สารอาหารjo_em
สารอาหารสารอาหารอาหาร หมายถึง ส่ิงที่รับประทานเขา้ สู่ร่างกายแลว้ ไมเ่ ป็นโทษตอ่ ร่างกายและมีประโยชน์โดยทาให้ร่างกายดารงชีวิตไดอ้ ยา่ งปกติสุข และใหพ้ ลงั งานแก่ร่างกาย ซ่ึงพลงั งานเหล่าน้ีนามาใชใ้ นการดาเนินกิจกรรมและใหค้ วามอบอุ่นแก่ร่างกาย ประกอบดว้ ยสารอาหารหลายประเภท คือคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมนั วติ ามิน และเกลือแร่สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในอาหารน้นั มีมากมายหลายชนิด จะรวมเรียกวา่ “สารอาหาร” การจาแนกสารอาหารตามหลกั โภชนาการจะพจิ ารณาจากปริมาณของสารอาหารท่ีมีอยใู่ นอาหารน้นั ๆมากท่ีสุดเป็นหลกั ซ่ึงสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 5 หมู่ ดงั น้ี คือ คาร์โบไฮเดรต ไขมนั โปรตีน วติ ามิน และแร่ธาตุ เหล่าน้ีเมื่อรับประทานเขา้ ไปจะถูกเผาผลาญใหเ้ กิดเป็นพลงั งานและความร้อนเพ่ือนาไปใช้ควบคุมการทางานของระบบอวยั วะตา่ งๆ ภายในร่างกาย เช่น การเดิน การวง่ิ การยนื การนอน การหายใจ เป็นตน้ ซ่ึงหากแบง่ สารอาหารโดยใชเ้ กณฑก์ ารใหพ้ ลงั งานของสารอาหาร จะแบ่งไดเ้ ป็น 2กลุ่มใหญ่ คือ- กลุ่มสารอาหารที่ใหพ้ ลงั งาน- กลุ่มสารอาหารท่ีไมใ่ หพ้ ลงั งานกล่มุ สารอาหารทใ่ี ห้พลงั งานสารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานแก่ร่างกาย ไดแ้ ก่ คาร์โบไฮเดรต ไขมนั และโปรตีน อาหารท้งั หมดในกลุ่มน้ีจดั เป็ นสารอาหารหลกั ท่ีจาเป็นตอ่ ร่างกาย และจะขาดไม่ได้1. คาร์โบไฮเดรต สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เป็นสารอินทรียท์ ี่ใหพ้ ลงั งานท่ีสาคญั แก่ร่างกาย มกั พบอยใู่ นรูปของแป้ ง และน้าตาลเป็นส่วนใหญ่ พบมากในขา้ ว แป้ ง ขนมปัง ผกั ผลไม้นม และผลิตภณั ฑจ์ ากนม คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม ใหพ้ ลงั งาน 4 กิโลแคลอรี หากปริมาณคาร์โบไฮเดรตในร่างกายมีมากเกินความตอ้ งการ ร่างกายจะเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตส่วนเกินน้ีใหอ้ ยู่ในรูปของไกลโคเจนและเกบ็ สะสมไวใ้ นร่างกาย
2. ไขมนั สารอาหารประเภทไขมนั เป็นสารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานสูง ประกอบดว้ ยกรดไขมนั และกลีเซอรอล พบมากในไขมนั จากพชื มนั สตั ว์ นม เนย ถวั่ กรดไขมนั แบง่ เป็น 2 ประเภท คือ 2.1 กรดไขมนั อมิ่ ตัว เป็นไขมนั ท่ีพบมากในเน้ือสตั ว์ มนั สัตว์ หนงั สัตว์ เครื่องใน ไขแ่ ดง กงุ้ปู นม และผลิตภณั ฑจ์ ากนม ไขมนั ประเภทน้ี หากมีมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตนั 2.2 กรดไขมนั ไม่อมิ่ ตัว เป็นไขมนั ท่ีพบมากในถวั่ เตา้ หู้ เห็ด น้ามนั พืช (ยกเวน้ น้ามนั มะพร้าวน้ามนั ปาลม์ ) ช่วยลดการดูดซึมไขมนั อิ่มตวั ป้ องกนั โรคหลอดเลือดอุดตนัสาหรับไขมนั 1 กรัม จะใหพ้ ลงั งาน 9 กิโลแคลอรี สารอาหารประเภทไขมนั ช่วยให้อาหารมีรสกลิ่น และเน้ือสัมผสั ท่ีดีข้ึน ช่วยในการดูดซึมวติ ามิน เอ ดี อี และ เค ไขมนั ท่ีมีมากเกินความตอ้ งการของร่างกายจะถูกสะสมเป็นช้นั ไขมนั ใตผ้ วิ หนงั ช่วยป้ องกนั การกระทบกระเทือนของอวยั วะภายใน ป้ องกนั การสูญเสียความร้อนของร่างกาย3. โปรตีน สารอาหารประเภทโปรตีน เป็นสารอาหารท่ีมีในร่างกายมากเป็นที่สองรองจากน้า มีหน่วยยอ่ ยที่เล็กที่สุด คือกรดอะมิโน ซ่ึงมีประมาณ 12 -22 ชนิด แบง่ เป็ น กรดอะมิโนท่ีจาเป็นต่อร่างกาย และกรดอะมิโนท่ีไม่จาเป็นต่อร่างกายสารอาหารประเภทโปรตีนมีความจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างสารควบคุมการทางานของร่างกาย เช่น ฮอร์โมน และเอนไซม์ รักษาดุลยภาพของสารต่างๆ ในร่างกาย ใหพ้ ลงั งานและความร้อน เช่นเดียวกบั คาร์โบไฮเดรตและไขมนั ช่วยป้ องกนั โรคไขมนั อุดตนั และสร้างภูมิคุม้ กนั โรค โปรตีนจะพบมากในไข่ นม เน้ือสตั ว์ ถวั่ ขา้ ว ขา้ วโพด ผกัและผลไมบ้ างชนิด โปรตีนในเน้ือสัตวเ์ ป็ นโปรตีนที่สมบูรณ์เพราะมีกรดอะมิโนครบตามความตอ้ งการของร่างกาย แต่หากผใู้ ดไมร่ ับประทานเน้ือสัตวก์ ็สามารถรับประทานอาหารประเภทถวั่ขา้ วโพด ผกั และผลไมช้ ดเชยได้ แต่อาหารประเภทน้ีกจ็ ะมีกรดอะมิโนไม่ครบตามท่ีร่างกายตอ้ งการ โปรตีน 1 กรัม ใหพ้ ลงั งาน 4 กิโลแคลอรีการตรวจสอบหาสารอาหารประเภทต่างๆ ท่ีมีอยใู่ นอาหาร มีวธิ ีการตรวจสอบอยา่ งง่ายๆ ดงั น้ี1. การตรวจสอบหาคาร์โบไฮเดรต มี 2 วธิ ี คือ 1.1 การทดสอบแป้ ง จะใชส้ ารละลายไอโอดนั หยดลงบนอาหารที่ตอ้ งการทดสอบ ถา้ อาหารที่ทดสอบมีแป้ งเป็ นส่วนประกอบจะเปล่ียนสีของสารละลายไอโอดีนจากสีน้าตาลเป็นสีมว่ งเขม้เกือบดา หรือม่วงแกมน้าเงิน 1.2 การทดสอบน้าตาล จะใชส้ ารละลายเบเนดิกตห์ ยดลงไปในอาหาร แลว้ นาไปตม้ ในน้าเดือดถา้ เกิดตะกอนสีส้ม สีเหลือง หรือสีอิฐ แสดงวา่ อาหารน้นั มีน้าตาลเป็นส่วนประกอบ
2. การตรวจสอบหาโปรตนี จะใชก้ ารทดสอบที่เรียกวา่ การทดสอบไบยเู ร็ต คือการเติมสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ และสารประกอบคอปเปอร์ซลั เฟตลงในอาหาร ถา้ สีของสารละลายเปลี่ยนจากสีฟ้ าเป็นสีม่วง หรือสีชมพอู มม่วง หรือสีน้าเงิน แสดงวา่ อาหารน้นั มีโปรตีน3. การตรวจสอบหาไขมัน เป็ นการตรวจสอบท่ีสามารถทาไดง้ ่ายๆ ไมย่ งุ่ ยากเหมือนกบั วธิ ีการตรวจสอบสารอาหารประเภทอื่น คือการนาอาหารไปแตะหรือถูกบั กระดาษสีขาว แลว้ ใหแ้ สงส่องผา่ น ถา้ กระดาษเป็นมนั และมีลกั ษณะโปร่งแสงแสดงวา่ อาหารน้นั มีไขมนั อยู่กล่มุ สารอาหารทไี่ ม่ให้พลงั งานวติ ามินเป็นสารอาหารที่ร่างกายของเราตอ้ งการในปริมาณนอ้ ย แต่กไ็ ม่สามารถขาดได้ ถา้ ขาดจะทาให้ระบบร่างกายของเราผดิ ปกติ หรือเกิดโรคตา่ งๆได้ วติ ามินแบง่ ออกเป็น 2 พวก ไดแ้ ก่1. วติ ามินที่ละลายในไขมนั ไดแ้ ก่ วติ ามิน เอ ดี อี เค2. วติ ามินท่ีละลายในน้า ไดแ้ ก่ วติ ามินซี และวติ ามินบีรวมวติ ามินมีดงั ตอ่ ไปน้ีวติ ามินเอ ประโยชน์ของวติ ามินเอมีดงั น้ี- หากขาดจะทาใหเ้ ป็ นโรคมองไม่เห็นในท่ีมืด- ช่วยป้ องกนั การแพแ้ สงสวา่ งของบางคนผทู้ ่ีตอ้ งการวติ ามินเอมากคือผทู้ ี่ตอ้ งใชส้ ายตามากวติ ามินเอมีมากในไขมนั เนย น้ามนั ตบั ปลา ไขแ่ ดง กะหล่าปลี พืชตระกลู ถวั่ ผกั สีแดง ผกั สีเหลืองวติ ามนิ ดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย ป้ องกนั โรคกระดูกออ่ น และควบคุมปริมาณของแคลเซียมในเลือด อาหารที่ใหว้ ติ ามินดีมีนอ้ ยมาก จะมีอยใู่ นพวกน้ามนั ตบั ปลา ร่างกายสามารถสังเคราะห์วติ ามินดีไดจ้ ากรังสีอุลตราไวโอเลต ซ่ึงมีอยใู่ นแสงแดด วติ ามินซี (หรือกรดแอสคอร์บกิ )คน้ พบเจอในพริกชนิดหน่ึงในปี ค.ศ. 1928 โดยนกั ชีวเคมีชาวฮงั กาเรียนชื่อ อลั เบิร์ต เซนต์ เกอร์กีประโยชน์ของวติ ามินซีคือ ช่วยในการป้ องกนั จากโรคหวดั สามารถลดระดบั ของซีรัมคลอเลสเตอรอล(เพราะวติ ามินซีจะรวมตวั กบั คลอเลสเตอรอลและแคลเซียม ทาใหค้ ลอเลสเตอรอลแตกกระจายในน้าได)้ ช่วยเพ่มิ ภูมิคุม้ กนั ช่วยใหร้ ่างกายกระปร้ีกระเปร่า ช่วยเพม่ิ ภมู ิคุม้ กนั ตอ่ โรคหดัคางทมู และโพลีโอไวรัส หากไดร้ ับวติ ามินซีในปริมาณสูงมาก จะช่วยเพ่มิ ความตา้ นทานต่อ
เซลลม์ ะเร็ง และสามารถทาลายเซลลม์ ะเร็งแบบmelanomaได้ มีผลใหส้ ามารถยดื อายขุ องผปู้ ่ วยที่เป็นโรคมะเร็งได้ วติ ามินซีท่ีบริษทั ยาผลิตจาหน่ายโดยปกติจะอยใู่ นลกั ษณะเป็นเม็ดฟ่ ซู ่ึงมีแคลเซียมอยดู่ ว้ ย ถา้ หากผสู้ ูงอายไุ ดร้ ับแคลเซียมมากเกินไปจะทาใหก้ ระดูกงอกวติ ามนิ บีรวม มีดังต่อไปนี้ วติ ามินบี1มีมากในเน้ือหมู ขา้ วกลอ้ ง เห็ดฟาง ฯลฯ มีหนา้ ที่เก่ียวกบั การใชค้ าร์โบไฮเดรต การทางานของหวั ใจ หลอดอาหารและระบบประสาท วติ ามินบี2พบมากในตบั ยสี ต์ ไข่ นม เนย เน้ือ ถวั่ และผกั ใบเขียว ปลาและผลไมจ้ าพวกส้มแทบไมม่ ีวติ ามินบี2เลย ถา้ กินวติ ามินบี 2มากเกินไป ไมม่ ีผลเสียต่อร่างกาย เพราะสามารถถูกขบั ถ่ายออกมาได้ วติ ามินบี2มีความสาคญั ต่อร่างกาย ดงั น้ีมีความเก่ียวขอ้ งกบั การเผาผลาญไขมนั ที่เรียกกนั ในทางวทิ ยาศาสตร์วา่ ลิปิ ดใชใ้ นการเผาผลาญกรดอะมิโนทริพโตเฟน กรดน้ีมีความจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และมีความจาเป็ นต่อการเกิดสมดุลของไนโตรเจนในร่างกายเป็นส่วนประกอบสาคญั ของสีท่ีเรตินาของลูกตา ซ่ึงช่วยใหส้ ายตาปรับตวั ในแสงสวา่ งอาการที่เกิดจากการขาดวติ ามินบี2 คือ เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร มีอาการทางประสาทการยอ่ ยอาหารไมป่ กติ ถา้ เป็นมากๆปาก และลิ้นอาจแตก วติ ามนิ บี3บางทีเรียกวา่ ไนอาซิน ประวตั ิของไนอาซินเริ่มมาจากการที่ประเทศองั กฤษเกิดโรคที่เรียกวา่ เพลากรา(Pellagra) อาการของโรคน้ีคือ เป็นโรคผวิ หนงั ต่อมามีอาการทอ้ งเดิน ในที่สุดกจ็ ะมีอาการทางประสาทถึงข้นั เสียสติและตายไปในท่ีสุด ซ่ึงในสมยั โบราณโรคน้ีไมม่ ีทางหายได้ ต่อมานกั วทิ ยาศาสตร์ชาวอเมริกนั ช่ือ โกลเบอร์เกอร์(Goldberger)ผเู้ ชี่ยวชาญทางดา้ นแบคทีเรีย ไดว้ จิ ยัโรคน้ี ซ่ึงเขาไดส้ ังเกตเห็นวา่ ผทู้ ่ีป่ วยโรคน้ีส่วนมากจะเป็นผทู้ ่ีมีฐานะยากจนท่ีไมส่ ามารถกินอาหารจาพวกเน้ือ นม ไข่ ไดเ้ ขาจึงสรุปผลออกมาวา่ โรคน้ีเกิดจากการท่ีขาดสารอาหาร ตอ่ มาเขาทาการทดลองใหอ้ าสาสมคั รกินอาหารประเภทเดียวกนั กบั ผปู้ ่ วยท่ีเป็นโรคเพลากรา และเม่ืออาสาสมคั รเหล่าน้นั เป็ นโรคแลว้ เขากท็ าใหห้ ายโดยใหก้ ินเน้ือสตั ว์ นม และยสี ต์ เม่ือผลเป็นเช่นน้ี ผคู้ นจึงยอมรับวา่ ยงั มีวติ ามินบีอีกชนิดหน่ึงอยใู่ นอาหาร ภายหลงั เรียกวติ ามินน้ีวา่ ไนอาซิน สามารถรักษาโรคเพลากราใหห้ ายได้ ไนอาซินมีมากในตบั และไต
หนา้ ท่ีของไนอาซินช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตนาไปใชก้ บั วติ ามินชนิดอ่ืนๆเช่น วติ ามินซี รักษาโรคชิโซฟรีเนียสามารถใชใ้ นการักษาโรคปวดศีรษะแบบไมเกรนไดผลความตอ้ งการไนอาซินควรไดร้ ับวนั ละ 20 มิลลิกรัม การไดร้ ับไนอาซินมากเกินไปไมม่ ีผลเสียตอ่ ร่างกาย เพราะสามารถขบั ถ่ายออกมาได้ อาหารที่มีไนอาซินไดแ้ ก่ ไก่ ยสี ต์ ถว่ั ตบั ไต หวั ใจ วติ ามินบีช่ือทางเคมีวา่ ไพริดอกซิน(Pyridoxin) ความสาคญั ของวติ ามินบี6 มีดงั น้ี คือใชใ้ นการผาผลาญกรดอะมิโนทริปโตเฟนในร่างกายหากขาดจะเป็นโรคหลอดเลือดหวั ใจอุดตนั ไดง้ ่าย เพราะวติ ามินบี6จะช่วยในการเผาผลาญคอเลสเตอรอลอยา่ งมีประสิทธิภาพช่วยในการเผาผลาญโปรตีนผทู้ ี่มกั ขาดวติ ามินบี6 ไดแ้ ก่ สตรีที่กินยาคุมกาเนิด สตรีที่อยใู่ นช่วงของการมีประจาเดือน และหญิงมีครรภ์อาหารที่มีวติ ามินบี6 ไก่ ยสี ต์ ถว่ั ตบั ปลา ไก่ กลว้ ย ขา้ วแดง ฯลฯวติ ามนิ บี12มีอยใู่ นอาหารจากสตั ว์ เช่น ตบั (มีวติ ามินบี12มากท่ีสุด) นม ไข่ เนย วติ ามินน้ีมีอยใู่ นพชื นอ้ ยมากความสาคญั ของ วติ ามินบี12 มีดงั น้ีมีส่วนสาคญั ในการสร้างเมด็ เลือดแดง-มีส่วนสาคญั ในการทางานของระบบประสาทมีส่วนในการสร้างกรดนิวคลีอิค(nucleic acid) ซ่ึงเป็นพ้ืนฐานของกรรมพนั ธุ์มีส่วนช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต-มีส่วนช่วยใหร้ ่างกายนาไขมนั คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์- มีส่วนช่วยในการทางานของระบบประสาทช่วยในการเจริญเติบโตของเด็กๆ คือ มีความตา้ นทานต่อโรค มีน้าหนกั และส่วนสูงมากกวา่ ปกติวติ ามนิ ซีหรือกรดแอสคอร์บิกคน้ พบเจอในพริกชนิดหน่ึงในปี ค.ศ. 1928 โดยนกั ชีวเคมีชาวฮงั กาเรียนชื่อ อลั เบิร์ต เซนต์ เกอร์กีประโยชน์ของวติ ามินซีมีดงั น้ี- ช่วยในการป้ องกนั จากโรคหวดั
สามารถลดระดบั ของซีรัมคลอเลสเตอรอล(เพราะวติ ามินซีจะรวมตวั กบั คลอเลสเตอรอลและแคลเซียม ทาใหค้ ลอเลสเตอรอลแตกกระจายในน้าได)้ช่วยเพม่ิ ภมู ิคุม้ กนั ช่วยใหร้ ่างกายกระปร้ีกระเปร่าช่วยเพิม่ ภมู ิคุม้ กนั ต่อโรคหดั คางทมู และโพลีโอไวรัสหากไดร้ ับวิตามินซีในปริมาณสูงมาก จะช่วยเพิม่ ความตา้ นทานต่อเซลลม์ ะเร็ง และสามารถทาลายเซลลม์ ะเร็งแบบmelanomaได้ มีผลใหส้ ามารถยดื อายขุ องผปู้ ่ วยที่เป็นโรคมะเร็งได้ วติ ามินซีท่ีบริษทั ยาผลิตจาหน่ายโดยปกติจะอยใู่ นลกั ษณะเป็นเมด็ ฟ่ ูซ่ึงมีแคลเซียมอยดู่ ว้ ย ถา้หากผสู้ ูงอายไุ ดร้ ับแคลเซียมมากเกินไปจะทาใหก้ ระดูกงอก วติ ามนิ อีวติ ามินอีไดม้ าจากพชื ในธรรมชาติ ประโยชน์ของวิตามินอีมีดงั น้ี-ช่วยในการลดปริมาณคลอเลสเตอรอลที่คา้ งอยใู่ นหลอดเลือดในมนุษยแ์ ละสตั ว์ช่วยบาบดั โรคหวั ใจ-ช่วยในการป้ องกนั อนั ตรายจากโอโซนในบรรยากาศ- ใชใ้ นการรักษาโรคเลือดออกใตผ้ วิ หนงัเกลอื แร่ร่างกายมีเกลือแร่ 4% ของน้าหนกั ร่างกายท้งั หมด เกลือแร่ท่ีร่างกายตอ้ งการ แคลเซียมเป็นส่วนประกอบสาคญั ของกระดูกและฟัน ช่วยควบคุมการทางานของระบบประสาทและกลา้ มเน้ือ และหวั ใจ เป็นธาตุที่จาเป็นในการแขง็ ตวั ของเลือด มีอยมู่ ากในนม และเน้ือสัตวป์ ระเภทท่ีกินไดท้ ้งั กระดูก เช่น กงุ้ แห้ง ปลาเลก็ ปลานอ้ ย หญิงมีครรภ์ หญิงใหน้ มบุตร และทารกที่กาลงัเจริญเติบโตไปจนถึงวยั รุ่นควรกินแคลเซียมมากกวา่ ปกติ เหลก็เป็นตวั นาออกซิเจนไปยงั ส่วนตา่ งๆของร่างกาย เป็นส่วนประกอบของเมด็ เลือดแดงในส่วนที่เรียกวา่ ฮีโมโกลบินซ่ึงเป็ นตวั พาออกซิเจนไปเล้ียงส่วนต่างๆของร่างกาย และพาคาร์บอนไดออกไซดก์ ลบั ไปยงั ปอดเพ่อื ขบั ถ่ายออกในรูปการหายใจ ในประเทศร้อน เมื่อเหง่ือออกมาก อาจมีการสูญเสียเหลก็ ออกไปกบั เหง่ือได้ อาหารที่มีเหล็กมากไดแ้ ก่ เครื่องในสตั ว์ ถว่ั เมลด็ ผกัใบเขียวบางชนิด
ไอโอดนีส่วนใหญไ่ อโอดีนจะอยใู่ นต่อมไทรอยด์ ซ่ึงอยทู่ ี่คอส่วนล่าง ตอ่ มไทรอยดเ์ ป็ นต่อมไร้ทอ่ มีหนา้ ท่ีสังเคราะห์ฮอร์โมนไทรอกซิน ถา้ หากร่างกายมีการขาดไอโอดีนต้งั แตเ่ ดก็ จะทาใหเ้ ป็ นโรคเอ๋อร่างกายแคระแกร็น และเป็นโรคคอพอก อาหารท่ีมีไอโอดีนไดแ้ ก่ อาหารทะเล และเกลืออนามยัวยั รุ่น หญิงมีครรภ์ และหญิงใหน้ มบุตรตอ้ งการไอโอดีนสูง แมกนีเซียมมีมากในอาหารหลายชนิด เช่น ถว่ั ขา้ วแดง ขา้ ววที ขา้ วบาร์เลย์ ขา้ วโพด ผกั ใบเขียว(หากหุงตม้นานเกินไปจะทาใหแ้ มกนีเซียมหลุดออกไปหมด) แมกนีเซียมมีประโยชนด์ งั น้ีทางานร่วมกบั แคลเซียม หากร่างกายขาดแมกนีเซียมฟันจะไมแ่ ขง็ แรงการท่ีร่างกายมีแมกนีเซียมต่า จะทาใหค้ วามดนั โลหิตสูง และเป็นโรคหวั ใจผใู้ หญจ่ ะตอ้ งการแมกนีเซียมประมาณ 300-400 มิลลิกรัมต่อวนั ซีลเี นียมเป็นธาตุท่ีมีสมบตั ิเหมือนกามะถนั ร่างกายตอ้ งการซีลีเนียมนอ้ ยมาก หากไดร้ ับมากเกินไปจะเป็นอนั ตราย- อาหารท่ีมีซีลีเนียมมาก ไดแ้ ก่ ขา้ วสาลี ตบั ไต ปลาทนู ่าประโยชน์ของซีลีเนียมมีดงั น้ีมีการทางานสมั พนั ธ์กนั กบั วติ ามินอี ซ่ึงมีผลในการป้ องกนั โรคหวั ใจเป็นองคป์ ระกอบของเอนไซมช์ นิดหน่ึงช่ือวา่ ซีลีโนโปรตีน เอนไซมน์ ้ีป้ องกนั ไม่ให้สารพษิ ชื่อวา่ฟรีแรดิกลั เกิดข้ึนใน- ร่างกายมนุษย์ช่วยลดการแพเ้ คมีภณั ฑต์ า่ งๆได้- ช่วยลดการแพม้ ลพิษจากอากาศช่วยป้ องกนั โรคมะเร็งหลอดอาหาร สังกะสีเป็นธาตุท่ีเราตอ้ งรับเป็นประจาในปริมาณที่นอ้ ยมาก เพราะถา้ มากเกินไปกจ็ ะก่อใหเ้ กิดอนั ตรายอาหารที่มีสงั กะสีมาก ไดแ้ ก่ ตบั ขา้ วสาลี ขา้ วโพด ถวั่ หอยนางรมประโยชนข์ องสังกะสีมีดงั น้ี- หากกินอาหารท่ีมีสงั กะสีในปริมาณต่ามาก จะทาใหเ้ จริญเติบโตชา้ ขนร่วง
- มีความสาคญั ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน-เป็นส่วนประกอบของเอนไซมอ์ ินซูลิน ซ่ึงช่วยในการเผาผลาญน้าตาลที่เรากินเขา้ ไป ซ่ึงผปู้ ่ วยโรคเบาหวาน ร่างกายจะมีสงั กะสีต่ากวา่ คนปกติ- หากขาดจะเป็ นโรคตาบอดสี(เรตินาในตาของคนจะมีสังกะสีอยใู่ นปริมาณสูง)- ช่วยเพิ่มใหร้ ู้สึกวา่ อาหารหวานยง่ิ ข้ึน ทาใหค้ นกินหวานนอ้ ยลง- บารุงรักษาผวิ หนงั และสิวฝ้ า โครเมียมร่างกายตอ้ งการนอ้ ยมาก ถา้ ไดร้ ับมากเกินไปกจ็ ะเกิดอนั ตราย อาหารท่ีมีโครเมียมมาก ไดแ้ ก่ ไข่แดง ตบั หอย มนั เทศ ยสี ตห์ มกั เหลา้ประโยชน์ของโครเมียมมีดงั น้ี- ช่วยในการเผาผลาญน้าตาลช่วยป้ องกนั การเกิดโรคหลอดเลือดหวั ใจอุดตนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: