกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนและมผี ลการประเมินเป็น “ผ่าน” (ผ) ช้ันมธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานและเพ่มิ เตมิ ไม่เกนิ 81 หน่วยกติ โดยแบง่ เป็นรายวชิ าพ้นื ฐาน 41 หนว่ ยกิตและรายวชิ าเพิ่มเติมตามทโ่ี รงเรยี นกำหนด 2. ต้องมีผลการเรยี นผา่ นตลอดหลกั สตู รไม่นอ้ ยกว่า 77 หน่วยกิต โดยประกอบดว้ ย รายวชิ าพื้นฐาน 41 หน่วยกติ และรายวชิ าเพ่มิ เตมิ ไมน่ อ้ ยกว่า 36 หนว่ ยกติ 3. มผี ลการประเมนิ ความสามารถการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับ 1-3 4. มีผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ในระดับ 1-3 5. เข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมีผลการประเมินเปน็ “ผ่าน” (ผา่ น) และผู้เรยี นทัง้ 2 ระดบั ช้ัน ตอ้ งไม่มี 0 ร มส และ มผ คุณลกั ษณะผูเ้ รียนมศี ักยภาพเปน็ พลโลกของโรงเรียนสตรวี ดั ระฆัง 1. ยอดเยยี่ มวชิ าการ ไดเ้ กรดเฉล่ยี ไมต่ ่ำกว่า 2.00 และไมม่ ี 0 ร มส และ มผ 2. สื่อสารได้อยา่ งนอ้ ย 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ 3. ลำ้ หนา้ ทางความคดิ มีโครงงาน 1 โครงงาน 4. ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ มีช้ินงาน 1 ช้นิ งาน 5. รว่ มกันรับผดิ ชอบสงั คมโลกเข้ารว่ มกจิ กรรมอนรุ กั ษ์พลงั งานและส่งิ แวดลอ้ ม

48 ตอนที่ 2 (สำหรบั สัมภาษณอ์ าจารย์) ใชส้ ำหรบั ใหน้ ักศกึ ษาบันทึกการสมั ภาษณอ์ าจารยอ์ ยา่ งน้อย 2 คน ที่ นกั ศกึ ษาเห็นวา่ จะเป็นผู้ให้ข้อมลู ทเี่ ป็นประโยชน์ตอ่ การเพ่ิมพูนประสบการณว์ ชิ าชีพครู โดยอาจต้งั ประเดน็ คำถาม เพิม่ เตมิ เพ่ือใหไ้ ดข้ ้อมูลท่สี มบูรณ์ และบนั ทึกคำตอบ แบบบนั ทึกผลการสมั ภาษณ์ ชอื่ สถานศกึ ษารว่ มพัฒนาวิชาชพี ครู โรงเรยี นสตรีวดั ระฆงั ช่ือ- นามสกุล นาย สมเจต หวงั ทอง สอนวิชา/กิจกรรม คอมพิวเตอร์ ระดับช้นั ม.5 สถานศึกษามชี ือ่ เสยี งในดา้ น โรงเรยี นกลุ สตรี ความภาคภมู ใิ จในสถานศกึ ษา เปน็ โรงเรยี นท่ดี ี มีพน้ื ที่อยู่ในเขตสถานที่สำคัญ แนวทางในการจัดการเรยี นรใู้ นชน้ั เรยี น เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ สรา้ งสมรรถนะทีจ่ ำเปน็ ตอ่ การเรยี นรใู้ ห้กับ ผู้เรียนขอ้ เสนอแนะตอ่ การบรหิ ารงานวิชาการ/หลกั สตู รสถานศกึ ษา ในสภาวะโรคระบาดโควิด ต้องจดั การเรยี น การสอนเท่าทีจ่ ำเปน็ ไปก่อน พอสถานการณโ์ รคระบาดดีขึ้นแลว้ กลบั มาเนน้ มาตรฐาน เนน้ ตวั ชี้วัดตามปกติ ข้อเสนอแนะตอ่ การสรา้ งความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสถานศึกษากบั ชุมชน ประชาสัมพันธง์ านหรือกจิ กรรมของ โรงเรียนใหช้ มุ ชนรบั ทราบ และในบางกิจกรรมก็ขอความร่วมมอื จากชุมชนในการมีสว่ นร่วมของการทำกจิ กรรม อนื่ ๆ - ชอ่ื สถานศึกษารว่ มพัฒนาวิชาชพี ครู โรงเรยี นสตรีวัดระฆงั ชอ่ื - นามสกลุ นางสาว เกศราภรณ์ พลู ผล สอนวชิ า/กจิ กรรม คอมพวิ เตอร์ ระดับชน้ั ม.6 สถานศกึ ษามชี ื่อเสยี งในด้าน ความเปน็ กลั ยาณีของนกั เรียน ความภาคภูมิใจในสถานศึกษา โรงเรียนมีการพัฒนาทางด้านวชิ าการของนักเรียน จนทำให้นกั เรยี นไดร้ บั รางวลั จากการแขน่ ขนั ต่างๆ แนวทางในการจัดการเรยี นรใู้ นชน้ั เรยี น จัดการเรยี นการสอนแบบผสมผสาน ข้อเสนอแนะตอ่ การบรหิ ารงานวิชาการ/หลกั สตู รสถานศกึ ษา ควรมกี ารพฒั นาหลกั สตู รใหต้ รงกบั ความต้องการ ของนกั เรียนในแตล่ ะปกี ารศกึ ษา ข้อเสนอแนะตอ่ การสร้างความสัมพันธร์ ะหว่างสถานศกึ ษากับชุมชน มีการตดิ ตอ่ กบั ชุมชนโดยรอบเพื่อ ประสานงานในดา้ นต่างๆอย่างสม่ำเสมอ อื่นๆ -

49 แบบบันทกึ การมีส่วนร่วม คำชีแ้ จง ให้นักศกึ ษาบันทกึ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ตามความเหมาะสมและตามที่ไดร้ ับ มอบหมายของสถานศึกษา 1. ชอ่ื กจิ กรรม กจิ กรรการจดั การเรยี นรอู้ อนไลน์ วัน เดือน ปี วันองั คาร ที่ 25 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564 กลุ่มเป้าหมายทเี่ ข้าร่วมกจิ กรรม นกั เรยี นชน้ั ม.5/2 จำนวน 45 คน หน้าทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมาย เขา้ ทดลองสอนออนไลน์ กจิ กรรมท่ีปฏบิ ตั ิ เลม่ เกมก่อนเข้าสู่บทเรียน และอธิบายเนอ้ื หาพร้อมสรุป จากนั้นเล่นเกมทบทวน ความรู้ ผลการปฏบิ ัติ ไดร้ แู้ นวทางในการปฏิบตั ิในการสอน การใช้คำพดู และความรตู้ ่างๆ ปัญหาและอปุ สรรค นกั เรยี นบางคนยงั ไมใ่ ห้ความรว่ มมือ และปญั หาสญั ญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ไมเ่ สถยี ร ขอ้ เสนอแนะ -

50 2. ชอ่ื กจิ กรรม สังเกตการณส์ อนออนไลน์ทีบ้าน วนั เดอื น ปี วนั ศุกรท์ ่ี 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 กลุ่มเป้าหมายท่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรม นกั เรียนชนั้ ม.6/8 จำนวน 45 คน หนา้ ท่ที ่ไี ดร้ ับมอบหมาย เข้าสงั เกตการณส์ อนออนไลนอ์ ยูบ่ า้ น (WFH) กิจกรรมท่ีปฏบิ ัติ สังเกตการณ์สอนและจดบนั ทึกขอ้ มูลแนวทางในการสอนท่ดี แี ละสามารถนำไป ปฏิบัตติ าม ผลการปฏบิ ตั ิ ได้รแู้ นวทางในการปฏิบตั ใิ นการสอน การใชค้ ำพูดและความรู้ตา่ งๆ ปญั หาและอุปสรรค ใช้เวลาในการเขา้ คลาสรูมลา่ ชา้ และสญั ญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ไม่เสถยี ร ขอ้ เสนอแนะ –

51 3. ชอื่ กิจกรรม วนั พอ่ วัน เดือน ปี วนั ศุกร์ ท่ี 3 ธนั วาคม พ.ศ.2564 กลมุ่ เปา้ หมายที่เข้ารว่ มกจิ กรรม ครแู ละนกั เรยี นโรงเรียนสตรีวัดระฆงั จำนวน คน หน้าทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ดูแลควบคมุ นกั เรียนบนอาคาร กิจกรรมท่ีปฏบิ ตั ิ คอบควบคมุ ดแู ลนกั เรียนบนอาคารไมใ่ หส้ ง่ เสยี งดัง ผลการปฏบิ ัติ กจิ กรรมวนั พ่อผ่านไปไดด้ ้วยดี นกั เรยี นไมส่ ง่ เสยี งดงั รบกวนพธิ ีในงาน ปัญหาและอปุ สรรค นกั เรยี นคุยเสยี งดงั กันบางช่วง ไมค์ในพิธีในงานเสยี งไมค่ ่อยดงั และกระตกุ ขอ้ เสนอแนะ-

52 4. ช่ือกิจกรรม ดูแลนักเรียนตรวจ ATK วนั เดือน ปี วนั ศุกร์ ที่ 29-30 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2564 กลุ่มเป้าหมายท่เี ขา้ ร่วมกิจกรรม นกั เรยี นโรงเรียนสตรีวัดระฆงั จำนวน 1,731 คน หน้าทที่ ไี่ ด้รบั มอบหมาย วัดอณุ หภูมิ ควบคมุ นกั เรยี นให้เดินตามเสน้ ทางทีก่ ำหนดขนึ้ ห้อง นงั่ เรียงตาม เลขที่ ครูแจกอปุ กรณ์และเชค็ ช่ือ พานักเรยี นลงไปตรจATK กิจกรรมทปี่ ฏบิ ัติ คอบควบคมุ ดแู ลนักเรยี นและพานักเรยี นลงไปตรวจATK ชว่ ยเหลือครปู ระจำ ชั้นเล็กนอ้ ย ผลการปฏิบตั ิ ผลตรวจของนักเรยี นเปน็ ลบทุกคน ปัญหาและอุปสรรค - ข้อเสนอแนะ-

53 5.ช่ือกิจกรรม สังเกตการณส์ อน On-site ทโ่ี รงเรยี น วนั เดือน ปี วันพฤหสั บดี ที่ 2 ธนั วาคม พ.ศ.2564 กลมุ่ เป้าหมายทเ่ี ขา้ รว่ มกิจกรรม นกั เรยี นโรงเรียนสตรีวัดระฆงั จำนวน 45 คน หน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย สังเกตการณ์สอนและจดบนั ทกึ ขน้ั ตอนการสอนต่างๆ กิจกรรมท่ปี ฏบิ ัติ จดบนั ทกึ กระบวนการสอนของครพู ีเ่ ลี้ยงพรอ้ มทัง้ ถ่ายรปู ผลการปฏิบตั ิ นกั เรยี นใหค้ วามรว่ มมือเปน็ อยา่ งดี ตง้ั ใจเรียนและไมค่ ยุ ในเวลาเรยี น ปัญหาและอุปสรรค - ขอ้ เสนอแนะ –

54 5. ชอื่ กจิ กรรม เช็คอุปกรณ์เทคโนโลยีในโรงเรียน วัน เดือน ปี วันศุกร์ ท่ี 29-30 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 กลมุ่ เปา้ หมายที่เขา้ รว่ มกิจกรรม - จำนวน - คน หน้าท่ีทไี่ ด้รบั มอบหมาย ซ่อมแซมอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยใี นโรงเรยี น กิจกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิ เปลย่ี นสายไมค์ สายเสียง สายแลน ติดตัง้ ระบบ และขนยา้ ยอุปกรณ์ ผลการปฏบิ ตั ิ คอมพวิ เตอร์ในโรงเรียนทุกห้องสามารถใช้สอนได้ท้ังonline และ onsite พรอ้ มกนั ปัญหาและอุปสรรค หอ้ งเรียนบางห้องมนี ักเรยี นเรยี นอยู่ ไมส่ ะดวกในการซ่อมแซม ขอ้ เสนอแนะ – ลงชอ่ื .......................................ผ้บู นั ทกึ ( น.ส. อรนภา วันแสวง ) 3/ธนั วาคม/2564

55 แบบบันทกึ ความประทับใจจากการปฏิบัตงิ านวชิ าชพี ครู 2 คำช้แี จง ประมวลความรแู้ ละประสบการณท์ ่ีไดร้ ับจากการปฏิบัติงานวชิ าชพี ครู 2 1. ชอื่ สถานศึกษา โรงเรยี นสตรีวัดระฆัง 2. ส่ิงทีป่ ระทบั ใจ คุณครแู ละบคุ ลากรในโรงเรยี นทุกคน 3. เหตผุ ลทป่ี ระทบั ใจ ครแู ละบคุ ลากรในโรงเรียนนา่ รกั ใจดี และเป็นกนั เองมาก ทำให้เราไม่เครียดในการฝึก ประสบการณใ์ นครั้งนเ้ี ลย พรอ้ มทงั้ ได้ความรู้และประสบการณต์ า่ งๆอกี มากมาย 4. แนวคิด หลักการ หรอื ทฤษฎีทส่ี ามารถนำมาขยายผลและประยกุ ต์ใชเ้ พอื่ พัฒนาการประกอบวิชาชีพครู กระบวนการเรยี นรู้แบบใชค้ ำถามเป็นฐาน (Question-Based Learning : QBL) เป็นกระบวนการเรียนรู้ ทม่ี ่งุ พฒั นากระบวนการทางความคิดของผู้เรยี น โดยผสู้ อนจะป้อนคำถามในลกั ษณะตา่ ง ๆ ที่เป็นคำถามทดี่ ี สามารถพฒั นาความคดิ ผ้เู รยี น ถามเพอ่ื ให้ผ้เู รียนใชค้ วามคดิ เชงิ เหตผุ ล วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ สังเคราะห์ หรอื การ ประเมินค่าเพื่อจะตอบคำถามเหล่านัน้ 5.ทกั ษะและกระบวนการทไ่ี ด้จากการปฏิบัตงิ านวิชาชพี ครู 2 จากการไดส้ ังเกตการณ์สอนท่ีผ่านมาในโรงเรยี นนีไ้ ด้ทกั ษะและความรู้เพมิ่ เตมิ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการ แกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ การจัดการเรียนรทู้ ่เี หมาะสมกบั การเรียนการสอนออนไลน์ รวมไปถึงการประพฤติตนในการ เป็นแบบอย่างทด่ี แี ละการปฏิบัติตนตอ่ ครูทกุ ทา่ นในโรงเรียนอยา่ งเหมาะสม 6. สาระการเรยี นรู้ที่ได้จากการศึกษา การปฏิบตั ิงานวชิ าชีพครู 2 จากประสบการณ์ท่ไี ดจ้ ากการสงั เกตการณ์สอนในชั้นเรยี นออนไลน์ ได้สาระและความรมู้ ากมาย เชน่ เทคนคิ การสอนออนไลน์ การควบคมุ ช้ันเรียน วิธีการเชค็ วา่ นกั เรียนยงั ฟังครผู ู้สอนอย่หู รอื ไม่ สอนอย่างไรให้ผูเ้ รยี น ไมเ่ ครยี ด โดยตามสถานการณโ์ ควิด-19น้นั การเรยี นการสอนออนไลน์เป็นเรอ่ื งทยี่ ากตอ่ ผลของการเรียนทจี่ ะทำให้ มปี ระสทิ ธิภาพ แต่ครูพเ่ี ลีย้ งไดม้ กี ารสอนที่ดี เป็นกันเองกบั นักเรยี นและให้จำนวนการบ้านทเ่ี หมาะสม ทำใหผ้ ล ของการเรียนการสอนออนไลนอ์ อกมาได้ดี เป็นส่งิ ทท่ี ำให้เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ฝึกสอนกบั นกั เรียนได้ใน อนาคต ลงชอื่ .............................................ผ้บู นั ทกึ ( น.ส. อรนภา วนั แสวง ) 7/ธนั วาคม/2564

56 ความคดิ เห็น ความคดิ เหน็ ของครูพีเ่ ลยี้ ง ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..............................................ครพู ี่เล้ียง ( นาย สมเจต หวังทอง ) 7/ธนั วาคม/2564 ลงชอ่ื ...........................................รองผอู้ ำนวยการฝ่ายวชิ าการ (............................................) ............../......................./................ ลงชื่อ.............................................ผู้บรหิ ารสถานศึกษา (............................................) ............../......................./............... ความคิดเห็นของอาจารย์นเิ ทศก์ประจำโรงเรยี น ..................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ลงช่ือ.............................................อาจารย์นิเทศก์ประจำโรงเรียน (............................................) ............../......................./.................

57 การประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านวิชาชพี ครู Practicum 2 ในการประเมินผลการฝึกปฏบิ ตั งิ านวิชาชีพครู 2 มีการประเมนิ 3 ส่วน ดงั นี้ สว่ น ผ้ปู ระเมิน แบบประเมิน คะแนน ที่ เต็ม 50 1 ครพู ี่เลยี้ ง - คณุ ลักษณะการปฏิบตั ิตน 50 (หรอื ผู้ทผ่ี บู้ ริหารสถานศกึ ษา • สมรรถภาพการสอน 50 50 มอบหมาย) 20 2 อาจารย์นิเทศก์ประจำโรงเรียน - สมรรถภาพการสอน (ส่งคลปิ การสอน 1-2 คลปิ ) • การศึกษาสังเกต การบริหารงานวิชาการ และการ จัดการเรียนรู้ 3 ศูนย์ฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู • เช็คชอ่ื เขา้ รว่ มกิจกรรม * นกั ศึกษาตอ้ งเข้ารว่ มกจิ กรรมของศนู ยฝ์ กึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครูทุกครั้ง จึงจะได้รับการประเมินจากศนู ย์ฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพครู ** นกั ศึกษาจะมีสทิ ธติ ัดสินผลการเรียนเม่อื มีคะแนนประเมนิ ครบทั้ง 3 สว่ น ถา้ ขาดส่วนใดส่วนหนง่ึ จะได้รับผลการเรียนเป็น I

58 ภาคผนวก

59 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ประเภทและรปู แบบของแอนเิ มช่นั ,มุมมองภาพ รหัสวิชา ว32104 รายวชิ า เทคโนโลยี 4 กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 เวลา 1 ชว่ั โมง ผูส้ อน นางสาว อรนภา วันแสวง 1. สาระสำคัญ/แนวคิด/หลกั การ ความรู้ด้านการสรา้ งภาพเคลื่อนไหว ประเภทและรปู แบบต่างๆของแอนิเมช่นั และมุมของภาพ เปน็ พื้นฐานทีต่ อ้ งทำความเข้าใจเป็นอันดบั แรกเพ่อื จะเขา้ ใจกระบวนการและขน้ั ตอนการทำงานแบบ สากล เมื่อมพี น้ื ฐานแลว้ ตอ่ ไปกส็ ามารถวางแผนการสรา้ งงานแอนิเมชัน่ ไดอ้ ยา่ งมืออาชีพ 2. สาระการเรยี นรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 3. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น ข้ันตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนร้กู ารทำงาน และการแก้ปญั หา ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม 4. ตวั ชว้ี ดั / ผลการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ว 4.2 ม.5/1 รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อ ดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศในการแก้ปัญหา หรือเพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ท่ีใช้ ในชีวิตจริง อย่างสรา้ งสรรค์ ผลการเรียนร้ทู ีค่ าดหวัง เข้าใจรูปแบบของแอนิเมชนั่ และสามารถประยกุ ต์ใช้มมุ มองภาพในการทำแอนิเมชน่ั 5. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ดา้ นความร(ู้ K)

60 อธิบายประเภทและรปู แบบของแอนิเมชนั่ ไดถ้ ูกต้อง 5.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ประยกุ ตใ์ ชม้ ุมมองภาพในการทำแอนเิ มช่นั อยา่ งถูกต้อง 5.3 ดา้ นคณุ ธรรมและคา่ นยิ มอันพึงประสงค์ (A) 1. นกั เรยี นเหน็ ประโยชนข์ องการศกึ ษา เรอ่ื ง ประเภทและรปู แบบของแอนเิ มช่ัน ,มมุ มองภาพ 6. เนื้อหาสาระ 1. ประเภทและรูปแบบของแอนิเมชนั่ 2. มุมมองภาพในการทำแอนเิ มชน่ั 7. การบรู ณาการความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอ่นื 1. กล่มุ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นำ 1. ครทู ักทายนักเรียนและชวนนักเรียนคยุ เก่ียวกับเนอื้ หาที่สอนวา่ เช่น มใี ครรู้จักอนเิ มชนั่ บ้าง 2. เล่นกิจกรรมเพ่ือเปน็ การกระต้นุ ความสนใจของนักเรียนในการเรียน กิจกรรมท่ีทำข้ึนเป็นกิจกรรมทาย ภาพปรศิ นาคนดงั โดยจะนำรูปภาพของบุคคลที่มีช่อื เสยี งและเปน็ ท่ีรู้จะมาทายภาพ จะเปดิ แค่ในสว่ น ตา ปาก บน ใบหน้า โดยจะมที งั้ หมด 5 ภาพ 3. เมื่อเล่นกิจกรรมกระตุ้นความสนใจเสร็จเรียบร้อยแล้วครูนำสนทนาทบทวนเนื้อหาในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากท่ีเรียนการเคลื่อนย้ายวัตถุในโปรแกรม Adobe Flash เช่ือมโยงเข้าสู่เนื้อหา รูปแบบและประเภทของแอ นิเมชนั่ 4. ครูเปิดส่ือวีดิทัศน์เป็นของแอนิการยกตัวอย่างประเภทของแอนิเมชั่นแล้วต้ังคำถามกับนักเรียนว่า นกั เรยี นเคยพบเหน็ แอนเิ มชน่ั ประเภทนห้ี รอื ไม่ ข้นั สอน 1. หลังจากที่ครูเปิดส่ือวิดิทัศน์และครูอธิบายในแต่ละประเภทว่าแต่ละประเภทของแอนิเมช่ันมีความ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร และเชือ่ มโยงเขา้ สูเ่ นอื้ หามมุ มองของภาพในการสร้างแอนเิ มช่นั

61 2. ครูอธิบายมุมมองของภาพในแต่ละประเภทว่าเป็นอย่างไรพร้อมยกตัวอย่างแต่ละมุมมองมีความ แตกตา่ งกันอย่างไร ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรียนช่วยกันทบทวนความรู้โดยการถาม-ตอบเปิดแผ่นป้าย พร้อมสรุปมุมมองภาพใน การ สรา้ งแอนิเมชนั่ 2. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ แนวทางในการนำมมุ มองของภาพไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการผลิตแอนเิ มชน่ั 9. ชน้ิ งาน/ร่องรอยการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรยี นรขู้ องนักเรียน 9.1 ผลงานหรือชน้ิ งาน บททบทวนความรเู้ ปิดแผน่ ปา้ ย 9.2 กระบวนการข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน การตอบคำถามและการอภปิ รายรว่ มกบั เพอ่ื น 9.3 ความรู้ความเขา้ ใจ อธิบายประเภทของแอนเิ มช่ันและมมุ มองของภาพในการสร้างแอนิเมชัน่ ไดอ้ ย่างถกู ต้อง 10. ส่ือ / แหลง่ การเรยี นรู้ / วัสดอุ ปุ กรณ์ 10.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1. สอื่ การเรียนรทู้ ่ี 1 เร่อื ง ประเภทของแอนเิ มช่นั 2. ส่อื การเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง มมุ มองของภาพในการสร้างแอนเิ มชนั่ 3. เกมปริศนาภาพคนดัง 4. เกมเปิดแผน่ ป้ายทบทวนความรู้ 10.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ห้องสมุดของโรงเรียน 2. ส่อื การเรยี นรู้ เร่ือง ประเภทของแอนเิ มชั่น 3. ส่ือการเรียนรู้ เรือ่ ง มุมมองของภาพในการสร้างแอนเิ มชน่ั 4. คน้ หาขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตในเว็บไซต์ตา่ ง ๆ

62 10.3 วัสดอุ ุปกรณ์ (งบประมาณท่ใี ช้) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ทใี่ ชใ้ นการเรยี นการสอน จำนวน 45 เครื่อง 11 การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เกณฑ์ผ่าน เครื่องมอื 1. ประเมนิ จากการปฏบิ ตั งิ าน เกณฑผ์ ่านข้นั ต่ำ 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการ บททบทวนความรู้เปดิ แผ่น 1. มคี ุณภาพระดับ “พอใช”้ ทำงาน ป้าย ขนึ้ ไป 2. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะท่ี 2. ประเมินพฤตกิ รรมตาม 2. มคี ุณภาพระดบั “พอใช”้ พึงประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ขนึ้ ไป การสรปุ ผลโดยรวม ผ่านเกณฑข์ ้นั ตำ่ ท้งั 2 รายการ 12.กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………

63 บันทึกหลังการสอน 1. ผลการสอน นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5/2 ให้ความรว่ มมอื ในการเรยี นการสอนเปน็ อยา่ งดี ตงั้ ใจฟงั โดยเฉพาะช่วง เล่นเกม นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคำถามอยา่ งสนุกสนาน 2. ปญั หา/อุปสรรค สัญญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ท้ังของครูและนักเรียนไมเ่ สถียรในบางช่วง 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ครคู วรเตรยี มอปุ กรณแ์ ละเชค็ สญั ญาณอนิ เทอรเ์ น็ตใหพ้ รอ้ มก่อนจะเริม่ คาบสอน ลงชอ่ื ……………………………………………..ผูส้ อน (นางสาว อรนภา วันแสวง ) วันที่ 24 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ 2564

64 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรอื่ ง การประยุกตใ์ ชส้ ่วนประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรมตัดตอ่ วีดโิ อ รหัสวิชา ว33299 รายวชิ า คอมพวิ เตอร์ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 2 ชั่วโมง ผูส้ อน นางสาว อรนภา วนั แสวง 1.สาระสำคญั /แนวคิด/หลกั การ ก่อนการตัดต่อวีดิโอน้ัน เราจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ก่อนการสร้าง เพ่ือให้สามารถดำเนินการสร้างวีดิโอได้ตามท่ีกำหนด ซ่ึงส่ิงท่ีจะต้องเตรียมความพร้อมก่อนสร้างได้แก่ เน้ือหาสาระหรือรูปภาพท่ีต้องการสร้างวีดิโอ โดยการเตรียมเป็นไฟล์ข้อมูล ไฟล์ รูปภาพ สื่อ Multimedia ต่างๆ ท่ีต้องการแทรกในวีดิโอ เช่น ไฟล์ภาพเคล่ือนไหว ไฟล์เสียง เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูล เหลา่ นแ้ี ล้วจงึ จะสามารถเร่มิ สร้างวดี ิโออย่างเปน็ ขัน้ ตอนจากการใชส้ ว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรม 2.สาระการเรยี นรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 3.มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปัญหา ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม 4.ตัวชี้วดั / ผลการเรียนรู้ ตวั ช้ีวัด ว 4.2 ม.6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอ และแบง่ ปนั ข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคม และวฒั นธรรม ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวงั ประยุกต์ใชส้ ว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรมตดั ตอ่ วีดิโอได้อย่างถกู ตอ้ ง

65 5.จุดประสงค์การเรียนรู้ 5.1 ดา้ นความรู(้ K) อธิบายการใชง้ านส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรมได้ถกู ตอ้ ง 5.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) ประยุกตใ์ ช้สว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรมสร้างวดี ิโอได้อย่างถกู ตอ้ ง 5.3 ด้านคณุ ธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ (A) 1. นักเรียนเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการศึกษา เร่ือง การประยุกต์ใช้ส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรมตัดตอ่ วีดิโอ 2. นักเรียนเอาใจใส่ในการเรียน เร่ือง การประยุกต์ใช้ส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรมตัดต่อ วีดโิ อ 6.เนือ้ หาสาระ 1. การสรา้ ง Title 2. การปรบั แตง่ Text บน Timeline 3. การแกไ้ ขขอ้ ความ 4. การปรับแตง่ Transition 5. การแทรกภาพ 6. การแทรกเสียง 7. การสง่ ออกไฟล์ 7.การบรู ณาการความสัมพนั ธก์ บั วิชาอ่นื 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ 8.กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ขนั้ นำ 1. ครูทักทายนักเรียนและชวนนักเรียนคุยเกี่ยวกับเนื้อหาที่สอนว่า เช่น มใี ครเคยตัดต่อวดี โี อบา้ ง 2. เล่นกิจกรรมเพ่ือเปน็ การกระตุ้นความสนใจของนักเรียนในการเรียน กิจกรรมที่ทำข้ึนเป็นกิจกรรมทาย ภาพปริศนาคนดัง โดยจะนำรูปภาพของบุคคลทม่ี ีช่อื เสียงและเปน็ ทรี่ ู้จะมาทายภาพ จะเปิดแค่ในสว่ น ตา ปาก บน ใบหน้า โดยจะมีทง้ั หมด 5 ภาพ

66 3. เมื่อเล่นกิจกรรมกระตุ้นความสนใจเสร็จเรียบร้อยแล้วครูนำสนทนาทบทวนเนื้อหาในสัปดาห์ท่ีแล้ว หลงั จากที่เรียนในโปรแกรม vegas เช่อื มโยงเข้าสู่เน้ือหา และแนะนำโปรแกรม Wondershare Filmora ข้นั สอน 1. ครูกล่าวถึงการใช้โปรแกรมในการตัดต่อเบื้องต้น โปรแกรม Wondershare Filmora เป็นอีก โปรแกรมหน่งึ ท่สี ามารถนำมาใช้ในการตัดตอ่ วดี ีโอได้ ขั้นตอนคอ่ นข้างเข้าใจงา่ ยและใชง้ านสะดวกเพราะมี เทมเพลตใหเ้ ลือกใชต้ ามความเหมาะสมของงานของนกั เรียน 2. ครูสาธิตข้ันตอนในการใช้โปรแกรม Wondershare Filmora เบื้องต้น โดยการนำเสนอหน้าจอในแต่ ละขั้นตอน แนะนะเคร่ืองมือต่างๆท่ีใช้ในการตัดต่อโปรแกรม โดยการสาธิตการตัดต่อวีดีโอเบ้ืองต้นโดยใช้ โปรแกรม Wondershare Filmora มเี น้อื หาดังนี้ 1. การสร้าง Title 2. การปรับแตง่ Text บน Timeline 3. การแกไ้ ขข้อความ 4. การปรับแตง่ Transition 5. การแทรกภาพ 6. การแทรกเสยี ง 7. การสง่ ออกไฟล์ ขน้ั สรปุ 1. ครูและนักเรียนช่วยกันทบทวนความรู้โดยการถาม-ตอบเปิดแผ่นป้าย พร้อมสรุปเคร่ืองมือท่ีใช้ใน โปรแกรม 2. ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ แนวทางในการนำโปรแกรมตดั ตอ่ วีดีโอไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันไป 9.ชนิ้ งาน/ร่องรอยการเรียนรู้/หลกั ฐานการเรยี นรู้ของนกั เรียน 9.2 ผลงานหรือชน้ิ งาน บททบทวนความร้เู ปดิ แผ่นป้าย 9.2 กระบวนการขนั้ ตอนการปฏบิ ัตงิ าน การตอบคำถามและการอภิปรายร่วมกับเพ่อื น 9.3 ความรูค้ วามเข้าใจ อธิบายการใช้งานส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

67 10.สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้ / วัสดุอุปกรณ์ 10.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1. โปรแกรมสรา้ งวีดโิ อ 2. สื่อการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง การประยกุ ตใ์ ช้สว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรมตดั ตอ่ วีดโิ อ 3. สื่อการเรยี นรทู้ ่ี 2 เปดิ ปา้ ยทายภาพ 4. สอ่ื การเรยี นรทู้ ี่ 3 เปดิ ป้ายทบทวน 10.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ ของโรงเรียน 2. ส่อื การเรยี นรู้ เร่อื ง การประยกุ ตใ์ ช้สว่ นประกอบตา่ งๆ ของโปรแกรมตดั ตอ่ วีดโิ อ 3. คน้ หาขอ้ มลู จากอนิ เทอร์เน็ตในเว็บไซตต์ ่าง ๆ 10.3 วัสดุอปุ กรณ์ (งบประมาณท่ใี ช้) เครื่องคอมพิวเตอร์ท่ใี ชใ้ นการเรียนการสอน จำนวน 45 เครื่อง 11.การวดั และประเมินผล เครื่องมือ วธิ กี าร เกณฑ์ผา่ น 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการ 1. ประเมนิ จากการปฏบิ ตั งิ าน เกณฑ์ผา่ นขั้นตำ่ ทำงาน “วดี โิ อ เรือ่ ง ประวัติ 1. มคี ุณภาพระดบั “พอใช”้ ส่วนตัวของฉนั ” ข้ึนไป 2. แบบประเมนิ คุณลักษณะที่ 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมตาม 2. มีคุณภาพระดบั “พอใช”้ พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ ขึ้นไป การสรุปผลโดยรวม ผา่ นเกณฑข์ น้ั ต่ำท้งั 3 รายการ 12.กิจกรรมเสนอแนะ (ถา้ มี) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการสอน

68 นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6/8 ใหค้ วามรว่ มมอื เป็นอย่างดี ในการตอบคำถามตา่ งๆ และเลน่ เกมอยา่ ง สนุกสนาน 2. ปญั หา/อุปสรรค สัญญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ไมเ่ สถียร 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ครคู วรเตรยี มความพร้อมในเรือ่ งของอุปกรณ์ เชค็ สญั ญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ให้เรยี บรอ้ ย กอ่ นจะเขา้ คาบสอน ลงชื่อ……………………………………………..ผสู้ อน (นางสาว อรนภา วนั แสวง) วันท่ี 24 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ 2564

69 สงั เกตการณส์ อน On-site ทโี่ รงเรยี น

70 ดูแลซ่อมแซมคอมพวิ เตอรใ์ นโรงเรียน

71 สงั เกตการณส์ อนออนไลน์ทีบา้ น

72 ตรวจATK

73 กิจกรรมวนั พอ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook