สมุดบันทึก รายวิชาการฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี (Professional Training) การปฏบิ ัติงานวิชาชีพครู 1 (Practicum 1) คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสนุ ันทา ช่ือนกั ศึกษา นางสาว อรนภา นามสกลุ วนั แสวง รหัสประจำตัว 61131114033 สาขาวชิ า เทคโนโลยีการศกึ ษาและคอมพวิ เตอร์ ปีท่ี 4 สถานศกึ ษาทฝี่ ึกประสบการณ์วิชาชพี ครู โรงเรยี นสตรวี ดั ระฆงั คำนำ
สมุดบันทึกชดุ วชิ าการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู (Professional Training) การปฏิบตั งิ าน วชิ าชพี ครู 1 (Practicum 1) เป็นเอกสารทีเ่ ปน็ แนวทางให้นกั ศกึ ษาได้บนั ทึกขอ้ มลู ตา่ งๆ ท่ีไดจ้ ากการฝึกการ ปฏิบตั งิ านวชิ าชพี ครใู นสถานศึกษา ข้อกำหนดตา่ งๆ ทีก่ ำหนดไวใ้ นสมดุ บันทกึ เลม่ นีเ้ ปน็ ข้อกำหนดขั้นต่ำ นกั ศกึ ษา สามารถบนั ทึกความรแู้ ละประสบการณ์ท่ีได้รับได้มากกว่าข้อกำหนดท่ีกำหนดไว้ในสมุดบันทึกนี้ การบนั ทกึ ความรูแ้ ละประสบการณท์ ไ่ี ด้รับจากการปฏิบตั ิงานวิชาชีพครู 1 นักศึกษาต้องบันทึกตาม แบบในสมุดบนั ทกึ หวังวา่ สมุดบนั ทึกเล่มนจี้ ะมปี ระโยชนต์ อ่ การฝึกปฏิบตั งิ านวิชาชพี ครู 1 โดยเปน็ แนวทางสำหรบั นักศกึ ษาในการฝึกปฏบิ ัติ และเปน็ แนวทางในการใหค้ ำแนะนำและการนิเทศสำหรบั อาจารย์พี่เลยี้ ง และอาจารย์ นเิ ทศก์ต่อไป คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนนั ทา
สารบัญ เรอื่ ง หนา้ ชดุ วชิ าการปฏิบัตงิ านวิชาชพี ครู 1............................................................................................................................ 1 หลกั การและแนวคดิ ............................................................................................................................................. 1 แนวปฏิบตั ิของนักศึกษา....................................................................................................................................... 1 แนวปฏบิ ัติของหวั หน้านกั ศึกษา........................................................................................................................... 2 แบบบนั ทกึ การฝึกปฏิบัติงาน.................................................................................................................................... 2 ข้อมูลเกี่ยวกบั สถานศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู.............................................................................................. 4 ประวัติความเป็นมาของสถานศกึ ษา..................................................................................................................... 8 ปรชั ญาของสถานศึกษา........................................................................................................................................ 9 วสิ ัยทศั นข์ องสถานศกึ ษา...................................................................................................................................... 9 พันธกิจของสถานศกึ ษา........................................................................................................................................ 9 ยทุ ธศาสตรข์ องสถานศึกษา................................................................................................................................ 10 เปา้ หมายของสถานศกึ ษา................................................................................................................................... 10 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์.................................................................................................................................... 10 1. บคุ ลากร......................................................................................................................................................... 11 2.นกั ศกึ ษา.......................................................................................................................................................... 13 3.อาคารสถานท่ี ................................................................................................................................................. 14 แบบบนั ทึกการปฏบิ ัตงิ าน....................................................................................................................................... 15 รายงานผลการศึกษาการปฏิบัตงิ านวิชาชีพครู 1.................................................................................................... 23 1.ขอ้ มลู สถานศกึ ษา............................................................................................................................................ 23 2.ดา้ นสงั คม........................................................................................................................................................ 28 3.ดา้ นเศรษฐกจิ .................................................................................................................................................. 30 4.ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน .................................................................................................................................. 31 5.ความประพฤติของผู้เรียน................................................................................................................................ 32 6.พฒั นาการและปญั หาของผ้เู รยี น..................................................................................................................... 33 7. ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสถานศึกษากบั ชุมชน ................................................................................................... 34 8. การบรหิ ารงานวิชาการ.................................................................................................................................. 35 9. หลักสตู รสถานศึกษา...................................................................................................................................... 43
แบบบันทกึ ผลการสมั ภาษณน์ กั เรยี น...................................................................................................................... 78 แบบบนั ทกึ ผลการสมั ภาษณอ์ าจารย์ ...................................................................................................................... 82 แบบบนั ทกึ การมสี ่วนร่วม ....................................................................................................................................... 83 แบบบนั ทกึ ความประทับใจจากการปฏิบตั ิงานวิชาชีพครู 1 ................................................................................... 86 ความคิดเหน็ ........................................................................................................................................................... 87 การประเมินผลการปฏิบตั ิงานวิชาชีพครู Practicum 1......................................................................................... 88 ภาคผนวก .............................................................................................................................................................. 89
1 ชดุ วชิ าการปฏิบตั งิ านวิชาชพี ครู 1 หลักการและแนวคดิ ชุดวิชาการปฏบิ ตั งิ านวชิ าชีพครู 1 (Practicum 1) เปน็ ชดุ วชิ าหนง่ึ ที่อยู่ในกลุม่ ชดุ วิชาการฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพ (Professional Training) ของหลกั สตู รครศุ าสตรบัณฑติ หลักสูตรใหม่ พุทธศักราช 2560 จดุ ประสงคห์ ลกั ของชุดวิชานี้ เพอ่ื พัฒนาผเู้ รียนให้เป็นครดู ี มจี ิตสำนึกของความเป็นครู มีจรยิ ธรรมและคณุ ธรรมใน วชิ าชพี ครู มคี วามสามารถในการวิจัยเพอื่ พัฒนาการเรยี นรู้ และการพัฒนาหลักสูตร การออกแบบและการจดั กระบวนการเรยี นรทู้ ่เี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในวิชาชีพไดเ้ ป็นอย่างดี การพฒั นาชดุ วชิ าการปฏิบตั งิ านวชิ าชพี ครู 1 น้ี ไดก้ ำหนดผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ 3 ด้าน คือมุ่งให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ พัฒนาการและธรรมชาติของผูเ้ รียน การบริหารงานวิชาการ การ พฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษาและการสร้างความสัมพันธ์ระหวา่ งสถานศึกษากับชุมชน โดยมคี วามสามารถในการ วางแผน ศกึ ษาสงั เกต เก็บรวบรวมข้อมูล บนั ทึกขอ้ มลู ตรวจสอบข้อมูล สังเคราะห์ และนำเสนอผลการศกึ ษาได้ ทง้ั น้ี จะตอ้ งมกี ารนำหลกั การและทฤษฎีมาบูรณาการกับการปฏิบัติจรงิ ใช้ทักษะทางปัญญาในการคดิ พัฒนางาน อยา่ งสรา้ งสรรค์ มวี ุฒภิ าวะทางอารมณ์และทางสงั คม มคี วามสมั พนั ธท์ ดี่ ีกับผเู้ รียน และมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สว่ นรวม แนวปฏิบตั ขิ องนกั ศึกษา 1. นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพ เขา้ รว่ มการปฐมนเิ ทศเพื่อแนะนำใหร้ ู้จักกบั ผบู้ รหิ ารและ บุคลากรของสถานศกึ ษาตลอดจนขอ้ มูลต่าง ๆ ดังนี้ 1.1 โครงสรา้ งและบทบาทหนา้ ที่ของฝา่ ยต่าง ๆ 1.2 กจิ กรรมของสถานศึกษาและการมสี ่วนรว่ มกับผปู้ กครองและชุมชน 1.3 สภาพแวดลอ้ มของสถานศึกษา 1.4 แนวปฏบิ ตั ขิ องสถานศกึ ษา 2. เข้ารบั มอบหมายงานฝกึ ประสบการณก์ ารปฏิบตั ิงานวชิ าชีพครู 1 (Practicum 1) ดงั น้ี 2.1 วางแผนการศึกษาสถานศกึ ษา ชุมชนและหลักสตู รในบริบทต่างๆ 2.2 ศกึ ษาสังเกต สมั ภาษณ์ เกบ็ รวบรวมข้อมลู ด้านสงั คม เศรษฐกจิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการ เรยี น ความประพฤติ พัฒนาการและปัญหาของผู้เรียน การบรหิ ารงานวชิ าการ แผนงานวชิ าการ ระบบสนับสนนุ งานวิชาการ ความสมั พันธก์ บั ชมุ ชน หลกั สตู รสถานศึกษา กระบวนการพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษาและการนำไปใช้
2 2.3 ศกึ ษาและวเิ คราะหห์ ลักสตู รสถานศึกษา เพ่อื เปน็ แนวทางการจัดการเรยี นรู้ 3. ระเบยี บการปฏิบตั ิตน 3.1 นกั ศึกษาเร่ิมปฏบิ ตั งิ านต้ังแตว่ ันทอ่ี าจารย์นิเทศกส์ ง่ ตัวไปยังสถานศึกษา ตามปฏทิ ิน ท่ศี นู ยฝ์ ึกประสบการณว์ ชิ าชีพครกู ำหนด 3.2 นักศกึ ษาตอ้ งปฏิบัตงิ านทุกวนั ตง้ั แต่เวลา 07.30- 16.30 น. 3.3 นกั ศกึ ษาต้องเข้ารว่ มกจิ กรรมพิเศษอ่นื ๆ ของสถานศกึ ษาตามความเหมาะสม แนวปฏบิ ตั ขิ องหวั หน้านกั ศกึ ษา สถานศึกษาทน่ี ักศกึ ษาไปฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพตอ้ งมีหวั หน้านักศกึ ษา 1 คน โดยมหี น้าที่ ดังน้ี 1. ตดิ ตอ่ ประสานงานกับอาจารย์นเิ ทศก์ ครูพี่เลี้ยงและคณะครศุ าสตร์ 2.สร้างความสมั พนั ธ์ระหว่างนักศกึ ษาผูร้ ว่ มงานดว้ ยกนั เมื่อเหน็ ว่ามกี ารปฏิบัตติ นเส่ือมเสยี หรือ ปฏบิ ตั ิตนไมถ่ ูกตอ้ ง ใหม้ ีการแนะนำ ตกั เตอื นกัน และรายงานอาจารย์นเิ ทศกท์ ราบ เพอ่ื ขอรบั คำแนะนำและความ ช่วยเหลือทนั ที 3. ดูแลให้เพอ่ื นนักศึกษาลงเวลาไป – กลับ 4. ดูแลทุกขส์ ขุ ของเพือ่ นนักศกึ ษาทัง้ ปญั หาการสอน ปัญหาสขุ ภาพและปัญหาอ่ืนๆ 5. ร่วมมอื ปฏบิ ตั ิงานใหล้ ุลว่ งไปด้วยดี ควรมกี ารประชุมเพื่อปรึกษาหารอื กนั อยา่ งสม่ำเสมออย่าง นอ้ ย 1-2 ครัง้ ตอ่ เดือน แบบบนั ทึกการฝึกปฏบิ ตั งิ าน
3 ชอ่ื – นามสกลุ น.ส. อรนภา วนั แสวง รหัสประจำตัว 61131114033 แขนงวชิ า เทคโนโลยกี ารศึกษาและ คอมพิวเตอร์ ชอ่ื สถานศึกษารว่ มพฒั นาวิชาชพี ครู โรงเรียนสตรวี ัดระฆงั คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสนุ ันทา คำช้แี จง ใหน้ กั ศกึ ษาบนั ทึกรายการปฏิบตั ิงานในแตล่ ะวนั โดยใหค้ รอบคลมุ การบริหารจดั การสถานศกึ ษาใน หวั ข้อและประเด็นตอ่ ไปนี้ 1.ขอ้ มลู สถานศึกษา 1.1 ประวัติ 1.2 โครงสรา้ งและบทบาทหนา้ ท่ีของฝ่ายตา่ งๆ 1.3 กจิ กรรมของสถานศกึ ษาและการมสี ่วนรว่ มกบั ผปู้ กครองและชมุ ชน 1.4 สภาพแวดล้อมของสถานศกึ ษา 1.5 แนวปฏิบัตขิ องสถานศึกษา 2.ด้านสงั คม 2.1 การปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน 2.2 การรว่ มกจิ กรรมกบั เพอ่ื นท้งั ภายในและภายนอกห้องเรยี น 2.3 การใหค้ วามรว่ มมือกบั กิจกรรมของสถานศกึ ษา 2.4 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างผ้เู รียนกับผู้สอน 3.ดา้ นเศรษฐกิจ 3.1 จำนวนเงินทีไ่ ดร้ ับเป็นประจำ 3.2 การใช้จา่ ยในสถานศกึ ษา 4.ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน 4.1 พัฒนาการของผู้เรียนแต่ละดา้ น (ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา) 4.2 ผลการเรยี นในชั้นเรยี น 4.3 ภาพรวมของผลการเรยี นภาคเรยี นท่ีผ่านมา 5.ความประพฤตขิ องผ้เู รยี น 5.1 ลักษณะนสิ ัยของการมาโรงเรยี น
4 5.2 ความสนใจในการเรยี น 5.3 การใชแ้ หลง่ เรียนรู้ 5.4 การใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ 6.พัฒนาการและปญั หาของผ้เู รียน 6.1 พฒั นาการของผู้เรยี นตอ่ การเรียนรู้ 6.2 ปญั หาของผ้เู รยี น 7. ความสมั พนั ธ์ระหว่างสถานศกึ ษากับชมุ ชน 7.1 ชุมชนและแหล่งเรยี นรูท้ ใ่ี กลเ้ คยี งกับสถานศกึ ษา 7.2 ฐานข้อมลู ของสถานศกึ ษา (มี/ไม่มี) 7.3 ความร่วมมอื ระหว่างสถานศกึ ษากบั ชุมชน 7.4 การใช้ทรพั ยากรร่วมกนั ระหวา่ งสถานศึกษากบั ชุมชน 7.5 กจิ กรรมท่ีทำรว่ มกันระหวา่ งสถานศึกษากับชุมชน 8. การบรหิ ารงานวิชาการ 8.1 แผนงานวิชาการ 8.2 ระบบการสนบั สนุนงานวิชาการ 9. หลักสตู รสถานศกึ ษา 9.1 หลักสตู รทส่ี ถานศกึ ษาใชใ้ นปัจจุบัน 9.2 ความสอดคล้องของหลกั สูตรสถานศึกษากับสภาพ และความต้องการของชมุ ชน 9.3 หลกั สูตรเพ่มิ เตมิ ในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรียนรู้ 9.4 กระบวนการพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษาและการนำไปใช้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สถานศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู ช่ือสถานศกึ ษา โรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง สงั กดั สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
5 ทต่ี ง้ั 248/9 ถนน อรณุ อมรินทร์ ตำบล/แขวง ศริ ิราช อำเภอ/เขต บางกอกน้อย จงั หวดั กรงุ เทพมหานคร ไปรษณยี ์ 10700 โทรศพั ท์ 02412103-4 โทรสาร 024181002 เวบ็ ไซด์ www.sr.ac.th ช่อื ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา นางสาววมิ ลนาถ บวั แกว้ ช่ือรอง/ผชู้ ่วยผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา นางสาววิมลนาถ บวั แก้ว ฝ่ายวชิ าการ นางสาวจินตจ์ ุฑา พรหมรกั ษ์ ฝ่ายปกครอง นางสาววชั ราภรณ์ วงั มนตรี ฝา่ ยธุรการ นายณัฐพงศ์ กุลวุฒชิ ัยมงคล ฝ่ายบริหาร นายเกียรติเกรยี งไกร บุญทน นางสาววิมลนาถ บัวแกว้ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีวดั ระฆัง วิทยฐานะ ชำนาญการพิเศษ โทรศัพท์ 09-1819-3492 E-mail : [email protected] วุฒิการศกึ ษาสงู สุด ปริญญาโท หลกั สูตร ครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขา บรหิ ารการศกึ ษา ดำรงตำแหน่งทโ่ี รงเรยี นนี้ต้ังแต่ วันท่ี 22 ตุลาคม 2563 จนถงึ ปจั จุบัน เป็นเวลา - ปี 5 เดอื น 9 วัน นางสาวจนิ ตจ์ ฑุ า พรหมรกั ษ์ รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารวชิ าการ
6 วทิ ยฐานะ ชำนาญการ โทรศพั ท์ 087-595-6585 E-mail : [email protected] วุฒกิ ารศกึ ษาสงู สุด ปรญิ ญาโท หลกั สตู ร ครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขา บริหารการศกึ ษา ดำรงตำแหน่งทโ่ี รงเรยี นนี้ต้ังแต่ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 จนถงึ ปจั จุบัน เป็นเวลา - ปี 5 เดือน - วนั รับผิดชอบกลุ่มบรหิ าร รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ นางสาววัชราภรณ์ วงั มนตรี รองผ้อู ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานบคุ คล วิทยฐานะ ชำนาญการ โทรศพั ท์ 092-281-9089 E-mail : [email protected] วุฒกิ ารศกึ ษาสูงสดุ ปริญญาโท หลกั สตู ร ศกึ ษาศาสตรมหาบัณฑติ สาขา บรหิ ารการศกึ ษา ดำรงตำแหนง่ ทโ่ี รงเรยี นนต้ี ั้งแต่ วันท่ี 30 ตุลาคม 2563 จนถึงปัจจบุ ัน เปน็ เวลา - ปี 5 เดือน - วนั รบั ผิดชอบกลมุ่ บรหิ าร รองผู้อำนวยการกล่มุ บรหิ ารงานบคุ คล นายณฐั พงศ์ กุลวุฒิชัยมงคล รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารงบประมาณ
7 วทิ ยฐานะ ชำนาญการ โทรศัพท์ 085-259-4059 E-mail : [email protected] วุฒกิ ารศกึ ษาสงู สดุ ปรญิ ญาโท หลกั สูตร การศกึ ษามหาบัณฑิต สาขา บรหิ ารการศกึ ษา ดำรงตำแหน่งท่ีโรงเรยี นน้ตี ง้ั แต่ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 จนถึงปจั จุบัน เป็นเวลา - ปี 5 เดอื น - วนั รบั ผดิ ชอบกล่มุ บรหิ าร รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงบประมาณ นายเกยี รตเิ กรยี งไกร บุญทน รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารทัว่ ไป วทิ ยฐานะ ชำนาญการ โทรศัพท์ 083-951-5453 E-mail : [email protected] วฒุ ิการศึกษาสูงสดุ ปรญิ ญาโท หลกั สตู ร ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต สาขา บรหิ ารการศึกษา ดำรงตำแหนง่ ทโ่ี รงเรียนน้ีตั้งแต่ วนั ท่ี 30 ตุลาคม 2563 จนถงึ ปจั จบุ ัน เป็นเวลา 0 ปี 5 เดือน 0 วัน รบั ผดิ ชอบกลุม่ บรหิ าร รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารทั่วไป รายชือ่ คณะกรรมการสถานศกึ ษา (ชื่อ-สกลุ อาชพี )
8 1.พลเรือเอก เชษฐา ใจเปย่ี ม ประธานกรรมการ 2. พระบวรรังสี ผแู้ ทนพระภิกษสุ งฆ์ 3. พระครูปลัดธรี วฒั น์ ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ 4. พอ.ร.ต.หญิง ศรศี ุภรณ์ รุธริ วฒั น์ ผูท้ รงคุณวฒุ ิ กรรมการ 5. พ.ต.อ.หญงิ ชัญชะรัศม์ ทองวิบลู ยโ์ ชติ ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ กรรมการ 6. ผต.ดร. สุดารัตน์ ชาญเลขา ผทู้ รงคณุ วุฒิ กรรมการ 7. ผศ.ดร. ระววิ รรณ วรรณวไิ ชย ผทู้ รงคณุ วุฒิ กรรมการ 8. นาง อญั ชลี โพธกิ์ ง่ิ ผู้ทรงคณุ วุฒิ กรรมการ 9. นาง ศุภวรรณ สุกใส ผู้ทรงคณุ วุฒิ กรรมการ 10. นาย สมเกียรติ เถดิ กาญจนาพร ผแู้ ทนผ้ปู กครอง กรรมการ 11. นาย สิทธชิ ยั ตนั เจรญิ ผู้แทนครู กรรมการ 12. นาง สมจติ ร วรรณธนศิลป์ ผแู้ ทนองคก์ รชมุ ชน 13. นาย ธวชั ชยั ฟกั อังกูร ผูแ้ ทนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 14. นาง สุกัญญา สุวัฒนวงศ์ ผแู้ ทนศษิ ยเ์ ก่า กรรมการ 15. นางสาววมิ ลนาถ บัวแก้ว ผอู้ ำนวยการโรงเรียน ประวัตคิ วามเป็นมาของสถานศกึ ษา สถานทนี่ ีแ้ ตเ่ ดมิ กระทรวงทหารเรอื ไดร้ ับอนญุ าตจากวัดใหส้ รา้ งอาคารไมจ้ ำนวน ๓ หลัง เปน็ โรงพยาบาล ทหารเรอื ช่ัวคราวเมอื่ กระทรวงทหารเรอื สรา้ งโรงพยาบาลทหารเรอื ถาวรทปี่ ากคลองมอญเรยี บร้อยแลว้ จึงยก อาคารเดิมให้แก่วดั และไดร้ ายงานไปยงั กระทรวงธรรมการในคร้ังนัน้ ขนุ วรเวทย์พสิ ิฐเปน็ พนักงานจดั การแขวง ตะวนั ตกเฉียงเหนือ เหน็ ชอบดว้ ยในการจดั ตัง้ โรงเรยี นสตรขี องรัฐบาลขนึ้ ในสถานทแ่ี หง่ นี้จึงไดน้ ำความกราบเรยี น ทา่ นเจา้ กรมศกึ ษาธิการและได้กราบเรียนทา่ นเจ้าอาวาสวดั ระฆงั ฯ เจา้ คุณพระพิมลธรรม ( สมเดจ็ พระพุทธโฆษา จารย์ )ทา่ นเจา้ อาวาสเหน็ ชอบดว้ ย อนญุ าตให้ใชอ้ าคารและสถานท่ี เปน็ โรงเรียนสตรี กระทรวงธรรมการ โรงเรียนสตรีวดั ระฆังเปดิ รบั นักเรียนตัง้ แตว่ ันที่ ๑ สงิ หาคม ๒๔๕๗ กอ่ น แล้วจึง ประกอบพธิ ีทางศาสนาเปิด โรงเรยี นเม่อื วันที่ ๑ พฤศจกิ ายน ๒๔๕๗ และเริ่มทาํ การสอนเมอื่ วนั ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๔๕๗ ประธานในพธิ เี ปดิ คอื สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอกรมพระยาชยั นาทนเรนทร เม่อื ครงั้ ดํารงพระยศเป็นพระองค์เจา้ รังสิตประยูรศกั ด์ิ ผ้แู ทนเจ้ากรมศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๔๕๗ เปิดสอนนักเรยี นตง้ั แต่ชั้นประถมปที ี่ ๑ จนถงึ ชัน้ ประถมปที ี่ ๓ ครใู หญ่คนแรกคือ นางธนากรภกั ดี ( สวา่ ง อมรสงิ ห์ ) พ.ศ. ๒๔๖๓ เปดิ สอนถึงชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๖ พ.ศ. ๒๔๘๙ เปิดเรียนช้นั เตรยี มปีท่ี ๑ แผนกอักษรศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์
9 พ.ศ. ๒๕๐๓ เปิดสอนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ถงึ มธั ยมศกึ ษาปีท่ ี ๕ ตามนโยบายการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๘ เรม่ิ ใช้หลักสตู รมัธยมศกึ ษาตอนปลาย พุทธศักราช ๒๕๑๘ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ และ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เปลี่ยนเป็นระบบหน่วยกติ พ.ศ. ๒๕๒๑ เปดิ รับนักเรยี นช้นั ม.๑ ตามหลกั สตู รมัธยมศกษาตอนต้น พทุ ธศักราช ๒๕๒๑ พ.ศ. ๒๕๒๔ เปิดรบั นักเรยี นชนั้ ม.๔ ตามหลักสตู รมัธยมศกึ ษาตอนปลาย พุทธศักราช ๒๕๒๔ พ.ศ. ๒๕๓๖ เปดิ สอนช้นั ม.๑ – ม.๓ ใช้หลกั สูตรชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ พทุ ธศักราช ๒๕๒๑ ( ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๓๓ ) และชั้น ม.๔ – ม.๖ ใช้หลักสูตรช้ันมธั ยมศกึ ษาตอนปลายพุทธศักราช ๒๕๒๔ ( ฉบบั ปรบั ปรุงพุทธศกั ราช ๒๕๓๓ ) พ.ศ. ๒๕๔๕ เปดิ สอนชนั้ ม.๑ – ม.๖ เปน็ โรงเรียนนาํ รอ่ งในการใช้หลักสูตร การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานปีการศกึ ษา ๒๕๔๔ พ.ศ. ๒๕๕๓ เปดิ สอนชนั้ ม.๑ – ม.๖ ใชห้ ลักสตู รการศกึ ษาข้นั พื้นฐานปี การศกึ ษา ๒๕๕๑ และเปน็ โรงเรยี น มาตรฐานสากล ปรัชญาของสถานศกึ ษา วชิ ฺชา วร ธน โหติ- วชิ าเป็นทรัพย์อันประเสริฐ วิสยั ทัศน์ของสถานศึกษา มุง่ ม่นั พฒั นาคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา สามารถสอ่ื สารสองภาษา ใช้เทคโนโลยใี นการเรยี นร้ตู าม หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พนั ธกจิ ของสถานศึกษา 1. จดั การเรยี นรูต้ ามหลักสูตรสถานศึกษาอยา่ งมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาและมาตรฐานสากล ให้เกิด ประสิทธิภาพทุกกล่มุ สาระการเรยี นรู้ 2. พัฒนาศกั ยภาพผู้เรียนเพ่ือเพ่มิ ขีดความสามารถในการแขง่ ขันโดยพัฒนาคุณภาพผู้เรียนใหม้ ีความรู้ ทักษะ วชิ าการ ทักษะชีวิต ทกั ษะวชิ าชพี ตามทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ 3. พฒั นาระบบบรหิ าร และการจัดการศึกษาตามหลกั ธรรมาภบิ าล โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรยี น การสอน 4. จัดกจิ กรรมสง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคา่ นยิ มทพี่ งึ ประสงค์ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. จัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่เี น้นทกั ษะและกระบวนการคดิ การทำวิจยั โดยเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั 6. สง่ เสริมให้ผู้เรียนไดเ้ รียนภาษาตา่ งประเทศอยา่ งน้อยสองภาษา
10 7. ปลกู ฝงั จติ สำนกึ ใหเ้ กดิ ความภาคภูมใิ จในความเปน็ ไทย มมี ารยาทในสงั คม สบื สานงานฝมี ือไทย ช่ืนชมใน วฒั นธรรมประจำชาติ ยึดม่ันในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ 8. ปลกู ฝงั จติ สำนกึ ใหผ้ ู้เรียนใส่ใจสงั คมโลก โดยเฉพาะการอนุรกั ษส์ ิง่ แวดล้อมและยอมรับความหลากหลายทาง วัฒนธรรม 9. ประสานความรว่ มมอื ในการจัดการศกึ ษาระหวา่ งครู ผปู้ กครอง ชมุ ชนและองคก์ รต่างๆ ยทุ ธศาสตรข์ องสถานศึกษา ข้อที่ 1 พัฒนาคุณภาพผเู้ รียนตามวสิ ัยทัศนข์ องโรงเรยี นสตรีวัดระฆงั ข้อท่ี 2 พฒั นาเครือขา่ ยความรว่ มมือและระบบบริหารการจดั การด้วยระบบคณุ ภาพ ขอ้ ท่ี 3 พัฒนาบุคลากรใหม้ ีประสิทธิภาพเทียบเคียงมาตรฐานสากล ขอ้ ท่ี 4 พฒั นาความสมั พนั ธ์ระหว่างโรงเรยี นกบั ชุมชน เปา้ หมายของสถานศกึ ษา 1. ผู้เรยี นจบหลักสูตรการศึกษาของโรงเรยี นตามมาตรฐานสากลอย่างมีคณุ ภาพเป็นบคุ คลแหง่ การเรยี นรู้มี ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและค่านยิ มท่ีพึงประสงค์ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง 2. โรงเรียนมรี ะบบการบริหาร และการจดั การศกึ ษาทีม่ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน มีบรรยากาศ สงิ่ แวดล้อมและเทคโนโลยีทเ่ี อือ้ ตอ่ การจัดการเรยี นรู้ 3. ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษามีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานวชิ าชีพ 4. ผู้เรียนมที กั ษะในการดำรงชีวิต ความเป็นไทย มมี ารยาทในสังคม สบื สานงานฝีมือไทย อนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทย และยดึ มน่ั ในระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ 5. ประสานความรว่ มมอื ในการจดั การศกึ ษาระหว่างครู ผปู้ กครอง ชุมชนและองค์กรต่างๆ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 เปน็ ผลเมืองทด่ี ขี องชาติ
11 1.2 ธำรงไวซ้ ึ่งความเป็นไทย 1.3 ศรัทธา ยึดมน่ั และปฏิบัตติ นตามหลักศาสนา 1.4 เคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ 2. ซ่ือสัตยส์ ุจรติ 2.1 ประพฤตติ รงตามความเป็นจรงิ ต่อคนเองท้งั กาย และวาจา ใจ 2.2 ประพฤติตรงตามเปน็ จริงตอ่ ผอู้ ่ืนท้งั กาย วาจา ใจ 3. มีวินัย 3.1 ประพฤตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บังคบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 ตัง้ ใจเพยี งพยายามในการเรยี น และเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.2 แสวงหาความรรู้ ู้จากแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลือกใช้สือ่ อย่าง เหมาะสม สรปุ เป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ดำเนินชวี ิตอย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม 5.2 มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตัวท่ีดี ปรบั ตวั เพือ่ อยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ 6. มงุ่ มั่นในการทำงาน 6.1 ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในหน้าทก่ี ารงาน 6.2 ทำงานดว้ ยเพียงพยายามและอดทนเพ่อื ใหส้ ำเร็จตามเปา้ หมาย 7. รกั ความเปน็ ไทย 7.1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วัฒนธรรมไทยและมีความกตญั ญกู ตเวที 7.2 เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม 7.3 อนุรักษ์และสบื ทอดภมู ปิ ัญญาไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 ช่วยเหลือผ้อู ื่นด้วยดว้ ยความเตม็ ใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน 8.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม 1. บคุ ลากร และหญงิ 70 คน 1.1 ครอู าจารย์ มที ง้ั หมด 99 คน ชาย 29 คน จำแนกตามวุฒกิ ารศึกษา ดงั น้ี
12 ปริญญาเอก จำนวน 0 คน ปริญญาโท จำนวน 25 คน ปริญญาตรี จำนวน 74 คน 1.2 คนงานภารโรง 1 คน ชาย 1 คน และหญิง 0 คน 1.3 นกั เรยี นมที ง้ั หมด 1,731 คน ชาย 0 คน และหญิง 1,731 คน ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 จำนวน 316 คน ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2 จำนวน 327 คน ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 จำนวน 287 คน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 จำนวน 295 คน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5 จำนวน 254 คน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 จำนวน 252 คน
13 สรปุ อตั ราส่วนระหวา่ ง จำนวนครอู าจารยต์ อ่ จำนวนนักเรยี น ประมาณ 19 คน ตอ่ 1 คน 2.นักศกึ ษา 2.1นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณก์ ารปฏิบัติงานวิชาชพี ครู 1 (Practicum 1) นกั ศกึ ษาปฏบิ ตั งิ านวิชาชพี ครู 1 ของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสนุ นั ทาแหง่ นี้ มที งั้ หมด 6 คน ชาย 0 คน และหญิง 6 คน จำแนกตามสาขาวิชา ดังนี้ 1. เทคโนโลยกี ารศึกษาและคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 คน นางสาว วัชราภรณ์ กลุ วัฒนาสุทธา นางสาว อรนภา วันแสวง 2. วิทยาศาสตร์ จำนวน 2 คน นางสาว สุทธกิ านต์ มณีโรจน์ นางสาว พชรพรรณ โอทอง 3. ภาษาองั กฤษ จำนวน 2 คน นางสาว ศกลวรรณ บลั ลงั ก์ นางสาว ศศิพิมพ์ สังวเิ ศษสุท 2.2 ตวั แทนนกั ศึกษาผู้ประสานงาน นักศึกษาผูป้ ระสานงานประจำสถานศกึ ษาคอื นายกิตตนิ นท์ พรมสวสั ดิ์
14 3.อาคารสถานที่ 3.1 หอ้ งเรียน มีทั้งหมด 25 ห้อง 3.2 ห้องพกั ครู มที งั้ หมด 10 หอ้ ง 3.3 ห้องส่งเสรมิ วิชาการ มที ง้ั หมด 13 หอ้ ง ได้แก่ 1) หอ้ งวิชา 2) หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารวทิ ยาศาสตร์ 3) ห้องปฏิบัตกิ ารทางภาษา 4) ห้องสมุด 5) ห้องฟิตเนส 6) ห้องศูนยว์ ิชาการคอมพวิ เตอร์ 7) หอ้ งแนะแนว 3.4 สถานท่สี ำคญั อยูใ่ กลก้ ับสถานศกึ ษา มดี งั นี้ วดั ระฆงั โฆสิตาราม ซอยวังหลงั กรมอ่ทู หารเรอื 3.5 แผนผังแสดงบรเิ วณและที่ตง้ั ของสถานศกึ ษา ดงั นี้ น ตต ตอ ต
15 แบบบนั ทกึ การปฏิบตั งิ าน ชื่อ – สกลุ น.ส. อรนภา วันแสวง แขนงวิชา เทคโนโลยีการศกึ ษาและคอมพิวเตอร์ สถานศกึ ษา โรงเรียนสตรวี ดั ระฆัง คำช้ีแจง ใหน้ กั ศึกษาบันทึกรายการปฏิบตั ิงานผลการปฏิบัติงานในแต่ละวนั ตลอดระยะเวลา การปฏิบัตงิ านในชดุ วิชาการปฏิบัติงานวชิ าชพี ครู 1 (Practicum 1) พร้อมใหค้ รูพเ่ี ลีย้ ง/ครผู สู้ อน ลงนามรบั รองทุกวนั วนั เดอื นปี รายการปฏบิ ัตงิ าน ผลการปฏบิ ตั งิ าน ครพู ี่เลยี้ ง/ครูผสู้ อน 29 ก.ค. 2564 เวลา 10.50-11.40 ใชร้ ะบบสอนออนไลนผ์ ่านแอพลเิ คช่นั สังเกตการณส์ อน ม.5/6 Google Meet และใหก้ ารบา้ นพร้อมส่ือวิดีโอ ท่ีใช้ในการสอนผ่านทางGoogle Classroom ก่อนที่จะเขา้ สบู่ ทเรียนครพู เ่ี ลี้ยงทบทวนส่ิงที่ ได้สอนไปในคาบทีแ่ ลว้ และเขา้ ส่บู ทเรยี น เรือ่ ง ภาษาซี โดยไม่ต้องใหน้ ักเรียนตดิ ต้ัง โปรแกรมแลว้ เขยี นจริงๆ เพราะเม่ือเกดิ ปัญหาแลว้ อาจจะไม่สามารถแกไ้ ด้ตรงจุด เน่ืองจากอปุ กรณท์ ่นี กั เรียนใชน้ ้ันไม่ (..............................) เหมอื นกนั ทำให้แก้ปัญหาไดย้ าก จากน้ันก็ นายสมเจต หวังทอง เชค็ ชอ่ื ประมาณกลางคาบ เพือ่ เช็ควา่ นักเรยี น ครูพ่เี ล้ียง ยงั ฟงั ทคี่ รูสอนอยหู่ รอื ไม่ และเชค็ ชือ่ อีกที ตอนสอนเสร็จแลว้ พร้อมกับถ่ายรูปเป็น หลกั ฐาน และให้งานทกุ สปั ดาหเ์ ป็นการตอบ คำถามงา่ ยๆจากคลิป ให้สง่ ในGoogle Classroom เวลา 16.00 หมดเวลาปฏบิ ัติการ ----------หมดเวลาปฏบิ ัติการ-----------
16 30 มิ.ย.2564 เวลา 13.00-14.00 ตรวจเชค็ อุปกรณคอมพวิ เตอร์ และอุปกรณ์ เชค็ อุปกรณ์หอ้ งคอม อื่นๆในห้องคอมพิวเตอร์ เพ่ือจดั การฝกึ อบรม เวลา 16.00 หมดเวลาปฏิบัติการ ในวันศกุ รท์ ่ี 2 ก.ค. 2564 (..............................) นายสมเจต หวงั ทอง ----------หมดเวลาปฏิบตั ิการ----------- ครูพ่ีเล้ียง 1 ก.ค. 2564 เวลา 10.50-11.40 -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet สังเกตการณ์สอน ม.5/3 -ครเู ปดิ คลปิ พร้อมกับสอนควบคู่กันไปเรื่อง ภาษาซี -ในขณะทส่ี อนก็มคี ำถามง่ายๆตลอดช่วงการ สอน เพือ่ เปน็ การเช็ควา่ นกั เรยี นยงั ฟงั ครูสอน อยหู่ รอื ไม่ เมอื่ ดูคลปิ จบแล้ว ให้ทำกิจกรรม ตอบคำถามง่ายๆใน Google Classroom จากน้ันเชค็ ชอ่ื ทา้ ยคาบ พร้อมกบั ถา่ ยรูป และ ก่อนออกจากห้องเรยี นออนไลน์ (..............................) -ครูพี่เลี้ยงให้แนะนำตวั นกั ศึกษาที่เขา้ มา นายสมเจต หวงั ทอง สงั เกตการณ์สอน จำนวน 2 คน ก่อนทจี่ ะออก ครูพ่ีเลย้ี ง จาก Google Meet เวลา 13.00-14.00 เชค็ อปุ กรณคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อืน่ ๆใน เชค็ อปุ กรณห์ ้องคอม หอ้ งคอมพวิ เตอร์ เพือ่ จัดการฝกึ อบรมในวัน ศุกร์ที่ 2 ก.ค. 2564 เวลา 15.00-15.50 -สอนออนไลนผ์ ่าน Google Meet สังเกตการณ์สอน ม.5/1 -ครพู ดู เกรนิ่ เร่ือง อาชีพท่เี กี่ยวกับการเขยี น โปรแกรมในอนาคต และพดู ตอ่ จากคาบที่ แลว้ ในเร่อื งของการติดตั้งโปรแกรมเขียน ภาษาซี (ไม่ต้องตดิ ต้งั จรงิ )
17 -ก่อนเขา้ ส่บู ทเรียน ครพู ี่เลีย้ งให้นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์สังเกตการณส์ อนจำนวน 2 คน แนะนำตัวกับนกั เรียน -ครเู ปดิ คลิปพรอ้ มกบั สอนควบค่กู ันไป เร่อื ง ภาษาซี -ในขณะท่ีสอนกม็ ีคำถามงา่ ยๆตลอดช่วงการ สอน แล้วสุ่มใหน้ ักเรยี นตอบ -เมอ่ื สอนเสร็จแล้ว ครูให้การบ้านนกั เรยี นใน Google Classroom เปน็ การตอบคำถาม ง่ายๆ จากนั้นเชค็ ช่อื พร้อมกบั ถ่ายรูป เวลา 16.00 ----------หมดเวลาปฏบิ ัตกิ าร----------- หมดเวลาปฏบิ ัติการ 2 ก.ค.2564 เวลา 8.00-16.00 ทางโรงเรยี นมีการจดั การฝึกอบรมเชิง ฝกึ อบรม ปฏิบตั ิการ หัวข้อ “การผลติ ส่ือการสอนดว้ ย ระบบ I love library” ครพู ี่เล้ยี งมอบหมาย (..............................) งานให้นักศกึ ษาฝึกประสบการณถ์ ่ายรูป นายสมเจต หวงั ทอง บรรยากาศและจัดเตรียมอุปกรณ์ พรอ้ มกับ ครูพี่เลย้ี ง ชว่ ยเหลอื ครูท่านอน่ื ในโรงเรยี นเมื่อ คอมพิวเตอรม์ ีปัญหา เวลา 16.00 ----------หมดเวลาปฏิบตั กิ าร----------- หมดเวลาปฏบิ ัติการ 5 ก.ค. 2564 เวลา 11.40-13.20 สงั เกตการณ์สอนออนไลนน์ กั เรยี นช้นั ม.2/1 สงั เกตการณ์สอน ม.2/1 ผา่ นทางแอพพลเิ คชัน่ Google meet ท่ีบา้ น (..............................) นายสมเจต หวงั ทอง ครพู ่เี ลย้ี ง
18 6 ก.ค. 2564 เวลา 10.50-11.40 -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet สงั เกตการณ์สอน ม.5/6 -สอนเร่อื งภาษาซตี ่อจากสัปดาห์ทแ่ี ลว้ ครูถามคำถามจากสือ่ สไลด์ ในเรือ่ งของการ แสดงผลของขอ้ มูล เปน็ การสมุ่ ถามนกั เรยี น (..............................) พรอ้ มกับตอบคำถามในGoogle classroom นายสมเจต หวงั ทอง -ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรุปเนอื้ หาบทเรียน ครูพีเ่ ล้ยี ง จากนัน้ เชค็ ช่ือพร้อมกบั ถ่ายรูป เวลา 16.00 ----------หมดเวลาปฏบิ ัติการ----------- หมดเวลาปฏิบตั ิการ 7 ก.ค. 2564 เวลา 14.10-15.50 -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet สงั เกตการณ์สอน ม.1/2 -สอนเรอื่ งการใชง้ าน Google slide เพ่อื นำไปตอ่ ยอดใช้งานดา้ นต่างๆ ในอนาคต -ครแู นะนำวิธีการใชง้ านตา่ งๆ รวมไปถึง หน้าทข่ี องเครื่องมอื ในGoogle slide -ระหวา่ งสอนไปนนั้ กม็ คี ำถามทบทวนเป็น ระยะๆ เป็นการตรวจเช็คว่านกั เรียนยังฟังท่ี ครูสอนอยู่หรอื ไม่ -คำถามทบทวนนน้ั เปน็ คำถามเก่ยี วกบั ว่า หน้าทีเ่ ครือ่ งมือตา่ งๆใช้งานอย่างไร (..............................) -ทา้ ยคาบมีการบา้ นในGoogle Classroom นายสมเจต หวงั ทอง เป็นการตอบคำถามหลังจากทีไ่ ด้เรียนไปใน ครูพเี่ ลี้ยง คาบ พรอ้ มกบั เชค็ ช่ือและถา่ ยรปู เวลา 16.00 ----------หมดเวลาปฏิบตั กิ าร----------- หมดเวลาปฏบิ ัติการ
19 8 ก.ค. 2564 เวลา 10.50-11.40 -สอนออนไลนผ์ ่าน Google Meet 9 ก.ค. 2564 สงั เกตการณส์ อน ม.5/3 -สอนเรื่องภาษาซีตอ่ จากสัปดาหท์ แ่ี ล้ว ครถู ามคำถามจากส่ือสไลดใ์ นเรือ่ งของการ แสดงผลของขอ้ มูล เป็นการสมุ่ ถามนักเรยี น พร้อมกบั ตอบคำถามในGoogle classroom -ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรปุ เนอ้ื หาบทเรียน จากนน้ั เช็คชื่อพร้อมกับถา่ ยรปู (..............................) นายสมเจต หวงั ทอง เวลา 15.00-15.50 -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet ครพู เี่ ลย้ี ง สงั เกตการณ์สอน ม.5/1 -สอนเร่ืองภาษาซตี ่อจากสัปดาหท์ แ่ี ลว้ ครถู ามคำถามจากสอ่ื สไลดใ์ นเร่ืองของการ แสดงผลของขอ้ มลู เป็นการสุ่มถามนกั เรยี น พรอ้ มกบั ตอบคำถามในGoogle classroom -ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรุปเนอ้ื หาบทเรียน จากนั้นเช็คช่อื พรอ้ มกบั ถา่ ยรูป เวลา 16.00 หมดเวลาปฏบิ ตั ิการ ----------หมดเวลาปฏิบัตกิ าร----------- เวลา 10.50-11.40 -สอนออนไลนผ์ ่าน Google Meet สังเกตการณ์สอน ม.5/7 -สอนเรื่องภาษาซีต่อจากสปั ดาหท์ ี่แล้ว ครูถามคำถามจากส่อื สไลดใ์ นเรอื่ งของการ แสดงผลของขอ้ มูล เปน็ การสุ่มถามนักเรยี น พร้อมกับตอบคำถามในGoogle classroom -ครแู ละนกั เรียนช่วยกันสรุปเนอ้ื หาบทเรยี น จากนนั้ เชค็ ช่อื พร้อมกับถ่ายรปู เวลา 15.00-15.50 -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet (..............................) สงั เกตการณ์สอน ม.5/8 -ครผู สู้ อนทกั ทายนกั เรยี น นายสมเจต หวงั ทอง -สอนเร่ืองภาษาซีตอ่ จากสัปดาหท์ ่ีแล้ว ครพู เ่ี ล้ยี ง
20 ครถู ามคำถามจากส่ือสไลดใ์ นเรื่องของการ แสดงผลของขอ้ มลู เปน็ การสมุ่ ถามนักเรยี น พรอ้ มกับตอบคำถามในGoogle classroom -ครูและนกั เรียนช่วยกันสรปุ เน้ือหาบทเรียน จากนั้นเชค็ ชอ่ื พร้อมกับถ่ายรูป เวลา 16.00 หมดเวลาปฏิบัติการ ----------หมดเวลาปฏิบัติการ----------- 12 ก.ค. 2564 เวลา 14.10-15.50 สังเกตการณ์สอนออนไลนน์ กั เรียนชนั้ ม.2/2 สังเกตการณส์ อน ม.2/2 ผา่ นทางแอพพลิเคชัน่ Google meet ที่บา้ น (..............................) ตามมาตรการWFH ของโรงเรยี น นายสมเจต หวงั ทอง ครพู เี่ ล้ียง 13 ก.ค. 2565 เวลา 10.50-11.40 -สงั เกตการณ์สอนออนไลนท์ ีบ่ ้าน สังเกตการณส์ อน ม.5/6 ตามมาตรการWFH ของโรงเรยี น -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet -ครผู ู้สอนทักทายนักเรยี น -ครสู อนในเรอ่ื งของตวั แปร เป็นการเรยี นที่ ต่อเนอ่ื งจากสัปดาห์ทแี่ ล้ว -ในขณะทสี่ อนกม็ คี ำถามง่ายๆตลอดชว่ งการ สอน เพ่อื เป็นการเช็คว่านกั เรียนยังฟงั ครสู อน อยู่หรอื ไม่ (..............................) -ใหน้ ักเรียนดคู ลิปทคี่ รูส่งใหใ้ นGoogle นายสมเจต หวงั ทอง Classroom เม่ือดูคลปิ จบแลว้ ใหต้ อบคำถาม ครพู ่เี ล้ยี ง ง่ายๆใน Google Classroom เปน็ การบา้ น จากนั้นเช็คช่อื ท้ายคาบ พร้อมกับถา่ ยรปู และ ก่อนออกจากห้องเรยี นออนไลน์
21 14 ก.ค. 2564 เวลา9.10-10.00 -สังเกตการณส์ อนออนไลนท์ บ่ี า้ น สังเกตการณ์สอน ม.1/1 ตามมาตรการWFH ของโรงเรียน -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet -ครพู ูดเกร่นิ ในเรอ่ื งของ Microsoft และเร่อื ง ที่จะสอนในวันน้ี เปน็ เร่ืองของการใชง้ าน โปรแกรมexcel ในเบ้อื งตน้ -ครสู อนเก่ียวกบั เครื่องมอื ตา่ งๆในโปรแกรม และวิธกี ารใชง้ าน การคำนวณ รวมไปถึงการ สรา้ งตาราง (..............................) -ในระหวา่ งทสี่ อนจะมีคำถามเป็นระยะๆใน นายสมเจต หวงั ทอง การเช็คว่านักเรยี นยงั ฟงั ทคี่ รูสอนอยู่ คำถาม ครูพเ่ี ล้ียง จะเป็นคำถามงา่ ยๆทไ่ี ด้สอนผา่ นมา เช่นคำส่งั น้ีใช้ทำอะไร เป็นการสมุ่ ถามนักเรียน -เมอ่ื สอนเสร็จแล้วกม็ กี ารบา้ นในGoogle classroom เป็นคำถามงา่ ยๆ2ข้อ พร้อมกบั เชค็ ช่อื และถ่ายรปู 15 ก.ค. 2564 เวลา10.50-11.40 สงั เกตการณส์ อนออนไลน์ท่บี ้าน สังเกตการณ์สอน ม.5/3 ตามมาตรการWFH ของโรงเรยี น -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet -ครูผูส้ อนทกั ทายนกั เรยี น -ครูสอนในเรอื่ งของตัวแปร เป็นการเรียนที่ ต่อเน่ืองจากสัปดาห์ทแี่ ล้ว -ในขณะทีส่ อนกม็ คี ำถามงา่ ยๆตลอดชว่ งการ (..............................) สอน เพือ่ เป็นการเชค็ วา่ นักเรียนยังฟังครูสอน นายสมเจต หวงั ทอง อย่หู รือไม่ ครูพีเ่ ลยี้ ง -ใหน้ ักเรยี นดคู ลิปทค่ี รูส่งใหใ้ นGoogle Classroom เมอื่ ดคู ลปิ จบแลว้ ให้ตอบคำถาม ง่ายๆใน Google Classroom เปน็ การบ้าน
22 จากนนั้ เชค็ ชอื่ ทา้ ยคาบ พรอ้ มกับถา่ ยรปู และ ก่อนออกจากหอ้ งเรียนออนไลน์ 16 ก.ค. 2564 เวลา10.50-11.40 สังเกตการณ์สอนออนไลน์ท่บี ้าน สังเกตการณส์ อน ม.5/7 ตามมาตรการWFH ของโรงเรยี น -สอนออนไลนผ์ า่ น Google Meet -ครูผู้สอนทกั ทายนักเรยี น -ครสู อนในเรื่องของตวั แปร เป็นการเรยี นท่ี ตอ่ เนอ่ื งจากสัปดาห์ทีแ่ ลว้ -ในขณะทีส่ อนก็มีคำถามง่ายๆตลอดชว่ งการ (..............................) สอน เพอ่ื เป็นการเช็คว่านกั เรียนยงั ฟังครูสอน นายสมเจต หวังทอง อยู่หรอื ไม่ ครพู ี่เล้ียง -ใหน้ ักเรียนดูคลิปท่คี รูสง่ ใหใ้ นGoogle Classroom เมื่อดูคลปิ จบแลว้ ใหต้ อบคำถาม งา่ ยๆใน Google Classroom เปน็ การบา้ น จากนัน้ เชค็ ชอื่ ท้ายคาบ พร้อมกบั ถ่ายรปู และ กอ่ นออกจากห้องเรียนออนไลน์
23 รายงานผลการศึกษาการปฏิบัติงานวชิ าชีพครู 1 คำชแ้ี จง ตอนที่ 1 ใหน้ ักศึกษาสรุปรายงานผลการศึกษาและสงั เกตการปฏิบตั ิงานวิชาชีพครู 1 (Practicum 1) ในประเด็นทกี่ ำหนดให้ทกุ ข้อ (แต่ละรายการไมน่ อ้ ยกว่า 1 หนา้ กระดาษ A4) 1.ขอ้ มลู สถานศึกษา 1.1 ประวตั ิ โรงเรียนสตรีวัดระฆังน้ีเดมิ กระทรวงทหารเรือไดร้ บั อนุญาตจากวดั ระฆงั โฆสติ าราม วรมหาวิหารให้สร้าง อาคารไมใ้ ตถ้ ุนสงู จำนวน 3 หลงั เป็นโรงพยาบาลทหารเรือชวั่ คราวสำหรบั รักษาพยาบาลทหารเรือท่เี จบ็ ป่วย ต่อมากระทรวงทหารเรอื ได้สรา้ งโรงพยาบาลขึน้ ใหมท่ ่ีปากคลองมอญ จึงยกอาคารทใ่ี ชเ้ ป็นโรงพยาบาลเดิมน้ีให้กับ วัด และแจ้งเรอ่ื งไปยังกระทรวงธรรมการ ประจวบกับความ ดำริของกรมศึกษาธิการ ซ่งึ กำลังคดิ จะจัดการศกึ ษา สำหรับกลุ สตรใี หแ้ พรห่ ลายอยแู่ ล้ว จงไดไ้ ปหารอื เจ้าคุณพระพมิ ลธรรม เจ้าอาวาส (ภายหลังได้รบั สมณศักดิ์เป็น สมเดจ็ พระพุทธโฆษาจารย)์ ทา่ นเห็นชอบ ดว้ ยให้ใชส้ ถานทแี่ ละอาคารเป็นโรงเรียนสตรีกระทรวงธรรมการ จึง อนญุ าตให้ซอ่ มแซมและปรบั ปรงุ เรือน ทงั้ สองหลงั ใหเ้ หมาะสมที่จะเปน็ โรงเรียนสตรีต่อไป โรงเรยี นสตรีวัดระฆังเปิดรับนกั เรียนตง้ั แตว่ ันท่ี 3 สิงหาคม 2457 ก่อน แล้วจงึ ประกอบพิธี ทางศาสนา เปดิ โรงเรียนเม่อื วันที่ 1 พฤศจิกายน 2457 และเรม่ิ ทำการสอนเม่ือวนั ท่ี 2 พฤศจกิ ายน 2457 ประธานในพิธีเปิด คอื สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอกรมพระยาชัยนาทนเรนทร เม่อื คร้ังดำรงพระ ยศเปน็ พระองคเ์ จา้ รงั สิตประยรู ศกั ดิ์ ผ้แู ทนเจา้ กรมศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2457 เปดิ สอนนักเรียนตงั้ แตช่ น้ั ประถมปีที่ 1 จนถงึ ชั้นประถมปีท่ี 3 ครใู หญ่ คน แรกคอื นางธนากรภักดี (สว่าง อมรสงิ ห)์ พ.ศ. 2463 เปดิ สอนถึงชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 พ.ศ. 2489 เปิดเรยี นชัน้ เตรยี มปที ่ี 1 แผนกอักษรศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์ พ.ศ. 2503 เปดิ สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถงึ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ตามนโยบาย การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2518 เรม่ิ ใชห้ ลกั สูตรมธั ยมศกึ ษาตอนปลายพุทธศักราช 2518 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 และชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 เปล่ียนเปน็ ระบบหนว่ ยกิต พ.ศ. 2521 เปดิ รับนกั เรยี นชัน้ ม.1 ตามหลกั สูตรมธั ยมศึกษาตอนตน้ พทุ ธศักราช 2521 พ.ศ. 2524 เปดิ รับนักเรยี นชัน้ ม.4 ตามหลกั สูตรมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย พทุ ธศกั ราช 2524 พ.ศ. 2536 เปดิ สอนชั้น ม.1–ม.3ใชห้ ลกั สูตรช้ันมัธยมศึกษาตอนตน้ พุทธศกั ราช 2521 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช 2533) และชั้น ม.4 – ม.6 ใชห้ ลักสตู รชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย พุทธศกั ราช 2524 (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2533)
24 พ.ศ. 2545 เปดิ สอนชั้น ม.1 – ม.6 เป็นโรงเรยี นนำร่องในการใชห้ ลกั สูตรการศกึ ษา ขนั้ พ้ืนฐานปี การศึกษา 2544 พ.ศ. 2553 เปดิ สอนชน้ั ม.1 – ม.6 ใช้หลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และ เป็นโรงเรยี นมาตรฐานสากล อกั ษรยอ่ : ส.ร. วันสถาปนาโรงเรียน : ๑ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๕๗ พระพทุ ธรูปประจำโรงเรียน : พระพุทธศรสี ทุ ธโิ ฆษิต ธรรมกิ ะนรทิ ธานุรักษ์มุนินทร์ คติพจน์ : วชิ ชฺ า วรํ ธนํ โหติ แปลว่า วิชาเป็นทรัพย์อนั ประเสริฐ ปรชั ญาโรงเรียน : เรยี นเด่น เล่นดี มีวนิ ยั ใจกศุ ล วสิ ยั ทัศน์ของโรงเรยี น : มุ่งม่ันพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา ส่อื สารสองภาษา ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรียนร้สู สู่ ากลบนพื้นฐานคุณธรรมสูค่ วามเป็นไทย ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เครอื่ งหมายประจำโรงเรียน : ตราระฆังประดับรัศมี สีประจำโรงเรยี น : นำ้ เงนิ – เหลอื ง นำ้ เงิน หมายถึง ความสขุ มุ ความม่ันคง ความเขม้ แขง็ ดอกไมป้ ระจำโรงเรยี น เหลอื ง หมายถงึ ความรงุ่ เรอื ง ความรุ่งโรจน์ด้วยแสงแหง่ ธรรม เพลงประจำโรงเรยี น : ดอกบวั หลวง “เป็นดอกไม้ท่ีเกิดจากโคลนตมแต่มคี า่ สงู ใชบ้ ูชาพระ” คณะสี : ระฆังทอง : สัตตบงกช (สแี ดง) ชโลบล (สีชมพ)ู นลิ ปทั ม์ (สเี ขยี ว) บษุ กร (สีฟา้ )
25 ระดบั ชั้นทีเ่ ปิดสอน : ม.๑ – ม.๖ พ้นื ท่ีบริการ : มเี ขตพืน้ ท่ีบรกิ าร ๓ เขต คอื เขตบางกอกน้อย มี ๕ แขวง ไดแ้ ก่ แขวงศิรริ าช แขวงบ้านช่างหลอ่ แขวงอรุณอมรินทร์ แขวงบางขนุ ศรี และ แขวงบางขนุ นนท์ เขตบางกอกใหญ่ มี ๑ แขวง ได้แก่ แขวงวัดอรุณ เขตพระบรมมหาราชวัง มี ๑ แขวง ได้แกแ่ ขวงพระบรมมหาราชวงั 1.2 โครงสร้างและบทบาทหนา้ ทีข่ องฝ่ายตา่ งๆ โรงเรียนสตรวี ดั ระฆังมีการบรหิ ารจัดการเป็นระบบชัดเจน มุง่ เน้นการบรหิ ารแบบมสี ว่ นร่วมและดําเนนิ การตาม ระบบ PDCAจงึ ทาํ ใหก้ ารดําเนินงานเป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ยมปี ระสทิ ธิภาพ โดยแบ่งสายการบรหิ ารงานเปน็ 4 กลุ่ม คือ กลุม่ บริหารวชิ าการ กล่มุ บรหิ ารงบประมาณ กลมุ่ บริหารงานบคุ คล และ กลมุ่ บริหารท่วั ไป ชอ่ื ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา นางสาววมิ ลนาถ บัวแก้ว ฝ่ายวิชาการ นางสาวจนิ ตจ์ ุฑา พรหมรกั ษ์ ฝ่ายปกครอง นางสาววชั ราภรณ์ วงั มนตรี ฝ่ายธุรการ นายณัฐพงศ์ กุลวุฒชิ ยั มงคล ฝ่ายบริหาร นายเกยี รตเิ กรยี งไกร บุญทน
26
27 1.3 กจิ กรรมของสถานศึกษาและการมสี ่วนร่วมกับผปู้ กครองและชมุ ชน กจิ กรรมจิตอาสา การจดั กจิ กรรมจติ อาสาได้กำหนดให้นกั เรยี นทกุ ระดับชั้นได้ทำกิจกรรมเพอื่ สังคมและ สาธารณประโยชน์ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั การเปน็ พลโลกการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ความเปน็ ธรรมทาง สงั คม ค่านิยมและตระหนักในการรบั รสู้ ภาพการณ์ การพฒั นาอย่างยั่งยืน ความมสี ิทธมิ นษุ ยชน การพึง่ พาอาศยั ซึ่ง กันและกนั อย่างหลากหลาย เพ่ือพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ ผูม้ คี ุณลกั ษณะอันพึงประสงค์เป็นพลโลก 5 ประการ ประกอบด้วย ความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ สามารถสื่อสารไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 2 ภาษา มคี วามล้ำหน้าทาง ความคิด มีการ ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละรว่ มกนั รับผิดชอบต่อสังคมโลก และมีทักษะ 4 ประการ คอื ทักษะ พื้นฐาน (Core Skills) ทักษะการเรยี นรู้และพัฒนาตน (Personal learning & Development Skills) ทกั ษะ พลเมอื ง / ความ รับผิดชอบตอ่ สงั คม (Citizenship Skills) และทักษะการทำงาน (Employability Skills) ม. 1-3 - กจิ กรรมเพอื่ ประโยชนต์ อ่ ครอบครวั โรงเรยี นและชุมชน (เชน่ บาตรเตมิ บุญเกือ้ หนุนพุทธศาสตร์ กจิ กรรมรกั ษ.์ .....แม่นำ้ เจ้าพระยา เป็นตน้ ) ม. 4-6 - กจิ กรรมเพอ่ื ประโยชนต์ อ่ สังคมภายในกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล (เชน่ กจิ กรรมสูช่ ุมชน กิจกรรมอ่านหนังสือเพือ่ คนตาบอด/ผปู้ ่วยกิจกรรมเยยี่ ม ผู้พิการซำ้ ซ้อน กจิ กรรมทำดีเพ่ือพอ่ เปน็ ต้น) 1.4 สภาพแวดล้อมของสถานศกึ ษา สภาพชมุ ชนรอบบริเวณโรงเรยี นมี 2 ชุมชน (สำรวจเมอ่ื ปี พ.ศ. 2553) คอื 1. ชมุ ชนวัดระฆัง - เปน็ ชมุ ชนเกา่ แก่ประกาศจดั ตง้ั เม่อื วันที่ 17 กรกฎาคม 2535 ตงั้ อยูท่ ่ซี อยวัดระฆงั ถนนอรุณอมรนิ ทร์ แขวงศริ ิราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร อาณาเขตทางดา้ นทศิ เหนอื จดซอยศาลาต้นจนั ทน์ ดา้ นทศิ ใต้ จดวัดระฆงั โฆสิตารามวรมหาวหิ าร ดา้ นทศิ ตะวนั ออก จดวดั ระฆงั โฆสิตารามวรมหาวิหาร ด้านทศิ ตะวนั ตก จดถนนอรุณอมรินทร์ 2. ชุมชนตรอกวังหลัง - เป็นชุมชนเกา่ แกซ่ ึง่ อาศัยสบื ต่อกนั มานาน โดยมชี าวบ้านได้อพยพมาตัง้ แต่สมัยอยุธยาแล้ว และได้รบั การ ประกาศจดั ตง้ั เมอื่ วนั ที่ 17 กรกฎาคม 2535 ต้งั อยู่ที่ตรอกวังหลงั ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิรริ าช เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร
28 1.5 แนวปฏิบตั ขิ องสถานศกึ ษา โรงเรียนสตรีวัดระฆังดจ้ ดั การเรยี นการสอนตามรปู แบบและแนวทางการบรหารการเรยี นการสอนภายไต้ สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาชนั้ พน้ื ฐาน สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 1 และการประชุมคณะครบู ุคลากรโรงเรยี นสตรวี ัดระฆงั โดยผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ไดเ้ ลอื กใช้การจดั การเรยี นการสอนฯ ไดว้ างแนวทางไว้ 2 รปู แบบ ทั้งนขี้ นึ้ อยกู่ ับนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธิการ ดงั น้ี 1.การจดั การเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติ จัดการเรยี นการสอนปกติในโรงเรยี น โดยเวน้ ระยะหา่ งทางสงั คม (Social Distancing) 2. การจดั การเรียนการสอนแบบผสมผสาน(Blended Learning) On-site ร้อยละ 50 - Online ร้อยละ 50 จัดการเรยี นการสอนโดยใช้ตารางเรียนปกติของโรงเรียนสลบั กันใน ๒ แนวทาง ดงั น้ี 2.1 การจัดการเรียนการสอนในชน้ั เรยี นปกติในโรงเรยี น ( On-site) โดยเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing เพือ่ ให้ครูประจำวิชาได้สอนองคค์ วามรู้ ตดิ ตามผลการเรียนรู้ ตดิ ตามภาระงาน สอบ เกบ็ คะแนน ฝกึ ภาคปฏิบัติ หรอื สรุปบทเรียน ใหค้ รบตามตวั ชี้วัดรายวิชา 2.2 การจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ (Online) จัดให้นกั เรียนที่ไม่มตี ารางเขา้ ชนั้ เรียนปกตใิ น โรงเรียนให้ครูจดั การเรยี นการสอนออนไลน์ดว้ ยเครอ่ื งมือเทคโนโลยโี ดยตรงจากครผู ู้สอนประจำวิชา โดย ใช้ Google Classroom โดยใชต้ ารางเรียนปกตขิ องโรงเรียนเช่นเดยี วกนั กบั ตารางเข้าชั้นเรยี นปกติใน โรงเรียน 2.ด้านสงั คม 2.1 การปฏิบตั ิตามระเบยี บของโรงเรียน ขอ้ ปฏิบตั ิตัง้ แตเ่ ข้าโรงเรียน-เลิกเรยี น 1.นักเรียนทุกคนต้องไมห่ ลกี เลี่ยงการเขา้ แถวเคารพของชาติเมอื่ ได้ยนิ เสียงเพลงชาตใิ ห้ยนื ตรงไม่ว่าจะอยูท่ ใี่ ดกต็ าม 2. นักเรียนทกุ คนตอ้ งเขา้ ฉนั เรยี นใหต้ รงเวลาถ้าเขา้ หอ้ งเรยี นหลงั จากทำการสอนไปแล้ว 15 นาทใี หถ้ ือว่าขาดเรียน ในวชิ านน้ั 3. นกั เรยี นตอ้ งมกี ริ ยิ าวาจาสภุ าพเรยี บรอ้ ยและแตง่ กายใหถ้ ูกตอ้ งตามระเบยี บของโรงเรยี นโดยคำนงึ ถงึ สนิ ละทำ วฒั นธรรมและประเพณีทีด่ ขี องไทยท้ังอยใู่ นโรงเรียนและนอกโรงเรยี น 4. นกั เรียนต้องเขา้ ใจใช้สทิ ธิและหนา้ ทขี่ องตนตอ้ งเคารพใช้สทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องผ้อู น่ื ความสุจรติ ขยนั หมน่ั เพียรใน การศกึ ษาหาความรู้
29 5. ช่วยกนั ประหยดั สง่ิ สาธารณูปโภคเช่นน้ำไฟเพือ่ ฝึกนสิ ยั อนั ดงี ามและปฎิบตั ติ นตามนโยบายโรงเรียนและรัฐบาล 6.ชว่ ยกนั รกั ษาสภาพอนั ดงี ามของโรงเรยี นในเรอ่ื งความสะอาดของอาคารสถานท่ีความรม่ รืน่ ของพนั ธไ์ุ มเ้ พอ่ื ความ สวยงามความรม่ เย็นและแก้ภาวะ 7. นกั เรยี นทกุ คนตอ้ งชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดของหอ้ งเรยี นบริเวณโรงเรยี นกอ่ นจะเรยี นแตล่ ะวิชาตอ้ งช่วยกนั ดแู ลความสะอาดเรียบร้อยของโตะ๊ เกา้ อใ้ี ห้เปน็ ระเบียบและสะอาดอยตู่ ลอดเวลาเมอ่ื เรียนเสรจ็ แลว้ ใหส้ ำรวจดู ความ เรียบรอ้ ยอีกครง้ั หน่ึงนักเรียนทุกคนต้องรับประทานอาหารเครือ่ งดม่ื และของขบเคยี้ วเฉพาะในบริเวณโรง อาหารเทา่ นน้ั ไมน่ ำอาหารไปรบั ประทานในห้องเรียน 8.เมอื่ ไมม่ กี ารเรียนการสอนจะตอ้ งไม่ทำการใดใด อนั เปน็ การรบกวนหอ้ งใกลเ้ คยี งหรือห้องทก่ี ำลังเรยี นอยู่ 9.นกั เรยี นตอ้ งรกั ษาความสามัคคขี องหมูค่ ณะไมก่ อ่ ทะเลาะ ววิ าทระหว่างนกั เรยี นรนุ่ เดยี วกนั และนกั เรยี นตา่ งรนุ่ ไมว่ า่ กรณใี ดใด 10. นกั เรยี นตอ้ งชว่ ยกนั รกั ษาชอ่ื เสยี งเกยี รตคิ ณุ ของโรงเรียนและรว่ มมอื กนั สรา้ งชอ่ื เสยี งมาสโู่ รงเรียน 11.ถ้าไมม่ คี วามจำเป็นใดใดนักเรยี นไมค่ วรให้ผูป้ กครองมาติดต่อภายในช่วั โมงที่เรียนถ้าผูป้ กครองมคี วาม จำเปน็ ตอ้ งคบหรือมารบั ตวั ต้องแจง้ ให้กล่มุ บรหิ ารงานบคุ คลทราบเพื่อจะไดแ้ จง้ นกั เรยี นมาพบและผปู้ กครองท่มี า รบั นั้นต้องเป็นผทู้ ่ีมลี ายเซ็นในใบมอบตัว 12. นกั เรยี นจะนำบุคคลภายนอกเขา้ มาในสถานศึกษาไมไ่ ด้ยกเว้นมาติดตอ่ ราชการแม้กระท่ังศษิ ยเ์ ก่าและไม่นำขน้ึ ไปบนอาคารเรียนควรพบปะกนั ในห้องประชาสัมพันธ์ทง้ั น้ีเพอ่ื ปอ้ งกนั การเสียหายทีจ่ ะเกดิ ขนึ้ 13. นกั เรยี นตอ้ งปฏบิ ัตติ นใหเ้ ปน็ ผูม้ ศี ลี และธรรมไมเ่ หน็ แกต่ วั ไมร่ กั ขโมยของผอู้ น่ื เม่อื เก็บของทผี่ อู้ ืน่ ทำตกหรอื ลมื ไว้ไดต้ ้องนำสง่ ครูเพอ่ื ประกาศหาเจ้าของต่อไป 14. นักเรยี นต้องไม่หลบหลกี การเรียน ถา้ มีความจำเปน็ เชน่ เขา้ หอ้ งพยาบาลให้แจง้ ครูทีป่ รึกษาและครปู ระจำวชิ า ทราบ 15. นกั เรยี นตอ้ งชว่ ยกนั รกั ษาทรพั ยส์ ินของโรงเรยี นชว่ ยกันรกั ษาความสะอาดของหอ้ งเรยี นและบริเวณโรงเรยี นไม่ ขดี เขียนข้อความใดใดลงบนโต๊ะเรียนประตูและหน้าตา่ งไมท่ ำลายทรัพยส์ ินของโรงเรียน 16.ผทู้ ี่ตอ้ งการออกนอกบริเวณโรงเรยี นในชัว่ โมงแรกของการเรียนโรงเรียนจะไม่อนุญาตถ้านักเรียนมคี วาม ประสงค์จะออกไปทำธรุ ะใดกต็ ามใหเ้ ริ่มเดินทางจากทบ่ี ้านไปสถานทนี่ ัน้ เลยเมอ่ื เสรจ็ จงึ กลับมาโรงเรยี นโดย ผ้ปู กครองมาส่งการขออนญุ าตออกจากโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียนปกตติ ้องมผี ู้ปกครองมารบั (บิดา มารดาหรือผู้ ที่มามอบตัว) 17. นกั เรียนต้องไมจ่ ัดกจิ กรรมใดใดทีไ่ มไ่ ดร้ บั อนุญาตจากทางโรงเรียนเชน่ การจัด ทศั นศกึ ษาการจดั ทำแหวนรนุ่ และการหารายไดต้ ่างๆท้งั โดยทางรับและทางเปดิ เผยถา้ จะทำตอ้ งผ่านกลุม่ บรหิ ารงานบคุ คล 18. นกั เรยี นจะตอ้ งมบี ัตรประจำตัวนักเรยี นทุกคน
30 2.2 การรว่ มกจิ กรรมกบั เพื่อนทั้งภายในและภายนอกหอ้ งเรียน เนือ่ งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควดิ -19 จงึ ทำให้ไมส่ ามารถให้นักเรยี นมีกจิ กรรมรว่ มกนั ได้ และในการเรยี นออนไลน์ เพ่ือนท่ีเรยี นดี จะคอยชว่ ยเหลือเพ่ือนที่เรยี นออ่ น หรือเพอ่ื นที่ขาดเรียนบ่อย 2.3 การให้ความรว่ มมอื กบั กจิ กรรมของสถานศึกษา โดยสภาวะปกติ กม็ ีกจิ กรรมทต่ี ้องทำร่วมกนั อยเู่ ปน็ ระยะๆ ตามกจิ กรรมงานต่างๆ เปน็ กิจกรรมที่ สอดแทรกท้งั ทกั ษะ ความรู้ ความคิดสรา้ งสรรค์ และเป็นกจิ กรรมท่ีตรงตามความต้องการของนกั เรยี น นกั เรยี นให้ ความร่วมมือกับกิจกรรมตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษาเปน็ อย่างดี 2.4 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งผูเ้ รียนกบั ผูส้ อน ครูผู้สอนและนกั เรียนความสัมพันธท์ ี่ดีตอ่ กนั ครูเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนยกมือถามปญั หาตา่ งๆทีส่ งสยั ครูเปิด ใหผ้ ู้เรียนมีความคิดอิสระในแต่ละ บทเรยี น ผเู้ รยี นกม็ ีความสบายใจในการทำกจิ กรรมต่างๆในหอ้ งเรียน บรรยากาศในห้องเรยี น ก็น่าเรียนไม่ตึงเครียด ซ่งึ ทำใหเ้ กดิ การเรียนรทู้ ่ีดี 3.ด้านเศรษฐกจิ 3.1 จำนวนเงินทไี่ ด้รับเป็นประจำ จากการสอบถามนกั เรียนพบว่า นกั เรียนส่วนใหญ่ได้เงินมาใช้จ่ายในโรงเรยี นเฉล่ยี 100-200 บาทต่อวนั ซึง่ สว่ นใหญ่เพียงพอต่อค่าใช้จา่ ยของนักเรียน 3.2 การใช้จา่ ยในสถานศกึ ษา นกั เรยี นสว่ นใหญจ่ ะรบั ประทานอาหารเชา้ และอาหารกลางวนั ทโ่ี รงเรยี น เนอ่ื งจากรา้ นคา้ อาหารใน โรงเรยี นราคาถูกและรสชาตอิ ร่อย จากการสอบถามนักเรียนถงึ การใช้จ่ายในโรงเรยี นพบวา่ นักเรยี นส่วนใหญจ่ ะใช้ จา่ ยในเร่ืองของการซื้ออาหาร ซ้ือขนม ซื้อน้ำ และซื้ออปุ กรณ์การเรยี นตา่ ง ๆ
31 4.ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น 4.1 พัฒนาการของผเู้ รยี นแต่ละด้าน (รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา) นกั เรยี นไดเ้ รยี นรูต้ ามหลกั สตู รแกนกลาง ตามหลักสตู รสถานศกึ ษา ครบทกุ กลมุ่ สาระ ครบทกุ วชิ าท่ี จำเปน็ ซ่ึงสอดคล้องกับความต้องการของพอ่ แมผ่ ้ปู กครอง ทจ่ี ะทำให้บตุ รหลานมีพัฒนาการทีด่ ีขึ้นครบท้ัง รา่ งกาย อารมณ์ สังคม สตปิ ัญญา ดา้ นร่างกาย ทางโรงเรยี นไดจ้ ดั กิจกรรมกีฬาสแี ละเรียนวชิ าพลศกึ ษา จัดจำแนกความยากง่ายของกฬี า ต่างๆ ตามระดับชน้ั เพ่ือที่จะไดพ้ ัฒนาการดา้ นรา่ งกายอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม ดา้ นอารมณ์ ทางโรงเรียนมกี ารจดั กจิ กรรมทส่ี ง่ เสริมดา้ นคุณธรรมจริยธรรม ทำให้นักเรยี นรูจ้ ักตนเองและ วธิ ีการควบคุมอารมณ์ ดา้ นจิตใจ ทางโรงเรียนมีการจดั กจิ กรรมบำเพญ็ ประโยชนท์ ำใหน้ กั เรยี นมจี ิตใจท่เี อ้ือเฟอื้ เผ่อื แผต่ ่อครแู ละ เพ่ือนนกั เรยี น มีน้ำใจรูจ้ ักการชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั นักเรยี นมพี ฒั นาการดา้ นจิตใจทดี่ ี ดา้ นสงั คม ทางโรงเรียนมกี ารจดั กิจกรรมเพื่อสง่ เสริมพัฒนา เช่น กจิ กรรมบำเพญ็ ประโยชน์ กจิ กรรมจติ อาสา เพือ่ ใหน้ ักเรียนมีสว่ นรว่ มในการชว่ ยเหลือสังคมและเรยี นรวู้ ิธีการอย่รู ่วมกนั เป็นสงั คมอยา่ งมีความสขุ ด้านสติปญั ญา ทางโรงเรียนมกี ารกิจกรรมการแขง่ ขนั ทักษะวชิ าการของกลุม่ สาระตา่ งๆ การจา้ งครูพเิ ศษ ต่างชาตสิ อนรายวชิ าภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เป็นต้น อีกท้งั ครูโรงเรียนสตรีวดั ระฆงั ลว้ น มีความเชยี่ วชาญและชำนาญในการสอน ทำใหน้ กั เรยี นไดร้ บั การพัฒนาทางดา้ นสตปิ ัญญาอยา่ งเต็มท่ี 4.2 ผลการเรยี นในชน้ั เรยี น เม่อื นักเรียนได้รับความรู้ตามเกณฑ์แลว้ นกั เรียนก็จะผ่านตามจำนวนหน่วยกจิ ทีก่ ำหนด แตค่ วามสามารถ ของนักเรยี นมคี วามแตกตา่ งกนั ทำใหผ้ ลการเรยี นในแตล่ ะวิชาจึงแตกต่างกนั ออกไปดว้ ย ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน ในช้ันเรยี นของนกั เรยี นอยใู่ นเกณฑด์ ี และ ปานกลางเป็นส่วนใหญ่ เน่อื งจากนักเรยี นมีความตง้ั ใจเรียน สง่ งานตรง ต่อเวลา มคี วามกระตือรือร้น ถามงานตา่ ง ๆ ทำใหผ้ ลการเรียนอยูใ่ นระดับดมี าโดยตลอด สว่ นนักเรียนที่มผี ลการ เรยี นในระดับต้องปรบั ปรุงมีเป็นส่วนน้อย 4.3 ภาพรวมของผลการเรยี นภาคเรียนทผ่ี า่ นมา หลงั จากหลายเดอื นทีผ่ า่ นมา วิกฤตการณ์ COVID-19 ไดป้ รับเปลย่ี นการเรยี นในห้องเรยี นและการ เดนิ ทางไปโรงเรยี น เป็นการเรยี นออนไลนเ์ พอื่ ป้องกนั การแพร่ระบาดของโรค และนกั เรยี นทุกคนตอ้ งเรยี น ออนไลน์ และพบวา่ ครูและนักเรียนสว่ นหน่ึงยงั ไม่มคี วามพรอ้ มต่อการเรยี นการสอนออนไลน์ที่กำลงั จะเกดิ ขึ้นใน เรือ่ งของการใชเ้ ทคโนโลยีและแอพพลิเคชน่ั ตา่ งๆ แต่ครแู ละนักเรียนสว่ นใหญก่ ็เรมิ่ ที่จะเรียนร้แู ละมกี ารพัฒนา
32 ทกั ษะดา้ นการใชง้ านเทคโนโลยี ทำใหป้ รบั ตวั ไดด้ ขี ้ึนในการเรยี นออนไลน์ แตก่ ็ยงั เปน็ อปุ สรรคตอ่ การจัดกิจกรรม ตา่ งๆ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของสถานศึกษ - ระดับสถานศกึ ษา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผเู้ รียนท้ังหมดโดยเฉลย่ี 3.43 - ระดับช้ันเรียน 5.ความประพฤตขิ องผู้เรยี น 5.1 ลกั ษณะนสิ ัยของการมาโรงเรียน สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ชา้ ต่อการเขา้ ชนั้ เรยี นออนไลนเ์ พราะต้องใช้เวลาในการเปดิ เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ หรอื อุปกรณต์ ่างๆในการใช้งาน จึงเกดิ ความลา่ ช้าในการเขา้ ช้ันเรียนออนไลน์ แต่นกั เรยี นส่วนใหญม่ คี วาม กระตอื รือรน้ ในการเข้าชัน้ เรียนดเี พราะเพ่อื นบางคนคอยตามเพ่ือนในการเข้าช้นั เรียนออนไลน์ 5.2 ความสนใจในการเรยี น เนือ่ งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโควิด-19 จึงทำใหต้ อ้ งปรับเปลี่ยนการเรยี นการสอนผ่านทาง แอพพลเิ คชั่นต่าง เปน็ การเรยี นออนไลนอ์ ยู่บ้าน จึงทำใหน้ กั เรยี นสว่ นใหญ่ยงั ไมค่ อ่ ยสนใจครผู ้สู อน และเมื่อได้ พูดคยุ ด้วยกับเดก็ หลากหลายวยั ทุกคนพูดเปน็ เสียงเดยี วกันว่าอยากกลบั ไปเรยี นท่โี รงเรียน ไม่อยากเรียนผ่าน ออนไลนด์ ้วยสารพดั เหตผุ ล เช่น เรียนยากขนึ้ เรียนไม่รเู้ รื่อง งานเยอะ เรียนไดแ้ ย่ลง อยากเจอเพ่อื น อยากทำ กจิ กรรม สรปุ ก็คือ ไมว่ า่ จะมีโอกาสได้พูดคุยกับใคร ทกุ คนลว้ นแล้วไม่อยากอยู่ในสภาพต้องเรียนออนไลน์
33 5.3 การใช้แหล่งเรยี นรู้ จากการสังเกตพบวา่ นกั เรียนโรงเรยี นสตรวี ดั ระฆงั มักใชเ้ วลาวา่ งในการทำกจิ กรรมทม่ี ีประโยชน์ต่าง ๆ ตามความชอบของตนเอง ซง่ึ ทางโรงเรียนจะมีแหลง่ เรียนรูท้ ้งั ในช้ันเรียนและนอกชั้นเรียนมากมายตามสถานการณ์ โควิด-19 สว่ นใหญ่แลว้ แหล่งเรยี นรเู้ พิ่มเติมทีน่ ักเรียนใชน้ นั้ จะเปน็ อินเทอรเ์ นต็ 5.4 การใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ นกั เรยี นสว่ นใหญใ่ นชว่ งโควดิ -19 ไมส่ ามารถออกจากบา้ นได้ จึงทำกจิ กรรมได้แตใ่ นบา้ น อยา่ งเช่น ฝึก ทำอาหาร ออกกำลงั กาย จัดหอ้ งใหม่ 6.พฒั นาการและปญั หาของผ้เู รยี น 6.1 พฒั นาการของผูเ้ รียนตอ่ การเรยี นรู้ การเรยี นรู้แบบการเรียนรูแ้ บบออนไลน์ เป็นการเรียนทีม่ คี วามมคี วามยึดหยุ่นสงู ทำให้ผเู้ รยี นจำต้องมี ความรับผิดชอบในการเรียนมากกว่าปกติ เพราะไม่มใี ครคอยเตอื น ย่งิ เรียนยง่ิ ได้กบั ตวั เอง สามารถทำข้อสอบได้ มี ความเข้าใจในเนือ้ หา 6.2 ปัญหาของผู้เรยี น การเรยี นการสอนออนไลน์ จำเป็นต้องพึง่ พาอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี ซง่ึ แตล่ ะครอบครัว มีความสามารถในการ จัดหาอปุ กรณ์ไดไ้ มเ่ ทา่ กัน และสถานการณท์ ี่นกั เรยี นเรยี นในหอ้ งเรยี น ยอ่ มแตกต่างจากสถานการณ์การเรียนอยู่ ในหอ้ งนอนทบี่ า้ นอยา่ งมาก ในพ้ืนท่ีท่ีมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ก็เกิดสภาพสัญญาณล่ม และสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไม่เสถียร เด็กนักเรียนยังขาดความพร้อมในการเรียนทางออนไลน์ ไม่มีสมาธิในการเรียน ไม่สามารถเรียนด้วย ตนเองได้ ขาดแรงจูงใจ เพราะไม่มีครูคอยกระตุ้นเตือนเหมือนในห้องเรียน และในครอบครัวท่ีมีพ่ีน้องกำลังเรียน หนังสือหลายคน แต่มีโทรทัศน์เพียงเครื่องเดียว ทำให้ไม่สามารถเรียนได้ครบทุกคน ผู้ปกครองนักเรียนต้องทำ หน้าที่เป็นพ่ีเล้ียงคอยควบคุมให้ลูกน่ังเรียนผ่านออนไลน์ ทำให้เสียเวลาในการทำงาน หรือประกอบอาชีพในการ ทำมาหากินของแต่ละวันได้
34 7. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสถานศึกษากับชมุ ชน 7.1 ชมุ ชนและแหล่งเรยี นรทู้ ่ีใกล้เคียงกบั สถานศกึ ษา แหล่งเรียนรู้และภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ พิพธิ ภัณฑ์ทอ้ งถนิ่ กรุงเทพมหานคร เขตบางกอกนอ้ ยจดั ต้ังเพอื่ ทำ หนา้ ทใ่ี นการศกึ ษารวบรวม ข้อมูล วตั ถสุ ่ิงของ และองคค์ วามรูท้ ่เี ก่ยี วข้องกับเรอ่ื งราวทางประวตั ิศาสตรภ์ มู ิปญั ญา ทอ้ งถ่นิ โดยทำการ เชอื่ มโยงใหเ้ ห็นถึงสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ วถิ ชี ีวิตของกลุ่มคนในชุมชน สงั คม ประเพณี วัฒนธรรม ระบบ เศรษฐกจิ ตลอดจนเทคโนโลยีท่เี กิดขนึ้ ในท้องถิ่นน้นั แสดงให้เห็นถงึ การติดต่อส่ือสารเช่อื มโยง ระหวา่ งท้องถ่ิน หรือสงั คมรอบขา้ ง ตามปัจจัย และบริบททางสงั คมของทอ้ งถ่นิ มุมเดน่ ในพพิ ิธภณั ฑเ์ มอื งธนบรุ ีศรี มหาสมุทร สถาปนากรุงธนบรุ แี หลง่ ชมุ ชนช่างฝมี อื บา้ นชา่ งหลอ่ บา้ นมะตมู ชมุ ชนวนั ดงมลู เหลก็ ศนู ย์การเรยี นร้กู ารทำน้ำตาลป้ัน ชมุ ชนวัดรวก วิหารหลวงพ่อดำ (แหลง่ เรียนรู้ประวัตศิ าสตรข์ องชุมชน) ศาลาการเปรยี ญ,ทีท่ ำการ ชมุ ชน.ชมรมผสู้ ูงอาย,ุ ลานเด็กเล่น ชุมชนวัดอมั พวา อุโบสถหลวงปแู่ ปน้ (แหลง่ เรยี นรู้ประวัติศาสตรข์ องชมุ ชน) ชุมชนตรอกขา้ เม่า พพิ ธิ ภัณฑ์ชมุ ชนท้องถิน่ ตรอกขา้ วเม่า (แหล่งเรยี นรปู้ ระวัติศาสตรข์ องชุมชน) ชมุ ชนวดั ครุฑ วิหารหลวงพ่อลอย (ประวตั ศิ าสตร์ชมุ ชน ประวตั ิศาสตร์หลวงพ่อลอยพระพุทธรูปท่ี ชาวบา้ นนับถือ) สระนำ้ โบราณ ชุมชนวดั โพธเิ์ รียง อุโบสถ วิหารหลวงปถู่ ม (แหลง่ เรียนรปู้ ระวัตศิ าสตร์ของชุมชน) ตน้ โพธ์ิท่ที ำการ ชุมชน ชมรมจักรยาน บา้ นภูมิปญั ญาเรือกระทงนอ้ ยกาบมะพรา้ ว ชมุ ชนวดั สวุ รรณาราม ตลาด 100ปี หรือตลาดไร้คาน หวั เรือโบราณ บา้ นป้านดิ โรงรถจกั ร 7.2 ฐานขอ้ มลู ของสถานศกึ ษา (มี/ไมม่ )ี โรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง มีฐานข้อมูลคอื www.sr.ac.th 7.3 ความร่วมมือระหวา่ งสถานศึกษากบั ชุมชน ในดา้ นการศกึ ษาชมุ ชนมีสว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาอยางชัดเจน เช่น ในด้านภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน โดย โรงเรียนจะขอความร่วมมือมายังชุมชนในด้านการเปน็ วิทยากรหรอื เปน็ แหล่งศกึ ษาหาความรเู้ พิ่มเตมิ ใหก้ ับนกั เรียเกี่ยวกับภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ ในชมุ ชนน้ันๆ ซึ่งชมุ ชนจะ เปน็ แหล่งเรยี นรทู้ ่ีสาํ คัญทโ่ี รงเรยี นจะใหน้ ักเรียนไปศกึ ษา หาความรู้ หรือใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ไปศกึ ษาและฝกึ งานในชุมชนดว้ ยตัวเอง ซง่ึ คนในชมุ ชนจะทาํ หนา้ ทเ่ี ปน็ วิทยากรทีค่ อย ให้ความรแู้ ก่นกั เรียน
35 7.4 การใชท้ รพั ยากรร่วมกนั ระหวา่ งสถานศึกษากบั ชุมชน ทรัพยากรที่โรงเรียนมสี ่วนหนึง่ ได้รับการสนับสนนุ จากชุมชน เวลาท่ชี มุ ชมรอ้ งขอการทำกิจกรรมภายใน โรงเรียน (ที่มปี ระโยชน)์ ผ้บู ริหารโรงเรียนมักจะตอบรบั เสมอด้วยความยนิ ดี และมีการหยิบยมื วัสดุอุปกรณ์ทงั้ จาก โรงเรยี นใหช้ ุมชน หรอื จากชุมชนใหโ้ รงเรยี นอยเู่ ป็นระยะๆ โรงเรียนสตรีวดั ระฆงั มีการใช้ทรพั ยากรร่วมกนั ระหวา่ ง สถานศกึ ษากบั ชุมชนคือ วดั ระฆงั โฆสติ าราม เม่อื ทางโรงเรยี นมีกจิ กรรมท่ีเกีย่ วข้องทางพระพทุ ธศาสนา เช่น ไหว้ พระทำบุญ หรือการตกั บาตร ทางโรงเรียนจะนิมนต์พระสงฆจ์ ากวดั ระฆงั โฆสติ าราม เพ่ือมาบิณฑบาตภายใน โรงเรยี น หรือนำนกั เรียนออกไปทำบญุ ทว่ี ดั 7.5 กิจกรรมทที่ ำรว่ มกนั ระหว่างสถานศกึ ษากบั ชมุ ชน โรงเรียนกบั ชุมชนทำกจิ กรรม ร่วมกันอยบู่ อ่ ยคร้งั ท้ังเรอื่ งเกี่ยวกับการเรียนรขู้ องนกั เรยี น หรือการทำ กจิ กรรมท่วั ไป แต่ถ้าเปน็ กจิ กรรมทางศาสนา จะรว่ มมือกันบอ่ ยครัง้ ที่สุด 8. การบริหารงานวิชาการ 8.1 แผนงานวิชาการ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ งานวชิ าการเปน็ ภารกิจหลกั ของสถานศึกษาที่ พ.ร.บ. การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพ่มิ เตมิ ( ฉบบั 2 ) พ.ศ.2545 มุ่งใหก้ ระจายอำนาจในการบริหารจดั การไปให้สถานศกึ ษาใหม้ ากที่สดุ ดว้ ยเจตนารมณ์ทีจ่ ะให้ สถานศึกษาดำเนนิ การไดโ้ ดยอสิ ระ คล่องตวั รวดเร็ว สอดคล้องกับความต้องการของผ้เู รียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน ทอ้ งถ่ิน และ การมีสว่ นร่วมจากผู้ทมี่ ีส่วนได้เสยี ทกุ ฝ่าย ซ่ึงจะเป็นปัจจยั สำคัญทำให้สถานศกึ ษามีความเขม้ แขง็ ใน การบรหิ ารจัดการสามารถพฒั นาหลักสตู ร และกระบวนการเรียนรตู้ ลอดจนการวัดผล ประเมนิ ผล รวมทง้ั วดั ปจั จยั เก้ือหนุนการพัฒนาคุณภาพนกั เรียน ชุมชน ท้องถ่นิ ได้อยา่ งมีคุณภาพ และ มีประสทิ ธิภาพ กลมุ่ บรหิ าร วิชาการ ประกอบด้วยขอบขา่ ยงานดงั ต่อไปน้ี 1. งานหลกั สตู รสถานศึกษา 2. งานวดั ผลและประเมนิ ผลการศึกษา 3. งานทะเบยี นนักเรียน 4. งานประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา 5. งานห้องเรยี นพิเศษ
36 5.1 โครงการหอ้ งเรยี นพเิ ศษวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ (Gifted) 5.2 โครงการหอ้ งเรยี นพิเศษ Mini English Program 6. งานจดั ตารางสอน 7. งานนิเทศการศกึ ษาและการนเิ ทศภายใน 8. งานแนะแนวการศึกษาและงานส่งเสรมิ การเรียนร่วมนักเรียนท่ีมีความบกพรอ่ งและด้อยโอกาสทางการเรียนรู้ 9. งานพัฒนาส่อื นวัตกรรมและเทคโนโลยที างการศึกษา 10. งานโครงการพเิ ศษ 10.1 โครงการสง่ เสริมความสามารถพิเศษและความเป็นเลิศของผเู้ รียน 10.2 โครงการยกผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น 11. งานวิจัยพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา 12. งานหอ้ งสมุดและงานพฒั นาแหลง่ เรยี นรู้ 13. งานศูนย์คอมพวิ เตอร์ 14. งานฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครู 15. งานศนู ยว์ ิชาการ สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา เขต ๑ (กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ) 16. งานขอ้ มลู สารสนเทศเพอื่ การบรหิ ารการศกึ ษา 17. งานรับนักเรยี น 18. งานโรงเรยี นมาตรฐานสากล 19. งานแผนงานและพสั ดกุ ลมุ่ บริหารวิชาการ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น เปน็ กจิ กรรมทม่ี งุ่ พัฒนาใหผ้ เู้ รียนเป็นพลโลกทม่ี ีคุณภาพ รู้จกั และเหน็ คุณคา่ ใน ตนเองและผ้อู น่ื มวี ุฒภิ าวะทางอารมณ์ มกี ระบวนการคดิ มที ักษะในการดำเนนิ ชีวิตอย่างเหมาะสมและมี ความสขุ มีจติ สำนึกในการรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ มจี ิตอาสาในการทำ กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ โดยกำหนดกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ดังนี้ การพัฒนาการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และการเขียนสอื่ ความ - ครอู าจารย์จัดทำใบความรู้ โดยมีเนอื้ หาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทสี่ งั กัด คนละ 3 เรอ่ื ง ความยาว 1 หน้ากระดาษ มคี ำถามเร่ืองละ 3 ข้อ นักเรียนอ่านใบความรู้ บันทกึ การอ่าน และตอบคำถามตามใบความรู้ - ครทู ่ปี รึกษาประเมินผลการพฒั นาทักษะการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน ตามเกณฑ์ท่ี กำหนด โดยมเี กณฑก์ ารผ่านอยา่ งน้อย 10 เรื่อง ต่อ 1 ภาคเรยี น
37 โครงงาน การจัดทำโครงงานให้สอดคลอ้ งกับเรอ่ื งทเ่ี รียนไปสู่ชุมชน โดยเนน้ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งเชิง คณุ ธรรม เพอ่ื นำเสนอองค์ความรู้ กระบวนการ ที่เกดิ จากการบูรณาการตามหลักการของ STEM และ IS (Independent Study) กิจกรรมจติ อาสา การจดั กจิ กรรมจติ อาสา ได้กำหนดใหน้ กั เรยี นทุกระดบั ช้นั ได้ทำกิจกรรมเพ่อื สงั คมและ สาธารณประโยชน์ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั การเรียนรู้โลกศกึ ษา (Global Education : GE) อนั ประกอบด้วย การเป็นพลโลก การแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ความเปน็ ธรรมทางสังคม ค่านิยมและ ตระหนักในการรับรูส้ ภาพการณ์ การพัฒนาอย่างยง่ั ยืน ความมีสทิ ธมิ นษุ ยชน การพงึ่ พาอาศัย ซ่งึ กันและกนั อย่างหลากหลาย เพือ่ พัฒนาผู้เรียนให้เป็นผมู้ คี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ เปน็ พลโลก 5 ประการ ประกอบด้วย ความเป็นเลิศทางวิชาการ สามารถส่ือสารไดอ้ ย่างน้อย 2 ภาษา มคี วามล้ำหน้าทางความคิด มี การผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์และรว่ มกันรบั ผิดชอบต่อสังคมโลก และมที กั ษะ 4 ประการ คือ ทักษะพืน้ ฐาน (Core Skills) ทักษะการเรยี นร้แู ละพัฒนาตน(Personal learning & Development Skills) ทักษะ พลเมือง / ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม(Citizenship Skills) และทกั ษะการทำงาน(Employability Skills) ม. 1-3 - กิจกรรมเพอื่ ประโยชน์ตอ่ ครอบครวั โรงเรยี นและชมุ ชน (อาทเิ ชน่ ตกั บาตรเติมบญุ เก้อื หนนุ พทุ ธศาสตร์ กจิ กรรมรักษ.์ .....แม่น้ำเจา้ พระยา เปน็ ต้น ) ม. 4-6 - กิจกรรมเพอื่ ประโยชน์ตอ่ สงั คมภายในกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล (อาทิเชน่ กิจกรรมสชู่ มุ ชน กิจกรรมอ่านหนงั สอื เพอ่ื คนตาบอด/ผู้ป่วยกิจกรรมเยีย่ มผู้พกิ ารซ้ำซอ้ น กิจกรรม ทำดเี พ่อื พ่อ เปน็ ตน้ ) 4. การออกแบบกจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพมิ่ เวลารู้ โรงเรียนสตรวี ดั ระฆังแบ่งรูปแบบการจดั กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารอู้ อกเปน็ 4 หมวด ดังน้ี หมวดท่ี 1 กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ไดแ้ ก่ กจิ กรรมเนตรนารี-ยวุ กาชาด, กิจกรรมชุมนมุ , กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์และกจิ กรรมแนะแนว จำนวน 4 คาบ หมวดท่ี 2 กจิ กรรมสร้างเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ ได้แก่ กจิ กรรมภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร, กจิ กรรมสอนเสริม, กจิ กรรมหอ้ งสมุด หมวดที่ 3 กิจกรรมสรา้ งเสรมิ คณุ ลกั ษณะและคา่ นยิ ม ไดแ้ ก่ กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม, กจิ กรรมธรรมศกึ ษา
38 หมวดที่ 4 กิจกรรมสรา้ งเสรมิ ทักษะการทำงาน การดำรงชพี และ ทกั ษะชวี ิต ได้แก่ กจิ กรรม ตามความถนดั และความสนใจ ซ่ึงจะจัดกจิ กรรมใน 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูเ้ ป็นหลัก คอื กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป,์ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยีและกลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพล ศึกษา โดยแตล่ ะระดบั ช้ันจะมีการจัดกิจกรรมในหมวดที่ 2-4 รวม 5 คาบ/สัปดาห์ ซึ่งแบ่งไดด้ ังน้ี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 1. ภาษาอังกฤษเพ่อื การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่ือสาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กิจกรรมธรรมศกึ ษา 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 2 คาบ (หมวดท่ี 4) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 2 คาบ (หมวดท่ี 4) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 4 คาบ/สปั ดาห์ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 1. ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 3 คาบ (หมวดที่ 4) 3. กิจกรรมตามความสนใจ 3 คาบ (หมวดที่ 4) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 1. ภาษาองั กฤษเพ่อื การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพื่อการสอื่ สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กจิ กรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กจิ กรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดท่ี 2) 3. กจิ กรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 4. กจิ กรรมตามความสนใจ 1 คาบ (หมวดที่ 4) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 1 คาบ (หมวดที่ 4) รวม 5 คาบ/สัปดาห์ รวม 5 คาบ/สัปดาห์
39 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 1. ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 1. ภาษาองั กฤษเพื่อการสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคุณธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กจิ กรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 3. กิจกรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 1. ภาษาอังกฤษเพือ่ การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่อสาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) 3. กิจกรรมเพอื่ สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) รวม 3 คาบ/สัปดาห์ รวม 3 คาบ/สัปดาห์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 1. ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 1. ภาษาอังกฤษเพ่อื การส่อื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กจิ กรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 3. กจิ กรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 4. กจิ กรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดที่ 2) 4. กิจกรรมสอนเสริม 2 คาบ (หมวดท่ี 2) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 5 คาบ/สัปดาห์ โดยการออกแบบกิจกรรมให้ครอบคลุม 4H ดงั นี้ ดา้ น กจิ กรรม Head กจิ กรรมภาษาองั กฤษเพ่อื การส่อื สาร, กิจกรรมสอนเสรมิ , กิจกรรมห้องสมุด Heart กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม, กิจกรรมธรรมศึกษา Hand กิจกรรมตามความถนัดและความสนใจ (กจิ กรรมในกลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ดนตรีและ นาฏศลิ ป์ และกลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลย)ี Health กจิ กรรมตามความถนดั และความสนใจ (กิจกรรมในกลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพล ศึกษา)
40 การวดั ผลประเมินผล การวัดและประเมนิ ผลการจัดการเรยี นการสอนของโรงเรยี นมาตรฐานสาก โรงเรียนตอ้ ง สนับสนุนการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรยี นร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานอื่นๆ เพื่อสร้าง ภาคีเครือข่ายสำหรับการวัดและประเมินผลเพื่อเทียบเคียงมาตรฐานในแต่ละสาระการเรียนรู้ ซึ่งจะวัดและ ประเมินผลทั้งความรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน สื่อความ และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1.การวดั และประเมนิ ผลความรู้ 1.1 การวัดและประเมินผลกล่มุ สาระพ้นื ฐาน การวัดและประเมินผลเป็นรายภาคเรียน แบ่งเป็น 8 ระดับ คือ 0 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 และ 4 โดยวดั และประเมนิ ผลการทำงาน ผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ไม่เนน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นมุ่งทำคะแนนสูง แต่ผู้เรียนจะต้องแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งด้านความรู้และทักษะต่าง ๆ ที่มีการพัฒนาจากภาคเรียนหนึ่ง ต่อไปอกี ภาคเรียนหนงึ่ ใหเ้ ป็นท่ปี ระจักษ์ วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผล ดำเนินการ ดังนี้ 1) การสอบขอ้ เขียนและปากเปล่า (Written and Oral Examinations) 2) การประเมนิ ผลรปู แบบอน่ื (Other Forms of Assessment) 3) การประเมินภายใน (Internal Assessment) 1.2 การวดั และการประเมินผลกลุม่ สาระหลักเพ่ิมเติม การวัดและประเมินผลกล่มุ สาระหลกั เพิม่ เตมิ เนน้ การรายงานผลโดยการเขยี นบทความ ความเรียง งานวิจยั โครงงาน โดยนำประสบการณท์ ้งั ในและนอกห้องเรียนมานำเสนอ 2. การวดั และประเมนิ ผลกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น การวดั และประเมนิ ผลกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น เป็นการประเมนิ ความสามารถและพฒั นาการของผเู้ รียนใน การเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนในแต่ละภาคเรียน/ปี ตามเกณฑ์ของแตล่ ะกิจกรรมและตัดสินผลการประเมิน เป็น 2 ระดับ คือ ผ หมายถงึ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ท่ีสถานศึกษากำหนด มผ หมายถึง ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินทสี่ ถานศกึ ษากำหนด 3. การวัดและประเมินผลการอา่ นคดิ วเิ คราะห์และเขยี นสอื่ ความ การวดั และประเมนิ ผลการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียนสื่อความเปน็ การประเมินทกั ษะการอา่ น และการเขยี นตามเกณฑ์ของสถานศึกษา และตดั สินผลการประเมนิ เปน็ 3 ระดบั คอื ดเี ยย่ี ม หมายถึง มที ักษะทด่ี ีเยย่ี มสูงกว่าเกณฑท์ สี่ ถานศกึ ษากำหนด ดี หมายถงึ มีทักษะทส่ี งู กวา่ เกณฑท์ ่สี ถานศกึ ษากำหนด ผ่านเกณฑ์ หมายถงึ มที ักษะตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนด 4. การวัดและประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
41 การวัดและประเมนิ ผลคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เป็นการประเมินพฤตกิ รรมตามเกณฑข์ อง สถานศึกษา และตัดสินผลการประเมนิ เป็น 3 ระดับ คือ ดีเย่ียม หมายถึง มพี ฤติกรรมทดี่ เี ย่ียมสงู กวา่ เกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากำหนด ดี หมายถึง มีพฤติกรรมสูงกวา่ เกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากำหนด ผ่านเกณฑ์ หมายถงึ มพี ฤติกรรมตามเกณฑท์ สี่ ถานศกึ ษากำหนด เกณฑ์การจบการศึกษาของโรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง เกณฑก์ ารจบการศึกษาของผูเ้ รียนโรงเรียนสตรวี ัดระฆัง ตามหลกั สูตรโรงเรียน มาตรฐานสากล พุทธศักราช 2557 แบ่งตามระดับช้นั 2 ระดบั คอื ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ดงั น้ี ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนตน้ 1. เรียนรายวชิ าพื้นฐานและเพม่ิ เตมิ ไม่เกิน 81 หนว่ ยกิต โดยแบง่ เป็นรายวชิ าพนื้ ฐาน 66 หน่วยกิต และรายวชิ าเพิ่มเติมตามทโ่ี รงเรยี นกำหนด 2. ตอ้ งมผี ลการเรยี นผ่านตลอดหลกั สตู รไม่น้อยกวา่ 77 หนว่ ยกิต โดยประกอบด้วย รายวชิ าพน้ื ฐาน 66 หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพ่มิ เติมไมน่ ้อยกว่า 11 หน่วยกิต 3. มีผลการประเมนิ ความสามารถการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี นในระดับ 1-3 4. มผี ลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ในระดับ 1-3 5. เขา้ รว่ มกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี นและมีผลการประเมินเป็น “ผ่าน” (ผ) ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1. เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานและเพิ่มเตมิ ไมเ่ กิน 81 หนว่ ยกิต โดยแบง่ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน 41 หน่วยกิตและรายวชิ าเพิม่ เตมิ ตามท่ีโรงเรยี นกำหนด 2. ตอ้ งมีผลการเรยี นผ่านตลอดหลักสตู รไม่น้อยกวา่ 77 หน่วยกิต โดยประกอบด้วย รายวชิ าพื้นฐาน 41 หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพม่ิ เติมไม่นอ้ ยกว่า 36 หนว่ ยกิต 3. มผี ลการประเมนิ ความสามารถการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี นในระดับ 1-3 4. มีผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ในระดับ 1-3 5. เข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี นและมผี ลการประเมินเป็น “ผ่าน” (ผ่าน) และผเู้ รยี นทัง้ 2 ระดับชัน้ ตอ้ งไมม่ ี 0 ร มส และ มผ คุณลกั ษณะผู้เรยี นมีศักยภาพเปน็ พลโลกของโรงเรียนสตรวี ดั ระฆงั 1. ยอดเยี่ยมวชิ าการ ไดเ้ กรดเฉลีย่ ไมต่ ่ำกว่า 2.00 และไมม่ ี 0 ร มส และ มผ 2. สอ่ื สารไดอ้ ย่างน้อย 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ 3. ล้ำหน้าทางความคดิ มีโครงงาน 1 โครงงาน 4. ผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์ มีช้ินงาน 1 ชิน้ งาน 5. รว่ มกนั รบั ผดิ ชอบสังคมโลกเขา้ รว่ มกจิ กรรมอนุรกั ษพ์ ลังงานและส่งิ แวดล้อม
42 8.2 ระบบการสนับสนนุ งานวิชาการ 1. งานบริกหารกล่มุ สาระการเรยี นรู้และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 2. งานวดั ผล ประเมินผล และเทียบโอนผลการเรียนรู้ 3. งานทะเบยี นนักเรียนและสำมะโนนักเรียน 4. งานพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ 5. ศนู ย์คอมพวิ เตอร์ 6. งานการรบั นักเรยี น 7. งานแนะแนวการศึกษา 8. งานพัฒนาหลักสูตรโรงเรยี น 9. งานวิจัยพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา 10. งานจัดทำตารางสอน 11. งานโครงการเรยี นรว่ มนักเรยี นท่มี คี วามสามารถบกุ พร่องและด้อยโอกาส 12. งานพฒั นาส่ือนวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศกึ ษา 13. งานพฒั นาระบบเครอื ข่ายข้อมลู สารสนเทศ 14. งานหอ้ งสมุด 15. งานพฒั นาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา
43 9. หลกั สตู รสถานศกึ ษา 9.1 หลกั สูตรท่สี ถานศึกษาใช้ในปจั จบุ นั โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรียนสตรวี ดั ระฆงั โครงการพิเศษเนน้ วิทยาศาสตร์-คณติ ศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 (หน่วย ภาคเรียนที2่ (หนว่ ย กิต/ชม.) กิต/ชม.) รายวชิ าพื้นฐาน 11(440) รายวชิ าพนื้ ฐาน 11(440) ท21101 ภาษาไทย 1 1.5 (60) ท21102 ภาษาไทย 2 1.5 (60) ค21101 คณิตศาสตร์ 1 1.5 (60) ค21102 คณติ ศาสตร์ 2 1.5 (60) ว21101 วทิ ยาศาสตร์ 1 1.5 (60) ว21102 วิทยาศาสตร์ 2 1.5 (60) ว21103 เทคโนโลยี 1 0.5 (20) ว21104 เทคโนโลยี 2 0.5 (20) ส21101สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม 1 1.0 (40) ส21104สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม 2 1.0 (40) ส21102 พระพุทธศาสนา 1 0.5 (20) ส21105 พระพุทธศาสนา 2 0.5 (20) ส21103 ประวัตศิ าสตร์ 1 0.5 (20) ส21106 ประวัตศิ าสตร์ 2 0.5 (20) พ21101 สุขศกึ ษา 1 0.5 (20) พ21103 สขุ ศกึ ษา 2 0.5 (20 พ21102 พลศกึ ษา 1 0.5 (20 พ21104 พลศกึ ษา 2 0.5 (20 ศ21101 ศลิ ปะ 1 1.0 (40) ศ21102 ศลิ ปะ 2 1.0 (40) ง21101 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 1 0.5 (20) ง21102 การงานอาชพี และเทคโนโลยี 2 0.5 (20) อ21101 ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน 1 1.5 (60) อ21102 ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน 2 1.5 (60) รายวิชาเพม่ิ เตมิ 5.5(220) รายวิชาเพิม่ เตมิ 6.5(260) ท21201 หอ้ งสมดุ เพอ่ื การศึกษาค้นควา้ 1 0.5 (20) ท21202 หอ้ งสมุดเพ่อื การศึกษาค้นคว้า 2 0.5 (20) ค21201 คณติ ศาสตรเ์ พิม่ เตมิ 1 1.0 (40) ค21202 คณติ ศาสตร์เพิ่มเตมิ 2 1.0 (40) ค21203 คณิตศาสตร์เข้มขน้ 1 1.0 (40) ค21204 คณติ ศาสตรเ์ ข้มขน้ 2 1.0 (40) ว21201 โครงงานเบ้อื งต้น 1 1.0 (40) ว21203 โครงงานเบ้อื งต้น 2 1.0 (40) ว21202 ชวี ติ พชื 1.0 (40) ว21204 ชวี ิตสัตว์ 1.0 (40) ส21201 หน้าที่พลเมอื ง 1 0.5 (20) ส21202 หน้าท่ีพลเมอื ง 2 0.5 (20) จ21201 ภาษาจนี เพื่อการสือ่ สาร 1 0.5 (20) จ21202 ภาษาจีนเพอ่ื การสอ่ื สาร 2 0.5 (20) I21201 การศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ 1.0 (40) กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น 60 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้
Search