Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2222

2222

Published by ณัฐนลี ไชยนันต๊ะ, 2021-09-23 04:29:57

Description: 243412-ไฟล์บทความ-841450-2-10-20200622 (1)

Search

Read the Text Version

สุทธปิ รทิ ัศน์ ปที ่ี 32 ฉบับท่ี 104 ตลุ าคม - ธนั วาคม 2561 83 การศึกษาพฤตกิ รรมการใชพ้ ชื สมุนไพรท้องถน่ิ เพื่อหา แนวทางพฒั นาผลิตภัณฑ์ใช้ในงานสปาไทยของกลมุ่ อสม อาสาสมัครชุมชน: ต�ำบลถนนโพธ์ิ อ�ำเภอโนนไทย จงั หวัดนครราชสีมา THE STUDY OF THE USE OF LOCAL HERBS FOR PRODUCT DEVELOPMENT TO BE USED IN THAI SPA BY VILLAGE HEALTH VOLUNTEER COMMUNITY GROUP: THANON PHO SUB-DISTRICT, NON THAI DISTRICT, NAKORNRATCHASRIMA PROVINCE ภทั รลภา บตุ รดาเลิศ* Patlapa Buddalerd* * อาจารย์หลกั สตู รศิลปะศาสตร์บณั ฑติ สาขาวิชาอุตสาหกรรมท่องเทยี่ ว คณะวทิ ยาการจดั การ มหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสมี า * Lecturer, Bachelor of Arts, Department of Tourism Industry, Faculty of Management Science, Rajabathnakornratchasrima University * Email: [email protected]

84 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 บทคัดย่อ กลุม่ ตัวอย่างการวจิ ยั ครั้งนี้คอื กลมุ่ อาสาสมัครสาธารณสขุ ชมุ ชน (อสม.) ตำ� บลถนนโพธิ์ อำ� เภอ โนนไทย จงั หวดั นครราชสมี า 85 คน กำ� หนดสมุ่ ตวั แทน 70 คน โดยใชข้ นาดกลมุ่ ตวั อยา่ ง ตามวธิ กี ารของทาโร ยามาเน่ การวจิ ยั ในครง้ั นเ้ี ปน็ การวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคด์ งั ตอ่ ไปนคี้ อื 1) เพอ่ื ศกึ ษา (ปจั จยั นำ� ) ความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพร และทัศนคติต่อการใช้พืชสมุนไพร 2) เพื่อศึกษา (ปัจจัยเอื้อ) พฤติกรรม การใช้สมุนไพรในชีวิตประจ�ำวันและแหล่งสมุนไพรท่ีน�ำมาใช้ได้สะดวก 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของ ปัจจัยส่วนบุคคลท่ีมีต่อพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในชีวิตประจ�ำวันและแหล่งสมุนไพรท่ีน�ำมาใช้ได้สะดวก 4) เพอ่ื ศกึ ษาความสมั พนั ธข์ องความรเู้ กยี่ วกบั พชื สมนุ ไพร และทศั นคตติ อ่ การใชส้ มนุ ไพรทมี่ ตี อ่ พฤตกิ รรม การใชส้ มนุ ไพรในชวี ติ ประจ�ำวนั และแหล่งสมนุ ไพรทนี่ ำ� มาใช้ไดส้ ะดวก ผลการวจิ ยั พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ มวี ฒุ กิ ารศกึ ษาตำ�่ กวา่ ปรญิ ญาตรี และมอี ายุ 20-40 ปี อีกทัง้ ยงั ประกอบอาชพี เกษตรกรรม/ปศุสัตว/์ ประมง และมรี ายได้ตอ่ เดอื น 10,000-20,000 บาท สว่ นใหญม่ คี วามรเู้ รอ่ื งสมนุ ไพร ปานกลาง ทงั้ นมี้ สี าเหตกุ ารเลอื กใชส้ มนุ ไพรเปน็ การตระหนกั ถงึ ประโยชน์ และมีความเชอื่ ในสรรพคณุ ของสมนุ ไพรมาก ผลการทดสอบสมมติฐานท่ี 1 จากกลุม่ ตัวอย่างท่ีมี เพศ แตกตา่ งกนั มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพร ทงั้ 6 ดา้ นคอื 1 ดา้ นประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร 2 ดา้ น รปู แบบในการใชส้ มนุ ไพร 3 ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรตอ่ เดอื น 4 ดา้ นบคุ คลทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การใช้ 5 ดา้ นแหลง่ ทมี่ าของสมนุ ไพร และ 6 ดา้ นแหลง่ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สมนุ ไพร ไมแ่ ตกตา่ งกนั และ ผลการทดสอบสมมตฐิ าน ท่ี 2 เกยี่ วกบั ความรเู้ กย่ี วกบั พชื สมนุ ไพร และทศั นคตติ อ่ การใชพ้ ชื สมนุ ไพร ทแี่ ตกตา่ งกนั มคี วามสมั พนั ธ์ กับพฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรในชวี ิตประจ�ำวัน ท้งั 6 ดา้ นของกลุม่ ตัวอย่างพบว่า ไมแ่ ตกต่างกนั ค�ำส�ำคญั : สมุนไพร กลุ่มอาสาสมัครชุมชน (อสม.) Abstract The sample of this research was 85 members of the Village Health Volunteer Community (VHV) at Thanon Pho Sub-District, Non Thai District, Nakhonratchasima Province, in which 70 represents were chosen using the sampling examples of Taro Yamane. This study is a quantitative research which the objectives are as follows: 1) to study (leading factors) knowledge on herbal plants; 2) to study (supporting factors) the daily use of herbs and areas on herbal resources; 3) to study the relationship of personal factors of the daily use of herbs and herbal resources; 4) to study the relationship of knowledge on herbal plants and the attitude towards the use of herbs on the daily use of herbs and resources. Results showed that most of the samples were under graduate female age 20 – 40 years old. They also work in agriculture/livestock/fishery and earn 10,000 – 20,000 baht monthly. Most of them have medium level of knowledge on herbs and the reason for using herbs is that they believe in the benefits and properties of herbs. The results from hypothesis no.1 from the different gender sample group affect the use of herbs I 6 aspects: 1. Experience from using herbs; 2. Aspects of herbs usage; 3. Monthly use of herbs; 4. Influences; 5. Resources of herbs; and 6. Information sources of herbs. No differences were found and the results of hypothesis no.2 are about the knowledge of herbal plants and the attitude towards the use of herbal plants towards the significant correlation with the use of herbs in everyday life which is not different in results. Keywords: Herbal Plants, Village Health Volunteer Community (VHV)

สทุ ธิปริทัศน์ ปที ี่ 32 ฉบบั ท่ี 104 ตลุ าคม - ธนั วาคม 2561 85 บทนำ� ประเทศไทยเปน็ ประเทศหน่ึงทอ่ี ุดมสมบูรณ์ไปดว้ ยพืชสมนุ ไพรนานาชนิด จากการศกึ ษาความ หลากหลายและการใชป้ ระโยชนพ์ ชื สมนุ ไพรในวนอทุ ยานถำ้� เพชร–ถำ้� ทองอำ� เภอตาคลี จงั หวดั นครสวรรค์ กลา่ ววา่ กรมปา่ ไมไดจ้ ดั ทำ� ขอ้ มลู รายชอ่ื พชื สมนุ ไพรไทยไวซ้ ง่ึ พบวา่ มที ง้ั หมดประมาณ 1,200 ชนดิ (ยทุ ธนา ทองบุญเก้ือ, 2551) รฐั บาลไทยได้ใหก้ ารสนบั สนุนธุรกิจในสาขาน้ี ด้วยการประกาศนโยบายการพัฒนาประเทศให้ เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ซ่ึงส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและ กระทรวงสาธารณสขุ ไดก้ �ำหนดวสิ ยั ทศั น์ Thailand as World Class Healthcare Destination โดยก�ำหนด ให้ธุรกิจบริการส่งเสริมสุขภาพเป็นหน่ึงในบริการหลักภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Center, 2557) และจากการศึกษาเรือ่ ง โอกาสของเครอ่ื งส�ำอางจาก ธรรมชาติ และสมนุ ไพรความตอ้ งการของตลาดในปจั จบุ นั และในอนาคต กลา่ วอา้ งถงึ ขอ้ มลู จากศนู ยว์ จิ ยั กสกิ ร ปี 2554 ว่า ตลาดผลติ ภัณฑ์สมนุ ไพรในประเทศขยายตวั ปีละไม่ตำ�่ กวา่ รอ้ ยละ 20-30 เนอื่ งจาก ความนยิ มในการบริโภคและใช้สมุนไพรไทย และมลู คา่ ตลาดรวมในประเทศของผลิตภัณฑส์ มนุ ไพร ในปี 2554 จะมีมลู คา่ สงู ถึงเกอื บ 30,000 ล้านบาท สมุนไพรในประเทศเตบิ โตอย่างรวดเร็ว สอดรบั กบั กระแส นยิ มผลิตภัณฑ์อิงธรรมชาติทเี่ ป็นกระแสทกี่ �ำลงั มาแรง (ประเทศไทย, 2552) จากขอ้ มลู เบอื้ งตน้ จะเหน็ ไดว้ า่ โอกาสของประเทศไทยในการพฒั นาสมนุ ไพรใหส้ ามารถนำ� ไปใช้ ในการบ�ำบัดสุขภาพน้ันยังเปิดกว้างด้วยปัจจัยภายในคือความหลากหลายของพืชพันธุ์ซ่ึงมีความโดดเด่น ดังนั้นผู้วิจัยจึงมีความสนใจศึกษาพืชสมุนไพรท้องถ่ินของพื้นท่ีศึกษาเพ่ือหาแนวทางในการน�ำไปใช้ให้เกิด ประโยชนใ์ นงานสปาสู่การพัฒนาอย่างย่งั ยนื ต่อไปในอนาคต วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพอ่ื ศกึ ษา (ปจั จยั นำ� ) ความรเู้ กยี่ วกบั พชื สมนุ ไพร และทศั นคตติ อ่ การใชพ้ ชื สมนุ ไพรของกลมุ่ อสม. ทอ้ งถนิ่ ในพ้นื ท่ีศกึ ษา  2. เพื่อศึกษา (ปัจจัยเอ้ือ) พฤติกรรม การใช้สมุนไพรในชีวิตประจ�ำวันและแหล่งสมุนไพรท่ี นำ� มาใช้ไดส้ ะดวกของกลมุ่ อสม. ในทอ้ งถนิ่ พน้ื ทศี่ กึ ษา 3. เพอ่ื ศกึ ษาความสมั พนั ธข์ องปจั จยั สว่ นบคุ คลทม่ี ตี อ่ พฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรในชวี ติ ประจำ� วนั และแหลง่ สมนุ ไพรที่นำ� มาใชไ้ ด้สะดวกของกลมุ่ อสม. ในทอ้ งถิ่นพ้ืนที่ศกึ ษา 4. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพร และทัศนคติต่อการใช้สมุนไพร ที่มีต่อพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในชีวิตประจ�ำวันและแหล่งสมุนไพรที่น�ำมาใช้ได้สะดวกของกลุ่ม อสม. ในท้องถนิ่ พน้ื ทศี่ กึ ษา สมมตฐิ านการวจิ ัย สมมติฐานท ี่ 1 ปจั จยั สว่ นบุคคล ไดแ้ ก่ เพศ สถานภาพสมรส วุฒกิ ารศกึ ษา อายุ อาชีพ และ รายได้ แตกต่างกัน มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในชีวิตประจ�ำวันของกลุ่มอาสาสมัคร สาธารณสขุ ชุมชน (อสม.) สมมติฐานท่ี 2 ความรเู้ กย่ี วกบั พชื สมนุ ไพร และทศั นคตติ อ่ การใชพ้ ชื สมนุ ไพร ทแี่ ตกตา่ งกนั มี ความสัมพนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการใช้สมนุ ไพรในชีวติ ประจ�ำวันของกล่มุ อาสาสมคั รสาธารณสุขชมุ ชน (อสม.)

86 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 แนวคิดที่เกีย่ วขอ้ ง ความเจบ็ ปว่ ยเปน็ ธรรมชาตขิ องสงั ขารและชวี ติ ซงึ่ เกดิ ขนึ้ ทกุ สงั คม ตลอดทกุ ยคุ ทกุ สมยั ทผี่ า่ นมา มนุษย์ในฐานะส่ิงมีชีวิตที่มีวัฒนธรรม และอยู่รวมกันเป็นสังคมจึงได้พยายามหาทางเผชิญความเจ็บป่วย เหลา่ นต้ี ลอดมา ผลผลติ ของการเผชญิ กบั ปญั หาไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ เปน็ สถาบนั ทางสงั คม (ลอื ชยั ศรเี งนิ ยวง และ ปรีชา อุปโยคิน, 2533, น.65) ซ่ึงในทางมานุษยวทิ ยาการก่อกําเนดิ ทางสถาบนั ทางสงั คมน้ัน ถอื เปน็ การ จดั ระเบยี บทางสังคมเพ่ือตอบสนองความจาํ เป็นพนื้ ฐาน (Basic Needs) กระบวนการ (Process) หรอื สถาบัน (Institutions) ในสังคมเกิดจากการสร้างสรรค์ของมนษุ ยท์ ั้งสนิ้ และสิง่ ท่เี ป็นตวั กระตนุ้ ให้มนษุ ย์ สรา้ งสรรคม์ นั ขึ้นมากค็ ือ ความจาํ เปน็ พนื้ ฐานในด้านตา่ งๆ (นยิ พรรณ วรรณศิริ, 2540, น.178) สปา (spa) คอื การบำ� บดั สขุ ภาพ เปน็ อกี ทางเลอื กหนง่ึ ของคนในยคุ ปจั จบุ นั ซงึ่ มกี ารนำ� สมนุ ไพรหลากหลายชนดิ มาใช้ ในรปู แบบตา่ งๆทงั้ สดและแหง้ หรอื แมแ้ ตก่ ารสกดั นำ�้ มนั หอมระเหย ดว้ ยเทคโนโลยที ท่ี นั สมยั ในสายตา ชาวโลกสมนุ ไพรไทยต่างได้รบั การยอมรับจากผู้บรโิ ภคท่ัวโลกวา่ เปน็ สดุ ยอดของสปา เพ่อื ตอบสนองใน การบริการแบบองค์รวม สมุนไพรเป็นองค์ประกอบสําคัญในการเยียวยารักษาแบบพ้ืนบ้าน แต่กระน้ัน ฤทธท์ิ างยา (Pharmacological Properties) ก็เปน็ เพยี งคณุ ลักษณะหนงึ่ ในการรกั ษา อกี หลายๆ ส่วนที่เป็น องคป์ ระกอบขนึ้ เปน็ องคค์ ณุ ของการเยยี วยารกั ษา คณุ ลกั ษณะดา้ นอน่ื ๆ ของสมนุ ไพรไมว่ า่ จะเปน็ สอ่ื ผา่ น ความเช่ือ ศรัทธา หรือเป็นสญั ลักษณ์ของสงิ่ อืน่ ใดท่มี พี ลานุภาพต่อการหายจากความเจ็บปว่ ย ส่งิ เหลา่ นี้ ล้วนดํารงอยใู่ นบรบิ ทของสงั คมวฒั นธรรมของชมุ ชนมาอยา่ งช้านาน วธิ กี ารด�ำเนินการวจิ ัย การศึกษาวิจยั ครั้งน้ี ผู้วิจยั ดำ� เนินการ ดังน้ี 1. รปู แบบการวิจัย การวิจยั คร้ังนีเ้ ป็นการวจิ ยั เชงิ ปริมาณ (Quantitative Research Methodology) ซึ่งผวู้ ิจัยได้ใช้ แบบสอบถามปลายปิดในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยท�ำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมส�ำเร็จรูปทาง สถติ ิ และนำ� เสนอรายงานในรูปแบบตารางประกอบความเรยี ง 2. กลุ่มตัวอย่าง ประชากรทจ่ี ะทำ� การศกึ ษาน้ี จะถกู กำ� หนดจากกลมุ่ สมาชกิ อสม. ตำ� บลถนนโพธ์ิ อำ� เภอโนนไทย จงั หวดั นครราชสีมา 85 คน (องค์การบริหารสว่ นต�ำบลถนนโพธ์ิ, 2551) และกำ� หนดส่มุ ตวั แทน 70 คน โดยใช้ขนาดกลุ่มตวั อย่าง ตามวธิ ีการของทาโร ยามาเน่ (Yamane, 1973 อา้ งใน ธรี วุฒิ เอกะกุล, 2543) เปน็ ตารางทใี ชห้ าขนาดของกลมุ่ ตวั อย่างเพื่อประมาณคา่ สดั ส่วนของประชากร 3. เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการรวบรวมขอ้ มลู แบบสอบถามแบปลายปิด โดยการสร้างเคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู มวี ิธีการ ดงั นี้ 3.1 ศกึ ษาข้อมูลจาก แนวคิด ทฤษฎี เอกสารเกย่ี วกับแนวคิดเชิงทฤษฎีเก่ยี วกับพฤติกรรม สขุ ภาพ ข้อมูลเปน็ แบบข้อมลู ระดับนามบัญญัติ (Nominal Scale) โดยแบง่ จ�ำแนกออก เปน็ 4 ตอน ดังน้ี ตอนท่ี 1 เป็นแบบเลือกตอบ (Check list) ประกอบดว้ ย ขอ้ มลู ส่วนบุคคลของผูต้ อบ แบบสอบถาม ตอนท่ี 2 เป็นแบบเลอื กตอบ (Check list) เกี่ยวกับปจั จยั นำ� เก่ยี วกับความรู้เกยี่ วกับ พืชสมุนไพรและทศั นคตติ ่อการใชพ้ ืชสมุนไพร ตอนท่ี 3 เป็นแบบเลอื กตอบ (Check list) เก่ยี วกบั ปจั จยั เอื้อ พฤติกรรมการใช้สมุนไพร ในชวี ิตประจำ� วันและแหลง่ สมนุ ไพรทน่ี �ำมาใช้ไดส้ ะดวก ตอนท่ี 4 ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ เพือ่ หาแนวทางพัฒนาผลติ ภัณฑใ์ ช้ในงานสปา 3.2 สร้างแบบสอบถาม ผู้วจิ ัยไดข้ อค�ำแนะน�ำจากอาจารยท์ ปี่ รกึ ษา เพื่อตรวจสอบเนอ้ื หา ของแบบสอบถามใหถ้ กู ตอ้ งตามแนวทางของการศกึ ษาการใชพ้ ชื สมนุ ไพรทใี่ ชใ้ นสปาของกลมุ่ ตวั อยา่ งและ ให้เกดิ ความเที่ยงตรงในเชงิ เนือ้ หา

สุทธิปรทิ ัศน์ ปีท่ี 32 ฉบบั ที่ 104 ตุลาคม - ธนั วาคม 2561 87 3.3 แก้ไขแบบสอบถาม เบอ้ื งตน้ ไปทดลองใชก้ บั กลุม่ นกั ศกึ ษา วชิ าเอกการจัดการโรงแรม ชัน้ ปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภฏั นครราชสีมา จำ� นวน 20 คน เพอ่ื หาคณุ ภาพเคร่ืองมอื 3.4 นำ� แบบสอบถามผา่ นการทดสอบ และปรบั ปรงุ เพอื่ ความสมบรู ณแ์ ลว้ นำ� ไปใชเ้ กบ็ รวบรวม ข้อมลู จากกลุม่ ตวั อยา่ ง 4. การวิเคราะห์ขอ้ มลู 4.1 สถติ เิ ชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เพ่ือจดั หมวดหม่แู ละใหเ้ พือ่ ให้ทราบลักษณะ พน้ื ฐานทว่ั ไปของกลมุ่ ตวั อยา่ ง โดยใช้ค่าความถี่ (Frequency) คา่ ร้อยละ (Percentage) 4.2 สถิติเชงิ อนมุ าน (Inferential Statistics) เพอื่ ทดสอบสมมตุ ฐิ านกล่มุ ประชากรโดยใชส้ ถิติ chi-square เพ่อื หาความสัมพันธข์ องพฤติกรรมของการใช้พชื สมนุ ไพรท้องถนิ่ ของกลุ่มตัวอย่าง 5. กรอบแนวคดิ การวจิ ัย การศกึ ษาวิจัยคร้ังนีค้ รงั้ น้มี ุ่งเน้นการศึกษา 5) ปจั จยั สว่ นบุคคล 5) ปจั จยั น�ำ 3) ปัจจยั เออ้ื 4) ปัจจยั สง่ เสรมิ ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม ปจั จัยส่วนบุคคล (ปัจจยั เอื้อ) พฤตกิ รรม การใชส้ มุนไพร - เพศ ในชวี ติ ประจำ� วนั และแหลง่ สมนุ ไพร - สถานภาพสมรส ทนี่ �ำมาใชไ้ ด้สะดวกของกลุม่ อสม. - วฒุ ิการศกึ ษา - ประสบการณ์จากการใช้สมนุ ไพร - อายุ - รูปแบบการใช้สมนุ ไพร - อาชพี หลัก - ความถ่ขี องการใช้ - รายไดห้ ลกั /เดือน - กจิ กรรมการใช้สมนุ ไพร (ปจั จยั น�ำ) ความรู้เกยี่ วกับพชื สมนุ ไพร - บคุ คลทีม่ ีอทิ ธพิ ลต่อการใช้ และทัศนคติตอ่ การใช้พชื สมุนไพร - แหล่งท่ีมาของสมนุ ไพรที่ทา่ นใช้ ของกลุ่ม อสม. - แหลง่ หาขอ้ มลู - ระดับความร้เู รอ่ื งสมุนไพร - ชนดิ สมุนไพรท่ีปลูก - การอบรมการใชส้ มนุ ไพร - ส่วนท่ีน�ำมาใช้ - แหล่งวธิ ีการใช้ - สาเหตุของการเลอื กใช้สมนุ ไพร - ระดับความเช่อื - ในอนาคตคดิ ว่าจะใช้สมนุ ไพรหรอื ไม่ ภาพที่ 1 แสดงกรอบแนวคดิ การวิจยั ผลการวิจัยและอภิปราย จากการศึกษาวิจัยคร้งั นี้มผี ลการวิเคราะห์ได้ผลการวิเคราะห์ดังต่อไปน้ี ตอนที่ 1 ข้อมลู ทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 ความรูเ้ ก่ียวกับพชื สมุนไพร และทศั นคติตอ่ การใชพ้ ชื สมนุ ไพร ตอนท ่ี 3 พฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรในชวี ติ ประจำ� วนั ของกลมุ่ อาสาสมคั รสาธารณสขุ ชมุ ชน(อสม.) ตอนท ี่ 4 การทดสอบสมมตฐิ าน

88 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ตารางที่ 1 แสดงค่าความถี่ ร้อยละ จ�ำแนกตามขอ้ มลู ทวั่ ไปของกล่มุ ตัวอยา่ ง ข้อมลู ท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม จ�ำนวน รอ้ ยละ 1. เพศ 41 58.6 หญงิ 56 80.0 2. สถานภาพ 63 90.0 สมรส 43 61.4 3. วุฒกิ ารศกึ ษา 44 62.9 ต่�ำกว่าปรญิ ญาตรี 39 55.7 4. อายุ 20-40 ปี 5. อาชีพ เกษตรกรรม/ปศสุ ตั ว์/ประมง 6. รายไดต้ ่อเดอื น 10000-20000 บาท จากการศึกษา ข้อมูลท่ัวไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ซ่ึง มีสถานภาพสมรส โดยมีวฒุ กิ ารศึกษาต่ำ� กว่าปรญิ ญาตรี และมอี ายุ 20-40 ปี อีกทั้งยังประกอบอาชีพ เกษตรกรรม/ปศสุ ัตว/์ ประมง และมีรายได้ต่อเดือน 10,000-20,000 บาท ตอนที่ 2 ความร้เู กีย่ วกับพืชสมุนไพร และทศั นคตติ ่อการใชพ้ ชื สมุนไพร ตารางที่ 2 แสดงค่าความถ่ี รอ้ ยละ จำ� แนกตามทศั นคติต่อการใช้พชื สมุนไพร ทัศนคติต่อการใช้พืชสมนุ ไพร จ�ำนวน รอ้ ยละ 1. ความร้เู ร่อื งสมนุ ไพร 38 54.3 ปานกลาง 2. การอบรมการใช้สมนุ ไพร ไมเ่ คย 37 52.9 ทศั นคตติ อ่ การใชพ้ ืชสมุนไพร จ�ำนวน ร้อยละ 3. แหลง่ ความรู้วธิ กี ารใช้สมนุ ไพร 23 32.9 หมอ/หน่วยงานสาธารณสขุ 4. สาเหตุการเลือกใชส้ มนุ ไพร ตระหนกั ถึงประโยชน์ 23 32.9 5. ความเชอ่ื ในสรรพคณุ ของสมุนไพร ปานกลาง 23 32.9 6. ในอนาคตจะใชส้ มนุ ไพร ใช้ 40 57.1 จากการศกึ ษาพบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งสว่ นใหญส่ ว่ นใหญม่ คี วามรเู้ รอ่ื งสมนุ ไพร ปานกลาง ซงึ่ ไมเ่ คย ไดร้ บั การอบรมการใชส้ มนุ ไพร โดยมแี หลง่ ความรวู้ ธิ กี ารใชส้ มนุ ไพรจากหมอ/หนว่ ยงานสาธารณสขุ ทง้ั นี้

สุทธปิ ริทัศน์ ปที ่ี 32 ฉบับที่ 104 ตลุ าคม - ธนั วาคม 2561 89 มสี าเหตกุ ารเลอื กใช้สมุนไพร ซึง่ เป็นการตระหนักถงึ ประโยชน์ และมคี วามเช่อื ในสรรพคณุ ของสมนุ ไพร มาก โดยในอนาคตจะมีการใช้สมนุ ไพร ตอนท่ี 3 พฤติกรรมการใชส้ มนุ ไพรในชีวติ ประจ�ำวนั ตารางท่ี 3 แสดงค่าความถี่ ร้อยละ จำ� แนกตามพฤติกรรมของการใช้พชื สมุนไพรในชีวิตประจำ� วัน พฤติกรรมของการใช้พืชสมุนไพรในชีวติ ประจ�ำวัน จำ� นวน รอ้ ยละ 1. ประสบการณก์ ารใชส้ มุนไพร 28 40.0 อาหาร 24 34.3 2. รูปแบบในการใชส้ มุนไพร 33 47.1 สด 3. การใชส้ มุนไพรตอ่ เดอื น 1-2 ครง้ั ตอ่ เดอื น พฤติกรรมของการใชพ้ ชื สมุนไพรในชีวิตประจำ� วัน จำ� นวน ร้อยละ 4. การใชส้ มุนไพรเพ่ือกจิ กรรม 26 37.1 อื่น ๆ รบั ประทาน 21 30.0 นวดตัว (นวดไทย, นวดนำ้� มันหอมระเหย, นวดสมนุ ไพรและลูกประคบ) 5. บคุ คลทมี่ ีอิทธพิ ลตอ่ การใชส้ มุนไพร 30 42.9 หมอ 6. แหล่งท่มี าของสมนุ ไพร ปลกู เอง 40 57.1 7. แหลง่ ขอ้ มูลเกยี่ วกบั สมุนไพร อื่นๆ หมอ 27 38.6 ปากต่อปาก 19 27.1 จากการศึกษาพบว่า ส่วนใหญ่มีประสบการณ์การใช้สมุนไพรเพื่อการท�ำเป็นอาหาร โดยมี รูปแบบการใชส้ มุนไพรแบบสด ซึ่งใชต้ อ่ เดอื น 1-2 ครงั้ ตอ่ เดอื น เพื่อรับประทาน โดยการได้รบั อทิ ธพิ ล จาก หมอ จากการปลูกเอง โดยมชี นดิ ของสมนุ ไพรท่ปี ลูก ขมน้ิ รางจดื เพ่ือการทำ� สมนุ ไพร ลกู ประคบ จากมะกรดู และนำ� ส่วนของสมุนไพรทม่ี าใชป้ ระโยชน์คือใบ ตอนที่ 4 การทดสอบสมมติฐาน สมมตฐิ านที่ 1 ปัจจัยส่วนบคุ คล ได้แก่ เพศ สถานภาพสมรส วุฒกิ ารศึกษา อายุ อาชพี และรายได้ แตกตา่ งกนั มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรในชวี ติ ประจำ� วนั ของกลมุ่ อาสาสมคั ร สาธารณสุขชมุ ชน (อสม.) แสดงผลดงั ตารางท่ี 4

90 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 ตารางท่ี 4 แสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่าง เพศและสถานภาพ กบั พฤตกิ รรมการใช้สมุนไพรดา้ นตา่ งๆ ผลวเิ คราะห์ขอ้ มลู พฤตกิ รรม เพศ สถานภาพ ประสบการณ์การใช้สมนุ ไพร X2 Sig. X2 Sig. อา ยา เคร่ือง ผลิตภัณฑ์ น้ำ� มันหอม เพ่ือ สขุ ภาพ 4.985 .546 12.493 .407 หาร สมนุ ดื่ม นวด ละเหย ความ ไพร ประคบ งาม อบ รปู แบบในการใช้สมุนไพร สด แห้ง สารสกดั สมุนไพรสกัด อืน่ ๆ 5.402 .249 3.510 .898 ผสมวิตามนิ รับประทาน การใชส้ มนุ ไพรตอ่ เดือน น้อยกว่า 1 1-2 ครงั้ ตอ่ 3-4 ครัง้ ตอ่ เดอื น มากกวา่ 4 ครง้ั 6.897 .075 2.855 .827 ครงั้ ต่อเดือน เดอื น ต่อเดอื น การใชส้ มนุ ไพรเพือ่ กิจกรรม นวดตัว (นวดไทย, นวด อบสมนุ ไพร เสริม อื่นๆ 11.131 .011 7.065 .315 นำ้� มนั หอมระเหย, นวด และอบไอนำ�้ ความ รบั สมนุ ไพรและลกู ประคบ) งามและ ประทาน ลดความ อ้วน บคุ คลท่มี ีอิทธิพลตอ่ การใชส้ มุนไพร ตนเอง เพ่อื น คนใน โฆษณาตามส่อื ต่างๆ หมอ 3.513 .476 23.292 .003* ครอบครัว แหลง่ ท่ีมาของสมุนไพร ปลกู เอง สถาน รา้ นจ�ำหนา่ ย OTOP .608 .738 1.849 .764 พยาบาล แหลง่ ข้อมลู เกย่ี วกบั สมนุ ไพร นติ ยสาร โทรทัศน์ อนิ เตอรเ์ น็ต ปากต่อ อื่นๆ หมอ 3.124 .537 13.957 .083 ปาก ส่วนของสมนุ ไพรที่นำ� มาใชป้ ระโยชน์ ราก ลำ� ตน้ ใบ ผล 2.332 .506 8.239 .221 จากตารางพบว่า กลุ่มตวั อยา่ งทีม่ ี เพศ แตกต่างกัน มผี ลต่อพฤติกรรมการใชส้ มนุ ไพรดา้ น ประสบการณ์การใชส้ มุนไพร ดา้ นรูปแบบในการใช้สมนุ ไพร ดา้ นการใช้สมุนไพรต่อเดอื น ด้านบุคคลทีม่ ี อทิ ธพิ ลตอ่ การใช้ ดา้ นแหลง่ ทม่ี าของสมนุ ไพร และดา้ นแหลง่ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สมนุ ไพร ของกลมุ่ ตวั อยา่ ง ไม่ แตกตา่ งกนั มคี า่ Sig. มากกวา่ 0.05 สว่ น ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรเพอ่ื กจิ กรรม และเพศ แตกตา่ งกนั มผี ลตอ่ ส่วนของสมนุ ไพรทีน่ �ำมาใช้ประโยชน์ ของกล่มุ ตวั อยา่ ง แตกตา่ งกนั มคี า่ Sig. นอ้ ยกวา่ 0.05 นอกจากนี้ กลมุ่ ตวั อยา่ งทมี่ ี สถานภาพ แตกตา่ งกนั มผี ลตอ่ ดา้ นประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร ดา้ นรปู แบบในการใช้

สทุ ธิปรทิ ศั น์ ปที ่ี 32 ฉบบั ที่ 104 ตุลาคม - ธันวาคม 2561 91 ดา้ นการใช้สมนุ ไพรตอ่ เดือน ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรเพ่อื กิจกรรม ดา้ นบคุ คลที่มอี ิทธิพลต่อการใชส้ มุนไพร ด้านแหลง่ ทม่ี าของสมุนไพร ด้านแหล่งขอ้ มลู เกยี่ วกับสมนุ ไพร ด้านสว่ นของสมนุ ไพรท่ีนำ� มาใชป้ ระโยชน์ ของกลุ่ม ไมแ่ ตกต่างกนั มคี า่ Sig. มากกวา่ 0.05 ตารางที่ 5 แสดงความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง วฒุ ิการศกึ ษาและอายุ กบั พฤตกิ รรมการใช้สมุนไพรดา้ นต่างๆ ผลวิเคราะหข์ อ้ มูล พฤติกรรมการ วฒุ กิ ารศกึ ษา อายุ ประสบการณก์ ารใช้สมุนไพร X2 Sig. X2 Sig. อา ยา เครอื่ ง ผลติ ภัณฑ์นวด น�ำ้ มนั เพือ่ สขุ ภาพ 29.364 .003 12.751 .387 หาร สมนุ ด่มื ประคบ อบ หอม ความ ไพร ละเหย งาม รูปแบบในการใชส้ มนุ ไพร สด แหง้ สารสกัดผสมวติ ามิน สมุนไพรสกดั อน่ื ๆ 10.442 .235 7.670 .466 รบั ประทาน การใช้สมุนไพรต่อเดือน น้อยกวา่ 1-2 ครั้ง 3-4 คร้งั ต่อเดอื น มากกว่า 4 ครัง้ 14.113 .028 10.605 .101 1 ครง้ั ตอ่ ตอ่ เดอื น ต่อเดือน เดือน การใชส้ มุนไพรเพ่อื กิจกรรม นวดตัว (นวดไทย, นวด อบสมุนไพร เสรมิ อื่นๆ 3.437 .752 5.458 .487 น�้ำมันหอมระเหย, นวด และอบไอน�้ำ ความงาม รับประทาน สมุนไพรและลูกประคบ) และลด ความอ้วน บุคคลทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการใชส้ มุนไพร ตนเอง เพอ่ื น คนใน โฆษณาตามสื่อตา่ งๆ หมอ 15.299 .054 15.604 .045 ครอบครัว แหลง่ ทีม่ าของสมุนไพร ปลูกเอง สถาน รา้ นจ�ำหน่าย OTOP 3.292 .510 6.314 .177 พยาบาล แหลง่ ขอ้ มูลเก่ียวกบั สมุนไพร นติ ยสาร โทรทศั น์ อนิ เตอรเ์ นต็ ปากต่อปาก อืน่ ๆ หมอ 10.948 .205 9.641 .291 ส่วนของสมุนไพรทนี่ �ำมาใชป้ ระโยชน์ ราก ลำ� ต้น ใบ ผล 8.433 .208 3.093 .797 จากตารางพบวา่ กล่มุ ตัวอย่างทม่ี ีวุฒกิ ารศกึ ษา แตกต่างกัน มีผลต่อพฤติกรรมการใชส้ มนุ ไพร ดา้ นประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร ดา้ นรปู แบบในการใชส้ มนุ ไพร ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรตอ่ เดอื น ดา้ นบคุ คล ทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การใช้ ดา้ นแหลง่ ทม่ี าของสมนุ ไพร ดา้ นแหลง่ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั สมนุ ไพรและสว่ นของสมนุ ไพร ที่นำ� มาใชป้ ระโยชน์ ของกลุ่มตัวอยา่ ง ไม่แตกต่างกัน มีค่า Sig. มากกวา่ 0.05 สว่ นดา้ นการใชส้ มุนไพร

92 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 ตอ่ เดือน และการใชส้ มนุ ไพรเพอ่ื กิจกรรม แตกตา่ งกนั มีผลต่อส่วนของสมนุ ไพรท่ีน�ำมาใช้ประโยชน์ของ กลุ่มตวั อย่าง แตกตา่ งกัน มีคา่ Sig. น้อยกว่า 0.05 นอกจากนก้ี ลุ่มตัวอย่างท่ีมี อายุ แตกต่างกนั มีผลต่อ ด้านประสบการณก์ ารใชส้ มุนไพร ดา้ น รูปแบบในการใช้ ด้านการใช้สมุนไพรต่อเดือน ด้านการใช้สมุนไพรเพ่ือกิจกรรม ด้านแหล่งท่ีมาของ สมนุ ไพร ดา้ นแหล่งข้อมูลเกีย่ วกบั สมุนไพรและด้านส่วนของสมุนไพรทีน่ ำ� มาใชป้ ระโยชน์ ของกล่มุ อาสา สมคั รสาธารณสุขชมุ ชน (อสม.) ไมแ่ ตกต่างกัน สว่ นกล่มุ ตัวอยา่ งที่มี อายุแตกต่างกนั มผี ลต่อบุคคลทม่ี ี อทิ ธิพลตอ่ การใช้สมนุ ไพรของกลุม่ ตวั อยา่ ง แตกต่างกนั มีค่า Sig. มากกว่า 0.05 ตารางท่ี 6 แสดงความสัมพนั ธร์ ะหว่าง อาชีพหลักและรายไดต้ อ่ เดือน กบั พฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพร ด้านตา่ งๆ ผลวเิ คราะหข์ อ้ มูล พฤติกรรม อาชพี หลกั รายได/้ เดือน ประสบการณ์การใชส้ มนุ ไพร X2 Sig. X2 Sig. อา ยาสมุน เครื่อง ผลิตภณั ฑน์ วด นำ�้ มนั เพ่ือ สขุ ภาพ 24.600 .744 12.315 .422 หาร ไพร ด่มื ประคบ อบ หอม ความ ละเหย งาม รปู แบบในการใช้สมนุ ไพร สด แห้ง สารสกดั ผสมวติ ามนิ สมุนไพร อ่นื ๆ 18.811 .534 10.467 .234 สกดั รับประทาน การใช้สมนุ ไพรตอ่ เดือน น้อยกว่า 1 1-2 ครั้งต่อ 3-4 ครั้งต่อเดอื น มากกวา่ 4 ครง้ั 11.037 .087 11.037 .087 ครัง้ ต่อเดือน เดอื น ตอ่ เดอื น การใช้สมุนไพรเพื่อกจิ กรรม นวดตัว (นวดไทย, นวด อบสมุนไพร เสริม อื่นๆ 11.023 .751 6.032 .420 น้�ำมันหอมระเหย, นวด และอบไอน้ำ� ความ รับประทาน สมนุ ไพรและลูกประคบ) งามและ ลดความ อ้วน บคุ คลที่มอี ทิ ธพิ ลต่อการใช้สมนุ ไพร ตนเอง เพ่อื น คนในครอบครัว โฆษณาตามสื่อ หมอ 303186 .067 8.740 .365 ต่างๆ แหล่งท่ีมาของสมนุ ไพร ปลูกเอง สถานพยาบาล รา้ นจ�ำหนา่ ย OTOP 10.447 .402 1661 .798 แหล่งขอ้ มูลเกย่ี วกับสมนุ ไพร นติ ยสาร โทรทศั น์ อนิ เตอรเ์ นต็ ปากต่อ อนื่ ๆ หมอ 25.785 .173 4.078 .085 ปาก สว่ นของสมนุ ไพรทนี่ ำ� มาใช้ประโยชน์ ราก ลำ� ตน้ ใบ ผล 19.862 .177 5.827 .443

สทุ ธิปรทิ ัศน์ ปที ี่ 32 ฉบับที่ 104 ตุลาคม - ธันวาคม 2561 93 จากตารางพบว่า กลมุ่ ตวั อย่างทมี่ ีอาชีพหลกั แตกตา่ งกนั และกลมุ่ ตวั อยา่ งทมี่ ีรายไดต้ อ่ เดอื น แตกตา่ งกนั มผี ลตอ่ พฤตกิ รรม ดา้ นประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร ดา้ นรปู แบบในการใช้ ดา้ นการใชส้ มนุ ไพร ตอ่ เดือน ด้านการใชส้ มนุ ไพรเพื่อกิจกรรม ด้านบุคคลทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การใชส้ มนุ ไพร ด้านแหลง่ ท่มี าของ สมุนไพร ด้านแหล่งข้อมูลเก่ียวกับสมุนไพร ด้านส่วนของสมุนไพรที่น�ำมาใช้ประโยชน์ของกลุ่มตัวอย่าง ไม่แตกตา่ งกนั มคี ่า Sig. มากกวา่ 0.05 สมมติฐานที่ 2 ความรเู้ ก่ียวกบั พชื สมุนไพร และทศั นคติต่อการใช้พชื สมุนไพร ท่แี ตกต่างกนั มี ความสัมพนั ธ์กบั พฤติกรรมการใชส้ มุนไพรในชวี ติ ประจ�ำวันของกลุ่มอาสาสมคั รสาธารณสขุ ชมุ ชน (อสม.) ตารางที่ 7 แสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง ความรู้เร่อื งสมุนไพรและการอบรมเรอื่ งสมนุ ไพร กับ พฤตกิ รรม การใชส้ มุนไพรดา้ นตา่ งๆ ผลวเิ คราะห์ข้อมลู พฤตกิ รรม ความรูเ้ รอื่ ง อบรมเรอ่ื ง ประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร สมุนไพร สมุนไพร X2 Sig. X2 Sig. อา ยา เครอ่ื ง ผลติ ภัณฑ์ น�้ำมัน เพ่อื สขุ ภาพ 11.141 .517 11.340 .500 หาร สมุน ด่ืม นวดประคบ หอม ความ ไพร อบ ละเหย งาม รปู แบบในการใช้สมนุ ไพร สด แหง้ สารสกดั ผสมวิตามนิ สมนุ ไพรสกัด อ่ืนๆ 11.614 .169 5.252 .730 รับ ประทาน การใชส้ มุนไพรต่อเดอื น น้อยกว่า 1 1-2 ครั้งต่อ 3-4 ครงั้ ต่อเดือน มากกว่า 4 ครง้ั 5.352 .499 14.219 .027 คร้ังตอ่ เดอื น เดอื น ต่อเดือน การใชส้ มนุ ไพรเพ่อื กจิ กรรม นวดตวั (นวดไทย, นวดน�ำ้ มนั อบสมนุ ไพร เสรมิ ความ อน่ื ๆ 2.809 .832 16.055 .013 หอมระเหย, นวดสมนุ ไพรและ และอบไอนำ้� งามและ รบั ลกู ประคบ) ลดความ ประทาน อ้วน บคุ คลทม่ี ีอิทธพิ ลตอ่ การใช้สมนุ ไพร ตนเอง เพ่อื น คนในครอบครัว โฆษณาตามสื่อ หมอ 4.445 .815 3.767 .878 ต่างๆ แหลง่ ทม่ี าของสมนุ ไพร ปลูกเอง สถานพยาบาล ร้านจำ� หนา่ ย OTOP 2.576 .631 2.015 .733 แหลง่ ข้อมูลเก่ียวกับสมุนไพร นิตยสาร โทรทัศน์ อนิ เตอรเ์ นต็ ปากตอ่ ปาก อ่นื ๆ 4.508 .089 7.531 .481 หมอ สว่ นของสมนุ ไพรทนี่ ำ� มาใช้ประโยชน์ ราก ลำ� ต้น ใบ ผล 5.042 .538 .778 .993

94 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 จากตารางพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีความรู้เร่ืองสมุนไพรและกลุ่มตัวอย่างที่มีการใช้สมุนไพร แตกต่างกัน มีผลต่อพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในชีวิตประจ�ำวัน ด้านประสบการณ์การใช้สมุนไพร ดา้ นรปู แบบในการใช้ ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรตอ่ เดอื น ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรเพอ่ื กจิ กรรม ดา้ นบคุ คลทม่ี อี ทิ ธพิ ล ตอ่ การใชส้ มนุ ไพร ด้านแหล่งท่มี าของสมุนไพร ดา้ นแหลง่ ขอ้ มลู เกย่ี วกับสมนุ ไพร ดา้ นส่วนของสมนุ ไพร ทีน่ ำ� มาใช้ประโยชน์ ของกล่มุ ตัวอย่าง ไม่แตกตา่ งกนั มคี ่า Sig. มากกว่า 0.05 ตารางท่ี 8 แสดงความสัมพนั ธ์ระหว่าง แหลง่ ความรแู้ ละสาเหตกุ ารเลอื กใชส้ มุนไพร กบั พฤตกิ รรม การใชส้ มุนไพรด้านตา่ งๆ ผลวเิ คราะห์ข้อมลู พฤติกรรม แหลง่ ความรู้ สาเหตกุ าร ประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร และวิธกี ารใช้ เลอื กใช้ สมุนไพร สมนุ ไพร X2 Sig. X2 Sig. อา ยา เครอื่ ง ผลติ ภณั ฑ์ น้ำ� มนั หอม เพ่อื สขุ ภาพ 44.191 .007 20.378 .312 หาร สมุน ดมื่ นวด ละเหย ความ ไพร ประคบ งาม อบ รปู แบบในการใชส้ มุนไพร สด แหง้ สารสกัดผสมวิตามนิ สมนุ ไพร อืน่ ๆ 27.005 .041 15.806 .200 สกดั รับประทาน การใช้สมุนไพรตอ่ เดือน น้อยกวา่ 1 1-2 ครง้ั ตอ่ 3-4 คร้งั ตอ่ เดอื น มากกวา่ 4 คร้ังต่อ 22.229 .035 12.365 .194 ครงั้ ตอ่ เดอื น เดือน เดือน การใช้สมุนไพรเพื่อกจิ กรรม นวดตัว (นวดไทย, นวดน�ำ้ มัน อบสมนุ ไพรและ เสริม อน่ื ๆ 9.497 .660 16.321 .177 หอมระเหย, นวดสมุนไพรและ อบไอนำ้� ความ รับ ลูกประคบ) งาม ประทาน และลด ความ อ้วน บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการใชส้ มุนไพร ตนเอง เพอ่ื น คนในครอบครัว โฆษณาตามส่อื หมอ 30.009 .017 16.321 .177 ตา่ งๆ แหล่งทม่ี าของสมนุ ไพร ปลูกเอง สถานพยาบาล รา้ นจำ� หนา่ ย OTOP 4.596 .800 5.254 .512 แหลง่ ข้อมลู เก่ยี วกับสมุนไพร นิตยสาร โทรทัศน์ อนิ เตอรเ์ นต็ ปากต่อ อืน่ ๆ หมอ 25.544 .061 29.645 .003 ปาก สว่ นของสมุนไพรท่ีน�ำมาใชป้ ระโยชน์ ราก ล�ำตน้ ใบ ผล 34.579 .001 12.871 .169

สทุ ธปิ รทิ ัศน์ ปที ี่ 32 ฉบบั ท่ี 104 ตลุ าคม - ธันวาคม 2561 95 จากตารางที่ 8 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งทมี่ แี หลง่ ความรวู้ ธิ กี ารใชส้ มนุ ไพร แตกตา่ งกนั มผี ลตอ่ พฤตกิ รรม การใช้สมนุ ไพรในชีวติ ประจ�ำวนั ด้านประสบการณก์ ารใชส้ มุนไพร ดา้ นรูปแบบในการใชส้ มนุ ไพร ดา้ น การใชส้ มนุ ไพรตอ่ เดอื น ดา้ นบคุ คลทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การใชส้ มนุ ไพรและสว่ นของสมนุ ไพรทนี่ ำ� มาใชป้ ระโยชน์ ของกลมุ่ ตวั อย่าง แตกตา่ งกันมคี า่ Sig. น้อยกว่า 0.05 ส่วนดา้ น แหล่งทมี่ าของสมนุ ไพร ด้านแหลง่ ข้อมูลเกยี่ วกบั สมนุ ไพรและด้านการใชส้ มุนไพรเพอ่ื กิจกรรม ของกลุ่มตัวอย่าง ไมแ่ ตกตา่ งกนั มคี ่า Sig. มากกวา่ 0.05 นอกจากน้กี ล่มุ ตัวอย่างทม่ี ีสาเหตุการเลือกใชส้ มนุ ไพร แตกตา่ งกัน มผี ลต่อ พฤตกิ รรมการใช้ สมนุ ไพรในชวี ติ ประจำ� วนั ของกลมุ่ ตวั อยา่ ง ดา้ นประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร ดา้ นรปู แบบในการใชส้ มนุ ไพร การใช้สมุนไพรต่อเดือน ด้านการใช้สมุนไพรเพื่อกิจกรรม ด้านบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการใช้สมุนไพร ดา้ น แหลง่ ทมี่ าของสมนุ ไพร และดา้ นสว่ นของสมนุ ไพรทนี่ ำ� มาใชป้ ระโยชนข์ องกลมุ่ ตวั อยา่ ง ไมแ่ ตกตา่ งกนั มคี ่า Sig. มากกว่า 0.05 ส่วนกลุ่มตวั อยา่ งท่มี ี แหลง่ ความรู้วธิ ีการใชส้ มนุ ไพรดา้ นแหล่งขอ้ มูลเกยี่ วกบั สมนุ ไพร มผี ลตอ่ พฤติกรรมการใช้สมุนไพรของกล่มุ ตัวอยา่ ง) แตกต่างกัน มีคา่ Sig. นอ้ ยกว่า 0.05 ตารางที่ 9 แสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความเชอ่ื ในสรรพคณุ ของสมนุ ไพร และอนาคตจะใชส้ มนุ ไพร กบั พฤติกรรมการใชส้ มนุ ไพรด้านต่างๆ ผลวิเคราะห์ข้อมลู พฤติกรรม ความเชือ่ ใน ประสบการณ์การใชส้ มุนไพร สรรพคณุ ของ อนาคตจะใช้ สมนุ ไพร สมนุ ไพร X2 Sig. X2 Sig. อา ยาสมุน เครอ่ื ง ผลติ ภณั ฑ์นวด นำ�้ มนั เพอ่ื สขุ ภาพ 13.983 .730 7.320 .836 หาร ไพร ดืม่ ประคบ อบ หอม ความ ละเหย งาม รูปแบบในการใชส้ มนุ ไพร สด แห้ง สารสกดั ผสมวติ ามนิ สมุนไพร อืน่ ๆ 10.300 .590 2.170 .975 สกดั รับประทาน การใช้สมนุ ไพรตอ่ เดือน น้อยกวา่ 1 1-2 คร้ังต่อ 3-4 ครัง้ ต่อเดอื น มากกว่า 4 ครงั้ 7.771 .557 2.793 .834 ครงั้ ตอ่ เดอื น เดอื น ตอ่ เดอื น การใชส้ มุนไพรเพ่อื กิจกรรม นวดตวั (นวดไทย, นวดน้ำ� มนั อบสมุนไพร เสริม อน่ื ๆ 6.113 .729 1.090 .982 หอมระเหย, นวดสมุนไพรและ และอบไอน้ำ� ความ รบั งาม ประทาน ลกู ประคบ) และลด ความ อ้วน บุคคลที่มีอิทธิพลตอ่ การใช้สมนุ ไพร ตนเอง เพือ่ น คนใน โฆษณาตามสื่อตา่ งๆ หมอ 13.812 .313 5.715 .679 ครอบครวั

96 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 ตารางที่ 9 แสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความเชอื่ ในสรรพคณุ ของสมนุ ไพร และอนาคตจะใชส้ มนุ ไพร กบั พฤติกรรมการใช้สมนุ ไพรดา้ นตา่ งๆ (ต่อ) พฤติกรรม ผลวิเคราะห์ข้อมูล ประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร ความเชื่อใน สรรพคณุ ของ อนาคตจะใช้ สมุนไพร สมนุ ไพร X2 Sig. X2 Sig. แหลง่ ท่ีมาของสมุนไพร ปลูกเอง สถานพยาบาล รา้ นจำ� หน่าย OTOP 9.771 .135 5.215 .266 แหล่งข้อมูลเกย่ี วกับสมุนไพร นติ ยสาร โทรทัศน์ อนิ เตอรเ์ นต็ ปากตอ่ ปาก อืน่ ๆ หมอ 7.831 .798 11.876 .157 สว่ นของสมนุ ไพรที่นำ� มาใชป้ ระโยชน์ ราก ลำ� ต้น ใบ ผล 8.210 .513 8.274 .219 จากตารางที่ 9 พบวา่ กลมุ่ ตวั อยา่ งทมี่ คี วามเชอ่ื ในสรรพคณุ สมนุ ไพร และอนาคตจะใชส้ มนุ ไพร แตกต่างกัน มีผลตอ่ พฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรในชวี ิตประจ�ำวนั ด้านประสบการณ์การใชส้ มุนไพร ดา้ น รปู แบบในการใช้ ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรตอ่ เดอื น ดา้ นการใชส้ มนุ ไพรเพอื่ กจิ กรรม ดา้ นบคุ คลทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ การใชส้ มนุ ไพร ดา้ นแหลง่ ทม่ี าของสมนุ ไพร ดา้ นแหลง่ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั สมนุ ไพร และดา้ นสว่ นของสมนุ ไพร ทน่ี ำ� มาใชป้ ระโยชน์ ของกลุม่ ตวั อยา่ ง ไม่แตกตา่ งกัน มีค่า Sig. มากกว่า 0.05 การอภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ การอภปิ รายผล จากการศกึ ษา ขอ้ มลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม พบวา่ สมาชกิ กลมุ่ ตวั อยา่ ง สว่ นใหญเ่ ปน็ เพศ หญิง ซึง่ มสี ถานภาพสมรส โดยมีวุฒิการศึกษาตำ่� กว่าปริญญาตรี และมีอายุ 20-40 ปี อีกท้ังยงั ประกอบ อาชพี เกษตรกรรม/ปศสุ ตั ว/์ ประมง และมรี ายไดต้ อ่ เดอื น 10,000-20,000 บาท ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ เพ็ญจันทร์ ประดับมขุ (2534, น.84-85) ศึกษาเร่อื งมติ ทิ างสงั คมวฒั นธรรมของการใช้สมนุ ไพรในชมุ ชน: ศกึ ษาเฉพาะกรณหี มบู่ า้ นสขุ เกษม อําเภอกุดชมุ จังหวดั ยโสธร พบวา่ ส่วนใหญ่ลกั ษณะทางประชากรจะ ไมม่ สี ว่ นตอ่ การใชส้ มนุ ไพร สว่ นชาวเลหรอื ชาวนำ้� สว่ นใหญม่ คี วามเจบ็ ปว่ ยหรอื มคี วามผดิ ปกตใิ นรา่ งกาย เกดิ ขนึ้ กจ็ ะมี แหลง่ พงึ่ พารกั ษาทจี่ ะชว่ ยบรรเทาความเจบ็ ปว่ ยไดค้ อื โตะ๊ หมอ (หมอพน้ื บา้ น) เปน็ ผทู้ าํ หนา้ ท่ี บําบัดรักษา โดยใช้วิธีการทางไสยศาสตร์และสมุนไพรบางชนิดร่วมด้วยตามความเชื่อและความเข้าใจ ที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษชาวเลหรือชาวน�้ำ และใช้สมุนไพรทางทะเลและป่าธรรมชาติที่หาได้ จากบริเวณเกาะ สมุนไพรส่วนใหญ่ท่ีใช้ในการบําบัดรักษาโรค รักษาอาการเจ็บป่วยและความผิดปกติ ของร่างกาย มักไดจ้ ากสัตว์ทะเล ทัง้ ทีเ่ ปน็ สว่ นเนือ้ เปลือก ก้าง กระดอง หัว หรอื สว่ นอน่ื ๆ สมุนไพร ส่วนใหญ่ท่ีใช้ในการบําบัดรักษาอาการเจ็บป่วยและความผิดปกติของร่างกายน้ันบางประเภทก็สามารถ ใช้ได้โดยตรง ไม่ต้องไปผสมกบั ตวั ยาชนดิ อืน่ ๆ จากการศกึ ษา ความรเู้ กยี่ วกบั พชื สมนุ ไพร และทศั นคตติ อ่ การใชพ้ ชื สมนุ ไพร พบวา่ สมาชกิ กลมุ่ ตัวอยา่ งส่วนใหญ่มคี วามร้เู รื่องสมุนไพร ปานกลาง ซงึ่ ไม่เคยได้รบั การอบรมการใช้สมนุ ไพร โดยมีแหล่ง ความรูว้ ธิ กี ารใช้สมุนไพรจาก หมอ/หน่วยงานสาธารณสุข ทัง้ น้มี ีสาเหตกุ ารเลือกใชส้ มุนไพร ซง่ึ เปน็ การ ตระหนักถึงประโยชน์ และมีความเชื่อในสรรพคุณของสมุนไพรมาก โดยในอนาคตจะมีการใช้สมุนไพร ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ัยของ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ (2529,น.13-16) ไดศ้ ึกษาเร่ือง “ความรทู้ ศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรรกั ษาโรคของชาวชนบท และบคุ ลากรสาธารณสขุ ภาคตะวนั

สทุ ธปิ รทิ ศั น์ ปที ่ี 32 ฉบบั ที่ 104 ตุลาคม - ธนั วาคม 2561 97 ออกเฉียงเหนอื ” พบวา่ ชาวชนบททุกคนมีความรเู้ รอื่ งสมนุ ไพร ว่าสมุนไพรคือพืชท่ีนาํ มาใชเ้ ปน็ ยารักษา โรคได้ ชาวชนบทสว่ นใหญ่รูจ้ ักพชื สมุนไพรหลายสบิ ชนดิ หน่งึ ในสามของชาวชนบทมที ศั นคติดีหรอื ไมด่ ี ตอ่ การใช้สมนุ ไพรรักษาโรค ปจั จัยท่ีมคี วามสัมพันธก์ ับทัศนคตไิ ด้แก่ การอา่ นออกเขยี นได้ ความถี่ของ การอ่านหนงั สอื ความถี่ของการฟงั วิทยุ การอาศยั อยรู่ ่วมกนั กบั บดิ ามารดาในบ้านหรอื หมบู่ ้านเดียวกัน จากการศกึ ษา พฤติกรรมการใช้สมนุ ไพรในชีวิตประจำ� วนั ของกลมุ่ ตวั อย่าง พบวา่ ส่วนใหญม่ ี ประสบการณก์ ารใชส้ มนุ ไพร เพอ่ื การท�ำเป็นอาหารโดยมรี ูปแบบการใช้สมนุ ไพรแบบสด ซ่ึงใชต้ อ่ เดอื น 1-2 ครงั้ ตอ่ เดอื น เพือ่ รบั ประทาน โดยไดร้ ับอทิ ธิพลจาก หมอ จากการปลูกเอง โดยมชี นิดของสมนุ ไพร ทีป่ ลูก คือ ขมน้ิ รางจดื เพอื่ การทำ� สมนุ ไพรลกู ประคบ จากมะกรูด และนำ� ส่วนของสมุนไพรท่มี าใช้ ประโยชนค์ อื ใบ ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ วฒั นา นลิ ทะราช (2540,น.77-74) ไดศ้ กึ ษาคตคิ วามเชอื่ และ วธิ กี ารเกย่ี วกบั การรกั ษาโรคดว้ ยสมนุ ไพรของชาวบา้ นสวาท ตาํ บลสวาท อาํ เภอเลงิ นกทา จงั หวดั ยโสธร พบว่า เม่อื ชาวบา้ นประพฤติขนบธรรมเนียมประเพณีผดิ ข้อห้ามเหลา่ ผหี รอื เทวาอารกั ษเ์ กิดความไมพ่ อใจ บนั ดาลใหเ้ กดิ ความเจบ็ ปว่ ยขน้ึ กบั สมาชกิ ในครอบครวั นนั้ ๆ สว่ นสาเหตทุ เี่ กดิ จากสงิ่ ธรรมชาติ ไดแ้ ก่ การ เปล่ยี นแปลงฤดกู าลการรับประทานอาหาร พฤตกิ รรมการยืน นงั่ นอน เดนิ ก้ม เงย การแปรปรวนของ ธาตใุ นรา่ งกาย และการสมั ผสั กบั ตน้ ไม้ นอกจากนช้ี าวบา้ นยงั มคี วามเชอื่ เกย่ี วกบั การเกบ็ สมนุ ไพรเพอ่ื ให้ ไดส้ มนุ ไพรทมี่ ฤี ทธยิ์ าและสรรพคณุ ในการรกั ษาโรค ชาวบา้ นเชอื่ วา่ จะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามฤกษย์ าม วนั ฤดกู าล การประกอบพธิ ีกรรมกอ่ นเกบ็ ยา และผ้เู กบ็ ต้องปฏบิ ัติตามแบบโบราณ ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะจากการศกึ ษา 1. ควรสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารนำ� สมนุ ไพรมาคน้ ควา้ ศกึ ษาวจิ ยั มากขนึ้ กวา่ เดมิ เพอื่ ความปลอดภยั และ การใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งคมุ้ คา่ ในทกุ ๆ ดา้ น อกี ทงั้ ตอ้ งมคี วามมนั่ ใจในสรรพคณุ ทางยาของสมนุ ไพร และชว่ ย กนั เผยแพร่สรรพคณุ ของสมนุ ไพรให้เป็นท่รี ู้จกั มากยิง่ ขึน้ 2. ควรทำ� การศกึ ษาขอ้ มลู สมนุ ไพรนน้ั ๆ กอ่ นนำ� มาใช้ เพอ่ื ใหไ้ ดส้ รรพคณุ ทต่ี รงกบั ความตอ้ งการของ การทำ� ผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพรสปาไทยไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และใชใ้ หถ้ กู สดั สว่ นของสมนุ ไพร เพอ่ื เปน็ ความปลอดภยั และสามารถเป็นยาสมนุ ไพรท่รี กั ษาโรคไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริงอีกด้วย 3. หนว่ ยงานของรฐั เชน่ องคก์ ารพฒั นาชมุ ชน องคก์ รการปกครองระดบั อำ� เภอ จงั หวดั ควรให้ การสนับสนุนการให้ความรู้ ที่สามารถน�ำความรู้ท่ีได้น�ำมาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อการท�ำสปาไทย ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และมปี ระสิทธภิ าพมากยิง่ ข้นึ ข้อเสนอแนะในการศกึ ษาครงั้ ตอ่ ไป 1. ควรท�ำการศึกษา เพ่ิมเติมเกี่ยวกับตัวแปรด้านอ่ืนๆ ท่ีสามารถส่งผลต่อการวิจัยสมุนไพร ทชี่ ัดเจนขน้ึ และสามารถนำ� ผลทีไ่ ดพ้ ฒั นาปรับปรงุ และแก้ไข การใช้สมนุ ไพรให้เปน็ ท่ีรู้จกั แก่บคุ คลอนื่ ทว่ั ไปได้ 2. ควรทำ� การศกึ ษา กลมุ่ ตวั อย่างในเขตจังหวัดอ่ืนๆ ทั่วประเทศไทย เพ่อื ให้ไดก้ ลุ่มตวั อยา่ งที่ หลากหลาย และสามารถน�ำขอ้ มูลท่ไี ดม้ าพัฒนาการใช้สมุนไพรที่เพมิ่ ขึ้นไดด้ อี กี ดว้ ย

98 SUTHIPARITHAT Vol.32 No.104 October - December 2018 บรรณานกุ รม คณะแพทยศ์ าสตร์. (2529). ความรทู้ ศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมการใช้สมุนไพรรกั ษาโรคของชาวชนบท และ บุคลากร สาธารณสุขภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื . ขอนแกน่ : มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ . ธรี วฒุ ิ เอกะกลุ . (2543). ระเบยี บวธิ วี จิ ยั ทางพฤตกิ รรมศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร.์ อบุ ลราชธาน:ี สถาบนั ราชภฎั อุบลราชธานี. นิยพรรณ วรรณศริ .ิ (2540). มานุษยวิทยาสงั คมและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: ภาควชิ า สังคมวทิ ยาและ มานุษยวิทยา คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ เพญ็ จันทร์ ประดับมุข. (2534). มติ ทิ างสังคมวัฒนธรรมของการใช้สมุนไพรในชุมชน: ศกึ ษาเฉพาะ กรณหี มบู่ า้ นสขุ เกษม อาํ เภอกดุ ชมุ จงั หวดั ยโสธร. นครปฐม: วทิ ยานพิ นธส์ งั คมศาสตรม์ หาบณั ฑติ (สงั คมศาสตรก์ ารแพทย์และสาธารณสุข): ศูนยศ์ ึกษานโยบายสาธารณสุข มหาวิทยาลยั มหดิ ล. พนู สุข ช่วยทอง วิราสิรริ ิ์ วสีวีรสิว์ สุนนั ท์ ศลโกสุม และ สุกจิ ไชยชมภ.ู (2555). ปจั จัยทมี่ คี วามสัมพันธ์ กับพฤตกิ รรมการใชส้ มนุ ไพรรกั ษาโรคของประชาชนในเขต 11 กระทรวงสาธารณสุข. วารสาร เกือ้ การุณย์ 2555; 7, 60-74. ยทุ ธนา ทองบญุ เก้ือ. (2551). ความหลากหลายและการใชป้ ระโยชนพ์ ชื สมนุ ไพรในวนอุทยานถำ�้ เพชร- ถำ้� ทอง อำ� เภอตาคลี จงั หวดั นครสววค.์ นครสวรรค:์ สำ� นกั บรหิ ารพนื้ ทอ่ี นรุ กั ษท์ ่ี 12 กรมอทุ ยาน แหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพชื พันธ.์ โรงงานเภสชั อตุ สาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย). (2552). โอกาศของเคร่อื งส�ำอางจากธรรมชาติ และ สมนุ ไพร. สบื คน้ 12 มีนาคม 2560, จาก http://www.jsppharma.com/business-development ลือชัย ศรเี งินยวง และปรีชา อุปโยคนิ . (2533). พหุลกั ษณ์ ของระบบการแพทยใ์ นภาคกลางและ การเปลยี่ นแปลง. กรงุ เทพฯ: ศนู ยป์ ระสานงานทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสขุ . วฒั นา นิลทะราช. (2540). คติความเช่อื และวิธกี ารเกย่ี วกับการรักษาโรคดว้ ยสมนุ ไพรของชาวบา้ นสวาท ต�ำบลสวาท อําเภอเลงิ นกทา จังหวดั ยโสธร. ยะลา: วทิ ยานิพนธ์มหาบัณฑติ . ศิลปศาสตร์ (ไทยคดีศกึ ษา-เน้นมนุษยศาสตร์): วทิ ยาลยั การสาธารณสขุ สริ ินธร จงั หวดั ยะลา. ศนู ยข์ อ้ มลู SMEs Knowlege Center. (2557). ความหมายของสปาและนวดเพอื่ สขุ ภาพ. ศนู ยข์ อ้ มลู SMEs Knowlege Center, สบื คน้ 8 เมษายน 2560, จาก http://www.sme.go.th/upload/mod_download/02- อดุลย์ วุฒิจรู พี ันธ์ุ. (2543). ความสัมพนั ธ์ระหว่างหมอสมนุ ไพร กับความหลากหลายทางชวี ภาพดา้ นพืช สมุนไพรใน จงั หวดั กาญจนบรุ .ี ยะลา: วทิ ยานิพนธ์มหาบัณฑติ . วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยกี าร วางแผนสง่ิ แวดล้อมเพอื่ พัฒนาชนบท): วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสริ นิ ธร จังหวดั ยะลา. องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลถนนโพธ.์ิ (2551). องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำ� บลถนนโพธ.์ิ สบื คน้ 12 มนี าคม 2560, จาก: http://www.tanonpho.go.th/index.php?mod=blog&path=blog&id_sub=95


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook